คลังเก็บป้ายกำกับ: HP_SPECTRE

[HP] เปิดตัว Spectre เทพแห่งความบาง 10.4 ม.ม. หนัก 1.11 กิโลฯ บน Core i7-Skylake และตัวอื่นๆ

เปิดตัวในไทยอย่า งเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับการมาของ HP All New Product ของปี 2016 ที่เปิดตัวพร้อมๆ กันในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ไล่ตั้งแต่ตัวเทพอย่าง HP Spectre 2016 อัลตราบุ๊คไฮคลาสสุดพรีเมียมที่บางที่สุดในโลก , HP Envy 2016 อัลตราบุ๊คแข็งแกร่ง น้ำหนักเ บาแต่ทรงประสิทธิภาพ , HP All New Pavilion 14-15 2016 โน้ตบุ๊คมัลติมีเดียเร็วแรงสูงสุดกับ GTX 960M รวมไปถึง HP Pavilion X360 2016 ไฮบริจด์โน้ตบุ๊คจิ๋วแต่แจ๋ว และตัวสุดท้ายอย่าง HP Series โน้ตบุ๊คคุ้มค่าสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ที่ในงานนี้ทาง HP ได้เชิญทางทีมงาน NotebookSPEC ไปร่วมงานด้วย โดยสถานที่เป็นร้านอาหารแนงฟิวชั่นอย่าง Wicked ย่าน Siam Square 1

 

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-63
บรรยากาศภายในงาน HP จัดในรูปแบบสบายๆ เป็นกันเอง โดยมีโน้ตบุ๊คทุกรุ่นวางเดโมไว้ให้ทดสอบกันแบบละลานตาเลยทีเดียว แต่ที่เห็นจะได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น HP Spectre ตัวเทพ พระเอกของงานนี่เองละ ที่สื่อยื้อแย่งกันสัมผัสแบบสุดฤทธิ์สุดเดช

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-3
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-4
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-5
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-6
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-7
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-8
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-9
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-19
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-1

HP Spectre รุ่นดังกล่าวจะมาพร้อมด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยด้วยโทนทองดำ โดดเด่นกว่าใครเพื่อน มีความบางเพียง HP Spectre ดีไซน์นี่แบบล้ำสุดๆ คล้ายกระเป๋าแบรนด์เนม บนคีย์บอร์ดที่มีไฟแสดงผล Blacklit และมีความเป็นเอกลักษณ์ตลอดทั้งตัวเครื่อง ขับเคลื่อนภาพผ่านหน้าขอแสดงผล 13.3 นิ้ว และชิป Core i7-6500U ที่ทรงประสิทธิภาพสุดๆ กับน้ำหนักตัวเพียง 1.11 กิโลกรัมเท่านั้น แบรนด์อื่นๆ อายม้วนกันเลยทีเดียวเพราะอย่างมากก็ได้แค่ Core M เท่านั้นเอง

HP Spectre

  • หน่วยประมวลผล Intel Core i7-6500 “Skylake”
  • หน่วยความจำ RAM ที่ 8 GB
  • หน้าจอขนาด 13.3 นิ้วรองรับความละเอียดระดับ Full HD มาพร้อมกระจกกันจอของ Corning Gorilla ขอจอบางแบบ Edge to Edge
  • แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ PCIe based SSD storage ที่ตัวเลือกมากสุด 512 GB
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย 802.11 ac 2×2 Wi-Fi
  • มาพร้อมกับ USB Type-C 3.1 จำนวนมากถึง 3 พอร์ท (รองรับ Thunderbolt 3)
  • ระบบลำโพงเสียงดีจาก Bang & Olufsen
  • แบตเตอรี่ได้รับการออกแบบใหม่เป็นแบบ 2 ชั้นรองรับกับความบางของตัวเครื่องโดยสามารถที่จะใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 9.5 ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องหนาเพียง 10.4 mm และน้ำหนักอยู่ที่ 1.11 kg
  • มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10
  • รับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็มโดย HP Thailand + SmaartFriend 1 ปี
  • ราคา 69,990 บาท พร้อมของแถมอย่าง กระเป๋า , USB Type C 3.1>HDMI , USB Type C 3.1>D-Sub , USB Type C 3.1>Lan

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-48
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-49
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-50
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-51
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-52
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-53
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-54
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-55
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-56
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-57
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-58
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-59
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-60
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-61
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-62
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-63
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-64
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-65
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-66
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-67
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-68
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-69
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-70
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-71

อีกหนึ่ง Ultrabookคือ HP Envy ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่นวัสดุด้านนอกเป็นอลูมิเนียม ส่วนด้านในเป็นแมกนี่เซียมทำให้น้ำหนักเบามาก และสเปคที่จัดเต็มด้วย Intel Core i7-6700HQ และ GeForce 940MX แถมยังอัพเกรด M.2 SSD ได้ด้วย แถมยังมี USB 3.1 Type C ในขนาดตัว 13.3 นิ้วถึง 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 3 หมื่นบาทเท่านั้น บนประกัน Onsite 2 ปี

HP Envy 2016

  • สูงสุด Intel Core i7-6700HQ (2.6GHz, up to 3.5GHz) 6MB L3
  • แรม DDR4
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce 940MX
  • ที่เก็บข้อมูลสูงสุด M.2 256GB SSD + 2TB (5400) 9.5mm
  • หน้าจอ IPS FullHD 13.3-15.6 Inch
  • การเชื่อมต่อ Dual Band Wireless-AC 802.11 + BT 4.0 Combo Adapter
  • พอร์ตเชื่อมต่อรองรับ HDMI , Headphone / Line out, Microphone input, USB3.0 , RJ-45 / Ethernet และ USB Type C
  • ระบบเสียง Bang & Olufsen
  • มี Windows 10 Pro ให้
  • รับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็มโดย HP Thailand + SmaartFriend 1 ปี
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท

ปิดท้ายกับอีกหนึ่งไลน์อัพอย่าง Pavilion เองที่มีมาครบครัยเลยทั้งในส่วนของ Pavilion 15 ที่เป็นมิลติมีเดียกึ่งเกมมิ่งโน้ตบุ๊คด้วยการ์จอ GTX960M , Pavilion 14 ตัวคุ้ม , Pavilion X360 ขนาด 13.3 และ 11.6 นิ้วที่เป็นไฮบริจด์โน้ตบุ๊คพกพาสะดวกใช้ได้หลากหลายทีเดียว รวมไปถึงยังมี HP Series โน้ตบุ๊คราคาคุ้มค่าที่มาพร้อม Core i-ULT Skylake และการ์ดจอแยก ซึ่งทั้งหมดจะมีสเปคดังนี้

All new Pavilion 14-15.6 นิ้ว

  • ซีพียูเลือกใช้ได้สูงสุดที่ Core i7-6700HQ หรือ Core i7-6500U
  • การ์ดจอเลือกใช้ NVIDIA GTX960M หรือ NVIDIA GeForce 940MX หรือ NVIDIA GeForce 930MX หรือ NVIDIA GeForce 930MX
  • แรมเพิ่มได้สูงสุด 16GB DDR4 2133MHz
  • ที่เก็บข้อมูล SSD ได้สูงสุด M.2 และ HDD
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.0 x 2 , USB 2.0 x 1 , HDMI , Wireless AC , Gigabit Lan
  • คีย์บอร์ดมีไฟทุกตัว
  • หน้าจอแสดงผลสูงสุด Edge to edge ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล แบบพาเนลจอ IPS ทุกตัว
  • ระบบเสียง Bang & Olufsen
  • รับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็มโดย HP Thailand + SmaartFriend 1 ปี
  • ราคาเริ่มต้นที่ 2 หมื่นกว่าบาท

Pavilion x360 11.6-13.3 นิ้ว

  • ซีพียูเลือกใช้ได้สูงสุดที่ Core i3-6100U หรือ Core i5-6200U
  • แรมสูงสุด 8GB DDR4 2133MHz
  • ที่เก็บข้อมูล SSD ได้สูงสุด 128 M.2 และ HDD
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.0 x 2 , USB 2.0 x 1 , HDMI , Wireless AC , Gigabit Lan
  • คีย์บอร์ดมีไฟทุกตัว
  • มาพร้อม Windows 10
  • หน้าจอแสดงผลสูงสุด Edge to edge ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล แบบพาเนลจอ IPS ทุกตัว
  • ระบบเสียง Bang & Olufsen
  • รับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็มโดย HP Thailand + SmaartFriend 1 ปี

