อินเทลดึงอดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Skylake กลับมาคุมทีมซีพียูฝั่งไคลเอนต์

อินเทลยุคใหม่ภายใต้การนำของ Pat Gelsinger กำลังไล่ดึงตัววิศวกรระดับหัวกะทิกลับมายังบริษัท ล่าสุดประกาศดึง Shlomit Weiss อดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Sandy Bridge และ Skylake กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบชิปสายคอนซูเมอร์ทั้งหมด

เส้นทางชีวิตของ Weiss น่าสนใจตรงที่เธอเป็นผู้หญิงแถวหน้าของวงการออกแบบซีพียู เธอเป็นวิศวกรชาวอิสราเอลที่ทำงานกับอินเทลมาตั้งแต่ปี 1989 โดยมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นหัวหน้าศูนย์พัฒนาซีพียูฝั่งศูนย์ข้อมูล ในปี 2017 จึงย้ายงานไปพัฒนาหน่วยประมวลผลเครือข่ายให้ Mellanox ในอิสราเอล ก่อนที่ Mellanox ถูก NVIDIA ซื้อกิจการในปี 2019 ทำให้เธอย้ายมาเป็น Senior Vice President Silicon Engineering ให้ NVIDIA ด้วย

การกลับมาที่อินเทลรอบนี้ เธอจะรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ร่วมของ Design Engineering Group (DEG) ร่วมกับอดีตพนักงานของอินเทลอีกคน Sunil Shenoy ที่ถูกดึงกลับมาอีกครั้ง

ผลงานของ Weiss ในช่วง Skylake ยิ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อเวลาผ่านไปจากนั้นอีกหลายปี เพราะอินเทลติดๆ ขัดๆ เรื่องการข้ามผ่าน 14 นาโนเมตร ทำให้สถาปัตยกรรม Skylake ที่ออกในปี 2015 (6th Gen) ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธขัดตาทัพต่อมาอีกนาน (Comet Lake ที่ออกในปี 2019 นับเป็น 10th Gen ก็อิงอยู่บน Skylake) และยังสามารถใช้ทานกระแส Ryzen ได้นานกว่าที่หลายๆ คนคาดไว้

ที่มา – Tom’s Hardware

Topics: 

Intel

CPU

Skylake

Mellanox

NVIDIA

from:https://www.blognone.com/node/123610

Mellanox เปิดตัวเวิร์กช้อปการอบรมความรู้ใหม่ภายใต้ชื่อ “What Just happened”

Mellanox Technologies ผู้นำด้านโซลูชั่นอัจฉริยะประสิทธิภาพสูงแบบ End-to-End สำหรับการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ประกาศเปิดตัวหลักสูตรการเรียนรู้ในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “What Just Happened” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลและจัดการระบบเครือข่ายในประเทศไทยได้มีความเข้าใจ และสามารถระบุชี้ปัญหาในการทำงานของระบบเครือข่ายหรือแอพพลิเคชั่นได้ก่อนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในองค์กร ทั้งนี้ เมลลาน็อกซ์เทคโนโลยีส์ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้นที่โรงแรมไอบิสสไตล์บางกอกรัชดาโดยร่วมมือกับ Agile Distribution (Thailand) ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (VAR) ของเมลลาน็อกซ์ในประเทศไทย โดยได้รับความสนใจจากตัวแทนจากหลายภาคส่วนอุตสาหกรรมในประเทศไทยเข้าร่วมสัมมนา

โซลูชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะของเมลลาน็อกซ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลด้วยการรองรับปริมาณงานสูงสุด ลดความหน่วงแฝง เพิ่มความเร็วการส่งข้อมูลสื่อสารกับแอพพลิเคชั่น ปลดล็อคประสิทธิภาพให้ระบบ และยกระดับความปลอดภัย ทั้งนี้เมลลาน็อกซ์เสนอทางเลือกที่ครอบคลุมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นนระบบเครือข่าย ระบบประมวลผลหลายแกน เน็ตเวิร์ดอะแดปเตอร์ อุปกรณ์สวิตช์ สายเคเบิ้ล ไปจนถึงซอฟท์แวร์และระบบซิลิคอน เพื่อช่วยเร่งการทำงานของแอพพลิเคชั่นและผลลัพธ์ธุรกิจที่แตกต่างกัน รวมถึงคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) ศูนย์ข้อมูล ระบบคลาวด์ ระบบสตอเรจ ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และบริการการเงิน

