คลังเก็บป้ายกำกับ: ACER_SPIN_5

[Guest Post] เอเซอร์ โชว์ผลิตภัณฑ์ล่าสุดในงาน next@acer จัดครบครอบคลุมทั้ง Acer Predator และ ConceptD ชูไฮไลท์ Porsche Design Acer Book RS ไฮเอนด์โน้ตบุ๊ค

Acer เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในงาน Next@Acer อัพเดททุกแบรนด์ทั้ง Acer Predator และ ConceptD พร้อมแนะนำ Porsche Design Acer Book RS ไฮเอนด์โน้ตบุ๊คจากความร่วมมือระหว่าง Porsche Design และ Acer ที่มาพร้อมกับเจนเนอเรชั่นล่าสุด Intel® CoreTM i Generation และไลน์อัพล่าสุดของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กสายคอนซูมเมอร์ในตระกูล Acer Swift, Spin และ Aspire พร้อมเปิดตัวพรีเมียมเดสก์ท็อปสำหรับสายครีเอเตอร์ ConceptD 300 เล็กพริกขี้หนู หรู เปี่ยมพลัง และ ConceptD7 และ ConceptD7 Pro 

 

Porsche Design Acer Book RS ความลงตัวของการผสมผสานดีไซน์ระดับไฮเอนด์และสุดยอดเพอร์ฟอร์แมนซ์

Porsche Design จับมือ Acer ผนึกแนวคิดการออกแบบ Porsche Design เข้ากับแนวคิดทางวิศวกรรมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีจาก Acer สู่ผลงานที่มีเอกลักษณ์และล้ำสมัย Porsche Design Acer Book RS ที่ให้สัมผัสโดดเด่นด้วยวัสดุฝาหลังคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบแนวมอเตอร์สปอร์ตที่ให้ความสำคัญกับคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแกร่ง น้ำหนักเบา และมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม.

Porsche Design Acer Book RS ไฮเอนด์โน้ตบุ๊คที่ผสมสานเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับองค์ประกอบที่พิถีพิถันและเรียบง่าย จอทัชสกรีน FHD IPS 14” ขอบจอบางเป็นพิเศษเพื่ออัตราการแสดงผลสมจริงถึง 90%, ป้องกันแบคทีเรียด้วย Antimicrobial Corning®Gorilla® Glass  รองรับช่วงสี sRGB 100% ตัวเครื่องน้ำหนัก 1.2 กก. ขับเคลื่อนด้วย 11th Gen Intel® Core™ Processors และ NVIDIA® GeForce® MX350 GPU2, RAM 16GB แบตเตอรี่ใช้งานนานถึง 17 ชั่วโมง และสามารถชาร์จได้เร็วด้วยเวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 4 ชั่วโมง ใช้งานแบบสมาร์ทๆ พร้อมการป้องกันการเข้าใช้งานเครื่องจากบุคคลอื่นด้วย Fingerprint login ผ่าน Windows Hello. ตัวเครื่องและหน้าจอของ Porsche Design Acer Book RS เชื่อมต่อด้วยบานพับแบบ unibody ช่วยระบายความร้อน เพิ่มประสบการณ์การพิมพ์ที่เหมาะกับสรีระเมื่อเปิดใช้งานและยกคีย์บอร์ดขึ้นเล็กน้อย. คีย์บอร์ดแบบ Backlit เพิ่มความสะดวกแก่การพิมพ์ในยามค่ำคืน หรือในที่แสงสว่างน้อย ทัชแพดแม่นยำ รองรับ multi-gesture สร้างประสบการณ์การทำงานที่หลากหลาย และใช้งานได้ง่ายขึ้น.

ราคาและการจัดจำหน่าย:

  • Porsche Design Acer Book RS เริ่มจัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,399.99 USD ทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา ราคาเริ่มต้นที่ 1,790 EUR และประเทศจีน ราคาเริ่มที่ 14,999 RMB
  • Porsche Design Acer Book RS premium package (11th Gen Intel® Core™ i7 processor, Travelpack, Mouse) จำหน่ายในอเมริกาเหนือ ราคาเริ่มที่ 1,999.99 USD ทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา ราคาเริ่มที่ 2,399 EUR และประเทศจีน ราคาเริ่มที่ 19,999 RMB
  • Porsche Design Acer Mouse RS จำหน่ายในอเมริกาเหนือ ในราคาเริ่มที่ 99 USD ทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา ราคาเริ่มที่ 99 EUR
  • Porsche Design Acer Travelpack RS (mousepad, mouse, carrying pouch and notebook sleeve) จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ราคาเริ่มที่ 329,99 USD และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา ราคาเริ่มที่ 299 EUR

* ราคาและการจัดจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

ตอบรับทุกวิถีด้วยความบางเบา
Acer Swift 3X  – โน้ตบุ๊กที่บางเบา แต่เปี่ยมพลัง

Acer Swift 3X  อัลตร้าบุ๊คที่ตอบรับวิถีใหม่ของการเรียนและการทำงาน กับความบางเบา พกพาง่าย ใช้สะดวก ขนาดหน้าจอ FHD IPS 14” ขอบเขตสี NTSC 72% อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 84% บอดี้โลหะ น้ำหนักเพียง 1.37 กก. มาพร้อมขุมพลังล่าสุด 11th Gen Intel® CoreTM processors และการ์ดจอ Intel® Iris® Xe MAX ตัวเครื่องดีไซน์ล้ำ มาด้วยสีสันสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 17.5 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Intel® Wi-Fi 6 (Gig+) พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครันอย่าง USB-C, Thunderbolt™ 4 และ USB3.2 Gen 2 ทำให้มั่นใจได้ว่าการถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และรวดเร็ว ป้องกันการเข้าใช้งานเครื่องจากบุคคลอื่นด้วย Fingerprint login ผ่าน Windows Hello.

Acer Spin 3 – เต็มประสิทธิภาพครบ 360 องศา

Acer Spin3 2-in-1 โน้ตบุ๊ค หน้าจอมัลติทัช IPS  WQXGA 13.3” (2560×1600) อัตราส่วนภาพ 16:10 มาพร้อมพลังประมวลผล 11th Gen Intel® CoreTM processors พร้อมกับการ์ดจอ Iris Xe, RAM LPDDR4X สูงสุดที่ 16GB. Acer Spin3 หน้าจอหมุนได้ 360 องศา รองรับทั้งการทำงานและไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมี Acer Active Stylus มาพร้อมกับตัวเครื่อง รองรับแรงกด 4,096 ระดับ สำหรับการสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมจากทั้งการออกแบบ และงานด้านการเขียน รองรับ Thunderbolt™ 4 และ Killer 1650 Wi-Fi พร้อมเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass เคลือบสาร Antimicrobial ที่ทัชแพดเพื่อป้องกันแบคทีเรีย

 

Acer Spin 5 – สุดยอดความเบา กับหน้าจอทัชสกรีนพับได้

Acer Spin 5 โน้ตบุ๊คจอทัชสกรีนที่สามารถพับกลับด้านได้ 360 องศา ได้รับการันตีด้านการออกแบบด้วยรางวัลชนะเลิก ‘The 2020 Red Dot Design Award.’ ด้วยดีไซน์รองรับการทำงานที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือปรับโหมดการทำงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกข้อมูล หรือโหมด clamshell

Acer Spin5 มาด้วยหน้าจอ 2K QHD ขนาด 13.5” เด่นด้วยเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass เคลือบสาร Antimicrobial ที่ทัชแพดเพื่อป้องกันแบคทีเรีย ขอบจอบางเพียง 7.78 มม. ตัวเครื่องบาง 14.9 mm น้ำหนักเพียง 1.2 กก.  พลังประมวลผล 11th Gen Intel® CoreTM processors, RAM DDR4 สูงสุดถึง 16GB พร้อมสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานด้วย Acer Active Wacom AES Stylus ที่รองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ และรองรับการเชื่อมต่อกับพอร์ตที่หลากหลาย USB Type-C, ThunderboltTM 4 รองรับ Fast Charge, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมง ป้องกันการเข้าใช้งานเครื่องจากบุคคลอื่นด้วย Fingerprint login ผ่าน Windows Hello.

Acer Aspire 5 เปี่ยมพลัง มาพร้อมทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

Acer Aspire5 โน้ตบุ๊คที่เป็นที่ยอมรับกันถึงความคุ้มค่า อัพเดทพลังการประมวลผลด้วย 11th Gen Intel® CoreTM processors พร้อมกราฟฟิกที่มีให้เลือกทั้ง Intel  Iris Xe หรือการ์ดจอแยก NVIDIA® GeForce® MX450 รองรับทำงานแบบ multiple tasks หน้าจอให้เลือกถึง 3 ขนาด 14”, 15.6” และ 17.3” ด้วยมาตรฐาน HD IPS3 touchscreen3 ขอบจอบางให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 80% ดีไซน์ตัวเครื่องเรียบง่ายมีสไตล์ คีย์บอร์ดให้องศาการพิมพ์ตามหลักสรีรศาสตร์ เพลิดเพลินไปกับระบบเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนที่ได้รับการพัฒนา รวมถึงรองรับการเชื่อมต่ออย่างครบครันจาก Wi-Fi 6 (Gig+)  เพิ่มพลังการเชื่อมต่อได้ถึง 3 เท่าโดยเฉลี่ย แลพสามารถลดค่า latency สูงถึง 75% เมื่อเทียบกับ Wi-Fi 5 

