คลังเก็บป้ายกำกับ: desktop

ขายไทยแล้ว… Intel เปิดตัว Core i9-13900KS ซีพียูเดสก์ท็อปที่เคลมว่าแรงที่สุดในโลก เร็วแตะ 6 GHz จากโรงงาน

จริง ๆ ไฮไลต์หลักคงไม่ใช่การเพิ่งเปิดตัว เพราะ Intel เผยสเปคเรียกน้ำย่อยมาตั้งแต่ ก.ย. ปีก่อนแล้ว (ตอนเปิดตัว Gen 13 Raptor Lake รหัส K) แต่วันนี้คือวันจำหน่ายครั้งแรกทั่วโลก ซึ่งในไทยเราเองก็ได้จับจองเป็นที่แรก ๆ ก่อนใครเหมือนกัน ในราคา 699 เหรียญ หรืออย่างเป็นทางการในไทย 27,900 บาท (Advice)

นอกจากการวางขายและราคา Intel ยังเผยสเปคหน้าเต็มของ Core i9-13900KS ตัวนี้ พร้อมการเดโม่ทดสอบออกมาเป็นคลิปจริงโดยทีมงานตัวเอง ยืนยันให้เห็นจะ ๆ เลยว่าประสิทธิภาพเจ้าตัวนี้คือได้ค่า clock แตะ 6 GHz จริง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในโลกที่ซีพียูเดสก์ท็อประดับพีซีคอนซูมเมอร์ทำได้ในระดับนี้ เผลอ ๆ หากเอาไป overclock ความเร็วเพิ่มอีกยังสามารถแตะหลัก 8 GHz ได้สบาย ๆ โดยที่ไม่ต้องมีลูกเล่นหล่อเย็นอะไรเยอะด้วย

ทวนสเปคกันอีกรอบสำหรับซีพียู Core i9-13900KS มี 24 Core (8P+16E) 32 Thread เทียบเท่าบน Core i9-13900K แต่ clock ต่อคอร์แรงกว่า 200 MHz (เดิม 5.8 GHz) มีค่า TDP หรืออัตราการใช้พลังงานพื้นฐาน 150W (เดิม 125W) พร้อมแคช 36MB ราคาก็กระโดดขึ้นจาก 589 เป็น 699 เหรียญ เรียกว่าแรงขึ้นสุด แพงสุด แต่ก็จบสุดทุกอย่างในตัวเลย (ระดับที่ 1 ของรุ่น)

 

 

 

ที่มา : Intel

from:https://droidsans.com/intel-core-i9-13900ks-6ghz-official/

หลุดวันเปิดตัว Intel Gen 13 Raptor Lake รหัส K 3 รุ่น | 28 กันยายนนี้ พร้อมขายจริง 17 ตุลาคม

แรปเตอร์บุกทีละ 3 ตัวแบบนี้นี่มันหลุดมาจากหนัง Jurassic World รึเปล่า บอกเลยว่าไม่ใช่ก็คงใกล้เคียงแล้ว เพราะข่าวลือเรื่องประสิทธิภาพของซีพียู Intel Gen 13 Raptor Lake รอบนี้ดูแรงไม่แพ้ความดุดันของไดโนเสาร์กันเลย ล่าสุดมีข่าววันเปิดตัวหลุดออกมาเรียบร้อยจากฝั่งจีนว่า Intel Gen 13 เตรียมจะเปิดตัวภายในอีก 2 เดือนข้างหน้าซึ่งตรงกับวันที่ 28 กันยายน 2022 นี้ และพร้อมขายจริง 17 ตุลาคมนี้เลย

leaker บน bilibili เจ้าเก่าอย่าง ECSM_Official เผยว่า Intel จะเปิดตัว Raptor Lake ชุดแรกเป็นซีพียูเดสก์ท็อปรหัส K ก่อน 3 รุ่น พร้อมบอร์ด Z790+ ในงาน Intel Innovation Day 2022 ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กันยายนอย่างที่กล่าวไป ส่วนรุ่นอื่นที่เหลือจะนำไปเปิดตัวในงาน CES 2023 ซึ่งก็คือช่วงหลังจากปีใหม่แทน

Intel Gen 13 Raptor Lake รหัส K ที่จะเปิดตัวก่อน 3 รุ่น

  • Core i9-13900K / KF | 8 P-Core + 16 E-Core, 32 Thread
  • Core i7-13700K / KF | 8 P-Core + 8 E-Core, 24 Thread
  • Core i5-13600K / KF | 6 P-Core + 8 E-Core, 20 Thread

Intel Gen 12 Alder Lake รหัส K ตัวเก่า

  • Core i9-12900K / KF | 8 P-Core + 8 E-Core, 24 Thread
  • Core i7-12700K / KF | 8 P-Core + 4 E-Core, 20 Thread
  • Core i5-12600K / KF | 6 P-Core + 4 E-Core, 16 Thread