สำหรับหลักสูตรการอบรมในครั้งนี้ นอกจากฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการระบุปัญหาเครือข่ายหรือการทำงานแอพพลิเคชั่นแล้ว ยังนำเสนอทิศทางแนวโน้มของการใช้งานศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความทันสมัย และแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ จากลูกค้า รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบระยะไกล (telemetry)ในการจัดการระบบเครือข่ายอัตโนมัติยุคใหม่ และยังได้นำเสนอเทคโนโลยีระดับผู้นำของเมลลาน็อกซ์ในอุปกรณ์ที่เรียกว่า SmartNIC (NIC คือ การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งทำหน้าที่ลดภาระการทำงานของระบบประมวลผลหลัก) และนำเสนอการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบเครือข่าย

“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับเมลลาน็อกซ์ นับเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในระดับภูมิภาคและระดับโลกของบริษัท ดังจะสะท้อนให้เห็นในความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทที่จะเพิ่มการลงทุนที่นี่ ซึ่งเมลลาน็อกซ์ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งและนำความเชี่ยวชาญและความรู้ของเรามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ศูนย์ข้อมูลของลูกค้าและยังทำให้คู่ค้าในประเทศไทยของเมลลาน็อกซ์เติบโตไปพร้อมกัน” มร. ชาร์ลี ฟู รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เมลลาน็อกซ์ กล่าวและได้เสริมว่า “การถือกำเนิดของนวัตกรรมใหม่ เช่น 5G, ระบบออโตเมชั่น, การเรียนรู้ด้วยตัวเองของคอมพิวเตอร์ (machine learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้วนเป็นความท้าทายในการออกแบบระบบเครือข่ายและประสิทธิภาพการทำงานของระบบคลาวด์อย่างไม่ต้องสงสัย เมลลาน็อกซ์จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในไทยเพื่อให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลรุ่นต่อไป เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันและปลดล็อกเพื่อก้าวออกสู่โอกาสใหม่ๆ ไปกับลูกค้าของพวกเขา”

from:https://www.enterpriseitpro.net/mellanox-what-just-happened/

NVIDIA ประกาศเข้าซื้อกิจการ Mellanox มูลค่า 220,800 ล้านบาท เสริมทัพตลาด High Performance Computing

NVIDIA ได้ออกมาประกาศถึงการตกลงเข้าซื้อกิจการของ Mellanox แล้วอย่างเป็นทางการที่มูลค่า 6,900 ล้านเหรียญหรือราวๆ 220,800 ล้านบาท เพื่อเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับตอบโจทย์ให้กับตลาด High Performance Computing ร่วมกัน

Credit: NVIDIA

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของ NVIDIA และ Mellanox เองได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Supercomputer ใน TOP500 ด้วยกันมากถึง 250 ระบบ อีกทั้งเหล่าผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ และผู้ผลิต Server ชั้นนำเองต่างก็ใช้เทคโนโลยีของทั้งคู่ด้วย

สำหรับเทคโนโลยีเด่นของ Mellanox นั้นก็คือการเป็นผู้นำในตลาด InfiniBand และระบบ Ethernet ความเร็วสูง สำหรับเชื่อมโยงระบบประมวลผลนับพันนับหมื่นชุดเข้าด้วยกัน ตอบโจทย์การประมวลผลประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดองค์กรและ Cloud ในยุคที่ AI และ Data Science นั้นกำลังได้รับความสำคัญเป็นอย่างดี

หลังจากการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ ทาง NVIDIA มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมให้กับทีมงานของ Mellanox ในอิสราเอล โดยนโยบายด้านการขายและการสนับสนุนของ Mellanox จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถือเป็นอีกดีลที่ผิดกับข่าวลือก่อนหน้าเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวของการเสนอเข้าซื้อกิจการของ Mellanox จากทั้ง Intel, Microsoft และ Xilinx มาก่อนแล้ว

ที่มา: https://nvidianews.nvidia.com/news/nvidia-to-acquire-mellanox-for-6-9-billion

from:https://www.techtalkthai.com/nvidia-acquires-mellanox/

NVIDIA ซื้อ Mellanox เจ้าของ InfiniBand มูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์ เสริมทัพ HPC

ต่อจากข่าวว่า อินเทลและ NVIDIA กำลังแย่งกันซื้อ Mellanox ผู้ผลิตสวิตช์ InfiniBand ล่าสุดข่าวเป็นทางการออกมาแล้วว่าเป็น NVIDIA ที่ชนะในศึกนี้ที่ราคา 6.9 พันล้านดอลลาร์ (ข่าวก่อนหน้านี้บอกว่าอินเทลเสนอซื้อที่ 6 พันล้านดอลลาร์)

NVIDIA อธิบายว่าซื้อ Mellanox เพื่อเสริมกำลังในตลาดคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (high performance computing หรือ HPC) ซึ่งมักใช้จีพียูของ NVIDIA และการ์ดเครือข่ายของ Mellanox (ตระกูล InfiniBand) อยู่แล้ว หากดูจากอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 ก็มีเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีจาก 2 บริษัทนี้ร่วมกันถึง 250 เครื่อง (รวมถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกอันอับ 1 และ 2 ตอนนี้คือ SUMMIT และ Sierra) การซื้อกิจการครั้งนี้จึงสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง

ที่มา – NVIDIA

Topics: 

NVIDIA

High Performance Computing

Acquisition

Mellanox

from:https://www.blognone.com/node/108577

VST ECS (Thailand) ผนึก Mellanox เตรียมวางแผนจัดจำหน่ายในไทย

บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านไอทีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ประกาศวันนี้ถึงความร่วมมือครั้งใหม่กับ Mellanox Technologies เพื่อนำโซลูชั่นการเชื่อมต่อดาต้าเซ็นเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีสำหรับวางจำหน่าย

ข้อตกลงครั้งนี้ทำให้ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)สามารถนำโซลูชั่นและบริการของ Mellanox ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชั้นนำด้านเทคโนโลยีอีเธอร์เน็ตแบบ End-to-End และการเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะ InfiniBand เข้าสู่ตลาดของไทยผ่านช่องทางเครือข่ายตัวแทนจัดจำหน่ายระดับองค์กรที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้

คุณสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานบริหารของบริษัทวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “Mellanox เป็นโซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของระบบเครือข่าย ในส่วนของศูนย์ข้อมูลส่วนกลางหรือ Data Center ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้หลากหลายแง่มุมคือสามารถรองรับโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ (Era Infra) อย่าง Hyper-Converged (SCI) และ Cloud ด้วยโซลูชั่นบนระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ฉับไวและมี Latency ที่ต่ำมาก ทำให้ผู้ใช้งานและแอพพลิเคชันต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วขึ้นนอกจากนั้นยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ในระบบศูนย์ข้อมูลส่วนกลางหรือ Data Center และแอพพลิเคชันต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็น Visualization หรือ Cloud และเมื่อเทียบคุณสมบัติการแข่งขันด้านราคากับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ แล้วนั้น กล่าวได้ว่า Mellanoxมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าและสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีกับทุกองค์กร”

“เราเชื่อมั่นใน Mellanox ทั้งตัวผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี, และระบบโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อผสานเข้ากับประสบการณ์ของเราที่ยาวนานมากกว่า 30 ปีในตลาดด้านไอทีแล้ว เรามั่นใจว่าความร่วมมือกับ Mellanoxครั้งนี้จะได้เสียงตอบรับที่ดีจากทั้งเครือข่ายตัวแทนและลูกค้า เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญประจำอยู่พร้อมจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สู่ตลาดผ่านช่องทางจัดจำหน่ายมากกว่า 5,000 ช่องทางทั่วประเทศไทย” คุณสมศักดิ์กล่าวเสริม

