คลังเก็บป้ายกำกับ: MONITOR

จอคอมทำงาน 2023 เลือกแบบไหนดี? MSI PRO/MODERN series จอใหญ่ สีตรง คมชัด จบงานได้ไว

จอคอมทำงาน 2023 จาก MSI PRO series และ MODERN series เพื่อไลฟ์สไตล์ในบ้านและสายนักงานยุคใหม่ สีตรง คมชัด

MSI PRO MSI MODERN series monitor rev1

ก่อนจะซื้อคอมทำงานในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในบ้าน หรือวางไว้ที่ทำงาน นอกจากการประเมินงบประมาณที่เหมาะสมแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่แสดงผล ขนาดของหน้าจอ การปรับแต่ง สีสันความแม่นยำ รวมถึงฟังก์ชั่นเสริมตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน โดยในวันนี้เรามีจอทำงาน 4 รุ่นจากทาง MSI ทั้งในซีรีส์ PRO ที่เป็นจอภาพเริ่มต้นขนาด 24″ สำหรับการทำงานดีไซน์เรียบง่าย ขอบจอบาง ให้การแสดงผลได้คมชัด และ MSI MODERN series ที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัย ให้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ และความละเอียดสูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2160p ช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมภาพที่ยังคมชัด ให้การปรับแต่งที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับการทำงานในปัจจุบัน มาชมกันครับว่า จอรุ่นต่างๆ เหล่านี้ เหมาะกับการทำงานในรูปแบบใด และรุ่นไหนที่ลงตัวกับการใช้งานของคุณ

จอคอมทำงาน MSI PRO/ MODERN series


เลือกจอคอมสำหรับทำงาน

การเลือกจอคอมสำหรับใช้ทำงานนั้น มีด้วยกันหลายระดับ ตั้งแต่การทำงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร ทำพรีเซนเทชั่น หรือซอฟต์แวร์พื้นฐานทั่วไป ซึ่งอาจจะใช้จอขนาดปกติ เทคโนโลยีพื้นฐาน ราคาประหยัดก็ยังได้ แต่ถ้าสำนักงานและการทำงานของคุณ ให้ความสำคัญกับภาพและการแสดงผล เช่น การใช้หน้าจอใหญ่ในการนำเสนองาน หรือต้องการจอที่มีความละเอียดสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ขึ้นไป ให้ความละเอียดระดับ 2K หรือ 4K ก็เป็นคำตอบที่ดี

Advertisementavw
จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการงานที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านของภาพและวีดีโอ รวมถึงงานกราฟิก CG หรือ 3D นอกจากจอภาพขนาดใหญ่แล้ว ก็ต้องมองที่ Resolution หรือความละเอียดที่สูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2610p ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่หน้าจอสำหรับงานได้มากขึ้น รวมถึงการจัดวางเครื่องมือ (Tool) ต่างๆ ได้สะดวกกว่า เช่น Adobe Premier Pro ก็จะได้พื้นที่พรีวิวที่กว้างขึ้น Timeline ที่กว้างขวาง และการปรับแต่งเครื่องมือใช้งานได้ดีกว่าจอภาพขนาดเล็กนั่นเอง

จอคอม

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ในงานระดับมืออาชีพ สิ่งที่สำคัญก็คือ ความแม่นยำของสี และขอบเขตสีที่กว้าง ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานที่จะให้ภาพและสีสัน มีความเที่ยงตรง เป็นมาตรฐาน เข้ากับรูปแบบการทำงานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ ซึ่งจะมีค่าเป็นมาตรฐานที่แตกต่างกันไปในแต่ละงาน

อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของการรับประกัน บริการหลังการขาย ที่จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจ ซึ่งผู้ผลิตแต่ละค่าย แต่ละโมเดลที่ออกมา อาจจะให้การรับประกันที่แตกต่างกันไปครับ


พาแนลแบบไหนดี

การเลือกพาแนลของจอให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะหลายคนต้องใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานในแต่ละวัน และยิ่งเป็นงานที่มีความสำคัญ ภาพที่เห็นต้องคมชัด มีความสว่างสดใส พาแนลในแต่ละแบบก็จะมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป

จอคอม

IPS – พาแนลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำงาน และความบันเทิง เพราะให้ภาพคมชัด มุมมองกว้าง ค่าสีที่แม่นยำ และเที่ยงตรง จึงเป็นจอที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

VA – เป็นพาแนลที่ได้รับความนิยมบนจอเกมมิ่งช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากราคาไม่สูง ครอบคลุมในหลายๆ งาน ให้ภาพสีสันสดใส มุมมองใกล้เคียงกับ IPS 

TN – ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรตสูง เหมาะกับการเล่นเกม แต่สีสันความสดใส อาจจะไม่เท่ากับจอแบบอื่นๆ รวมถึงมุมมองที่น้อยกว่า

OLED – ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากจอ LED ทั่วไป ที่เป็นหลอดไฟด้านหลังเพื่อให้เกิดแสงสว่าง ทำให้ได้ความคมชัดมากกว่า ภาพที่มีชีวิตชีวา ดูสมจริง สีที่ออกมาเที่ยงตรงตรง ไม่เกิดจุดแสงในสีดำ ภาพที่ได้ดำสนิท ประหยัดพลังงาน นำมาใช้บนจอโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบัน

QLED – มีพิกเซลขนาดเล็ก ให้ความสว่างและ Contrast สูง ทำให้สีสันสดใส ช่วงสีที่กว้าง ภาพดำเข้มลึก ไล่เฉดสีได้สมจริง เหมาะในด้านความบันเทิงทั้งการดูหนัง และเล่นเกมในปัจจุบัน


พื้นที่แสดงผลและความละเอียด

จอคอม 24″ ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีการทำงานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน การเรียน รวมถึงการเทรดหุ้นเป็นต้น รวมถึงการจัดวางง่าย ไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะ กำลังพอดีกับสายตา ในขณะที่นั่งตามปกติ แต่การใช้งานจะต่างกันในแง่ของความละเอียด (Resolution) ที่มีให้เลือกทั้ง Full-HD 1080p, 2K 1440p และ 4K 2160p ซึ่งแต่ละแบบ ก็อาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน

จอคอม
  • Full-HD 1080p: ได้รับความนิยม และใช้กันอยู่ทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทุกประเภท ไม่ว่าจะทำงาน ดูหนังหรือเล่นเกม เทรดหุ้น และรองรับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
  • 2K QHD 1440p: เป็นจอคอมที่เราเริ่มเห็นกันได้บ่อยในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นจอสำหรับเกมเมอร์ แต่ก็เหมาะกับการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะได้ความละเอียดที่มากขึ้น รองรับงานด้านตัดต่อ แต่งภาพ และการจัดวางเครื่องมือในโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม
  • 4K UHD 2160p: อาจจะเป็นจอที่หาได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นจอคอมระดับพรีเมียม ที่เน้นตอบโจทย์สำหรับเกมมากกว่า แต่ก็สนับสนุนการทำงานด้วยเช่นกัน ด้วยค่า Gamut และขอบเขตสีที่กว้าง รองรับการเชื่อมต่อที่ทันสมัย จะนำไปใช้กับงานโปรแกรมเฉพาะทางก็ได้เช่นกัน แต่ราคาจะค่อนข้างสูง

โดยเรามีตัวอย่างของจอคอมขนาด 24″ มาให้ชมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย MSI MODERN MD241 และ MSI PRO MP243 ซึ่งมาพร้อมกับความละเอียด 1980 x 1080p อัตรารีเฟรชเรต 75Hz พาแนล IPS ให้ความคมชัด และ MSI PRO MP241X ที่เป็นพาแนล VA ทุกรุ่นรองรับการใช้งานร่วมกับ MSI Display Kit อีกด้วย

จอคอม

จอคอม 27″-29″ จัดว่าเป็นขนาดของจอที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะคนที่ต้องการตัวจบในการทำงาน หรือจะนำมาเป็นจอเสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร และใช้ในการพรีเซนเทชั่น รวมถึงการทำงานวีดีโอ และการเขียนโปรแกรมเป็นต้น เพราะให้พื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดสรรการทำงาน และแบ่งหน้าต่างโปรแกรมได้ง่ายขึ้น และมีให้เลือกตั้งแต่ความละเอียด Full-HD สำหรับใช้งานเบื้องต้น ไปจนถึง 4K เพื่อคนที่ทำงานจริงจัง จัดว่าเป็นขนาดจอที่อยากจะแนะนำในการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งราคาเริ่มต้นไม่สูง แต่อาจจะใช้พื้นที่มากขึ้นเล็กน้อย รวมถึงระยะการวางที่ห่างจากสายตามากกว่าจอ 24″ อยู่บ้าง สำหรับจอภาพ 29″

จอคอม

โดยที่เรามีตัวอย่างของจอขนาด 27″ มาให้ชมกับ MSI MODERN MD272QPW ที่มาพร้อมความละเอียดที่สูงถึง 2560x1440p หรือ 2K WQHD พาแนล IPS ที่มีมุมมองกว้าง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ปรับหมุนจอได้สะดวก กับการเชื่อมต่อสัญญาณที่ครบครัน

จอคอม 32″ หรือมากกว่า มาพร้อมพื้นที่ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี พื้นที่กว้างขวาง มีให้เลือกตั้งแต่จอ 32″ ความละเอียด 2K หรือ 4K ในแบบพื้นฐาน ที่ให้คุณมองเห็นรายละเอียดของงาน หรือภาพได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร เขียนโปรแกรม เทรดหุ้น หรือใช้ในการเรียนการสอน ไปจนถึงจอสำหรับเกมเมอร์ ที่มีความละเอียดสูง และอัตรารีเฟเรชเรตที่สูงระดับ 144Hz อีกด้วย แต่ก็จะมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน


ขอบเขตสีก็สำคัญ

หากเป็นจอทำงาน ที่ต้องเน้นความแม่นยำของการแสดงผลสี และขอบเขตสีที่กว้าง ก็ต้องเลือกจอที่ให้ค่าขอบเขตสีในมาตรฐานต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นค่า sRGB, Adobe RGB หรือจะเป็น DCI-P3 และ Delta-E ตัวเลขต่างๆ จะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของจอแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น

จอคอม

sRGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่มีการใช้งานกันอยู่ทั่วไป ในแบบที่สายตาของคนเรามองเห็น ซึ่งถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์อย่าง จอทีวี กล้องและสิ่งอื่นๆ ซึ่งได้รับความนิยมว่าเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก มีความสำคัญในการทำงานร่วมกับ นักสร้างคอนเทนท์ งานกราฟิก วีดีโอโปรดักส์ชั่น และงานดิจิตอลต่างๆ การที่จอให้ค่า sRGB 99% ก็หมายถึงการแสดงค่าสี ได้สูงถึง 99% นั่นเอง ถือว่ามีความแม่นยำสูง

Adobe RGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่กว้างมากขึ้น ใช้กันอย่างหลากหลายบนโปรแกรมจากค่าย Adobe สำหรับงานกราฟิกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom เป็นต้น เข้ากันได้กับงานที่เป็นสิ่งพิมพ์ที่เหล่ากราฟิกใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำและส่งพิมพ์ เพื่อจะได้สีไปในทิศทางเดียวกัน

จอคอม

DCI-P3: สำหรับ DCI-P3 เป็นมาตรฐานของสี ที่นิยมแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะมีขอบเขตกว้างกว่า sRGB อยู่เล็กน้อย โดยจะแสดงผลเป็นค่า % เช่นเดียวกัน

แต่จอภาพที่ยิ่งให้ขอบเขตสีที่กว้าง และความแม่นยำสีสูงนั้น ก็มักจะอยู่ในโมเดลระดับบน หรือถูกแยกออกมาเป็นกลุ่มจองานสตูดิโอหรืองานกราฟิกโดยเฉพาะ มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นงานจริงจัง หรือต้องเทียบสีเพื่อส่งงานพิมพ์หรืองานโปรดักส์ชั่นระดับมืออาชีพแล้ว จอคอมทำงานพื้นฐาน ที่มีตัวเลขของมาตรฐานต่างๆ ที่ว่ามาได้เกินระดับ 75% ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว


MSI MODERN MD272QPW

จอคอม

สำหรับคนที่ต้องทำงานหลายงานพร้อมกัน ต้องตรวจงานเอกสาร และการทำบัญชีที่ต้องการพื้นที่ Cell/ Column ในโปรแกรมกว้างมากขึ้น และงานวีดีโอหรือภาพที่ต้องพรีวิวชิ้นงานบ่อยๆ ในบางช่วงอาจจะใช้จอดูหนัง และเล่นเกมไปในตัว จอที่ให้พื้นที่แสดงผลที่กว้างเป็นพิเศษ เช่น จอคอม 27″-29″ จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีขึ้น อย่างเช่น MSI MODERN MD272QPW ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 27″ และให้ความละเอียดถึง 2K หรือ 2560x1440p ภาพสีสดใส ด้วยพาแนลในแบบ IPS และมีฟีเจอร์สำหรับการทำงานครบครัน เช่นรองรับ FreeSync, KVM และ Picture profile เป็นต้น พร้อมพอร์ต Input สัญญาณทั้ง HDMI และ USB-C และเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า Less Blue Light Pro อีกด้วย

จอคอม

มาดูที่รูปลักษณ์กันบ้าง สำหรับจอรุ่นนี้มาในโทนสีขาว ตามสไตล์ของ MODERN series ที่เน้นความลงตัวของเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือสำนักงาน ส่วนตัวผมมองว่าทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งมีขอบจอที่บางเป็นพิเศษ 3 ด้านเลย ยิ่งทำให้พื้นที่การชมภาพหรือทำงาน กว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวฐานและขาตั้ง ยังออกแบบมาให้ปรับเลื่อนได้หลายมุมเลยทีเดียว

สำหรับการปรับเลื่อน น่าจะถูกใจคนที่ชอบการทำงานในชีวิตประจำวันที่หลากหลาย เพราะมาพร้อมกับการให้เข้ากับสรีระได้ง่ายมาก ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของจอ MSI รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นกันหันข้างซ้าย-ขวา (Swivel) ได้ด้านละ 30 องศา ทำให้การแบ่งปันหน้าจอ ดูข้อมูล ให้กับคนข้างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องยกให้หมุนให้เสียเวลา

ในการปรับความสูงก็ได้เช่นกัน เผื่อบางครั้งต้องใช้บนโต๊ะทำงานที่ต่างระดับกัน โดยตัวจอปรับความสูงได้ถึง 110mm และยังทำได้ง่ายอีกด้วย แค่ดันขึ้นไปหรือกดลงเท่านั้น

ส่วนมุมก้ม-เงย เพื่อให้ใช้งานขณะที่นั่งหรือยืนได้ง่ายกว่าเดิม โดยปรับได้ที่ -5° ~ 20° อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

ด้านหลังจอคือไฮไลต์ เพราะมีแกนหมุนที่ใช้หมุนจอแบบ Pivot ได้ 90 องศา สำหรับการใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การพรีเซนเทชั่น หรือการเป็นจอพรีวิวงาน ที่เป็นจอเสริม หรือจะเป็นจอหลักสำหรับการเขียนโปรแกรม หรือการท่องเน็ต ผมว่าเป็นฟีเจอร์สำคัญของสายนี้เลยทีเดียว

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้าจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, USB-C ที่ใช้ในการรับสัญญาณจาก Thunderbolt หรือ USB-C ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการชาร์จไฟ 65W ไปพร้อมกับการแสดงผลได้อีกด้วย รองรับสัญญาณแบบ DP อย่างโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ที่มีพอร์ตแบบนี้อยู่ และมี USB Hub และ USB Type-A เพื่อต่อกับอุปกรณ์อย่าง เมาส์ คีย์บอร์ด หรือ USB Flash Drive เป็นต้น

จอคอม

การปรับแต่งใช้เป็น 5 ปุ่ม เลือก เลื่อนซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง และยกเลิก แรกๆ อาจจะยังไม่คล่องนัก ต้องใช้เวลาในการปรับตัวแยู่บ้าง แต่ถ้าได้แบบจอยสติ๊กบนจอเกมมิ่งของ MSI หลายๆ รุ่นที่ใช้ 5-Way Navigation Joystick ก็จะดีไม่น้อย นิ้วเดียวจบ

