คลังเก็บป้ายกำกับ: Cloud

ดีป้าและอีริคสันร่วมเดินหน้าขับเคลื่อน Thailand Digital Valley [Guest Post]

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเดิมขับเคลื่อนความร่วมมือในโครงการ Thailand Digital Valley ของดีป้า เพื่อมุ่งพัฒนาซิลิคอนวัลเลย์เวอร์ชั่นประเทศไทย

  • ความร่วมมือกันครั้งนี้จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในประเทศไทยสอดรับกับวิสัยทัศน์ Thailand 4.0
  • โซลูชัน 5G ชั้นนำของอีริคสันจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบสำหรับการทดลองเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ อาทิ การจัดสรรทรัพยากรคลื่นความถี่ การพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ของประเทศไทย

ภายในงานเปิดตัว มีการนำเสนอข้อมูลจากเหล่าพันธมิตรหลัก ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและโซลูชันระดับโลก และสตาร์ทอัพ

Thailand Digital Valley ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันออกระยะทาง 50 ไมล์ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค โดยคาดว่าจะเกิดการจ้างงานใหม่ในพื้นที่ประมาณ 20,000 ราย และดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี  

เมื่อไม่นานมานี้ อีริคสันและดีป้ายังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันผ่านการใช้เครือข่าย 5G ในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะประกอบด้วยการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ความรู้ความเข้าใจขั้นสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัยของอีริคสันเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ส่วนหนึ่งในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ยังระบุว่า อีริคสันและดีป้าจะจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรม (Innolab) ขึ้นใน Thailand Digital Valley ของดีป้าในจังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นศูนย์ทดสอบเครือข่าย 5G และศูนย์บริการสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ อาทิ การแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ในประเทศไทย

ดร.เจษฎา ศิวารักษ์ หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำ 5G ที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทยมายาวนาน 117 ปี เราจะดึงศักยภาพและใช้ประโยชน์จากโซลูชันชั้นนำที่ไว้วางใจได้รวมถึงระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกมาขับเคลื่อนการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศ เราพร้อมทำงานร่วมกับดีป้า ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารของไทย องค์กรธุรกิจ และสตาร์ทอัพเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ 5G ผ่านการสร้างยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกัน”

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า “Thailand Digital Valley จะมีบทบาทสำคัญช่วยยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทยและเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล กระตุ้นบรรยากาศการลงทุน การค้า และความร่วมมือระดับโลก”

จากข้อมูลของดีป้าระบุว่า Thailand Digital Valley จะกลายเป็นระบบนิเวศดิจิทัลสำคัญ และเป็นฐานรากของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ โดยจะสนับสนุนการร่วมกันคิดค้นและพัฒนาฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะใหม่ ๆ (Hardware and Smart Devices) รวมถึงเทคโนโลยีด้านการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (BigData) เทคโนโลยี IoT, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ซอฟต์แวร์คอนเวอร์เจนซ์ (Software Convergence), นวัตกรรมคลาวด์ (Cloud Innovation) และบริการเนื้อหาดิจิทัล รวมถึงบริการดิจิทัลในด้านอื่น ๆ ครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมแอนิเมชัน เกม และอีสปอร์ต

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลก ปัจจุบัน บริษัทฯ เปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 147 เครือข่าย ใน 63 ประเทศ พร้อมยังเปิดให้บริการเครือข่าย 5G Standalone 24 เครือข่ายทั่วโลก

from:https://www.techtalkthai.com/depa-and-ericsson-join-forces-to-drive-the-thailand-digital-valley/

“Wasabi Hot Cloud Storage” มีดียังไง ทำไมหลายองค์กรถึงเลือกใช้!

