คลังเก็บป้ายกำกับ: AZURE_SITE_RECOVERY

​Azure เพิ่มความสามารถใช้ Site Recovery เพื่อตั้งค่า DR สำหรับ VM Managed Disk

Azure ได้เพิ่มขีดความสามารถให้ Site Recovery (ASR) ที่สามารถตั้งค่า DR สำหรับ VM ที่มีการใช้ Managed Disk ได้แล้ว (การจองดิสก์ไว้เป็นของตนถาวรเพื่อการรันตีประสิทธิภาพในการใช้งาน) 

Protecting via the virtual machine experience

เมื่อมีการใช้งาน VM กับ Managed Disk แล้วตัว ASR จะมีการสร้าง Managed Disk สำหรับ Replica ในภูมิภาคที่ต้องการ ซึ่งมองว่ามันเป็นคลังเก็บข้อมูลของสำรองดิสก์ต้นทางในภูมิภาคหลักก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงตัดการสร้างหลายบัญชีและความยุ่งยากของการบริหารจัดการเพื่อใช้งาน Storage บนหลายภูมิภาคแบบเก่าเพื่อการทำ DR ออกไป โดยตัวอย่างขั้นตอนการใช้งานของ ASR มีดังนี้

  • สามารถเปิดใช้งานการปกป้อง VM ได้ผ่านทาง VM Experience หรือ Recovery Service มีข้อต้องรู้เล็กน้อยคือหากใช้งานผ่านทาง VM Experience ต้องสร้าง Recovery Service Vault ใน Subscription ก่อนซึ่งเป็นความต้องการชั่วคราวในตอนนี้
  • สามารถเลือก Managed Disk ได้ 2 ประเภทคือ Standard หรือ Premium (พวก SSD Disk)
  • เมื่อเปิดการปกป้องแล้วจะมีการสร้าง Cache storage account สำหรับแต่ละบริการกู้คืนในภูมิภาคต้นทาง ซึ่งบัญชีนี้จะถูกนำมาใช้ใหม่กับ VMs ทุกตัวที่ได้รับการปกป้อง โดย Cache storage account จะใช้เก็บการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลใดๆ ที่เกิดขึ้นบนเครื่องชั่วคราวจนกระทั่งเริ่มการย้ายข้อมูลไปยังภูมิภาคปลายทาง ซึ่งผู้ใช้สามารถไปปรับแต่งค่าและระบุ Cache storage account ต่อ VM ได้เองด้วยเช่นกัน
Protecting via the recovery services vault experience

ผู้สนใจสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Azure site recovery forum on MSDN

ที่มาและเครดิตรูปภาพ : https://azure.microsoft.com/en-us/blog/asr-managed-disks-between-azure-regions/

from:https://www.techtalkthai.com/%e2%80%8bazure-add-site-recovery-can-setting-vm-managed-disk/

แนะนำ Azure AD และ Azure Site Recovery สำหรับองค์กรในยุค Cloud First

เทคโนโลยีระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็น Private, Public หรือ Hybrid Cloud ต่างเริ่มถูกนำมาใช้งานภายในองค์กรมากขึ้น ด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถเข้าถึงบริการจากที่ไหนก็ได้ การลดภาระของผู้ดูแลระบบในการอัปเดตซอฟต์แวร์และแพตช์ด้านความมั่นคงปลอดภัยต่างๆ และที่สำคัญคือการลดต้นทุนการใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ทำให้หลายองค์กรเริ่มวางกลยุทธ์การลงทุนระบบ IT ด้วยนโยบาย Cloud First แทน

เพื่อสนับสนุนการใช้ระบบ Cloud โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันประเภท SaaS เช่น Office 365 ที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง VST ECS (Thailand) (หรือเดิมชื่อ The Value Systems) จึงได้แนะนำ Azure Active Directory ซึ่งเป็นโซลูชันการบริหารจัดการตัวตนและการเข้าถึงสำหรับระบบ Cloud โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถพนักงานในองค์กรสามารถใช้ SaaS ได้อย่างไร้รอยต่อและมั่นคงปลอดภัย รวมไปถึงโซลูชัน Azure Site Recovery เพื่อให้บริการ DRaaS สำหรับเพิ่มความต่อเนื่องในการให้บริการเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติในราคาที่ถูกกว่าการตั้งศูนย์สำรองปกติ

