คลังเก็บป้ายกำกับ: ซื้อโน้ตบุ๊ค

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ท่องเน็ต งานเอกสาร 8 รุ่นเด็ดต้องจัดแล้ว!

8 โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 สเปคดี พกพาง่าย ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ท่องเน็ต เทรดหุ้นปี 2023

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 ทั้ง 8 รุ่นของช่วงต้นปี 2023 ที่หยิบมานำเสนอในครั้งนี้ เอาใจผู้ใช้ที่ต้องการจะเริ่มต้นกับโน๊ตบุ๊คราคาเบาๆ แต่สามารถนำมาใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน เทรดหุ้น หรือเรียนออนไลน์ ที่เหมาะทั้งผู้ใช้มือใหม่ รวมถึงผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องที่สอง โดยมีให้เลือกทั้งหน้าจอขนาดเล็ก เพื่อความสะดวกในการพกพา และจอใหญ่ระดับ 15.6″ สำหรับการดูหนัง ทำงานที่ต้องการพื้นที่แสดงผล โดยจะมีเรื่องของการแนะนำการเลือกใช้ ข้อสังเกต โดยเฉพาะกับเรื่องประสิทธิภาพ พอร์ตต่อพ่วงและระยะเวลาในการใช้งาน ที่ต้องตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันได้ เชื่อว่าจะมีคำตอบให้กับคุณในการเลือกใช้


โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000


เลือกโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 อย่างไรดี?

หน้าจอแสดงผล: เป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ เพราะจะบอกถึงบุคลิกการใช้งานของผู้ใช้ได้เลย หากคุณชอบความสะดวก หน้าจอขนาดเล็ก และขนาดที่บางเบา ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะประหยัดพื้นที่จัดวาง พกพาสะดวกและน้ำหนักเบา โดยมีตั้งแต่ 11.6″-13.3″ แต่ตัวเลือกอาจจะไม่มากนัก หลายรุ่นทำออกมาเพื่อการพกพา ประหยัดพลังงาน แต่ถ้าต้องการทำงานจริงจังมากขึ้น ดูหนัง ทำเกี่ยวกับด้านภาพ จอใหญ่ระดับ 15.6″ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ก็ยังมีตัวเลือกที่เป็นจอ HD และจอความละเอียดสูง Full-HD ที่ผู้ใช้ต้องนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะพื้นที่การใช้งานจริงจะต่างกันพอสมควร

Advertisementavw
โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000

สเปค: เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูกันในภาพรวม เพราะจะมีความหลากหลาย โดยโน๊ตบุ๊คระดับราคา 10,000 บาทนี้ จะมีทั้ง AMD Athlon ที่เป็นน้องเล็ก ไปจนถึง AMD Ryzen 3 ที่เน้นประสิทธิภาพเริ่มต้น หรือค่าย Intel ที่มีตัวเลือกเป็น Pentium ไปจนถึง Core i3 ส่วนแรมจะมีให้ 4GB เป็นพื้นฐาน แต่ถ้าอัพเกรดได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ส่วน SSD เริ่มต้นที่ 256GB ถ้าเป็นไปได้ควรมองหาอุปกรณ์ช่วยจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม กราฟิกจะเป็น Integrate มากับซีพียูเกือบทั้งหมด ดังนั้นแล้วการอัพเกรดแรม จะช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000

น้ำหนัก: เรื่องของน้ำหนัก จะมีผลสำหรับคนที่ต้องพกพา เช่น เอาไปทำงานด้วย ไปเรียน หรือนำไปใช้งานนอกสถานที่ โดยต้องถือไปควบคู่กับอุปกรณ์อื่น ซึ่งจะทำให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณมีไลฟ์สไตล์แบบนั้น แนะนำให้เลือกที่เบาที่สุด แต่ก็อาจจะได้หน้าจอที่เล็กลง แต่ถ้าการเดินทางของคุณไม่ได้ซับซ้อน ขึ้นรถลงเรือ แค่โยนใส่รถยนต์แล้วเดินทาง จะเลือกเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ในราคาที่ถูกลง และได้พื้นที่แสดงผลมากขึ้น ก็ดูน่าสนใจ

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000

แบตเตอรี่: จำเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องไปใช้งานข้างนอก เพราะหลายครั้งเราจะหาพื้นที่ทำงานที่มีที่ชาร์จได้ยาก แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ จะช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนานขึ้น ซึ่งในครั้งนี้เราจะเห็นแบตเตอรี่ระดับ 36WHrs ไปจนถึง 55WHrs ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรในเรื่องราคาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีความอึดทนของระยะเวลา ก็ขึ้นอยู่กับงานและการปรับแต่งค่าให้เหมาะสมด้วย ไม่ว่าจะเป็น Power option, Brightness หรือจะเป็น Sound ที่ล้วนเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น


1.ASUS Chomebook CX1

สำหรับ ASUS รุ่นนี้ ต้องถือว่าเป็น Chromebook ในรุ่นแรกๆ ที่ยังได้รับความนิยมในตลาดอยู่พอสมควร เพราะราคาต่ำกว่าหมื่น และยังมีลูกเล่นที่ใช้งานได้ครบคุ้มค่า เรียกว่าใช้ในงานทั่วไปในแต่ละวันได้ไม่ยาก ขุมพลัง Intel Celeron 4 core/ 8 thread พร้อมแรม 4GB กับดีไซน์ที่บางเบา พกพาสะดวก หน้าจอไม่ใหญ่นัก ปรับให้กระชับมองได้สบายตา แต่ให้ Resolution ระดับ HD เท่านั้น กางจอได้ 180 องศา ขอบจอจะหนาเล็กน้อย ตามสไตล์ของ Chromebook ส่วนคีย์บอร์ดมาแบบปุ่มใหญ่ กดง่าย พอร์ตแม้จะดูจำกัด แต่ก็ให้ USB-C มาด้วยเช่นกัน น้ำหนักประมาณ 1.2Kg เท่านั้น เรียกว่าพกพาไปใช้งานได้สบาย แบตให้มาเกินตัว เพราะเป็นแ 42WHrs ใช้งานต่อการชาร์จได้หลายชั่วโมง การเชื่อมต่อผ่าน WiFi 802.11ac เป็นหลัก ระบบปฏิบัติการ Chrome OS เหมาะกับผู้ใช้มือใหม่ หรืออยากได้โน๊ตบุ๊คบางๆ เบาๆ ใช้งานทั่วไป แบตอึด รวมถึงอยากได้อะไรที่คล่องตัวกว่าแท็ปเล็ต แต่ไม่ถึงกับโน๊ตบุ๊ค เคาะราคามา 6,990 บาท สบายกระเป๋า

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 11.6″ HD
  • Intel Celeron N4120
  • LPDDR4 4GB
  • eMMC 32GB
  • Intel UHD600
  • 3-cell 42WHrs
  • 1.24Kg
  • Chrome OS
  • 6,990 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
ราคาประหยัด หน้าจอขนาดเล็ก
บางเบา พกพาสะดวก

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


2.Lenovo IdeaPad 1 15ADA782R

ส่วนถ้าใครอยากได้โน๊ตบุ๊คที่เป็น Windows ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท Lenovo รุ่นนี้ก็น่าสนใจ ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นจัดมาครบๆ พร้อมจอใหญ่ 15.6″ มองเห็นข้อมูลได้เต็มตา หรือว่าดูหนังได้สนุกมากขึ้น ด้วยพื้นที่กว้าง ความละเอียด Full-HD บอดี้แข็งแรง มาในโทนสีเทา และยังจัดอยู่ในธีมของ IdeaPad สวยงาม โดยใช้ขุมพลัง AMD Athlon 3150U ทำงานแบบ 2 core/ 4 thread พร้อมกราฟิกในตัว ใช้งานด้านกราฟิกเบื้องต้น การเล่นเกมเบาๆ ได้ โดยเฉพาะเกมแนว Casual ที่ไม่ดึงสเปคมากมายนัก แรมให้มา 4GB DDR4 อัพเกรดเพิ่มได้ และมี SSD 256GB และที่สำคัญมี Windows 11 Home มาอีกด้วย ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม พอร์ตมีให้เยอะ ตั้งแต่ USB 3.2, USB Type-C และ HDMI แบตเตอรี่แบบเบาๆ 42Whrs ใช้งานได้พอสมควร คีย์บอร์ด Full-size แต่ไม่มีแสงไฟ Backlit มาให้ น้ำหนักประมาณ 1.6Kg. ราคาอยู่ที่ 9,400 บาท มีประกันอุบัติเหตุเพิ่มอีก 1 ปี

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 15.6″ Full-HD
  • AMD Athlon 3150U
  • DDR4 2400 4GB (Upto 12GB 4GB Onboard+8GB slot)
  • SSD 256GB PCIe
  • AMD Radeon Graphic
  • 3-cell 42Whrs
  • Weight 1.6Kg
  • Windows 11 Home
  • 9,400 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
น้ำหนักเบา พอร์ต USB-C เน้นถ่ายโอนไฟล์เท่านั้น
อัพเกรดแรมเพิ่มได้

ไปช้อปกันได้ที่: Lenovo


3.ACER TravelMate TMP214

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 บาท ซึ่งออกแบบมาเพื่อกลุ่มทำงานโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นฟีเจอร์มากมาย แต่ให้สเปคมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะซีพียูที่จัดมาเป็น AMD Ryzen 3 Pro 4450U ซึ่งตอบโจทย์งานในหลายๆ ด้านได้ดี มีคอร์/เธรด มากขึ้น เหมาะกับงานด้านมัลติทาส์กหลายงานพร้อมกัน โดยมีแรม DDR4 4GB และ SSD M.2 256GB รวมถึงการ์ดจอที่มากับซีพียู AMD Radeon Graphic เน้นไปที่ความบันเทิงทั่วไป และการทำงาน 2D/3D เป็นหลัก แต่จุดเด่นอยู่ที่พอร์ตจัดมาเต็มทั้ง USB 3.2 3 พอร์ต และ HDMI, VGA รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้ง WiFi6 ax และ Gigabit LAN RJ-45 ที่สำคัญมี SD Card Reader มาในตัวอีกด้วย แบตเตอรี่จัดว่าใหญ่ เป็นแบบ 3-cell 48WHrs น้ำหนักประมาณ 1.6Kg ราคาซื้อออนไลน์ 9,690 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 14.0″HD
  • AMD Ryzen 3 Pro 4450U
  • DDR4 2400 4GB
  • SSD M.2 256GB
  • AMD Radeon Graphic
  • 3-cell 48WHrs
  • 1.7Kg
  • E-Shell (Linux)
  • WiFi6 ax
  • 9,690 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
ซีพียูประสิทธิภาพสูง ไม่มี OS Windows มาด้วย
แบตค่อนข้างใหญ่

ไปช้อปกันได้ที่: ACER


4.ACER Aspire A315-35-P9YL

เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 บาท เรียกว่ามีทอน และดีไซน์จัดว่าพกพาไปใช้งานได้ง่าย ความแรงตอบโจทย์งานในชีวิตประจำวันได้ดี มีจอขนาดใหญ่ 15.6″ ความละเอียด Full-HD สีสันสวยงาม ขอบจอบางเฉียบ ลดแสงสีฟ้า ไม่รบกวนสายตา มาพร้อมขุมพลัง Intel Pentium N6000 ที่ให้ความเร็วสูงสุด 3.3GHz จัดแรม DDR4 มาให้ 4GB แต่ไม่มีสล็อตอัพเพิ่ม และให้ SSD M.2 256GB พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 3.2, USB-C และ HDMI แบตเตอรี่แบบ 2-cell 36.7WHrs รวมถึง Windows 11 Home พร้อมใช้ได้เลย คีย์บอร์ด Full-size สัมผัสนุ่มนวล ตอบสนองได้ดี แต่ยังเป็นรุ่นที่ไม่ได้มีไฟ Backlit มาด้วย น้ำหนักเกณฑ์มาตรฐาน 1.7Kg การเชื่อมต่อมีทั้ง WiFi5 ac และ RJ-45 สำหรับ Gigabit LAN ราคาจัดมาที่ 9,990 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 15.6″ Full-HD
  • Intel Pentium N6000
  • DDR4 2400 4GB
  • SSD 256GB PCIe
  • Intel UHD Graphic
  • 2-cell 36.7WHrs
  • 1.7Kg
  • Windows 11 Home
  • 9,990 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
มี Windows มาด้วย แบตระดับ 36.7WHrs
หน้าจอใหญ่ Full-HD

ไปช้อปกันได้ที่: ACER


5.HP 15s-eq1575AU

จัดว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งของโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 บาท ที่มีความพรีเมียม และดีไซน์สวยงามอีกรุ่นหนึ่ง ในราคาไม่เกินหมื่นบาท โดยที่ชอบความเรียบง่าย เข้ากันได้ทุกสถานการณ์ ปุ่มคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ และพอร์ตจัดมาให้แบบคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 หรือ USB-C และมี RJ-45 สำหรับต่อ Gigabit LAN เพิ่มเติมจาก WiFi5 ac มาให้ด้วย ขุมพลัง AMD Athlon 3150U มาคู่กับแรม DDR4 8GB เยอะเกินใครในครั้งนี้ กับ SSD M.2 256GB มาตรฐาน กราฟิกใช้เป็น AMD Radeon ที่มาในซีพียู ให้ประสิทธิภาพในด้านความบันเทิงพื้นฐานได้ หน้าจอ 15.6″ Full-HD โดยมีแบตเตอรี่ 3-cell 41WHrs ใช้งานได้นานขึ้น และคีย์บอร์ด Full-size เช่นเดียวกัน จัด Windows 11 Home มาให้ใช้งานอีกด้วย น้ำหนักเกณฑ์มาตรฐาน 1.7Kg ราคาอยู่ที่ 10,400 บาท แต่ถ้าซื้อออนไลน์ของ Advice เหลือ 9,990 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 15.6″ Full-HD
  • AMD Athlon 3150U
  • DDR4 2400 4GB
  • SSD 256GB PCIe
  • AMD Radeon Graphic
  • 3-cell 41WHrs
  • 1.7Kg
  • Windows 11 Home
  • 9,990 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
มีพอร์ตครบครัน
ได้แบตค่อนข้างใหญ่

ไปช้อปกันได้ที่: HP


6.INFINIX Inbook X1

โน๊ตบุ๊คบางเบา ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท ที่มาพร้อมกับความสามารถครบครันในตัว ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Intel Core i3-1005G1 แม้จะเป็นเจนฯ เก่าสักหน่อย แต่ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แถมยังจัดแรมมาให้แล้ว 8GB DDR4 เยอะกว่าในหลายๆ รุ่น และมี SSD 256GB หน้าจอ 14″ ความละเอียด Full-HD คมชัด กราฟิกมาแบบ Integrate บนซีพียู พอร์ตต่อพ่วงจัดมาแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2, microSD Card Reader, USB-C และ HDMI หน้าจอกางได้ 180 องศา น้ำหนักเบาเพียง 1.48Kg เท่านั้น อีกทั้งแบตใหญ่กว่าในระดับราคาเดียวกัน 55 Whrs ซึ่งเคลมว่าใช้ได้ถึง 13 ชั่วโมงเลยทีเดียว รวมถึงเป็นรุ่นเดียวที่มีแสงไฟบนคีย์บอร์ดอีกด้วย ราคา 9,990 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 14.0 Full-HD
  • Intel Core i3-1005G1
  • DDR4 8GB
  • SSD 256GB PCIe
  • Intel UHD Graphic
  • 3-cell 55 Whrs
  • 1.48Kg
  • Windows 10 Home
  • 9,990 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
ซีพียูระดับ Core i3
ให้แรมมา 8GB

ไปช้อปกันได้ที่: INFINIX

7.ASUS X1500EA-EJP01W

เป็นรุ่นที่ออกมาทำราคาได้ลงตัว และจับต้องได้ง่ายโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 บาท แม้จะราคาเกิดไปราวๆ 1 พันบาท แต่ก็คุ้มค่าน่าใช้ไม่น้อยเลย กับการเป็นโน๊ตบุ๊คเริ่มต้นของใครหลายคน ดีไซน์น่าสัมผัส หน้าจอขนาดใหญ่ 15.6″ Full-HD ขอบจอบางเฉียบ บอดี้ไม่ใหญ่มาก น้ำหนักประมาณ 1.8Kg มีขุมพลัง Intel Pentium Gold 7505 ทำงานแบบ 2 core/ 4 thread และให้แรม 4GB อัพเกรดเพิ่มได้ในภายหลัง พร้อมกับ SSD M.2 ที่ให้มา 512GB กราฟิกเป็น Intel UHD Graphic มาในซีพียู โดยแบตอยู่ในระดับที่ดี 2-cell 37WHrs การเชื่อมต่อไร้สาย WiFi5 คีย์บอร์ดเป็นแบบ Full-size กดได้ถนัดมือ พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐาน มีทั้ง USB-C และ HDMI ให้การรับประกัน 2 ปี ราคา 10,990 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 15.6″ Full-HD
  • Intel Pentium Gold 7505
  • DDR4 2400 4GB (Upto 8GB)
  • SSD 256GB PCIe
  • Intel UHD Graphic
  • 2-cell 37WHrs
  • 1.8Kg
  • Windows 11 Home
  • 10,990 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
ซีพียูจัดว่าค่อนข้างใหม่ น้ำหนัก 1.8Kg
อัพเกรดแรมได้

ไปช้อปกันได้ที่: ASUS


8.ASUS M515DA-BR302W

จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 ที่มีดีไซน์น่าใช้งาน และไม่เรียบจนเกินไป ทั้งเรื่องสีสันและเส้นสาย หน้าจอขนาด 15.6″ แต่ยังเป็นแบบ HD ซึ่งก็เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป รวมถึงการทำงานเอกสาร และการเรียน ท่องอินเทอร์เน็ต ขอบจอบาง ได้ขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 3 3250U ประหยัดไฟ แต่ให้ประสิทธิภาพดี สำหรับการทำงานและความบันเทิงทั่วไป ใส่แรม DDR4 4GB อัพเกรดเพิ่มเติมได้ รวมถึงให้ SSD M.2 มาถึง 512GB และรองรับ SSD SATA ได้อีกด้วย กราฟิกเป็น AMD Radeon มากับซีพียู พอร์ตมีทั้ง USB 3.2 และ USB-C รวมถึง HDMI แบตเตอรี่ 2-cell 37WHrs คีย์บอร์ดแบบ Full-size น้ำหนักประมาณ 1.8Kg มี Windows 11 Home มาพร้อมใช้ ราคาอยู่ที่ 10,490 บาท

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000
  • 15.6″ HD
  • AMD Ryzen 3 3250U
  • DDR4 2400 4GB
  • SSD 512GB PCIe
  • AMD Radeon Graphic
  • 2-cell 37WHrs
  • 1.8Kg
  • Windows 11 Home
  • 10,490 บาท
จุดเด่น ข้อสังเกต
ซีพียู AMD Ryzen 3 จอภาพเป็นแบบ HD
ให้ SSD 512GB

