คลังเก็บป้ายกำกับ: LENOVO_SERVER

กลยุทธ์ใหม่ Lenovo ก้าวเป็นผู้ผลิต Server อันดับ 1 ในตลาด Hyperscale ด้วย ODM+

หลังจากที่ Lenovo ได้กลายเป็นผู้ผลิต Server อันดับหนึ่งสำหรับตลาด Top 500 ของระบบ High Performance Computing หรือ HPC ได้เร็วกว่าแผนการที่วางเอาไว้ถึง 2 ปี และในไตรมาสล่าสุดมีการเติบโตของ Data Center Group มากถึง 67.8% นั้น ก็ได้มีการเผยถึงวิธีการที่ทำให้ Lenovo ก้าวเข้ามาสู่จุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือกลยุทธ์ที่มีชื่อว่า ODM+ นั่นเอง

 

Credit: Lenovo

 

ODM+ คือกลยุทธ์ที่ Lenovo ใช้ในการเจาะลูกค้ากลุ่มที่เป็น Data Center ระดับ Hyperscale โดยเฉพาะ ซึ่ง Lenovo ได้นิยามตลาด Hyperscale เอาไว้ว่าเป็นธุรกิจที่มี Data Center ซึ่งมี Server จำนวนอย่างน้อย 5,000 เครื่อง และมีพื้นที่ของ Data Center อย่างน้อย 10,000 ตารางฟุต ซึ่งธุรกิจที่มีขนาดนี้ทั่วโลกนั้นมีเพียงประมาณ 250 ราย และ 60 รายในนั้นก็อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจกลุ่มนี้มีการลงทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ถึงหลายแสนล้านเหรียญต่อปี

ธุรกิจกลุ่ม Hyperscale นี้ปกติแล้วมักจะใช้ Server ในรูปแบบที่มีชื่อว่า Original Device Manufacturer หรือ ODM ซึ่งก็เป็น Server ที่ผลิตโดยบริษัทอย่างเช่น Quanta, Tyan, Inventec, Foxconn และ Wiwynn โดยผู้ผลิตเหล่านี้จะสามารถทำการออกแบบ Server ได้อย่างรวดเร็ว หรือนำการออกแบบที่บริษัทต่างๆ กำหนดเอาไว้มาผลิตจำนวนมาก และส่งมอบในคุณภาพระดับที่รับประกันเอาไว้ได้ ในขณะที่ธุรกิจระดับ Hyperscale นั้นบางทีก็จะมีการซื้อ Hardware จากผู้ผลิต OEM อย่าง Supermicro, Huawei, Dell EMC, ZT Systems, Inspur หรือ Sugon เพื่อใช้ Server คุณภาพสูงและมีทีมผลิตและดูแลหลังการขายกระจายอยู่ทั่วโลกบ้างเช่นกัน

แนวคิด ODM+ ของ Lenovo นั้น คือการออกแบบและผลิตอย่างรวดเร็วตามความต้องการของธุรกิจระดับ Hyperscale ได้ ในขณะที่ก็ยังคงมีโรงงานผลิตและกระจายสินค้ารวมถึงบริการหลังการขายอยู่ทั่วโลกด้วย ทำให้สามารถตอบโจทย์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Lenovo เองก็ได้เคยเผยแผนของตนเองว่าต้องการโตในตลาดนี้ถึง 230% ระหว่างปี 2016 – 2019 และการผลิตตามการออกแบบแบบ Custom Design นั้นจะเติบโตถึง 5 เท่า ซึ่งปัจจุบัน Lenovo ก็ยังไม่ได้ออกมาเผยชัดเจนนักว่าตัวเลขในปัจจุบันตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว

หนึ่งในลูกค้ากลุ่มนี้ของ Lenovo เองเคยทำการสั่งซื้อ Server จำนวน 96,000 เครื่องเพื่อติดตั้งใน 3,000 Rack สำหรับ 13 ประเทศและ 35 Data Center มาก่อน โดยใน Server 96,000 เครื่องนี้ก็มีการออกแบบเฉพาะด้วยกันถึง 19 รูปแบบ ซึ่ง Lenovo เองก็สามารถผลิตและส่งมอบ 32,000 เครื่องแรกได้ภายในเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะส่งมอบ 32,000 เครื่องต่อมาภายในเวลา 2 เดือน และตามด้วย 32,000 เครื่องสุดท้ายภายใน 35 วัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการออกแบบและการผลิต Server ของ Lenovo ที่กระจายอยู่ทั่วโลก

ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียวสำหรับตลาดใหม่ที่ Lenovo ได้เข้าไปเป็นผู้เล่นหลักในเวลานี้ หลังจากนี้เราคงได้เห็น Server Hardware ใหม่ๆ ของ Lenovo ที่ถูกปรับจากตลาดนี้ออกมาให้ใช้งานในตลาดระดับองค์กรกันบ้างก็เป็นได้

 

ที่มา: https://www.forbes.com/sites/patrickmoorhead/2018/10/22/lenovos-secret-recipe-for-hyperscale-success-is-called-odm/#1bf9b6a9b9b8

from:https://www.techtalkthai.com/lenovo-becomes-no-1-server-vendor-in-hyperscale-market-with-odm-plus/

Lenovo Data Center Group พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแล้วแก่องค์กรทั่วไทย

ดาต้าเซ็นเตอร์กรุ๊ปของเลอโนโว (DCG) มีสำนักงานใหญ่สองแห่งและบริหารจากมอริสวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เรามีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 25 ปีในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

 

ดีซีจีพร้อมให้บริการด้านดาต้าเซ็นเตอร์อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ เน็ตเวิร์ก ซอฟต์แวร์ โซลูชันและบริการ เราสร้างผลิตภัณฑ์ของเราภายใต้โรงงานที่เราเป็นควบคุมจัดการและเป็นเจ้าของที่กระจายอยู่ในแต่ละภูมิภาคที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ด้วยพื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถควบคุมคุณภาพและการจัดการด้านซัพพลายเชนได้อย่างปลอดภัยสูงกว่าคู่แข่งรายใดๆ ของเรา เลอโนโวจึงเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดติดอันดับ TOP500 HPC จากเวนเดอร์ทั่วโลกในการสำรวจของไอดีซี* และเรายังเป็นที่ในเรื่องจำนวนของระบบที่รวดเร็วที่สุดอีกด้วย

เราเริ่มต้นธุรกิจในปี ค.ศ. 1992 ด้วยเซิร์ฟเวอร์ x86 เครื่องแรกของเรา และนับย้อนไปในปี ค.ศ. 1999 ในยุคที่หลายภาคอุตสาหกรรมเริ่มหันมาเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์แบบทาวเวอร์สู่ดาต้าเซ็นเตอร์ ทีมของเราก็เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์แร็กขนาด 1U ซึ่งช่วยเพิ่มความจุให้กับตู้แร็กและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการประมวลผลเมื่อเทียบต่อพื้นที่ได้อย่างมาก ต่อมาในปี ค.ศ. 2002 เราได้เปิดตัวระบบ 16-socket ที่พร้อมรองรับการขยายตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยสนับสนุนการประมวลผลระบบสำคัญผ่านเซิร์ฟเวอร์ตระกูล x86 ได้เป็นอย่างดี

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างต่อการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เราจึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ของเราอีกครั้ง โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ถูกออกแบบใหม่หมดตั้งแต่ฐานราก เพื่อขจัดปัญหาความซับซ้อนในดาต้าเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้น ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เราได้ออกแบบจะช่วยตอบโจทย์ด้านไอทีของลูกค้าเรา ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในขั้นตอนใดของการปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์ เราพร้อมช่วยลูกค้าให้ตอบโจทย์ธุรกิจด้วยแนวทางที่ดีที่สุดที่ตรงความต้องการของพวกเขา

 

ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดีซีจี เพราะเป็นการผสานรวมการอินทิเกรตทั้ง แอพพลายแอนซ์ เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจและเน็ตเวิร์ก เข้าด้วยกัน และยังเสริมด้วยโซลูชันนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ผสานรวมเทคโนโลยีคลาวด์ ดาต้าเบส การวิเคราะห์ข้อมูลและบิ๊กดาต้า

 

เราเชื่อว่า ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล ThinkSystem ของเราจะถือเป็น “มาตรฐานอุตสาหกรรม x86 ที่ทรงคุณค่า” ใหม่ที่รวมระบบเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจและเน็ตเวิร์กเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ประกอบขึ้นจากองค์ประกอบด้านไอทีที่ทันสมัย ปรับโฉมใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านอินฟราสตรักเจอร์ที่สำคัญในปัจจุบัน ThinkSystem จึงแสดงถึงคำมั่นสัญญาของเราที่จะขจัดความล้าสมัย และส่งมอบแผนการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรามุ่งมั่นดำเนินการด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปกป้องข้อมูลลูกค้าและบริหารจัดการประสิทธิภาพให้เกิดขึ้นสูงสุดสำหรับทุกความต้องการที่สำคัญ

ทุกการประมวลผลคือพันธกิจที่สำคัญและเป็นไปตามประสิทธิภาพที่แอพพลิเคชันต้องการมากที่สุด เราจึงได้เปิดตัว ThinkSystem เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพใหม่มากกว่า 40 ด้านสำคัญที่นิยมใช้วัดประสิทธิภาพ

ในขณะที่เราได้สถิติระดับโลกในปัจจุบันทั้งหมด 58 รายการ และสถิติด้านประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนี้แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เราก็ทำสถิติใหม่ได้ในปีนี้ ด้วยคะแนน 197 (และยังเพิ่มขึ้น) ในการทดสอบระดับโลกที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001

บริการใหม่ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถบริหารจัดการโซลูชันที่ผลักดันธุรกิจของพวกเขาที่สลับซับซ้อนได้เป็นอย่างดี
ข้อเสนอพิเศษใหม่ล่าสุด พร้อมมองประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและไม่เหมือนใครเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับประโยชน์สูงสุดจากศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของเราเอง

ที่เลอโนโว เรารักษาคำมั่นสัญญา เราทำในสิ่งที่เราพูด เรารักในสิ่งที่เราทำ และให้ความสำคัญกับลูกค้าของเราเสมอ เป้าหมายของเราคือการติดหนึ่งในสามของผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ และก้าวสู่การเป็นที่หนึ่งด้านความพึ่งพอใจและความเชื่อถือของลูกค้า และเป็นอันดับหนึ่งบริษัทด้านซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในปี ค.ศ. 2020

นี่คือพันธสัญญา พันธกิจที่เราพร้อมมอบให้ลูกค้าของเรา เพื่อให้เขารู้ว่าเราเป็นพันธมิตรประเภทไหน และเราเชี่ยวชาญสิ่งใดที่พร้อมมอบให้เพื่อช่วยเหลือพวกเขาได้

เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่คุณไว้วางใจที่สุด

from:https://www.techtalkthai.com/introduce-lenovo-data-center-group/

สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหาร Lenovo Thailand กับทิศทางของ Lenovo ในตลาด Data Center ที่หลายๆ คนอาจไม่รู้

lenovo_logo_w170

พอดีทางทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับทางคุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยจากบริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ในหัวข้อเกี่ยวกับทิศทางในตลาด Data Center ของ Lenovo Thailand และการมาของเทคโนโลยี Hyper-converged Infrastructure ที่นับวันจะยิ่งเติบโตรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของ Lenovo Thailand ก็ขอนำสรุปเรื่องราวการพูดคุยครั้งนี้ พร้อมกับข้อมูลที่น่าสนใจมากฝากผู้อ่านทุกท่านกัน เผื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนกันต่อไปดังนี้ครับ

lenovo_executives_banner

 