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-20
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-21
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-22
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-23
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-24
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-25
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-26
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-27
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-28
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-29
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-10
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-11
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-12
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-13

All new HP Series 14-15.6 นิ้ว

  • ซีพียูเลือกใช้ได้สูงสุดที่ Core i7-6500U
  • การ์ดจอเลือกใช้ NVIDIA GeForce 940MX หรือ Radeon R Series
  • แรมเพิ่มได้สูงสุด 16GB
  • ที่เก็บข้อมูล SSD ได้สูงสุด M.2 และ HDD
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.0 x 1 , USB 2.0 x 2 , HDMI , Wireless AC , Gigabit Lan
  • คีย์บอร์ดไม่มีไฟ
  • หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงสุด FHD 1920×1080 พิกเซล
  • ราคาเริ่มต้นที่ 1 หมื่นกว่าบาท
  • มีให้เลือกถึง 5 สี
  • รับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็มโดย HP Thailand + SmaartFriend 1 ปี

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-37
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-30
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-31
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-32
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-33
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-34
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-35
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-36

จัดว่าน่าสนใจมากๆ เลยสำหรับ HP Pavilion 2016 , Spectre , X360 โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเข้ามาครับ ทั้งจากสเปคที่น่าสนใจ ฟีเจอร์ต่างๆ ที่เยอะขึ้น รวมไปถึงน้ำหนักที่ลดลงกับราคาที่สามารถจับต้องได้ แน่นอนว่าเลือกได้ตามการใช้งานเลยครับ ดูแล้วแนวโน้มน่าของ HP ปีนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ส่วนรีวิวรอชมจาก NotebookSPEC ได้เลย

และที่ลืมไปไม่ได้เลยโปรดักส์ทุกตัวของทาง HP นอกเหนือจากจะมีประกัน On-site 2 ปีซ่อมเครื่องถึงบ้านแล้วเค้ายังมี HP SmartFriend 1 ปีพ่วงเข้าไปด้วยนั่นก็หมายความว่าเพื่อนๆ สามารถใช้บริการตรวจเช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง และมีบริการ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเองครับ ส่วนฟีเจอร์ยิบย่อนอื่นๆ จะมีมาอัพเดทให้ชทกันต่อไป

HP Launch Pavillion-Spectre 2016-39
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-41
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-43
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-45
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-72
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-14
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-15
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-16
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-17
HP Launch Pavillion-Spectre 2016-18
from:http://notebookspec.com/hp-spectre-and-all-opening/352656/

[HP] ความเป็นมาของโลโก้ใหม่ ที่ทันสมัยมากขึ้น กับผลิตภัณฑ์ที่ความชัดเจนและก้าวล้ำมากยิ่งขึ้น

ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ทาง HP ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่อย่างรุ่น Spectre 13 โน๊ตบุคสุดบางและแรงที่ทาง HP สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อต่อกรกับ Apple โดยเฉพาะ(ติดตามได้จากข่าวเก่า [Preview] HP Spectre โน้ตบุ๊ค 13.3 นิ้วที่บางที่สุดในโลกในเวลานี้ ราคาเริ่มต้นที่ 42,000 บาท) ซึ่งหากทุกท่านได้สังเกตดีๆ แล้วหล่ะก็เจ้า HP Spectre 13 นั้นจะมาพร้อมกับโลโก้แบบใหม่ของทางบริษัทซึ่งเชื่อว่าทุกท่านที่ได้เห็นเจ้าโลโก้ใหม่นี้จะต้องชอบและบอกว่ามันดูทันสมัยและเข้ากับยุคอนาคตอย่างแท้จริง และในวันนี้เราจะขอนำความเป็นมาของโลโก้ดังกล่าวนี้มาให้ทุกท่านได้ทราบกันครับว่าทาง HP ออกแบบอย่างไรและใช้หลักการอะไรในการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโลโก้ของตัวเองในครั้งนี้

HP new logo 600 01

สำหรับโลโก้ใหม่ของทาง HP นั้นจะประกอบขึ้นมาด้วยการใช้ลายเส้นตรงจำนวน 4 เส้นเพื่อที่จะแสดงให้อ่านได้ว่า HP ครับ โลโก้ใหม่นี้จะเริ่มถูกใช้อย่างเป็นทางการในผลิตภัณฑ์ไลน์ HP ENVY และ Spectre ของปี 2016 นี้เป็นต้นไปรวมไปถึงจะถูกใช้แทนที่โลโก้เดิมที่เป็นตัวอักษรของทาง HP ซึ่งถูกใช้มาตั้งแต่ในปี 1941 จนถึงปัจจุบันครับ(โลโก้ของ HP มีการเปลี่ยนรูปแบบมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้งนับรวมครั้งปัจจุบันด้วย) มาลองดูกันดีกว่าครับว่าโลโก้ในแต่ละปีของทาง HP นั้นเป็นอย่างไรบ้าง

หมายเหตุ – โลโก้ที่เริ่มใช้ในปี 2010 ตามภาพด้านล่างนั้นจะยังคงถูกใช้บนอุปกรณ์ของ HP บางส่วนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทาง HP เปลี่ยนเป็นโลโก้แบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งทั้งนี้แล้วอาจจะกินเวลาในการใช้ไม่แน่นอนครับต้องรอดูประกาศอย่างเป็นทางการของทาง HP อีกครั้งหนึ่งว่าจะยุติการใช้โลโก้ของปี 2010 เมื่อใด

HP logo history 600

เอาหล่ะครับสำหรับโลโก้เก่าๆ นั้นเราจะไม่พูดถึงนะครับแต่เราจะพูดถึงความเป็นมาของโลโก้ใหม่ที่เริ่มใช้ในปี 2016 นี้ ซึ่งจะต้องย้อมความไปในเดือนธันวาคมปี 2008 ที่ผ่านมาซึ่งในปีนั้นทาง HP ได้มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมจึงได้ทำการว่าจ้างบริษัทโฆษณาสัญชาติอังกฤษนาม Moving Brands ให้ทำการออกแบบดีไซน์โลโก้ของทางบริษัทให้ใหม่โดยเน้นให้โลโก้ใหม่นี้จะต้องแสดงความเป็นเอกลักษณ์ขององค์กร(หมายถึงทาง HP เอง) ให้มากขึ้นกว่าเดิม

หมายเหตุ – ในสมัย 2008 นั้นบริษัท Moving Brands มีฐานที่ตั้งอยู่ที่ลอนดอนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนั้นกิจการของ Moving Brands ได้ก้าวไกลมากขึ้นจนสามารถที่จะตั้งสตูดิโอใน San Francisco, New York และ Zurich ได้แล้วครับ

ทาง CEO ของบริษัท Moving Brands อย่าง Mat Heinl ได้บอกเอาไว้ครับว่าในการทำงานร่วมกับ HP นั้นเป็นไปด้วยความรวดเร็ว(ในแง่ที่ดี) โดยพวกเขาสามารถหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับขนาดของตัวงานได้ภายในระยะเวลาน้อยกว่า 2 อาทิตย์เท่านั้น(ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการทำงานกับบางบริษัทในการกำหนดขนาดงานนี้อาจจะกินเวลาเป็นปีๆ)

ดังนั้นแล้วทาง Heinl ถือว่ามันเป็นฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นที่เป็นไปได้อย่างสวยสดงดงาม(รวมไปถึงการทำงานต่อไปก็น่าจะมีความเข้าใจกันและตกลงกันได้อย่างง่ายดายหรือสรุปง่ายๆ ก็คือ HP กับ Moving Brands นั้นสามารถที่จะร่วมงานกันได้เป็นอย่างดีก็ได้ครับ) โดยทาง Heinl และหุ้นส่วนอย่าง Hanna Laiko(ซึ่งเคยทำงานกับบริษัทระดับโลกอย่าง Nokia มาก่อน) บอกว่าพวกเขาสามารถที่จะเข้าถึงและทำความเข้าใจโครงสร้างในระดับโลกของ HP ได้อย่างรวดเร็วและเป็นอย่างดีทั้งวงวานเลยครับ