ราคา และการจำหน่าย

  • Acer Spin 5 (SP513-55N) พร้อมวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 
    ราคาเริ่มต้น USD 999.99 และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เดือนธันวาคมนี้เริ่มวางจำหน่าย ราคาเริ่มต้น 1,099 EUR และในประเทศจีน เดือนพฤศจิกายนเริ่มวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น RMB 6,999
  • Acer Spin 3 (SP313-51N) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนมีนาคมปี 2564
    ราคาเริ่มต้น USD  849.99 และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เดือนธันวาคมนี้เริ่มวางจำหน่าย ราคาเริ่มต้น 899 EUR
  • Acer Swift 3X (SF314-510G) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น USD 849.99, ในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้น 849 EUR และในประเทศจีน เริ่มวางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ ราคาเริ่มต้น RMB 4,999
  • Acer Aspire (A514-54 14″) พร้อมวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น USD 499.99 และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้น 599 EUR และในประเทศจีน เริ่มวางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ ราคาเริ่มต้น RMB 4,499
  • Acer Aspire (A515-56 15.6″) พร้อมวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนธันวาคม
    ราคาเริ่มต้น USD 499.99 และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้น 599 EUR และในประเทศจีน เริ่มวางจำหน่ายเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้น RMB 4,499
  • Acer Aspire (A517-52 17.3″) พร้อมวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ เดือนกุมภาพันธ์ปี 2564
    ราคาเริ่มต้น USD 549.99 และในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา เริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้น 599 EUR

* ราคาและการจัดจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

 

ConceptD 300 พรีเมียมเดสก์ท็อป บอดี้เล็กแต่สเปคเด็ดเหลือใจ

ConceptD 300 ใหม่ล่าสุด ไซน์สวยหรู สีขาวเรียบ ขนาดกระทัดรัดด้วยไซส์ 18 ลิตร ขับเคลื่อนด้วย 10th Gen Intel® Core Processors กราฟิก NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 ,RAM DDR4 64GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 1 TB PCIe M.2 SSD + 4 TB HDD ตัดต่องานสบายๆ ไม่มีติดขัดทั้งการตัดต่อวิดิโอ, การออกแบบ CAD และการออกแบบโมเดล 3D ครบครันด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อทั้ง USB 3.2, ช่องอ่าน SD card และ USB Type-C รองรับการแสดงผลหลายจอ และการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps

เติมพลัง และอัพเดทเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมไปกับ ConceptD 7 และ ConceptD 7 Pro

ConceptD 7 โน้ตบุ๊กสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องเดินสายพรีเซนต์งาน หรือชอบเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการทำงานนอกสถานที่ เมื่อทุกสถานที่คือพื้นที่สร้างสรรค์ผลงาน โน๊ตบุ๊ค ConceptD7 มาพร้อมซีพียู 10th Gen Intel® Core™ processors พร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง เช่น เทคโนโลยี AI เพื่อการแสดงผลอัญชาญฉลาด, Intel Wi-Fi 6 (Gig+), เทคโนโลยี Thunderbolt 3 และหน้าจอ 4K IPS สุดท้ายสำหรับการสตรีมมิ่งวิดีโอ หรือประชุมทางวิดิโอนั้น เพื่อการทำงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังจากหน่วยประมวลผล การ์ดจอสุดล้ำ ผสานไปกับความแม่นยำระดับสีของหน้าจอที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับงานสร้างสรรค์ และยังมีเทคโนโลยีระบายความร้อนที่เหนือกว่าช่วยให้การทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่น ตัวเครื่องเบาบาง มีสีขาวสะอาดตา มีความแข็งแรงด้วยพื้นผิวโลหะเคลือบด้วยเซรามิกคุณสมบัติพิเศษ ปกป้องตัวเครื่องจากความสกปรก และคราบเหลือง

ConceptD 7 Pro เพิ่มเติมคุณสมบัติที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วย NVIDIA® Quadro RTX™ 5000 มาพร้อม 3072 CUDA Cores, 48 RT Cores, 384 Tensor Cores และหน่วยความจำ 16GB จัดเต็มสำหรับทุกความต้องการใช้งานในการสร้างคอนเทนท์หลากหลายแอพพร้อมๆ กัน ซึ่งสถาปัตยกรรม NVIDIA GeForce RTX™  เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัล การสร้างวิดีโอสำหรับ YouTube หรือการสร้างภาพยนตร์ รวมถึงการสร้างคอนเทนท์ 3มิติแบบเรียลไทม์. ConceptD 7 Pro โดดเด่นด้วยหน้าจอ 4K IPS ขนาด 15.6” UHD (3840 x 2160) ผ่านมาตรฐานการทดสอบของ PANTONE รองรับมาตรฐานสี Adobe RGB 100% ค่าความถูกต้องสี Delta E < 2

ConceptD7 และ ConceptD7 Pro ยังมอบนวัตกรรมระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบใหม่ล่าสุด ด้วยพัดลมระบายความร้อน 3 ตัว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีการระบายความร้อนใหม่ล่าสุดจากเอเซอร์อย่างการไหลเวียนของกระแสลม ทางอากาศพลศาสตร์ภายในอุปกรณ์ ทั้งลดระดับเสียงให้ต่ำกว่า 40dBA และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และส่วนประกอบภายในยังคงเย็นจัดแม้ในเวลาที่ถึงขีดจำกัด

 

                  ConceptD 300

 

                      ConceptD 7

 

                  ConceptD 7 Pro

 

 

ราคา และการวางจำหน่าย

  • ConceptD 300 เริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนในทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา ราคาเริ่มต้น EUR 1,299 และประเทศจีนวางจำหน่ายเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น RMB 12,999
  • ConceptD 7 Pro เริ่มวางจำหน่ายเดือนธันวาคมในอเมริกาเหนือ ราคาเริ่มต้น USD 3,499.99 และทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกาวางจำหน่ายเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น EUR 3,699
  • ConceptD 7 เริ่มวางจำหน่ายเดือนธันวาคมในอเมริกาเหนือ ราคาเริ่มต้น USD 3,299.99 และทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกาวางจำหน่ายเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น EUR 2,899

* ราคาและการจัดจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

 

 

 

from:https://www.techtalkthai.com/acer-nextacer-acer-predator-conceptd-porsche-design-acer-book-rs/

Acer เปิดตัว Porsche Design Acer Book RS ในงาน Next@Acer 2020 พร้อมของใหม่เพียบ สเปก Intel Core i Gen 11

เป็นอีกหนึ่งงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Acer ที่หลายๆ คนรอคอยช่วงปลายปีกับงาน Next@Acer 2020 ที่มีการนำเสนอโน๊ตบุ๊คและสินค้าใหม่ๆ มากมาย หลักๆ แล้วมาพร้อมกับอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin Willow Cove ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ พร้อมมี AI ในตัวช่วยในการประมวลผลในหลายๆ โปรแกรมด้วย อาทิ Microsoft Office : Word / Excel / Power Point หรือ Adobe อย่าง Photoshop / Lightroom / Premiere Pro

ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ อย่าง Porsche Design Acer Book RS ที่มาพร้อมที่สุดของความหรูหราทรงพลัง ระดับ Super Car อีกทั้งมีในส่วนของ Acer Swift 3/ Acer Spin 5 / Acer Spin 3 / Acer Aspire 5 ซึ่งเป็นโน็ตบุ๊คสายบางเบาและ 2-in-1 ซึ่งได้ความแรงลื่นที่ดีเยี่ยมจากสเปกและฟีเจอร์ภายใน อีกทั้งยังมี All-in-One PC อย่าง Acer Aspire C24 โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันต่อเลย

Porsche Design Acer Book RS

สำหรับการมาของ Porsche Design Acer Book RS จัดว่าเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คของแบรนด์ Acer ที่มีการร่วมมือกับทาง Porsche Design ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Porsche ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ Super Car สุดหรูท่ีทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยได้ดีไซน์พรีเมียมและแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน 

Porsche Design Acer Book RS เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ พาเนล IPS ที่มีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม และมีความบางอยู่ที่ 15.99 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยวัสดุในส่วนของฝาหลังจะเป็น Carbon Fiber ที่ปกติแล้วเราะเห็นในรถยนต์ราคาแพง วัสดุส่วนอื่นๆ จะเป็นโลหะทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการ CNC ขึ้นรูปมาเป็นอย่างดีเรียบเนียนที่สุด

สเปกภายในของ Porsche Design Acer Book RS  เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ผสานการทำงานกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX350 มาพร้อมกับแรมขนาดสูงสุดที่ 16GB และ SSD M.2 NVMe ที่ความจุ 1TB รองรับการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่าง Wi-Fi 6 AX (GIG+) (802.11ax) และ Bluetooth 5.1 อีกทั้งมีพอร์ตล้ำๆ อย่าง Thunderbolt 4 ด้วย ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 17 ชั่วโมง มี Fast Charged ด้วย 

Acer Swift 3X

Acer Swift 3X เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่จัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา งานประกอบ และสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประเภท Ultrabook ที่คุ้มค่าที่น่าจับตามองที่สุด ด้วยราคคุ้มค่า คาดว่าเริ่มต้นที่ 2x,xxx บาท กับสเปกใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 11 และการ์ดจอ Intel Iris Xe MAX ได้ฟีเจอร์ครบครันครบเครื่อง ที่สำคัญมีพอร์ต Thunderbolt 4 ที่รองรับการใช้งานที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่ใหม่ที่สุดด้วย มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHarmony และ DTS Audio

ดีไซน์ตัวเครื่องของ Acer Swift 3ได้มีการปรับใหม่ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ได้สีสัน Safari Gold / Steam Blue พร้อมด้วยตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัด วัสดุเป็นโลหะตลอดทั้งตัวเครื่อง ขนาดหน้าจอ 14″ ที่พกพาสะดวก ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาใช้งานง่าย ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 13.7 กิโลกรัม โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 17.5 ชั่วโมง อีกยังมีฟีเจอร์ Fn + F เพื่อเพิ่มความแรงในประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่มีความน่าสนใจจริงๆ คาดว่าตัวขายจริงจะมาพร้อมกับโปรแกรม Office Home & Student 2019 อย่าง Word / Excel / Power Point (มูลค่า 4,290 บาท) ใช้งานติดเครื่องยาวๆ ไปเลย