Wasabi” ผู้ให้บริการ Cloud Object Storage as a Service ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และต้นทุนต่ำ เหมาะสมสำหรับองค์กรตั้งแต่ขนาดเล็ก ถึง ขนาดใหญ่ ได้รับการออกแบบโครงสร้างมาให้ปรับขนาดพื้นที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด เพื่อตอบสนองความต้องการ การจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ขององค์กรในปัจจุบัน

คุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของ “Wasabi Hot Cloud Storage” คือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการดาวน์โหลดข้อมูล และ API request รวมไปถึงการทำ tiering ที่ไม่ซับซ้อน

นอกจากนี้ “Wasabi” ยังเป็นแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ที่สามารถทำงานร่วมกับ Software Backup ชั้นนำในตลาดระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นระบบ Multi Cloud และ Hybrid Cloud

Wasabi Hot Cloud Storage สามารถนำไปใช้ในโซลูชั่น Backup and Recovery ในรูปแบบ Cloud Storage ด้วย Software Backup อีกทั้งสามารถรองรับการทำ Archiving โดยย้ายข้อมูลเก่าที่ไม่ค่อยมีการใช้งานเพื่อลดการใช้งานพื้นที่ของสตอเรจหลัก

ด้าน Data Analytic ตัว “Wasabi” รองรับการทำ Data Lake สำหรับเก็บข้อมูลแบบ Structure และ Unstructured ช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างสูงสุด

ด้าน Application Development รองรับการใช้งานการเขียน Coding ของโปรแกรมเมอร์ ให้สามารถทำงานร่วมกับ Cloud อื่นๆ ในส่วนของ Compute เพื่อไปพัฒนาแอปพลิเคชันได้

ด้าน Content Delivery สามารถใช้เก็บข้อมูล Content ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์เสียง แม้กระทั้ง ไฟล์วีดีโอ ซึ่งสามารถอัปโหลดและดาวน์โหลดได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความเร็วสูง

Wasabi” ยังมีด้าน Surveillance ใช้เป็นส่วนขยายให้สามารถเก็บข้อมูล ของระบบกล้อง CCTVและปรับขนาดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้สูงถึง Exabyte ได้อีกด้วย

ด้าน Internet of Things (IoT) และ Artificial Intelligence & Machine Learning (AI/ML) รองรับการจัดเก็บข้อมูลจากเซนเซอร์ในระบบ IoT และ AI/ML ที่มีปริมาณข้อมูลจำนวนมากนำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูล สามารถทำงานร่วมกับซอร์ฟแวร์ เช่น Apache Spark, Apache Hadoop และ TensorFlow ได้

 

องค์กรจะได้ประโยชน์อย่างไรหากใช้ “Wasabi Hot Cloud Storage”

1.ประหยัดค่าใช้จ่าย: การย้ายพื้นที่จัดเก็บไฟล์ไปยังระบบ Cloud ช่วยลดการใช้ฮาร์ดแวร์และการบำรุงรักษาที่มีราคาแพงให้ใช้เท่าที่จำเป็นซึ่ง “Wasabi Hot Cloud Storage” มีต้นทุนที่ต่ำและสามารถกำหนดพื้นที่ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง

2.ประสิทธิภาพที่โดดเด่น: Wasabi มีความเร็วในการเข้าถึงอัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้งานได้สะดวกและง่าย ทำให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

3.การกู้คืนและสำรองข้อมูล: ด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Cloud สามารถสำรองข้อมูลได้โดยอัตโนมัติและมีความปลอดภัย ช่วยให้ธุรกิจมีแผนกู้คืนระบบและป้องกันข้อมูลสูญหายอันเนื่องมาจากข้อผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ ภัยธรรมชาติ หรือการโจมตีทางไซเบอร์ก็ตาม โดยมี Datacenter แบบ redundant ความคงทนของข้อมูลสูงถึง 99.999999999% และ Uptimes สูงถึง 99.99% พร้อมด้วยระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแบบอัตโนมัติ

4.ความปลอดภัย: Wasabi มีความสามารถในการรักษาข้อมูล โดยการเปิดใช้งาน “Immutability” ที่จะช่วยป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูลที่เก็บไว้ใน Cloud Storage ได้จนกว่าจะหมดเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานการเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยขององค์กรของคุณ นอกจากนั้น Wasabi มีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งขณะรับส่งข้อมูล (in-transit) และข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในสตอเรจ (at-rest) อีกทั้งยังรองรับการทำ Multi-factor Authentication ร่วมกับ Google Authenticator บนมือถืออีกด้วย

โดยสรุปแล้ว “Wasabi Hot Cloud Storage” ราคาราคาย่อมเยา รวดเร็ว ความปลอดภัยสูง และไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ตอบสนองสำหรับทุกความต้องการขององค์กร

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
Line Official : @siscloud

from:https://www.enterpriseitpro.net/wasabi-hot-cloud-storage/

พบกับงาน Digitalcom Solution Day 2023: The Next Era Safety and Security Platform | วันอังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2566 เวลา 8.30 – 16.30 น.