https://player.vimeo.com/video/163386332

ทั้งคู่กล่าวต่อว่าในการดีไซน์โลโก้ใหม่ในครั้งนี้ของ HP นั้นมีผู้ที่เกี่ยวข้องเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น CEO, คณะกรรมการผู้บริการ HP, ฝ่ายการตลาด, รองประธานบริหาร ยาวลงไปจนถึงหัวหน้าและพนักงานที่อยู่ในแผนกดีไซน์ของทาง HP เอาเป็นว่าทั้งคู่บอกครับว่าพนักงานเกือบจะทั้งบริษัท HP นั้นมีส่วนร่วมในการดีไซน์โลโก้ใหม่ครั้งนี้ หลายๆ คนคงคิดว่าการที่ต้องทำงานกับคนหลักร้อยขึ้นไปแบบนี้ไม่ว่าเป็นการนัดรวมประชุมหรือการฟังเสียงความต้องการของคนเป็นร้อยๆ นั้นอาจจะยากแต่นั่นไม่ใช่กับบริษัทที่มีชื่อว่า HP เลยครับ ในความเป็นจริงแล้วทั้ง Heinl และ Laiko บอกครับว่าพวกเขาประทับใจในการทำงานร่วมกับบริษัท HP นี้เป็นอย่างมากครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง Moving Brands นั้นไม่ได้เป็นบริษัทเดียวนะครับที่รับผิดชอบในเรื่องการออกแบบดีไซน์โลโก้ใหม่ในครั้งนี้ แต่ทว่าทาง Moving Brands ได้เป็นบริษัทนำบริษัทอื่นๆ ที่เป็นบริษัทภายนอกที่ทาง HP ได้จ้างมาเพื่อร่วมงานด้วย ก่อนอื่นต้องบอกให้เข้าใจก่อนเลยครับว่าการออกแบบโลโก้ให้กับบริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกอย่างเช่น HP นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่มีความยากเป็นอย่างมากทีเดียว คิดง่ายๆ ครับว่าโลโก้ดังกล่าวนี้จะเป็นตัวแทนของบริษัทในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคซึ่งโดยทั่วไปแล้วโลโก้ของบริษัทใหญ่ๆ นั้นไม่ใช่เปลี่ยนกันทุก 1 – 2 ปี แต่ระยะเวลาที่บริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกจะทำการเปลี่ยนโลโก้ของแบรนด์ตัวเองนั้นถือว่านานพอดูครับ

ในช่วงเวลาของการทำงานนั้นทางบริษัท Moving Brands และบริษัทร่วมได้ออกแบบดีไซน์ของโลโก้บริษัท HP นับร้อยนับพันดีไซน์เลยก็ว่าได้ครับ สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำให้โลโก้ใหม่นี้แสดงออกมาให้ได้ก็คือมันจะต้องสื่อถึงความเป็นแบรนด์แบบองค์รวมที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกและในการใช้งานได้ทั่วโลกนั้นหมายความว่าในทุกๆ ประเทศที่ HP ใช้โลโก้นี้ผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ จะต้องเข้าใจความหมายที่ทาง HP ต้องการจะสื่อสารกับผู้บริโภค เห็นไหมครับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก

https://player.vimeo.com/video/29420574

ตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งของการทำงานในครั้งนี้นั้น ในท้ายที่สุดการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลโก้ของแบรนด์ HP ก็เป็นที่น่าพอใจของทุกๆ ฝ่ายในระดับที่เรียกได้ว่ามีความครอบคลุมครบในทุกๆ ส่วนตามที่ทาง HP ต้องการครับ(สามารถดูเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ได้รับการคิดค้นใหม่ของทาง HP ได้จากคลิปวีดีโอทางด้านบนครับ)

จริงๆ แล้วในตอนแรกนั้นการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ เพื่อรีแบรนด์ HP ในครั้งนี้ได้ไปไกลถึงขั้นหยิบเอาทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับ HP ขึ้นมาพิจารณาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ HP เคยทำมาแล้วในอดีตไปจนกระทั่งสิ่งที่ HP จะทำในอนาคต ซึ่งจากตรงนี้จะเห็นได้ครับว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกลวดลายใหม่, แบบอักษรใหม่หรือสีใหม่เท่านั้นครับ หลังจากที่ทุกอย่างลงตัวแล้วในปี 2011 ทาง HP ได้ทำการโพสลงบนเว็บไซต์เกี่ยวกับโครงการรีดีไซน์โลโก้และการเปลี่ยนแปลงบริษัทในรูปโฉมใหม่ โดยขณะนั้นโลโก้ที่ถูกโพสโชว์เป็นไปดังรูปทางด้านล่างต่อไปนี้ครับ

HP new logo 600 04

ในครั้งนั้นก็เหมือนกับว่าเป็นคล้ายๆ กับการทดสอบดูเสียงตอบรับหล่ะครับว่าผู้บริโภคหรือผู้ผลิตรายอื่นๆ มีเสียงตอบรับกับแนวโลโก้ใหม่นี้อย่างไร ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดออกไปได้สักพักนั้นก็พบว่าเสียงตอบรับของผู้ที่ได้เห็นโลโก้ใหม่ดังกล่าวนี้ค่อนข้างจะเป็นไปในทางเดียวกันครับว่าสวยงามใช้ได้ดีมากเลยทีเดียว แต่ทว่าด้วยเวรกรรมอะไรของ HP ก็มิอาจจะสามารถทราบได้ที่ช่วงเวลานั้นภายในบริษัท HP เองก็วุ่นวายก็วุ่นวายกับการปรับโครงสร้างของบริษัทรวมไปถึงการเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูง(อย่างตำแหน่ง CEO) ซึ่งทาง Moving Brands ถึงกับบอกเลยครับว่าในช่วงเวลาการรีแบรนด์โลโก้ใหม่ในครั้งนี้พวกเขาได้ทำงานกับ CEO ของ HP ถึง 3 คนที่เปลี่ยนไปเลยทีเดียว(ถือว่าเปลี่ยนบ่อยมากในช่วงเวลาไม่กี่ปี)

อย่างไรก็ตามแล้วหลังจากที่ภายใน HP เริ่มมีความมั่นคงในด้านผู้นำมากขึ้นนั้น(ใช้เวลากว่า 5 ปีได้) ทางบริษัท HP ก็ได้มีการปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งยิ่งใหญ่โดยการแบ่งบริษัทออกเป็น 2 บริษัทย่อยตามลักษณะทางด้านธุรกิจได้แก่ Hewlett Packard Enterprise(มีผู้ควบคุมใหญ่คือ Whitman ซึ่งจะดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับองค์กรขนาดใหญ่เป็นหลัก) และ HP Inc,(มีผู้ควบคุมเป็น Dion Weisler ซึ่งจะดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคทั่วไปเป็นหลัก) ณ เวลานั้นทาง CEO ของบริษัทคนล่าสุดก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วสักทีที่ HP จะเริ่มทำการเปลี่ยนมาใช้โลโก้ใหม่ที่ประกอบขึ้นมาจากเส้นตรงจำนวน 4 เส้นที่แสดงเป็นสัญลักษณ์ HP โดยผลิตภัณฑ์หลักที่จะได้ใช้โลโก้ชนิดนี้ก็คือโน๊ตบุ๊คในระดับพรีเมียมอย่างที่เราได้เห็นบน HP Spectre 13 ครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง CEO คนใหม่ก็ไม่ได้นำโลโก้ที่ทาง Moving Brands ทำเสร็จเอาไว้ในปี 2011 มาใช้โดยตรง แต่ได้มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยให้มากขึ้นกว่าเดิมโดยทาง Moving Brands เองนั้นก็ได้รับรู้และเป็นพยานในกลับปรับปรุงโลโก้ของปี 2011 ใหม่ด้วย โดยในการปรับปรุงครั้งนี้นั้นทาง HP เองได้แรงบันดาลใจมาจากทาง Google โดยตรงที่ในก่อนหน้านี้นั้นทาง Google ได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้มีการเล่นสีสันบนตัวอักษรของโลโก้ Google(ช่วงปี 2015) ซึ่งทาง HP เห็นว่าการใช้สีสันเข้ามาเพิ่มเติมนั้นจะช่วยทำให้เกิดความสดใสและดูเป็นแบรนด์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นโดยในตอนแรกการใช้สีและปรับเส้นของโลโก้ HP จากปี 2011 นั้นเป็นไปดังภาพด้านล่างนี้ครับ

