คลังเก็บป้ายกำกับ: BMW

เปิดตัว BMW i5 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มอเตอร์ 2 ตัว ขุมพลัง 601 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท

BMW เผยโฉมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครั้งแรกของ BMW 5 Series มาพร้อมกันทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่ BMW i5 eDrive4o รถมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนด้วยพลัง 340 แรงม้า วิ่งได้ไกลสุด 582 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และรุ่นท็อป BMW i5 M60 xDrive มอเตอร์สองตัว รวมพละกำลังสูงสุด 601 แรงม้า วิ่งได้ไกลสุด 516 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เปิดตัวมาราคาเริ่มต้น 66,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท

BMW 5-Series ได้ทำตลาดในซีรีส์นี้มานานจนล่าสุดได้คลอดมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 8 แล้ว และเป็นครั้งแรกเลยที่ 5-Series มาพร้อมกับตัวเลือกที่เป็นขุมพลังไฟฟ้าแบบ 100% และได้ใช้ชื่อทำตลาดว่า “BMW i5” รหัสตัวถัง G61 ค่ะ

ทางด้านดีไซน์ BMW i5 จะมีลายบนตัวถังที่เรียบกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่มาผ่าน สันขอบบริเวณเส้น shoulder line และเส้น charactor line ถูกตัดออกไปเยอะพอสมควร ดีไซน์ของกระจังหน้าแบบทรงไต (Kidney Grille) เปลือกกันชนแบบเดิม ใน M Sport Package มีการเพิ่มกรอบกระจังหน้าแบบเรืองแสง Illuminated Grille เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถเลือกติดเบรกสีแดงลงไปได้ด้วย

ท้ายรถมาด้วยดีไซน์เรียบง่ายตามสไตล์ BMW ส่วนปลายของกรอบกระจกหน้าต่างมีความตวัดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะไปบรรจบกับ hofmeister kink จึงทำให้ด้านข้างมีความเพรียวและดูแปลกตากว่ารุ่นที่ผ่าน ๆ มา พร้อมทั้งติดตั้งมือจับเปิดประตูแบบเดียวกับรุ่น X1 ที่บานประตูทั้ง 4 ด้วย

ตัวรถยนต์ออกแบบมากว้างใหญ่กว่ารุ่นเดิมด้วยความยาว 5.05 เมตร กว้าง 1.89 เมตร และสูง 1.51 ฐานล้อระยะเพิ่มขึ้นเป็น 2.99 เมตร อีกทั้งภายในของตัวรถก็ได้เปลี่ยนรูปแบบโฉมใหม่ คอนโซลด้านหน้ามาด้วยแผงจอดิจิตอลดีไซน์ของโค้งยาวตลอดฝั่งที่เป็นระบบ OS 8.5 จะใช้โปรแกรมสตรีมมิ่งหรือเล่นเกมได้ เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับตัวรถผ่าน Qr Code และเวลาเล่นเกมก็ใช้มือถือเป็นคอนโทรลเลอร์ได้เลย ซึ่งตอนนี้ในแพลตฟอร์ม AirConsole ก็ได้มีประมาณ 20 เกมให้เล่นแล้ว

และยังมาด้วยฟีเจอร์ใหม่อย่าง Highway Assistance สามารถใช้งานแบบ Hands-free driving ได้ โดยจำกัดความเร็วอยู่ที่ 136 กม./ชม. แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ขับจะต้องลืมตาดูทางอยู่ตลอดเวลานะ เพราะในรถจะมีกล้องภายในคอยจับสายตาเราอยู่ และในขณะที่เปิดโหมดดังกล่าว ตัวรถจะเปิดไฟเลี้ยวและเปลี่ยนเลนส์อัตโนมัติให้เพียงแค่มองกระจกข้างได้ด้วย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW 5 Series นั้น มาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ BMW i5 eDrive40 และ BMW i5 M60 xDrive ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

BMW i5 eDrive40 จะมีมอเตอร์ตัวเดียวขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 193 กม./ชม.

แบตเตอรี่จุ 81.2 kWh วิ่งได้ไกลสุด 582 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และกระแส DC สูงสุด 205 kW ชาร์จแบตเตอรี่จาก 10%-80% ในเวลาเพียง 30นาที

ส่วนรุ่นท็อปอย่าง BMW i5 M60 xDrive จะใช้เป็นมอเตอร์คู่ รวมกำลังได้สูงสุด 601 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 795 นิวตันเมตร เร็ว แรง สะใจ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.

แต่รุ่นนี้มาด้วยแบตเตอรี่ที่เท่ากับ eDrive40 เลยก็คือ 81.2 kWh วิ่งได้ไกลสุด 519 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุด 11 kW และ DC สูงสุด 205 kW เหมือนกัน

BMW i5 eDrive40 เปิดตัวมาในราคา 66,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ส่วนรุ่น i5 M60 xDrive ราคาอยู่ที่ 84,100 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.9 ล้านบาท และเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2023 นี้ ส่วนช่วงที่จะเข้าไทยคาดว่าอาจจะต้องรอปีหน้าเลยค่ะ

 

ที่มา : electrek , FB FOC , headlightmag

from:https://droidsans.com/bmw-i5-electric-car-launched/

ในที่สุด Digital Key Plus ของ BMW ก็ใช้กับแอนดรอยด์ได้แล้ว!

