คลังเก็บป้ายกำกับ: FORTITOKEN

CSL จับมือ Fortinet ออกโปรโมชันให้องค์กรพร้อมรับมือ PDPA ก่อนการประกาศ ใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

CSL ผู้ให้บริการระบบ IT Solutions, Cloud และ Data Center แบบครบวงจร จับมือ Fortinet นำเสนอโซลูชันการปกป้องข้อมูลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) พ.ศ. 2562 ครอบคลุมการป้องกันข้อมูลองค์กรและส่วนบุคคลสูญหายและควบคุมข้อมูลให้ถูกต้อง  ( Data Loss Prevention, Breach Detection & Prevention และ Data Integrity) และการระบุตัวตนผู้ใช้งานจากนอกเครือข่ายหรือระบุความเสี่ยง (Access Control) ด้วยโปรโมชันพิเศษ CSL PDPA Starter Kit ชุดความปลอดภัยพร้อมใช้รองรับ PDPA ในราคาเริ่มต้นเพียง 65,500 บาท สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดไม่เกิน 60 ผู้ใช้ โปรโมชันพิเศษถึง 20 ธันวาคมนี้ สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เตรียมบังคับใช้ 27 พฤษภาคม 2564

เหลือเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act: PDPA) เป็นกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และทุกบริษัทที่มีการจัดเก็บข้อมูลของบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยผิดวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของลูกค้าหรือพนักงานในองค์กร รวมถึงสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลในการเข้าถึงข้อมูลของตน และสามารถขอให้เปิดเผยถึงการได้มาของข้อมูล สิทธิ์ในการระงับการใช้ ลบ หรือทำลาย รวมไปถึงขอให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เมื่อเกิดถูกละเมิด ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบภายใน 72 ชั่วโมง สำหรับหน่วยงานที่ไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา โดยโทษปรับสูงสุดจะอยู่ที่ 5,000,000 บาทและจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี

PDPA ถูกเลื่อนการบังคับใช้เป็นเป็นวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 (จากพฤษภาคม 2563) ดังนั้นองค์กรธุรกิจจึงมีเวลาไม่มากในการจัดเตรียมมาตรการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบ IT ให้มีความพร้อมในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งลูกค้าและพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โปรโมชันพิเศษ – ชุดความมั่นคงปลอดภัยพร้อมใช้ เพื่อการปกป้องข้อมูลตาม พ.ร.บ.ฯ

สำหรับองค์กรที่กำลังค้นหาโซลูชันการปกป้องข้อมูลให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล CSL ได้จัดโปรโมชันพิเศษ CSL PDPA Starter Kit ซึ่งครอบคลุมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการระบุตัวตนผู้ใช้งานจากนอกเครือข่ายและความเสี่ยง

โปรโมชั่นนี้สำหรับองค์กรขนาดไม่เกิน 60 ผู้ใช้ และ 100 ผู้ใช้  ซึ่งประกอบด้วย

  • FortiGate ป้องกันภัยตั้งแต่ Gateway และภายในระบบเครือข่าย
  • FortiMail Cloud ป้องกันการโจมตีแบบ Phishing และมัลแวร์ที่แฝงมากับอีเมล
  • Fortinet Secure SD-WAN เชื่อมต่อสำนักงานแต่ละสาขาอย่างมั่นคงปลอดภัย
  • FortiToken เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน VPN ด้วยการพิสูจน์ตัวตนแบบ 2FA
  • FortiGate Cloud เก็บ Log การเข้าใช้งานสูงสุดถึง 1 ปี สามารถระบุผู้ใช้งานหรือความเสี่ยงได้
โปรโมชันนี้ถึง 20 ธันวาคมนี้เท่านั้น

CSL Managed Services: บริการครบวงจรสำหรับโซลูชัน Fortinet

นอกจากชุดอุปกรณ์แล้ว CSL ยังมีบริการ Managed Service สำรหับอุปกรณ์ FortiGate ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ คือ ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง และบริการหลังการ เพื่อให้องค์กรธุรกิจมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และอุ่นใจด้วย Call Support ตลอด 24×7 ที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาพร้อมอุปกรณ์สำรองทดแทนในกรณีที่อุปกรณ์ชำรุด โดยทีมงานวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์มามากกว่า 10 ปี และเพื่อให้ระบบในเครือข่ายทำงานได้ต่อเนื่อง CSL ยังมีบริการ Network Assessment ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบเห็นภาพรวมเครือข่าย ความพร้อมของอุปกรณ์ และขีดความสามารถการทำงานของอุปกรณ์ เพื่อให้เครือข่ายทำงานได้ต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรธุรกิจขาย เพื่อให้องค์กรธุรกิจมั่นใจว่าใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

