OPPO จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี THE JOY-FULL OPPO SALE มือถือรุ่นฮิตราคาพิเศษ พร้อมของแถมเพียบ

เข้าสู่เดือนแห่งความสุขที่วันหยุดยาวปีใหม่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แบบนี้ ใครที่กำลังอยากได้มือถือใหม่กล้องสวยๆ ไว้ถ่ายรูปกันให้สะใจ หรืออยากจะหาของขวัญปีใหม่ให้คนรู้ใจก็เตรียมทุบกระปุกหมูกันได้เลย เพราะตอนนี้ OPPO ได้จัดโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE ที่นำมือถือ และอุปกรณ์ IoT รุ่นยอดฮิตมาลดราคาพิเศษ รวมถึงยังมีของแถมเด็ดๆ ให้อีกด้วย โดยโปรโมชั่นนี้มีระยะเวลาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2564

สำหรับสินค้าจาก OPPO ที่นำมาจัดโปรโมชั่นคราวนี้ มีให้เลือกทั้งมือถือรุ่นฮิตๆ มากมาย และอุปกรณ์ IoT ล้ำๆ อย่างสมาร์ทวอทช์ หรือหูฟังไร้สายก็มีมาให้เลือกซื้อเหมือนกันนะ ส่วนสินค้าที่นำมาจัดโปรก็จะมีทั้ง…

OPPO Find X2 5G/ Find X2 Pro 5G

เริ่มต้นด้วยมือถือซีรีส์เรือธง OPPO Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ที่รองรับการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูง 5G แถมยังมากับสเปคแรงๆ ด้วยชิป Snapdragon 865 หน้าจอ AMOLED สวยสดความละเอียด QHD+ แถมด้วยรีเฟรชเรทสูง 120Hz อีกต่างหาก

ส่วนเรื่องกล้องก็ไม่เสียชื่อ OPPO โดยรุ่น Find X2 Pro จัดเต็มมาให้ทั้งกล้องหลัก IMX689 48MP + กล้อง Ultra wide IMX586 48 + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope 13MP ซูมดิจิตอลสูงสุด 60x กันไปเลย

หากซื้อ OPPO Find X2 5G ในช่วง THE JOY-FULL OPPO SALE จะมีราคาพิเศษอยู่ที่ 29,990 บาท (จากปกติ 33,990 บาท) นอกจากนี้หากซื้อ OPPO Find X2 Pro 5G หรือ Find X2 5G ยังจะได้รับหูฟังไร้สาย OPPO Enco Free และ E-VIP Card (ประกันจอแตก) มูลค่ารวม 12,499 บาท ไปฟรีๆ อีกด้วย

 

OPPO Reno4 Z 5G

ต่อด้วยมือถือ 5G กันอีกรุ่น แต่คราวนี้เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นเพราะเป็นมือถือระดับกลางที่มากับสเปคใช้งานทุกอย่างได้สบาย ทั้งหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz, ชิป Dimensity 800, กล้องหลังที่จัดมาให้ถึง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP และกล้องเซลฟี่อีก 2 ตัว แถมด้วยแบตเตอรี่อึดๆ อีก 4000 mAh ให้ใช้งานกันได้ยาวๆ

OPPO Reno4 Z 5G มีราคาอยู่ที่ 12,990 บาท แต่ถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE จะได้รับ OPPO Gift Box 3 in 1 และ E-VIP Card (ประกันจอแตก) มูลค่ารวม 6,699 บาท ฟรีไปเลยจ้า

Review | รีวิว OPPO Reno4 Z มือถือ 5G ดีไซน์สุดบาง 6 กล้อง AI พร้อมจอ 120Hz ราคาหมื่นต้น ๆ

 

OPPO Reno4 

มือถือ 4 กล้อง สเปคครบเครื่อง จะถ่ายภาพสวยๆ ก็หายห่วงด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP + กล้อง Ultra wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง mono 2MP พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกเล่นเพียบ ส่วนประสิทธิภาพการใช้งานอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา จะเล่นเกม เล่นเน็ต เล่นโซเชียล ดูหนัง HD ก็สบายๆ ด้วยชิป Snapdragon 720G และหน้าจอ AMOLED สวยๆ ขนาด 6.4 นิ้ว

ถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE จะมีราคาพิเศษอยู่ที่ 10,990 บาท (จากปกติ 11,990 บาท) และยังจะได้รับ OPPO Gift Box 3 in 1 มูลค่า 699 บาท ติดไม้ติดมือกลับไปอีกด้วยนะ

Review | รีวิว OPPO Reno 4 กล้อง เกม แบต เด็ดแค่ไหน กับค่าตัว 11,900 บาท

 

OPPO A93

มือถือเครื่องบางเบาหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.43 นิ้ว พร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP + กล้อง Ultra wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Mono 2MP และกล้องเซลฟี่อีก 2 ตัว 16MP + 2MP เรียกว่าถ่ายกันให้สวยสะใจไปเลยทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง

OPPO A93 มีราคาอยู่ที่ 8,999 บาท แต่ถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE จะได้รับ OPPO Gift Box 3 in 1 มูลค่า 699 บาท ไปเลยฟรีๆ

 

OPPO Reno3 Pro

มือถือรุ่นต้นปีที่ยังมีสเปคต่างๆ ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือด้วยหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+, ชิป MediaTek Helio P95, กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64MP และกล้องเซลฟี่คู่อีกหนึ่งรุ่นความละเอียดสูงสุดถึง 44MP เลยทีเดียว

ซื้อในช่วงโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE จะเหลือเพียง 12,990 บาท (จากปกติ 18,990 บาท) และยังจะได้รับกระเป๋าเดินทาง OPPO Luggage มูลค่า 1,699 บาท ไปด้วยเลย

Review | รีวิว OPPO Reno 3 Pro ดีไซน์พรีเมียม ถ่ายรูปสวย เล่นเกมลื่นไหล

 

OPPO A15

และในวันนี้ (10 ธันวาคม 2020) ยังมีการวางจำหน่ายมือถือรุ่นน้องเล็ก OPPO A15 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.52 นิ้ว, ชิป Helio P35, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP, กล้องเซลฟี่ 8MP และแบตเตอรี่ขนาด 4230 mAh เคาะราคาออกมาที่ 4,299 บาท เท่านั้นเองจ้า  

 

OPPO Watch Series

ยังไม่หมดง่ายๆ เพราะบอกไปแล้วว่าไม่ได้มีแค่มือถือเท่านั้น แต่ยังมีโปรสำหรับสมาร์ทวอทช์ OPPO Watch สุดเทพ ที่รองรับการ eSIM ไม่ต้องเชื่อมต่อกับมือถือก็ใช้งานได้, มีเซ็นเซอร์ ECG ที่สามารถเก็บข้อมูลความผิดปกติของหัวใจเพื่อให้แพทย์ใช้วินิจฉัยได้, มี GPS ในตัว และแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุดถึง 21 วัน เลยทีเดียว

OPPO Watch ขนาด 41 มม. ราคาอยู่ที่ 5,999 บาท และรุ่น 46 มม. ราคา 7,999 บาท แต่ถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่น THE JOY-FULL OPPO SALE จะได้รับสายนาฬิกา OPPO Watch Band ราคา 599 บาท ไปด้วย

Review | รีวิว OPPO Watch สมาร์ทวอทช์ WearOS จอ AMOLED ฟีเจอร์แน่น

 