Acer Spin 5

Acer Spin 5 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass พร้อมการเคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียที่ทัชแพด มาพร้อมกับหน้าจอเป็น 13.5″ ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความละเอียดระดับ 2K QHD (2256 x 1504) ​คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้าง มีปากกา Wacom เก็บในเครื่องได้ในตัว โดยมีน้ำหนักของตัวเครื่องเพียง 1.2 กิโลกรัม แน่นอนว่าสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ส่วนของแรมเป็นขนาดสูงสุดที่ 16GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ได้ความจุเป็น 1TB ซึ่งเหลือเฟือกับการใช้งานแน่นอน 

รายละเอียดสเปกอื่นๆ ของ Acer Spin 5 เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHarmony และ DTS Audio พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES Stylus รองรับแรงกด 4,096 ระดับ ที่สามารถเก็บได้ในตัวเครื่อง รองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint ส่งผลกลายเป็น 2-in-1 Notebook ในตลาดอีกรุ่นที่น่าสนใจจริงๆ

Acer Spin 3 

Acer Spin 3 เป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอทัชสกรีนราคาคุ้มค่า ที่ขนาดหน้าจอ 14″ สัดส่วน 16:9 มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake อย่าง การ์ดจอออนชิปเป็น Intel Iris Xe Graphic ติดตั้งแรมมาขนาดสูงสุดที่ 16GB LPDDR4X แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง ได้ความจุของ SSD M.2 NVMe ที่ 128GB – 1TB เรียกได้ว่ารองรับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงใช้งานได้หลากหลายตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook

สเปกหน้าจอของ Acer Spin 3 เป็นมาตรฐาน 16:10 QHD+(2560 x 1600) รองรับการใช้งานปากกา Acer Active Wacom AES stylus ที่มีที่เก็บปากกาในตัวด้วย เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHar mony พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES รองรับแรงกด 4,096 ระดับ พร้อมมีการเคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียที่ทัชแพดด้วย 

Acer Aspire 5

Acer Aspire 5 โน๊ตบุ๊คดีไซน์เด่น เน้นความคุ้มค่า คงต้องยกให้แบรนด์ Acer ณ เวลานี้ เพราะ นอกจากตัวซีรีส์ Nitro และ Swift ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยังอีกซีรีส์ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าราคาประหยัดอีกเช่นกันซีรีส์ Aspire โดยคราวนี้มาพร้อมกับรุ่น Acer Aspire 5 นี้ใช้ดีไซน์ขอบหน้าจอบางเฉียบมิติตตัวเครื่องเล็กลง บนขนาดหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD เพิ่มเติมคือสเปคใหม่ ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 พร้อมการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce MX350 ได้แรมมาตรฐานขนาด 4 – 8 GB DDR4 ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ

สำหรับ Acer Aspire 5 ในเรื่องของการดีไซน์มีปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมสีสันให้เลือกที่มากกว่า สีเงินและสีดำ ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.95 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ต่างกันแค่ลดความเป็น Ultrabook ลงให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตาหนัก

Acer Aspire C24

Acer Aspire C24 ถือว่าเป็นซีรีส์ Desktop PC สไตล์ All-in-One PC ประจำปี 2020 ที่มีทุกสิ่งรวมกันเป็นชิ้นเดียว ต่างจาก Desktop PC ที่แยกชิ้น ด้วยมีทั้งจอแสดงผล /ชิปประมวลผล / เมนบอร์ด / หน่วยจัดเก็บ SSD + HDD / หน่วยความจำแรม และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบสร้างให้มีความทันสมัย เรียบง่าย ใช้งานได้จริง รวมส่วนถึงการออกแบบอย่างพิถีพิถันใส่ใจทุกลายละเอียด เพื่อการใช้แบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานง่ายแบบสบายๆ เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นฐานของทุกคนภายในบ้าน อย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือจัดการไฟล์ต่างๆ

ซึ่ง Acer Aspire C24 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับหน้าจอสุดบาง ที่บอกได้เลยว่าดูผ่านๆ คิดว่าเป็นเพียงมอนิเตอร์เท่านั้น สำหรับภายในได้สเปกเป็นหน้าจอขนาด 24″ ได้ขนาดจริงๆ คือ 23.8″ ความละเอียดเป็น Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB ใกล้เคียง 100% ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 11 ผสานการทำงานการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 มีแรมให้มาเลย 16GB และ SSD ทำงานร่วมกับ HDD แน่นอนว่าการเชื่อมต่อก็ครบถ้วน มี Wi-Fi ในตัว พร้อมด้วย Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที มีประกันแบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน กับราคาเพียง 2x,xxx บาทเท่านั้น

 

from:https://notebookspec.com/web/543519-nextacer-2020-porsche-design-acer-book

Preview – Acer Spin 5 สเปก Core i Gen 10 จอเทพ 13.5″ 2K สัดส่วน 3:2 มีที่เก็บปากกา Wacom ในตัว

Acer Spin 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้มีการเปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2020 ซึ่งล่าสุด Acer ประเทศไทยได้นำมาในสัมผัสตัวจริงแล้ว บทความนี้แอดมินโป้งเลยนำมาเขียนพรีวิวก่อน โดยจัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ใช้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ทั้ง i5 / i7 สถาปัตยกรรม Ice Lake (10 นาโนเมตร) ที่ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Iris Plus Graphic อย่าง G4 / G7

โดดเด่นด้วยการมีหน้าจอขนาด 13.5″ พาเนล IPS เกรดสูง เป็นสัดส่วน 3:2 ความละเอียด 2K (2256 x 1504 พิกเซล) ​เน้นใช้งานพื้นที่ที่มากกว่า รองรับการใช้งานปากกา Acer Active Wacom AES Stylus ที่สำคัญคือมีที่เก็บปากกาในตัวเครื่องเลย แน่นอนว่ามาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่แรงและดีที่สุด

Acer Spin 5 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ได้หน้าจอเป็น 13.5″ ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความละเอียดระดับ 2K คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้าง โดยมีน้ำหนักของตัวเครื่องเพียง 1.2 กิโลกรัม มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint แน่นอนว่าสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake อย่าง Core i5-1035G4 และ Core i7-1065G7 ส่วนของแรมเป็นขนาดสูงสุดที่ 16GB LPDDR4X และ SSD M.2 NVMe ได้ความจะเป็น 256GB – 1TB รองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงด้วย

รายละเอียดสเปกอื่นๆ ของ Acer Spin 5รุ่น ปี 2020 เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกมาใช้เป็นมาตรฐานใน Swift 3 / Swift 5 แล้ว ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHarmony และ DTS พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES Stylus รองรับแรงกด 4,096 ระดับ

  

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Acer Spin 5 นั้นจะดูเล็กกว่าโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.5″ ในแบบยุคก่อนๆ เนื่องด้วยตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบ ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ที่สำคัญ 2-in-1 Notebook มีการดีไซน์ที่เก็บปากกาล้ำๆ ของ Acer Active Wacom AES Stylus โดยติดตั้งอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านล่าง มีความบาง 15.24 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.22 กิโลกรัม

ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ สีสันออกแนวดำๆ เทาๆ เหมาะกับทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ วัยทำงานยุคนี้ แล้วจะใช้เป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่องเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ส่วนด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเวลาใช้งานวางมือลงไปนั้นเราได้ทั้งความทนทานและความพรีเมียมไปพร้อมๆ กัน สำหรับปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ขอบตัวเครื่องด้านขวาทำให้กดปุ่มได้สะดวกในทุกๆ โหมด

  

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Spin 5 ที่เป็นโน้ตบุ๊คที่ใส่ใจในรายละเอียดก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.22 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 15.24 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าจะหาโน้ตบุ๊คแบบนี้จากแบรนด์อื่นๆ ก็ยากซักหน่อย  ที่สำคัญอีกเรื่องก็คือบานพับก็เป็นอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทานไม่ต่างจากตัวเครื่อง คอยทำหน้าที่หมุนหน้าจอได้ถึง 360 องศา ไว้ใช้ Multi Mode ทำให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

ส่วนการออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Acer ฝาหลังที่สวยงามเป็นเทามันวาว ส่วนตัวเครื่องด้านในเหนือคีย์บอร์ดคำว่า Spin  ปั๊มเอาไว้ นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก สำหรับ Acer Spin 5 ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี

  

เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คหน้าจอเล็กกระทัดรัดเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด ด้วยสเปคภายในที่ครบครัน แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเบาแล้ว โดดเด่นด้วยเมื่อเราเปิดฝาขึ้นมาขอบตัวเครื่องด้านหลังก็จะช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้นด้วย ช่วยในการมองจอและการพิมพ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย แตกต่างจาก 2-in-1 Notebook ในตลาดยิ่งกว่าจากการที่เป็นขนาด 13.5″ สัดส่วน 3:2 ที่ความละเอียด 2K (2256 x 1504 พิกเซล) ที่ให้พื้นที่ด้านยาวมากว่า รองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้ว 10 จุดพร้อมๆ กัน

  

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้น Acer Spin 5 ตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน้ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี พร้อมความสามารถใช้งานสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งาน Login Windows 10 ผ่านทาง Window Hello

  

ลำโพงสเตอริโอ Acer TrueHarmony มีเทคโนโลยี DTS ที่อยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านหลังให้เสียงที่ค่อนข้างดี รองรับกับการใช้งานทุกๆ โหมด แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน้ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

  

Acer Spin 5 จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊คสายทำงานบางเบาหน้าจอ 13.5″ ซึ่งมีไซส์และมิติโดยรวมเล็กกระทัดรัดกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x Thunderbolt 3 / 2 x USB 3.1 Type-A / 1 x HDMI 1.4 / micro-SD Card Reader และ Mic-in/Headphone-out  ให้ความครบเครื่องมากกว่าโน้ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ – 14″ ทั่วไป โดดเด่นด้วย Thunderbolt 3 ถึง 2 พอร์ตด้วยกัน รองรับการชาร์จไฟผ่านทางมาตรฐาน USB-PD อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX พร้อมใช้งานตามมาตรฐานโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่สเปก Core i Gen 10 ต้นปี 2020 นี้

