8 โน๊ตบุ๊ค AMD 2023 รวมดาวเด่นเกมมิ่งและเวิร์คกิ้ง เริ่มแค่สองหมื่นต้นเท่านั้น!

รวมดาวเด่นโน๊ตบุ๊ค AMD จะโดนเครื่องไหนก็ฟิน!

หลังจากพิสูจน์ประสิทธิภาพมานานปี นาทีนี้โน๊ตบุ๊ค AMD น่าจะกลายเป็นโน๊ตบุ๊คขวัญใจใครหลายๆ คนไปแล้ว เพราะประสิทธิภาพก็ดีสมค่าตัวแต่จ่ายไม่แพงเกินไป ถูกใจผู้ใช้ที่มีเงินในกระเป๋าจำกัดแน่นอน แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วไป บางทีซื้อโน๊ตบุ๊ค AMD ไปแล้วเงินยังเหลือพอเอาไว้ซื้อเมาส์คีย์บอร์ดไว้ใช้ได้อีกหรือบางครั้งทางร้านค้าจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายก็ได้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้มาเลยไม่ต้องจ่ายเพิ่มด้วยซ้ำ

แต่เนื่องจากเทคโนโลยีเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้ตามข่าวสารแวดวงไอทีอย่างใกล้ชิดแล้วคิดจะซื้อโน๊ตบุ๊ค AMD สักเครื่อง มีวิธีดูสเปคอย่างไรให้ได้เครื่องที่คุ้มและแรงสุด? วิธีเลือกก็ไม่ยากนัก แนะนำให้หารุ่นที่ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5000 Series ขึ้นไป ถ้าเน้นพกพาไปเรียนหรือประชุมงานบ่อยๆ ให้ดูซีพียูพร้อมรหัส U (Premium Ultrathin) ซึ่งเป็นรหัสประหยัดไฟ จะใช้งานได้นานหลัก 10 ชั่วโมงอย่างแน่นอน

Advertisement

กลับกันถ้าทำงานกราฟิค ตัดต่อวิดีโอหรือเล่นเกมให้เลือกรหัส H (High-Power Mobile) แทน เพราะกำลังประมวลผลสูง ใช้พลังงานเยอะและมีรหัส HX (High-Power Mobile Extreme) เป็นรุ่นสูงสุดด้วย แต่ทาง AMD ก็มีรหัส HS (High-Performance Slim Mobile) หรือรุ่นประสิทธิภาพสูงแต่ดีไซน์ไว้ติดตั้งกับโน๊ตบุ๊คบางเบาให้เลือก ระยะเวลาใช้งานอาจสั้นกว่ารหัส U เล็กน้อยแต่ก็ทรงพลัง

สรุปสเปค 8 โน๊ตบุ๊ค AMD ตัวเด็ดโดนใจ ถูกใจเกมเมอร์ สายทำงานก็ยิ้ม!

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค AMD	CPU GPU		SSD RAM Software	Display Weight	Connectivity	Price (บาท)
DELL Inspiron 5415-W5662141042TH	AMD Ryzen 7 5700U AMD Radeon Graphics		M.2 NVMe 512GB 8GB DDR4 3200MHz Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2019	14″ FHD IPS 1.44 กก.	USB-A 3.2 x 2 USB-C 3.2 Full Function x 1 HDMI x 1 MicroSD Card Reader x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6 Bluetooth 5.0	22,990
Hp Pavilion 15-eh3035AU	AMD Ryzen 5 7530U AMD Radeon Graphics		M.2 NVMe 512GB 16GB DDR4 3200MHz Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021	15.6″ FHD IPS 1.75 กก.	USB-C 3.2 DisplayPort x 1 USB-A 3.2 x 2 HDMI x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2	24,990
Acer Swift Go SFG14-41-R2QM	AMD Ryzen 5 7530U AMD Radeon Graphics		M.2 NVMe 512GB 16GB LPDDR4x 4267MHz Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021	14″ FHD IPS 100% sRGB 1.25 กก.	USB-C 3.2 Full Function x 2 USB-A 3.2 x 2 HDMI x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.1	25,990
ASUS ZenBook 14 OLED UM3402YA	AMD Ryzen 5 7530U AMD Radeon Graphics		M.2 NVMe 512GB 16GB LPDDR4x 4267MHz Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021	14″ 2.8K (2880×1800) OLED Refresh Rate 90Hz 100% DCI-P3  PANTONE Validated VESA DisplayHDR True Black 600	USB-A 3.2 x 1 USB-C 3.2 Full Function x 2 HDMI 2.1 x 1 MicroSD Card Reader x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.0	32,990
Acer Nitro 5 AN515-47-R60A	AMD Ryzen 7 7735HS NVIDIA GeForce RTX 3050		M.2 NVMe 512GB 8GB DDR5 4800MHz Windows 11 Home	15.6″ FHD IPS Refresh Rate 165Hz 2.5 กก.	USB-A 3.2 x 3 USB-C 3.2 x 1 HDMI x 1 LAN x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.2	35,990
ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition	AMD Ryzen 7 7735HS AMD Radeon RX 7600S		M.2 NVMe 512GB 16GB DDR5 4800MHz Windows 11 Home	16″ FHD+ (1920×1200) IPS Refresh Rate 165Hz 100% sRGB AMD FreeSync Premium	USB-C 4.0 รองรับ DisplayPort x 1 USB-C 3.2 Full Function x 1 USB-A 3.2 x 2 HDMI 2.1b x 1 LAN x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2	42,990
ASUS TUF Gaming A15 FA507NU-LP031W	AMD Ryzen 7 7735HS NVIDIA GeForce RTX 4050		M.2 NVMe 512GB 16GB DDR5 4800MHz Windows 11 Home	15.6″ FHD IPS Refresh Rate 144Hz 100% sRGB	USB-C 4 x 1 USB-C 3.2 x 1 USB-A 3.2 x 2 HDMI x 1 LAN x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2	42,990
ASUS ROG Zephyrus Duo 16 GX650PY	AMD Ryzen 9 7945HX NVIDIA GeForce RTX 4090		M.2 NVMe 2TB 32GB DDR5 4800MHz Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021	16″ WQXGA (2560×1600) IPS Refresh Rate 240Hz 100% DCI-P3 Pantone Validated HDR AMD FreeSync Premium Pro ScreenPad Plus 14″ 4K (3440×1100) IPS 2.67 กก.	USB-C 3.2 Full Function พร้อม G-SYNC x 1 USB-C 3.2 DisplayPort x 1 USB-A 3.2 x 2 HDMI 2.1 x 1 LAN x 1 MicroSD Card Reader x 1 Audio combo x 1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.2	159,990

8 โน๊ตบุ๊ค AMD สุดเจ๋ง รวมรุ่นเด็ดทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง!

ผู้ใช้ที่มองหาโน๊ตบุ๊ค AMD เครื่องใหม่ไม่ว่าจะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหรือหารุ่นบางเบาก็ตาม ในปี 2023 นี้มีรุ่นน่าซื้อให้เลือกมากมายเลยทีเดียว สำหรับรุ่นเด่นน่าใช้จะมีทั้งหมด 8 รุ่นดังนี้

1. DELL Inspiron 5415-W5662141042TH (22,990 บาท)
2. Hp Pavilion 15-eh3035AU (24,990 บาท)
3. Acer Swift Go SFG14-41-R2QM (25,990 บาท)
4. ASUS ZenBook 14 OLED UM3402YA (32,990 บาท)
5. Acer Nitro 5 AN515-47-R60A (35,990 บาท)
6. ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition (42,990 บาท)
7. ASUS TUF Gaming A15 FA507NU-LP031W (42,990 บาท)
8. ASUS ROG Zephyrus Duo 16 GX650PY (159,990 บาท)

1. DELL Inspiron 5415-W5662141042TH (22,990 บาท)

เริ่มต้นด้วยแบรนด์ขวัญใจชาวออฟฟิศอย่าง DELL Inspiron 5415-W5662141042TH โนตบุ๊คบางเบาน้ำหนัก 1.44 กิโลกรัม หน้าจอขนาดกำลังดี 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 5700U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 1.8~4.3GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้พร้อมแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ ถ้ามนุษย์ออฟฟิศคนไหนกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค AMD เอาไว้ทำงานพร้อมบริการหลังการขายที่ใครก็ยอมรับก็ต้อง DELL Inspiron เครื่องนี้เลย