OPPO Enco Free

สุดท้ายกับ Gadget ล้ำๆ อย่างหูฟังไร้สาย True Wireless รุ่น OPPO Enco Free ที่อัดฟีเจอร์มาให้แน่นเอี้ยด ไม่ว่าจะเป็นไดรเวอร์ขนาด 13.4 มม., ระบบตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา, กันน้ำ IPX4 และแบตเตอรี่ที่ใช้ต่อเนื่องได้ยาวๆ ถึง 5 ชม. สำหรับหูฟังรุ่นนี้ราคาปกติอยู่ที่ 3,999 บาท แต่ถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่นจะเหลือเพียง 2,499 บาท เท่านั้นเอง

โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ไม่ได้จัดกันนานๆ นะครับ เพราะว่าแคมเปญ THE JOY-FULL OPPO SALE จะหมดเขตภายในวันที่ 4 มกราคม 2564 เท่านั้น ใครที่สนใจอยากสอยมือถือ, สมาร์ทวอทช์ หรือหูฟังไร้สายตัวไหนก็รีบๆ หน่อย เพราะถ้าหมดเขตแล้วไม่รู้ว่าโปรโมชั่นราคาดีๆ แบบนี้จะมาอีกเมื่อไหร่นะ

from:https://droidsans.com/the-joy-full-oppo-sale/

OPPO จัดโปรโมชั่นสุดฮอตกับสมาร์ทโฟนตัวฮิตถึง 5 รุ่น!

OPPO จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษของสมาร์ตโฟนกระแสแรงทั้ง 5 รุ่นของแบรนด์ เพื่อเป็นโอกาสในการสนับสนุนกำลังใจ เป็นเครื่องมือเพิ่มเชื้อไฟสำหรับช่วงเวลาที่ทุกคนต้องปลุกตัวเองเพื่อผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกันได้

ด้วยแคมเปญ “จุดไฟในตัวคุณ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า” ด้วยการมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษลดราคาอุปกรณ์สมาร์ตโฟนและของแถมพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริมที่ร่วมรายการ เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563

OPPO Reno2 F ราคาพิเศษเพียง 9,999 บาท จากปกติ 11,990 บาท

OPPO Reno2 F มีจุดเด่นอยู่ที่ความสวยงามของการออกแบบในระดับงานศิลป์ ^^ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูง 48MP และใช้กล้องหน้าแบบ Rising Camera หรือกล้องหน้าป๊อบอัพแบบซ่อนตัวได้ โดยมี A.I. Beauty คอยช่วยเหลือให้ภาพ Selfie Portrait ออกมาสวยและยังสามารถถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ ด้วยการนำกล้องหน้าไปไว้ในโมดูล Rising Camera ทำให้เราได้เครื่องสมาร์ทโฟนหน้าจอ Panoramic Screen 6.5 นิ้ว แบบเต็มพื้นที่ ไม่มีการเจาะรูหรือเว้นช่องว่างใดๆ บนหน้าจอของมันเลยครับ

มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0,  RAM 8GB และ ROM 128GB สเปคเพียงพอใช้สำหรับการทำงานกับทุกแอพและเกมบนระบบ Android

โดย OPPO Reno2 F มีให้เลือก 3 สี คือ สีเขียว Nebula Green, สีเขียว Lake Green และ สีขาว Sky White ด้วยราคาโปรโมชั่นที่ลดเหลือแค่หลักพัน 9,999 บาทแบบนี้ ถือว่าคุ้ม สวยงาม และไฮเทคโนโลยีเกินราคาไปมากทีเดียวครับ

รุ่นนี้ OPPO Reno2 F  ก็แนะนำสำหรับวัยรุ่นที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องสวยๆ ดูหรูเด่น กล้องถ่ายภาพยอดเยี่ยมมากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วยราคาโปรโมชั่นไม่เกินหมื่น น่าสนใจนะครับ

อ่านรีวิวเต็ม OPPO Reno 2 F <<<

OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ที่ถ่ายภาพเซลฟี่ ได้คมชัดที่สุด ด้วยกล้องหน้าคู่สวย ชัด 44MP 

รับสิทธิ์พิเศษสุดคุ้มเมื่อซื้อ OPPO Reno3 Pro ในราคา 18,990 บาท รับทันทีส่วนลดพิเศษสำหรับหูฟัง OPPO Enco W31 โดยส่วนลดจะเป็นไปตามที่แต่ละตัวแทนจำหน่ายกำหนด

OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกับสโลแกน กล้องหน้าคู่สวยชัด ที่มีความละเอียดสูงสุดในโลกด้วยขนาด 44MP พร้อมกับฟังก์ชัน Ultra Night Selfie Mode, Dual lens Bokeh จากเลนส์กล้องหน้าคู่ที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของรุ่นนี้ และยังมีกล้องหลัง 4 ตัว คมชัดสูงสุด 64MP ที่ถ่ายภาพได้ทั้งภาพมุมกว้าง มาโครระยะใกล้ ภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมรองรับการซูมภาพ 1x,2x และ Hybrid 5x และสามารถซูมได้สูงสุด 20 เท่าแบบ Digital และระบบ Ultra Clear 108MP ที่สามารถเพิ่มรายละเอียดของภาพที่ถ่ายได้สูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซลที่นำไปพิมพ์ภาพโปสเตอร์ขนาด 4.3 เมตร x 3.2 เมตร ได้สบายๆ  นับเป็นสมาร์ตโฟนที่มีกล้องระดับสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ แถมในงานวีดีโอของ OPPO Reno3 Pro ยังมีระบบ Ultra Steady Video 2.0 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพวิดีโอได้นิ่งแม้กำลังเคลื่อนไหวเหมือนกล้องแอคชั่นแคมนั้นแหละครับ

OPPO Reno3 Pro ใช้จอ Dual Punch-hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว FullHD+ เป็นจอ Super AMOLED ที่ให้ความสว่างสูงมากครับ สว่างถึงระดับ 800 nit และปรับได้สูงสุด 1200nit ใช้กลางแจ้งได้สบายเลย แสงสว่างจ้าแต่กลับเป็นจอที่ถนอมสายตาโดยได้การรับรองจาก TÜV Rheinland แล้วว่าดีต่อสุขภาพของดวงตาผู้ใช้

ส่วนสเปคถือว่าแรงใช้เล่นเกมได้สบาย ให้ RAM 8GB + ROM 256GB จุดเด่นอีกประการของรุ่นนี้ก็คือเทคโนโลยีชาร์จไว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายใน 20 นาทีเท่านั้น

มีให้เลือก 3 สี คือ สีน้ำเงิน Auroral Blue สีดำ Midnight Black และสีขาว Sky White Limited Edition ซึ่งจะบอกจากความชอบส่วนตัว กับสี Auroral Blue งดงามมากครับ รู้สึกรักมากๆ ในตอนรีวิวเครื่องรุ่นนี้ ^^

สำหรับ OPPO Reno3 Pro ก็แนะนำสำหรับวัยรุ่นวัยทำงานที่ชอบการเซลฟี่และการถ่ายภาพเชิงท่องเที่ยว กล้องดี สเปคดี แบตเตอรี่อึดและชาร์จไว เป็นเครื่องมือผู้ช่วยให้เราใช้งาน, นำไปท่องเที่ยวและถ่ายภาพได้สนุกแน่นอนครับ คุณภาพกล้องทำงานได้ดีด้วยซอฟท์แวร์ระบบใหม่สุดของกล้องจาก OPPO