Digital Key Plus ของ BMW

ในที่สุด BMW ก็พัฒนา Digital Key Plus ให้เหล่าแอนดรอยด์ใช้กันได้แล้ว! แม้ในตอนนี้จะได้เพียงในมือถือ Google Pixel 7 Pro, Samsung Galaxy S23+, Galaxy S23 Ultra, และอุปกรณ์ Samsung รุ่นใหม่ๆ เท่านั้น แต่คาดว่าอีกไม่นานแบรนด์อื่นๆ ต้องใช้ตามมาแน่

Digital Key Plus ของ BMW

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ BMW เปิดตัวเทคโนโลยี Digital Key Plus ที่จะทำให้มือถือของคุณกลายเป็นกุญแจรถได้ เพียงแค่คุณและโทรศัพท์ (ที่ลงทะเบียนแล้ว) อยู่ใกล้ๆ ตัวรถคุณก็สามารถเข้ารถได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาขุดคุ้ยหากุญแจรถในกระเป๋า (ซึ่งผู้หญิงหลายคนเข้าใจกันดี) แต่ตอนนั้นจะมีให้ใช้เฉพาะในมือ iPhone หรือ Apple Watch เท่านั้น ตอนนี้กลุ่มผู้ใช้มือถือ Google Pixel 7 Pro, Samsung Galaxy S23+, Galaxy S23 Ultra, และอุปกรณ์ Samsung รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถใช้งานได้แล้ว

Advertisementavw

นอกจากนี้ความล้ำยังไม่หมดเพียงเท่านั้นคุณยังสามารถแชร์ Digital Key ระหว่างอุปกรณ์ Apple และ Google ได้อีกด้วย เผื่อเอาไว้ใช้ในกรณีเพื่อนยืมรถจะได้ไม่ต้องเอากุญแจให้เพื่อน เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเอาไว้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเก่าและเรียกความสนใจจากลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย

Digital Key

ที่มา:  Engadget, BMW Group

from:https://notebookspec.com/web/698480-digital-key-plus-of-bmw-android

BMW เผยรายชื่อมือถือ Samsung Galaxy และ Pixel ที่ใช้งานเป็นกุญแจรถแบบ Digital Key Plus ได้

ก่อนหน้านี้ BMW ได้เปิดตัวระบบ Digital Key Plus ที่ได้ร่วมพัฒนากับทาง Apple เพื่อใช้ iPhone แทนกุญแจรถยนต์ได้ ล่าสุดผู้ใช้ Android มีเฮ! เพราะ BMW ได้ประกาศเปิดตัว Digital Key สำหรับผู้ใช้งานมือถือ Android ออกมาบ้างแล้ว โดยตอนนี้ยังรองรับแค่เฉพาะมือถือ Pixel กับ Samsung และรถรุ่นที่ผลิตตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ

Digital Key Plus สามารถตั้งค่าและเปิดใช้งานในมือถือ Samsung ที่รองรับ Samsung Wallet และ Google Pixel 7 Pro และ Pixel 6 Pro ที่มีฮาร์ดแวร์รองรับระบบ UWB หรือ Ultra-wideband อีกทั้งในกรณีที่บ้านไหนใช้รถร่วมกันเจ้าของรถก็ยังสามารถแชร์กุญแจให้แก่คนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ได้ด้วย แถมยังสามารถแชร์ไปมาระหว่างระบบ Android / iOS ได้ด้วยค่ะ (แต่ก็ต้องเป็นรุ่นที่รองรับอยู่ดีนะคะ)

แชร์ Digital key ข้ามค่าย

ระบบกุญแจรถดิจิตอลดังกล่าว จะใช้งานได้กับรถยนต์ BMW ที่ผลิตหลังเดือนพฤศจิกายน 2022 สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านี้และรองรับระบบนี้จะต้องรอการอัปเดตซอฟท์แวร์กันอีกทีนึงค่ะ ส่วนรุ่นของมือถือ Pixel และ Samsung Galaxy ที่รองรับ Digital Key Plus ในตอนนี้ได้แก่

Samsung

  • Galaxy S23+
  • Galaxy S23 Ultra
  • Galaxy Z Fold 4
  • Galaxy S22+
  • Galaxy S22 Ultra
  • Galaxy Z Fold 3
  • Galaxy S21+
  • Galaxy S21 Ultra
  • Galaxy Note 20 Ultra

(เฉพาะที่ใช้งาน Samsung Wallet ได้เท่านั้น)