ไปช้อปกันได้ที่: ASUS


Conclusion

Display CPU RAM SSD VGA Battery Weight Price
1.ASUS Chomebook 11.6″ HD Intel Celeron N4120 4GB 32GB Intel UHD600 3-cell 42WHrs 1.24 6,990
2.Lenovo IdeaPad 1 15.6″ Full-HD AMD Athlon 3150U 4GB 256GB PCIe AMD Radeon Graphic 3-cell 42Whrs 1.6Kg 9,400
3.ACER TravelMate TMP214 14.0 HD AMD Ryzen 3 Pro 4450U 4GB 256GB PCIe AMD Radeon Graphic 3-cell 48WHrs 1.7Kg 9,690
4.ACER Aspire A315 15.6″ Full-HD Intel Pentium N6000 4GB 256GB PCIe Intel UHD Graphic 2-cell 36.7WHrs 1.7Kg 9,990 บาท
5.HP 15s 15.6″ Full-HD AMD Athlon 3150U 4GB 256GB PCIe AMD Radeon Graphic 3-cell 41WHrs 1.7Kg 9,990
6.INFINIX Inbook X1 14.0 Full-HD Intel Core i3-1005G1 8GB 256GB PCIe Intel UHD Graphic 3-cell 55 Whrs 1.48Kg 9,990
7.ASUS X1500EA 15.6″ Full-HD Intel Pentium Gold 7505 4GB SSD 256GB PCIe Intel UHD Graphic 2-cell 37WHrs 1.8Kg 10,990
8.ASUS M515DA 15.6″ HD AMD Ryzen 3 3250U 4GB SSD 512GB PCIe AMD Radeon Graphic 2-cell 37WHrs 1.8Kg 10,490

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 10000 บาท ทั้ง 8 รุ่น ที่เราได้หยิบยกมาแนะนำกันในครั้งนี้ มีความหลากหลาย ให้คุณได้เลือกใช้ ถ้าจะเน้นใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จอขนาดเล็ก พับจอได้ น้ำหนักเบาอย่าง ASUS Chromebook เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ตัวเลือกจอ 15.6″ มีหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ความละเอียด Full-HD อย่างเช่น ASUS Vivobook X1500, INFINIX Inbook x1, Acer Aspire และ Lenovo IdeaPad เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนที่มีแรม 8GB มีเพียง INFINIX เท่านั้น แต่เรื่องความแรง มีรุ่นที่ใช้ซีพียูระดับ Intel Core i และ AMD Ryzen ให้เลือก อย่างเช่น ASUS M515, Acer Travelmate และ INFINIX เป็นต้น ส่วนเรื่องของราคาโดยเฉลี่ยอาจจะต่างกันไม่มาก ส่วนใหญ่จะหลักร้อยบาท แต่ได้ส่วนที่แตกต่างกันพอสมควร แต่ก็จะมีเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วย ซึ่งคุณชื่นชอบหรือมีฟังก์ชั่นใดใช้งานเป็นหลักก็อาจจะเลือกได้ตามความเหมาะสม

from:https://notebookspec.com/web/697571-8-notebook-2023-under-10000

พัดลมคอม RGB แต่งคอมสวย ลมแรง ทนทาน 9 รุ่นเด็ดในงบหลักร้อยปี 2023 รุ่นไหนเด็ด

พัดลมคอม RGB 2023 งบหลักร้อย 9 รุ่น แต่งคอมสวย ไฟปรับแต่งได้ เปลี่ยนง่าย แรงลมดีใช้งานได้นาน

9 RGB Case fan 2023 cov

พัดลมคอม RGB นับเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตในยุคที่อะไรก็ต้องแสงสีไฟ RGB สดใสเอาไว้ก่อน เพราะหาซื้อง่าย แต่งเคสคอมก็สวย หรือแทนพัดลมฮีตซิงก์ก็ง่าย ติดตั้งได้เลย ราคาสบายกระเป๋า เริ่มแค่ร้อยกว่าบาทก็หาซื้อได้แล้ว แต่พัดลม RGB มีหลายตัวเลือก จะเน้นเรียบง่าย ราคาไม่แรง ก็อาจจะปรับแต่งไม่ได้มาก หรืออยากเพิ่มฟังก์ชั่น ราคาก็สูงขึ้นมาอีกนิด แต่ถ้าคิดจะเล่น RGB จริงจัง ก็มีพัดลมแบบปรับแต่งได้ ต่อเข้ากับเมนบอร์ดและปรับเอฟเฟกต์แสงด้วยซอฟต์แวร์ก็มีให้เลือก ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ดี อยากให้ผู้ใช้โฟกัสที่เรื่องอื่นๆ ประกอบกันด้วย เช่น อัตรา Airflow, เสียงรบกวน รวมถึงความทนทาน เพราะคุณอาจจะไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ ใช้งานได้นานและมีการรับประกันที่ดี ก็ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น มาดูกันว่าพัดลมที่เรานำมาให้ชมกันในวันนี้ 9 รุ่น ในราคาหลักร้อย มีรุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง


พัดลมคอม RGB 9 รุ่น งบหลักร้อย 2023

เลือกพัดลมคอมอย่างไรดี?

แสงไฟ ความสวยงาม: เมื่อเลือกพัดลมเคสเอาแบบสวยๆ ทั้งที ก็ควรจะมีความสวยงามเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ซึ่งแสงไฟ RGB ถือว่าตอบโจทย์ใครหลายคนได้ดีทีเดียว แต่การเป็นแสงไฟ RGB นั้น ก็มีตัวเลือกทั้งแบบแสงไฟที่ปรับไม่ได้ คือเป็นสีรูปแบบเดียว ไม่มีโพรไฟล์เปลี่ยนหรือปรับแสงไม่ได้ แต่ยังคงให้ความสวยงามได้ ในราคาสบายกระเป๋า ส่วนอีกแบบนั้น จะเป็นแสงไฟแบบที่ปรับแต่งเอฟเฟกต์แสงไฟได้ ซึ่งก็จะมีทั้งแบบที่ใช้ร่วมกับ Hub ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อพัดลมเข้ากับเมนบอร์ด และมีคอนโทรลเลอร์อยู่ภายใน เพื่อปรับเปลี่ยนแสงไฟได้ตามชอบ แต่ก็จะมีทั้งแบบควบคุมผ่านทางซอฟต์แวร์ของเมนบอร์ด หรือปรับแต่งได้จากรีโมทคอนโทรล ที่มากับตัวพัดลมเท่านั้น ก่อนเลือกใช้ก็อาจจะต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย

Advertisementavw
พัดลมคอม RGB

แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ แสงไฟเป็นแบบไหน บางรุ่นสว่างเพียงแค่วงกลมที่เป็นกรอบ แต่บางรุ่นมีแสงสว่างด้านในของกรอบใบพัดลม และบางรุ่นก็มีทั้งไฟด้านนอก ด้านใน แถมบางครั้งยังกำหนดแสงไฟ ให้มีเอฟเฟกต์ต่างกันได้อีกด้วย แต่ราคาอาจจะค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นสิ่งที่นักแต่งคอมชื่นชอบ เพราะสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย มีความสวยงาม และให้มิติได้มากขึ้น

มิติของพัดลม: เรื่องของขนาดพัดลมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะควรจะต้องเลือกให้เหมาะกับเคสและทิศทางการระบายความร้อน รวมถึงจุดติดตั้งภายใน บางครั้งอาจจะเลือกพัดลมใหญ่ รอบพัดลมไม่สูงมาก แต่ให้ปริมาณลมเข้าออกได้ดี แต่เคสก็ต้องรองรับได้ด้วย บางรุ่นอาจจะติดตั้งได้แค่ 120mm แต่บางเคสก็อาจจะใส่ได้ถึง 140mm เลือกใช้ตามความเหมาะสมและความสวยงาม

พัดลมคอม RGB

เพราะบางท่านก็อาจจะไม่ชอบความอลังการในแง่ของขนาดพัดลม แต่ชอบพัดลมที่ไซส์เล็กลงมา แต่ติดได้หลายๆ ตัว เพื่อให้ปรับเอฟเฟกต์และดูมีการเคลื่อนไหว ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่เบื่อ หรือมีพื้นที่ติดตั้งในเคสค่อนข้างจำกัด เช่น ด้านหน้ามีชุดพัดลมของ Radiator ชุดน้ำอยู่แล้ว แต่ต้องการติดพัดลมเป่าลมเย็นเข้าตรงการ์ดจอหรือซีพียูโดยตางเท่านั้น

เสียงรบกวน: ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนใช้ในการพิจารณาเลือกพัดลมคอม แม้ว่าจะให้ความสวยงาม ระบายความร้อนได้ดี แต่ถ้าเสียงดังมากเกินไป จนรบกวนเวลาที่ใช้งาน ก็ดูจะไม่เหมาะนัก ยิ่งถ้าถึงขั้นต้องใส่หูฟัง หรือเปิดลำโพงกลบเสียง ก็ยิ่งทำให้ไม่น่าใช้ เรื่องของเสียงนี้ มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น รอบการทำงาน RPM., การออกแบบใบพัดลมหรือ เสียงของ Bearing หรือตัวที่เป็นแกนหมุนของใบพัด แต่สิ่งนี้ส่วนใหญ่สามารถเช็คได้จากสเปคที่ระบุมา ตัวเลขจะบอกเป็น dBA หรือเดซิเบล นั่นเอง

พัดลมคอม RGB

ฟีเจอร์พิเศษ: อย่างที่ได้กล่าวไปในช่วงต้นก็คือ บรรดาลูกเล่นต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพัดลมที่รองรับการปรับแต่ง ใช้ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเแฟเฟกต์ได้ หรือมีคอนโทรลเลอร์มาด้วย แกนใบพัดคุณภาพสูง ปรับรอบพัดลมได้ ไปจนถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างพัดลมบางรุ่น ไม่ต้องต่อสายเยอะให้วุ่นวาย แค่ติดพัดลมเข้าด้วยกัน โดยแม่เหล็ก พัดลมก็หมุนได้แล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ล้ำๆ ของพัดลมในยุคใหม่นี้


1.EGA TYPE-F2

พัดลมคอม RGB

เรามาเริ่มต้นกับพัดลมคอม RGB ราคาเบาๆ ร้อยบาทต้นๆ จากทาง EGA รุ่นนี้ Type-F2 ที่จัดว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะมาในแบบ Dual Light คือมีทั้งแสงไฟภายใน และตัวกรอบหรือบอดี้ของพัดลม ก็มีแสงไฟด้วยเช่นกัน มาในขนาด 120mm และให้รอบพัดลมระดับ 1,500rpm. เรื่อง Airflow จัดว่าน่าพอใจ อยู่ที่ราวๆ 56.6 CFM และมีเสียงรบกวนแค่ 27dBA เท่านั้น การเชื่อมต่อใช้ Molex 4-pins ต่อเข้ากับหัวต่อเพาเวอร์ซัพพลายได้โดยตรง แต่เรื่องของไฟจะเป็นแบบ Multi-Color คือ ไม่มีโหมดปรับเอฟเฟกต์แสงไฟ แต่เป็นสีเดียว งบจำกัด ไม่เน้นปรับแต่ง ก็จัดได้แบบสวยๆ ในงบ 159 บาท/ตัว เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
มีแสงไฟทั้งกรอบและภายในของพัดลม ปรับแต่งแสงไฟไม่ได้
เสียงรบกวนน้อย

ไปช้อปได้ที่: EGA


2.Tsunami Tron RGB

พัดลมคอม RGB

มาถึงอีกพัดลมคอม RGB อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ ราคาจับต้องได้ในรุ่น Tsunami Tron RGB Tsunami Tron RGB เป็นพัดลมขนาด 120mm ที่จัดว่ามีความโดดเด่นน่าสนใจ เพราะสามารถซิงก์แสงไฟกับพัดลมที่สนับสนุน cRGB Sync ได้ ซึ่งมีหลายรุ่นเลยทีเดียวในซีรีส์ของ Tsunami แสงไฟจะเป็นแบบสว่างจากขอบด้านนอก และด้านในของพัดลม ใช้การต่อสายไฟแบบ Molex 4-pins และมีสายซิงก์ใช้เชื่อมต่อระหว่างพัดลมรุ่นเดียวกัน เพื่อซิงก์สัญญาณไฟให้เหมือนกัน โดยจะปรับเปลี่ยนผ่านทางปุ่ม Reset ของเคสที่จะต่อเข้ากับพัดลม มีจุดยึดทั้ง 4 มุม มีตัวลดแรงสั่นสะเทือน แม้รอบการทำงานจะไม่สูงนัก แต่กลับให้ค่าปริมาณลมผ่านได้เยอะทีเดียว พร้อมกับเสียงรบกวนที่น้อย ถ้ามองในแง่ความสวยงาม การซิงก์ที่ง่าย แม้จะไม่สามารถปรับเอฟเฟกต์แบบละเอียดได้บนซอฟต์แวร์ แต่เมื่อเทียบราคากับคุณสมบัติ ถือว่าน่าใช้ในราคา 169 บาท เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
การต่อพ่วงระหว่างพัดลมทำได้ง่าย ไม่รองรับการต่อ Controler box
แสงไฟสวย ปรับเอฟเฟกต์ได้พร้อมกัน

ไปช้อปได้ที่: Tsunami


3.Tsunami Phantom RGB

พัดลมคอม RGB

Tsunami Phantom พัดลมคอม RGB ที่มีดีไซน์แปลกตา แต่สามารถใช้ร่วมกับพัดลม Tsunami ที่รองรับ cRGB sync ได้ ด้วยการต่อสายสัญญาณเข้ากัน พร้อมการปรับแต่งผ่านทาง Reset switch บนเคสคอม โดยพัดลมในรุ่นนี้ มีแสงไฟสว่างจากด้านใน ความสว่างถือว่าจัดจ้านทีเดียว ให้อัตราลมได้ถึง 40CFM และรอบพัดลมไม่สูงนัก ทำให้เสียงรบกวนค่อนข้างน้อย กับขนาด 120mm ที่เข้าได้กับเคสในทุกประเภท การเชื่อมต่อใช้กับ Molex 4-pins และมีหัวต่อที่ซิงก์เข้ากับพัดลมในแบบเดียวกันได้ เคาะราคาที่ 190 บาท ใครชอบความดิบโหด แต่งเคสแบบเน้นแสงสว่างจัดๆ รุ่นนี้น่าสนใจ

จุดเด่น ข้อสังเกต
เชื่อมต่อพัดลมหลายตัวร่วมกัน ไม่รองรับการใช้ซอฟต์แวร์
ไฟสว่าง แสงสีสดใส

ไปช้อปได้ที่: Tsunami


4.ID-COOLING XF-12025 ARGB

พัดลมคอม RGB

ID-COOLING XF-12025 ARGB เป็นพัดลมคอม RGB อีกหนึ่งรุ่นที่มีความสวยลงตัวกับแสงไฟที่ปรับเปลี่ยนได้ แสงไฟออกมาจากแกนของพัดลม ทำให้ดูเนียนตามากขึ้น รวมถึงการปรับรอบพัดลมและเสียง โดยสามารถเชื่อมเข้ากับเมนบอร์ดที่มี ARGB ได้ เพื่อปรับแต่งแสงไฟตามชอบ ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่น เพราะราคาไม่ถึง 300 บาท แต่ใช้ร่วมกับเมนบอร์ดค่ายต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น MSI, ASRock, GIGBAYTE หรือจะเป็น ASUS ก็ตาม ใบพัดออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้อัตราการไหลของลมได้มากขึ้นระดับ 62CFM เลยทีเดียว บนรอบการทำงาน 1500RPM แผ่นยางตรงจุดยึด ที่ลดการสั่นสะเทือน ลดเสียงรบกวนได้ดี ในงบ 270 บาท ต้องถือว่าให้มาคุ้มค่าทีเดียว

จุดเด่น ข้อสังเกต
ซิงก์กับเมนบอร์ดที่มี ARGB ได้
ให้อัตราปริมาณลมได้เยอะ

ไปช้อปได้ที่: ID-COOLING


5.Cooler Master MF120 ARGB S2

พัดลมคอม RGB

Cooler MasterFan MF120 S2 รุ่นนี้เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างใหม่ ออกแบบมาแหวกแนวจากเดิมของค่ายนี้ เน้นที่โซลูชั่นการระบายอากาศได้รวดเร็ว ใช้ได้ทั้งพัดลมเคส หรือจะใช้เป็นพัดลมซีพียูก็ได้ มาพร้อมแสงไฟ ARGB ในแบบ Dual Loop สีสันสดใสทั้งด้านนอกและด้านใจ พร้อมฟีเจอร์ลดเสียงรบกวน โดยออกแบบพัดลมชุดใหม่ จุดเด่นแสงไฟจะอยู่บริเวณขอบของพัดลม ดูสบายตา ตัดกับโทนหลักสีดำ กับแกนพัดลมในแบบ Rifle Bearing ที่เน้นความทนทานใช้ได้นาน จุดติดตั้ง 4 ด้าน มีตัวกันสะเทือนมาให้ เสียงรบกวนน้อยแค่ 15 dBA เท่านั้น จัดว่าเป็นพัดลม RGB หลักร้อยที่น่าจับตาทีเดียวในงบ 250 บาท รับประกัน 2 ปี

จุดเด่น ข้อสังเกต
ARGB ต่อเมนบอร์ดตั้งเอฟเฟกต์แสงไฟได้
Rifle Bearing ใช้งานได้นาน

ไปช้อปได้ที่: OCPC


6.Cooler Master SICKLEFLOW ARGB

พัดลมคอม RGB

Cooler Master SICKLEFLOW ARGB เป็นพัดลมคอม RGB ที่ได้รับการอัพเดตขึ้นมาอีกระดับ กับชุด Bearing พัดลมออกแบบใหม่ ให้ประสิทธิภาพที่ดี ไหลลื่น และปิดกั้นฝุ่นละอองเข้าสู่ภายใน ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น ลดเสียงรบกวน จุดเด่นอยู่ที่แสงไฟ RGB ที่สว่างสดใสอยู่ภายใน ปรับแต่งเอฟเฟกต์ได้ ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับ ARGB บนเมนบอร์ด พร้อมคอนเนกเตอร์ที่ใช้ล็อคหัวต่อ ARGB ได้อย่างแน่นหนา จัดว่าหาได้ยากในพัดลมระดับเดียวกัน ให้รอบการทำงานสูงสุด 1800RPM และ Airflow ที่มากถึง 62CFM เลยทีเดียว การรับประกัน 2 ปี ในราคา 350 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้รอบพัดลมได้สูงถึง 1800RPM
ปรับแต่งแสงไฟด้วย ARGB บนเมนบอร์ด

