![hds_ingram_micro_logo](https://i2.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2015/09/hds_ingram_micro_logo.jpg?resize=408%2C75)
Hitachi Data Systems (HDS) ได้ทำการเปิดตัว All Flash Array ซีรีส์ที่สอง ภายใต้ชื่อของ Hitachi Flash Storage (HFS) A Series สำหรับตอบโจทย์การใช้งานภายในองค์กรเพื่อรองรับ Database และ Virtualization โดยเฉพาะ ซึ่งจุดที่น่าสนใจของ HFS A Series นี้ก็คือแนวคิดในการออกแบบ All Flash Array ที่ต่างจากรูปแบบเดิมๆ และแก้ไขปัญหาจากการออกแบบเดิมๆ ไปนั่นเอง
![hds_hfs_a_series_front](https://i1.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_front.jpg?resize=600%2C154)
จุดเด่นของ HFS A Series
กระทัดรัดประหยัดพื้นที่ ด้วยขนาดเพียง 2U แต่จัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 384TB
ในขณะที่ All Flash Array ของผู้ผลิตรายอื่นอาจมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 6U ไปจนถึง 11U แต่ HFS A Series จาก HDS นี้มีขนาดเพียงแค่ 2U เท่านั้นทั้งก่อนและหลังเพิ่มขยาย
![hds_hfs_a_series_mask](https://i2.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_mask.jpg?resize=600%2C317)
ที่น่าตกใจมากคือ ในขนาดเพียง 2U นี้ HFS A Series สามารถจุ 2.5″ SSD แบบ Hot Swappable ได้มากถึง 60 ลูกเลยทีเดียว เพราะ Tray สำหรับติดตั้ง SSD นั้นถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านข้างของเครื่อง จึงมีพื้นที่เยอะกว่าการออกแบบทั่วๆ ไปที่ใส่ SSD ได้เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น
![hds_hfs_a_series_bare](https://i0.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_bare.jpg?resize=600%2C339)
นอกจากนี้ SSD แต่ละลูกก็มีความจุ Raw Capacity ที่ 1.6TB ทำให้ Raw Capacity รวมสูงสุดนั้นมีขนาดถึง 96TB และเมื่อรวมกับความสามารถในการลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่าง Deduplication, Compression และ Thin Provisioning แล้ว ก็ทำให้อัตราส่วนในการประหยัดพื้นที่มีถึง 5:1 และทำให้พื้นที่ที่จัดเก็บข้อมูลมีได้สูงสุด 384TB เลยทีเดียว อีกทั้ง Deduplication นี้ยังสามารถปรับแต่งขนาด Block Size ให้เหมาะสมกับ Application ที่ทำการใช้งานได้
![hds_hfs_a200_front_from_the_register](https://i1.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a200_front_from_the_register.jpg?resize=600%2C310)
ด้วยการออกแบบแบบนี้ ก็ทำให้ HFS A Series ประหยัดพลังงานลงไปกว่าเทคโนโลยีแบบอื่นๆ ถึง 10 เท่า ในขณะที่ใช้พื้นที่บนตู้ Rack น้อยลง 5-10 เท่าเลยทีเดียว
เร็วสูงสุดกว่า 1,000,000 IOPS พร้อม Bandwidth สูงสุด 8GB/s
ด้วย Cache ขนาด 256GB พร้อม Interface ที่รองรับได้ทั้ง 16x 8Gbps Fibre Channel, 8x 10Gbps iSCSI และ 8x 40Gbps iSCSI ก็ทำให้ HFS A Series สามารถทำสถิติความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,000,000 IOPS และรองรับ Bandwidth มากถึง 8GB/s
Storage QoS ก็เป็นอีกความสามารถหนึ่งที่ช่วยให้แต่ละ Logical Volume สามารถให้บริการได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานเพื่อรองรับแต่ละ Application โดยไม่แย่งประสิทธิภาพการทำงานกันเองได้เป็นอย่างดี และยังมี Average Response Time ต่ำกว่า 1 millisecond อีกด้วย
![hds_hfs_a_series_performance](https://i2.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_performance.jpg?resize=600%2C346)
รองรับความสามารถในการปกป้องข้อมูลอย่างครบครัน
HFS A Series นี้รองรับทั้งการทำ Snapshot, Clone และ Remote Replication อย่างครบถ้วน พร้อมปกป้องข้อมูลด้วยการทำ RAID ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่บน HFS A Series นี้จะปลอดภัยและไม่สูญหายไปไหนอย่างแน่นอน