กลับมาอีกครั้งกับงานสัมมนาประจำปีของบริษัท ดิจิตอลคอม จำกัด

พบกับงานสัมมนาที่รวบรวมนวัตกรรมทันสมัยที่สุดของระบบรักษาความปลอดภัย IP Surveillance โดยภายในงานท่านจะได้พบกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและการสาธิตการใช้งาน รวมถึงทิศทางธุรกิจ จากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำระดับโลก ในด้านระบบรักษาความปลอดภัย IP Surveillance ให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน

ภายใต้แนวคิด “The Next Era Safety and Security Platform” เป็นแนวคิดการนำเสนอข้อมูลแบบ Digital Virtualization ที่ประยุกต์ระบบ IP Surveillance ร่วมกับข้อมูลต่างๆ ให้เป็น Platform เดียวกัน รวมถึงต่อยอด Platform เพื่อการทำงานกับระบบ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เหมาะสมกับการรับรู้ การจัดการสถานการณ์ และการวางแผนงาน อันเป็นแนวคิดที่รวมศูนย์ระบบทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกัน

ไฮไลต์ของงาน: การสาธิตโซลูชั่นต่างๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิเช่น Axis Communications, Irisity, Milestone Systems, Tiandy Technologies, Asura Technologies, Avigilon ALTA, Seagate Technology และ Western Digital Storage Technologies

และในงานยังได้พบกับแบรนด์สนับสนุนเพื่อความสมบูรณ์ของโซลูชั่นอีกมากมาย ได้แก่ Infortrend Technology, Pineapple Visions Systems, Ruijie Networks และ Synology

งานสัมมนานี้เหมาะสำหรับ: ผู้ที่อยู่ในสาย IT ด้านการรักษาความปลอดภัย

โดยงานจัดขึ้น

วันอังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2566

เวลา 8.30 – 16.30 น.

สถานที่ โรงแรม Sofitel Sukhumvit Bangkok ห้อง Le Grand Ballroom ชั้น 7

พิเศษ !! เรายังมีของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท ! ให้กับทุกท่านได้ร่วมลุ้นกัน อาทิ iPad Gen 10, ทองคำแผ่น 1 สลึง, Marshall Willen Black and Brass,  Xiaomi Mi TV P1 32″ Android TV HD และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

สามารถดูรายละเอียด กำหนดการ และลงทะเบียนได้ที่: https://digitalcomth.wixsite.com/dgcsolutionday2023

from:https://www.techtalkthai.com/digitalcom-solution-day-2023-the-next-era-safety-and-security-platform/

Alibaba แพลนแยกธุรกิจคลาวด์ออกภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซจีน Alibaba ตั้งเป้าหมายจะแยกธุรกิจคลาวด์ออกไปภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยทาง Alibaba Group Holding แจ้งว่าคณะกรรมการบริหารได้อนุมัติแผนการแยกกลุ่ม Cloud Intelligence Group ออกแล้ว

โดยใช้วิธีแบ่งส่วนหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น สอดคล้องกับคำประกาศก่อนหน้าช่วงเดือนเมษายน ว่าบริษัทเตรียมแบ่งธุรกิจตัวเองออกเป็น 6 บริษัทย่อย เพื่อให้แต่ละกลุ่มสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เร็วกว่าเดิม

ซีอีโอของอาลีบาบากรุ๊ป Daniel Zhang กล่าวระหว่างงานประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 เมื่อวันพฤหัสที่แล้วว่า ธุรกิจคลาวด์จะถูกแยกออกเป็นกลุ่มแรกเนื่องจากทั้งโมเดลธุรกิจ ลักษณะลูกค้า และขั้นตอนการพัฒนาถือว่าต่างจากธุรกิจอื่นของอาลีบาบาที่เน้นคอนซูเมอร์

การแยกออกเป็นอิสระนี้จะทำให้กลุ่มธุรกิจ Cloud Intelligence สามารถวางยุทธศาสตร์ได้แม่นยำ เฉียบคมมากขึ้น ปรับปรุงการปฏิบัติงานและโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ แม้เดือนก่อน Alibaba Cloud เคยประกาศที่จะลดค่าใช้จ่ายของบางเซอร์วิสเนื่องจากเชื่อว่าตลาดคลาวด์ในจีนเริ่มอิ่มตัวแล้ว

