คลังเก็บป้ายกำกับ: THIN_PROVISIONING

Red Hat เข้าซื้อเทคโนโลยี Permabit เสริมการทำ Data Reduction ใน Red Hat Enterprise Linux

Red Hat ประกาศเข้าซื้อทรัพย์สินและเทคโนโลยีของ Permabit Technology Corporation ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Deduplication, Compression และ Thin Provisioning เพื่อเสริมความสามารถให้กับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) โดยเฉพาะ

Credit: Red Hat

 

การเสริมเทคโนโลยีของ Permabit เข้าไปใน RHEL นี้จะช่วยให้การใช้งานระบบ Storage ภายใน RHEL มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และสามารถตอบโจทย์ของการรองรับ Container, Cloud และ Hyper-converged Infrastructure (HCI) ได้เป็นอย่างดี โดยนอกจาก RHEL ที่จะได้ใช้เทคโนโลยีของ Permabit แล้ว Red Hat OpenStack Platform, Red Hat OpenShift Container Platform และ Red Hat Storage ก็จะได้เทคโนโลยีของ Permabit ไปใช้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ Red Hat ก็ยังมีแผนที่จะเปิด Open Source ให้กับเทคโนโลยีของ Permabit ด้วย เพื่อให้เข้ากับแนวทางของ Red Hat ในการเป็นธุรกิจ Open Source อย่างเต็มตัวด้วยนั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลของ Permabit ได้ที่ http://permabit.com/ ทันที

 

ที่มา: https://www.redhat.com/en/about/press-releases/red-hat-acquires-permabit-assets-eases-barriers-cloud-portability-data-deduplication-technology

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-acquires-permabit-data-reduction-technology/

[PR] ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เปิดตัว HITACHI ALL-FLASH ARRAY รุ่นใหม่ HFS A SERIES ที่สุดของความจุ สมรรถนะ และทรงประสิทธิภาพในวงการ

ตอกย้ำวิสัยทัศน์ด้านแฟลชสำหรับแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วย Hitachi Flash Storage ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากที่สุด จากการวิจัยและพัฒนาด้านแฟลชแห่งอนาคตมานานกว่า 15 ปี มั่นใจสมรรถนะ ความจุ และประสิทธิภาพสูงสุดในวงการ มั่นใจพลิกโฉมวงการ flash storage แน่นอน

hitachi-data-system-flash-storage

ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด หรือ HDS กล่าวว่า จากการที่องค์กรมีการใช้แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ เพื่อธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรจำเป็นต้องมีศูนย์ข้อมูลที่มีความพร้อมให้กับผู้ใช้งานในด้านความเร็ว การเข้าถึงข้อมูล และการทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งทางเดียวที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ คือการนำเอาหลักการของการใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยกำหนดการทำงาน ( software-defined approach ) มาใช้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีแฟลช ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทางฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มแฟลชนั่นคือ Hitachi Flash Storage ( HFS ) A series ของ all-flash arrays

Hitachi Flash Storage A series หรือ HFS A นี้มีความโดดเด่นในเรื่องต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของ หรือ Total cost of ownership ( TCO ) ที่คุ้มค่า ความหนาแน่นของความจุที่เหนือกว่า สมรรถนะที่วางใจได้ และช่วยประหยัดพลังงาน โดยใช้พื้นที่ใน Datacenter เพียงเล็กน้อย ถือเป็นอุปกรณ์ appliance ที่ใช้งานง่าย มีการรวมเทคโนโลยี data optimization เข้าไว้ด้วย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มสมรรถนะการให้บริการ ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการจากหลาย ๆ ฝ่ายในองค์กร โดยระบบสามารถแบ่งปันสมรรถนะได้อย่างมีประสิทธิภาพให้กับกลุ่มแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ด้วยซอฟต์แวร์ quality of service ( QoS )

HFS A ประกอบด้วยบริการทางข้อมูล ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานตามความต้องการได้ ทั้งในด้านของความจุ, การปกป้องข้อมูล และประสิทธิภาพที่ต้องการเพื่อตอบโจทย์งานที่หลากหลาย โดยจุดแข็งของซอฟต์แวร์การบริการ ได้แก่ การลดพื้นที่ซ้ำซ้อนของข้อมูลแบบ Inline deduplication, การบีบอัดของข้อมูล ( Compression ), เทคโนโลยี Thin Provisioning, การทำ Snapshots, การทำสำเนาข้อมูล และการเข้ารหัสข้อมูล ( data encryption ) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดหรือปิดระบบ การลดพื้นที่ซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ตามความต้องการให้กับแต่ละแอพพลิเคชั่น เพื่อประสิทธิภาพและสมรรถนะของการทำงาน รวมไปถึงผู้ใช้งานสามารถเห็นผลของการทำงานร่วมกันระหว่างการลดพื้นที่ซ้ำซ้อนของข้อมูลและการบีบอัดของข้อมูล ในอัตราส่วนถึง 5:1 นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพื้นที่ได้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการกระจายความจุตามความต้องการด้วยเทคโนโลยี thin provisioning