HP new logo 600 02

หนึ่งในตัวอย่างของโลโก้ที่ทาง HP และ Moving Brands ปรับให้มีสีสันมากขึ้น

โลโก้ดังกล่าวเหมือนจะโอเคแต่เมื่อเอาไปใช้บนโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมียมอย่าง HP Spectre 13 แล้วมันไม่เข้ากับคำว่าพรีเมียมเลยสักนิดทาง HP และ Moving Brands จึงได้มีการปรับโลโก้ใหม่อีกรอบโดยยังคงยึดหลักเดิมคือใช้เส้น 4 เส้น แต่ปรับมุมจากเดิมที่ให้แต่ละเส้นนั้นทำมุม 13 องศากับแนวเส้นตรงทางด้านล่าง(ใช้ตามแนวของโลโก้ตัวอักษร HP ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1941) เป็น 20 องศากับแนวเส้นตรงทางด้านล่างแทนโดยมุม 20 องศานี้ทางบริษัทก็ได้บอกเอาไว้ว่าเป็นการแสดงถึงโลกของการประมวลผลในรูปแบบใหม่(ซึ่งใช้การออกแบบตามสัญลักษณ์ slash ที่ถูกใช้งานในการเขียนโปรแกรม) อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณของมนุษย์ในยุคใหม่อีกด้วย(หมายถึงการรองรับการเข้าสู่ยุคที่เราอยู่บนแอปหรือโปรแกรมกันมากขึ้น) ซึ่งทาง HP ชอบแนวคิดนี้มากครับ

โดยสรุปแล้วสิ่งหนึ่งที่ทาง Moving Brands ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการรีดีไซน์โลโก้ให้กับแบรนด์ HP นั้นก็คือการที่จะดีไซน์โลโก้ที่ดีๆ ได้ไม่เพียงแค่ต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ในการทำสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเท่านั้น แต่การที่จะทำโลโก้ดีๆ สักอันขึ้นมานั้นคุณจะต้องรู้จักลึกลงไปถึงเอกลักษณ์ทั้งหมดที่แสดงถึงแบรนด์นั้นๆ รวมไปถึงคุณต้องรับฟังเสียงของเจ้าของแบรนด์ที่ไม่ใช่เฉพาะจากผู้บริหารระดับสูงเท่านั้นแต่ควรที่จะต้องรับฟังเสียงของพนักงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะฝ่ายการตลาดและฝ่ายผลิตที่จะต้องนำโลโก้ดังกล่าวไปใช้ครับ

DAVE_Create_HP_new_logo_representation 600

งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปหล่ะครับว่าโลโก้ใหม่ของทาง HP นั้นจะช่วยให้ HP สามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้ในตลาดคอมพิวเตอร์ PC อีกครั้งได้หรือไม่ แต่คงต้องยอมรับจริงๆ หล่ะครับว่าโลโก้ใหม่ของ HP นั้นสวยจริงๆ ครับ

หมายเหตุ – HP ไม่ได้เปลี่ยนแค่โลโก้เท่านั้นแต่ยังมีการเปลี่ยน package ของผลิตภัณฑ์ด้วยอย่างเช่นรูปทางด้านล่างต่อไปนี้ครับ

HP new Stationery 600

ที่มา : theverge, logo wiki

from:http://notebookspec.com/how-hps-brilliant-new-logo-came-to-be/345119/

[Preview] HP Spectre โน้ตบุ๊ค 13.3 นิ้วที่บางที่สุดในโลกในเวลานี้ ราคาเริ่มต้นที่ 42,000 บาท

ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นทาง HP ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ออกมาหลายรุ่นด้วยกันโดยหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจมากที่สุดคงจะหนี่ไม่พ้น HP Spectre โน๊ตบุ๊คขนาดจอ 13.3 นิ้ว กับ Ultrabook ที่มาพร้อมกับความบางของตัวเครื่องน้อยที่สุดในโลก ณ เวลานี้ คือมันมีความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 10.4 mm หรือเทียบเท่าได้กับขนาดของถ่านแบบ AAA เท่านั้นครับ ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ HP Spectre นอกจากจะเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้แล้ว HP Spectre ยังมาพร้อมกับสเปคที่เรียกได้ว่าน่าจะพอใจผู้ใช้ในระดับบนหรือผู้ใช้ทางด้านธุรกิจที่ต้องการตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คในการเพิ่มความหรูหราให้กับการทำงานครับ

HP Spectre 13 600 01 e

น่าเสียดายที่สเปคของ HP Spectre บนเว็บและตามข่าวที่เปิดตัวออกมานั้นมีรายละเอียดไม่มากเท่าไรนัก ทว่าจากที่ดูๆ แล้วนั้นก็ถือได้หล่ะครับว่า HP Spectre เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับการใช้งานทางด้านธุรกิจพอสมควรโดยตัวเครื่องที่มาพร้อมความสวยงามนอกจากจะเพิ่มความดูมีระดับให้กับผู้ใช้แล้วสเปคของ HP Spectre ที่เผย ออกมา ณ เวลานี้นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

  • หน่วยประมวลผล Intel Core i5 และ i7 รุ่นที่ 6 บลนสถาปัตยกรรม Skylake
  • หน่วยความจำ(RAM) มาพร้อมกับตัวเลือกสูงสุดที่ 8 GB
  • ชิปกราฟิกเป็นแบบฝังบนหน่วยประมวลผล
  • หน้าจอขนาด 13.3 นิ้วรองรับความละเอียดระดับ Full HD มาพร้อมกระจกกันจอของ Corning Gorilla
  • แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ PCIe based SSD storage ที่ตัวเลือกมากสุด 512 GB
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย 802.11 ac 2×2 Wi-Fi
  • มาพร้อมกับ USB Type-C จำนวนมากถึง 3 พอร์ท(รองรับ Thunderbolt)
  • ระบบลำโพงเสียงจาก Bang & Olufsen
  • แบตเตอรี่ได้รับการออกแบบใหม่เป็นแบบ 2 ชั้นรองรับกับความบางของตัวเครื่องโดยสามารถที่จะใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 9.5 ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องหนาเพียง 10.4 mm และน้ำหนักอยู่ที่ 1.11 kg
  • มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10

HP Spectre 13 600 02 e

ยังครับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ครับ ถ้าหาก HP Spectre รุ่นปกตินั้นยังไม่สวยพอใจอย่างที่คุณต้องการแล้วหล่ะก็ ทาง HP ยังได้ร่วมกับนักออกแบบอย่าง Tord Boontje และ Jess Hannah ซึ่งเป็นนักดีไซน์จาก Swarovski  ได้ออกแบบ HP Spectre รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับทองหนักถึง 18 กะรัตด้วยอีกต่างหากโดยรุ่นพิเศษนี้จะถูกเปิดประมูลโดยมูลนิธิ Nelson Mandela Foundation ครับ

HP Spectre 13 600 02

HP Spectre 13 600 03

HP Spectre รุ่นดีไซน์พิเศษที่มาพร้อมกับทองขนาด 18 กะรัต

ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกานั้น HP จะเริ่มเปิด pre-order HP Spectre ในช่วงวันที่ 25 เมษายนที่จะถึงนี้ สนนราคาเริ่มต้นของ HP Spectre นั้นจะอยู่ที่ $1,169.66 หรือประมาณ 42,110 บาท(โดยคาดว่าทาง HP น่าจะเริ่มต้นส่ง HP Spectre ให้ผู้ที่จองได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้และในช่วงเดือนพฤษภาคมเองนั้นน่าจะได้เริ่มเห็น HP Spectre วางจำหน่ายในร้านค้าปลียกทั่วไปอย่างเช่น Best Buy ในราคา $1,249.99 หรือประมาณ 45,000 บาทครับ

หมายเหตุ – HP Spectre จะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกันด้วยแต่ทาง HP ยังไม่ได้เปิดตัวราคาของอุปกรณ์เสริมต่างๆ เหล่านั้นออกมาดังต่อไปนี้ครับ

HP Spectre accessories 600

หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว HP Spectre ออกมาแล้วนั้นก็ได้มีเว็บไซต์ซื่อชื่อดังได้เข้าไปร่วมงานและสัมผัสกับ HP Spectre ตัวเป็นๆ ครับ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมนั้นลองมาดูกันดีกว่าครับว่าสื่อต่างประเทศแต่ละสำนักที่ได้สัมผัส HP Spectre แล้วนั้นจะพรีวิว HP Spectre ไว้อย่างไรบ้าง

พรีวิวจาก TECH TIMES

hands-on-hps-spectre-13-luxurious-laptop-might-actually-give-the-macbook-a-run-for-its-money 600 01