Google

  • Pixel 7 Pro
  • Pixel 6 Pro

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ใช้งานมือถือทั้ง 2 แบรนด์จะต้องอัปเดตระบบปฏิบัติการอุปกรณ์ให้เป็น Android 13 ขึ้นไปที่รองรับเทคโนโลยี ultra-wideband ค่ะ ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ ก็ต้องติดตามกันอีกทีว่าจะใช้งาน Digital Key กับทาง BMW ได้มั้ย และจะมีแววที่ไทยเราจะได้ใช้งานกับเค้าบ้างรึป่าว

นอกจากนี้ทาง BMW ยังบอกไว้ด้วยนะคะว่าฟีเจอร์ Digital Key Plus จะยังสามารถใช้งานได้แม้ว่ามือถือจะแบตเตอรี่หมดไปแล้วเป็นเวลากว่า 5 ชม. ก็ตาม ใครที่อยากใช้มือถือแทนการพกกุญแจก็หมดห่วงเรื่องแบตเตอรี่ไปได้เลยค่ะ

 

ที่มา : 9to5Google ,  BMW

from:https://droidsans.com/pixel-and-samsung-can-be-used-by-bmw-digital-car-keys/

BMW เบอร์ 1 รถหรูไทย 3 ปีซ้อน ชี้เทคโนโลยีตัวแปรสำคัญ มองรถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคต

BMW ประเทศไทย ประกาศเป็นเบอร์ 1 รถยนต์หรู 3 ปีซ้อน ปี 2565 มียอดรถจดทะเบียนทั้งหมด 15,010 คัน ชี้ผู้มีกำลังซื้อใช้เทคโนโลยีเป็นตัวแปรในการตัดสินใจ ย้ำรถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคต เตรียมแผนดันสัดส่วนการขายเพิ่ม

BMW

BMW เบอร์ 1 รถยนต์หรูในไทย 3 ปีซ้อน

อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า BMW Group ประเทศไทย มียอดขายรถยนต์หรูเป็นเบอร์ 1 ในไทย 3 ปีซ้อน โดยในปี 2565 มียอดจดทะเบียนทั้งหมด 15,010 คัน แบ่งเป็น BMW 13,572 คัน และ Mini 1,438 คัน

“เทคโนโลยี คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ BMW Group ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของตลาดรถยนต์หรู นอกจากเรื่องสมรรถนะที่ลูกค้าเชื่อใจ ส่วนในปี 2566 บริษัทยังเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงบริการทางการเงินต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การซื้อรถยนต์หรูในประเทศไทย”

อย่างไรก็ตามในปี 2566 ทาง BMW มีแผนปรับราคารถยนต์รุ่นต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุนค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น รุ่น 220i Gran Coupé M Sport จากราคาเดิมรวมแพ็กเกจ BSI 2,279,000 บาท เป็น 2,299,000 บาท เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป

รถกลุ่ม Luxury ยังเติบโตต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน รถยนต์ Luxury Class ที่ประกอบด้วย 7 Series, 8 Series, X7 และ M8 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดจดทะเบียนมากขึ้น 8% จากปี 2564 ทำให้บริษัทเตรียมทำตลาดรถยนต์กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม เช่น การเปิดดัวรถยนต์รุ่น XM รถ SUV ระบบ Plug-in Hybrid สมรรถนะสูง พร้อมดีไซน์ล้ำสมัย

“การทำตลาดกับลูกค้าที่มีโอกาสใช้งาน Luxury Class ของ BMW จะมีการใช้กิจกรรมพิเศษมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ได้รับนอกเหนือจากการใช้งานรถยนต์ Luxury Class ซึ่งแผนดังกล่าวถือเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้อง และเพิ่มความสนใจให้กับรถยนต์กลุ่มนี้ของ BMW จนปี 2565 มียอดจดทะเบียนที่ 458 คัน เพิ่มขึ้น 25.8%”

นอกจากการเปิดตัว XM เพื่อตอบโจทย์ Luxury Class ทาง BMW ยังเปิดตัวรถยนต์รุ่นอื่น ๆ เพื่อทำตลาดในประเทศไทยในปี 2566 ประกอบด้วย รุ่น X1 sDrive18i โฉมใหม่, X7 xDrive40d M Sport ใหม่, 750e xDrive M Sport ใหม่ และ 3 Series Gran Sedan ใหม่ เป็นต้น

รถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคตของบริษัท

ด้านการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ในปี 2565 ทางบริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (Battery Electric Vehicle: BEV) ระดับพรีเมียม 40.8% ผ่านยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2564 พร้อมกับขยายเครือข่ายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าถึง 900 หัวจ่ายทั่วประเทศ และคืออนาคตของบริษัทหลังจากนี้

ทั้งนี้ในปี 2565 มีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจดทะเบียนในประเทศไทยทั้งหมดราว 9,600 คัน และนับถึงปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจดทะเบียนสะสมทั้งหมดราว 13,700 คัน โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจดทะเบียนหลักหมื่นคัน และภายใน 3 ปีข้างหน้าในปีนั้นจะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจดทะเบียนกว่าแสนคัน

อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราความเร็วที่มากกว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบันอยู่ที่อัตราส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 16 คัน ต่อสถานีชาร์จ 1 หัวจ่าย ซึ่งในกลุ่มประเทศยุโรป อัตราดังกล่าวจะอยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้า 10 คัน ต่อสถานีชาร์จ 1 หัวจ่าย

สรุป

BMW แซงหน้า Mercedes-Benz ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอีกปี ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของแผนการทำตลาดรถยนต์หรูในช่วงหลัง ยิ่งภาพลักษณ์รถยนต์ไฟฟ้าของ BMW นั้นชัดเจนกว่าคู่แข่ง ผ่านรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในไทยที่มีให้เลือกเยอะกว่า จึงเป็นงานหนักของ Mercedes-Benz ในการทวงคืนตำแหน่งด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม // ในปี พ.ศ. 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 202,895 คันทั่วโลก

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post BMW เบอร์ 1 รถหรูไทย 3 ปีซ้อน ชี้เทคโนโลยีตัวแปรสำคัญ มองรถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคต first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bmw-2023-business-plan/

Samsung Galaxy s23 Ultra คอลเลกชันพิเศษ Starbucks Edition มากับดีไซน์สุดน่ารัก

Samsung ร่วมมือกับแบรนด์กาแฟสุดฮิตอย่าง Starbucks ออกคอลเลกชันพิเศษ Samsung Galaxy s23 ultra Starbucks Edition ที่มีของน่ารักอย่างหลากหลาย มาเอาใจสายหวานและนักสะสมได้อย่างลงตัว ซึ่งภายในกล่องมีทั้ง ป็อปอัปลายคุณหมีดูดาว , ปฏิทันตั้งโต๊ะ , แท่นวางสมาร์ทโฟน สุดเกร๋ ที่เห็นแล้วเป็นต้องใจละลาย มีเพียง 10,000 ชิ้นต่อเซต และเตรียมวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้

การร่วมมือในครั้งนี้สำหรับ Samsung Galaxy s23 ultra Starbucks Edition จะมีวางจำหน่ายแค่ใน SK Telecom ซึ่งมีจำนวนจำกัดทั้งหมด 10,000 ชิ้นต่อเซต สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ สำหรับเกาหลีเป็นที่แรก และจะวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้

ภายในกล่องเราจะได้พบกับ Box Set ลวดลายตัวการ์ตูน น้องหมีสุดน่ารัก ที่มีสัญลักษณ์ “ดวงดาว” ของสตาร์บัคส์ กำลังยืนดูดาวอยู่เบื้องหน้า โดยดีไซน์มาในโทนสีนำเงิน เหลือง เขียว แสดงออกถึงสีของ Starbucks และ ดวงดาวของ Galaxy ประกอบไปด้วย

  • สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy s23 ultra  มีทั้งหมดสองสีได้แก่  Phantom Black และ Cream รุ่นความจุ 512 GB
  • UI ภายในเครื่องจะเปลี่ยนเป็นธีม Starbucks พร้อมภาพเคลื่อนไหวรูปดวงดาว
  • ภาพโปสการ์ด เป็นภาพประกอบตามฤดูกาล 12 ใบ และ สติกเกอร์ 2 แผ่น
  • ปฏิทันตั้งโต๊ะ 1 เล่ม
  • แก้วน้ำลาย Starbucks ทำจากสแตนเลส
  • แท่นวางสมาร์ทโฟน สุดเกร๋ สามารถวาง Galaxy Watch เพิ่มได้
  • แผ่นรองโต๊ะสำหรับคอมพิวเตอร์ สีเบจ

ในส่วนของ ราคา Galaxy s23 ultra Starbucks Edition อยู่ที่  1,716,000 วอน หรือราว 45,600 บาท แต่ยังไม่หมดแค่นี้นะทุกคน เพราะยังมีรุ่น ลิมิเต็ดอีกรุ่นคือ Galaxy S23 Ultra BMW M Edition

Samsung Galaxy S23 Ultra BMW M Edition

เป็น Box Set พิเศษที่ร่วมมือกับแบรนด์มอเตอร์สปอร์ตของ BMW  ภายใต้คอนเซ็ป THE ULTIMATE MACHINES ซึ่งทำออกมาได้ดูดีมีเอกลักษณ์เอามาก ๆ ถ้าทุกคนสังเกต ภายนอกเราจะเห็นแพ็ตเกจทรงฝากระโปรงของ BMW มาในโทนสีแดง ขาว น้ำเงิน ประกอบไปด้วย