จอคอม

สำหรับการใช้งาน เรื่องความสว่างและความคมชัด ดูจะตอบโจทย์คนที่ทำงานเอกสาร และงานด้านภาพและวีดีโอได้ดีทีเดียว หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ทำงานอิสระ หรือเป็นพนักงานที่ต้องอยู่กับงานเอกสาร การตรวจงาน และการพรีวิวภาพ วีดีโอเพื่อเช็คความผิดพลาด จอคอม MSI รุ่นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความคมชัด เมื่อปรับความละเอียดเป็น 2560x1440p ให้ใช้งานเป็นแบบ Native หรือความละเอียดตรง ทำให้ตัวอักษรคมชัดมากขึ้น มากพอสำหรับการแบ่งหน้าจอ รวมถึงการดูข้อมูลหลายๆ หน้าต่างไปพร้อมกัน อย่างเช่น การใช้ซอฟต์แวร์สำนักงาน หรือการดูข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาด พร้อมกับการเทรดหุ้นไปด้วย

ส่วนการทำงานเอกสาร คุณจะเห็นพื้นที่หน้าจอกว้างขวางมากทีเดียว แม้ว่าการแสดงผล 2K อาจจะทำให้ขนาดตัวฟอนต์เล็กลงไปบ้าง เพราะให้พื้นที่การใช้งานได้มากกว่า แต่คุณสามารถปรับ Scale, Size of text ใน Windows ประกอบไปด้วยได้ เลื่อนให้ฟอนต์ได้ขนาดตามที่คุณต้องการได้เลย

Low Blue Light Pro ฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ใช้คอม ซึ่งต้องทำงานอยู่หน้าจอนานๆ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง สบายตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าที่รบกวนสายตา แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ ผลจากการใช้ฟีเจอร์นี้ จะไม่ทำให้ภาพที่คุณเห็นไปแบบโทนอมเหลือง เหมือนกับฟีเจอร์การลดแสงสีฟ้าธรรมดา แต่จะปรับให้โทนสีมีความสมจริงสดใส แบบไม่เสียอรรถรสในการใช้งาน

จอคอม

ไม่ใช่แค่การแบ่งหน้าจอแนวตั้งเท่านั้น แต่แนวนอนก็ทำได้เช่นเดียวกัน จากตัวอย่างนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในหลายแบบได้ โดยเฉพาะการเทียบข้อมูลงาน สำหรับการแก้ไข หรือจะซื้อขายหุ้น ด้วยการดูข้อมูลประกอบไปด้วย ตรงนี้ถือว่าจอใหญ่กว่า ย่อมได้เปรียบกว่า เพราะคุณไม่ต้องซูม-ย่อ หรือสลับหน้าต่างโปรแกรม แค่แบ่งหน้าจอก็ใช้งานได้ทันที

จอคอม

หรือถ้าเป็นงานที่ต้องทำงานด้านข้อมูล เช่น รายงานประจำปี รายรับ-รายจ่าย หรือข้อมูลพนักงาน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 27″ ก็ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นได้ เพราะพื้นที่ทำงานมากกว่า มองเห็น Cell และ Column ได้ชัดกว่า ทำให้การสร้าง Chart หรือ Table จำนวนมากได้ดียิ่งขึ้น และการแก้ไขกราฟทีละจุดเป็นเรื่องง่าย

จอคอม

และคงไม่ได้หยุดแค่การทำงาน อย่างเช่นตัวอย่างนี้ หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการท่องอินเทอร์เน็ต เก็บข้อมูล หรืออ่านรายงานบนหน้าต่างโปรแกรมแบบยาวๆ แค่หมุนจอ 90 องศา Pivot แล้วใช้แค่ Scroll wheel ก็เลื่อนดูได้สะดวก จะนั่งชิลๆ จิบกาแฟในบ้าน แล้วเปิดเว็บดูข้อมูลไป หรือจะเปิดไฟล์ที่ยาวเป็นหน้ากระดาษ ในสำนักงานก็ได้เช่นกัน

จอคอม

หรือถ้าในงานที่จำเป็นจะต้องใช้ 2 จอ อย่างเช่น งานตัดต่อวีดีโอ ที่อาจจะมีจอภาพหลัก สำหรับการตัดงาน ประโยชน์ของจอแบบ Ultra-Wide ก็คือ สามารถใช้เป็นจอสำรอง ในการพรีวิวภาพหรือวีดีโอฟุตเทจ ในแบบแนวตั้ง ซึ่งได้จำนวนไฟล์ที่มีมากกว่า และยังมองเห็นได้ชัด เมื่อปรับภาพเป็น Large icon หรือ Extra Large และเลือกนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้อง Scroll wheel บ่อยๆ หรือจะใช้เป็นจอหลักสำหรับการตัดงาน ก็ได้เช่นกัน ด้วยความละเอียดระดับ 2K 1440p นี้ ทำให้การจัดวาง Tools ในการใช้งานกว้างขวางมากขึ้น

ในด้านงานตัดต่อวีดีโอ หรือตกแต่งภาพ จอ MSI ออกแบบมาให้กับผู้ใช้งานในด้านนี้ เพราะนอกจากจะเป็นจอขนาดใหญ่ 27″ ให้พื้นที่กว้าง กับความละเอียด 2K ที่ทำให้พื้นที่จัดการวีดีโอได้สะดวกแล้ว ยังให้ขอบเขตสีที่กว้าง และค่า sRGB ที่ระบุมานั้นอยู่ที่ 95% และจากการทดสอบของทีมงาน ได้ค่า Gamut Coverage 98% sRGB อีกด้วย ด้วยความแม่นยำของค่าสีในระดับนี้ ก็สามารถนำมาใช้งานด้านภาพและวีดีโอในเบื้องต้นได้ไม่ยาก หากได้รับการ Calibrate ที่เหมาะสมก่อนใช้งาน

จอคอม

สำหรับเกมเมอร์และเกมแคสเตอร์ สามารถใช้จอภาพ MSI นี้ ในการ Cast stream ได้ จะเลือกใช้เป็นจอหลักในการเล่นเกม หรือจะเป็นจอเสริมสำหรับแสดงผลในการสตรีมก็ได้เช่นกัน สะดวกได้ทั้ง 2 แบบ แต่หากคุณมีเครื่องคอมแรง เล่นเกมระดับ 2K บน MSI MODERN MD272QPW แล้วใช้จอขนาด 24″ มาช่วยในการ Monitor เปิดโปรแกรม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

มาในด้านความบันเทิงกันบ้าง หลายคนที่ซื้อจอใหญ่ๆ ความละเอียดสูง ก็จะคาดหวังกับการชมภาพยนตร์แบบเต็มตา คมชัด และสีสันที่สดใส นอกเหนือจากประโยชน์ในการทำงานเพียงอย่างเดียว ด้วยภาพที่มีความสดใส และขอบด้านข้างที่บาง ก็ไม่ทำให้เกะกะสายตา รวมถึงสีสันจัดว่าทำได้ดีทีเดียว และผู้ใช้ยังเลือกปรับโหมด Movie เพื่อให้ตัวจอปรับโพรไฟล์แสงและภาพสำหรับการดูหนังได้ทันที ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าเอง

OSD settings

หากจะเลือกจอคอมสักรุ่น การปรับแต่งก็สำคัญ MSI ให้การปรับแต่งจอผ่านทาง OSD settings มาได้อย่างละเอียดบนจอรุ่นนี้ ด้วยปุ่มควบคุมที่อยู่ใต้จอ 5 ปุ่ม ให้การปรับเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ดีพอสมควร โดยในส่วนของ OSD นั้น เลือกตั้งค่าได้ตั้งแต่โพรไฟล์ Eco, User, RGB, Anti-Blue, Movie, Office และ black & White นอกจากนี้ยังเลือกใช้งาน KVM และ FreeSync ให้ใช้งาน ส่วนโหมดภาพ ก็เป็นการปรับค่าความสว่าง Contrast และ Sharpness รวมถึง Low Blue Light เอาไว้ด้วย ถือว่าเป็นจอทำงาน ที่ไม่ได้เน้นเล่นเกม แต่ให้ตัวเลือกในการปรับแต่งได้มากทีเดียว

MSI Display Kit

จอคอม

และในการปรับแต่ง MSI ยังมีซอฟต์แวร์ตัวช่วยในการตั้งค่าจอภาพ และการใช้งานที่เกี่ยวกับแสดงผลเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าภาพ กับโพรไฟล์ต่างๆ หรือจะเป็นการแบ่งหน้าจอ รวมถึงความละเอียด และอัตรารีเฟรชเรต ไปจนถึง Tools สำหรับจอ เมาส์ คีย์บอร์ด โดยไม่ต้องเข้าไปปรับใน OSD หรือฟังก์ชั่นใน Windows อีกด้วย

สำหรับ MSI MODERN MD272QPW มาพร้อมพื้นที่แสดงผล 27″ ความละเอียด 2560x1440p พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 75Hz รองรับการปรับหมุนจอได้อย่างหลากหลาย และมีพอร์ต Type-C 65W กับการรับประกัน 3 ปี สนนราคาประมาณ 9,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD272QPW


MSI MODERN MD241P

จอคอม

แต่ถ้าคุณยังไม่ต้องใช้จอขนาดใหญ่ จอ 24″ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่อยากได้ฟังก์ชั่นแบบเดียวกับใน MODERN series ก็ยังมีอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจกับ MSI MODERN MD241P จอคอม 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนล IPS เป็นแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน กับ Ratio 16:9 ปรับเลื่อนได้แบบเดียวกับ MSI MODERN MD272QPW และมีพอร์ตสำหรับ Input สัญญาณ HDMI และ USB-C มีลำโพงเสียงจัดจ้านในตัว เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิงในงบประมาณ 5,900 บาท

จอคอม

MSI MODERN MD241P เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงาน ที่มีพื้นที่บนโต๊ะจำกัด หรือมีบ้าน สำนักงาน ที่เป็นแบบมินิมอล แต่รองรับการใช้งานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานซอฟต์แวร์สำนักงาน ทำเอกสาร พรีเซนเทชั่น ไปจนถึงในชีวิตประจำวันอย่าง เล่นหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ต และความบันเทิง เช่น การดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ให้สีสันที่สดใส ด้วยพาแนล IPS จึงช่วยให้มุมมองที่กว้าง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในหลายด้าน และความบันเทิงแบบจัดเต็ม

ความน่าสนใจของจอ MSI รุ่นนี้อยู่ที่การเป็นจอ IPS ได้มุมมองกว้าง 178 องศา ทั้งสองด้าน นั่นก็ทำให้การรับชม ไม่ว่าจะดูเอกสาร หรือความบันเทิง รวมถึงการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ได้ดูนั้นทำได้ง่ายกว่า เพราะมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน

การปรับเลื่อนหน้าจอ ก็แทบจะไม่ได้ต่างไปจากจอรุ่นพี่อย่าง MODERN MD272QPW ที่เรียกว่าถอดแบบกันมา กับการเลื่อนขึ้นลง เพื่อปรับความสูงในระดับ 110mm เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์

มุมก้ม-เงย อยู่ในระดับมาตรฐาน -5 – 20 องศา จะนั่งหรือยืนใช้งาน ก็พร้อม โดยเฉพาะคนที่ใช้โต๊ะไฟฟ้า ปรับเลื่อนความสูงได้ เมื่อยหลัง ก็ยืนทำงาน เมื่อยขาก็กลับมานั่งใหม่ ปรับให้เข้ากับสรีระและการใช้งานของแต่ละบุคคลได้

จอคอม

และพอร์ต ก็ให้มาพร้อมใช้งานเช่นกัน แต่จะลดทอนลงจากรุ่นพี่เล็กน้อย คือมีเพียง HDMI และ USB-C ไม่ได้มี DisplayPort มาให้ แต่เท่านี้ คุณก็ต่อสัญญาณจากคอมหรือโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ได้แล้ว

จอคอม

และสิ่งที่เป็นไฮไลต์ในการปรับเลื่อนจอรุ่นนี้ ยังคงเอาใจผู้ใช้ที่ต้องการมุมมองและการใช้งานแบบใหม่ๆ ด้วยการปรับหมุน 90 องศาแบบ Pivot ได้ คล้ายกับใน MSI MODERN MD272QPW กับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม ท่องอินเทอร์เน็ต ใช้เป็นจอเสริมในการพรีวิววีดีโอฟุตเทจ หรือจะใช้ในการนำเสนอผลงาน แล้วแต่จินตนาการของแต่ละบุคคล

การปรับแต่ง OSD ก็ทำได้ค่อนข้างง่าย กับปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา มีให้ใช้ 5 ปุ่ม และตั้งคีย์ลัดได้เช่นกัน ส่วนการปรับก็มีทั้ง Brightness, Contrast, Temp Color และอื่นๆ เพียงแต่ไม่มีโพรไฟล์ภาพ หรือ Picture mode เท่านั้น แต่ก็ยังใช้งานได้สะดวกทีเดียว แต่ก็เลือกการปรับแต่งผ่านทางซอฟต์แวร์ MSI Display Kit ได้เช่นกัน

จอคอม

ในงานด้านเอกสาร แม้จะไม่ได้มีหน้าจอขนาดใหญ่ แต่ด้วยจอภาพ 24″ นี้ ก็รองรับการใช้งานได้ดีพอ กับความละเอียด Full-HD ที่ให้การมองหน้าเอกสารได้ชัดเจน หรือจะเลือกปรับแต่งขนาดของ Font Scale ของ Windows เพื่อให้ฟอนต์มีขนาดเล็กใหญ่ สอดคล้องกับความถนัดของผู้ใช้เองได้ ตัวอักษรคมชัด และยังแบ่งหน้าได้ด้วยการ Splt ในกรณีที่ใช้หลายงานพร้อมกันได้

จอคอม

ในด้านของความบันเทิง ด้วยความเป็นพาแนล IPS จึงเห็นความสดใส และความคมชัดของภาพได้อย่างชัดเจน สามารถตอบโจทย์ในด้านการชมภาพยนตร์ได้ดี ให้ความสว่างได้ถึง 250cd/m2 และจากการทดสอบของเรา ผลที่ได้ถือว่าใกล้เคียง จัดได้ว่าเป็นจอทำงานอีกรุ่นหนึ่ง ที่ให้ความสว่างของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ตอบสนองกับความบันเทิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการเป็นจอแบบลดแสงสะท้อน คุณจะนั่งทำงานในบริเวณที่มีแสงรบกวนภายนอกค่อนข้างมาก ก็ยังสบายตา

การปรับแต่ง OSD settings สามารถได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแต่ปุ่มอาจจะดูงงไปบ้าง แต่สามารถดูสัญลักษณ์ได้จากหน้าจอ โดยไอคอนขนาดใหญ่ พร้อมรายละเอียด ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น

จอคอม

ด้านการเล่นเกมและงานตัดต่อ รวมถึงการแคสสตรีม จอจาก MSI รุ่นนี้ มีพื้นที่มากพอ สำหรับจัดการงานต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่แสดงผล ที่ให้คุณจัดวาง Tools และการพรีวิวภาพได้ชัดเจน จะใช้เป็นจอหลักในการตัดต่องาน หรือสตรีมก็ได้ ด้วยค่า sRGB ที่ระบุมากว่า 100% รวมถึง Adobe RGB มากกว่า 90% มั่นใจได้ในความแม่นยำและขอบเขตสีที่คุณสามารถเริ่มต้นในงานด้านนี้ได้พอสมควร มิติแลความลึกของสีที่ปรากฏ ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้ไม่น้อยเลย จะมีเพียงเรื่องของอัตตรารีเฟรชเรต 75Hz เท่านั้น ที่อาจจะไม่ได้สูงนัก แต่ก็ถูกทดแทนในเรื่องของจอภาพคมชัด และสีสันสดใส รวมถึงย้ำว่า MSI MODERN รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นหลัก แต่เล่นเกมได้ภาพสวยลงตัว

จอคอม

และ MSI MODERN MD241P รุ่นนี้ยังคงเป็นได้ทั้งจอหลักและจอเสริมในการเพิ่ม Productivity งานของคุณได้อย่างเต็มที่ ด้วยคุณสมบัติที่มีให้อย่างครบครันกับการรับประกัน 3 ปี ราคาประมาณ 5,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD241P