สนนราคาเริ่มต้นของ Acer Spin 5 รุ่นใหม่ปี 2020 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐในต่างประเทศ หรือประมาณ 27,000 บาท คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ไว้รอติดตามชมรีวิวเต็มๆ อีกที เมื่อแอดมินโป้งได้เครื่องขายจริงมาแล้วนะครับ ใครสนใจ 2-in-1 Notebook ที่ได้มาตรฐานหน้าจอใหม่ไว้ใช้งานทั่วไป หรือทำงานระดับมืออาชีพ ให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ อดสนใจรอกันอีกนิด เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตลาดที่ขายดีแน่นอน เพราะนอกจากสเปกและฟีเจอร์ที่ดีแล้ว คาดว่าประกันก็จะเป็นแบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านอีกด้วย

from:https://notebookspec.com/preview-acer-spin-5-core-i-gen-10/510677/

CES 2020 – Acer Spin 3 / Spin 5 รุ่นใหม่ บางเบากว่าเดิม ชิป Intel Core i Gen 10 รองรับ Wi-Fi 6 + Thunderbolt 3

Acer เปิดตัว Spin 3 / Spin 5 รุ่นใหม่ล่าสุดในงาน CES 2020 โดยเป็น 2-in-1 Notebook ที่ใช้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake ที่ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Iris Plus Graphic ในส่วนของ Acer Spin 5 มีหน้าจอเป็นสัดส่วน 3:2 เน้นใช้งานพื้นที่ที่มากกว่า ซึ่งทั้ง Spin 3 / Spin 5 รองรับการใช้งานปากกา Acer Active Wacom AES stylus แน่นอนว่ามาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่แรงและดีที่สุด

สำหรับ Acer Spin 3 เป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอทัชสกรีนราคาคุ้มค่า ที่ขนาดหน้าจอ 14″ สัดส่วน 16:9 มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake อย่าง Core i3-1005G1, Core i5-1035G1 และ Core i5-1035G4 การ์ดจอออนชิปเป็น Iris Plus Graphic ติดตั้งแรมมาขนาดสูงสุดที่ 16GB LPDDR4X แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง ได้ความจุของ SSD M.2 NVMe ที่ 128GB – 1TB เรียกได้ว่ารองรับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงใช้งานได้หลากหลายตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook

Acer Spin 5 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ได้หน้าจอเป็น 13.5″ ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความละเอียดระดับ 2K คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้าง โดยมีน้ำหนักของตัวเครื่องเพียง 1.2 กิโลกรัม มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint แน่นอนว่าสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake อย่าง Core i5-1035G4 และ Core i7-1065G7 ส่วนของแรมเป็นขนาดสูงสุดที่ 16GB LPDDR4X และ SSD M.2 NVMe ได้ความจะเป็น 256GB – 1TB รองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงด้วย

รายละเอียดสเปกอื่นๆ ที่ทั้ง Spin 3 / Spin 5 เหมือนกันก็จะเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกมาใช้เป็นมาตรฐานใน Swift 3 / Swift 5 แล้ว ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHar mony พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES รองรับแรงกด 4,096 ระดับ สนนราคาเริ่มต้นที่ 699 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 21,000 บาท สำหรับ Acer Spin 3 และ Acer Spin 5 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 27,000 บาท คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้

ที่มา : notebookcheck

 

from:https://notebookspec.com/ces-2020-acer-spin-3-and-spin-5-are-now-slimmer-and-get-a-much-needed-upgrade-to-intel-ice-lake/506591/

แนะนำ 5 รุ่น ซื้อ 2-in-1 Notebook งบ 15,000 – 30,000 บาท รุ่นไหนดี สเปคคุ้มค่า

2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ๆ พับหน้าจอได้ 360 องศา ราคาถูกไม่แพงเน้นคุ้มค่ามีอยู่มากมายหลายรุ่นในตลาดโน้ตบุ๊คปี 2019 เรียกได้ว่าทำให้เรามีตัวเลือกในซื้อมากมาย เน้นการใช้งานพกพาพร้อมกับฟีเจอร์มัลติโหมด ทั้ง Notebook / Stand / Tent / Tablet สามารถใช้งานหน้าจอทัชสกรีนได้ รวมไปถึงมีปากกาไว้ใช้งานขีดเขียนอีกด้วย สนนราคา 2-in-1 Notebook ที่จะมาแนะนำในบทความนี้ เริ่มต้นที่งบประมาณ 15,000 – 30,000 บาท เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่ทำงานได้มากกว่าโน้ตบุ๊คปกติทั่วไปในราคาจับต้องได้ง่ายอีกด้วย

ซึ่งแอดมินโป้งได้ทำการคัดสรร 2-in-1 Notebook ประจำกลางปี 2019 มาแล้ว ที่น่าสนใจมา 5 รุ่นด้วยกัน โดยมีดังต่อไปนี้

ASUS VivoBook Flip ราคา 15,900 บาท 

ASUS VivoBook Flip รุ่นใหม่ปี 2019 เป็น 2-in-1 Notebook ตัวแรกเลยที่เรานำมาแนะนำ เรียกได้ว่าให้ความคุ้มค่าที่ดีสนนราคาที่ 15,900 บาท ซึ่งสเปคภายในประกอบไปด้วย Intel Core i3-8145U ความเร็วที่ 2.10 – 3.90 ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด พร้อมติดตั้งแรมมาเลยขนาด 4 GB DDR4 แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD ที่ความจุ 256GB ที่แรงลื่นกว่า HDD ปกติ ได้หน้าจอทัชกรีนขนาด 14″ ที่ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมรองรับการขีดเขียนด้วยปากกาในหลายระดับแรงกด ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก เทียบสเปกต่อราคาถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ได้ประกัน 2 ปี สามารถเคลมผ่านร้าน 7-11 ได้ และในปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุด้วย

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง USB 3.1 Type-C / USB 3.0 Type-A / USB 2.0 Type-A ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็มีมาตรฐานเป็น Wi-Fi AC และ Bluetooth 4.2 รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 17.6 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ในส่วนของหน้าจอนั้นก็มีอัตราส่วนขนาดต่อกรอบหน้าจอที่มากขึ้นคือจากเดิมที่มีอัตราส่วนอยู่ที่ 78.7% มาเป็น 82% ด้วยการออกแบบหน้าจอแบบหน้าจอแบบขอบบางที่บางลงมากกว่าเดิมซึ่งแน่นอน ว่าทำให้น้ำหนักของตัวเครื่องและขนาดของตัวเครื่องนั้นลดลงไปด้วย

Lenovo Ideapad C340 ราคา 19,900 บาท

Lenovo Ideapad C340 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook ที่นอกจากราคาคุ้มค่าแล้วและยังสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบแล้ว รองรับการใช้ปากกา Stylus ใช้งานวาดรูป เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบสนองคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คสักเครื่องที่ไว้ใช้ทำงานและหน้าจอสัมผัสวาดรูปได้เป็นอย่างดีเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น 2-in-1 Notebook ของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างให้ความนิยม

Lenovo Ideapad C340 มีน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัม ตัวเครื่องบางที่ 17.78 มิลลิเมตร ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องก็ยังครบครันทั้งแง่ของชิปประมวลผลIntel Core i3-8145U ความเร็วที่ 2.10 – 3.90 ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด พร้อมติดตั้งแรมมาเลยขนาด 4 GB DDR4 แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD ที่ความจุ 256GB  หน้าจอ 14″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD เนียนตา พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่ทำให้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานทั่วไป การใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด โดยมีราคา 19,900 บาทเท่านั้น ได้ประกัน 2 ปี On-site Service

ASUS ZenBook Flip AMD ราคา 24,900 บาท

ASUS ZenBook Flip เป็นโน้ตบุ๊คแบบพับหมุนจอได้ขนาด 14″ ที่มีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า  ถึงกว่า 10% ทำให้ทั้งสองรุ่นมีขนาดกะทัดรัดที่สุดในโลก จากการออกแบบเพื่อความอเนกประสงค์, ทรงพลังและสะดวกในการพกพาเป็นที่สุด ASUS ZenBook Flip ใช้หน้าจอ NanoEdge แบบเสมือนไร้ขอบทั้งสี่ด้าน ด้วยอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องถึง 90% ช่วยทำให้ได้ดีไซน์ขนาดตัวเครื่องที่มีความกะทัดรัดขึ้นอีกมาก, บานพับอันเป็นเอกลักษณ์แบบ ErgoLift แบบหมุนได้ 360°  ที่จะยกและพับคีย์บอร์ดให้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการพิมพ์ พร้อมมีสแกนลายนิ้ว Windows Hello ไว้ใช้งาน

ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของ ASUS ZenBook Flip ก็ยังครบครันทั้งแง่ของชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U รวมถึงแรม 8GB และ SSD ในเครื่องอีก 512GB หน้าจอ 14″ คุณภาพสูงพาเนล IPS ความละเอียด Full HD เนียนตา รองรับการทัชสกรีนและมีปากกาขีดเขียนได้ พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่ทำให้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานทั่วไป การใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด โดยมีราคา 24,990 บาทเท่านั้น ได้ประกัน 2 ปี On-site Service สามารถเคลมผ่านร้าน 7-11 ได้ และในปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุด้วย

HP Pavilion x360 14 ราคา 26,900 บาท

HP Pavilion x360 14 ปี 2019 รุ่นใหม่ ที่จะมาแนะนำเป็นสเปก Core i Gen 9 ขอบจอบางพาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 14″ ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับการใช้งานปากกาและ Multi-touch ทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ และด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.59 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย

ชิปประมวลผลเป็นเลือกใช้ Intel Core i5-8250U ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ความเร็ว 1.60 GHz – 3.40 GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel UHD Graphics 620 พร้อมด้วยการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce MX130 (4GB GDDR5) ด้าน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4 GB DDR4 (มี 1 ช่อง) และฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD ความจุ 256GB แถมมาพร้อมกับ Windows 10 แท้อีกด้วย