การเปิดตัวของ Raptor Lake ครั้งนี้ถือว่าเร็วกว่าปกติมาก เพราะ Alder Lake ยังไม่ทันเปิดตัวครบปี รุ่นใหม่ก็รีบมาซะแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะเจนนี้เป็นรุ่นที่ต่อยอดความแรงเพิ่มขึ้นมาเฉย ๆ ไม่ใช่การอัปเกรดสถาปัตยกรรมใหญ่ (ยังใช้ Socket เดิมได้) จึงใช้เวลาพัฒนาไม่นาน แต่ตามข่าวลือเรื่องประสิทธิภาพต้องบอกว่ารุดหน้าไปไกลมาก สามารถทำคะแนนแรงทะลุตารางในปัจจุบันไปได้เกือบหมด เดี๋ยวมารอดูกันว่าของจริงออกมาจะเป็นตามนั้นรึเปล่า

 

 

 

ที่มา : Wccftech

from:https://droidsans.com/intel-13th-gen-raptor-lake-k-series-launch-date-rumors/

เอเซอร์ เปิดตัวโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป ผสานพลัง 12th Gen Intel® CoreTM อัดแน่น เติมเต็มทุกความต้องการด้วยพลังและประสิทธิภาพ

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อปมาพร้อมโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th Gen Intel® CoreTM  ครอบคลุมกลุ่ม Thin & Light ด้วย Acer Swift5, Swift3, Aspire3 กลุ่มเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก Predator Helios300, Nitro5 

และกลุ่มเกมมิ่งเดสก์ท็อปด้วย Orion, TC50 และออลอินวันพีซี Acer AIO ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานสำหรับผู้มองหาอุปกรณ์คู่ใจในทุกกลุ่ม

นายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันต้องการใช้งานเทคโนโลยีที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการทั้งในองค์กร ภาคการศึกษา ไปจนถึงการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ไปจนถึงสมรรถนะ ประสิทธิภาพในการใช้งานล้วนเป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทางของนวัตกรรม

ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีของเอเซอร์ร่วมกับสถาปัตยกรรมใหม่จากอินเทลด้วย 12th  Gen Intel® CoreTM  มาสู่ผลิตภํณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้งาน  

Thin & Light สะดวกทุกการใช้งาน เลือกใช้ในสไตล์ของคุณ

Acer Swift5

Acer

Acer Swift5 พรีเมียมโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมความเพรียวบาง ตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียมพรีเมียมเกรดอากาศยานคุณภาพสูงให้น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เคลือบอโนไดซ์ที่พื้นผิวให้ความทนทานป้องกันการสึกหรอ จอทัชสกรีนขนาด 14” WUXGA (1920×1200) IPS sRGB 100% อัตราการแสดงผล 16:10 มีให้เลือกทั้ง FHD และ QHD กระจก Antimicrobial Corning® Gorilla® Glass ช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย.

Acer Swift5 ขับเคลื่อนด้วยพลังประมวลผล 12™ Gen Intel® Core™ กราฟิก Iris® Xe มาตรฐาน Intel® EvoTM. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนเพื่อการใช้งานอย่างเต็มสมรรถนะ ด้วยท่อนำความร้อนทองแดงแบบคู่ ทำงานร่วมกับพัดลม TwinAir Cooling เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ

และ Air inlet keyboard design คีย์บอร์ดที่ออกแบบเพื่อเพิ่มความสามารถระบายความร้อนได้มากกว่าคีย์บอร์ดมาตรฐานถึง 10% สามารถควบคุมความเร็วของพัดลม เลือกโหมดความเย็นด้วยคีย์ลัด “Fn+F” ทัชแพด OceanGlassTM ผลิตจากขยะพลาสติกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้สัมผัสการทำงานที่ลื่นไหน

Acer Swift5 รองรับการเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วย Intel Wi-Fi 6E เพิ่มความสมาร์ทด้วยกล้อง FHD เทคโนโลยี TNR จากเอเซอร์ ที่ให้การเชื่อมต่อวิดีโอคุณภาพสูงแม้จะอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงน้อย รองรับเทคโนโลยี Acer PurifiedVoice™ ช่วยติดตามเสียงช่วยให้การสื่อสารผ่านไมโครโฟนชัดเจน พร้อมลดเสียงรบกวนด้วย AI Noise Reduction.

Acer Swift5 ให้พลังงานการใช้แบตเตอรี่สูงสุดถึง 10 ชม. พร้อมเทคโนโลยี Fast Charge ที่ใช้เวลาเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ชม. พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home 64-bit และ Microsoft Office Home & Student 2021 Acer Swift5 จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 45,990 – 49,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกัน 3 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และบริการ On-site Service 1 ปี

Acer Swift3

Acer Swift3 โน้ตบุ๊กดีไซน์บางเบา ผลิตจากแมกนีเซียมลิเทียม และแมกนีเซียมอลูมิเนียมที่ทำให้ Acer Swift3 มีน้ำหนักเพียง 1.25 กก. พกพาสะดวก

เต็มที่ทุกการใช้งานด้วยหน้าจอที่มีให้เลือกใช้ทั้ง QHD และ FHD ขนาด 14” ให้ภาพสว่างสดใส แม่นความแม่นยำด้วย sRGB 100% รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพลังประมวลผลล่าสุดจากอินเทล 12™ Gen Intel® Core™ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมัลติทาสกิ้ง

และยังได้รับมาตรฐาน Intel EvoTM ตอบโจทย์ประสบการณ์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เว็บแคม FHD MIPI เทคโนโลยี TNR (การลดสัญญาณรบกวนชั่วคราว) ของ Acer ให้ภาพคุณภาพสูงแม้ในสภาพแสงน้อย และด้วย Acer PurifiedVoice™ ที่ช่วยลดเสียงรบกวน และ DTS Audio ที่ให้เสียงคุณภาพสูงในการสนทนาทางวิดีโอ.