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theregister

from:https://www.enterpriseitpro.net/alibaba-plans-to-spin-off-cloud-division-within-12-months/

AWS ทุ่มเงินในอินเดียกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ทำเอเชียใต้เป็นดาวรุ่งคลาวด์ภูมิภาค

AWS ลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ถึง 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ในอินเดีย สื่อให้เห็นถึงความเนื้อหอมต่อยักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่จะเข้ามาตักตวงตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรุนแรงนี้

โครงการลงทุนครั้งนี้เป็นแบบต่อเนื่องยาวไปถึงปี 2030 จะสร้างงานเพิ่มในอินเดียมากกว่า 130,000 ตำแหน่ง เป็นการต่อยอดจากการลงทุนก่อนหน้านี้ 3.7 พันล้านดอลลาร์ฯ เมื่อช่วงปี 2016 – 2022 ที่ผ่านมา

Puneet Chandok ประธานด้านธุรกิจพาณิชย์ของ AWS India and South Asia กล่าวว่า บริษัทตั้งใจที่จะลงเงิน “หลายพันล้านดอลลาร์” ทุ่มกับโครงสร้างพื้นฐานในอินเดียเพื่อซัพพอร์ตสิ่งที่เขากล่าวว่าเป็น “การเติบโตของปริมาณการใช้คลาวด์มหาศาล”

รวมทั้งยังมองว่าการขยายระบบในภูมิภาคนี้จะช่วยสร้างฐานรากที่มั่นคงในตลาด ขณะที่ช่วยผลักดัน “แรงส่งเสริมที่ดีมากทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม” โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ฝึกอบรมคนในอินเดียมากกว่า 4 ล้านรายให้มีทักษะด้านคลาวด์ตั้งแต่ปี 2017

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CP

from:https://www.enterpriseitpro.net/aws-13-billion-india-expansion-shows-why-south-asia-is-next-cloud/

“Wasabi Hot Cloud Storage” มีดียังไง ทำไมหลายองค์กรถึงเลือกใช้ [Guest Post]

Wasabi” ผู้ให้บริการ Cloud Object Storage as a Service ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และต้นทุนต่ำ เหมาะสมสำหรับองค์กรตั้งแต่ขนาดเล็ก ถึง ขนาดใหญ่ ได้รับการออกแบบโครงสร้างมาให้ปรับขนาดพื้นที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด เพื่อตอบสนองความต้องการ การจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ขององค์กรในปัจจุบัน

คุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของ “Wasabi Hot Cloud Storage” คือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการดาวน์โหลดข้อมูล และ API request รวมไปถึงการทำ tiering ที่ไม่ซับซ้อน

นอกจากนี้ “Wasabi” ยังเป็นแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ที่สามารถทำงานร่วมกับ Software Backup ชั้นนำในตลาดระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นระบบ Multi Cloud และ Hybrid Cloud

Wasabi Hot Cloud Storage” สามารถนำไปใช้ในโซลูชั่น Backup and Recovery ในรูปแบบ Cloud Storage ด้วย Software Backup อีกทั้งสามารถรองรับการทำ Archiving โดยย้ายข้อมูลเก่าที่ไม่ค่อยมีการใช้งานเพื่อลดการใช้งานพื้นที่ของสตอเรจหลัก

ด้าน Data Analytic ตัว “Wasabi” รองรับการทำ Data Lake สำหรับเก็บข้อมูลแบบ Structure และ Unstructured ช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างสูงสุด

ด้าน Application Development รองรับการใช้งานการเขียน Coding ของโปรแกรมเมอร์ ให้สามารถทำงานร่วมกับ Cloud อื่นๆ ในส่วนของ Compute เพื่อไปพัฒนาแอปพลิเคชันได้

ด้าน Content Delivery สามารถใช้เก็บข้อมูล Content ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์เสียง แม้กระทั้ง ไฟล์วีดีโอ ซึ่งสามารถอัปโหลดและดาวน์โหลดได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความเร็วสูง

Wasabi” ยังมีด้าน Surveillance ใช้เป็นส่วนขยายให้สามารถเก็บข้อมูล ของระบบกล้อง CCTVและปรับขนาดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้สูงถึง Exabyte ได้อีกด้วย

