คลังเก็บป้ายกำกับ: 4K_MONITOR

MSI PRODP20ZA คอมจิ๋ว เทรดหุ้น เล่นเกมเบาๆ ต่อได้ 3 จอ ดูหนัง 4K เริ่มหมื่นกว่า

MSI PRODP20ZA มินิพีซีขนาดฝ่ามือ เล่นเกมเบาๆ ดูหนัง 4K เทรดหุ้น ต่อได้ 3 จอ ประหยัดไฟ

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มินิพีซีเครื่องจิ๋ว แต่ประสิทธิภาพเกินตัว พร้อมการเชื่อมต่อครบครัน รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ ปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลายสไตล์ เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานในยุคใหม่ได้หลายรูปแบบ ขุมพลัง AMD Ryzen 5000 series และแรม DDR4 รวมถึงกราฟิก Radeon Graphic ที่ตอบสนองได้ทั้งงานในสำนักงานทั่วไป งานเอกสาร และการทำบัญชี ไปจนถึงการตกแต่งภาพ รวมถึงการใช้งานส่วนตัว เช่นท่องอินเทอร์เน็ต ขายของออนไลน์ และความบันเทิงภายในบ้าน หรือเป็นพีซีเริ่มต้นการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ด้วยมิติที่เล็กกว่าเคสคอมทั่วไปหลายเท่า น้ำหนักเบา จึงติดตั้งได้ง่าย ใช้งานในจุดต่างๆ ของบ้านหรือสำนักงานได้ดี รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายรุ่นใหม่ กับดีไซน์ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน และที่น่าสนใจคือ ประหยัดการใช้พลังงานลง ใครที่ชอบด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท กับการรับประกัน 2 ปีอุ่นใจ ในแบบ Onsite Pickup & Return อีกด้วย ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

MSI PRODP20ZA มินิพีซีตัวจิ๋ว เพื่องานและความบันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  1. มิติที่เล็กมาก ขนาดเทียบเท่าฝ่ามือเองครับ เทียบกับเราเตอร์ขนาดย่อมๆ ก็ยังได้ เล็กกว่าพีซี 6-8 เท่าเลยทีเดียว เพราะขนาด 2.6L เท่านั้น ประหบัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้เยอะ
  2. น้ำหนักประมาณ 1.5Kg เท่านั้นครับ วางมุมไหนก็ได้ โต๊ะไม่เอียงแน่นอน
  3. ออกแบบให้วางแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้หมด แล้วแต่ผู้ใช้จะดีไซน์ จัดโต๊ะคอมได้ง่ายขึ้น
  4. วางตรงไหนในห้องก็ได้ แทบจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน ต่อสายเข้าจอ ก็พร้อมทำงาน เพราะมี WiFi ในตัว
  5. ด้านหน้าทันสมัย เน้นเส้นสายสะดุดตา ติดอยู่นิดนึง คือปุ่มอาจจะดูกลมกลืนไปกับลายด้านหน้าอยู่บ้าง แต่ก็มีแสงไฟสถานะให้พอสังเกตครับ
  6. ด้านข้างซ้ายปิดทึบ ใช้วางแนวนอนได้, ด้านขวามีช่องระบายอากาศ สำหรับพัดลมซีพียู
  7. ด้านหลังจัดพอร์ตมาให้เยอะพอสมควร เช่น USB 3.2, USB 2.0, พอร์ตแสดงผล HDMI, DP และ VGA
  8. การใช้พลังงาน มาพร้อมอแดปเตอร์ 120W ขนาดย่อมๆ มาให้ ไม่เปลืองไฟครับ
  9. ต่อได้ 3 จอเลยครับ สำหรับคนที่ต้องใช้งานหลายจอพร้อมกัน

ข้อสังเกต

  • มีไฟสถานะแสดงผลไม่มาก
  • ไม่รองรับการอัพเกรดการ์ดจอแยก
  • ใช้แรมแบบ SODIMM เท่านั้น

Specification

Description
CPU MODEL AMD Ryzen 3 5300G, 4 core/ 8 thread
CPU COOLING Air cooling
MEMORY DDR4 SO-DIMM 2 slot, Max. 64GB
STORAGE SSD 256GB, PCIe GEN3x4
2x M.2 slot
2x 2.5″ Drive bay
WIRELESS LAN INTEL/3168.NGWG, 802.11ac 1×1+BT 4.2
AUDIO Realtek ALC233, 2.1 Channel HD Audio
I/O PORTS (FRONT) 1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C
Front Audio Mic-In x1,
Headphone x1
I/O Port (Rear) USB 3.2 Gen 2 Type A x1
USB 2.0 TYPE A x3
LAN (RJ-45) x1
WiFi Antenna x2
VGA x1
HDMI x1
DP Out x1
COM Port x1
Power 120W Adaptor
Keyboard/ Mouse RF1430, MA04
PRODUCT DIMENSIONS (WXDXH) 160.55 x 193.3 x 85mm
WEIGHT 1.42Kg.
VESA SIZE 75 x 75 mm
Source: MSI Pro DP20Z

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA


Hardware / Design

MSI PRODP20ZA

การออกแบบของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ ส่วนตัวผมมองว่ามินิมอลกว่ารุ่นที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะตัวถังแค่ 2.3L เท่านั้น มิติประมาณ 16cm x 19.3cm x 8.5cm หากเทียบกับเกมมิ่งตัวน้องอย่าง Trident AS ก็ยังเล็กกว่ามาก แต่จะพอๆ กับ MSI CUBI 5 ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี Pro DP20ZA มีความคล่องตัว และสนับสนุนการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมได้มากกว่า

ด้านหน้าออกแบบมาในโทนสีดำ มีเส้นสายที่มีการสลับไปมา ดูมีมิติ และทันสมัย แทรกปุ่มเพาเวอร์และแสงไฟสถานะมาด้วย พร้อมพอร์ตต่อพ่วง และโลโก้ MSI สีเงิน ซึ่งเป็นแนวที่เราอาจไม่ได้เห็นกันบ่อยบนพีซีขนาดเล็ก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีลวดลายมากนัก

MSI PRODP20ZA

เมื่อมาดูกันแบบใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าเส้นสายที่อยู่ด้านหน้านี้ จะมีมิติยื่นออกมา สลับกับภายในที่เป็นสีดำเงา โดยปุ่มเพาเวอร์จะซ่อนอยู่ในนี้ด้วย ซึ่งหากไม่ได้กด หรือมีแสงไฟสถานะลอดออกมา ก็แทบจะดูไม่ออกว่าเป็นปุ่มเปิดการทำงาน ไฟจะมีสีฟ้าและสีขาว อยู่ตรงด้านบนขวา ใกล้กันก็จะเป็นพอร์ต Front panel ที่อยู่หน้าเครื่อง ประกอบด้วย USB Type-C, Type-A และหูฟัง ไมโครโฟน

MSI PRODP20ZA

ด้านข้างขวา จะเป็นช่องระบายความร้อน โดยเราจะเห็นพัดลมพื้นฐานของทาง AMD ดูดลมเข้ามาจากช่องนี้ เพื่อระบายความร้อนให้กับฮีตซิงก์ของซีพียู ที่อยู่ด้านใน และโลโก้ Pro series และใกล้ๆ กับช่องพัดลม และใกล้กับด้านหน้าจะมีระบุไว้ว่า Design and Engineering by MSI

MSI PRODP20ZA

ด้านซ้ายจะเป็นช่องเล็กๆ สำหรับติดตั้ง VESA Mount กับด้านหลังจอมอนิเตอร์ และฝาผนังเป็นแบบ 75mm x 75mm ส่วนตัวมองว่าเป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก เพราะผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ติดตั้งจอทีวีในบ้าน สำนักงาน สำหรับต้อนรับแขก พรีเซนเทชั่น หรือจะต่อกับจอภาพบางรุ่น เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งใช้งานแบบไร้สาย ก็จะทำให้โต๊ะไม่ดูรกรุงรังอีกด้วย

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ขึ้นอยู่กับการจัดวางองค์ประกอบบนโต๊ะ และความสะดวก ด้วยความกว้าง x ยาวระดับ 160.5 x 193mm เท่านั้น จึงไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน เรียกว่าโต๊ะขนาด 120cm ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมากมาย

ด้านหน้าที่มีพอร์ตต่อพ่วงมาให้ทั้ง USB และแจ๊ค 3.5mm อีกด้านจะเป็นโลโก้ MSI บนเพลทสีเงินสวยงาม

และอีกสองด้านที่เหลือ จะเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งมาในแบบตะแกรงขนาดเล็ก เพื่อให้อากาศไหลเวียนในตัวเคสได้ดีขึ้น ซึ่งหากดูตามการใช้งานแล้ว พีซีเครื่องนี้แทบไม่เกิดความร้อนขึ้นมากมายนัก โดยพัดลมซีพียูสามารถจัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีทีเดียว

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนแบบตะแกรงช่องเล็กและพอร์ตต่อพ่วงมากมาย รวมถึงจุดติดตั้งเสาสัญญาณ WiFi อีกด้วย และเป็นจุดที่ใช้ไขน็อต เพื่อแกะฝาครอบ สำหรับการอัพเกรด

MSI PRODP20ZA

การดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว แตกต่างจากมินิพีซีทั่วไป ทั้งเส้นสาย พอร์ตการเชื่อมต่อ เพียงแต่อาจจะเน้นไปที่ Business เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ใส่เรื่องของแสงสีมากมายนัก แต่ก็เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ดี ดูมินิมอลมากขึ้น


Connector / Thin And Weight

MSI PRODP20ZA

พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหน้า มีเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen2 Type-C ที่ใช้ได้ทั้งการชาร์จไฟ และโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง ส่วนที่เป็น Type-A ผมว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่มี External HDD หรือ SSD ที่ต่อภายนอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลได้ไว เพราะเป็น USB 3.2 Gen2 ความเร็วระดับ 10Gbps เร็วกว่า Gen1 เท่าตัวเลยทีเดียว หรือใครสะดวกจะใช้พอร์ตด้านหลัง จะใช้พอร์ตนี้ในการต่อ เมาส์ คีย์บอร์ดได้เช่นกัน

ใกล้กันจะเป็นแจ๊ค 3.5mm ที่ทาง MSI ใส่แยกเอามาไว้ให้เป็น หูฟัง และไมโครโฟน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน จะต่างจากบนโน๊ตบุ๊คที่เป็นคอมโบมาให้ อาจจะไม่สะดวก เมื่อต้องแยกใช้ไมโครโฟน กับเอาท์พุตเสียง เพื่องานในสำนักงาน

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อหลักจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 Type-A 2 พอร์ต จุดนี้ผมมองว่าเหมาะกับการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเป็นหลัก เพราะไม่ได้เน้นความเร็ว ส่วนด้านล่างจะเป็น USB 3.2 Gen2 ซึ่งตอบโจทย์พรินเตอร์รุ่นใหม่ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล และอื่นๆ ที่เน้นเรื่องความเร็ว ใกล้กันเป็นพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย RJ-45 สำหรับ Gigabit LAN และพอร์ตแสดงผล ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ เพราะมีให้ถึง 3 พอร์ตด้วยกัน ประกอบด้วย

  • VGA สำหรับต่อจอพื้นฐานแอนาลอกบนความละเอียด Full-HD
  • DisplayPort ต่อจอแสดงผลดิจิตอล รองรับความละเอียด 4K เหมาะกับจอรุ่นใหม่
  • HDMI ใช้ได้ทั้งจอมอนิเตอร์ โปรเจกเตอร์ และจอพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป
MSI PRODP20ZA

เสาสัญญาณ WiFi รองรับ 802.11ac และ Bluetooth 4.2 ทำให้การเชื่อมต่อของคุณไม่ติดขัด เพราะมีให้เลือกทั้ง LAN และ WiFi


Inside / Upgrade

MSI PRODP20ZA

การแกะอัพเกรดทำได้ค่อนข้างง่ายบน MSI PRODP20ZA นี้ เพราะไขน็อตเพียง 4 ตัวเท่านั้น สามารถไขออกได้ทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวา

MSI PRODP20ZA

ด้านที่เป็นช่องระบายอากาศ จะเห็นพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ พร้อมฮีตซิงก์ติดตั้งมากลางตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ การกระจายลมออกไปได้ทั่วๆ ภายในเคส และให้ลมออกได้ถึง 3 ด้านด้วยกัน โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด AMD Ryzen 7 5700G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดที่วางจำหน่าย

MSI PRODP20ZA

พื้นที่ติดตั้ง Storage ด้านใน ติดตั้งได้ถึง 3 แบบ และยังอัพเกรดได้ โดยที่ติดตั้งมาให้เริ่มต้นเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 256GB การถอดใช้เพียงไขควงแกะน็อตยึดเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่พื้นที่ค่อนข้างแคบเล็กน้อย

MSI PRODP20ZA

ด้านล่างจะเป็นสล็อตสำหรับติดตั้งแรมเป็นแบบ SODIMM DDR4 3200 เดิมจะติดตั้งมาให้ 8GB มาตรฐาน แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มได้จากสล็อตที่เหลือ อัพเกรดได้สูงสุด 64GB (32GB x2)

MSI PRODP20ZA

แรมในแบบ SODIMM DDR4 3200 8GB จาก Samsung ที่ติดตั้งมาในระบบ

MSI PRODP20ZA

ด้านบนของโมดูล SSD M.2 เป็นพอร์ต SATA III เพิ่มเติมมาให้ สำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ หรือสำหรับโน๊ตบุ๊ค รวมถึง SSD SATA III เพิ่มได้อีก 2 ตัวด้วยกัน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้แล้ว อีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ด ก็สามารถแกะเปิดออกมาได้ ให้คุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มีสล็อต M.2 PCIe รองรับการติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มได้อีก 1 โมดูล รวมเป็น 2 โมดูลทั้งด้านหน้าและหลัง ได้ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้น และความเร็วที่จาก SSD อีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจะใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบต่อภายนอก


Performance / Software

MSI PRODP20ZA

โปรแกรม CPUz รายงานซีพียูที่ติดตั้งมาบน MSI PRODP20ZA รุ่นนี้เป็น AMD Ryzen 3 5300G เป็นแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วสูงสุดประมาณ 4.2GHz ซีพียูรุ่นนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มของกราฟิกในตัว ให้ประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง หรือเล่นเกมเบาๆ แต่อาจจะไม่ได้เจาะจงสำหรับงานเฉพาะทาง เช่นงานตัดต่อ แต่งภาพจริงจังหรืองานด้านวิศวกรรมโหดๆ ได้มากนัก

MSI PRODP20ZA

ติดตั้งแรม DDR4 3200 ในแบบ SODIMM 8GB และใส่เพิ่มอีก 8GB เป็น 16GB มีให้ติดตั้งได้ 2 สล็อต

MSI PRODP20ZA

การทดสอบเบื้องต้นบน CPUz นี้ เทียบกับซีพียูรุ่นพี่อย่าง AMD Ryzen 7 2700X ที่เป็นแบบ 8 core/ 16 thread ซีพียู Ryzen 3 สามารถเบียดบี้ได้อย่างสูสี และโดดเด่นในงาน Single core ด้วยสัญญาณนาฬิกาที่สูง แม้จะเป็นรองในแง่ของ Multi-thread เพราะคอร์ เธรดน้อยกว่านั่นเอง

MSI PRODP20ZA

กราฟิกเป็นแบบ Integrate ที่มาในตัวซีพียู AMD Ryzen 3 รุ่นนี้ กับ Radeon Graphic ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับการเล่นเกมโดยตรง เพราะจะเน้นที่การทำงาน ดูหนัง กับงานกราฟิกพื้นฐาน แต่ก็สามารถเล่นเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากๆ หรือแนวเกมออนไลน์ เช่น Genshin, Chrono Odyssy รวมถึงเกมพีซีที่แค่ปรับ Detail ก็สามารถเล่นได้ในหลายๆ เกม สามารถชมในส่วนการทดสอบเกมด้านล่างนี้ได้

MSI PRODP20ZA

การทดสอบ PCMark10 ให้ผลออกมาได้น่าพอใจ เพราะถ้าเทียบกับพีซีพื้นฐานขนาดใหญ่ MSI Pro DP20ZA นี้ ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในชีวิตประจำวันได้ดีพอสมควร กับคะแนนรวมที่มากถึง 5,621 คะแนน รวมถึงคะแนน Essentials และ Productivity ที่มาแตะเกือบ 10,000 เพราะหลายครั้งที่เราทดสอบมาใน 2 ส่วนนี้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ แสดงถึงความไม่ธรรมดาของซีพียูและการทำงานในภาพรวม

MSI PRODP20ZA

สำหรับ CINEBench นั้น จะเป็นการทดสอบด้านกราฟิก 3D Animation แม้ว่าจะเป็นซีพียูน้องเล็กอย่าง AMD Ryzen 3 แต่ก็สามารถผ่านการทดสอบได้ไม่ยาก แม้ว่าจะทำคะแนนได้ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับซีพียูรุ่นพี่ๆ ที่มี Core/ Thread จำนวนมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่าพลังของซีพียูระดับ 4 core นี้ ก็พอจะช่วยให้ใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้จะแนะนำให้ใช้งานกับโปรแกรมขั้นสูงเช่นนี้ เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และอาจใช้เวลาในการประมวลผลมากเกินไป แต่ถ้าเป็นโมเดล AMD Ryzen 7 ก็พอจะช่วยงานนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRODP20ZA

กับผลทดสอบด้านเกมกราฟิก ด้วยโปรแกรม 3DMark กับกราฟิก Radeon Graphic บนซีพียู AMD Ryzen 3 5300G นี้ แม้ว่าจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ก็แสดงศักยภาพได้ดีในระดับหนึ่ง โดยคะแนนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ผ่านการทดสอบมาได้ อยู่ในเกณฑ์ของกราฟิกบนซีพียูในหลายๆ รุ่น อย่างไรก็ดี หากมีความต้องการเล่นเกม ร่วมไปกับการใช้งานพื้นฐาน บนเคสขนาดเล็กเช่นนี้ แนะนำโมเดลที่เป็น Ryzen 7 5700G ที่จะช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้พอสมควร

ทดสอบการเล่นเกม

MSI PRODP20ZA

เราทดสอบการเล่นเกม เพื่อให้เห็นศักยภาพของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ กับเกมพื้นฐานแนว MOBA อย่าง DOTA2 กับการปรับ Detail Fastest mode บนความละเอียด Full-HD เพื่อเน้นความลื่นไหล ตัวเกมสามารถให้เฟรมเรตได้ถึง 80-90fps. แต่ถ้าปรับเป็น High ให้เฟรมเรตเฉลี่ยที่ 47-48fps. แม้จะมีเอฟเฟกต์จากเวทย์ของฮีโรก็ตาม แนะนำตั้งค่านี้ได้เลยหากต้องการเล่น

MSI PRODP20ZA

ส่วนเกม PUBG บนความละเอียด Full-HD 1080p ตั้งค่า Very Low Detail ให้เฟรมเรตได้ในระดับ 39-45fps มีบ้างที่ขึ้นไป 50fps. บางจังหวะ แต่ก็ทำให้เล่นเกมนี้ได้ แนะนำให้ตั้ง Render scale ในระดับ 70-90 จะไม่กระทบต่อเฟรมเรตมากนัก และเล่นเกมได้สบายตามากขึ้น

MSI PRODP20ZA

มาสู่บททดสอบในด้านงานวีดีโอกันบ้าง ด้วยการ Export คลิปวีดีโอความละเอียด Full-HD มีความยาว 15 นาที ใส่เอฟเฟกต์ทั่วไป ด้วยการ Insert ภาพและเสียง ระบบใช้เวลาในการทำงานประมาณ 32 นาที ก็เป็นอันเสร็จสิ้น อย่างที่ได้แนะนำไปว่า หากต้องการจะเน้นไปที่การทำงานที่หนักมากขึ้น กับโปรแกรมเฉพาะทาง ทางเลือกของโมเดลรุ่น AMD Ryzen 7 มีความน่าสนใจ ส่วนในช่วงการใช้งานอาจมีบางจังหวะที่กระตุกเล็กน้อย เช่น ระหว่างการเลื่อนไทม์ไลน์ และพรีวิวภาพ เป็นปกติของการใช้งานที่เป็นซีพียูรุ่นน้องเล็ก และการ์ดจอแบบออนบอร์ดนั่นเอง แต่ในภาพรวมถือว่าทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง

MSI PRODP20ZA

และในครั้งนี้เราใช้งานร่วมกับจอแสดงผล MSI PRO MP241X ซึ่งเป็นจอที่ให้พื้นที่แสดงผล 23.8″ ใกล้เคียงกับ MSI PRO MP243 ความละเอียด Full-HD โดยเป็นจอพาแนล VA ให้ความสว่างสดใส และมุมมองที่กว้างใกล้เคียงกับ IPS เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะนำไปใช้ในสำนักงาน กับความสว่างสดใส และสีสันที่คมชัด ปรับแต่งได้ง่ายผ่านทางปุ่ม OSD ด้านหลังจอ มาพร้อมพอร์ตแสดงผล ที่มีให้เลือกทั้ง HDMI และ VGA เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

MSI PRODP20ZA

แต่ที่น่าสนใจคือ MSI PRO MP241X รุ่นนี้ มี VESA Mount ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับ Wall mount หรือ Arm table เพื่อแขวนหรือติดกับขาจับจอบนโต๊ะได้ง่าย รวมถึงเมื่อใช้ร่วมกับอแดปเตอร์ ก็จะสามารถต่อ MSI Pro DP20ZA เข้ากับด้านหลังจอ เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อีกด้วย นับว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับการทำงานในทืุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้แบ่งหน้าจอในการใช้งานได้สะดวก และใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร ตรวจเช็คไฟล์งาน หรือจะด้านความบันเทิง ดูหนัง พร้อมดูหุ้นไปพร้อมกัน ด้วยการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย เช่น การเพิ่มหรือลด Scale บนหน้าจอ ก็ช่วยให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นแล้ว

MSI PRODP20ZA

ด้วยมุมมองที่กว้าง ก็ทำให้การใช้งานด้านภาพและวีดีโอได้ชัดเจน ผิดเพี้ยนน้อย รวมถึงใช้ในการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือสมาชิกภายในบ้านให้เห็นได้อย่างชัดเจน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถต่อจอแสดงผลได้ถึง 3 จอพร้อมกัน ผ่านทางพอร์ตสัญญาณ Output ที่อยู่ทางด้านหลังของ MSI PRODP20ZA ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort และ VGA ให้คุณขยายศักยภาพการทำงานของคุณได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล เทรดหุ้น ไปจนถึงการสตรีมมิ่งได้แบบลื่นๆ เลยทีเดียว


Battery / Heat / Noise

MSI PRODP20ZA

สุดท้ายก็เป็นเรื่องของอุณหภูมิในการทำงาน เห็นเคสเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็จัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะกับพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ และครอบคลุมอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งเมนบอร์ด ลมที่พัดเข้าไป ก็สามารถกระจายลมไปได้ทั่ว ลดความร้อนได้ดี โดยอุณหภูมิสูงสุดในการทดสอบบนแบบ Full load บนโปรแกรม FURmark อยู่ที่ราว 76 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-68 องศาเซลเซียสเท่านั้น ถือว่าทำได้ดี เพราะโอกาสการใช้งานซีพียูระดับ 100% แบบนี้ มีไม่มากนัก ฉะนั้นหากเป็นการทำงานโดยทั่วไปน่าจะอยู่ที่ราว 55-60 องศาเซลเซียส เท่านั้น


Conclusion / Award

MSI PRODP20ZA

สรุปภาพรวมของ MSI PRODP20ZA รุ่นนี้ ผมว่าเหมาะกับคนที่ต้องการคอมทำงาน หรือใช้ในสำนักงานยุคใหม่ เน้นความมินิมอล ดูมันสมัย ลองนึกภาพดูครับว่า บ้านที่เป็นแบบ Smart Home ใช้งานไร้สายให้มากที่สุด โต๊ะคอมที่ไม่ต้องเทอะทะ และพีซีที่จัดวางได้ในทุกแนว ตกแต่งห้องได้สวย แต่ทำงานที่เหมือนกับใช้คอมเครื่องใหญ่ จะต่อ 3 จอก็ง่าย ทำงานเอกสาร ท่องเน็ตหาข้อมูล หรือจะเทรดหุ้น สตรีมมิ่งวีดีโอไปพร้อมกัน ก็ยังได้ครับ

แต่ก็บอกตรงๆ ว่าอาจจะไม่ใช่สำหรับคอเกม ด้วยสเปคที่ไม่ได้ใส่การ์ดจอแยกมาให้ จะเล่นได้ในบางเกม ที่ไม่ได้เรียกใช้ทรัพยากรมากมายนัก เกมออนไลน์พอเล่นได้แบบที่เราได้ทดสอบบน DOTA2 และ PUBG ที่เล่นได้ลื่นในระดับ Low หรือ Medium Detail ในแง่ของการอัพเกรด ก็ยังทำได้ แม้ในเคสจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม เพราะเพิ่มได้ทั้ง SSD และ RAM บนสล็อตที่เหลือ 

สุดท้ายก็คือ พอร์ตที่ให้มาก็เรียกว่าเกือบครบครัน ให้คุณต่อพ่วงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมี WiFi มาในตัวอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท การรับประกัน 3 ปี เป็นแบบ Onsite Pickup and Return อุ่นใจได้ในการใช้งาน โดยซีรีย์ DP20ZA จะมีทั้งหมด 3 รุ่น

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

  • MSI PRODP20ZA 5M-205TH เริ่มต้น 23210.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-206TH 18920.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-207TH 15070.-

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA

from:https://notebookspec.com/web/682753-msi-pro-dp20za-mini-pc

Advertisement

จอคอมมือสอง 2023 น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี เช็คอย่างไรให้ได้ของดี คุ้มค่า

จอคอมมือสอง 2023 รุ่นไหนน่าใช้ เลือกอย่างไรดี จอคอมเกมมิ่ง วิธีเช็คง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อ

จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง อย่าไปซื้อ! ปี 2023 แล้วซื้อจอใหม่ดีกว่า… มักคำเตือนแบบนี้มักจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอ เมื่อรู้ว่าเราจะซื้อจอมือ 2 มาใช้งาน ซึ่งก็อาจจะเป็นคำเตือนที่ดี แต่บางทีก็ขัดกับใจใครบางคน เพราะบางทีงบประมาณจำกัด แต่ก็อยากได้จอคอมใหญ่ๆ ความละเอียดสูงมาใช้ 2K, 4K หรือยิ่งได้รีเฟรชเรตสูงๆ 144Hz ขึ้นไป แบบจอเกมมิ่ง ก็ยิ่งดี แต่ราคาต้องเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าด้วย การที่จะได้จอที่ถูกใจมานั้น คงไม่ใช่แค่กำเงินที่มี แล้วเดินไปหาอย่างเดียว เพราะคุณจะต้องพอเช็คสภาพจอ รวมถึงกลไกต่างๆ ในการขายของจากบรรดาพ่อค้า วันนี้เรามาดูกันครับว่า การจะเลือกจอมือ 2 เหล่านี้ จะซื้ออย่างไร ที่ไหนและต้องเช็คอะไรบ้าง


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย?

จอคอมมือสองน่าซื้อมั้ย ข้อนี้ต้องถามใจคุณดูก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับสภาพได้แค่ไหน มีความอดทนมากพอมั้ย และจอที่คุณมองไว้ เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ เพราะราคาจะเป็นตัวกำหนด บางครั้งถูกมากไป ก็ได้ลุ้น แพงไปก็อาจจะไม่คุ้ม ฉะนั้นก็ต้องอยู่กลางๆ แต่หากคุณได้จอดีๆ มาใช้ ในราคาที่ถูกกว่าราคากลางในตลาด ก็ถือว่าคุณโชคดีมาก แต่กว่าจะได้จอมือสองแบบนั้นก็คงจะไม่ง่าย

Advertisementavw
จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง ก็คล้ายกับของมือสองอื่นๆ ในตลาด มีให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การได้ของที่ถูกใจ ในราคาถูกมาใช้ แต่ของเหล่านั้น ก็ถูกใช้งานมาแล้ว โอกาสที่มีข้อบกพร่องหรือเกิดความเสียหายก็มีเช่นกัน เช่นเดียวกับสภาพของจอ บางคนก็ดูแลดี เก็บรักษาอยู่ในห้อง แต่บางคนก็ไม่ได้ดูแล มีกระแทกบ้าง สัตว์เลี้ยงมาแทะ ซนชนจนหล่นตกแตก หรือบางทีก็ชอบเอานิ้วจิ้มจอ เป็นต้น ก็อาจจะมีผลต่อการใช้งานเช่นกัน

จอคอมมือสอง

รวมถึงของที่ใช้แล้ว ก็มีความเสื่อมเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นจอที่มีอายุในตลาดมายาวนาน และใช้งานต่อเนื่อง ลองนึกสภาพว่า ผู้ใช้ไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะเปิดใช้ทำงานแค่วันละ 5-8 ชั่วโมง ส่วนเกมเมอร์บางคน อาจจะเล่นต่อเนื่องวันละ 12 ชั่วโมง ความเสื่อมสภาพของหน้าจอ หรืออายุการทำงาน ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อครบปี โอกาสที่คุณจะรับไปใช้ต่อ แล้วเกิดปัญหาหรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนได้บ้าง ก็มีอยู่ไม่น้อย

จากข้อมูลพื้นฐานของผู้ผลิต จอภาพในแบบ LED นั้น จะมีอายุการใช้งานราวๆ 80,000-120,000 ชั่วโมง หรือราวๆ 20 ปี ในกรณีที่ใช้วันละ 8 ชั่วโมงนะ (อ้างอิง: digitalworld839.com) ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อุณหภูมิ ความชื้นหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้แผงวงจรหรือพาแนลเสียหายได้

จอคอมมือสอง

ยังไม่รวมถึงสภาพแวดล้อมหรือการจัดเก็บดูแล บางบ้านอยู่ในห้องปรับอากาศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ก็จะยังอยู่ในสภาพที่ดี เพราะชิ้นส่วนภายใน ไม่เจอกับอุณหภูมิที่สูง ก็จะทนทานกว่าจอภาพที่อยู่ในห้องธรรมดา อากาศร้อน หรือบางทีก็เสี่ยงกับความชื้น เช่นวางใกล้หน้าต่าง หรือสัตว์เลี้ยง แมลง มด สิ่งเหล่านี้ มีส่วนทำให้จอภาพเสียได้ไวขึ้น

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณได้จอคอมมือสองที่ถูกใจ ในราคาถูกลงเกือบครึ่ง สภาพดี มีประกัน แบบนี้ใครก็อยากเสี่ยง ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นถ้าคุณชอบของดี ราคาโดน เราไปดูรายละเอียดกันครับ ว่าจะเลือกอย่างไรบ้าง


ซื้อที่ไหนดี?

หลายคนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อจอคอมมือ 2 มาใช้เป็นการชั่วคราว และเก็บเงินซื้อจอใหม่ที่ดีกว่า อาจจะด้วยสาเหตุที่จอเก่าเสีย ส่งต่อให้คนอื่นหรือบางทีก็งบประมาณจำกัด ต้องการจะใช้จอที่มีคุณสมบัติตามต้องการ ซึ่งของใหม่อาจจะราคาสูงเกินเอื้อม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าซื้อจอได้ที่ไหนบ้าง เรามีข้อมูลมาเป็นแนวทางครับ

ห้างไอที ร้านตู้ มีร้านเยอะ ความหลากหลายอยู่ที่จังหวะ ราคาอาจสูงบ้าง แต่เห็นของ เช็คสภาพได้เลย ร้านออนไลน์ มีให้เลือกหลากหลาย ชำระผ่านแพลตฟอร์ม ราคาอยู่ที่สภาพและความต้องการ จัดส่งมั่นใจได้ กลุ่มและคอมมูนิตี้ มีให้เลือกเยอะ ราคาดี มีให้บิดกับพ่อค้า ความไว้วางใจ ชำระเงิน ส่งของ เร็วช้าอยู่ที่เครดิต

ห้างไอที: ห้างเหล่านี้ หลายๆ แห่งจะมีบรรดาร้านที่มีจำหน่ายอุปกรณ์คอมมือสองอยู่ด้วย จะมีทั้งร้านเล็กและร้านใหญ่ บางร้านก็จะมีหน้าร้านออนไลน์เอาไว้ด้วย คุณสามารถสอบถามข้อมูล ราคา ก่อนจะเข้าไปดูตัวจริงที่ร้าน ข้อดีของการซื้อแบบนี้อยู่ที่ การได้เห็นตัวจริงสินค้า สภาพ มีร้านการันตี หน้าร้านชัดเจน ต่อรองราคาได้ และมั่นใจเรื่องการบริการ แต่อาจจะมีให้เลือกไม่หลากหลาย รวมถึงราคาอาจจะสูงเล็กน้อย เพราะร้านมีค่าใช้จ่าย รวมถึงเราต้องเดินทางไป และบางครั้งก็อาจจะไม่มีของที่เราต้องการ

จอคอมมือสอง

ร้านค้าออนไลน์: ในนี้เราจะรวมเว็บไซต์ที่เป็นตลาดซื้อขายเข้าไปด้วย ซึ่งในบ้านมีให้เลือกเข้าไปช้อปมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Kaidee หรือ Pantipmarket เป็นต้น ข้อดีของร้านค้าเหล่านี้คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการ ตั้งแต่ คัดกรองสินค้า ผู้จำหน่าย รวมถึงการค้นหา การชำระเงิน ส่วนใหญ่จะปลอดภัย สะดวก แต่ที่เหลือคือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องเช็คสินค้าและดูรายละเอียดให้ครบถ้วน ก่อนจ่ายเงิน และหลังจัดส่ง รวมถึงมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สอบถามรายละเอียดในแต่ละร้านได้โดยไม่ต้องโทรหา หรือเดินหาด้วยตัวเอง แค่แชทผ่านช่องทางที่กำหนด ทำราคาได้ค่อนข้างดี มีระบบจัดส่งที่วางใจได้ แต่คุณจะไม่ได้เห็นสินค้าแบบสัมผัสได้ หรือว่าทดสอบได้นั่นเอง

จอคอมมือสอง

Group หรือ Community: ส่วนใหญ่จอคอมมือสองจะเป็นกลุ่มใน Facebook ที่มักรวมกันเป็น Community ที่มีคนที่เป็นสมาชิกที่ชื่นชอบในสินค้าหรืออุปกรณ์แบบเดียวกัน เช่น กล้อง การ์ดจอ คอมพิวเตอร์ รวมถึงจอคอมด้วยเช่นกัน ข้อดีของ Community แบบนี้คือ ไม่ใช่แค่การมองหาแล้วซื้อ แต่คุณยังเปิดรับสินค้า ให้ผู้ขายเข้ามานำเสนอได้ บางครั้งแข่งกันเรื่องราคา ผู้ซื้อก็จะได้ราคาพิเศษไป แม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ซื้อก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะกลุ่มไม่ได้เป็นแพลตฟอร์ม การคัดกรองค่อนข้างยาก มีทั้งผู้ที่จำหน่ายจริง และคนที่ไม่สุจริตเข้ามาแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนที่สำคัญคือ การชำระเงิน การส่งของ จนกว่าจะถึงปลายทาง เพราะโอกาสที่ผิดพลาดก็มีสูง จากเคสต่างๆ เช่น โอนเงินแล้ว แต่ไม่ส่งของ ส่งของไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ส่งของเสียมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นการหมุนเงินก่อน กว่าจะส่งของก็เป็นเดือนๆ หรือบางทีก็ไม่ส่ง การติดตามก็ยาก ช่วงหลายปีมานี้ ก็มีการใช้วิธี Verify ตัวบุคคล การสร้างเครดิตผู้ขาย รวมถึงการชำระแบบผ่านกลางแอดมินเป็นต้น

ห้างไอที ร้านค้าออนไลน์ Group หรือ Community
ความสะดวก ต้องเดินทางไป ดูข้อมูลง่าย ดูข้อมูลง่าย
ความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา มีหลายร้านให้เลือก มีผู้ค้าจำนวนมาก
เช็คสินค้า เช็คได้ทันที ดูจากภาพ วีดีโอ ดูจากภาพ วีดีโอ
การชำระเงิน สะดวกจ่ายได้เลย หลายช่องทางตามสะดวก ขึ้นอยู่กับผู้ขาย
การจัดส่ง รับกลับได้ทันที รอร้านตามกระบวนการ ช้า/เร็ว อยู่ที่ความรับผิดชอบผู้ขาย
การรับประกัน เช็คได้ที่ร้าน ตามเงื่อนไข ตามที่ตกลงกับผู้ขาย
ความเชื่อมั่น มีหน้าร้านอุ่นใจ มีแพลตฟอร์มคืนได้ อยู่ที่เครดิตและความรับผิดชอบ
ราคา บวกจากปกติอยู่บ้าง ตามกลไกตลาด ถูก แพงอยู่ที่จังหวะและความต้องการ

เลือกอย่างไร?

ก่อนจะเลือกจอคอมมาใช้งาน ก็ต้องดูจากความต้องการของตนเองก่อนว่า อยากได้จอแบบไหน มาใช้งานอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะไปส่องจอคอมมือสอง เพราะจอแต่ละแบบก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งราคาก็จะต่างกันด้วย เราไปดูกันก่อนว่าจอแบบไหน มีลักษณะอย่างไร

จอคอมมือสอง

จอคอมใช้งานทั่วไป: โดยพื้นฐานจะใช้สำหรับงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร การเรียนรู้ หรือทำรายงาน แต่งภาพบ้าง สามารถใช้จอใหญ่ระดับ 24″-27″ ได้ ความละเอียด Full-HD และมีฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น Low Blue Light อัตรารีเฟรชเรตพื้นฐาน 60Hz อาจจะรองรับ HDR ได้บ้าง พาแนล IPS ปรับแต่งได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงขั้นมี Game Mode ราคาจะไม่ค่อยสูง เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน

จอคอมทำงานเฉพาะทาง: จอคอมในกลุ่มนี้ ต้องการขอบเขตสี และความแม่นยำของสีสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำสื่อสิ่งพิมพ์หรืองานด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก 3 มิติ แอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก รวมถึงงานด้านภาพ ตัดต่อวีดีโอ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นคือ จอต้องมีการแสดงภาพที่แม่นยำ สีสันคมชัด มองเห็นในมุมต่างๆ ได้ไม่ผิดเพี้ยน ปัจจุบัน เช่น มีขอบเขตสีครอบคลุมระดับ 100% sRGB พร้อมความแม่นยำของสี Delta E (ΔE) < 2 (น้อยกว่า 2) ความละเอียดสูง เพื่อให้รองรับงานและแอพพลิเคชั่นได้ดี เช่น 2K หรือ 4K มีความสว่างสูง ลดแสงสะท้อน การมีอัตรารีเฟรชเรตสูง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าจอทั่วไป ก็ทำให้ราคาของจอภาพพุ่งสูงกว่าจอแบบอื่นๆ

จอคอมมือสอง

จอคอมเล่นเกม: Gaming monitor เป็นจอคอมที่เราเห็นได้บ่อย เมื่อค้นหาคำว่า จอเกมมิ่ง จอเล่นเกมนี้จะต่างจากแบบทั่วไปในหลายด้าน ว่ากันตั้งแต่พื้นที่แสดงผล ตั้งแต่ 24″ ขึ้นไป หากคุณอยากใช้จอใหญ่ 27″-29″ อาจจะยังไม่ทำให้คุณต้องถอยร่นจากจอมากนัก เห็นได้เต็มตายิ่งขึ้น รวมถึงความละเอียด ส่วนใหญ่อยากได้ฟีเจอร์ครบ เทคโนโลยีจัดเต็ม 24″ Full-HD เป็นตัวเริ่มต้น แต่ถ้าเครื่องคอมคุณแรงพอ การ์ดจอเทพ จัดไป 2K (1440p) และ 4K (2160p) แต่อย่าลืมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงขึ้น เริ่มต้นที่ 144Hz จะเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ดีทีเดียว

จอคอมมือสอง

นอกจากนี้หากคุณเลือกจอที่มีการปรับแต่งเพิ่มได้ เช่น Game Mode ให้เลือก รวมถึงเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น nVIDIA G-Sync หรือ AMD FreeSync เป็นต้น เช่นเดียวกับฟีเจอร์ที่ติดกับตัวจอมาด้วย ในการช่วยให้การเล่นเกมสนุกหรือได้เปรียบมากขึ้น เช่น Crosshair หรือ Night Vision เป็นต้น และที่สำคัญถ้าได้ปุ่มที่ปรับแต่ง OSD ได้ง่าย ยิ่งใช้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งได้ก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อม Gaming monitor ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

จอคอมมือสอง

จอคอมสำหรับความบันเทิง: จะเน้นไปที่จอคอมที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ให้ความละเอียดสูง และมีสีสันสดใส ไม่จำเป็นต้องมีอัตรารีเฟรชเรตที่สูงมาก แต่ให้การสนับสนุนด้านภาพที่ดี มีความสว่างสูง และมุมมองที่กว้าง เพื่อการรับชมได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงพาแนลแบบ IPS ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย บนจอกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น OLED, Mini OLED, QuantumDot เป็นต้น ที่นอกจากจะให้ความคมชัดสดใส สีดำดำสนิทแล้ว ก็ยังสนับสนุนหรือได้ Certified DisplayHDR ที่ทำให้การแสดงผลมีความกลมกลืนสวยสมจริง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง และผู้ใช้ยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลให้เข้ากับการใช้งานได้อีกด้วย สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับพาแนลที่ใช้และเทคโนโลยีที่เติมเข้ามานั่นเอง


เช็คสภาพจอได้อย่างไร?

เมื่อได้รับจอคอมมาแล้วต้องเช็คอะไรบ้าง? เป็นคำถามที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ซื้อจอมือสองมาใช้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อแบบออนไลน์ และไม่ได้ทดสอบมาก่อน แนะนำว่าให้รีบทดสอบก่อนภายใน 7 วัน ที่มักจะเป็นประกันแบบสากล มีความผิดปกติจะได้แจ้งกับผู้ขายให้ได้รับทราบก่อน เผื่อว่าอาจจะต้องส่งคืน หรือส่งเคลม (อย่างไรก็ดี ย้ำกันอีกทีว่า การซื้อของมือสอง ก็อาจจะไม่ได้ใหม่กริ๊บ สวยไร้ริ้วรอยเสมอไป ยกเว้นว่าคุณได้มาครอบครอง ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ)

จอคอมมือสอง

สภาพโดยทั่วไป น่าจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุด ก่อนจะไปดูสิ่งอื่นๆ ว่ากันที่ กรอบจอ ไม่อ้า ไม่กางออก ไม่แตกหัก งานประกอบเรียบสนิท ไม่มีคราบกาวไหลเยิ้ม อย่างน้อยถ้าเป็นงานซ่อม ก็ต้องออกมาดี รวมถึงด้านหลังจอ ควรยึดกับฐานได้แน่น ไม่หลวมหลุดแกว่งไปมา ซึ่งจะบอกถึงความแข็งแรงได้ดี

จอคอมมือสอง

ฐานขาตั้ง ข้อต่อ ขาตั้งจอควรมีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ หากเป็นจอที่ปรับมุม ก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา, หรือ Pivot ได้ ก็ควรให้เป็นไปตามนั้น ยกเว้นว่าคุณยอมรับสภาพนั้นอยู่แล้ว เพื่อราคาที่ถูกลงมากๆ ก็เป็นข้อยกเว้น เพราะอย่าลืมว่า เวลาที่ใช้งาน สายตาคุณจะไม่แกว่งไปตามจอภาพนั่นเอง

จอคอมมือสอง

ปุ่มปรับแต่ง สำคัญมากๆ สำหรับการใช้งาน เพราะบางครั้งคุณต้องปรับเลื่อนเลือกฟังก์ชั่น เพิ่ม-ลดความสว่าง หรือการเปลี่ยนโหมดการใช้งาน บางรุ่นมีแค่ OSD settings มาให้ แต่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ หากปุ่มเสียไปกด เลื่อน เลือกไม่ได้ ก็จะปรับอะไรไม่ได้เลย จึงต้องเช็คให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

พอร์ตสัญญาณ ควรจะต้องใช้ได้ทุกช่อง ให้ต่อสายจากคอมมาเช็คในทุกๆ พอร์ต ไม่ว่าจะเป็น VGA, DVI, HDMI หรือ DisplayPort บางรุ่นมี USB Type-A, Type-C สำหรับ PD Charging หรือช่อง Audio-Out มาอีกด้วย วันนี้คุณอาจไม่ได้ใช้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่ ยิ่งมีฟีเจอร์ KVM หรือ Display-Out ต่อจอเสริมได้ ก็ควรจะต้องใช้งานได้ตามปกติ

จอคอมมือสอง

ระบบไฟ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะใช้อแดปเตอร์ตัวแปลงไฟ หรือต่อสาย Powercord ต่อตรงก็ตาม ต้องแน่น ไม่หลุดหลวม เพราะโอกาสที่เกิดการลัดวงจร หรือภาพดับบ่อยๆ สามารถส่งผลเสียต่อการใช้งานอยู่ไม่น้อยเลย

จอคอมมือสอง

อุปกรณ์เสริม บางครั้งอาจจะครบ หรือไม่ครบ ก็ไม่ได้เป็นประเด็น แต่สิ่งที่ควรมี ก็ต้องมี เช่น น็อตสกรูสำหรับยึดจอเข้ากับขาตั้ง หรือสายไฟ สายสัญญาณ ในส่วนอื่นๆ ที่เสริมมานั้น ก็แล้วแต่กรณีไป ซึ่งถ้าเป็นเฉพาะของจอรุ่นนั้นๆ ก็ควรต้องสอบถามผู้ขายให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

หลังจากที่เช็คสภาพจอโดยทั่วไปแล้ว ก็ได้เวลาเช็คสิ่งสำคัญ นั่นคือการแสดงผล แม้จะเป็นจอคอมมือสอง แต่ก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสว่าง ภาพที่คมชัด ไม่มี Dead/Bright dot จนรบกวนการใช้งาน ไปจนถึงไม่มีเส้น แตก ลายเมื่อใช้งานต่อเนื่อง เป็นต้น แล้วจะเช็คได้อย่างไร?

เช็คบนวินโดว์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจเช็ค ด้วยการเปิดจอในหน้า Desktop ว่างๆ ด้วยการคลิ๊กขวาบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก View > เอาเครื่องหมายหน้า Show icon ออก แล้วเปลี่ยนสีของหน้าจอ ไปเป็นสีต่างๆ แล้วสังเกตสิ่งเหล่านี้

จอคอมมือสอง
  • เปิดหน้าจอสีขาว ต้องไม่มีจุดดำหรือ Dead pixel หรือถ้ามีมากสุดแค่จุดเดียว ก็ทำให้คุณเสียสมาธิและเสียอารมณ์ในการใช้งานได้แล้ว ยกเว้นว่าคุณรับได้
  • เปิดหน้าจอสีดำ ต้องไม่มีจุดสะดุดตา สีขาวหรือสีแดง ที่เป็น Hot pixel หรือ Bright pixel เพราะจะอารมณ์เดียวกันกับ Dead pixel และเป็นไปได้ว่า จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นเพิ่มได้อีกด้วย
  • ไม่มีเส้นในแนวยาว หรือแนวตั้งปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะตอนเปิดจอใหม่ๆ หรือใช้งานไปนานๆ ก็ตาม
  • อาการแสงรั่ว ตรงนี้อยู่ที่การผลิตจอ ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นกันในจอรุ่นใหม่ๆ ถามว่าน่ากังวลมั้ย ก็อาจจะมีอยู่บ้าง เมื่อเราใช้ในสภาพแวดล้อมที่มืดๆ ตรงจุดที่รั่วออกมาเยอะ อาจทำให้ความชัดลดลง และมีความรำคาญบ้างในบางครั้ง ซึ่งหากคุณงบน้อยจริง ต้องซื้อจอรุ่นเก่า พอรับได้ก็ดี แต่ถ้าจะซื้อจอกลางเก่ากลางใหม่ ก็ให้สังเกตเอาไว้หน่อยครับ รั่วเล็กน้อย แค่ขอบมุม พอได้ แต่ถ้ารั่วออกมากินพื้นที่จอเยอะเกินไป ก็ลองคุยกับผู้ขายดูอีกที

แต่ถ้าในกรณีที่ไม่แน่ใจจอคอมมือสองที่ได้มานี้ ใช้งานได้ดีมั้ย อยากจะเช็คการแสดงผลให้ละเอียดไปกว่านั้น ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ทดสอบมาเป็นตัวช่วยได้ เรียกว่า DPT หรือ Dead Pixel Tester ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ โปรแกรมนี้สามารถแสดงผลให้เราทราบได้เลยว่า มีความผิดปกติใด เกิดขึ้นกับจอคอมมือสองที่ซื้อมาบ้าง ไม่ใช่แค่ Dead/ Hot/ Bright Pixel เท่านั้น แต่การแสดงผลสีขาว/ ดำ หรือวงกลม สมดุล เส้นขอบแนว ก็ทำได้หมด จากตัวอย่างที่เรานำมาให้ชมนี้

จอคอมมือสอง ซื้อได้ ควรระวัง
สภาพโดยรวม ไม่แตกร้าว เบี้ยวหัก เสียหาย แตก งอ ชิ้นส่วนหาย
ขาตั้ง ฐาน รับน้ำหนักจอได้ สมดุล ปรับหมุนปกติ เอียง พับ เขย่าหรือเสียสมดุลเมื่อใช้
จอภาพ แสดงผลชัดเจน สว่าง สีสดใส ไม่มัว ภาพคมชัด ไม่กระพริบ จอสีเหลือบ มีเส้น หรือ Dead pixel เยอะ
พอร์ต ใช้งานได้ครบ ต่อพ่วงได้ตามปกติ พอร์ตเสีย สัญญาณขาดหาย ขั้วต่อเบี้ยง เอียง เสียบไม่แน่น
ปรับแต่ง ปุ่มใช้งานปกติ ตั้งค่าการทำงานได้ เปิด OSD settings ไม่ได้ ปุ่มพัง กดไม่ติด
เสียง เสียงดัง ฟังชัด ไม่ขาดหาย เสียงแตก ติดๆ ดับๆ
ประกัน ประกันศูนย์ ประกันร้าน ประกันใจ

Conclusion

จอคอมมือสอง

นอกจากคอมมือสอง จอคอมมือสองก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่งบประมาณจำกัด หรือบางทีอาจจะหามาใช้เป็นจอสำรอง และนำไปใช้เป็นจอเสริม ต่อแบบมัลติมอนิเตอร์ได้อีกด้วย แต่จากที่ว่ามาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การมองหาจอคอมให้ได้แบบที่ต้องการ บางครั้งก็ไม่ได้ง่าย และมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เมื่อมีการซื้อหาแบบออนไลน์ เพราะหลายท่านก็ไม่สะดวก ที่จะเดินทางไปดูที่ร้าน หรือชอบซื้ออยู่กับบ้านมากกว่า ดังนั้นการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่เร่งรีบ หรือเช็คให้ถี่ถ้วนจะเป็นการดี นอกเหนือจากให้ความสำคัญกับสเปค ความสวยงาม บางครั้งถ้าถึงขั้นจะต้องขอ Live เพื่อดูการใช้งานจริงๆ ได้ ก็คงต้องทำ เพราะเมื่อเงินโอนออกจากคุณไปแล้ว โอกาสจะได้คืนก็จะยากขึ้น ในกรณีที่ปลายทางไม่มีของอยู่จริง หรือเป็นมิจฉาชีพมาหลอกคุณนั่นเอง การเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีแพลตฟอร์มก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรืออยากจะไปช้อปดูหน้าร้าน จ่ายเพิ่มอีกหน่อย แต่ได้เห็นของเช็คสภาพได้เลย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคร่ำหวอดในตลาดมากพอ และรู้ช่องทางซื้อ จะทางไหนก็เลือกหากันได้เลย ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลครับ


2nd hand gaming monitor 2023 63

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เช็คอาการ แก้ไขใน 7 ขั้นตอนปี 2023

from:https://notebookspec.com/web/684875-select-2nd-hand-display-2023

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น 144Hz/ 165Hz เริ่มแค่ 5,900 ภาพชัด เล่นลื่น สบายตา ราคาโดน

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น จอ 144Hz/ 165Hz เน้นเล่นเกม เริ่ม 5,900 ฟีเจอร์แน่น ภาพสวย จอใหญ่ เล่นไหลลื่น

จอคอม

จอคอม 27 นิ้ว จัดว่าเป็นจอที่เกมเมอร์หลายคนอัพเกรดขึ้นมาใช้ จากจอเดิมระดับ 22″-24″ ซึ่งปัจจุบันมีลูกเล่น และเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับ 8 จอคอม เริ่มแค่ 5,900 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานและการเล่นเกมได้ดี ด้วยพื้นที่กว้าง และบางรุ่นก็ให้ความละเอียดสูง เห็นรายละเอียดในเกมได้ดีขึ้น สีสันสดใส ให้การเชื่อมต่อมากมาย ปรับจูนได้ เพื่อให้ครบทุกการใช้งาน การเลือกใช้นอกเหนือจากพื้นที่กว้าง ความละเอียดสูง อาจจะต้องดูเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมการเล่นเกมที่ดีขึ้น เช่น การลดความสั่นไหว หรือการกระพริบ อัตรารีเฟรชเรตสูง สนับสนุน HDR หรือช่วยให้มองเห็นฉากมืดได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึง Game Mode ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานนั่นเอง เราไปดูกันดีกว่าว่าจอคอมที่เรานำมาให้ชมกันนี้มีรุ่นใดบ้าง


จอคอม 27″ 144Hz, 165Hz


1.Viewsonic VX2718-P-MHD

จอคอม

ต้องถือว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่ง ที่ทำราคาได้ดี เพราะเคาะอยู่ที่ราว 5,990 บาท แต่ให้ดีไซน์และประสิทธิภาพมาในระดับที่น่าสนใจ ด้วยความละเอียด Full-HD 1080p ใช้พาแนลแบบ VA เหมาะกับการเล่นเกม สีสันสดใส ให้การเล่นที่ลื่นไหล ด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz ขอบจอบางเฉียบ กับการปรับแต่งที่ง่ายดาย พร้อม View Mode ที่มีให้เลือกปรับแต่ง จะเล่นเกม ทำงาน แต่งภาพ รองรับฟีเจอร์ Adaptive Sync รวมถึงลำโพงมาในตัว เพียงแต่อาจจะปรับเลื่อนไม่ได้มาก มีพอร์ต HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

Advertisementavw

ดูรีวิว: Viewsonic VX2718-P-MHD

จุดเด่น ข้อสังเกต
รีเฟรชเรต 165Hz ค่า Brightness: 250 cd/m²

รายละเอียดเพิ่มเติม: Viewsonic


2.AOC 27G2SE/67

จอคอม

จอเกมมิ่ง ราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับเกมเมอร์เริ่มต้น เน้นจอใหญ่ การแสดงผลไหลลื่น พาแนลเป็นแบบ VA ตอบสนองได้ไว ให้ความสว่างสดใส ด้วยค่า Brightness ที่เหมาะกับการเล่นเกม และยังให้สีที่แม่นยำ ระดับ sRGB 122% บนความละเอียด Full-HD โดยมีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz และสนับสนุนเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดการฉีกขาดของภาพ จุดที่น่าสนใจคือ มี Game Color ที่ปรับให้เหมาะกับการเล่นเกมในแต่สไตล์ได้อีกด้วย มีพอร์ต Input ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort ราคา 6,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ค่าความสว่างสูง ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
อัตรารีเฟรชเรต 165Hz

รายละเอียดเพิ่มเติม: AOC


3.Samsung ODYSSEY G30A

จอคอม

จอคอมเล่นเกมที่มาพร้อมฟีเจอร์น่าใช้ ราคาน่าโดนเพราะเปิดที่ 6,490 บาทเท่านั้น ดีไซน์ทันสมัยตามสไตล์ของค่ายนี้ ด้วยหน้าจอขนาด 27″ แต่ให้ความละเอียด Full-HD เหมาะกับเกมเมอร์สเปคกลางๆ เน้นภาพลื่นไหล โดยมีอัตรารีเฟรชเรต 144Hz และเป็นพาแนล VA ที่ตอบสนองได้ไว จอภาพลดแสงสะท้อน และมากับฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync Premium เพื่อให้ภาพที่ต่อเนื่องนุ่มนวล สามารถปรับเลื่อนได้อย่างครบครัน ตั้งแต่ ความสูง หันข้าง มุมก้ม-เงยและ Pivot ได้ 90 องศา โดยมีพอร์ต Input ให้เลือก HDMI และ DisplayPort อย่างละพอร์ต จุดเด่นอยู่ที่ความบางของขอบด้านข้าง 3-sided bezel-less และฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้ามาให้

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับมุมได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung


4.GIGABYTE G27F

จอคอม

เป็นจอคอมที่เหมาะกับเกมเมอร์ ชื่นชอบความไหลลื่นและคมชัด กับพาแนล IPS ให้ความละเอียดที่ 1080p FHD และมีดีไซน์ล้ำสมัย ขอบจอบางพิเศษ เหมาะกับการต่อเพิ่ม 2-3 จอ ที่ดูสบายตากับความลื่นไหล 144Hz และสนับสนุน AMD FreeSync Premium อีกด้วย จุดเด่นที่ความสว่างมากถึง 300cd/m2 สำหรับสีสันที่สดใส ให้ระดับสีที่แม่นยำ DCI-P3 95% เลยทีเดียว โดยสามารถปรับเลื่อนได้เล็กน้อย กับความสูงและมุมก้ม-เงย ความน่าสนใจคือ ปรับ OSD ได้จากซอฟต์แวร์ได้ง่ายดาย พร้อม Dashboard แสดงผลบนหน้าจอ พอร์ตมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น USB type-A 3.0, HDMI 2 ช่อง และ 1x DP พร้อมช่องต่อหูฟัง 3.5mm อีกด้วย ราคาประมาณ 6,900 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ค่า DCI-P3 95% ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: GIGABYTE


5.Acer Nitro Gaming VG272LVBMIIPX

จอคอม

ถ้าจะว่ากันที่จอคอมเล่นเกมประสิทธิภาพดีในราคาที่สบายกระเป๋า เชื่อว่าจอจาก Acer รุ่นนี้ น่าจะโดนใจใครหลายคน เพราะมาพร้อมพาแนลแบบ IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง แม้จะเป็นความละเอียด Full-HD แต่ก็มีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz เลยทีเดียว พร้อมกับค่าความสว่างค่อนข้างสูง เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนังเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการรองรับ HDR400 และสนับสนุน AMD FreeSync อีกด้วย โดยเป็นหนึ่้งในไม่กี่รุ่นที่ใส่ลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณ HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง โดยปรับเลื่อนตัวจอได้เพียงมุมก้มเงยเท่านั้น ให้การรับประกัน 3 ปี ใครชอบการเล่นเกมบนหน้าจอแทบจะไร้ขอบ รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีในราคาประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz ปรับเลื่อนได้ไม่มาก
รองรับ HDR400

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


6.Dell G2722HS

จอคอม

เป็นจอคอมเกมมิ่งที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ กับดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมความละเอียด Full-HD พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 165Hz เติมความสวยงามต่อเนื่องด้วย AMD FreeSync Premium และ G Sync รวมถึง sRGB 99% ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ภาพสีสันสว่างสดใส เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ปรับเลื่อนความสูงได้ เช่นเดียวกับโหมดเกม ที่มีให้เลือกมากมาย กับสไตล์ที่ชื่นชอบ รวมถึงพอร์ตอินพุตสัญญาณ ทั้ง HDMI 2 ช่อง, DisplayPort 1 ช่อง และช่องต่อหูฟัง ราคา 7,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
AMD FreeSync™Premium and NVIDIA G-Sync

รายละเอียดเพิ่มเติม: Dell

7.LG UltraGear 27GN650-B

จอคอม

จอขนาด 27″ พาแนล IPS ที่น่าสนใจในสไตล์ล้ำๆ กับความโดดเด่นด้วยการสนับสนุน nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium รวมถึงการรองรับ HDR10 เพิ่มความสดใส รวมถึง Brightness ที่สูง ให้กับการเล่นเกมและดูหนัง โดยรองรับการปรับมุมต่างๆ ได้มากมาก ไม่ว่าจะเป็น ก้มเงย ความสูงหรือ Pivot ก็ตาม ความละเอียดระดับ Full-HD และอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณทั้ง HDMI และ Display 2 พอร์ต ราคา 7,750 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium
HDR10

รายละเอียดเพิ่มเติม: LG


8.MSI OPTIX G271

จอคอม

จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งสายอีสปอร์ต ที่ให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำกับความมันส์ในการเล่นได้จุใจ เพราะฟีเจอร์ให้มาแบบไม่กั๊กกับราคา 7,500 บาท ด้วยความละเอียด Full-HD ให้อัตรารีเฟเรชเรต 144Hz รองรับ AMD FreeSync ใช้พาแนลแบบ IPS ให้ภาพคมชัดสดใส ตอบสนองได้ไว รวมถึงการปรับแต่งที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะ Game Mode ส่วนตัวจอปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย และให้พอร์ตอินพุตสัญญาณมาทั้ง DisplayPort 1 และ HDMI 2 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ปรับเลื่อนตัวจอได้ไม่มาก
มี Game Mode

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI


Conclusion

Panel Refresh rate Port Res. FreeSync/
G-Sync
Price
1.Viewsonic VX2718 VA 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 5,990 บาท
2.AOC 27G2SE VA 165Hz 1x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 6,300 บาท
3.Samsung
ODYSSEY G30A
VA 144Hz 1x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium
6,490 บาท
4.GIGABYTE G27F IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync Premium 6,900 บาท
5.Acer Nitro Gaming IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,300 บาท
6.Dell G2722HS IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,500 บาท
7.LG UltraGear IPS 144Hz 1x HDMI
2xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,750 บาท
8.MSI OPTIX G271 IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,500 บาท

สรุปสุดท้าย สำหรับจอคอม 27″ สำหรับเกมเมอร์ทั้งหมด 8 รุ่นนี้ น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับหลายๆ คน ที่กำลังมองหาจอคอมตัวใหม่ อัพเกรดจากจอเดิม หรือจะซื้อเป็นจอหลัก ที่นำมาใช้ในการเล่นเกมในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยถ้าคุณงบประมาณจำกัด ตัวเลือกอย่าง Viewsonic ก็น่าสนใจ ไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้จอใหญ่ อัตรารีเฟรชเรตสูง แต่ถ้าอยากได้จอที่มีลูกเล่นเยอะ MSI, LG, GIGABYTE หรือ Samsung ก็ให้คุณสนุกกับการปรับแต่ง และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมได้มากขึ้น LG กับ Samsung ก็น่าสนใจ ปรับได้พื้นฐาน ไปจนถึงการ Pivot 90 องศา ส่วนถ้าอยากได้ที่มีลำโพงมาด้วย Viewsonic และ Acer ก็น่าใช้ไม่แพ้กัน โดยทุกรุ่นที่นำมานี้ ส่วนใหญ่มีดีไซน์ที่ขอบจอบาง ต่อจอเพิ่มได้แบบเนียนสบายตา และการรับประกันอีก 3 ปี ส่วนคุณชอบแบบไหน รุ่นใด ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/680448-8-144hz-165hz-monitor-5900

5 จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ท ทำงานดี จอใหญ่เต็มตาได้ภาพ 4K คมชัดสะใจ อัพเดทปลายปี 2022

จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ทโดยเฉพาะ ราคาอาจจะสูงแต่ใช้ทำงานแป๊บเดียวคืนทุน!!

