คลังเก็บป้ายกำกับ: M7

HTC One M7 เริ่มปล่อยอัพเดท Android 5.0 Lollipop ให้ผู้ใช้ในอินเดียแล้วก็ประเทศในเอเชียแล้ว

m7_back

ตามหัวข้อข่าวเลย แอดมินเชื่อว่าผู้ใช้ One M7 คงดีใจกันน้ำไหลพรากชัวๆ เพราะคุณยังได้ไปต่อ Android 5.0 Lollipop สำหรับกลุ่มผู้ใช้ในประเทศกลุ่มเอเชียแล้วก็ในอินเดีย

การปลอยอัพเดทรอบนี้ก็ไม่ได้ถือช้ามากนักนะ เพียงแค่เราจะได้รับอัพเดทตามหลังกลุ่มในยุโรป แล้วก็ในอเมริกาที่ปล่อยให้ไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ และรอบนี้ประเทสที่จะได้รับอัพเดทเป็นรายต่อไป  เช่น อินเดีย , สิงคโปร์ , มาเลเซีย และเวียดนาม หลายคนอ่านถึงตรงนี้เชื่อว่าคงอ่านวกไปวนมาหลายๆรอบ กำลังหาชื่อประเทศไทยอยู่ใช่มั้ยล่ะ? ตอนนี้ไทยยังไม่ได้อัพนะ แต่เชื่อว่าประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ที่เหลือน่าจะได้อัพเดทอีกรอบเร็วๆนี้ครับ

ส่วนเรื่องของสิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากอัพเป็น Lollipop แล้วก็อย่างเช่น เปลี่ยนหน้าตา HTC Sense ใหม่ , เปลี่ยนการแจ้งเตือนใหม่ , เปลี่ยนการแจ้งเตือนตรงล็อคหน้าจอใหม่ , ปรับปรุงตรง Quick settings แล้วก็อินเตอร์เฟส , สุดท้ายก็จะเพิ่มฟังก์ชั่น “ค้นหา” (search) เข้ามาใน setting ด้วย

111

ถ้ามันเข้ามาจริงๆก็ลองเช็คเวอร์ชั่นซอฟแวร์ได้ ถ้าตามนี้ 7.21.707.105 แล้วมีขนาดไฟล์ 775MB ก็ร้องเฮดังๆได้เลยเพราะถูกต้องแน่ๆ เพื่อนๆสามารถเช็คอัพได้ด้วยตัวเองดังนี้ Settings>About Phone>Software Update

อ้างอิงจากข่าวเก่าบอกว่ามีเพียงแค่ HTC One M7 Google Developer  Edition  เท่านั้นที่จะได้ไปต่อ Android 5.1 ส่วน One M7 เวอร์ชั่นธรรมดาๆก็อดไปต่อตามระเบียบนะครับ

Credit : androidauthority , androidcentral

from:http://www.appdisqus.com/2015/03/31/htc-one-m7-users-in-india-and-some-asia-contries-will-get-android-5-0-lollipop.html

Appfree!! อยากรู้ไหมแต่ละวันเราเดินไปกี่ก้าว?? นับได้ง่ายๆด้วยแอพ Steps ฟรีบน iPhone

เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ ว่าในแต่ละวันนั้นเราเดินกันไปกี่ก้าวกันแน่ ก่อนหน้านี้อาจมีอุปกรณ์ต่างๆในการนับก้าวให้ได้รู้กัน แต่วันนี้การนับก้าวในแต่ละวันจะง่ายขึ้นด้วยแอพพลิเคชั่นช่วยนับก้าวที่มีชื่อว่า Pedometer for M7 – Steps โดยแอพที่ว่านี้จะมีการทำงานร่วมกับชิป M7 ของ iPhone 5s ทำให้สามารถเก็บข้อมูลและแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขของจำนวนการก้าวเดินในแต่ละวันออกมานั่นเอง ดังนั้นข้อจำกัดของแอพประเภทนี้นั่นก็คือ จะสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 5s ได้เท่านั้น

Screen Shot 2557-02-20 at 8.31.02 PM

Screen Shot 2557-02-20 at 8.31.37 PM

สิ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือตัวแอพจะทำการเก็บข้อมูลในการเดินไว้ให้เป็นข้อมูลย้อนหลัง รวมไปถึงยังสามารถแสดงผลออกมาเป็นกราฟให้ได้เห็นกันอย่างชัดเจนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแอพที่มีไว้ติดเครื่อง iPhone 5s แล้วน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายๆคนก็ว่าได้

Download Pedometer for M7 – Steps Free ( For iPhone 5s ) ได้ที่นี่

ที่มา – http://www.flashfly.net/wp/?p=85709

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=85709

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

เอซุสโดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” ได้ประกาศถึงความร่วมมือกับ Ubisoft โดยได้บันเดิลเกมส์ยอดฮิตอย่าง Assassin’s Creed IV: Black Flag ไปพร้อมกับตัวผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด รุ่น Rampage IV Black Edition และเครื่องพีซีและโน้ตบุ๊กสำหรับการเล่นเกมส์ทั้งรุ่น Tytan G30 และ G750 ตามลำดับ