ด้าน Internet of Things (IoT) และ Artificial Intelligence & Machine Learning (AI/ML) รองรับการจัดเก็บข้อมูลจากเซนเซอร์ในระบบ IoT และ AI/ML ที่มีปริมาณข้อมูลจำนวนมากนำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูล สามารถทำงานร่วมกับซอร์ฟแวร์ เช่น Apache Spark, Apache Hadoop และ TensorFlow ได้

องค์กรจะได้ประโยชน์อย่างไรหากใช้ “Wasabi Hot Cloud Storage”

1.ประหยัดค่าใช้จ่าย: การย้ายพื้นที่จัดเก็บไฟล์ไปยังระบบ Cloud ช่วยลดการใช้ฮาร์ดแวร์และการบำรุงรักษาที่มีราคาแพงให้ใช้เท่าที่จำเป็นซึ่ง “Wasabi Hot Cloud Storage” มีต้นทุนที่ต่ำและสามารถกำหนดพื้นที่ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง

2.ประสิทธิภาพที่โดดเด่น: Wasabi มีความเร็วในการเข้าถึงอัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้งานได้สะดวกและง่าย ทำให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

3.การกู้คืนและสำรองข้อมูล: ด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Cloud สามารถสำรองข้อมูลได้โดยอัตโนมัติและมีความปลอดภัย ช่วยให้ธุรกิจมีแผนกู้คืนระบบและป้องกันข้อมูลสูญหายอันเนื่องมาจากข้อผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ ภัยธรรมชาติ หรือการโจมตีทางไซเบอร์ก็ตาม โดยมี Datacenter แบบ redundant ความคงทนของข้อมูลสูงถึง 99.999999999% และ Uptimes สูงถึง 99.99% พร้อมด้วยระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแบบอัตโนมัติ

4.ความปลอดภัย: Wasabi มีความสามารถในการรักษาข้อมูล โดยการเปิดใช้งาน “Immutability” ที่จะช่วยป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูลที่เก็บไว้ใน Cloud Storage ได้จนกว่าจะหมดเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานการเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยขององค์กรของคุณ นอกจากนั้น Wasabi มีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งขณะรับส่งข้อมูล (in-transit) และข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในสตอเรจ (at-rest) อีกทั้งยังรองรับการทำ Multi-factor Authentication ร่วมกับ Google Authenticator บนมือถืออีกด้วย

โดยสรุปแล้ว “Wasabi Hot Cloud Storage” ราคาราคาย่อมเยา รวดเร็ว ความปลอดภัยสูง และไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ตอบสนองสำหรับทุกความต้องการขององค์กร

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
E-mail: wasabi@sisthai.com
Line Official : @siscloud
Website: https://www.siscloudservices.com/th/our-services/wasabi 

 

from:https://www.techtalkthai.com/wasabi-hot-cloud-storage-guest-post/

PROEN Cloud Interconnect: บริการเชื่อมโยง On-Premise, Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei คุ้มค่าด้วยความเร็วและความปลอดภัยที่เหนือชั้นกว่าเดิม [Guest Post]

แม้ว่าคลาวด์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับภาคธุรกิจ แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้โดยตรง นั่นก็คือ ประสิทธิภาพระบบเครือข่ายการเชื่อมต่อจากภาคธุรกิจไปยังบริการคลาวด์  การเชื่อมต่อจากคลาวด์ด้วยกันเอง การเลือกใช้บริการวงจรเชื่อมต่อที่เหมาะสมกับการใช้งานคลาวด์ของธุรกิจนั้น ต้องปลอดภัยและรวดเร็วเป็นสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและรองรับการใช้บริการของผู้ใช้งานให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

PROEN Corp เปิดตัวบริการ “Cloud Interconnect” เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายโดยตรงไปยังคลาวด์ของ Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei ด้วยความเร็วสูง มีการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Public Key Infrastructure (PKI) ที่มีการปรับเปลี่ยน Encryption Key อัตโนมัติ ทุกๆ 8 ชั่วโมง และคุ้มค่าด้วยการลงทุนที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการอื่นๆ เท่าที่เคยมีมา  