Acer Swift3 รองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วด้วย Intel Wi-Fi 6E ที่ทำให้การแชร์ไฟล์คุณภาพสูงและการสตรีม 4K เป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น USB Type-C, USB Type-A และ HDMI 2.1 ให้ทุกการทำงานราบรื่นด้วยนวัตกรรมเพิ่มการระบายความร้อนให้สูงสุดด้วยพัดลม Acer TwinAir ที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม Vortex Flow ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากถึง 75%.

Acer Swift3 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10.5 ชั่วโมง ความเร่งด่วนด้วยเทคโนโลยี Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 30 นาที สามารถใช้งานยาวนานถึง 4 ชม. พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home 64-bit และ Microsoft Office Home & Student 2021

Acer Swift3 จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 25,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมรับประกัน 2 ปี (ฟรีค่าแรงและอะไหล่)  

Acer Aspire3

Acer Aspire3 อีกหนึ่งซีรีย์โน้ตบุ๊กที่คุ้นเคย มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานได้จริง ผสานพลังการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมจากอินเทล 12™ Gen Intel® Core™ หน้าจอ FHD (1920×1080) คมชัด ให้สีสันสดใส ขอบจอบาง Narrow Bezel เพิ่มพื้นที่การรับชมได้มากขึ้น มีให้เลือกขนาด 14” และ 15.6” ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รวมถึงการสตรีมมิ่ง.

Acer Aspire3 มาพร้อมเทคโนโลยี Acer BlueLightShield ™ ลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตา รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 (802.11ac)  และ Bluetooth® 5.0 มาพร้อมพอร์ต HDMI, USB 3.2 Gen1, USB 2.0  พร้อมกล้องและไมโครโฟนที่เพิ่มประและระบบปฏิบิการ Windows 11 Home 64-bit. 

Acer Aspire3 ดีไซน์ใหม่มาพร้อมสีสันให้เลือกถึง 3 สี จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 16,990 – 23,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมรับประกัน 2 ปี (ฟรีค่าแรงและอะไหล่)  

Gaming Notebook & Desktop ดุดันในทุกสนาม

Predator Helios 300

Predator Helios 300 บุกทุกสนามการแข่งขันด้วยโน้ตบุ๊กทรงพลังกับประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่า Predator Helios 300 มาพร้อมขนาดหน้าจอที่มีให้เลือกทั้ง 15.6” และ 17.3”

อัดแน่นด้วยพลังประมวลผล 12™ Gen Intel® Core™ กราฟิก NVIDIA® GEFORCE RTX™ 30 Series ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่าและให้ความยืดหยุ่นในการทำงานมัลติทาสก์ได้อย่างราบรื่น และยังมี Ray Tracing Cores, Tensor Cores และ Streaming Multiprocessors ที่มอบความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แม่นยำ ให้ความคมชัด ลื่นไหล พร้อมรับทุกความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นในการเกมการแข่งขัน การสตรีม หรือการทำงานด้านต่างๆ

Predator Helios 300 มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง 5th Gen AeroBladeTM 3D Fan เทคโนโลยีพัดลม 3D 89 ใบพัด และ COOLBOOSTTM  ระบบควบคุมพัดลมอัตโนมัติ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost™ จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10%.

Predator Helios 300 รองรับ Intel® KillerTM Wi-Fi 6 AX และ Intel® KillerTM ขจัดปัญหาภาพสะดุด ให้ทุกการแข่งขันราบรื่นด้วยความหน่วงที่ลดลง Helios 300 สามารถปรับแต่งสี RGB ได้ตามต้องการด้วย PredatorSenseTM และ Pulsar Lighting ช่วยจัดการโอเวอร์คล็อก หรือปรับใช้ความเร็วพัดลมสูงสุด.

Predator Helios 300  ราคาเริ่มต้นที่ 59,990 – 79,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกัน 3 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และบริการ On-site Service

Acer Nitro 5

Acer Nitro 5 เกมมิ่งโน้ตบุ๊กสุดฮอตสำหรับคอเกมสายแคชชวลหรือนักแข่งจัดอันดับออนไลน์ กับหน้าจอ FHD ที่มีให้เลือก 2 ขนาด 15” และ 17” อัตรารีเฟรช 165Hz เวลาตอบสนอง 3ms มาพร้อมกับซีพียู 12™ Gen Intel® Core™ ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่าด้วยสถาปัตกรรมใหม่จากอินเทล กราฟิก NVIDIA® GEFORCE RTX™ 30 Series สถาปัตยกรรม 2nd Gen RTX Ampere จาก NVIDIA ให้กราฟิกเรย์เทรซที่สมจริง พื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ด้วยช่องสำหรับ Gen4 M.2 PCle และ DDR4 3200 RAM สูงสุดถึง 32GB