ไปช้อปได้ที่: CoolerMaster


7.OCPC VELOCITA VC-120P

พัดลมคอม RGB

OCPC VELOCITA VC-120P พัดลมดีไซน์ล้ำ มาพร้อม Hydro Bearing ทนทานและรองรับการใช้งานต่อเนื่อง ให้รอบได้ถึง 1800RPM และ Airflow มากถึง 56CFM มีเสียงรบกวนที่น้อยมาก แสงไฟเป็นแบบ ARGB ที่สามารถซิงก์เข้ากับเมนบอร์ดที่รองรับได้ และปรับเอฟเฟกต์ได้อย่างสวยงาม ความสว่างสดใสมีทั้งขอบด้านนอกและด้านในของพัดลม และขอบด้านข้างที่เล็ก จึงประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง เข้ากันได้กับเคสหลากหลายแบบ จุดที่เพิ่มพิเศษขึ้นมา นั่นคือ อายุการใช้งานที่นานถึง 40000 ชั่วโมง และรับประกันอีก 2 ปี ในราคา 350 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
อายุการใช้งานยาวนาน รับประกัน 2 ปี
เชื่อมต่อกับเมนบอร์ด ปรับแสงไฟได้ตามชอบ

ไปช้อปได้ที่: OCPC


8.Silverstone AIR BLAZER 120R ARGB

พัดลมคอม RGB

Silverstone AIR BLAZER 120R จัดเป็นพัดลมคอม RGB ที่มีแสงไฟสวยสดใส และยังปรับแต่งได้ เข้ากับเมนบอร์ดได้ดี ผ่านทางพอร์ต ARGB พร้อมฟีเจอร์ PWM ปรับรอบการทำงานตามความเหมาะสม ดีไซน์ Cooling ค่อนข้างทันสมัย มาในบอดี้สีดำ เหมาะกับการใช้ร่วมกับ Radiator หรือจะติดตั้งกับเคส และชุดพัดลมซีพียูได้อีกด้วย มีแผ่นยางรองกันสะเทือน ให้ปริมาณลมมาก 93.97 แต่เสียงรบกวนไม่มาก ใบพัดลมมีถึง 9 ใบด้วยกัน กับรอบการทำงานสูงสุดถึง 2200RPM การเชื่อมต่อผ่านทางหัวต่อ 4-pin PWM และ ARGB โดยมี Hydraulic Bearing ที่มีความทนทานมากพอสมควร พัดลมรุ่นนี้รับประกัน 1 ปี ราคา 390 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้อัตรา Airflow สูงมาก มีเสียงในการทำงานขณะรอบสูง
รองรับการต่อ ARGB เมนบอร์ดและคอนโทรลเลอร์

ไปช้อปได้ที่: Silverstone


9.ASUS TUF 120 ARGB

พัดลมคอม RGB

ASUS TUF 120 ARGB พัดลมคอม RGB ใส่เคสสายพันธุ์แกร่งจาก TUF series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน ลดเสียงรบกวนได้ดี ด้วยรูปแบบของใบพัดที่ออกแบบมาใหม่ กับฟีเจอร์ PWM เพื่อปรับให้เข้ากับ Workload ในแต่ละแบบ ลดแรงสั่นสะเทือน พร้อมแสงไฟ LED ที่เชื่อมโยงเข้ากับ AURA Sync ได้อีกด้วย ช่วยให้ปรับเอฟเฟกต์แสงได้ตามใจชอบ แสงไฟนั้นเป็นแบบ Double Layer ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น ให้รอบการทำงานได้ถึง 1900RPM และ Airflow เยอะสุดๆ ถึง 76CFM เลยทีเดียว สามารถใช้ร่วมกับรีโมทพื้นฐาน ARGB Controller หรือต่อกับเมนบอร์ดได้ รับประกัน 5 ปี เคาะราคาที่ 890 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้อัตรา Airflow ที่สูง ต่อกับกล่องควบคุมได้
มีความทนทานสูงใช้งานได้นาน

ไปช้อปได้ที่: ASUS


Conclusion

Model Dimension
(mm.)
RPM Airflow
(CFM)
dBA Effect Price
(Baht)
1.EGA TYPE-F2 120×120 1500 56.8 27 Fix 159
2.Tsunami Tron RGB 120×120 1200 38.5 21.2 cRGB Sync 169
3.Tsunami Phantom RGB 120×120 1200 40 21.2 cRGB Sync 190
4.Cooler Master MF120 ARGB S2 120×120 1200 32 15 ARGB 250
5.ID-COOLING XF-12025 120×120 1500 62 26.4 ARGB 270
6.Cooler Master SICKLEFLOW ARGB 120×120 1800 62 27 ARGB 350
7.OCPC VELOCITA VC-120P 120×120 1800 56 24 ARGB 350
8.Silverstone AIR BLAZER 120R 120×120 2200 93.97 35.6 ARGB 390
9.ASUS TUF 120 ARGB 120×120 1900 76 29 ARGB 890

สุดท้ายนี้นักแต่งคอม แต่งเคสสวย ก็น่าจะมีทางออกในการเลือกพัดลมคอม RGB มาแต่งเคสกันได้ง่ายขึ้น และถือว่าการเปลี่ยนพัดลม คุณจะได้ประโยชน์ 2 ต่อ ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังได้การระบายความร้อนที่ดีขึ้น อย่างเช่นพัดลมที่เราแนะนำบางรุ่นอย่าง Silverstone กับพัดลมรอบจัด เสียงอาจจะดังอยู่บ้าง แต่ได้ปริมาณลมเต็มๆ หรือจะเน้นปรับแต่งสวย ก็มีให้เลือกหลายรุ่น ที่ต่อกับเมนบอร์ดใช้ไฟ ARGB ที่ปรับแต่งเอฟเฟกต์ได้หลากหลาย แต่ถ้าเน้นเสียงเบาๆ ก็มี CoolerMaster MF120 ให้เลือก แต่ถ้าอยากได้งบสบายกระเป๋า ร้อยต้นๆ ก็มีทั้ง EGA และ Tsunami ส่วนใครชอบความถึกทน จัดไปที่ ASUS TUF ประกันยาวๆ ใช้จนลืมได้เลย ขอให้สนุกกับการแต่งคอมตัวโปรดของคุณกันครับ

from:https://notebookspec.com/web/696274-9-chassis-fan-rgb-100baht-2023

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ แรม 8GB มีวินโดว์พร้อมใช้ ดูหนังเพลิน

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ Full-HD มี SSD พร้อม Windows แรม 8GB เบา เทรดหุ้น ดูหนังครบ

Top 10 value notebook 10000B cov

10 อันดับโน๊ตบุ๊คเริ่ม 10000 บาท จ่ายเบาๆ ได้จอใหญ่ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีอยู่จริง รวมมาให้แล้ว เป็นรุ่นเด็ดต้นปี 2023 นี้ สำหรับสายทำงานและบันเทิง ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพดี รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เริ่มต้นกับการเรียน หรือการศึกษาของเด็กๆ ไปจนถึงการดูหนัง 4K ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 15.6″ ความละเอียด Full-HD แล้วด้วย ให้ภาพที่ดูได้อย่างเต็มตา และมาพร้อมแรม 8GB บางรุ่นเป็น 16GB รวมถึงใส่ SSD มาด้วยเช่นกัน เพื่อความลื่นไหล ซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่น้องเล็กอย่าง Intel Celeron หรือ AMD Athlon ไปจนถึง Intel Core i Generation แต่ที่สำคัญมี Windows มาให้พร้อมใช้ เปิดเครื่องมา ก็ทำงานได้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม แต่ละรุ่นจัดว่าเด็ด แต่มีรุ่นไหนที่จะโดนใจคุณบ้าง ไปติดตามชมกันครับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท


โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เลือกแบบไหนดี?

ทำงานเอกสาร เรียน ประชุมออนไลน์

Advertisementavw
10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊คงบ 10000 บาท อยู่ในกลุ่มที่รองรับการใช้งานด้านงานเอกสาร และในสำนักงานเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก เช่น เปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือใช้โปรแกรมที่ต้องอาศัยแรม และซีพียู เช่น โปรแกรมสร้างพรีเซนเทชั่น เปิดเอกสารทีเดียวจำนวนมาก ซีพียู 2 core/ 4 thread เป็นตัวเริ่มต้นได้ แต่ควรมีแรมอย่างน้อย 8GB เพื่อให้การทำงานลื่นขึ้น ส่วนการจัดเก็บข้อมูล หากมีจำนวนมาก แนะนำว่าให้ใช้ SSD 512GB หรือใช้บริการ Cloud Storage น่าจะสะดวกมากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ ช่วยให้มีพื้นที่ในการประชุมและมองเห็นข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

เทรดหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล

10 อันดับ

การใช้งานด้านเทรดหุ้น แม้จะมองว่าการดูกราฟ จะต้องใช้สเปคแรงด้วยหรือ? ถ้าเป็นการดูข้อมูลเฉยๆ ซีพียูรุ่นน้องเล็ก ก็เพียงพอ แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะควบคู่ไปกับการหาข้อมูลตลาด การฟังข่าวหรือการรีเช็คราคาที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นจึงเป็นการทำงานแบบมัลติทาส์ก เพราะต้องประมวลผลหลายอย่างพร้อมกัน การมีซีพียูในระดับที่สูงขึ้น เช่น Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 กับแรมอย่างน้อย 8GB ก็ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น แต่ถ้าเปิดแท็ปเว็บเบราว์เซอร์ค่อนข้างเยอะ แนะนำว่าแรม 16GB เหมาะสมมากกว่า จอใหญ่ไฟสว่าง ก็ไม่ต้องซูมบ่อย ยกเว้นจะพกพาด้วยจอ 14″ FHD ก็เพียงพอแล้ว

ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เป็นโน๊ตบุ๊คที่อาจจะคาดหวังกับการเล่นเกมได้ยาก แต่ถ้าเป็นเกมออนไลน์เบาๆ เช่น ยิงไข่ ไล่ซอมบี้ เรียงเพชรหรือจะเป็นแนว 2D ในแบบต่างๆ สามารถทำได้สบายๆ ดังนั้นหากคุณต้องการเล่นเกมหนักๆ ก็อาจจะต้องลองเริ่มต้นกับการตั้งค่าในเกม ปรับ Detail ให้เหมาะ แต่สุดท้ายไม่ได้ ก็คงต้องขยับไปที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ปัจจุบันเริ่มที่ประมาณ 20000 บาท ส่วนการดูหนัง Full-HD, 4K และใช้เพียงหน้าจอเดียว เลือกรุ่นประหยัดสุด ก็ยังไหว แต่อยากให้เป็นแรม 8GB ดูน่าสนใจกว่า และถ้ามีน้องๆ หนูๆ เล่นด้วยกัน จัดจอใหญ่ 15.6″ ก็แบ่งปันกันดูได้ดียิ่งขึ้น


1.Acer Aspire 3 A314-35

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊คที่มาแบบครบครัน ใน 10 อันดับครั้งนี้ กับสายพันธุ์ของ Aspire 3 ที่ออกแบบมาลงตัวกับผู้ใช้ในกลุ่มคนทำงาน ไลฟ์สไตล์และนักเรียน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาแค่ 1.6Kg สเปคพอใช้ท่องเน็ต ทำงานเอกสาร และดูหนังบนจอ 14″ Full-HD ได้ลื่นๆ กับซีพียู Intel Pentium N6000 (2 core/ 4 thread) พร้อมแรม 4GB ที่อัพเกรดเพิ่มได้ และใส่ฮาร์ดไดรฟ์มา 500GB รุ่นนี้เท่าที่เช็ค มีโมเดลที่เป็น SSD 256GB ด้วย มี Windows 10 มาให้ คีย์บอร์ดไม่มีแสงไฟ และแบตค่อนข้างเล็กไปนิด เคาะราคามา 8,990 บาท เท่านั้น ไปช้อปกันได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
น้ำหนักเบา แรม 4GB
ให้พอร์ตมาเยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


2.IPASON MAXBOOK P2 PRO-P981

10 อันดับ

ติด 10 อันดับ โน๊ตบุ๊คราคาไม่ถึงหมื่นบาท IPASON แบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา ที่กระแสตอบรับดี บอดี้ที่บางเบา ฟังก์ชั่นจัดเต็ม ทั้งสแกนลายนิ้วมือ กางได้ 180 องศา คีย์บอร์ด Full-size แต่เสียดายที่ไม่มีไฟ Backlit มาให้ แต่ก็ได้อย่างอื่นแทน เช่น แรม 16GB ใส่ซีพียู Intel Celeron มาให้ แต่เป็นรุ่นใหม่ 4 core/ 4 thread กราฟิก Intel UHD สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หน้าจอ IPS 15.6” Full-HD สีสดใส พอร์ตใหม่ๆ USB-C และ HDMI มีให้ครบ พร้อมแบตขนาดใหญ่ Windows 11 พร้อมใช้ ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี ราคาแค่ 9,890 บาท แต่เวลานี้ค่อนข้างหายากนิดนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมาเยอะ ไม่มีไฟคีย์บอร์ด
กางจอได้ 180 องศา

รายละเอียดเพิ่มเติม: IPASON


3.Lenovo IdeaPad 1 15IGL7

10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊ค 10000 สุดประหยัดรุ่นนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา วัสดุดูดี งานประกอบแน่น หน้าจอใหญ่ 15.6″ Full-HD ดูหนังเต็มตา ทำงานก็สะดวก เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ขุมพลัง Intel Pentium N4020 กับกราฟิก Intel UHD ก็พอไหว งาน 2D/3D พรีเซนเทชั่นทั่วไป ไม่ยาก มาพร้อมแรม 4GB เสียดายที่อัพแรมเพิ่มไม่ได้ ส่วน SSD มีให้ 256GB พอร์ตก็มีให้ครบๆ USB-C, HDMI ใส่ Card Reader มาให้ด้วย พร้อม Windows 11 Home พร้อมใช้งาน แบตใหญ่ น้ำหนัก 1.5Kg ประกัน 2 ปี แต่เป็นอุบัติเหตุ 1 ปีด้วยนะ ราคาประมาณ 9,990 บาทเท่านั้น ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่สีสดใส มีแรมให้ 4GB
วัสดุค่อนข้างดี

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


4.HP 15s-eq1575AU

10 อันดับ

เป็นอีกหนึ่งใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คสไตล์บางๆ ที่มีความพรีเมียม หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง ขอบจอบาง เอาใจคนทำงานและการเริ่มต้นเรียนรู้ของเด็กๆ แถมยังให้ Windows 11 Home มาแล้วด้วย โดยมีขุมพลัง AMD Athlon Gold 3150U เป็นน้องเล็ก ทำงาน 2 core/ 4 thread พร้อมแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ในภายหลัง กราฟิก AMD Radeon ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ เอาใจน้องๆ ยังไหว ใช้เทรดหุ้นก็ลื่นดี มี SSD 256GB คีย์บอร์ด Full-size ใส่แบตมากลางๆ พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg ประกัน 2 ปี ราคา 11,390 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมา 8GB น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
พอร์ตเยอะ พร้อม USB-C

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


5.ASUS Vivobook 15 X1500EA-EJP01W

10 อันดับ

สำหรับ Vivobook 15 ก็มาตามคาด กับราคาที่ดีงาม บอดี้ที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ บางสวย แม้ซีพียูจะเป็นน้องเล็ก Pentium Gold 7505 แต่ถือว่าสดใหม่ เรี่ยวแรงพอใช้งานในหลายๆ ด้านได้ พร้อมแรม 4GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB หาได้ยากในราคาประมาณนี้ พอร์ตมีทั้ง USB-C และ HDMI หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง สำหรับงานและความบันเทิง แม้จะไม่ได้เสริมฟีเจอร์พิเศษมามากมาย แต่ก็สะดวกต่อการใช้งานพื้นฐาน โดยมี Windows 11 พร้อมใช้ประกัน 2 ปี ราคา 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์บาง กระทัดรัด มีแรม 4GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


6.Lenovo V15 G3 ABA 82TV004VTA

10 อันดับ

เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มทำงาน บอดี้ที่ดูพรีเมียม ดูสบายตา ราคา 10000 บาทนิดๆ ได้สเปคใหม่หมดจด เหมาะทั้งเรียน ทำงาน และความบันเทิง กับซีพียู AMD Ryzen 3 5425U รุ่นใหม่ คู่กับแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และให้ SSD 256GB บนจอแสดงผล 15.6″ กราฟิกสามารถเล่นเกมเบาๆ ได้ ดูหนัง 4K ระบบเสียงก็ถือว่าดี พร้อมพอร์ต USB-C ชาร์จเร็ว และต่อจอได้ แบตอาจจะน้อยไปบ้าง สำหรับจอใหญ่แบบนี้ และไม่มี OS มาให้ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg พกได้ไม่ยาก ประกัน 1 ปี ราคา 12,990 บาท ถ้าใครอยากได้ Windows ด้วย ขยับไป IdeaPad 3 ก็ได้ เพิ่มอีกประมาณพันนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
วัสดุแข็งแรง น้ำหนัก 1.7Kg
ได้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


7.ASUS X515JA-EJ331W

10 อันดับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊คราคาหมื่นนิดๆ แต่ได้เป็น Intel Core i3 Gen10 ได้แรงเพิ่มอีกนิด 2 core/ 4 thread ให้เร่งสปีดงานต่างๆ ได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และความบันเทิงภายในบ้าน จอใหญ่ 15.6″ Full-HD กับบอดี้ที่ทำออกมาได้ดี ตามสไตล์ ASUS แรมให้มา 4GB แต่อัพเกรดเพิ่มได้ภายหลัง SSD 512GB จัดเต็มมาให้แล้ว พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ คีย์บอร์ดฟอนต์ใหญ่ เห็นได้ชัดเจน มี Windows 11 Home มาพร้อมใช้ แบตอาจจะเล็กไปบ้าง น้ำหนักค่อนข้างเยอะหน่อย 1.7Kg แต่เรื่องสเปคและการอัพเกรดไม่ได้เป็นรองใคร รับประกัน 2 ปี ในราคาสบายกระเป๋า 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่ ขอบจอบาง มีแรม 4GB
มีพอร์ตให้เยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


8.Infinix Book X2 I5 71008300113

10 อันดับ

Infinix Book เป็นโน๊ตบุ๊คที่เปิดตัวมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว กับความบางเบา ราคาเข้าถึงง่าย จุดแข็งที่บอดี้อะลูมิเนียมทั้งตัว สีสันสดใส พร้อมให้ Windows 11 มาด้วย นอกเหนือจากสเปค Intel Core i5-1035G1 พร้อมแรม 8GB และให้ SSD 512GB มาใช้งาน หน้าจอขนาด 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด ขอบเขตสีกว้าง พอร์ตจัดวางให้ครบครัน รวม USB-C และ HDMI ที่สำคัญคือ คีย์บอร์ดกดง่าย มีไฟ Backlit แบตอึด หาตัวเทียบยากในราคาเดียวกัน รับประกัน 1 ปี น้ำหนัก 1.24Kg ใครที่ชอบความบางเบา พกพาง่าย บอดี้แกร่ง ไม่ควรพลาด ราคา 13,900 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรม 8GB
ซีพียู Intel Core i5