สำหรับการเชื่อมต่อของจะมีทั้ง USB 3.1 จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C, HDMI, Finger Print และพอร์ตหูฟังกับไมค์แบบคอมโบขนาด 3.5 มิลลิเมตรมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบไร้สายรองรับทั้ง 802.11 ac Wi-Fi + Bluetooth 4.2 ก็ครบครัน สนนราคาอยู่ที่ 26,900 บาท ประกัน On-site 2 ปีเต็ม

Acer Spin 5 SP513 ราคา 29,900 บาท

อีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ โดย Acer Spin 5 SP513 ได้ดีไซน์ที่สวยงาม วัสดุเป็นอลูมิเนียมสัมผัสดีเยี่ยม มอบความทนทานอันยอดเยี่ยมและทำให้เราทำงานและเล่นได้อย่างมีสไตล์ บานพับแบบ Dual-Torque 360° ของ Acer นั้นมี 4 โหมดที่แตกต่างกันให้เราได้เพลิดเพลิน ติดตั้งลำโพงด้านหน้า สัมผัสคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดด้วย TrueHarmony ของ Acer และ Smart Amplification ที่ผสานเข้ากับ Dolby Audio Premium ได้อย่างลงตัว ด้วยช่องเสียงแบบ Auto-Reversible เอาต์พุตช่องเสียงจะกลับด้านโดยอัตโนมัติเมื่อจอภาพพลิกสลับด้าน

Acer Spin 5 SP513 ใชิชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ชิปกราฟฟิกออนบอร์ดเป็น Intel UHD Graphics 620 หน้าจอทัชสกรีนแบบพาเนล IPS ขนาด 13.3″ ความละเอียด Full HD โดยมีปากกา Acer Active Stylus มาให้ ส่วนแรมให้มาที่ขนาด 8GB DDR4 พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเป็น SSD ขนาด 256GB พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม ซึ่งก็ไม่ได้หนักมากนัก ทำให้พกพาได้สะดวก อีกทั้งด้านประสิทธิภาพก็เพียงพอที่จะใช้งานทั่วๆไป ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมหรับคนทำงานที่เน้นความพรีเมียม เน้นสเปกแรงลื่นที่สุด

from:https://notebookspec.com/recommend-5-models-buy-2-in-1-notebook-15000-30000-baht-which-model-is-good/490719/

[Acer] Spin 5 กับ 2-in-1 Notebook มาพร้อม Core i Gen 8 และดีไซน์อลูมิเนียมใหม่ เริ่มขายแล้วที่ต่างประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Acer ได้เริ่มทำการจัดส่งหนึ่งใน 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Kaby Lake-R อย่าง Spin 5 ไปยังร้านค้าปลีกเพื่อที่จะดำเนินการจำหน่ายให้ทันในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้แล้ว โดยในส่วนของ Spin 5 Late 2017 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรมพิเศษ 2 รุ่นให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้ออย่าง Core i5-8250U และ Core i7-8550U พร้อมหน้าจอที่ขนาด 13.3 นิ้ว และ 15.6 นิ้วครับ

นอกเหนือไปจากเรื่องทางด้านสเปคแล้วนั้น Spin 5 Late 2017 ยังจะมาพร้อมกับดีไซน์อลูมิเนียมเป็นเงาแบบใหม่ทั้งรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอ 13.3 นิ้วและ 15.6 นิ้ว ตามมาด้วยการเปลี่ยนพอร์ต USB เป็น USB-C จำนวน 1 พอร์ตและเปลี่ยนจากพอร์ต MicroSD reader เป็น SD reader ที่รองรับกับการใช้งานมากกว่า จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือเรื่องของชิปกราฟิกที่ทาง Acer เพิ่มตัวเลือกเป็น NVIDIA GTX 1050 พร้อมกับหน่วยความจำขนาด 4 GB มาเป็นตัวเลือกให้ทางผู้ที่ซื้อโมเดล 15.6 นิ้วได้เลือกซื้อด้วยครับ

สเปคของ Spin 5 Early 2017 และ Spin 5 Late 2017

ทั้งนี้ราคาของรุ่นโมเดล 13.3 นิ้วจะเริ่มต้นอยู่ที่ $800 หรือประมาณ 27,600 บาท ส่วนรุ่นโมเดล 15.6 นิ้วจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,000 หรือประมาณ 34,500 บาท อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้นั้นที่หน้าเว็บ Newegg และ Amazon ยังคงไม่มีการเพิ่มข้อมูลของ Spin 5 Late 2017 เพิ่มเข้าไป โดยน่าจะรอให้ทางหน้าเว็บของทาง Acer ทำการขึ้นรายละเอียดของ Spin 5 Late 2017 ก่อนครับถึงจะมีการวางจำหน่ายกันต่อต่อไป

ที่มา : notebookcheck

from:https://notebookspec.com/acer-now-shipping-spin-5-convertible-with-kaby-lake-r-and-new-aluminum-design/421945/

[Acer] Spin 5 กับ 2-in-1 Notebook มาพร้อม Core i Gen 8 และดีไซน์อลูมิเนียมใหม่ เริ่มขายแล้วที่ต่างประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Acer ได้เริ่มทำการจัดส่งหนึ่งใน 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Kaby Lake-R อย่าง Spin 5 ไปยังร้านค้าปลีกเพื่อที่จะดำเนินการจำหน่ายให้ทันในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้แล้ว โดยในส่วนของ Spin 5 Late 2017 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรมพิเศษ 2 รุ่นให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้ออย่าง Core i5-8250U และ Core i7-8550U พร้อมหน้าจอที่ขนาด 13.3 นิ้ว และ 15.6 นิ้วครับ

นอกเหนือไปจากเรื่องทางด้านสเปคแล้วนั้น Spin 5 Late 2017 ยังจะมาพร้อมกับดีไซน์อลูมิเนียมเป็นเงาแบบใหม่ทั้งรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอ 13.3 นิ้วและ 15.6 นิ้ว ตามมาด้วยการเปลี่ยนพอร์ต USB เป็น USB-C จำนวน 1 พอร์ตและเปลี่ยนจากพอร์ต MicroSD reader เป็น SD reader ที่รองรับกับการใช้งานมากกว่า จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือเรื่องของชิปกราฟิกที่ทาง Acer เพิ่มตัวเลือกเป็น NVIDIA GTX 1050 พร้อมกับหน่วยความจำขนาด 4 GB มาเป็นตัวเลือกให้ทางผู้ที่ซื้อโมเดล 15.6 นิ้วได้เลือกซื้อด้วยครับ

สเปคของ Spin 5 Early 2017 และ Spin 5 Late 2017

ทั้งนี้ราคาของรุ่นโมเดล 13.3 นิ้วจะเริ่มต้นอยู่ที่ $800 หรือประมาณ 27,600 บาท ส่วนรุ่นโมเดล 15.6 นิ้วจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,000 หรือประมาณ 34,500 บาท อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้นั้นที่หน้าเว็บ Newegg และ Amazon ยังคงไม่มีการเพิ่มข้อมูลของ Spin 5 Late 2017 เพิ่มเข้าไป โดยน่าจะรอให้ทางหน้าเว็บของทาง Acer ทำการขึ้นรายละเอียดของ Spin 5 Late 2017 ก่อนครับถึงจะมีการวางจำหน่ายกันต่อต่อไป

ที่มา : notebookcheck

from:https://notebookspec.com/421945/

[BaNANAStore Promotion] ลดราคาโน้ตบุ๊ค Acer รวม 3 รุ่นขายดี ทั้ง Aspire F5, Swift 3 และ Spin 5

เรียกได้ว่าใครกำลังจะซื้อโน้ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลักล่ะก็ ในตอนนี้ทาง BaNANAStore.com ที่เป็นร้านค้าออนไลน์ชั้นนำได้จัดโปรโมรชั่นพิเศษ กับในส่วนของโน้ตบุ๊ค Acer 3 รุ่นสุดฮิต ขายดี ที่มาพร้อมกับราคาพิเศษ ถูกคุ้ม ลดสูงสุด 1,000 บาทช้อปออนไลน์วันนี้ ราคาเริ่มต้นเพียง 22,990 บาทเท่านั้น พร้อมบริการส่งฟรีทั่วไทย ส่งเร็วทันใจใน 3 ชั่วโมง* ประกอบไปด้วย

  • Acer Aspire F5 ราคา 23,990 บาท
  • Acer Swift 3 ราคา 23,990 บาท
  • Acer Spin 5 ราคา 22,990 บาท

 

Acer Aspire F5 ราคาเหลือเพียง 23,990 บาท

Acer Aspire F5-573G มาพร้อมกับสเปกที่คุ้มค่าในราคาสองหมื่นบาทอย่างใช้ซีพียู Intel Core i7-7500U แบบ 2 Core / 4 Thread ตัวล่าสุดกินไฟต่ำแต่แรงเร็วกว่าเดิม พ่วงการ์ดจอพื่อการเล่นเกมระดับเริ่มต้นอย่าง NVIDIA GeFoce GTX950M (GDDR5 4GB) บนแรมขนาด 4 – 8GB แบบ DDR4 (อัพเกรดได้สูงสุด 32GB ) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB 5400 รอบ เพียงพอต่อการใช้งาน ที่สำคัญยังรองรับการอัพเกรด SSD M.2 ได้ แบบไม่หมดประกันด้วย โดยมีหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซลตามมาตรฐาน


Processor: Intel® Core™ i7-7500U processor (4MB L3 Cache, 2.70 GHz up to 3.50 GH
Ram: 4GB DDR4 SDRAM (Support with two soDIMM modules)
Storage: 1TB ( Support M.2 Upgrade )
Display: 15.6 inch FHD (1920 x 1080 pixel)
Video Graphics: NVIDIA® GeForce® GTX 950M with 4GB of dedicated GDDR5 VRAM
Bluetooth: Bluetooth® 4.1
OS: Linpus Linux
Video Camera: Acer HD webcam with 1280×720 resolution With HDR
Optical Drive: DVD-Super Multi double-layer drive
Weight (Kg): 2.23 Kg.
USB Port: 2 x USB 3.0, 1 X USB 2.0, 1 x USB Type-C port
Wireless: Intel® Dual Band Wireless-AC, MU-MIMO technology
Battery: 6-Cell Li-ion
Battery Life: up to 5 hours
Dimension (W x D x H) cm.: 38.16 x 25.9 x 2.39 ~ 3.02 cm.
Color: Sparkly Silver
Warranty: 2 Years (Parts & Labor) Warranty