Acer Nitro 5 ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่าและความยืดหยุ่นในการทำงานมัลติทาสก์อย่างราบรื่น ด้วยการระบายความร้อนที่สมบูรณ์แบบ ทั้ง พัดลมระบายความร้อนคู่ ช่องอากาศเข้าด้านบนและด้านล่าง รวมถึงช่องระบายอากาศ 4 ช่อง เพิ่มการควบคุมพิเศษด้วยแอปยูทิลิตี NitroSense ควบคุมความเร็วของพัดลม, ไฟ, และอื่นๆ

เพิ่มอรรถรสของการเล่นเกมด้วยสีสันของคีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ควบคุมการทำงานภาพในของโน้ตบุ๊กผ่านปุ่ม NitroSense ไม่พลาดทุกการแข่งขันออนไลน์ด้วย Intel® KillerTM Wi-Fi 6 AX และ Intel® KillerTM ขจัดปัญหาภาพสะดุด ให้ทุกการแข่งขันราบรื่นด้วยความหน่วงที่ลดลง. Acer Nitro 5 ราคาเริ่มต้นที่ 31,990 – 59,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกัน 3 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และบริการ On-site Service

เดส์กท็อปสายพันธุ์แกร่ง ผสานสุดยอดความแรง

Predator Orion 5000

Predator Orion 5000 เกมมิ่งเดส์กท็อปพันธุ์แกร่ง ดีไซน์โฉบเฉี่ยว อัดแน่นด้วยพลังประมวลผล 12™ Gen Intel® Core™ และ GeForceRTXTM 3080 ให้สุดยอดประสิทธิภาพการรับชมเฟรมภาพสูง พัดลมระบายอากาศ Predator FrostBladeTM 2.0 ช่วยรักษาอุณหภูมิให้เย็นอยู่เสมอ

มาพร้อม ARGB พัดลมภายในที่แต่ละตัวมีไฟ LED แบบ ARGB แปดตัว เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ ลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนด้วยแบริ่งไรเฟิลแบบปิด  

ตัวเครื่องแบบในตกแต่งมาด้วยกระจกสีเข้ม พลาสติก โลหะและตาข่าย สีออบซิเดียน ตัวเครื่องได้รับแรงบันดาลใจจากสปาร์ตาของ Orion จะส่องประกายให้แสงจาก ARGB สามารถอัปเกรดได้ง่ายขึ้นด้วยดีไซน์แบบ DIY อัปเกรดเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

ฝาปิดด้านข้างตามมาตรฐาน EMI ช่วยปกป้องอุปกรณ์ภายในและสิ่งรบกวนจากภายนอก เข้าถึงพอร์ตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น USB Type-A, Type-C หรือช่องเสียบแจ็คระบบเสียงต่างๆ ได้โดยง่ายด้วยพอร์ตด้านบนตัวเครื่อง มันส์ ระทึกใจในทุกสนามอย่างไม่ขาดตอน ไร้ปัญหาความหน่วง ภาพสะดุดเมื่อมี Intel® Killer E3100G 2.5G Ethernet Controller, Intel® Wi-Fi 6E AX211 (Gig+)1 และ Control Center 2.0

Predator Orion 5000 ราคาเริ่มต้นที่ 51,990 – 87,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกัน 3 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และบริการ On-site Service

Acer Nitro N50

Acer Nitro N50 เกมมิ่งเดส์กท็อปสายแคชชวล ตัวเครื่องขนาด 18 ลิตร จัดวางมากับขุมพลังเพื่อการเล่นเกมที่ใช้อัตราเฟรมสูงและราบรื่น เปิดและเปลี่ยนการตั้งค่าเป็นการใช้งานขั้นสูงสุดด้วยพลังจากระบบประมวลผล 12th Gen Intel® Core™ i7 รุ่นล่าสุดและกราฟิก GeForce RTX™ 30 Series1 

ดีไซน์เครื่องดุดันด้วยการตัดกันของตัวเครื่องสีดำและไฟ LED สีแดง เพิ่มบรรยากาศการผจญภัย ด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมระบบระบายความร้อนที่ครอบคลุมออกแบบให้อากาศไหลเวียน รับมือได้ทุกงานมัลติเธรดเช่นการเรนเดอร์ 3D วิดีโอ Acer Nitro N50 มีช่องเสียบพอร์ตเชื่อมต่อด้านหน้าช่วยให้การเสียบชุดหูฟังหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นไปอย่างง่ายดาย ด้านบนตัวเครื่องรองรับการชาร์ตแบบไร้สาย.