สเปคของ DELL Inspiron 5415-W5662141042TH

CPU	AMD Ryzen 7 5700U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 1.8~4.3GHz
GPU	AMD Radeon Graphics
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display	14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity	USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.0
Software	Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2019
Weight	1.44 กิโลกรัม
Price	22,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM8 ลดได้ 800 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

2. Hp Pavilion 15-eh3035AU (24,990 บาท)

ของใหม่ใครก็อยากได้ นาทีนี้โน๊ตบุ๊ค AMD Ryzen 7000 Series รุ่นใหม่ล่าสุดราคาไม่แรงมี Hp Pavilion 15-eh3035AU พร้อมซีพียู AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics ได้หน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz สเปคถือว่าแรงจบพร้อมทำงาน มีพอร์ต USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักอยู่ที่ 1.75 กิโลกรัม ถือว่าเบาไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊ค AMD จอใหญ่หลายๆ รุ่น แต่ได้สเปคแรงจบไม่ต้องอัพเกรดก็ได้

สเปคของ Hp Pavilion 15-eh3035AU

CPU	AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU	AMD Radeon Graphics
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display	15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity	USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2
Software	Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight	1.75 กิโลกรัม
Price	24,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM8 ลดได้ 800 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

3. Acer Swift Go SFG14-41-R2QM (25,990 บาท)

ในบรรดาโน๊ตบุ๊ค AMD ทั้งหมด Acer Swift Go SFG14-41-R2QM นี้เป็นรุ่นที่น้ำหนักเบาพกง่าย เพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้นในบอดี้หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB พกสะดวกทำงานดีด้วยซีพียู AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 ได้แรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ นอกจากนี้ยังสแกนนิ้วปลดล็อคเครื่องได้เพียงทาบนิ้วกับปุ่ม Power ก็ปลดล็อคเครื่องใช้งานได้เลย

สเปคของ Acer Swift Go SFG14-41-R2QM

CPU	AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU	AMD Radeon Graphics
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	16GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display	14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสี 100% sRGB
Connectivity	USB-C 3.2 Full Function x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1
Software	Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight	1.25 กิโลกรัม
Price	25,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM8 ลดได้ 800 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

4. ASUS ZenBook 14 OLED UM3402YA (32,990 บาท)

ASUS ZenBook 14 OLED UM3402YA เครื่องนี้ถือเป็นโน๊ตบุ๊ค AMD ระดับพรีเมี่ยมพร้อมฟีเจอร์ครบเครื่อง ทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, แป้นทัชแพดแบบ ASUS NumberPad 2.0 สลับระหว่างโหมดทัชแพดและ Numpad ได้ หากผู้ใดสนใจสามารถอ่ารีวิวเพิ่มเติมได้ ได้หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ค่า Refresh Rate 90Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated, VESA DisplayHDR True Black 600 ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 และแรม 16GB LPDDR4x บัส 4266MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 Full Function x 2, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ น้ำหนักแค่ 1.39 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นโน๊ตบุ๊ค AMD ที่นอกจากสเปคจะแรงจบแล้ว ยังงานประกอบและฟีเจอร์ยังให้มาเยอะอีกด้วย

สเปคของ ASUS ZenBook 14 OLED UM3402YA

CPU	AMD Ryzen 5 7530U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU	AMD Radeon Graphics
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	16GB LPDDR4x บัส 4266MHz
Display	14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ค่า Refresh Rate 90Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated, VESA DisplayHDR True Black 600
Connectivity	USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 Full Function x 2, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0
Software	Windows 11 Home, Microsoft Office Home&Student 2021
Weight	1.39 กิโลกรัม
Price	32,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM12 ลดได้ 1,200 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

5. Acer Nitro 5 AN515-47-R60A (35,990 บาท)

ฝั่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD น่าซื้อเริ่มด้วย Acer Nitro 5 AN515-47-R60A บอดี้ใหม่ล่าสุดและยังคงอัพเกรดเพิ่มแรมและ SSD ได้ คีย์บอร์ดเป็น 4-Zone RGB ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz จับคู่กับ NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ขอแค่อัพเกรดแรมเป็น 16GB ขึ้นไป เท่านี้ Nitro 5 ก็พร้อมเล่นเกมและทำงานตัดต่อวิดีโอได้สบายๆ แล้ว

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-47-R60A

CPU	AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz
GPU	NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display	15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity	USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2
Software	Windows 11 Home
Weight	2.5 กิโลกรัม
Price	35,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM12 ลดได้ 1,200 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

6. ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition (42,990 บาท)

ถ้าใครเป็นแฟนคลับแล้วหาโน๊ตบุ๊ค AMD เพียวๆ ไม่ผสมแล้วเล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้ทุกเกม ต้อง ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition ซึ่งรุ่นนี้ได้จอ 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ AMD FreeSync Premium ทำให้ภาพไม่ฉีกขาดเวลาเล่นเกมหรือดูหนัง จับคู่ซีพียู AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz กับการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 7600S แรม 8GB GDDR6 มาให้ ซึ่งข้อดีคือใช้ฟีเจอร์ AMD SmartShift, AMD S.A.M. ช่วยจัดการพลังงานและมีอัลกอริธึ่มรับส่งข้อมูลระหว่างซีพียูและการ์ดจอได้โดยตรง ดึงประสิทธิภาออกมาได้มากยิ่งขึ้น ติดตั้ง M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB กับ Windows 11 Home ได้แรมมา 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-C 4.0 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเพื่อแฟนคลับ AMD โดยเฉพาะโดยเฉพาะใครที่ชอบเล่นเกมน่าจะถูกใจทีเดียว

สเปคของ ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition

CPU	AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz
GPU	AMD Radeon RX 7600S แรม 8GB GDDR6
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display	16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ AMD FreeSync Premium
Connectivity	USB-C 4.0 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2
Software	Windows 11 Home
Weight	2.2 กิโลกรัม
Price	42,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM12 ลดได้ 1,200 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

7. ASUS TUF Gaming A15 FA507NU-LP031W (42,990 บาท)

สำหรับ ASUS TUF Gaming A15 FA507NU-LP031W เครื่องนี้ถึงจะเป็นบอดี้เก่าแต่อัพเกรดสเปคให้ทันสมัยและดีขึ้นด้วยจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6 พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ซึ่งสเปคระดับนี้ถือว่าแรงพอเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้หมดบนจอ 1080p มีพอร์ต USB-C 4 x 1, USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม ถ้าจำกัดความเจ้า ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น “เหล้าใหม่ในขวดเก่า” อย่างแน่นอน เพราะบอดี้ยังเป็นรุ่นเก่าแต่สเปคใหม่ถอดด้ามแรงพอเล่นได้ทุกเกมในปัจจุบัน ถือเป็นโน๊ตบุ๊ค AMD ที่ซื้อมาใช้เองก็ได้แนะนำเพื่อนก็ดี

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 FA507NU-LP031W

CPU	AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz
GPU	NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6
SSD	M.2 NVMe 512GB
RAM	16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display	15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity	USB-C 4 x 1, USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2
Software	Windows 11 Home
Weight	2.2 กิโลกรัม
Price	42,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM12 ลดได้ 1,200 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

8. ASUS ROG Zephyrus Duo 16 GX650PY (159,990 บาท)

ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ASUS ROG Zephyrus Duo 16 GX650PY เป็นโน๊ตบุ๊ค AMD ตัวแรงจอคู่เพื่อเกมเมอร์ในปี 2023 นี้ ซึ่งจอหลักมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การรับรอง Pantone Validated, HDR มี AMD FreeSync Premium Pro กันภาพฉีกขาดในตัวคู่กับจอ ScreenPad Plus ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 4K (3440×1100) พาเนล IPS เป็นจอทัชสกรีนทั้งคู่ ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 9 7945HX แบบ 16 คอร์ 32 เธรด ความเร็ว 2.5~5.4GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6 ใส่ M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB พร้อม Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 ได้แรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มาให้

พอร์ตเชื่อมต่อถือว่าล้ำสมัยเพราะได้ USB-C 3.2 Full Function พร้อม G-SYNC x 1, USB-C 3.2 DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ แต่น้ำหนักจะสูงราว 2.67 กิโลกรัม ดังนั้นถ้าต้องการพกไปไหนมาไหนแนะนำให้หากระเป๋าเป้ดีๆ มาใช้จะดีสุด ส่วนในกล่องมีแท่นรองข้อมือแถมมาให้ใช้ ส่วนแป้นทัชแพดก็เป็น ASUS NumberPad กดสลับมาพิมพ์ตัวเลขได้ด้วย ถ้าใครมีเงินอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ที่ดีสุดเท่าที่มีในปีนี้ก็มารุ่นนี้ได้