 

Acer Swift 3 ราคาเหลือเพียง 23,990 บาท

Acer Swift 3 มาพร้อมดีไซน์บางเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม วัสดุเป็นอลูมิเนียม สเปก Intel Core i5-7200U ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.5 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.1 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 620 ที่ติดมาใน CPU จาก Intel ตระกูล Kaby Lake แรมก็ให้มา 8GB DDR4 เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD มีมาให้ขนาด 256GB มาพร้อมความเร็วสูง นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล


Processor: Intel® Core™ i5-7200U processor (3MB L3 Cache,2.5GHz up to 3.1GHz)
Ram: 8GB (LPDDR3-1866MHz)
Storage: SSD 256 GB PCIe
Display: 14 inch IPS FHD (1920 x 1080 pixel)
Video Graphics: NVIDIA® GeForce® MX150 with 2GB GDDR5 VRAM
Bluetooth: Bluetooth® 4.0
OS: Endless Linux
Video Camera: Super high dynamic range Webcam
Optical Drive: NO
Weight (Kg): 1.6 Kg.
USB Port: 1 x USB 3.1 Type C, 2 x USB 3.0, 1 x USB 2.0 port
Wireless: 802.11b/g/n/ac wireless LAN with 2×2 MU-MIMO
Battery: 4-Cell Li-ion
Battery Life: up to 6 hours
Dimension (W x D x H) cm.: 34.1 x 23.66 x 1.79 cm.
Color: Silver
Warranty: 2 Years (Parts & Labor) Warranty

 

Acer Spin ราคาเหลือเพียง 22,990 บาท

Acer Spin 7 ถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ต้องบอกว่าครบครันจริงๆ กับโน้ตบุ๊คบางเบาและพรีเมียม ด้วยดีไซน์และการออกแบบที่โดดเด่นสวยงาม อีกทั้งยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง มีความบางและเบามากๆ ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Touch screen ขนาด 13.3 นิ้ว Full HD IPS สามารถพับได้ถึง 360 องศา ทำให้สามารถถือและใช้งานได้ด้วยมือเดียวเหมือนกับแท็บเล็ต บอดี้เป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แข็งแรง และให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม สำหรับสเปกก็ใหม่สุดๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i 5 Gen 7 Kaby Lake พร้อม Windows 10


Processor: Intel® Core™ i5-7200U (3MB L3 cache, 2.50GHz up to 3.10GHz)
Ram: 4GB DDR4 SDRAM
Storage: SSD 256GB, SATA 6 Gb/s
Display: 13.3 inch IPS FHD (1920 x 1080 pixel) Touch screen
Video Graphics: Intel® HD Graphics 620
Bluetooth: Bluetooth® 4.1
OS: Windows® 10
Video Camera: Acer HD webcam with HDR
Optical Drive: NO
Weight (Kg): 1.6 Kg.
USB Port: 1 x USB 3.0, 2 x USB 2.0
Wireless: 802.11b/g/n/ac wireless LAN with 2 x 2 MU-MIMO
Battery: 4-Cell Li-ion
Battery Life: up to 6 hours
Dimension (W x D x H) cm.: 32.88 x 22.85 x 1.97 cm.
Color: Obsidian Black
Warranty: 3 Years (Parts & Labor) & 1 Year onsite Warranty

from:https://notebookspec.com/bananastore-promotion-acer-aspire-f5-swift-3-spin-5/419198/

[PR] เอเซอร์เปิดตัวโน้ตบุ๊กอัลตร้าสลิม Swift 5, Spin 5 และ Switch 7 Black Edition บางเฉียบ ถอดแยกชิ้นส่วน เพื่อรูปแบบการใช้งานเฉพาะตัว

เพรียวบาง นำสมัย อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์วิถีโมบิลิตี้


บทสรุปจากบรรณาธิการ

  • Swift 5 โน้ตบุ๊กดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบา เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานสำหรับชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า 1 กิโลกรัม พกพาง่าย สะดวกใช้งานในดีไซน์ล้ำยุค
  • Spin 5 โน้ตบุ๊กจอพับที่สามารถปรับรูปแบบการใช้งานตามความเหมาะสม ผสานความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน ตอบโจทย์งานดิจิทัลคอนเทนต์ระดับมืออาชีพประเภทดนตรี คอนเทนท์ วิดีโอ และเกมส์
  • Switch 7 Black Edition: โน้ตบุ๊กทูอินวัน ที่สามารถประกอบหรือแยกชิ้นส่วนหน้าจอกับคีย์บอร์ดได้ เพื่อประสบการณ์ทางเทคโนโลยีขั้นโปรเฟสชั่นนอล ถือเป็นโน้ตบุ๊กทูอินวัน เครื่องแรกของโลกที่ติดตั้งระบบระบายความร้อนโดยปราศจากพัดลมที่มาพร้อมการ์ดจอแยก 

กรุงเทพ: 15 กันยายน 2560 –  เอเซอร์เพิ่มไลน์โปรดักต์รุ่นท็อปมาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ทั้งสามรุ่น นำเสนอดีไซน์ที่ยิ่งกว่าความบาง หรือความยืดหยุ่นที่ให้มากกว่าการเป็นแค่แล็ปท็อป ไปจนถึงโน้ตบุ๊คที่สามารถแยกชิ้นส่วนได้ นำไปสู่การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของ Swift, Spin และ Switch โดยในรุ่นเหล่านี้ได้รวมเอาระบบประมวลผลของ 8th Generation Intel® Core™ รุ่นล่าสุดที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยีชีวภาพที่ปลอดภัย รองรับระบบ Windows Hello พร้อมจุดเด่นในการใช้งานแบบอเนกประสงค์ สมรรถนะเครื่องตอบโจทย์การทำงานระดับมืออาชีพและความบันเทิงเต็มรูปแบบ อัดแน่นประสิทธิภาพในเครื่องขนาดพกพา ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสความสนุกสนานและความรู้สึกสดใหม่ด้วยสไตล์การออกแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างลงตัว

นายเจอร์รี่ เคโอ ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอที บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เอเซอร์ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทุกรุ่น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไม่สิ้นสุดในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะใช้เพื่อทำงาน เล่น หรือสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในออฟฟิศหรือพกพา เอเซอร์ก็สามารถมอบความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการอันเป็นเอกภาพและความหลากหลายของผู้ใช้งานยุคใหม่ได้”

นายคริส วอล์กเกอร์ รองประธานกลุ่มคอมพิวติ้ง ไคลเอนท์ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “คอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้ระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการติดตั้งและปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานและประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ สินค้ารุ่นใหม่ของ เอเซอร์นำเสนอในดีไซน์บางเฉียบ รูปทรงสมส่วนด้วยการออกแบบแบบไดนามิก มอบความบันเทิงแบบครบครัน ใช้งานง่าย เสริมพลังเครื่องแรงด้วยโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel Core ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีก 40 เปอร์เซ็นต์อย่างน่าทึ่ง”

นายปีเตอร์ ฮัน รองประธาน ด้าน Partner Devices and Solutions บริษัท ไมโครซอฟต์ กล่าวว่า “โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ของเอเซอร์ อย่าง Swift, Spin และ Switch เป็ฯเครื่องมือที่มีอานุภาพในการทำงานและความคล่องตัวในการใช้งาน พร้อมด้วยประสิทธิภาพและขุมพลังบนระบบวินโดวส์ 10  โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่เหล่านี้มีทั้งความเบา บางเฉียบ ทว่ายังรักษาพลังเครื่องที่ยอดเยี่ยมไว้ได้เป็นอย่างดี มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้พีซีเพื่อการสร้างสรรค์ผลงาน เพลิดเพลินกับความบันเทิงได้ในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ออฟฟิศ หรือจะใช้งานนอกสถานที่ก็ตาม”

Switch 7 Black Edition โน้ตบุ๊กทูอินวัน เครื่องแรกในโลกที่รังสรรค์ระบบระบายความร้อนแบบปราศจากพัดลม พร้อมระบบการ์ดจอแยก

เอเซอร์พัฒนา Switch 7 Black Edition คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแบบทูอินวันเครื่องแรกของโลก ที่ไร้พัดลมสำหรับระบายความร้อน พร้อมระบบการ์ดจอแยก ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีระบบระบายอากาศแบบ Dual LiquidLoop™ พร้อมระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core i7 และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® MX150 รองรับการใช้งานที่หนักหน่วง งานครีเอทีฟ หรือการไลฟ์สตรีมมิ่ง  Switch 7 Black Edition ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ขีดจำกัดของพลังเครื่องที่สวนทางกับน้ำหนักที่เบาแทบไม่ถึง 1.15 กิโลกรัม คู่มากับคีย์บอร์ดแยกจอ  ลักษณะการออกแบบของ Switch 7 Black Edition ที่เรียวบางและน้ำหนักเบา ตัวเครื่องหุ้มอะลูมิเนียมขัดเงาทนทาน สื่อถึงความแข็งแกร่งทว่าให้สัมผัสที่นุ่มนวล

Switch 7 Black Edition โดดเด่นด้วยระบบ AutoStand™ ขาตั้งลิขสิทธิ์จากทางเอเซอร์ สามารถใช้งานและพับเก็บได้อัตโนมัติ ตอบโจทย์การทำงานด้วยมือเดียว ใช้งานง่ายๆ เพียงแค่เปิดและปรับจอแสดงผลบนโน้ตบุ๊กแบบ Clamshell