ทำ SSO และควบคุมการเข้าถึง SaaS ด้วย Azure Active Directory

Azure Active Directory หรือ Azure AD เป็นบริการ Identity & Access Management สำหรับควบคุมการเข้าถึงระบบ Cloud ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถทำ Single Sign-on ระหว่างระบบใน Data Center และระบบ Cloud ได้อย่างไร้รอยต่อ นั่นหมายความว่า หลังจากที่พนักงานในองค์กรทำการพิสูจน์ตัวตนเข้าสู่ระบบผ่าน AD ใน Data Center แล้ว จะสามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ บนระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็น Office 365, Dynamic CRM Online, SalesForce.com หรือ Dropbox ได้ทันที โดยไม่ต้องพิสูจน์ตัวตนซ้ำอีกครั้ง

คุณสมบัติเด่นของ Azure AD ได้แก่

  • รองรับการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication เสริมความแข็งแกร่งในการตรวจสอบผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงแอปพลิเคชัน
  • Self-service Password Management และ Self Service Group Management สำหรับให้ผู้ใช้สามารถรีเซ็ตรหัสผ่านและบริหารจัดการกลุ่มของตนได้ด้วยตัวเอง
  • รองรับการทำงานร่วมกับ Cloud Applications ที่พัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อให้จัดการเรื่อง SSO และสิทธิ์ในการใช้งานได้ผ่านทาง SAML 2.0, WS-* Protocol, OpenID และ OAuth
  • ให้บริการภายใต้โครงข่ายมาตรฐานสูงของ Microsoft โดยรองรับ SLA ที่ 99.9%

Azure AD มีแผนการใช้งานให้เลือกให้ 4 แบบ คือ Free, Basic, Premium 1 และ Premium 2 สำหรับผู้ใช้ Office 365 หรือ Microsoft Azure จะสามารถเรียกใช้ Azure AD แบบ Free ได้ทันที โดยรองรับฟีเจอร์พื้นฐาน ได้แก่ Directory Objects, User/Group Management, User-based Provisioning, Device Registration, SSO, Self-service Password Change, Connect, Reporting ในขณะที่แบบ Basic จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ Group-based access management/provisioning, Self-Service Password Reset for cloud users, Application Proxy และ SLA เข้ามา และสุดท้ายแบบ Premium จะรองรับการทำงานทุกฟีเจอร์ สามารถดูรายการฟีเจอร์ทั้งหมดพร้อมเปรียบเทียบแต่ละแบบได้ที่ https://azure.microsoft.com/en-us/pricing/details/active-directory/

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://azure.microsoft.com/en-us/services/active-directory/

ตั้งศูนย์สำรองอย่างรวดเร็วในราคาประหยัดด้วย Azure Site Recovery

Azure Site Recovery เป็นบริการ Disaster Recovery as a Service หรือศูนย์สำรองบนระบบ Cloud ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถสำรองข้อมูล Virtual Machine จาก Data Center ไปยัง Microsoft Azure และกู้คืนระบบเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ทันที โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องลงทุนด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และการบำรุงรักษาสถานที่แต่อย่างใด Azure Site Recovery นี้รองรับการสำรองข้อมูลของทั้ง Microsoft Hyper-V, VMware และ Physical Server รูปแบบอื่นๆ

จุดเด่นสำคัญของ Azure Site Recovery คือ ระบบสำรองบน Microsoft Azure ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows หรือรันซอฟต์แวรของ Microsoft สามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้าน License ของซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์สำรองลงได้มหาศาล ที่สำคัญคือการันตีด้วย SLA ระดับ 99.9%

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาต่อได้ที่นี่: https://azure.microsoft.com/en-us/services/site-recovery/

VST ECS ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้ง Azure AD และ Azure Site Recovery

VST ECS (Thailand) (หรือเดิมชื่อ The Value Systems) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วิศวกรและทีมงานขายผ่านการอบรมและได้ใบรับรองของ Microsoft หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น MCSE Cloud Platform and Infrastructure, MCSA Windows Server 2012/2016 และ MCSA Office 365 ทีมงานมีประสบการณ์ในการติดตั้ง Azure AD และ Azure Site Recovery ในอุตสาหกรรมต่างๆ มานานหลายปี ทำให้เข้าใจถึงธุรกิจและความต้องการของลูกค้า และพร้อมแนะแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบถ้วน

บริการของ VST ECS (Thailand) ครอบคลุมตั้งแต่การเก็บรวบรวมความต้องการ ออกแบบ ติดตั้ง ปรับแต่งการตั้งค่าให้ดีที่สุด และซัพพอร์ตตลอดเวลาแบบ 7/24 นอกจากนี้ยังช่วยจัดการเรื่องแผนค่าใช้จ่ายขององค์กรเมื่อจำเป็นต้องชำระเงินเป็นแบบ Subscription รายเดือน ซึ่งช่วยให้องค์กรที่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณล่วงหน้า เช่น หน่วยงานรัฐ หรือสถานศึกษา สามารถวางแผนใช้บริการ Azure AD และ Azure Site Recovery ได้อย่างต่อเนื่อง