อ่านรีวิวเต็ม OPPO Reno3 Pro <<<

OPPO Find X2 Series 5G 

สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธง เจ้าของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลกในหลายๆ ด้าน รวมอยู่ในเครื่องซีรีย์นี้ครับ โดยมีออกมา 2 รุ่นด้วยกัน คือ OPPO Find X2 5G ราคา 33,990 บาท และ OPPO Find X2 Pro 5G ราคา 40,990 บาท โดยมาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ***เมื่อผ่อน 0%นาน 10เดือน แต่จ่ายจริงเพียง 9 เดือนเท่านั้น

***โปรโมชั่นช่วยผ่อนตัวนี้ จะรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม2563 เท่านั้นนะครับ

OPPO Find X2 Series 5G โดดเด่นด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุดของโลกเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Ultra Vision Screen ที่มีรีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz บนความละเอียด QuadHD+ สามารถแสดงสีได้มากถึงหนึ่งพันล้านสี จอเป็น AMOLED ที่ให้ค่าความแม่นยำของสีโดยเฉลี่ย 0.4 JNCD ถือว่าให้การแสดงสีที่แม่นยำสูงมาก เหมาะสมกับงานภาพและวีดีโอระดับโปร เพราะสีตรงสุดๆ ด้วยมาตรฐาน 100% DCI-P3 WCG และตัวเครื่องพรีเมี่ยมสวยงาม ระดับสูงมาก

ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปของโลก Snapdragon 865 แรมขนาดใหญ่ 12GB มีเทคโนโลยีการชาร์จไวที่เร็วที่สุดในโลก SuperVOOC 2.0 65W แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยการให้แบต 4200 mAh และ X2 Pro 5G ให้แบตขนาด 4260 mAh ชาร์จเร็วมากๆ จากแบตหมดก้อนจนเต็ม 100% ใช้เวลาแค่ 38 นาทีเท่านั้น! เร็วกว่านี้ก็กระสวยอวกาศแล้วครับ

กล้องทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบกล้อง Ultra Vision Camera System มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว กล้องหลักความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล โดย OPPO Find X2 Pro 5G ใช้เซนเซอร์ SONY IMX689 ให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดและเก็บรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม ดีกรีความเทพของชุดกล้องของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้คือการเคยถือครองอันดับหนึ่งของโลกมาแล้วจากเว็บทดสอบกล้องอย่าง DxOmark และทาง Appdisqus ก็การันตีให้ด้วยเช่นกันถึงความยอดเยี่ยมของกล้องจากการรีวิว ^^

OPPO Find X2 5G มี 2 สีคือ Black และ Ocean สำหรับ OPPO Find X2 Pro 5G มี 2 สีคือ Black และสีพิเศษที่เป็นสีส้ม Orange Limited Edition ที่เป็นวัสดุฝาหนัง Vegan

สำหรับ OPPO Find X2 5G Series ขอแนะนำให้กับทุกคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมระดับท็อปทุกๆ ด้านรวมไว้ในเครื่องเดียว ใครชอบนวัตกรรมและความเป็นที่สุดของการใช้งานสมาร์ทโฟนแห่งยุค ก็แนะนำเลยครับว่าต้องเป็น OPPO Find X2 5G Series เท่านั้นครับ ^^

อ่านรีวิวเต็ม OPPO Find X2 และ Find X2 Pro <<<

OPPO A31 Series โดดเด่นด้วย ROM 128GB

OPPO A31 เป็นสมาร์ตโฟนราคาเบาๆ ครับ มีออกมาด้วยกัน 2 รุ่นคือ OPPO A31 Series RAM 4GB ราคา 5,499 บาท และ OPPO A31 RAM 6GB ราคา 6,999 บาท เป็นสมาร์ตโฟนราคาเบาที่มีความสวยและความน่ารักของสีสันมาก ^^ มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่มีระบบ AI มาให้ ภาพคมชัดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายได้ พร้อมเลนส์ Macro ที่สามารถถ่ายภาพได้ในระยะใกล้ 4 เซนติเมตร งานออกแบบตัวเครื่องสวยงาม มีที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง ใช้งานได้ครบในราคาไม่แพงครับ

OPPO A31 น่าใช้เพราะเป็นสมาร์ตโฟนที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ด้วยครับ ขนาด 6.5 นิ้ว เจาะรูวางกล้องหน้าเล็กๆ ไม่เกะกะสายตา ใช้งานได้เต็มๆจอแบบนี้วัยรุ่นน่าจะชอบ และให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มากอีกด้วยทำให้ใช้งานได้นานด้วยแบตขนาด 4,230 mAh OPPO A31 มี 2 สีคือ สีขาว Fantasy White และ สีดำ Mystery Black

สำหรับ OPPO A31 เป็นสมาร์ทโฟนที่แนะนำสำหรับวัยรุ่นและนักเรียน, นักศึกษานะครับ สีสันสวยน่ารัก หน้าจอขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มๆ ตา ประสิทธิภาพใช้งานทั่วไปได้ดี เล่นเกมได้พอไหว มาในราคาประหยัดครับ เริ่มต้นที่ 5,499 บาทสำหรับรุ่น RAM 4GB ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเกินไปถ้าจะมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อการเรียนออนไลน์ให้กับเด็กๆ รุ่นนี้กำลังดีเลยครับ

OPPO A12 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า และครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน 

OPPO A12 สมาร์ตโฟนราคาเริ่มต้นของ OPPO มาในราคาสุดพิเศษเพียง 4,299 บาทเท่านั้น แต่งานออกแบบโดดเด่นครับ ทำลวดลายด้านหลังมาแปลกตา ด้วยลายเส้นที่ทำให้ถือใช้งานไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย พร้อมใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วย CPU 2.3GHz พร้อม RAM 3GB ROM 32GB และแบตเตอรี่ขนาด 4,230 mAh หน้าจอขนาดใหญ่ในราคาประหยัด ^^

ให้กล้องหลังคู่ที่มาพร้อมกับ AI กล้องหลักความละเอียด 13MP กล้องหน้าความละเอียด 5MP ยังมี AI Beauty2.0 ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิสำหรับการถ่ายเซลฟี่  โดย OPPO A12 มี 2 สีให้เลือกคือ สี Blue และ Black

OPPO A12 เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นด้านราคาประหยัดเป็นหลักครับ ประสิทธิภาพพอใช้ เหมาะสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนในเรทราคาถูกแต่ยังได้มาตรฐานในการใช้งานที่ดี ตัวเครื่องภายนอกเป็นวัสดุพลาสติกที่ทนทาน ทนไม้ทนมือ หน้าจอใหญ่แบตเตอรี่เยอะ เหมาะกับเด็กใช้หรือผู้ใหญ่ในบ้านจะเอาไว้ติดต่อสื่อสารกับครอบครัวครับ

OPPO Enco Free True Wireless Headphones 

หูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาสนทนา มาตรฐานกันน้ำ IPX4 สามารถฟังเพลงได้อย่างต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตัวเล็กเสียงแน่น รองรับการทัชสกรีนและก้านหูฟังที่รองรับการสไลด์เพื่อปรับลดความดังของเสียงได้โดยตรง เป็นหูฟังไร้สายตัวเล็กที่มีดีกว่าขนาดตัวมากๆ

โดย OPPO Enco Free True Wireless Headphones มาในราคาเพียง 3,999 บาทเท่านั้น มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว

อ่านรีวิว OPPO Enco Free <<<

สำหรับผู้ที่สนใจอุปกรณ์ตัวเก่งของ OPPO เหล่านี้ สามารถซื้อได้ในราคาโปรโมชั่น กับ แคมเปญ “จุดไฟในตัวคุณ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า” ได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และช่องทางจำหน่ายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 นะครับ

 

ข่าว: OPPO จัดโปรโมชั่นสุดฮอตกับสมาร์ทโฟนตัวฮิตถึง 5 รุ่น! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/05/22/oppo-new-caompaign-promotion.html

OPPO Enco Free หูฟัง TWS กันน้ำ IPX4 มี AI ช่วยตัดเสียง ฟังต่อเนื่องยาวๆ 5 ชม. เปิดราคา 3,999 บาท

ภายในงานเปิดตัว Find X2 และ Find X2 Pro อย่างเป็นทางการในประเทศไทย OPPO ยังถือโอกาสเปิดราคาของหูฟัง True Wireless อย่าง OPPO Enco Free ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาสนทนา, มาตรฐานกันน้ำ IPX4 และฟังได้ต่อเนื่องต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 5 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ในราคา 3,999 บาท

OPPO Enco Free มาพร้อมกับไดร์เวอร์เสียงขนาด 13.4 มิลลิเมตร ทำให้การดูหนังหรือฟังเพลง ได้อรรถรสเต็มที่ เบสกระหึ่ม แถมยังมีมาตรฐานกันน้ำ IPX4 นั่นหมายความว่า ผู้สวมใส่สามารถใส่เจ้า Enco Free ออกกำลังกายได้ กันน้ำฝน กันเหงื่อได้พอสมควร หรือจะล้างคราบสกปรกออก แต่..ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่แนะนำให้เอาไปแช่น้ำนะครับ

หายห่วงเรื่องการสนทนา เนื่องจาก OPPO Enco Free มีไมค์เพิ่มเข้ามาอีก 1 ตัว นอกจากนี้ยังมีระบบ AI คอยช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงของเราแบบใส และชัดเจนที่สุด

โดยการควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มลดเสียง ทำได้แบบง่ายๆ เพียงแค่สไลด์ขึ้นลงที่หูฟังข้างซ้าย, สไลด์ขึ้นลงที่ข้างขวาเพื่อเปลี่ยนแปลง หรือ แตะสองทีเพื่อรับสาย ตัดสาย หรือว่าจะเปิดปิดเพลงก็ทำได้

ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (คอลสนทนาได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง) เคสหูฟังชาร์จไฟได้ 4 ครั้ง รวมทั้งหมด OPPO Enco Free สามารถฟังได้ยาวนานถึง 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว

สเปค OPPO ENCO FREE

• ไดร์เวอร์ขนาด 13.4 มม.
• Frequency Response Range: 16 Hz ~ 20 kHz
• Bluetooth 5.0
• USB Type C
• มาตรฐานกันน้ำ IPX4
• น้ำหนัก 48.2 กรัม (ข้างละ 4.6 กรัม)

OPPO Enco Free จะวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี ในประเทศไทยบ้านเรา ได้แก่ สีดำ และสีขาว โดยราคาจะสนนอยู่ที่ 3,999 บาท

from:https://droidsans.com/oppo-enco-free-thailand-launch/

OPPO Enco Free หูฟัง True Wireless กันน้ำ IPX4 มี AI ตัดเสียงรบกวน เปิดราคาราว 3,000 บาท

นอกจากจะเปิดตัว OPPO Reno3 และ Reno3 Pro มือถือกล้องหลัง 4 ตัว รองรับชาร์จไว 30 วัตต์ไปแล้ว OPPO ก็ยังขนหูฟัง True Wireless อย่าง Enco Free มาเปิดตัวอีกด้วย ชูจุดเด่นฟังได้ต่อเนื่องนานถึง 5 ชั่วโมง มีมาตรฐานกันน้ำ และ AI คอยช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาสนทนา เปิดราคา 699 หยวน หรือประมาณ 3,000 บาทเท่านั้น

OPPO Enco Free เป็นหูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับไดร์เวอร์เสียงขนาด 13.4 มิลลิเมตร เบสกระหึ่ม ฟังเพลงหรือดูหนังได้แบบสบายๆ มีมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ซึ่งแบบนี้หมายความว่าหูฟังุรุ่นนี้สามารถใช้ออกกำลังกายได้ กันเหงื่อ กันน้ำฝนอะไรได้พอสมควร (แต่ก็ไม่แนะนำให้ไปแช่น้ำนะ)

เรื่องสนทนาก็หายห่วง เพราะ OPPO Enco Free มีไมค์โครโฟนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว และระบบ AI มาคอยช่วยตัดเสียงระบบภายนอก ให้ปลายสายได้ยินเสียงของเราแบบใส และชัดเจนที่สุด

สามารถควบคุมอะไรต่างๆ ได้ง่ายๆ ด้วยการสไลด์ขึ้นลงข้างซ้าย เพื่อเพิ่มลดเสียง, สไลด์ขึ้นลงข้างขวาเพื่อเปลี่ยนเพลง, แตะสองทีเพื่อรับสาย ตัดสาย หรือว่าจะเปิดปิดเพลงก็ได้

แหวกแนวไม่เหมือนใคร เนื่องจาก OPPO Enco Free สามารถเปลี่ยนจุกหูฟังให้เป็นแบบ in-ear สำหรับใครที่อยากให้เสียงภายนอกเข้ามาน้อยที่สุด หรือแบบ semi in-ear สำหรับคนที่ต้องการความสบาย ไม่มีอะไรมาจุกอยู่ที่หูให้อึดอัด ซึ่งทั้งสองรูปแบบก็ให้คุณภาพเสียงที่แตกต่างกันออกไป

ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (คอลสนทนาได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง) เคสหูฟังชาร์จไฟได้ 4 ครั้ง รวมทั้งหมด OPPO Enco Free สามารถฟังได้ยาวนานถึง 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว

สเปค OPPO Enco Free

• ไดร์เวอร์ขนาด 13.4 มม.
• Frequency Response Range: 16 Hz ~ 20 kHz
• Bluetooth 5.0
• USB Type C
• มาตรฐานกันน้ำ IPX4
• น้ำหนัก 48.2 กรัม (ข้างละ 4.6 กรัม)

OPPO Enco Free จะวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สี ก็คือสีขาว สีชมพู และสีดำ โดยจะเริ่มขายอย่างเป็นทางการก่อนในประเทศจีน วันที่ 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เคาะราคาออกมาแล้วอยู่ที่ 699 หยวน หรือแปลงเป็นเงินไทยแล้วอยู่ที่ราวๆ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

 

ที่มา: OPPO 

from:https://droidsans.com/oppo-enco-free-tws-headphone-specs-features/

เปิดตัว OPPO Enco Free หูฟัง True Wireless มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบ AI และฟังเพลงได้นานต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง

 

OPPO ประกาศตัว OPPO Enco Free หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นแรกของบริษัทอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมจุดเด่นฟีเจอร์ AI noise cancellation และแบตเตอรี่ที่สามารถฟังเพลงได้นานต่อเนื่องสูงสุด 25 ชั่วโมง ในราคาเพียง 3 พันบาท

 