ทิศทางใหม่ของ Lenovo ในตลาด Data Center

เป็นที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้ Lenovo ได้เข้าซื้อกิจการในส่วน x86 Server มาจาก IBM มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และหลังจากที่ Lenovo ได้ค่อยๆ ทะยอยปรับเปลี่ยนนโยบายการดำเนินงานต่างๆ ให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า พร้อมๆ กับการจัดทัพผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับ Data Center ให้ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม ทำให้ปัจจุบัน Lenovo มีผลิตภัณฑ์ฝั่ง Data Center ครบถ้วนทั้ง Server, Storage, Network, Power Distribution Unit และ Management Software แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการปูพื้นฐานเพื่อการต่อยอดเติบโตในตลาดของ Data Center ในอนาคตนั่นเอง

และแน่นอนว่าด้วยความที่ Lenovo ถือเป็นน้องใหม่ในวงการ Data Center ดังนั้น Lenovo จึงไม่ได้ผูกติดกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใดเป็นหลัก และสามารถจับมือกับ 3rd Party Partner ชั้นนำได้ทุกยี่ห้อเพื่อนำเสนอ Solution ที่ดีที่สุดแก่องค์กรลูกค้า รวมถึงการ OEM ผลิตภัณฑ์ต่างๆ

แต่ถึงกระนั้น Lenovo ก็ไม่ได้ต้องต่อสู้ในตลาด Data Center ด้วยตัวเองเท่านั้น การเข้าซื้อกิจการ x86 Server จากทาง IBM ก็ทำให้ทุกวันนี้ Lenovo เองยังคงมีสัมพันธ์ที่ดีกับ IBM และให้ IBM เป็นหนึ่งในทีมบริการหลักให้แก่โซลูชั่นต่างๆ ของ Lenovo ในขณะที่ทีมงานของ Lenovo เองก็คอยพัฒนาบริการเสริมต่างๆ มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในตลาดเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันนี้ Lenovo พร้อมที่จะให้บริการ On-site Service สำหรับ Hardware ต่างๆ ได้ทั่วประเทศไทยแล้ว

ในขณะเดียวกัน การเข้าซื้อกิจการ x86 Server เข้ามา ก็ยังทำให้ Lenovo เองมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมแบบ End-to-End ไปด้วย เพราะ Lenovo เองถือเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตที่มีผลิตภัณฑ์ในฝั่งของ Endpoint Device ที่ครอบคลุม ตั้งแต่ PC, Notebook, Tablet, Smartphone, Smartwatch และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้การพัฒนาโซลูชั่นระดับองค์กรนั้นมีความเป็นไปได้ที่หลากหลาย และตอบรับแนวโน้มการมาของ Internet of Things ได้เป็นอย่างดี

คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยจากบริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด
คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยจากบริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด

 

บุกตลาด Hyperconverged ด้วย Lenovo HX Series พร้อมเทคโนโลยีจาก Nutanix

เพิ่งเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ของ Lenovo เมื่อเร็วๆ นี้ไปกับการจับมือกับ Nutanix เพื่อรุกตลาดทั่วโลกโดยเฉพาะฝั่งเอเชียร่วมกันด้วย Lenovo HX Series ที่นำเทคโนโลยี Server ของ Lenovo มาติดตั้งเข้ากับซอฟต์แวร์ Acropolis ของ Nutanix สร้างระบบ Hyperconverged Infrastructure และรุกสู่ตลาด Data Center ขององค์กรอย่างรวดเร็ว

ในครั้งนี้ทางทีมงาน Lenovo Thailand เองก็ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lenovo HX Series เอาไว้ดังนี้ครับ

Lenovo HX Series จากการผสานเทคโนโลยีระหว่าง Lenovo และ Nutanix
Lenovo HX Series จากการผสานเทคโนโลยีระหว่าง Lenovo และ Nutanix

 

ทำไม Lenovo ถึงสนใจตลาด Hyperconverged และทำไมถึงเลือกจับมือกับ Nutanix?

