คลังเก็บป้ายกำกับ: ICLOUD

Apple ปิดให้บริการ “การสตรีมรูปภาพของฉัน” (My Photo Stream) 26 ก.ค. 2023 นี้

หลังจากเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานและอาจซ้ำซ้อนกัน iClou […] More

from:https://www.iphonemod.net/apple-announce-shutdown-my-photo-stream.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=apple-announce-shutdown-my-photo-stream

Apple จะปิด My Photo Stream บริการซิงก์รูปภาพที่มีมาตั้งแต่เปิดตัว iCloud วันที่ 26 กรกฎาคมนี้

แอปเปิลประกาศปิดให้บริการ My Photo Stream (การสตรีมรูปภาพของฉัน) ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 โดยผู้ที่ยังใช้งาน My Photo Stream จะต้องย้ายรูปทั้งหมดไปที่ iCloud Photos ก่อนถึงกำหนดวันดังกล่าว

ทั้งนี้แอปเปิลจะปิดส่วนการอัปโหลดรูปภาพใหม่ไปที่ My Photo Stream หนึ่งเดือนก่อนกำหนดปิดบริการ หรือในวันที่ 26 มิถุนายน 2023 โดยหลังกำหนดปิดบริการ My Photo Stream รูปภาพทั้งหมดจะถูกลบออกจาก iCloud และปิดตัวลง อย่างไรก็ตามบริการ My Photo Stream จะจัดเก็บรูปไว้ที่อุปกรณ์แอปเปิลอย่างน้อยอันหนึ่งอยู่แล้ว รูปจึงยังไม่หายไป โดยแนะนำให้เซฟไว้ที่ Photo Library หากต้องการเก็บรูปไว้ที่อุปกรณ์อื่น

แอปเปิลเปิดตัว My Photo Stream ตั้งแต่ปี 2011 พร้อมกับการเปิดตัวบริการ iCloud เป็นบริการฟรีที่เก็บ 1,000 รูปล่าสุดในอุปกรณ์ของแอปเปิลที่ใช้งานไว้บน iCloud เป็นเวลา 30 วัน แล้วแสดงรูปในทุกอุปกรณ์เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อให้เซฟลงอุปกรณ์ต่อได้ บริการนี้ถูกแทนที่ด้วย iCloud Photos ในเวลาต่อมา

ที่มา: 9to5Mac และ แอปเปิล

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/134037

Michael Abbott หัวหน้าฝ่ายบริการคลาวด์ของ Apple ลาออกแล้ว

Mark Gurman แห่ง Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า Michael Abbott เป็นผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลคนล่าสุด ที่เตรียมลาออกจากบริษัท โดย Abbott รับผิดชอบส่วน Infrastructure ของ iCloud และบริการอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น iMessage, FaceTime, Find My

งานส่วนนี้จะถูกโอนไปให้ Jeff Robbin ผู้สร้าง iTunes รุ่นแรก ซึ่งปัจจุบันเขาดูแลงานวิศวกรรมหลายโครงการภายใต้การดูแลของ Cue ทั้งนี้ Abbott เป็นผู้บริหารภายในทีม Services ของ Eddy Cue คนที่สองที่ลาออกในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ Peter Stern ที่ดูแลส่วนบริการ subscription เช่น Apple TV+, Apple News ก็ลาออกเมื่อเดือนมกราคม

Michael Abbott ร่วมงานกับแอปเปิลตั้งแต่ปี 2018 โดยก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้บริหารในหลายบริษัทเทคโนโลยีทั้ง Twitter, Microsoft และ Palm

ที่มา: Bloomberg

from:https://www.blognone.com/node/132892

Apple ยกเลิก CSAM การตรวจจับภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็กบน iCloud เนื่องจากมองถึงความภัยของลูกค้าเป็นหลัก

หลังจาก Apple เคยออกมายืนยันว่าจะเพิ่มระบบสำหรับตรวจจับวัตถุหรือภาพที่แสดงการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก CSAM บนรูปภาพที่ถูกอัปโหลดเข้าสู่ iCloud ทั้งบน iPhone , iPad  เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาดังกล่าวมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหรือไม่ ซึ่งล่าสุด Apple ได้ยุติแผนการนี้ลงแล้วค่ะ เนื่องจากห่วงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลักในการเข้าถึงข้อมูล โดยจะหาวิธีอื่นเพิ่มเติมเพื่อปกป้องเด็ก ๆ แทน

