[Guest Post] Disrupted Weather | สภาพอากาศเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งในชีวิตที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวได้ – Weather is one of the few things in life none of us can control but we can prepare for it.

เกี่ยวกับบริษัท Met Office

Met Office ให้บริการอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร(UK) มีพนักงานมากกว่า 1,700 คนใน 60 สาขาทั่วโลกและเป็นผู้ให้บริการทางด้านการพยากรณ์สภาพอากาศและสภาพภูมิอากาศระดับโลก Met Office ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีการพยากรณ์ที่แม่นยำที่สุดในโลก โดยใช้การสำรวจสภาพอากาศมากกว่า 10 ล้านครั้งต่อวัน และทำการสร้างแบบจำลองชั้นบรรยากาศขั้นสูงและใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อสร้างการพยากรณ์และบรรยายสรุป 3,000 รายการที่ปรับแต่งได้ต่อวัน

Met Office Business challenge:

“ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมกำลังตื่นตัวกับผลกระทบของอุณหภูมิสภาพลมฝนและอื่น ๆ ที่มีต่อการดำเนินงานของพวกเขา เป็นผลให้หลายคนกำลังมองหาข้อมูลการคาดการณ์ที่แม่นยำเพื่อช่วยให้พวกเขา เตรียมตัวในการทำงานได้อย่างมีคุณภาพไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศอย่างไร…”

Met Office ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อส่งต่อข้อมูล อับเดทข่าวสารที่ถูกต้องแม่นยำให้กับผู้คน และยังค้นหาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสม มาช่วยให้งานวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยต้องการที่จะส่งต่อข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ เนื่องจากการคาดการณ์ของ Met Office จะถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบโดยลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ กันไป

ทาง Met Office จึงมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางด้าน Infrastructure เดิม มาเป็นการ deploy แบบ Hybrid Cloud Infrastructure ที่มีการใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “Cloud First”และเลือกร่วมกันทำงานกับโซลูชั่นของ IBM Systems

IBM Solution components :

• IBM® Storwize® V7000F (IBM All-Flash Storage)
• IBM Spectrum® Scale (Software Defined Storage)
• IBM z13® Server

IBM Systems Solution :

สำหรับ On-premises ศูนย์คอมพิวเตอร์หลักจะใช้การทำงานแบบ stretched cluster บน IBM Z server และเมื่อต้องการข้อมูลคาดการณ์ที่แม่นยำมากขึ้น จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ที่ใช้ในการประกอบการวิเคราะห์ ทาง Met Office เลือกการใช้งานระบบร่วมกับ Software Defined Storage และ IBM All-Flash Storage
มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลภายใน on-premises และใช้ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อข้อมูลไปยัง public cloud ช่วยให้เกิด Hybrid Cloud Infrastructure Solution อย่างแท้จริงขึ้นมา เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการพยากรณ์สภาพอากาศได้แม่นยำมากขึ้น

IBM Z server : เป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรภาพสูงในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่นี้ โดยมีการทำงานในลักษณะของ Cluster Server ช่วยกันประมวลผล และ Cluster Server นี้ ทำหน้าที่เป็นฮับ (Hub)เป็นตัวรับข้อมูลแบบชั่วคราวด้วย โดยสามารถตั้งค่านโยบายการเก็บข้อมูล 48 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า
โดยจะมีการตรวจสอบสภาพอากาศ 200 ล้านต่อวัน การคำนวณที่เกิดขึ้นนี้รับข้อมูล 10 TBต่อวัน ทุกวันและนโยบายจะทำการส่งต่อข้อมูลไปยังระบบ Development ที่อยู่บน Public Cloud ต่อไป และสำหรับงาน Development ทาง Met Office จะรันข้อมูลแบบคู่ขนานไปพร้อมๆ กันเพื่อสร้างแบบจำลองสภาพอากาศ โดยมีข้อมูลเพิ่มอีก 7 TB ต่อวัน

IBM Storage Solution : ทาง Met Office เลือกใช้งานบน IBM Storwize V7000F All- Flash storage ที่ให้ความเร็วจาก SSD ทำให้ latency ที่ต่ำลง ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น และสามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลโดยการใช้งาน Compression ที่สามารถบีบอัดข้อมูลได้อย่างน้อย 2:1 ทำให้การลงทุนเรื่องพื้นที่จัดเก็บที่น้อยลง แต่ได้ความเร็วสูงขึ้น และมีการเพิ่ม High-Availability (HA) โซลูชั่นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดฝัน มีการใช้งาน IBM Hyper-Swap ซึ่งเป็นคุณสมบัติบน Storwize V7000F ในการทำ Active/Active site ทำให้ระบบไม่เกิด downtime