  • เคสสมาร์ทโฟนลวดลาย BMW
  • UI ภายในเครื่องจะเปลี่ยนเป็นธีม BMW พร้อมภาพเคลื่อนไหวพิเศษ
  • พวงกุญแจพร้อมสัญลักษณ์
  • ป้ายทรงกลมสัญลักษณ์ BMW 7 แบบที่สามารถถอดเปลี่ยนเป็นพวงกุญแจได้
  •  นาฬิกาอะนาล็อก 1 เรือน สามารถติดตั้งในรถได้
  • สติ๊กเกอร์
  • สมุดภาพและโปสเตอร์ BMW

นอกจากนี้ยังมีแอพ BMW Lifestyle Membership “BMW Vantage” ในตัว จะมีวางจำหน่ายแค่ใน SK Telecom ซึ่งมีจำนวนจำกัดทั้งหมด 1,000 ชิ้นต่อเซตเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 1,727,000 วอน หรือราว 45,900 บาท

 

เป็นไงกันบ้าง สำหรับคอลเลคชันพิเศษเรียกได้ว่ามาเอาใจนักสะสมได้เป็นอย่างดี เพราะการดีไซน์มีความน่ารักสุด ๆ ใครเห็นเป็นต้องอดใจไม่ไหว

แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย เพราะคอลเลคชั่นพิเศษจะวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้เป็นที่แรก แถมยังมีจำนวนจำกัดด้วย ส่วนประเทศอื่น ๆ เตรียมวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้ ถ้ามีเข้ามาเมื่อไหร่เราจะรีบมาอัปเดตให้ทันที

 

ที่มา :  (1) , (2)

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-ultra-starbucks-edition/

Samsung Galaxy s23 ultra คอลเลกชันพิเศษ Starbucks Edition มากับดีไซน์สุดน่ารัก

Samsung ร่วมมือกับแบรนด์กาแฟสุดฮิตอย่าง Starbucks ออกคอลเลกชันพิเศษ Samsung Galaxy s23 ultra Starbucks Edition ที่มีของน่ารักอย่างหลากหลาย มาเอาใจสายหวานและนักสะสมได้อย่างลงตัว ซึ่งภายในกล่องมีทั้ง ป็อปอัปลายคุณหมีดูดาว , ปฏิทันตั้งโต๊ะ , แท่นวางสมาร์ทโฟน สุดเกร๋ ที่เห็นแล้วเป็นต้องใจละลาย มีเพียง 10,000 ชิ้นต่อเซต และเตรียมวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้

การร่วมมือในครั้งนี้สำหรับ Samsung Galaxy s23 ultra Starbucks Edition จะมีวางจำหน่ายแค่ใน SK Telecom ซึ่งมีจำนวนจำกัดทั้งหมด 10,000 ชิ้นต่อเซต สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ สำหรับเกาหลีเป็นที่แรก และจะวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้

ภายในกล่องเราจะได้พบกับ Box Set ลวดลายตัวการ์ตูน น้องหมีสุดน่ารัก ที่มีสัญลักษณ์ “ดวงดาว” ของสตาร์บัคส์ กำลังยืนดูดาวอยู่เบื้องหน้า โดยดีไซน์มาในโทนสีนำเงิน เหลือง เขียว แสดงออกถึงสีของ Starbucks และ ดวงดาวของ Galaxy ประกอบไปด้วย

  • สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy s23 ultra  มีทั้งหมดสองสีได้แก่  Phantom Black และ Cream รุ่นความจุ 512 GB
  • UI ภายในเครื่องจะเปลี่ยนเป็นธีม Starbucks พร้อมภาพเคลื่อนไหวรูปดวงดาว
  • ภาพโปสการ์ด เป็นภาพประกอบตามฤดูกาล 12 ใบ และ สติกเกอร์ 2 แผ่น
  • ปฏิทันตั้งโต๊ะ 1 เล่ม
  • แก้วน้ำลาย Starbucks ทำจากสแตนเลส
  • แท่นวางสมาร์ทโฟน สุดเกร๋ สามารถวาง Galaxy Watch เพิ่มได้
  • แผ่นรองโต๊ะสำหรับคอมพิวเตอร์ สีเบจ

ในส่วนของ ราคา Galaxy s23 ultra Starbucks Edition อยู่ที่  1,716,000 วอน หรือราว 45,600 บาท แต่ยังไม่หมดแค่นี้นะทุกคน เพราะยังมีรุ่น ลิมิเต็ดอีกรุ่นคือ Galaxy S23 Ultra BMW M Edition

Samsung Galaxy S23 Ultra BMW M Edition

เป็น Box Set พิเศษที่ร่วมมือกับแบรนด์มอเตอร์สปอร์ตของ BMW  ภายใต้คอนเซ็ป THE ULTIMATE MACHINES ซึ่งทำออกมาได้ดูดีมีเอกลักษณ์เอามาก ๆ ถ้าทุกคนสังเกต ภายนอกเราจะเห็นแพ็ตเกจทรงฝากระโปรงของ BMW มาในโทนสีแดง ขาว น้ำเงิน ประกอบไปด้วย