Acer Nitro N50 ราคาเริ่มต้นที่ 32,990 – 39,990 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกัน 3 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และบริการ On-site Service

ครบเครื่องในหนึ่งเดียวด้วยคอมพิวเตอร์ออลอินวัน

All-in-one Aspire C Series

All-in-one Aspire C24 คอมพิวเตอร์ออลอินวันดีไซน์ประหยัดพื้นที่ เรียบหรูมีสไตล์ เหมาะสำหรับการเรียนออนไลน์ ทำงานจากที่บ้าน มาพร้อมหน่วยประมวลผลล่าสุด  12th Gen Intel® Core™ กราฟิก Nvidia MX5001 จอแสดงผลขนาด 24” Full HD IPS มอบภาพคมชัด พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตาอย่าง Acer BlueLightShield ลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตา

ขอบจอบางพิเศษสัดส่วน Screen-body-Raito 92% มุมมองกว้าง 178 องศา ประหยัดพื้นที่การทำงาน หน้าจอปรับองศาได้ตั้งแต่ -5 ถึง 25˚ ลุยงานเพลิดเพลิน ครอบคลุมการทำงานที่หลากหลาย เว็บแคม FHD 5.0MP และไมโครโฟนสเตอริโอสองตัว เชื่อมต่อกับทุกการสื่อสารได้อย่างเป็นส่วนตัวfด้วย ปิดกล้องเว็บแคมที่ใช้งานง่าย

คุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ 22,990 –  28,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมรับประกัน 3 ปี (ฟรีค่าแรงและอะไหล่)

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/acer-launches-notebooks-and-desktops-combining-12th-gen-intel-coretm-power/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=acer-launches-notebooks-and-desktops-combining-12th-gen-intel-coretm-power

ในที่สุด Instagram ก็ให้โพสต์รูปจากบราวเซอร์บนเดสก์ทอปได้

Instagram เปิดใช้งานความสามารถในการโพสต์รูปและคลิปวิดีโอ (ไม่เกิน 1 นาที) จากเว็บบราวเซอร์บนเดสก์ทอปได้ มีประโยชน์สำหรับคนที่สร้างบัญชีเพื่อขายของ ทำธุรกิจ หรือโพสต์รูปผลงานตัวเองเป็นพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมักจะใช้ภาพจากกล้องคุณภาพสูงมากกว่าเป็นรูปถ่ายจากมือถือ โดยจะเริ่มใช้งานได้วันที่ 21 ตุลาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีอัพเดตอื่นๆ จาก Instagram บนมือถือด้วยคือ Collabs ให้ผู้ใช้งานเชิญเพื่อนคนอื่นมาสร้างโพสต์ใน Reels ได้ โดยทั้งคอมเม้นท์ ยอดไลค์ คอมเม้นท์จะเป็นของทั้งสองบัญชี มีประโยชน์สำหรับการคอลแลบกันระหว่างอินฟลุเอนเซอร์ด้วยกัน ไปจนถึงดารา

Instagram

ที่มา – Engadget

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/125368

เปิดตัวเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุด จากเลอโนโวที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Ryzen™ 5000 Series Mobile และ Desktop

เลอโนโวเปิดตัวเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ – เดสก์ท๊อปเกมมิ่งทาวเวอร์ Lenovo Legion Tower 5 และแล็ปท็อปเกมมิ่ง Lenovo IdeaPad Gaming 3 – ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Ryzen™ 5000 Series Desktop และ Mobile ให้พลังการเล่นเกมที่เร็วและแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดุดันด้วยการออกแบบภายนอกที่ดูเรียบเท่ห์ แต่ยังแฝงไว้ด้วยความโดดเด่นจากไฟ RGB บนแผงคีย์บอร์ดในรุ่น Lenovo IdeaPad Gaming 3 และไฟ ARGB ในตัวเครื่องรุ่น Lenovo Legion Tower 5 สะท้อนทุกอารมณ์ให้เกมการแข่งขันเพื่อประสบการณ์การเกมมิ่งขั้นสุด

สนามประลองแห่งชัยชนะเพื่อการเกมมิ่งในอีกระดับกับ IdeaPad Gaming 3

เพราะคำว่า “พอได้” เป็นสิ่งที่ไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับเกมเมอร์ในสนามแข่งขัน Lenovo IdeaPad Gaming 3 จึงถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับการเล่นเกมบนเครื่อง IdeaPad ด้วยพลังของชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง AMD Ryzen™ 5000 H-Series Mobile Processors และครั้งแรกกับชิปกราฟฟิก NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 ที่มี Ray Tracing Cores และ Tensor Cores เวอร์ชันใหม่ล่าสุด เพื่อพลังการสตรีมมิ่งอันลื่นไหลกับทุกเกม
จะเล่นเกมระดับ AAA ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการภาพฉีก ภาพกระตุก เพราะหน้าจอขนาด 16.5 นิ้ว (1920×1080) แบบ IPS ความละเอียดระดับ  FHD  ทั้งยังมีขอบจอที่บาง ของ Lenovo ldeaPad Gaming 3 ที่มีค่ารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 165 Hz ให้เลือก ทั้งยังให้ค่าสีที่เที่ยงตรงแบบ 100% sRGB ความสว่างสูงสุดถึง 300 nits จึงให้คุณเล่นเกมโปรดยอดฮิตได้อย่างเต็มอรรถรส