Share image Edit Name 1monitor 1

หลังจากแนะนำวิธีเลือกจอคอมสายทำงานอาร์ทขนาด 27 นิ้วไปก่อนแล้ว จอคอม 32 นิ้วก็เป็นจออีกไซซ์ที่เหมาะจะซื้อไว้ทำงานหรือดูหนังฟังเพลงมาก นั่นเพราะขนาดและความละเอียดบนหน้าจอนั้นมากพอให้มีพื้นที่แสดงผลเยอะมาก ดังนั้นถ้าจะเปิดเอกสาร, เบราเซอร์หรือโปรแกรมเสริมอื่นๆ คู่กันเลยก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องกด Alt+Tab สลับไปมาระหว่างโปรแกรมให้เสียจังหวะเลย มันจึงทำงานได้สะดวกมากไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารทั่วไปหรือใช้ทำงานอาร์ท โดยเฉพาะงานวิดีโอยิ่งดี เพราะคอนเทนต์บนสตรีมมิ่งชั้นนำหลายเจ้าในปัจจุบันนี้ก็ขยับความละเอียดขึ้นไประดับ 4K กันแล้ว ดังนั้นถ้าซื้อจอเหล่านี้มาใช้ชมคอนเทนต์หรือทำงานก็เหมาะอย่างแน่นอน

Advertisementavw

ด้านวิธีการเลือกจอคอม 32 นิ้วเอาไว้ทำงาน หากเอาไว้ใช้ทำงานเอกสารทั่วไป ก็อาจจะมองหาแค่จอที่มีความละเอียดสูงระดับ 2K QHD หรือ 4K UHD ให้เหมาะกับสายตาแล้วจะใช้ฟังก์ชั่นซูมหน้าจอของ Windows เสริมเข้าไปสักหน่อยก็ทำงานได้ดีมากแล้ว แต่ถ้าเป็นงานอาร์ททั่วไปก็ควรโฟกัสที่ค่า sRGB ให้ได้ระดับ 99~100% และถ้าค่า DCI-P3 สูงเกิน 85% ก็จะยิ่งดี หรือถ้าเน้นเรื่องงานวิดีโอก็โฟกัสที่ค่า Rec.709 แทน เพียงเท่านี้ก็จะได้หน้าจอคอม 32 นิ้วที่ตรงโจทย์การใช้ทำงานของเราที่สุดอย่างแน่นอน

จอคอม 32 นิ้ว

สรุปสเปคจอคอม 32 นิ้วทั้ง 5 รุ่น จอใหญ่น่าใช้ทำงานสะดวกแน่นอน

สเปคจอคอม 32 นิ้ว Resolution Gamut Contrast ratio

Brightness

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo ThinkVision T32p-20 (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS
99% sRGB

10-bit Color depth

1000:1

350 cd/m2

USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream)

USB-A 3.1 Gen 1 x 4

HDMI 2.0 x 1

DisplayPort 1.2

Audio out x 1

22,039
ASUS ProArt Display PA329CV (บาท) 32″ UHD
(3840×2160)
IPS

ProArt Preset

ProArt Palette

100% sRGB

100%
Rec.709

Delta-E <2

10-bit Color depth

HDR10

Calman Verified

VESA DisplayHDR 400

1000:1

400 cd/m2

USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90W

DisplayPort 1.2 x 1

HDMI 2.0 x 2

USB-A 3.2 Gen 1 x 4

Audio Input x 1

22,900
LG UltraFine 32UN880-B (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS

AMD FreeSync

95% DCI-P3

10-bit Color depth

HDR10

1000:1

350 cd/m2

USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60W

HDMI x 2

DisplayPort x 1

Headphone out x 1

24,189
Dell UltraSharp U3223QE (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS

Auto KVM

100% sRGB

100% Rec.709

98% DCI-P3

Delta-E <2

VESA DisplayHDR 400

2000:1

400 cd/m2

HDMI x 1

DisplayPort 1.4 x 1

DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90W

USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์

USB-A 3.2 Gen 2 x 4

LAN x 1

Audio line-out x 1

26,800
Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS
83%
Rec 2020

93%
Adobe RGB

99.8%
DCI-P3

Delta-E <2

VESA DisplayHDR 1000

Calman Verified

10-bit Color depth

1300:1

1000 cd/m2

HDMI x 2

DisplayPort 1.4 x 1

Thunderbolt 3 x 2

USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2

External Colorimter port x 1

87,500

5 จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ท ทำงานดีใหญ่เต็มตา

หากหน้าจอคอม 27 นิ้วใหญ่ไม่พอใช้ทำงานแล้วอยากได้ขนาด 32 นิ้วมาทำงานแทน เพราะชอบขนาดที่ใหญ่มองเห็นงานทั้งหมดได้โดยไม่ต้องเลื่อนไปมาให้เสียอารมณ์ล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกจอมาแนะนำทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

  1. Lenovo ThinkVision T32p-20 (22,039 บาท)
  2. ASUS ProArt Display PA329CV (22,900 บาท)
  3. LG UltraFine 32UN880-B (24,189 บาท)
  4. Dell UltraSharp U3223QE (26,800 บาท)
  5. Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (87,500 บาท)
1. Lenovo ThinkVision T32p-20 (22,039 บาท)

61F2GAR2 500x400 1

ผู้ใช้หลายคนอาจจะเห็นภาพ Lenovo เป็นผู้ผลิตพีซีและโน๊ตบุ๊คเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่จอคอม Lenovo ThinkVision T32p-20 นี้เป็นจอคอมสายทำงานขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS ที่น่าซื้อมาทำงานและราคาไม่แพงเกินไป ได้หน้าจอสี 10-bit แท้ แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 99% sRGB ค่า Contrast ratio 1000:1 มีความสว่าง 350 cd/m2 และมีพอร์ตติดตั้งมาให้ใช้ครบเครื่อง ได้แก่ USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream), USB-A 3.1 Gen 1 x 4, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2, Audio out x 1 ซึ่งถ้าโน๊ตบุ๊คของใครมีพอร์ต Thunderbolt อยู่ ก็ต่อสายเข้าหน้าจอคอม 32 นิ้วนี้แล้วใช้ทำงานได้ทันทีและจอนี้ยังเป็น USB Hub เอาไว้ต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย

สเปคของ Lenovo ThinkVision T32p-20
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS
  • Gamut : 99% sRGB, 10-bit Color depth
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream), USB-A 3.1 Gen 1 x 4, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2, Audio out x 1
  • Price : 22,039 บาท (Lenovo)
2. ASUS ProArt Display PA329CV (22,900 บาท)

b3dd177f81ee46db054521ecb7ab51d7 1

จอ ASUS ProArt ก็มีจอคอม 32 นิ้วให้เลือกด้วย นั่นคือ ASUS ProArt Display PA329CV ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 32 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีฟังก์ชั่นปรับการแสดงผลหน้าจอ ProArt Preset, ProArt Palette ติดตั้งมาให้ และขาตั้งหน้าจอยังหมุนปรับจอเป็นแนวตั้งได้และยังถูกคาลิเบรตมาจากโรงงานแล้ว ส่วนขอบเขตสีหน้าจออยู่ที่ 100% sRGB, 100% Rec.709 มีค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 และได้รับการรับรอง Calman Verified, VESA DisplayHDR 400 รองรับการแสดงผล HDR10 และเป็นจอสี 10-bit Color depth ค่า Contrast ratio 1000:1 ความสว่างสูงสุด 400 cd/m2 มีพอร์ต USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio Input x 1 เป็นจอสายทำงานสเปคดีคุ้มราคา โดยเฉพาะจอนี้เป็นจอ 100% Rec.709 ดังนั้นมันจึงเหมาะกับสายตัดต่อวิดีโอเป็นพิเศษหรือจะเอาไว้แต่งภาพก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

สเปคของ ASUS ProArt Display PA329CV
  • Resolution : 32 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีฟังก์ชั่นปรับการแสดงผลหน้าจอ ProArt Preset, ProArt Palette
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, Delta-E <2, 10-bit Color depth, HDR10, Calman Verified, VESA DisplayHDR 400
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 400 cd/m2
  • Connectivity : USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio Input x 1
  • Price : 22,039 บาท (Smart Projector Shopee)
3. LG UltraFine 32UN880-B (24,189 บาท)

863afc62d90696d9b11845ff5dada6b6 1

LG UltraFine 32UN880-B เป็นจอคอม 32 นิ้วสายอาร์ทที่ดีไซน์โดดเด่นกว่าจออื่น เนื่องจากขาตั้งหน้าจอเป็นแบบ C-Clamp หนีบเข้ากับขอบโต๊ะทำงานไม่ได้วางบนโต๊ะเหมือนจออื่น ซึ่งถูกหลักสรีระศาสตร์และยังปรับหน้าจอเลื่อนความสูง, เอียงและหมุนเป็นแนวตั้งได้ สามารถต่อสาย USB-C เข้าพอร์ต Thunderbolt ของโน๊ตบุ๊คแล้วใช้งานได้เลย ส่วนจอนี้มีขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS รองรับการแสดงผล HDR10 และ AMD FreeSync ขอบเขตสีกว้าง 95% DCI-P3 เป็นจอสี 10-bit Color depth มีค่า Contrast ratio 1000:1 ปรับความสว่างได้ 350 cd/m2 ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1

สเปคของ LG UltraFine 32UN880-B
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS รองรับ AMD FreeSync
  • Gamut : 95% DCI-P3, 10-bit Color depth, HDR10
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1
  • Price : 24,189 บาท (Monitor2Home Shopee)
4. Dell UltraSharp U3223QE (26,800 บาท)

Screenshot 2022 11 16 100626

สำหรับจอคอม 32 นิ้วเพื่อสายอาร์ทนั้น Dell จะมีรุ่น Dell UltraSharp U3223QE ที่ราคาเป็นมิตรให้ครีเอเตอร์ได้เลือกซื้อและจอนี้ก็เป็น Port Hub ในตัวและมีฟีเจอร์ Auto KVM เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์สองเครื่องเข้าหน้าจอนี้แล้วใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวควบคุมได้ทั้งสองเครื่อง และขาตั้งหน้าจอนี้ยังปรับองศาจอได้หลากหลายรวมทั้งหมุนเป็นแนวตั้งได้ ขนาดจอนี้อยู่ที่ 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, 100% Rec.709, 98% DCI-P3 ความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 ค่า Contrast ratio 2000:1 ปรับความสว่างจอได้สูงสุด 400 cd/m2 มีพอร์ต HDMI x 1, DisplayPort 1.4 x 1, DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 2 x 4, LAN x 1, Audio line-out x 1 ถ้าใครชื่นชอบแบรนด์และฟังก์ชั่นของจอคอม 32 นิ้ว ของ Dell แนะนำให้ซื้อจอนี้เอาไว้ใช้เลย

สเปคของ Dell UltraSharp U3223QE
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มี Auto KVM
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, 98% DCI-P3, Delta-E <2, VESA DisplayHDR 400
  • Contrast ratio & Brightness : 2000:1, 400 cd/m2
  • Connectivity : HDMI x 1, DisplayPort 1.4 x 1, DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 2 x 4, LAN x 1, Audio line-out x 1
  • Price : 26,800 บาท (iTrinity Shopee)
5. Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (87,500 บาท)

Screenshot 2022 11 16 100804

Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q นี้เป็นจอคอม 32 นิ้วคุณภาพสูงมาก มี HLG (Hybrid Log Gamma) ให้ตั้งค่าการแสดงผลคอนเทนต์ HDR ให้แสดงผลได้ดีพร้อมใช้ตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพให้ได้คุณภาพสูงเทียบเท่าที่ฉายในแพลตฟอร์ม BBC iPlay หรือสถานีโทรทัศน์ NHK ของประเทศญี่ปุ่นได้เลย ซึ่งหน้าจอนี้มีขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีเทคโนโลยี PremierColor แสดงผลสีได้กว้าง 83% Rec 2020, 93% Adobe RGB, 99.8% DCI-P3 การันตีค่า Delta-E <2 เป็นจอสี 10-bit Color depth ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 1000 และ Calman Verified ค่า Contrast ratio 1300:1 ปรับความสว่างได้สูงสุด 1000 cd/m2 มีพอร์ต HDMI x 2, DisplayPort 1.4 x 1, Thunderbolt 3 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2, External Colorimter port x 1 ติดตั้งมาให้ใช้ ซึ่งจอคอม 32 นิ้วตัวนี้นับว่ามันเป็นจอคุณภาพสูงเพื่องานระดับโปรดักชั่นเฮ้าส์โดยเฉพาะ

สเปคของ Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS
  • Gamut : 83% Rec 2020, 93% Adobe RGB, 99.8% DCI-P3, Delta-E <2, VESA DisplayHDR 1000, Calman Verified, 10-bit Color depth
  • Contrast ratio & Brightness : 1300:1, 1000 cd/m2
  • Connectivity : HDMI x 2, DisplayPort 1.4 x 1, Thunderbolt 3 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2, External Colorimter port x 1
  • Price : 87,500 (iTrinity Shopee)

daniel korpai iopITwyUcTA unsplash 1

สำหรับจอคอมสายทำงานอาร์ท ไม่ว่าจะขนาด 27 หรือ 32 นิ้ว ก็เป็นไซซ์ที่น่าใช้ทั้งคู่ แต่ส่วนสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ คือ ขนาดหน้าจอยิ่งกว้างเท่าไหร่ ยิ่งต้องนั่งให้ห่างจากหน้าจอมากเท่านั้น เพื่อให้ได้ระยะโฟกัสและไม่ทำร้ายสายตาเกินไปด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อจอคอม 32 นิ้วมาใช้งาน ก็อยากให้พิจารณาระยะความลึกของโต๊ะทำงานเราสักนิด ว่ามันวางได้ไหมแล้วเข้ากับระยะสายตาของเราหรือเปล่า จะได้ใช้ทำงานได้อย่างมีความสุขนั่นเอง


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2gan 1

Share image Edit Name 327inch 1

Share image Edit Name 2acer 1

from:https://notebookspec.com/web/675286-5-recommend-32-inch-monitor-for-artist

5 จอคอม 27 นิ้ว เพื่อสายอาร์ตโดยเฉพาะ ทำงานดีสีแม่นเป๊ะสวยปัง อัพเดทปลายปี 2022

จอคอม 27 นิ้วเพื่อสายอาร์ทโดยเฉพาะ ซื้อไว้ใช้ได้งานดีคืนทุนไวกำไรมา!

Share image Edit Name 327inch 1

แม้จอคอม 27 นิ้ว สำหรับเกมมิ่งหลายๆ รุ่นในปัจจุบันจะมีขอบเขตสีที่กว้างแล้วเอามาใช้ทำงานอาร์ตได้ก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว ผู้ผลิตหน้าจอชั้นนำหลายๆ แบรนด์ก็มีหน้าจอที่ออกแบบมาเพื่อทำงานสายอาร์ตโดยเฉพาะซึ่งแยกเป็นอีกกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากขอบเขตสีจะกว้างเป็นพิเศษแล้วยังได้รับการรับรองด้วยบริษัทที่ทำงานด้านสีสัน ไม่ว่าจะ Pantone Validated หรือ Calman Verified เพื่อการันตีสีสันของหน้าจอนี้เที่ยงตรง ให้สีได้เที่ยงตรงสวยงามแน่นอน

Advertisementavw

นอกจากได้รับการการันตีคุณภาพสีจากโรงงานแล้ว หน้าจอเหล่านี้ทางผู้ผลิตก็มีการคาลิเบรตสีจอมาจากโรงงานของผู้ผลิตโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อมาแล้วก็ต่อคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ทันที ซึ่งสะดวกมากและยังเปลี่ยนโหมดการแสดงผลขอบเขตสีได้ตามต้องการไม่ว่าจะ sRGB, DCI-P3, Adobe RGB ฯลฯ มาให้ผู้ใช้เลือก โดยกดตั้งค่าที่ปุ่มตั้งค่าบนหน้าจอได้เลย หรือถ้าใครมีอุปกรณ์อย่าง Colorchecker หรือ Spyder ก็สามารถเอามาคาลิเบรตสร้าง ICC Profile โดยเฉพาะเพื่อใช้กับหน้าจอนั้นๆ ได้อีกด้วย

จอคอม 27 นิ้ว

ส่วนผู้ใช้คนไหนต้องการทราบข้อมูลวิธีการเลือกจอคอม 27 นิ้วสำหรับสายทำงานเอาไว้ใช้งาน ซึ่งอาจจะนอกเหนือจากที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำในบทความนี้แล้ว จะมีวิธีเลือกซื้อดังนี้

  1. ขนาดและความละเอียดหน้าจอ – ขนาดหน้าจอสายทำงานอาร์ท ณ ตอนนี้ จะมีให้เลือกหลักๆ อยู่ที่ 24, 27 และ 32 นิ้ว ซึ่งราคาจะแตกต่างกัน แต่บางครั้งหน้าจอคอม 27 นิ้ว แต่ใช้พาเนลและถูกคาลิเบรตมาเป็นอย่างดี มีฟีเจอร์เอื้อการทำงานเยอะอาจจะมีราคาสูงไล่เลี่ยกับจอขนาด 32 นิ้วระดับกลางทีเดียว ซึ่งขนาด 27 นิ้วนั้นจะเป็นขนาดที่เหมาะจะใช้ทำงานทุกรูปแบบ แต่ถ้าเป็นจอ 32 นิ้ว จะเป็นขนาดอัตราส่วนที่เที่ยงตรงกับการทำงานประเภทวิดีโอมากกว่า ส่วนความละเอียดหน้าจอ ณ ตอนนี้จะมีคละกันตั้งแต่ Full HD (1920×1080), QHD (2560×1440) หรือแม้แต่ 4K UHD (3840×2160) หรือบางจอก็มีความละเอียด 5K ด้วย ส่วนความสว่างหน้าจอที่แนะนำควรหาจอที่มีความสว่าง 300 cd/m2 ขึ้นไปมาใช้จะดีที่สุด
  2. พาเนลหน้าจอ – พาเนลหน้าจอคอม 27 นิ้วสำหรับสายทำงานอาร์ทนั้นควรเป็นพาเนล IPS ไม่ควรหาพาเนล TN ซึ่งเป็นจอ LCD Panel รุ่นเก่าแล้วมาใช้ เพราะมีขอบเขตการมองเห็นแคบกว่า ทำให้ให้สีและแสดงผลได้ไม่ดีเท่า และสีอาจจะเกิดอาการเพี้ยนได้ด้วย ส่วนค่า Refresh Rate หน้าจออยู่ระดับ 60Hz ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
  3. ขอบเขตสี (Color Gamut) และความเที่ยงตรง (Color Accuracy) – นอกจากขอบเขตสีกว้างระดับ 100% sRGB, 100% DCI-P3 ที่มักจะได้ยินเป็นประจำแล้ว จุดที่ควรใส่ใจ คือ ค่า bit สีบนหน้าจอ ซึ่งปกติแล้วหน้าจอที่ใช้งานอยู่มักเป็นหน้าจอ 8-bit color depth ซึ่งแสดงผลสีได้ดีระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นหน้าจอ 10-bit color depth (ไม่ว่าจะเป็น 8-bit+FRC หรือ 10-bit แท้ก็ตาม) จะเป็นหน้าจอที่รองรับการแสดงผล HDR โดยอัตโนมัติ ซึ่งหน้าจอสี 10-bit จะแสดงผลสีได้ระดับ “พันล้านสี” ทำให้สีสันบนหน้าจอสวยสด คมชัดยิ่งกว่า และควรพิจารณาหน้าจอที่มีค่า Delta-E <2 ด้วย เพื่อให้สีสันที่เห็นบนหน้าจอและผลงานที่ปริ้นท์ออกมาเพื่อใช้งานจริงมีความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด 
  4. อุปกรณ์เสริมอื่นๆ และพอร์ตเชื่อมต่อ – อุปกรณ์เสริมและพอร์ตเชื่อมต่อก็เป็นจุดสำคัญเมื่อพิจารณาจะซื้อจอคอม 27 นิ้วไว้ทำงานสักตัวหนึ่ง ซึ่งพอร์ตเชื่อมต่อที่ควรมีติดหน้าจอมาให้ในปัจจุบันนี้ ควรมี HDMI, DisplayPort และ DVI มาอย่างละพอร์ตเพื่อใช้เชื่อมต่อได้สะดวกยิ่งขึ้น และหน้าจอคอม 27 นิ้ว บางรุ่นในตอนนี้ก็เชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C ได้และเป็น Port Hub ไว้ใช้ต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อีกด้วย และหน้าจอบางรุ่นก็จะมีกรอบปีกปิดหน้าจอติดมาให้ ช่วยป้องกันแสงที่ส่องมากระทบหน้าจอได้ระดับหนึ่งด้วย

jorge ramirez SVpWtjXmLZg unsplash 1ถ้างบเหลือๆ จะจัดเอาไว้ใช้สามจอเลยก็ได้ จุกๆ

สรุปสเปค 5 จอคอม 27 นิ้ว เอาใจสายอาร์ทสุดๆ ตัดคลิปก็ได้แต่งภาพก็งาม

สเปคจอคอม 27 นิ้ว Resolution Gamut Contrast ratio

Brightness

Connectivity ราคา
(บาท)
LG
27UP600-W
27″ 4K UHD
(3840×2160)
IPS

AMD FreeSync

95% DCI-P3

VESA DisplayHDR 400

HDR10

1200:1

400 cd/m2

HDMI x 2

DisplayPort x 1

Headphone out x 1

9,900
Dell UltraSharp U2722D 27″ QHD
(2560×1440)
IPS
100% sRGB

100% Rec.709

95% DCI-P3

1000:1

350 cd/m2

HDMI 1.4 x 1

DisplayPort x 2

USB-C
(Upstream) x 1

USB-A 3.2 Gen 2 x 3

Audio line-out x 1

USB-C (Downstream) x 1 รองรับชาร์จไวกำลังไฟ 15 วัตต์

12,899
ASUS ProArt Display PA279CV 27″ 4K UHD
(3840×2160)
IPS

Adaptive-Sync

100% sRGB

100% Rec.709

HDR10

1000:1

350 cd/m2

USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 65 วัตต์

DisplayPort 1.2 x 1

HDMI 2.0 x 2

USB-A 3.2 Gen 1 x 4

Audio input x 1

17,999
BenQ SW270C 27″ QHD
(2560×1440)
IPS
100% sRGB

99% Adobe RGB

77% DCI-P3

HDR10

Calman Verified

Panton Validated

Delta-E <2

1000:1

300 cd/m2

HDMI 2.0 x 2

DisplayPort 1.4 x 1

USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์

USB-B (Upstream) x 1

USB 3.1 (Downstream) x 2

Card Reader x 1

Headphone Jack x 1 

26,600
LG UltraFine 5K Monitor 27″ 5K UHD
(5120×2880)
IPS
99% DCI-P3 1100:1

500 cd/m2

Thunderbolt 3 x 1

USB-C 3.0 x 3 

39,900

5 จอคอม 27 นิ้ว เพื่อสายอาร์ท ทำงานดี สีสันสวยถูกใจ ได้คลิปดีภาพปังๆ

ผู้ใช้สายอาร์ทที่กำลังหาจอ 27 นิ้วเอาไว้ทำงานสักตัว มีงบประมาณพร้อมลงทุนเพื่อให้ผลงานออกมาดียิ่งขึ้นล่ะก็ ผู้เขียนก็มีจอสายทำงานคุณภาพดีหาซื้อในไทยได้มาให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน เป็นจอใช้ทำงานอาร์ทคุณภาพดี โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. LG 27UP600-W (9,900 บาท)
  2. Dell UltraSharp U2722D (12,899 บาท)
  3. ASUS ProArt Display PA279CV (17,999 บาท)
  4. BenQ SW270C (26,600 บาท)
  5. LG UltraFine 5K Monitor (39,900 บาท)
1. LG 27UP600-W (9,900 บาท)

large01

จอ 27 นิ้วตัวแรกที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำสายอาร์ททุกท่าน เป็น LG 27UP600-W รุ่นนี้ที่เน้นการทำงานโดยเฉพาะ นอกจากดีไซน์จะสวย ขอบบางดูดีมีระดับแล้ว จอนี้ยังปรับก้มเงยให้เข้ากับมุมสายตาได้ด้วย จอนี้มีขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 60Hz และ Response Time 5ms (GtG) ขอบเขตสีกว้าง 95% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 มีการคาลิเบรตหน้าจอมาจากโรงงานแล้ว รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 และ AMD FreeSync ลดอาการภาพฉีกขาด มีค่า Contrast ratio 1200:1 ความสว่าง 400 cd/m2 ซึ่งสว่างพอใช้ทำงานอาร์ตอย่างแน่นอน มีพอร์ต HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1 ช่องติดตั้งมาให้ใช้งาน

สเปคของ LG 27UP600-W
  • Resolution : 27 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มี AMD FreeSync
  • Gamut : 95% DCI-P3, VESA DisplayHDR 400, HDR10
  • Contrast ratio & Brightness : 1200:1, 400 cd/m2
  • Connectivity : HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1
  • Price : 9,900 บาท (hpbyiqink Shopee)
2. Dell UltraSharp U2722D (12,899 บาท)

dell 1

เชื่อว่าสายทำงานหลายคนเมื่อคิดจะซื้อจอมาใช้ก็คงคิดถึงจอ DELL แน่นอน ซึ่งจอรุ่นแนะนำเป็น Dell UltraSharp U2722D ซึ่งทางผู้ผลิตดีไซน์ขาตั้งหน้าจอให้เลื่อนขึ้นลง, ปรับองศาก้มเงยและหมุนเป็นแนวตั้งได้ด้วย มีขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 60Hz, Response Time 5~8ms (GtG) แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% sRGB, 100% Rec.709, 95% DCI-P3 ปรับแต่งการแสดงผลบนหน้าจอได้ด้วยโปรแกรม Dell Display Manager มีค่า Contrast ratio อยู่ที่ 1000:1 สว่าง 350 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 1.4 x 1, DisplayPort x 2, USB-C (Upstream) x 1, USB-A 3.2 Gen 2 x 3, Audio line-out x 1, USB-C (Downstream) x 1 รองรับชาร์จไวกำลังไฟ 15 วัตต์ ด้วย นับเป็นจอคอม 27 นิ้ว ที่เหมาะกับสายทำงานทุกแบบ ไม่ว่าจะทำงานออฟฟิศหรือใช้ตัดต่อแต่งภาพก็ดี และถ้าใครต้องการดูรีวิวโดยละเอียดสามารถดูคลิปรีวิวด้านล่างนี้ได้ด้วย

สเปคของ Dell UltraSharp U2722D
  • Resolution : 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, 95% DCI-P3
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : HDMI 1.4 x 1, DisplayPort x 2, USB-C (Upstream) x 1, USB-A 3.2 Gen 2 x 3, Audio line-out x 1, USB-C (Downstream) x 1 รองรับชาร์จไวกำลังไฟ 15 วัตต์
  • Price : 12,899 บาท (Revcorporation Thailand Shopee)
3. ASUS ProArt Display PA279CV (17,999 บาท)

pd 1 1

นอกจากจอคอมสายทำงาน ASUS ก็มีจอทำงานอาร์ทอย่าง ASUS ProArt Display PA279CV ให้ซื้อไปใช้ทำงานได้ด้วย โดยข้อดีของจอนี้ คือ มีฟีเจอร์ ProArt Preset, ProArt Palette สำหรับตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอให้เหมาะกับงานอาร์ทแบบต่างๆ ได้และยังหมุนหน้าจอเป็นแนวตั้งได้ด้วย

ขนาดจออยู่ที่ 27 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 60Hz, Response Time 5ms (GtG) มี Adaptive-Sync ช่วยให้แสดงผลภาพบนหน้าจอได้ต่อเนื่องไม่ฉีกขาด ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, 100% Rec.709 มีค่า Delta-E <2 คาลิเบรตจากโรงงาน ได้รับการรับรอง Calman Verified รองรับการแสดงผล HDR10 ค่า Contrast ration 1000:1 ปรับความสว่างได้ 350 cd/m2 พอร์ตของหน้าจอนี้มี USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 65 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio input x 1 หากใครหาจอคอม 27 นิ้วดีๆ ไว้ใช้ทำงานล่ะก็ จอ ASUS ProArt นี้จัดว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก

สเปคของ ASUS ProArt Display PA279CV
  • Resolution : 27 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มี Adaptive-Sync
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, HDR10 
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 65 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio input x 1
  • Price : 17,999 บาท (Smart Projector Shopee)
4. BenQ SW270C (26,600 บาท)

01 sw270c

BenQ SW270C เป็นจอคอม 27 นิ้วสำหรับสายอาร์ทอีกจอที่ไม่ควรมองข้าม มันสามารถแสดงผลสีได้ 10-bit (8-bit+FRC) พร้อมชิป Hardware Calibration ติดตั้งมาให้เพื่อคาลิเบรทจอได้โดยทำงานกับโปรแกรม Palette Master Element หรือจะเปิดกล่องมาก็ใช้งานได้เลยเพราะทางบริษัทได้คาลิเบรทจอมาให้จากโรงงานแล้ว ส่วนอุปกรณ์เสริมทาง BenQ แถมกรอบบังแดดป้องกันแสงสะท้อนจอกับ Hotkey Puck G2 ปุ่มควบคุมเลือกโหมดและตั้งค่าหน้าจอได้สะดวกขึ้นมาด้วย

สเปคจอนี้มีขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×144) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 60Hz, Response Time 5ms รองรับขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, 99% Adobe RGB, 77% DCI-P3 รองรับ HDR10 ได้รับการรับรอง Calman Verified, Panton Validated มีค่า Delta-E <2 ค่า Contrast ratio อยู่ที่ 1000:1 มีความสว่าง 300 cd/m2 พอร์ตเชื่อมต่อของหน้าจอนี้มี HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.4 x 1, USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, USB-B (Upstream) x 1, USB 3.1 (Downstream) x 2, Card Reader x 1, Headphone Jack x 1 ต้องถือว่าจอ BenQ ตัวนี้เป็นจอคอม 27 นิ้วสำหรับงานอาร์ทที่ดีมาก ตอบโจทย์สายทำงานอย่างแน่นอน

สเปคของ BenQ SW270C
  • Resolution : 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×144) พาเนล IPS
  • Gamut : 100% sRGB, 99% Adobe RGB, 77% DCI-P3, HDR10, Calman Verified, Panton Validated, Delta-E <2
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 300 cd/m2
  • Connectivity : HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.4 x 1, USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, USB-B (Upstream) x 1, USB 3.1 (Downstream) x 2, Card Reader x 1, Headphone Jack x 1 
  • Price : 26,600 บาท (BenQ Shopee Mall)
5. LG UltraFine 5K Monitor (39,900 บาท)