และทำงานร่วมกับ IBM Spectrum Scale (Software Defined Storage) มาทำงานเพื่อเป็น single mount- point ในการจัดเก็บข้อมูลเรียกว่า “Global Name Space” สามารถจัดการข้อมูลแบบไฟล์ได้อย่างง่ายและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จัดเก็บได้หลายแบบทั้ง Flash, SSD, HDD, Tape, Object Storage หรือเชื่อมต่อไปยัง public cloud ได้ ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลจำนวนมหาศาลระหว่างระบบต่าง ๆ ของเราโดยอัตโนมัติด้วยการกำหนดค่านโยบายตามต้องการ ลดขั้นตอนการจัดการข้อมูลลง และเชื่อมต่อข้อมูลไปยังคลาวด์ได้ง่ายและสะดวกขึ้น

Business Results : โครงสร้าง Infrastructure แบบ “Cloud First” ที่เลือกใช้งานโซลูชั่นของ IBM Systems ทำให้ได้ประโยชน์คร่าว ๆ ดังนี้

• ทำให้ “Cloud First” ที่เป็นระบบโครงสร้างแบบ Hybrid Cloud Infrastructure เป็นไปได้จริง ใช้งานได้จริง และมีคุณภาพการประมวลผลที่สูง
• ให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 200,000ปอนด์ (GBP) ของ storage หรือประมาณ 8,059,876.94 บาท
• การคาดการณ์ที่แม่นยำช่วยส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ภายในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ โดยรอบ ได้ดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวขึ้น มีการเตรียมการรับมือและรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่าง รวดเร็ว
• ระบบที่เกิดขึ้นนี้สามารถรองรับ transactions ได้มากกว่า 300ล้าน concurrent ต่อวัน จากอุปกรณ์การสังเกตุการณ์ต่างๆ (end-devices) โดยระบบสามารถรันงานได้อย่างราบรื่น

“ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กรและเพิ่มยอดขายทางการตลาด IBM Systems ยังคงมุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์กับลูกค้ามากที่สุด และมีทั้งทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบไอทีพร้อมให้คำปรึกษา”

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด
โทร 02 311 6881# 7151 , 7156 หรือ email : cu_mkt@cu.co.th

หากสนใจเพิ่มเติมสามารถติดต่อทาง IBM Thailand มีทีมงาน ที่พร้อมให้คำปรึกษาสำหรับทุกท่านอย่างครบถ้วน Inbox เข้ามาได้ที่ Facebook IBM Thailand: https://www.facebook.com/IBMThailand/

เขียนโดย

ปรียานุช เปล่งวาจา
IBM IT/Specialist
IBM Thailand Co.,Ltd

ศุภมิตต์ บุญชัยวัฒนา
System Engineer
Computer Union Co.,Ltd

from:https://www.techtalkthai.com/disrupted-weather-ibm-case-study-at-met-office-by-computer-union/

IBM เปิดตัว Mainframe รุ่นล่าสุดสำหรับการทำ Encrypted Hybrid Cloud โดยเฉพาะ

IBM ได้ทำการเปิดตัว IBM z13s รุ่นล่าสุดซึ่งเป็น Mainframe ที่เน้นการออกแบบทางด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ สำหรับใช้สร้างระบบ Hybrid Cloud ที่มีความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสทุกข้อมูลและทุก Transaction ด้วยความเร็วที่สูงกว่าระบบอื่นๆ ถึง 2 เท่า โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

• ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปที่ระดับของ Hardware โดยมีความสามารถในการทำ Cryptography แบบพิเศษที่ช่วยให้การเข้ารหัสและถอดรหัสเร็วขึ้นกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้าได้ถึง 2 เท่า และไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
• มีการติดตั้งระบบ IBM Security Software Solution ลงไปบน IBM z13s เลยเพื่อให้ระบบ Hybrid Cloud มีความปลอดภัยสูงขึ้น ในขณะที่มีบริการ IBM Cyber Security Analytics เพื่อช่วยวิเคราะห์เหตุการณ์ต้องสงสัยที่อาจเป็นอันตรายได้จากการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน
• ติดตั้งเทคโนโลยี Next Generation Network-in-a-Box ที่ทำ Shared Memory Communications แบบ Direct Access Method
  เพิ่มหน่วยความจำ, Cache และ I/O Bandwidth เพื่อรองรับ Mobile Transaction จำนวนมหาศาลได้
• มีระบบ Real-time Insight สำหรับตรวจสอบปัญหาต่างๆ พร้อมระบบ Analytics และ Transaction Processing ให้
• จับมือกับ BlackRidge Technology เพื่อเสริมระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่ทำการวิเคราะห์ความปลอดภัยก่อนเริ่มทำการเปิด Connection ใดๆ
• จับมือกับ Forcepoint เพื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Trusted Thin Client ให้การเชื่อมต่อจากเครื่องลูกข่ายเป็นไปได้อย่างปลอดภัย
• จับมือกับ RSM Partners ที่จะช่วยตรวจสอบความพร้อมของ Application, ทำ Penetration Testing และทำ Security Review รวมถึงมีระบบบริหารจัดการความปลอดภัยพร้อม Dashboard สำหรับใช้ตรวจตราความปลอดภัยของระบบ Mainframe ได้

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM z13s ได้ทันทีที่ http://www-03.ibm.com/systems/z/hardware/z13s.html นะครับ

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/49021.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-launched-ibm-z13s-mainframe-with-security/

บริหารจัดการ IBM Power และ IBM z Systems ด้วย VMware vRealize Automation

IBM ได้ทำการจับมือกับ VMware เพื่อสร้างระบบ Automation ร่วมกันระหว่าง Infrastructure ระหว่างสองผู้ผลิตให้กลายเป็นโซลูชั่นเดียว โดยใน VMware vRealize Automation 6.2.3 รุ่นล่าสุดนี้จะสามารถทำการบริหารจัดการ IBM Power ได้ผ่านทาง IBM PowerVC และบริหารจัดการ IBM z Systems ได้ผ่านทาง IBM Cloud Manager (ICM) ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้สามารถเป็นไปได้ขึ้นมาจากการที่ IBM เปิด OpenStack API สำหรับใช้บริหารจัดการะบบต่างๆ ของ IBM เอาไว้นั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ทั้ง VMware และ IBM ได้เลยครับ

ที่มา: http://www.vmwareblogs.com/article.jsp?id=5279776590790656 

from:https://www.techtalkthai.com/manage-ibm-power-and-ibm-z-systems-via-vmware-vrealize-automation/

IDC เผย IBM เป็นผู้นำตลาด Mainframe ด้วยส่วนแบ่งตลาด 63.6% และเติบโตถึงปีละ 118%

IDC บริษัทค้นคว้าและวิจัยด้าน IT ชั้นนำ ได้เปิดเผยผลสำรวจว่าในไตรมาสแรกของปี 2015 โรงงานผลิต Server ของ IBM ได้มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 63.6% สำหรับตลาด Server ที่มีราคาเครื่องละมากกว่า 250,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 7.5 ล้านบาทไทยต่อเครื่อง โดย Server หลักของ IBM อย่าง z Systems นี้มีการเติบโตสูงถึงปีละ 118% เลยทีเดียว

ทั้งนี้ IBM z Systems รุ่นล่าสุดอย่าง z13 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ได้ถูกวางไว้ให้เป็นระบบ Mainframe สำหรับตอบโจทย์ของ Digital Economy โดยเฉพาะ ด้วยความสามารถในการรองรับการประมวลผลมากถึง 2,500 ล้าน Transaction ต่อวัน ทำให้สามารถรองรับการมาของการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่าน Mobile Device ได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังมีระบบ Analytics พิเศษเพื่อตรวจสอบการทุจริตในแต่ละ Transaction ได้อีกด้วย

ใน 18 เดือนที่ผ่านมา IBM ได้ปรับกลยุทธ์สำหรับตลาด Server เพื่อมามุ่งเน้นที่กลุ่มของตลาด Server ระดับสูงโดยเฉพาะ ทั้งการเปิดตัวของ CPU POWER8 และ z13 Mainframe ก็เพื่อให้ลูกค้าของ IBM สามารถสร้างความแตกต่างในธุรกิจจากคู่แข่งได้ ด้วยการเพิ่มความสามารถในการรองรับความต้องการระบบ Cloud, Analytics, Mobile, Social และ Security ในการดำเนินธุรกิจได้ในแต่ละวันนั่นเอง

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/47029.wss 

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-mainframe-leads-in-worldwide-revenue-share/