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus Duo 16 GX650PY

CPU	AMD Ryzen 9 7945HX แบบ 16 คอร์ 32 เธรด ความเร็ว 2.5~5.4GHz
GPU	NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6
SSD	M.2 NVMe 2TB
RAM	32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display	จอหลัก 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การรับรอง Pantone Validated, HDR มี AMD FreeSync Premium Pro ScreenPad Plus ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 4K (3440×1100) พาเนล IPS
Connectivity	USB-C 3.2 Full Function พร้อม G-SYNC x 1, USB-C 3.2 DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2
Software	Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight	2.67 กิโลกรัม
Price	159,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBM12 ลดได้ 1,200 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

สำหรับโน๊ตบุ๊ค AMD ในปัจจุบันนี้ต้องถือว่าหาซื้อง่ายมาก มีจำนวนรุ่นและสเปคย่อยให้เลือกเยอะอีกด้วย ถ้าเกมเมอร์หรือสายทำงานกำลังอยากเปลี่ยนเครื่องก็อย่าลืมเช็คว่างานของเราต้องใช้โน๊ตบุ๊คแบบใดสเปคไหนถึงจะตอบโจทย์แล้วเลือกซื้อแบรนด์ที่ชอบรุ่นที่ใช่แล้วใช้โค้ดส่วนลดจากทาง BaNANA ลดเพิ่มเติมได้เลยด้วย

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 5 สินค้าที่ใช้ CPU AMD ถ้าคุณรู้แล้วจะอึ้ง! อัพเดทปี 2023

• ชี้เป้า 5 จอทำงาน MSI น่าใช้ประจำปี 2023 ต่อ USB-C ใช้งานได้เลย! ทำงานก็ได้เล่นเกมก็ดี เริ่ม 3,290 บาทเอง!

• 7 เมาส์ไร้สายแนะนำ สายทำงานชอบ เกมเมอร์ก็โดน! อัพเดทปี 2023

from:https://notebookspec.com/web/702708-8-recommend-amd-laptop-2023

รีวิวรวม ROG Flow X13 และ Flow Z13 แท็บเล็ตเกมมิ่งสุดยอดดีไซน์ กับความแรงที่สุดในโลก

รีวิวรวม ROG Flow X13 และ Flow Z13 แท็บเล็ตเกมมิ่งสุดยอดดีไซน์ กับความแรงที่สุดในโลก
Noppinij

ROG Flow X13 และ ROG Flow Z13 สองอุปกรณ์ตัวแรงระดับท็อปคลาสของตลาดโน๊ตบุ๊ค และแท็บเล็ตที่มีสเปคประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก และมาในขนาดเล็กพกพาง่าย เรียกว่าแรงซ่อนรูปอยู่ในแท็บเล็ตเกมมิ่งสุดยอดดีไซน์ และอีกหนึ่งคือโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 กับความแรงที่สุดในโลกจากทั้งสองค่าย AMD Ryzen 9 และ Intel Core i9 Gen 12 โดยทั้งคู่จะมีคุณสมบัติและแนวทางการใช้งานที่คล้ายกันมากทีเดียวครับ

ในรีวิวบทความนี้จะพามารู้จักกับทั้งสองอุปกรณ์เรือธงของวงการแล็ปท็อปพกพาของระบบ Windows กันนะครับ โดยจะเริ่มจากแท็บเล็ต ROG Flow Z13 กันซะก่อน

ROG Flow Z13 เกมมิ่งแท็บเล็ตระบบ Windows ที่แรงและทรงพลังมากที่สุดในโลก

ROG Flow Z13 ถููกออกแบบมาได้อย่างสวยงาม และอยู่ในร่างเล็กที่พกพาได้ง่ายๆ  มีการออกแบบโดดเด่นและสะดุดมากครับ ด้านหลังตัวเครื่องมีการออกแบบให้เว้นช่องโปร่งแสงเผยให้เห็นแผง PCB ด้านใน พร้อมไฟ RGB โดยได้รับแรงบันดำลใจจาก Space Odyssey ให้ความรู้สึกคล้ายช่องหน้าต่างของยานอวกาศ

ที่เรียกว่าแท็บเล็ต เพราะเป็นการออกแบบที่ไม่มีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดมาในตัว แต่ก็มากับอุปกรณ์เสริมที่เป็นคีย์บอร์ดตัวบาง Backlit Chiclet Keyboard RGB ที่เป็นเคสปิดหน้าจอไปในตัว และยังเป็นคีย์บอร์ดที่รองรับการแสดงไฟสีสัน RGB Aura Sync ได้ด้วยมานั้นเองครับ

ความแรงของสเปค ROG Flow Z13 ก็คือเป็นที่สุดของอุปกรณ์ในยุคนี้แล้ว ทั้งในด้าน CPU และการ์ดจอแยกตัวแรง และสเปครอบตัวทั้งพอร์ตการเชื่อมต่อ หน้าจอ และลำโพง รวมถึงการออกแบบที่มีมาให้ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เกมมิ่งระดับโปรที่ซ่อนอยู่ในรูปร่างของแท็บเล็ตเท่านั้นเอง

ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i9-12900H ทำงานร่วมกับกราฟิกการ์ด GeForce RTX 3050Ti GDDR6 ขนาด 4GB เป็น GPU ไฮเอนด์ที่แรงและคุ้มค่าที่สุดในตลาดอุปกรณ์พกพาในขณะนั้ โดยภายในมี MUX Switch ให้สามารถเลือกใช้งานกราฟิกการ์ดแยกมาได้เต็มประสิทธิภาพอย่างอิสระด้วยครับสำหรับอุปกรณ์นี้

หน้าจอขนาด 13.4 นิ้ว รีเฟรชเรทแบบจอเกมมิ่ง 120Hz ตอบสนอง 3ms  คุณภาพจอดีครับ ไม่ใช่แค่เรื่องการเล่นเกม แต่เหมาะสมกับการใช้งานด้านครีเอเตอร์ด้วย เพราะเป็นจอที่แสดงช่วงสีได้กว้าง 100% sRGB ได้รับการยอมรับในมาตรฐานการผลิตสื่อสิงพิมพ์ ปรับเทียบสีจาก Pantone Validated เป็นจออัตราส่วนแบบ 16:10, 120Hz WUXGA (1920 x 1200) และสามารถรองรับ Dolby Vision สำหรับการนำไปรับชมคอนเทนต์ภาพยนตร์ได้ดีอีกด้วยครับ ติดตั้งกล้องหน้า 1ล้านพิกเซลเอาไว้สำหรับใช้ในการวีดีโอคอลล์

โดยจอภาพตัวนี เป็นหน้าจอที่เป็นแบบทัชสกรีนได้ สามารถใช้งานได้ร่วมกับปากกา ASUS Pen SA201H ที่แยกระดับแตกต่างของแรงกดได้ 4,096 ระดับ ก็คือเป็นปากกาที่ใช้งานในระดับโปรมืออาชีพเลยนั้นเอง

กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 ทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วนได้ดี งานประกอบสมกับเป็นเครื่องพรีเมี่ยม รู้สึกแกร่ง แข็งแรง ทนทานด้วยวัสดุแบบ CNC อลูมิเนียมทั้งตัวเครื่อง ทำน้ำหนักรวมออกมาได้ดี เพราะหนักแค่ 1.18 กิโลกรัมสบายต่อการพกพา ฝาด้านหลังมีขาพับสำหรับการวางตั้ง กางได้กว้างสูงสุดแบบ 170 องศา

ให้ RAM LPDDR5 16GB 5200MHz (8GB x 2 on board) และ SSD 1TB M.2 2230 NVMe PCIe 4.0 ความเร็วการอ่านเขียน 3,200/3,200 Mbps

ด้วยความเป็นแท็บเล็ต ที่สามารถถือใช้งานได้เมื่อต้องการ ฉะนั้นจึงมีการติดตั้งกล้องหลังสำหรับในกรณีต้องการใช้ ROG Flow Z13 ถ่ายภาพ ก็จะมีกล้องด้านหลังความละเอียด 8ล้านพิกเซลเอามาให้

ลำโพงคู่เสียงดังชัดมาก 2x 1W speaker with smart AMP technology มีความกระหึ่มในตัวชัดเจน รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เล่นเกมหรือดูหนังไม่ต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่มเติมครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อรุ่นใหม่ครบ USB Type-C Thunderbolt 4.0 รองรับการเชื่อมต่อเป็น DisplayPort 1.4 และพอร์ตชาร์จ PD ไปในตัว, USB 3.2 Gen 2 พร้อมตัวอ่าน Micro SD Card reader และช่อเสียบหูฟัง 3.5มม.