MSI Pro MP243

จอคอม

แต่สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นกับการทำงานและความบันเทิงทั่วไปในบ้าน MSI PRO series ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ใช้ภายในบ้าน และสำนักงาน ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีพื้นที่จำกัด ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่พอเหมาะ หน้าจอคอมชัด เช่นเดียวกับ MSI PRO MP243 จอภาพขนาด 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พร้อมพาแนล IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง กับฟีเจอร์สำหรับการใช้งานอีกมากมาย ในราคาสบายกระเป๋า 4,350 บาท

ขอบจอบางเฉียบ มาพร้อมฐานและขาตั้งที่ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา เหมาะในการเคลื่อนย้ายและลดภาระการจัดวางบนโต๊ะทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือรับน้ำหนักมากมายนัก และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางสิ่งอำนวยความสะดวกบนโต๊ะได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น พรินเตอร์ โคมไฟ หนังสือ หรือจะเป็นพัดลมพกพา แต่ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ มีช่องสำหรับวางโทรศัพท์มือถือมาบนฐานอีกด้วย ไม่ต้องวางบนโต๊ะให้เปลืองพื้นที่

จอคอม

ตัวจอมี 2 สีให้เลือกคือ สีดำ และสีขาว ขึ้นอยู่กับความชอบ โดยมีจุดที่ใช้ติดตั้ง VESA mount 75x75mm อยู่ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับกำแพงหรือ แขนจับจอ Monitor Arm ได้อีกด้วย พร้อมโลโก้ MSI โดดเด่นอยู่ทางด้านหลังนี้

การปรับเลื่อนมีข้อจำกัดเล็กน้อย รองรับได้เพียง มุมก้มและเงยในระดับ -5 – 20 องศาเท่านั้น แต่ด้วยน้ำหนักที่เบา ขนาดไม่ใหญ่มากนัก จึงสามารถหัน ขยับเลื่อนจอไปมาได้ง่าย ในกรณีที่จำเป็น เช่น หันให้ลูกค้าที่อยู่ตรงข้ามได้ดู หรือหันข้างให้คนที่นั่งใกล้ๆ กันได้ชม

จอคอม

กับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ก็ดูเข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์ หรือสถานที่ต่างๆ ทั้งในบ้าน สำนักงาน หรือนำไปออกบูธนอกสถานที่ ด้วยความบาง กระชับและน้ำหนักเบา ยกใส่ท้ายรถไปถึงที่จัดงานได้ไม่ยาก ด้วยขอบจอที่บางทั้ง 3 ด้าน ก็ทำให้จอดูไม่เทอะทะจนเกินไป แม้จะเป็นจอ 24″ ก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังดีไซน์ให้มีที่ตั้งมือถือมาไว้บนฐานจออีกด้วย

จอคอม

พอร์ตรับสัญญาณมีมาให้ทั้งแบบ HDMI และ DisplayPort รวมถึงช่อง Audio สำหรับต่อหูฟัง หรือลำโพงได้อีกด้วย

จอคอม

ส่วนจุดที่ใช้ควบคุมตั้งค่า OSD settings จะอยู่ที่บริเวณด้านล่างขวาของจอคอมเช่นเดียวกัน เป็นแบบ 5 ปุ่ม และไฟแสดงสถานะอยู่ใกล้กัน การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก

หากคุณต้องการจอที่มีขอบจอบาง ให้พื้นที่การแสดงผลได้แบบเต็มตา ทั้งด้านความบันเทิง เช่นการดูหนัง และการทำงาน MSI PRO MP243 รุ่นนี้ สามารถตอบความต้องการดังกล่าวได้ รวมถึงพาแนล IPS ให้สีสันสดใส และคมชัด กับหน้าจอแบบ Anti-Glare ก็ช่วยให้ใช้งานในที่ที่มีแสงรบกวนจากภายนอกได้สบายตามากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวมองว่า แทบไม่ได้ต่างไปจาก MSI MODERN MD241P เลยทีเดียว สีจัดจ้าน ทำให้การชมภาพยนตร์มีอรรถรสมากกว่า

จอคอม

แต่หากคุณเป็นคนทำงาน จริงจังกับการดูข้อมูล เทรดหุ้นหรือคริปโต ในแบบเรียลไทม์ ไม่อยากคลาดช่วงเวลาสำคัญ ด้วยพื้นที่แสดงผล และความละเอียด 1080p นี้ ก็มากพอที่จะทำให้คุณได้เช็คราคาตลาด และการเทรดได้อย่างรวดเร็ว จะเปิดดูกราฟแบบเต็มจอ หรือจะแบ่งจอสำหรับหาข้อมูลพร้อมกันไปด้วย ก็ไม่ได้ยาก แต่ถ้าให้ดีการใช้ Dual monitor น่าจะเป็นทางออกที่ดีของผู้ใช้ในกลุ่มนี้

ไม่ใช่แค่เพียงในแง่ของการใช้ในงานและความบันเทิงในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรองรับงานในอีกหลายด้าน ที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐาน เช่น งานตัดต่อ และการแคสสตรีม สำหรับมือใหม่ได้ แม้จะไม่ได้ให้ขอบเขตสีหรือความแม่นยำสีในระดับมืออาชีพ เพราะเป็นจอสำหรับเริ่มต้นการใช้งานหรืองานทั่วไป แต่ก็ใช้เรียนรู้กับงานเหล่านี้ได้ดีพอสมควร โดยค่าสีที่ระบุมาให้นั้น sRGB 99%, Adobe RGB 84% และ DCI-P3 78.9% เลยทีเดียว

การปรับแต่งใช้ตัวควบคุม 5 ปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา เลื่อนใช้งานได้สะดวกทีเดียว ที่สำคัญมี Professional mode ที่ให้เลือกโพรไฟล์สำหรับใช้งาน เช่น Eco, User, sRGB, Anti-Blue, Movie, Office และ Black-White รวมถึงการตั้งค่าอื่นๆ เช่น Adaptive-Sync และอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานเอาไว้ครบ

จอคอม

จุดไฮไลต์ที่เป็นลูกเล่นของจอรุ่นนี้ ก็คือ ช่องสำหรับวางมือถือ ที่ช่วยให้คุณสะดวกในการใช้งาน เช่น จะต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ใช้ในการประชุมออนไลน์ หรือป้องกันมือถือหาย เพราะจะอยู่ด้านหน้าเครื่องตลอดเวลา และยังไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะทำงานอีกด้วย

MSI PRO MP243 นี้ เป็นจอคอมที่เริ่มต้นการใช้งานของผู้ที่ต้องการจอทำงาน ที่มีรูปลักษณ์เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่รองรับการใช้งานได้หลากหลายกับพื้นที่แสดงผล 24″ อัตรารีเฟรชเรต 75Hz ให้ภาพที่ไหลลื่น มีความคมชัด สีสันสดใส ปรับแต่งได้บน OSD settings หรือบนซอฟต์แวร์ MSI Display Kit และให้การเชื่อมต่อสัญญาณพื้นฐานมาครบ ไม่เปลืองพื้นที่ ราคาประมาณ 4,350 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP243


MSI PRO MP241X

จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการจอคอมมาเสริมกับจอหลัก หรือจอภาพที่มีความคมชัด สำหรับการทำงานทั่วไป ให้พื้นที่แสดงผล 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนลในแบบ VA มีฟังก์ชั่นการใช้งานพอเหมาะ กับการออกแบบขอบจอบางเป็นพิเศษ เข้ากันได้กับในสำนักงานหรือภายในบ้าน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับการเคลื่อนย้าย และมีราคาที่เหมาะกับการเริ่มต้นใช้งาน MSI PRO MP241X มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เข้ากันได้การใช้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว

จอคอม

ในด้านของดีไซน์จะบางกว่า MSI PRO MP243 อยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ชัดเจน ตัวบอดี้เป็นสีดำทั้งหมด ตั้งแต่ฐาน ขาตั้งและตัวจอ โดยที่รองรับการปรับได้เพียงรูปแบบเดียวคือ มุมก้ม-เงยในระดับ -5 – 15 องศา แต่ในกรณีที่ต้องการเคลื่อนย้าย เพื่อปรับองศาการมอง ทำได้ง่ายมาก เพราะน้ำหนักเบาเพียง 2.85Kg. เท่านั้น เหมาะสำหรับบ้านหรือสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัด หรือวางเป็นจอที่สองเสริมการใช้งานจอหลักก็สะดวก

จอคอม

ขาตั้งติดตั้งได้ง่ายดาย ไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด แค่เสียบให้เข้ากับสลักที่มีให้ที่บริเวณด้านหลังของจอเท่านั้น โดยมี VESA Mount 75x75mm มาให้ สำหรับติด Wall mount เข้ากับกำแพง หรือ Monitor Arm ที่เป็นแขนจับจอ ยึดกับโต๊ะ ก็ช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะไปได้ไม่น้อยเลย

ปุ่มควบคุม OSD settings มีด้วยกัน 5 ปุ่ม แต่จะต่างจากบรรดาจออื่นๆ ที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ การใช้งานส่วนตัวมองว่าอาจจะสับสนเล็กน้อย เพราะต้องสังเกตดีๆ ว่าปุ่มใดใช้ทำอะไร ต้องใช้ไปสักระยะจนคุ้นเคย ก็จะง่ายขึ้น ส่วนโลโก้ MSI อยู่ด้านบนดูสะดุดตา

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้า มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ HDMI สำหรับสัญญาณดิจิตอล แต่ถ้าใครที่ใช้คอมสำนักงาน หรือคอมเก่าที่ยังใช้พอร์ต VGA หรือ D-Sub อยู่ จอคอม MSI รุ่นนี้ก็มีเตรียมเอาไว้ให้เช่นเดียวกัน

จอคอม

ในด้านการใช้งาน ความบันเทิงจากจอ MSI รุ่นนี้ เช่น การดูหนังและการสตรีมมิ่ง เป็นจอคอมอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสดใสของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ภาพที่ได้มีความลื่นไหล อีกทั้งเมื่อเล่นในโหมด Full-HD ที่แสดงผลแบบเต็มจอเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความสนุกและดูเต็มตามากยิ่งขึ้น เรียกว่าแม้จะเป็นจอทำงาน แต่เรื่องความสนุกสนานก็ไม่ขาดอรรถรส

และในการทำงานนั้น ขอบจอที่บางพิเศษนี้ ก็ช่วยให้มีพื้นที่ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ตัวอักษรคมชัด สามารถแสดงผลอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ให้การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ต้องปรับจูนมากมายนัก กับความละเอียด Full-HD นี้ ช่วยให้ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้ดี

จอคอม

แม้ว่าจะเป็นพาแนลแบบ VA แต่ก็ให้มุมมองได้กว้าง สามารถมองจากด้านข้างซ้ายและขวาได้อย่างชัดเจน พื้นที่หน้าจอในระดับ 24″ ถือว่ากว้างขวางตามมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน การแบ่งหน้าจอทำได้ง่าย แม้ว่าจะแบ่งแล้วทำให้หน้าต่างการทำงานเล็กลงไปบ้าง แต่การปรับ Scale และขนาดฟอนต์ให้สอดคล้องกับการใช้งาน ก็ช่วยให้จัดสรรพื้นที่การทำงานดีขึ้น

จอคอม

การเล่นเกมบนจอขนาด 24″ บนความละเอียด Full-HD แม้จะไม่ได้ตรงกับจุดประสงค์ของจอรุ่นนี้มากนัก แต่เท่าที่ดูความสวยงาม และรายละเอียดที่ปรากฏบนเกมต่างๆ เหล่านี้ หลายคนก็น่าจะให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเกมเมอร์มือใหม่ ที่กำลังเริ่มต้นกับการเล่นเกม และมีสเปคเครื่องระดับกลางๆ ก็จะสามารถสนุกไปกับจอ MSI รุ่นนี้ได้ อีกทั้งการแสดงผลแบบ Boarderless หรือไร้ขอบ ยิ่งเพิ่มความสนุกในการเล่นเกมได้มากยิ่งขึ้น หรือถ้างบน้อย ไม่อยากเล่นจอใหญ่ ก็สามารถใช้เป็นจอคู่มาเล่นได้ เพราะขอบจอที่บางเฉียบเช่นนี้

MSI PRO MP241X เป็นจอ MSI รุ่นน้องเล็กสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิงหรือการเล่นเกม พาแนล VA เรื่องสีสันยังคงสดใส แม้จะไม่เท่า IPS แต่ในเรื่องของความสว่างและ Contrast จัดว่าช่วยให้การใช้งานต่างๆ ได้ดีขึ้น ขอบจอบาง ปรับแต่งได้ รวมถึงราคายังจับต้องได้ง่าย ประมาณ 3,900 พันบาทอีกด้วยกับการรับประกันถึง 3 ปี

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP241X


Conclusion

MODERN
MD272QPW
MODERN
MD241P
PRO MP243 PRO MP241X
Display size 27″ 23.8” 23.8″ 23.8″
Resolution 1440p 1080p 1080p 1080p
Refresh rate 75Hz 75Hz 75Hz 75Hz
Panel IPS IPS IPS VA
View angle 178/178 178/178 178/178 178/178
Contrast ratio 1000:1 1000:1 1000:1 3000:1
Port 1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2),
1x Type C (DP Alternate)
1x USB 2.0 Type B,
2x USB 2.0 Type A
1x HDMI (1.4b),
1x Type C (DP Alternate)
1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2)
1x USB-C 65W
1x HDMI (1.4b)
1x D-Sub (VGA)
Speaker 2W 2W 2W
Swivel -30° ~ 30° -30° ~ 30°
Tilt -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 15°
High 0 ~ 110mm 0 ~ 110 mm
Pivot -90° ~ 90° -90° ~ 90°
sRGB 95% 106.58% 99.08% 105%
VESA mount 75x75mm 75x75mm 75x75mm 75x75mm
Weight 5.85 kg 4.7 Kg 2.95 Kg 2.85 kg
Price 9,900 5,900 4,350 3,900
จอคอม

การเลือกจอคอมสำหรับทำงานนั้น มีด้วยการหลายระดับ ต่างเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะนำไปใช้กับงานประเภทใด หากเป็นงานออฟฟิศ ซอฟต์แวร์ทั่วไป จอในรุ่น PRO series ขนาด 24″ จากทาง MSI ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี เหมาะกับการเป็นจอภาพเริ่มต้น ทั้งในเรื่องความคมชัด ความสว่างและสีสัน ที่ช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ในราคาที่ประหยัด แต่หากต้องการจอที่มีฟังก์ชั่น ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี MSI MODERN ที่เสริมเทคโนโลยี การปรับแต่ง และพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ ก็ทำให้งานไหลลื่นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพาแนล IPS ปรับแต่ง Picture mode ได้ รวมถึงการปรับเลื่อนจอภาพในแบบต่างๆ ขอบจอที่บาง รองรับ FreeSync และมีเทคโนโลยี Less Blue Light Pro ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า แต่ภาพยังมีสีสดใส ใช้งานได้อย่างสบายตามากขึ้น เหมาะทั้งการเป็นจอหลัก หรือจะใช้เป็นจอเสริม เพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีทีเดียว

from:https://notebookspec.com/web/686515-msi-pro-modern-monitor-2023

Advertisement

MSI PRODP20ZA คอมจิ๋ว เทรดหุ้น เล่นเกมเบาๆ ต่อได้ 3 จอ ดูหนัง 4K เริ่มหมื่นกว่า

MSI PRODP20ZA มินิพีซีขนาดฝ่ามือ เล่นเกมเบาๆ ดูหนัง 4K เทรดหุ้น ต่อได้ 3 จอ ประหยัดไฟ

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มินิพีซีเครื่องจิ๋ว แต่ประสิทธิภาพเกินตัว พร้อมการเชื่อมต่อครบครัน รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ ปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลายสไตล์ เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานในยุคใหม่ได้หลายรูปแบบ ขุมพลัง AMD Ryzen 5000 series และแรม DDR4 รวมถึงกราฟิก Radeon Graphic ที่ตอบสนองได้ทั้งงานในสำนักงานทั่วไป งานเอกสาร และการทำบัญชี ไปจนถึงการตกแต่งภาพ รวมถึงการใช้งานส่วนตัว เช่นท่องอินเทอร์เน็ต ขายของออนไลน์ และความบันเทิงภายในบ้าน หรือเป็นพีซีเริ่มต้นการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ด้วยมิติที่เล็กกว่าเคสคอมทั่วไปหลายเท่า น้ำหนักเบา จึงติดตั้งได้ง่าย ใช้งานในจุดต่างๆ ของบ้านหรือสำนักงานได้ดี รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายรุ่นใหม่ กับดีไซน์ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน และที่น่าสนใจคือ ประหยัดการใช้พลังงานลง ใครที่ชอบด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท กับการรับประกัน 2 ปีอุ่นใจ ในแบบ Onsite Pickup & Return อีกด้วย ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