Screenshot 2022 11 15 115540 1

LG UltraFine 5K Monitor เป็นจอคอม 27 นิ้วสายอาร์ทที่เรียกว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ macOS ทำงานโดยเฉพาะ หากใครใช้ MacBook หรือ iPad อยู่ ก็เหมาะจะซื้อจอนี้ไปใช้เป็นจอคอมหลักเลย โดยทาง LG เคลมว่าจอนี้ถ้าใช้กับระบบ macOS จะให้ประสบการณ์ใช้งานที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อ (Seamless) เป็นที่สุดและยังติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียดสูงและไมค์คุณภาพดีติดตั้งมาให้ ส่วนพอร์ต Thunderbolt 3 จะรองรับการชาร์จ Power Delivery 94 วัตต์ทีเดียว สเปคจอนี้มีขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 5K UHD (5120×2880) พาเนล IPS มีค่า Refresh Rate 60Hz และ Response Time 14ms รองรับขอบเขตสีกว้าง 99% DCI-P3 มีค่า Contrast ratio 1100:1 ความสว่างสูงสุด 500 cd/m2 ซึ่งสว่างมาก มีพอร์ต Thunderbolt 3 x 1, USB-C 3.0 x 3 หากใครหาจอคอม 27 นิ้วเอาไว้ใช้กับอุปกรณ์ Apple โดยเฉพาะแล้วพร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดี ก็ซื้อจอ LG ตัวนี้ไปใช้จะดีที่สุดอย่างแน่นอน

สเปคของ LG UltraFine 5K Monitor
  • Resolution : 27 นิ้ว ความละเอียด 5K UHD (5120×2880) พาเนล IPS
  • Gamut : 99% DCI-P3
  • Contrast ratio & Brightness : 1100:1, 500 cd/m2
  • Connectivity : Thunderbolt 3 x 1, USB-C 3.0 x 3 
  • Price : 39,900 บาท (BaNANA)

dhru j 5E rRcP8Yh8 unsplash 1

สำหรับจอคอม 27 นิ้ว สายทำงานอาร์ทนั้น จะเห็นว่าราคานั้นสูงก็จริง แต่ถ้าคิดในมุมกลับว่ามันเป็นจอไว้ใช้ทำงานหาเงินเพื่อศิลปินและครีเอเตอร์ก็ถือว่ามันคุ้มค่าน่าลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะงานครีเอทีฟเช่นนี้คืนทุนค่าอุปกรณ์ได้ค่อนข้างเร็วทีเดียว ดังนั้นถ้าลงทุนอุปกรณ์ดีเอาไว้ใช้แล้วในระยะยาวอย่างไรก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

computer monitor cover

32monitor

32inch monitor cover

from:https://notebookspec.com/web/675117-5-recommend-27-inch-monitor-for-artist

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เช็คอาการ แก้ไขใน 7 ขั้นตอนปี 2022 แบบไม่มีค่าใช้จ่าย

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เปิดคอมติด แต่ภาพไม่ขึ้นจอ ปัญหายอดฮิตปี 2022 รวม 7 ขั้นตอนเช็คอาการ แก้ไขได้

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เป็นอาการที่เจอกันได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคอมเครื่องใหม่ หรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันมานานแล้ว รวมถึงบางรายก็จะเจออาการนี้ เมื่อซื้อจอคอมมาใหม่ หรือไม่ได้ใช้คอมนาน ก็มีโอกาสเจอกับปัญหาแบบนี้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีในปี 2022 นี้ เรามีแนวทางแก้ปัญหา จอคอมไม่ติด หรือจอดำบ่อย เปิดแล้วจอดับ ไฟกระพริบ เรามาดูกันครับว่า จะมาทางเช็คอาการ และแก้ไขปัญหาได้อย่างไร สามารถทำได้เองในเบื้องต้น ก่อนจะส่งถึงมือช่าง หากอาการหนักเกินไป ส่วนจะเกิดจากสาเหตุใด ไปติดตามชมกันครับ และตอนท้ายเรายังได้รวม 5 จอคอมขนาด 24″ สำหรับเกมเมอร์ ฟีเจอร์แน่นๆ ภาพสวยสดใสราคาแค่ 5 พันกว่าบาทเอาไว้ให้ เผื่อใครจอเสีย แล้วต้องการจะเปลี่ยนใหม่อยู่พอดี


จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ แก้ไขง่ายๆ

  1. สายสัญญาณมีปัญหา
  2. เช็คพอร์ตสัญญาณ
  3. เช็คช่องสัญญาณขาเข้า
  4. เช็คสัญญาณกราฟิกการ์ด
  5. คอมทำงานผิดปกติ
  6. จอคอมเสียหาย
  7. Out of range

สาเหตุที่ 1: สายสัญญาณมีปัญหา

ค่อนข้างจะเป็นสาเหตุสำคัญในอันดับต้นๆ ของปัญหานี้ก็ว่าได้ เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีการสำรองสายสัญญาณต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไม่ได้เป็นร้านซ่อมหรือร้านขาย ที่จะมีของพวกนิดติดบ้านเอาไว้ อาการส่วนใหญ่ที่เจอ นอกจากจะไม่มีภาพจากคอม มาแสดงผลบนหน้าจอเท่านั้น แต่บางครั้งยังเจอกับจอติดๆ ดับๆ สัญญาณหาย หรือบางที่ก็จะเป็นอาการ No signal ไปซะเฉยๆ หรือบางครั้งก็จะเปิดติด ไฟเข้า แต่เมื่อจะเข้าสู่หน้าจอวินโดว์ ภาพก็หายไปดื้อๆ โดยมักจะเจอกับอาการเหล่านี้ในช่วงที่สายใกล้พัง

Advertisementavw
จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

โดยสาเหตุสำคัญของปัญหาจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ นี้ก็มีด้วยกัน 2-3 จุดหลักคือ เรื่องแรกจะเป็นการเสื่อมสภาพของสายสัญญาณ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจากถูกใช้งานมานาน หรืออยู่ใกล้กับอุปกรณ์ที่มีความร้อนสูง ความชื้น และปัญหาเรื่องสารเคมีกัดกร่อน และสัตว์กัดแทะ อีกแบบหนึ่งคือ ถูกใช้งานหนักหน่วงและไม่ได้รับการดูแลที่ดีเท่าที่ควร ถูกขาโต๊ะทับ สายพับจนเสียหาย เป็นต้น

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: จากปัญหาและอาการที่ว่ามานี้ โอกาสที่จะนำสายกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมน้อยมากๆ ส่วนใหญ่อาการแบบนี้เกิดขึ้น ก็มักจะมีความเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว และก็ไม่แนะนำให้พยายามใช้สายเดิมมาใช้ในการทำงาน อยากให้ซื้อสายใหม่มาใช้จะดีกว่า แต่ให้เช็คดีๆ ว่า เป็นสายแบบไหน D-Sub พอร์ตสีน้ำเงิน, DVI พอร์ตสีขาว หรือจะเป็น HDMI หรือ DisplayPort เพราะจอในแต่ละรุ่นก็อาจจะไม่ได้มีให้ครบทุกพอร์ตเสมอไป


สาเหตุที่ 2: เช็คพอร์ตสัญญาณ

เรื่องของพอร์ตสัญญาณ ก็เจอกันบ่อยไม่น้อยไปกว่าเรื่องสาย เนื่องจากบางครั้งพอร์ตรับสัญญาณที่ตัวจอคอม ก็พังได้เช่นกัน และส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้เป็นหลัก ที่ใช้งานแบบไม่ทะนุถนอม หรือบางครั้งการย้ายหน้าจอไปมา และสายที่พันกันยุ่งเหยิงด้านหลังจอภาพ ก็มีส่วนทำให้พอร์ตเสียหายได้ อาทิเช่น การดึงรั้งของสาย เวลาที่คุณต้องย้ายโต๊ะย้ายของ หรือทำความสะอาด ซึ่งอาจเกิดได้โดยไม่ตั้งใจ ทำให้สายถูกกระชากอย่างรุนแรง และส่งผลเสียหายไปยังพอร์ตด้วย รวมถึงบางคนที่ชอบอ้อมสายไปด้านหลังจอ ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ด สายชาร์จอุปกรณ์ และอื่นๆ ในช่วงใช้งาน เลื่อนเมาส์ หรือขยับสาย ก็อาจจะไปเกี่ยวกับสาย และรั้งพอร์ตให้เสียหาย ทำให้จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบได้เช่นกัน

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: ลองเช็คที่พอร์ตของสายสัญญาณก่อนว่าเกิดความเสียหายที่จุดใด พอร์ตของสาย VGA, HDMI หรือ DP ซึ่งถ้าเสียที่พอร์ต ก็ยังพอเบาใจ เพราะแค่หาสายมาเปลี่ยนใหม่ ก็ใช้งานได้ตามปกติแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนสายสัญญาณเส้นใหม่ แล้วยังใช้งานไม่ได้ ไม่มีสัญญาณเข้าหรือ จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ แล้วเงียบไป ให้สันนิษฐานว่าพอร์ตที่ติดอยู่บนตัวจอ อาจจะเสีย เช่น HDMI หรือ DisplayPort ซึ่งเป็นสายที่คุณต่อใช้งานอยู่ ให้ลองใช้พอร์ตสัญญาณอื่นทดแทน ซึ่งหากใช้งานได้ ก็ให้ใช้งานชั่วคราวไปก่อน มีเวลาจึงค่อยส่งซ่อมในภายหลัง สนนราคาค่าซ่อมก็ไม่สูงนัก ขึ้นอยู่กับอาการ แต่บางครั้งก็หาร้านซ่อมได้ยากในบางพื้นที่


สาเหตุที่ 3: เช็คช่องสัญญาณขาเข้า

บางทีปัญหาจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ ก็อาจจะไม่ได้ซับซ้อน แต่เป็นที่การเซ็ตค่าของ Signal Input ที่เป็นสัญญาณขาเข้า ไม่ตรงกับระบบ โดยสายสัญญาณมาที่จะผ่านพอร์ต HDMI และระบบอาจจะมีค่าเดิมที่ใช้เป็น DisplayPort ก็เป็นได้ ซึ่งระบบของจอคอมอาจไม่ได้เซ็ตให้เป็น Automatic ในการเช็คสัญญาณให้อัตโนมัติ ซึ่งตรงนี้ก็จะกลายเป็นปัญหา เมื่อผู้ใช้ไม่ได้เข้าไปตั้งค่าให้ตรวจเช็คสัญญาณให้ตรงกับที่ต่อมากับคอมนั่นเอง แม้ว่าเราจะเห็นว่าไฟเข้าคอม และแสงไฟที่เมาส์ คีย์บอร์ดก็ยังทำงาน ให้เราเริ่มต้นแก้ปัญหาจากตรงนี้

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: ใช้วิธีง่ายๆ คือ ให้ลองกดที่ปุ่มเมนู OSD settings ของจอคอมที่ใช้อยู่ บางครั้งก็จะเป็นปุ่มกด บางรุ่นก็จะเป็นแบบจอยสติ๊ก ให้กดเพื่อเริ่มเมนู แล้วเลือกไปที่ Signal Input โดยบางครั้งจะมีให้เลือก HDMI, DisplayPort หรือถ้าบางรุ่นอาจจะมี HDMI และ D-Sub อยู่ด้วย หากคุณต่อสาย HDMI ก็ให้เลือกพอร์ตนั้นๆ แล้วกดปุ่มยืนยัน เพื่อให้สัญญาณเข้าสู่ระบบได้ตามปกติ


สาเหตุที่ 4: เช็คสัญญาณกราฟิกการ์ด

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น บางคนไม่สามารถที่จะตรวจเช็คหรือมีอะไหล่สำรองเอาไว้สำหรับสลับเปลี่ยน เพื่อดูว่าอาการจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เกิดจากปัญหาในส่วนใด การคาดเดา ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อาการที่เกิดจากกราฟิกการ์ดเอง ก็เป็นปัญหาสำคัญ ในการตรวจเช็คด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาณจากตัวกราฟิกการ์ด บางครั้งที่เจอกับปัญหา การ์ดจอไม่ทำงาน เสีย หรือพอร์ตใช้งานไม่ได้ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่เดาได้ยาก เพราะถ้าเกิดกับกราฟิกการ์ด ส่วนใหญ่ระบบจะยังบูตเครื่อง ไฟเข้าเครื่อง แต่ไม่มีสัญญาณขึ้นหน้าจอ หรือในบางกรณีที่บูตไม่ขึ้น เปิดติดแล้วดับหรือบางครั้งก็รีสตาร์ทวนไป ก็มีเช่นกัน อย่างไรก็ดีเราแยกแนวทางการแก้ปัญหาเอาไว้ให้ดังนี้

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: การแก้ปัญหาอาจจะต้องจัดเรียงและแก้ไขไปตามอาการ ด้วยวิธีการต่อไปนี้

เช็คจากพอร์ตก่อน เพราะค่อนข้างง่าย และไม่จำเป็นจะต้องไปหากราฟิกการ์ดเอามาลองเปลี่ยน ด้วยการขยับไปใช้พอร์ตอื่นๆ เช่น หากเดาว่า HDMI อาจจะเสีย ถ้าจอคุณมีพอร์ตอื่นๆ เช่น DVI, VGA หรือ DisplayPort ก็ให้สลับต่อสายจากพอร์ตเหล่านี้บนกราฟิกการ์ด มาต่อเข้าที่จอภาพ พวกสายสัญญาณแนะนำว่าให้ลองไปดูที่กล่องของจอ ส่วนใหญ่จะให้มา 2 แบบ มาลองใช้ดู เพื่อจะได้ทราบว่าเกิดปัญหาจากพอร์ตใด

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

เช็คที่การ์ดจอ ในกรณีที่พีซีมีทั้งกราฟิกการ์ดแยก ที่ติดตั้งมาบนสล็อตบนเมนบอร์ด เช่น nVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon และมีกราฟิกออนซีพียู หรือตระกูลที่เป็น Intel iGPU ในรุ่นที่ไม่ได้มีรหัส F, KF ต่อท้ายชื่อรุ่น หรือ AMD Radeon Graphic ที่อยู่บนซีพียู “G” series ก็ตาม หากต่อสายสัญญาณจากกราฟิกการ์ดมาแล้วใช้ไม่ได้ ก็ให้ถอดกราฟิกการ์ดออก แล้วไปต่อที่พอร์ต HDMI หรือ DisplayPort บนเมนบอร์ดโดยตรง ซึ่งหากใช้งานได้ ก็อาจจะหมายถึงกราฟิกการ์ดเสีย และใช้กราฟิกบนซีพียูไปชั่วคราวก่อน


สาเหตุที่ 5: คอมทำงานผิดปกติ

เมื่อเช็คหลายสิ่งอย่างที่เราว่าไปในข้อต้นๆ ที่ผ่านไปแล้ว ก็ยังไม่มีสัญญาณมาที่จอภาพ ก็ให้ประเมินไว้เลยว่า อาจจะเกิดปัญหาจากพีซี หรือคอมที่ใช้อยู่โดยตรง แต่ในบางครั้งการสังเกตอาการทำได้ยาก เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของการแสดงผลเท่านั้น เมื่อไม่ได้ขึ้นจอภาพ ก็ไม่สามารถเดาสาเหตุอย่างมั่นใจ อีกทั้งไม่ได้มีฮาร์ดแวร์สำรองที่ใช้สลับเปลี่ยนมาใช้งาน ก็ยิ่งทำให้การแก้ไขยากขึ้น อย่างไรก็ดีเรายังพอมีวิธีการสังเกตอาการถ้าคอมทำงานผิดปกติได้ อาทิเช่น

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

ใช้การสังเกตว่าพีซีมีอาการเปิดเครื่องติดขึ้นทำงาน แล้วดับเป็นระยะ หรือรีสตาร์ทวนไปเรื่อยๆ หรือไม่ ถ้าใช่ก็เดาได้เลยว่า คอมอาจผิดปกติ

เมนบอร์ดบางรุ่นมีหน้าจอ LED ที่เรียกว่าเป็น Debug มาให้บนเมนบอร์ด หรือบางรุ่นจะเป็นแสงไฟ LED เล็กๆ สามารถเอาตัวเลขที่รหัสที่แสงไฟ มาเทียบกับคู่มือเมนบอร์ด เพื่อเช็คว่าคอมเสียหรือไม่ และมักจะบอกได้เลยว่า เสียจากอุปกรณ์ชิ้นไหน ซีพียู แรม หรือกราฟิกการ์ด

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: ต้องเช็คให้แน่ใจว่าเกิดปัญหาจากพีซี ทำให้ใช้งานไม่ได้ และทำให้จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือ แก้ไขปัญหาพีซีให้สามารถใช้งานได้เป็นปกติ ไม่ว่าจะซ่อมเปลี่ยนฮาร์ดแวร์เอง หรือยกคอมไปที่ร้าน ซ่อมแซมให้เรียบร้อย แล้วนำกลับมาต่อกับจอคอม เพื่อใช้งานกันต่อไป แต่เคสแบบนี้ก็ดีกว่าที่จะต้องไปไล่หาสาเหตุอย่างอื่นให้วุ่นวาย ปัญหาเดียวก็คือ การซ่อมหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน โดยเฉพาะซีพียูและกราฟิกการ์ด


สาเหตุที่ 6: จอคอมเสียหาย

เป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ไม่อยากมีใครให้เกิด กับอาการจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ แบบนี้ ก็เป็นไปได้ว่าไฟเข้าจอ แต่ไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งแผงวงจร อแดปเตอร์ พาแนลหรือสิ่งอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถแสดงผลได้ อย่างไรก็ดีก็ควรจะต้องเช็คอาการให้มั่นใจอีกครั้ง ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: การต่อสายเข้ากับพอร์ตแสดงผลที่เป็น Input ของจอให้ครบ ลองได้ทุกพอร์ตยิ่งดี เพื่อตัดเรื่องของพอร์ตออกไป หรือจะนำอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟเข้ากับจอรุ่นอื่น ที่มีแรงดันไฟเท่าๆ กัน เพื่อเช็คในเรื่องของไฟฟ้าที่ยังจ่ายไฟได้ตามปกติ รวมไปถึงการขยับสายต่างๆ ที่ต่อเข้ากับจอเอาไว้ด้วย

MSI OPTIX MAG274R test 47

และอีกจุดที่แนะนำก็คือ ให้ลองปรับเลื่อนหรือกดปุ่มที่เป็น OSD settings ไปมา เผื่อว่าอาจจะเกิดจากปุ่มปรับแต่งค่าต่างๆ ที่มีปัญหา และให้ลองดูหน้าจอในมุมต่างๆ เพราะบางครั้งจอแสดงผลได้ แต่ความสว่างหายไป ทำให้จอภาพมืดและมองไม่เห็นภาพได้เช่นกัน

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้ จอไม่แสดงผล รวมถึงเปิดไม่ติด ไฟกระพริบ หรือหน้าจอกระพริบ นั่นก็อาจจะหมายถึงคุณต้องหาจอใหม่มาเปลี่ยนได้แล้ว ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณจะได้มองหาจอคอมที่เข้ากับสไตล์การใช้งานที่ดีขึ้นได้


สาเหตุที่ 7: Out of range

อาการที่มักเจอกันบ่อยกับหน้าจอแสดงผลแบบเก่า ที่เมื่อปรับ Resolution หรือความละเอียดของหน้าจอผิดเพี้ยนไป หรือไม่ได้ใช้ Resolution ปกติที่จอภาพสนับสนุน ก็จะเกิดปัญหานี้ได้ เช่น จอภาพที่ใช้รองรับความละเอียด Full-HD 1920x1080p แต่เราไปตั้งความละเอียดที่มากกว่า ก็จะไม่แสดงผล หรือถ้าเดิมคุณใช้คอมร่วมกับจอ 4K 2160p อยู่ แล้ววันหนึ่งถูกนำจอเก่ามาเปลี่ยนรองรับแค่ 1080p ก็จะเจอกับอาการนี้ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นจอคอมรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบ Detect หรือตรวจสอบสัญญาณขาเข้าอัตโนมัติ และปรับให้เป็น Resolution ที่ระบบ Recommended เอาไว้ให้ ซึ่งหากอาการที่เห็นได้ชัดคือ หน้าจอจอจะแสดงข้อมูล “Out of range” จากนั้นก็จะกลายเป็นจอสีดำ ไม่มีสัญญาณเข้า แม้คอมที่ใช้จะบูตเข้าระบบได้ตามปกติก็ตาม

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

การตรวจเช็คและแก้ปัญหา: วิธีการแก้ไขอาการจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบก็คือ ให้รีสตาร์ทเครื่องคอมด้วยการกดปุ่มเพาเวอร์แล้วบูตเตรียมเข้าระบบ จากนั้นกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปิดประมาณ 3 ครั้ง เพื่อให้ระบบเข้าสู่การ Recovery จากนั้นเมื่อเข้าสู่หน้าบูตระบบ ให้เลือกที่ Troubleshoot > Advanced Options > Startup Settings > Restart

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

ให้กดที่ปุ่ม 3 หรือ F3 จากนั้นเลือก Low Resolution Video Mode > เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้คลิ๊กขวา บนหน้า Desktop แล้วเลือก Display Settings จากนั้นตั้งค่า Display Resolution ให้ตรงกับที่หน้าจอสนับสนุน และเลือกที่ Advanced Display และเลือก Refresh Rate ให้ถูกต้อง


5 จอคอมขนาด 24″ น่าสนใจ ในงบประมาณ 5,000-6,000 บาท

1.PHILIPS 242E1GSJ/67 จอเล่นเกมที่มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรต 144Hz จากทาง PHILIPS เติมความลื่นไหลด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync Premium ให้อัตราตอบสนองที่รวดเร็ว 1ms ด้วยพาแนล VA พร้อมมุมมองที่กว้างถึง 178/178 สีสันที่สดใส Ultra Wide-Color เกลี่ยสีได้ดูสบายตา ลูกเล่นปรับแต่ง Game Mode ได้ผ่านทาง OSD และมีฟีเจอร์ SmartImage Game สำหรับการเล่นเกม เคาะราคาที่ประมาณ 5,900 บาท

2.MSI G24C4 จอเกมมิ่งขนาด 24″ มาพร้อมพาแนล VA ให้ความสวยงาม ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ดีไซน์ในแบบจอโค้ง Curved 1500R ให้ความโอบกระชับสายตา ขอบจอที่บางพิเศษทั้ง 3 ด้าน ปรับแต่งง่าย ด้วยปุ่ม 5-way Navigation ในแบบจอยสติ๊ก ราคาประมาณ 6,200 บาท

3.LG 24GN600-B จอเกมมิ่งในแบบ 144Hz พาแนลในแบบ IPS ให้สีสันที่สวยงาม และภาพคมชัด จุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ ให้ภาพต่อเนื่องลื่นไหล และ Black Stabilizer เพิ่มการมองเห็นได้ฉากที่มืดชัดเจน และยังใส่ AIM point หรือเป้าเล็งมาให้ เพิ่มความแม่นยำ ให้ความสว่างสดใส ให้ค่าสี Gamut ที่สูงถึง 97% sRGB เพิ่มสีสันสดใส ด้วยการรองรับ HDR10 ราคาราวๆ 6,500 บาท

4.AOC 24G2E จอภาพสีสดใสไซส์ 24″ ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium กับภาพที่ต่อเนื่อง ลดอาการฉีกขาด โดยใช้พาแนล IPS ให้มุมมองกว้าง รองรับ HDR Mode เอาใจคนที่ชอบสีสันที่สดใส ตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงได้ดี กับการเกลี่ยสีได้ มี Game mode ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น FPS, Racing, RTS และ Gamer ราคาประมาณ 6,300 บาท

5.SAMSUNG ODYSSEY G3 จอคอมที่ให้ความล้ำสมัย ดีไซน์สวย ทั้งด้านหน้าและหลัง ใส่ฟีเจอร์มาให้กับผู้ใช้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นขอบจอที่บางเฉียบ 3 ด้าน ทำให้ใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์ได้ แบบไม่เสียอรรถรส อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ใช้พาแนลแบบ VA มาพร้อม Flicker Free ลดอาการสั่นไหว และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium เพื่อภาพที่ต่อเนื่อง ไม่ฉีกขาด ราคา 5,990 บาท


Conclusion

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ

ทั้งหมดนี้คือ 7 ขั้นตอนในการตรวจเช็คปัญหาจอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เอามาฝากกันครับ ใครที่เริ่มเจอกับปัญหานี้ หรือมีอาการให้ได้เห็นกันในบางครั้งแล้ว ก็ลองตรวจเช็คกันดูครับ เผื่อจะช่วยแก้ไขกันในเบื้องต้น ให้ใช้งานกันต่อไปได้ ซึ่งปัญหาใหญ่ๆ ก็น่าจะอยู่ในพอร์ตและสายสัญญาณ เพราะส่วนมากพีซีที่ใช้ แก้ปัญหาไม่ได้ซับซ้อนมากนัก แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่เรื่องของจอคอมที่ใช้มานาน รวมถึงสายสัญญาณ พอร์ต และสายไฟที่ต่อเข้ากับจอโดยตรง ก็มีโอกาสเสียหายได้ อย่างที่ได้กล่าวกันไปในข้อต้นๆ แนะนำว่าในกรณีของสายสัญญาณอย่าง HDMI และ DisplayPort อยากให้เลือกแบบที่มีคุณภาพ แม้ราคาจะสูง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคุ้มค่ามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัญญาณ ความทนทานและการรับประกัน รวมถึงอยากให้ทะนุถนอมในการใช้งานให้มาก เพราะถ้าเกิดที่สายไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นที่พอร์ตของจอหรือกราฟิกการ์ด ต้องถือว่าจะมีค่าใช้จ่ายตามมาไม่น้อยเลย ขอให้ทุกท่านโชคดีและแก้ปัญหาที่เจอได้รวดเร็วครับ

from:https://notebookspec.com/web/663429-display-no-signal-2022

จอคอมเล่นเกม 2022 ต่อโน๊ตบุ๊คได้ 5 วิธีเลือกซื้อให้ตรงใจ มือใหม่ซื้อได้!

จอคอม จอเล่นเกม 2022 เลือกให้ถูกใจ ต้องดูที่สิ่งใดบ้าง 5 ข้อนี้เป็นแนวทางที่ให้คุณซื้อได้ตรงความต้องการ

Gaming monitor 2022 cov2

จอคอม จอเล่นเกม เวลาที่คุณเลือกที่จะหาซื้อจอเล่นเกมสักรุ่นหนึ่ง คุณนึกถึงสิ่งใดเป็นเรื่องแรกๆ กันครับ เพราะว่าจอเกมมิ่งในปัจจุบัน ก็มีตัวเลือกอยู่มากมาย ในปี 2022 นี้ ก็ดูจะมีจอคอมรุ่นใหม่ออกมาให้ได้ใช้งานกันมากมาย สังเกตได้จากงาน Commart ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีให้เลือกกันทุกค่าย และเปิดราคากับจอสำหรับเล่นเกมในระดับต้นๆ ไม่ถึง 5 พันบาท สำหรับจอขนาด 27″ อย่างไรก็ดี การเลือกจอคอมมาใช้สักรุ่นหนึ่ง ก็อาจจะไม่ได้ง่าย เพราะมีฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งจะทำให้คุณชื่นชอบและใช้งานกันได้แบบยาวๆ แต่ถ้าเลือกผิด ก็อาจจะหงุดหงิดกับการใช้งานได้ไม่น้อย วันนี้เราก็นำเอาเรื่องสำคัญๆ ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในการเลือกจอที่จะนำไปเล่นเกมให้ถูกใจ ส่วนจะต้องดูอะไรบ้าง มาดูบทความนี้กันครับ

จอคอมเล่นเกมปี 2022 เลือกแบบไหนดี?