ROG Flow Z13 รองรับการชาร์จไว ด้วยอะแดปเตอร์ 100W Type C PD ที่ให้มาภายในกล่อง สามารถชาร์จไฟจาก 0% ไปจน 50% ได้ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นครับ

โดย ROG Flow Z13 เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีพอร์ต ROG XG Mobile Interface เพื่อเชื่อมต่อกับการ์ดจอแยกภายนอก XG Mobile ของ ROG ถ้าต้องการความแรงที่เพิ่มเติมมากขึ้นเป็นระดับเดสท็อปโปรเกมมิ่ง โดยไม่ต้องไปซื้อคอมพ์ประกอบมาใช้งานที่บ้านอีกทั้งชุด ก็สามารถซื้ออุปกรณ์ XG Mobile มาเสริมเพิ่มได้เลยครับ และตัวมันก็ไม่ได้ใหญ่เกินจะพกออกไปเล่นที่บ้านเพื่อนด้วยนะครับ

เมื่อเชื่อมต่อกับ XG Mobile ตัวการ์ดจอที่จะถูกเรียกใช้งาน ก็จะเปลี่ยนไปเป็นตัวรุ่นใหญ่ ที่อยู่ภายใน XG Mobile นั้นเองครับ โดยการใช้งานอุปกรณ์นี้เราต้องเสียบปลั๊กไฟให้กับ XG Mobile ไว้ด้วย และก็จะเป็นการชาร์จไฟเข้าให้กับ ROG Flow Z13 ไปในตัวด้วยเช่นกัน

และยังมีกระเป๋าพกพาที่ทำให้เราสามารถพกเจ้า ROG Flow Z13 และ XG Mobile ออกไปใช้งานคู่กันได้ด้วยนะ ^^

โดยอุปกรณ์ ROG XG Mobile ก็จะมีตัวเลือกที่นำเข้ามาจำหน่ายอยู่สองสเปคเป็นการ์ดจอจากสองค่ายให้เลือก AMD Redeon RX และ NVIDIA GeForce  RTX 3080 แต่เป็นอุปกรณ์ที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายค่อนข้างจำกัดครับ ถ้าใครสนใจต้องรอติดตามการประกาศขายจากทาง ASUS กันสักหน่อย (ติดตามการจำหน่ายได้ที่ลิงก์นี้ )

• รุ่น GC32L ใช้การ์ดจอ AMD Redeon RX 5850M XT 12GB GDDR6 (ROG Boot: Up to 165W) Power Supply 330W น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม ราคา 45,990 บาท
• รุ่น GC31S ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce  RTX 3080 laptop GPU with ROG Boost up to 1810MHz at 150W 16GB GDDR6 น้ำหนัก 1.0 กิโลกรัม ราคา 49,990 บาท

รายละเอียดพอร์ตการเชื่อมต่อของทั้งสองรุ่น ( XG Mobile เป็นอุปกรณ์ที่มาพร้อมการรับประกันแบบ Global Warranty 2 ปี เข้าศูนย์ได้ 80 ประเทศทั่วโลก และ Perfect Warranty ประกันอุบัติเหตุให้ 1 ปีแรก)

ข้อเด่นของ ROG Flow Z13 อย่างที่เห็นว่าเป็นเครื่องที่สเปคแรงสูงมาก ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแท็บเล็ตเกมมิ่งที่แรงที่สุดในโลกอยู่แล้ว และไม่ต้องเป็นห่วงเลยสำหรับการนำไปใช้งานครีเอเตอร์ ตัดคลิป แต่งภาพ เพราะหน้าจอแสดงผลก็มีคุณภาพที่สูงมากเช่นกันครับ

ทดสอบเล่นเกม Over Watch 2 เปิดกราฟิกสุด เฟรมเรทวิ่งนิ่งๆ ที่ 70Fps ขึ้นไปได้ตลอดเวลา ประสิทธิภาพเกินขนาดตัวไปไกลครับ แต่ถ้าต่อกับ XG Mobile RTX 3080 ที่ได้มาลองใช้คู่กันแล้วละก็ ^^ จอภาพรองรับกี่เฟรมเรท ก็วิ่งสุดตลอดเลยละครับ

ด้วยความเป็นอุปกรณ์ของ ROG ฉะนั้นซอฟท์และระบบภายในจึงใส่ความสามารถในการปรับแต่งและช่วยเหลือผู้ใช้ในด้านเกมและปรับความแรงมาให้เยอะมาก  โดยจะมีโปรแกรม Armoury Crate เป็นเหมือนศูนย์กลางในการควบคุมตัวเครื่อง ทั้งการอัพเดทระบบ การปรับระดับของการใช้พลังงาน และการปรับแสงไฟของ Aura Sync

จากที่ทดสอบใช้งาน ROG Flow Z13 ในโหมดใช้งานทั่วไป ตัวแบตเตอรี่สามารถทำงานได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมงครับ และถ้าเปิดโหมด Turbo เพื่อการใช้เล่นเกมแบบเต็มที่บนพลังงานจากตัวแบตเตอรี่ จะสามารถเล่นเกมได้ประมาณ 3 ชั่วโมงครับ

ตัวเครื่องจะมีความร้อนให้รู้สึกเวลาใช้งานในโหมดเทอร์โบ แต่ในโหมดใช้งานทั่วไปแทบจะไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเลยครับแม้จะใช้งานนอกห้องที่มีเครื่องปรับอากาศก็ตาม เพราะภายใน ROG Flow Z13 มีการใส่ระบบระบายความร้อนมาให้ค่อนข้างจัดเต็ม ใช้สารนำความร้อน Liquid Metal Thermal Grizzly Conductonaut ที่สามารถนำส่งความร้อนได้ดีกว่าซิลิโคนแบบทั่วไปถึง 14 เท่า ใช้เป็นสานนำส่งต่อความร้อนมายัง Vapor chamber ขนาดใหญ่พิเศษภายใน ที่มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 44% ทั้ง CPU, GPU VRAM และวงจรจ่ายไฟทั้งหมด ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ลงได้ถึง 15 องศาเลยทีเดียวครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ROG Flow Z13 ไม่ใช่แค่ใส่ใจกับแค่ตัวเครื่องหลักของมันเท่านั้น แต่อุปกรณ์เสริมภายในกล่องที่ให้มาก็ดูจะคุ้มค่ากับราคาระดับพรีเมี่ยมของมันมากทีเดียวครับ

• กระเป๋า GZ301 sleeve bag
• ปากกาเขียนหน้าจอ ASUS Pen
• ที่ชาร์จ 100W Type C PD

ติดตั้งระบบปฏิบัติกำร Windows 11 Home พร้อมกับ Office Home and Student 2021
ได้รับการรับประกัน ASUS Exclusive Care นานสูงสุด 3 ปี

– 3 years On-site Service ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมถึงที่ภายในประเทศ
– 3 years Global warranty ประกัน 3 ปี เข้าศูนย์ได้ 80 ประเทศทั่วโลก
– 1 year Perfect warranty ประกัน 1 ปี ในกรณีเครื่องเกิดอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าอะไหล่ 80%

ROG Flow Z13 ราคาจำหน่าย 69,990 THB

---

ROG Flow X13 ที่สุดแห่งโน้ตบุ๊คพับได ้360 องศา รองรับการใช้แบบ 2-In-1

ROG Flow X13 จะมาในรูปลักษณ์แบบโน๊ตบุ๊คเต็มตัว แต่มีความสามารถในการพับหน้าจอได้แบบ 360 องศา เพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ เช่นกางออกใช้งานเป็นอุปกรณ์โน๊ตบุ๊ค พลิกจอกลับหลังกลายเป็นแท็บเล็ต หรือวางในรูปแบบเต๊นท์ เพื่อใช้ในการพรีเซนท์งาน หรือโชว์ภาพหน้าจอแบบเต็มตาโดยไม่ต้องการใช้งานคีย์บอร์ดนั้นเองครับ เป็นทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตแบบ 2-In-1