รายละเอียดเพิ่มเติม: Infinix


9.Lenovo IdeaPad Flex 5i

10 อันดับ

เข้ามาใน 10 อันดับ กับ Lenovo ที่มีโมเดลในตลาดเริ่มต้นค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกับรุ่นนี้ ที่ราคาจะสูงนิดนึง แต่ได้ลูกเล่นเพียบ เช่นการพับจอเป็นโหมดต่างๆ รองรับทัชสกรีน 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด มุมมองกว้าง ซีพียู Intel Core i3 Gen 11 ให้แรม 4GB ออนบอร์ด แต่อัพเพิ่มไม่ได้ SSD 256GB มาตรฐาน กราฟิก Intel UHD Graphic ให้พอร์ตมาเยอะ USB-C และ HDMI แถมยังมีไฟคีย์บอร์ด มาอีกด้วย รวมถึงระบบสแกนลายนิ้วมือ บอดี้อะลูมิเนียม น้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1.5Kg เท่านั้น ราคา 13,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
พับจอได้ 360 องศา ให้แรม 4GB
บอดี้แข็งแรง

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


10.HP 15s-fq5154TU

10 อันดับ

HP 15s รุ่นนี้ทำราคากับสเปคได้ดีน่าสนใจเข้ามาใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คนี้ ด้วยบอดี้ที่น่าจะถูกใจสายพรีเมียม เพราะดูเหมือนลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยนมาสวยๆ หน้าจอ 15.6″ Full-HD มาให้ และใส่ซีพียู Intel Core i3-1215U รุ่นใหม่ แรง ประหยัดไฟ พร้อมแรม 8GB และ SSD 256GB กราฟิก Intel UHD มี Windows 11 Home พร้อมใช้ แบตจัดได้ว่ากลางๆ แต่ก็ใหญ่กว่าในหลายรุ่น พอร์ตมี USB-C พอให้ใช้กับ HDMI น้ำหนักตัว 1.69Kg ส่วนตัวถือว่าทำได้ค่อนข้างดี การรับประกัน 2 ปี ราคา 13,900 บาท แต่ซื้ออนไลน์ถูกลงอีก ใครชอบสไตล์นี้ จัดได้เลย ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
บอดี้แข็งแรง ดีไซน์สวย น้ำหนัก 1.69Kg
ให้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


Conclusion

Model Display CPU RAM Storage Graphic Weight Price
1.Acer Aspire 3 A314 14″ FHD Intel Pentium N6000 4GB 256GB Intel UHD 1.62Kg 8,990
2.IPASON MAXBOOK P2 15.6″ FHD Intel Celeron N5105 16GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,890
3.Lenovo IdeaPad 1 15.6″ FHD Intel Pentium N4020 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,990
4.HP 15s-eq1575AU 15.6″ FHD AMD Athlon Gold 3150U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 11,390
5.ASUS Vivobook 15 15.6″ FHD Intel Pentium Gold 7505 4GB 512GB Intel UHD 1.8Kg 12,990
6.Lenovo V15 G3 15.6″ FHD AMD Ryzen 3 5425U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 12,990
7.ASUS X515JA 15.6″ FHD Intel Core i3-1005G1 4GB 512GB Intel UHD 1.7Kg 12,990
8.Infinix Book X2 I5 14″ FHD Intel Core i5-1035G1 8GB 512GB Intel UHD 1.24Kg 13,900
9.Lenovo IdeaPad Flex 5i 14″ FHD Intel Core i3-1115G4 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 13,990
10.HP 15s 15.6″ FHD Intel Core i3-1215U 8GB 256GB Iris Xe 1.69Kg 13,900

10 อันดับโน๊ตบุ๊คในราคา 10000 บาท สเปคที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ ออกแบบมาเพื่องานพื้นฐาน เช่น งานเอกสาร ท่องเน็ตหรือความบันเทิงทั่วไป แต่ถ้าขับไปหมื่นต้นๆ มีตัวเลือกอย่าง Intel Core i3 หรือ i5 ให้ได้ใช้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ เราขอสรุปกันแบบง่ายๆ ดังนี้ครับ

เน้นงบน้อยไม่ถึงหมื่นบาท มีทั้ง Acer และ IPASON และ Lenovo ซึ่ง IPASON ทำได้ดีทั้งสเปคและฟังก์ชั่น แต่ตอนนี้หาซื้อยากหน่อย

แต่ถ้าหมื่นต้นๆ ก็มี HP 15s, ASUS Vivobook และ Lenovo V15 ที่ส่วนใหญ่ให้แรมมากขึ้น และซีพียูที่แรงกว่า เช่น ซีพียู Core i และแรม 8GB เป็นต้น

ส่วนในกลุ่ม 13,900 บาท จะเป็นตัวสุดในราคานี้ มีทั้ง Infinix, HP15s และ Lenovo IdeaPad ซึ่ง Infinix ใส่ซีพียู Core i5 มาให้ แต่ Lenovo พับจอกับทัชสกรีนได้ แต่ HP 15s ได้ซีพียู Intel Gen 12 รุ่นใหม่ ก็เรียกว่าวัดใจกันพอสมควรครับ ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาประหยัด ทั้ง 10 รุ่นที่เราเอามาแนะนำกันในวันนี้ครับ มีความคิดเห็นกันอย่างไร คอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/688656-10-value-notebook-10000-2023

เพิ่มความเร็ว โน๊ตบุ๊คเก่า 2023 เล่นเกมลื่น ใน 15 ขั้นตอน ฟรี! ยังไม่ต้องซื้อใหม่

เพิ่มความเร็วเล่นเกมลื่นใน 15 ขั้นตอน ให้โน๊ตบุ๊คเก่า ยังไม่ต้องซื้อใหม่ พร้อมใช้ในปี 2023

15 boost speed notebook 2023 1

เพิ่มความเร็ว เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าของคุณได้ เล่นเกมช้า เปิดโปรแกรมไม่ทันใจ อยากได้เครื่องใหม่ แต่งบก็มีจำกัด มีวิธีมาแนะนำ ทำให้เครื่องคุณเร็วขึ้นบน Windows 11 เวอร์ชั่นปี 2023 แบบฟรีๆ แค่ทำตามไม่กี่ขั้นตอน แล้วคุณจะแฮปปี้กับการเล่นเกมได้มากดีกว่าเดิม และยังให้ผลดีในระยะยาว สามารถทำซ้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดต ลด Process คืนพลังให้ซีพียู ลดการใช้แรม รวมถึงการตั้งค่ากราฟิก ทั้งบนกราฟิกบนซีพียู และการ์ดจอแยก เรามาดูกันครับว่า จะมีจะเพิ่มความเร็วอย่างไร มีขั้นตอนใดกันบ้าง และรายละเอียดเป็นอย่างไร ทำตามกันได้เลยครับ

เพิ่มความเร็ว โน๊ตบุ๊คเก่าให้เร็วขึ้น 15 ขั้นตอน

  1. ทำไมโน๊ตบุ๊คเก่าถึงทำงานช้าลง
  2. จัดการความร้อนให้อยู่หมัด
  3. ปิด Process ที่ไม่จำเป็น
  4. ปิดโปรแกรมใน Startup
  5. อย่าลืมอัพเดต
  6. Hardware-accelerated scheduling
  7. เปิดใช้ Game Mode
  8. ใช้ Storage Sense
  9. Optimize ระบบ
  10. ปิด Visual Effect บ้าง
  11. ตั้งค่า Image Quality
  12. Manage 3D settings
  13. ปิด FXAA
  14. Power settings
  15. Radeon Boost
  16. ทางเลือกอื่นๆ
  17. Conclusion

ทำไมโน๊ตบุ๊คเก่าถึงทำงานช้าลง

สิ่งที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเก่า ทำงานได้ช้าลง กระตุก หรือมีความผิดปกติ มีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น ความร้อน ข้อมูลในไดรฟ์เยอะจนเต็ม ไม่ได้เคลียร์ไฟล์ขยะ ติดไวรัส มัลแวร์ ไปจนถึงความเสื่อมของชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในโน๊ตบุ๊ค ทุกสิ่งนี้มีโอกาสทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าช้าลงได้ เรามาดูกันครับว่าเกิดจากอะไร และแก้ไขเพิ่มความเร็วอย่างไรได้บ้าง

Advertisementavw
เพิ่มความเร็ว

ความร้อน: มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เมื่อใช้โน๊ตบุ๊คไปนานๆ แล้วไม่ได้ทำความสะอาด จะเกิดฝุ่น สิ่งสกปรกเข้าไปเกาะอยู่บริเวณพัดลม ฮีตซิงก์ หรือบางครั้งก็อุดตันบริเวณช่องลมออก ทำให้ระบายลมร้อนได้ไม่ดี ความร้อนสะสม การแก้ไขลดความร้อน ก็ใช้วิธีแกะออกมาเป่า ปัดฝุ่น หรืออาจจะใช้ Clear Contact ร่วมด้วย สามารถทำเองได้ หรือจะส่งช่างซ่อมก็ได้เช่นกัน

เพิ่มความเร็ว

ไดรฟ์เต็ม ข้อมูลเยอะ: เป็นเรื่องปกติ เมื่อเก็บข้อมูลจนเยอะ บางครั้งเต็มฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ก็ทำให้ระบบปฏิบัติการช้าลง การจัดเก็บข้อมูลไม่ปกติ ไปจนถึงระบบไม่มีพื้นที่ Swap file สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้คอมช้าทั้งสิ้น แก้ไขได้โดยย้ายไฟล์เอาไปสำรองไว้ในไดรฟ์อื่น ไม่ว่าจะนำไปไว้บน Cloud storage ที่มีให้บริการอยู่มากมาย หรือจะซื้อไดรฟ์ต่อภายนอก จะเป็น HDD หรือ SSD ก็ได้

ไม่ได้จัดการไฟล์ขยะ Temporary file: ไฟล์ขยะเหล่านี้ส่งผลทำให้ระบบช้าลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊คเก่าที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ไม่เคย Scan หรือ Drfeagment หรือการ Clear temp ไฟล์เหล่านี้จะมีทั้งไฟล์ที่เรา Delete ทิ้ง และไฟล์ที่ค้างมาจากการติดตั้ง รวมถึงระบบเองก็ตาม วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การใช้ Disk Cleanup ที่เป็นฟังก์ชั่นของ Windows ลบไฟล์ต่างๆ ให้เหลือพื้นที่ว่างมากขึ้น

ติดไวรัส มัลแวร์: จัดว่าเป็นอันตรายค่อนข้างมาก นอกเหนือจากการทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าช้า เพราะคุณอาจถูกล้วงข้อมูล แฮกก์ไฟล์สำคัญ หรือเข้าถึงเมล์และการทำธุรกรรมการเงินของคุณได้เลย การแก้ไข ให้ใช้วิธีการสแกนเริ่มต้นจากการสแกนผ่านทาง Windows Security หรือติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ แล้วสแกนแบบละเอียด

เพิ่มความเร็ว

ความเสื่อมสภาพ: เป็นเรื่องที่อาจไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล ความร้อนส่งผลอย่างมาก ต่ออายุการใช้งานของโน๊ตบุ๊คและแบตเตอรี่ หากโน๊ตบุ๊คเริ่มทำงานช้า ให้เช็คฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นร่วมด้วย เช่นแรม ฮาร์ดดิสก์หรือเมนบอร์ด และแบตเตอรี่ เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้น และจะมีความเสียหายตามมาในภายหลัง


วิธีแก้ไขปัญหาและเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊คเก่า

ในการเพิ่มความเร็ว และแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คเก่าทำงานช้า ให้สามารถเล่นเกมหรือทำงานได้ดีขึ้น อาจจะต้องใช้ขั้นตอนต่างๆ ร่วมกัน โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้

1.จัดการความร้อนให้อยู่หมัด

เพิ่มความเร็ว

เรื่องนี้สำคัญนะครับ หากจะเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊ค เพราะเมื่อความร้อนสูง ระบบจะดรอปการทำงานของซีพียูและ GPU ลง ทำให้ขณะที่คุณเล่นเกิดการกระตุก หรือถ้าร้อนจัด อาจค้างแฮงก์ได้เช่นกัน จึงควรจัดการความร้อนให้ดีที่สุด จะอยู่ในห้องแอร์หรือเพิ่ม Cooling Pad ก็ตามสะดวก แต่ถ้าให้ดี การทำความสะอาดโน๊ตบุ๊คปีละ 2-3 ครั้งด้วยการปัดฝุ่น หรือเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ ก็เหมาะสม

ข้อดี ค่าใช้จ่าย
Cooling Pad ประหยัด ง่าย สะดวก ไม่แพงเริ่มหลักร้อย
ทำความสะอาด พัดลมทำงานดีขึ้น ลดความร้อน น้อย อาจซื้อแค่ของบางชิ้น แต่ต้องใช้ทักษะ
ทาซิลิโคนใหม่ ช่วยระบายความร้อน CPU และ GPU ดีมาก หากแกะไม่เป็นต้องจ่ายค่าช่าง หรือค่าซื้อซิลิโคนใหม่ หากทำเป็น

2.ปิด Process ที่ไม่จำเป็น

เพิ่มความเร็ว

เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระในการทำงานของซีพียูและแรม จากการที่มีแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมทำงานค้างอยู่ หรือทำงานอยู่เบื้องหลัง เมื่อปิดไปแล้ว ก็จะคืนแรมหรือซีพียูให้กลับมาทำงานได้ตามเดิม วิธีการทำ ให้เข้าไปที่ Task Manager > เช็คว่ามีสิ่งหรือโปรแกรมใดที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้งานในขณะนั้น ให้เลือกด้วยคลิ๊กขวา > แล้วเลือก End Task ก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ระดับหนึ่ง


3.ปิดโปรแกรมใน Startup

เพิ่มความเร็ว

หลายครั้งที่เราจะเห็นโปรแกรมที่เราไม่ได้ใช้ ทำงานอยู่ แม้ว่าเราจะปิดการทำงานของโปรแกรมไปแล้วก็ตาม และส่วนหนึ่งจะเปิดทำงานตั้งแต่ที่เราเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา ซึ่งสามารถเช็คได้จากหน้า Process วิธีการเข้าไปปิดการทำงานโปรแกรมเหล่านี้ ให้เข้าไปที่ Task Manager ด้วยการกดคีย์ลัด Ctrl+Shift+Esc > เลือกที่ Startup apps > เลือกดูในแถบ Name ว่ามีโปรแกรมใด ไม่จำเป็นต้องทำงาน ณ เวลานั้น หรือเปิดพร้อม Windows ให้คลิ๊กขวา แล้วเลือก Disable

ข้อควรระวัง การปิด Process ให้เช็คดูว่า สิ่งที่จะปิดนั้น เป็นระบบที่กำลังทำงานอยู่หรือไม่? เป็นไปได้เลือกปิดเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่คุณไม่ได้ใช้งานในช่วงเวลานั้นจะดีที่สุด


4.อย่าลืมอัพเดต

Update Windows & Driver เป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเกมเมอร์ ที่ต้องการเพิ่มความเร็ว ไดรเวอร์สำคัญมากครับ ควรอัพเดตไดรเวอร์ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ รวมถึงการ Update Windows ที่นอกจากจะทำให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น ก็ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบอีกด้วย

เพิ่มความเร็ว

วิธีการอัพเดต Windows นั้น ให้เริ่มต้นดังนี้ คลิ๊กขวาปุ่ม Win > เลือกที่ Windows Update ด้านซ้าย แล้วเลือก Check Update > Install > เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยให้ Restart ระบบใหม่อีกครั้ง

เพิ่มความเร็ว

วิธีการ Update Driver มีด้วยกัน 2 แบบ

  1. ดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแต่ละค่าย เช่น ASUS.com/support เป็นต้น
  2. เลือกดาวน์โหลดเฉพาะไฟล์ เช่น การ์ดจอ nVIDIA Driver หรือ AMD เมื่อได้ไฟล์ก็นำมาติดตั้งได้เลย

5.Hardware-accelerated scheduling

เพิ่มความเร็ว

การเปิดการทำงานของ Hardware-accelerated scheduling ที่อยู่บนระบบปฏิบัติการ Windows จะส่งผลทำให้การ์ดจอสามารถจัดการ VRAM ได้ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการของระบบ ซึ่งเป็นผลดีต่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นมาอีกนิดหน่อย และยังลดความหน่วงของภาพที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย สามารถใช้ร่วมกับ API ต่างๆ ได้มากมาย โดยวิธีเปิดใช้ ให้คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Display > ไปที่ Graphic > เลือกที่ Change Default Graphic settings > On-Hardware-accelerated scheduling จากนั้น Restart ระบบใหม่อีกครั้ง


6.เปิดใช้ Game Mode

เพิ่มความเร็ว

เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเล่นเกมได้ดีขึ้น กรณีที่ใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าๆ ให้เข้าไปที่หน้า System เลือกหัวข้อ Gaming ที่อยู่ทางด้านซ้าย > เลือกที่ Game Mode > ในหัวข้อ Game Mode ให้เปิดเป็น On


7.ใช้ Storage Sense

เพิ่มความเร็ว

ล้างไฟล์ขยะออกบ้าง หากต้องการให้โน๊ตบุ๊คเก่ากลับมาเร็วขึ้น เนื่องจากบางครั้งเราใช้งานเครื่องมานาน จนมีไฟล์จาก Cookie, Temp file, และไฟล์อื่นๆ ที่มาจากระบบ ทำให้เสียทรัพยากรบางส่วนไป ซึ่งมีผลกระทบในการทำงานและเล่นเกมอยู่ด้วย สามารถใช้วิธีเคลียร์ไฟล์ อัตโนมัติให้เลย  คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Windows > เลือก System > กดที่ System ด้านซ้ายมือ > เลือก Storage > Storage Management > เปิด Storage Sense ให้ On


8.Optimize ระบบ

เพิ่มความเร็ว

เป็นวิธีการเหมือนให้ Windows จัดการสิ่งต่างๆ ภายในระบบเบื้องต้นให้ เหมือนกับการ รีเฟรชระบบใหม่อีกครั้ง เข้าไปที่ File Explorer > เลือกไดรฟ์ C ที่ใช้ติดตั้งระบบ > คลิ๊กขวาบนไดรฟ์ C > เลือก Properties > Tools > ไปที่ Optimize Drives > กรณีที่ใช้ SSD ให้เข้ามาตั้งค่าตรง Change settings > เอาเครื่องหมายหน้า Run on a schedule ออกก่อนครับ แต่ถ้าใช้ HDD ให้ On เอาไว้ > จากนั้นกดปุ่ม Optimize รอจนกระบวนการเสร็จสิ้น

หากคุณใช้ SSD ในระบบ ไม่ควรเปิดการทำงาน Defragment เอาไว้ เพราะจะทำให้ SSD ถูกใช้งานโดยไม่จำเป็น ให้เลือกเปิดเฉพาะไดรฟ์ที่เป็น HDD เท่านั้น