MSI PRODP20ZA มินิพีซีตัวจิ๋ว เพื่องานและความบันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  1. มิติที่เล็กมาก ขนาดเทียบเท่าฝ่ามือเองครับ เทียบกับเราเตอร์ขนาดย่อมๆ ก็ยังได้ เล็กกว่าพีซี 6-8 เท่าเลยทีเดียว เพราะขนาด 2.6L เท่านั้น ประหบัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้เยอะ
  2. น้ำหนักประมาณ 1.5Kg เท่านั้นครับ วางมุมไหนก็ได้ โต๊ะไม่เอียงแน่นอน
  3. ออกแบบให้วางแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้หมด แล้วแต่ผู้ใช้จะดีไซน์ จัดโต๊ะคอมได้ง่ายขึ้น
  4. วางตรงไหนในห้องก็ได้ แทบจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน ต่อสายเข้าจอ ก็พร้อมทำงาน เพราะมี WiFi ในตัว
  5. ด้านหน้าทันสมัย เน้นเส้นสายสะดุดตา ติดอยู่นิดนึง คือปุ่มอาจจะดูกลมกลืนไปกับลายด้านหน้าอยู่บ้าง แต่ก็มีแสงไฟสถานะให้พอสังเกตครับ
  6. ด้านข้างซ้ายปิดทึบ ใช้วางแนวนอนได้, ด้านขวามีช่องระบายอากาศ สำหรับพัดลมซีพียู
  7. ด้านหลังจัดพอร์ตมาให้เยอะพอสมควร เช่น USB 3.2, USB 2.0, พอร์ตแสดงผล HDMI, DP และ VGA
  8. การใช้พลังงาน มาพร้อมอแดปเตอร์ 120W ขนาดย่อมๆ มาให้ ไม่เปลืองไฟครับ
  9. ต่อได้ 3 จอเลยครับ สำหรับคนที่ต้องใช้งานหลายจอพร้อมกัน

ข้อสังเกต

  • มีไฟสถานะแสดงผลไม่มาก
  • ไม่รองรับการอัพเกรดการ์ดจอแยก
  • ใช้แรมแบบ SODIMM เท่านั้น

Specification

Description
CPU MODEL AMD Ryzen 3 5300G, 4 core/ 8 thread
CPU COOLING Air cooling
MEMORY DDR4 SO-DIMM 2 slot, Max. 64GB
STORAGE SSD 256GB, PCIe GEN3x4
2x M.2 slot
2x 2.5″ Drive bay
WIRELESS LAN INTEL/3168.NGWG, 802.11ac 1×1+BT 4.2
AUDIO Realtek ALC233, 2.1 Channel HD Audio
I/O PORTS (FRONT) 1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C
Front Audio Mic-In x1,
Headphone x1
I/O Port (Rear) USB 3.2 Gen 2 Type A x1
USB 2.0 TYPE A x3
LAN (RJ-45) x1
WiFi Antenna x2
VGA x1
HDMI x1
DP Out x1
COM Port x1
Power 120W Adaptor
Keyboard/ Mouse RF1430, MA04
PRODUCT DIMENSIONS (WXDXH) 160.55 x 193.3 x 85mm
WEIGHT 1.42Kg.
VESA SIZE 75 x 75 mm
Source: MSI Pro DP20Z

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA


Hardware / Design

MSI PRODP20ZA

การออกแบบของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ ส่วนตัวผมมองว่ามินิมอลกว่ารุ่นที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะตัวถังแค่ 2.3L เท่านั้น มิติประมาณ 16cm x 19.3cm x 8.5cm หากเทียบกับเกมมิ่งตัวน้องอย่าง Trident AS ก็ยังเล็กกว่ามาก แต่จะพอๆ กับ MSI CUBI 5 ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี Pro DP20ZA มีความคล่องตัว และสนับสนุนการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมได้มากกว่า

ด้านหน้าออกแบบมาในโทนสีดำ มีเส้นสายที่มีการสลับไปมา ดูมีมิติ และทันสมัย แทรกปุ่มเพาเวอร์และแสงไฟสถานะมาด้วย พร้อมพอร์ตต่อพ่วง และโลโก้ MSI สีเงิน ซึ่งเป็นแนวที่เราอาจไม่ได้เห็นกันบ่อยบนพีซีขนาดเล็ก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีลวดลายมากนัก

MSI PRODP20ZA

เมื่อมาดูกันแบบใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าเส้นสายที่อยู่ด้านหน้านี้ จะมีมิติยื่นออกมา สลับกับภายในที่เป็นสีดำเงา โดยปุ่มเพาเวอร์จะซ่อนอยู่ในนี้ด้วย ซึ่งหากไม่ได้กด หรือมีแสงไฟสถานะลอดออกมา ก็แทบจะดูไม่ออกว่าเป็นปุ่มเปิดการทำงาน ไฟจะมีสีฟ้าและสีขาว อยู่ตรงด้านบนขวา ใกล้กันก็จะเป็นพอร์ต Front panel ที่อยู่หน้าเครื่อง ประกอบด้วย USB Type-C, Type-A และหูฟัง ไมโครโฟน

MSI PRODP20ZA

ด้านข้างขวา จะเป็นช่องระบายความร้อน โดยเราจะเห็นพัดลมพื้นฐานของทาง AMD ดูดลมเข้ามาจากช่องนี้ เพื่อระบายความร้อนให้กับฮีตซิงก์ของซีพียู ที่อยู่ด้านใน และโลโก้ Pro series และใกล้ๆ กับช่องพัดลม และใกล้กับด้านหน้าจะมีระบุไว้ว่า Design and Engineering by MSI

MSI PRODP20ZA

ด้านซ้ายจะเป็นช่องเล็กๆ สำหรับติดตั้ง VESA Mount กับด้านหลังจอมอนิเตอร์ และฝาผนังเป็นแบบ 75mm x 75mm ส่วนตัวมองว่าเป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก เพราะผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ติดตั้งจอทีวีในบ้าน สำนักงาน สำหรับต้อนรับแขก พรีเซนเทชั่น หรือจะต่อกับจอภาพบางรุ่น เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งใช้งานแบบไร้สาย ก็จะทำให้โต๊ะไม่ดูรกรุงรังอีกด้วย

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ขึ้นอยู่กับการจัดวางองค์ประกอบบนโต๊ะ และความสะดวก ด้วยความกว้าง x ยาวระดับ 160.5 x 193mm เท่านั้น จึงไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน เรียกว่าโต๊ะขนาด 120cm ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมากมาย

ด้านหน้าที่มีพอร์ตต่อพ่วงมาให้ทั้ง USB และแจ๊ค 3.5mm อีกด้านจะเป็นโลโก้ MSI บนเพลทสีเงินสวยงาม

และอีกสองด้านที่เหลือ จะเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งมาในแบบตะแกรงขนาดเล็ก เพื่อให้อากาศไหลเวียนในตัวเคสได้ดีขึ้น ซึ่งหากดูตามการใช้งานแล้ว พีซีเครื่องนี้แทบไม่เกิดความร้อนขึ้นมากมายนัก โดยพัดลมซีพียูสามารถจัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีทีเดียว

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนแบบตะแกรงช่องเล็กและพอร์ตต่อพ่วงมากมาย รวมถึงจุดติดตั้งเสาสัญญาณ WiFi อีกด้วย และเป็นจุดที่ใช้ไขน็อต เพื่อแกะฝาครอบ สำหรับการอัพเกรด

MSI PRODP20ZA

การดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว แตกต่างจากมินิพีซีทั่วไป ทั้งเส้นสาย พอร์ตการเชื่อมต่อ เพียงแต่อาจจะเน้นไปที่ Business เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ใส่เรื่องของแสงสีมากมายนัก แต่ก็เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ดี ดูมินิมอลมากขึ้น


Connector / Thin And Weight

MSI PRODP20ZA

พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหน้า มีเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen2 Type-C ที่ใช้ได้ทั้งการชาร์จไฟ และโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง ส่วนที่เป็น Type-A ผมว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่มี External HDD หรือ SSD ที่ต่อภายนอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลได้ไว เพราะเป็น USB 3.2 Gen2 ความเร็วระดับ 10Gbps เร็วกว่า Gen1 เท่าตัวเลยทีเดียว หรือใครสะดวกจะใช้พอร์ตด้านหลัง จะใช้พอร์ตนี้ในการต่อ เมาส์ คีย์บอร์ดได้เช่นกัน

ใกล้กันจะเป็นแจ๊ค 3.5mm ที่ทาง MSI ใส่แยกเอามาไว้ให้เป็น หูฟัง และไมโครโฟน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน จะต่างจากบนโน๊ตบุ๊คที่เป็นคอมโบมาให้ อาจจะไม่สะดวก เมื่อต้องแยกใช้ไมโครโฟน กับเอาท์พุตเสียง เพื่องานในสำนักงาน

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อหลักจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 Type-A 2 พอร์ต จุดนี้ผมมองว่าเหมาะกับการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเป็นหลัก เพราะไม่ได้เน้นความเร็ว ส่วนด้านล่างจะเป็น USB 3.2 Gen2 ซึ่งตอบโจทย์พรินเตอร์รุ่นใหม่ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล และอื่นๆ ที่เน้นเรื่องความเร็ว ใกล้กันเป็นพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย RJ-45 สำหรับ Gigabit LAN และพอร์ตแสดงผล ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ เพราะมีให้ถึง 3 พอร์ตด้วยกัน ประกอบด้วย

  • VGA สำหรับต่อจอพื้นฐานแอนาลอกบนความละเอียด Full-HD
  • DisplayPort ต่อจอแสดงผลดิจิตอล รองรับความละเอียด 4K เหมาะกับจอรุ่นใหม่
  • HDMI ใช้ได้ทั้งจอมอนิเตอร์ โปรเจกเตอร์ และจอพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป
MSI PRODP20ZA

เสาสัญญาณ WiFi รองรับ 802.11ac และ Bluetooth 4.2 ทำให้การเชื่อมต่อของคุณไม่ติดขัด เพราะมีให้เลือกทั้ง LAN และ WiFi


Inside / Upgrade

MSI PRODP20ZA

การแกะอัพเกรดทำได้ค่อนข้างง่ายบน MSI PRODP20ZA นี้ เพราะไขน็อตเพียง 4 ตัวเท่านั้น สามารถไขออกได้ทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวา

MSI PRODP20ZA

ด้านที่เป็นช่องระบายอากาศ จะเห็นพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ พร้อมฮีตซิงก์ติดตั้งมากลางตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ การกระจายลมออกไปได้ทั่วๆ ภายในเคส และให้ลมออกได้ถึง 3 ด้านด้วยกัน โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด AMD Ryzen 7 5700G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดที่วางจำหน่าย

MSI PRODP20ZA

พื้นที่ติดตั้ง Storage ด้านใน ติดตั้งได้ถึง 3 แบบ และยังอัพเกรดได้ โดยที่ติดตั้งมาให้เริ่มต้นเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 256GB การถอดใช้เพียงไขควงแกะน็อตยึดเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่พื้นที่ค่อนข้างแคบเล็กน้อย

MSI PRODP20ZA

ด้านล่างจะเป็นสล็อตสำหรับติดตั้งแรมเป็นแบบ SODIMM DDR4 3200 เดิมจะติดตั้งมาให้ 8GB มาตรฐาน แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มได้จากสล็อตที่เหลือ อัพเกรดได้สูงสุด 64GB (32GB x2)

MSI PRODP20ZA

แรมในแบบ SODIMM DDR4 3200 8GB จาก Samsung ที่ติดตั้งมาในระบบ

MSI PRODP20ZA

ด้านบนของโมดูล SSD M.2 เป็นพอร์ต SATA III เพิ่มเติมมาให้ สำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ หรือสำหรับโน๊ตบุ๊ค รวมถึง SSD SATA III เพิ่มได้อีก 2 ตัวด้วยกัน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้แล้ว อีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ด ก็สามารถแกะเปิดออกมาได้ ให้คุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มีสล็อต M.2 PCIe รองรับการติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มได้อีก 1 โมดูล รวมเป็น 2 โมดูลทั้งด้านหน้าและหลัง ได้ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้น และความเร็วที่จาก SSD อีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจะใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบต่อภายนอก


Performance / Software

MSI PRODP20ZA

โปรแกรม CPUz รายงานซีพียูที่ติดตั้งมาบน MSI PRODP20ZA รุ่นนี้เป็น AMD Ryzen 3 5300G เป็นแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วสูงสุดประมาณ 4.2GHz ซีพียูรุ่นนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มของกราฟิกในตัว ให้ประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง หรือเล่นเกมเบาๆ แต่อาจจะไม่ได้เจาะจงสำหรับงานเฉพาะทาง เช่นงานตัดต่อ แต่งภาพจริงจังหรืองานด้านวิศวกรรมโหดๆ ได้มากนัก

MSI PRODP20ZA

ติดตั้งแรม DDR4 3200 ในแบบ SODIMM 8GB และใส่เพิ่มอีก 8GB เป็น 16GB มีให้ติดตั้งได้ 2 สล็อต

MSI PRODP20ZA

การทดสอบเบื้องต้นบน CPUz นี้ เทียบกับซีพียูรุ่นพี่อย่าง AMD Ryzen 7 2700X ที่เป็นแบบ 8 core/ 16 thread ซีพียู Ryzen 3 สามารถเบียดบี้ได้อย่างสูสี และโดดเด่นในงาน Single core ด้วยสัญญาณนาฬิกาที่สูง แม้จะเป็นรองในแง่ของ Multi-thread เพราะคอร์ เธรดน้อยกว่านั่นเอง

MSI PRODP20ZA

กราฟิกเป็นแบบ Integrate ที่มาในตัวซีพียู AMD Ryzen 3 รุ่นนี้ กับ Radeon Graphic ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับการเล่นเกมโดยตรง เพราะจะเน้นที่การทำงาน ดูหนัง กับงานกราฟิกพื้นฐาน แต่ก็สามารถเล่นเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากๆ หรือแนวเกมออนไลน์ เช่น Genshin, Chrono Odyssy รวมถึงเกมพีซีที่แค่ปรับ Detail ก็สามารถเล่นได้ในหลายๆ เกม สามารถชมในส่วนการทดสอบเกมด้านล่างนี้ได้

MSI PRODP20ZA

การทดสอบ PCMark10 ให้ผลออกมาได้น่าพอใจ เพราะถ้าเทียบกับพีซีพื้นฐานขนาดใหญ่ MSI Pro DP20ZA นี้ ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในชีวิตประจำวันได้ดีพอสมควร กับคะแนนรวมที่มากถึง 5,621 คะแนน รวมถึงคะแนน Essentials และ Productivity ที่มาแตะเกือบ 10,000 เพราะหลายครั้งที่เราทดสอบมาใน 2 ส่วนนี้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ แสดงถึงความไม่ธรรมดาของซีพียูและการทำงานในภาพรวม

MSI PRODP20ZA

สำหรับ CINEBench นั้น จะเป็นการทดสอบด้านกราฟิก 3D Animation แม้ว่าจะเป็นซีพียูน้องเล็กอย่าง AMD Ryzen 3 แต่ก็สามารถผ่านการทดสอบได้ไม่ยาก แม้ว่าจะทำคะแนนได้ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับซีพียูรุ่นพี่ๆ ที่มี Core/ Thread จำนวนมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่าพลังของซีพียูระดับ 4 core นี้ ก็พอจะช่วยให้ใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้จะแนะนำให้ใช้งานกับโปรแกรมขั้นสูงเช่นนี้ เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และอาจใช้เวลาในการประมวลผลมากเกินไป แต่ถ้าเป็นโมเดล AMD Ryzen 7 ก็พอจะช่วยงานนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRODP20ZA

กับผลทดสอบด้านเกมกราฟิก ด้วยโปรแกรม 3DMark กับกราฟิก Radeon Graphic บนซีพียู AMD Ryzen 3 5300G นี้ แม้ว่าจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ก็แสดงศักยภาพได้ดีในระดับหนึ่ง โดยคะแนนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ผ่านการทดสอบมาได้ อยู่ในเกณฑ์ของกราฟิกบนซีพียูในหลายๆ รุ่น อย่างไรก็ดี หากมีความต้องการเล่นเกม ร่วมไปกับการใช้งานพื้นฐาน บนเคสขนาดเล็กเช่นนี้ แนะนำโมเดลที่เป็น Ryzen 7 5700G ที่จะช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้พอสมควร