ตัวเครื่องเล็ก ออกแบบฝาหลังลวดลายเส้นทแยงคล้ายผิวเคฟร่า น้ำหนักรวม 1.3Kg

 

แต่ประสิทธิภาพแรงสุดของฝั่งฝาก AMD ด้วยการใช้ Ryzen 9 6900HS 8 คอร์ 16 เธรด โปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสดุของโน้ตบุ๊กจาก AMD ในปี 2022 ทำงานคู่กับ GPU NVIDIA GeForce RTX 3050Ti Laptop 4GB GDDR6 เช่นเดียวกันกับรุ่น ROG Flow Z13 ด้านบน

โดยในรุ่นนี้จะมี MUX Switch สำหรับการใช้งานศักยภาพ GPU ได้อิสระ และให้แรมมาบัสสูงสุดของวงการเลยครับ กับ RAM 1 GB 6400 MHz และหน่วยความจำ SSD PCIe 4.0 NVMe M.2 ขนาด 1TB ประสิทธิภาพเวลาเล่นเกมเท่าที่ทดสอบ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับรุ่นพี่ครับ ในทางตัวเลขก็ประคองเฟรมเรทได้ประมาณ 70 ในการเซ็ตระดับกราฟิกเดียวกัน ส่วนในความรู้สึกก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างกันชัดจนให้สังเกตเห็น

หน้าจอขนาด 13.4 นิ้ว IPS 120Hz Dolby Vision HDR ให้ความรู้สึกสว่างตากว่าเล็กน้อย อัตราส่วนแบบ 16:10, 120Hz WUXGA (1920 x 1200) แสดงช่วงสีได้กว้าง 100% sRGB และได้รับการปรับเทียบสีจาก Pantone Validated จอแบบทัชสกรีนที่ใช้งานได้กับปากกา ASUS Pen SA201H  ให้กล้องหน้า 720P HD และคีย์บอร์ดออกแบบพิเศษเพื่อการควบคุมฟังก์ชั่นเครื่องที่คล่องตัวกว่า

พอร์ตเชื่อมต่อมี ROG XG Mobile Interface สำหรับการต่อการ์ดจอภายนอก XG Mobile และ USB 3.2 Gen 2 Type-A, USB 3.2 Gen 2 Type-C x2, HDMI 2.0b และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm  ลำโพงคู่เสียงดังชัด 2-speaker system with Smart Amplifier Technology และใช้ปุ่มพาวเวอร์เป็นที่สแกนลายนิ้วมือเข้าใช้งานได้ในตัว

เรียกว่าสเปคและหน้าจอแทบไม่ต่างกันกับ ROG Flow Z13 เลยครับ แต่แค่เปลี่ยนรูปทรงมาเป็นแบบโน๊ตบุ๊ค และใช้ CPU ของทาง AMD Ryzen 9 แทนเท่านั้น โดยจะเป็นตัวเลือกอีกหนึ่งตัวที่มีความแรงแทบไม่ต่างกัน ในการใช้งานที่แตกต่างกันนั้นเอง ของแถมในกล่องก็เหมือนกันเลย โดยจะมีปากกา ASUS Pen SA201H และกระเป๋า GV301 sleeve bag รวมถึงที่ชาร์จ 100W แถมมาให้ภายในกล่องเช่นกัน

ROG Flow X13 ติดตั้งระบบ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home and Student มาให้ และเปิดราคามาย่อมเยากว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 59,990 บาท ได้รับการประกันระดับพรีเมี่ยมยาวถึง 3 ปีเช่นกันครับ

• Local Onsite Service 3 ปี เครื่องมีปัญหามีบริการไปซ่อมถึงที่
• Global warranty  3 ปี เข้าศูนย์ได้ 80 ประเทศทั่วโลก
• Perfect Warranty 1 ปี ประกันอุบัติเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะน้ำหกใส่ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือเครื่องตกหล่น

ทั้งสองอุปกรณ์เป็นแล็ปท็อปพกพาที่ให้ประสิทธิภาพความแรงอยู่ระดับสูงสุด พร้อมการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อครีเอเตอร์และคนเล่นเกมโดยเฉพาะ เครื่องราคาพรีเมี่ยมที่ให้คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บจำหน่ายจองทางผู้ผลิตโดยตรงได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยนะครับ

ROG FLOW Z13 | ROG FLOW X13

ข่าว: รีวิวรวม ROG Flow X13 และ Flow Z13 แท็บเล็ตเกมมิ่งสุดยอดดีไซน์ กับความแรงที่สุดในโลก มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/review-asus-rog-flow-z13-x13-ryzen9-corei9/

หลุดผลทดสอบ Core i5-13600K บน Cinebench R23 ความแรงเกือบเท่า Ryzen 9 5950X

ช่วงนี้มีข่าวซีพียูฝั่งพีซีเกทับความแรงกันออกมาถี่เหลือเกิน ล่าสุดถึงตาซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นกลางขวัญใจมหาชนอย่าง Core i5 Gen 13 (Raptor Lake) กันบ้าง โดยเว็บไซต์ bilibili คนนำผลทดสอบของ Core i5-13600K บน Cinebench R23 ออกมาโพสต์ให้ดูก่อนเปิดตัว พบว่าแรงเกือบเทียบชั้น Ryzen 9 5950X ตัวแรงสุดของ AMD ในปัจจุบันเลยทีเดียว

คะแนนทดสอบ Core i5-13600K ซึ่งระบุว่ายังเป็นรุ่นทดสอบแบบ Engineering Sample 3 (ES3) อยู่ ได้ Single-Core 1,387 คะแนน และ Multi-Core 24,420 คะแนน ขณะที่ Ryzen 9 5950X ที่มีสเปค 16 Core 32 Thread เคยถูกทดสอบไว้ที่ Single-Core 1,612 คะแนน และ Multi-Core 24,545 คะแนน จะเห็นว่า Multi-Core อีกนิดจะเกือบเท่ากันแล้ว

คะแนนทดสอบ Core i5-13600K (ES3) บน Cinebench R23

 

คะแนนทดสอบ Ryzen 9 5950X บน Cinebench R23

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับรุ่นเก่าอย่าง Core i5-12600K ตัว Gen 13 กลับแรงขึ้นกว่าเดิมเฉพาะ Multi-Core อย่างเดียว 40% ส่วน Single-Core ติดลบ 26% ไปซะอย่างงั้น (เคยได้ถึง 1,900+ คะแนน) ซึ่งก็ยังไม่มีคำอธิบายว่าเกิดจากความผิดพลาดในการเทสอย่างไรรึเปล่า เพราะผลเทสฝั่ง CPU-Z กลับยังบอกว่าแรงขึ้นทั้งคู่ คงต้องรอให้มีการทดสอบตัวที่สมบูรณ์ขึ้นกว่านี้ก่อนครับ

ทางด้านสเปคของ i5-12600K ที่หลุดออกมาพร้อมกัน ระบุว่าถูกอัปเกรดเพิ่มจาก 6 P-Core + 8 E-Core, 16 Thread บน Gen 12 มาเป็น 6 P-Core + 8 E-Core, 20 Thread แล้ว (เพิ่มแต่เธรดอย่างเดียว) แถมยังมีค่า Clock สูงขึ้น, L2 เพิ่มความจุขึ้น และ L3 เร็วขึ้นด้วย แต่ยังไม่บอกปริมาณ ส่วนค่า TDP ยังเป็น 125W เท่าเดิม ซึ่งหากมองเป็นภาพรวมแล้วถือว่าทำประสิทธิภาพออกมาได้สูงกว่าเดิมมากจริง ๆ ส่วนคะแนนจะเปลี่ยนแปลงจากนี้อีกหรือไม่ เดี๋ยวคงต้องรอติดตามดูกันต่อไป

 

 

ที่มา : VideoCardz

from:https://droidsans.com/core-i5-13600k-is-almost-as-fast-as-ryzen-9-5950x/

ASUS เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 16 โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง 2 หน้าจอ สเปคแรงที่สุดในโลก