Switch 7 Black Edition ให้มุมมองกว้างด้วยหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2256 x 1504 พิกเซล เปิดมิติภาพที่สดใสมีชีวิตชีวา ถือได้ว่าเป็นการเกิดใหม่ของ Switch ซีรีย์ ใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัส Wacom ที่มีเทคโนโลยี EMR ให้แรงกดที่ระดับ 4096 บริเวณมุมปากกาเอียงนิดๆ ช่วยในการเขียนองศาภาพที่มีความลึก และการไล่ระดับของเฉดสีต่างๆ ตัวปากกาได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ เนื้อสัมผัสปากกามันขลับเรียวบาง เพื่อสุนทรียภาพในการเขียนและสเกตซ์ภาพเมื่อใช้ Windows Ink

Switch 7 Black Edition มีระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือฝังอยู่ใต้กระจกหน้าจอคู่มากับระบบ POA(Power on Authentication)  ช่วยให้การเปิดเครื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Swift 5 น้ำหนักเบา พร้อมแบตเตอรี่พลังสูง

Swift 5 รุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน้ตบุ๊กรูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งาน ตัวเครื่องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม ง่ายต่อการพกพา Swift 5 ผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี อาทิ ตัวฐานและฝาครอบทำจากอัลลอยด์ผสมแม็กนีเซียมลิเธียมให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ขณะที่บริเวณที่วางมือทำจากอัลลอยด์ผสมแม็กนีเซียมอะลูมิเนียมซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน

Swift 5 ใช้ระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core มอบพลังสปีดขั้นสุดให้การตอบสนองที่รวดเร็วฉับไว แบตเตอรี่ให้พลังการใช้งานยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง ตัวเครื่องทำงานบนระบบวินโดวส์ 10 เติมเต็มความแรงสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วยช่อง 2×2 802.11ac อำนวยความสะดวกให้สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่เกี่ยงสถานที่àในทุกๆสถานที่ ทุกเวลาแม้ในเวลากลางคืน พร้อมระบบคีย์บอร์ดแบบ Backlit ที่ส่องไฟจากด้านหลังแป้น

จอทัชสกรีน Full HD IPS2 ตอบสนองระบบ Multi-touch ดีไซน์ Narrow Bezel ขอบจอบาง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเทคโนโลยีเสียงระดับสูง Acer TrueHarmony™ และ Dolby Audio™ เพิ่มพลังเสียงชัดใส ขณะที่ Skype for Business สร้างความมั่นใจในการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และประสบการณ์พิเศษจาก Cortana

Spin 5

Spin 5 โน้ตบุ๊กหมุนพับหน้าจอได้ 360 องศา น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เครื่องมือคู่ใจที่พกพาความเป็นมืออาชีพไว้ตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิง อิสระการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายถึง 4 แบบ ได้แก่ แล็ปท็อป แท็บเล็ต พลิกเป็นจอดิสเพลย์ หรือกางออกในแบบเต็นท์โหมด จากคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ Spin 5 กลายเป็นแพลทฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการสร้างและแบ่งปันคอนเทนท์

Spin 5 หน้าจอขนาด 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยระบบประมวลผลรุ่นล่าสุด 8th Generation Intel Core หน่วยความจำ DDR4 ขนาด 16 กิกะไบต์ แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 13 ชั่วโมง และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 เฉพาะรุ่น 15 นิ้ว จากคุณสมบัติเหล่านี้Spin 5 จึงเหมาะกับงานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ความละเอียดขั้นสูง อาทิ งานกราฟิกดีไซน์และงานตัดต่อวิดีโอ นอกจากนี้ยังมอบความบันเทิงระดับพรีเมียมด้วยภาพสัมผัสผ่านระบบ Full HD ที่ให้สีสันคมชัดสมจริง

ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การใช้งาน ผ่านการใช้งานกับปากกา Acer Active Stylus เพิ่มความแม่นยำในการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมการใช้งานบนระบบ Windows Ink อีกด้วย  Acer ExoAmp เทคโนโลยีจากเอเซอร์ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรดียิ่งขึ้นด้วยเสารับสัญญาณรอบทิศ โดยไม่ต้องกังวลกับสายอากาศที่ติดตั้งฝังอยู่บริเวณฐานเครื่องโน้ตบุ๊กและทิศทางที่อุปกรณ์หันหน้าเข้าหากัน

ระบบเสียงเทคโนโลยี Acer TrueHarmony กับ Dolby Audio Premium และลำโพงที่หันออกด้านหน้า ช่วยให้เสียงไม่ถูกปิดกั้นไม่ว่าจากทิศทางใดๆ  Spin 5 ให้สุนทรียภาพทางเสียงที่กังวาล ทุ้ม นุ่มลึก และคมชัด  สอดคล้องกับการทำงานบนระบบ Skype for Business ของ Spin 5 มาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถจับเสียงได้ 4 ทิศทาง ร่วมกับเทคโนโลยีจดจำเสียงจากที่ไกล ช่วยให้ผู้ใช้งานสั่งการผ่านระบบ Cortana จากระยะไกลมากถึง 4 เมตร ผู้ใช้งานสามารถสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยเสียงในรูปแบบต่างๆ อย่างรวดเร็วทันใจ โดยไม่ต้องใช้ระบบสัมผัสแม้แต่น้อย รวมถึงการใช้งานดาต้าในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพอากาศหรือการจราจร ตั้งค่าเตือนความจำ ตารางกิจวัตรประจำวัน และอื่นๆอีกมากมาย

ราคาและการจำหน่าย

Switch 7 Black Edition จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,699 เหรียญสหรัฐ และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,999 ยูโร

Swift 5 จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 999 เหรียญสหรัฐ ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,099 ยูโร และจีนช่วงเดือนพฤศจิกายน ราคาเริ่มต้น 7,499 หยวน

Spin 5 จะวางจำหน่ายในอเมริการเหนือช่วงเดือนพฤศจิกายน ทั้งรุ่นจอ 13 และ 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 799 เหรียญสหรัฐ และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) รุ่นจอ 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 899 ยูโร และขอ 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 999 ยูโร

รายละเอียดเกี่ยวกับราคาและการจำหน่ายจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละพื้นที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำหน่าย ข้อมูลสินค้า และราคาในตลาดจริงผ่านทางเว็บไซต์ www.acer.com

###

เกี่ยวกับเอเซอร์

ก่อตั้งในปี 1976 เอเซอร์เป็นบริษัทให้บริการในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการ ที่เน้นด้านงานวิจัย การออกแบบ การตลาด การขาย และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ โปรเจคเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ เอเซอร์ยังได้พัฒนาคลาวด์โซลูชั่นเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์. เอเซอร์ครบรอบ 40 ปีในปี 2016 และเป็นหนึ่งใน 5 บริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก มีพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก และมีสำนักงานอยู่มากกว่า 160 ประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.acer.com 

from:https://www.techtalkthai.com/acer-ultra-slim-swift5-spin5-switch7-black-edition/

[Acer] เปิดตัวโน้ตบุ๊กอัลตร้าสลิม Swift 5, Spin 5 และ Switch 7 Black Edition มาพร้อม Core i Gen 8

เอเซอร์เปิดตัวโน้ตบุ๊กอัลตร้าสลิม

Swift 5, Spin 5 และ Switch 7 Black Edition

บางเฉียบ ถอดแยกชิ้นส่วน เพื่อรูปแบบการใช้งานเฉพาะตัว

เพรียวบาง นำสมัย อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์วิถีโมบิลิตี้


บทสรุปจากบรรณาธิการ

  • Swift 5 โน้ตบุ๊กดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบา เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานสำหรับชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า 1 กิโลกรัม พกพาง่าย สะดวกใช้งานในดีไซน์ล้ำยุค
  • Spin 5 โน้ตบุ๊กจอพับที่สามารถปรับรูปแบบการใช้งานตามความเหมาะสม ผสานความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน ตอบโจทย์งานดิจิทัลคอนเทนต์ระดับมืออาชีพประเภทดนตรี คอนเทนท์ วิดีโอ และเกมส์
  • Switch 7 Black Edition: โน้ตบุ๊กทูอินวัน ที่สามารถประกอบหรือแยกชิ้นส่วนหน้าจอกับคีย์บอร์ดได้ เพื่อประสบการณ์ทางเทคโนโลยีขั้นโปรเฟสชั่นนอล ถือเป็นโน้ตบุ๊กทูอินวัน เครื่องแรกของโลกที่ติดตั้งระบบระบายความร้อนโดยปราศจากพัดลมที่มาพร้อมการ์ดจอแยก

กรุงเทพ: 15 กันยายน 2560 –  เอเซอร์เพิ่มไลน์โปรดักต์รุ่นท็อปมาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ทั้งสามรุ่น นำเสนอดีไซน์ที่ยิ่งกว่าความบาง หรือความยืดหยุ่นที่ให้มากกว่าการเป็นแค่แล็ปท็อป ไปจนถึงโน้ตบุ๊คที่สามารถแยกชิ้นส่วนได้ นำไปสู่การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของ Swift, Spin และSwitch โดยในรุ่นเหล่านี้ได้รวมเอาระบบประมวลผลของ 8th Generation Intel® Core™ รุ่นล่าสุดที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยีชีวภาพที่ปลอดภัย รองรับระบบ Windows Hello พร้อมจุดเด่นในการใช้งานแบบอเนกประสงค์ สมรรถนะเครื่องตอบโจทย์การทำงานระดับมืออาชีพและความบันเทิงเต็มรูปแบบ อัดแน่นประสิทธิภาพในเครื่องขนาดพกพา ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสความสนุกสนานและความรู้สึกสดใหม่ด้วยสไตล์การออกแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างลงตัว

นายเจอร์รี่ เคโอ ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอที บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เอเซอร์ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทุกรุ่น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไม่สิ้นสุดในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะใช้เพื่อทำงาน เล่น หรือสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในออฟฟิศหรือพกพา เอเซอร์ก็สามารถมอบความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการอันเป็นเอกภาพและความหลากหลายของผู้ใช้งานยุคใหม่ได้”