  • เคสสมาร์ทโฟนลวดลาย BMW
  • UI ภายในเครื่องจะเปลี่ยนเป็นธีม BMW พร้อมภาพเคลื่อนไหวพิเศษ
  • พวงกุญแจพร้อมสัญลักษณ์
  • ป้ายทรงกลมสัญลักษณ์ BMW 7 แบบที่สามารถถอดเปลี่ยนเป็นพวงกุญแจได้
  •  นาฬิกาอะนาล็อก 1 เรือน สามารถติดตั้งในรถได้
  • สติ๊กเกอร์
  • สมุดภาพและโปสเตอร์ BMW

นอกจากนี้ยังมีแอพ BMW Lifestyle Membership “BMW Vantage” ในตัว จะมีวางจำหน่ายแค่ใน SK Telecom ซึ่งมีจำนวนจำกัดทั้งหมด 1,000 ชิ้นต่อเซตเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 1,727,000 วอน หรือราว 45,900 บาท

 

เป็นไงกันบ้าง สำหรับคอลเลคชันพิเศษเรียกได้ว่ามาเอาใจนักสะสมได้เป็นอย่างดี เพราะการดีไซน์มีความน่ารักสุด ๆ ใครเห็นเป็นต้องอดใจไม่ไหว

แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย เพราะคอลเลคชั่นพิเศษจะวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้เป็นที่แรก แถมยังมีจำนวนจำกัดด้วย ส่วนประเทศอื่น ๆ เตรียมวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้ ถ้ามีเข้ามาเมื่อไหร่เราจะรีบมาอัปเดตให้ทันที

 

ที่มา :  (1) , (2)

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-ultra-%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a9-starbucks-edition-%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81/

BMW Digital Key อัปเดตใหม่ แชร์กุญแจรถดิจิทัล ข้ามระหว่าง iOS และ Android ได้

คนขับรถ BMW มีเฮ ชีวิตสะดวกไปอีกขั้นด้วยอัปเดตใหม่ ทำให้สามารถส่งต่อกุญแจรถดิจิทัล BMW Digital Key ข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง iOS และ Android ได้ผ่าน Apple Wallet หรือ Google Wallet เปลี่ยนไปจากเดิมที่เจ้าของถือกุญแจไว้แพลตฟอร์มไหน เวลาจะให้คนอื่นใช้ก็ต้องใช้มือถือระบบปฏิบัติการเดียวกันเท่านั้น

BMW Digital Key ส่งต่อจาก iPhone ไป Android

แต่ก่อน Digital Key ที่ใช้เป็นกุญแจรถดิจิทัล สั่งการปลดล็อค สตาร์ทเครื่องได้จากมือถือ หากเจ้าของต้องการแชร์กุญแจให้คนอื่น จำเป็นต้องใช้มือถือระบบเดียวกัน แต่ตอนนี้จะสามารถส่งต่อกุญแจข้ามแพลตฟอร์มได้แล้ว อย่างเช่นเจ้าของใช้มือถือ iOS ก็จะแชร์กุญแจให้อีกคนที่ใช้ Android อยู่ได้ มีช่องทางการแชร์กุญแจผ่านทั้ง อีเมล, SMS, และรายชื่อจากในแอป Wallet

มือถือรุ่นที่รองรับตอนนี้จะมี iPhone (เวอร์ชั่น iOS 16.1 ขึ้นไป),  Google Pixel 7, Pixel 7 Pro, Pixel 6, Pixel 6 Pro (Android 13 ขึ้นไป) ส่วนมือถือ Samsung เบื้องต้นยังไม่มีอัปเดตรองรับ ต้องรอไปก่อนนะครับ

ส่วนรถที่รองรับก็จะเป็นรุ่นที่มีระบบ BMW Digital Key หรือ BMW Digital Key Plus ที่ได้อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชัน “22-11” แล้ว

วิธีแชร์ BMW Digital Key

ฝั่งเจ้าของกุญแจรถ

เข้าไปในแอป Apple Wallet หรือ Google Wallet  เลือกเลือกกุญแจรถ > กดปุ่ม 3 จุด > เลือก Invite

BMW digital key share how to
BMW digital key share how to
BMW digital key share how to

กด Set Access ตั้งค่าว่าจะให้คนที่ถูกเชิญควบคุมอะไรได้บ้าง > กด Invite > เลือกคนที่เราต้องการส่งต่อกุญแจดิจิทัล เรียบร้อย



ฝั่งคนรับกุญแจรถ

สำหรับคนที่ได้รับคำเชิญ ให้เปิดใน SMS, อีเมล, หรือแจ้งเตือน เพื่อกดปุ่มรับ > กด Add Car Key แล้วก็จะได้กุญแจดิจิทัลเข้า Wallet ไปใช้สั่งการรถ BMW ได้เลย

BMW digital key share how to
BMW digital key share how to
BMW digital key share how to