โซลูชั่น HFS A มีทั้งหมด 3 รุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับ Controller ประสิทธิภาพสูงจำนวน 2 ตัว รองรับการติดตั้ง Disk ชนิด SSD ได้ถึง 60 ลูก ภายใต้ Tray ขนาด 2U ที่ให้ความจุสูงสุด 384TB และให้อัตรา IOPs ระดับ 1 ล้าน IOPsทำให้ผู้ใช้งานสามารถรวมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้มาใช้งาน ร่วมกันได้ง่ายดายและรวดเร็ว ช่วยลดพื้นที่การติดตั้งภายในศูนย์ข้อมูล รวมไปถึงปัญหาในการจัดการต่าง ๆ HFS A เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่นประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง อย่างเช่น การทำระบบเดสก์ท็อปเสมือน ( VDI ), เซิฟเวอร์เสมือนเพื่อการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ และการทำงานด้านระบบฐานข้อมูล

นอกจากนี้ HFS A ยังช่วยปกป้องข้อมูลด้วยการทำ Snapshots แบบ copy-on-write และการทำ full clones ในแต่ละ logical volumes ทำให้สามารถทำสำเนาของข้อมูลจำนวนหลายชุดได้ ซอฟต์แวร์ควบคุม QoS สามารถตั้งค่าเพื่อกำหนด IOPS และ Bandwidth ให้แต่ละ logical volume เพื่อให้สมรรถนะการทำงานของแอพพลิเคชั่นคงที่

“HFS A series เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่ม flash ที่มาพร้อมโซลูชั่นสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่นเดียวกับ all-flash Hitachi Virtual Storage Platform ( VSP ) F series ที่เพิ่งเปิดตัวไป และมีการพัฒนานำเอาความสามารถของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hitachi VSP G series มาไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hitachi flash storage นี้ ทำให้ฮิตาชิฯ มีโซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการสำหรับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด และในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีแฟลช ฮิตาชิฯ ได้ลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาด้าน flash แห่งอนาคตมานานกว่า 15 ปี จนสามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ไปยังทั่วโลกด้วยจำนวนสิทธิบัตรด้านแฟลชกว่า 350 รายการ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้ค้าทุกรายในตลาด โดยสิทธิบัตรเหล่านี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิฯ มีจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการทำงาน และคุณภาพสูงสุดในตลาดแฟลช เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเทคโนโลยีแฟลชมาตั้งแต่ปี 2008 โดยประสบการณ์ส่งมอบความจุแฟลชมาแล้วกว่า 250 PB ทั่วโลก ในการใช้ all-flash เพื่อสนับสนุนแอพพลิเคชั่นสำคัญ ๆ ของธุรกิจ”

ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด
ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด

“ในตลาดที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วทำให้ภาคธุรกิจไม่สามารถเสียจังหวะ หรือสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันได้ ดังนั้นองค์กรจึงจำเป็นต้องเลือกใช้โซลูชั่น flash ที่ครบวงจร ร่วมกับการใช้ซอฟต์แวร์ในการกำหนดการทำงาน สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดเก็บข้อมูล ทำให้สามารถใช้โซลูชั่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับการใช้งานเฉพาะทาง พร้อมได้รับประสิทธิภาพของการจัดการร่วมกัน ของระบบการทำงาน และนโยบายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เชื่อมั่นว่าสมรรถนะ ความจุ และประสิทธิภาพสูงสุดของ HFS A จะทำให้โซลูชั่น HFS A รุ่นใหม่นี้ พลิกโฉมให้วงการ flash storage ได้อย่างแน่นอน” ดร. มารุตกล่าวทิ้งท้าย

 

เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์

บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท ฮิตาชิ จำกัด โดยเป็นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการข้อมูล ที่จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และยังสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม โดยมุ่งหวังให้เกิดสังคมที่ปลอดภัย, สร้างสุขภาพที่ดี และมีความทันสมัย ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างมูลค่าที่แท้จริงจากฐานข้อมูลสารสนเทศขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Internet of Things ด้วยโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีแบบครบวงจร ได้แก่ สตอเรจ, เซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์, การวิเคราะห์, การบริหารจัดการเนื้อหา, และคลาวด์คอมพิวติ้ง พร้อมการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบถ้วน ด้วยความเชี่ยวชาญของ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ที่บูรณาการทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีปฏิบัติการที่ดีที่สุด จากบริษัทในเครือฮิตาชิฯ เพื่อส่งมอบนวัตกรรมข้อมูลเชิงลึกให้กับธุรกิจ และสังคม ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ HDS.com

 

เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ จำกัด

บริษัท ฮิตาชิ จำกัด ( ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว: 6501 ) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ด้วยจำนวนพนักงานทั่วโลกประมาณ 326,000 ราย โดยในปีงบประมาณ 2555 ( จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 ) บริษัทฯ มียอดขายรวม 9,041 พันล้านเยน ( 96.1 พันล้านดอลลาร์ ) ทั้งนี้ บริษัทฮิตาชิให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เน้นด้านนวัตกรรมเพื่อสังคมมากกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องจักรก่อสร้าง วัสดุและอุปกรณ์ที่ครอบคลุมการทำงานระดับสูง ระบบยานยนต์และอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hitachi.com

from:https://www.techtalkthai.com/hitachi-data-system-unveil-all-flash-array-hfs-a-series/

Hitachi Data Systems เปิดตัว All Flash Array รุ่นล่าสุด HFS A Series เร็ว 1,000,000 IOPS ความจุ 384TB ในขนาด 2U

hds_ingram_micro_logo

Hitachi Data Systems (HDS) ได้ทำการเปิดตัว All Flash Array ซีรีส์ที่สอง ภายใต้ชื่อของ Hitachi Flash Storage (HFS) A Series สำหรับตอบโจทย์การใช้งานภายในองค์กรเพื่อรองรับ Database และ Virtualization โดยเฉพาะ ซึ่งจุดที่น่าสนใจของ HFS A Series นี้ก็คือแนวคิดในการออกแบบ All Flash Array ที่ต่างจากรูปแบบเดิมๆ และแก้ไขปัญหาจากการออกแบบเดิมๆ ไปนั่นเอง

hds_hfs_a_series_front

จุดเด่นของ HFS A Series

 

กระทัดรัดประหยัดพื้นที่ ด้วยขนาดเพียง 2U แต่จัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 384TB

ในขณะที่ All Flash Array ของผู้ผลิตรายอื่นอาจมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 6U ไปจนถึง 11U แต่ HFS A Series จาก HDS นี้มีขนาดเพียงแค่ 2U เท่านั้นทั้งก่อนและหลังเพิ่มขยาย

hds_hfs_a_series_mask

ที่น่าตกใจมากคือ ในขนาดเพียง 2U นี้ HFS A Series สามารถจุ 2.5″ SSD แบบ Hot Swappable ได้มากถึง 60 ลูกเลยทีเดียว เพราะ Tray สำหรับติดตั้ง SSD นั้นถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านข้างของเครื่อง จึงมีพื้นที่เยอะกว่าการออกแบบทั่วๆ ไปที่ใส่ SSD ได้เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น

hds_hfs_a_series_bare

นอกจากนี้ SSD แต่ละลูกก็มีความจุ Raw Capacity ที่ 1.6TB ทำให้ Raw Capacity รวมสูงสุดนั้นมีขนาดถึง 96TB และเมื่อรวมกับความสามารถในการลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่าง Deduplication, Compression และ Thin Provisioning แล้ว ก็ทำให้อัตราส่วนในการประหยัดพื้นที่มีถึง 5:1 และทำให้พื้นที่ที่จัดเก็บข้อมูลมีได้สูงสุด 384TB เลยทีเดียว อีกทั้ง Deduplication นี้ยังสามารถปรับแต่งขนาด Block Size ให้เหมาะสมกับ Application ที่ทำการใช้งานได้

hds_hfs_a200_front_from_the_register

ด้วยการออกแบบแบบนี้ ก็ทำให้ HFS A Series ประหยัดพลังงานลงไปกว่าเทคโนโลยีแบบอื่นๆ ถึง 10 เท่า ในขณะที่ใช้พื้นที่บนตู้ Rack น้อยลง 5-10 เท่าเลยทีเดียว