Apple ได้ยุติการพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจหาสื่อที่มีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก (CSAM) ในขณะที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ตามรายงานของ The Wall Street Journal  โดยตอนแรก  Apple จะอัปเดตให้ใน iOS 15 และ iPadOS 15  ภายในสิ้นปี 2021 

 

ซึ่งการทำงานของ CSAM เป็นระบบที่สามารถสแกนภาพที่ถูกอัปโหลดขึ้นไปใน iCloud เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาดังกล่าวมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหรือไม่ มันมีความแมนยำสูงมากค่ะ ในการตรวจสอบ Apple ถึงกับบอกว่ามีโอกาสผิดพลาดเพียงหนึ่งในล้านล้านเท่านั้น! 

แต่ล่าสุดก็ได้ยุติลงเนื่องมองเห็นถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก ทาง Craig Federighi รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศเด็กสามารถยุติได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น.. “ในท้ายที่สุดแล้ว การรักษาข้อมูลของลูกค้าให้ปลอดภัยมีนัยยะสำคัญต่อความปลอดภัยของเราในวงกว้างมากขึ้น”  

ทาง Apple จึงพยายามหาแนวทางใหม่ในการปกป้องเด็ก ๆ โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อรวมการสำรองข้อมูลโทรศัพท์และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ที่มุ่งเน้นการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้นในขณะที่ใช้ iMessage สำหรับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ใน iCloud นั่นเองค่ะ เพราะหากมีอะไรผิดพลาดข้อมูลของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบทางการเมือง หรือมิจฉาชีพอาจแฝงเข้ามาได้  นี่ก็เป็นอีกโครงการที่เราต้องมารอดูกันค่ะ ว่าในอนาคต Apple จะจัดการให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างยังไงบ้าง

ที่มา : theverge

 

 

from:https://droidsans.com/apple-abandons-icloud-csam-detection/

Apple ประกาศเสริมฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัย 3 รายการ

Apple ประกาศเสริมฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัย 3 รายการ ได้แก่ iMessage Contact Key Verificattion, Security Keys สำหรับ Apple ID และ Advanced Data Protection for iCloud โดยจุดเด่นของแต่ละฟีเจอร์มีดังนี้

  • iMessage Contact Key Verification: ช่วยในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานเมื่อใช้งาน iMessage หรือ FaceTime ทำให้มั่นใจได้ว่ากำลังสนทนาอยู่กับผู้ใช้งานอีกฝั่งที่เป็นตัวจริง ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยหน่วยงานของภาครัฐที่พยายามดักฟังการสนทนาได้
  • Security Keys สำหรับ Apple ID: รองรับการใช้งาน Third-party Hardware Security Key สำหรับการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน Apple ID ในลักษณะ Two-factor Authentication ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด
  • Advanced Data Protection for iCloud: ระบบ Cloud Data Security ที่ช่วยในการเข้ารหัสข้อมูลต่างๆที่อยู่บน iCloud ในลักษณะ End-to-end Encryption ซึ่งถอดรหัสได้จากอุปกรณ์ที่เชื่อถือเท่านั้น ปัจจุบันมีข้อมูล 14 รูปแบบที่ทำการเข้ารหัสแบบ End-to-end มาต้ังแต่เริ่มต้น เช่น iCloud Keychain และ Health Data โดย Advanced Data Protection จะช่วยเพิ่มการเข้ารหัสข้อมูลได้รวมกัน 23 รูปแบบ โดยมีข้อมูลอื่นๆที่เข้ารหัสเพิ่มขึ้น เช่น iCloud Backup, Notes และ Photos
Credit: Apple

สำหรับ iMessage Contact Key Verification และ Security Keys for Apple ID จะเริ่มให้บริการทั่วโลกในช่วงต้นปี 2023 ส่วน Advanced Data Protection for iCloud นั้นเริ่มให้บริการลูกค้าในสหรัฐอเมริกาแล้วผ่านทาง Apple Beta Software Program และจะเปิดให้บริการทั่วโลกภายในต้นปี 2023