CSL Managed Services ครอบคลุมบริการดังต่อไปนี้

  • Installation – บริการติดตั้งอุปกรณ์ของ Fortinet พร้อมตั้งค่าเริ่มต้นให้พร้อมใช้งานโดยทีมวิศวกรมืออาชีพ
  • Proactive Monitoring – บริการเฝ้าระวังอุปกรณ์เชิงรุก แจ้งเหตุทางโทรศัพท์และ SMS เมื่อพบเหตุขัดข้อง
  • Advanced Replacement – บริการอุปกรณ์สำรองทดแทน กรณีที่อุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ชำรุดหรือมีปัญหา
  • Call Support – บริการสนับสนุนหลังการขายผ่านสายโทรศัพท์ตลอด 24×7 โทร 02-263-8288
  • Remote Support – บริการแก้ไขปัญหาด้วยวิธี Remote เพื่อจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • On-site Support – บริการแก้ไขปัญหาหน้าไซต์งาน ในกรณีที่ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธี Remote ได้

คลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลบริการเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชัน CSL PDPA Starter Kit: https://www.csl.co.th/Web/Promotion-Detail.aspx?c=40

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อทีมงาน CSL ได้ที่อีเมล csl-presales@ais.co.th หรือโทร 02-263-8185

from:https://www.techtalkthai.com/csl-pdpa-starter-kit-promotion/

โปรโมชันพิเศษจาก Fortinet: PDPA Starter Kit & Secure SD-Branch เริ่มต้นที่ 14,500 บาท

Fortinet ออก 2 โปรโมชันพิเศษสำหรับธุรกิจ SMB ที่ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคล และองค์กรที่เพิ่งเปิดสำนักงานสาขาใหม่หรือต้องการยกระดับการเชื่อมต่ออย่างมั่นคงปลอดภัยผ่าน Secure SD-WAN ในราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 14,500 บาท

โปรโมชันที่ 1: Fortinet PDPA Starter Kit

สำหรับองค์กรและบริษัทที่ต้องการปรับปรุง/อัปเกรดระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลปี 2562 ที่จะบังคับใช้ในปีหน้า สามารถเลือกใช้บริการ Fortinet PDPA Start Kit ได้ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 14,500 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

ชุดที่ 1: Mini Set ประกอบด้วย

  • FortiGate 200 E Series
  • FortiGate Cloud
  • FortiMail Cloud จำนวน 100 Accounts
  • FortiToken Mobile จำนวน 10 Users

ราคาเริ่มต้นที่ 14,500 บาทต่อเดือน

ชุดที่ 2: Medium Set ประกอบด้วย

  •  FortiGate 400 E Series
  • FortiGate Cloud
  • FortiMail Cloud จำนวน 200 Accounts
  • FortiToken Mobile จำนวน 20 Users

ราคาเริ่มต้นที่ 26,500 บาทต่อเดือน

ประโยชน์ที่ท่านจะได้รับ

  • ลดการลงทุน CapEx สามารถบริหารค่าใช้จ่ายรายเดือนได้
  • ควบคุมการเข้าใช้งานในเครือข่าย (Access Control) ได้อย่างครอบคลุม
  • ป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กร ข้อมูลพนักงาน และข้อมูลลูกค้ารั่วไหลสู่สาธารณะ
  • ควบคุมให้ข้อมูลถูกต้องอยู่เสมอ (Data Integrity)
  • ป้องกัน Email Phishing และมัลแวร์ที่แฝงมากับไฟล์แนบอีเมลด้วย FortiMail Cloud
  • 2-Factor Authentication เพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน VPN จากผู้ใช้งานภายนอกด้วย FortiToken Mobile
  • เชื่อมต่อสำนักงานแต่ละสาขาอย่างมั่นคงปลอดภัยด้วย Fortinet Secure SD-WAN
  • ใช้งานง่าย สามารถบริหารจัดการ เก็บ Log และจัดทำรายงานสรุปการใช้งานผ่าน FortiCloud ย้อนหลังได้ 365 วัน