 

เร็วสูงสุดกว่า 1,000,000 IOPS พร้อม Bandwidth สูงสุด 8GB/s

ด้วย Cache ขนาด 256GB พร้อม Interface ที่รองรับได้ทั้ง 16x 8Gbps Fibre Channel, 8x 10Gbps iSCSI และ 8x 40Gbps iSCSI ก็ทำให้ HFS A Series สามารถทำสถิติความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,000,000 IOPS และรองรับ Bandwidth มากถึง 8GB/s

Storage QoS ก็เป็นอีกความสามารถหนึ่งที่ช่วยให้แต่ละ Logical Volume สามารถให้บริการได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานเพื่อรองรับแต่ละ Application โดยไม่แย่งประสิทธิภาพการทำงานกันเองได้เป็นอย่างดี และยังมี Average Response Time ต่ำกว่า 1 millisecond อีกด้วย

hds_hfs_a_series_performance

รองรับความสามารถในการปกป้องข้อมูลอย่างครบครัน

HFS A Series นี้รองรับทั้งการทำ Snapshot, Clone และ Remote Replication อย่างครบถ้วน พร้อมปกป้องข้อมูลด้วยการทำ RAID ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่บน HFS A Series นี้จะปลอดภัยและไม่สูญหายไปไหนอย่างแน่นอน

 

อัพเกรดง่าย ไม่มี Downtime

HFS A Series นี้เปิดตัวมาด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้

hds_hfs_a_series_models

จะเห็นได้ว่าจุดแตกต่างคือความจุและขนาดของ Cache เท่านั้น ทำให้การอัพเกรดสามารถทำได้แบบ Non-disruptive ด้วยการเพิ่มจำนวน SSD ที่ติดตั้งเข้าไปเป็นหลัก และไม่มี Downtime เลยนั่นเอง

 

ติดตั้งใช้งานง่าย บริหารจัดการได้ผ่าน GUI พร้อมระบบ Analytics ในตัว

HFS A Series นี้สามารถถูกติดตั้งใช้งานให้เสร็จได้สมบูรณ์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และพร้อมจะทำการกำหนดค่าการใช้งานต่างๆ ได้ทันทีผ่านระบบ GUI โดยเมื่อใช้งานไปแล้ว ผู้ดูแลระบบก็สามารถสร้างรายงานสำหรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพื้นทีจัดเก็บข้อมูลได้ทันทีจากในตัวอุปกรณ์

สำหรับการลงทุนระยะยาว HFS A Series ก็รองรับการทำงานภายใน Hitachi Storage Virtualization Operating System (SVOS) ได้ ทำให้เสริมความสามารถในการทำ Automation และการทำ Workflow ร่วมกับ Storage อื่นๆ ภายใน Data Center ได้อีกด้วย

 

HFS A Series แตกต่างจาก VSP F Series อย่างไรบ้าง?

เพื่อไม่ให้สับสนระหว่าง HFS A Series ที่เพิ่งออกมา และ VSP F Series ที่ออกมาในปีที่แล้ว ทาง TechTalkThai จึงขอสรุปความแตกต่างเอาไว้ดังนี้

  • HFS A Series มีระบบปฏิบัติการเฉพาะของตัวเองที่แตกต่างจาก VSP F Series
  • HFS A Series ใช้ 2.5″ SSD ต่างจาก VSP F Series ที่ใช้ Flash Module แบบ FMD DC2 ซึ่งรองรับการทำ Inline Compression ได้ที่ระดับ Module เลย
  • HFS A Series มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 1,000,000 IOPS ในขณะที่ VSP F Series มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 1,400,000 IOPS
  • HFS A Series มีขนาดเพียง 2U ในขณะที่ VSP F Series มีขนาดเริ่มต้นที่ 5U

 

แผนการในอนาคตของ HFS

หลังจากนี้ HFS เองก็จะมีการปรับปรุงให้ทำงานร่วมกับระบบที่องค์กรใช้งานได้มากขึ้น เช่น การรองรับ Windows Certification, การรองรับ VMware Certification, การรองรับการทำงานร่วมกับ OpenStack, การรองรับ VASA, การทำงานร่วมกับ Oracle เป็นต้น ในขณะที่การรองรับ Interface นั้นก็จะหลากหลายขึ้น เช่น 16Gbps FC และ Interface อื่นๆ

hds_hfs_a_series_back

นอกจากนี้การทำ Scale-out และการรองรับ SSD ขนาดใหญ่ขึ้นก็อยู่ใน Road Map ด้วยเช่นกัน รวมถึงการ Integrate ระบบเข้ากับโซลูชั่นอื่นๆ ของ Hitachi Data Systems เองก็จะถูกเสริมเข้ามาด้วยภายในปี 2016 นี้