Assassin’s Creed IV: Black Flag เป็นเกมส์ผจญภัยภาคใหม่ล่าสุดและถือว่าเป็นเกมส์ที่รอคอยของคอเกมส์เมอร์ทั่วโลก และต้องบอกว่า ASUS ROG เป็นพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์ที่ Ubisoft แนะนำให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการเล่นเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag อีกด้วย โดยนาย Martin Schelling ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์เกมส์ของค่าย Ubisoft ให้ความเห็นว่า “ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นประสิทธิภาพอันทรงพลังของเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag ที่ทำงานบนผลิตภัณฑ์ ASUS ROG มันสุดยอดจริง ๆ”

เทคโนโลยีอันสุดล้ำสมัยผนวกกับ เกมส์ยอดฮิตที่ทุกคนรอคอย

บทสรุปทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ลูกค้าที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มอิ่มกับอรรถรสของสุดยอดเกมส์อย่าง Assassin’s Creed IV: Black Flag ก็จะสามารถหาได้จากผลิตภัณฑ์ของ ASUS ROG ที่ได้แถมเกมส์ดังกล่าวมาให้อย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ASUS ROG Rampage IV Black Edition เป็นมาเธอร์บอร์ดบนชิพเซต intel x79 ที่มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีต่างๆ จากทาง ROG ที่ช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของคอเกมส์และนักโอเวอร์คล็อกทั้งหลาย ได้อย่างสมบูรณ์แบบในการที่จะปลดปล่อยขุมพลังของโพรเซสเซอร์ LGA2011 Intel® Core™ i7 (Ivy Bridge-E), รองรับหน่วยความจำ (RAM) สูงสุดถึง 64 GB (และสามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 2800 MHz ทั้งหมด 8 ซ็อกเก็ต DIMM) และการเชื่อมต่อการ์ดจอหลายๆ ใบ (Multi-GPU) และยังมาพร้อมกับ ส่วนควบคุมภาคจ่ายไฟดิจิตอล Extreme Engine DIGI+ III ที่ใช้ระบบ Voltage-regulator module (VRM) ช่วยสร้างเสถียรภาพที่เหนือชั้นพร้อมความแม่นยำในการส่งกำลังไฟเข้าสู่อุปกรณ์ รวมถึงแผงควบคุม OC Panel ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการอัจฉริยะที่สามารถใช้ปรับแต่งระบบได้อย่างง่ายดาย และเทคโนโลยี SupremeFX Audio Solution ให้คุณภาพเสียงเต็มอรรถรสเช่นเดียวกับซาวด์การ์ดในระดับไฮเอ็นด์

สำหรับเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag นั้นก็ยังมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ROG Tytan G30, Tytan G30 ที่มีคุณสมบัติ Turbo Gear แค่เพียงคลิกเดียว ก็จะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสิทธิภาพอันเต็มเปี่ยมของโพรเซสเซอร์ในเจเนเรชันที่ 4 ของอินเทลในตระกูล Intel Core i7-4770K ได้อย่างเต็มที่ และสามารถทำการโอเวอร์คล็อกทั้งสี่คอร์ได้ระดับความเร็วสูงสุดที่ 4.1 GHz สำหรับผลิตภัณฑ์ Tytan G30 จะมาพร้อมกับการ์ดจอตัวใหม่ล่าสุด  NVIDIA® GeForce® GTX 780 ซึ่งช่วยทำให้การเล่นเกมส์เป็นไปอย่างราบรื่นแม้ว่าจะทำงานในโหมดของภาพกราฟิกระดับสูงสุดก็ตาม อีกทั้งเทคโนโลยี ASUS SonicMaster กับตัวยูทิลิตี้ในการปรับแต่งเสียง AudioWizard ก็สามารถสร้างสรรค์คุณภาพเสียงกระหึ่มทรงพลังและให้รายละเอียดเสียงในทุกสัมผัส  และด้วยการออกแบบเคสแบบอัจฉริยะที่ผสมผสานกับระบบระบบความร้อนด้วยของเหลวของ CPU ทำให้สามารถจัดการเรื่องความร้อนออกไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการทำงานและลดเสียงรบกวนออกไปได้อย่างสิ้นเชิง สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นที่แถมเกมส์มาให้ประกอบด้วย ASUS ROG Tytan G50, G70 และ CG8890 นอกจากนั้นก็ยังมีเดสก์ท็อปพีซีรุ่น  G10, M51 และ M70 อีกด้วยเช่นกัน