ด้วยความที่ Nutanix เองก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหน้าใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และในช่วงที่ผ่านมา Nutanix ก็ได้พิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างดีทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและตลาดที่มีความต้องการในส่วนนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Lenovo ที่ปัจจุบันนี้ต้องการจับมือกับผู้ผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกันระหว่าง Lenovo และ Nutanix ในการพัฒนา Lenovo HX Series ร่วมกันในครั้งนี้

และหลังจากที่มีการประกาศตัว Lenovo HX Series ไปทั่วโลก ในไทยเองก็มีกระแสตอบรับจากลูกค้าที่ถือว่าดีมาก เนื่องจากความง่ายในการติดตั้งใช้งาน, ความทนทานที่มีมาให้ทั้งในระดับของ Software และ Hardware รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวสำหรับการลงทุนของลูกค้า ทำให้ Lenovo HX Series นี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในโครงการอัพเกรด Data Center ขององค์กรแทบทุกขนาดไปแล้ว

 

แนะนำ Lenovo HX Series คร่าวๆ

ตอนนี้ Lenovo HX Series ได้ออกมาด้วยกัน 9 รุ่น ดังนี้

  • Lenovo HX7510 Server ขนาด 2U บรรจุ 1 Node สำหรับเน้นระบบที่ต้องการ IO สูงๆ และ Database โดยเฉพาะ โดยรองรับ 2.5″ HDD 24 ลูก และรองรับสูงสุด 44 CPU Cores
  • Lenovo HX5510 Server ขนาด 2U บรรจุ 1 Node สำหรับเน้นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล โดยรองรับ 3.5″ HDD ได้ 8 ลูก และรองรับสูงสุด 36 CPU Cores
  • Lenovo HX5510-C Server ขนาด 2U บรรจุ 1 Node สำหรับเน้นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแต่ไม่เน้นการประมวลผล โดยรองรับ 3.5″ HDD ได้ 8 ลูก และรองรับสูงสุด 8 CPU Cores
  • Lenovo HX3710 Server ขนาด 2U บรรจุ 4 Node สำหรับเน้นการประมวลผล สำหรับ VDI และ Virtualization ขนาดเล็ก โดยแต่ละ Node รองรับ 2.5″ HDD ได้ 6 ลูก และรองรับสูงสุด 36 CPU Cores
  • Lenovo HX3510-G Server ขนาด 2U บรรจุ 1 Node สำหรับเน้นการประมวลผล สำหรับ VDI และ Virtualization ขนาดเล็ก โดยรองรับ 2.5″ HDD ได้ 8 ลูก, รองรับสูงสุด 44 CPU Cores และรองรับการเพิ่ม NVIDIA M60 GPU จำนวน 2 ชุด
  • Lenovo HX3310 Server ขนาด 1U บรรจุ 1 Node สำหรับเน้นการประมวลผล สำหรับ VDI และ Virtualization ขนาดเล็ก โดยรองรับ 2.5″ HDD ได้ 8 ลูก และรองรับสูงสุด 44 CPU Cores
  • Lenovo HX2710-E Server ขนาด 2U บรรจุ 4 Node สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยแต่ละ Node รองรับ 2.5″ HDD ได้ 6 ลูก และรองรับสูงสุด 20 CPU Cores
  • Lenovo HX2310-E Server ขนาด 1U บรรจุ 1 Node สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยรองรับ 2.5″ HDD ได้ 7 ลูก และรองรับสูงสุด 20 CPU Cores
  • Lenovo HX1310 Server ขนาด 1U บรรจุ 1 Node สำหรับสาขาขององค์กร โดยรองรับ 2.5″ HDD ได้ 8 ลูก และรองรับสูงสุด 14 CPU Cores