  1. พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่
  2. ความละเอียด (Resolution) และอัตรารีเฟรชเรต
  3. ฟีเจอร์และเทคโนโลยีพิเศษ
  4. การปรับแต่ง
  5. จอโค้งหรือจอแบน
  6. 5 จอคอมเกมมิ่ง 2022 ที่น่าสนใจ
  7. Conclusion

1.พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่

พื้นที่แสดงผลเป็นปัจจัยแรกๆ ของใครหลายคนที่คิดจะเปลี่ยนจอเล่นเกมตัวใหม่ เพราะพื้นที่แสดงผลที่ใหญ่ ก็ทำให้เห็นอะไรๆ ได้ชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวใดก็ตาม Action, RPG, RTS หรือ MOBA เปรียบเทียบให้ดูตามนี้เลยครับว่า จะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ใหญ่เพียงใด ระหว่างจอ 24” กับ 32” อย่างในเกม PUBG กับ DOTA2 ความต่าง ก็จะยิ่งเห็นได้ชัด ตัวละครก็จะใหญ่สะใจ DOTA2 นี่ เห็นชุดของฮีโร่ได้ชัดมากขึ้น

Advertisementavw
จอคอม

เกมแอ็คชั่นก็เรียกว่า เล็งได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อก่อนอาจจะเห็นศัตรูอยู่ไกลๆ แต่ขยับปืนยิงทีไรก็ไม่โดน เพราะยังไม่ชัด แต่ถ้าจอใหญ่ขึ้นแล้ว ศัตรูก็ตัวโตขึ้น อย่างน้อยๆ ระยะเดียวกัน ก็ไม่น่าพลาด

และคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการจะต้องเลือกเมนูตั้งค่าของเกม แล้วมันเล็ก จนบางทีก็ตาลาย ได้จอใหญ่ๆ ก็จะเห็นชัดมากขึ้น จะเลือกหรือเลื่อนเมนูก็สะดวกไม่น้อย แต่การที่เลือกจอขนาดใหญ่ ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะครับ ข้อจำกัดมันก็มี อย่างเช่น

จอคอม

พื้นที่การจัดวาง น้ำหนัก: สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ จอใหญ่ น้ำหนักก็จะเพิ่มตามไปด้วย สิ่งที่ต้องคำนึงคือ โต๊ะคอมของคุณ ว่าสามารถรับน้ำหนักได้ดีแค่ไหน และปลอดภัยเพียงใด วางจอไปแล้ว จะยังมีพื้นที่พอวางเคสคอมมั้ย หรือต้องย้ายไปวางใต้โต๊ะ แผ่นรองเมาส์ตัวโปรด รวมถึงพื้นที่การวาดเมาส์ของคุณ ยังสะดวกเหมือนเดิมหรือไม่ ขอยกตัวอย่างแบบนี้ครับ

จอคอม

MSI MPG ARTYMIS 323CQR เป็นจอไซส์ใหญ่ 32″ สเปคจัดเต็ม เอาใจเกมมิ่ง ความละเอียด 2K 1440p อัตรารีเฟรชเรต 165Hz และมีฟังก์ชั่้นปรับเลื่อนจอได้หลายแบบ น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 9Kg และความยาวถึง 70cm ในขณะที่จอรุ่นน้อง ที่ย่อมลงมาอย่าง Optix MAG241CR ที่เป็นจอเกมมิ่งเหมือนกัน แต่ขนาดเล็กกว่าอยู่ที่ 24″ ความละเอียด 1080p และมีฟังก์ชั่นปรับเลื่อนได้เล็กน้อย น้ำหนักอยู่ที่ 5Kg และความยาวเพียง 53cm เท่านั้น ลองไม่มองข้ามตรงจุดนี้ด้วยครับ

จอคอม

ระยะการนั่ง: อาจจะต้องถอยออกมาจากเดิม อย่าลืมว่าจอขนาดเล็ก คุณแค่กรอกสายตาไปมา ก็มองเห็นได้ทั่วจอแล้ว แต่จอที่ใหญ่ขึ้น บางครั้งไม่แค่กรอกตา แต่อาจจะต้องหันทั้งคอ ยิ่งช่วงที่ฉุกละหุก อยู่ท่ามกลางดงศัตรู หรือกำลังไล่ล่าอยู่ หันดูไม่ทัน คุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อได้เลย ระยะการถอย ไม่ตายตัว เพราะสายตาไม่เหมือนกัน แต่ระยะที่เป็นพื้นฐานของจอคอม จะเป็นดังนี้ จอ 24″ Full-HD อาจจะห่างแค่ 80-90cm แต่จอ 32″ Full-HD เหมือนกัน อาจจะต้องห่างถึง 110cm ด้วยระยะที่ห่างออกมานี้ ไม่ใช่แค่ตัวคุณเพียงอย่างเดียว เพราะต้องหาโต๊ะที่วางได้ รวมถึงที่วางเมาส์ คีย์บอร์ด ที่ให้คุณคอนโทรลได้สะดวกอีกด้วย

จอคอม

ความละเอียด: ได้พื้นที่ขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ ถ้าความละเอียดไม่สูงตามไปด้วย หรือพิกเซลบนจอก็ช่างน้อยเหลือเกิน สังเกตได้จากจอที่ไม่ได้เป็นจอเกมมิ่งเป็นหลัก เช่นจอ 27” หรือ 32” แต่เป็นแค่ Full-HD ได้พื้นที่จอใหญ่ ทำงานสะดวกมากขึ้นก็จริง แต่ก็เน้นพรีวิวเป็นหลัก เช่น จอในสำนักงาน หรือจอที่ใช้ในงานทั่วไป ในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจทำให้ภาพที่ได้ดูแตกๆ หรือไม่คมตามที่ควรจะเป็น แต่ปัญหานี้จบได้ แค่คุณจ่ายเพิ่มเป็นจอเกมมิ่ง ตรงนี้เดี๋ยวไปอธิบายในส่วนของ Resolution ครับ


2.ความละเอียด (Resolution) และอัตรารีเฟรชเรต

ทั้งสองสิ่งนี้ขอพูดคู่กันไปในหัวข้อเดียวกันเลย ถ้าจะเลือกจอเล่นเกมใหม่ทั้งที ก็น่าจะเพิ่มคุณภาพของภาพให้ดีขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะเกมเมอร์ ที่เริ่มเบื่อกับความละเอียดเดิมๆ และเลือกจอที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อ พื้นที่แสดงผล ซึ่งให้พื้นที่กว้างอย่างเดียว อาจจะดูแปลกๆ ไม่ได้รายละเอียดที่ดีมากนัก แต่ถ้าขยับมาที่ 2K 1440p หรือ 4K 2160p ก็จะได้ภาพที่ให้ความรู้สึกที่ลึกลงไปอีก รวมถึงพื้นที่แสดงผลจะมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัว แต่อาจจะมีคำถามว่า จะทำให้ภาพในเกม เปลี่ยนไปอย่างไร? มาดูที่ตัวอย่างนี้กันครับ

จอคอม

จอแสดงผลขนาด 32” ความละเอียด 2K แต่เล่นในโหมด Full-HD เราตั้งค่าจอให้เป็น Full-HD และเกมอยู่ที่ 1080p เช่นกัน พื้นที่ในการเล่นแบบนี้ และเมื่อเทียบกับจอ 32” แต่ตั้งความละเอียดเป็น Native 2K ตามสเปคจอ และเล่นเกมในโหมด 2K เช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่า ขอบเขตของพื้นที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

จอคอม

แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งด่วนดีใจไปนะครับ ว่าจะได้พื้นที่ทำงานที่กว้าง หรือได้รายละเอียดในเกมมากขึ้น สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงก็คือ สเปคคอมเล่นเกมของคุณนั้น จะดันไหวหรือเปล่า เพราะสเปคคอมของคุณต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อความละเอียดที่สูงเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าคอมแรงอยู่แล้ว ก็ข้ามไปได้เลยครับ แต่ถ้าไม่ไหว ก็คงต้องเตรียมงบประมาณหาการ์ดจอแรงๆ สักตัวมาเล่นแทนครับ

อัตรารีเฟรชเรต (Refresh Rate)

คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะสำหรับข้อนี้ เพราะคอเกมทราบกันดีอยู่แล้วว่า ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี ทำให้ภาพในเกมลื่นสบายตามากขึ้น การเลือกจอที่มีความละเอียดสูงอย่างเดียวอาจไม่พอสำหรับการเล่นเกม แต่อาจจะเหมาะกับการทำงานมากกว่า โดยเฉพาะคนที่มีคอมแรงๆ การ์ดจอขั้นเทพอยู่แล้ว คงไม่มาเล่นบน Refresh rate 60Hz พื้นฐาน แต่น่าจะต้องมองไปที่ตัวเลขมากกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ 120Hz ขึ้นไป ซึ่งในปัจจุบัน จอเล่นเกม ก็เริ่มต้นกันที่ จอ 144Hz กันแล้ว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

จอคอม

แม้ว่าอัตรารีเฟรชเรต จะไม่ได้สอดคล้องกับเรื่องของเฟรมเรตโดยตรงเสียทีเดียว แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีความใกล้เคียงกัน เช่น สเปคคอมของคุณ เล่นเกมไปได้ที่ 40-50fps. ซึ่งหมายถึง เฟรมต่อวินาที นั่นคือ ที่ระบบเรนเดอร์ออกมาได้ จอคอมที่มีรีเฟรชเรตระดับ 60Hz ก็ดูจะเพียงพอต่อการใช้งาน นั่นก็เพราะ จอภาพแสดงผลได้ 60 เฟรมต่อวินาที ก็ทำให้ได้ภาพที่มีความนุ่มนวล สอดคล้องกัน

จอคอม

แต่ถ้าเมื่อใดที่คอมคุณแรง เล่นเกมได้ระดับ 120fps. แต่หน้าจอของคุณเป็นแค่ 60Hz ภาพที่ได้แม้จะต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ความสมูท นุ่มนวล รวมถึงในระยะเป้าที่คุณกำลังเล็ง แทนที่จะเคลื่อนไหวกระบอกปืนไปยังเป้าได้ลื่นไหล ก็มาต้องสะดุดกับการแสดงผลเฟรมที่น้อย ก็ทำให้ความแม่นยำลดลงไปด้วย อีกทั้งเสียทรัพยากรไปเปล่าๆ เพราะเครื่องแรงขึ้น แต่จอแสดงผลได้เท่าเดิม ส่วนถ้าคอมคุณไม่แรง เฟรมเรตไม่ได้สูง เลือกจอเล่นเกมที่มีรีเฟรชเรตที่สูงกว่า ก็ให้ผลไม่ต่างกันมากนัก เพียงแต่ว่า อาจจะใช้วิธีลด Detail ในเกม เพื่อให้ได้เฟรมเรตที่มากขึ้น ก็ยังพอเป็นไปได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงไม่ใช่แค่เรื่องของ Refresh Rate เท่านั้น อัตราตอบสนอง อย่าง Response time ก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่จอโดยส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ที่ 1ms หรือน้อยๆ ก็ 5ms อยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นตัวแปรที่มีผลมากนักในปัจจุบัน


3.ฟีเจอร์และเทคโนโลยีพิเศษ

เรื่องของสเปค พื้นที่แสดงผล รีเฟรชเรต ความละเอียด ก็เป็นเรื่องที่ต้องสนใจ เมื่อจะซื้อจอเล่นเกมสักรุ่น แต่ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติพิเศษของจอ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะไม่เพียงมีผลต่อการเล่นเกมเท่านั้น แต่ในบางครั้งยังช่วยให้คุณเล่นเกมได้ดีขึ้น หรือบางทีก็ได้เปรียบในการเล่นเกม เรียกว่าโอกาสชนะมากขึ้นก็ว่าได้ครับ โดยฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ มักจะมีมาให้บนจอเกมมิ่งหลายรุ่น แต่จะมีให้มากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับไลน์ผลิตภัณฑ์ของแต่ละรุ่นนั่นเอง โดยส่วนใหญ่จะมีให้ปรับใน OSD settings ของจอภาพ ตัวอย่างเช่น

จอคอม

เพิ่มการมองเห็นในฉากมืด: Night Vision, Black Stabilizer ก็จะเรียกกันแนวๆ นี้ เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้คุณมองเห็นสิ่งต่างๆ ในฉากที่มืดได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม Action หรือแนวหลอนๆ อย่าง PUBG, Battlefield, Dead by Daylight หรืออื่นๆ ซึ่งข้อดีคือ คุณอาจมองเห็นศัตรูได้ และจัดการได้ก่อน รวมถึงเกม Adventure ที่มีเคสต์รายทาง เช่นการหาของ ก็ทำได้ง่ายขึ้น บางรุ่นมีให้ปรับระดับได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะปรับอย่างไร ไม่ให้เสียอรรถรสในการเล่นนั่นเอง

มีฟังก์ชั่นเสริม ช่วยในการเล็งเป้า: โดยจะเป็น AIM Point ในการบอกทิศทางได้แม่นยำ เพื่อเล็งเป้าหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และบางรุ่นยังมี Smart Cross Hair ที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่า Cross Hair ให้ตัดกับสีพื้นหลังได้ ทำให้มองเห็นเป้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกม PUBG หรือ WarZ และเกมอื่นๆ ที่การโจมตีในจุดต่างๆ ของร่างกายให้ความรุนแรงที่แตกต่างกัน นับว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ

จอคอม

เพิ่มความนุ่มนวลต่อเนื่องในการเล่นเกม: เช่น เทคโนโลยี G-Sync, FreeSync ตรงนี้ยังมีแยกเลเวลอีกเป็น G-SYNC Compatible กับ G-SYNC หรือจะเป็นอีกค่ายที่มี FreeSync, FreeSync Premium และ FreeSync Premium Pro เป็นต้น คุณสมบัติและเงื่อนไขก็จะต่างกันออกไป รวมถึงคุณภาพในการแสดงผล ก็จะไม่เหมือนกันด้วย เฟรมเรตที่ได้นิ่งและไหลลื่น รวมถึงลดอาการภาพฉีกขาดได้ การเล่นเกมแนว FPS หากไม่สะดุด ภาพไม่ขาด ไหลลื่นต่อเนื่อง โอกาสชนะก็เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน ตรงนี้ถ้าเงินเหลือ แนะนำให้จัด แต่ถ้าเน้นประหยัด จะเป็นฟีเจอร์เริ่มต้น ก็ยังพอไหว

จอคอม

ให้สีสันที่สดใสสมจริง: ตรงนี้ถือเป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ทำให้จอของคุณราคาถูกหรือแพงได้เหมือนกัน ยิ่งเป็นจอที่ได้รับ VESA DisplayHDR Certification ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเวอร์ชั่นได้นั่นเอง สำหรับคอเกม หากต้องการความสมจริง สีสันมีการไล่เฉด กลมกลืน HDR คือคำตอบ แต่ถ้าการเล่นเกมของคุณ แค่เอฟเฟกต์สวยๆ ภาพคมชัด แค่เป็นจอที่รองรับ HDR ร่วมกับ Windows ได้ก็เพียงพอแล้ว ราคาสบายกระเป๋า

นอกจากนี้ก็ยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายบนจอเกมมิ่งรุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้อรรถรสในการเล่นเกมได้แบบเต็มอิ่มอีกด้วย


4.การปรับแต่ง

ความยืดหยุ่น บางคนอาจจะมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะคอเกมที่เน้นการดูหน้าจอแบบตรงๆ เอาแค่ปรับเลื่อนมุมนิดหน่อย ให้เข้ากับสายตาได้ก็พอ แต่บางคนก็ไม่ได้เล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้งานอื่นๆ ในชีวิตประจำวันด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน ดูหนัง แต่งภาพ หรือการตัดต่อวีดีโอ สาย Content Creator การปรับเลื่อนจอได้สะดวก หรือมีให้ปรับได้บ้าง ก็น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานดีครับ

จอคอม

โดยพื้นฐาน จอเดิมๆ ทั่วไป ก็อาจจะมีให้ปรับได้ 2 รูปแบบคือ มุมก้ม-เงย (tilt) เป็นหลัก แต่บางรุ่นก็เพิ่มระดับความสูง-ต่ำของหน้าจอมาให้ แต่รุ่นที่เป็นตัวท็อปๆ นั้น ก็จะยัดทุกฟังก์ชั่นมาให้เลย ไม่ว่าจะเป็น มุมก้ม-เงย, ปรับความสูง-ต่ำ, เพิ่มหันหน้าจอซ้าย-ขวา เผื่อเวลาให้คนข้างๆ ช่วยกันดู และบางรุ่นก็จะให้ปรับ Pivot หรือหมุนจอ 90 องศา เลือกใช้หน้าจอเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนได้อีกด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่ให้มาครบๆ ราคาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลด้วย

อีกสิ่งหนึ่งก็สำคัญ เมื่อพูดถึงเรื่องการปรับแต่ง นั่นคือ OSD settings หลายคนอาจจะมองข้าม แต่เชื่อเถอะว่า ยิ่งใช้สะดวกเท่าไร มีความละเอียดและโหมดการใช้งานที่ครอบคลุม มันจะเป็นตัวช่วยที่ดีให้การเล่นเกมได้เลย และสิ่งที่ต้องดูมี 2 อย่างนี้

จอคอม

เรื่องแรก: ใช้ง่าย ปรับแต่งได้เร็ว อย่างที่เราเคยได้สัมผัสกัน การปรับแต่ง OSD บางรุ่นจะเป็น ปุ่มหลายๆ ปุ่ม เรียงกัน และแต่ละปุ่ม ก็จะเป็นฟังก์ชั่นเฉพาะ เช่น เลื่อนซ้าย-ขวา เลือก ยกเลิก หรือจะกลับสู่หน้าหลัก บางคนก็ถนัด แต่บางคนก็งง ยิ่งปุ่มเยอะ และไปอยู่ด้านหลังด้วย บางทีก็ไม่ง่าย แต่บางคนอาจจะใช้ถนัด ก็ว่ากันไป อีกแบบหนึ่งจะเป็นจอยสติ๊ก คือ ปุ่มเดียวเหมือนจอยเล่นเกมคอนโซล เลื่อนไปมาได้สะดวก ได้ถูกใจก็กดเลือก จะไปซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ก็ง่าย แต่ก็แลกมาด้วยการต้องระมัดระวังหน่อย เพราะบางคนมือหนัก กดจนหลุดได้เช่นกัน

จอคอม

เรื่องที่สอง: คือเรื่องฟังก์ชั่นภายใน OSD ควรจะต้องดูง่าย เข้าใจได้รวดเร็ว ชนิดที่ว่าไม่ต้องมานั่งตีความ หรือต้องเลื่อนไขไปจนลึกหลายชั้น ซับซ้อน ซึ่งจะทำให้คุณเบื่อทุกครั้ง ที่ต้องมาตั้งค่า OSD นี้ พาลจะใช้ได้ไม่เต็มที่ ไม่คุ้มราคา จอที่ดีควรจะให้คุณเรียนรู้ได้ในเวลาไม่นาน และอีกสิ่งที่จำเป็นก็คือ Gaming Mode ที่อย่างน้อยก็ควรจะต้องมีเป็นโพรไฟล์ให้เลือกปรับ เช่น FPS, RTS, MOBA, Adventure เป็นต้น ส่วนอื่นก็จะเป็นการใช้สำหรับ การดูหนัง ทำงาน หรือท่องเว็บ เป็นต้น แต่ถ้าจะให้ Advance ขึ้น ก็ควรจะปรับแต่งในโหมด User จนถูกใจ แล้วบันทึกเก็บเอาไว้ใช้กับเกมแนวที่เล่นได้อีกด้วย


5.จอโค้งหรือจอแบน

หลายคนก็ว่าจะโค้ง เป็นจอที่เหมาะกับการเล่นเกม แต่บางคนก็มองว่าจออีสปอร์ตที่แข่งขัน ส่วนใหญ่ก็จะเห็นเป็นจอแบน (Flat) ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ ก็ไม่มีมีผิดถูกถ้าคุณคิดจะเลือกแบบที่คุณชื่นชอบ แต่ขอให้คุณไปลองดูจอตัวอย่าง ที่มีให้ดูกันตามหน้าร้านในห้าง ก่อนจะตัดสินใจ

จอคอม

แต่ก็จะให้ข้อมูลในเบื้องต้นแบบนี้ครับว่า จอโค้ง หลายคนชื่นชอบ เพราะสามารถโอบกระชับสายตาได้ดี ทำให้เรามองเห็นพื้นที่ต่างๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่า ต้องเป็นจอที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ก็จะได้ประโยชน์จากความโค้งนี้ได้มากขึ้น หากเป็นจอเล็กๆ อย่าง 24-27” ก็อาจจะไม่ได้เห็นผลมากนัก

แต่ถ้าในกรณีที่คุณชื่นชอบแสงสีที่ตรงไปตรงมา มองเห็นได้จากมุมที่คุณนั่งอยู่ ไม่ต้องกังวลแสงที่สะท้อนจากในมุมต่างๆ เนื่องจากจอแบน คุณสามารถกำหนดมุมในการวางหรือปรับแสงไฟจากโซนรอบตัวคุณได้ง่ายกว่า อีกทั้งจอเกมมิ่ง อีสปอร์ต ก็จะไซส์ไม่ใหญ่ แต่ใส่เทคโนโลยีมาจัดเต็ม ก็ทำให้คุณมองเห็นครอบคลุมพื้นที่ และรู้สึกแฮ้ปปี้มากกว่าการใช้จอโค้งก็เป็นได้ครับ

จอคอม

สุดท้ายคือเรื่องของพอร์ตนะครับ เพราะอย่าลืมว่า เล่นเกมให้สนุก ภาพลื่นๆ บนจอรีเฟรชเรตสูงๆ ก็ต้องอาศัยพอร์ตที่ตอบโจทย์ได้เช่นกัน พื้นฐานควรจะมีทั้ง HDMI และ DisplayPort แต่ถ้าเป็นจอความละเอียดสูงและรีเฟรชเรตที่สูง ก็ต้องใช้พอร์ตรุ่นใหม่ อย่าง HDMI 2.0 หรือ 2.1 ที่รองรับจอ 8K หรือ 10K ได้ รวมถึง 4K ที่มากกว่า 120Hz ขึ้นไป

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ 57

เช่นเดียวกับ DisplayPort 1.4 และ 2.0 ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งนอกจากจะต้องดูรายละเอียดแล้ว ก็จะต้องไปเลือกสายสัญญาณที่เข้ากันได้มาใช้งาน เพื่อให้การแสดงภาพออกมาสมบูรณ์ เอาเป็นว่า คุณชอบแบบไหน ก็อยากให้ไปลองใช้งานดูก่อน มีตัวอย่างให้ได้ลองอยู่มากมาย ตามหน้าร้าน ชื่นชอบแบบไหน ก็เลือกได้ตามสะดวกครับ


5 จอคอมเกมมิ่ง 2022 ที่น่าสนใจ

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ performance 23

1.Samsung ODYSSEY G3

Samsung

จอเกมมิ่งที่มีความล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและหลัง ใส่ฟีเจอร์มาให้กับผู้ใช้ครบครันขอบจอบางเฉียบ ใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์ได้ ไม่มีขอบเยอะจนเสียอารมณ์ อัตรา refresh rate 144Hz เป็นพาแนลแบบ VA ที่ให้สีสันสดใส เหมาะกับการเล่นเกมอย่างยิ่ง Flicker Free ลดอาการสั่นไหวของภาพ รองรับเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium เพื่อภาพที่ต่อเนื่อง ลดอาการภาพฉีกขาด การกระตุกในเกมน้อยลง ดูสบายตา เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Eye Saver Mode และ Flicker Free ที่ลดอาการสั่นไหว ให้ภาพที่นุ่มนวล เป็นจอให้การปรับเลื่อนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มุมก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา และปรับหมุน Pivot ได้อีกด้วย Samsung ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT รุ่นนี้ราคาประมาณ 5,900 บาท

2.Acer ED2 ED322QRPBMIIPX

Acer1

จอแสดงผลขนาดใหญ่ 31.5″ ให้การแสดงผลเต็มตา ทั้งการดูหนัง ทำงานและเล่นเกม บนความละเอียด Full-HD และเป็นจอโค้งในแบบ Curved 1800R บนพื้นที่ ที่เพียงพอต่อการใช้งาน ด้วยพาแนลสำหรับการเล่นเกม VA จึงให้สีสันสดใสได้ดีในระดับหนึ่ง และตอบสนองได้ไว มุมมองกว้าง กับดีไซน์ที่เรียกว่าออกมาได้ทันสมัย ด้วยขอบจอที่บางพิเศษ ดีไซน์ตัวฐานโค้งมน ฟีเจอร์ถนอมสายตา BlueLightShield และ Acer VisionCare™รองรับ AMD FreeSync และรีเฟรชเรตระดับ 144Hz ให้เกมเมอร์เล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น มีพอร์ตสัญญาณ Input มาให้ทั้ง HDMI และ DP ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาท

3.ViewSonic VX2718-P-MHD

Viewsonic

จอเกมมิ่ง 27″ 165Hz ฟีเจอร์จัดเต็ม เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้กับการเล่น บนหน้าจอขนาด 27″ ซึ่งเป็นพาแนลแบบ VA ออกแบบมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ กับอัตรารีเฟรเชเรตที่สูงถึง 165Hz และเพิ่มความมั่นใจให้กับการเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดอาการภาพฉีกขาด ให้เฟรมเรตในเกมและอัตรารีเฟรชเรตลื่นไหล บนความละเอียด 1920x1080p Full-HD ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และให้ลูกเล่นในการปรับแต่งบน OSD ได้อย่างละเอียด สนับสนุน HDR และมีลำโพงมาให้ในตัว ปรับโหมดการเล่นเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น Standard, FPS, RTS, MOBA ราคาประมาณ 7,900 บาท

4.LG UltraGear 24GN600-B

LG

จอเกมมิ่งไซส์ 24″ ให้ภาพที่สว่างสดใส พาแนล IPS ให้ความคมชัด และฟีเจอร์เพิ่มความสมจริง HDR 10 ที่ให้ความอิ่มของสี รองรับ AMD FreeSync Premium และฟังก์ชั่นการเล่นเกม เพิ่มความได้เปรียบ ช่วยมองเห็นศัตรูในที่มืดได้ชัดขึ้น รองรับการปรับแต่ง OSD ได้ทั้งบนหน้าจอ และซอฟต์แวร์ LG Screen Manager พร้อมด้วยการปรับมุมก้มเงย เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและหลัง รวมถึงโทนสีแดงที่ดูเร้าใจ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 6,900 บาท

5.AOC C32G2E

AOC1

ใส่ให้อารมณ์ของเกมมิ่ง ฟีเจอร์ครบสำหรับคอเกม อัตรารีเฟรชเรต 165Hz และพาแนล VA ที่สีสันสดใส เหมาะกับการเล่นเกม มาพร้อม AMD FreeSync Premium ให้เล่นเกมได้ลื่นไหล ลดอาการภาพฉีกขาด ดีไซน์ล้ำสมัย เป็นสไตล์ของจอโค้ง ให้พอกระชับสายตาและมีขอบจอบางเฉียบ ขาตั้งและด้านหลังตัวจอทำออกมาโดดเด่น ค่า Response time ต้ำตอบสนองไว รองรับ HDR mode ไล่เฉดสีทำได้สวยงาม เพิ่มความสมจริงและสวยงามมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเล่นเกม และชมภาพยนตร์ มีขอบเขตสีที่กว้าง เคาะราคาที่ 8,500 บาท


Conclusion

MSI OPTIX MAG301CR2 monitor 26

ทั้งหมดนี้เป็น 5 แนวทางในการเลือกจอคอมเล่นเกมปี 2022 แบบง่ายๆ เพื่อให้ได้จอที่ถูกใจคุณ อย่าลืมนะครับว่า คุณใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมในแต่ละวันเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเกมเมอร์ที่เล่นเป็นประจำ หรือเล่นเป็นทีม อย่างเช่นเกมยอดนิยมในปัจจุบัน ที่เป็นแนว Battle Royale ที่เล่นกันเป็นทีมร่วมกันกับเพื่อนๆ ดังนั้นการตัดสินใจเลือกจอคอมที่ถูกใจคุณได้มากที่สุด ก็เป็นเหมือนการเลือกอาวุธคู่กายของคุณ ให้เล่นเกมได้สนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมอีกด้วย สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามกันนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/650007-5-choice-gaming-monitor-2022

จอคอม 144hz เล่นเกม 24″ เริ่มแค่ 5 พัน 9 รุ่น ปี 2022 ดีไซน์สวย จัดโต๊ะคอมลงตัว

จอคอม 144hz เริ่มแค่ 5 พันบาท 24″ ปี 2022 สวย คมชัด เล่นเกมสะใจ

จอคอม 144hz

จอคอม 144hz เป็นจอในฝันของเกมเมอร์หลายคน เมื่อช่วงปี 2021 เราได้นำเสนอจอเล่นเกมกันไปบ้างแล้ว ที่เริ่มซีเรียสกับความลื่นไหลของเกม ที่มีความต่อเนื่อง มีโอกาสที่ได้เปรียบมากขึ้น เพราะในหลายเกม หากเกิดภาพกระตุกหรือขาดในช่วงไม่กี่วินาที ก็อาจทำให้รู้ผลแพ้ชนะ จะเฮดช็อตหรือจะวาร์ปกลับมาที่เดิมได้ทันที การที่มีคอมสเปคดีอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่ง แต่ถ้ามีจอเกมมิ่งที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดี มีฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม และให้ความต่อเนื่องของภาพ ด้วยอัตรารีเฟรชเรตที่สูงกว่าจอทั่วไป รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดอาการฉีกขาดของภาพ อันเนื่องมาจากอัตรารีเฟรชเรต และเฟรมเรตในการประมวลผลไม่เข้ากัน ก็ยิ่งทำให้ได้ภาพที่ไหลเนียนสวยงามมากขึ้น วันนี้เรามีจอระดับ 24″ ที่น่าสนใจมาแนะนำกัน 9 รุ่นในราคาเริ่มต้นแค่ 5 พันกว่าบาทเท่านั้น หากใครที่กำลังมองหาจอเล่นเกมปี 2022 อยู่ บทความนี้อาจช่วยคุณได้

จอคอม 144hz 24″ เล่นเกมสะใจ 9 รุ่นเด็ด 2022

  1. PHILIPS 242E1GSJ/67
  2. SAMSUNG LC24RG50FQEXXT
  3. AOC G2490VX
  4. MSI G24C4
  5. AOC 24G2E/67
  6. LG 24GN600-B
  7. SAMSUNG ODYSSEY G3
  8. ACER VG240YSbmiipx
  9. MSI Optix G241

1.PHILIPS 242E1GSJ/67 ราคา 5,915 บาท

จอคอม 144hz

จอเกมมิ่งที่มาพร้อมรีเฟรชเรต 144Hz จากทาง PHILIPS เติมความลื่นไหลด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync Premium ให้อัตราตอบสนองที่รวดเร็ว 1ms ด้วยพาแนล VA พร้อมมุมมองที่กว้างถึง 178/178 มีลูกเล่นให้ปรับแต่ง Game Mode ได้ผ่านทาง OSD และมีฟีเจอร์ SmartImage Game สำหรับการเล่นเกมแนว FPS และเพิ่มความสว่างในที่มืด เพื่อความได้เปรียบเวลาที่เล่น เจอศัตรูได้ไวกว่า สีสันที่สดใส Ultra Wide-Color เกลี่ยสีได้ดูสบายตามากขึ้น แต่ถ้าใครเน้นการทำงานเป็นหลัก ยังมีฟีเจอร์ LowBlue เพื่อช่วยพักสายตาให้กับการทำงานของคุณได้ กับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ปรับแต่งง่าย น่าสนใจไม่น้อยเลย

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
มี Game Mode ปรับเลื่อนไม่ได้มากนัก
AMD FreeSync Premium
ขอบจอบาง

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PHILIPS


2.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT ราคา 5,950 บาท

จอคอม 144hz

จอคอม 144Hz สำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบความโอบกระชับสายตาจาก Samsung เพื่อให้มองพื้นที่ในจอได้กว้างมากขึ้น ด้วยความโค้งระดับ 1800R ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามและทันสมัย ขอบจออาจจะไม่ได้เล็กมากนัก แต่ก็รองรับการใช้งานหลายๆ จอต่อกันทำได้ดี ไม่สะดุดตามากนัก พร้อม Picture Mode ที่ให้ผู้ใช้ได้ปรับการเล่นเกมในแบบต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมการสนับสนุน AMD FreeSync ทำให้ได้ภาพที่ต่อเนื่อง ไม่เกิดการขาดหรือซ้อนให้เสียอารมณ์ ลดอาการสั่นไหวด้วย Flicker Free ตามสไตล์ของเกมมิ่งมอนิเตอร์ ปรับมุมก้ม-เงยได้เล็กน้อย โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI 2 และ DisplayPort 1 พอร์ต

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอโค้งกระชับสายตา ขอบจอไม่เล็กมาก
ปรับแต่งง่ายมี Picture Mode
มี HDMI 2 ช่อง

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SAMSUNG


3.AOC G2490VX ราคา 5,850 บาท

จอคอม 144hz

ใครที่ชอบอะไรแรงๆ สีแดงไว้ก่อน ก็น่าจะถูกใจจอคอม 144Hz จากทาง AOC รุ่นนี้ กับขอบล่างสีแดงสดใส เติมความโดดเด่นให้กับการเล่นเกม มาพร้อมกับการสนับสนุน AMD FreeSync premium ลดอาการภาพขาด ให้เฟรมเรตต่อเนื่อง เล่นเกมสวยงาม พาแนลแบบ VA ตอบสนองไวกับ Response time 1ms พร้อมทั้งค่า Brightness ถึง 350 NITS และฟังก์ชั่นการปรับ Game Mode เพื่อการเล่นเกมในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Shooter, Action, FPS รวมถึง RTS, Racing โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI และ DisplayPort อย่างละ 1 พอร์ต

จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อม AMD FreeSync premium ปรับได้เพียงมุมก้ม-เงย
ค่า Brightness สูง
มี Game Mode

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOC


4.MSI G24C4 ราคา 6,200 บาท

จอคอม 144hz

จอเกมมิ่งขนาด 24″ ไซส์กำลังเหมาะจาก MSI ไม่ต้องนั่งถอยระยะห่างจากจอมากนัก มาพร้อมพาแนล VA ให้ความสวยงาม ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ดีไซน์ในแบบจอโค้ง Curved 1500R ให้ความโอบกระชับสายตาได้มากขึ้น พร้อมด้วยหน้าจอแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน และจอยังออกแบบมาให้รองรับการใช้ Multi-monitor เพราะขอบจอที่บางพิเศษทั้ง 3 ด้าน ปรับแต่งง่าย ด้วยการใช้งานปุ่ม 5-way Navigation ในแบบจอยสติ๊ก สามารถปรับมุมก้ม-เงยได้ตามมาตรฐาน มาพร้อมกับพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI 2 และ DisplayPort 1 พอร์ต

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์ล้ำสมัย
ขอบจอบางเฉียบ
จอโค้ง 1500R

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MSI


5.AOC 24G2E/67 ราคา 6,390 บาท

จอคอม 144hz

จอคอม 144Hz สายพันธุ์เกมมิ่ง ที่ออกแบบมาได้โดดเด่น ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium กับภาพที่ต่อเนื่อง ลดอาการฉีกขาด โดยใช้พาแนล IPS ให้มุมมองกว้าง และความคมชัดสูง เหมาะทั้งการเล่นเกมและการทำงาน โดยมี HDR Mode เอาใจคนที่ชอบสีสันที่สดใส ตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงได้ดี กับการเกลี่ยสีได้อย่างสมงาม และทาง AOC ยังมีได้ใส่ AOC Low Input Lag ลดอาการสะดุดหรือขาดของภาพ โดยมีโหมดรองรับการเล่นเกมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น FPS, Racing, RTS และ Gamer อีก 3 โหมดด้วยกัน ให้การปรับมุมก้ม-เงยได้สะดวก จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย ฐานตั้งกว้าง ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
มี HDR Mode
ปรับแต่ง Game Mode ได้