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ด้าน ASUS ROG G750 โน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาสำหรับคอเกมส์โดยเฉพาะ ก็มาพร้อมกับเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag เช่นกัน ซึ่ง G750 นี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่กล่าวขานกันถึงประสิทธิภาพที่ได้รับจากเทคโนโลยีทั้งในส่วนของโพรเซสเซอร์และกราฟฟิกที่ถือว่าเป็นสุดยอดและใหม่ที่สุดในปัจจุบัน ขุมพลังที่สุดพิเศษอย่างเทคโนโลยีโพรเซสเซอร์ Intel Core i7 ในเจเนอเรชันที่ 4 ที่ทำงานร่วมกับกราฟฟิการ์ดจาก NVIDIA ในตัว GeForce GTX 780M ทำให้มันเป็นโน้ตบุ๊กสุดยอดที่สามารถสร้างประสบการณ์การเล่นเกมส์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

G750 ใช้ระบบระบายอากาศ Dual-exhaust ที่ทำให้เครื่องนั้นมีความเย็นมากกว่าและสามารถสร้างประสิทธิภาพได้อย่างสุดยอด โดยปล่อยการระบายอากาศออกทางด้านหลังของเครื่อง ทำให้สามารถกันทั้งเสียงรบกวนและความร้อนให้ออกไปจากนักเล่นเกมส์ได้ ตัวโน้ตบุ๊กมาพร้อมด้วยคีย์บอร์ดแบบมีไฟ (Backlit) ที่ออกแบบสำหรับการเล่มเกมส์ พร้อมคีย์แพดตัวเลยและคีย์คำสั่งต่างๆ ที่แยกออกมาอย่างชัดเจน มันยังมาพร้อมกับทัชแพดแบบมัลติทัชขนาดใหญ่ ทำด้วยอลูมิเนียมทั้งแผ่นและมีการปรับมุมให้ตรงกับการวางตำแหน่งเท้าอีกด้วย เรียกได้ว่า G750 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชัยชนะที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ราคาและการวางจำหน่าย

สำหรับเกมส์ Assassin’s Creed® IV: Black Flag นั้นจะแถมพร้อมมากับผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด Rampage IV Black Edition รวมถึงผลิตภัณฑ์พีซี Tytan G30 และโน้ตบุ๊ก G750 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2013 ที่ผ่านมา และตั้งแต่ในวันที่ 28 ตุลาคม 2013 ผลิตภัณฑ์การ์ดจอ ASUS NVIDIA® GeForce® GTX Titan, GTX 780 และ GTX 770 ก็จะมาพร้อมกับเกมส์ Assassin’s Creed® IV: Black Flag™ ด้วยเช่นกัน : สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย ASUS ของท่านเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสมบัติ 1  
G750 Tytan G30
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 8/Windows 8 Professional
  • โพรเซสเซอร์ Intel Core i7-4700HQ
  • ชิปเซ็ต Intel HM87 Express
  • ความเร็ว DDR3 1600MHz up to 32GB
  • 17.3” FHD 3D LED backlit (1920 x 1080, 120Hz) / 17.3” anti-glare FHD LED backlit (1920 x 1080)
  • Up to NVIDIA® GeForce® GTX 780M with 4GB GDDR5 VRAM
  • Up to 1TB hard disk drive and 256GB SSD storage
  • DVD Super-Multi / Blu-ray combo / Blu-ray writer
  • กล้องเว็บแคมแบบ HD พร้อมกับไมโครโฟน

 

  • ระบบปฏิบัติการ Windows 8 (64-bit)
  • โพรเซสเซอร์ 4th generation Intel Core i5/i7 processors
  • ชิปเซ็ต  Intel Z87
  • Up to NVIDIA GeForce GTX780 3GB DDR5 (2DVI/HDMI/DP)
  • 4GB (32GB max) dual-channel DDR3 (1600MHz)
  • 1 x PCI-e x 16, 1 x PCI-e x 1, 1 x PCI-e x 8 (shared with x16), 1 x PCI-e x 4
  • Up to 3TB SATA 6Gbit/s hard drive (7200RPM)
    Up to 256G SATA 6GB/s SSD drive
  • 2 x 5.25in, 3 x 3.5in, 2.5in drive bays (bracket fit 3.5in bay)
  • Slim-type tray-in DVD-RW / Slim-type tray-in  BD Combo / Slim-type tray-in  BD Writer
  • เทคโนโลยี Eight-channel ASUS SonicMaster audio
  • Xonar Phoebus sound card (ออปชัน)
  •  SATA 6.0Gbit/s จำนวน 6
  • USB 2.0 จำนวน 4 พอร์ต, USB 3.0 จำนวน 6 พอร์ต
  • มีพอร์ต HDMI-Out, พอร์ต DVI-D, พอร์ต VGA D-sub
Rampage IV Black Edition
  • ซ็อกเก็ต Intel Core i7 processors for LGA 2011 socket
  • ชิปเซ็ต Intel X79 Express
  •  DIMM จำนวน 8 สล็อต, ขยายได้สูงถึง 64GB DDR3 2800(OC)
  • 4-way NVIDIA® SLI / AMD CrossFireX™
  • Intel® Ethernet LAN + Wi-Fi 802.11ac/ Bluetooth 4.0 + GameFirst II
  • USB3.0 จำนวน 8 สล็อก และ USB2.0 จำนวน 10 สล็อต

