คลังเก็บป้ายกำกับ: CARS

BMW นำเทคโนโลยี Wireless Charging มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองแล้ว

BMW-530e-iPerformance

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย หรือ Wireless Charging ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเติมพลังงานให้กับแบตเตอรี่เพียงวางสมาร์ทโฟนลงบน Wireless Charging Pad และค่ายรถยนต์ BMW ก็ได้นำเทคโนโลยี Wireless Charging มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองเป็นบริษัทแรกของโลก

BMW-530e-iPerformance-Wireless-Charger

Wireless Charging Pad สำหรับรถยนต์ของ BMW มีขนาดใหญ่กว่าของสมาร์ทโฟนหลายเท่า ใช้ไฟขนาด 220 โวลต์ อัตราการชาร์จสูงสุด 3.2 กิโลวัตต์ วิธีการชาร์จให้ควบคุมรถยนต์ผ่านระบบ iDrive ไปตามเส้นสีน้ำเงินบนจอแสดงผล และเมื่อปรากฎวงกลมสีเขียว แสดงว่ารถยนต์ได้มาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว หลังจากนั้น Wireless Charging Pad จะเริ่มชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์โดยอัตโนมัติ และเจ้าของรถก็สามารถดับเครื่องยนต์ได้ทันที

bmw-wireless-car-charger-plugin

bmw-wireless-car-charger

BMW เริ่มนำเทคโนโลยี Wireless Charging มาใช้กับรุ่น 530e iPerformance เป็นรุ่นแรก โดยใช้เวลาในการชาร์จ 3.5 ชั่วโมง

ที่มา – SoyaCincau

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=195180

รถบังคับ Sphero – Lightning McQueen

ชื่อของ Sphero อาจจะคุ้นหูกันอยู่บ้างในฐานะบริษัทผลิตของเล่นไฮเทคที่คุ้นตากันก็น่าจะเป็นหุ่นยนต์ BB-8 จากภาพยนตร์ Star Wars ที่ตัวหุ่นสามารถกลิ้งไปมาตามทิศทางที่เราควบคุมได้ วันนี้ Sphero ออกรถบังคับ Lightning McQueen จากอนิเมชั่นเรื่อง Cars 3 มาให้ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็ก ๆ ที่ชื่นชอบได้เล่นกันแล้ว

รถบังคับ Lightning McQueen จาก Sphero ถอดแบบมาจากในอนิเมชั่นเรื่อง Cars ทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกคือเป๊ะถอดแบบมาจากในหนัง แถมบริเวณกระจกหน้ารถที่ในหนังจะเป็นลูกตาของ Lightning McQueen ทาง Sphero เขาก็ทำเป็นหน้าจอ LCD เป็นลูกตาที่สามารถขยับไปมาได้ บริเวณกันชนด้านหน้ารถถูกหุ้มด้วยยางส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันกันชนไม่ให้หน้ารถเสียหายสีถลอก อีกส่วนคือบริเวณดังกล่าวเป็นปากของ Lightning McQueen ที่สามารถขยับงุบงิบ ๆ พูดได้เหมือนเวลาที่เราดูในหนัง

ตัวรถ Lightning McQueen ชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งถ้าแบตหมดเกลี้ยงจะใช้เวลาชาร์จ 40 นาทีและใช้วิ่งได้ 30 นาที จุดนี้ถือว่ากลาง ๆ ไม่มากไม่น้อยสำหรับรถบังคับที่ไม่ได้เป็นกลุ่มซีเรียส รถขับเคลื่อนล้อหน้า โยมีกลไกที่ล้อหน้าที่สามารถยกตัวอิสระไปมาแต่ละข้างได้ ตรงนี้ช่วยให้ Lightning McQueen เวลาที่เราวางอยู่เฉย ๆ ก็จะมีท่าแอคชั่นพูดเหมือนในหนังแล้วตัวรถก็สามารถยกตัวขึ้นเหมือนเรายักไหล่พูดได้ด้วย