** แถมฟรี Advanced Replacement ตลอดการใช้งาน **

โปรโมชันที่ 2: Fortinet Secure SD-Branch

ตอบโจทย์ครบทั้งโซลูชัน WAN Edge (SD-WAN), Wired & Wireless และ Network Firewall ไปกับ Fortinet ที่จะช่วยปกป้องสำนักงานสาขาให้มีความมั่นคงปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนในการบริหารจัดการ รวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแอปพลิเคชันผ่าน WAN Links ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet, MPLS หรือ LTE ในราคาเพียง 58,000 บาท

  • FortiGate-60F UTP Bundle
  • FortiGate Cloud
  • FortiClient Security Fabric Agent with EMS จำนวน 50 Accounts
  • FortiAP-221e Wireless AP
  • FortiSwitch-124E Secure L2 Switch 24 GE Ports + 4 SFP Slots

ประโยชน์ที่ท่านจะได้รับ

  • เหมาะสำหรับสาขาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง รองรับความเร็วสูงสุดถึง 700 Mbps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทั้ง SD-WAN, Firewall, IPS, Application Control และ Malware Protection
  • ปกป้องอุปกรณ์ของผู้ใช้ให้มีความมั่นคงปลอดภัยด้วย FortiClient Security Fabric Agent จำนวน 50 เครื่อง
  • เครือข่าย Wi-Fi ความเร็วสูง รองรับมาตรฐาน 802.11AC wave2 ด้วย FortiAP
  • เชื่อมต่อเครือข่าย LAN ด้วย FortiSwitch ที่รองรับพอร์ตการใช้งานระดับ Gigabit มากถึง 24 Ports
  • ใช้งานง่าย สามารถบริหารจัดการ เก็บ Log และจัดทำรายงานสรุปการใช้งานผ่าน FortiCloud ย้อนหลังได้ 365 วัน

** ทั้งสองโปรโมชันนี้หมดเขตวันที่ 31 ธันวาคม 2020 นี้ **

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://secure.fortinet.com/LP=8803

from:https://www.techtalkthai.com/fortinet-promotion-pdpa-starter-kit-and-secure-sd-branch/

เตรียมระบบความมั่นคงปลอดภัยให้พร้อมรองรับ PDPA ด้วย One Stop ICT จาก CSL และโซลูชันจาก Fortinet

จากที่รัฐบาลมีมติให้เลื่อนการเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) ในประเทศไทยออกไปอีก 1 ปีจากเดิมที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2020 เป็น วันที่ 27 พฤษภาคม 2021 เพื่อให้องค์กรธุรกิจได้มีเวลามากขึ้นในการจัดเตรียมระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ ICT ให้มีความพร้อม เพื่อการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งลูกค้าและพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จึงนับเป็นโอกาสที่แต่ละองค์กรจะได้ทบทวนความพร้อมของระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระบบ ICT ของตนอีกครั้ง รวมทั้งระบบการจัดเก็บข้อมูล และใช้ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ หากเกิดการละเมิดข้อมูล จะถูกดำเนินการรับผิดทางแพ่งซึ่งองค์กรธุรกิจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทดแทนเพิ่มขึ้นอีกสูงสุดไม่เกิน 2 เท่า ของค่าเสียหายที่แท้จริง

CSL พร้อมช่วยองค์กรรองรับ PDPA ด้วยโซลูชันที่ครบถ้วนจาก Fortinet

CSL เป็นพาร์ตเนอร์กับ Fortinet มาอย่างยาวนาน ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่หลากหลาย และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าระดับองค์กรเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายสูงสุดจนได้รับรางวัล Fortinet Platinum of the Year 2018 พิสูจน์ถึงความมั่นใจจากลูกค้าระดับองค์กรธุรกิจในประเทศไทยที่มีต่อ CSL ในการนำโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Fortinet ไปใช้งานในระบบ ICT ของตนได้เป็นอย่างดี

สำหรับโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่รองรับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นั้น CSL และ Fortinet ก็มีความพร้อมที่ให้บริการโซลูชันต่างๆ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและพนักงานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วนสำคัญ ดังนี้

1. โซลูชันป้องกันการสูญหายของข้อมูล (Data Loss Prevention)

ในการปกป้องข้อมูลไม่ให้เกิดความเสียหายหรือสูญหาย Fortinet มีโซลูชันในรูปแบบ Built-in DLP (Data Loss Prevention) ประกอบด้วยคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ดังนี้