หูฟัง OPPO Enco Free ดีไซน์แบบ half in-ear น้ำหนักแต่ละข้างเบาเพียง 4.6 กรัม ภายในมาพร้อมไดร์เวอร์ไดนามิค 13.4 มิลลิเมตร ที่เกิดจากการผสมผสานกันของโลหะอะลูมิเนียม, แมกนีเซียม และไทเทเนียม กับเทคโนโลยี FPC Positioning โดยมีช่วงความถี่ที่ตอบสนองได้ 16Hz ถึง 20KHz และรองรับการกันน้ำในระดับ IPX4 ซึ่งหมายความว่าสามารถสวมใส่ได้ในขณะออกกำลังกายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อ

OPPO Enco Free รองรับการโทรออกด้วยเสียง พร้อมระบบ AI Uplink Noise Cancellation สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ซึ่งจะช่วยให้เสียงมีความชัดเจน แม้ขณะที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน

นอกจากนี้ยังมีระบบสั่งงานแบบสไลด์ (Slide) และแตะ (Tap) ที่แถบด้านข้างของหูฟัง โดย สไลด์ขึ้น-ลง ที่หูฟังด้านซ้าย เพื่อเพิ่มระดับเสียง/ลดระดับเสียง และสไลด์ขึ้น-ลง ที่หูฟังด้านขวา เพื่อเล่นเพลงถัดไป/เล่นเพลงก่อนหน้า หรือแตะติดๆ กัน 2 ครั้งเพื่อรับสาย/วางสาย หรือเพื่อเล่นเพลงต่อ/หยุดเล่นเพลงชั่วคราว

OPPO Enco Free มาพร้อมเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่ในตัวความจุ 410mAh และตัวหูฟังแต่ละข้างกก้มีแบตเตอรี่ความจุ 31mAh รองรับการสนทนาได้นานต่อเนื่องสูงสุด 15 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานต่อเนื่องสูงสุด 25 ชั่วโมง และชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C

ด้านหน้าของตัวเคสแบตเตอรี่ไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ และมีปุ่มจับคู่อยู่ด้านขวา โดยรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดฝาเคส

ทั้งนี้ OPPO Enco Free มีให้เลือก 3 สีคือ สีขาว สีดำ และสีชมพู โดยมีราคาอยู่ที่ 699 หยวนหรือประมาณ 3,000 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในวันที่ 31 ธันวาคมนี้

ที่มา : Gsmarena

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน OPPO ที่นี่ >>> http://bit.ly/2CtyuWo

 

from:http://mobileocta.com/oppo-enco-free-tws-earphones-arrive-with-ai-noise-cancellation-and-up-to-25-hour-battery-life/

OPPO Enco Free เปิดตัวทางการ มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบตเตอรี่ให้อายุนาน 25 ชั่วโมง

OPPO เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นแรกของบริษัทฯ อย่างทางการ เรียกว่า OPPO Enco Free ชูจุดเด่นที่ระบบตัดเสียงรบกวนในระหว่างการสนทนาด้วย AI และแบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานานสูงสุด 25 ชั่วโมง เมื่อพกพาเคสชาร์จติดตัวไปด้วย

หูฟัง OPPO Enco Free แต่ละข้าง มีน้ำหนักเบา 4.6 กรัม ภายในมาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิก 13.4 มิลลิเมตร ตอบสนองความถี่ในช่วง 16Hz กึง 20KHz รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดฝาเคส และได้รับการออกแบบมาให้กันน้ำในระดับ IPX4 ป้องกันเหงื่อและละอองน้ำ จึงสามารถสวมใส่ในระหว่างออกกำลังกายได้อย่างไร้กังวล

ตัวก้านของหูฟังรองรับเซ็นเซอร์สัมผัส เพื่อใช้ควบคุมการทำงาน อย่างถูขึ้นลงที่หูฟังข้างซ้ายเพื่อปรับระดับเสียง หรือ แตะ 2 ครั้ง เพื่อรับสาย

OPPO Enco Free มาพร้อมเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่ในตัว 410mAh ส่วนหูฟังแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ 31mAh ช่วยให้ OPPO Enco Free สามารถสนทนาได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง หรือ ฟังเพลงได้นานสูงสุด 25 ชั่วโมง และเติมพลังให้เคสชาร์จผ่านพอร์ต USB-C

OPPO Enco Free จะวางจำหน่ายในประเทศจีนวันที่31 ธันวาคมนี้ ราคา 699 หยวน หรือราว 3,000 บาท

ที่มา – OPPO
https://www.flashfly.net/wp/279236

from:https://www.flashfly.net/wp/279236

[บทความพิเศษ] แกะแผนดำเนินงานปี 2020 ของ OPPO จากงาน OPPO APAC

OPPO จัดงานใหญ่ต่อเนื่องสองงานติดในเดือนเดียวครับ จากงานใหญ่ OPPO INNO DAY 2019 ที่แถลงแผนดำเนินงานโดยรวมของบริษัทที่จัดขึ้นในประเทศจีน ก็ต่อเนื่องทันทีก้บงานแถลงแผนงานเฉพาะภูมิภาค OPPO APAC (Asia-Pacific) โดยเป็นการประกาศแผนและความตั้งใจที่ OPPO ตั้งเป้าไว้ในปีหน้า 2020 เป็นต้นไป กับพื้นที่ในโซน APAC โดยเฉพาะ งานนี้ทาง APPDISQUS ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมงานและรับฟังแผนที่น่าสนใจของทาง OPPO เอามาเล่าให้ฟังกันด้วย

ก็ต้องบอกถึงเหตุผลที่เขาตรงดิ่งมาประกาศแผนในภูมิภาคของเราต่อจากงานที่จีนก็เพราะ APAC เป็นตลาดสำคัญครับ สำคัญมากๆ และปีที่ผ่านเป็นปีทองของ OPPO อีกปีใน APAC ครับ จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ที่เขาได้เริ่มต้นขยายตลาดที่ประเทศไทยเราเป็นที่แรก จนบัจจุปันเขาได้ขึ้นเป็นที่หนึ่งในตลาดหลายๆ ประเทศไปเรียบร้อยแล้วครับ เช่นประเทศอินโดนีเซีย กัมพูชา รวมถึงไตรมาสสุดท้ายในประเทศไทย ก็เป็น OPPO ที่ขึ้นครองอันดับหนึ่งในไทยไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน

การขยับขยายของ OPPO มีความจริงจังในพื้นที่เอเซียเป็นอย่างมาก มีการเปิดโรงงานขึ้นในอินโดนีเซียเพื่อเป็นการขยายฐานการผลิต และยังเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายทั้ง Flagship store และสาขา Experience Store อีกมากมาย อย่างที่เราเห็นกันในประเทศไทยนั้นแหละครับ

โดยรวมแล้ว 10 ปี เขาก็ยิ่งใหญ่ขึ้น โตขึ้น ขยับขยายขึ้น ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ แบรนด์มีคนรัก สินค้าเป็นที่รู้จัก และมีทีม R&D ที่เก่งมากๆ ดูจากเทคโนโลยีที่เราเห็นเยอะแยะมากมาย เช่นระบบชาร์จ VOOC กล้องซูม 60X หรือแม้แต่ระบบกล้องหน้าใต้จอที่ OPPO สามารถผลิตออกมาให้เห็นและใช้งานได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว

ฉะนั้นเขายังไปได้อีกไกลครับ และก็พร้อมพาตัวเองเข้าสู่ปีที่เขาตั้งเป้าไว้ยิ่งใหญ่มากขึ้น เพราะงานนี้ OPPO ประกาศเป้าหมายเลยครับ ด้วยการขอขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดภูมิภาค APAC ให้ได้ครับ