นอกจากนี้ เจ้าของกุญแจจะยังเปลี่ยนการตั้งค่า เพิกถอนคนใช้กุญแจ และอื่น ๆ ได้ผ่านทาง Wallet เลย ซึ่งตัวมือถือของอีกฝั่งจะยังใช้สั่งการรถได้จนกว่าจะมีมือถือเครื่องอื่นเข้าไปแตะที่ประตูรถครับ

 

ที่มา : bmw, BMW Ultimate JOY Experience

from:https://droidsans.com/bmw-digital-key-turn-phone-to-car-remote/

BMW ยอดขายทั่วโลกแซง Mercedes-Benz ในปี 2022 ขึ้นแท่นรถยนต์แบรนด์หรูที่ขายดีที่สุด 2 ปีซ้อน

BMW Group มียอดส่งมอบรถยนต์ชนะ Mercedes-Benz ในปี 2022 ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์แบรนด์หรูที่ส่งมอบได้มากที่สุดในโลก ผ่านการเฉือนคู่แข่งร่วมชาติไปเพียง 56,792 คัน เท่านั้น

BMW

BMW Group ยอดส่งมอบชนะ Mercedes-Benz

สำนักข่าว Motor1 รายงานว่า ในปี 2022 BMW Group มียอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกทั้งหมด 2,100,692 คัน ลดลง 5.1% จากปี 2021 มากกว่า Mercedes-Benz ที่มียอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกทั้งหมด 2,043,900 คัน ลดลง 1% จากปี 2021 ถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ BMW มียอดส่งมอบรถยนต์ชนะ Mercedes-Benz

และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2015 ที่ BMW มียอดส่งมอบชนะ Mercedes-Benz โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ BMW สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (Battery Electric Vehicle: BEV) และรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid รวมกันได้ 372,956 คัน เพิ่มขึ้น 35.6% จากปี 2021

นอกจากนี้ Rolls-Royce แบรนด์ระดับ Super Luxury ของ BMW Group ยังมียอดส่งมอบรถยนต์ได้มากที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจมาที่ 6,021 คัน สวนทาง Mini ที่มียอดส่งมอบลดลง 3% แต่ยอดขาย Mini Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นเดียวของแบรนด์กลับมียอดส่งมอบได้ถึง 43,744 คัน ทั่วโลก

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจแบรนด์ระดับ Super Luxury ของ Mercedes-Benz ที่ทำตลาดในชื่อ Mercedes-Maybach ยังมียอดส่งมอบถึง 21,600 คันเติบโต 37% ทำลายสถิติเดิม ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของกลุ่มแบรนด์ Super Luxury ของ 2 ค่ายรถยนต์แบรนด์หรูจากเยอรมนี

สรุป

ในตลาดโลก BMW มียอดส่งมอบชนะ Mercedes-Benz เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ผ่านการเร่งทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และการทำตลาดที่ค่อย ๆ โดนใจคนทั่วโลกมากขึ้น ซึ่งก็น่าสนใจว่า ในประเทศไทยจะเป็นแบบนี้หรือไม่ เพราะทั้งสองค่ายไม่ยอมเปิดเผยยอดขายมาระยะหนึ่งแล้ว

อ้างอิง // Motor1

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post BMW ยอดขายทั่วโลกแซง Mercedes-Benz ในปี 2022 ขึ้นแท่นรถยนต์แบรนด์หรูที่ขายดีที่สุด 2 ปีซ้อน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bmw-beat-mercedes-benz-2022/

BMW โชว์คอนเซปท์รถแห่งอนาคต BMW i Vision Dee ตัวถังเป็น E-ink เปลี่ยนสีได้ มาพร้อมผู้ช่วย AI คุยเหมือนคนจริง

ภายในงาน CES 2023 ทางค่ายรถยนต์ BMW ก็หาของล้ำ ๆ มาโชว์ในงานด้วย ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปนะ แต่มันคือ BMW i Vision Dee เป็นคอนเซปท์รถยนต์แห่งอนาคตที่สามารถสื่อสารโต้ตอบหรือแสดงอารมณ์ต่าง ๆ กับคนขับได้ทั้งในรถและนอกรถ แถมยังมีตัวถังเป็น E-ink ให้สามารถเปลี่ยนสีรถได้ในพริบตาอีกด้วย

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบซีดานที่ดูแว้บแรกก็เท่ + ล้ำดีเหมือนกัน แต่ถ้าได้เห็นความสามารถที่แท้จริงแล้วจะยิ่งล้ำกว่าเดิม เพราะตัวถังรวมไปถึงล้อรถคันนี้ประกอบไปด้วยแผงจอ E-ink จำนวนถึง 240 แผง ที่สามารถเปลี่ยนสีไปมาได้ถึง 32 สี ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีเดียวทั้งคัน หรือจะเลือกเปลี่ยนสีให้สลับกันก็ได้