  • FortiGate โซลูชันไฟร์วอลล์ ทำหน้าที่เป็นกำแพงปกป้องภัยคุกคามที่พยายามเจาะเข้ามาในระบบเพื่อขโมยข้อมูลอันมีค่าขององค์กร รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดย CSL มีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เรื่อง FortiGate Firewall จึงสามารถให้คำแนะนำและปรึกษาสำหรับองค์กรทุกขนาดได้เป็นอย่างดี พร้อมบริการ ICT Managed Services สำหรับไฟร์วอลล์ จึงสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดีมากขึ้นอีกขั้นในการดูแลและให้บริการแก่ลูกค้าหลังการเริ่มใช้งานระบบ
  • FortiProxy มีการทำงานในรูปแบบของ URL & DNS Filtering เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้พนักงานเข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงในการนำมัลแวร์จากภายนอกเข้ามาสู่ระบบเครือข่ายภายในองค์กร พร้อมระบบ Advance Threat Protection ที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามอีกรูปแบบหนึ่ง และเพิ่มการพิสูจน์ตัวตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
  • FortiWeb ทำหน้าที่เป็น Web Security Gateway วางตำแหน่งอยู่ด้านหน้าเซิร์ฟเวอร์ โดยสามารถที่จะตรวจสอบว่าข้อมูลที่นำออกไปเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ และผู้ที่ใช้งานข้อมูลเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลหรือไม่ เพื่อป้องกันภัยคุกคามในส่วนของเว็บเซิร์ฟเวอร์ให้กับองค์กร ทั้งการใช้งานภายในองค์กร และการให้บริการในรูปแบบสาธารณะ ช่วยป้องกันการโจมตีทั้งในรูปแบบ SQL Injection, Cross-Site scripting และป้องกันการขโมยข้อมูลผ่าน Web Applications
  • FortiMail อีเมลเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกได้ FortiMail ทำหน้าที่กรองและป้องกันอีเมลที่มีความอันตราย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลในรูปแบบ ฟิชชิ่ง สแปมเมล ไวรัสเมล พร้อมการทำงานในแบบ SMTP Relay เพื่อให้ระบบอีเมลภายในองค์กรมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคาม อีกทั้งยังสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการโจมตีในรูปแบบ Ransomware ที่แฝงมาพร้อมกับอีเมลได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับองค์กรที่มีการใช้เซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบระบบคลาวด์ มีความจำเป็นอย่างมากเช่นกันสำหรับการปกป้องข้อมูล Fortinet ได้พัฒนาคุณสมบัติ Built-in DLP for Cloud อันประกอบด้วย FortiGate Cloud, FortiMail Cloud, FortiWeb Cloud และ FortiCASB ขึ้นมาเพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์บนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ หากใช้งานผ่านผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ อย่างเช่น Amazon AWS, Microsoft Azure, Oracle Cloud Infrastructure หรือ Alibaba Cloud ทาง Fortinet ก็ได้พัฒนา Built-in DLP for Public Cloud ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลในการใช้งานผ่านระบบคลาวด์ให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นเดียวกัน

2. การควบคุมการเข้าถึง (Access Control)

เป็นอีกส่วนของระบบความมั่นคงปลอดภัยที่มีความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลได้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงจำเป็นจะต้องมีระบบควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

  • FortiToken เป็นโซลูชันป้องกันการขโมยรหัสผ่าน รองรับการยืนยันแบบ 2-Factor Authentication (2FA) ทั้งในรูปแบบ OTP (One Time Password) และ Soft Token โดยการยืนยันตัวตนขั้นที่สอง ก่อนเข้าถึงการใช้งานข้อมูลจะมีการยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ได้รับสิทธิ์คนนั้นๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยืนยันเข้าระบบด้วยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนในขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว จึงช่วยรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากการขโมยรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ ICT หรือใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตได้เป็นอย่างดี

3. โซลูชันความมั่นคงของข้อมูล (Data Integrity)

  • FortiClient ทำหน้าที่ป้องกันในส่วนของอุปกรณ์ Endpoint จากมัลแวร์ที่พยายามหาช่องโหว่ของระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัย และปิดช่องโหว่ไม่ให้มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลออกไปได้ สามารถป้องกัน Ransomware ที่บุกโจมตีผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ โดยจะมีการตรวจสอบ Packet ข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมาสำหรับการติดตั้งใช้งานผ่านระบบคลาวด์ของ Fortinet ก่อนที่จะมีการติดตั้งลงในอุปกรณ์นั้นๆ ของผู้ใช้งานต่อไป รวมถึงมีระบบตรวจสอบฝังตัวอยู่ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถกำหนดนโยบายในการตรวจสอบว่ามีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดไว้ในช่วงเวลาไหน มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นการกระทำโดยผู้ที่มีสิทธิ์ถูกต้องตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้หรือไม่