ที่มา: https://www.apple.com/newsroom/2022/12/apple-advances-user-security-with-powerful-new-data-protections/

from:https://www.techtalkthai.com/apple-releases-3-new-cyber-security-features/

หน้าเว็บ iCloud โฉมใหม่ เปิดให้ใช้งานแล้ว

หน้าเว็บ iCloud โฉมใหม่ เปิดใช้งานแล้ว! Apple ได้ออกแบบ […] More

from:https://www.iphonemod.net/icloud-website-new-appearance.html

Photos ใน Windows 11 ออกอัพเดตรองรับ iCloud Photos สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศอัพเดตแอป Photos บน Windows 11 โดยรองรับการเชื่อมต่อกับบัญชี iCloud Photos ของแอปเปิลแล้ว มีผลกับผู้ใช้งานทุกคน ตามที่ออกพรีวิวมาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ไมโครซอฟท์บอกว่าอัพเดตนี้จะทยอยได้รับกับผู้ใช้งานภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการรูปภาพและวิดีโอได้จากทุกแหล่ง ทั้งที่อยู่ในพีซี จากกล้อง จากโทรศัพท์ และบนคลาวด์ทั้ง iCloud และ OneDrive

การใช้งานนั้น นอกจากผู้ใช้งานต้องอัพเดต Photos เป็นเวอร์ชันล่าสุดผ่าน Microsoft Store ก็ต้องมีโปรแกรม iCloud for Windows สำหรับซิงก์รูปภาพเข้ามาด้วย

ที่มา: ไมโครซอฟท์

No Description

from:https://www.blognone.com/node/131423

Photos ของ Windows 11 ซิงก์ภาพ iCloud ได้แล้ว, Apple TV และ Apple Music จะออกเวอร์ชันวินโดวส์

ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับแอปเปิลหลายอย่าง โดยแอพ Photos ของ Windows 11 จะรองรับการซิงก์รูปกับบัญชี iCloud Photos (นอกเหนือจากการซิงก์ OneDrive ที่มีอยู่ก่อนแล้ว) ตอนนี้เริ่มใช้ได้แล้วสำหรับ Windows Insiders Dev Channel

นอกจากนี้ แอปเปิลยังออกแอพ Apple Music เวอร์ชัน Xbox และประกาศว่าจะออกแอพ Apple TV กับ Apple Music เวอร์ชันวินโดวส์ให้ด้วยในปีหน้า 2023

No Description

ที่มา – Microsoft, 9to5Mac, Microsoft

from:https://www.blognone.com/node/130907

บริษัทผู้ดูแล iCloud ในจีน เตือนรัฐบาลจีนล็อคดาวน์ Zero-Covid ทำให้พนักงานออกจากตึกไม่ได้

Guizhou Cloud Big Data พาร์ทเนอร์ผู้ดูแลศูนย์เซิร์ฟเวอร์ข้อมูล iCloud ของ Apple ในจีน ประกาศเตือนผ่าน WeChat ว่ารัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการ Zero-Covid ล็อคดาวน์ทั้งเมืองกุ้ยหยางที่เป็นที่ตั้งของบริษัท ทำให้พนักงานของบริษัทไม่สามารถออกจากตึกได้ และหลายคนไม่ได้กลับบ้านมาเป็นสัปดาห์แล้ว

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้ระบุว่าการล็อคดาวน์จะมีผลกระทบต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Apple และลูกค้ารายอื่นๆ ของบริษัทอย่างไรบ้าง

Guizhou Cloud Big Data เป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและเป็นผู้ดูแลข้อมูลทั้งหมดบน iCloud ของผู้ใช้ iPhone ภายในประเทศจีนซึ่งมีจำนวนหลายร้อยล้านคน ภายหลังจากที่กฎหมายจีนบังคับให้ Apple ต้องปล่อยให้บริษัทสัญชาติจีนเป็นผู้ควบคุมข้อมูล

ที่มา: Bloomberg

from:https://www.blognone.com/node/130300

3 สเต็ปเทพดึงรูปจาก iCloud ไม่เกี่ยง Windows, Android ฉบับง่ายทำได้ด้วยตัวเอง!! อัพเดทปี 2022

ดึงรูปจาก iCloud ไม่ยากอย่างที่คิด แค่ 3 ขั้นตอนนี้ก็เอาภาพมาใช้ได้แล้ว!

