หากมองในอีกแง่หนึ่งนี่อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องทิ้ง Windows รุ่นเก่าเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง อย่าง Windows 7 ที่เปิดตัวในปี 2009 และ Windows 8 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2012 นับเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว และในตอนนี้ Microsoft เองก็ดำเนินการพัฒนาระบบปฏิบัติการจาก Windows 8 สู่ Windows 10 ในปี 2558 และยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ Microsoft เลือกใช้เป็นเวลา 7 ปีที่น่าประทับใจจนถึงปัจจุบันก็ก้าวเข้าสู่ยุค Windows 11 ในปี 2022 ที่ผ่านมา
Microsoft เสนอให้อัปเกรดเป็น Windows 10 ฟรีเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นจำนวนสมาชิกที่ยังคงใช้เวอร์ชันดังกล่าวจึงลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวเลข Statcounter ล่าสุดมีผู้ใช้ Windows 7 ที่ 5.39% และ Windows 8/8.1 ที่รวมกัน 1.67% แต่เกมเมอร์ย้ายออกจากระบบปฏิบัติการเหล่านั้นเร็วยิ่งขึ้น การสำรวจ Steam ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 แสดงให้เห็นว่ามีเพียง 1.52% ของระบบที่ใช้ Windows 7 และ 0.34% ใช้ Windows 8.1
ดังนั้นแม้ว่าการทำเช่นนี้เหมือนบังคับให้ทิ้ง OS เวอร์ชันเก่าทำให้สมาชิกหลายคนรู้สึกอารมณ์เสียอยู่บ้าง แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสมาชิกส่วนใหญ่เพราะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ Windows 10 ขึ้นไปอยู่แล้ว นี่อาจเป็นผลกระทบทางบวกก็ได้ หาก Steam สามารถกระตุ้นให้ผู้คนอัปเกรดเป็น Windows เวอร์ชันที่ทันสมัยกว่าเดิม ก็จะสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานไปในตัว เพราะในตอนนี้ Windows 7 และ 8 ไม่ได้รับการอัปเดตตั้งแต่ปี 2020 และ Windows 8.1 ก็ถูกยุติการอัปเดตเช่นกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่มีการอัปเดตเป็นประจำ เมื่อระบบเหล่านี้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอาจจะไม่ปลอดภัย แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่ใช้เล่นเกมเป็นหลักก็ตาม
ไม่มีเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับโซลูชันของเรา เนื่องจากสิ่งที่เราทำนั้นเป็นที่รู้จักมานานหลายทศวรรษแล้ว เพียงแต่ว่าเราได้สร้างบริการราคาไม่แพงและใช้งานง่ายซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ Windows จำนวนมาก
ตั้งแต่วันอังคาร ที่ 10 มกราคม 2023 นี้ Microsoft จะหยุดการอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Windows 7 รุ่น Professional และ Enterprise
Microsoft ได้เปิดตัว Windows 7 ในเดือนตุลาคม 2009 ซึ่งต่อมาได้สิ้นสุดการสนับสนุนและขยายวันสิ้นสุดการสนับสนุนในเดือนมกราคม 2015 และมกราคม 2022 ตามลำดับ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ Windows 7 สามารถกลับมาใช้โปรแกรม Extended Security Update (ESU) ของ Microsoft สำหรับการอัปเดตความปลอดภัยได้อีกครั้ง สุดท้ายการอัปเดตกำลังจะสิ้นสุดลงในวันอังคารที่ 10 มกราคม 2023
ด้วยเหตุนี้ บริษัทซอฟต์แวร์จึงแนะนำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบอัปเกรดระบบหรืออุปกรณ์ของตน หน้าสนับสนุนของ Microsoft ระบุว่าเจ้าของอุปกรณ์ Windows 7 ปัจจุบันสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้โดยการซื้อและติดตั้งเวอร์ชันเต็ม นอกจากนี้ยังเน้นว่าแม้ว่า Windows 10 จะเป็นโซลูชันที่รวดเร็ว แต่ Windows 11 ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจาก Windows 10 เหลือเวลาอีกเพียง 3 ปีเท่านั้นก่อนจะถึงวันที่สิ้นสุดการสนับสนุน