9.ปิด Visual Effect บ้าง

เพิ่มความเร็ว

การเพิ่มความเร็วให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > เลือก Accessibility ทางด้านซ้าย > เลือก Visual ที่อยู่ด้านขวา > Transparency effects-Off และ Animation effectss-Off เช่นเดียวกัน ผลที่ได้ระบบจะลดภาระในการสร้างกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ ลง การเปิดหน้าต่าง เลื่อน ย้าย จะไม่สมูทลื่นไหล รวมถึงเอฟเฟกต์โปร่งแสงจะหายไป แต่ได้ Process ที่ดีกลับมา ทำให้เครื่องลื่นขึ้น ช่วยเพิ่มความเร็ว แต่ความสวยงามลดลง เอาไว้กรณีที่อยากเล่นเกมให้ดีขึ้น แล้วกลับมา On ใหม่อีกครั้งก็ได้

การลด Visual Effect ทำให้ระบบลื่นขึ้น แต่เอฟเฟกต์และความสวยงามของระบบลดลง ซึ่งสามารถเปิดการทำงานในภายหลังได้


10.ตั้งค่า Image Quality ในไดรเวอร์ nVIDIA

เพิ่มความเร็ว

ใครที่ใช้การ์ดจอ nVIDIA ให้เข้ามาตั้งค่าการแสดงผล ที่ช่วยให้การเล่นเกมดีขึ้นอีกนิด เริ่มต้นให้คลิ๊กขวาที่หน้าเดสก์ทอป > เลือก nVIDIA Control Panel > ในหน้า Adjust Image Settings with Preview > ลงมาด้านล่างใต้โลโก้ที่หมุนๆ ให้ใส่เครื่องหมายหน้า Use my preference emphasizing: … (ตรงนี้ให้เลือก Performance) จากนั้น Save แล้ว Restart


11.Manage 3D settings

เพิ่มความเร็ว

จากหน้าของไดรเวอร์ nVIDIA ให้เข้ามาที่หัวข้อ Manage 3D settings ที่อยู่ซ้ายมือ > หัวข้อ Prefered graphic performance > เลือกเป็น High-Performance nVIDIA processor (ในกรณีที่เสียบสายชาร์จอยู่แล้ว เน้นประสิทธิภาพ) > หัวข้อ Settings >  Power management mode > เลือก Prefer maximum performance


12.ปิด FXAA

เพิ่มความเร็ว

ส่วนใหญ่การตั้งค่าความสวยงามของภาพและ Detail จะเข้าไปตั้งกันใน Game แต่เราสามารถกำหนดค่าเบื้องต้นได้เช่นกัน รวมถึงการปิด FXAA ก็ช่วยให้การเล่นเกมได้ดีขึ้น เพราะลดภาระของ GPU ลง กรณีที่ใช้กราฟิกตัวไม่แรง และไม่ได้เน้นความสวยหรู ภาพเนียนกริ๊บ โหมดนี้ช่วยได้เยอะ จากในหน้าไดรเวอร์เดิม หัวข้อ settings > เลื่อนลงมาที่ Antialiasing – FXAA เลือก Off > Antialiasing – Mode เลือก Off


13.Power settings

เพิ่มความเร็ว

เป็นการตั้งค่าของการใช้โหมดพลังงานโน๊ตบุ๊ค โดยปกติจะมีให้เลือกคือ Best Performance, Balance และ Power saving ซึ่งแต่ละโหมดจะมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบ เพราะระบบจะทำงานให้เหมาะกับโหมดที่เลือกนั่นเอง หากจะเล่นเกมหรือทำงานจริงจังแล้ว ก็แนะนำให้ปรับเป็น Best Performance คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > Lock screen > Screen timeout > เข้าไปที่้ Power & Battery > หัวข้อ Power เลือก Power mode > เลือกที่ Best Performance

เมื่อเลือกเป็น Best Performance อย่าลืมเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊ค เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเล่นเกม


14.Radeon Boost

เพิ่มความเร็ว

ในกรณีที่คุณใช้การ์ดจอ AMD Radeon ก็สามารถใช้ประโยชน์จากไดรเวอร์ AMD Adrenalin ได้เลย กับการปรับค่าง่ายๆ เมื่อเข้ามาที่หน้าโปรแกรมแล้ว > ในหัวข้อ Graphic > ให้เลือกที่ Radeon Boost > ให้เปิดใช้งานเป็น Enable เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้อีกทางหนึ่ง

15.การอัพเกรด

เพิ่มความเร็ว

นอกจากขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีในการเพิ่มความเร็ว ทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าของคุณกลับมาทำงานได้ดีกว่าเดิม เพิ่มความเร็วได้มากขึ้น อย่างเช่น การอัพเกรด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแรม ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คเหล่านั้นมีสล็อตให้เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแรมตัวยเดิมได้ วิธีนี้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย หรือการเปลี่ยนจาก HDD มาเป็น SSD ตรงนี้จะเห็นผลค่อนข้างเยอะทีเดียว และทำได้ไม่ยาก เพราะอย่างน้อยๆ โน๊ตบุ๊คย้อนหลังไป 5-6 ปี ต้องมีพอร์ต SSD ที่เดิมอาจจะใช้อยู่กับ HDD 2.5″ ในแบบ SATA การเปลี่ยนเป็น SSD SATAIII ก็ทำให้ความเร็วเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟล์ เปิดโปรแกรม หรือการถ่ายโอนข้อมูลก็ตาม และวิธีสุดท้าย ก็คือการโอเวอร์คล็อกการ์ดจอ หากคุณใช้การ์ดจอแยกบนเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถลองใช้งานโปรแกรม MSI Afterburner ดูได้ ซึ่งจะทำให้การเล่นเกมของคุณดีขึ้นบ้าง

เลือก SSD รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี?

SSD 2022 Cov1

Conclusion

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีในการเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊คเก่าในปี 2023 นี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม แนะนำว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีการ์ดจอแยก จะได้ผลดียิ่งขึ้น แต่อาจจะไม่ได้ส่งผลให้เฟรมเรตเพิ่มมากขึ้นมากมาย แต่ก็ช่วยให้การเล่นเกมมีความไหลลื่นกว่าเดิม รวมถึงการทำงานในหลายด้าน โดยเฉพาะกับไฟล์ขนาดใหญ่ หรือจัดการกับไฟล์ที่มีจำนวนมาก เช่นเดียวกับการเปิดเว็บเบราว์เซอร์ เพื่อการท่องอินเทอร์เน็ตหรืองานออนไลน์ ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย เพราะลด Process ในหลายส่วนลง และมีการนำแรมและซีพียูกลับมาใช้ได้มากขึ้น แต่ในกรณีที่ปรับแต่งหลายส่วนไปแล้ว อาจจะยังดีขึ้นไม่ถึงแบบที่น่าพอใจ ในขั้นตอนที่ 15 หรือว่าการอัพเกรดช่วยแก้ไขสิ่งต่างๆ จะเป็นตัวช่วยที่ดี แม้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ให้ผลที่คุ้มค่า เช่นการเพิ่มแรมหรือเปลี่ยนเป็น SSD เป็นต้น

from:https://notebookspec.com/web/687861-15-step-increase-speed-notebook-2023

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 คอมช้า ไม่ทันใจ ใส่แรมใหม่ เลือกอย่างไร แบบไหนดี คุ้ม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ไม่ต้องซื้อคอมใหม่ 2023 อัพเกรดง่าย เร็ว ทำเองได้ เลือกแบบไหน ดูอย่างไร ไปชม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ทำได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ทำให้ระบบมีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ ยิ่งในปัจจุบันแรมรุ่นใหม่ๆ อย่าง DDR5 ก็เริ่มมีมาให้ใช้งานกันบ้างแล้ว ความแรงเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างไรก็ดีใครที่ใช้โน๊ตบุ๊ครุ่นเก่า หรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้เริ่มช้า อาจจะยังไม่ต้องซื้อใหม่ เพราะบางครั้งแค่อัพเกรดแรม ก็ทำงานลื่นขึ้นแล้ว แต่การอัพเกรดก็ต้องตรวจเช็คให้แน่ใจ ว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้รองรับการอัพเกรดแรมหรือไม่ ใช้แรมแบบใด มีสล็อตเพิ่มมาให้หรือไม่ และใส่ความจุสูงสุดได้เท่าไร? สิ่งเหล่านี้ผู้ใช้อาจจะต้องทราบก่อนที่จะไปซื้อแรมมาเพิ่มนั่นเอง จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงินไปเปล่าๆ และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า โน๊ตบุุ๊คที่ใช้อยู่ น่าจะได้เวลาอัพเกรดแรมแล้ว ไปดูกันว่าเราจะต้องสังเกต ตรวจเช็คอย่างไร

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 ง่าย สะดวก เร็วขึ้น


รู้จักกันแรมโน๊ตบุ๊ค

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค สังเกตได้ชัดเจนกว่าแรมของพีซี เพราะฉะนั้นการซื้อมาใช้หรืออัพเกรด ต้องดูให้แน่ใจ ตามสัดส่วนที่เห็นง่ายๆ แบบนี้ ระหว่างแรม DIMM สำหรับพีซี และ SO-DIMM สำหรับโน๊ตบุ๊ค โดยด้านบนสุดจะเป็นแรม SO-DIMM ส่วนด้านล่าง จะเป็นแรม DDR4 และ DDR5 ของพีซี สังเกตไม่ยากครับ

Advertisementavw
เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สำหรับในตลาดแรม DDR นอกจากเราจะเห็นคำว่า SO-DIMM ที่เป็นแรมแบบสั้นๆ เล็กกว่าแรมของพีซี ซึ่งจะออกแบบมาเพื่อแพลตฟอร์มของ Mobile หรือโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะ รวมถึงติดตั้งอยู่ใน Mini PC บางรุ่น ก็จะยังมีคำว่า LPDDR เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยจะระบุอยู่บนแรม สเปคแรม และบนโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น สิ่งนี้หมายถึง แรมประหยัดพลังงาน หรือ Low Power Consumption ใช้พลังงานน้อยกว่าแรม DDR ปกติ ตัวอย่างเช่น แรม DDR4 มีแรงดันไฟ 1.2V แต่ LPDDR4 จะอยู่ที่ 1.1V เท่านั้น และยังมีแรมรุ่นใหม่อย่าง LPDDR4X ที่ลดการใช้พลังงานลงไปอีก เหลือเพียง 0.6V เท่านั้น ดังนั้นแล้วใครที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการใช้พลังงาน หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีระดับการจัดการพลังงานมากขึ้น ก็อาจจะต้องมอง รุ่นที่ใช้แรมใหม่ๆ เช่นนี้ เอาไว้ด้วยเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: techcenturion.com

LPDDR/ LPDDRX: แรมทั้ง 2 รูปแบบนี้ มาจากพื้นฐานเดียวกัน และใช้ร่วมกันได้ แต่จะต่างกันเล็กน้อยนั่นคือ แรงดันไฟที่ LPDDRX จะใช้น้อยกว่า รวมถึงมีสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่านั่นเอง ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้บนโน๊ตบุ๊คบางเบา พรีเมียมโน๊ตบุ๊คและไลฟ์สไตล์ เช่น ASUS Zenbook 14 Duo, MSI Prestige 14 หรือ Lenovo ThinkBook, Ypga slim เป็นต้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

DDR: สำหรับแรมประเภทนี้จะเน้นที่ Performance เป็นหลัก และเรื่องการใช้พลังงานเป็นเรื่องรอง ทำให้เรามักเห็นแรมประเภทนี้บนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค นอกจากนี้แรม DDR ในแง่ของการผลิต ยังราคาถูกกว่า LPDDR ที่มีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพสูง และสิ่งที่แตกต่างเป็นสำคัญเลยคือ LPDDRX จะไม่สามารถอัพเกรดได้ ซึ่งจะใช้การติดตั้งลงบนบอร์ดโดยตรง หรือที่รู้จักกันว่าแรมออนบอร์ด แต่ถ้าเป็น DDR ส่วนใหญ่จะถอดเปลี่ยน และอัพเกรดได้

การสนับสนุนขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คในแต่ละรุ่น ว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะใด ตรงนี้ต้องว่ากันแต่ละรุ่นและซีรีส์ เพราะบางครั้งซีรีส์เดียวกัน แต่แยกออกไปหลายรุ่น หลายโมเดล ก็อาจจะใช้แรมที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งเป็นแบบออนบอร์ดอย่างเดียว แต่บางทีก็มีออนบอร์ด รวมถึงมีสล็อตในการอัพเกรดได้

เช็คราคาแรมโน๊ตบุ๊ค 2023

Model Capacity Price
PNY DDR4 3200 8GB 975 บาท
Corsair Vengeance DDR4 3200 8GB 1090 บาท
ADATA DDR4 3200 16GB 1,850 บาท
TEAM TForce DDR4 3200 16GB 1,890 บาท
Kingston Value DDR4 3200 16GB 2,110 บาท
HyperX FURY IMPACT DDR4 3200 32GB 3,915 บาท
G.Skill RIPJAWS DDR5 4800 16GB 3,425 บาท
Corsair Vengeance DDR5 4800 32GB 8340 บาท
source: price 4/2/2023

แรมออนบอร์ด

อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้กับแรมออนบอร์ด หรือที่ติดตั้งในแบบบัดกรีติดกับเมนบอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น LPDDR แรมในรูปแบบนี้ จะมาพร้อมเครื่อง และมักจะไม่ได้ให้สล็อตสำหรับการอัพเกรดมาด้วย จะเป็นการกำหนดรุ่นให้ผู้ใช้ได้เลือก เช่น 8GB หรือ 16GB อย่างเช่นใน ASUS Zenbook หรือ Vivobook ในหลายๆ รุ่น ส่วนหนึ่ง ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความเหมาะสมกับงาน และราคาที่ต้องการ

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

อย่างไรก็ดียังมีโน๊ตบุ๊คในกลุ่มใกล้เคียงกันที่รองรับการอัพเกรด แม้ว่าจะมีแรมแบบออนบอร์ดติดตั้งมาด้วย เช่น Lenovo IdeaPad หรือ Yoga Slim บางรุ่น รวมถึง ASUS Zephyrus G14 เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคาแรคเตอร์ของโน๊ตบุ๊คที่มีออนบอร์ด และสล็อตแรมส่วนใหญ่ อาจไม่ได้จำเพาะเจาะจง แต่สิ่งที่คล้ายกันคือ เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัด บาง และเน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก

แต่ถ้าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มักจะใช้เป็นแรม DDR ไม่ว่าจะเป็น DDR4 หรือ DDR5 ในแบบ SO-DIMM ปกติ ก็จะไม่ค่อยเห็นเป็นแบบออนบอร์ดมากนัก แต่ก็พอมีอยู่บ้าง เช่น ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ให้แรมออนบอร์ดมาแล้ว 16GB และมีสล็อตว่าง สำหรับการอัพเกรดเพิ่มนั่นเอง


เมื่อไรต้องเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค?

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค หรืออัพเกรดแรม ช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น เช่นเดียวกับบนพีซี แต่เราจะสังเกตโน๊ตบุ๊คที่ใช้อย่างไร ว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มแรมให้มากขึ้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เครื่องใช้เริ่มทำงานช้าลง อาจจะเปิดแอพพลิเคชั่นเดิม แต่ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น ทำให้พื้นที่การ Swap file ต้องไปอาศัย Storage อย่างฮาร์ดดิสก์หรือ SSD การเพิ่มแรมมีส่วนช่วยได้

เปิดเว็บเบราว์เซอร์หลายหน้าต่างหรือหลายแท็ปบ่อย กับการทำงานในแบบมัลติทาส์ก คือทำหลายงานพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น ทำเอกสาร ดูสตรีมมิ่งและการเปิดหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ก็จำเป็นต้องใช้แรมจำนวนมากเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

การเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือทำงานร่วมกับไฟล์จำนวนมาก ทำได้ช้า ใช้เวลานาน หรือมีอาการสะดุด แรมก็มีส่วนในการทำงานอยู่ด้วย

รวมไปถึงการเล่นเกม ที่บางเกมก็ต้องการแรมจำนวนมาก มาใช้ในการขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการประมวลผล แม้จะมี VRAM บนการ์ดจอก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญในคนละส่วน ซึ่งการอัพเกรด มีส่วนช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นขึ้น และมีผลต่อเฟรมเรตที่ดีขึ้นในบางโอกาสอีกด้วย


โน๊ตบุ๊คที่ใช้ อัพเกรดได้มั้ย ดูอย่างไร?