Share image Edit Name 3icloud 1

คนที่เคยใช้อุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะ iPhone, iPad แต่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็มีภาพหรือคลิปที่ถ่ายเก็บเอาไว้แต่ไม่รู้ว่าจะดึงรูปจาก iCloud ได้อย่างไร และมีวิธีไหนบ้างถึงจะโหลดกลับมาใช้งานได้สะดวกๆ ไม่ต้องซื้อเสียเงินซื้อสินค้าของ Apple กลับมาเพื่อดึงภาพ, คลิป หรือโน๊ตบางอย่างออกมาใช้งานให้เปลืองเงิน ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยระบบปฏิบัติการอื่นไม่ว่าจะ Windows, Android ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งทาง Apple เองก็มีเว็บไซต์ iCloud ให้อดีตผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ล็อคอินเข้ามาใช้บริการได้ด้วย ด้านรูปแบบการใช้งาน ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการใช้งานในแอพฯ ของทาง Apple เลย

Advertisementavw

หรือถ้าใครใช้ iPhone, iPad, MacBook ควบคู่กับระบบปฏิบัติการ Windows อยู่ ก็ไม่ยุ่งยากเหมือนในอดีตอีกแล้ว นั่นเพราะทาง Apple ก็พัฒนาโปรแกรมให้ดึงภาพจาก iCloud ได้โดยตรง เพียงแค่ตั้งค่าในไม่กี่คลิ๊ก ก็พร้อมใช้งานได้ทันทีและสะดวกพอสมควร จัดว่าไม่แพ้ MacBook เลยทีเดียวและยังมีให้โหลดมาใช้งานใน Microsoft Store โดยตรงอีกด้วย

ดึงรูปจาก iCloud

3 สเต็ปเทพดึงรูปจาก iCloud ง่ายๆ ไม่ต้องเป็นอุปกรณ์ Apple ก็โหลดได้!

สำหรับวิธีการดึงรูปจาก iCloud ในตอนนี้จัดว่าง่ายมาก เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ได้ภาพที่เคยเซฟเก็บเอาไว้กลับมาใช้งานได้แล้ว และยังอัพโหลดภาพกลับเข้าไปเก็บใน iCloud ที่เรามีอยู่ได้อีกด้วย โดยวิธีการดึงรูปนั้นจะมี 3 วิธีหลักๆ ดังนี้

  1. โหลดจากเว็บไซต์ iCloud โดยตรงได้เลย
  2. โหลดโดยใช้แอพฯ หรือโปรแกรมของ Apple
  3. โหลดภาพจาก Shared Album ที่เพื่อนแชร์ให้ก็ได้!

1. โหลดจากเว็บไซต์ iCloud โดยตรงได้เลย

 

icloud 1

วิธีแรกที่ง่ายสุดและใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ คือ ไปโหลดภาพมาจากเว็บไซต์ iCloud โดยตรง ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำในโน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนก็ได้ โดยระบบจะให้ผู้ใช้ล็อคอิน Apple ID และยืนยันตัวด้วย Two-Factor Authentication ก่อนจะปลดล็อคให้ผู้ใช้เข้าไปดึงรูปหรือเปิดโน๊ตที่บันทึกเอาไว้ได้ตามต้องการ หากผู้ใช้คนไหนย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว Apple จะเปลี่ยนจากการส่งคำยืนยันเป็นหน้าต่างแจ้งเตือนใน iPhone เป็น SMS ให้ผู้ใช้กรอกเพื่อล็อคอินแทน

Screenshot 2022 08 29 155602 1

เมื่อล็อคอินแล้ว ที่หน้าแรกของเว็บไซต์ iCloud จะมีแอพฯ พื้นฐานของ macOS ที่ถูกแบ็คอัพขึ้น iCloud ให้กดเปิดใช้งานแบบออนไลน์ และยังใช้โปรแกรมทำงานเอกสารของ Apple อย่าง Pages, Numbers, Keynote ได้ด้วย ส่วนการดึงภาพจาก iCloud ให้คลิกไอคอนแอพฯ รูปภาพ (Photos) เพื่อเปิดดูภาพที่ถูกแบ็คอัพเอาไว้ออกมา

Screenshot 2022 08 29 130833 1 1

 