โดย Lenovo HX Series ทั้งหมดนี้จะติดตั้ง Nutanix Acropolis พร้อม Hypervisor ของ Nutanix ลงไปบน Server เริ่มต้นจำนวน 3 Node เป็นอย่างต่ำ และจะสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อ License ของระบบ Virtualization เพิ่มเติม แต่ถ้าหากต้องการใช้ VMware vSphere ก็สามารถซื้อ License แยกมาทำการติดตั้งเพิ่มได้เช่นกัน ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://shop.lenovo.com/us/en/systems/converged-systems/hx_series/ ทันที

Lenovo HX Series นี้รองรับการเพิ่มขยายได้แบบ Scale-out และมี License เสริมสำหรับการเพิ่มจำนวน Node สูงสุดในการ Scale-Out, การทำ Backup และการทำ Disaster Recovery ได้ตามความต้องการ แบ่งเป็น License ระดับ Nutanix Starter, Nutanix Pro และ Nutanix Ultimate License

 

ต่อยอดเทคโนโลยีของ Nutanix ด้วย Software และบริการจาก Lenovo

คำถามที่น่าสนใจมากคำถามหนึ่งก็คือ Lenovo HX Series แตกต่างจาก Nutanix หรือผู้ผลิตรายอื่นที่ OEM Nutanix อย่างไร? ซึ่งทางทีมงาน Lenovo Thailand ก็ได้ให้ข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนเอาไว้ดังนี้

  • โมเดลที่แตกต่าง: จะเห็นได้ว่าโมเดลเริ่มต้นของ Lenovo HX Series นั้นแตกต่างจาก Model เริ่มต้นของ Nutanix พอสมควร ทำให้การเจาะกลุ่มตลาดแตกต่างกันไปนั่นเอง
  • การคิดราคา License ที่แตกต่าง: Lenovo HX Series นี้จะมีการคิดราคาอ้างอิงจาก Spec ของ Hardware ที่เลือกใช้งาน ดังนั้นในหลายๆ กรณี ถึงแม้จะเป็นระบบที่ OEM จาก Nutanix เหมือนกัน แต่ราคาของ Lenovo HX Series ก็จะยืดหยุ่นและคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า
  • เพิ่มระบบ Lenovo XClarity: Lenovo XClarity จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบและบริหารจัดการ Hardware ทั้งหมดเป็นหลัก ในขณะที่ชั้นของ Software นั้นจะเป็นหน้าที่ของ Nutanix Prism ไป ทำให้การดูแลรักษา Data Center สามารถทำได้อย่างครอบคลุมและง่ายดายยิ่งขึ้น
  • บริการติดตั้งและสนับสนุนหลังการขายจาก Lenovo Thailand: ทีมงาน Lenovo Thailand มีการจัด Hardware สำรองทั้งหมดเอาไว้ในประเทศไทย พร้อมมีทีมวิศวกรพร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายทั่วประเทศไทยแบบ 24×7 ได้อย่างครอบคลุม ทำให้องค์กรสามารถมั่นใจในการใช้งานเทคโนโลยี Hyperconverged ได้ยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

ก็ขอจบเพียงเท่านี้สำหรับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ครับ ทางทีมงาน TechTalkThai ต้องขอขอบคุณทางทีมงาน Lenovo Thailand ที่มาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ

from:https://www.techtalkthai.com/lenovo-executives-interview-on-lenovo-in-data-center-market/

Lenovo x3950 X6 Server ทำลายสถิติโลกในการทดสอบ TPC-E

Lenovo ได้ออกมาเปิดเผยถึงการทำลายสถิติการทดสอบประสิทธิภาพจากการทดสอบ Lenovo x3950 X6 ซึ่งเป็น Server ขนาด 8 CPU เพื่อเฟ้นหาประสิทธิภาพและความคุ้มค่าต่อการลงทุนของแต่ละระบบ โดย Lenovo x3950 X6 นี้ก็ได้ผลลัพธ์สูงถึง 11,058.99 Trasnsactions per Second E และมีค่า Price/Performance ที่คุ้มค่าสุงสุดที่ 143.91 USD ต่อ Transaction per Second E

lenovo_x3950_x6_banner

สำหรับ Server แบบ 8 CPU ที่ตามมาเป็นอันดับสองนั้นได้แก่ Fujitsu Server PRIMEQUEST 2800E2 ซึ่งมีประสิทธิภาพแตกต่างกันเกือบ 10% ในขณะที่ความคุ้มค่านี้ต่างกันถึง 23%