ASUS เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 16 โน้ตบุ๊ค 2 หน้าจอแบบ Mini LED ที่รองรับระบบสัมผัสและใช้ปากกาวาดรูปขีดเขียนได้  แถมยังตอบโจทย์คอเกม ด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์ระดับไฮเอนด์ AMD Ryzen 9 6980HX และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX 3080 Ti ซึ่งทาง ASUS เคลมว่ามันเป็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งแบบ 2 หน้าจอที่มีสเปคแรงสุดในโลกตอนนี้แล้ว

หนึ่งเครื่อง สองหน้าจอ

ROG Zephyrus Duo 16 เสริมความสุดอีกขั้นด้วย ROG ScreenPad Plus ซึ่งเป็นหน้าจอที่ 2 มีขนาดอยู่ที่ 14.1 นิ้ว มาพร้อมความละเอียดสูงระดับ 4K รองรับระบบสัมผัส ทำให้เราเล่นเกมไปพร้อมกับใช้โปรแกรมอื่นได้ในเวลาเดียวกันเลย ส่วนเรื่องความลื่นไหลในการใช้งานทั้ง 2 หน้าจอไม่ต้องเป็นกังกลเลยเพราะตอนที่เรายกหน้าจอหลักขึ้น พร้อมกับยกหน้าจอที่ 2 ขึ้นไปด้วย ทั้งสองจะเข้ามาแนบกันชิดติดจนแทบไม่มีขอบหน้าจอเลย และในส่วนของ Software นั้น ROG Zephyrus Duo 16 รองรับ Windows 11 เวอร์ชั่นเต็ม ที่มีการจัดการแอปต่าง ๆ ให้ใช้ระหว่าง จอหลัก และจอที่ 2 ได้แบบลื่นไหลได้อารมณ์แทบจะเหมือนว่าใช้จอเดียวกันอยู่

สำหรับหน้าจอหลัก มีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2,560 x 1,600) อัตราส่วน 16:10 พร้อมกับขอบหน้าจอที่บางเฉียบทำให้ได้สัดส่วนพื้นที่หน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องสูงถึง 91% สามารถแสดงสีสันได้กว้างที่สุดตามมาตรฐานช่วงสี 100% DCI-P3 เกรดเดียวกับการทำภาพยนตร์ Nebula HDR เลือกใช้เทคโนโลยีแบบ Mini LEDs และมี dimming zones มากถึง 512 โซน ที่ให้ความสว่างมาสูงสุดกว่า 500 nits และสว่างได้สูงสุดไปถึง 1100 nits พร้อมเอาใจ Gamer ด้วยหน้าจอ รีเฟรชเรท 165Hz

ประสิทธิภาพแรงสุด

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพมาพร้อม โปรเซสเซอร์ (สูงสุด) AMD Ryzen 9 6980HX และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX 3080 Ti แรงทะลุมิติ มาพร้อม RAM แบบ DDR5 ขนาดสูงสุด 64GB เสริมความแรงอีกขั้นด้วย SSD NVMe PCIe® Gen 4×4 ขนาดความจุสูงสุด 2TB

เครื่องแรงขนาดนี้แค่ความร้อนไม่แรงตามแน่นอน เพราะ ROG Zephyrus Duo 16 มาพร้อมกับชุดระบายความร้อนแบบไฮเอนด์เช่นเดียวกัน เลือกใช้สารนำความร้อนแบบโลหะเหลวที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วย Thermal Grizzly Conductonaut Extreme สารนำความร้อนแบบพิเศษ นี้มีคุณสมบัติในการนำความร้อนสูงกว่าสารนำความร้อนทั่วๆไปมากถึง 17 เท่า ช่วยให้ Zephyrus Duo 16 มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าถึง 15°C องศา ทำให้ CPU และ GPU สามารถทำงานที่ความเร็วสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเค้นประสิทธิภาพสูงสุดของโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ออกมา

 

ROG Zephyrus Duo 16 เลขรุ่น (GX650RX-LO145WS) สนนราคาค่าตัวมาที่ 159,990 บาท และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ใครที่สนใจก็ลองไปสั่งจองกันได้ตามร้านไอทีชั้นนำได้เลย (แต่เท่าที่เช็คมาของหมดไปหลายร้านแล้วนะ)

from:https://droidsans.com/asus-zephyrusduo16-2022/

Origin PC ผุดเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก Ryzen 9 ร่วม GeForce RTX 144Hz

ช่วงนี้้เรียกว่ามากันโหดๆ สำหรับโน้ตบุ๊กและพีซีรุ่นใหม่ ที่แม้จะมีสถานการณ์ไวรัสระบาด แต่ก็ไม่อาจหยุดกระแสความแรงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พรั่งพรูกันมา เช่นเดียวกับ Origin PC ที่คราวนี้เดินหน้าเอา เกมมิ่งโน้ตบุ๊ก ตัวแรง EON15-X รุ่นใหม่ เติมไลน์ให้เต็ม จากรุ่นเดิมที่ใช้ Intel Core i Gen9 มาถึงเวลานี้ก็มีตัวเลือกอย่าง AMD Ryzen 9 และ GeForce RTX รวมถึงสเปคที่จัดมาให้คอเกมสุดๆ

สำหรับขุมพลังที่เป็นหัวใจหลัก งานนี้เป็นของ AMD Ryzen 9 3900 ในแบบ 12 core/ 24 thread และที่เด็ดสุดคือ การจับคู่ nVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q การ์ดจอระดับเทพ มาคู่กัน โดยมีหน้าจอขนาด 15.6″ 144Hz มาด้วย ไม่ใช่แค่การเล่นเกมทั่วไป แต่เน้นไปที่ AAA และเปิด Detail เล่นกันแบบละเอียด พร้อมกับใช้งาน Ray-Tracing อีกด้วย ในแง่ของการติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ รองรับ SSD ในแบบ M.2 PCIe ได้ที่ 2TB จำนวน 2 ชุด พร้อมพื้นที่ในการอัพเกรดไดรฟ์ 2.5″ ไม่ว่าจะเป็น HDD หรือ SSD SATA ได้ พร้อมสล็อตแรมที่อัพเกรดได้ถึง 32GB DDR4 2666 และสิ่งที่น่าใจก็คือ คีย์บอร์ดไฟ RGB

สเปค Origin PC EON15-X

• Up to a 12 core AMD Ryzen 9 3900 desktop CPU
• 15.6″ 144Hz FHD (1080p) narrow bezel display
• Up to an NVIDIA GeForce RTX 2070 graphics card with Max-Q design
• Up to 2 x 2TB m.2 PCIe SSDs and 1 x 2.5″ SSD/HHD/SSHD
• Up to 32GB (2 x 16GB) DDR4 2,666MHz RAM
• Intel Wi-Fi 6 AX200
• Full RGB backlit keyboard

ที่มา: Origin PC EON15-X

 

from:https://notebookspec.com/origin-pc-gaming-notebook-ryzen-9/516261/

AMD Ryzen 9 4900HS ซีพียูโน้ตบุ๊ก เร็วทะลุ 4.4GHz บน ROG

แม้จะยังไม่ได้การยืนยันจาก AMD ว่าความเร็วระดับโลกบนซีพียูโน้ตบุ๊กล่าสุดที่มีข้อมูลหลุดออกมา AMD Ryzen 9 4900HS นี้ จะมีบนโน้ตบุ๊กรุ่นใดเป็นรายแรก แต่ถ้าดูจากข้อมูลในวันนี้ Ryzen 4000 HS series อาจเป็น Exclusive สำหรับ ASUS ROG series และยังเป็นซีพียูแบบ Custom ที่มีค่า TDP 35W (ปกติ H series 45W) จากข้อมูลของหน้าร้านออนไลน์แห่งหนึ่งของ Romanian store โดยข้อมูลของซีพียู Ryzen 9 4900HS นี้ มาพร้อมความเร็วระดับ 4.4GHz ซึ่งเร็วกว่า 4800HS อยู่ถึง 200MHz เลยทีเดียว

จากข้อมูล Ryzen 9 series ที่รั่วไหลออกมานี้ มีชุดกราฟิก Compute unit 8 ชุด แต่ตัวเลขนี้ยังไม่เป็นการยืนยันอย่างชัดเจน หากเรามองไปที่ 4800HS ซึ่งมีอยู่ 7 Compute Unit โดยที่โน้ตบุ๊ก (GA401IV-HA037) นี้ มีราคาอยู่ที่ราว 1,900 EUR หรือราว 66,000 บาท ซึ่งมาพร้อมกราฟิกแยก nVIDIA GeForce RTX 2060 Max-Q พร้อมกับแรม DDR4 3200 32GB หน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด 1440p และ SSD M.2 1TB