ทาง TECH TIMES ได้บอกเอาไว้ครับว่า HP Spectre นั้นสามารถทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ MacBook มาอยู่แล้วนั้นเจ้า HP Spectre นี้ก็สามารถที่จะทำให้คุณทำการตัดสินใจอีกรอบเพื่อทำการเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คในมือของคุณได้ครับ คำเรียก HP Spectre ที่ทาง HP บอกเอาไว้ว่ามันคือโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดในโลกนั้นถือว่าเป็นจริงทุกประการครับ ด้วยขนาดความหนาที่ 10.4 mm(ซึ่งพอๆ กับแบตเตอรี่ขนาด AAA นั้น) ทำให้มันครองคำพูดดังกล่าว ณ เวลาปัจจุบันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แถมด้วยน้ำหนักเครื่องที่ 1.11 kg นั้นก็ลงตัวกับการใช้งานเป็นอย่างมากครับ(TECH TIMES บอกว่า HP Spectre น่าจะเหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพราะขนาดของที่ชาร์จแบตเตอรี่นั้นก็มีน้ำหนักไม่เยอะเท่าไร)

hands-on-hps-spectre-13-luxurious-laptop-might-actually-give-the-macbook-a-run-for-its-money 600 02

 

นอกไปจากความน่าประทับใจเรื่องของความบางและน้ำหนักแล้ว HP Spectre ยังมาพร้อมกับความหรูหราของตัวเครื่องเป็นอย่างมากเลยทีเดียว การใช้สีในครั้งนี้ของ HP บน HP Spectre นั้นเรียกได้ว่ามันดูมีความหรูหราสุดๆ(เงินตัดกับทองแดง) วัสดุที่ใช้ดูมีราคาเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นในส่วนของจุดที่ผลักสำหรับเปิดหน้าจอหรือบานพับหน้าจอทั้ง 2 บาน นอกไปจากนั้นแล้วโลโก้บนตัวเครื่องของ HP Spectre ยังเป็นดีไซน์แบบใหม่ที่ดูมีมุมมีองศาทำให้เหมาะสมกับความหรูหราของตัวเครื่อง

ด้วยสเปค(ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น) นั้นทำให้ HP Spectre ค่อนข้างที่จะน่าพอใจเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงการใช้งานสำหรับนักธุรกิจ การเลือกใช้ Intel Core i ซีรีส์รุ่นที่ 6(บนสถาปัตยกรรม Skylake) แทนที่จะใช้ Intel Core M ซีรีส์ทำให้เมื่อเทียบกับทางฝั่ง MacBook แล้วนั้น HP Spectre ดูจะน่าใช้งาน(ทางด้านธุรกิจ) มากกว่า MacBook พอดู ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความร้อนในการใช้งานนั้นผู้ใช้ไม่มีความจำเป็นจะต้องกังวลแต่อย่างใดเนื่องจาก HP Spectre นั้นมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน hyperbaric cooling system ที่มีพัดลมระบายความร้อนสำหรับระบายความร้อนตัวเครื่องทางด้านล่างจำนวน 2 ตัวด้วยกัน

hands-on-hps-spectre-13-luxurious-laptop-might-actually-give-the-macbook-a-run-for-its-money 600 03

ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4- cells ที่ให้พลังงานได้ถึง 38 wattage ซึ่งทาง HP อออกมามาใหม่นั้นทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานแบบต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 9.45 ชั่วโมง(ตามคำอ้างอิงของ HP) แล้วบนตัวเครื่องยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีพอร์ทใหม่อย่าง USB Type-C จำนวน 3 พอร์ทซึ่ง 2 ใน 3 พอร์ทนี้สามารถใช้งานในการชาร์จได้ด้วยอีกต่างหาก

hands-on-hps-spectre-13-luxurious-laptop-might-actually-give-the-macbook-a-run-for-its-money 600 04

ข้อเสียชอง HP Spectre นั้นก็คือการที่มันมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้วรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD เท่านั้นแถมยังไม่่สนับสนุนการสัมผัสด้วยอีกต่างหากซึ่งเหตุผลนั้นก็น่าจะมาจากการที่ HP ต้องการให้ HP Spectre บางที่สุด แถมในส่วนของคีย์บอร์ดและ trackpad ของ HP Spectre นั้นก็สามารถใช้งานได้ดีเทียบเท่ากับการใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC เลยครับ(มีข้อตินิดหน่อยตรงที่ trackpad ไวต่อการสัมผัสมากไปนิดครับ)

พรีวิวจาก PCWorld

pcworld HP Spectre hand on 600 01

ขั้นแรกเลยนั้น PCWorld ได้เปรียบเทียบในส่วนของความบางของตัวเครื่อง HP Spectre ที่เมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นอื่นๆ แล้วถือว่าบางกว่าพอสมควรเลยทีเดียวสมกับเป็นจุดขอยของ HP Spectre ครับ สิ่งหนึ่งที่ทาง PCWorld ให้ความพึงพอใจใน HP Spectre เป็นอย่างมากนั้นก็คือเรื่องของระบบระบายความร้อนแบบ ‘hyperbaric chamber’ ที่ทำให้ HP Spectre นั้นยังคงสามารถที่จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่แรงๆ อย่าง Intel Core i5 และ i7 รุ่นที่ 6(สถาปัตยกรรม Skylake) ได้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะบางมาก(ซึ่งก็เหมือนกับทาง TECH TIMES ปลื้มหล่ะครับ)

hp_spectre_13_3_hyperbaric_chamber 600

ระบบระบายความร้อนของ HP Spectre

อีกสิ่งหนึ่งที่ทาง PCWorld ให้ความพึงพอใจเป็นอย่างมากก็คือในส่วนของ บานพับแบบ cray-cray ซึ่งออกแบบมาได้เป็นอย่างดีทำให้ HP Spectre มีความแข็งแรงทนทานในเรื่องของบานพับแตกต่างไปจากโน๊ตบุ๊คแบบ Ultrabook เครื่องรุ่นอื่นๆ ครับ

hp_spectre_13_3_hinge_600 01

hp_spectre_13_3_hinge_600 02

ในส่วนของการพรีวิวอื่นๆ ของ PcWorld นั้นก็ไม่ค่อยต่างจาก TECH TIMES มากเท่าไรครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแบตเตอรี่, คียบอร์ดและ TouchPad จะเว้นก็เพียงแต่ทาง PCWorld นั้นไม่ได้กล่าวถึงเรื่องของหน้าจอที่รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD และไม่ได้มาพร้อมกับการสัมผัสได้ในตัวก็เท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ทาง PCWorld พูดเอาไว้ก็คือเรื่องของโลโก้ใหม่บนตัวเครื่องที่ดูแล้วหรูหรากว่าเดิมครับ

hp_spectre_13_3_new_logo 600

โลโก้แบบใหม่ของ HP Spectre

พรีวิวจาก Windows Central

ท้ายสุดกับพรีวิวของ Windows Central ซึ่งบอกได้เลยครับว่าไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนักกับพรีวิวของ 2 เจ้าด้านบน จุดที่น่าประทับใจก็ยังคงประกอบไปด้วยการใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i ซีรีส์แทนที่จะเป็น Intel Core M ซีรีส์ การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก ในส่วนของหน้าจอนั้น Windows Central บอกว่าถึง HP Spectre จะไม่ได้มาพร้อมกับความละเอียดระดับ 4K หรือ 2K แต่ถ้าจะว่ากันตามตรงกับสเปคของตัวเครื่องแล้ว HP ก็ทำได้เหมาะสมแล้วครับ

อย่างไรก็ตามแต่อย่างที่บอกไปครับว่า HP Spectre นั้นจะเริ่มเปิดให้ pre-order ก่อนในวันที่ 25 เมษายนนี้ โดยการ pre-order นั้นก็จำกัดเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนเท่านั้น … คงได้แต่รอดูกันต่อไปครับว่าทาง HP ประเทศไทยนั้นจะนำ HP Spectre เข้าไทยหรือไม่เมื่อใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทาง NBS จะนำมารายงานให้ทุกท่านได้รับทราบกันต่อไปครับ

ที่มา : techtimespcworldwindowscentral, HP 1

from:http://notebookspec.com/preview-hands-on-hps-spectre-13-luxurious-laptop-might-actually-give-the-macbook-a-run-for-its-money/343863/

บทความแปล – HP Spectre x2 Review [บางเบา แต่แฝงพลังซ่อนเร้น ใช้สนุก พกพาสะดวก]