“เราได้ให้บริการเชื่อมต่อสำนักงานสาขาด้วยเทคโนโลยี SD-WAN จาก VMware เป็นรายแรกในไทย มามากกว่า 6 ปี ซึ่งเทคโนโลยีนี้ตอบโจทย์ภาคธุรกิจและองค์กรมาโดยตลอด พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกรที่เราได้ให้บริการเชื่อมต่อจาก Anywhere to Cloud ด้วย VMware SD-WAN Solution ที่สามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ปลอดภัย คุ้มค่าต่อการลงทุน” 

กล่าวโดย คุณพรพัฒน์ วัฒนนิยมขจร – Vice President of Sales and Marketing – PROEN Corp    

ก่อนหน้านี้ PROEN Corp ได้เคยร่วมมือกับ VMware ในการให้บริการ SD-WAN as a Service เพื่อเชื่อมต่อโดยตรงจากสำนักงานสาขาไปยัง Data Center และมี Cloud Security Gateway เพื่อช่วยให้การใช้งาน SaaS Service อย่าง Microsoft Office 365, Zoom, WebEx ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน ซึ่งล่าสุดนี้ PROEN Corp และ VMware ได้ต่อยอดความร่วมมือนี้อีกครั้ง เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อการใช้งานคลาวด์ของ Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจองค์กรที่ใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ มีทางเลือกด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ดีมากยิ่งขึ้น

แนวคิดของบริการ Cloud Interconnect นี้เปรียบเสมือนการสร้างทางด่วนจากหลายๆ การเชื่อมต่อไปยังบริการคลาวด์ของแต่ละแห่งเข้าด้วยกัน ทำให้คลาวด์สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยตรง (Low Latency & Low Loss) ดังนั้น ลูกค้าธุรกิจองค์กรที่ต้องการใช้ Cloud Interconnect จึงสามารถเลือกใช้บริการ SD-WAN EDGE และ SD-WAN Client จาก PROEN Corp เพื่อเชื่อมต่อไปยังคลาวด์แต่ละแห่งได้ทันที ซึ่งผู้ใช้งานจะพบความแตกต่างทางด้านประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น มีการเชื่อมต่อที่เสถียรมั่นคง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายนั้นคุ้มค่ากว่าการเช่าใช้ MPLS สำหรับเชื่อมต่อตรงไปยังต่างประเทศ และมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากกว่าการเชื่อมต่อด้วย IPSec เป็นอย่างมาก

PROEN Corp มั่นใจว่า ความร่วมมือนี้จะต่อยอดจุดแข็งของทุกฝ่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กลุ่มลูกค้าของ PROEN ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกความเร็วที่ต้องการได้หลายระดับตั้งแต่ 100 Mbps ถึง 10Gbps ส่วนกลุ่มประเทศลาว, พม่า และกัมพูชา ก็สามารถใช้บริการนี้ได้โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการเป็นภาษาท้องถิ่น รวมถึงได้สิทธิประโยชน์ด้านราคา ด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดียวกัน

พบกับการเปิดตัว “Hello VMware SD-WAN Client : The Journey to Zero Trust Access” ผ่าน Zoom Webinar สัมมนาออนไลน์ฟรี ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.00 – 16.00 น. ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! ที่นั่งมีจำนวนจำกัด พร้อมลุ้นรับ Gift Cards มูลค่า 300 บาท งานนี้ PROEN จับ แจก สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานไปเลย 

Register: https://zoom.us/meeting/register/tJIlcuiupjosGNKvJv2RshnuggswjKvuwHQO#/registration 

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

Tel: 02-690-3888

Email: sales@proen.co.th

Line@: https://page.line.me/qnx8597j?openQrModal=true 

Website: https://www.proen.co.th/th/

Website: http://www.branchconnect.in.th/ 

from:https://www.techtalkthai.com/proen-cloud-interconnect-1/

PROEN Cloud Interconnect: บริการเชื่อมโยง On-Premise, Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei คุ้มค่าด้วยความเร็วและความปลอดภัยที่เหนือชั้นกว่าเดิม [Guest Post]

แม้ว่าคลาวด์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับภาคธุรกิจ แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้โดยตรง นั่นก็คือ ประสิทธิภาพระบบเครือข่ายการเชื่อมต่อจากภาคธุรกิจไปยังบริการคลาวด์  การเชื่อมต่อจากคลาวด์ด้วยกันเอง การเลือกใช้บริการวงจรเชื่อมต่อที่เหมาะสมกับการใช้งานคลาวด์ของธุรกิจนั้น ต้องปลอดภัยและรวดเร็วเป็นสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและรองรับการใช้บริการของผู้ใช้งานให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