คุณชาลี ฟู รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Mellanox Technologies กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในเอเชียแปซิฟิก ที่เราเห็นการเติบโตและการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นมากเท่าใด ก็ยิ่งมีความต้องการเครือข่ายความเร็วสูงและมีความอัจฉริยะมากขึ้น เพื่อจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เรา Mellanoxเป็นผู้นำในด้านนี้ และมุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนลูกค้าในภูมิภาคด้วยทรัพยากรและบริการที่ดีที่สุด เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยต่อไป”

คุณดาร์ริน เฉิน รองประธานฝ่ายช่องทางจัดจำหน่ายระดับนานาชาติของ Mellanox Technologies กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากกับความร่วมมือของ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)เนื่องจากถือเป็นโอกาสที่ดีมากในการนำเสนอโซลูชั่นการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดสู่ตลาดเมืองไทย ซึ่ง Mellanoxเองไม่

เพียงมีโซลูชั่นเครือข่ายประสิทธิภาพสูงที่สุดในด้าน HPC, AI, คลาวด์, สตอเรจ, ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กร, ด้านความปลอดภัย, บริการทางการเงิน และอื่นๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีประมวลผลภายในเครือข่าย ที่ช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคตอีกด้วย จากความร่วมมือของเรานี้ เราหวังว่าจะสามารถส่งมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุด และเป็นทางเลือกด้านโซลูชั่นการเชื่อมต่อข้อมูลในตลาดของไทยได้เป็นอย่างดี”

 

from:https://www.enterpriseitpro.net/vst-ecs-mellanox/

ลือ Intel ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Mellanox 192,000 ล้านบาท

มีข่าวลือว่า Intel ได้ยื่นข้อเสนอในการเข้าซื้อกิจการของ Mellanox ที่มูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 192,000 ล้านบาท ทำให้หุ้นของ Mellanox กระเตื้องขึ้นถึง 15% ทันทีหลังข่าวลือนี้ถูกเผยแพร่ออกมา

Credit: Mellanox

สื่อที่เผยแพร่ข่าวลือนี้คือ Calcalist แห่งอิสราเอล โดย Mellanox เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีทางด้าน InfiniBand และ Ethernet โดยมีระบบคอมพิวเตอร์ที่เร็วทีสุดบนโลกเกินกว่าครึ่งใช้งานอยู่

Mellanox ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 โดยอดีตผู้บริหารระดับสูงของ Intel และ Galileo Technology โดยปัจจุบันนี้ Mellanox มีพนักงานประมาณ 3,000 คน และเทคโนโลยีของ Mellanox เองก็ถูกนำไปใช้ภายใน Data Center ร่วมกับ Server จากหลากหลายผู้ผลิตทั่วโลก

ประเด็นที่ถูกวิเคราะห์กันอย่างน่าสนใจสำหรับข่าวลือนี้ ก็คือ Intel อาจจะต้องการเทคโนโลยีของ Mellanox เข้าไปทดแทน Intel Omni-Path Architecture (OPA) ซึ่ง Intel พยายามผลักดันเป็นอย่างมากในตลาด High Performance Computing (HPC) มาหลายปี แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก

Intel ไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีข่าวลือเรื่องการเข้าซื้อกิจการของ Mellanox โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Microsoft จะเข้าซื้อกิจการของ Mellanox ด้วยเช่นกัน รวมถึงข่าวลือลักษณะเดียวกันนี้ก็ยังเกิดขึ้นกับ Xilinx และ Broadcom มาก่อนด้วย

ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับว่าจะมีข่าวไหนเป็นจริงหรือไม่ และผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร

ที่มา: https://www.enterprisetech.com/2019/01/30/intel-reportedly-in-6b-bid-for-mellanox/

from:https://www.techtalkthai.com/intel-reportedly-to-acquire-mellanox/

ลือ Microsoft อาจเข้าซื้อกิจการของ Mellanox เสริมทัพบริการ Cloud

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวลือเรื่องของการที่ Microsoft อาจจะเข้าซื้อกิจการของ Mellanox Technologies ผู้ผลิตโซลูชันทางด้าน Ethernet และ Storage Networking ชั้นนำ เพื่อนำเทคโนโลยีของ Mellanox ไปเสริมทัพให้กับบริการ Cloud ของตน

Credit: ShutterStock.com

ข่าวลือนี้มีที่มาจากรายงานทางการเงินโดย TheMaker ที่อ้างว่ามีแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ โดยที่ผ่านมา Microsoft เองก็เป็นลูกค้าหลักของ Mellanox อยู่แล้ว ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ก็จะทำให้ Microsoft มีเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดบริการ Cloud ได้ดียิ่งขึ้น

Mellanox นั้นได้รายงานผลกระกอบการประจำไตรมาสครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาว่าธุรกิจมีการเติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2017 และมียอดขายรวม 279.2 ล้านเหรียญหรือราวๆ 8,934.4 ล้านบาทในไตรมาสดังกล่าว โดยตลาดที่มีการเติบโตนั้นคือผู้ให้บริการ Cloud, Data Center ขององค์กร และระบบ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพในระดับสูง

ถ้าหากข่าวลือนี้เป็นจริง Microsoft ก็จะไม่ใช่บริษัทแห่งเดียวที่สนใจเข้าซื้อกิจการของ Mellanox เพราะเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็มีรายงานว่า Xilinx เองก็สนใจที่จะซื้อกิจการของ Mellanox เช่นกัน

ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับว่าข่าวลือนี้จะมีมูลมากน้อยแค่ไหน และการที่ Microsoft จะถือครองเทคโนโลยีด้าน Ethernet และ Storage Networking ของ Mellanox นี้จะส่งผลดีอย่างไรต่อธุรกิจของ Microsoft และ Ecosystem ที่มีอยู่เดิมบ้าง

ที่มา: https://www.onmsft.com/news/microsoft-rumored-to-be-pursuing-another-acquisition-this-time-israeli-server-maker-mellanox

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-may-acquire-mellanox/

Mellanox เปิดคอร์สออนไลน์ฟรี สอน RDMA, RoCE, InfiniBand, NVMe และ Open Networking สำหรับ Data Center

Mellanox Academy คือระบบเรียนออนไลน์ฟรีๆ ที่มุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยีทางด้าน Data Center Networking โดยเฉพาะ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะเทคโนโลยีในฝั่ง Ethernet เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึง RDMA, RoCE, InfiniBand, NVMe over Fabrics และเทคโนโลยี Open Networking ซึ่งจะกลายเป็นหัวใจสำคัญในการทำ Software-defined Networking ภายใน Data Center ทั่วโลก

Credit: Mellanox

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครและลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ http://academy.mellanox.com/ เลยครับ เนื้อหาเหล่านี้หาเรียนที่อื่นได้ไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ ใครทำงานสาย Data Center แนะนำให้กดไว้ก่อนเลยครับ โดยเนื้อหาเหล่านี้จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เนื้อหาพื้นฐานสามารถเรียนได้ฟรีๆ ส่วนถ้าต้องการเรียนและสอบเพื่อรับใบ Certificate ก็สามารถเสียเงินจองได้ภายในระบบเดียวกันได้ทันที

ทั้งนี้เนื้อหาภายในคอร์สออนไลน์แห่งนี้ก็จะมีทั้งส่วนที่เป็นเทคโนโลยีกลางๆ และส่วนที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Mellanox เช่นกัน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมความรู้ขึ้นมาให้เหนือจากเทคโนโลยีระบบเครือข่าย Ethernet เพื่อเปิดโลกกว้างสู่ระบบเครือข่ายเฉพาะทางสำหรับงานประเภท High Performance Computing (HPC), Financial Trading และอื่นๆ ที่ต้องการใช้ระบบเครือข่ายความเร็วสูงนั่นเองครับ

from:https://www.techtalkthai.com/mellanox-free-online-data-center-networking-courses-for-rdma-roce-infiniband-nvme-over-fabrics-and-open-networking/