การควบคุมรถ Lightning McQueen จาก Sphero ก็ยังใช้แอพบน iOS หรือ Android เชื่อมต่อกับตัวรถผ่าน Bluetooth โดยขั้นตอนการเชื่อมต่อถือว่าง่ายไม่ต้องไปเข้า Settings เพื่อจับคู่ แต่เปิดแอพแล้วเดี๋ยวแอพทำหน้าที่ค้นหา Bluetooth และเชื่อมต่อกันเองอัตโนมัติ ระยะควบคุมระหว่างแอพบน iPhone ถึงตัวรถก็อยู่ในระยะสัญญาณ Bluetooth ไม่เกิน 10 เมตร แต่หวังผลแบบแน่นอนก็ราว ๆ 7-8 เมตรในที่โล่ง

ขณะเล่นรถบังคับ Lightning McQueen ปุ่มควบคุมทิศทางด้านซ้ายมือเวลาเราโยกไปทางไหนก็จะเป็นการเคลื่อนรถไปด้วย โดยรถสามารถทำความเร็วได้สูงสุดเกือบ ๆ 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าวิ่งได้ไม่เร็วมากนะครับถ้าเทียบกับรถบังคับที่ดูจริงจังขึงขังกว่านี้ แต่ถ้าบอกว่าเป็นรถบังคับที่เด็ก ๆ สามารถเล่นได้สนุกสนานด้วย หรือพอจะวิ่งตามรถได้ด้วยบางขณะถือว่าความเร็วประมาณนี้ก็โอเค ส่วนเวลาจะถอยหลังเราต้องกดปุ่มถอยหลังบนแอพค้างไว้แล้วควบคุมทิศทางนะครับ ไม่ใช่ว่าโยกปุ่มควบคุมทิศทางลงมาด้านล่างเหมือนการควบคุมทั่วไป

จุดเด่นของ Lightning McQueen คันนี้ไม่ใช่แค่บังคับรถเดินหน้าถอยหลังเลี้ยวซ้ายทีขวาที แต่เป็นความสามารถในการดริฟท์รถเป็นวงกลมเหมือนกับในหนังเลยครับ โดยบนแอพจะมีปุ่มให้กดทำดริฟท์อยู่ด้วย ตอนแรกที่ได้รถมาก็แบบว่าจะสักเท่าไหร่กันเชียว พอได้เล่นได้ลองจริง Sphero เขาคิดมาแจ๋วดีทีเดียวเวลา Lightning McQueen ทำดริฟท์เหมือนในหนังเลยครับ การดริฟท์ตอนเล่นจริง ๆ ควรมีพื้นที่ให้รถตีวงสักนิดพอรถเข้าจังหวะดริฟก็จะใช้พื้นที่ไม่เยอะเท่าไหร่ หรือถ้าคล่องแล้วก็สามารถตีวงดริฟท์ให้แคบลงมาให้ได้อีกหรือวิ่ง ๆ รถมาทำดริฟท์ 1 รอบแล้วให้รถวิ่งทางตรงต่อตรงนี้ต้องฝึกกันสักนิด ทั้งนี้ถ้าให้เด็ก ๆ เล่นรถบังคับ Lightning McQueen คันนี้รวม ๆ แล้วต้องสอนเรื่องควบคุมรถสักนิด รวมถึงการทำดริฟท์ด้วยว่าต้องกดปุ่มประมาณไหนหักเลี้ยวยังไงรถถึงดริฟท์ได้

Sphero – Lightning McQueen จัดเป็นของเล่นยุคใหม่ที่เล่นสนุกทีเดียว นึกถึงว่าถ้าตอนเป็นเด็กมีอะไรแบบนี้ตามในหนังก็คงดีเหมือนกัน เรื่องระยะเวลาการเล่นประมาณ 30 นาทีถ้าใส่ความเป็นเด็กเราก็คงอยากให้นานกว่านี้ครับ แต่รวม ๆ 30 นาทีก็โอเคเล่นแล้วไม่เบื่อมีช่วงพักเบรคชาร์จแบตเตอรี่หน่อยหนึ่งด้วย คิดว่าไม่ใช่แค่เฉพาะซื้อให้เด็ก ๆ เล่น แต่ผู้ใหญ่ที่ชอบซื้อของตามหนังที่เราชอบก็น่าจะชอบด้วยเหมือนกัน ราคาของความไฮเทคของ Sphero – Lightning McQueen ก็จะสูงหน่อยนะครับ

from:http://www.siampod.com/2017/07/25/sphero-lightning-mcqueen/

Tim Cook ยืนยัน Apple กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ Self-Driving Car หรือรถยนต์ขับเอง