วิธีการสังเกตว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น สามารถอัพเกรดแรม หรือเพิ่มแรมได้หรือไม่ มีด้วยกันหลายวิธี ว่ากันตั้งแต่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ดูข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิต: ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นวิธีการในเบื้องต้น ที่พอจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คได้ว่า ต้องใช้แรมแบบใด และมีสล็อตสำหรับการอัพเกรดหรือไม่ โดยค้นหารุ่นและซีรีส์จากในเว็บไซต์ได้เลย หรืออย่างน้อยให้ทราบรุ่น และรหัสที่แน่นอน เช่น ExpertBook B5 Flip (B5302F) ในวงเล็บที่ต่อท้ายนี้ ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อทราบแล้ว การค้นหามักจะไม่ผิดรุ่น ยกเว้นว่าจะไม่ได้มีบอกไว้ใน Specification ของรุ่นนั้นๆ ตัวอย่าง จากภาพด้านบนนี้ ทั้งจาก MSI, ASUS และ HP ครับ

ติดตั้งซอฟต์แแวร์ยูทิลิตี้: ถือว่าพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบมีสล็อตมาให้ภายใน แต่บางครั้งก็ไม่อาจจะตรวจได้ครบถ้วน ยิ่งมีแรมแบบออนบอร์ด บางครั้งก็ตรวจพบมากกว่า 2 สล็อตอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การตรวจเช็คสับสนอยู่พอสมควร ซอฟต์แวร์แนะนำว่าให้ดูแบบคร่าวๆ สำหร้บเช็คความจุแรม และสเปคของแรมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องจะแม่นยำกว่า

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ใช้บริการตรวจเช็คจากเว็บไซต์: ข้อนี้เป็นวิธีที่ง่าย เหมือนกับการเข้าไปหาข้อมูลในเว็บไซต์ผู้ผลิต จะต่างกันอยู่บ้างตรงที่ จะอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คให้ คล้ายกับการที่คุณใช้ระบบการค้นหาไดรเวอร์การ์ดจอ ที่จะมีระบบตรวจเช็คสเปคเครื่องให้ แล้วแจ้งว่า คุณมีสเปคอะไรบ้าง และต้องใช้ไดรเวอร์ตัวไหน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพียงแต่ระบบตรวจเช็คแรมนี้ จะตรวจว่าในระบบของคุณมีแรมกี่สล็อต และติดตั้งแรมอะไรไปแล้วบ้าง รวมถึงมีสล็อตเหลือมั้ย อัพเกรดเพิ่มได้หรือเปล่า โดยที่คุณแค่หาแรมมาเพิ่มตามที่ระบบแจ้งเอาไว้เท่านั้น ตัวอย่างระบบนี้อย่างเช่น เว็บไซต์ของทาง Crucial ที่จะมี Scan my laptop หรือ Lookup my laptop ในการสแกนเพื่อค้นหาการใช้งานแรมในระบบ ตามตัวอย่างที่อยู่ด้านบนนี้ เป็นอีกวิธีที่ง่ายมากๆ และอยากจะแนะนำ จากการที่ได้ทดสอบใช้งาน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แกะเครื่องเปิดดู: เป็นแบบที่ชัดเจนที่สุด เพราะคุณสามารถเห็นฮาร์ดแวร์ได้ชัดเจนว่า โน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น รองรับการเพิ่มแรมได้หรือไม่ แต่การแกะฝาหลังโน๊ตบุ๊คบางครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางรุ่นออกแบบมาอย่างแน่นหนา เรียกว่าแกะแทบไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเครื่องมือที่ดีพอ แต่บางรุ่นก็แกะได้ง่าย เรียกว่าไขควง 4 แฉกตัวเดียว และบัตรพลาสติก ที่ใช้ในการแกะขอบด้านข้างเท่านั้น ก็สามารถถอดฝาหลังได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่สิ่งสำคัญก็คือ การจะจับแตะต้องชิ้นส่วนที่อยู่ภายในโน๊ตบุ๊คนั้น ต้องให้แน่ใจว่า มือเราไม่มีไฟฟ้าสถิตย์ ที่อาจเกิดอันตรายต่อชิ้นส่วน และเสียหาย ดังนั้นเป็นไปได้ หากจะให้เกิดความปลอดภัย ควรมีถุงมือกันไฟฟ้าสถิตย์ หรือถอดขั้วต่อจากแบตเตอรี่มาที่ตัวเมนบอร์ดออกก่อน จากนั้นจึงแกะหรือติดตั้งแรมใหม่เข้าไป

การแกะเครื่องด้วยตัวเอง ควรศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนลงมือ ทั้งวิธีการ และการรับประกัน ให้มั่นใจว่าสามารถแกะได้ โดยไม่เสียการประกัน และไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งจะไม่สามารถเคลมได้ โปรดหลีกเลี่ยงโดยไม่จำเป็น

ดูจากเว็บไซต์รีวิว: ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำ เพราะคุณจะสามารถทำตามขั้นตอนได้ รวมถึงเหล่านักรีวิว ก็จะบอกถึงรายละเอียดของแรม ให้คุณไปซื้อได้อย่างถูกต้อง รุ่นหรือซีรีส์ที่ใกล้กัน ก็พอที่จะใช้วิธีการเดียวกันได้ ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าจะไปดูที่ไหนดี หรือดูต่างประเทศ ก็กลัวว่าซีรีส์เดียวกัน แต่คนละโมเดล ก็ดูจากรีวิวเมืองไทยก็ได้ครับ อย่างทีมงาน Notebookspec ก็มีแกะให้ได้ชมกันไปแล้วหลายร้อยรุ่น น่าจะพอเป็นข้อมูลในการอัพเกรดแรมของคุณได้พอสมควร


แรม Single channel vs Dual channel

หลายคนที่ไม่ค่อยได้ใช้คอมบ่อย หรืออาจจะมีโน๊ตบุ๊คตัวแรก อาจไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับแรม Single channel และ Dual channel มากนัก ซึ่งตรงนี้อธิบายในเบื้องต้นว่า Dual channel เป็นรูปแบบการทำงานของแรม 2 ชุดเข้าด้วยกัน ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าการทำงานแบบ Single channel เพียงแต่ว่าการจะใช้งานแรมแบบ Dual นี้ ก็มีเงื่อนไขในการทำงานเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เงื่อนไขที่เป็นเรื่องพื้นฐาน คือ การติดตั้งแรม 2 ตัว เข้าด้วยกัน แม้จะเป็นแรมต่างความเร็ว หรือความจุไม่เท่ากันก็ได้ ติดตั้งด้วยกัน 2 แถว 2 สล็อต หรือจะเป็นแรมบนเมนบอร์ด หรือที่เรียกว่าออนบอร์ด คู่กับแรมบนสล็อต ก็สามารถใช้งาน Dual channel ได้เหมือนกัน

แต่ในกรณีที่เป็นแรม 16GB ที่ฝังมาบนเมนบอร์ดนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย ว่าจัดวางมาในรูปแบบใด เพราะบางครั้งเป็น DRAM 16GB เม็ดเดียว ก็อาจจะไม่ได้ทำงานแบบ Dual channel แต่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในเคสนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดบาง และมีสล็อตมาให้อัพเกรด ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการวางเม็ดแรม บางรุ่นมาในแบบ 4GB x4 อีกด้วย ดังนั้นต้องว่ากันที่การผลิตและรูปแบบการจัดวางในแต่ละรุ่น


แรมไม่เหมือนกันใส่ด้วยกันได้มั้ย?

บางท่านอาจจะสงสัย แรมแบบ DDR3/ DDR4/ DDR5 เหล่านี้ จะสามารถติดตั้งบนสล็อตร่วมกันได้หรือไม่ เพราะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่มาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค DDR5 แต่มีแรมจากโน๊ตบุ๊คตัวเก่าเป็น DDR4 16GB น่าจะเอามาใช้ร่วมกัน จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: Crucial

ขอแจ้งเอาไว้ดังนี้เลยครับว่า ไม่สามารถใช้แรมต่างชนิด ต่างแบบร่วมกันได้ครับ อ้างอิงจากแรมค่าย Crucial ระหว่าง DDR5 จะเป็นขาแบบ 262-pins ส่วน DDR4 จะเป็นแบบ 260-pins แม้จะใกล้กันมาก แต่ก็ไม่สามารถติดตั้งลงบนสล็อตเดียวกันได้ แบบเดียวกับแรมบนพีซี แม้ว่าแรม DDR5 และ DDR4 จะใช้ DIMM 288-pins เช่นเดียวกัน แต่ด้วยตัวบาก (Notch) ไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถติดตั้งบนสล็อตเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นอย่าฝืน หรืออย่าบังคับใส่ลงไป เพราะอาจทำให้บอร์ดและสล็อตเสียหายได้


ขั้นตอนการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สุดท้ายเป็นเรื่องของการติดตั้งแรมลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากที่คุณได้แกะฝาหลังออกมาแล้ว รวมถึงเลือกแรมที่ใช้ร่วมกันให้พร้อม เสร็จแล้วก็ไปลุยกันเลย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เตรียมแรมให้พ้อมสำหรับการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค โดยแนะนำเลยครับว่า ถ้ามีถุงมือให้ใส่ ก็ใส่เพื่อความปลอดภัยของตัวแรม และการติดตั้ง

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จากนั้นดูสล็อตที่เป็นช่องอัพเกรดแรมให้ตรงกับแรม โดยยึดเอาตัวบากหรือ Notch ที่เป็นร่องตรงกลางให้ตรงกันกับแรมที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แล้วถ้าไม่มีแรมบนสล็อตนั้นล่ะ? ให้ลองวางตัวแรมลงบนสล็อต เพื่อวัดระยะก่อนว่า Notch นั้นตรงกันกับสล็อต จากนั้นเอียงแรมแบบในภาพ แล้วใส่ลงไปบนสล็อตแบบเอียงๆ นั้น จากนั้นกดแรมให้อยู่ในแนวราบเบาๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงคลิ๊ก ที่หมายถึงล็อคตัวแรมลงบนสล็อตเป็นที่เรียบร้อย ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น

แต่ก่อนจะปิดฝาหลังของโน๊ตบุ๊คเพื่อจบงาน อย่าลืมตรวจเช็คด้วยการลองบูตเครื่อง เพื่อดูว่าสามารถเข้าระบบได้ตามปกติหรือไม่ หากติดปัญหา ไม่บูต ให้ลองแกะแรมออกมาอีกครั้ง แล้วติดตั้งกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง


แรมครบมั้ย

เมื่อติดตั้งแรมเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมเช็คความเรียบร้อย ดูว่าระบบตรวจเช็คแรมได้ครบหรือไม่ หากคุณมีอยู่ 8GB แล้วเพิ่มไปอีก 8GB ก็ควรจะเป็น 16GB แต่ถ้าเช็คแล้วยังเป็น 8GB อยู่ ก็น่าจะมีอะไรผิดพลาด ด้วยวิธีการเช็คแบบง่ายๆ ดังนี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

Task Manager วิธีนี้ค่อนข้างสะดวก ด้วยการกดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc พร้อมกัน เพื่อเข้าไปใน Task Manager จากนั้นไปที่แท็ป Performance แล้วคลิ๊กที่ Memory ดูที่หน้าต่างด้านขวา จะเห็นความจุของแรมปรากฏขึ้น ให้ดูที่ตัวเลขที่อยู่มุมบนขวามือ จะบอกตัวเลขความจุทั้งหมดให้เราทราบ จากตัวอย่างนี้ เป็นแรม 4GB + ติดตั้งเพิ่ม 8GB รวมเป็น 12GB เห็นครบแบบนี้ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะสิ่งที่ต้องทำต่อไปนั้น คือการทดสอบเสถียรภาพ


อาการผิดปกติหลังเพิ่มแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ความผิดปกติ หลังจากการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้อาจจะต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เรามาดูว่าอาการเกี่ยวกับแรมที่อาจเกิดขึ้นได้มีสิ่งใดบ้าง และจะต้องแก้ไขอย่างไร?

โน๊ตบุ๊คค้าง ไม่เข้าระบบ: หรือโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ให้ลองเปิดฝาหลังโน๊ตบุ๊ค แล้วติดตั้งแรมที่เพิ่งใส่เข้าไปใหม่ เพียงแถวเดียว และบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพราะอาจเป็นไปได้ว่า แรมไม่เข้ากับแรมเก่าที่ใช้งานอยู่ จากนั้นอาจจะต้องเช็คบัสของแรมอีกครั้ง และแจ้งเปลี่ยนกับร้านค้าที่จำหน่ายแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่ถ้าไม่มีแรมอื่นใด ติดตั้งอยู่เลย การติดตั้งแรมใหม่ ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ หากมี 2 สล็อต ให้ลองสลับเปลี่ยนสล็อตอีกอัน เพื่อดูอาการ ส่วนถ้ามีแรมออนบอร์ด และใส่แรมใหม่เข้าไป แต่ไม่บูต ก็เป็นไปได้ว่าแรมใช้ร่วมกันไม่ได้ ซึ่งเจอได้น้อยมาก

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จอฟ้า BSOD: หากเป็นจอฟ้าบ่อย ให้ลองติดตั้งแรมอีกครั้ง เพราะอาจเกิดจากการติดตั้งไม่แน่น หรือเอียง จนไม่เข้าล็อคตามปกติ ขยับแรมออกมาใหม่ อาจช่วยได้

รีสตาร์ทบ่อย: ให้เช็คว่า ก่อนหน้านี้โน๊ตบุ๊คมีอาการผิดปกติดังกล่าวนี้มั้ย ถ้าไม่เคยมี และเป็นหลังจากการติดตั้งแรม ให้ลองรีบูตใหม่ และลองอัพเดตวินโดว์และไดรเวอร์ชิปเซ็ตเมนบอร์ดอีกครั้ง ด้วยการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้ผลิต หากยังเป็นอยู่ให้นำแรมและโน๊ตบุ๊คให้ร้านค้าดู เพื่อทำการเปลี่ยนต่อไป


Conclusion

สุดท้ายนี้ ในการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค การติดตั้งและการใช้งาน ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับการขั้นตอนการตรวจเช็ค หรือหาข้อมูลว่าโน๊ตบุ๊ครองรับการติดตั้งแรมเพิ่มได้มั้ย หรือใช้งานกับแรมแบบใด เพราะบางครั้งอาจถึงขั้นที่ต้องแกะโน๊ตบุ๊คออกมาดูกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีครับ การเพิ่มแรม ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนลงแรง เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูง หากสังเกตจากราคาจะเห็นว่า เพิ่มแรม DDR4 8GB ยังไม่ถึงพันบาท แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการทำงานแบบ Dual channel เมื่อใช้ร่วมกับแรมเดิมที่มีอยู่ และคุณยังสามารถทำเองได้ ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ที่บ้าน แต่ก็แนะนำว่าให้ลองสอบถามร้านจำหน่าย ว่ามีผลต่อการรับประกันด้วยหรือไม่ ในกรณีที่เป็นโน๊ตบุ๊คซึ่งอยู่ในระยะประกัน แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ก็แนะนำว่าให้ไปร้านที่จำหน่ายโน๊ตบุ๊คใกล้บ้าน ขอคำแนะนำ ซื้อแรมและอัพเกรดโดยช่างที่ชำนาญในร้าน ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจครับ อุ่นใจและมั่นใจได้

from:https://notebookspec.com/web/685571-upgrade-ram-notebook-2023

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น เริ่มไม่ถึง 30,000 ปี 2023 เล่นเกมใหม่ เฟรมเรตลื่น

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่นเด็ด เริ่ม 29,900 การ์ดจอแรง จอใหญ่ เล่นเกมลื่น อัพเกรดได้

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ต้นปี 2023 ครั้งนี้จัดมาให้สำหรับคอเกม ที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมใหม่ๆ ในปีนี้ กับราคาในระดับที่จ่ายง่าย สบายกระเป๋า เริ่มแค่ 29,900 บาท ไปจนถึง 35,900 บาท แต่เล่นเกมได้แบบโหดๆ กับสเปคที่ให้คุณเล่นเกมบนความละเอียด Full-HD ได้ลื่น ว่ากันตั้งแต่ซีพียูระดับ Intel Core i5 จนถึง Core i7 และ AMD Ryzen 5 กับความแรงที่จะตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมพื้นฐาน ไปจนถึงเกมระดับ AAA โดยมีกราฟิกการ์ด GeForce RTX3050, RTX3050Ti และ RTX3060 ให้ใช้งาน จอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งในเวลานี้มีให้เลือกเกือบทุกแบรนด์ แต่จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ซึ่งเข้ามาตามเงื่อนไขหรือจัดสเปคให้เกินจากนี้บ้าง ไปติดตามชมกันครับ

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ปี 2023

  1. MSI GF66 Katana 12UC
  2. ASUS TUF Gaming A17
  3. Gigabyte A5 K1
  4. Gigabyte G5 ME
  5. HP Victus Gaming 16
  6. ASUS TUF Dash F15
  7. Lenovo Gaming3
  8. Acer Nitro AN515

1.MSI GF66 Katana 12UC

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาเริ่มกันที่โน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นแรก ที่ทำราคาออกมาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับ GF66 Katana ซึ่งเป็นซีรีส์ในตระกูลเกมมิ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา เพราะเรื่องของการดีไซน์และวัสดุ มีความคุ้มค่าน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวามากนัก คีย์บอร์ดเป็นไฟสีแดง ตัดกับโครงสร้างสีดำ ดูโหดๆ ดีเหมือนกัน แต่ถ้าเน้นที่พลังในการเล่นเกม หน้าจอขนาดใหญ่ สีสดใส ระดับ 15.6″ FHD และรีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ก็ต้องบอกว่า ราคาหาตัวจับมาแข่งได้ยาก ซึ่งทาง MSI ใส่ขุมพลัง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งซีพียูตัวแรงมาให้ พร้อมแรม DDR5 8GB และใส่การ์ดจอ GeForce RTX3050 4GB มาให้ด้วย แบตเตอรี่อาจจะไม่ใหญ่นัก น้ำหนักตัวเลยอยู่ที่ประมาณ 2.25Kg เท่านั้น พอร์ตจัดมาให้ครบ เช่นเดียวกับชุดระบายความร้อน CooloerBoost 5 ที่มีฮีตไปป์หลายเส้น คู่กับพัดลมคู่ขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ กับการรับประกัน 2 ปี ราคาอยู่ที่ราว 29,900 บาทเท่านั้น

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อมแรม DDR5 ไม่มี Thunderbolt 4
แบตค่อนข้างอึด

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


2.ASUS TUF Gaming A17

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวคุ้มสุดโหด ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นเด่นในตลาดบ้านเรา สำหรับงบประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งมีการต่อยอดมาอย่างต่อเนื่องจาก ASUS TUF รุ่นก่อนๆ มาได้ดี จากบอดี้ที่ก่อนหน้านี้เน้นอึดถึก ดูบึกบึน มาถึงตอนนี้ เริ่มปรับเส้นสายและมิติให้ดูบาง ลงตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Cover สีเทาเรียบๆ แต่ใส่โลโก้ให้ดูสะดุดตา ด้านใต้เป็นช่องลมแบบรังผึ้ง ด้านในลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยน และให้หน้าจอใหญ่ 17.3″ FHD อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ขุมพลัง AMD Ryzen 7 4800H พร้อมแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB โดยใช้การ์ดจอพิมพ์นิยม GeForce RTX3050 มาด้วย กับระบบเสียงสุดกระหึ่มเอาใจเกมเมอร์ และคอบันเทิงได้ดีทีเดียว พอร์ตต่อก็ครบ ทั้ง USB 3.2, USB Type-C ที่ใช้ต่อจอได้ และ HDMI ไปจนถึง LAN ชุดระบายความร้อนพัดลมคู่ และฮีตไปป์ จุดเด่นอยู่ที่คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ปรับแต่งได้ พร้อมโพรไฟล์ให้เลือก 4 แบบด้วยกัน การรับประกัน 2 ปี ราคาประมาณ 30,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
คีย์บอร์ด RGB แรม DDR4
จอขนาดใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


3.Gigabyte A5 K1

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เข้าป้ายมาอีกหนึ่งรุ่นสำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจาก Gigabyte ที่จัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม ไม่เป็นรองใคร อาจจะต่างจากรุ่นของ G5 อยู่บ้าง ในแง่ของบอดี้ที่อาจะดูบึกบึนขึ้นมา แต่มาในสไตล์ที่ดูเป็นเกมมิ่งดุดัน ให้ขุมพลังมาเพื่อรีดเฟรมเรตโดยเฉพาะ กับโครงสร้างที่แข็งแกร่ง หน้าจอแบบ 15.6″ IPS 144Hz Full-HD และมีขอบจอบางพิเศษ โดยให้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H ที่รับได้ทั้งงานและการเล่นเกมปัจจุบัน พร้อมแรม DDR4 3200 8GB เช่นเดียวกับ SSD 512GB มาตรฐาน รองรับการอัพเกรดได้พอสมควร ส่วนการ์ดจอต้องจัดว่าแรงแซงหน้าคู่แข่งในงบพอกัน เพราะจัด RTX3060 มาให้ เล่นเกมได้ลื่นมากขึ้น ส่วนคีย์บอร์ดสไตล์เกมมิ่ง ที่มีแสงไฟ Backlit มาในตัว ตั้งรูปแบบแสงไฟได้ 15 สี พอร์ตโดดเด่นตรงที่มี Mini DP เพิ่มมาให้ นอกเหนือจาก HDMI จึงต่อเพิ่มได้อีก 2 จอ และพอร์ต USB 3.2 Type-C แต่ไม่มี Thunderbolt 4 มาให้ น้ำหนักตัวประมาณ 2.12Kg ราคาสบายกระเป๋า 31,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้การ์ดจอ RTX3060 แรม DDR4
มีพอร์ต HDMI และ Mini DP ต่อจอใหญ่ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