Credit: ShutterStock.com

สั่งซื้อ Azure AD และ Azure Site Recovery ผ่าน VST ECS (Thailand) ในราคาพิเศษ

VST ECS (Thailand) พร้อมนำเสนอโซลูชัน Azure AD และ Azure Site Recovery ในราคาพิเศษ คุ้มค่าในการลงทุนและเป็นการจ่ายเงินตามการใช้งานจริง นอกจากนี้ VST ECS (Thailand) ยังมีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในการออกแบบและติดตั้ง Azure AD และ Azure Site Recovery ตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถใช้งานโซลูชันทั้งสองได้ตรงกับความต้องการทางธุรกิจ

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล es-cloud@vstecs.co.th หรือโทร 090-1975489

from:https://www.techtalkthai.com/azure-ad-and-azure-site-recovery-for-cloud-first-era/

Microsoft Azure เปิดฟีเจอร์ใหม่สนับสนุนการย้ายระบบจาก VMware ขึ้น Cloud

สำหรับใครที่เป็นแฟน Azure แต่ติดที่ว่ากำลังใช้งาน On-premises บน VMware หรืออยากใช้งานระบบเดิมเป็น Hybrid ร่วมกับ Azure อาจยังไม่มั่นใจและคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ตอนนี้ข่าวดีมาถึงแล้ววันที่ 27 พฤจิกายนนี้ Azure จะเปิดบริการใหม่ให้ลูกค้าทุกรายใช้กันฟรีๆ เพื่อสนับสนุนการย้าย VMware มายัง Azure

บริการที่ Azure จะนำเสนอมี 3 ส่วนหลักคือ

1. ย้ายแอปพลิเคชันด้วย Azure Migrate เปิดบริการฟรี โดยทาง Azure หวังว่าจะช่วยลูกค้าทุกท่านตลอดทุกขั้นตอนดังนี้

  • Discovery and Assessment  บริการ Azure Migrate จะช่วยค้นหาแอปพลิเคชันบน VMware แบบ on-premise และแสดงออกมาเป็นกราฟเพื่อแสดงลำดับของแอปพลิเคชันตามภาพด้านบนเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นภาพและจัดลำดับความสำคัญในการย้ายได้ นอกจากนี้ Azure Migrate สามารถรู้ไปถึง CPU, Memory, Disks และเครือข่าย อีกทั้งยังสามารถเสนอขนาดการใช้งานที่เหมาะสมเพื่อให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคตต่อไป
  • Migration บริการ Azure Site Recovery (ASR) จะช่วยย้ายเครื่องโฮสต์ภายใน Vmware ทั้ง Linux และ Windows โดยเกิด Downtime น้อยมาก นอกจากนี้ยังสามารถให้ผู้ใช้งานกำหนดลำดับของเซิร์ฟเวอร์แอปพลิเคชันที่ต้องการย้ายได้อีกด้วย หากลูกค้าใช้ SQL Server และ Oracle อยู่แล้วก็สามารถย้ายโดยตรงไปยัง Azure SQL Database ได้เช่นกัน
  • Resource & Cost Optimization เมื่อย้ายมาแล้วก็ยังมีเครื่องมือที่ช่วยติดตามในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ถ้าหากต้องการคำนวณราคาก่อนในการใช้งาน(TCO)ก็สามารถตามได้ที่นี่

2. การใช้งานบริการ Azure ควบคู่กับ VMware ลูกค้าที่อยากใช้ On-premise ของเดิมร่วมกับ Cloud ก็สามารถทำได้เช่น การใช้ Azure Backup, Azure Site Recovery, บริการจัดการอัปเดตหรือตั้งค่า, Azure Security Center และ Log Analytics นอกจากนี้ Azure ยังรองรับการจัดการทรัพยากรโดย VMware vRealize Automation Console อีกด้วย

3. ใช้งาน VMware infrastructure บน Azure Hardware บางทีลูกค้าจำเป็นต้องใช้งานแอปพลิเคชันบน VMware จึงไม่สะดวกที่จะย้ายมา Azure Cloud ซึ่งตอนนี้ Azure ก็ได้เปิดโอกาสให้สามารถใช้งาน VMware Stack บน Azure Hardware โดยคาดว่าจะให้บริการได้จริงภายในปีหน้า แต่การใช้งานเช่นนี้อาจจะไม่ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายเหมือนกับการใช้งาน Azure Cloud โดยตรง

ที่มา : https://azure.microsoft.com/en-us/blog/transforming-your-vmware-environment-with-microsoft-azure/

from:https://www.techtalkthai.com/azure-migrate-support-from-vmware/