ทดสอบการเล่นเกม

MSI PRODP20ZA

เราทดสอบการเล่นเกม เพื่อให้เห็นศักยภาพของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ กับเกมพื้นฐานแนว MOBA อย่าง DOTA2 กับการปรับ Detail Fastest mode บนความละเอียด Full-HD เพื่อเน้นความลื่นไหล ตัวเกมสามารถให้เฟรมเรตได้ถึง 80-90fps. แต่ถ้าปรับเป็น High ให้เฟรมเรตเฉลี่ยที่ 47-48fps. แม้จะมีเอฟเฟกต์จากเวทย์ของฮีโรก็ตาม แนะนำตั้งค่านี้ได้เลยหากต้องการเล่น

MSI PRODP20ZA

ส่วนเกม PUBG บนความละเอียด Full-HD 1080p ตั้งค่า Very Low Detail ให้เฟรมเรตได้ในระดับ 39-45fps มีบ้างที่ขึ้นไป 50fps. บางจังหวะ แต่ก็ทำให้เล่นเกมนี้ได้ แนะนำให้ตั้ง Render scale ในระดับ 70-90 จะไม่กระทบต่อเฟรมเรตมากนัก และเล่นเกมได้สบายตามากขึ้น

MSI PRODP20ZA

มาสู่บททดสอบในด้านงานวีดีโอกันบ้าง ด้วยการ Export คลิปวีดีโอความละเอียด Full-HD มีความยาว 15 นาที ใส่เอฟเฟกต์ทั่วไป ด้วยการ Insert ภาพและเสียง ระบบใช้เวลาในการทำงานประมาณ 32 นาที ก็เป็นอันเสร็จสิ้น อย่างที่ได้แนะนำไปว่า หากต้องการจะเน้นไปที่การทำงานที่หนักมากขึ้น กับโปรแกรมเฉพาะทาง ทางเลือกของโมเดลรุ่น AMD Ryzen 7 มีความน่าสนใจ ส่วนในช่วงการใช้งานอาจมีบางจังหวะที่กระตุกเล็กน้อย เช่น ระหว่างการเลื่อนไทม์ไลน์ และพรีวิวภาพ เป็นปกติของการใช้งานที่เป็นซีพียูรุ่นน้องเล็ก และการ์ดจอแบบออนบอร์ดนั่นเอง แต่ในภาพรวมถือว่าทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง

MSI PRODP20ZA

และในครั้งนี้เราใช้งานร่วมกับจอแสดงผล MSI PRO MP241X ซึ่งเป็นจอที่ให้พื้นที่แสดงผล 23.8″ ใกล้เคียงกับ MSI PRO MP243 ความละเอียด Full-HD โดยเป็นจอพาแนล VA ให้ความสว่างสดใส และมุมมองที่กว้างใกล้เคียงกับ IPS เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะนำไปใช้ในสำนักงาน กับความสว่างสดใส และสีสันที่คมชัด ปรับแต่งได้ง่ายผ่านทางปุ่ม OSD ด้านหลังจอ มาพร้อมพอร์ตแสดงผล ที่มีให้เลือกทั้ง HDMI และ VGA เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

MSI PRODP20ZA

แต่ที่น่าสนใจคือ MSI PRO MP241X รุ่นนี้ มี VESA Mount ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับ Wall mount หรือ Arm table เพื่อแขวนหรือติดกับขาจับจอบนโต๊ะได้ง่าย รวมถึงเมื่อใช้ร่วมกับอแดปเตอร์ ก็จะสามารถต่อ MSI Pro DP20ZA เข้ากับด้านหลังจอ เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อีกด้วย นับว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับการทำงานในทืุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้แบ่งหน้าจอในการใช้งานได้สะดวก และใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร ตรวจเช็คไฟล์งาน หรือจะด้านความบันเทิง ดูหนัง พร้อมดูหุ้นไปพร้อมกัน ด้วยการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย เช่น การเพิ่มหรือลด Scale บนหน้าจอ ก็ช่วยให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นแล้ว

MSI PRODP20ZA

ด้วยมุมมองที่กว้าง ก็ทำให้การใช้งานด้านภาพและวีดีโอได้ชัดเจน ผิดเพี้ยนน้อย รวมถึงใช้ในการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือสมาชิกภายในบ้านให้เห็นได้อย่างชัดเจน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถต่อจอแสดงผลได้ถึง 3 จอพร้อมกัน ผ่านทางพอร์ตสัญญาณ Output ที่อยู่ทางด้านหลังของ MSI PRODP20ZA ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort และ VGA ให้คุณขยายศักยภาพการทำงานของคุณได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล เทรดหุ้น ไปจนถึงการสตรีมมิ่งได้แบบลื่นๆ เลยทีเดียว


Battery / Heat / Noise

MSI PRODP20ZA

สุดท้ายก็เป็นเรื่องของอุณหภูมิในการทำงาน เห็นเคสเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็จัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะกับพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ และครอบคลุมอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งเมนบอร์ด ลมที่พัดเข้าไป ก็สามารถกระจายลมไปได้ทั่ว ลดความร้อนได้ดี โดยอุณหภูมิสูงสุดในการทดสอบบนแบบ Full load บนโปรแกรม FURmark อยู่ที่ราว 76 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-68 องศาเซลเซียสเท่านั้น ถือว่าทำได้ดี เพราะโอกาสการใช้งานซีพียูระดับ 100% แบบนี้ มีไม่มากนัก ฉะนั้นหากเป็นการทำงานโดยทั่วไปน่าจะอยู่ที่ราว 55-60 องศาเซลเซียส เท่านั้น


Conclusion / Award

MSI PRODP20ZA

สรุปภาพรวมของ MSI PRODP20ZA รุ่นนี้ ผมว่าเหมาะกับคนที่ต้องการคอมทำงาน หรือใช้ในสำนักงานยุคใหม่ เน้นความมินิมอล ดูมันสมัย ลองนึกภาพดูครับว่า บ้านที่เป็นแบบ Smart Home ใช้งานไร้สายให้มากที่สุด โต๊ะคอมที่ไม่ต้องเทอะทะ และพีซีที่จัดวางได้ในทุกแนว ตกแต่งห้องได้สวย แต่ทำงานที่เหมือนกับใช้คอมเครื่องใหญ่ จะต่อ 3 จอก็ง่าย ทำงานเอกสาร ท่องเน็ตหาข้อมูล หรือจะเทรดหุ้น สตรีมมิ่งวีดีโอไปพร้อมกัน ก็ยังได้ครับ

แต่ก็บอกตรงๆ ว่าอาจจะไม่ใช่สำหรับคอเกม ด้วยสเปคที่ไม่ได้ใส่การ์ดจอแยกมาให้ จะเล่นได้ในบางเกม ที่ไม่ได้เรียกใช้ทรัพยากรมากมายนัก เกมออนไลน์พอเล่นได้แบบที่เราได้ทดสอบบน DOTA2 และ PUBG ที่เล่นได้ลื่นในระดับ Low หรือ Medium Detail ในแง่ของการอัพเกรด ก็ยังทำได้ แม้ในเคสจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม เพราะเพิ่มได้ทั้ง SSD และ RAM บนสล็อตที่เหลือ 

สุดท้ายก็คือ พอร์ตที่ให้มาก็เรียกว่าเกือบครบครัน ให้คุณต่อพ่วงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมี WiFi มาในตัวอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท การรับประกัน 3 ปี เป็นแบบ Onsite Pickup and Return อุ่นใจได้ในการใช้งาน โดยซีรีย์ DP20ZA จะมีทั้งหมด 3 รุ่น

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

  • MSI PRODP20ZA 5M-205TH เริ่มต้น 23210.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-206TH 18920.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-207TH 15070.-

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA

from:https://notebookspec.com/web/682753-msi-pro-dp20za-mini-pc

จอคอมมือสอง 2023 น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี เช็คอย่างไรให้ได้ของดี คุ้มค่า

จอคอมมือสอง 2023 รุ่นไหนน่าใช้ เลือกอย่างไรดี จอคอมเกมมิ่ง วิธีเช็คง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อ

จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง อย่าไปซื้อ! ปี 2023 แล้วซื้อจอใหม่ดีกว่า… มักคำเตือนแบบนี้มักจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอ เมื่อรู้ว่าเราจะซื้อจอมือ 2 มาใช้งาน ซึ่งก็อาจจะเป็นคำเตือนที่ดี แต่บางทีก็ขัดกับใจใครบางคน เพราะบางทีงบประมาณจำกัด แต่ก็อยากได้จอคอมใหญ่ๆ ความละเอียดสูงมาใช้ 2K, 4K หรือยิ่งได้รีเฟรชเรตสูงๆ 144Hz ขึ้นไป แบบจอเกมมิ่ง ก็ยิ่งดี แต่ราคาต้องเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าด้วย การที่จะได้จอที่ถูกใจมานั้น คงไม่ใช่แค่กำเงินที่มี แล้วเดินไปหาอย่างเดียว เพราะคุณจะต้องพอเช็คสภาพจอ รวมถึงกลไกต่างๆ ในการขายของจากบรรดาพ่อค้า วันนี้เรามาดูกันครับว่า การจะเลือกจอมือ 2 เหล่านี้ จะซื้ออย่างไร ที่ไหนและต้องเช็คอะไรบ้าง


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย?

จอคอมมือสองน่าซื้อมั้ย ข้อนี้ต้องถามใจคุณดูก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับสภาพได้แค่ไหน มีความอดทนมากพอมั้ย และจอที่คุณมองไว้ เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ เพราะราคาจะเป็นตัวกำหนด บางครั้งถูกมากไป ก็ได้ลุ้น แพงไปก็อาจจะไม่คุ้ม ฉะนั้นก็ต้องอยู่กลางๆ แต่หากคุณได้จอดีๆ มาใช้ ในราคาที่ถูกกว่าราคากลางในตลาด ก็ถือว่าคุณโชคดีมาก แต่กว่าจะได้จอมือสองแบบนั้นก็คงจะไม่ง่าย

Advertisementavw
จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง ก็คล้ายกับของมือสองอื่นๆ ในตลาด มีให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การได้ของที่ถูกใจ ในราคาถูกมาใช้ แต่ของเหล่านั้น ก็ถูกใช้งานมาแล้ว โอกาสที่มีข้อบกพร่องหรือเกิดความเสียหายก็มีเช่นกัน เช่นเดียวกับสภาพของจอ บางคนก็ดูแลดี เก็บรักษาอยู่ในห้อง แต่บางคนก็ไม่ได้ดูแล มีกระแทกบ้าง สัตว์เลี้ยงมาแทะ ซนชนจนหล่นตกแตก หรือบางทีก็ชอบเอานิ้วจิ้มจอ เป็นต้น ก็อาจจะมีผลต่อการใช้งานเช่นกัน

จอคอมมือสอง

รวมถึงของที่ใช้แล้ว ก็มีความเสื่อมเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นจอที่มีอายุในตลาดมายาวนาน และใช้งานต่อเนื่อง ลองนึกสภาพว่า ผู้ใช้ไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะเปิดใช้ทำงานแค่วันละ 5-8 ชั่วโมง ส่วนเกมเมอร์บางคน อาจจะเล่นต่อเนื่องวันละ 12 ชั่วโมง ความเสื่อมสภาพของหน้าจอ หรืออายุการทำงาน ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อครบปี โอกาสที่คุณจะรับไปใช้ต่อ แล้วเกิดปัญหาหรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนได้บ้าง ก็มีอยู่ไม่น้อย

จากข้อมูลพื้นฐานของผู้ผลิต จอภาพในแบบ LED นั้น จะมีอายุการใช้งานราวๆ 80,000-120,000 ชั่วโมง หรือราวๆ 20 ปี ในกรณีที่ใช้วันละ 8 ชั่วโมงนะ (อ้างอิง: digitalworld839.com) ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อุณหภูมิ ความชื้นหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้แผงวงจรหรือพาแนลเสียหายได้

จอคอมมือสอง

ยังไม่รวมถึงสภาพแวดล้อมหรือการจัดเก็บดูแล บางบ้านอยู่ในห้องปรับอากาศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ก็จะยังอยู่ในสภาพที่ดี เพราะชิ้นส่วนภายใน ไม่เจอกับอุณหภูมิที่สูง ก็จะทนทานกว่าจอภาพที่อยู่ในห้องธรรมดา อากาศร้อน หรือบางทีก็เสี่ยงกับความชื้น เช่นวางใกล้หน้าต่าง หรือสัตว์เลี้ยง แมลง มด สิ่งเหล่านี้ มีส่วนทำให้จอภาพเสียได้ไวขึ้น

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณได้จอคอมมือสองที่ถูกใจ ในราคาถูกลงเกือบครึ่ง สภาพดี มีประกัน แบบนี้ใครก็อยากเสี่ยง ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นถ้าคุณชอบของดี ราคาโดน เราไปดูรายละเอียดกันครับ ว่าจะเลือกอย่างไรบ้าง


ซื้อที่ไหนดี?

หลายคนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อจอคอมมือ 2 มาใช้เป็นการชั่วคราว และเก็บเงินซื้อจอใหม่ที่ดีกว่า อาจจะด้วยสาเหตุที่จอเก่าเสีย ส่งต่อให้คนอื่นหรือบางทีก็งบประมาณจำกัด ต้องการจะใช้จอที่มีคุณสมบัติตามต้องการ ซึ่งของใหม่อาจจะราคาสูงเกินเอื้อม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าซื้อจอได้ที่ไหนบ้าง เรามีข้อมูลมาเป็นแนวทางครับ

ห้างไอที ร้านตู้ มีร้านเยอะ ความหลากหลายอยู่ที่จังหวะ ราคาอาจสูงบ้าง แต่เห็นของ เช็คสภาพได้เลย ร้านออนไลน์ มีให้เลือกหลากหลาย ชำระผ่านแพลตฟอร์ม ราคาอยู่ที่สภาพและความต้องการ จัดส่งมั่นใจได้ กลุ่มและคอมมูนิตี้ มีให้เลือกเยอะ ราคาดี มีให้บิดกับพ่อค้า ความไว้วางใจ ชำระเงิน ส่งของ เร็วช้าอยู่ที่เครดิต

ห้างไอที: ห้างเหล่านี้ หลายๆ แห่งจะมีบรรดาร้านที่มีจำหน่ายอุปกรณ์คอมมือสองอยู่ด้วย จะมีทั้งร้านเล็กและร้านใหญ่ บางร้านก็จะมีหน้าร้านออนไลน์เอาไว้ด้วย คุณสามารถสอบถามข้อมูล ราคา ก่อนจะเข้าไปดูตัวจริงที่ร้าน ข้อดีของการซื้อแบบนี้อยู่ที่ การได้เห็นตัวจริงสินค้า สภาพ มีร้านการันตี หน้าร้านชัดเจน ต่อรองราคาได้ และมั่นใจเรื่องการบริการ แต่อาจจะมีให้เลือกไม่หลากหลาย รวมถึงราคาอาจจะสูงเล็กน้อย เพราะร้านมีค่าใช้จ่าย รวมถึงเราต้องเดินทางไป และบางครั้งก็อาจจะไม่มีของที่เราต้องการ

จอคอมมือสอง

ร้านค้าออนไลน์: ในนี้เราจะรวมเว็บไซต์ที่เป็นตลาดซื้อขายเข้าไปด้วย ซึ่งในบ้านมีให้เลือกเข้าไปช้อปมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Kaidee หรือ Pantipmarket เป็นต้น ข้อดีของร้านค้าเหล่านี้คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการ ตั้งแต่ คัดกรองสินค้า ผู้จำหน่าย รวมถึงการค้นหา การชำระเงิน ส่วนใหญ่จะปลอดภัย สะดวก แต่ที่เหลือคือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องเช็คสินค้าและดูรายละเอียดให้ครบถ้วน ก่อนจ่ายเงิน และหลังจัดส่ง รวมถึงมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สอบถามรายละเอียดในแต่ละร้านได้โดยไม่ต้องโทรหา หรือเดินหาด้วยตัวเอง แค่แชทผ่านช่องทางที่กำหนด ทำราคาได้ค่อนข้างดี มีระบบจัดส่งที่วางใจได้ แต่คุณจะไม่ได้เห็นสินค้าแบบสัมผัสได้ หรือว่าทดสอบได้นั่นเอง

