คลังเก็บป้ายกำกับ: ENTERPRISE_HYBRID_CLOUD

[ยังไม่เป็นทางการ] Cisco เตรียมปิดบริการ Intercloud Services (CIS) ภายในมีนาคม 2017 ผลักดัน Hybrid Cloud และ NFV แทน

The Register สำนักข่าวชื่อดังได้รับข่าวมาว่า Kip Compton แห่งฝ่าย Cloud Platform and Services ของ Cisco ได้ส่ง Email ถึงฝ่ายการตลาดและการสื่อสารถึงการเตรียมยกเลิกบริการ Cisco Intercloud Services (CIS) ภายในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่จะถึงนี้

ภายในเนื้อหาของ Email นั้นได้ระบุว่าทาง Cisco ต้องการที่จะจัดสรรทรัพยากรภายในองค์กรใหม่เพื่อดำเนินกลยุทธ์ทางด้าน Cloud โดยบริการ CIS Multi-tenant Hosting Platform นี้จะปิดตัวลงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2017 และจะย้ายลูกค้าผู้ใช้งานอยู่ไปยัง Platform อื่นแทนทั้งหมด

ทั้งนี้ทรัพยากรเดิมของทีม CIS นั้นจะถูกโยกย้ายเพื่อไปผลักดัน Enterprise Hybrid Cloud และ Service Provider Network Function Virtualization (SP NFV) แทน เนื่องจากการลงทุนใน CIS นั้นไม่ได้ช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันเท่ากับการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะทางเพื่อตอบโจทย์องค์กรและเหล่า Service Provider นั่นเอง

ไม่เพียงแต่ Cisco เท่านั้นที่ไม่ประสบความสำเร็จในการให้บริการ Public Cloud ด้วย OpenStack แต่ทาง RackSpace หรือ HPE เองต่างก็เคยผ่านความยากลำบากในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว ในขณะที่ตลาดของ OpenStack สำหรับใช้งานในฐานะของ Private Cloud สำหรับองค์กรนั้นดูจะสดใสไม่น้อยเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ประกาศนี้ยังไม่ใช่ประกาศสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการ ดังนั้นหลังจากนี้ก็ควรรอติดตามข่าวสารกันต่อไปก่อนครับ

ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/12/13/cisco_to_kill_its_intercloud_public_cloud_on_march_31st_2017/

from:https://www.techtalkthai.com/the-register-says-cisco-will-terminate-its-intercloud-services-to-push-enterprise-hybrid-cloud-and-nfv-instead/

5 ตัวอย่างของการใช้ Internet of Things จริงในธุรกิจระดับโลก

จากที่ Gartner เคยทำนายเอาไว้ว่าปี 2016 นี้จะเป็นปีของ Internet of Things (IoT) สำหรับการนำมาใช้งานในเชิงธุรกิจ ทาง VMware เองก็ต้องการร่วมผลักดันประเด็นนี้จึงได้รวบรวม 5 ตัวอย่างของการใช้ IoT จริงๆ ในธุรกิจมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำมาสรุปเอาไว้ดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. British Telecommunications (BT) กับการใช้ Sensor ตรวจวัดตำแหน่งของสาย Cable ที่มีปัญหา

BT ได้ใช้เทคโนโลยี Location Intelligence จาก Pitney Bowes เพื่อติดตามตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดปัญหาภายในระบบเครือข่ายและสาย Cable ในพื้นที่ให้บริการตามอาคารต่างๆ ของลูกค้า ทำให้การให้บริการด้านการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นทั้งในแง่ของการติดตั้งและการแก้ไขปัญหา

 

2. Siemens เปลี่ยนฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลมให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ

Siemens เป็นหนึ่งในผู้นำทางทางด้านเทคโนโลยีพลังงานลมของโลก และได้นำเทคโนโลยี RTI Messaging Software ร่วมกับ Sensor ต่างๆ เพื่อติดตามการทำงานของกังหันผลิตไฟฟ้านับหลายร้อยตัว และทำ Predictive Maintenance ล่วงหน้า พร้อมทั้งการปรับแต่งค่าการทำงานของกังหันให้เหมาะกับสภาพลมในแต่ละช่วงเวลา