4. โซลูชันตรวจสอบและป้องกันการละเมิดข้อมูล (Breach Detection and Prevention)

เป็นพื้นฐานด้านระบบความมั่นคงปลอดภัยด้าน ICT ส่วนสำคัญส่วนแรกที่ควรเริ่มต้นสำหรับการวางระบบ โดยเบื้องต้นจะต้องมีการตรวจสอบหาช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานอยู่เสียก่อน

สำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล หรือ Breach Prevention จะประกอบด้วย Next Generation Firewall, Web Application Firewall, Endpoint Security, Email Security ที่มีอยู่ใน Built-in DLP ของ Fortinet อยู่แล้ว

ส่วนการตรวจสอบและเฝ้าระวัง หรือ Breach Detection ทาง Fortinet ได้พัฒนาคุณสมบัติ FortiSIEM (SIEM: Security Information and Event Management) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ใน SOC (Security Operations Center) ของ Fortinet อยู่แล้ว เพื่อตรวจสอบและแจ้งเตือน หากมีการใช้งาน แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า นอกเหนือจากนโยบายที่ได้กำหนดไว้ ก็จะมีการแจ้งไปยังผู้ควบคุมการใช้งานข้อมูลได้ทราบอย่างทันท่วงที

5. โซลูชันเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption)

การเข้ารหัสข้อมูลจะช่วยให้แม้ว่ามีการละเมิดจนสามารถนำข้อมูลออกไปจากระบบได้ แต่จะไม่สามารถเปิดดูข้อมูลได้ เนื่องจากว่าข้อมูลได้มีการเข้ารหัสไว้นั่นเอง โดยการเข้ารหัสข้อมูลในส่วนที่จำเป็นต่อการใช้งานเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับองค์กรจะเป็นการเข้ารหัสในแบบ Address Encryption ซึ่งเป็นการเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรือในอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ โดยมีการเข้ารหัสข้อมูล 3 แบบ คือ

  • Drive Encryption เป็นการเข้ารหัสในระดับไดรฟ์ แม้ว่าจะมีการนำไดรฟ์ที่มีการเข้ารหัสไปเปิดในเครื่อง PC อื่นๆ ก็จะไม่สามารถเปิดใช้งานข้อมูลได้ โดยส่วนนี้ หากว่าองค์กรมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับศูนย์ข้อมูลที่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารหัสในรูปแบบนี้ก็ได้
  • File Encryption เป็นการเข้ารหัสให้กับไฟล์ที่มีการเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ใช้งานร่วมกันในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดใช้งาน ก็จะไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ เป็นส่วนที่องค์กรธุรกิจในส่วนของผู้ควบคุมการใข้งานข้อมูลส่วนบุคคลควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
  • Database Encryption เป็นการเข้ารหัสให้กับฐานข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเปิดใช้งานฐานข้อมูลได้ หากองค์กรมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลที่ดี ก็ไม่จำเป็นเข้ารหัสในส่วนนี้ก็ได้เช่นกัน

โซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยทั้ง 5 รูปแบบ ของ Fortinet สามารถตอบสนองความต้องการด้าน ICT ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้งานเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและพนักงานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเป็นอย่างดีตลอดมา โดย CSLและ Fortinet พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาแก่องค์กรธุรกิจทุกขนาด สำหรับการพัฒนาระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้าน ICT ขององค์กรให้สามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี

CSL พร้อมให้คำปรึกษาโซลูชันด้าน ICT เพื่อรองรับ PDPA ที่เหมาะสมกับทุกองค์กรธุรกิจ

แม้การบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ในประเทศไทย จะถูกเลื่อนไปอีกถึง 1 ปี คือจะเริ่มบังคับใช้ในวัน 27 พฤษภาคม 2021 ทำให้องค์กรธุรกิจมีเวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ระบบขององค์กรสามารถรองรับ และสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับของ พ.ร.บ.ฯ แต่ทุกการเริ่มต้นเตรียมความพร้อมควรต้องเริ่มต้นกับพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ และสามารถให้บริการได้ครบถ้วน