PROEN Corp เปิดตัวบริการ “Cloud Interconnect” เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายโดยตรงไปยังคลาวด์ของ Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei ด้วยความเร็วสูง มีการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Public Key Infrastructure (PKI) ที่มีการปรับเปลี่ยน Encryption Key อัตโนมัติ ทุกๆ 8 ชั่วโมง และคุ้มค่าด้วยการลงทุนที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการอื่นๆ เท่าที่เคยมีมา  

“เราได้ให้บริการเชื่อมต่อสำนักงานสาขาด้วยเทคโนโลยี SD-WAN จาก VMware เป็นรายแรกในไทย มามากกว่า 6 ปี ซึ่งเทคโนโลยีนี้ตอบโจทย์ภาคธุรกิจและองค์กรมาโดยตลอด พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกรที่เราได้ให้บริการเชื่อมต่อจาก Anywhere to Cloud ด้วย VMware SD-WAN Solution ที่สามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ปลอดภัย คุ้มค่าต่อการลงทุน” 

กล่าวโดย คุณพรพัฒน์ วัฒนนิยมขจร – Vice President of Sales and Marketing – PROEN Corp    

ก่อนหน้านี้ PROEN Corp ได้เคยร่วมมือกับ VMware ในการให้บริการ SD-WAN as a Service เพื่อเชื่อมต่อโดยตรงจากสำนักงานสาขาไปยัง Data Center และมี Cloud Security Gateway เพื่อช่วยให้การใช้งาน SaaS Service อย่าง Microsoft Office 365, Zoom, WebEx ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน ซึ่งล่าสุดนี้ PROEN Corp และ VMware ได้ต่อยอดความร่วมมือนี้อีกครั้ง เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อการใช้งานคลาวด์ของ Alibaba, Amazon, Azure, Google และ Huawei ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจองค์กรที่ใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ มีทางเลือกด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ดีมากยิ่งขึ้น

แนวคิดของบริการ Cloud Interconnect นี้เปรียบเสมือนการสร้างทางด่วนจากหลายๆ การเชื่อมต่อไปยังบริการคลาวด์ของแต่ละแห่งเข้าด้วยกัน ทำให้คลาวด์สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยตรง (Low Latency & Low Loss) ดังนั้น ลูกค้าธุรกิจองค์กรที่ต้องการใช้ Cloud Interconnect จึงสามารถเลือกใช้บริการ SD-WAN EDGE และ SD-WAN Client จาก PROEN Corp เพื่อเชื่อมต่อไปยังคลาวด์แต่ละแห่งได้ทันที ซึ่งผู้ใช้งานจะพบความแตกต่างทางด้านประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น มีการเชื่อมต่อที่เสถียรมั่นคง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายนั้นคุ้มค่ากว่าการเช่าใช้ MPLS สำหรับเชื่อมต่อตรงไปยังต่างประเทศ และมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากกว่าการเชื่อมต่อด้วย IPSec เป็นอย่างมาก

PROEN Corp มั่นใจว่า ความร่วมมือนี้จะต่อยอดจุดแข็งของทุกฝ่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กลุ่มลูกค้าของ PROEN ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกความเร็วที่ต้องการได้หลายระดับตั้งแต่ 100 Mbps ถึง 10Gbps ส่วนกลุ่มประเทศลาว, พม่า และกัมพูชา ก็สามารถใช้บริการนี้ได้โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการเป็นภาษาท้องถิ่น รวมถึงได้สิทธิประโยชน์ด้านราคา ด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดียวกัน

พบกับการเปิดตัว “Hello VMware SDWAN Client : The Journey to Zero Trust Access ผ่าน Zoom Webinar สัมมนาออนไลน์ฟรี ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.00 – 16.00 น. ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! ที่นั่งมีจำนวนจกัด พร้อมลุ้นรับ Gift Cards มูลค่า 300 บาท งานนี้ PROEN จับ แจก สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานไปเลย 

Register: https://zoom.us/meeting/register/tJIlcuiupjosGNKvJv2RshnuggswjKvuwHQO#/registration 

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

Tel: 02-690-3888

Email: sales@proen.co.th

Line@: https://page.line.me/qnx8597j?openQrModal=true 

Website: https://www.proen.co.th/th/

Website: http://www.branchconnect.in.th/ 

from:https://www.techtalkthai.com/proen-cloud-interconnect/

Toyota ตั้งค่าระบบคลาวด์พลาด! ทำข้อมูลลูกค้ารั่วเป็นสิบปี ประมาณ 2 ล้านราย!