 

ติดต่อ HDS Thailand และ Ingram

hds_ingram_micro_logo

ผู้ที่สนใจเทคโนโลยีต่างๆ ของ Hitachi Data Systems (HDS) และต้องการให้ทีมงานเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นหรือทดสอบผลิตภัณฑ์ หรือ System Integrator ที่ต้องการเป็น Partner กับ HDS สามารถติดต่อทีมงาน Hitachi Data Systems ประเทศไทยได้ทันที โทร 02-126-8039, 02-126-8174 หรืออีเมลล์ Thailand.marketing@hds.com หรือสนใจติดต่อ Hitachi Distributor : Ingram Micro (Thailand) Co.,Ltd. T. 02-793-1888 ติดต่อฝ่ายขาย หรือคุณยุทธนา แพทย์พิลบุลย์ Product Sales Specialist 081-861-5056

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/01/19/hds_brings_out_purposedesigned_allflash_array/

from:https://www.techtalkthai.com/hitachi-data-systems-announced-latest-all-flash-array-hfs-a-series/

EMC เปิดตัว VNXe 1600 SAN Storage รุ่นเล็กสุด สำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง รองรับถึง 80 VM

emc_logo

EMC ได้ทำการเปิดตัว EMC VNXe 1600 ซึ่งเป็นระบบ FC/iSCSI SAN Storage รุ่นเล็กสุด สำหรับตอบโจทย์ของกลุ่มองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง, สาขาขององค์กรขนาดใหญ่ และการใช้งานแยกย่อยในระดับแผนกขององค์กร โดยสามารถเพิ่มขยายภายหลังได้ และมีประสิทธิภาพสูงสุดรองรับได้ถึง 80 Virtual Machines

emc_vnx_familiy

สำหรับข้อมูลเชิงเทคนิคคร่าวๆ ของ EMC VNXe 1600 มีดังนี้

  • ขนาดเริ่มต้น 2U
  • Dual Controllers พร้อม 2x Management Ports
  • CPU ต่อ Controller: Intel Xeon E5-2600 2.6GHz Dual Core
  • Memory ต่อ Controller: 8GB
  • Embedded Host Port ต่อ Controller: 2x Converged Network Adaptor (ใช้เป็น 8/16Gbps FC หรือ 10Gbps Ethernet ก็ได้)
  • Flex IO ต่อ Controller: 1 Module (เลือกระหว่าง 4×2/4/8Gbps FC หรือ 4x10Gbps Ethernet) หรือ 4×10/100/1000Mbps)
  • Storage Protocol: Fibre Channel, iSCSI
  • Max LUN Size: 16TB
  • Max Raw Capacity: 400TB
  • RAID: 1/0, 5, 6
  • Min/Max Drives: 6/200
  • Drive Options: SLC SSD, MLC SSD, SAS, NL-SAS, 2.5″/3.5″

emc_vnxe_1600

สำหรับ License การใช้งานเบื้องต้นนี้ จะมาพร้อมกับระบบ Unisphere Management, FAST Cache, Block Snapshot, Remote Protection และ Thin Provisioning ส่วน License เสริมนั้นได้แก่ Virtual Storage Integrator (VSI) สำหรับบริหารจัดการ VNXe ผ่าน VMware vCenter และ PowerPath ซึ่งเป็น Multi-pathing Software

ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับระบบ SAN Storage ขนาดเล็กในการใช้งานระดับองค์กร โดยในรายละเอียดทางด้านฟีเจอร์เชิงลึกนั้นแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมจากเอกสารด้านล่างได้ทันที เพราะ EMC แต่ละรุ่นจะมีฟีเจอร์ค่อนข้างมากจนยากต่อการสรุปอยู่แล้วครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/emc-launched-vnxe-1600-san-storage-for-smb/

ไอบีเอ็มจัดโปรโมชั่นแรงให้ทดลองใช้ฟรี ไอบีเอ็ม สเปกตรัม แอ็คเซเลเรท

ปลดล็อคข้อจำกัดการใช้สตอเรจแบบเดิมและเข้าถึงขุมพลังเต็มสมรรถนะด้วย Ultra Flexible Converged Infrastructure