apple-car

Project Titan ถูกพูดถึงมานานหลายปี ในฐานะโครงการพัฒนา Self-Driving Car หรือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง แต่นั่นยังเป็นเพียงข่าวลือจนกระทั่ง Tim Cook ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg โดยยืนยันว่า Apple กำลังพัฒนาระบบอัตโนมัติ ซีอีโอคนดังยังเลี่ยงที่จะพูดถึงรถยนต์ขับเอง แต่โฟกัสไปที่ซอฟต์แวร์ โดยบอกว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI เป็นหลัก ซึ่งอาจนำมาใช้ควบคุมรถยนต์ขับเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต

Project Titan เริ่มทำงานในปี 2014 มีหลักฐานชัดเจนว่า Apple ได้ขอใบอนุญาตเพื่อทดสอบรถยนต์ขับเอง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีการว่าจ้างวิศวกรมากกว่า 1,000 คน ให้ร่วมทำงานในโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทีมงานใน Project Titan ถูกปรับทิศทางใหม่ จากที่เคยตั้งเป้าเป็นคู่แข่ง Tesla ให้หันมาโฟกัสที่ซอฟต์แวร์เป็นหลัก

Tim Cook มองว่า Self-Driving Car เป็น 1 ใน 3 ของระบบขนส่งบนท้องถนนในอนาคต ร่วมกับบริการ Ride-sharing และยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า

ที่มา – The Verge

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=185367

Ford เปิดตัว All-New Expedition 2018 มาพร้อม Apple CarPlay, Wireless Charging Pad และ Wi-Fi hotspot

Ford-All-New-Expedition-2018-Apple-CarPlay

Ford เปิดตัวรถเอสยูวีแบบ Full Size รุ่นใหม่ล่าสุด All-New Expedition 2018 ในงาน Chicago Auto Show มาพร้อมแพลตฟอร์ม Apple CarPlay ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานคล้าย iPhone อีกทั้งยังรองรับแพลตฟอร์มความบันเทิงของตัวเองที่เรียกว่า SYNC 3 และสนับสนุน Android Auto ด้วย

All-New Expedition 2018 ยังเป็นรถยนต์คันแรกของ Ford ที่มีการติดตั้ง Wireless Charging Pad ไว้ที่แผงคอนโซลด้านหน้า สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi hotspot ปล่อยสัญญาณอินเตอร์ให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ ได้สูงสุด 10 เครื่อง ในรัศมี 50 ฟุต หรือประมาณ 15 เมตร จากตัวรถ

Ford-All-New-Expedition-2018

Ford All-New Expedition 2018 ยังมากับระบบเสียงระดับพรีเมี่ยมด้วยลำโพง B&O PLAY 12 ตัว และติดตั้งจอแสดงผลไว้บนพนักพิงศีรษะด้านหลังของที่นั่ง

นอกจาก Ford แล้ว ยังมี Dodge 2018 Durango และ Subaru Legacy 2018 ที่ติดตั้งระบบ Apple CarPlay มาให้เช่นกัน

ที่มา – 9to5mac

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=173720

Google จดสิทธิบัตรบริการฟรีแท็กซี่ ส่งนักชอปปิ้งไปยังร้านค้าด้วยการคลิกโฆษณา

googleselfdrivingcar

ภาพจาก theverge.com

บริการเรียกรถยนต์เพื่อมารับส่งคนเราคงคุ้นเคยกันในรูปแบบของแท็กซี่ ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลายเจ้าให้ได้เรียกใช้งานกันทั้งผ่านทางโทรศัพท์หรือจะผ่านทางแอปพลิเคชันก็ตาม แต่บริการที่พูดมาเมื่อสักครู่จะกลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลยในอนาคต เพราะ Google ได้จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์นี้แล้ว โดยผูกเข้ากับธุรกิจของตัวเองนั่นคือโฆษณา

สิทธิบัตรที่ทาง Google จดไปคือการที่จะให้บริการรถรับส่งผู้โดยสารที่ต้องการซื้อของไปยังร้านที่ต้องการผ่านการคลิกโฆษณาที่มีคำว่า Get Me There ที่อยู่ด้านข้างของโฆษณา โดยเมื่อคลิกแล้วก็จะพาผู้โดยสารไปยังร้านค้าจริงเพื่อซื้อสินค้าทันที (ใช้ในนิยามว่า Brick and Mortar คือการนำไปสู่หน้าร้านจริง)