 

คุณสมบัติและการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ประสิทธิภาพที่ได้จริงอาจแตกต่างกันขึ้นกับแอพพลิเคชั่น การใช้งาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.asus.com

from:http://mobiledista.com/pr-asus-republic-of-the-game-rog-shake-hands-with-the-legend-killer-games/

iPhone 5S มาพร้อมสีทองสุดหรู ชิป A7 64 Bit ,ระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ,เลนส์กล้องใหม่ และไม่มีรุ่น 128GB

 

ได้เห็นสเป็คและข้อมูลของ iPhone 5C อย่างเป็นทางการจาก Apple กันไปแล้ว มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่ได้ถูกเปิดตัวในงาน Apple ที่ผ่านไปกันบ้างกับ iPhone 5S ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น iPhone ที่มาพร้อมกับความหรูหรา เนื่องจากมีการเปิดตัวสีใหม่นั่นก็คือรุ่นสีทอง ซึ่งอาจคุ้นตากันมาจากภาพหลุดก่อนหน้านี้กันบ้างแล้ว โดยคุณสมบัติเด่นของ iPhone 5S นอกจากความหรูหราที่มาให้เลือกในสีทองแล้ว ยังมาพร้อมกับ CPU A7 ใหม่ที่แรงกว่า CPU รุ่นเดิมกว่า 2 เท่า , ระบบสแกนลายนิ้วมือ และกล้องดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

iPhone5s_3Color_iOS7_PRINT iPhone5s_PF_3UP_HERO_PRINT

 

iPhone-5S-all-02


iPhone-5S-official-gray-01
เริ่มกันจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่ง iPhone 5S นั้นถูกออกแบบให้มีลักษณะหรูหรา ด้วยวัสดุที่ใช้กับตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องจากอะลูมิเนียม และปุ่ม Home ที่ทำจาก Sapphire crystal เป็นต้น ทั้งนี้ iPhone 5S นั้นมีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีทอง , สีเงิน และสีเทา Space gray

iPhone-5S-gold-home

iPhone-5S-fingerprint-scan-01

คุณสมบัติข้อต่อไปของ iPhone 5S ที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสข่าวลือออกมาให้เห็นกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว นั่นก็คือการใช้งาน Fingerprint scan หรือการสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Home ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Touch ID โดย Touch ID นั้นจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม โดย iPhone 5S นั้นจะสามารถทำการ unlock เครื่องเพียงใช้นิ้วมือแตะไปที่ปุ่ม Home หรือจะเป็นการยืนยันการชำระเงินเมื่อสั่งซื้อสินค้าจาก iTunes Store , App Store หรือ iBooks Store ก็ไม่ต้องพิมพ์ข้อมูลพาสเวิร์ดให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแต่ทำการใช้ลายนิ้วมือวางลงบนปุ่ม Home เป็นการยืนยันตัวบุคคลดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

iPhone-5S-Touch-ID

iPhone-5S-cpu-game

iPhone-5S-cpu-

ทางด้าน CPU นั้น iPhone 5S ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ A7 ซึ่งสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า CPU A6 ตัวเดิมถึง 2 เท่า และด้วยสถาปัตยกรรมของ CPU A7 นั้นทำให้ iPhone 5S เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ CPU แบบ 64 bit ไม่เพียงเท่านั้น iPhone 5S ยังพัฒนาประสิทธิภาพของ GPU ให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่าอีกด้วย

iPhone-5S-M7

รวมไปถึงการทำงานร่วมกับ M7 coprocessor ที่จะมาช่วยในการคำนวณและประมวลผลในส่วนของ accelerometer, gyroscope และ compass โดยจะเป็นการเข้ามาช่วยทำงานในส่วนต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพและกีฬาต่างๆ เพื่อประมวลผลหาข้อมูลระยะทางต่างๆ , การใช้งานร่วมกับ Maps และเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวหรือใช้งาน iPhone 5S M7 จะทำการลดการใช้งานทางด้านเชื่อมต่อ network ต่างๆให้น้อยลงเพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ เป็นต้น

iPhone-5S-new-iSight-01

 