เพราะการออกแบบที่ถูกหลักการยศาสตร์และได้รับการทดสอบแล้วว่ากดใช้งานได้อย่างคล่องมือของคีย์บอร์ดคือจุดต่างที่สำคัญระหว่างแพ้กับชนะในเกม Lenovo IdeaPad Gaming 3 จึงถูกออกแบบให้มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบ full Size key travel หนา 1.5 มิลลิเมตร มีช่วงระยะปุ่มกดถึง ที่รองรับ 100% N-key rollover และไฟแบบ 4-zone RGB ให้การเล่นมีสีสัน ได้อรรถรสในทุกการสัมผัสยิ่งกว่าเดิม เครื่องยังมาพร้อมทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 30% ลำโพงคุณภาพสำหรับการเกมมิ่ง Nahimic Audio และ 7.1 channel surround sound ให้เสียงชัดเจนในทุกมิติ
Lenovo IdeaPad Gaming 3 ระบายความร้อนได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์รุ่นเดิมถึง 41% ให้อากาศเย็นจากภายนอกเข้าสู่ตัวเครื่องได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่าเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิไม่ให้เครื่องร้อนเกิน


ผลิตภัณฑ์มาพร้อมระบบปฎิบัติการณ์ Windows 10 และแพ็คเกจการรับประกัน Unbeatable Protection ที่มีบริการ Premium Care ระยะเวลา 2 ปี เพื่อเป็นตัวช่วยในการบำรุงรักษาเครื่องให้กับคุณไม่ว่าจะเป็นบริการ onsite service, บริการให้คำปรึกษาจากช่างเทคนิคผู้ชำนาญ 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง อุ่นใจกับยิ่งกว่ากับรับประกันอุบัติเหตุ 2 ปีเต็ม แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง

เกมมิ่งเดสก์ท๊อปที่ทำให้คุณเหนือกว่าในทุกการแข่งขันกับ Legion Tower 5

ออกแบบมาเพื่อรองรับการแข่งขันสุดหฤโหด ให้คุณชนะในทุกสนามประลอง ด้วยพลังความแรงใหม่ล่าสุดจากเกมมิ่งเดสก์ท๊อปแห่งยุค Lenovo™ Legion Tower 5 มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Ryzen™ 5000 Series Desktop Processors และตัวเลือกกราฟฟิกโมเดลท๊อปสุดทั้งจาก NVIDIA® GeForce® และ AMD Radeon™ คุณจึงสามารถเกมมิ่งได้พร้อมความคมชัดระดับ 4K ตัวทาวเวอร์มีขนาดกระทัดรัดแต่ให้พลังมหาศาล พร้อมตัวเลือกทำความเย็นระบบ liquid cooling หรือ Tower Extreme Cooling คุณจึงมั่นใจได้ว่าความร้อนเกินจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แข็งแกร่ง สง่างามด้วยดีไซน์ไฟ LED สีฟ้าแบบฉบับ Lenovo Legion ที่เรืองแสงผ่านตัวเครื่องด้านหน้า และฝาครอบเครื่องแบบใสที่ให้คุณโชว์สีสันแห่งตัวตนได้อย่างอิสระ

ออกแบบมาเพื่อการโอเว่อร์คล๊อก Legion Tower 5 มาพร้อมตัวเลือกหน่วยประมวลผลสูงสุดถึง AMD Ryzen™ 9 5950X Desktop Processors และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 หรือการ์ดจอ AMD Radeon™ RX 6800XT รองรับการแสดงผลในระดับ 4K

เทคโนโลยี Legion Coldfront Cooling system ช่วยให้เครื่องระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านพัดลมแบบ Dual fan ขนาด 120 มิลลิเมตร สูงสุดถึง 5 ตัว ให้กำลังขับการออกแบบความร้อน (TDP) สูงสุดถึง 150W แผงระบายความร้อนระดับไฮเอนด์ครอบคลุมทั้ง CPU VRM, PCH และ SSD ไดรฟ์ของเครื่อง

ผู้ใช้สามารถเลือกสีไฟ ARGB ของพัดลมและระบบไฟภายในให้เข้ากับมู้ดในทุกช่วงเวลาได้จากตัวเลือกเฉดสีกว่า 16 ล้านเฉด ให้สีสันที่โดดเด่นตัดกับความเรียบเท่ห์ของตัวเครื่องสีดำ Raven Black ขนาด 26 ลิตร
เครื่องมาพร้อมแอปพลิเคชัน Lenovo Vantage for Gaming ช่วยให้ผู้ใช้ปรับอุณหภูมิของเครื่องได้ด้วย Q-Control 3.0, ปรับการตั้งค่าไฟ ARGB, ตั้งค่าเน็ตเวิร์ค รวมถึงระบบเสียง Dolby Atmos อันสมจริงได้อย่างสะดวกสบาย

ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อ และการจัดเก็บข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 802.11 ax WLAN, ตัวเลือก DIMM สูงสุด 4 สล็อต, PCIe 2 สล็อต, SATA bays 4 สล็อต, USB 7 พอร์ต, M.2 SSD 2 สล็อต รวมถึงมีตัวเลือกพาวเวอร์ซัพพลายสูงสุด 650W สำหรับเฟรมเรตที่ความละเอียดสูง

Lenovo Legion Tower 5 มาพร้อมระบบระบบปฏิบัติการ Windows 10 และแพ็คเกจการรับประกัน Unbeatable Protection ที่มีบริการ Premium Care ระยะเวลา 3 ปี เพื่อเป็นตัวช่วยในการบำรุงรักษาเครื่องให้กับคุณไม่ว่าจะเป็นบริการ onsite service, บริการให้คำปรึกษาจากช่างเทคนิคผู้ชำนาญ 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง และอีกมากมาย