SL มีโซลูชันที่ครบถ้วน พร้อมด้วยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์โซลูชันด้าน ICT ให้กับองค์กรธุรกิจมาอย่างยาวนาน CSL จึงมีความพร้อมในการให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหาโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณสำหรับองค์กรธุรกิจทุกขนาด พร้อมบริการหลังการขาย รวมถึงการบริการในรูปแบบ Managed Services ที่ช่วยแบ่งเบาภาระด้านบุคคลากรและค่าใช้จ่ายด้าน ICT โดยรวมให้กับองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกรูปแบบหนึ่งด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ CSL พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1370 ในการให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาแก่ลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

“Enhance Agility of New Normal with CSL Digital Transformation Solutions”

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจกับ CSL โทร 0-2263-8185 หรืออีเมล presales@csl.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/prepare-for-pdpa-with-fortinet-solutions-and-one-stop-ict-by-csl/

Work from Home อย่างมั่นคงปลอดภัยด้วยโซลูชันจาก Fortinet

อิสระในการทำงานจากที่ไหนก็ได้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ Digital Workplace โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เชื้อ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ เพื่อสนับสนุนการทำงานจากภายนอกออฟฟิสอย่างมั่นคงปลอดภัย Fortinet จึงได้ออก Solution Brief เรื่อง “Secure Remote Access for Your Workplace at Scale” เพื่อแนะนำการใช้เทคโนโลยี VPN บน FortiGate NGFW พร้อมตัวอย่าง Use Cases สำหรับการนำไปประยุกต์ใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร

Solution Brief ฉบับนี้จะบรรยายถึงการนำโซลูชันต่างๆ ของ Fortinet ได้แก่ FortiGate NGFW ที่รองรับการเชื่อมต่อ SSL & IPsec VPN จากระยะไกล, FortiClient สำหรับปกป้องอุปกรณ์ปลายทาง, FortiAuthenticator สำหรับการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication และอื่นๆ มาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อให้พนักงาน Teleworker ทั่วไป, Power User และ Super User สามารถเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรจากภายนอกออฟฟิสได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัย เพิ่มความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่พึงประสงค์อย่าง COVID-19 หรือฝุ่น PM 2.5

ยกระดับการทำงานจากนอกออฟฟิสให้มั่นคงปลอดภัยด้วย FortiGate NGFW

ภายใต้สถานการณ์ที่เชื้อ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ หลายองค์กรเริ่มวางนโยบายและติดตั้งระบบ VPN สำหรับให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ แน่นอนว่า FortiGate NGFW เองก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ SSL และ IPsec VPN ที่พร้อมให้เปิดใช้งานได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม และสามารถติดตั้ง FortiClient VPN บนอุปกรณ์ของพนักงาน ทั้ง Windows, Mac หรือ Linux เพื่อเริ่มใช้งานได้ทันที ตารางด้านล่างแสดงจำนวนผู้ใช้ VPN บน FortiGate แต่ละรุ่น

นอกเหนือจากการเข้ารหัสข้อมูลที่รับส่งไปยังพนักงานผ่าน VPN แล้ว Fortinet ยังให้บริการโซลูชันหลากหลายเพื่อยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการทำงานจากภายนอกออฟฟิสได้อีกด้วย ดังนี้

  • Multi-factor Authentication: เพิ่มการพิสูจน์ตัวตนแบบ 2-Factor Authentication สำหรับพนักงานที่ทำงานจากภายนอกออฟฟิสโดยใช้ FortiToken และ FortiAuthenticator
  • Data Loss Prevention: ป้องกันข้อมูลสำคัญไม่ให้รั่วไหลสู่ภายนอกขณะใช้ VPN ผ่านฟีเจอร์ DLP บน FortiGate และ FortiWi-Fi
  • Advanced Threat Protection: ยกระดับการป้องกันมัลแวร์ที่แอบแฝงมากับไฟล์ก่อนส่งไปยังเป้าหมายด้วย FortiSandbox
  • Wireless Connectivity: บริการ Remote AP สำหรับให้พนักงานสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายเพื่อ VPN กลับมาได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยใช้ FortiAP
  • Telephony: FortiFone เป็นโซลูชัน VoIP Telephony ความมั่นคงปลอดภัยสูง สามารถติดตามการใช้งานได้ผ่านทาง FortiGate NGFW รองรับทั้งการใช้งานในรูปของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และ Soft Client