Mellanox เปิดตัว 200/400GbE Open Switch ตระกูล Spectrum-2

Mellanox ถือเป็นผู้ผลิตรายแรกๆ ที่ทำการเปิดตัว 200/400GbE Switch ในเวลานี้ อีกทั้งยังเปิดตัวในฐานะ Open Switch ภายใต้ตระกูล Mellanox Spectrum-2 อีกด้วย โดยมีตัวเลขทางด้านประสิทธิภาพที่น่าสนใจดังนี้

Credit: Mellanox

 

• รองรับการเชื่อมต่อความเร็ว 10/25/40/50/100/200/400GbE ได้
• ใช้ Ethernet เป็นหลัก มี Latency 300ns ช้ากว่า Infiniband ที่ 90ns
• มี Switching Capacity สูงสุด 6.4Tbps
• รองรับสูงสุด 9.52 Billion Packet per Second
• ใช้พลังงานไม่เกิน 220W
• สามารถทำ Advanced Congestion Control, Adaptive Routing และ Fine-grain Load Balancing ได้

Switch ความเร็วระดับ 200/400Gbps นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Data Driven Application อย่างเช่น Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) โดยเฉพาะ อีกทั้งยังสามารถรองรับการเติบโตของ Cloud ในอนาคตได้เป็นอย่างดี และตอนนี้ก็มีการเปิดเผย Spectrum-2 ASIC SDK สำหรับให้เหล่านักพัฒนา Network OS นำไปใช้พัฒนาโปรแกรมเพื่อรองรับ Hardware ใหม่ๆ เหล่านี้ให้ได้ด้วย

ตอนนี้ Mellanox ได้เปิดตัว 200/400GbE Open Switch ออกมาด้วยกันทั้งสิ้น 7 รุ่น โดยมีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่รองรับ 400GbE ได้

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่ http://www.mellanox.com/page/ethernet_switch_overview และ http://www.mellanox.com/page/products_dyn?product_family=277&mtag=spectrum2_ic เลยครับ

ที่มา: https://www.top500.org/news/mellanox-opens-up-ethernet-performance-lead-with-200gbe-switches/ , http://www.mellanox.com/page/press_release_item?id=1933

from:https://www.techtalkthai.com/mellanox-spectrum-2-200-400gbe-open-ethernet-switches-were-announced/

Mellanox เปิดตัวโซลูชัน 200Gbps HDR Infiniband สำหรับ Data Center

Mellanox ประกาศเปิดตัวโซลูชัน Infiniband ความเร็ว 200Gbps แบบ End-to-End ตั้งแต่ Mellanox Connectx-6 Adapter, Quantum Switch และ LinkX Cable/Transceiver เพื่อตอบรับตลาด Data Center ที่นับวันจะต้องการความเร็วสูงยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

ที่ผ่านมาความเร็วของ Infiniband นั้นสูงสุดอยู่ที่ 100Gbps เท่านั้น ซึ่งการอัปเกรดความเร็วขึ้นมาเป็น 200Gbps โยที่มี Latency เพียงต่ำกว่า 600 Nanosecond นั้นก็จะทำให้ Infiniband สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงถึง 200 ล้าน Message/s เหมาะสำหรับการใช้งานใน Data Center ขนาดใหญ่ที่มีการประมวลผลประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการทำ Machine Learnining, Cloud, Data Analytics, ระบบสำหรับธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ

โซลูชัน Mellanox 200Gbps Ininiband นี้จะพร้อมวางจำหน่ายภายในปี 2017

ที่มา: http://www.mellanox.com/page/press_release_item?id=1810&ssn=rjbfhmpbjm7o1j0rkk2rpvhij5

from:https://www.techtalkthai.com/mellanox-announces-200gbps-hdr-infiniband-solution-for-data-center/