ซึ่งแผนการเดินไปสู่จุดหมายนั้น เขาได้ประกาศไว้ในงาน OPPO APAC แบบเห็นภาพได้ว่า  OPPO จะพาตัวเองเขาสู่ตลาดที่เป็นชั้นเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ใช้สุดยอดเทคโนโลยีมากขึ้น หรือก็คือการเจาะเข้ากลุ่มอุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยมเรือธงนั้นแหละครับ รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ในสายอื่น อย่างกลุ่มอุปกรณ์ IoT ด้วย

OPPO มาแน่ครับกับ Internet Of Thing และอุปกรณ์อีกสารพัดที่จะเข้ามาจัดการชีวิตตามสมัยนิยม ซึ่งการเปิดตลาดใหม๋ของเขา จะเป็นเส้นทางที่พาไปสู่จุดที่เข้าตัองการ ด้วยความเชื่อในความพร้อมทั้งตัวองค์กรเขาเองและการมีพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ ซึ่งร่วมงานกันมาอย่างดีในช่วงหลายปีที่ผ่าน

และการที่ OPPO เชื่อมั่นว่าเขาจะไปถึงจุดมุ่งหมายที่เขาต้องการได้นั้น ก็เพราะภูมิภาค APAC ของเรานี้แหละครับ เพราะจากตัวเลขที่เขามีอยู่ในมือ ภูมิภาค APAC เป็นกลุ่มประเทศสำคัญที่มีตัวเลขสถิติ บอกถึงการเติบโตและกินส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนเกินกว่าครึ่งของโลกเลยทีเดียวครับ และยังจะมีกลุ่มประเทศที่สมาร์ทโฟนยังเติบโตได้ไม่เต็มที่อีกด้วย ตลาดยังเปิดให้ขยับขยายได้อีกเยอะ

แม้ในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา ตัวเลขรวมทั่วโลกได้เกิดการชลอตัวของตลาด สาเหตุหลักก็มาเพราะการอิ่มตัวของตลาดในประเทศจีน แต่ทว่าในส่วนตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะในภูมิภาค APAC ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกยังคงความสม่ำเสมอมาต่อเนื่องอีกหลายปี

แต่จากนี้ไปจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกครั้งของวงการโทรคมนาคมครับ เพราะการมาของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามาเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ มีผลไปทั่วโลก รวมถึงตลาดประเทศจีนจะกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง และทาง OPPO คาดการณ์ถึงการตื่นตัวที่เป็นพิเศษในแถบประเทศเอเซีย (ซึ่งมีประเทศไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย) จะมีการตื่นตัวมากเป็นพิเศษกว่าใครเลยครับ

พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายมากมายทั่วภูมิภาค ขึ้นเวทีแสดงความพร้อมจะเข้าสู่ยุค 5G ไปด้วยกันกับ OPPO ประกาศชื่อสองเครือข่ายในไทยตัวแทน AIS และ Truemove H มาร่วมงานครั้งนี้ด้วยครับ

ด้วยเหตุนั้น ทาง OPPO จึงมีการวางแผนและเตรียมพร้อมไว้ก่อนเพื่อความได้เปรียบ มีการประกาศเปิดศูนย์กลางการประสานงานสำหรับภูมิภาค APAC ขึ้นโดยเฉพาะ ตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซีย ประเทศสำคัญที่ติดอยู่กับบ้านเรานี้เองครับ เป็นตึกศูนย์กลางการประสานงานแห่งใหม่ในพื้นที่ APAC โดยตรง

 

ด้วยหลักว่า เพื่อความเข้าใจกลุ่มตลาดในพื้นที่ APAC ได้มากขึ้น ใช้หลักการทำงานระดับโลก แต่บริหารด้วยความเข้าใจคนในพื้นที่โดยเฉพาะ สิ่งนี้ก็จะส่งผลทั้งความสะดวกในการประสานงาน และความเข้าใจความต้องการของคน APAC ได้ชัดเจนยิ่งกว่า

โดยแผนการนี้ OPPO เชื่อว่า ความได้เปรียบจากการเป็นผู้นำตลาดที่มีตัวเลขที่น่าสนใจที่สุดในโลก และการเปิดศูนย์กลางแห่งใหม่ในมาเลเซีย OPPO จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาค APAC ได้สำเร็จอย่างแน่นอนครับ เราก็มารอดูกัน ^^

มาพูดถึงเทคโนโลยี 5G กันหน่อย เพราะมันมาแน่ๆ และจะบอกว่ามาแล้ว! ในประเทศไทยก็เตรียมความพร้อมและทดสอบกันไปมากมาย เรียกว่าเปิดให้ประมูลคลื่นความถี่เมื่อไหร่ ก็แทบจะเปิดบริการได้ในทันทีเลยละครับ เพราะอุปกรณ์ก็พร้อมจำหน่ายกันเต็มที่

ระบบ 5G ได้รับการตอบรับจากทั่วโลกครับไม่ใช่แค่ไทย เพราะมันคือการเปลี่ยนโลกอย่างมหาศาล ตามไม่ทันนี้ลำบากเลยนะครับ เพราะเมื่อเราเข้าสู่ยุค 5G แล้ว อย่าไปคิดว่ามันจะเป็นแค่เรื่องความเร็วเน็ตที่เพิ่มมากขึ้น แต่มันจะพาเราก้าวเข้าสู่โลกที่ความเร็วการส่งถ่ายข้อมูลตอบสนองเร็วระดับที่แทบจะเรียกได้ว่า “เรียลไทม์”

ขอบเขตการใช้งานถูกปลดขีดจำกัด สามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์ที่มากขึ้นได้มากมาย ฉะนั้นการเชื่อมต่อที่ไว เร็ว และ เชื่อมต่อได้มากมายหลายอุปกรณ์พร้อมกัน มันก็คือโลกใหม่ที่เราไม่เคยทำได้ และสุดท้ายชีวิตคนในยุค 5G จะเต็มไปด้วย “การเชื่อมต่ออัจฉริยะ”

“การเชื่อมต่ออัจฉริยะ” จะส่งผลในทุกด้าน เช่นการบันเทิง เราจะเข้าสู่โลกที่สามารถสตรีมมิ่งภาพยนตร์หรือคลิป ด้วยระดับความคมชัด 4K/8K ได้เลยครับ สามารถเล่นเกมจากระบบคลาวด์โดยตัวเกมและระบบเครื่องเล่นไม่จำเป็นต้องอยู่กับเราอีกต่อไป

ในด้านธุรกิจ ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า ร้านค้า หรือตัวอย่างงานและการบริการได้จากทุกที่ ด้วยระบบ AR/VR มันเสมือนจริงมากด้วยจำนวนข้อมูลที่สามารถส่งได้มากมายมหาศาลในพริบตา ความสมจริงแบบเรียลไทม์ในระดับพอจะทดแทนความเป็นจริงได้เลยละครับ

ในด้านอุตสาหกรรมอันนี้ยิ่งสำคัญ การมาของ 5G จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้การเป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องจักรคุยกับเครื่องจักร การตรวจสอบงานและคุณภาพทุกอย่างถูกเห็นด้วยระบบ AI มีการจัดการแก้ปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิดจากการคิดวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็น ทุกอย่างส่งผลต่อเนื่องกันไม่จำกัดแค่เพียงในโรงงาน แต่เชื่อมต่อกันไปได้ทุกที่ ที่สายการผลิต และสั่งงาน, ตรวจสอบ ได้จากทุกที่ที่เวลา