แทบไม่ต้องสงสัยว่าโน้ตบุ๊กรุ่นนี้จะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับอัลตร้าพรีเมียมตัวแรก ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ของ AMD ในปีนี้ ส่วนโน้ตบุ๊กอื่นๆ จะใช้กราฟิก Radeon RX 5600M และ 5700M ทำให้ดูเหมือนว่าเวลานี้ผู้ที่สนใจในโน้ตบุ๊ก AMD จะมีตัวเลือกมากมายในตลาด จับคู่ AMD-nVIDIA หรือ AMD-AMD ก็มีครบ เช่นเดียวกับ ROG G14 และ G15 ที่ต้องถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่โดดเด่นอย่างมากในเวลานี้ ด้วยซีพียู AMD Zen 2 และ กราฟิก nVIDIA Turing

 

ที่มา: AMD Ryzen 9 4900HS

from:https://notebookspec.com/amd-ryzen-9-4900hs-mobile-cpu/511616/

AMD – เตรียมปล่อยชิป Ryzen 9 4900H และ Ryzen 7 4800H ลงตลาด Gaming Notebook เร็วๆ นี้

ในปี 2019 ที่ผ่านมานั้นคงต้องยอมรับกันแบบตรงๆ จริงๆ ว่าหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 ที่มีชื่อในการวางจำหน่ายเป็นซีรีย์ Ryzen 3000 สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะแล้วได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนทำให้ทาง Intel สั่นคลอน อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นดูเหมือนกับว่าหากเป็นฝั่งหน่วยประมวลผลของ Gaming Notebook แล้วหน่วยประมวลผลของทาง AMD นั้นจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไรนักเพราะประสิทธิภาพยังคงตามหน่วยประมวลผลของทาง Intel อยู่แบบห่างๆ

อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นดูเหมือนในช่วงปี 2020 นี้ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไปเพราะล่าสุดนั้นทาง AMD ได้มีการออกมาเผยข้อมูลว่าทางบริษัทเตรียมที่จะส่งหน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับชิปกราฟิกแบบฝัง (APU) ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 2 โดยใช้ชื่อทางการตลาดว่าซีรีย์ Ryzen 4000H ให้กับผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแล้ว โดยรุ่นที่มีความพร้อมแล้วนั้นก็จะประกอบไปด้วย Ryzen 9 4900H และ Ryzen 7 4800H โดยที่ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมาพร้อมกับแกนการประมวลผล 8 แกน 16 เทรด

ด้วยความที่ตัวหน่วยประมวลผลนั้นมีกราฟิกชิปแบบฝังมาด้วยดังนั้นแล้วตัวชิปกราฟิกแบบฟังนั้นจะยังคงเป็นชิปกราฟิกสถาปัตยกรรม Vega อยู่ซึ่งหากเทียบกับทาง Intel ในปัจจุบันที่ใช้ชิปกราฟิก Intel UHD แล้วนั้นงานนี้ทาง AMD จะได้เปรียบทางด้านการประมวลผลกราฟิกกว่าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นทาง AMD ยังคงไม่มีการเผยข้อมูลออกมาเท่าไรมากนักว่า Ryzen 9 4900H และ Ryzen 7 4800H นั้นมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาอยู่ที่เท่าไร

หมายเหตุ – ทาง Tom’s Hardware ได้มีการรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าทาง AMD นั้นจะมีหน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับกราฟิกชิปแบบฝังรุ่นใหม่อย่าง Ryzen 5 4600HS และ Ryzen 7 4800HS ไว้อีก ทว่าสัญลักษณ์ S ที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นยังคงเป็นปริศนาว่าสรุปแล้วมันคือการเผยถึงส่วนใดของหน่วยประมวลผลกันแน่ ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือตัวสัญลักษณ์ S นั้นอาจจะหมายความว่าหน่วยประมวลผลดังกล่าวนั้นใช้พลังงานน้อยกว่าปกติก็เป็นได้

ที่มา : notebookcheck

from:https://notebookspec.com/amd-may-soon-release-ryzen-9-4900h-and-ryzen-7-4800h-apus-with-8-cores/506169/

AMD E3 – AMD เปิดตัว Ryzen 9 3950X อัดมา 16 คอร์ เร็วสุด 4.7GHz แต่กิน TDP แค่ 105W

เรียกว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์กันเลยทีเดียวครับ สำหรับการเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ในสถาปัตยกรรม Zen 2 อย่างชิปตระกูล AMD Ryzen 3000 ที่นอกเหนือจากจะมี Ryzen 9 3900X ที่ก่อนหน้านี้วางกันไว้ว่าน่าจะเป็นรุ่นท็อป ด้วยคอร์ที่ให้มาถึง 12 คอร์ 24 เธรด แต่ในงาน AMD Next Horizon Gaming Tech Day ที่ผมได้ไปร่วมงานนั้น ในระหว่างเซสชั่นการพูดเกริ่นภาพรวมของคุณ Lisa Su ในวันแรกที่เริ่มเข้าสู่สาระจริงจังนั้น กลับมีการเปิดตัวชิปรุ่นท็อปยิ่งกว่าออกมาอีก นั่นก็คือ AMD Ryzen 9 3950X ที่นับเป็นชิปประมวลผลระดับ consumer สำหรับการเล่นเกมรุ่นแรกที่มีถึง 16 คอร์ 32 เธรด

ซึ่งในตอนที่เปิดข้อมูลออกมา เรียกว่าทุกสื่อที่นั่งฟังในงานช็อคกันไปหมดเลย เพราะไม่นึกว่า AMD จะมีเซอร์ไพรส์เรื่อง Ryzen ซ่อนอยู่อีก โดยรายละเอียดที่มีการเปิดเผยของชิป AMD Ryzen 9 3950X ในงาน Tech Day ก็มีดังนี้ครับ

• มีทั้งหมด 16 คอร์ 32 เธรด
• ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 3.5 GHz รองรับการ boost ได้ถึง 4.7 GHz
• แคชทั้งหมด 72 MB
• มีการปล่อยความร้อน TDP ออกมาแค่ 105W เท่านั้น

โดยไฮไลท์ก็อยู่ตรงที่ทั้งสี่หัวข้อนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องคอร์ที่ให้มาถึง 16 คอร์ สถาปัตยกรรม Zen 2 ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านของระดับสถาปัตยกรรมการผลิตทรานซิสเตอร์ไปใช้ที่ระดับ 7nm ที่ส่งผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น โดยใช้พลังงานน้อยลง การรองรับแรมที่ตัวชิปคอนโทรลเลอร์รองรับมาแบบชัวร์ๆ เลยก็ DDR4-3200 (และยังรองรับการโอเวอร์คล็อกแรมได้อีกไกล) ประกอบกับฝั่งชิปเซ็ต AMD X570 เองก็จัดเต็มในด้านของ I/O เพิ่มขึ้นด้วย

ต่อมาก็ประเด็นเรื่องของความเร็วสัญญาณนาฬิกาครับ หากเปรียบเทียบ Ryzen 9 3950X กับ Ryzen 9 3900X ก็จะเห็นว่าตัวของ 3950X จะมีความเร็วที่น้อยกว่ากันนิดนึง แต่ก็แลกมาด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่า แคชโดยรวมที่มากกว่า ก็น่าจะเป็นทางเลือกได้เป็นอย่างดีเลย สำหรับคนที่อาจจะต้องการคอร์เยอะ ๆ ก็ไปจับ 3950X หรือถ้าต้องการความแรงต่อคอร์ที่เยอะกว่า ก็จับ 3900X แทนได้

อีกข้อที่ถือว่าทำได้น่าประทับใจมากก็คือค่า TDP ของ Ryzen 9 3950X ที่ทำออกมาได้เพียง 105W เท่านั้น ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับการเลือกใช้สถาปัตยกรรมระดับ 7nm ที่ทำให้สามารถอัดทรานซิสเตอร์เพื่อเพิ่มจำนวนคอร์ได้มากขึ้น โดยมีขนาดดายที่เล็กลง ความร้อนโดยรวมของตัวชิปก็ลดลงตามด้วย เท่ากับว่าคุณสามารถใช้คอมที่มีชิป 16 คอร์ โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยลมก็ยังไหวเลย