3 Use Cases การทำงานจากนอกออฟฟิสอย่างมั่นคงปลอดภัยโดยใช้โซลูชันจาก Fortinet

จำไว้เสมอว่า ผู้บริหารและพนักงานแต่ละคนอาจมีสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรขณะทำงานจากภายนอกสถานที่ไม่เท่ากัน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด ควรแบ่งระดับการเข้าถึงเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ Fortinet แนะนำโซลูชันสำหรับการเข้าถึงระบบจากระยะไกลโดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับให้องค์กรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ได้แก่ Basic Teleworker, Power User และ Super User

1. Basic Teleworker

Basic Teleworker หรือพนักงานทั่วไปที่อนุญาตให้ทำงานจากภายนอกออฟฟิสได้ จะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงอีเมล อินเทอร์เน็ต ระบบประชุมทางไกล แชร์ไฟล์ และระบบที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เช่น Finance หรือ HR ผ่าน VPN รวมไปถึงสามารถเข้าถึง SaaS Applications บน Cloud อย่าง Office 365 ได้

ในกรณีนี้ Basic Telework จะเชื่อมต่อกลับเข้ามายังระบบขององค์กรโดยใช้ FortiClient ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ VPN Client และทำการยืนยันตัวตนแบบ 2-Factor Authentication ด้วย FortiToken ในขณะการเข้าถึง SaaS Applictions จะถูกควบคุมโดย FortiCASB เพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยและลดปัญหา Shadow IT

2. Power User

Power User คือพนักงานที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรขณะทำงานจากภายนอกออฟฟิสสูงกว่าปกติ และต้องทำงานนอกเหนือเวลางาน เช่น ผู้ดูแลระบบ หรือ IT Support เป็นต้น

สำหรับ Power User การใช้ FortiAP ทำหน้าที่เป็น Remote AP สำหรับเชื่อมต่ออย่างมั่นคงปลอดภัยกลับมายังระบบเครือข่ายขององค์กรจะช่วยเพิ่มความสะดวกแก่พนักงานเป็นอย่างมาก เพราะเสมือนพนักงานคนนั้นกำลังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิสขององค์กร และยังมีฟีเจอร์ Split Tunneling สำหรับออกอินเทอร์เน็ตโดยตรงได้อีกด้วย จุดเด่นของ FortiAP คือรองรับการตั้งค่าแบบ Zero-touch Provisioning และสามารถบริหารจัดการได้ผ่านทาง FortiGate NGFW ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานภายนอกสถานที่ ในกรณีที่ต้องใช้โทรศัพท์ออฟฟิส ก็สามารถเชื่อมต่อ FortiFone หรือ IP Phone อื่นๆ กับ FortiAP เพื่อให้พร้อมใช้งานได้ทันที

3. Super User

Super User คือพนักงานหรือผู้บริหารที่มีสิทธิ์ระดับสูงในการเข้าถึงทรัพยากรสำคัญในขณะที่ทำงานจากภายนอกออฟฟิสได้ ผู้ใช้เหล่านี้มักต้องใช้งานข้อมูลที่เป็นความลับหรือมีความสำคัญสูงสำหรับองค์กรอยู่เสมอ ตัวอย่างผู้ใช้ได้แก่ ผู้ดูแลระบบที่มีสิทธิ์ระดับสูง, IT Support, พาร์ทเนอร์รายหลักที่อยู่ในแผนความต่อเนื่องเชิงธุรกิจ และผู้บริหารขององค์กร

สำหรับ Super User เหล่านี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามก็ต้องทำให้พวกเขาพร้อมทำงานเสมือนนั่งอยู่ในองค์กร โซลูชันสำหรับให้บริการผู้ใช้เหล่านี้อาจคล้ายคลึงกับ Basic Teleworker หรือ Power User แต่จำเป็นต้องวางมาตรการควบคุมให้รัดกุมกว่านั้นเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญไม่ให้รั่วไหล่สู่ภายนอก ดังนั้น นอกจากการใช้ FortiAP ในการเชื่อมต่อกลับมายังระบบเครือข่ายขององค์กรแล้ว ควรเปิดใช้งานฟีเจอร์ DLP บน FortiGate NGFW ด้วย ในกรณีที่ต้องใช้โทรศัพท์ออฟฟิส ก็สามารถเลือกใช้ FortiFone ในรูปแบบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เชื่อมต่อกับ FortiAP หรือ Soft Client บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ง่ายผ่าน FortiGate NGFW หรือ FortiManager Centralized Management Platform