จะเห็นว่า 5G คือการปลดล็อกขีดจำกัด ที่เหลืออยู่ที่ไอเดียและจินตนาการการออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากมันได้มากแค่ไหนของมนุษย์แล้วละครับ มันก็เป็นการบอกใบ้ว่ามนุษย์ จะต้องพัฒนารับ 5G ด้วยการเป็นนักคิด มากกว่าจะเป็นการลงแรงทำงาน ต้องคิดไว้ก่อนเลยครับว่า เราจะใช้เทคโนโลยี 5G อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับเราได้มากที่สุดในวันที่มันมา

กลับมาที่ OPPO ครับ เขาก็เป็นนักคิดคนหนึ่งที่เตรียมพร้อมแล้วสำหรับโครงข่ายศักยภาพสูงนี้ ทั้งในฐานะที่ OPPO เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก และมีศักยภาพในการผลิตอุปกรณ์ IoT ได้อีกมากมาย ก็พร้อมแล้วที่จะเผยผลิตภัณฑ์ 5G ออกมาเป็นกลุ่มบริษัทแรกๆ ของโลกครับ

สิ่งที่จะมาในปีหน้าของ OPPO ถูกเอามาวางโชว์ไว้แล้วในงาน OPPO APAC

สินค้า IoT ชิ้นที่ OPPO เอามาโชว์คือ OPPO 5G CPE T1 เป็นอุปกรณ์เราเตอร์สำหรับใช้งานกับสัญญาณ 5G ใส่ซิมใต้ฐานเครื่อง แล้วก็กระจายสัญญาณเน็ตจากซิมการ์ดให้ใช้ทั่วบ้านด้วย WiFi รองรับ Wi-Fi 6 และใช้ชิพสเปคสูงทีเดียวครับ

แค่มี 5G CPE T1 ภายในบ้าน เราก็พร้อมสำหรับการใช้ชีวิติ IoT ภายในงานมีการโชว์ทดสอบเล่นเกมผ่านระบบคลาวด์สตรีมมิ่งโชว์กันด้วยครับ

ในด้านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน จริงๆ ทาง OPPO เขามีเปิดจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5G ไปนานแล้วละครับแต่มันเป็นเพียงรุ่นเฉพาะที่จำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น แต่ในปีหน้าเราจะได้พบกับสมาร์ทโฟนที่ออกมาในยุค 5G เต็มตัว ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง OPPO และพาร์ทเนอร์คนสำคัญนั้นก็คือ Qualcomm ผู้ผลิตชิปเซ็ตระดับโลก

โดยภายในงานทาง Qualcomm ได้ขึ้นเวทีพูดถึงความพร้อมและเตรียมตัวที่ผ่านมาสำหรับการเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งบริษัท Qualcomm นับเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญมากครับ ในการผลักดันพัฒนาระบบ 5G จนออกมาเป็นมาตรฐานให้ทุกๆ คนได้ใช้กัน แล้วก็บริษัทพาร์ทเนอร์สำคัญของ OPPO ต่อไปในยุค 5G ด้วยครับ ฉะนั้นรอพบกับชิพเซ็ตใหม่ๆ ที่จะมีมาในอุปกรณ์ OPPO ได้ก่อนใครเลยละครับ

 

ปีหน้า เราจะได้พบกับ Reno 3Pro 5G ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟนที่จะใช้ชิพเซ็ต Snapdragon จาก Qualcomm ที่จะรองรับ 5G อย่างแน่นอน และมีการวางแผนสำหรับรุ่นเรือธงของ OPPO ที่จะใช้ชิพตัวใหม่ระดับสูงสุด Snapdragon 865 ตามมาแน่นอนครับในต้นปีหน้า สเปคสูงพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ เต็มเครื่อง รอติดตามกันได้เลยครับ

เมื่อ OPPO มองเห็นและวางแผนอนาคตไว้ขนาดนี้ ผมเชื่อว่าต่อไปในปีหน้า OPPO ก็จะไม่ขอเป็นแบรนด์ผลิตสมาร์ทโฟนเอาใจสายหวานเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่จะเข้าไปเป็นผู้เล่นหลักในกลุ่มตลาด 5G, IoT ขายเทคโนโลยีระดับ High-End

และเราอาจจะพูดได้ว่าวันนี้ OPPO พร้อมมากกว่าใครสำหรับภูมิภาค APAC ของเราในปีหน้าครับ เส้นทางสดใส มีความพร้อม การเตรียมตัวถูกวางไว้เป็นชิ้นเป็นอันชัดเจนมาก และการจัดงาน OPPO APAC ก็เป็นการประกาศความมุ่งมั่นกับภูมิภาค APAC โดยเฉพาะอีกด้วย สนุกแน่นอนครับ

โดยภายในงาน ทาง APPDISQUS ก็ได้สัมผัสอุปกรณ์น่าสนใจที่ชาวไทยเรายังไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นอีกหลายอย่างเลยครับ เช่นอุปกรณ์ที่รองรับระบบชาร์จ SuperVOOC 65W ระบบชาร์จที่เร็วแรงมากที่สุดในโลก รวมถึงอุปกรณ์ VOOC Flash Charge แบบไร้สาย ทาง OPPO ผลิตและขายนานแล้วครับแต่น่าเสียดายที่ยังไม่เคยเอาเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา

สมาร์ทโฟนรุ่นปริศนาที่ใช้กล้องหน้าใต้จอ Under-Screen Camera กล้องหน้าที่ถูกซ่อนไว้จนมองไม่เห็น มันอยู่ใต้จอภาพแต่สามารถถ่ายภาพได้ชัดเจนมากๆ ปีหน้ามาแน่ครับ รอพบกันได้เลย

รวมถึงหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Enco Free หูฟังไร้สายกล่องขนาดเล็กที่รองรับการทัชและการสไลด์สั่งงานจากก้านหูฟังได้ ซึ่งเรา APPDISQUS ได้แนะนำกันให้รู้จักไปแล้วในบทความนี้ครับ มินิรีวิว OPPO Enco Free

ภายในงาน OPPO APAC ยังมีการเปิดเผยข้อมูลของ ColorOS 7.0 หน้าการใช้งานตัวใหม่ของ OPPO ที่จำปล่อยอัพเดทและถูกใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ OPPO ในปีหน้าออกมาด้วยครับ ซึ่งทาง APPDISQUS กำลังจัดทำข้อมูลมาให้ทุกคนได้รู้จักกันในเร็วๆ นี้ (แอบดูชื่อรุ่นที่มีแพลนจะได้รับอัพเดทเวอร์ชั่นทดลองได้ที่ภาพด้านล่างนะครับ เพียบ ^^)

ก็ติดตามรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งทาง APPDISQUS เอามาฝากกันจากงาน OPPO APAC จากประเทศมาเลเซีย ที่นี่ครับ แล้วเจอกันในบทความรายงานพิเศษบทความหน้า สวัสดีครับ ^^

 

ข่าว: [บทความพิเศษ] แกะแผนดำเนินงานปี 2020 ของ OPPO จากงาน OPPO APAC มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/12/22/oppo-apac-synopsis.html