สำหรับ AMD Ryzen 9 3950X จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนนี้ครับ สนนราคาที่ $749 (ประมาณ 24,000 บาท) ใครที่สนใจอาจจะต้องรอกันซักนิดนึง

และนอกเหนือจากการเปิดเผยข้อมูลแล้ว ในงาน AMD Next Horizon Gaming Tech Day 2019 ยังมีโชว์โอเวอร์คล็อกชิป AMD Ryzen 3950X โชว์กันสด ๆ อีกด้วย แต่ชิปที่นำมาใช้นั้นยังเป็นรุ่นสำหรับการทดสอบทางวิศวกรรม (engineering sample) อยู่ครับ โดยความเร็วพื้นฐานของชิปจะอยู่ที่ 3.1 GHz เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นตัวที่ขายจริง แต่มาดูผลทดสอบกันว่าจะขนาดไหน

โดยในการสาธิตครั้งนี้ จะมีจอมาให้อัพเดตคะแนนเมื่อสามารถทำลายสถิติโลกเอาไว้ด้วยครับ

สเปคเครื่องที่ใช้ทดสอบ คร่าว ๆ ก็คือชิป Ryzen 9 3950X รุ่น ES เมนบอร์ด MSI MEG X570 Godlike แรม G.Skill Trident Z Royal RGB 16 GB (ชิป Samsung B die)

ในงานนี้ก็จะมีการทดสอบเพื่อทำลายสถิติด้วยกัน 5 รายการครับ ได้แก่ Cinebench R15, Cinebench R20, Geekbench 4 Multi, 3DMark 11 Physic และก็ Y-cruncher 18 โดยระหว่างทำคะแนน ก็มีการโอเวอร์คล็อกกันไปเรื่อย ๆ โดยส่วนของตัวชิป CPU ก็จะทำผ่านโปรแกรม Ryzen Master เวอร์ชันใหม่ ส่วนของแรมก็จะโอเวอร์คล็อกผ่านทางหน้าไบออสของเมนบอร์ด ผลออกมาก็ตามภาพด้านล่างนี้เลย

เมื่อเทียบกับคะแนนสูงสุดของกลุ่มชิป 16 คอร์ด้วยกัน ปรากฏว่า Ryzen 9 3950X รุ่นทดสอบที่มีคล็อกต่ำกว่าตัวขายจริงนั้น สามารถทำลายสถิติได้ 3 รายการครับ คือใน Cinebench R15 กับ R20 และก็ Geekbench 4 Multi โดยมีการโอเวอร์คล็อกแรมขึ้นไปที่ 4533 MHz ซึ่งเท่าที่ผมลองดูเรื่องของการเล่นแรม บอกเลยว่าน่าจะถูกใจคอ Ryzen ที่อยากเล่นแรมบัสสูง ๆ แน่นอน เพราะมันสามารถลากความเร็วได้ง่าย กด CL ได้พอควร ถือว่าลบจุดอ่อนของ Ryzen ในด้านแรมได้ดีมากเลย

from:https://notebookspec.com/amd-e3-amd-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7-ryzen-9-3950x-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a1%e0%b8%b2-16-%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%a3/483772/

AMD – Ryzen 9 3850X ทำงาน 16 Core 32 Thread ถล่ม Threadripper ชิประดับสูงได้อย่างสบายๆ

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วครับกับงาน Computek 2019 ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์นับจากนี้ ซึ่งตามข้อมูลเก่านั้นได้มีการบอกเอาไว้ครับว่าทาง AMD นั้นจะใช้โอกาสในงานดังกล่าวนี้เปิดตัวหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 ที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิตระดับ 7 nm โดยมีชื่อแล้วว่าซีรีย์ และตามกำหนดการนั้นหากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนไปแล้วล่ะก็ในวันที่ 7 เดือน 7 นี้ Ryzen 3000 ซีรีย์ก็จะทำการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ

ล่าสุดนั้นมีข้อมูลของตัวหน่วยประมวลผลในซีรีย์ Ryzen 3000 รุ่นท๊อปสุดหลุดออกมาครับกับ Ryzen 9 3850X ที่จะมาพร้อมกับแกนการประมวลผลสูงถึง 16 แกน 32 threads โดยที่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดของหน่วยประมวลผลรุ่นนี้นั้นจะอยู่ที่ 5.1 GHz ซึ่งราคาวางจำหน่ายนั้นจะอยู่ที่ $499 หรือประมาณ 15,750 บาทเท่านั้น งานนี้เรียกว่าสามารถที่จะขุดหลุมฝัง Ryzen Threadripper รุ่นแรกได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียวครับ

ข่าวลือนั้นจริงๆ แล้วก็ถือว่ามีมูลครับเพราะก่อนหน้านี้นั้นทาง AMD เองก็ได้มีการนำเอา Ryzen Threadripper ออกจากแผนการพัฒนาประจำปี 2019 ออกไปดังนั้นแล้วในการพัฒนานั้นทาง AMD เองก็คงไม่ต้องการให้เกิดการสู้กันเองของหน่วยประมวลผลจากทาง AMD เพราะ ณ เวลานี้นั้น Ryzen Threadripper 2990WX ก็ยังคงวางจำหน่ายอยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วถึงแม้ทาง AMD จะนำเอา Ryzen Threadripper ซีรีย์ 3000 ออกไปจากแผนการพัฒนาประจำปี 2019 ทว่าทาง AMD เองนั้นก็คงจะยังไม่ทิ้ง Ryzen Threadripper ง่ายๆ โดยได้มีการคาดการณ์กันเอาไว้ว่า Ryzen Threadripper 3990WX(หรือ Ryzen Threadripper รุ่นที่ 3) น่าจะยังคงมีการออกมาวางจำหน่ายแต่ก็จะเป็นในปี 2020 ไปเลยครับ

ที่มา : tweaktown

from:https://notebookspec.com/amds-new-ryzen-9-3850x-16c32t-chip-kills-threadripper/480690/

AMD – หลุดสเปกชิป Ryzen 9 3800X ทำงานแบบ 16-Core ความเร็ว 4.7GHz ประมวลผลจุใจกันไปเลย

มีข้อมูลหลุดของชิป CPU AMD Ryzen 3000 16-Core มาใหม่จากผู้ให้ข้อมูลนาม Tum Apisak ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับตัวชิปทดสอบสำหรับวิศวกร ตัวชิป 16-Core นี้ จะเป็นตัวต้นแบบ Prototype อยู่ ออกแบบมาให้ใช้งานกับชิปเช็ต X570 จากข้อมูลที่บอกว่า ตัวชิปนี้ไม่ได้มีชื่อรหัสพัฒนาวงใน ดังนั้นจึงยังไม่แน่ใจว่าชื่ออย่างเป็นทางการนั้นใช้ว่าอะไร และสเปกนั้นก็ไม่ได้เหมือนกันเลยกับข้อมูลหลุดก่อนหน้าของ AdoredTV

ข้อมูลจาก Tum Apisak บอกว่าชิป 16-Core ตัวนี้ จะทำงานที่ความเร็ว 3.2 GHz แล้วในโหมดเทอร์โบสามารถวิ่งไปได้ถึง 4.5 GHz ความใกล้เคียงกันที่น่าจะเป็นมากที่สุด กับของ AdoredTV มากที่สุดคือ Ryzen 9 3800X ที่ทำงานด้วยความเร็ว 3.9 GHz และเทอร์โบได้ถึง 4.7 GHz

โดยปกติแล้ว ตัวทดสอบของวิศวกรนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนสเปกภายในทีหลัง ก่อนที่จะเปิดตัวเวอร์ชั่นสุดท้ายสำหรับจำหน่ายจริงออกมา ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ ว่าตัวที่กำลังพูดถึงนี้ อาจเป็นตัวทดสอบของ Ryzen 3800X จริงๆ

อีกตัวที่น่าสนใจจากข้อมูล ที่ตรงกัน คือชิป 12-Core ที่มีความเร็วในการทำงานสูงกว่า Ryzen 7 3700X วิ่งที่ 4.2 GHz พร้อมเทอร์โบถึง 5.0 GHz

ที่มา: Notebookcheck

from:https://notebookspec.com/amd-ryzen-3000-16-core-leaked/480533/