จุดเด่นสำคัญของ Fortinet คือ ทุกโซลูชันของ Fortinet สามารถบริหารจัดการและติดตามการใช้งานได้จากศูนย์กลางผ่านทาง Fortinet Security Fabric ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นโซลูชันที่ใช้งานภายในองค์กรหรือโซลูชันสำหรับทำงานจากภายนอกสถานที่ ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการทุกอย่างได้ผ่านทางหน้าจอเดียวโดยใช้ FortiManager รวมไปถึงสามารถเก็บ Log แล้วนำไปวิเคราะห์โดยใช้ FortiAnalyzer และ FortiSIEM เพื่อตรวจจับและรับมือกับภัยคุกคามเชิงรุกได้ ยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไปอีกขั้น

ผู้ที่สนใจโซลูชัน Work from Home อย่างมั่นคงปลอดภัยของ Fortinet ในรายละเอียดเชิงลึก สามารถรับชม Video Webinar เรื่อง “Secure Remote Workforce with Fortinet” โดยคุณ Vee Hirunpanich, Systems Engineer จาก Fortinet Thailand ได้ด้านล่าง

ดาวน์โหลด Solution Brief เรื่อง “Secure Remote Access for Your Workplace at Scale” มาศึกษาฟรีได้ที่นี่ [PDF]

from:https://www.techtalkthai.com/secure-remote-access-for-your-workplace-by-fortinet/

Fortinet Webinar: Secure Remote Workforce with Fortinet

Fortinet Thailand ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังบรรยาย Fortinet Webinar เรื่อง “Secure Remote Workforce with Fortinet” พร้อมสาธิตการนำ FortiGate, FortiClient และ FortiToken มาใช้ทำ SSL & IPsec VPN สำหรับทำงานนอกออฟฟิสอย่างมั่นคงปลอดภัยในสถานการณ์ที่ไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยทีมวิศวกรจาก Fortinet Thailand ในวันพุธที่ 25 มีนาคม 2020 ผ่านช่องทาง Live Webinar ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: Secure Remote Workforce with Fortinet
ผู้บรรยาย: Vee Hirunpanich, Systems Engineer จาก Fortinet Thailand
วันเวลา: วันพุธที่ 25 มีนาคม 2020 เวลา 14.00 – 15.30 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 100 คน
ภาษา: ไทย
ลิงค์ลงทะเบียน: https://zoom.us/webinar/register/WN_dZSslkK7TEu5ekNeaNwvcw

หัวข้อและกำหนดการ

ภายใต้สถานการณ์ที่ไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ หลายองค์กรและบริษัทวางนโยบายและติดตั้งระบบ VPN เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานจากภายนอกสถานที่หรือที่บ้านได้ แน่นอนว่า FortiGate NGFW มาพร้อมกับฟีเจอร์ VPN ในตัวซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ฟรีทันที ภายใน Webinar นี้จึงจะบรรยายถึงการนำเทคโนโลยี VPN ของ Fortinet เข้ามาใช้เพื่อการเชื่อมต่อระยะไกลอย่างมั่นคงปลอดภัย และ Use Cases รูปแบบต่างๆ รวมไปสาธิตการตั้งค่า FortiGate, FortiClient VPN และ FortiToken เพื่อสร้างระบบ VPN ความมั่นคงปลอดภัยสูงที่ช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างมั่นใจ

เนื้อหาของ Fortinet Webinar ครั้งนี้ประกอบด้วย

  • รู้จักกับเทคโนโลยี SSL & IPsec VPN และการนำไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ
  • แนะนำ FortiClient VPN และ FortiToken 2-Factor Authentication
  • การเปิดใช้ฟีเจอร์ VPN บน FortiGate และการตั้งค่าใช้งานแบบ Step-by-step
  • สาธิตการใช้งาน FortiGate, FortiClient VPN และ FortiToken ในการสร้างระบบ VPN ความมั่นคงปลอดภัยสูง
  • ถามตอบเกี่ยวกับเทคโนโลยี VPN และการใช้งานโซลูชันของ Fortinet

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม Fortinet Webinar: Secure Remote Workforce with Fortinet ได้ฟรี โดยทีมงาน TechTalkThai ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้เข้าร่วม Webinar 100 ท่านแรกเข้าฟังบรรยายโดยไม่คำนึงถึงอันดับการลงทะเบียนก่อนหลัง

กด Interested หรือ Going เพื่อติดตามอัปเดตและรับการแจ้งเตือนบน Facebook Event: https://www.facebook.com/events/262588934740820/

from:https://www.techtalkthai.com/fortinet-webinar-secure-remote-workforce-with-fortinet/