Image1_IBMSpectrumAccelerate

กรุงเทพฯ – 22 กรกฎาคม 2558: ไอบีเอ็มช่วยองค์กรธุรกิจปลดล็อคข้อจำกัดการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทั้งเรื่องขีดความสามารถในการจัดเก็บและการใช้งานร่วมกันของ อุปกรณ์ IT ได้หลากหลาย โดยเปิดให้ทดลองใช้ฟรี ไอบีเอ็ม สเปกตรัม แอ็คเซเลเรท ผลิตภัณฑ์กลุ่มซอฟต์แวร์การจัดการสตอเรจที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อรองรับการจัดการในยุคที่เต็มไปด้วยข้อมูล ด้วยคุณสมบัติ Ultra Flexible Converged Infrastructure ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงสร้างพื้นฐานในแบบบูรณาการ ทำให้องค์กรธุรกิจจัดสรรการใช้โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรได้อย่างเต็มสมรรถนะ

คุณสมบัติ Ultra Flexible Converged Infrastructure (หรือที่รู้จักกันว่า Converged Infrastructure) คือการบูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีทั้งหมด ตั้งแต่ เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ เน็ทเวิร์ค เวอร์ชวลไลเซชั่น และการบริหารจัดการอื่นๆ ให้อยู่ภายในเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่เครื่อง ซึ่งเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะเปรียบเสมือนดาต้าเซ็นเตอร์ในตัวเอง (DataCenter-in-box) โดยไม่จำกัดทั้งรุ่นและแบรนด์ของเครื่องที่นำมาใช้ ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ ไอบีเอ็ม สเปกตรัม แอ็คเซเลเรท ถูกออกแบบมาให้ใช้กับ Vmware เวอร์ชวลไลเซชั่น และ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ได้ในระบบเดียว  และในอนาคตอันใกล้สามารถใช้กับ Microsoft Hyper V และ KVM เป็นอีกทางเลือกให้แก่องค์กรด้วย

IBM Mobile Storage  (Jared Lazarus/Feature Photo Service for IBM)
IBM Mobile Storage (Jared Lazarus/Feature Photo Service for IBM)

ไอบีเอ็ม สเปกตรัม แอ็คเซเลเรท เป็นการพัฒนาต่อยอดจากสตอเรจระดับไฮเอนด์ของไอบีเอ็มที่ได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพการใช้งานในระบบคลาวด์ขนาดใหญ่อย่างกว้างขวาง ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมโดดเด่นในการเพิ่มความยืดหยุ่นของการจัดเก็บ ทำให้สามารถขยายความจุเพื่อรองรับการเติบโตของการปฏิบัติงานได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ขณะที่ในปัจจุบันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการเพิ่มเติม ติดตั้ง และทดสอบระบบฮาร์ดแวร์ อีกทั้งยังประกอบด้วยคุณสมบัติมากมายที่พบได้ในสตอเรจระดับไฮเอนด์ เช่น Thin Provisioning, Snapshot, Replication และเชื่อมต่อกับคลาวด์ผ่าน OpenStack หรือเชื่อมต่อโดยตรง รวมถึงการบันทึกข้อมูลเพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียในเหตุการณ์ไม่คาดคิด อันส่งผลสำคัญต่อความต่อเนื่องของการทำธุรกิจที่ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

สนใจทดลองใช้ ไอบีเอ็ม สเปกตรัม แอ็คเซเลเรท ฟรี สามารถลงทะเบียนและสอบถามเงื่อนไขในการทดลองใช้ได้ที่เบอร์โทรศัพท์  02-619-1260  และ 001 800 441 5673 หรือที่อีเมล์ direct@th.ibm.com ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2558

Image3_IBMSpectrumAccelerate

ข้อมูลเกี่ยวกับ IBM Spectrum Storage

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Spectrum Storage ของไอบีเอ็มสามารถจัดการอุปกรณ์สตอเรจกว่า 250 เครื่อง รวมถึงข้อมูลหลายยอตตาไบต์ (Yottabytes) โดยรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม ทั้งฮาร์ดแวร์และระบบเทปของไอบีเอ็มและบริษัทอื่นๆ  IBM Spectrum Storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บข้อมูลได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการย้ายข้อมูลไปยังอุปกรณ์สตอเรจที่เหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แฟลช, ดิสก์ และเทปของไอบีเอ็มหรือบริษัทอื่นๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สตอเรจที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์จากไอบีเอ็มได้ที่ www.ibm.com/spectrumstorage

##########################################

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-promotion-free-spectrum-accelerate/