และอย่างที่เรารู้กันก่อนหน้านี้ว่า Google ได้เริ่มพัฒนารถยนต์ไร้คนขับมาได้สักพักแล้ว สิทธิบัตรฉบับนี้ของ Google ก็จะครอบคลุมการใช้งานร่วมกับรถยนต์ที่กำลังพัฒนานี้ด้วยเช่นกัน โดยจะมีอัลกอริทึ่มที่จะคำนวณและเปรียบเทียบค่าโดยสารกับกำไรที่น่าจะเกิดขึ้นจากการซื้อสินค้าของผู้โดยสารที่จะไปถึงแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้ทราบว่ามีรายได้หรือกำไรเกิดขึ้นจริงหลังจากที่ใช้บริการ Get Me There แล้ว โดยการคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจะใช้หลายปัจจัยในการคิด เช่น ตำแหน่งของผู้ใช้บริการปัจจุบัน, รูปแบบการเดินทาง, ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน (น่าจะมาจาก Google Now), ราคาการประมูลโฆษณาของผู้ลงโฆษณา และอื่นๆ

ในข่าวไม่ได้มีการบอกไว้ว่าลักษณะการคลิกจะเป็นอย่างไร แต่เข้าใจว่าในรถจะมีหน้าจอให้เลือก หรืออาจใช้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตแล้วเข้าสู่หน้าจอเพื่อเลือกโฆษณาโดยเฉพาะ

ปัญหาเล็กๆ ที่น่าจะเกิดขึ้นแบบง่ายๆ เลยก็คืออาจมีคนลักไก่คลิกโฆษณาแต่ไม่เข้าร้าน ซึ่งวิธีทางแก้อาจจะง่ายๆ ก็คือการใช้ Google Account ผูกบัญชีก่อนใช้งาน แล้วทำการหักเงินไว้ล่วงหน้าและเมื่อมีการเข้าร้านจริงและซื้อสินค้าจริง คนที่โดยสารรถมาก็จะได้รับเงินขึ้นเข้า ซึ่งก็วนๆ อยู่ในบริการของ Google เองอยู่ดี (Google Wallets)

แม้บริการนี้จะยังไม่เกิดขึ้นจริงในตอนนี้ แต่เชื่อได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะมีให้บริการเกิดขึ้นจริง เพราะอย่าลืมว่าข้อมูลแทบจะทุกอย่าง Google คือเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา, ข้อมูลแผนที่+การจราจรทั้งหลาย, กระเป๋าเงินอิเลคโทรนิค หรือแม้กระทั่งตัวรถยนต์เองก็ยังเป็นของ Google อยู่ดี

และประเทศแรกที่น่าจะได้ใช้ก็คงต้องเป็นสหรัฐฯ แน่ๆ ส่วนประเทศไทยนั้นดูทีท่าแล้วน่าจะยาก ยากมาก และยากที่สุดที่จะได้เห็นและใช้ครับ

ที่มา: Venture Beat

from:http://thumbsup.in.th/2014/01/google-patent-free-taxi-to-store-with-advertise/

รีวิว Wireless Charger Car Holder CR-200 ที่ชาร์จไร้สาย NFC ติดรถยนต์จาก Nokia

มาอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มากๆสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการใช้งานสมาร์ทโฟนแทน GPS นำทางในรถยนต์ส่วนตัว และสิ่งที่น่ารำคาญใจตามมาก็คือแบตเตอร์รี่ที่หมดเร็วมาก ต้องนำสายมาเสียบชาร์จซึ่งดูแกะกะในการใช้งานเป็นอย่างมาก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อใช้งาน Wireless Charger Car Holder CR-200 จาก Nokia เพราะนอกจากจะเป็นที่วางมือถือหรือสมาร์ทโฟนบนรถแล้ว ยังสามารถนำมาติดตั้งได้ทั้งบนแผงคอนโซลหน้ารถหรือบนกระจกรถได้อย่างแน่นหนา ที่สำคัญยังเป็นที่ชาร์จไร้สายในตัวอีกด้วย รองรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.5 นิ้วไปจนถึง 6 นิ้วเลยทีเดียว