HP Spectre x2 เป็นแท็ปเล็ต-โน๊ตบุ๊กในกลุ่มของไฮบริด ที่มีการใช้งานที่คล้ายคลึงกันกับ Surface Pro4 เพียงแต่ HP Spectre x2 จะมีบอดี้ที่บางเป็นพิเศษ และทำงานในแบบไร้เสียงรบกวน (Fanless) ด้วยการใช้ซีพียู Intel Core M และการออกแบบที่หรูหรา ซึ่งมาพร้อมกับราคาประมาณ 799USD ราคานี้มาพร้อมกับคีย์บอร์ด ต้องถือว่าเข้ามาชนกับแท็ปเล็ตเรือธงของทางไมโครซอฟท์เลยทีเดียว

HP-Spectre x2 (12)

การออกแบบ
แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า HP Spectre x2 ได้แนวทางจาก Surface Pro 4 มาบ้าง ซึ่งหากใครที่เคยได้ใช้แท็ปเล็ตจากทางไมโครซอฟท์นี้มาบ้าง ก็น่าจะพอทราบถึงความแตกต่างในเรื่องของการพัฒนา HP Convertible ได้อย่างชัดเจน ที่มีการปรับการออกแบบในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบขอบอุปกรณ์ให้โค้งมนและมีขนาดเล็ก คล้ายกับ iPad Pro พร้อมด้วยมุมโค้งโดยรอบแท็ปเล็ตสีเงินและสีดำตัดกัน ของขอบอลูมิเนียมกับกระจกหน้าจอสีดำ ซ่อนกล้องหน้าเอาไว้

HP-Spectre x2 (2)

ในขณะที่ Spectre x2 ไม่ได้ทำผลิตขึ้นเป็นโลหะชิ้นเดียว แต่แผงอุปกรณ์เข้ากันได้พอดีอย่างลงตัว ซึ่งเมื่อดูแล้วบอกถึงความแข็งแกร่งในรูปทรงที่บางอย่างน่าประทับใจกับผิวโลหะพ่นทรายอย่างมีคุณภาพ

Specifications

  • CPU: 1.2GHz Intel Core m7-6Y75 (dual-core, 4MB cache, up to 3.1GHz with Turbo Boost)
  • Graphics: Intel HD Graphics 515
  • RAM: 8GB LPDDR3 SDRAM
  • Screen: 12-inch, 1,920 x 1,280 WUXGA+ IPS WLED-backlit touch screen
  • Storage: 256GB mSATA SSD
  • Ports: 2 x USB Type-C, microSD card reader
  • Connectivity: Intel 802.11ac (2×2), Bluetooth 4.0, LTE
  • Camera: 5MP HP TrueVision HD front-facing webcam, 8MP rear-facing camera, Intel RealSense 3D R200 camera
  • Weight: 1.87 pound (tablet); 2.68 pound (tablet and base)
  • Size: 11.81 x 8.23 x 0.31 inches (tablet); 11.81 x 8.23 x 0.52 inches (tablet and base) (W x D x H)

ขาตั้งที่กางออกมาได้
การตั้งหน้าจอ ใช้วิธีกางขาตั้งออกมาจากด้านหลัง Spectre x2 มาพร้อมบาร์เหล็กตัว U สแตนเลสความหนาประมาณ 3.5mm หากใครเคยจำได้ ในยุคก่อนหน้านี้จะมีนวัตกรรมขาตั้งในลักษณะดังกล่าวออกมาสู่ตลาดมากมาย โดยเฉพาะจอทีวีขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ระดับไฮเอนด์เป็นหลัก ซึ่ง Kickstand bar หรือขาตั้งนี้ สามารถดันออกมาจากด้านหลัง ให้ความยืดหยุ่นได้ดี โดยผู้ใช้สามารถที่จะกางแท็ปเล็ตออกมาได้ถึง 150 องศา โดยจะมากกว่าการกางของแท็ปเล็ตหลายรุ่นในท้องตลาดที่เป็นลักษณะขาตั้งที่คล้ายกัน และนั่นก็ทำให้ตั้งแท็ปเล็ตเพื่อการใช้งานได้ในหลายๆ อิริยาบท ไม่ว่าจะเป็นการกางให้กว้างขึ้น เพื่อใช้งานทั่วไปหรือกางให้ตั้งชันขึ้น สำหรับการพิมพ์งานที่สะดวกมากกว่า

HP-Spectre x2 (7)

HP Spectre x2 มาพร้อมคีย์บอร์ด โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม คีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง ด้านล่างเป็นผ้าที่ให้ความนุ่มนวลเวลาสัมผัส ในขณะที่ระยะห่างรอบๆ ปุ่มมากพอสำหรับการกดได้สบายๆ ความลึกของปุ่มประมาณ 1.5mm และคีย์บอร์ดมาพร้อมคลิปแม่เหล็กไปติดไว้ที่ด้านล่างของแท็ปเล็ต สามารถตั้งให้แท็ปเล็ตอยู่ในมุมที่ชันขึ้น เพื่อให้มองการพิมพ์ได้สบายขึ้น

อย่างไรก็ดีคีย์บอร์ด Spectre x2 ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ ติดตั้งลำโพงมาในตัว โดยเป็นลำโพงคู่ ให้พลังเสียงที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวลำโพงของแท็ปเล็ต โดยที่ Windows 10 ช่วยในการเพิ่มระดับเสียงขึ้นมาได้ดีในระดับหนึ่ง โดยคถณภาพเสียงในการชมภาพยนตร์พอใช้ได้ แต่อาจไม่ได้หนักแน่นมาก ซึ่งถ้าต้องการใช้ในการฟังเพลง หูฟังน่าจะเป็นทางเลือกที่ให้คุณภาพได้มากกว่า

HP-Spectre x2 (1)

Spectre x2 เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 10 ที่มีมิติค่อนข้างบางเป็นพิเศษ ด้วยความหนาประมาณ 7.87mm (ไม่รวมคีย์บอร์ด) เมื่อเทียบกับอุปกรณ์บางค่ายที่ลักษณะเดียวกันแล้ว จะบางกว่าอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อติดตั้งคีย์บอร์ดเข้าไป ทำให้ความหนาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย รวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 13mm ส่วนน้ำหนักจะตกอยู่ที่ 0.85Kg ค่อนข้างจะเบากว่ารายอื่นๆ ในท้องตลาด

ราคาเริ่มต้นของ Spectre x2 อยู่ที่ประมาณ 799USD หรือประมาณ 29,000 บาท มาพร้อมซีพียู Intel Core m3-6Y30 ความเร็ว 900MHz และแรม 4GB รวมถึง SSD 128GB สำหรับผู้ใช้ในประเทศออสเตรเลีย จะมีรุ่นพื้นฐานในราคา 1699AU USD ประมาณ xxxx บาท ซึ่งจะใช้ซีพียู Intel Core m5-6Y54 มาพร้อมแรม 8GB, SSD 128GB รวมถึงรุ่น 4G LTE ให้เลือก

HP-Spectre x2 (8)

หากเทียบในราคาที่ใกล้เคียงกัน Surface Pro 4 ที่มาพร้อมซีพียู Intel Core i5 พร้อมแรม 4GB และ SSD 128GB ในราคา 999USD หรือประมาณ 36,000 บาท แต่ถ้าจะให้ใช้งานได้ครบครันสำหรับการพิมพ์ก็ต้องเพิ่ม 129USD สำหรับ Cover Type อีกด้วย ในแง่ของความคุ้มค่า HP Spectre x2 อยู่ในจุดที่ราคาไม่แพงมากนัก เมื่อมองที่สเปกที่ได้ ทั้งแรมและความจุ SSD พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ครบครัน รวมถึงซีพียูที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างพอเหมาะ สำหรับแท็ปเล็ตหรือโน๊ตบุ๊กที่บางเป็นพิเศษ

HP-Spectre x2 (9)

โดยที่ซีพียู Core-M รุ่นแรกนั้น อาจยังไม่ได้ตอบโจทย์ที่ดีนัก ในเรื่องของประสิทธิภาพ แต่ด้วยซีพียูรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Skylake ทำให้อินเทลสามารถดึงพลังในการทำงานให้กับ Spectre x2 ออกมาได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบน Lightroom ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการทำงานในแบบหลายงานพร้อมกันได้อย่างคล่องตัว และการใช้พลังงานที่น้อยลง ช่วยให้ใช้ประชุมได้นานขึ้น และคล่องตัวขณะเดินทาง

ผลการทดสอบ

  • 3DMark: Cloud Gate: 4,660; Sky Diver: 2,813; Fire Strike: 669
  • Cinebench CPU: 209 points; Graphics: 29 fps,
  • GeekBench: 2,903 (single-core); 5,701 (multi-core)
  • PCMark 8 (Home Test): 2,396 points
  • PCMark 8 Battery Life: 3 hours and 54 minutes