ราคาและการวางจำหน่าย
⦁ Lenovo IdeaPad Gaming 3 พร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen™ 5 5600H และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 วางจำหน่ายที่ราคา 39,990 บาท
⦁ Lenovo IdeaPad Gaming 3 พร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen™ 5 5600H และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 วางจำหน่ายที่ราคา 31,990 บาท
⦁ Lenovo Legion Tower 5 พร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen™ 7 5800 desktop processor และการ์ดจอ AMD Radeon™ RX 6800 XT วางจำหน่ายที่ราคา 74,990 บาท
⦁ Lenovo Legion Tower 5 พร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen™ 5 5600G desktop processor และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 วางจำหน่ายที่ราคา 46,990 บาท

พิเศษระหว่างวันที่ 24 – 30 กันยายนนี้ รับโค๊ดส่วนลดเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เลอโนโวที่มาพร้อมชิปเซ็ต AMD ในงาน AMD Brand Day ผ่านช่องทาง Lazada รายละเอียดดังนี้
⦁ รับโค๊ดส่วนลดมูลค่า 500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ราคา 13,990 – 20,000 บาท
⦁ รับโค๊ดส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ราคา 20,000 – 30,000 บาท
⦁ รับโค๊ดส่วนลดมูลค่า 1,500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ราคา 30,990 – 37,000 บาท
⦁ รับโค๊ดส่วนลดมูลค่า 2,000 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ราคา 37,000 – 50,000 บาท

 

ข่าว: เปิดตัวเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุด จากเลอโนโวที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Ryzen™ 5000 Series Mobile และ Desktop มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/introducing-the-latest-gaming-computer-from-lenovo-that-comes-with-amd-ryzen-5000-series-mobile-and-desktop-processors/

MateStation S ตัวช่วยการทำงานที่ดีประสิทธิภาพแรงเกินราคา

matestation s
(ข้อมูลเพิ่มเติม: HUAWEI MateStation S)

ในช่วง WFH ยาวๆ แบบนี้ หลายคนคงกำลังฝ่ามรสุมงานและการประชุมออนไลน์ที่ถาโถมโหมกระหน่ำแบบไม่ยั้งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ ยิ่งถ้าต้องมาเจอกับความหน่วงในระหว่างทำงานเนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ คงไม่วายได้ถอนหายใจวันละหลายรอบกว่างานที่ทำอยู่นั้นจะเสร็จสมบูรณ์อย่างที่ตั้งใจไว้ หากไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเครื่องค้างจนงานสะดุด อาจจะถึงเวลาพิจารณาหาอุปกรณ์ไอทีใหม่ๆ มาเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กายให้กับการทำงาน อย่าง HUAWEI MateStation S เดสก์ท็อปน้องใหม่ตัวแรกจากหัวเว่ย ที่จะมาช่วยยกระดับความสามารถและประสิทธิภาพ การทำงานให้เร็ว แรง ได้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเจ้าของกิจการก็ทำงานได้อย่างไหลลื่น วันนี้ มาทำความรู้จักเดสก์ท็อปตัวใหม่นี้กันดีกว่าว่ามีของดีอะไรบ้างที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วตามเป้า หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยตอนนี้ที่ https://bit.ly/3hnT6U9


สเปกแรงแซงทุกข้อจำกัด ปิดจ๊อบง่ายยิ่งกว่าที่เคย

HUAWEI MateStation S 02 1
(ข้อมูลเพิ่มเติม: HUAWEI MateStation S)

ยืนหนึ่งเรื่องสเปกจริงๆ เพราะ HUAWEI MateStation S ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ตตัวล่าสุด AMD Ryzen™ 5 4600G Processor ขนาด 7 นาโน พร้อมด้วยการ์ดกราฟิกในตัว AMD Radeon™ เสริมความเร็ว แรง ตอบโจทย์การใช้งานในทุกมิติ โดยมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีมาให้ในตัว จะงานหนักหรืองานเบาก็เอาอยู่ ทั้งยังไม่ส่งเสียงระบายความร้อนรบกวนสมาธิการทำงานเพราะมีพัดลมระบายความร้อนในเครื่องซึ่งทำงานด้วยเสียงที่เบามาก ดังสุดแค่ 28 เดซิเบลเท่านั้นเอง และยังมาพร้อมระบบควบคุมการระบายความร้อนที่ทรงประสิทธิภาพโดยตัวเครื่องจะระบายความร้อนออกทางท่อระบายความร้อน ส่วนระบบควบคุมอุณหภูมิก็จะทำงานไปพร้อมๆ กันเพื่อป้องกันชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ไม่ให้ร้อนจนเกินไป ในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลก็ดีงามสุดๆ ด้วยหน่วยความจำ DDR4-3200MHz ล่าสุดและใช้หน่วยความจำสูง SSD ความเร็วสูงถึง 256 GB เสริมประสิทธิภาพการอ่านและเขียนข้อมูลได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์เรียบหรูล้ำสมัยใช้งานได้ยาวๆ ไป นานแค่ไหนก็ไม่มีเอ้าท์