iSight-02

ส่วนของกล้องดิจิตอลนั้น iPhone 5S มาพร้อมกับ iSight Camera แบบใหม่ที่ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แฟลชคู่แบบ True Tone flash ที่จะช่วยปรับแสงให้ดูเป็นธรรมชาติในทุกสภาวะเหตุการณ์ มีการปรับเซนเซอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถถ่ายภาพแบบ Continuous burst mode ที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ต่อถึง 10 เฟรมใน 1 วินาที มีระบบป้องกันการสั่นไหวหรือ Auto Image Stabilization รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 1080p HD video รองรับการถ่ายคลิปวีโอแบบ Slow-motion วีดีโอ รวมไปถึงยังสามารถซูมในขณะที่ถ่ายคลิปวีดีโออยู่ได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

iPhone-5S-VDO-01

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแต่งภาพ ที่มุ่งหวังให้ผู้ใช้ได้ทำการแต่งภาพได้สวยดั่งใจโดยที่ไม่ต้องเพิ่งแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็สามารถแชร์ภาพสวยๆจาก iPhone 5S ได้อย่าง่ง่ายดายในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

iPhone-5S-photo-filter-01

กล้องดิจิตอลด้านหน้าแบบ Facetime HD ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ HD 720p

iPhone-5S-iOS7

แน่นอนว่า iPhone 5S นั้นมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ iOS 7 ซึ่งเมื่อผนวกกับคุณสมบัติของ CPU A7 และ M7 แล้วจะทำให้การใช้งาน iPhone 5S ด้วย iOS 7 นั้นลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

iPhone-5-app-free-00

ทางด้านแอพพลิเคชั่นนั้น iPhone 5S มีแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องอย่างครบถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น Apple ยังให้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นชื่อดังไม่ว่าจะเป็น iPhoto , iMovie , Pages , Keynote และ Numbers มาให้ใช้กันแบบฟรีๆ ได้อีกด้วย โดยสิทธิพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPhone 5S หรือ iPhone 5C รวมไปถึงลูกค้าที่ซื้อ iPhone รุ่นอื่นๆที่ทำการ Activate หลังวันที่ 1 กันยายน 2013 เป็นต้นไปเท่านั้น

iPhone-5S-case-00

iPhone5s_Cases_5Colors-34RBack

และสุดท้ายกับเคส iPhone 5S จาก Apple ที่มีมาให้เลือกกันถึง 7 สีด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง สีเบจ สีฟ้า สีน้ำตาล สีดำ และสีแดง

iphone-5S-price-plan

ทั้งนี้ iPhone 5S จะเริ่มเปิดจองในวันที่ 13 กันยายนนี้ และเริ่มวางจำหน่ายใน 9 ประเทศแรกในวันที่ 20 กันยายนนี้ ด้วยสนนราคาแบบติดสัญญา 2 ปี ในราคา $199 หรือประมาณ 6,400 บาท สำหรับรุ่น 16GB , ราคา $299 หรือประมาณ 9,500 บาท และราคา $399 หรือประมาณ 12,500 บาท สำหรับรุ่น 64GB  แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีกระแสข่าวออกมาว่าในประเทศไทยจะมีการนำ iPhone 5S เข้ามาวางจำหน่ายตามร้านค้าในศูนย์การค้ามาบุญครองก่อนการเปิดจองอย่างเป็นทางการจากตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศ แต่คาดว่าในช่วงแรกน่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงลิ่วอย่างแน่นอน

ที่มา  – Apple

 

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=71276

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Surface (เซอร์เฟซ) อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยวางจำหน่ายทั้ง 2 รุ่นพร้อมกัน คือ Surface RT และ Surface Pro ครั้งแรกในประเทศไทย ชูจุดขายแท็บเล็ตที่ปฏิวัติรูปแบบการใช้งาน ที่รวมเอาประสบการณ์ทั้งความบันเทิงและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันได้ดีที่สุด

ไมโครซอฟท์ Surface ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 นำโดย มร. ซีซาร์  เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมด้วยเซเลบริตี้คนดัง อย่าง ทับทิม มัลลิกา   หลีกภัย พิธีกรรายการสุดฮอต วีอาร์โซ  ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ที่ควงคู่มากับภรรยาสุดสวย ต่าย ชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Surface RT และ Surface Pro ท่ามกลางสื่อมวลชน แฟนๆ ไมโครซอฟท์และไอทีเลิฟเวอร์ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Surface ได้มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่ได้รวมเอาประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์อันน่าทึ่ง เข้ากับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมที่ทันสมัย  Surface เป็นการต่อยอดประสบการณ์การใช้วินโดวส์ ที่ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันกับดีไซน์สุดล้ำ ผู้ใช้จึงสามารถทำงาน เล่น และเชื่อมต่อกับผู้คนอื่นๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผมเชื่อว่า Surface RT และ Surface Pro นั้นเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Surface จะตอบสนองทุกความต้องการด้านไอทีทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตของผู้บริโภคได้”