แน่นอนว่าในเมื่อพลังในการทำงานของ Spectre x2 อาจดูไม่ธรรดา ก็ควรจะมีการทดสอบให้เห็นเด่นชัดมากขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันความสามารถที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่

HP-Spectre x2 (11)

มองที่คะแนน PCMark8 จะเห็นว่าไฮบริดของ HP รุ่นนี้ มีคะแนนค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งบางรายอยู่เล็กน้อย ซึ่งต้องยกให้กับซีพียูรุ่นล่าสุดจากอินเทล Skylake Core i5 ที่สามารถโชว์ศักยภาพได้อย่างเหนือชั่นในงานกราฟฟิก เช่นเดียวกับในการทดสอบสุดหินอย่าง 3DMark Fire Strike ก็สามารถทำคะแนนไปได้ที่ 699 คะแนน แม้จะไม่สูงมาก แต่สำหรับการเป็นแท็ปเล็ตต้องถือว่าทำได้ดี เช่นเดียวกับคะแนนจาก Geekbench 3 ในการทำงานแบบมัลติคอร์ อยู่ที่ 5701 คะแนน อยู่ในระดับพอใช้ได้

HP-Spectre x2 (4)

การแสดงผลบน HP Spectre x2 ดูโดดเด่นในเรื่องของสีสันและเฉดสีที่แตกต่างกัน ความคมชัดของหน้าจอให้ความสว่างสดใส และมากพอสำหรับการใช้งานนอกสถานที่และในบริเวณที่แสงมากได้ดีพอสมควร ด้วยจอความละเอียด Full-HD (1920 x 1080) ยังเป็นความคมชัดที่ดีสำหรับจอ 12 นิ้ว แต่ก็ต้องยกให้กับคู่แข่งที่บางรุ่นมาพร้อมจอ 4K หรือ 2K กันไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแถบสีดำขนาดใหญ่ที่อยู่รอบจอ แม้ขอบจอจะบางแต่ด้วยแถบเหล่านี้ทำให้ดูหนาขึ้นเล็กน้อย

การใช้พลังงาน
แบตเตอรี่ใน HP Spectre x2 สามารถทำงานได้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง โดยตามการทดสอบมาตรฐาน Battery Test บน PCMark8 จะอยู่ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ในขณะที่ใช้งานตามปกติได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ในการทดสอบโดย เปิดใช้ MS Word, FireFox และ Google Music, HipChat รวมถึง Lightroom และ Photoshop ประมาณ 30 นาที

HP-Spectre x2 (6)

กับการเล่นไฟล์วีดีโออย่างต่อเนื่องด้วยการชม Guardians of the Galaxy บนความสว่างหน้าจอ 50% และ Spectre x2 ทำเวลาได้นานถึง 5 ชั่ว 47 นาที รวมถึงใช้ได้นานถึง 7 ชั่วโมง 47 นาทีสำหรับการใช้งาน Netflix bingeing

โดยรวมถือว่าแท็ปเล็ตจาก HP ใช้เวลาได้ยาวนานจนน่าแปลกใจในรูปลักษณ์ของแบตที่บาง เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่เคยทดลองใช้นั้นอยู่ราวๆ 5 ชั่วโมง 15 นาทีสำหรับการเล่นไฟล์วีดีโอของแท็ปเล็ตบางรุ่น

HP-Spectre x2 (5)

HP Spectre x2 มาพร้อมซอฟต์แวร์ที่โหลดเอาไว้ใน SSD จำนวน 2 ส่วนด้วยกันคือ McAfee Security และ HP Welcome Message ซึ่งสามารถถอนการติดตั้งได้ด้วยตัวเอง อุปกรณ์พื้นฐานที่มีมาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่ได้มีสิ่งใดหวือหวามากนัก

บทสรุปในภาพรวมก็คือ ความคุ้มค่าในค่าใช้จ่ายสำหรับ HP Spectre x2 ที่มีราคาไม่แพงเกินไป ด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหราและความบางเหมาะแก่การพกพา ด้วยการใช้วัสดุที่มีความสวยงาม เป็นโลหะเกือบทั้งหมด พร้อมผิวงานแบบพ่นทรายให้ความโดดเด่น รวมถึงต้องยกความดีให้กับกรอบที่บางและขาตั้งที่ใช้งานง่าย เป็นอีกหนึ่งแท็ปเล็ต Windows 10 ที่น่าสนใจ และความน่าประทับใจของซีพียูประมวลผล Intel Core M ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่ธรรมดา

HP-Spectre x2 (10)

แต่ก็ยังมีข้อสังเกตก็คือ เรื่องของขาตั้งที่ไม่ต้องไปเอื้อมมือที่ขอบของแท็ปเล็ต เพื่อหาสปริงสำหรับดันขาตั้งออกมา แต่สามารถทำงานได้ง่าย ดูจะเป็นการออกแบบที่พัฒนามาอีกขั้นหนึ่งของ HP นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการสร้างความแตกต่าง เช่นการติดตั้งลำโพงแบบ Quad channel ที่น่าจะเป็นการเพิ่มพลังเสียงให้มากขึ้น รวมถึงการใช้ฟีเจอร์กล้องอย่าง RealSense ซึ่งเวลานี้มีประโยชน์สำหรับการเล่นหรือสแกนใบหน้าได้สนุกสนาน โดยภาพรวมหากต้องการแท็ปเล็ตที่ใช้งานจริงจังได้และเป็น Windows 10 ในราคาไม่แพงเกินไปนัก HP Spectre x2 น่าจะเป็นคำตอบที่คุณรออยู่

ที่มา : techradar

from:http://notebookspec.com/hp-spectre-x2-tablet-hybrid/324969/

HP Spectre x360 ปี 2015 เพิ่มรุ่นที่มาพร้อมกับสีเงินตัดกับทองแดงอย่างลงตัวมาให้เลือกซื้อด้วย

สำหรับ HP Spectre x360 นั้นถือเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 แบบ convertible ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตครับ โดยการเปลี่ยนรูปแบบจากโน๊ตบุ๊คไปเป็นแท็บเล็ตนั้นจะใช้วิธีการหมุนหน้าจอ 360 องศา ซึ่งในที่นี้ผู้ใช้บางคนก็อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะเวลาใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตนั้นยังคงต้องหิ้วน้ำหนักของคีย์บอร์ดหนักๆ อยู่ไปด้วย(ไม่เหมือนกับ 2-in-1 ประเภท Surface ของ Microsoft ที่เน้นการใช้งานในรูปแท็บเล็ตมากกว่าโดยสามารถถอดส่วนของหน้าจอแท็บเล็ตแยกกับคีย์บอร์ดได้)

HP Spectre x360 600 01

HP Spectre x360 600 02

HP Spectre x360 600 03

อย่างไรก็ตามแต่เมื่อทาง Intel มีการเปิดตัวหน่วยประมวลผล Gen-6 Skylake ออกมาอย่างเป็นทางการ ทาง HP จึงได้จับเอา Spectre x360 มาอัพเกรดให้ทันสมัยด้วยครับ โดยสเปคของ Spectre x360 รุ่นอัพเกรดปลายปี 2015 จะมีดังต่อไปนี้ครับ

  • หน้าจอขนาด 13.3 นิ้วมีตัวเลือกที่รองรับความละเอียด FHD และ QHD โดยตัวหน้าจอจะรองรับช่วงกว้างของสี NTSC 72%
  • หน่วยประมวลผล Intel Skylake มีตัวเลือกในรุ่น Core i5 และ i7 โดยจะเป็นรุ่นที่มีรหัสลงท้ายด้วย U(หน่วยประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน)
  • หน่วยความจำ(RAM) มีให้เลือกที่ขนาด 4 GB และ 8 GB
  • แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD โดยจะมีตัวเลือกความจุ 128 GB, 256 GB และ 512 GB
  • พอร์ทเชื่อมต่อประกอบไปด้วย Full-size HDMI, mDP 1.2, USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ท
  • ลำโพง Bang & Olufsen
  • ปุ่มบนคีย์บอร์ดห่างกัน 1.5 mm ทำให้พิมพ์ได้ง่ายขึ้น
  • น้ำหนัก 1.45 kg
  • ตัวเครื่องหนา 0.6 นิ้ว