นายคริส วอล์กเกอร์ รองประธานกลุ่มคอมพิวติ้ง ไคลเอนท์ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “คอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้ระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการติดตั้งและปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานและประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ สินค้ารุ่นใหม่ของ เอเซอร์นำเสนอในดีไซน์บางเฉียบ รูปทรงสมส่วนด้วยการออกแบบแบบไดนามิก มอบความบันเทิงแบบครบครัน ใช้งานง่าย เสริมพลังเครื่องแรงด้วยโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel Core ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีก 40 เปอร์เซ็นต์อย่างน่าทึ่ง”

นายปีเตอร์ ฮัน รองประธาน ด้าน Partner Devices and Solutions บริษัท ไมโครซอฟต์ กล่าวว่า “โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ของเอเซอร์ อย่าง Swift, Spin และSwitch เป็ฯเครื่องมือที่มีอานุภาพในการทำงานและความคล่องตัวในการใช้งาน พร้อมด้วยประสิทธิภาพและขุมพลังบนระบบวินโดวส์ 10  โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่เหล่านี้มีทั้งความเบา บางเฉียบ ทว่ายังรักษาพลังเครื่องที่ยอดเยี่ยมไว้ได้เป็นอย่างดี มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้พีซีเพื่อการสร้างสรรค์ผลงาน เพลิดเพลินกับความบันเทิงได้ในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ออฟฟิศ หรือจะใช้งานนอกสถานที่ก็ตาม”

Switch 7 Black Edition โน้ตบุ๊กทูอินวัน เครื่องแรกในโลกที่รังสรรค์ระบบระบายความร้อนแบบปราศจากพัดลม พร้อมระบบการ์ดจอแยก

เอเซอร์พัฒนา Switch 7 Black Edition คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแบบทูอินวันเครื่องแรกของโลก ที่ไร้พัดลมสำหรับระบายความร้อน พร้อมระบบการ์ดจอแยก ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีระบบระบายอากาศแบบ Dual LiquidLoop™ พร้อมระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core i7 และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® MX150 รองรับการใช้งานที่หนักหน่วง งานครีเอทีฟ หรือการไลฟ์สตรีมมิ่ง  Switch 7 Black Edition ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ขีดจำกัดของพลังเครื่องที่สวนทางกับน้ำหนักที่เบาแทบไม่ถึง 1.15 กิโลกรัม คู่มากับคีย์บอร์ดแยกจอ  ลักษณะการออกแบบของ Switch 7 Black Editionที่เรียวบางและน้ำหนักเบา ตัวเครื่องหุ้มอะลูมิเนียมขัดเงาทนทาน สื่อถึงความแข็งแกร่งทว่าให้สัมผัสที่นุ่มนวล

Switch 7 Black Edition โดดเด่นด้วยระบบ AutoStand™ ขาตั้งลิขสิทธิ์จากทางเอเซอร์ สามารถใช้งานและพับเก็บได้อัตโนมัติ ตอบโจทย์การทำงานด้วยมือเดียว ใช้งานง่ายๆ เพียงแค่เปิดและปรับจอแสดงผลบนโน้ตบุ๊กแบบ Clamshell

Switch 7 Black Edition ให้มุมมองกว้างด้วยหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2256 x 1504 พิกเซล เปิดมิติภาพที่สดใสมีชีวิตชีวา ถือได้ว่าเป็นการเกิดใหม่ของ Switch ซีรีย์ ใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัส Wacom ที่มีเทคโนโลยี EMR ให้แรงกดที่ระดับ 4096 บริเวณมุมปากกาเอียงนิดๆ ช่วยในการเขียนองศาภาพที่มีความลึก และการไล่ระดับของเฉดสีต่างๆ ตัวปากกาได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ เนื้อสัมผัสปากกามันขลับเรียวบาง เพื่อสุนทรียภาพในการเขียนและสเกตซ์ภาพเมื่อใช้ Windows Ink

Switch 7 Black Edition มีระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือฝังอยู่ใต้กระจกหน้าจอคู่มากับระบบ POA(Power on Authentication)  ช่วยให้การเปิดเครื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Swift 5 น้ำหนักเบา พร้อมแบตเตอรี่พลังสูง

Swift 5 รุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน้ตบุ๊กรูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งาน ตัวเครื่องมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม ง่ายต่อการพกพา Swift 5 ผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี อาทิ ตัวฐานและฝาครอบทำจากอัลลอยด์ผสมแม็กนีเซียมลิเธียมให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ขณะที่บริเวณที่วางมือทำจากอัลลอยด์ผสมแม็กนีเซียมอะลูมิเนียมซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน

Swift 5 ใช้ระบบประมวลผล 8th Generation Intel Core มอบพลังสปีดขั้นสุดให้การตอบสนองที่รวดเร็วฉับไว แบตเตอรี่ให้พลังการใช้งานยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง ตัวเครื่องทำงานบนระบบวินโดวส์ 10 เติมเต็มความแรงสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วยช่อง 2×2 802.11ac อำนวยความสะดวกให้สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่เกี่ยงสถานที่ในทุกๆสถานที่ ทุกเวลาแม้ในเวลากลางคืน พร้อมระบบคีย์บอร์ดแบบ Backlit ที่ส่องไฟจากด้านหลังแป้น

จอทัชสกรีน Full HD IPS2 ตอบสนองระบบ Multi-touch ดีไซน์ Narrow Bezel ขอบจอบาง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเทคโนโลยีเสียงระดับสูง Acer TrueHarmony™ และ Dolby Audio™ เพิ่มพลังเสียงชัดใส ขณะที่ Skype for Business สร้างความมั่นใจในการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และประสบการณ์พิเศษจาก Cortana

Spin 5

Spin 5 โน้ตบุ๊กหมุนพับหน้าจอได้ 360 องศา น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เครื่องมือคู่ใจที่พกพาความเป็นมืออาชีพไว้ตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิง อิสระการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายถึง 4 แบบ ได้แก่ แล็ปท็อป แท็บเล็ต พลิกเป็นจอดิสเพลย์ หรือกางออกในแบบเต็นท์โหมด จากคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ Spin 5 กลายเป็นแพลทฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการสร้างและแบ่งปันคอนเทนท์

Spin 5 หน้าจอขนาด 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยระบบประมวลผลรุ่นล่าสุด 8th Generation Intel Core หน่วยความจำ DDR4 ขนาด 16 กิกะไบต์ แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 13 ชั่วโมง และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 เฉพาะรุ่น 15 นิ้ว จากคุณสมบัติเหล่านี้Spin 5 จึงเหมาะกับงานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ความละเอียดขั้นสูง อาทิ งานกราฟิกดีไซน์และงานตัดต่อวิดีโอ นอกจากนี้ยังมอบความบันเทิงระดับพรีเมียมด้วยภาพสัมผัสผ่านระบบ Full HD ที่ให้สีสันคมชัดสมจริง

ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การใช้งาน ผ่านการใช้งานกับปากกา Acer Active Stylus เพิ่มความแม่นยำในการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมการใช้งานบนระบบ Windows Ink อีกด้วย  Acer ExoAmp เทคโนโลยีจากเอเซอร์ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรดียิ่งขึ้นด้วยเสารับสัญญาณรอบทิศ โดยไม่ต้องกังวลกับสายอากาศที่ติดตั้งฝังอยู่บริเวณฐานเครื่องโน้ตบุ๊กและทิศทางที่อุปกรณ์หันหน้าเข้าหากัน

ระบบเสียงเทคโนโลยี Acer TrueHarmony กับ Dolby Audio Premium และลำโพงที่หันออกด้านหน้า ช่วยให้เสียงไม่ถูกปิดกั้นไม่ว่าจากทิศทางใดๆ Spin 5 ให้สุนทรียภาพทางเสียงที่กังวาล ทุ้ม นุ่มลึก และคมชัด  สอดคล้องกับการทำงานบนระบบ Skype for Business ของ Spin 5 มาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถจับเสียงได้ 4 ทิศทาง ร่วมกับเทคโนโลยีจดจำเสียงจากที่ไกล ช่วยให้ผู้ใช้งานสั่งการผ่านระบบ Cortana จากระยะไกลมากถึง 4 เมตร ผู้ใช้งานสามารถสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยเสียงในรูปแบบต่างๆ อย่างรวดเร็วทันใจ โดยไม่ต้องใช้ระบบสัมผัสแม้แต่น้อย รวมถึงการใช้งานดาต้าในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพอากาศหรือการจราจร ตั้งค่าเตือนความจำ ตารางกิจวัตรประจำวัน และอื่นๆอีกมากมาย

ราคาและการจำหน่าย

Switch 7 Black Edition จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,699 เหรียญสหรัฐ และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,999 ยูโร

Swift 5 จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 999 เหรียญสหรัฐ ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ช่วงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้น 1,099 ยูโร และจีนช่วงเดือนพฤศจิกายน ราคาเริ่มต้น 7,499 หยวน

Spin 5 จะวางจำหน่ายในอเมริการเหนือช่วงเดือนพฤศจิกายน ทั้งรุ่นจอ 13 และ 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 799 เหรียญสหรัฐ และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) รุ่นจอ 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 899 ยูโร และขอ 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 999 ยูโร

รายละเอียดเกี่ยวกับราคาและการจำหน่ายจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละพื้นที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำหน่าย ข้อมูลสินค้า และราคาในตลาดจริงผ่านทางเว็บไซต์ www.acer.com

เกี่ยวกับเอเซอร์

ก่อตั้งในปี 1976 เอเซอร์เป็นบริษัทให้บริการในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการ ที่เน้นด้านงานวิจัย การออกแบบ การตลาด การขาย และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ โปรเจคเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ เอเซอร์ยังได้พัฒนาคลาวด์โซลูชั่นเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์. เอเซอร์ครบรอบ 40 ปีในปี 2016 และเป็นหนึ่งใน 5 บริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก มีพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก และมีสำนักงานอยู่มากกว่า 160ประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.acer.com

from:https://notebookspec.com/pr-acer-swift-5-spin-5-switch-7-black-edition/417195/