ผสานการทำงาน และความบันเทิง ให้ง่ายและสนุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Surface ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตอบรับการใช้งานและการสร้างสรรค์แบบไร้รอยต่ออย่างไร้ขีดจำกัด Surface ได้ถูกคิดค้นและออกแบบขึ้นโดยทีมของไมโครซอฟท์ ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มากว่า 30 ปี  เริ่มจากตัวเครื่องที่มีความทนทานและน้ำหนักเบา  ขาตั้งอเนกประสงค์ภายในตัว และฝาปิดหน้าจอที่มอบประโยชน์การทำงานสูงสุดให้แก่ผู้ใช้ในทุกๆ ที่ ตลอดจนถึงช่องเสียบ USB หน้าจอแบบกว้าง 16:9 ความละเอียดสูง ให้มุมมองแบบ 22 องศา ทำให้สามารถดูภาพและแชร์ไฟล์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

มร. ซีซาร์ เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า “เส้นแบ่งระหว่างอุปกรณ์สำหรับใช้ในการทำงานและอุปกรณ์ส่วนตัวค่อยๆ จางหายไป เราพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ หรือกว่าร้อยละ 60 ในบางประเทศ ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกนี้  มีแนวโน้มที่ใช้อุปกรณ์ไอทีสำหรับทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้ยอดจำหน่ายแท็บเล็ตทั่วโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าร้อยละ 300 ในระหว่างปี 2555 ถึงปี 2560  สำหรับประเทศไทยเองเราก็ได้เห็นแนวโน้มในลักษณะเดียวกัน ความนิยมในการซื้อแท็บเล็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตได้ว่าคนทำงานจะใช้อุปกรณ์ไอทีสองเครื่องหรือมากกว่าในที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังใช้แอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ อยู่เป็นประจำระหว่างวัน เช่น เว็บไซต์ โซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ  ด้วย Surface ผู้บริโภคสามารถสลับการใช้งานเพื่อความบันเทิงและเพื่อการทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีข้อจำกัด เปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างที่ต้องการได้ในทุกเวลาที่ต้องการ ผ่านอุปกรณ์ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยและสะดวกต่อการพกพาอย่าง Surface”

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

Surface RT และ Surface Pro ตัวแทนสไตล์ที่แตกต่าง                                                            

โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้วางจำหน่าย Surface ทั้ง 2 รุ่น คือ Surface RT และ Surface Pro พร้อมกันทันทีในประเทศไทย

Surface RT คืออุปกรณ์ที่เป็นตัวแทนของแท็บเล็ตที่มีความสามารถเสมือนแล็ปท็อป ที่รวมเอาคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการพกพาเข้าไว้ด้วยกันอย่างเหมาะสมครบถ้วน ดังนั้น Surface RT จึงเหมาะกับผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน (ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง) และประสบการณ์ความบันเทิงชั้นเยี่ยม และยังสามารถทำงานต่างๆ ให้สำเร็จได้ในคราวเดียว Surface RT ใช้ขุมพลัง ARM processor ที่มาพร้อมกับ Windows RT รวมถึง Office Home & Student 2013 RT Preview ซึ่งรองรับการทำงานแบบสัมผัสบน โปรแกรม Word PowerPoint Excel และ OneNote

Surface Pro เปรียบได้กับแล็ปท็อประบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่มาในรูปของแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถใช้งานทุกอย่างได้เสมือนทำงานอยู่บนพีซี  แต่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานบนแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถทำงานที่พวกเขาเคยทำบนพีซีได้ด้วย Surface Pro ตั้งแต่การใช้งานแอพพลิเคชั่นเดสก์ทอป ไปจนถึงความอุ่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยระดับโลก Surface Pro มาพร้อมกับ Intel Core i5 Processor รุ่นที่ 3 และ Windows 8 Pro ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแอพพลิเคชั่นแบบสัมผัส หรือโปรแกรม Windows 7 สุดโปรด ทั้งหมดนี้มาพร้อมระบบการจัดการทางด้านการรักษาความปลอดภัยและการบริหารในแบบที่คุณคาดหวังจากการใช้งานพีซี

นอกจากนี้ Surface Pro เองยังได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงไอที  ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย ผสานเข้ากับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและยังมอบความสนุกสนานในการใช้งานได้ในคราวเดียวกัน

มร. ไบรอัน มา รองประธาน ไอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แสดงความเห็นว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์พีซีอาจกำลังอยู่ในภาวะกดดันจากแท็บเล็ต  ซึ่งปรากฏการณ์ที่เราพบ คือ ผู้ผลิตต่างจะต้องพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นเป็นอย่างมากจากในอดีต  Microsoft Surface Pro คือ หนึ่งในตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น แสดงให้เห็นว่าเส้นกั้นระหว่างพีซีและแท็บเล็ตได้เลือนลางออกไป และผู้ผลิตในอีโคซิสเต็มเองยังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ”