 

3. UPS ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตามเส้นทางการเดินรถ

UPS ทำการติดตั้ง GPS Tracking และระบบ Sensor ตรวจวัดการทำงานของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อค้นหารูปแบบของเส้นทางการเดินรถที่สั้นที่สุดและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด โดยระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ของ UPS ก็ได้นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์และช่วยให้ UPS ประหยัดน้ำมันไปได้แล้ว 1.5 ล้านแกลลอนจากการเดินรถด้วยกัน 10,000 เส้นทาง และเตรียมจะขยายการวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพิ่มไปถึง 55,000 เส้นทางภายในปี 2017

 

4. Ochsner ใช้อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ผสานเข้ากับระบบข้อมูลผู้ป่วย

Ochsner Health System ได้ทำการผสานระบบ Electronic Health Record (EHR) ที่มีชื่อว่า Epic เข้ากับอุปกรณ์ Wearable และ IoT เพื่อช่วยให้ได้รับข้อมูลและสื่อสารกับผู้ป่วยได้มากขึ้น และปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้นได้จากการนำข้อมูลสุขภาพแบบ Real-time จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตามตัวผู้ป่วยเพื่อวัดค่าต่างๆ มาส่งต่อให้ระบบ Epic เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามข้อมูลทางสุขภาพได้โดยตลอด และสามารถวินิจัยอาการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

5. AT&T กับเทคโนโลยีการติดตามตู้ Container ด้วย IoT

สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีบริการขนตู้ Container นั้น ทาง AT&T ได้มีโซลูชั่น IoT และระบบเครือข่ายสำหรับติดตามตู้ Container และรถขนตู้ Container ได้แบบ Real-time เพื่อลดการฉ้อโกงลง, ติดตาม Inventory ได้แม่นยำ และบริหารจัดการการขนส่งได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

VMware กับการรุกเข้าตลาด IoT

ทางด้าน VMware เองก็ได้โฆษณาโซลูชั่นของตัวเองใน Blog ด้วย ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจมากเพราะผลิตภัณฑ์ฝั่ง EUC และ Data Analytics ของ VMware เองจะได้เข้ามามีบทบาทในตลาด IoT เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น AirWatch, vRealize Opearations หรือ vRealize Log Insight ที่สามารถใช้ควบคุม IoT Device, ติดตามการทำงาน และจัดเก็บพร้อมประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจาก IoT Device พร้อมๆ กัน ในขณะที่ VMware vCloud, vCloud Air, Federation Enterprise Hybrid Cloud เองนั้นก็จะมามีบทบาทในฐานะ Data Center สำหรับ IoT นั่นเอง

ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการนำ IoT มาใช้ในธุรกิจครับ ใครคิดจะทำอะไรสาย IoT ก็ลองรับไปพิจารณาเป็นแนวทางดูได้

ที่มา: http://blogs.vmware.com/euc/2016/03/5-examples-of-iot-in-business.html

from:https://www.techtalkthai.com/5-internet-of-things-in-businesses-examples/

IBM รุกตลาด Hybrid Cloud เมืองจีนด้วย IBM Bluemix Local

IBM ได้เปิดตัวโซลูชั่นระบบ Hybrid Cloud ภายในประเทศจีนโดยใช้เทคโนโลยีของ IBM Bluemix Local ที่สามารถทำให้ Public Cloud, Private Cloud และ On-premises สามารถทำงานร่วมกันได้เสมือนเป็นระบบเดียวกัน โดยประเทศจีนนี้มีสัดส่วนของนักพัฒนาถึง 10% เมื่อเทียบกับทั่วโลก และมีแนวโน้มที่การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ จะได้รับความสำคัญมากขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลจีน ที่ต้องการเร่งสร้างผู้ประกอบการและนวัตกรรมขึ้นมาแข่งขัน