ก่อนหน้านี้ Lenovo x3850 X6 ซึ่งเป็น Server ขนาด 4 CPU เองก็ได้ครองแชมป์การทดสอบ TPC-E นี้มาแล้วเช่นกันในเหล่า Server ขนาด 4 CPU ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2015 ที่ผ่านมา

สำหรับผลการทดสอบฉบับเต็มของ Lenovo x3950 X6 นั้นสามารถดูได้ที่ http://www.tpc.org/4075 ส่วนผลการทดสอบของ Lenovo x3850 X6 สามารถดูได้ที่ http://www.tpc.org/4072 ทันที

ที่มา: http://blog.lenovo.com/en/blog/lenovo-x3950-x6-sets-new-world-record-tpc-e-benchmark/?linkId=21013562 

from:https://www.techtalkthai.com/lenovo-x3950-x6-server-breaks-world-record-on-tpc-e/

PR : เลอโนโวเปิดหน่วยธุรกิจใหม่ เซิร์ฟเวอร์ x86 มุ่งพัฒนาศักยภาพธุรกิจองค์กรบนระบบคลาวด์

เลอโนโวประเทศไทยขยายสำนักงานแห่งใหม่ในประเทศเพื่อต้อนรับธุรกิจ เซิร์ฟเวอร์ x86 ในภาพ: (ซ้าย) มร. แดเนียล ทาน ประธานลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ เลอโนโว อาเซียน (กลาง) คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ เลอโนโว ประเทศไทย (ขวา) มร. โก๊ะ คง เม็ง ผู้จัดการทั่วไปและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอโนโว อาเซียน

LEnovo (1)

เลอโนโวประกาศความสำเร็จอย่างเป็นทางการในการเข้าซื้อกิจการเซิร์ฟเวอร์ x86 ในประเทศไทย พร้อมขยายสำนักงานแห่งใหม่เพื่อต้อนรับสมาชิกจากเซิร์ฟเวอร์ x86 ที่จะเข้ามาช่วยดูแลลูกค้าธุรกิจทั้งในสายงานธรุกิจคอนซูเมอร์, คอมเมอร์เชียลและสมาทร์โฟน การเซ็นต์สัญญาในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งในก้าวสำคัญของเลอโนโวหลังจากปีพ.ศ. 2548 ที่เลอโนโวเข้าซื้อกิจการธุรกิจพีซีของไอบีเอ็มซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มของผลิตภัณฑ์ตระกูล ThinkPad และพีซีอื่นๆ

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“การเข้าซื้อกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ X86 จะช่วยขยายศักยภาพของเลอโนโวให้กว้างมากขึ้นในส่วนผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และเซอร์วิสขององค์กรในระดับสากล ทั้งจะช่วยให้เลอโนโวก้าวครองตำแหน่งผู้ผลิตและสร้างระบบแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และจากการรวมตัวกันของธุรกิจในครั้งนี้ เลอโนโว ประเทศไทยได้ขยายสำนักงานเพื่อรองรับทีมบุคลากรของเซิร์ฟเวอร์ X86 โดยเลอโนโวมุ่งมั่นที่จะทำให้การร่วมตัวของธุรกิจในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อประโยชน์ของลูกค้าทุกท่าน นอกจากนี้เลอโนโวยังได้มีการเตรียมแผนธุรกิจสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ X86โดยจะเริ่มที่ลูกค้าองค์กรและขยายต่อไปถึงลูกค้าในกลุ่มอื่นๆในอนาคต เลอโนโวมีศักยภาพที่เพียงพอทั้งในด้านการผลิตและประสบการณ์ซึ่งเห็นได้จากความสำเร็จของเราในปัจจุบันจากกลุ่มสินค้าตระกูล ThinkPad และพีซี”