Toyota ออกมายอมรับว่า ข้อมูลของลูกค้าในญี่ปุ่นมากกว่า 2 ล้านรายถูกเผย “ให้เข้าถึงได้จากภายนอก” เป็นสิบปี ช่วงตั้งแต่พฤศจิกายน 2013 ถึงเมษายนปีนี้ สาเหตุจากคอนฟิคคลาวด์ผิดพลาด จากความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) เอง

พนักงานโตโยต้าเองเชื่อว่ามีการเซ็ตระดับการเข้าถึงระบบคลาวด์เป็น “Public” แทนที่จะเป็น “Private” ทำให้ข้อมูลอย่างตำแหน่งที่ตั้งและทะเบียนรถถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ซึ่งกระทบกับลูกค้าที่ใช้เครือข่าย T-Connect

รวมไปถึง G-Link ที่เป็นบริการสำหรับรถ Lexus ระดับพรีเมียมที่ต้องการการซัพพอร์ตฉุกเฉินด้วย ทั้งนี้ โฆษกโตโยต้าย้ำว่า ไม่พบความเคลื่อนไหวที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับข้อมูลรั่วไหลนี้มาก่อน และบริษัทก็รีบปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ทันทีที่ตรวจพบ พร้อมทั้งตรวจสอบระบบคลาวด์ตัวเองทั้งหมดทั่วโลก

ข้อมูลลูกค้าที่หลุดไปนั้นไม่สามารถใช้ระบุตัวตนของลูกค้าได้ชัดเจน และก็ไม่พบการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้โดยเธิร์ดปาร์ตี้ข้างนอก โตโยต้ายังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนการบนคลาวด์เพื่อตรวจสอบการตั้งค่าอย่างต่อเนื่อง และอบรมพนักงานด้านการจัดการข้อมูลเพิ่มด้วย

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CloudPro

from:https://www.enterpriseitpro.net/cloud-system-error-left-toyota-customer-data-exposed-for-ten-years/

Nutanix ออกตัวจัดการมัลติคลาวด์ใหม่ เน้นความเรียบง่าย

ผู้ให้บริการระบบผสานไฮบริดคลาวด์ Nutanix ออกฟีเจอร์ใหม่ 3 ตัวบนแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์ตัวเอง เป็นฟีเจอร์สำหรับสร้างความง่ายในการจัดการหลายระบบที่ซับซ้อน และให้ทีมงานด้านไอทีจัดการแอพพลิเคชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ตัวแรกได้แก่ Project Beacon เป็นการรวมศูนย์ของบริการพื้นฐานบน Nutanix Cloud Platform เพื่อจัดการส่งมอบแอพพลิเคชันทางธุรกิจได้จากศูนย์กลางเดียวกันไม่ว่าจะอยู่บนพับลิกคลาวด์เจ้าไหน ตอบโจทย์ปัญหาที่หลายแห่งเผชิญได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้เพราะปกติแล้วบริการระดับ PaaS มักผูกติดกับพับลิกคลาวด์เจ้าใดเจ้าหนึ่ง ดังนั้น Project Beacon จึงถูกพัฒนามาเพื่อให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับแอพต่างๆ ที่รันบนบริการที่แตกต่างกันไม่ว่าบริการนั้นจะอยู่บนคลาวด์ไหน พร้อมเติมเต็มด้วยการผสานกับ Kubernetes ด้วย

ฟีเจอร์ที่สองได้แก่ Unified Data Service ที่ออกมาเพื่อลดการพึ่งพาทูลเธิร์ดปาร์ตี้หรือการที่ต้องหาวิธีทางอ้อมเพื่อให้แอพพลิเคชั่น Kubernetes แบบ Stateful ทำงานร่วมกับการจัดสรรสตอเรจได้ และฟีเจอร์สุดท้ายคือ Nutanix Central เป็นคอนโซลรวมหนึ่งเดียวสำหรับตรวจสอบและจัดการระบบทั้งหมด ครอบคลุมทุกคลาวด์

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – NW

from:https://www.enterpriseitpro.net/nutanix-new-multicloud-management-products-aim-for-simplification/