ibm_bluemix_local_banner

ทั้งนี้ IBM ได้จับมือกับ 21Vianet ซึ่งเป็น Carrier-neutral Internet Data Center ในจีนเพื่อให้บริการ Bluemix ในประเทศจีนและเปิดโอกาสให้นักพัฒนาทั่วประเทศจีนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Hybrid Cloud, Next-generation Cognitive, Analytics และ Internet of Things (IoT) เพื่อสร้างสรรค์ Application ใหม่ๆ ทั้งสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กรได้ และยังจะทำให้องค์กรที่เป็นกลุ่มธนาคาร, สถาบันการเงิน และสาธารณสุขสามารถใช้ Hybrid Cloud ได้โดยยังคงสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้ โดย IBM Bluemix Local นั้นจะมีความสามารถดังต่อไปนี้

  • Relay Technology ทำให้ข้อมูลของทุกส่วนในระบบ Cloud ถูก Sync ให้เหมือนกันอยู่ตลอดเวลา
  • Write-once, Run-anywhere สามารถพัฒนา App ที่ส่วนใดของ Cloud ก็ได้ และใช้งาน App นั้นได้จากทุกที่ใน Cloud
  • มีระบบ Private Catalog และ API Management ทำให้องค์กรสามารถพัฒนา API ขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์และขายเป็นบริการได้
  • บริหารจัดการได้จากศูนย์กลางทั้งหมด

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/48188.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-launched-hybrid-cloud-solution-in-china-with-ibm-bluemix-local/

ผลการทดสอบชี้ VMware vCloud Air ประสิทธิภาพดีกว่า Amazon AWS และ Windows Azure

vmware_logo

VMware ได้ทำการทดสอบ Performance เปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Virtual Machine บนระบบ Cloud 3 ค่าย ได้แก่ VMware vCloud Air, Amazon AWS และ Microsoft Azure โดยเปรียบเทียบทั้ง VM ที่ใช้ 2vCPU และ 4vCPU ในสเป็คที่ใกล้เคียงกัน ดังนี้

vmware_vcloud_air_screen-shot-2015-08-20-at-1_22_05-PM

โดยการทดสอบ Linux VM ด้วย CPU SPEC benchmark ได้ผลลัพธ์ดังนี้

vmware_vcloud_air_specfp-results-1024x647

vmware_vcloud_air_specint-results-1024x648

ทั้งนี้ในการเปรียบเทียบทางด้านราคา จะเห็นได้ว่า VMware vCloud Air มีราคาสูงกว่าอีกสองค่ายเล็กน้อย แต่ก็สามารถปรับแต่งเพื่อลด Spec ส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น SSD ลงเหลือเท่าที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงได้

vmware_vcloud_air_screen-Shot-2015-08-20-at-1_21_56-PM

แต่เมื่อเปรียบเทียบว่าต้องการะบบที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน Cloud ของคู่แข่งรายอื่นๆ จะต้องใช้จำนวน VM ที่เยอะกว่าเพื่อให้มีประสิทธิภาพเท่ากัน และทำให้โดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายสูสีกันอยู่ดี

vmware_price-comp-corrected-1024x405

สำหรับจุดเด่นอื่นๆ ที่ VMware นำเสนอเพิ่มเติมมีดังนี้

  • เลือก Sizing ของ VM เองได้
  • คิดค่าใช้จ่ายเป็นระดับนาที
  • มี High Availability และ Live Migration มาให้เลย
  • รองรับ Workload ทุกรูปแบบที่เคยใช้กับระบบ On-premises

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนใช้งานพร้อมเครดิตฟรีๆ 300USD ได้ทันทีที่ http://vcloud.vmware.com/

แต่ทั้งนี้รายงานฉบับนี้เป็นผลการทดสอบจากทางฝั่ง VMware ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้ก็ควรหาข้อมูลเปรียบเทียบ หรือทดสอบจาก Credit ฟรีที่ผู้ผลิตแต่ละรายให้มาทำการทดสอบ

ที่มา: https://blogs.vmware.com/vcloud/2015/08/vmware-vcloud-air-outperforms-amazon-web-services-and-microsoft-azure.html

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-vcloud-air-test-result-is-faster-than-other-cloud/