อัพเกรดง่าย ไม่มี Downtime
HFS A Series นี้เปิดตัวมาด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้
![hds_hfs_a_series_models](https://i0.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_models.jpg?resize=600%2C371)
จะเห็นได้ว่าจุดแตกต่างคือความจุและขนาดของ Cache เท่านั้น ทำให้การอัพเกรดสามารถทำได้แบบ Non-disruptive ด้วยการเพิ่มจำนวน SSD ที่ติดตั้งเข้าไปเป็นหลัก และไม่มี Downtime เลยนั่นเอง
ติดตั้งใช้งานง่าย บริหารจัดการได้ผ่าน GUI พร้อมระบบ Analytics ในตัว
HFS A Series นี้สามารถถูกติดตั้งใช้งานให้เสร็จได้สมบูรณ์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และพร้อมจะทำการกำหนดค่าการใช้งานต่างๆ ได้ทันทีผ่านระบบ GUI โดยเมื่อใช้งานไปแล้ว ผู้ดูแลระบบก็สามารถสร้างรายงานสำหรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพื้นทีจัดเก็บข้อมูลได้ทันทีจากในตัวอุปกรณ์
สำหรับการลงทุนระยะยาว HFS A Series ก็รองรับการทำงานภายใน Hitachi Storage Virtualization Operating System (SVOS) ได้ ทำให้เสริมความสามารถในการทำ Automation และการทำ Workflow ร่วมกับ Storage อื่นๆ ภายใน Data Center ได้อีกด้วย
HFS A Series แตกต่างจาก VSP F Series อย่างไรบ้าง?
เพื่อไม่ให้สับสนระหว่าง HFS A Series ที่เพิ่งออกมา และ VSP F Series ที่ออกมาในปีที่แล้ว ทาง TechTalkThai จึงขอสรุปความแตกต่างเอาไว้ดังนี้
- HFS A Series มีระบบปฏิบัติการเฉพาะของตัวเองที่แตกต่างจาก VSP F Series
- HFS A Series ใช้ 2.5″ SSD ต่างจาก VSP F Series ที่ใช้ Flash Module แบบ FMD DC2 ซึ่งรองรับการทำ Inline Compression ได้ที่ระดับ Module เลย
- HFS A Series มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 1,000,000 IOPS ในขณะที่ VSP F Series มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 1,400,000 IOPS
- HFS A Series มีขนาดเพียง 2U ในขณะที่ VSP F Series มีขนาดเริ่มต้นที่ 5U
แผนการในอนาคตของ HFS
หลังจากนี้ HFS เองก็จะมีการปรับปรุงให้ทำงานร่วมกับระบบที่องค์กรใช้งานได้มากขึ้น เช่น การรองรับ Windows Certification, การรองรับ VMware Certification, การรองรับการทำงานร่วมกับ OpenStack, การรองรับ VASA, การทำงานร่วมกับ Oracle เป็นต้น ในขณะที่การรองรับ Interface นั้นก็จะหลากหลายขึ้น เช่น 16Gbps FC และ Interface อื่นๆ
![hds_hfs_a_series_back](https://i1.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2016/02/hds_hfs_a_series_back.jpg?resize=325%2C320)
นอกจากนี้การทำ Scale-out และการรองรับ SSD ขนาดใหญ่ขึ้นก็อยู่ใน Road Map ด้วยเช่นกัน รวมถึงการ Integrate ระบบเข้ากับโซลูชั่นอื่นๆ ของ Hitachi Data Systems เองก็จะถูกเสริมเข้ามาด้วยภายในปี 2016 นี้
ติดต่อ HDS Thailand และ Ingram
![hds_ingram_micro_logo](https://i2.wp.com/www.techtalkthai.com/wp-content/uploads/2015/09/hds_ingram_micro_logo.jpg?resize=408%2C75)
ผู้ที่สนใจเทคโนโลยีต่างๆ ของ Hitachi Data Systems (HDS) และต้องการให้ทีมงานเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นหรือทดสอบผลิตภัณฑ์ หรือ System Integrator ที่ต้องการเป็น Partner กับ HDS สามารถติดต่อทีมงาน Hitachi Data Systems ประเทศไทยได้ทันที โทร 02-126-8039, 02-126-8174 หรืออีเมลล์ Thailand.marketing@hds.com หรือสนใจติดต่อ Hitachi Distributor : Ingram Micro (Thailand) Co.,Ltd. T. 02-793-1888 ติดต่อฝ่ายขาย หรือคุณยุทธนา แพทย์พิลบุลย์ Product Sales Specialist 081-861-5056
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/01/19/hds_brings_out_purposedesigned_allflash_array/
from:https://www.techtalkthai.com/hitachi-data-systems-announced-latest-all-flash-array-hfs-a-series/