หน้า UI แอพฯ รูปภาพบนเว็บไซต์ iCloud จะเหมือนเวอร์ชั่นแอพฯ ใน macOS สามารถดาวน์โหลด, อัพโหลด, ลบภาพที่แบ็คอัพเอาไว้ได้ตามสะดวก โดยขั้นตอนใช้งานบนเว็บไซต์ นอกจากจะแตะเลือกเพียงภาพที่ต้องการภาพเดียว, กด Ctrl ค้างแล้วคลิกเลือกหลายๆ ภาพพร้อมกัน หรือแม้แต่กด Ctrl+A เพื่อเลือกทุกภาพที่แบ็คอัพเอาไว้ก็ได้

Screenshot 2022 08 29 161618

 

เมื่อได้ภาพที่ต้องการแล้ว จะมีไอคอนให้เลือกสิ่งที่ต้องการทำกับภาพใน iCloud ของเราได้ 7 อย่างด้วยกัน โดยไล่จากซ้ายได้แก่

  1. รูปเมฆพร้อมลูกศรชี้ขึ้น – อัพโหลดภาพจากในคอมพิวเตอร์ขึ้น iCloud
  2. กรอบสี่เหลี่ยมและเครื่องหมายบวก – เพิ่มภาพที่เลือกไปยังอัลบั้มที่ต้องการ
  3. รูปหัวใจ – เลือกเป็นภาพโปรด
  4. กรอบสี่เหลี่ยมมีลูกศรชี้ขึ้น – แชร์
  5. รูปเมฆพร้อมลูกศรชี้ลง – ดาวน์โหลดรูปจาก iCloud เข้ามาในคอมของเรา
  6. รูปถังขยะ – ลบภาพที่เลือกทิ้งไป
  7. วงกลมมี 3 จุดตรงกลาง – ตั้งค่าตัวเลือกการดาวน์โหลดภาพจาก iCloud โดยเลือกได้ 2 แบบ
    1. ดาวน์โหลดต้นฉบับ – โหลดไฟล์ภาพต้นฉบับ ความละเอียดสูงสุดจาก iCloud
    2. ใช้งานร่วมกันได้ดีที่สุด – โหลดภาพที่นำไปใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ จะเป็นไฟล์นามสกุล .jpg, .HEIF, H.264, .HEVC

Screenshot 2022 08 29 13 35 52 85 40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12 1
Screenshot 2022 08 29 13 35 56 62 40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12 1

ถ้าใช้ผ่านเบราเซอร์ในสมาร์ทโฟน เมื่อล็อคอินเว็บไซต์ iCloud และเปิดเจอภาพที่ต้องการแล้ว ให้กดไอคอนวงกลมมี 3 จุดตรงกลางก่อน แล้วแตะคำว่า “ดาวน์โหลด” แล้วเบราเซอร์ก็จะดึงรูปจาก iCloud มาเก็บไว้ในมือถือให้ใช้งานได้แล้ว

2. โหลดโดยใช้แอพฯ หรือโปรแกรมของ Apple

Screenshot 2022 08 29 141341 1

วิธีดึงภาพจาก iCloud ถ้าเป็นระบบของ Apple เองก็ทำได้ไม่ยาก ซึ่งทาง Apple ก็แนะนำวิธีทำเอาไว้บนหน้าเว็บไซต์ของตัวเองด้วย โดยแยกตามระบบปฏิบัติการไป ได้แก่ iOS, macOS และ Windows ซึ่งขั้นตอนใช้งานไม่ซับซ้อนเลย หากแยกตามระบบปฏิบัติการจะเป็นดังนี้

ระบบปฏิบัติการ iOS, iPadOS
  1. แตะคำสั่ง Settings เลือก Apple ID ของตัวเองด้านบน
  2. แตะคำสั่ง iCloud แล้วเลือก Photos
  3. เลือก Download and Keep Originals
ระบบปฏิบัติการ macOS
  1. เปิดแอพฯ Photos
  2. เลือกคำสั่ง Photos คลิกที่ตัวเลือก Preferences 
  3. คลิกคำว่า iCloud แล้วคลิกคำสั่ง Download Originals to this Mac

pc ios 15 iphone 12 pro icloud photos hero 1

ส่วนผู้ใช้ที่ใช้โน๊ตบุ๊คหรือพีซีระบบปฏิบัติการ Windows ควบคู่กับ iOS หรือเคยใช้ก็ดึงรูปจาก iCloud กลับมาใช้งานได้โดยโปรแกรม iCloud ที่ทาง Apple ทำมาเพื่อระบบปฏิบัติการ Windows โดยเฉพาะ สามารถโหลดผ่านทาง Microsoft Store ได้เลย หากผู้ใช้คนไหนสนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