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กล่าวถึงการตัดสินใจวางจำหน่าย Surface พร้อมกันทั้ง 2 รุ่นในประเทศไทยว่า “เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการมอบทางเลือกแก่ผู้บริโภคชาวไทย ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่า Surface รุ่นใดจะเหมาะกับความต้องการและตรงตามไลฟ์สไตล์ของเขามากที่สุด ไลฟสไตล์ของคนไทยนั้นกำลังเปลี่ยนไป โดยต้องการเข้าถึงข้อมูลและติดต่อสื่อสารตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ต้องการทำงานไปพร้อมๆ กันได้เสมอ ในทุกที่ ทุกเวลา เพราะฉะนั้นแล้ว ผมมั่นใจว่า Surface ทั้งสองรุ่นจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกรูปแบบ”

โดยการเปิดตัวในวันแรกของ Surface ในประเทศไทย มีองค์กรชั้นนำของประเทศไทย อย่าง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ได้เตรียมนำ Surface Pro มาให้กับทีมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้ใช้งาน ตลอดจนธนาคารชั้นนำของประเทศ อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ก็แสดงความจำนงค์และสนใจใน Surface Pro เพื่อให้พนักงานธนาคารที่ต้องติดต่อกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอได้ใช้ประจำที่สาขาของธนาคาร

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

คุณสมบัติหลักและประโยชน์ต่างๆ

  • ความโดดเด่นด้านซอฟต์แวร์: Surface มาพร้อมช่องเสียบ USB และ หน้าจอความละเอียดสูง 16:9 พร้อมมุมมองภาพแบบ 22 องศา ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนการทำงานบนพีซี โดยมีการปรับให้ฮาร์ดแวร์แนบรับไปกับภาพพื้นหลัง และทำให้ซอฟต์แวร์มีความโดดเด่นขึ้นมา
  • VaporMg: วัสดุตัวเครื่องภายนอกของ Surface สร้างมาจากกระบวนการอันลึกซึ้งที่เรียกว่า VaporMag (อ่านว่า วาพอร์ แมก) ซึ่งเป็นการผสานการคัดสรรค์วัสดุชั้นเยี่ยม และ กระบวนการหล่อเหล็ก และหลอมอนุภาคเข้าด้วยกัน ทำให้ Surface มีลักษณะที่คล้ายกับนาฬิกาเรือนหรู เริ่มตั้งแต่ส่วนที่เป็นแมกนีเซียม ที่สามารถหล่อให้บางได้ถึง 0.65 มม. ซึ่งมีความบางมากกว่าบัตรเครดิตทั่วไป ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีความบาง เบา และแข็งแรงทนทาน
  • ขาตั้งเครื่องภายในตัว (Kickstand): กระบวนการ VaporMag นั้นรวมถึงการประกอบขาตั้งที่สามารถให้คุณเปลี่ยนลักษณะการทำงานบน Surface แบบ Active Use เป็น Passive Consumption ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือ การถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้า หรือ กล้องหลัง ขาตั้งสามารถดึงออกมาใช้ได้ทุกเวลา และพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการ โดยไม่ได้เพิ่มน้ำหนักหรือความหนาของตัวเครื่องเลย
  • Touch Cover: ฝาปิดหน้าจอความหนาเพียง 3 มม. นั้นเป็นอีกความก้าวหน้าหนึ่งของการใช้คอมพิวเตอร์ของมนุษย์ Touch Cover ให้ความรู้สึกถึงการพิมพ์บนคีย์บอร์ด ซึ่งทำให้คุณสามารถสัมผัสและพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว มากกว่าการพิมพ์สัมผัสบนหน้าจอ Touch Cover มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ฟ้า ดำ และ ขาว  Touch Cover สามารถเชื่อมต่อกับ Surface ด้วยแม่แหล็กที่ตัวเครื่อง เปรียบเหมือนเป็นสันหนังสือที่คุณคุ้นเคย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำหน้าที่ป้องกันหน้าจอได้ อีกด้วย นอกจากนี้แล้วคุณสามารถเชื่อมต่อ Type Cover ซึ่งมีความหนา 5 มม. ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์จากคีย์บอร์ดจริงๆ ที่สำคัญ Touch Cover ที่จำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมกับแป้นพิมพ์ภาษาไทย ที่ผลิตมาเพื่อผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ

การจำหน่าย ราคาและโปรโมชั่น

Surface RT และ Surface Pro มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน IT City และ Com7 ทั้ง 10 สาขา พิเศษสำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกที่ได้เป็นเจ้าของ Surface ในงานเปิดตัว ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 รับฟรี Touch Cover มูลค่า 4,090 บาท และลูกค้าที่ซื้อลำดับที่ 101-200 จะได้รับ Sandisk Mobile Ultra 64 กิ๊กกะไบต์ Class 10 มูลค่า 2,190 บาท