จอคอมมือสอง

Group หรือ Community: ส่วนใหญ่จอคอมมือสองจะเป็นกลุ่มใน Facebook ที่มักรวมกันเป็น Community ที่มีคนที่เป็นสมาชิกที่ชื่นชอบในสินค้าหรืออุปกรณ์แบบเดียวกัน เช่น กล้อง การ์ดจอ คอมพิวเตอร์ รวมถึงจอคอมด้วยเช่นกัน ข้อดีของ Community แบบนี้คือ ไม่ใช่แค่การมองหาแล้วซื้อ แต่คุณยังเปิดรับสินค้า ให้ผู้ขายเข้ามานำเสนอได้ บางครั้งแข่งกันเรื่องราคา ผู้ซื้อก็จะได้ราคาพิเศษไป แม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ซื้อก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะกลุ่มไม่ได้เป็นแพลตฟอร์ม การคัดกรองค่อนข้างยาก มีทั้งผู้ที่จำหน่ายจริง และคนที่ไม่สุจริตเข้ามาแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนที่สำคัญคือ การชำระเงิน การส่งของ จนกว่าจะถึงปลายทาง เพราะโอกาสที่ผิดพลาดก็มีสูง จากเคสต่างๆ เช่น โอนเงินแล้ว แต่ไม่ส่งของ ส่งของไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ส่งของเสียมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นการหมุนเงินก่อน กว่าจะส่งของก็เป็นเดือนๆ หรือบางทีก็ไม่ส่ง การติดตามก็ยาก ช่วงหลายปีมานี้ ก็มีการใช้วิธี Verify ตัวบุคคล การสร้างเครดิตผู้ขาย รวมถึงการชำระแบบผ่านกลางแอดมินเป็นต้น

ห้างไอที ร้านค้าออนไลน์ Group หรือ Community
ความสะดวก ต้องเดินทางไป ดูข้อมูลง่าย ดูข้อมูลง่าย
ความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา มีหลายร้านให้เลือก มีผู้ค้าจำนวนมาก
เช็คสินค้า เช็คได้ทันที ดูจากภาพ วีดีโอ ดูจากภาพ วีดีโอ
การชำระเงิน สะดวกจ่ายได้เลย หลายช่องทางตามสะดวก ขึ้นอยู่กับผู้ขาย
การจัดส่ง รับกลับได้ทันที รอร้านตามกระบวนการ ช้า/เร็ว อยู่ที่ความรับผิดชอบผู้ขาย
การรับประกัน เช็คได้ที่ร้าน ตามเงื่อนไข ตามที่ตกลงกับผู้ขาย
ความเชื่อมั่น มีหน้าร้านอุ่นใจ มีแพลตฟอร์มคืนได้ อยู่ที่เครดิตและความรับผิดชอบ
ราคา บวกจากปกติอยู่บ้าง ตามกลไกตลาด ถูก แพงอยู่ที่จังหวะและความต้องการ

เลือกอย่างไร?

ก่อนจะเลือกจอคอมมาใช้งาน ก็ต้องดูจากความต้องการของตนเองก่อนว่า อยากได้จอแบบไหน มาใช้งานอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะไปส่องจอคอมมือสอง เพราะจอแต่ละแบบก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งราคาก็จะต่างกันด้วย เราไปดูกันก่อนว่าจอแบบไหน มีลักษณะอย่างไร

จอคอมมือสอง

จอคอมใช้งานทั่วไป: โดยพื้นฐานจะใช้สำหรับงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร การเรียนรู้ หรือทำรายงาน แต่งภาพบ้าง สามารถใช้จอใหญ่ระดับ 24″-27″ ได้ ความละเอียด Full-HD และมีฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น Low Blue Light อัตรารีเฟรชเรตพื้นฐาน 60Hz อาจจะรองรับ HDR ได้บ้าง พาแนล IPS ปรับแต่งได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงขั้นมี Game Mode ราคาจะไม่ค่อยสูง เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน

จอคอมทำงานเฉพาะทาง: จอคอมในกลุ่มนี้ ต้องการขอบเขตสี และความแม่นยำของสีสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำสื่อสิ่งพิมพ์หรืองานด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก 3 มิติ แอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก รวมถึงงานด้านภาพ ตัดต่อวีดีโอ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นคือ จอต้องมีการแสดงภาพที่แม่นยำ สีสันคมชัด มองเห็นในมุมต่างๆ ได้ไม่ผิดเพี้ยน ปัจจุบัน เช่น มีขอบเขตสีครอบคลุมระดับ 100% sRGB พร้อมความแม่นยำของสี Delta E (ΔE) < 2 (น้อยกว่า 2) ความละเอียดสูง เพื่อให้รองรับงานและแอพพลิเคชั่นได้ดี เช่น 2K หรือ 4K มีความสว่างสูง ลดแสงสะท้อน การมีอัตรารีเฟรชเรตสูง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าจอทั่วไป ก็ทำให้ราคาของจอภาพพุ่งสูงกว่าจอแบบอื่นๆ

จอคอมมือสอง

จอคอมเล่นเกม: Gaming monitor เป็นจอคอมที่เราเห็นได้บ่อย เมื่อค้นหาคำว่า จอเกมมิ่ง จอเล่นเกมนี้จะต่างจากแบบทั่วไปในหลายด้าน ว่ากันตั้งแต่พื้นที่แสดงผล ตั้งแต่ 24″ ขึ้นไป หากคุณอยากใช้จอใหญ่ 27″-29″ อาจจะยังไม่ทำให้คุณต้องถอยร่นจากจอมากนัก เห็นได้เต็มตายิ่งขึ้น รวมถึงความละเอียด ส่วนใหญ่อยากได้ฟีเจอร์ครบ เทคโนโลยีจัดเต็ม 24″ Full-HD เป็นตัวเริ่มต้น แต่ถ้าเครื่องคอมคุณแรงพอ การ์ดจอเทพ จัดไป 2K (1440p) และ 4K (2160p) แต่อย่าลืมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงขึ้น เริ่มต้นที่ 144Hz จะเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ดีทีเดียว

จอคอมมือสอง

นอกจากนี้หากคุณเลือกจอที่มีการปรับแต่งเพิ่มได้ เช่น Game Mode ให้เลือก รวมถึงเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น nVIDIA G-Sync หรือ AMD FreeSync เป็นต้น เช่นเดียวกับฟีเจอร์ที่ติดกับตัวจอมาด้วย ในการช่วยให้การเล่นเกมสนุกหรือได้เปรียบมากขึ้น เช่น Crosshair หรือ Night Vision เป็นต้น และที่สำคัญถ้าได้ปุ่มที่ปรับแต่ง OSD ได้ง่าย ยิ่งใช้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งได้ก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อม Gaming monitor ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

จอคอมมือสอง

จอคอมสำหรับความบันเทิง: จะเน้นไปที่จอคอมที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ให้ความละเอียดสูง และมีสีสันสดใส ไม่จำเป็นต้องมีอัตรารีเฟรชเรตที่สูงมาก แต่ให้การสนับสนุนด้านภาพที่ดี มีความสว่างสูง และมุมมองที่กว้าง เพื่อการรับชมได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงพาแนลแบบ IPS ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย บนจอกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น OLED, Mini OLED, QuantumDot เป็นต้น ที่นอกจากจะให้ความคมชัดสดใส สีดำดำสนิทแล้ว ก็ยังสนับสนุนหรือได้ Certified DisplayHDR ที่ทำให้การแสดงผลมีความกลมกลืนสวยสมจริง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง และผู้ใช้ยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลให้เข้ากับการใช้งานได้อีกด้วย สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับพาแนลที่ใช้และเทคโนโลยีที่เติมเข้ามานั่นเอง


เช็คสภาพจอได้อย่างไร?

เมื่อได้รับจอคอมมาแล้วต้องเช็คอะไรบ้าง? เป็นคำถามที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ซื้อจอมือสองมาใช้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อแบบออนไลน์ และไม่ได้ทดสอบมาก่อน แนะนำว่าให้รีบทดสอบก่อนภายใน 7 วัน ที่มักจะเป็นประกันแบบสากล มีความผิดปกติจะได้แจ้งกับผู้ขายให้ได้รับทราบก่อน เผื่อว่าอาจจะต้องส่งคืน หรือส่งเคลม (อย่างไรก็ดี ย้ำกันอีกทีว่า การซื้อของมือสอง ก็อาจจะไม่ได้ใหม่กริ๊บ สวยไร้ริ้วรอยเสมอไป ยกเว้นว่าคุณได้มาครอบครอง ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ)

จอคอมมือสอง

สภาพโดยทั่วไป น่าจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุด ก่อนจะไปดูสิ่งอื่นๆ ว่ากันที่ กรอบจอ ไม่อ้า ไม่กางออก ไม่แตกหัก งานประกอบเรียบสนิท ไม่มีคราบกาวไหลเยิ้ม อย่างน้อยถ้าเป็นงานซ่อม ก็ต้องออกมาดี รวมถึงด้านหลังจอ ควรยึดกับฐานได้แน่น ไม่หลวมหลุดแกว่งไปมา ซึ่งจะบอกถึงความแข็งแรงได้ดี

จอคอมมือสอง

ฐานขาตั้ง ข้อต่อ ขาตั้งจอควรมีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ หากเป็นจอที่ปรับมุม ก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา, หรือ Pivot ได้ ก็ควรให้เป็นไปตามนั้น ยกเว้นว่าคุณยอมรับสภาพนั้นอยู่แล้ว เพื่อราคาที่ถูกลงมากๆ ก็เป็นข้อยกเว้น เพราะอย่าลืมว่า เวลาที่ใช้งาน สายตาคุณจะไม่แกว่งไปตามจอภาพนั่นเอง

จอคอมมือสอง

ปุ่มปรับแต่ง สำคัญมากๆ สำหรับการใช้งาน เพราะบางครั้งคุณต้องปรับเลื่อนเลือกฟังก์ชั่น เพิ่ม-ลดความสว่าง หรือการเปลี่ยนโหมดการใช้งาน บางรุ่นมีแค่ OSD settings มาให้ แต่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ หากปุ่มเสียไปกด เลื่อน เลือกไม่ได้ ก็จะปรับอะไรไม่ได้เลย จึงต้องเช็คให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

พอร์ตสัญญาณ ควรจะต้องใช้ได้ทุกช่อง ให้ต่อสายจากคอมมาเช็คในทุกๆ พอร์ต ไม่ว่าจะเป็น VGA, DVI, HDMI หรือ DisplayPort บางรุ่นมี USB Type-A, Type-C สำหรับ PD Charging หรือช่อง Audio-Out มาอีกด้วย วันนี้คุณอาจไม่ได้ใช้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่ ยิ่งมีฟีเจอร์ KVM หรือ Display-Out ต่อจอเสริมได้ ก็ควรจะต้องใช้งานได้ตามปกติ

จอคอมมือสอง

ระบบไฟ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะใช้อแดปเตอร์ตัวแปลงไฟ หรือต่อสาย Powercord ต่อตรงก็ตาม ต้องแน่น ไม่หลุดหลวม เพราะโอกาสที่เกิดการลัดวงจร หรือภาพดับบ่อยๆ สามารถส่งผลเสียต่อการใช้งานอยู่ไม่น้อยเลย

จอคอมมือสอง

อุปกรณ์เสริม บางครั้งอาจจะครบ หรือไม่ครบ ก็ไม่ได้เป็นประเด็น แต่สิ่งที่ควรมี ก็ต้องมี เช่น น็อตสกรูสำหรับยึดจอเข้ากับขาตั้ง หรือสายไฟ สายสัญญาณ ในส่วนอื่นๆ ที่เสริมมานั้น ก็แล้วแต่กรณีไป ซึ่งถ้าเป็นเฉพาะของจอรุ่นนั้นๆ ก็ควรต้องสอบถามผู้ขายให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

หลังจากที่เช็คสภาพจอโดยทั่วไปแล้ว ก็ได้เวลาเช็คสิ่งสำคัญ นั่นคือการแสดงผล แม้จะเป็นจอคอมมือสอง แต่ก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสว่าง ภาพที่คมชัด ไม่มี Dead/Bright dot จนรบกวนการใช้งาน ไปจนถึงไม่มีเส้น แตก ลายเมื่อใช้งานต่อเนื่อง เป็นต้น แล้วจะเช็คได้อย่างไร?

เช็คบนวินโดว์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจเช็ค ด้วยการเปิดจอในหน้า Desktop ว่างๆ ด้วยการคลิ๊กขวาบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก View > เอาเครื่องหมายหน้า Show icon ออก แล้วเปลี่ยนสีของหน้าจอ ไปเป็นสีต่างๆ แล้วสังเกตสิ่งเหล่านี้

จอคอมมือสอง
  • เปิดหน้าจอสีขาว ต้องไม่มีจุดดำหรือ Dead pixel หรือถ้ามีมากสุดแค่จุดเดียว ก็ทำให้คุณเสียสมาธิและเสียอารมณ์ในการใช้งานได้แล้ว ยกเว้นว่าคุณรับได้
  • เปิดหน้าจอสีดำ ต้องไม่มีจุดสะดุดตา สีขาวหรือสีแดง ที่เป็น Hot pixel หรือ Bright pixel เพราะจะอารมณ์เดียวกันกับ Dead pixel และเป็นไปได้ว่า จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นเพิ่มได้อีกด้วย
  • ไม่มีเส้นในแนวยาว หรือแนวตั้งปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะตอนเปิดจอใหม่ๆ หรือใช้งานไปนานๆ ก็ตาม
  • อาการแสงรั่ว ตรงนี้อยู่ที่การผลิตจอ ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นกันในจอรุ่นใหม่ๆ ถามว่าน่ากังวลมั้ย ก็อาจจะมีอยู่บ้าง เมื่อเราใช้ในสภาพแวดล้อมที่มืดๆ ตรงจุดที่รั่วออกมาเยอะ อาจทำให้ความชัดลดลง และมีความรำคาญบ้างในบางครั้ง ซึ่งหากคุณงบน้อยจริง ต้องซื้อจอรุ่นเก่า พอรับได้ก็ดี แต่ถ้าจะซื้อจอกลางเก่ากลางใหม่ ก็ให้สังเกตเอาไว้หน่อยครับ รั่วเล็กน้อย แค่ขอบมุม พอได้ แต่ถ้ารั่วออกมากินพื้นที่จอเยอะเกินไป ก็ลองคุยกับผู้ขายดูอีกที

แต่ถ้าในกรณีที่ไม่แน่ใจจอคอมมือสองที่ได้มานี้ ใช้งานได้ดีมั้ย อยากจะเช็คการแสดงผลให้ละเอียดไปกว่านั้น ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ทดสอบมาเป็นตัวช่วยได้ เรียกว่า DPT หรือ Dead Pixel Tester ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ โปรแกรมนี้สามารถแสดงผลให้เราทราบได้เลยว่า มีความผิดปกติใด เกิดขึ้นกับจอคอมมือสองที่ซื้อมาบ้าง ไม่ใช่แค่ Dead/ Hot/ Bright Pixel เท่านั้น แต่การแสดงผลสีขาว/ ดำ หรือวงกลม สมดุล เส้นขอบแนว ก็ทำได้หมด จากตัวอย่างที่เรานำมาให้ชมนี้

จอคอมมือสอง ซื้อได้ ควรระวัง
สภาพโดยรวม ไม่แตกร้าว เบี้ยวหัก เสียหาย แตก งอ ชิ้นส่วนหาย
ขาตั้ง ฐาน รับน้ำหนักจอได้ สมดุล ปรับหมุนปกติ เอียง พับ เขย่าหรือเสียสมดุลเมื่อใช้
จอภาพ แสดงผลชัดเจน สว่าง สีสดใส ไม่มัว ภาพคมชัด ไม่กระพริบ จอสีเหลือบ มีเส้น หรือ Dead pixel เยอะ
พอร์ต ใช้งานได้ครบ ต่อพ่วงได้ตามปกติ พอร์ตเสีย สัญญาณขาดหาย ขั้วต่อเบี้ยง เอียง เสียบไม่แน่น
ปรับแต่ง ปุ่มใช้งานปกติ ตั้งค่าการทำงานได้ เปิด OSD settings ไม่ได้ ปุ่มพัง กดไม่ติด
เสียง เสียงดัง ฟังชัด ไม่ขาดหาย เสียงแตก ติดๆ ดับๆ
ประกัน ประกันศูนย์ ประกันร้าน ประกันใจ