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOC


6.LG 24GN600-B ราคา 6,430 บาท

จอคอม 144hz

จอเกมมิ่งดีไซน์ล้ำสมัย มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ของ LG ให้พื้นที่แสดงผลกว้าง พาแนลในแบบ IPS ให้สีสันที่สวยงาม และภาพคมชัด จุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่ม เช่น AMD FreeSync Premium ลดอาการภาพขาด ให้ภาพต่อเนื่องลื่นไหล และ Black Stabilizer เพิ่มการมองเห็นได้ฉากที่มืดชัดเจน และยังใส่ AIM point หรือเป้าเล็งมาให้ เพิ่มความแม่นยำ ให้ความสว่างสดใสกับ Brightness 300cd/m2 และลดแสงสะท้อนด้วยหน้าจอ Anti-Glare จุดเด่นด้วยค่า Gamut ที่สูงถึง 97% sRGB เพิ่มสีสันสดใส ด้วยการรองรับ HDR10 ให้พอร์ตสัญญาณขาเข้ามีให้เลือก HDMI 2 พอร์ตและ DisplayPort 1 พอร์ต ให้การปรับมุมก้ม-เงยได้

จุดเด่น ข้อสังเกต
AMD FreeSync Premium
ค่า Gamut สูง
รองรับ HDR10

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LG


7.SAMSUNG ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT ราคา 5,900 บาท

จอคอม 144hz

เป็นจอภาพ G series จาก Samsung ที่มีความล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและหลัง ใส่ฟีเจอร์มาให้กับผู้ใช้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นขอบจอที่บางเฉียบ 3 ด้าน ทำให้ใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์ได้ แบบไม่เสียอรรถรส อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ใช้พาแนลแบบ VA ที่ให้สีสันสดใส เหมาะกับการเล่นเกม มาพร้อม Flicker Free ลดอาการสั่นไหว และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium เพื่อภาพที่ต่อเนื่อง ไม่ฉีกขาด จากอัตรารีเฟรชเรตที่สอดคล้องกับการประมวลผล ลดการกระตุก เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Eye Saver Mode และ Flicker Free ที่ลดอาการสั่นไหว ให้ภาพที่นุ่มนวลสบายตา เป็นจอรุ่นเดียวในการรวมจอเกมมิ่ง 144Hz ครั้งนี้ ที่ให้การปรับเลื่อนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มุมก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา และปรับหมุน Pivot ได้ ปรับความสูงได้ถึง 11cm

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับระดับหน้าจอได้หลายรูปแบบ บอดี้ค่อนข้างใหญ่
AMD FreeSync Premium
ขอบจอบางเฉียบ

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SAMSUNG


8.ACER VG240YSbmiipx ราคา 6,650 บาท

จอคอม 144hz

อีกหนึ่งเกมมิ่งมอนิเตอร์ ที่มีดีไซน์ทันสมัย และโครงสร้างที่แข็งแรงอีกรุ่นหนึ่ง กับโทนสีดำตัดเส้นสายสีแดง เพิ่มพื้นที่แสดงผลด้วยขอบจอที่บางพิเศษ กับฟังก์ชั่นการปรับแต่งที่เรียบง่าย บนพาแนลในแบบ IPS ที่ให้ความคมชัดสดใส แตกต่างจากรุ่นอื่นที่นำมารวมในครั้งนี้เล็กน้อย เพราะสามารถเพิ่มอัตรารีเฟรชเรตได้สูงถึง 165Hz ในโหมด OC จากจอคอม 144hz เดิม เพื่อการเล่นเกมบนเฟรมเรตที่ไหลลื่นมากขึ้น และมีพอร์ตแสดงผลทั้ง HDMI และ DisplayPort กับการปรับเลื่อนหน้าจอได้เล็กน้อย แถมด้วยลำโพงคู่ เสียงจัดจ้านมาบนจอ ไม่ต้องต่อลำโพงแยก ก็เล่นเกมได้สนุกสนานเช่นกัน

จุดเด่น ข้อสังเกต
ขอบจอบาง การปรับแต่งไม่ได้หวือหวานัก
มีลำโพงมาในตัว
พาแนล IPS

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ACER


9.MSI Optix G241 ราคา 6,830 บาท

จอคอม 144hz

จัดเป็นอีกหนึ่งจอคอม 144Hz ในราคาที่เป็นมิตรจาก MSI แต่ฟีเจอร์อัดแน่นจัดเต็ม เพราะมาในซีรีส์สำหรับเกมเมอร์ระดับ Esport กับดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวไม่ว่าจะด้านหน้าหรือหลัง ให้การเล่นเกมที่ลื่นไหล ร่วมกับเทคโนโลยี AMD FreeSync ลดอาการภาพขาดและยังเป็นจอแบบ Wide Color Gamut ที่มีขอบเขตสีกว้าง สมจริง เหมาะกับทั้งการทำงานและความบันเทิง โดยทาง MSI ยังโชว์ความเป็นจอแบบ Frameless ที่ชอบจอบางเฉียบ เหมาะกับการใช้งานมัลติมอนิเตอร์ มีฟีเจอร์ Night Vision ช่วยให้การมองเห็นในที่มืด ทำได้ดีขึ้น และได้เปรียบคู่แข่ง และเทคโนโลยี Flicker Free ลดความสั่นไหว ให้ความคมชัดยิ่งขึ้น เมื่อเล่นเกมในฉากที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้ามาให้ครบครัน HDMI และ DisplayPort

จุดเด่น ข้อสังเกต
มีฟีเจอร์ช่วยในการเล่นเกมเยอะ ปรับเลื่อนได้ไม่เยอะมาก
ปรับแต่งง่าย
เทคโนโลยีระดับ Esport

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MSI


Conclusion

Display size Panel Flat/ Curved Brightness
cd/m²
Input Adaptive Sync Price
(Baht)
1.PHILIPS 242E1GSJ/67 23.8″ VA Flat 350 HDMI, DP FreeSync Premium 5,915
2.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT 23.5″ VA Curved 250 HDMI, DP FreeSync 5,950
3.AOC G2490VX 23.8″ VA Flat 350 HDMI, DP FreeSync Premium 5,850
4.MSI G24C4 23.6″ VA Curved 250 HDMI, DP FreeSync Premium 6,200
5.AOC 24G2E/67 23.8″ IPS Flat 250 VGA, HDMI, DP FreeSync Premium 6,390
6.LG 24GN600-B 24″ IPS Flat 300 HDMI, DP FreeSync Premium 6,430
7.SAMSUNG ODYSSEY G3 24″ VA Flat 250 VGA, HDMI, DP FreeSync Premium 5,900
8.ACER VG240YSbmiipx 23.8″ IPS Flat 250 VGA, HDMI, DP N/A 6,650
9.MSI Optix G241 23.8″ IPS Flat 250 HDMI, DP FreeSync 6,830

ถือได้ว่าจอคอม 144Hz ในปัจจุบัน มีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งราคาที่ต่างกัน ก็มีความแตกต่างในแง่ของเทคโนโลยี และการออกแบบที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะชื่นชอบหรือเลือกแบบใด ให้เหมาะกับการใช้งานของตน เช่น พาแนลในแบบ VA และ IPS ซึ่งหากเน้นเล่นเกม และได้จอที่ราคาประหยัดลงมาบ้าง VA คือคำตอบ แต่ถ้าใช้งานด้านอื่นด้วย เช่น ทำงาน แต่งภาพ หรือความสว่างของสีสัน IPS ราคาสูงขึ้นมาหน่อยตอบโจทย์ได้ดี หรือถ้าต้องการจอที่ปรับเลื่อนได้หลากหลาย อาจจะมีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะราคาค่อนข้างสูง รวมถึงพอร์ตสัญญาณขาเข้า พื้นฐานจะมีเป็น HDMI และ DisplayPort แต่ถ้าใช้กับคอมรุ่นเก่า หรือมีการ์ดจอที่มีเฉพาะ D-Sub ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะอาจจะใช้งานไม่ได้หรือต้องแปลงกันหลายรอบ นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยในการเล่นเกม เช่น Night Vision, AIM Point หรือ Game Mode สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเล่นอยู่ไม่น้อยเลย อย่างไรก็ดีเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ อย่าลืมว่าจอภาพเราไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ นะครับ ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมในทุกวันของคุณ

from:https://notebookspec.com/web/634531-9-gaming-monitor-144hz

Philips 438P1/67 จอคอมไซส์ยักษ์ 43″ เล่นเกม 4K ดูหนัง ทำงาน เปิดเน็ต WFH จอเดียวครบ

Philips 438P1/67 จอคอมไซส์ยักษ์ 43″ เล่นเกม 4K ดูหนัง ทำงาน เปิดเน็ตพร้อมกันในจอเดียว

Philips 438P1

Philips 438P1/67 อาจช่วยให้คุณภาพชีวิตของเหล่าคนทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้งหรือเหล่าเกมเมอร์ ที่ชื่นชอบการชมฉากใหญ่สุดอลังการ สามารถสนุกกับการเล่น และการสตรีมมิ่งได้ง่ายขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นจอคอมขนาดใหญ่ถึง 43″ แล้ว ก็ยังให้ความละเอียดมากถึงระดับ 4K (3840 x 2160) pixels ซึ่งนั่นหมายถึงการชมภาพหรือการตกแต่งภาพของคุณทำได้อย่างเต็มที่ มองเห็นรายละเอียดบนงานอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังมาพร้อม Input ได้พร้อมกัน 4 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น HDMI หรือ DisplayPort ก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไปหรืองานเอกสาร รวมไปถึงคนที่ดูหุ้น เทรดบิต หรือจะเป็น Caster และ Streamer ก็สามารถใช้ประโยชน์จากจอ Philips รุ่นนี้ได้อย่างเต็มที่ ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า PIP/PBP ที่ใช้รูปแบบของภาพซ้อนภาพ จากแหล่งสัญญาณที่ต่างกันได้ และราคายังเปิดมาได้น่าสนใจ คืออยู่ที่ประมาณ 13,490 บาทเท่านั้น ช้อปกันได้ที่ Topvalue

Philips 438P1 4k 1

จุดเด่น

  • รองรับ Input สัญญาณจากอุปกรณ์ภายนอกได้ 4 ช่องทาง
  • รองรับสัญญาณ HDMI และ DisplayPort
  • ความละเอียดสูงระดับ 4K ให้ภาพในการเล่นเกมและชมภาพยนตร์ได้คมชัด
  • มุมมองกว้าง
  • ขาตั้งออกแบบมาอย่างแน่นหนาแข็งแรง
  • เสียงลำโพงดังพอสมควร
  • รองรับการแสดงผล PIP/PBP

ข้อสังเกต

  • แนวขาตั้งค่อนข้างกว้าง ต้องใช้พื้นที่บนโต๊ะที่ยาวพอสมควร
  • การปรับตั้งค่าผ่านรีโมทไม่เร็วนัก
  • การจัดวางให้ใกล้กับผนัง จะได้เสียงที่คมชัดมากกว่า

ข้อมูลเพิ่มเติม Philips

Topvalue ช้อปปิ้งออนไลน์แห่งใหม่

Philips 438P1 จอคอม เล่นเกม ดูหนัง ทำงาน จอเดียวครบ

Specification

  • ประเภทจอ LCD: เทคโนโลยี IPS
  • ชนิดแสงพื้นหลัง: ระบบ W-LED
  • ขนาดจอภาพ: 42.51 นิ้ว / 108 ซม.
  • การเคลือบจอแสดง: 941.184 (H) x 529.416 (V) มม.
  • อัตราการจัดมุมมอง: 16:9
  • ความละเอียดสูงสุด: 3840 x 2160 @ 60 Hz*
  • ความละเอียดพิกเซล: 103.46 PPI
  • เวลาตอบสนอง (ทั่วไป): 5 มิลลิวินาที (Gray to Gray)*
  • ความสว่าง: 400 cd/m²
  • อัตราความคมชัด (ทั่วไป): 1200:1
  • SmartContrast: 50,000: 0.2451 x 0.2451 มม.
  • มุมมองภาพ: 178º (H) / 178º (V) @ C/R > 10
  • การเพิ่มประสิทธิภาพของภาพ: SmartImage
  • สีในการแสดงผล: รองรับสี 1.07 พันล้านสี
  • Color Gamut (ทั่วไป): NTSC 88%, sRGB 102%
  • ความถี่ในการสแกน: 30 – 140 kHz (แนวนอน) / 23 – 75 Hz (แนวตั้ง)
  • SmartUniformity: 96 ~ 105%
  • Delta E: 3
  • sRGB: ใช่
  • ปราศจากการสั่นไหว: ใช่
  • สัญญาณอินพุต: VGA (อะนาล็อก), DisplayPort 1.2 x 2 และ HDMI 2.0 x 2
  • USB: USB-B x 1 (อัพสตรีม), USB 3.2 x 4 (ดาวน์สตรีมด้วย 1 การชาร์จเร็ว B.C 1.2)
  • สัญญาณเสียง (เข้า/ออก): Audio In PC, สัญญาณเสียงออก
  • ลำโพงภายในตัว: 5 W x 2
  • MultiView: PIP (อุปกรณ์ 2x), PBP (อุปกรณ์ 4x)
  • ความสะดวกสำหรับผู้ใช้: SmartImage
  • ซอฟต์แวร์ควบคุม: SmartControl
  • อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ: ล็อค Kensington, ขาตั้ง VESA (200×200 มม.)
  • ผลิตภัณฑ์พร้อมขาตั้ง (สูงที่สุด): 973 x 633 x 259 มม.
  • ผลิตภัณฑ์ไม่มีขาตั้ง (มม.): 973 x 561 x 64 มม.
  • น้ำหนัก: ผลิตภัณฑ์พร้อมขาตั้ง (กก.) 11.78 กก.

Design

Philips 438P1

รูปลักษณ์ของจอ Philips 438P1/67 มาในแบบที่เรียบง่าย แต่ก็ดูเข้าได้กับธีมห้องในแบบต่างๆ ด้วยขอบสีเทาเข้ม ตัดกับพื้นที่หน้าจอสีดำ ซึ่งมีการเคลือบกันสะท้อนมาเป็นอย่างดี ที่สะดุดตาน่าจะเป็นขาตั้ง ซึ่งเข้ากับตัวจอคอมรุ่นนี้อย่างลงตัว แต่ถ้าใครอยากจะได้จอที่เล็กลงมาหน่อย เรามีรุ่น 27″ จาก Philips มาแนะนำ ดูจากรีวิว Philips Brilliance 271B นี้ได้ครับ

Philips 438P1

ด้านหลังไม่ได้หวือหวาแต่อย่างใด มีเพียงเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Wall mouth 200mm โดยพอร์ตแสดงผลและช่องต่อสายไฟ AC บริเวณด้านล่าง รวมไปถึงปุ่มสำหรับควบคุมการทำงาน OSD ทางซ้ายมือ

Philips 438P1
Philips 438P1

ภาพจากด้านข้าง จะเห็นว่ามมิติไม่ได้กว้างมากมายนัก เทียบได้กับจอทีวีในปัจจุบัน ที่น่าสนใจคือ การเซ็ตระยะจากที่นั่ง อาจจะต้องขยับห่างออกมาเล็กน้อย

Philips 438P1

มุมต่างๆ ของขาตั้ง ที่ต้องชมเลยว่า แม้จะดูเรียบง่าย แต่แข็งแรงและหนักแน่นพอสมควร เรียกว่าแทบจะไม่ทำให้ตัวจอเขย่าได้ง่ายๆ การยึดขาตั้งใช้น็อตสกรูเพียง 4 ตัวเท่านั้น ข้างละ 2 ตัว ใช้ไขควง 4 แฉกอันเดียวพอ

Philips 438P1

มุมล่างขวาของหน้าจอ มีแสงไฟและเป็นเหมือนเซ็นเซอร์ตัวติดต่อกับรีโมทคอนโทรล มีไฟ LED สีขาวสว่างขึ้น เมื่อจอเริ่มทำงาน

Philips 438P1

ด้านหลังจะเป็นชุดควบคุมการทำงาน ร่วมกับ OSD settings ปุ่มใหญ่ซ้ายมือสุดเป็นเพาเวอร์สำหรับปิด/เปิด, OK หรือตกลง เลือก, User เลือกโพรไฟล์ที่ตั้งไว้ หรือเลื่อนขึ้น, เลือกช่องสัญญาณ Input หรือเลื่อนลง และสุดท้ายจะเป็นตัวเลือก SmartImage เพื่อเลือกการให้เหมาะกับการใช้งานในแบบต่างๆ (ข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อ Remote & OSD)

Philips 438P1

ด้านหลังมี VESA mouth 200mm x 200mm สำหรับติดตั้งกับขาแขวนหรือ Wall mouth ยึดกับผนังได้อีกด้วย

Port connector

Philips 438P1

พอร์ตเชื่อมต่อจัดมาเต็มสำหรับจอคอม Philips รุ่นนี้ โดยเริ่มจากพอร์ตแสดงผลที่อยู่ด้านล่าง ประกอบด้วยช่องสัญญาณ Input ที่มีทั้ง HDMI1 และ HDMI2, DisplayPort-In 1 และ DisplayPort-In 2 พร้อมกับพอร์ต Output ที่เป็น D-sub และ Audio-In, Audio-out ครบครัน

Philips 438P1

ด้านข้างมีพอร์ต USB Hub ที่มีพอร์ต USB-B Upstream พร้อมกับ USB 3.2 x 4 (ดาวน์สตรีมด้วย 1 การชาร์จเร็ว B.C 1.2)

Philips 438P1

ปลั๊ก AC สำหรับไฟเข้า และมีปุ่มเพาเวอร์สำหรับปิด-เปิดการทำงานมาให้ด้วย จัดว่าเตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัยมาให้ด้วย นอกเหนือจากการควบคุมจากรีโมทคอนโทรล

Remote & OSD

Philips 438P1

ในการปรับแต่ง OSD settings เพื่อใช้งานจอคอม Philips นี้ มีให้เลือก 2 รูปแบบคือ ปุ่มควบคุมด้านหลังตัวเครื่อง และรีโมทคอนโทรล ซึ่งดูแล้วเป็นเวอร์ชั่นนอดนิยม บนจอคอมขนาดใหญ่ในปัจจุบันนี้เกือบหมดแล้ว

Philips 438P1

รีโมทไซส์กำลังดี จับถนัดมือ ปุ่มควบคุมไม่ซับซ้อน ต่างจากรีโมททีวีลิบลับ แต่ก็ใช้งานได้อย่างครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพาเวอร์ ปรับเสียง ความสว่าง เลือกช่องสัญญาณ Input และ SmartImage เป็นต้น

Philips 438P1 OSD 1

มาดูกันที่ OSD settings กันบ้าง สามารถเลือกจากรีโมทหรือกดจากปุ่มควบคุมด้านหลังจอได้เลย แต่อาจจะไม่ได้สะดวกนัก เพราะต้องเอื้อมมือไปกด และดูเมนูหน้าจอไปด้วย ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยพอสมควร

Philips 438P1 OSD 8

เมนู OSD บนจอคอม Philips 438P1 ประกอบด้วย 8 เมนูหลักๆ คือ

  • Input – สำหรับการเลือกช่องสัญญาณขาเข้า
  • Picture – การปรับแต่งเรื่องของภาพ ความสว่าง, Contrast, Sharpness, SmartResponse, Gamma เป็นต้น
  • PIP/PBP – ฟังก์ชั่น สำหรับการนำสัญญาณจากแหล่งที่ต่างกัน มาใช้ร่วมกันบนหน้าจอเดียว และยังเลือกตำแหน่งของจอแสดงผลแต่ละช่องสัญญาณได้อีกด้วย
  • Audio – การปรับค่าสัญญาณเสียง
  • Color – อุณหภูมิของสีและการใช้งาน sRGB
  • OSD settings – กำหนดการใช้ OSD เช่น ระดับความโปร่งแสงหรือเวลาในการแสดงผลเป็นต้น
  • Setup – การตั้งค่าพื้นฐานของ OSD ทั้งหมด
Philips 438P1 OSD 9

SmartImage ฟังก์ชั่นลัดที่จะช่วยให้การใช้งานหน้าจอในรูปแบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แค่กดที่ปุ่มบนรีโมทหรือจากด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งจะมีตัวเลือกในการใช้งานหลายรูปแบบ เช่น ซอฟต์แวร์สำนักงาน, รูปภาพ, วีดีโอ, เกม, ประหยัดพลังงาน เป็นต้น

Sound

Philips 438P1

จอคอมขนาดใหญ่แบบนี้ หากไม่มีระบบเสียงมาด้วย ก็คงจะแปลกไม่น้อย โดยที่ Philips ให้ลำโพงแบบ 5w จำนวน 2 ตัว วางคู่มาด้านบนของจอภาพ ซึ่งเสียงก็จัดว่าค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว ในแง่ของพลังเสียงที่ปรับระดับสูงๆ ได้ไม่แตกพร่า แต่การเก็บรายละเอียดของเสียงหรือมิติ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของลำโพงบนจอภาพในปัจจุบัน แนะนำว่า หากต้องการลูกเล่นของเสียงที่มีมิติหรืออยากได้รายละเอียดที่มากขึ้น การเลือกหูฟังหรือลำโพงเฉพาะตามที่คุณถนัด ก็น่าจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ

Philips 438P1

และหากต้องการใช้งานลำโพงบนจอภาพ แนะนำว่าให้ดันด้านหลังของจอ ให้ใกล้กับผนังสักนิด จะได้เสียงจากการตกกระทบมายังหูของคุณได้แน่นและชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นเอง เนื่องจากตำแหน่งของลำโพงอยู่ค่อนข้างสูง

Philips 438P1

ในการเล่นเกม ลำโพงที่มากับจอคอม Philips 438P1 รุ่นนี้ ตอบโจทย์ได้ดี ในแง่ของระดับเสียงและเอฟเฟกต์ ที่ดังกระหึ่ม แม้จะปรับอยู่ที่ราว 50% ให้คุณสนุกได้ โดยไม่ต้องพึ่งลำโพงจากภายนอก แต่ถ้าคุณชอบแนว Action FPS เน้นทิศทางเสียง ตัวเลือกอย่างหูฟังเกมมิ่งแบบ Surround sound จะให้ความแม่นยำได้มากกว่า

เช่นเดียวกับการชมภาพยนต์ ให้เสียงจัดจ้านจากลำโพงนี้ได้ดี ให้คอหนังแอ็คชั่นได้พึงพอใจได้ในระดับหนึ่ง เสียงจากการโจมตี ระเบิด เสียงกระสุนและแรงกระแทกของวัสดุต่างๆ สร้างความนื่นเต้นได้ไม่น้อย เสียงสนทนาอาจจะเบาไปนิด แต่โดยรวมถือว่าคุ้มค่า

Web & Document

Philips 438P1 Web 10 1

มาเริ่มต้นกับการใช้เป็นจอทำงานด้านเอกสาร และการท่องเว็บ และสตรีมมิ่ง ในแง่ของค่าพื้นฐาน ที่เมื่อติดตั้งจอและเริ่มใช้งาน Windows ตรวจสอบเรียบร้อย การแสดงผลเป็น 3840 x 2160 หรือ 4K ก็จะได้รายละเอียดที่คมชัดสวยงาม แต่จะเริ่มต้นด้วย Scale 300% ซึ่งจะทำให้ฟอนต์และสัดส่วนของภาพมีขนาดใหญ่ การปรับให้อยู่ในระดับ 200% น่าจะเหมาะสม แต่ถ้าใครต้องการใช้พื้นที่กว้างแบบสุดๆ และยังมองเห็นตัวฟอนต์ได้ชัดเจน 100-150% scale ก็ถือว่ายังพอไหว

Philips 438P1

เรื่องของความคมชัด หากเป็นการแสดงผล 4K ในแบบ Native ก็จะคมชัด ไม่ว่าจะเป็นตัวฟอนต์ หรือภาพและอื่นๆ ที่แสดงผลอยู่ด้วย

Philips 438P1

ตัวฟอนต์ที่ได้จากภาพถ่ายบนจอโดยตรง เพื่อให้เทียบกับการมองเห็นหรือใช้งาน ก็จะเห็นได้ถึงตัวฟอนต์ที่มีความชัดเจน เช่นเดียวกับตัวกราฟิก ที่ปรากฏอยู่ในรายงานหรือพรีเซนเทชั่น และภาพหรือวีดีโอความละเอียดสูงเป็นต้น

Philips 438P1

แต่จุดที่เป็นไฮไลต์คือ การที่ได้ Split Windows หรือแบ่งหน้าจอได้ตามที่ต้องการ ซึ่งยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผ่านการปรับแต่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความเหมาะสม ที่ถือว่าเป็นข้อดีของจอภาพขนาดใหญ่และความละเอียดสูงแบบนี้ สังเกตว่าตัวกราฟ Cryptocurrency charts ด้านล่างขวามือ ยังคงดูข้อมูลแบบ Long-term ได้อีกด้วย ซึ่งหากคุณต้องการเปรียบเทียบกราฟิก ก็แบ่งครึ่งหน้าจอด้านล่าง-บนได้อีกด้วย ซึ่งหากใครที่ต้องการใช้งานด้านนี้ ให้เลือก SmartImage เป็น Office mode ได้เลย

Movies

Philips 438P1

มาถึงในด้านความบันเทิงบนจอ 4K รุ่นนี้ แนะนำให้ปรับเป็น Movie mode เพราะจะได้สีสันที่สดใส พร้อมกับความสว่าง อุณหภูมิสี ที่ทำให้ภาพดูมีความอิ่มมากขึ้น ยิ่งถ้าได้ Source ที่เป็น 4K ด้วยแล้ว บอกเลยว่าบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยพื้นที่กว้าง ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดี ภาพที่ได้มีความต่อเนื่อง ใครที่ชอบเอฟเฟกต์สุดอลังการ จอรุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง

Philips 438P1

ฉากสำคัญในเรื่อง Godzilla vs Kong คุณจะได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีการระเบิด จากการโจมตีของก็อต รวมไปถึงเครื่องบินโจมตี ให้อรรถรสในการชมได้เต็มอิ่มเลยทีเดียว ซึ่งจอภาพมีการเกลี่ยและการแสดงสีสันออกมาได้น่าสนใจ ด้วยการวางฟีเจอร์สำคัญ SmartContrast หรือความสว่างที่มากถึง 400 cd/m² ทำให้การแสดงภาพและสีที่สดใส น่าตื่นตามากยิ่งขึ้น

Philips 438P1

รวมไปถึงฉากการสู้รบในท้องทะเลของ Battleship ที่เรียกได้ว่า ทั้งแสงสีจากยานเอเลี่ยนและการโจมตีบนเกาะในฉากสุดท้าย ตื่นตาและเร้าใจไม่เบาเลย

Gaming

มาถึงไฮไลต์ของเรา นั่นคือการเล่นเกมบนจอ Philips 438P1 ในครั้งนี้เราได้พีซีระดับ Ryzen 5 และการ์ดจอ RTX 3060 มารีดความแรงให้กับการเล่นเกมบนความละเอียด 4K ซึ่งบอกเลยว่า การจะให้ความสวยงาม มาคู่กับความลื่นไหล ต้องผ่านกระบวนการปรับให้ลงตัวมากที่สุด จะเน้นภาพสวยมากๆ และเล่นกระตุกก็คงจะไม่ไหว แต่ก็ลองปรับให้ดูกันในบางเกม เพื่อให้เห็นถึงความสวยงาม เช่น Death Stranding และ Horizon Zero Dawn ซึ่งบอกเลยว่า ประทับใจมากๆ กับภาพและความสดใสที่ได้ โดยต้องบอกไว้ก่อนว่าจอ Philips 438P1 รุ่นนี้ให้รีเฟรชเรตสูงสุด 60Hz เท่านั้นนะครับ ดังนั้นการรีดเฟรมเรตให้อยู่ในระดับ 50-80fps. ก็เพียงพอจะให้ความลื่นไหลสวยงามได้บนจอรุ่นนี้แล้ว

หรือถ้าคอเกมอยากจะได้ฟีเจอร์ในการเล่นเกมมากขึ้น Philips 2 รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สามารถชมรีวิวได้ใน รีวิว PHILIPS 278E1A และ 328E1CA นี้ มีทั้ง 27″ และ 32″ แจ่มๆ

Philips 438P1 Game 3
Philips 438P1 Game FHD
Philips 438P1 Game 4k
Game 4k fhd 1

เริ่มต้นกับ Horizon Zero Dawn เกมนี้ จะเน้นที่ความสดใสของสีสันภายในเกม ซึ่งหากเป็นสีในเกม ค่อนข้างจะจัดจ้าน แต่เราลองถ่ายภาพแทน Capture เพื่อให้เห็นรายละเอียดตามสัดส่วนที่คุณมองอยู่บนหน้าจอแทน ซึ่งจะเห็นความต่างของรายละเอียด เมื่อคุณปรับในโหมด Full-HD และ 4K ซึ่งแน่นอนว่า ความละเอียดที่สูงอย่าง QHD น่าเล่นกว่าเป็นไหนๆ

DOTA2 4k
DOTA2 4k FHD 1

ถัดมาที่ DOTA2 กับความอิ่มเอมในฉาก เมื่อฮีโร่เล่นเวทย์ใหญ่ ในโหมด 4K ดูแล้วอลังการ ยิ่งซูมเข้าไปดูชุดหรือสกินด้วยแล้ว ยิ่งสวยถูกใจ ใครที่ชอบเล่นเกม แล้วดูรายละเอียดกันแบบนี้ จอรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถมองเห็นฉากและ Map ได้กว้างขึ้นละเอียดขึ้นกว่า Full-HD อยู่ไม่น้อยเลย

Death Stranding 2

สุดท้ายกับเกม Death Stranding กับฉากที่ไกลสุดลูกหูลูกตา และความพริ้วไหว รายละเอียดของบรรดาสิ่งต่างๆ รอบตัว น่าจะช่วยให้คุณสนุกและตื่นเต้นไปกับภารกิจที่คุณจะได้เจอตลอดทั้งตัวเกมได้ไม่ยาก แต่ถ้าเครื่องไม่แรงพอ จะเล่นบนความละเอียด Ultra ใน Full-HD 1080p ก็ยังน่าสนใจ เพราะสีสันและความลื่นไหล ช่วยให้เล่นได้ยาวๆ แน่นอน

Philips 438P1 work cov3

Software

Philips 438P1

มาที่ส่วนของการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เฉพาะทางกันบ้าง ลองกันที่งานตัดต่อ สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือ พื้นที่การใส่ฟุตเทจ ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ พร้อมกับภาพพรีวิวที่ใหญ่จนเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ซึ่งใครที่มีวีดีโอและเอฟเฟกต์ หรือ Special ค่อนข้างเยอะ น่าจะได้ประโยชน์จากจอภาพ Philips 438P1/67 รุ่นนี้อย่างแน่นอน

Philips 438P1

และอีกเรื่องที่ขาดไม่ได้ จอภาพนี้ให้ค่า Gamut มาในระดับ sRGB 102% จัดว่าสูงพอสมควร เมื่อเทียบกับจอภาพในระดับเดียวกัน ซึ่งพอจะให้ความแม่นยำของสีได้ดีในระดับหนึ่ง เรียกว่าหากได้รับการ Calibrate และปรับแต่งเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็ช่วยให้การทำงานด้านนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าใครที่คิดจะจริงจังกับงานด้านนี้ต่อ อาจจะใช้จอหลักเป็นจอตัดต่อ และใช้จอรุ่นนี้เป็นจอเสริม สำหรับการวางตัวอย่าง Footage ได้เต็มที่