การอัปเกรดเป็น Windows 11 นั่นหมายถึงการซื้อฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เนื่องจากเป็นเวอร์ชันที่ต่างยุตต่างสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ค่อนข้างเยอะ ด้วยเหตุนี้เอง Microsoft จึงอธิบายให้ผู้ใช้เครื่อง Windows 7 ทราบถึงประโยชน์ของการมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าพร้อมส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ขั้นสูงเมื่ออัปเกรดขึ้นมาใช้ Windows 11 ทดแทน
การประกาศยุติการอัปเดต Windows 7 ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นการยกระดับส่วนแบ่งตลาด Windows Desktop ของระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด ปัจจุบัน Windows 10 คิดเป็น 68.01% ของส่วนแบ่งตลาด Windows desktop ทั้งหมด ในขณะที่ Windows 11 มีส่วนแบ่งทั้งหมดเพียง 16.93% เท่านั้น
Microsoft เตรียมออกอัปเดต Microsoft Edge เวอร์ชัน 109 โดยเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่รองรับการใช้งานบน Windows 7 และ Windows 8/8.1
Microsoft มีแผนจะออกอัปเดต Microsoft Edge เวอร์ชัน 109 ในวันที่ 12 มกราคม 2023 โดยกล่าวว่าจะเป็นเวอร์ชันสุดท้ายแล้วที่จะรองรับการใช้งานบน Windows 7 และ Windows 8/8.1 ซึ่งจะตรงตามเงื่อนไขการ Support ของ Windows 7 Extended Security Update (ESU) ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 10 มกราคม 2023 นี้ โดยหลังจากนี้ ผู้ที่ใช้งาน Windows 7 หรือ Windows 8/8.1 จะไม่ได้รับการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Microsoft Edge อีกต่อไป นอกจากนี้ Microsoft Edge เวอร์ชัน 109 ก็จะเป็นเวอร์ชันสุดท้ายบน Windows Server 2008 R2, Windows Server 2012 และ Windows Server 2012 R2 เช่นเดียวกัน
ในด้านของ Google Chrome ก็มีแผนจะยุติการรองรับ Windows 7 และ Windows 8/8.1 เช่นเดียวกัน โดยเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ตามสถิติจาก Statcounter GlobalStats นั้น ปัจจุบัน Windows 7 มีสถิติการใช้งานอยู่ประมาณ 10.25% เท่านั้น ส่วน Windows 8.1 มีการใช้งานเพียงแค่ 2.53%
มีคนพบว่า Chrome เริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนในตัวเบราว์เซอร์เวอร์ชันที่รันบน Windows 7 SP1, Windows 8.1 และ Windows Server 2012 R2 บอกว่าจะไม่มี Chrome เวอร์ชันใหม่บนระบบปฏิบัติการเก่าอีกแล้ว และขอให้อัพเกรดเป็น Windows 10 ขึ้นไปแทน
Google ประกาศแผนการปล่อยอัพเดต Chrome เวอร์ชั่น 110 ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายที่สนับสนุนการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ Windows 8.1 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้า
แม้ว่า Windows 7 จะมีอายุนานกว่า 13 ปีมาแล้ว และ Microsoft ได้ประกาศหยุดการอัพเดตเพื่อสนับสนุน Windows 7 ไปตั้งแต่ปี 2020 แต่จากการประเมินเมื่อต้นปี 2021 ยังมีอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้อยู่มากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเท่ากับว่าหลังจากปีหน้าไปเครื่องของใครที่ยังรัน Windows 7 อยู่ก็จะขาดการสนับสนุนจากทั้งผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการเองและผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายใหญ่
ทั้งนี้กำหนดการปล่อย Chrome 110 นั้นถูกกำหนดให้ตามหลังวันสิ้นสุดโปรแกรมขยายเวลาการสนับสนุนด้านความปลอดภัย “Extended Security Update (ESU)” สำหรับ Windows 7 ซึ่ง Microsoft กำหนดวันสิ้นสุดโปรแกรม ESU ในวันที่ 10 มกราคมปีหน้า
โปรแกรม ESU ของ Microsoft นั้นหมายถึงการขยายกรอบเวลาเพื่อช่วยอัพเดตระบบความปลอดภัยให้แก่ระบบปฏิบัติการเก่าที่พ้นกำหนดรับการสนับสนุนระบบหลักไปอีก 3 ปี ซึ่งในช่วงระยะเวลาของโปรแกรม ESU นั้น Microsoft จะไม่ปล่อยการอัพเดตอื่นใดนอกเหนือจากระบบความปลอดภัยเท่านั้น (ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ให้, ไม่มีการเปลี่ยนดีไซน์, ไม่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้านอื่น)