HP Spectre x360 600 04

HP Spectre x360 600 05

HP Spectre x360 600 06

HP Spectre x360 600 07

HP Spectre x360 600 08

นอกเหนือไปจากสเปคที่ Spectre x360 ได้รับการอัพเกรดใหม่แล้ว HP ยังได้เพิ่มตัวเลือกของสี Spectre x360 มาอีกด้วยคือสีเงินบนพื้นผิวตัดกับสีทองแดงตรงส่วนขอบและบานพับดูสวยงามกว่าการใช้สีโทนเดียวในเครื่องรุ่นอื่นมากครับ แถมวัสดุที่ใช้ก็ยังเป็นอลูมิเนียมทำให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแรงทนทาน ทั้งนี้ Spectre x360 รุ่นอัพเกรดปลายปี 2015 จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $900 หรือประมาณ 32,400 บาท ส่วนวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นต้องรอทาง HP ประกาศออกมาอีกทีครับ

ที่มา : notebookcheck

from:http://notebookspec.com/hp-spectre-x360-gets-new-silver-and-copper-colors/317155/

HP Spectre x2 ปี 2015 โน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ชิป Core m ในรูปแบบของ Surface Pro แต่ถูกกว่า

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ Microsoft ก็ว่าได้ครับกับผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Surface ที่สามารถสร้างกระแสโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานในรูปแบบทั้งแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คได้ ทว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดของ Microsoft Surface Pro นั้นก็คือราคาของมันค่อนข้างจะอยู่ในระดับบนไปหน่อยครับ ด้วยสาเหตุดังกล่าวผู้ผลิตอย่าง HP จึงได้เห็นช่องว่างในตลาดและทำการเปิดตัว Spectre x2 ที่มีราคาถูกกว่าและสเปคต่ำกว่า Surface Pro ของทาง Microsoft ออกมาครับ

HP Spectre x2 600 01

จะว่าไปแล้ว Spectre x2 นั้นก็ไม่ใช่โน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ของ HP รุ่นแรกที่มีวางจำหน่ายในตลาดครับ แต่ด้วยการเพิ่มฐานตั้งตรงส่วนของหน้าจอมาทำให้ Spectre x2 นั้นดูเหมือนกับ Surface Pro มากขึ้น หน้าจอของ Spectre x2 นั้นก็มีขนาดอยู่ที่ 12 นิ้วใกล้เคียงกับ Surface Pro ครับ สิ่งหนึ่งที่ทาง HP จะเหนือกว่า Microsoft หน่อยก็คือในชุดจำหน่ายของ HP Spectre x2 นั้นจะมีคีย์บอร์ดแถมมาให้ด้วยในตัวครับ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียงเงินซื้อเพิ่มแต่อย่างใด

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

HP Spectre x2 600 03

HP Spectre x2 600 04

สำหรับสเปคของ HP Spectre x2 มีดังต่อไปนี้ครับ

  • หน้าจอขนาด 12 นิ้วรองรับการสัมผัสและมีตัวเลือกความละเอียดหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 1,920 x 1,080 pixels
  • หน่วยประมวลผลของ Intel Gen-6 Core M3, M5 และ M7
  • หน่วยความจำ(RAM) มีตัวเลือกขนาด 4 GB และ 8 GB
  • แหล่งเก็บข้อมูลภายในแบบ SSD มีตัวเลือกขนาดความจุ 128 GB, 256 GB และ 512 GB
  • ชิปกราฟิกเป็นแบบ integrated บนหน่วยประมวลผล Intel Core M Gen-6(ความเร็วขึ้นอยู่กับรุ่น)
  • รองรับการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลผ่าน microSD Card
  • มาพร้อมกับพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB Type-C จำนวน 2 พอร์ท
  • มาพร้อมกับ Dongle ภายในชุดจำหน่ายซึ่งตัว Dongle จะรองรับการเชื่อมต่อมาตรฐาน USB-A
  • มีกล้องมาถึง 3 ตัวโดยกล้องหลักจะรองรับความละเอียด 8 MP สำหรับถ่ายและสนับสนุนเทคโนโลยี กล้องรอง 2 ตัว รองรับความละเอียด 5 MP สำหรับการถ่ายภาพแบบ stereoscopic shots(ด้วยความที่กล้องหลักที่รองรับความละเอียด 8 MP จะอยู่ทางด้านหลังดังนั้นคาดว่า HP Spectre x2 จะไม่รองรับฟีเจอร์ Windows Hello บน Windows 10)
  • สนับสนุนการใช้งานปากกาสไตลัสของ Wacom active pen(โดยตัวหน้าจอสัมผัสของ HP Spectre x2 รองรับการแยกแยะแรงกดได้)
  • น้ำหนักตัวหน้าจออยู่ที่ 839.15 g โดยจะมีความหนาของตัวหน้าจออยู่ที่ 8 mm
  • คีย์บอร์ดแยกจะมีส่วนของลำโพงเสริมที่เมื่อเชื่อมต่อกับส่วนของหน้าจอแล้วจะทำให้ได้เสียงที่ดีกว่าเดิม โดยจะมีลำโพงอยู่ที่ส่วนหน้าจอ 2 ตัวและที่คีย์บอร์ดอีก 2 ตัว(เชื่อมต่อแล้วจะทำงานร่วมกัน และลำโพงเป็นของ Bang & Olufsen)
  • ปุ่มบนคีย์บอร์ดแยก จะมีระยะห่างกัน 1.5 mm และเป็นคีย์บอร์ดแบบที่ไม่มีปุ่ม numpad มาให้(เหมือนโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอเล็กตามปกติ)
  • น้ำหนักเมื่อเชื่อมต่อหน้าจอเข้ากับคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 1.22 kg
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
  • มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10

HP Spectre x2 600 05

HP Spectre x2 600 06

HP Spectre x2 600 07

HP Spectre x2 600 08

HP Spectre x2 จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $800 หรือประมาณ 28,800 บาท โดยใน Spectre x2 ทุกรุ่นนั้นจะรองรับการใส่ Sim และสามารถใช้งานดาต้าผ่านเครือข่าย 4G LTE ซึ่งในสหรัฐอเมริกานั้น HP บอกว่าจะรองรับคลื่นของโอเปอร์เรเตอร์ Verizon โดยผู้ใช้จะต้องซื้อแผนการใช้งานดาต้าแยกต่างหาก(ไม่ได้มีโปรแถมมาให้ด้วย) สำหรับกำหนดการจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นทาง HP ยังไม่ได้ทำการแจ้งออกมาแต่อย่างใดครับ

ที่มา : engadget

from:http://notebookspec.com/the-hp-spectre-x2-is-like-the-surface-pro-but-cheaper-and-lower-specced/316173/

HP Spectre มอนิเตอร์ 32 นิ้ว ความละเอียด 4K ที่มาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมียม ในราคา 3x,xxx บาท

เมื่อก่อนนี้ เรื่องหน้าจอ HP อาจไม่ใช่แบรนด์ที่มุ่งเน้นมากสักเท่าไหร่ แต่มาระยะหลังนี้ ดูจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะมีเปิดตัวหน้าจอสเป็กดี และการออกแบบที่สวยงามมาหลายตัวแล้ว และล่าสุด กับ ‘Spectre’ หน้าจอขาด 32 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K กันไปเลย

ann_spectre32_gallery_03

ตัวหน้าจอนั้น ก็จะมีขนาดพิกเซลอยู่ที่ 3840 x 2160 พิกเซล พาเนลเป็นแบบ VA มีลำโพงสเตอรีโอมาด้วยในตัวขนาด 6 วัตต์ พร้อมระบบเพิ่มเสียงเบส bass enhancing passive radiator และติดชื่อระบบ DTS Audio มาด้วย ด้านค่า static contrast ratio ให้มาถึง 3000:1 ซึ่งถือว่ามากกว่าพาเนลแบบ IPS ที่ใช้งานกันทั่วไป แต่ก็จะเสียค่ามุมมองที่กว้างไป

ann_spectre32_gallery_01

พอร์ตที่มีด้านหลังก็จะมี HDMI 2.0, HDMI 1.4, MHL, และ DisplayPort มาพร้อมกับเทคโนโลยี PIP เพื่อรองรับการเสียบต่อ Input หลายช่องทาง และต้องการที่จะดูภาพทั้งหมดจากในหน้าจอเดียวเลยก็ทำได้

ann_spectre32_gallery_02

เปิดตัวมาให้สีเดียวคือ Blizzard White ตั้งราคาที่ $999 (33,xxx บาท)

ที่มา: VR-Zone

from:http://notebookspec.com/hp-introduces-spectre-32-inch-monitor-4k-resolution/293400/