Philips 438P1

Conclusion

Philips 438P1

จอคอม Philips 438P1 รุ่นนี้ เหมาะกับใคร คำตอบอาจจะค่อนข้างกว้าง เพราะด้วยพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่และคุณสมบัติที่ค่อนไปทางกลุ่ม Home user ที่คงต้องเหมารวมเรื่องของการทำงานและเอนเตอร์เทนเมนต์เข้าด้วยกัน ด้วยสนนราคาที่ประมาณ 13,xxx บาท จัดว่าเป็นราคาที่ดีสำหรับจอความละเอียด 4K หรือ Ultra HD แบบนี้ จัดว่าใครก็เอื้อมถึง จับต้องได้ ซึ่งเข้ากันได้ทุกกลุ่ม แต่ถ้าจะให้เจาะลึกลงไป คงเป็นคนที่เบื่อกับหน้าจอขนาดเล็ก และอยากจะได้จอคอมที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น สำหรับคอเกมเอง ก็จะได้อานิสงทั้งจอขนาดใหญ่ 43″ นี่สามารถมองเห็นศัตรูได้ชัดมาก และเป้าก็ใหญ่ขึ้น ซึ่งเกมเมอร์ควรเตรียมไว้ 2 อย่างคือ คอมสเปคค่อนข้างแรงหน่อย ที่ช่วยขับเฟรมเรตให้เกมได้แบบลื่นๆ บนโหมด Medium เป็นอย่างน้อย หรือให้ดีก็เป็นโหมด High และ Very High แน่นอนว่าจะต้องจ่ายในส่วนนี้หนักพอสมควร และสองคือ เมาส์เกมมิ่งที่มี DPI สูงๆ เพื่อจะได้เลื่อนเคลื่อนไหวไปมาได้ทันใจ ไม่อย่างนั้น จะทำให้การขยับตัว และการคลิ๊กโจมตีได้ไม่ทันใจ ส่วนแรกนี้เป็นเรื่องของคอเกม

แต่อีกกลุ่มที่เรียกว่าคาบเกี่ยวกัน และสามารถใช้จอ Philips 438P1 รุ่นนี้ได้อย่างเหมาะสมก็คือ Caster หรือ Streamer ที่จะใช้เป็นจอแบบสารพัดประโยชน์ ทั้งในการเล่นเกม และการแคสสตรีม หรือใช้ในการมอนิเตอร์ สำหรับในช่วงที่สตรีม ซึ่งคุณอาจใช้ดูข้อมูลในการแคสหลายช่องทางได้พร้อมๆ กัน เพราะด้วยพื้นที่ของหน้าต่างโปรแกรมที่เมื่อ Split Windows แล้วก็ยังเห็นได้ชัดเจนพอสมควร เนื่องจากเป็นความละเอียดระดับ 4K เพียงแต่อาจจะต้องปรับ Scale size ของ Windows ให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งพื้นฐานที่ตั้งมา Default จะอยู่ที่ 300% ที่ทำให้ฟอนต์มีขนาดใหญ่ และมองเห็นได้ง่าย แต่ความลงตัวเท่าที่ลองใช้อยู่ที่ 200% อ่าน Text ได้ชัด และหน้าต่า
งโปรแกรม ไม่คับแคบจนเกินไป

กลุ่มคนทำงานหรือ WFH จะได้พื้นที่ใช้งานอย่างจริงจังมากขึ้น โดยพื้นที่กว้างขึ้นจาก 22-24″ เดิมๆ ที่ใช้กันอยู่เป็นพื้นฐานอยู่หลายเท่า ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ การเปิดหน้าเอกสาร ไปพร้อมๆ กับหน้าจอประชุมผ่าน Meet, Zoom หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่ และยังเปิดหน้า Presentation รอเอาไว้ เพื่อใช้ดูข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม และมีหน้าจอเล็กๆ สำหรับ Youtube ในกรณีที่ฟังเพลงหรือเปิดดูวีดีโอในการเรียนรู้ระหว่างการ WFH ได้อีกด้วย

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น สำหรับคนที่ทำงานจริงจัง และมีแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน สามารถใช้สัญญาณ Input ได้ถึง 4 แหล่งด้วยกัน หรือในสำนักงานที่มีด้วยกันหลายๆ แผนก ก็ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นนี้ได้อีกด้วย ด้วยการต่อเข้ากับ Input ที่เป็น HDMI 1, 2 และ DisplayPort 1 และ 2 จากนั้นใช้ฟังก์ชั่นการแสดงผลบนหน้าจอได้ทันที แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าเป็น PIP หรือ PBP

แต่… ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเรื่องที่ลงตัวไปเสียทุกอย่าง แบบที่ได้กล่าวไปในช่วงของการรีวิว ว่าหากจะซื้อ Philips 438P1 รุ่นนี้ไปใช้ คงต้องเตรียมพื้นที่ในการจัดวางมากพอสมควร เพราะด้วยพื้นฐานของจอขนาดใหญ่ และใส่ขาตั้งแบบ 2 ด้าน เช่นเดียวกับจอทีวี ซึ่งวัดระยะความยาวของฐานอยู่ที่ราว 90cm ดังนั้นโต๊ะทำงาน 120cm อาจจะแน่นเกินไป อย่างน้อยๆ แนะนำ 150cm ขึ้นไปครับ และอีกเรื่องหนึ่งคือ การเซ็ตระยะห่างการนั่ง ซึ่งควรต้องห่างจากที่นั่งเดิมๆ ของคุณออกมาด้วย และก็หมายถึงความลึกของโต๊ะเองก็มีส่วนด้วยเช่นกัน แต่ก็แก้ไขได้ในเรื่องของการตั้งค่า Scale ของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะมีเพียงรีโมทที่ช้าไปเล็กน้อย เมื่อต้องการปรับเพิ่มลด เสียงหรือความสว่างนั่นเอง แต่สำหรับโหมดอื่นๆ ก็ทำได้ดีตามปกติครับ

Philips 438P1 4k

Price: ประมาณ 13,490 บาท

Contact:

Topvalue ช้อปปิ้งออนไลน์แห่งใหม่

Related Topics

Review จอคอม Philips Brilliance 271B จอสายบันเทิง เล่นเกม ดูหนัง ท่องเว็บ

Philips Brilliance 271B

Review จอคอม PHILIPS 278E1A และ 328E1CA เกมมิ่งมอนิเตอร์ 4K ฟีเจอร์แน่น ภาพคม

Philips 278E1A

10 อันดับ จอคอม NBS TOP CHART 2021

Top chart monitor 2021

5 เทคนิคเลือกจอมือสอง จอเล่นเกม 2021 แบบไหนคุ้ม

2nd hand monitor 2021

from:https://notebookspec.com/web/595165-philips-438p1-4k-monitor

แนะนำจอคอม MSI 2K 165Hz ดูหนัง ทำงาน จอเล่นเกม จอเดียวจบ ครบทุกฟังก์ชั่น

แนะนำจอคอม MSI 2K 165Hz ดูหนัง ทำงาน จอเล่นเกม จอเดียวจบ ครบทุกฟังก์ชั่น

จอคอม

เคยรู้สึกยุ่งยากกันมั้ยครับ เวลาจะเลือกจอคอมเล่นเกมกันสักรุ่น เหมือนจะต้องวุ่นวายกับการหารายละเอียดในการเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอ เทคโนโลยี พาแนล ฟีเจอร์ ไปจนถึงราคา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้หลายคนแทบจะถอดใจ เมื่อต้องเลือกซื้อหาจอเกมมิ่งมาใช้ ซึ่งที่จริงแล้ว อาจจะไม่ได้ซับซ้อนมากมายนัก เพียงแต่ว่าคุณอาจจะต้องมีสิ่งที่ต้องการอยู่ในใจสัก 2-3 ข้อ ที่เป็นความต้องการจริงๆ แล้วส่วนที่เหลือ ถือว่าเป็นองค์ประกอบรองๆ ลงไป เท่านี้ก็ง่ายขึ้นแล้ว อย่างเช่นโจทย์ในวันนี้ ที่เราอยากจะนำมาเป็นตัวอย่างในการเลือกใช้ สำหรับคอเกม ที่อยากได้จอแสดงผลขนาดใหญ่ ใช้งานได้ทั้งเล่นเกมและความบันเทิง เพิ่มเติมคือ มีอัตรารีเฟรชเรตที่สูงกว่าจอพื้นฐาน ส่วนความละเอียดก็ตามความเหมาะสม แบบนี้จะเลือกอย่างไรดี


เลือกจอคอมเล่นเกม 2021


เลือกความละเอียด Resolution ใดดี

ในเรื่องของ Resolution หรือความละเอียดของหน้าจอคอมเล่นเกม เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในทุกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่มีข้อใดผิดหรือถูกเสียทีเดียว แต่ก็คงต้องดูตามความเหมาะสม ตั้งแต่ในเรื่องของสเปคคอมที่ใช้ ไปจนถึงความต้องการใช้งานในด้านอื่นๆ ประกอบกัน เพราะเวลานี้มีให้เลือกตั้งแต่ Full-HD 1080p, 2K หรือ 1440p QHD หรือจะเป็น 4K 2160p ก็น่าสนใจ เพราะความละเอียดยิ่งสูง ก็จะให้ประสบการณ์ในการใช้งานมากขึ้น แล้วจะเลือกความละเอียดใดดี

จอคอม
ที่มา: thinkware.com

FHD หรือ 2K ความละเอียดของจอภาพระดับ Full-HD 1080p และ 2K QHD (1440p) ตัวเลขอาจไม่ต่างกันมากนัก แต่ในการแสดงผลจะให้รายละเอียดต่างกันในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนที่เล่นเกม แล้วชอบดู Detail หรือชอบสไตล์ของเกมหรือการชมภาพยนตร์ที่มี Source ที่มีความละเอียดสูง ความสวยงามสมจริง จอคอมที่ให้ความละเอียดได้มากกว่า ย่อมแสดงผลภาพได้ดีมีความสมจริงมากขึ้น


ขนาดหน้าจอเท่าไรถึงจะดี?

จอคอม

เรื่องขนาดหน้าจอคอมเล่นเกมในปัจจุบันก็ไม่มีอะไรตายตัว แต่เชื่อได้เลยว่าแนวโน้มของคนที่ซื้อจอคอมใหม่ ส่วนใหญ่ถ้าไม่เบื่อกับภาพแบบเดิมๆ ลูกเล่นเก่าๆ ความละเอียดเดิมๆ หรือขนาดหน้าจอเล็กๆ เริ่มไม่ตอบโจทย์การใช้งานแล้วนั่นเอง ตัวเลือกในปัจจุบันมีให้เริ่มต้นตั้งแต่ 24″ แต่บางคนที่ใช้ 22″ มา ก็อยากจะไปไกลกว่านั้น เช่น จอภาพ 27″ หรือ 32″ เป็นต้น เพราะทำให้เห็นความแตกต่างจากจอภาพที่เคยใช้อยู่เดิมอย่างมาก ส่วนในเรื่องของ Resolution หรือฟีเจอร์อื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น การแสดงผลหน้าจอ รีเฟรชเรต พาแนล ไปจนถึงลูกเล่นการปรับแต่ง เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของภาพ และการปรับแต่ง เช่นมี Game Mode เป็นต้น ซึ่งก็อยู่ที่ว่า คุณจะใช้จอภาพไปในทางใดมากที่สุด แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็เลือกสิ่งต่างๆ ให้มีครบไว้ก่อน ในระดับราคาที่คุณสู้ไหว เพราะอย่าลืมว่า จอคอม ไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณซื้อบ่อยๆ เรียกว่าซื้อมาครั้งหนึ่ง ก็ใช้กันจนลืมเลยทีเดียว จ่ายเยอะหน่อย มีลุกเล่นครบตามที่ต้องการ และก็ได้ใช้กันแบบยาวๆ


เลือกจอคอมเล่นเกม

จอคอม

หากต้องการภาพในเกมที่สวยงาม ความละเอียดสูงระดับ 2K (1440p) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากความลื่นไหลต่อเนื่องในขณะเล่นแล้ว ความสวยงามบนความละเอียดที่สูงกว่า Full-HD ก็เป็นสิ่งที่เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากมีตัวเลือกเป็นจอขนาดใหญ่ ความละเอียดที่สูง ก็ยิ่งเหมาะกับคอเกมที่ต้องการความสนุกสนาน เพราะนอกจากมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ชัดเจนขึ้น ลองนึกดูว่าคุณเล่นด้วยจอขนาด 32″ แต่คู่ต่อสู้ของคุณเล่นบนจอ 24″ บนความละเอียดที่เท่ากัน โอกาสย่อมเป็นของคุณในการที่จะเด็ดชีพศัตรูในจอได้ เนื่องจากเราจะเห็นภาพได้ใหญ่กว่า การจะยิงเข้าเป้า ก็จะมีมากกว่า และในความละเอียดที่สูง ก็ทำให้มองเห็นสมรภูมิรอบๆ ตัวได้มากกว่านั่นเอง หากเกมเมอร์เป็นคนช่างสังเกต ก็อาจจะเห็นศัตรูได้ไวกว่านั่นเอง

จากตัวอย่างภาพทางซ้ายมือ MSI OPTIX G32CQ4 ซึ่งเป็นจอภาพขนาด 32″ บนความละเอียด 1440p และทางด้านซ้ายเป็นจอ MSI OPTIX G27C4 เป็นจอภาพ 27″ ความละเอียด 1080p ซึ่งในแง่ของการเล่นเกมที่ต้องการรายละเอียด จอภาพขนาดใหญ่ที่ให้ความละเอียดสูงกว่า และมุมมองที่กว้างกว่า ย่อมสร้างความได้เปรียบในการเล่น รวมถึงการมองเห็นพื้นที่ รวมถึง Map บนหน้าจอ ที่มองได้ชัด และสังเกตการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีหากงบประมาณมีจำกัด ตัวเลือกอย่าง OPTIX G32C4 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะได้หน้าจอขนาด 32″ แต่ความละเอียดจะอยู่ที่ 1080p หรือ Full-HD เท่านั้น

จอคอม

เลือกจอคอมสำหรับการชมวีดีโอสตรีมมิ่ง

จอคอม

นอกจากการเลือกจอคอมเล่นเกมที่ดีสำหรับการเล่นเกมแล้ว การเลือกจอให้ตอบโจทย์ด้านความบันเทิง เช่น การชมภาพยนตร์จาก Netflix วีดีโอ Youtube หรือการชมผ่านทางสตรีมมิ่งแบบต่างๆ ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่คนจะซื้อจอส่วนใหญ่ต้องการ แต่การเลือกจอให้เหมาะกับการชมวีดีโอ ก็ต้องประกอบด้วยกันหลายอย่าง เช่น การเลือกหน้าจอขนาดใหญ่ 27″ หรือ 32″ เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน เพราะจะได้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นชัดขึ้น อย่างเช่น MSI OPTIX G32CQ4 ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 32″ และความละเอียดสูงถึง 1440p ที่ทำให้การชมภาพยนตร์สนุกสนานมากขึ้น หรือถ้างบประมาณมีจำกันตัวเลือกอย่าง และ OPTIX G32C4 เป็นจอภาพขนาด 32″ เช่นกัน แต่ความละเอียด 1080p ก็ให้คุณสนุกสนานได้ไม่น้อยเลย

จอคอม

นอกจากนี้การเลือกจอภาพที่มีความละเอียดสูง Full-HD หรือ 1080p ขึ้นไป เพื่อให้ได้รายละเอียดของภาพที่ชัดเจน และตอบสนองได้ดีกับคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่เริ่มขยับไปที่ความละเอียด 1440p หรือ 2160p 4K กันมากขึ้น ซึ่งจะให้อรรถรสในการรับชมที่ดีกว่าเดิม รวมถึง การตอบสนองที่รวดเร็ว โดยเฉพาะ Response time ที่สั้นและรวดเร็วในระดับ 1ms จะช่วยให้ภาพมีความนุ่มนวลต่อเนื่องมากขึ้น อย่างเช่น MSI OPTIX G32CQ4 และ OPTIX G27CQ4 กับความละเอียดระดับ 1440p หรือ 2K ก็ให้รายละเอียดได้มากขึ้น เหมาะกับการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงในปัจจุบัน

แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อความรู้สึกในการรับชมอยู่บ้าง แต่สำหรับบางคนอาจจะให้ความสำคัญไม่น้อยก็คือ ขอบของจอภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่การชมภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้งานอื่นๆ อีกด้วย ขอบจอภาพที่บาง จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการแสดงผลได้กว้างขึ้น อีกทั้งลดความรู้สึกอึดอัดจากความเทอะทะไปได้เยอะทีเดียว ตัวอย่างเช่น MSI OPTIX G32CQ4 มาพร้อมกับขอบจอที่บางเฉียบ เรียกว่าเกือบไร้ขอบ จึงให้พื้นที่ในการรับชมได้อย่างเต็มที่


เลือกจอคอมสำหรับท่องเว็บไซต์:

จอคอม
MSI OPTIX G32CQ4 (32″ 1440p) and MSI OPTIX G27C4 (27″ 1080p)

สำหรับนักท่องอินเทอร์เน็ต ชอบดูเว็บข่าวสาร ทำเอกสารออนไลน์ เล่นหุ้น หรือแม้จะดูสตรีมมิ่ง หน้าจอพื้นที่กว้าง สามารถเปิดดูได้หลายหน้าต่างพร้อมกัน ดูจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดี เพราะจะได้ประโยชน์ทั้งการแบ่งหน้าจอ หรือการเปิดใช้แท็ปบนเว็บเบราว์เซอร์ได้หลายๆ หน้า เรียกว่าชอบการดูเว็บไซต์ หรือใช้ทำงานอื่นๆ ได้พร้อมกันนั่นเอง ซึ่งหากเป็นจอภาพขนาดเล็ก แม้จะแบ่งหน้าต่างโปรแกรมออกได้เช่นกัน แต่หน้าต่างๆ แต่ละช่องนั้น ก็ดูเล็กเกินกว่าจะใช้ได้สะดวก ส่วนถ้าเป็นจอใหญ่ 27″ หรือ 32″ ก็จะมองเห็นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูวีดีโอยูทูป ไปพร้อมๆ กับการดูหุ้นหรือกราฟในการเทรดบิตคอยน์ หรือจะแบ่งอีกหน้าต่าง สำหรับการตามข่าวสารไปพร้อมๆ กัน ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนกว่านั่นเอง

จอคอม
MSI OPTIX G32CQ4 (32″ 1440p) and MSI OPTIX G27C4 (27″ 1080p)

แต่ถ้ามีงบประมาณมากพอ การเลือกจอขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูง ก็จะเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น นั่นหมายถึงคุณจะได้พื้นที่ในการแบ่งหน้าจอออก และใช้งานได้อย่างคล่องตัว จากตัวอย่างที่เราลองแบ่งหน้าจอออกเป็น 4 ส่วน เพื่อใช้งานเปิดหน้าเว็บไซต์ 2 ช่อง พร้อมกับเปิดวีดีโอยูทูป และดูกราฟเทรด Crypto currency ไปพร้อมๆ กัน จอภาพขนาด 32″ ให้พื้นที่ของภาพได้กว้างมากกว่าจอภาพแบบ 27″ สังเกตได้จากคอนเทนต์ในหน้าเว็บไซต์ รวมถึงตัวกราฟที่มีการแสดงผลต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง ซึ่งหากคุณมีงบประมาณไม่มากนัก ตัวเลือกที่เป็นหน้าจอขนาด 32″ 1080p อย่างเช่น MSI OPTIX G32C4 ก็เพียงพอต่อการใช้งาน หรือถ้าไม่ได้ซีเรียสมากนัก MSI OPTIX G27C4 ที่เป็นจอภาพ 27″ 1080p ก็เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีในราคาระดับหมื่นต้นๆ

จอคอม
MSI OPTIX G32CQ4 (32″ 1440p) and MSI OPTIX G27C4 (27″ 1080p)

ตัวอย่างเปรียบเทียบกันระหว่างจอแสดงผลขนาดใหญ่ MSI OPTIX 32CQ4 หน้าจอ 32″ ความละเอียด 1440p ให้พื้นที่ในการทำงานที่มากกว่า มองเห็นรายละเอียดได้เยอะขึ้น ซึ่งจากตัวอย่างจะเห็นเอกสาร PDF ได้เกือบเต็มหน้า โดยเป็นค่า Default ส่วนจอภาพขนาด 27″ 1080p ตามตัวอย่างนี้ จะเห็นถึงข้อมูลบนหน้าเอกสาร PDF file ได้ไม่เต็มหน้า จากตัวอย่างนี้ หากคุณเลือกหน้าจอใหญ่ ความละเอียดสูง ก็จะได้ประโยชน์ในการดูไฟล์บนหน้าจอได้ง่ายขึ้น รวมถึงใครที่ต้องทำงานข้อมูล เปรียบเทียบเอกสาร หรืองานด้านบัญชี ต้องใช้หน้าเอกสารยาวๆ หรือดู 2 ไฟล์เพื่อเปรียบเทียบกัน เป็นต้น


เลือกจอคอมสำหรับทำงาน:

จอคอม

ในกลุ่มนี้ จะมีทั้งแบบที่ใช้งานด้านเอกสารทั่วไป เช่นงานด้านคีย์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งจะใช้พื้นที่ในการทำงานผ่านซอฟต์แวร์ด้านการเงิน หรืออย่างน้อยๆ ก็จะเป็น Excel ที่อาจจะต้องการ Cell และ Column ในการคำนวณหรือใส่ข้อมูล เพื่อสร้างกราฟ สำหรับพรีเซนเทชั่นหรือรายงานสรุป หน้าจอขนาดใหญ่ดูจะตอบโจทย์ได้มากกว่า เพื่อให้การสร้างสรรค์งานทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ MSI OPTIX G32CQ4 หรือ MSI OPTIX G32C4 ที่เป็นจอภาพขนาด 32″

จอคอม

หรือในกลุ่มที่ใช้ด้านงานกราฟิก เช่น การแต่งภาพ หรือตัดต่อวีดีโอ นอกจากพื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ ก็อาจจะต้องการความละเอียดที่สูงขึ้น ซึ่งไม่เพียงแค่ 1080p หรือ Full-HD แต่ระดับ 2K ขึ้นไป ก็จะให้ความสะดวกได้มากกว่า เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ในการจัดวางเครื่องมือหรือ Tool ต่างๆ ของโปรแกรมได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังช่วยให้พื้นที่พรีวิว สำหรับการตัดต่อวีดีโอ เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ไม่กรณีที่ยังไม่มีงบประมาณซื้อจอคอมเพิ่มนั่นเอง ตัวอย่าง MSI OPTIX G32CQ4 หรือ MSI OPTIX G27C4Q ที่มาพร้อมความละเอียด 2K 1440p ซึ่งให้การทำงานสะดวกมากขึ้นกว่าจอทั่วไป

จอคอม
1440p (Left) and 1080p (Right)

จากตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของภาพ เมื่อซูมเข้าไปในภาพเดียวกัน ทางซ้ายมือ เป็นจอภาพ MSI OPTIX G32CQ4 ที่มีความละเอียด 1440p 2K ส่วนทางขวาจะเป็นจอภาพ OPTIX G27C4 ซึ่งเป็นจอ 1080p หรือ Full-HD จะเห็นว่าภาพด้านบนที่เป็นรูปคีย์บอร์ด พอให้เห็นความต่างในรายละเอียดอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะไม่ได้มีผลมากในการแค่พรีวิวภาพทั่วไป แต่จะมีต่อเมื่อต้องใช้เครื่องมือในการปรับแต่ง ที่จะทำให้การใช้เครื่องมือปรับแต่ง ส่วนด้านล่างที่เป็นภาพด้านหลังของการ์ดจอ จะสังเกตได้ว่า ตัวเลขที่ปรากฏอยู่ในภาพ เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ลูกศรในฝั่งของจอ 2K ที่มีความชัดเจนมากกว่าเล็กน้อยนั่นเอง

และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ขอบเขตสีหรือการแสดงผลบนหน้าจอ เพราะการทำงานเหล่านี้ ต้องอาศัยความแม่นยำของสี เพื่อช่วยให้ชิ้นงานมีความถูกต้องมากที่สุด แม้ว่าจอภาพพื้นฐานหรือจอเกมมิ่ง จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่จอเกมมิ่งบางรุ่นก็มีคุณสมบัติในแง่ของความแม่นยำสีมาด้วย อย่างน้อยก็เพียงพอต่อการทำงานด้านกราฟิก เช่น งานตัดต่อวีดีโอหรือตกแต่งภาพได้ดีพอสมควร โดยตัวอย่างจอภาพ MSI OPTIX G32C4 มาพร้อมค่า DCI-P3 ที่สูงถึง 95% และ SRGB 115% ก็เป็นตัวเลขที่มากพอ สำหรับคนที่ต้องการใช้ในการกราฟิกคุณภาพได้ดี เรียกว่าจอเดียวครบจบทุกงาน


จอเล่นเกมปี 2021 ต้องรีเฟรชเรตสูง

กลายเป็นเรื่องพื้นฐานไปแล้ว สำหรับจอเกมมิ่งในปัจจุบัน และยังเป็นสิ่งที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต สำหรับอัตรารีเฟรชเรตของจอภาพ เพราะคอเกมส่วนใหญ่ ไม่เพียงต้องการภาพที่สวยงาม หรือแค่มีเฟรมเรตในการเล่นเกมที่สูงเท่านั้น แต่จอคอมก็ต้องมีความสอดคล้องกันด้วย เนื่องจากค่ารีเฟรชเรตที่สูง ทำให้การเล่นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นุ่มนวล ลดอาการสะดุดหรือภาพฉีกขาด และเมื่อทำงานร่วมกับบรรดาเทคโนโลยี Adaptive Sync ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น G-Sync หรือ Free-Sync ก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันอัตรารีเฟรชเรตของจอเกมมิ่งทั่วไป อยู่ที่ 144Hz เป็นอย่างน้อย ซึ่งราคาค่อนข้างประหยัด ไปจนถึงระดับ 240MHz ซึ่งมักอยู่ในจอภาพระดับไฮเอนด์ และราคาย่อมสูงตามไปด้วย แต่ก็มีจอในกลุ่มรีเฟรชเรต 165Hz ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์เริ่มต้น และเริ่มเล่นเกมที่จริงจังมากขึ้น อีกทั้งราคาก็ไม่สูงเกินไปนัก ซึ่งจอคอมจาก MSI ทั้ง 4 รุ่นที่นำมาแนะนำกันในวันนี้ ก็ล้วนแต่มีรีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอเกมที่ต้องการความลื่นไหลในการเล่นเกมในปัจจุบัน

จอคอม

การเปรียบเทียบการเล่นเกมบนจอ Refresh Rate 165Hz และจอ 60Hz ทั่วไป สามารถเข้าไปชมในวีดีโอที่อยู่ด้านบนนี้ ในช่วงนาที 8:40น กันได้เลย ส่วนการทดสอบร่วมกับเกมต่างๆ ในช่วงที่มีอัตราเฟรมเรตที่สูงก็จะพอเห็นผลได้อย่างชัดเจน โดยภาพที่ได้จะมีความนุ่มนวลต่อเนื่องมากขึ้น และยิ่งทำงานร่วมกับเทคโนโลยี FreeSync หรือ FreeSync Premium บนจอภาพทั้ง 4 รุ่น เช่น MSI OPTIX G32CQ4 และ OPTIX G27C4 ก็จะเห็นได้ชัดว่า ลดปัญหาเรื่องของภาพขาด หรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนในขณะที่มีการเปลี่ยนฉากอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการทำงานที่สอดคล้องกันระหว่างเฟรมเรต และอัตรารีเฟรชเรตที่สูง ซึ่งส่งผลให้การเล่นเกมสนุกลื่นไหล ไม่เสียอารมณ์ อีกทั้งช่วยให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น เพราะการกระตุกน้อยลง ก็ทำให้ยิงได้แม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกม Battlefield V, PUBG หรือจะเป็นเกมแนว Racing อย่าง NFS ก็ตาม


อัตราตอบสนอง Response time

จอคอม

นอกเหนือจากเรื่องของอัตรารีเฟรชเรตที่สูง MSI OPTIX G32CQ4 และ OPTIX G27C4 ก็ยังมาพร้อมกับอัตราการตอบสนองที่สั้นเพียง 1ms เท่านั้น ด้วย Response time ระดับนี้ ทำให้ภาพที่ปรากฏในเกมมีความชัดเจน ลดอาการเบลอ เมื่อมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นโอกาสที่จะโจมตีศัตรูในขณะเคลื่อนที่ก็มีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในเกมสงครามอยู่ในสมรภูมิ ไม่ว่าจะเป็น Battlefield V, GTA V หรือจะเป็น PUBG ซึ่งเกมเหล่านี้จะมีตัวละคร และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นเองก็จะต้องจับสังเกตรอบข้างให้ได้ไว มิฉะนั้นก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อแทนที่จะเป็นผู้ล่าก็เป็นได้


จอโค้งหรือจอแบน?