Conclusion

จอคอมมือสอง

นอกจากคอมมือสอง จอคอมมือสองก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่งบประมาณจำกัด หรือบางทีอาจจะหามาใช้เป็นจอสำรอง และนำไปใช้เป็นจอเสริม ต่อแบบมัลติมอนิเตอร์ได้อีกด้วย แต่จากที่ว่ามาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การมองหาจอคอมให้ได้แบบที่ต้องการ บางครั้งก็ไม่ได้ง่าย และมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เมื่อมีการซื้อหาแบบออนไลน์ เพราะหลายท่านก็ไม่สะดวก ที่จะเดินทางไปดูที่ร้าน หรือชอบซื้ออยู่กับบ้านมากกว่า ดังนั้นการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่เร่งรีบ หรือเช็คให้ถี่ถ้วนจะเป็นการดี นอกเหนือจากให้ความสำคัญกับสเปค ความสวยงาม บางครั้งถ้าถึงขั้นจะต้องขอ Live เพื่อดูการใช้งานจริงๆ ได้ ก็คงต้องทำ เพราะเมื่อเงินโอนออกจากคุณไปแล้ว โอกาสจะได้คืนก็จะยากขึ้น ในกรณีที่ปลายทางไม่มีของอยู่จริง หรือเป็นมิจฉาชีพมาหลอกคุณนั่นเอง การเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีแพลตฟอร์มก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรืออยากจะไปช้อปดูหน้าร้าน จ่ายเพิ่มอีกหน่อย แต่ได้เห็นของเช็คสภาพได้เลย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคร่ำหวอดในตลาดมากพอ และรู้ช่องทางซื้อ จะทางไหนก็เลือกหากันได้เลย ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลครับ


2nd hand gaming monitor 2023 63

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เช็คอาการ แก้ไขใน 7 ขั้นตอนปี 2023

from:https://notebookspec.com/web/684875-select-2nd-hand-display-2023

Samsung เปิดตัวจอ Odyssey Neo G9, OLED G9, ViewFinity S9, และ Smart Monitor M8 โดนใจสายเกมและสายทำงาน

Samsung เปิดตัวจอรุ่นใหม่หลายตัวในงาน CES 2023 จากตระกูล Odyssey, ViewFinity, และ Smart Monitor เอาใจผู้ใช้งานทุกสายทั้งสายบันเทิง สายเกม หรือสายทำงาน มีจุดเด่นเป็น Odyssey Neo G9 ที่เป็นมอนิเตอร์เกมมิ่งขนาดใหญ่ 57 นิ้ว ความละเอียด 8K ที่มาพร้อมกับช่อง DisplayPort 2.1 เป็นรุ่นแรกของโลกส่วนรุ่นอื่น ๆ ก็มีฟีเจอร์เด่นน่าสนใจอีกเพียบ

Odyssey Neo G9

ดาวเด่นของงานนี้ Odyssey Neo G9 เป็นมอนิเตอร์กว้าง 57 นิ้ว แบบโค้ง 1000R ความละเอียด 7,680 x 2,160 ในสัดส่วน 32:9 รีเฟรชเรตลื่น ๆ ที่ 240Hz ตัวจอใช้เทคโนโลยี quantum mini LED รองรับ  VESA Display HDR 1000 ให้ได้ภาพสีสันสวยงาม ผิวจอเป็นแบบแมทป้องกันการสะท้อนแสง

จอใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องใช้ข้อมูลประมวลผลสูง จำเป็นต้องใช้ช่องส่งข้อมูลเป็น DisplayPort 2.1 ที่เร็วกว่าเวอร์ชัน 1.4 ราว ๆ สองเท่า ซึ่งก็จะช่วยให้ส่งข้อมูลได้ต่อเนื่องไม่มีติดคอขวด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Industry-standard Display Stream Compression (DSC)

Odyssey OLED G9

ในไลน์เกมมิ่งมอนิเตอร์ของซัมซุง ยังมีอีกรุ่นที่เปิดตัวมาด้วยกัน คือ Odyssey OLED G9 ขนาด 49 นิ้ว ใช้จอ OLED แบบโค้ง 1800R สัดส่วน 32:9 และ contrast ratio 1,000,000:1 มีรีเฟรชเรต 240Hz และอัตราการตอบสนองไว 0.1 ms

ตัวจอเองยังมีแอปในตัวอย่าง Netflix, Youtube, Prime Video, และ Smart Hub สำหรับดูหนัง หรือใช้เชื่อมต่อบริการคลาวด์เกมมิ่งอย่าง Xbox และ NVIDIA GeForce Now ทำให้แค่เปิดจอมาก็ใช้งานบริการพวกนี้ได้เลย ไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมก่อน

ViewFinity S9

ส่วนมอนิเตอร์ ViewFinity S9 ก็เป็นจอสำหรับสายทำงานกราฟิก เป็นจอขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดสูง 5,120 x 2,880 ความกว้างสีครอบคลุม DCI-P3 99% และมีค่าความต่างสี Delta E ≦2 ทำให้มั่นใจได้ว่าสีที่แสดงผลอยู่เป็นไปตามสีที่แท้จริงตามที่เห็นด้วยตามนุษย์

ภายในพกเอนจิ้นปรับแต่งสีที่มีความละเอียดสูง ให้เราเลือกโปรไฟล์จอได้ตามต้องการ ซึ่งสามารถไปสั่งการด้วยการเชื่อมต่อกับแอป Samsung Smart Calibration ในมือถือได้ ตรงจอก็จะใช้ผิวเป็นวัสดุกันแสงสะท้อนด้วย

จอตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C และ Thunderbolt 4 มาพร้อมกล้องเว็บแคม SlimFit 4K ในตัว ใช้โทรประชุมแบบเห็นหน้าได้สำหรับใครที่ต้องใช้ทำงาน และสุดท้ายคือตัวจอสามารถหมุนให้เป็นแนวตั้งได้ด้วย

Smart Monitor M8

Smart Monitor M8 จออีกรุ่นนึงออกมาเอาใจสายเสพสื่อบันเทิง ด้วยดีไซน์เครื่องทรงบาง มีตัวเลือกสี Daylight Blue, Spring Green, Sunset Pink และ Warm White มีสองไซส์ขนาด 32 และ 27 นิ้ว ตัวจอมีความละเอียด 4K สามารถหมุนจอให้เป็นแนวตั้งได้ เหมาะสำหรับการใช้อ่านเอกสาร

รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Smart Home ต่าง ๆ ด้วยฟีเจอร์ SmartThings Hub และต่อไปจะขยายการเชื่อมต่อต่าง ๆ ด้วยการรองรับ Matter Functionality และ มาตรฐาน Home Connectivity Alliance standards ด้วย

รุ่นนี้ยังมีตัวกล้องเป็น SlimFit 2K ใช้กับแอปคอลต่าง ๆ ได้เหมือนกัน พร้อมมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสข้อมูล Samsung Knox Vault ครับ

ขณะนี้ยังไม่มีราคาของจอแต่ละรุ่น ถ้ามีประกาศออกมาเมื่อไรเดี๋ยวเรามาอัปเดตให้ทราบกันอีกทีนะ แต่นอกจากสินค้าใหม่พวกนี้แล้ว Samsung ยังได้โชว์นวัตกรรมอย่างอื่นในงาน CES 2023 เป็นเทคโนโลยีจอพับยืดหดได้ ด้วยเช่นกัน

 

ที่มา : Samsung

from:https://droidsans.com/samsung-odyssey-neo-g9-oled-g9-viewfinity-s9-smart-monitor-m8-launch-ces-2023/

Alienware เปิดตัวเกมมิ่งมอนิเตอร์ 24.5 นิ้ว อัตรารีเฟรช 500Hz

Dell เปิดตัวเกมมิ่งมอนิเตอร์แบรนด์ Alienware ที่มีจุดเด่นเรื่องอัตรารีเฟรชสูงถึง 500Hz

จอมอนิเตอร์รุ่นนี้ชื่อ Alienware 500Hz Gaming Monitor (AW2524H) ขนาดหน้าจอ 24.5 นิ้ว ความละเอียด FHD ใช้พาเนล Fast IPS ซึ่งปกติแล้วมีอัตรารีเฟรช 480Hz และสามารถโอเวอร์คล็อคเพิ่มเป็น 500Hz ได้ อัตราตอบสนอง 0.5ms

ฟีเจอร์อื่นคือรองรับ VESA DisplayHDR 400, รองรับ NVIDIA G-SYNC, รองรับ NVIDIA Reflex Analyzer สำหรับวัดค่า latency, ฟีเจอร์ ComfortView Plus ลดแสงสีฟ้าที่ระดับฮาร์ดแวร์, AlienFX Lighting ปรับแสง backlight ด้านหลังให้เข้ากับสีบนหน้าจอ

สินค้าเริ่มวางขายไตรมาส 1/2023 ยังไม่ประกาศราคา

No Description

No Description

ที่มา – Alienware

from:https://www.blognone.com/node/132105

Dell เปิดตัวจอมอนิเตอร์ UltraSharp U3224KB ความละเอียด 6K พร้อมเว็บแคม 4K

Dell เปิดตัวจอมอนิเตอร์แบรนด์ UltraSharp ขนาด 32″ รุ่นใหม่ U3224KB ดันความละเอียดขึ้นไปถึง 6K แล้ว

Dell UltraSharp 32 6K Monitor (U3224KB) ใช้ดีไซน์เหมือนกับ UltraSharp U3223QZ รุ่นของปี 2022 คือเป็นมอนิเตอร์สำหรับประชุมออนไลน์ มีเว็บแคม 4K, ลำโพงคู่ด้านหน้า 14W และไมโครโฟนลดเสียงสะท้อน ใช้พาเนลแบบ IPS Black ที่ใช้อัตราคอนทราสต์สูง แสดงผลสีดำเข้มขึ้น 41%

ฟีเจอร์อื่นคือรองรับ VESA DisplayHDR 600, DisplayPort 2.1 และมีพอร์ตป๊อปอัพออกมาจากใต้จอ ให้เสียบอุปกรณ์เชื่อมต่อด้านหน้าได้ด้วย สินค้าจะเริ่มวางขายช่วงครึ่งแรกของปี 2023 แต่ยังไม่ระบุราคา

No Description

นอกจากจอภาพระดับ 6K แล้ว Dell ยังมีจอภาพ UltraSharp ใหม่อีก 2 รุ่นคือ

  • Dell UltraSharp 34 Curved USB-C Hub Monitor (U3423WE) จอโค้งความละเอียด WQHD พาเนล IPS Black ลำโพงคู่ 5W
  • Dell UltraSharp 43 4K USB-C Hub Monitor (U4323QE) จอภาพ 4K ขนาดใหญ่ 43″ แสดงภาพจากพีซีได้ 4 เครื่องพร้อมกัน สลับ KVM ได้ในตัว

อุปกรณ์เสริมสายสำนักงานที่เปิดตัวมาพร้อมกันคือ คีย์บอร์ด Dell Premier Collaboration Keyboard (KB900) มีปุ่มสัมผัสรองรับการประชุม Zoom ได้จากตัวคีย์บอร์ด (อยู่เหนือปุ่มลูกศร ใต้ปุ่ม Delete) และเมาส์ Dell Premier Rechargeable Mouse (MS900)

ที่มา – Dell

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/132103

ซัมซุงเปิดตัว Odyssey Neo G9 จอโค้งเกมมิ่ง 57″ ความละเอียดเท่า UHD สองจอต่อกัน

ซัมซุงเริ่มเปิดตัวสินค้าใหม่ก่อนงาน CES 2023 เล็กน้อย เริ่มจากกลุ่มจอมอนิเตอร์ สินค้าเด่นคือกลุ่มเกมมิ่งมอนิเตอร์ 2 รุ่น ได้แก่

  • Odyssey Neo G9 (G95NC) เกมมิ่งมอนิเตอร์จอโค้ง 1000R ขนาด 57″ สัดส่วน 32:9 ความละเอียดสูงถึง 7,680×2,160 ที่เทียบได้กับจอ UHD 2 จอมาวางเรียงต่อกัน ใช้พาเนลแบบ quantum mini LED รองรับ VESA Display HDR 1000, อัตรารีเฟรช 240Hz, รองรับมาตรฐาน DisplayPort 2.1 รุ่นใหม่ล่าสุด
  • Odyssey OLED G9 (G95SC) เกมมิ่งมอนิเตอร์จอโค้ง 1800R ขนาด 49″ สัดส่วน 32:9 ใช้พาเนลแบบ OLED อัตราคอนทราสต์สูงสุด 1,000,000:1, อัตรารีเฟรช 240Hz

No Description

No Description

นอกจากจอสายเกมมิ่งแล้ว ยังมีจอสำหรับคนทำงานอีก 2 รุ่น ได้แก่

  • ViewFinity S9 (S90PC) จอภาพ 27″ ความละเอียด 5,120 x 2,880 5K ความแม่นยำของสี 99% DCI-P3 สำหรับคนทำงานสายกราฟิกและช่างภาพ มี Color Calibration Engine ในตัว และตัวฐานจอเป็น USB-C Hub, มีอุปกรณ์เสริมเป็นกล้องเว็บแคม 4K สำหรับประชุมได้
  • Smart Monitor M8 (M80C) จอภาพกลุ่ม Smart Monitor ที่มีหน่วยประมวลผลและ OS ในตัว รันงานไม่ต้องต่อพีซี ความละเอียด 4K มีสองขนาดคือ 27″ และ 32″, เวอร์ชันใหม่อัพเกรดจากรุ่นของปีที่แล้ว หมุนจอแนวตั้ง 90 องศาสำหรับอ่านเอกสารยาวๆ ได้แล้ว และรองรับการใช้เมาส์สั่งงาน OS ของมอนิเตอร์ได้

สินค้าทั้งหมดยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางขาย

No Description

No Description

ที่มา – Samsung

from:https://www.blognone.com/node/132072

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น 144Hz/ 165Hz เริ่มแค่ 5,900 ภาพชัด เล่นลื่น สบายตา ราคาโดน

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น จอ 144Hz/ 165Hz เน้นเล่นเกม เริ่ม 5,900 ฟีเจอร์แน่น ภาพสวย จอใหญ่ เล่นไหลลื่น

จอคอม

จอคอม 27 นิ้ว จัดว่าเป็นจอที่เกมเมอร์หลายคนอัพเกรดขึ้นมาใช้ จากจอเดิมระดับ 22″-24″ ซึ่งปัจจุบันมีลูกเล่น และเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับ 8 จอคอม เริ่มแค่ 5,900 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานและการเล่นเกมได้ดี ด้วยพื้นที่กว้าง และบางรุ่นก็ให้ความละเอียดสูง เห็นรายละเอียดในเกมได้ดีขึ้น สีสันสดใส ให้การเชื่อมต่อมากมาย ปรับจูนได้ เพื่อให้ครบทุกการใช้งาน การเลือกใช้นอกเหนือจากพื้นที่กว้าง ความละเอียดสูง อาจจะต้องดูเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมการเล่นเกมที่ดีขึ้น เช่น การลดความสั่นไหว หรือการกระพริบ อัตรารีเฟรชเรตสูง สนับสนุน HDR หรือช่วยให้มองเห็นฉากมืดได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึง Game Mode ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานนั่นเอง เราไปดูกันดีกว่าว่าจอคอมที่เรานำมาให้ชมกันนี้มีรุ่นใดบ้าง


จอคอม 27″ 144Hz, 165Hz


1.Viewsonic VX2718-P-MHD

จอคอม

ต้องถือว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่ง ที่ทำราคาได้ดี เพราะเคาะอยู่ที่ราว 5,990 บาท แต่ให้ดีไซน์และประสิทธิภาพมาในระดับที่น่าสนใจ ด้วยความละเอียด Full-HD 1080p ใช้พาแนลแบบ VA เหมาะกับการเล่นเกม สีสันสดใส ให้การเล่นที่ลื่นไหล ด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz ขอบจอบางเฉียบ กับการปรับแต่งที่ง่ายดาย พร้อม View Mode ที่มีให้เลือกปรับแต่ง จะเล่นเกม ทำงาน แต่งภาพ รองรับฟีเจอร์ Adaptive Sync รวมถึงลำโพงมาในตัว เพียงแต่อาจจะปรับเลื่อนไม่ได้มาก มีพอร์ต HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