4.Gigabyte G5 ME-51TH263SH

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Gigabyte ซึ่งเป็นค่ายที่ช่ำชองในตลาดของเกมมิ่งมายาวนาน และในไทยก็มีโน๊ตบุ๊คที่ล้ำๆ มาให้ได้ใช้กันด้วย ในราคาที่เป็นกันเอง อย่างเช่น G5 Gen12 รุ่นนี้ ที่ใส่มาทั้งดีไซน์และฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย หน้าจอขนาด 15.6″ FHD 144Hz ฝาหลังมีการออกแบบเส้นสายให้ดูไม่น่าเบื่อ กับบอดี้ที่ดูปรับให้ลงตัวมากขึ้น บานพับขนาดใหญ่ เน้นการใช้งานที่ไม่โยกคลอนง่าย พอร์ตต่อพ่วงกระจายออกไปในทุกด้าน เพื่อลดความแออัด ขุมพลัง Intel Core i5-12500H และให้แรม DDR4 3200 8GB มาให้ และ SSD 512GB แต่ขยับการ์ดจอให้แรงขึ้นอีกนิดกับ RTX3050Ti น้ำหนักทำได้ค่อนข้างดีอยู่ที่ 1.9Kg เท่านั้น กับระบบเสียง DTS:X จัดเต็มสำหรับคอเกม คู่กับลำโพงใต้เครื่องให้มิติเสียงได้สนุก โดยมีพอร์ตพื้นฐานอย่าง USB 3.2 Type-C และ HDMI รวมถึง Mini-DP มาให้ จะขาดไปเพียง Thunderbolt 4 ที่จะอยู่ในรุ่น G5 KE เท่านั้น อย่างไรก็ดีโดยรวมยังถือว่ามาแบบครบๆ สเปคก็ถือว่าจัดจ้าน กับการรับประกัน 2 ปี ในราคา 32,490 บาท เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti ไม่มี Thunderbolt 4
ดีไซน์ทันสมัย

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


5.HP Victus Gaming 16-e1081AX

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวแกร่งของทาง HP กันบ้าง ใครที่ชื่นชอบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีมิติเพรียวบาง Victus ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ดีไซน์ของรุ่นนี้ จะออกไปทางสาย Pavilion ที่ดูมีความหรูหรา และให้ความแรงที่แตกต่าง กับหน้าจอขนาดใหญ่ 16″ ที่กว้างขึ้น ความละเอียด Full-HD รีเฟรชเรต 144Hz จัดได้ว่าเป็นหน้าจอที่สว่างสดใส ให้ความแม่นยำของสีได้ดีพอสมควร กับสเปคที่จัดว่าขิงกับค่ายอื่นได้สบาย ในราคาเดียวกัน เพราะได้ซีพียูใหม่อย่าง AMD Ryzen 5 6600H 6 core/ 12 thread กับความเร็วสูงสุด 4.5GHz ที่มากับแรม DDR5 ที่เสริมความแรงมาให้ถึง 16GB รวมถึง SSD 512GB และการ์ดจออย่าง GeForce RTX 3050Ti อีกด้วย อีกทั้งยังให้ระบบเสียงมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ กับพอร์ตเชื่อมต่อสำคัญก็มีมาเกือบครบ อย่าง USB 3.2 Type-C, HDMI และ RJ-45 แต่คีย์บอร์ดจะมาในแบบแสงไฟสีขาวมาเท่านั้น การรับประกันเป็นแบบ 2 ปี On-site service ราคาอยู่ที่ 33,400 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
แรม 16GB คีย์บอร์ดไฟขาว
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti

ข้อมูลเพิ่มเติม: HP


6.ASUS TUF Dash F15 FX517

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เรียกว่าสายของ TUF Dash จาก ASUS ไม่เคยแผ่ว โตในสายเกมมิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นนี้เอง ก็จัดว่าน่าสนใจ เพราะใส่ขุมพลังตัวแรง อย่าง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งตัวแรงมาด้วย คู่กับแรม DDR5 8GB รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ เช่นเดียวกับ SSD 512GB M.2 รุ่นใหม่ ความเร็วสูง กับหน้าจอขนาด 15.6″ FHD อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ซึ่งขอบจอบางพิเศษ กับใครที่อยากจะได้การ์ดจอที่แรงขึ้นสุดในราคาระดับนี้ ASUS ให้มาเป็น RTX3050Ti พร้อม MUX switch ในตัว คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ใช้งานร่วมกับ AURA Sync ได้ จุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอความทนทานกับดีไซน์ที่สวยโดดเด่น วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ชุดระบาบความร้อนออกแบบมาเป็นพิเศษ Arc Flow Fans ที่ให้การหมุนเวียนของอากาศได้ดี ช่วยลดความร้อนในขณะเล่นเกม กับพอร์ตต่อพ่วงสำคัญอย่าง Thunderbolt 4, USB 3.2 Type-C และ HDMI มีให้ใช้ครบ กับการรับประกัน 2 ปีและ Perfect Warranty น้ำหนักเบาเพียง 2Kg. เท่านั้น เคาะราคามาที่ 34,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้ RTX3050Ti
คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


7.Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IAH7

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Lenovo ในราคาระดับนี้ ทำให้ผมชั่งใจพอสมควร ระหว่างรุ่นนี้ที่ใช้ Intel Core i5-12500H กับ i5-12450H เพราะได้การ์ดจอต่างกันในราคาเบียดๆ กันเลยทีเดียว โดย i5-12450H+RTX3050Ti ราคาสูงกว่ารุ่นนี้ 1,000 บาทเท่านั้น น่าสนใจด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าคุณอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและจะแบ่งไปจัดเกมมิ่งเกียร์ด้วย ก็จัดรุ่นนี้ได้เลย ดูคมเข้ม ยิ่งรุ่นสีขาว Limited Edition ยิ่งโดนใจกับแสงไฟสีฟ้า การออกแบบใหม่ จัดว่าสวยลงตัว จอขนาด 15.6″ FHD รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz จอสีตรง ให้ความสว่างสูง โดยมีแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB ที่มีสล็อตเพิ่มให้ ระบบเสียง Nahimic สดใส เอฟเฟกต์แน่น พอร์ตมีให้ครบ ส่วนใหญ่ไปอยู่ด้านหลังทั้ง Thunderbolt 4 และ HDMI คีย์บอร์ดกดได้สนุก ชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ ออกแบบมาได้ดี น้ำหนักประมาณ 2.31Kg รับประกัน 3 ปีแบบ Onsite Service ราคาอยู่ที่ 33,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz น้ำหนัก 2.31Kg
มี Thunderbolt 4

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo


8.Acer Nitro AN515-58

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในกลุ่มเกมมิ่งได้ถูกอกถูกใจเหล่าเกมเมอร์มายาวนาน ในซีรีส์ Nitro ถือว่าโดดเด่น และทำราคาที่จับต้องได้ง่าย ใส่ฟีเจอร์มาแน่น เช่นเดียวกับสเปคที่ไม่ธรรมดา โดยมีซีพียู Intel Core i5-12500H ที่ถือว่าจัดจ้าน แต่น่าเสียดายที่ใส่แรม DDR4 มาให้ แต่ก็จัดมาให้เยอะกว่าคู่แข่ง เพราะให้ถึง 16GB และให้การ์ดจอเริ่มต้นอย่าง RTX3050 มาอีกด้วย กับหน้าจอแสดงผล 15.6″ FHD 165Hz เป็นแบบ IPS สีสดใสคมชัด เรื่องของเส้นสาย Cover มาในแบบที่เด่น ตามสไตล์ของรุ่นนี้ ด้านในขอบจอบางเฉียบ และฝาพับที่ค่อนข้างแข็งแรง คีย์บอร์ดเป็นแบบ RGB 4 zone ปรับโพรไฟล์สีได้ กดแน่นสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ การระบายความร้อนมาพร้อมพัดลม 2 ตัวกับฮีตไปป์ ด้านท้ายตัวเครื่องออกแบบมาให้มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่มาให้ ทำงานคู่กับ Nitro Sense ให้การรับประกัน 3 ปี ราคา 35,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้จอรีเฟรชเรต 165Hz
แรม 16GB

ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer


Conclusion

Display CPU RAM SSD Graphic Price
1.MSI GF66 Katana 12UC 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX3050 29,900 บาท
2.ASUS TUF Gaming A17 17.3″ 144Hz AMD Ryzen 7 4800H DDR4 8GB 512GB RTX3050 30,990 บาท
3.Gigabyte A5 K1 15.6″ 144Hz AMD Ryzen 5 5600H DDR4 8GB 512GB RTX3060 31,990 บาท
4.Gigabyte G5 ME 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX 3050Ti 32,490 บาท
5.HP Victus Gaming 16 16.0″ 144Hz AMD Ryzen 5 6600H DDR5 16GB 512GB RTX 3050Ti 33,400 บาท
6.ASUS TUF Dash F15 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX 3050Ti 34,990 บาท
7.Lenovo Gaming3 15.6″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX3050 33,900 บาท
8.Acer Nitro AN515 16.0″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 16GB 512GB RTX3050 35,900 บาท

ก็เรียกว่าน่าจะครบครันไปแล้ว สำหรับข้อมูลของ 8 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูกในงบเริ่ม 29,900 บาท ซึ่งมีหลายรุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งหากต้องการซีพียู และสเปคที่ค่อนข้างใหม่ ราคาราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ถ้าเน้นราคาเริ่มต้น MSI GF66 ดีไซน์เกมมิ่ง ดุดันสเปคน่าใช้ แต่ถ้าอยากได้จอใหญ่ 17.3″ ซีพียูแรงๆ ASUS TUF A17 ตอบโจทย์คุณได้ ส่วนถ้าเลือกเฉพาะการ์ดจอแรงๆ มีทั้ง Gigabyte G5, HP Victus และ ASUS TUF Dash F15 ถือว่าน่าใช้ และถ้าต้องการจอรีเฟรชเรตสูง Lenovo และ Acer Nitro ทั้งคู่มาเป็น 165Hz แล้ว ส่วนถ้าอยากได้แรม 16GB มีทั้ง HP และ Acer แต่ HP จัดมาเป็น DDR5 อีกด้วย ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชั่น อย่างเช่น เรื่องการระบายความร้อน คีย์บอร์ดไฟ RGB หรือจะเป็นพอร์ต Thunderbolt 4 ก็มีให้ในบางรุ่น อยู่ที่คุณจะตัดสินใจเลือกใช้ และเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/682754-8-value-gaming-notebook-2023

ซื้ออะไรดี เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค หรือคอมประกอบ จัดสเปคคอม งบ 30,000 แบบไหนคุ้ม

ซื้ออะไรดี เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกับประกอบคอมใหม่ ในงบ 30,000 บาท เน้นแรง สเปคจัดเต็ม หรือจะเน้นพกพา

ซื้ออะไรดี

ซื้ออะไรดี? พีซีหรือโน๊ตบุ๊คเป็นคำถามที่หลายคนยังคาใจมาตลอด โดยเฉพาะคนที่ผ่านช่วงเวลาวิกฤต COVID ที่ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป เพราะก่อนหน้านี้ บางคนจากที่ต้องใช้งานพีซีที่ออฟฟิศ ก็ต้องหาคอมมาใช้ทำงานที่บ้านแทน แต่บางครั้งด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้การใช้คอมตั้งโต๊ะอาจไม่ตอบโจทย์ หรือไม่สะดวกเหมือนกับการใช้โน๊ตบุ๊ค แต่บางทีเลือกโน๊ตบุ๊คไป ก็ไม่ให้ความแรงเท่ากับการใช้พีซี ยิ่งในช่วงหลังมานี้ ตลาดการ์ดจอก็คึกคักมากขึ้น เพราะคนขุดเหมืองซบเซา ก็ทำให้หลายคนประกอบคอมได้ในราคาที่ถูกลงกว่าช่วงปลายปีที่แล้วหลายพันหลายหมื่นบาท เพราะฉะนั้นมาถึงตอนนี้ หลายคนก็น่าจะลังเลแล้วว่า ควรจะเลือกประกอบคอมใหม่ สำหรับการเล่นเกมดี หรือจะเลือกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีราคาน่าใช้มากขึ้น


ซื้ออะไรดี พีซีหรือโน๊ตบุ๊ค 2022

ดูจากชีวิตประจำวัน

สิ่งแรกที่ผมอยากให้คุณได้พิจารณาก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไรดีก็คือ การใช้งานคอมในชีวิตประจำวันของคุณว่าเป็นอย่างไร ตัวอย่างก็เช่น

Advertisementavw
ซื้ออะไรดี

เล่นเกมแนวไหน: ตรงนี้สำคัญไม่น้อยเลย เพราะถ้าเป็นเกมทั่วไป ไม่เน้นสเปคมาก โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งระดับเริ่มต้น ก็ตอบโจทย์ได้แล้ว แต่ถ้าเป็นเกม AAA หรือใช้ทรัพยากรเยอะมาก โดยเฉพาะกราฟิกการ์ด อย่างที่หลายคนได้ทราบกันคือ แม้ว่าจะเป็นกราฟิกในซีรีส์เดียวกัน แต่กราฟิกบนเดสก์ทอป ให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่า ด้วยสเปคที่มีมากกว่า และไม่มีข้อจำกัดในด้าน TDP นั่นเอง ถ้าคุณให้น้ำหนักในการเล่นเกม ที่ต้องแรง และลื่นไหล พีซีเดสก์ทอปคือทางเลือกของคุณ แต่ถ้าเกมทั่วไป แค่ไม่ต่ำไปกว่า 30fps ให้กระตุกจนน่ารำคาญ เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเริ่มต้น ก็คุ้มค่าน่าใช้ ตัวอย่างจากตารางด้านล่างนี้

RTX 3050 mobile RTX 3050
CUDA 2048 2560
Memory clock 712 1750
Memory size 4GB GDDR6 8GB GDDR6
Memory speed 12Gbps 14Gbps
Memory Bus 128-bit 128-bit
Bandwidth 192GB/s 224GB/s
TMUs 64 80
Tensor core 64 80
RT core 16 20
Pixel Rate 33.82 GPixel/s 56.86 GPixel/s
Texture Rate 67.65 GTexel/s 142.2 GTexel/s
ซื้ออะไรดี

เวลาในการเล่นเกมในแต่ละวัน: ตรงนี้ก็มีผลอย่างมากในการเลือกใช้ เพราะคุณอาจจะใช้เวลากับการเล่นเกมที่ยาวนาน จอโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6″ หรือ 17.3″ ก็อาจจะกว้างพอต่อการเล่น แต่ถ้าคุณไม่อยากจะเพ่งหรืออยากเห็นตัวละครได้ชัดกว่า หรืออยากจะเห็นรายละเอียดในเกมที่มากขึ้น เกมมิ่งพีซีกับจอขนาดใหญ่ 24″ ขึ้นไป ก็ช่วยให้คุณเพลิดเพลินได้สบายตามากกว่า

พื้นที่ใช้สอยกับการติดตั้ง: หากคุณมีพื้นที่เล่นเกมจำกัด หรือต้องจัดสรรใช้งานร่วมกับคนอื่น เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสะดวก ง่าย จบในตัว อย่างดีก็อาจจะเพิ่มคีย์บอร์ดเมาส์ ซึ่งไม่ใช้พื้นที่มากนัก แต่ถ้าคุณชอบจัดโต๊ะคอม แต่งจัดเต็ม มีลำโพงเสริมและ Accessories อื่นๆ เกมมิ่งพีซีตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้

ซื้ออะไรดี

มีอุปกรณ์ต่อพ่วงเยอะ: โดยพื้นฐานพีซีให้พอร์ตมาใช้งานได้เต็มที่ มีข้อจำกัดน้อย แม้จะเป็นเมนบอร์ดระดับเริ่มต้น ก็ยังมีพอร์ต USB มาอย่างน้อยก็ 4 พอร์ต และยัง LAN RJ-45, Audio และอื่นๆ จะมีเพิ่มอีกแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับราคาและซีรีส์ของเมนบอร์ด ทำให้บางคนที่ใช้งานโดยรวม ไม่อึดอัดนัก และไม่ต้องเจอปัญหาที่จะต้องแชร์พอร์ตร่วมกัน หรือเสียบอุปกรณ์ไม่ได้ เพราะเบียดกันเกินไป แต่ถ้าคุณใช้แค่เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง และไมโครโฟน หรือมีทางออกกับการใช้เมาส์ คีย์บอร์ดไร้สาย ผ่าน Receiver ร่วมกัน หรือซื้อ USB adaptor มาใช้ โน๊ตบุ๊คมีพอร์ตน้อย ก็ไม่ใช่ปัญหา


ซีพียูโมบายและซีพียูเดสก์ทอป

ซีพียู ในอดีตหลายคนอาจมองว่าซีพียูเดสก์ทอปจะได้เปรียบ ในแง่ของประสิทธิภาพที่เหนือกว่าซีพียูโมบาย แต่ในปัจจุบัน ข้อจำกัดที่เป็นช่องว่างระหว่างซีพียูทั้ง 2 แบบนี้ ก็ดูจะแคบลง ตัวอย่างเช่น

ซื้ออะไรดี
ที่มา: Intel

จากสเปคในเบื้องต้น ซีพียูโน๊ตบุ๊คตัวท็อปอย่าง Intel Core i9-12900HX ทำงานในแบบ 16 core/ 24 thread และ Cache L3 อยู่ที่ 30MB ความเร็ว Base clock P-core อยู่ที่ 2.3GHz เท่านั้น และ Boost P-core ไปได้ที่ 5GHz

ซื้ออะไรดี
ที่มา: Intel

แต่ถ้าเป็นซีพียู Intel Core i9-12900K ทำงานในแบบ 16 core/ 24 thread เช่นเดียวกัน และ Cache L3 อยู่ที่ 30MB ส่วนความเร็วสัญญาณนาฬิกา Base clock P-core สูงถึง 3.2GHz และ Boost P-core ไปได้ที่ 5.10GHz

โดยซีพียูทั้ง 2 แบบนี้ ต่างกันในแง่ของ TDP หรือ Thermal Design Power ซึ่งเป็นค่าการใช้พลังงาน ที่มีผลต่อเรื่องของความร้อนโดยตรง Base และมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ด้วยเช่นกัน อาทิ Core i9-12900HX, Base power 55W และ Max. สุดที่ 157W เท่านั้น ซึ่งก็เหมาะกับชุดระบายความร้อนบนโน๊ตบุ๊ค ที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนกับบนเดสก์ทอปพีซี แต่ซีพียูเดสก์ทอป Core i9-12900K Base power 125W และ Max. สุดที่ 241W เลยทีเดียว ซีพียูโน๊ตบุ๊คใช้พลังงานน้อยกว่า ซึ่งจะเหมาะกับชุดระบายความร้อนที่มีพื้นที่จำกัด ส่วนซีพียูพีซี ใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็เพิ่มศักยภาพให้กับการทำงานด้วยเช่นกัน