จอคอม

ปัจจุบันจอโค้ง เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ในกลุ่มของเกมเมอร์และในด้านต่างๆ ยิ่งเป็นคนที่ต้องการจอภาพแบบตัวเดียวจบ ครบทุกการใช้งาน โดยที่สามารถมองเห็นภาพทั้งหมดได้เต็มตา แบบที่ไม่ต้องถอยหลังออกจากหน้าจอจนเสียอรรถรส โดยที่จอภาพ MSI OPTIX G32CQ4 และ OPTIX G27C4 ต่างมาพร้อมกับความโค้งในระดับ 1500R จัดเป็นความโค้งในระดับสายตา ที่โอบกระชับการมองได้ค่อนข้างพอดี เรียกว่าไม่โค้งเกินไป หรือว่าออกแนว Flat จนทำให้ต้องกวาดสายตามากขึ้น เมื่อใช้งานนานๆ และที่สำคัญให้คุณสามารถใช้จอภาพขนาดใหญ่ได้แบบไม่ต้องถอยห่างออกจากจอมากเกินไป

จอคอม

ซึ่งต่างจากจอภาพแบบ Flat ที่แม้ว่าจะมีข้อดีในหลายๆ ส่วน แต่ก็ต้องร่นระยะห่างออกจากจอภาพ กรณีที่คุณใช้จอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ขึ้นไป ดังนั้นแล้วการเลือกจอ Curved ก็จะช่วยให้คุณสนุกไปกับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูหนัง หรือจะใช้ทำงานเอกสารหรือตกแต่งภาพ โดยที่ไม่ต้องถอยห่างออกมามากจนเกินไป เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่

จอคอม

AMD FreeSync และ Anti-Flicker

จอคอม

บรรดาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงผลภาพ เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเล่นเกม ซึ่งจอเกมมิ่ง MSI OPTIX ทั้ง 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น MSI OPTIX G32CQ4, OPTIX G32C4, OPTIX G27CQ4 และ MSI OPTIX G27C4 ล้วนมาพร้อมกับเทคโนโลยี AMD FreeSync และ FreeSync Premium ที่จะทำให้ภาพที่มีความลื่นไหล เล่นไม่สะดุด โดยจะอยู่ในจอที่มีรีเฟรชเรตสูงกว่า 120Hz ขึ้นไป หากคุณเปิดใช้งาน FreeSync จะเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน สิ่งแรกคือ เรื่องของภาพขาดจะหายไป เพราะการเรนเดอร์ภาพ ถูกปรับให้สัมพันธ์กันกับการแสดงผลบนหน้าจอ ภาพที่ออกมาจึงดูต่อเนื่องและนุ่มนวลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมที่มีเอฟเฟกต์ค่อนข้างเยอะ จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน เพราะมีการเคลื่อนไหวภายในฉากค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเกม FPS, RTS หรือเกมแนวอื่นๆ ก็ตาม นอกจากนี้ จอภาพ MSI ยังมี Anti-Flicker ที่ช่วยลดการกระพริบของหน้าจอ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เล่นเกม และท่องเว็บ หรือใช้หน้าจอนานๆ ซึ่งจะไม่ต้องเจอกับความเมื่อยล้า เพราะอาการกระพริบ เมื่อใช้งานหน้าจอในโหมดต่างๆ นั่นเอง


Low Blue Light

จอคอม

และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะเป็นจอเกมมิ่ง แต่ก็ควรต้องมีฟีเจอร์ที่ช่วยถนอมดวงตาผู้ใช้ โดยเฉพาะกับคนที่ใช้คอมเป็นเวลานานๆ ซึ่งจอภาพจาก MSI ทั้ง OPTIX G32CQ4 และ OPTIX G27C4 ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เรียกว่า Low Blue Light ซึ่งช่วยลดแสงสีฟ้า ที่จะรบกวนสายตา และทำให้เมื่อยล้าเมื่อใช้งานไปนานๆ ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ชอบการท่องเว็บหรือทำงานเอกสารบนหน้าจอเป็นเวลานานนั่นเอง นอกเหนือจากการเล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานอื่นๆ


การปรับแต่งที่ง่าย

จอเกมมิ่งจาก MSI ทั้ง 4 รุ่นนี้ให้การปรับแต่งด้วย OSD settings บนหน้าจอ เป็นรูปแบบที่ง่าย และมีตัวเลือกค่อนข้างละเอียด การปรับแต่งด้วยการใช้นิ้วเดียวในการกดปุ่มนั้น โดยส่วนตัวถือว่าสะดวกกว่าการมีปุ่มกดหลายๆ ปุ่มมาให้ เพราะเราต้องปรับจูน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว โดยที่หัวข้อ จะมีด้วยกัน 6 หัวข้อ ประกอบด้วย Gaming, Professional, Image, Input Source, Navi Key และ Settings โดยหัวข้อในการปรับแต่งสำคัญๆ สำหรับคอเกม จะอยู่ที่ Gaming เพราะจะเป็นตัวกำหนดตามรูปแบบของเกม และฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การเลือกโหมดเกม FPS, RTS, Racing หรือ RPG เป็นต้น

ส่วนถัดมาก็จะเป็นเรื่องของ Night Vision, GDCR และการปรับค่า Image ในการเลือกเพิ่มหรือลด Brightness, Contrast, Sharpness และ Color Temperature เป็นต้น โดยรวมต้องถือว่า MSI ก็เตรียมฟังก์ชั่นมาให้มาแบบไม่มากไม่น้อย แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่ต้องไปปรับตัวมาก กด เลื่อน กด แค่นี้เท่านั้น


MSI OPTIX G32CQ4 จอเกมมิ่ง ฟังก์ชั่นครบ จบทุกความบันเทิง

จอคอม

เรียกว่าเป็นจอคอมไซส์บิ๊ก ที่ออกแบบมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ MSI OPTIX G32CQ4 ไม่เพียงแค่พื้นที่หน้าจอ 32″ และ Resolution 2560 x 1440 QHD ในแบบ 2K เท่านั้น แต่ยังเสริมฟีเจอร์ต่างๆ มาให้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพาแนล VA ที่มีมุมมองกว้าง อัตรารีเฟรชเรตเอาใจคอเกม 165Hz รวมถึง Response time 1ms เท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium บนหน้าจอแบบ Curved 1500R ที่โอบกระชับสายตา ให้คอเกมได้นั่งเล่นแบบสบายๆ ไม่ต้องถอยหลังออกจากหน้าจอไปมากนัก รวมถึงยังปรับตั้งค่า OSD ได้แบบง่ายๆ ผ่านทาง 5-Way Navigation ที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับฟังก์ชั่นสำหรับคอเกมที่มีอยู่มากมาย ให้ได้เล่นกันอย่างสนุก เช่น Night Vision หรือจะเป็น Screen Assistant เป็นต้น สนนราคาอยู่ที่ 16,900 บาท

สำหรับดีไซน์คงต้องบอกว่า แม้จะเป็นจอคอมขนาด 32″ แต่ทาง MSI ก็ออกแบบมาได้ค่อนข้างกระทัดรัด ส่วนหนึ่งเพราะตัวบอดี้ออกแบบให้มีความบางพอสมควร ตั้งแต่ขอบจอด้านหน้า และมิติด้านข้าง ที่โค้งเรียวไปกับตัวจอ จึงไม่ได้รู้สึกว่าหนักจนเดินไป ตัวจอรวมขาตั้งหนักราว 6.4Kg. เท่านั้น

จอคอม

ฐานเป็นแบบตัว Y ขนาดใหญ่ กางออกไปได้กว้าง ซึ่งดูแล้วให้สมดุลในการรับน้ำหนักของตัวจอขนาด 32″ ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ตัวฐานไม่สามารถหมุนซ้าย-ขวาได้เท่านั้น และขาตั้งจะเป็นโลหะขนาดใหญ่ รูปทรงสามเหลี่ยม สูงขึ้นไปราว 30cm โดยตัวจอจะรองรับการปรับแค่มุมก้ม เงย(Tilting) เท่านั้น

จอคอม

ด้านหลังจะเป็นปุ่ม 5-Way Navigation Joystick ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ด้วยการใช้นิ้วเดียวในการกดปุ่ม โดยที่หัวข้อ จะมีด้วยกัน 6 หัวข้อ ประกอบด้วย Gaming, Professional, Image, Input Source, Navi Key และ Settings โดยหัวข้อในการปรับแต่งสำคัญๆ สำหรับคอเกม จะอยู่ที่ Gaming เพราะจะเป็นตัวกำหนดตามรูปแบบของเกม และฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การเลือกโหมดเกม FPS, RTS, Racing หรือ RPG

ตรงกลางด้านหลังของตัวจอ จะมีโลโก้ MSI ที่เป็นรูปมังกรแดง แต่ไม่ได้มีแสงสีอะไรให้ดูหวือหวา เพราะไม่ได้มาพร้อมลูกเล่นที่เป็นฟีเจอร์ RGB แต่ก็ถือว่าออกแบบมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว

จอคอม

พอร์ตต่อพ่วงบนจอรุ่นนี้ ประกอบด้วย DC-In, Display port 1.2a และ HDMI 2.0 จำนวน 2 พอร์ต และ Audio-out

จอคอม
จอคอม

สิ่งที่ทำให้จอเกมมิ่งจาก MSI รุ่นนี้ดูสวยสะดุดตา ก็คือ ขอบจอที่บางพิเศษ เรียกว่าแทบจะไร้ขอบ เพื่อให้พื้นที่การแสดงผลมีมากขึ้น ซึ่งดูแล้วสบายตา ไม่มีขอบภาพมารบกวนมากนัก เมื่อเปิดเล่นเกมหรือดูหนังในโหมด Borderless นั่นเอง จากตัวอย่างกับการเล่นเกม DOTA2 จะเห็นได้ว่ามีขอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากจะเอาใจคนที่ดูหนัง เล่นเกม ได้ดีแล้ว ใครที่คิดจะใช้ต่อจอแบบมัลติมอนิเตอร์ ก็น่าจะชื่นชอบไม่น้อยเลยทีเดียว

จอคอม

มาถึงการทดสอบเล่นเกมกันบ้าง คงต้องบอกว่าจอภาพขนาด 32″ บนความละเอียด 1440p หรือ 2K นี้ สามารถสร้างแรงดึงดูดให้กับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเกม Action หรือแนว Racing เพราะทำให้เห็นรายละเอียดในหลายสิ่ง ที่จะไม่ได้พบในจอภาพขนาดเล็ก ซึ่งหากคุณเคยใช้จอคอม 22″ – 24″ มาก่อน คุณจะพบกับสัมผัสใหม่ที่ต่างออกไป ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือ ตัวละครที่คุณเล่น จะใหญ่ขึ้นอย่างผิดหูผิดตา รายละเอียดบนเสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงบนฝาผนังและของที่ตกบนพื้น ก็จะเห็นมันได้แบบง่ายๆ รวมถึงบรรดาแผนที่ที่ปรากฏบนตัวเกม ก็จะใหญ่มองเห็นตำแหน่งของคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และที่สำคัญ เป็นความรู้สึกส่วนตัวก็คือ การเล่นที่ดีขึ้น เพราะได้สังเกตอะไรที่อยู่รอบๆ ตัวได้ง่าย เมื่อมีการเคลื่อนไหวเข้ามาในระยะ ต่างจากในช่วงที่เล่นจอเล็กๆ ได้อย่างชัดเจน

แต่คงไม่ใช่แค่เรื่องของขนาดหน้าจอเท่านั้นที่เปลี่ยนไป MSI OPTIX G32CQ4 ยังมาพร้อมรีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz และการตอบสนองที่ 1ms เท่านั้น ซึ่งสองสิ่งนี้เข้าคู่กับการทำงานของพาแนล VA บนจอรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี กับสีสันที่สดใสและความไวของภาพ ที่มีความต่อเนื่อง ยิ่งทำงานคู่กับเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium ด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าจะยิ่งใช้เวลาในการเล่นที่ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยความต่อเนื่องและลื่นไหล เรียกว่าไม่ยอมจบแมทช์กันแบบง่ายๆ

จอคอม

เช่นเดียวกับการชมภาพยนตร์หรือใครที่เป็นสายสตรีมมิ่ง ชอบดูหนังวีดีโอผ่านทางจอคอม โดยที่ MSI OPTIX G32CQ4 มีให้ครบ จบในตัวกับภาพที่สวย สีสันสดใสจากพาแนล VA มุมมองที่กว้าง ให้ความคมชัด กับการปรับแต่งโหมด Cinema บน OSD settings เพื่อให้ภาพสีสันที่สมจริง และมีความต่อเนื่อง ด้วย Response Time 1ms และในส่วนของ Anti-Flicker ทำให้ดูภาพได้ต่อเนื่อง ไม่กระพริบจนปวดตา เหมาะอย่างยิ่งทั้งคนที่ชอบดูหนังนานๆ และการท่องเน็ตในทุกๆ วัน

จอคอม

กับรายละเอียดของภาพในระดับ 2K 1440p ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เยอะขึ้น และทำให้มองเห็นรายละเอียดภายในภาพได้อย่างสมจริง จากในตัวอย่างที่เป็นล้อรถ ที่เราจะเห็นรายละเอียดต่างๆ จากระยะที่ห่างออกไปได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงน็อตล้อและข้อมูลของล้อที่อยู่ตรงกลางได้อีกด้วย ซึ่งจะรวมถึงการใช้งานในงานตกแต่งภาพ และการตัดต่อวีดีโอ ที่คุณจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่กลุ่มผู้ใช้งานด้านกราฟิกจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ก็คือ ขอบเขตสีที่กว้าง Wide Color Gamut ในระดับ 91.43% DCI-P3 และ 114.8% sRGB ช่วยเพิ่มความแม่นยำสีให้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี

จอคอม

มาถึงการใช้งานสำหรับนักท่องเว็บ สตรีมมิ่งกันบ้าง กับหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 32″ และความละเอียด 1440p เช่นนี้ ย่อมตอบโจทย์คนที่ชอบพื้นที่ใหญ่ๆ เอาไว้ทำงานหรือจัดการเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก เพราะจะมีพื้นที่แสดงผลกว้างมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ได้ ไม่เพียงการดูภาพหรือตัวอักษรที่ดูใหญ่ มองเห็นได้ชัดเท่านั้น แต่ยังทำให้เรา Scroll mouse น้อยลง เพราะคอนเทนต์ที่อยู่บนหน้าจอมีมากขึ้น ตัวอย่าง เช่น การดูรายละเอียดของสินค้า ก็ดูได้เยอะ และเปรียบเทียบได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งหน้าจอ เพื่อทำการเปรียบเทียบสินค้าและข้อมูลได้สะดวกนั่นเอง

จอคอม

ส่วนใครที่ใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง หรือชอบเปิดหลายๆ หน้าต่างพร้อมกัน ยิ่งจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้มากขึ้น เพราะผู้ใช้สามารถแบ่งหน้าต่างการแสดงผลออกได้และเห็นได้ชัดเจนอีกด้วย ไม่ว่าจะใช้ในการดูหนัง ดูเว็บไซต์หรือการเทรด Crypto Currency ก็สามารถตรวจเช็คและเห็นได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะเล็กกว่า ก็ทำได้เช่นกัน แต่เรื่องของการมองเห็นจอใหญ่ ย่อมมองได้ง่ายกว่า หรือจะแบ่งครึ่งจอสำหรับการทำงานเอกสารก็ยังสะดวก


MSI OPTIX G27C4 จอเกมมิ่ง สีสดใส ลื่นไหล เพื่อคอเกมมือใหม่

จอคอม

มาถึงจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่งจาก MSI ในรุ่น OPTIX G27C4 ที่มาโชว์ความสวยงามให้กับเกมเมอร์ได้สัมผัสกันในราคาเบาๆ ซึ่งในซีรีส์นี้ จะมีด้วยกัน 2 รุ่น OPTIX G27CQ4 และรุ่นที่รีวิวอยู่นี้จะเป็น OPTIX G27C4 ที่เป็นภาพขนาด 27″ รีเฟรชเรต 165Hz รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน แต่ต่างกันตรง ความละเอียดในการแสดงผล โดยที่ G27C4 ความละเอียด 1080p หรือ Full-HD ส่วน G27CQ4 จะเป็น 1440p หรือ 2K นั่นเอง ซึ่งก็เหมาะกับความต้องการที่ต่างกันออกไป โดยในรุ่นที่เป็น Full-HD นี้ ก็เหมาะกับเกมเมอร์มือใหม่ หรือเตรียมจะเทิร์นโปร เข้าสู่การเล่นในกลุ่มของ E-Sport เพราะด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกม และใช้งานในด้านอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่

จอคอม

พาแนลของจอ OPTIX G27C4 รุ่นนี้ เป็นแบบ VA ที่ให้สีสันสดใส ตอบสนองได้ไว และมุมมองที่กว้าง สังเกตได้จากอัตรารีเฟรชเรตที่ได้มาสูงถึง 165Hz และค่า Response Time 1ms เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับการใช้งานและการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง

การออกแบบต้องถือว่าถอดแบบมาจากรุ่นพี่อย่าง OPTIX G32CQ4 ที่รีวิวไปในด้านบน ไม่ว่าจะเป็นขอบจอที่บาง หน้าจอเป็นแบบ Curved 1500R ที่สอดรับกับสายตาผู้ใช้ได้อย่างลงตัว ฐานของจอที่เป็นแบบ Y รับกับหน้าจอขนาด 27″ ได้อย่างสบายๆ น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 5.4Kg เท่านั้น

จอคอม

มาดูด้านหลังกันบ้าง ยังคงตามรูปแบบของรุ่นพี่มาเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเทาดำ มีโลโก้ MSI ตรงกลาง และปุ่มคอนโทรลในแบบ 5-Way Navigation ซึ่งควบคุมการทำงานได้ง่ายมากๆ เพราะใช้แค่นิ้วเดียวในการกด ดัน เลื่อน ประมาณนี้ โดยมีฟีเจอร์ในส่วนของ OSD settings ตามในซีรีส์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Game Mode สีหรือฟังก์ชั่นสำหรับการเล่นเกมเป็นต้น

จอคอม

โดยจอคอม OPTIX G27C4 มาพร้อมเมาท์แบบ 100 x 100 และขาตั้งแบบสามเหลี่ยม ในส่วนของการปรับเลื่อน มีให้เพียงมุมก้ม เงยที่ระดับ -5 – 20 องศาเท่านั้น ไม่สามารถปรับเลื่อนขึ้นลง หรือหมุนซ้ายขวาได้ พอร์ตต่อพ่วงประกอบด้วย 1x DP (1.2a) และ 2x HDMI (1.4b)

จอคอม

มาที่การเล่นเกม ก็เรียกว่าแม้จะเป็นรุ่นน้อง แต่ในเรื่องความสวยงาม ยังคงตอบโจทย์ได้อย่างเต็มที่ ทั้งในแง่ของสีสัน ที่ดูสดใส ให้ภาพที่มีความต่อเนื่องได้ดี โดยเฉพาะในเกม Action FPS ต่างๆ กับรีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz ทำให้ภาพที่ได้มีความลื่นไหล เมื่อเปิดการทำงานของ AMD FreeSync ก็ยิ่งทำให้ความไหลลื่นได้ต่อเนื่อง ลดอาการภาพฉีกขาดได้อย่างชัดเจน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สเปคแรงๆ ก็ยังเล่นได้ภาพที่สวยงาม ซึ่งจากการทดสอบในหลายๆ เกม เช่น Death Stranding หรือ Battlefield V รวมไปถึง PUBG และ Horizon Zero Dawn ก็บอกได้เลยว่ามีความไหลลื่นน่าสนใจไม่น้อยเลย

จอคอม

ในด้านของการเล่นวีดีโอ และการทำงานในด้านกราฟิกและวีดีโอ ก็ยังเต็มตาเต็มอารมณ์สำหรับคนที่ชอบความบันเทิง โดยเฉพาะการแสดงผลบนหน้าจอที่เรียกว่าแทบจะไร้ขอบ ทำให้พื้นที่การดูภาพทำได้เต็มที่มากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ใช้งานแบบจอเดียวจบ ทำงาน เล่นเกม และมัลติมีเดีย แต่ความเป็นจอภาพ 27″ ก็ทำให้ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานไปได้เยอะ และที่สำคัญเป็นจอโค้งที่โอบกระชับสายตา 1500R จึงทำให้ไม่ต้องถอยห่างออกจากจอ แต่ก็มองเห็นได้แบบครบทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือท่องเว็บก็ตาม

จอคอม

มาว่ากันที่การดูเว็บไซต์ สำหรับใครที่ชอบท่องอินเทอร์เน็ต หรือเน้นดูข้อมูลออนไลน์เป็นหลัก กับหน้าจอขนาด 27″ อาจจะดูเล็กกว่า 32″ อยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามองถึงการใช้งานบนเว็บไซต์ หลายคนอาจจะมองว่ากำลังพอเหมาะ เพราะสามารถมองเห็นข้อมูลปริมาณมากๆ หรือรองรับการเปิดเว็บไซต์หลายๆ แท็ปได้อย่างสะดวกอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่นการพรีวิวเอกสารในโหมดปกติ 100% ก็ยังเห็นได้เกือบครบทั้งหน้า ส่วนถ้าต้องการดูข้อมูลที่ละเอียดขึ้น ก็ยังให้ความคมชัดสูง แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับ Source หรือข้อมูลต้นทาง ว่าจะมีความละเอียดมากน้อยเพียงใด

จอคอม

แต่สิ่งที่สำคัญและดูจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ใช้งานแบบหลายแท็ป เปิดหลายหน้า รวมถึงการแบ่งหน้าจอเดสก์ทอป เพื่อใช้งานในแบบมัลติทาส์ก เราทดสอบแบบคนอ่านข้อมูลบนเว็บไซต์ เปิดดูยูทูปแ ละเช็คราคาของ Crypto Currency แม้ว่าจะค่อนข้างแน่นหนาไปบ้าง บางส่วนอาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจน รวมถึงการที่จะพรีวิวดูตัวอย่างของวีดีโอจะไม่ครบถ้วน หรือมองเห็นได้อย่างเต็มที่นัก แต่เมื่อลองปรับย่อขยายในแต่ละหน้าให้เหมาะสม ก็ถือว่าใช้งานได้อย่างไม่อึดอัดนัก ก็เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานได้กับการใช้งานในชีวิตประจำวันเหล่านี้

จอคอม
จอคอม

ส่วนใครที่จะใช้ในด้านของการตกแต่งภาพหรืองานด้าน Video Editing สำหรับ OPTIX G27C4 รุ่นนี้ อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า นอกจากหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ทำให้เปิดใช้งานและจัดสรรเครื่องมือได้สะดวกขึ้น รวมถึงพรีวิวภาพเห็นได้ชัดเจน ก็ยังมาพร้อมกับขอบเขตสี ที่กว้างในระดับหนึ่ง 90% DCI-P3 และ 115% sRGB ซึ่งช่วยให้การกำหนดค่าสีและใช้งานด้านกราฟิกได้ดีพอสมควร หลังจากทำการ Calibrate เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเทียบกับรุ่นพี่อย่าง OPTIX G32CQ4 ก็ถือว่าใกล้เคียงเลยทีเดียว หากคุณมีงบประมาณไม่มากนัก แต่ต้องการจอภาพที่ทำงานได้ครอบคลุม สำหรับการเล่นเกมและตกแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอในเบื้องต้น จอคอมจาก MSI รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

MSI G32CQ4 MSI G32C4 test 123 1

ตารางคุณสมบัติของจอ MSI OPTIX

MSI OPTIX G32CQ4 MSI OPTIX G32C4 MSI OPTIX G27CQ4 MSI OPTIX G27C4
PANEL SIZE 31.5″ 31.5″ 27″ 27″
RESOLUTION 2560 x 1440 1920 x 1080 2560 x 1440 1920 x 1080
REFRESH RATE 165Hz 165Hz 165Hz 165Hz
RESPONSE TIME 1ms (MPRT) 1ms 1ms (MPRT) 1ms
PANEL TYPE VA VA VA VA
BRIGHTNESS (NITS) 250 250 250 250
VIEWING ANGLE 178°/ 178° 178°/ 178° 178°/ 178° 178°/ 178°
CURVATURE 1500R 1500R 1500R 1500R
CONTRAST RATIO 3000:1 3000:1 3000:1 3000:1
ACTIVE DISPLAY AREA 697.344 (H) x 392.256 (V) 698.4(H) x 392.85(V) 596.736(H) x 335.664(V) 597.888(H) x 336.312(V)
PIXEL PITCH (H X V) 0.2724(H) x 0.2724(V) 0.36375(H) x 0.36375(V) 0.2331 (W) x 0. 2331 (H) 0.3114(H) x 0.3114(V)
SURFACE TREATMENT Anti-glare Anti-glare Anti-glare Anti-glare
DCI-P3 / SRGB 91.43% / 114.8% 95% / 120% 92% / 115% 90% / 115%
VIDEO PORTS 1x DP (1.2a), 2x HDMI (2.0) 1x DP (1.2a)
2x HDMI (1.4b)
1x DP (1.2a), 2x HDMI (2.0) 1x DP (1.2a)
2x HDMI (1.4b)
CONTROL 5-way OSD navigation joystick 5-way OSD navigation joystick 5-way OSD navigation joystick 5-way OSD navigation joystick
TECHNOLOGY FreeSync Premium FreeSync FreeSync FreeSync Premium
ADJUSTMENT (TILT) -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 20°
WEIGHT 6.4 kg 6.4 kg 5.4 kg 5.4 kg
Price 16,900 บาท 10,700 บาท 17,900 บาท 11,590 บาท

Conclusion

สรุปส่งท้าย สำหรับคนที่กำลังมองหาจอเกมมิ่ง ทำงานและความบันเทิง แบบจอเดียวครบจบในตัว อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะคุณจะต้องเสาะหาข้อดีให้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่หน้าจอ พาแนล รีเฟรชเรต เทคโนโลยี ไปจนถึงเรื่องของราคาที่สอดคล้องกับงบประมาณที่มี เพราะจอคอมมักจะอยู่ด้วยกันกับเรานาน เรียกว่าใช้กันตั้งแต่ทำความรู้จักใหม่ๆ ไปจนถึงเสียหรือจอเสื่อมกันไป ดังนั้นก็อาจจะต้องเลือกให้ตรงจริตกับคุณ แนะนำว่า หากเป็นการเล่นเกมและความบันเทิง ควรจะเลือกจอให้ใหญ่ และมีความละเอียดสูงเข้าไว้ เช่น 27″ หรือ 32″ ความละเอียดอย่างน้อยๆ 1080p หรือ Full-HD แต่ถ้ามีงบประมาณมากพอ การเลือกความละเอียด 2K หรือ 4K ก็น่าสนใจ เพราะจะเปิดโลกทัศน์ในการใช้งานของคุณได้มากขึ้น ตั้งแต่มองเห็นรายละเอียดได้ชัด การเล่นเกมก็จะเห็นภูมิประเทศหรือศัตรูได้ง่ายขึ้น หรือถ้าใช้ดูหนังชมภาพยนตร์ ก็จะเห็นรายละเอียดในภาพ อย่างที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนอย่างแน่นอน

ส่วนคนที่ใช้ทำงานทั่วไป งานเอกสาร หน้าจอใหญ่ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้การดูหน้าเอกสารได้ง่ายขึ้น และยังแบ่งหน้าจอสำหรับการทำโครงสร้างงานขนาดใหญ่ หรือจะแบ่งหน้าจอ ใช้สำหรับเปรียบเทียบงานเอกสารง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะลดเวลาในการทำงานของคุณไปได้มาก หรือถ้าใช้ในด้านการตกแต่งภาพหรือการทำวีดีโอ ก็จะมีพื้นที่ในการจัดวาง Tool และดูภาพพรีวิวได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง นอกเหนือจากนี้อาจจะเลือกจอที่มีขอบเขตสีที่กว้าง เพื่อให้ใช้งานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ในการเลือกใช้โทนสีหรือการปรับแต่งต่างๆ ด้วยการดูจากค่า DCI-P3 หรือ sRGB เป็นต้น

แต่ถ้าเวลานี้คุณยังนึกไม่ออก ว่าจะเลือกจอรุ่นใดดี MSI OPTIX ที่เรามาแนะนำกันในวันนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เริ่มกันตั้งแต่หน้าจอขนาด 27″ 165Hz ความละเอียด 1080p ราคา 11,590 บาท ไปจนถึงจอภาพขนาด 32″ 165Hz บนความละเอียด 1440p หรือ 2K ที่ราคา 16,900 บาท สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการของคุณ


Price

MSI OPTIX G32CQ4 ราคา 16,900 บาท

https://msi.gm/3tLp00E

MSI OPTIX G32C4 ราคา 10,700 บาท

https://msi.gm/32FLC6E

MSI OPTIX G27CQ4 ราคา 17,900 บาท

https://msi.gm/3v9sTN9

MSI OPTIX G27C4 ราคา 11,590 บาท

https://msi.gm/3sFTpfw

จอมอนิเตอร์รับประกัน 3 ปีเต็ม
MSI Call Center 02 409 2984

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่ : 

https://msi.gm/3v8NzF5

MSI Shout Out รับของสมนาคุณพิเศษ เมื่อแชร์ประสบการณ์ดีๆ จากการใช้สินค้า MSI https://msi.gm/3v9YSwS

ติดตามโปรโมชั่นได้ที่ : 

https://msi.gm/3xesIBX


FAQ

เรื่องน่ารู้ ก่อนเลือกจอคอมพิวเตอร์ 4K หรือ HDR

ในการเลือกจอคอมพิวเตอร์มาใช้งานในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นสองสิ่งหลัก ๆ นั่นคือการเลือกจอที่มีเทคโนโลยีช่วยถนอมสายตา เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานหน้าจอทั้งวัน หรือไม่ก็เลือกจอคอม 4K ที่ให้ภาพสวย ความละเอียดสูงระดับ 4K หรือ 8K ตามเทรนด์ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดสมจริงในทุกรายละเอียด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยในการเลือกซื้อจอคอมที่เหมาะกับแต่ละท่าน

ความละเอียดภาพระดับ FHD 4K 8K

สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดความสามารถของจอที่มองเห็นได้ชัดที่สุดก็คือตัวเลขของความละเอียดหน้าจอคอมพิวเตอร์ในแบบ จำนวนพิกเซลในแนวนอน x จำนวนพิกเซลในแนวตั้ง โดยตัวอย่างของความละเอียดที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ก็เช่น

  • 1920 x 1080 หรือที่เรียกว่าระดับ Full HD (FHD) มีจำนวนพิกเซลทั้งหมด 2,073,600 พิกเซล
  • 3840 x 2160 หรือที่เรียกว่าระดับ 4K มีจำนวนพิกเซลทั้งหมด 8,294,400 พิกเซล มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าระดับ UHD
  • 7680 x 4320 หรือที่เรียกว่าระดับ 8K มีจำนวนพิกเซลทั้งหมด 33,177,600 พิกเซล

ซึ่งถ้าเทียบที่หน้าจอขนาดเท่ากัน เช่น หน้าจอ 50 นิ้ว หน้าจอที่มีความละเอียดสูงกว่า จะให้ภาพที่ดูสวยงาม ส่วนโค้ง ลายเส้นต่าง ๆ คมชัดกว่า เนื่องจากเม็ดพิกเซลจะมีขนาดเล็กและเรียงติดกันจนมีความหนาแน่นของพิกเซลสูง ทำให้การแสดงรอยหยักต่าง ๆ ดูเนียนตากว่า หากจะให้เห็นภาพง่าย ๆ

จอขนาดเดียวกัน แต่มีความละเอียดสูงกว่า (ความหนาแน่นของพิกเซลมากกว่า) ทำให้ได้ภาพที่ดูละเอียดกว่า โดยเฉพาะตรงรอยหยักของส่วนโค้ง ดังนั้น จอที่มีความละเอียดสูงกว่า ก็ย่อมให้ภาพที่ดีกว่า สวยงามกว่า แต่อย่างไรก็ตาม จอที่มีความละเอียดสูงกว่า ก็ย่อมใช้พลังการประมวลผลของฮาร์ดแวร์อย่างการ์ดจอที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน แม้ว่าฮาร์ดแวร์ระดับท็อปสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานในปัจจุบันจะรองรับการแสดงผลระดับ 8K ได้แล้วก็ตาม แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าประสิทธิภาพ ความไหลลื่นที่ได้นั้น อาจจะยังไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับการแสดงผลที่ระดับ 4K และ FHD

การแสดงผลแบบ High Dynamic Range (HDR)

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการเลือกซื้อจอคอมของผู้บริโภค ก็คือความสามารถในการแสดงผลแบบ High Dynamic Range (HDR) ที่ให้ภาพดูสวยงามขึ้นกว่าหน้าจอที่มีการแสดงผลปกติ โดยเฉพาะในส่วนของภาพที่มีแสงสว่างจ้า กับส่วนที่มืดสุดของภาพ ซึ่งขีดจำกัดในส่วนของการแสดงผลทั้งสองสภาพแสงนี้ จะใช้ชื่อเรียกว่า Dynamic Range ครับ ยิ่งจอที่มีคุณภาพสูง ก็จะมาพร้อมกับ Dynamic Range ที่กว้าง ทำให้สามารถแสดงรายละเอียดของภาพในส่วนที่มืดสุดและสว่างสุดได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังให้ภาพที่มีสีสันสดใส สวยงามยิ่งขึ้น

ถ้าอยากจะเห็นความแตกต่างแบบชัด ๆ ก็ลองใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพย้อนแสงก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเข้าไปอีกครับ ถึงความแตกต่างของภาพที่ได้จากการถ่ายด้วยโหมด HDR กับภาพที่ปิดโหมด HDR ว่ารายละเอียดในแต่ละจุดของภาพเป็นอย่างไร

นอกเหนือจากความสามารถของจอในการรองรับการแสดงผลแบบ HDR แล้ว สื่อที่นำมาใช้ก็ต้องได้รับการบันทึกมาในมาตรฐาน HDR ด้วยเช่นกัน จึงจะสามารถแสดงผลแบบ HDR ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันทั้งภาพยนตร์และเกมต่างก็รองรับการแสดงผลบนจอ HDR มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว จึงทำให้การเลือกซื้อจอคอมที่รองรับ HDR กลายเป็นสิ่งที่หลาย ๆ ท่านให้ความสำคัญมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา

ซึ่งทั้งสองสิ่งที่กล่าวไปนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานในการพิจารณาเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์มาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว แต่พอมาเป็นในช่วงหลัง ๆ เราเริ่มเห็นแต่ละแบรนด์นำเสนอเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยในการถนอมสายตา โดยเฉพาะกลุ่มของจอสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ตัวอย่างของเทคโนโลยีก็เช่น Flicker Free และ เทคโนโลยีการตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เป็นต้น

from:https://notebookspec.com/web/587277-msi-gaming-monitor-2k-165hz