แผงจอแบบ E-Ink จะใช้พลังงานก็ต่อเมื่อมันเปลี่ยนสีเท่านั้น พอเปลี่ยนเป็นสีที่ต้องการแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมเพื่อคงสภาพการแสดงผลสีเอาไว้ เพราะแผงหน้าจอแบบ E-ink จะไม่มีการเปล่งแสงออกมาเหมือนกับจอ LCD หรือ OLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับหน้าจอของ E-Book Reader นั่นเอง

เปลี่ยนสีรถได้ไม่ซ้ำวันไปเลยจ้า

เพิ่มความล้ำแบบ Sci-fi ขึ้นไปอีกด้วยกระจกรถที่ใช้เทคโนโลยี AR ในการแสดงผลกราฟิกต่าง ๆ ตั้งแต่ข้อมูลทั่วไปอย่างเช่น ลูกศรนำทาง หรือตัวหนังสือบอกชื่อสถานที่ ไปจนถึงความล้ำแบบสุด ๆ จนสามารถแสดงภาพกราฟิกทับไปกับสภาพแวดล้อมของโลกจริง เพื่อเปลี่ยนให้มุมมองของโลกภายนอกให้กลายเป็นโลกแฟนตาซีได้เลย…ประมาณว่าจริง ๆ ขับรถอยู่แถวสยามแต่คนในรถมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นเป็นเมืองในอวกาศอะไรแบบนี้

BMW i Vision Dee ยังมีผู้ช่วยระบบ AI ชื่อว่า Dee ที่สามารถพูดคุยกับคนขับได้ทั้งตอนอยู่ในรถ หรืออยู่นอกรถก็ได้ แถมยังมีหน้าตาโผล่มาให้เห็นที่แผงคอนโซลให้สามารถแสดงความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาได้อีก นอกจากนี้แผงจอ E-ink นอกตัวรถก็ยังแสดงผลเป็นหน้าตาสำหรับบอกอารมณ์ให้กับคนอื่น ๆ ข้างนอกได้เห็นกันด้วย (อาจจะเป็นหน้าคล้าย ๆ การ์ตูนเรื่อง Cars รึเปล่า?)

แต่อย่างที่บอกไปว่า BMW i Vision Dee ยังเป็นแค่คอนเซปท์รถแห่งอนาคตที่ BMW เอามาสาธิตให้ดูว่าเมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ในด้านฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์มีพร้อมแล้วจะสามารถสร้างสรรค์ให้รถยนต์ออกมาเป็นยังไงได้บ้างครับ

 

ที่มา : CES

from:https://droidsans.com/bmw-i-vision-dee-concept-car-ai-assistant-e-ink-body/

BMW จับมือ Samsung เป็นพาร์ทเนอร์เพื่อใช้แบตเตอรี่ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ช่วงหลังจากนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามากินส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แน่นอนว่าแต่ละค่ายก็ต้องพยายามหาพาร์ทเนอร์มาร่วมกันพัฒนาให้ประสิทธิภาพของรถดีขึ้นไปเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นก็คือค่าย BMW ที่ล่าสุดได้ไปจับมือกับ Samsung เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ในการผลิตแบตเตอรี่ให้กับรถ EV ของค่ายในอนาคตด้วย

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2022 นาย Oliver Zipse ซึ่งเป็น CEO ของค่ายรถ BMW ได้ร่วมประชุมกับนาย Lee Jae-Yong ประธานของ Samsung Electric ที่ BMW Driving Center เมืองอินชอนประเทศเกาหลี ซึ่งทั้งคู่ได้เข้ามาจับมือร่วมเป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้แบตเตอรี่จาก Samsung SDI ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจาก BMW

จริง ๆ แล้วคราวนี้เป็นการประชุมครั้งที่สองของ BMW กับ Samsung แล้ว โดยครั้งแรก Lee Jae-Yong เคยเดินทางไปพบกับฝ่ายบริหารของ BMW ที่ยุโรปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และ Lee ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเค้าดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับ BMW Group และอยากจะร่วมงานด้วยกันไปอีกนาน ๆ

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BMW i7 รุ่นใหม่จะใช้แบตเตอรี่จาก Samsung SDI ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ Gen 5 ที่ได้รับการอัปเกรดให้สามารถจุพลังงานได้มากขึ้น ทำให้รถไปได้ระยะทางไกลขึ้นกว่าแบตเตอรี่ Gen ก่อนอีกเยอะเลย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ BMW จับมือกับ Samsung เพื่อผลิตแบตเตอรี่ให้กับรถ EV ของทางค่าย เพราะทาง BMW เคยใช้แบตเตอรี่จาก Samsung SDI มาตั้งแต่ปี 2013 กับรถ EV รุ่นแรกของค่ายคือ BMW i3 ถัดมาก็เป็น i8, iX และ i4 พอถัดมาปี 2014 ทั้งคู่ก็จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันต่ออีก 5 ปี จนล่าสุดก็มาจับมือกันต่ออีกรอบ

 

ที่มา : Sammobile

from:https://droidsans.com/bmw-samsung-cooperation-ev-batteries/