Screenshot 2022 08 29 150846 1

icloud2 1
icloud3 1
icloud4 1
icloud5 1

วิธีใช้งานโปรแกรม iCloud ของ Windows ก็จัดว่าใช้งานได้ง่ายมาก เมื่อติดตั้งแล้วโปรแกรมจะให้กรอก Apple ID ส่วนตัวตามปกติ แล้วกด Sign In และยืนยันตัวผ่านระบบ Two-Factor Authentication ให้เรียบร้อย จากนั้นระบบจะให้ผู้ใช้ตั้งค่าว่าต้องการ Sync ข้อมูลอะไรจาก iCloud เข้ามาในพีซีบ้าง ซึ่งเลือกได้ทั้ง iCloud Drive, Photos, Contacts and Calenders, Bookmarks และ Passwords ในส่วนนี้เราสามารถเลือกเชื่อมต่อข้อมูลได้ตามต้องการแล้วค่อยกด Apply ด้านล่าง

เมื่อปล่อยให้ iCloud จัดการเชื่อมต่อข้อมูลจนขึ้นหน้าต่าง “Setup is Complete” ในภาพล่างซ้ายแล้ว ให้กด Done จากนั้นผู้ใช้ก็สามารถดึงรูปจาก iCloud ได้ตามต้องการเหมือนเป็นไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งถ้าตั้ง Sync ทุกอย่างเอาไว้ในเครื่องจะแยกเป็น 2 ไดรฟ์ด้วยกัน ได้แก่

  1. iCloud Drive – เปิดดูข้อมูลใน iCloud ทั้งหมด ได้แก่ เอกสารจากโปรแกรม Pages, Numbers, Keynote และบางรูปภาพที่ Sync เอาไว้
  2. iCloud Photos – เปิดดูและดึงรูปทั้งหมดจาก iCloud ได้ทั้งหมดเหมือนไดรฟ์หนึ่งในโน๊ตบุ๊ค ถ้าต้องการใช้งานก็ใช้คำสั่ง Copy&Paste เข้ามาในเครื่องแล้วใช้งานได้เลย

 

Screenshot 2022 08 29 13 11 16 76 40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12 1
Screenshot 2022 08 29 13 11 27 49 40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12 1
Screenshot 2022 08 29 13 11 34 93 b783bf344239542886fee7b48fa4b892 1
Screenshot 2022 08 29 13 32 20 66 b783bf344239542886fee7b48fa4b892

ด้านผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android หากต้องการดึงรูปจาก iCloud ผ่านเบราเซอร์โดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ URL ใหม่ตั้งแต่ต้นก็สามารถเซฟหน้าเว็บให้เป็นไอคอนแอพฯ บนจอสมาร์ทโฟนได้ด้วย โดยมีวิธีการดังนี้

  1. เปิดหน้าเว็บไซต์ iCloud (หรือเว็บไซต์ที่ต้องการก็ได้เช่นกัน)
  2. แตะเครื่องหมาย 3 จุดแนวตั้งมุมบนขวามือ เลือก “Add to Home screen”
  3. ระบบจะขึ้นหน้า Add to Home screenโชว์ไอคอนขนาด 1×1 ขึ้นมา ให้กด ADD ได้เลย
  4. เมื่อกด ADD แล้วกลับมาหน้า Home screen จะเห็นไอคอนเว็บไซต์ที่สั่งเซฟเอาไว้ เช่น iCloud อยู่บนหน้าจอและมีไอคอนรูปเบราเซอร์ Google Chrome ห้อยอยู่มุมล่างขวามือ เมื่อแตะแล้วจะโหลดเข้าหน้าเว็บไซต์ iCloud ทันที

ซึ่งขั้นตอนการเซฟหน้าเบราเซอร์ที่ต้องการให้เป็นไอคอนบน Home screen นั้นจัดว่าสะดวกรวดเร็วมาก เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องเข้าหน้าเว็บไซต์ใดเป็นประจำก็เอาวิธีนี้ไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา

3. โหลดภาพจาก Shared Album ที่เพื่อนแชร์ให้ก็ได้!