IMG_8142

โดย Nokia Wireless Charger Car Holder CR-200 วางจำหน่ายในราคา 2,500 บาท ถือว่าไม่แพงจนเกินไปและคุ้มค่ากับการใช้งานบนรถเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้งาน Nokia Lumia รุ่นที่รองรับการชาร์จไร้สาย ด้วยแล้วจะทำให้กลายเป็น GPS ติดรถไปได้ทุกที่ไม่ต้องกังวัลเรื่องแบตเตอร์รี่จะหมดอีกต่อไป ใช้ร่วมกับ Here Drive + ด้วยแล้วลืม GPS แบบเดิมๆไปได้เลย

แนะนำกันมาพอสมควรแล้ว เรามาแกะกล่อง Nokia Wireless Charger Car Holder CR-200 พร้อมวิธีติดตั้งแบบง่ายๆกันดีกว่า

IMG_8121

เริ่มที่ด้านหน้ากล่องจะมีหน้าตาแบบนี้ บอกชัดเจนว่ารองรับ NFC และการชาร์จไร้สาย Qi

IMG_8122

ด้านหลังกล่องจะบอกถึงอุปกรณ์ที่แถมมาในชุดจำหน่ายทั้งหมด

IMG_8123

วิธีแกะกล่องก็เหมือนกับ Nokia Lumia คือจะมีที่ให้ดึงออกมาแบบนี้

IMG_8125

โฉมหน้าของ Nokia Wireless Charger Car Holder CR-200

IMG_8127

ด้านข้างดูแล้วจะเหมือนกับ Car Holder ทั่วไป

IMG_8128

ที่ด้านหลังจะมีปุ่มกดให้ที่ล็อคมือถือยืดออกมาได้

IMG_8129

กางออกมาได้มากสุดประมาณนี้รองรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 4 นิ้ว ถึง 6 นิ้วอย่าง Lumia 1520 ด้วย แต่อาจใหญ่ไปสักหน่อยตอนใช้งานจริง

IMG_8130

ถัดมากับคู่มือการใช้งานและวิธีติดตั้งในรถ

IMG_8132

แผ่นรองกันลื่นกรณีนำไปติดกับแผงคอนโซลหน้ารถ แทนกระจก

IMG_8137

ที่เสียบไฟกับที่จุดบุหรี่ในรถ

IMG_8138

เมื่อเสียบแล้วเราจะได้ USB ให้ใช้งานชาร์จไฟมือถือเพิ่มอีก 1 ช่องด้วย

IMG_8141

นำปลายสายมาเสียบบริเวณด้านล่างของ Car Holder แบบนี้เป็นอันเรียบร้อย

IMG_8136

ในชุดจำหน่ายยังมีสายต่อกรณีที่สายไฟที่ต่อกับที่จุดบุหรี่ในรถยาวไม่พออีกด้วย

IMG_8139

ที่ล็อคสายไฟให้เป็นระเบียบ ไม่ให้ห้อยเกะกะเวลาขับขี่

IMG_1830

เสร็จร้อยร้อยก็พร้อมใช้งานชาร์จไร้สายทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ อีกด้วยสะดวกมาก ทำให้ไม่ต้องหาสายชาร์จมาเสียบขณะนำทางอีกต่อไป พอถึงที่หมายแบตเตอร์รี่ก็เต็มตลอดการเดินทาง จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับ Nokia Lumia รุ่นที่รองรับ Wireless Charger อย่างยิ่งที่สำคัญสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นที่รองรับการชาร์จไร้สาย Qi ก็สามารถใช้งานร่วมได้ด้วยเช่นกัน

รายชื่อ Nokia Lumia รุ่นที่รองรับ Wireless Charger Car Holder CR-200

  • Lumia 720 (ต้องใส่เคสชาร์จไร้สาย)
  • Lumia 820 (ต้องใส่เคสชาร์จไร้สาย)
  • Lumia 920
  • Lumia 925 (ต้องใส่เคสชาร์จไร้สาย)
  • Lumia 1020 (ต้องใส่เคสชาร์จไร้สาย)
  • Lumia 1520

Nokia Wireless Charger Car Holder CR-200 วางจำหน่ายในราคา 2,500 บาท

บทความโดย www.flashfly.net

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=83685