จากการเข้าซื้อกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ เลอโนโวจะเป็นผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายของผลิตภัณฑ์ตระกูล System x, BladeCenter, Flex System Blade เซิร์ฟเวอร์และสวิตช์, ระบบ x86-based Flex อินทริเกรเต็ด, เซิร์ฟเวอร์และซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องของ NeXtScale และ iDataPlex , ระบบเน็ตเวิร์คของ Blade ร่วมถึงการซ่อมบำรุง

เลอโนโวและไอบีเอ็มยังได้ตกลงเป็นพันธมิตรคู่ค้า โดยเลอโนโวจะเป็นผู้ผลิตสินค้าแบบ OEM และช่วยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็มในบางรุ่น อาทิ สตอเรจตระกูล Storwize, Linear Tape Open (LTO), IBM Flash storage arrays อุปกรณ์ในระบบซอฟแวร์ของไอบีเอ็ม อาทิ Smart Cloud, General Parallel File System และ Platform Computing โซลูชั่นส์ การเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ จะส่งผลให้เลอโนโวสามารถนำเสนอโซลูชั่น ด้าน IT ได้ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับลูกค้าองค์กรเนื่องจากมีฐานข้อมูลที่กว้างกว่าเดิม

การซื้อธุรกิจในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์โดยเลอโนโวจะยังคงดำเนินแผนธุรกิจสำหรับผลิตภัณฑ์ Flex และ x86-based PureFlex อินทริเกรเต็ด ซิสเต็มม์ ตามที่ไอบีเอ็มได้วางไว้เพื่อความต่อเนื่องและจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ในขณะเดียวกันไอบีเอ็มจะยังคงดูแลระบบปฏิบัติการบางส่วนให้กับเลอโนโว และลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

นอกจากนี้ เลอโนโวอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจาซื้อธุรกิจ Motorola Mobility จาก Google หากผลการเจรจาด้านธุรกิจประสบความสำเร็จจะส่งผลให้เลอโนโวเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ในขณะเดียวกันก็จะสร้างความแข็งเกร่งให้กับเลอโนโวในการครองตำแหน่งผู้ผลิต smart connected devices ซึ่งร่วมถึงพีซี, แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

เกี่ยวกับเลอโนโว

เลอโนโว เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกและเป็นบริษัทผู้นำผลิตภัณฑ์พีซีพลัส มีมูลค่าธุรกิจ 39 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีฐานลูกค้าในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ธุรกิจของเลอโนโวพัฒนาขึ้นบนฐานการคิดค้นนวัตกรรม ซัพพลายเชนระดับโลกที่มีประสิทธิภาพสูง และการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์อย่างเข้มแข็ง เลอโนโวก่อตั้งขึ้นจากการที่กลุ่มบริษัทเลอโนโวเข้าซื้อกิจการของแผนกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็ม โดยมีหน้าที่พัฒนา ผลิต และทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเทคโนโลยีและบริการที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัย ความปลอดภัย และใช้งานง่าย ผลิตภัณฑ์ของเลอโนโว ได้แก่ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลภายใต้แบรนด์ Think สำหรับธุรกิจ และแบรนด์ Idea สำหรับผู้ใช้ทั่วไป รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ เวิร์กสเตชั่น และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย ได้แก่ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน เลอโนโวซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในฟอร์จูน 500 มีศูนย์วิจัยหลักตั้งอยู่ที่เมืองยามาโตะ ประเทศญี่ปุ่น, กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และเซิ้นเจิ้น ประเทศจีน, ประเทศบราซิล, และเมืองราเล่ย์ รัฐนอธแคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lenovo.com

from:http://www.appdisqus.com/2014/10/12/lenovo-server-x86.html