รายละเอียดรุ่นและราคา

Surface RT

ราคา

Surface Pro

ราคา

Surface RT 32 GB (เฉพาะตัวเครื่อง)

16,500 บาท

Surface Pro 64 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

28,500 บาท

Surface RT 64 GB   (เฉพาะตัวเครื่อง)

19,500 บาท

Surface Pro 128 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

31,500 บาท

Surface RT 32 GB Bundle (พร้อม Touch Cover สีดำ)

19,500 บาท

Surface RT 64 GB Bundle(พร้อม Touch Cover สีดำ)

22,500 บาท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Surface สามารถเยี่ยมชมที่:  http://www.surface.com หรือ  https://www.facebook.com/Surface

from:http://www.mobiledista.net/pr-microsofts-revolutionary-tablet-launch-surface-in-india-officially/

[PR] โซนี่ ส่ง Xperia™E ลงตลาด ชูเทคโนโลยี HD Voice

[PR] โซนี่ ส่ง Xperia™E ลงตลาด ชูเทคโนโลยี HD Voice

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เจาะตลาดล่างด้วยการส่ง Xperia E (เอ็กซ์พีเรีย อี) ลงตลาด โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น HD Voice ถ้าคุณกำลังมองมือถือที่มีฟังก์ชั่นครบ คุณภาพดีและราคาที่ไม่แพง Xperia™ E น่าจะเป็นหนึ่งรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ กับความต้องการของคุณกับฟังก์ชั่นระบบเสียง HD Voice หรือ Wideband Audio ปรับปรุงคุณภาพของเสียงผ่านโทรศัพท์ให้รองรับความถี่ได้กว้างขึ้นกว่ามาตรฐานเดิมที่เคยใช้อยู่กับการได้ยินเสียงที่ใสขึ้น ชัดเจนขึ้น คุณภาพในการใช้โทรศัพท์ดีขึ้น อาทิเช่น  สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างลดลงและให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น  และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่น่าสนใจกับโหมดประหยัดพลังงาน STAMINA ที่ช่วยให้คุณใช้สนทนาบวกกับการใช้งานมือถือได้นานยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นส่วนสัดของตัวเครื่องขนาดพอเหมาะกับหน้าจอขนาด 3.5นิ้ว พร้อมกับความละเอียดคมชัดที่ 320×480 พิกเซล และหน้าจอยังกันรอยขีดข่วนโดยไม่ต้องติดฟิมล์อีกด้วย มาพร้อมกับ CPU 1 GHz Snapdragon™ MSM7227A ที่สามารถใช้งานกับ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 (Jelly Bean) ได้ลื่นไหลได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเชื่อมต่อสามารถใช้ได้กับ Wi-Fi 802.11 ที่รองรับทั้งแบบ b/g/n   และยังมี DLNA (Digital Living Network Alliance)  ที่คุณจะสนุกไปกับการแชร์ประสบการณ์บนมือถือของคุณ ไปยัง คอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์ ,เครื่องเล่น บลูเรย์  ที่มีระบบ WiFi โดยสามารถทำให้เชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด โดยสามารถดึงรูป เล่นเพลง หรือวีดีโอจากมือถือไปแสดงผลบนจอโทรทัศน์ ก็สามารถทำการแชร์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องต่อสายให้ยุ่งยาก อีกทั้งยังให้คุณท่องโลกอินเตอร์เน็ตไปกับ Wi-Fi hotspot ที่สามารถเป็น hotspot ในการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ต ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ อย่างเช่น โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ต ทำให้คุณเพลิดเพลินกับกับท่อง ความบันเทิงบน Social Network ได้อย่างง่ายดายอาทิ Youtube™ ,Facebook™,Twitter™, Google Talk™ , Line™ , Whatapp™และ Skype™

[PR] โซนี่ ส่ง Xperia™E ลงตลาด ชูเทคโนโลยี HD Voice

นอกจากนี้ยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องที่มีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมดิจิตอลซูม 4 เท่าและระบบสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ และยังสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ VGA  30 เฟรมต่อวินาที ทำให้ภาพที่ถ่ายทอดออกมาดูแล้วไม่กระตุก พร้อมกับหน่วยความจำภายในเครื่องมีให้ถึง 4GB อีกทั้งยังรองรับเพิ่มเมมโมรี่การ์ดแบบ MicroSD ได้สูงสุดถึง 32 GB อีกด้วย

สำหรับรุ่น Xperia™ E วางจำหน่ายแล้วในราคา 4,990 บาท ตัวเครื่องมี 2 สี คือ สีดำ และ สีขาว โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ ร้าน Power Buy , TG Fone , ซินเน็ค, Jay Martหรือตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่ทั่วประเทศโปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง http://www.facebook.com/sonymobileth

from:http://www.mobiledista.net/pr-sony-xperia-e-into-a-vertical-market-technology-hd-voice/