ซื้ออะไรดี
ที่มา: arstechnica.com

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ซีพียูโมบาย หรือซีพียูโน๊ตบุ๊ค มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ไม่แพ้ซีพียูเดสก์ทอป ตัวอย่างของซีพียู Intel ก็มีทั้ง U series ที่เน้นประหยัดพลังงาน ใช้ได้นาน P series ที่ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกับการใช้พลังงานที่ดี แล้วยังมี H และ HX series ที่เน้นความแรงมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มสัญญาณนาฬิกาที่มากกว่าปกติ ทั้งหมดก็จะมาพร้อมกราฟิกในตัวอีกด้วย นี่คือ จุดเด่นของซีพียูโมบาย ที่นอกเหนือจากการใช้พลังงานที่ต่ำกว่าซีพียูบนพีซี

ส่วนซีพียูพีซีนั้น ก็จะประกอบไปด้วย ซีพียูในรุ่นพื้นฐาน ที่ไม่มีรหัสต่อท้าย เช่น Intel Core i5-13600, และรุ่นที่ไม่มีกราฟิกในตัว ซึ่งจะลงท้ายด้วย “F” ส่วนถ้าเป็นซีพียูฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ก็จะต่อท้ายด้วย “K” (Unlocked) รองรับการโอเวอร์คล็อกได้ ส่วนที่เป็น “KF” ก็จะเป็นแบบ “K” series แต่ไม่มีกราฟิกในตัวมาให้นั่นเอง จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะต่างกันแค่ มีกราฟิกกับไม่มีกราฟิก และรุ่นโอเวอร์คล็อกเท่านั้น ความหลากหลายจะน้อยกว่าที่เป็นโมบาย

อัพเกรดได้มั้ย

การอัพเกรด ค่อนข้างชัดเจนว่า โน๊ตบุ๊คเอง แม้จะมีความคล่องตัว แต่ก็มีข้อจำกัดในหลายๆ ด้านเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

ซื้ออะไรดี

ซีพียู: หากเป็นโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ก็จะติดตั้งมาบนเมนบอร์ดอยู่แล้ว การเปลี่ยนทำได้ยาก ต่างจากการถอดจากซ็อกเก็ตบนเมนบอร์ดพีซี หรืออัพเกรดได้ แต่ซีพียูที่จะนำมาเปลี่ยนกับค่าใช้จ่ายก็แพง ไม่คุ้มค่านัก

ซื้ออะไรดี

แรม: ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไป ก็มักจะมีไม่สล็อตให้อัพเกรด บางรุ่นเป็นแรมฝังบอร์ดมาเลย หรือบางรุ่นก็จะมีสล็อตเพิ่มเข้ามาให้ จะมีแต่ที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเท่านั้น ที่ส่วนใหญ่ จะให้สล็อตแรม มาถึง 2 สล็อตด้วยกัน และพื้นฐานในการอัพเกรดจะได้สูงสุดประมาณ 32GB แต่จะมีบางรุ่นที่ได้ถึง 64GB แต่ก็มักจะเป็นโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์

เมนบอร์ด: พีซีมีสล็อตเพิ่มเติม ให้เพิ่มการ์ดต่อพ่วงได้อีก อย่างน้อย 1-2 สล็อต อาจจะใส่เป็น Capture card หรือ Thunderbolt, USB-C card เป็นต้น

ซื้ออะไรดี

การ์ดจอ: โน๊ตบุ๊คก็ฝังบอร์ดมาเช่นกัน การอัพเกรดก็แทบจะทำไม่ได้ เช่นเดียวกับซีพียู แต่ปัจจุบันก็ยังพอมีทางออกอยู่บ้าง เช่น การใช้การ์ดจอต่อภายนอกหรือ e-GPU ที่เป็น Box ใส่การ์ดจอต่อภายนอก ซึ่งใช้การ์ดจอพีซีปกติได้เลย เพียงแต่ข้อจำกัดจะอยู่ที่ โน๊ตบุ๊คที่คุณใช้จะต้องมีพอร์ต Thunderbolt รวมถึงการซื้อ Box สำหรับ e-GPU ไม่ได้ถูกราคาใกล้หลักหมื่น ส่วนเลือกการ์ดจอแรงแค่ไหน ราคาก็จะสูงตามไปด้วย นั่นก็ทำให้สายเกม เลือกซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวแรงๆ ไปเลย จะได้จบในทีเดียว และค่าใช้จ่ายถูกกว่า

ซื้ออะไรดี

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ กราฟิก GPU บนโน๊ตบุ๊คนั้น จะมีให้ 2 แบบคือ รุ่นปกติ และรุ่นประหยัดพลังงาน เช่น nVIDIA GeForce ในซีรีส์ของ Max-Q ที่จะถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับการใช้พลังงานอยู่ด้วย โดยจะดรอปความเร็วและฟีเจอร์บางส่วนลงจากรุ่นปกติ เพื่อให้โน๊ตบุ๊คในกลุ่มบางเบาหรือกึ่งทำงาน ที่ต้องการการ์ดจอแยกได้สามารถพกพาและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

ชุดระบายความร้อน: บนพีซีเดสก์ทอปเปลี่ยนได้ จะเป็นซิงก์ลม ชุดน้ำเปิดหรือ Liquid cooling ก็ตามสะดวก แล้วแต่พื้นที่จะเอื้ออำนวย

ซื้ออะไรดี

สีสันแสงไฟ: เดสก์ทอปพีซี มีให้เลือกเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย จะเป็นพัดลม RGB, ชุดน้ำปิดแสงสีสวยงาม หรือจะเป็นไฟแต่งเคสและอื่นๆ ก็ทำได้ ส่วนจะปรับแต่งได้มั้ย ก็ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดและซอฟต์แวร์จะเอื้ออำนวย ส่วนโน๊ตบุ๊คก็มีอยู่บ้าง เช่น แสงไฟที่ฐาน หรือโลโก้ หรือจะเป็นไฟจาก Cover ในบางรุ่น และคีย์บอร์ด RGB แต่ก็มักจะอยู่ในโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ราคาสูงๆ เช่น ASUS Zephyrus, HP OMEN หรือจะเป็น Acer PREDATOR TRITON เป็นต้น

ซื้ออะไรดี

พอร์ตต่อพ่วง: ถ้าเป็นเดสก์ทอปพีซี ก็มีข้อดีคือ พอร์ตมีให้เยอะ USB อย่างน้อยๆ ก็ 4 ช่อง ยังไม่รวมที่ต่อ Front panel ด้านหน้าอีก 1-2 พอร์ต ช่องต่อระบบเสียง เลือกแยกแชนแนลไว้รอเลย หรือช่อง RJ-45 ที่มีแน่ๆ แต่โน๊ตบุ๊คก็ต้องลุ้น สิ่งหนึ่งที่โน๊ตบุ๊คมักมีมาให้ แต่ผู้ใช้พีซีต้องซื้อเพิ่มก็คือ Memory card reader นั่นเอง

ถ้ามองความต่างในรูปแบบนี้ ถ้าถามว่าซื้ออะไรดี หลายคนก็จะคิดว่า เดสก์ทอปพีซีดูได้เปรียบกว่าเยอะ แต่ก็อย่าลืมว่า แม้ว่าโน๊ตบุ๊คจะมีข้อจำกัดในการอัพเกรด แต่ก็มีความได้เปรียบอยู่บ้างเช่นกัน อย่างเช่น

ซื้ออะไรดี

โน๊ตบุ๊คมาพร้อมแบตในตัว: ทำให้ใช้งานได้แม้จะไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ ถ้าเปรียบกับพีซี ก็หมายความว่า พีซีจะต้องมีเครื่องสำรองไฟอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้ามา เช่น UPS ระดับ 1000 VA รับโหลดที่ 500W ซึ่งเป็นเกมมิ่งพีซีพื้นฐาน เริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้าอยากให้สำรองไฟเพิ่มเติมได้ ใช้งานได้ต่อเนื่อง เครื่องไม่ดับและยังเล่นเกมได้ ราคาก็จะไปอยู่ที่หลักพันปลายๆ หรือหมื่นบาทขึ้นไป

แม้ว่าโน๊ตบุ๊คจะมีแบตมาในตัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นเกมได้ไหลๆ เป็นเวลานาน เพราะถ้าโน๊ตบุ๊คไม่เสียบสายชาร์จ ความเร็วและประสิทธิภาพต่างๆ ก็จะลดลง รวมถึงแสงไฟ ความสว่างหน้าจอ ไม่นานก็เครื่องดับเช่นกัน อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาว่าซื้ออะไรดี

ซื้ออะไรดี

การเชื่อมต่อ WiFi และ Bluetooth: เมนบอร์ดบางรุ่น อาจจะติดตั้งมาให้ในตัว แต่ส่วนใหญ่จะอยู่บนเมนบอร์ดที่ราคาค่อนข้างสูง หรือถ้าไม่มีมาให้ ก็ต้องซื้อบรรดาการ์ด WiFi หรือ Bluetooth adaptor มาติดตั้งเสริม หากจะต้องใช้งาน WiFi ซึ่งค่าใช้จ่ายก็หลักร้อยหรือพันต้นๆ แล้วแต่ประสิทธิภาพ

ระบบปฏิบัติการ: โน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีระบบปฏิบัติการมาให้แล้วเกือบทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ Windows 11 ซึ่งตรงนี้จะได้เปรียบกว่าคอมประกอบ ที่จะต้องซื้อเพิ่มอย่างน้อยๆ ก็ 4 พันบาทขึ้นไป แล้วแต่เวอร์ชั่น ส่วนถ้าใครจะมองว่า ผมใช้แบบนั้นแบบนี้ก็ได้ ไม่เห็นต้องซื้อแพงๆ ตรงนี้ผมไม่ขอออกความเห็นครับ


เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค

ทีนี้มาดูเรื่องของราคาก่อนซื้ออะไรดี สเปคของเกมมิ่งพีซี เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ในงบ 30,000 บาท ในท้องตลาดกันดีกว่า ว่าคุณจะได้สเปคอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่าง เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสัก 4-5 รุ่น ที่น่าสนใจ

ซื้ออะไรดี

Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6

  • AMD Ryzen 5 5600H
  • DDR4 3200 8GB
  • 512GB M.2 PCIe
  • GeForce RTX 3050Ti
  • 15.6″ Full-HD
  • Windows 11 Home
  • ราคา 28,990 บาท

ซื้ออะไรดี

Acer Aspire 7 A715

  • Intel Core i5-1240p
  • DDR4 3200 8GB
  • 512GB M.2 PCIe
  • GeForce GTX1650
  • 15.6″ Full-HD
  • Windows 11 Home
  • ราคา 29,900 บาท

ซื้ออะไรดี

MSI GF63 Thin 11UC

  • Intel Core i5-11400H
  • DDR4 3200 8GB
  • 512GB M.2 PCIe
  • GeForce RTX3050
  • 15.6″ Full-HD
  • Windows 11 Home
  • ราคา 26,900 บาท

ซื้ออะไรดี

ASUS TUF Gaming A15 FA506ICB

  • AMD Ryzen 7 4800H
  • DDR4 3200 8GB
  • 512GB M.2 PCIe
  • GeForce RTX3050
  • 15.6″ Full-HD
  • Windows 11 Home
  • ราคา 28,990 บาท

ซื้ออะไรดี

HP Victus Gaming 15

  • AMD Ryzen 5 5600H
  • DDR4 3200 8GB
  • 512GB M.2 PCIe
  • Radeon RX6500M
  • 15.6″ Full-HD
  • Windows 11 Home
  • ราคา 27,990 บาท

เกมมิ่งพีซี

ได้เห็นสเปคของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกันไปแล้ว คราวนี้มาดูเกมมิ่งพีซีในงบ 30,000 บาทนี้บ้าง ว่าจะได้สเปคอะไรบ้าง ซื้ออะไรดี เราจัดให้มีทั้ง Intel และ AMD ด้วยการลองจัดสเปคคอมในระบบจัดสเปคใหม่ NBS ของเรา กับอินเทอร์เฟสใหม่ เลือกอุปกรณ์ก็ง่าย ใช้สะดวกขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู เมนบอร์ด แรม การ์ดจอ เราลิงก์กับทางหน้าร้านออนไลน์ มีให้ได้เลือกกันอย่างจุใจ และราคาก็ซิงก์กับร้าน มีการอัพเดตอยู่ตลอด ใครที่เคยเจอกับปัญหาราคาไม่ค่อยตรงกับหน้าร้านอยู่บ้าง ตรงนี้เราปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว ลองไปใช้งานกันได้เลยครับ หรือจะลองจัดสเปคแบบง่ายๆ สำหรับคนที่อยากได้สเปคคอมในงบ 30,000 บาทกัน

ซื้ออะไรดี

สเปค Intel 30,000 บาท

  • ซีพียู Intel Core i5-12400F
  • เมนบอร์ด GIGABYTE B660M Gaming D4
  • แรม TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB
  • Storage MSI Spatium M390 500GB
  • กราฟิกการ์ด ASUS GeForce RTX3050 TUF
  • เพาเวอร์ซัพพลาย Siverstone ST70F 700W
  • เคส Montech X2 Mesh
  • ราคารวม 30,940 บาท
ซื้ออะไรดี

สเปค AMD 30,000 บาท

  • ซีพียู AMD Ryzen 5 5500
  • เมนบอร์ด ASRock B550M-HDV
  • แรม ADATA DDR4 3200 16GB
  • Storage Kingston NV2 500GB
  • กราฟิกการ์ด Sapphire Radeon RX6650XT
  • เพาเวอร์ซัพพลาย CM MWE 650W
  • เคส Antec NX291
  • ราคารวม 31,270 บาท
ซื้ออะไรดี

สเปค 30,000 บาท รวมจอคอม

  • ซีพียู Intel Core i3-12100F
  • เมนบอร์ด ASRock H610M-HDV
  • แรม Corsair Vengeance LPX DDR4 3200 8GB
  • Storage WD Black SN770 500GB
  • กราฟิกการ์ด Galax GeForce RTX3050
  • เพาเวอร์ซัพพลาย CM Elite V4 600W
  • เคส Gamdias Argus E4
  • จอคอม Samsung LF24T350 24″
  • ราคารวม 29,390 บาท

สรุปแล้วซื้ออะไรดี?

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค คอมประกอบ
ประสิทธิภาพ มีข้อจำกัดด้านการใช้พลังงาน ให้ฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง
ความคล่องตัว สะดวก จบในตัว พกพาได้ เคลื่อนย้ายลำบาก แม้จะมีไซส์เล็ก
อัพเกรด เพิ่มเติมได้บางส่วน บางรุ่นไม่ได้ มีให้เพิ่มเติมได้ แม้จะเป็นเมนบอร์ดรุ่นประหยัด
อุปกรณ์ต่อพ่วง มีจำกัด ด้วยขนาดของบอดี้ มีพอร์ตให้เลือกใช้จำนวนมาก
การใช้พื้นที่ ใช้พื้นที่น้อย ติดตั้งสะดวก ต้องการพื้นที่บนโต๊ะเยอะ สำหรับจอและเคส
ความสะดวก มีจอ ทัชแพด คีย์บอร์ดในตัว พร้อมใช้ ต้องต่อ เมาส์ คีย์บอร์ดและจอ เพื่อใช้งาน
การใช้พลังงาน มีแบตในตัว ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ดึงปลั๊ก ดับทันที ต้องมีเครื่องสำรองไฟ
ระบบปฏิบัติการ มีมาให้ในตัวพร้อมใช้ ต้องซื้อมาติดตั้งเพิ่ม ยกเว้นคอมสำเร็จรูป
การรับประกัน รับประกันทั้งตัวเครื่อง ประกันรายชิ้น ยกเว้นคอมสำเร็จรูป
เลือกฮาร์ดแวร์ ค่อนข้างยาก เปลี่ยนได้บางชิ้น เลือกได้ตามสะดวก ตามแบบที่ชื่นชอบ

สุดท้ายนี้เราลองมาหาข้อสรุปกันครับว่า จะซื้ออะไรดีจะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็ดี แต่พีซีประกอบก็น่าสนใจ อาจจะลองใช้ข้อมูลที่เรานำเสนอมาเหล่านี้ เป็นข้อพิจารณาในเบื้อวต้นดูก็ได้ โดยเฉพาะคนที่อาจจะมีงบประมาณสูงกว่า 30,000 บาท ที่เป็นเกณฑ์ราคาที่หลายๆ คนมักจะตั้งเอาไว้ เพราะยิ่งงบประมาณสูงขึ้น ข้อจำกัดต่างๆ ที่ว่ามา ก็จะลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ก็แทบจะตอบโจทย์คนที่ใช้งานพีซีได้เลยทีเดียว ทั้งสเปค ประสิทธิภาพ และความคล่องตัว รวมถึงการอัพเกรด

ส่วนถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด หรือไม่ถนัดกับการที่จะต้องไปเดินร้าน ไม่มีข้อมูลหรือพื้นความรู้ด้านฮาร์ดแวร์มากนัก โน๊ตบุ๊คจะมีราคาค่อนข้างตายตัวอยู่แล้ว สเปคกับราคาไปในทางเดียวกัน ไม่หลากหลายมาก ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจ อีกทั้งเปิดเครื่อง ทำตามขั้นตอนไป ก็พร้อมใช้ได้เลย ไม่วุ่นวาย และยังมีประกันทั้งตัวเครื่อง มีปัญหาก็โทรแจ้งหรือยกเข้าศูนย์ได้ทันที แต่ถ้าเป็นพีซีประกอบ คุณอาจจะต้องไล่เช็คฮาร์ดแวร์ และแก้ปัญหาเองได้บ้าง รวมถึงประกันจะแยกรายชิ้น ต้องพอทราบว่า ชิ้นใดกี่ปี และประกันของอะไร หรือไม่ก็ต้องยกไปร้านที่ซื้อ อาจจะไม่สะดวกนัก

แต่ข้อดีของคอมประกอบ ก็คือการเลือกฮาร์ดแวร์ได้ตามใจ จะราคาประหยัด หรือจัดบางอย่างแพงๆ ก็มีให้เลือก ชุดระบายความร้อน หรือแสงไฟ RGB ก็เพิ่มความสวยงามได้เต็มที่ แค่คุณมีพื้นฐานฮาร์ดแวร์อยู่บ้าง หรือร้านที่ชำนาญบอกรายละเอียดให้คุณได้ครบ หรืองบประมาณคุณไม่ได้บีบคั้นเกินไปนัก ก็จัดได้อย่างคุ้มค่า สวยงามและถูกใจ

อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำถามทีว่า ซื้ออะไรดี เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค vs คอมประกอบ ในครั้งนี้ แล้วคุณคิดอย่างไรกับคอมทั้ง 2 แบบนี้ ก็แสดงความคิดเห็นมาให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจกันกันได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/671537-gaming-notebook-or-pc-2022