มินิรีวิว OPPO Enco Free หูฟัง True Wireless ตัวแรกของ OPPO

จากที่เห็น OPPO Enco Free ถูกเปิดตัวออกมา ก็คิดให้สังเกตว่า ในช่วงนี้ดูเหมือน OPPO จะเริ่มปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ นอกจากตัวเครื่องสมาร์ทโฟนออกมาถี่ขึ้นนะครับ โดยเฉพาะในเรื่องของหูฟัง อาจจะเพราะนี้คือกลุ่มผลิตภัณฑ์สายถนัดดั้งเดิมของ OPPO มาแต่ไหนแต่ไร หลายคนอาจจะลืมหรือยังไม่รู้นะครับ ว่า OPPO เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อด้านอุปกรณ์เครื่องเสียงมายาวนานก่อนจะปั้นสายผลิตสมาร์ทโฟน ร่วม 10 ปีครับ

OPPO Enco Free ก็นับเป็นหูฟังแบบ True Wireless รุ่นแรกของแบรนด์ OPPO นะครับ หูฟังสเตอริโอแบบคู่ที่ไม่มีสายเชื่อมต่อใดๆ ในการทำงาน

 

เชื่อมต่อสัญญาณกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ 5.0 สามารถใช้งานข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ มีไมค์สำหรับการสนทนาทั้งสองข้าง

ตัวกล่อง OPPO Enco Free ถือว่าเล็กมากครับ เล็กสุดๆ ขนาดแค่ประมาณกล่องไม้ขีดเท่านั้นเอง โดยตัวกล่องจะรองรับการชาร์จผ่านพอร์ท USB Type C มีไฟแจ้งเตือนสถานะบนตัวกล่อง และปุ่มฟังก์ชั่นสำหรับกดเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใหม่ที่ยังไม่เคยจับคู่กันมาก่อน

ตัวหูฟังเป็นลักษณะแบบ Ear -Buds พร้อมก้านหูฟังที่เป็นบริเวณสำหรับควบคุมการใช้งานครับ ซึ่งรองรับทั้งการดับเบิลทัชเพื่อเล่นและหยุดเพลง ทัชเพื่อรับสายวางสาย และสไลด์ก้านหูฟังขึ้นลงเพื่อเพิ่มเสียงและลดเสียง ส่วนด้านขวาเป็นการสไลด์เพื่อย้อนเพลงและข้ามเพลงครับ

ตัวหูฟังน้ำหนักเบา ใส่เข้าไม่ลึกในช่องหู สบายกว่าเพราะมียางเป็นวัสดุสัมผัสกับรูหูของเราครับ โดยในกล่องจะมีจุกยางสำหรับเปลี่ยนให้เข้ากับขนาดหูของเรามีสองไซด์

การเชื่อมต่อใช้งานของ OPPO Enco Free  เชื่อมต่อง่ายๆ ครัย เหมือนหูฟังบลูทูธทั่วไป แต่จะพิเศษกว่าถ้าใช้งานกับสมาร์ทโฟนของ OPPO เพราะจะมีการตรวจจับเพื่อทำการจับคู่ให้โดยอัตโนมัติทันทีที่เปิดฝากล่องหูฟัง

รวมถึงสามารถเปิดใช้ฟังก์ชั่น AAC หรือเสียงคุณภาพสูงได้ด้วย ถ้าไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น จะไม่มีฟังก์ชั่น AAC ให้เปิดใช้งานนะครับ

แต่อย่างไรจากที่ผมได้ลองทดสอบใช้งานเบื้องต้น OPPO Enco Free เป็นหูฟังแนวเสียงนุ่ม แต่หนักครับ ไดร์เวอร์ขนาด 13,4 mm ให้เสียงนุ่มมีเนื้อเสียง แต่ไม่ดังไม่แหลมเหมือนหูแนวกระแทกกระทั้น

ตัวไมค์ใช้ระบบไมค์คู่ ตัดเสียงรบกวนรอบข้างด้วย AI สนทนาชัดเจนดีครับในเวลาคุยสาย แต่ยังไม่ได้ทดสอบมากมายอะไรนักในส่วนนี้ แต่ OPPO Enco Free ก็เด่นที่ระบบตัดเสียงรอบข้างขณะสนทนาโทรศัพท์เนี้ยแหละครับ

ขนาดเล็กพกง่าย ใช้งานไม่ยาก ตัวหูฟังรองรับการใช้งานทีละข้างหรือสองข้างพร้อมกัน มีระบบตรวจจับการใส่แค่หยิบหูฟังออกจากหูของเราก็จะเป็นการตัดการทำงานทันที และถ้าเอาหูฟังข้างไหนเก็บเข้ากล่องก็จะเป็นการปิดหูฟังและชาร์จไฟจากกล่องกลับเข้าหูฟังอีกครั้งหนึ่งครับ

ราคาและการวางจำหน่ายเรายังไม่ทราบครับ เพราะว่าได้โอกาสทดสอบใช้จากตัวสินค้าของเมืองนอก เชื่อว่ามีเข้าจำหน่ายไทยอย่างแน่นอนเร็วๆ นี้ครับ ก็ติดตามกันได้ถ้าใครสนใจ OPPO Enco Free หูฟัง True Wireless กับกล่องขนาดเล็กจิ๋ว และก้านหูฟังที่รองรับการสั่งานทั้ง แท็ป และ สไลด์ ตัวนี้ครับ

 

ข่าว: มินิรีวิว OPPO Enco Free หูฟัง True Wireless ตัวแรกของ OPPO มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/12/15/review-oppo-enco-free-true-wireless-headset.html

หลุดภาพโปสเตอร์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก OPPO มีทั้ง A8, A11, A91, Reno3 series รวมถึงหูฟังไร้สาย Enco Free

OPPO กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno3 series ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ พร้อมกับ Enco Free หูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นแรกของ OPPO แต่รูปภาพโปสเตอร์ที่ถูกแชร์ออกมาผ่านแพลตฟอร์มโซเชี่ยลของประเทศจีน แสดงให้เห็นว่ายังมี A series รุ่นใหม่ด้วย ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้

ภาพหลุดดังกล่าว แสดงให้เห็นรูปภาพและรายละเอียดบางส่วนของสมาร์ทโฟน OPPO A8, A11 และ A91

OPPO A8 ดูเหมือนจะมีกล้องหลัง 3 ตัว กล้องเซลฟี่ซ่อนอยู่ในรอยบากรูปหยดน้ำ มาพร้อมจอแสดงผล 6.5 นิ้ว ความจำ ROM 128GB ความจุแบตเตอรี่ 4230mAh

OPPO A91 มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว 48MP AI Quad Camera ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB สนับสนุนชาร์จเร็ว VOOC 3.0

OPPO A11 ดูคล้าย A8 แต่กล้องหลังย้ายมาวางอยู่ตรงกึ่งกลาง มาพร้อมความจำ ROM 256GB ความจุแบตเตอรี่ 5000mAh

ที่มา – Gsmarena
https://www.flashfly.net/wp/277826

from:https://www.flashfly.net/wp/277826

OPPO Enco Free พร้อมเปิดตัว 26 ธันวาคมนี้ พร้อมกับ Reno3 series

OPPO ปล่อยรูปภาพทีเซอร์ของ OPPO Enco Free ออกมาแล้ว เผยให้เห็นการออกแบบอย่างชัดเจน ทั้งตัวหูฟังและเคสชาร์จ แน่นอนว่าจะเป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นแรกของ OPPO และจะเปิดตัวทางการในวันที่ 26 ธันวาคมนี้

คาดว่า OPPO จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno3 series ออกมาในวันเดียวกันด้วย หลังจากเผยโฉมออกมาแล้วบนเว็บไซต์ของ OPPO ในประเทศจีน

ที่มา – SparrowsNews
https://www.flashfly.net/wp/277505

from:https://www.flashfly.net/wp/277505