Advertisementavw

ดูรีวิว: Viewsonic VX2718-P-MHD

จุดเด่น ข้อสังเกต
รีเฟรชเรต 165Hz ค่า Brightness: 250 cd/m²

รายละเอียดเพิ่มเติม: Viewsonic


2.AOC 27G2SE/67

จอคอม

จอเกมมิ่ง ราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับเกมเมอร์เริ่มต้น เน้นจอใหญ่ การแสดงผลไหลลื่น พาแนลเป็นแบบ VA ตอบสนองได้ไว ให้ความสว่างสดใส ด้วยค่า Brightness ที่เหมาะกับการเล่นเกม และยังให้สีที่แม่นยำ ระดับ sRGB 122% บนความละเอียด Full-HD โดยมีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz และสนับสนุนเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดการฉีกขาดของภาพ จุดที่น่าสนใจคือ มี Game Color ที่ปรับให้เหมาะกับการเล่นเกมในแต่สไตล์ได้อีกด้วย มีพอร์ต Input ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort ราคา 6,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ค่าความสว่างสูง ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
อัตรารีเฟรชเรต 165Hz

รายละเอียดเพิ่มเติม: AOC


3.Samsung ODYSSEY G30A

จอคอม

จอคอมเล่นเกมที่มาพร้อมฟีเจอร์น่าใช้ ราคาน่าโดนเพราะเปิดที่ 6,490 บาทเท่านั้น ดีไซน์ทันสมัยตามสไตล์ของค่ายนี้ ด้วยหน้าจอขนาด 27″ แต่ให้ความละเอียด Full-HD เหมาะกับเกมเมอร์สเปคกลางๆ เน้นภาพลื่นไหล โดยมีอัตรารีเฟรชเรต 144Hz และเป็นพาแนล VA ที่ตอบสนองได้ไว จอภาพลดแสงสะท้อน และมากับฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync Premium เพื่อให้ภาพที่ต่อเนื่องนุ่มนวล สามารถปรับเลื่อนได้อย่างครบครัน ตั้งแต่ ความสูง หันข้าง มุมก้ม-เงยและ Pivot ได้ 90 องศา โดยมีพอร์ต Input ให้เลือก HDMI และ DisplayPort อย่างละพอร์ต จุดเด่นอยู่ที่ความบางของขอบด้านข้าง 3-sided bezel-less และฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้ามาให้

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับมุมได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung


4.GIGABYTE G27F

จอคอม

เป็นจอคอมที่เหมาะกับเกมเมอร์ ชื่นชอบความไหลลื่นและคมชัด กับพาแนล IPS ให้ความละเอียดที่ 1080p FHD และมีดีไซน์ล้ำสมัย ขอบจอบางพิเศษ เหมาะกับการต่อเพิ่ม 2-3 จอ ที่ดูสบายตากับความลื่นไหล 144Hz และสนับสนุน AMD FreeSync Premium อีกด้วย จุดเด่นที่ความสว่างมากถึง 300cd/m2 สำหรับสีสันที่สดใส ให้ระดับสีที่แม่นยำ DCI-P3 95% เลยทีเดียว โดยสามารถปรับเลื่อนได้เล็กน้อย กับความสูงและมุมก้ม-เงย ความน่าสนใจคือ ปรับ OSD ได้จากซอฟต์แวร์ได้ง่ายดาย พร้อม Dashboard แสดงผลบนหน้าจอ พอร์ตมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น USB type-A 3.0, HDMI 2 ช่อง และ 1x DP พร้อมช่องต่อหูฟัง 3.5mm อีกด้วย ราคาประมาณ 6,900 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ค่า DCI-P3 95% ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: GIGABYTE


5.Acer Nitro Gaming VG272LVBMIIPX

จอคอม

ถ้าจะว่ากันที่จอคอมเล่นเกมประสิทธิภาพดีในราคาที่สบายกระเป๋า เชื่อว่าจอจาก Acer รุ่นนี้ น่าจะโดนใจใครหลายคน เพราะมาพร้อมพาแนลแบบ IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง แม้จะเป็นความละเอียด Full-HD แต่ก็มีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz เลยทีเดียว พร้อมกับค่าความสว่างค่อนข้างสูง เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนังเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการรองรับ HDR400 และสนับสนุน AMD FreeSync อีกด้วย โดยเป็นหนึ่้งในไม่กี่รุ่นที่ใส่ลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณ HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง โดยปรับเลื่อนตัวจอได้เพียงมุมก้มเงยเท่านั้น ให้การรับประกัน 3 ปี ใครชอบการเล่นเกมบนหน้าจอแทบจะไร้ขอบ รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีในราคาประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz ปรับเลื่อนได้ไม่มาก
รองรับ HDR400

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


6.Dell G2722HS

จอคอม

เป็นจอคอมเกมมิ่งที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ กับดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมความละเอียด Full-HD พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 165Hz เติมความสวยงามต่อเนื่องด้วย AMD FreeSync Premium และ G Sync รวมถึง sRGB 99% ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ภาพสีสันสว่างสดใส เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ปรับเลื่อนความสูงได้ เช่นเดียวกับโหมดเกม ที่มีให้เลือกมากมาย กับสไตล์ที่ชื่นชอบ รวมถึงพอร์ตอินพุตสัญญาณ ทั้ง HDMI 2 ช่อง, DisplayPort 1 ช่อง และช่องต่อหูฟัง ราคา 7,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
AMD FreeSync™Premium and NVIDIA G-Sync

รายละเอียดเพิ่มเติม: Dell

7.LG UltraGear 27GN650-B

จอคอม

จอขนาด 27″ พาแนล IPS ที่น่าสนใจในสไตล์ล้ำๆ กับความโดดเด่นด้วยการสนับสนุน nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium รวมถึงการรองรับ HDR10 เพิ่มความสดใส รวมถึง Brightness ที่สูง ให้กับการเล่นเกมและดูหนัง โดยรองรับการปรับมุมต่างๆ ได้มากมาก ไม่ว่าจะเป็น ก้มเงย ความสูงหรือ Pivot ก็ตาม ความละเอียดระดับ Full-HD และอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณทั้ง HDMI และ Display 2 พอร์ต ราคา 7,750 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium
HDR10

รายละเอียดเพิ่มเติม: LG


8.MSI OPTIX G271

จอคอม

จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งสายอีสปอร์ต ที่ให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำกับความมันส์ในการเล่นได้จุใจ เพราะฟีเจอร์ให้มาแบบไม่กั๊กกับราคา 7,500 บาท ด้วยความละเอียด Full-HD ให้อัตรารีเฟเรชเรต 144Hz รองรับ AMD FreeSync ใช้พาแนลแบบ IPS ให้ภาพคมชัดสดใส ตอบสนองได้ไว รวมถึงการปรับแต่งที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะ Game Mode ส่วนตัวจอปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย และให้พอร์ตอินพุตสัญญาณมาทั้ง DisplayPort 1 และ HDMI 2 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ปรับเลื่อนตัวจอได้ไม่มาก
มี Game Mode

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI


Conclusion

Panel Refresh rate Port Res. FreeSync/
G-Sync
Price
1.Viewsonic VX2718 VA 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 5,990 บาท
2.AOC 27G2SE VA 165Hz 1x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 6,300 บาท
3.Samsung
ODYSSEY G30A
VA 144Hz 1x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium
6,490 บาท
4.GIGABYTE G27F IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync Premium 6,900 บาท
5.Acer Nitro Gaming IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,300 บาท
6.Dell G2722HS IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,500 บาท
7.LG UltraGear IPS 144Hz 1x HDMI
2xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,750 บาท
8.MSI OPTIX G271 IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,500 บาท

สรุปสุดท้าย สำหรับจอคอม 27″ สำหรับเกมเมอร์ทั้งหมด 8 รุ่นนี้ น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับหลายๆ คน ที่กำลังมองหาจอคอมตัวใหม่ อัพเกรดจากจอเดิม หรือจะซื้อเป็นจอหลัก ที่นำมาใช้ในการเล่นเกมในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยถ้าคุณงบประมาณจำกัด ตัวเลือกอย่าง Viewsonic ก็น่าสนใจ ไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้จอใหญ่ อัตรารีเฟรชเรตสูง แต่ถ้าอยากได้จอที่มีลูกเล่นเยอะ MSI, LG, GIGABYTE หรือ Samsung ก็ให้คุณสนุกกับการปรับแต่ง และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมได้มากขึ้น LG กับ Samsung ก็น่าสนใจ ปรับได้พื้นฐาน ไปจนถึงการ Pivot 90 องศา ส่วนถ้าอยากได้ที่มีลำโพงมาด้วย Viewsonic และ Acer ก็น่าใช้ไม่แพ้กัน โดยทุกรุ่นที่นำมานี้ ส่วนใหญ่มีดีไซน์ที่ขอบจอบาง ต่อจอเพิ่มได้แบบเนียนสบายตา และการรับประกันอีก 3 ปี ส่วนคุณชอบแบบไหน รุ่นใด ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/680448-8-144hz-165hz-monitor-5900

BOE โชว์เทคโนโลยีจอ 600Hz ตัวแรกของโลก ทดสอบครั้งแรกบนโน้ตบุ๊คเกมมิ่ง พร้อมสาธิตเล่นเกม DOTA 2 ให้ดู

ขึ้นชื่อว่าแบรนด์ BOE เค้ามีเทคโนโลยีหน้าจอล้ำ ๆ ออกมาให้ดูก่อนใครได้ตลอดจริง ๆ อย่างเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็เพิ่งเปิดตัวจอมอนิเตอร์ขนาด 27 นิ้ว อัตรารีเฟรช 500Hz ตัวแรกของโลกไป แต่ยังไม่ทันได้อึ้งกันครบปีเลย ล่าสุดดันของแรงกว่าออกมาให้ดูอีกแล้ว โชว์เทคโนโลยีการผลิตหน้าจออัตรารีเฟรช 600 Hz ได้สำเร็จเป็นเจ้าแรก แถมเลือกเอามาสาธิตให้ดูด้วยโน้ตบุ๊คอีกต่างหาก

ทาง BOE ได้โชว์ความสำเร็จนี้ครั้งแรกในงาน World Display Industry Conference 2022 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศจีน โดยสาธิตเป็นวิดีโอเดโม่ที่ด้านในมีโน้ตบุ๊คเกมมิ่งจอ 16 นิ้วไม่ทราบรุ่นอยู่ตัวหนึ่ง ใช้สเปคการ์ดจอเป็น NVIDIA RTX และกำลังเล่นเกม DOTA 2 ให้ดูอยู่ ซึ่งก็ได้อธิบายว่าเครื่องนี้ใช้หน้าจอเป็น 600 Hz อย่างที่กล่าวไป แต่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นบอกแล้วว่ามันบ่งบอกความเป็น 600Hz ไว้ยังไงบ้าง (FPS เกมก็ไม่มี)

หากเครื่องดังกล่าวเป็นของจริง นี่ก็เป็นการทะลุขีดจำกัดในวงการพีซีไปไกลทีเดียว เพราะยังไม่เคยมีโน้ตบุ๊คเกมมิ่งแบรนด์ไหนทำสำเร็จมาก่อน ใกล้เคียงสุดก็คือ Alienware x17 R2 ที่ใช้หน้าจอ 17 นิ้ว Full HD อัตรารีเฟรชอยู่ที่ 480Hz ส่วนวงการพีซีก็คือแชมป์เก่าของตัวเองอย่างจอมอนิเตอร์ 500Hz ตัวที่กล่าวไป

นอกจากจอ 600Hz นี้แล้ว ในงานเดียวกันนี้ทาง BOE ก็ยังขนทัพเทคโนโลยีจออื่น ๆ ของตัวเองมาสาธิตพร้อมกันด้วย เช่น จอ Mini-LED ขนาด 34 นิ้ว แบบ ultra-wide อัตรารีเฟรช 165Hz ที่มาพร้อมมาตรฐาน HDR1000 มีค่าคอนทราสต์จัดถึง 100,000:1 อีกตัวก็เป็นจอทีวีแบบ Mini-LED 4K ขนาด 86 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี MLED backlight ด้วย เรียกสุดทุกตัวไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ กับแบรนด์นี้


 

 

ที่มา : VideoCardz, ITHome

from:https://droidsans.com/boe-world-first-600hz-display-panel-on-laptops/

ASRock เปิดตัว Side-Kit Panel จอมอนิเตอร์แบบติดข้างฝาเคส ใช้เป็นจอที่ 2 เพื่อประหยัดพื้นที่โต๊ะคอมได้

ในยุคที่กลุ่มจัดโต๊ะคอมพากันป้ายยาไอเดียหนักขนาดนี้ การใช้คอมจอเดียวที่เมื่อก่อนไม่เคยมีปัญหา อยู่ดี ๆ ก็ไม่พอขึ้นมาซะอย่างงั้น ต้องขยับไปใช้ 2 จอทำงานตามเทรนด์กันหน่อย แต่ก็ใช่ว่าห้องแต่ละคนจะเอื้ออำนวย เพราะบางคนอาจจะอยู่คอนโดเล็ก ๆ ใช้โต๊ะคอมใหญ่มากไม่ได้ เลยมีพื้นที่ไม่ค่อยพอสำหรับวาง 2 จอ หรือถึงวางได้ก็อาจจะต้องยอมเบียดเสียด ใช้แล้วไม่สะดวกเท่าไหร่

ทาง ASRock ซึ่งน่าจะกำลังเล็งเห็นเพนพ้อยด์นี้อยู่ จึงตัดสินใจออกสินค้าใหม่ชื่อว่า Side-Panel Kit เป็นหน้าจอสำหรับติดข้างฝาเคสขนาด 13.3 นิ้ว มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ น้ำหนักเบา สามารถวางแนบไปกับข้างตู้เคสพีซีได้อย่างราบเรียบไม่เกะกะ เหมาะใช้เป็นหน้าจอที่ 2 สำหรับคนชอบตั้งเคสไว้ข้าง ๆ หรือจะเอามาทำเป็นจอหลักจอเดียวเลยแบบเครื่อง All-In-One ก็ได้เหมือนกัน

สเปคของจอ ASRock Side-Panel Kit เป็นพาแนล IPS ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD อัตราส่วน 16:9 อัตรารีเฟรช 60Hz เรียกว่าอยู่ในมาตรฐานเดียวกับจอในตลาดทั่วไปเลย แต่ด้วยขนาดบอดี้ที่บางทำให้ไม่สามารถยัดพอร์ตใหญ่ ๆ ลงไปได้ ทางแบรนด์เลยเลือกใช้พอร์ตต่อจอเป็นแบบ eDP (Embedded Display Port) ซึ่งมีขนาดบางสุด ๆ สามารถต่อเชื่อมจากเมนบอร์ดเข้าสู่เคสได้แบบไม่มีสายเกะกะเลย


อย่างไรก็ตาม พอร์ต eDP ก็มีข้อจำกัดเยอะ คือต่อได้เฉพาะกับบอร์ดที่รองรับเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีแค่บนบอร์ดตัวท็อปไม่กี่รุ่น (เช่น Z790, B650E) แถมไม่สามารถใช้สายแปลงจาก eDP เป็น DP ได้ เพราะปัจจุบันไม่มีวางขายแล้ว ดังนั้นการเลือกใช้จอนี้ก็อาจจะช่วยเราได้แค่ประหยัดพื้นที่ แต่ไม่ได้ช่วยประหยัดเงินเท่าไหร่ เพราะต้องอัปเกรดบอร์ดด้วยซะงั้น แถม use case ก็ดูแล้วไม่เหมาะกับชาวเกมเมอร์เอาซะเลย เพราะจอมันอาจจะไปบังไฟพัดลม RGB อันสวยงามของหลาย ๆ ท่านได้

ASRock เริ่มวางขาย Side-Panel Kit แล้วในตลาดสหรัฐฯ, ยุโรป และบางประเทศในเอเชีย มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 150 เหรียญหรือประมาณ 5,400 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างถูกสำหรับเทคโนโลยีแปลกใหม่แบบนี้ ใครสนใจก็หาซื้อมาลองกันได้ครับ

 

 

 

ที่มา : Wccftech

from:https://droidsans.com/asrock-side-panel-kit-ips-display-on-pc-case/