mikayla mallek 3iT3dnmblGE unsplash 1

ส่วนวิธีดึงรูปจาก iCloud ที่เป็น Shared Albums ซึ่งเราไม่ได้เป็นเจ้าของแต่คนรู้จักแชร์มาให้กดดูได้ด้วยกัน ซึ่งวิธีดึงภาพมาใช้งานทำได้ทั้ง iOS, iPadOS, macOS รวมถึง Windows ด้วย โดยมีวิธีการแยกตามระบบปฏิบัติการดังนี้

ระบบปฏิบัติการ iOS, iPadOS
  1. เปิดแอพฯ Photos ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เลือกแท็บ Albums
  2. เลื่อนหน้าจอลงมาที่แถบ Shared Albums แล้วเลือกอัลบั้มที่ต้องการ
  3. เลือกภาพหรือคลิปที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Share (รูปกล่องสี่เหลี่ยมมีลูกศรชี้ขึ้น)
  4. แตะตัวเลือก Save Image หรือ Save Video เพื่อเซฟไว้ในเครื่อง
ระบบปฏิบัติการ macOS
  1. เปิดแอพฯ Photos เลือกคำสั่ง Shared Album ตรงแถบคำสั่งฝั่งซ้ายมือของหน้าต่างโปรแกรม
  2. เลือกภาพหรือวิดีโอที่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง Import เพื่อเซฟเอาไว้ใน MacBook ได้เลย
ระบบปฏิบัติการ Windows
สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือ 11
  1. คลิก Start Menu > iCloud Shared Albums
  2. ดับเบิ้ลคลิก Shared Album ที่ต้องการเพื่อเปิดอัลบั้มนั้นๆ
  3. ดับเบิ้ลคลิกภาพหรือคลิปที่ต้องการ จากนั้น Copy ไฟล์ดังกล่าวแล้ว Paste ไว้ในโฟลเดอร์อื่นในเครื่องของเราได้เลย
สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 7
  1. เปิดหน้าต่าง Windows Explorer แล้วสังเกตตัวเลือก iCloud Photos ที่แถบฝั่งซ้ายมือ
  2. ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Shared folder จากนั้นดับเบิ้ลคลิ๊กอัลบั้มที่มีภาพหรือวิดีโอที่ต้องการ
  3. ดับเบิ้ลคลิกภาพหรือคลิปที่ต้องการ จากนั้น Copy ไฟล์ดังกล่าวแล้ว Paste ไว้ในโฟลเดอร์อื่นในเครื่องของเราได้เลย

andrew neel cckf4TsHAuw unsplash

จะเห็นว่าวิธีการดึงรูปจาก iCloud หรือแม้แต่ไฟล์เอกสารที่เคยเซฟเอาไว้ก็สามารถดึงกลับมาใช้งานได้โดยไม่ต้องมี iPhone, iPad หรือแม้แต่ MacBook สักชิ้นเดียวเลยก็ได้ ขอแค่รู้ว่าต้องเข้าทางไหน ทำอย่างไรก็เพียงพอแล้ว ซึ่งวิธีดึงรูปที่แนะนำไปในบทความนี้แล้ว ถ้า iCloud ของใครกำลังจะเต็มเพราะมีไฟล์ภาพเยอะเกินไปแล้วไม่อยากเสียเวลานั่งไล่ลบเองทีละภาพ ก็เปิดคอมพิวเตอร์แล้วไล่ลบภาพทิ้งไปก็ได้และสะดวกกว่ามาก

อย่างไรก็ตา ในมุมของผู้เขียนมองว่าในยุคนี้ผู้ใช้แต่ละคนสามารถเปิดใช้อินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาและยังรับส่งไฟล์ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ผู้เขียนเห็นว่าการจ่ายซื้อพื้นที่ Cloud ส่วนตัวเอาไว้เซฟงานเก็บเอกสารต่างๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่มีไฟล์งานสำคัญอยู่ก็แนะนำให้ลงทุนซื้อเพิ่มแค่ตัวเริ่มต้นก็ได้ แล้วใช้วิธีแชร์ไฟล์ใน Cloud Drive แทน จะสะดวกกว่าใช้แฟลชไดรฟ์อย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

macbook gaming cover

Share image Edit Name 3macbook 1

USB C cover

from:https://notebookspec.com/web/663779-3-step-download-photo-from-icloud