นอกจากจะมาพร้อมกับสเปกที่ใช่ เรื่องดีไซน์ก็โดดเด่นแบบไม่ยอมน้อยหน้า เพราะ HUAWEI MateStation S ถูกออกแบบมาอย่างล้ำสมัย เรียกได้ว่าน้อยแต่มากเรียบแต่โก้ กับตัวเครื่องสี Space Grey และลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์จากการพุ่งทะยานของแสงดาว ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นทะแยงคล้ายลักษณะของดาวตก ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด กว้างเพียง 93 มม. และสูง 293 มม. น้ำหนักเบาๆ อยู่ที่ 4.2 กก. เท่านั้น หมดปัญหาภาพลักษณ์โต๊ะทำงานเทอะทะดูไม่งามตาที่ทำให้คนทำงานรู้สึกอึดอัดหัวไม่แล่นจนงานไม่เดินได้อีกด้วย ตั้งไว้ตรงไหนก็แลดูสะดุดตา เสริมลุคให้คนใช้งานดูดีมีรสนิยมในการเลือกของใช้ขึ้นมาอีกระดับ และในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหลายก็มีให้แบบครอบจักรวาลไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB-C HDMI , VGA , USB-A , RJ45, WAN/LAN, Serial port รวมไปถึงที่เสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และที่ดีไซน์ดีฟังก์ชันเด่นไม่แพ้เดสก์ท็อปก็คือคีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard ซึ่งมาพร้อม build-in NFC เพื่อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหัวเว่ย กับดีไซน์เพรียวบาง ฝาครอบโลหะเต็มรูปแบบ ทั้งยังใส่ใจผู้ใช้งานโดยออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมอบผิวสัมผัสที่ให้ทั้งความพรีเมียมและความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน และสำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในการทำงานก็ยิ่งถูกใจเพราะคีย์บอร์ดตัวนี้มาพร้อมปุ่มกด Fingerprint Power Button ด้านบนขวาของคีย์บอร์ดที่ต้องแตะเพื่อเปิดปิดเครื่องหรือล็อกอิน เรียกได้ว่าทั้งปลอดภัยและสะดวกต่อการใช้งานเป็นที่สุด

ทำงานง่ายไร้รอยต่อขอแค่มี Multi-screen Collaboration

HUAWEI MateStation S 06
(ข้อมูลเพิ่มเติม: HUAWEI MateStation

ในยุคที่งานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การทำงานข้ามดีไวซ์ไปมาระหว่างอุปกรณ์ทำงานหลักและสมาร์ทโฟนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากไม่มีฟีเจอร์หรือเทคโนโลยีรองรับในส่วนนี้ การเชื่อมต่อข้ามดีไวซ์คงยุ่งยากและทำให้งานเดินช้าแน่ๆ แต่รับรองได้ว่า HUAWEI MateStation S จะช่วยจัดการงานในมือได้อยู่หมัดด้วยฟีเจอร์ HUAWEI Share ทำให้การส่งงานที่ทำไว้ในสมาร์ทโฟนไปยังเดสก์ท็อปเป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วมือ แค่แตะสมาร์ทโฟนหัวเว่ยที่มี NFC ลงบนปุ่ม Shift ด้านขวาของคีย์บอร์ดก็สามารถเชื่อมต่อหน้าจอและถ่ายโอนข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน ไฟล์ภาพ หรือไฟล์ประเภทอื่นๆ แต่ต้องไม่ลืมว่าการใช้งานฟีเจอร์ที่ว่านี้รองรับระบบ EMUI 10.0 หรือใหม่กว่าและ PC Manager 10 หรือใหม่กว่าเท่านั้น


HUAWEI MateStation S Promo

งานดีมีคุณภาพขนาดนี้คงไม่ต้องคิดมาก เพราะคุณสามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI MateStation S ได้ในราคาเพียง 18,990 บาทเท่านั้น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ตามด้านล่างนี้เลย

  • คุ้มยืนหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI MateStation S พร้อมกับจอ HUAWEI Display 23.8” คีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard with Fingerprint และเม้าส์ HUAWEI Wired Mouse สามารถเป็นเจ้าของดีไวซ์ทั้งหมดนี้ได้ในราคาเพียง 19,990 บาทเท่านั้น
  • คุ้มไม่แพ้กัน สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI MateStation S พร้อมกับคีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard with Fingerprint และเม้าส์ HUAWEI Wired Mouse สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 17,990 บาท

โดยสามารถหาซื้อสินค้าพร้อมโปรปังๆ แบบนี้ได้ที่ HUAWEI Experience Store และช่องทางออนไลน์ ได้แก่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยที่ Lazada และ Shopee คุ้มเบอร์นี้ต้องไปจัดแล้วละ!

สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง เฟซบุ๊กเพจ Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://bit.ly/3hnT6U9 รายละเอียดเงื่อนไขโปรโมชันเพิ่มเติม https://bit.ly/3hylXEd

from:https://notebookspec.com/web/606416-huawei-mate-station-s

เดสก์ท็อปที่ใช่ ตัวช่วยการทำงานดีไม่มีสะดุด Performance พุ่งแบบฉุดไม่อยู่

ในช่วง WFH ยาวๆ แบบนี้ หลายคนคงกำลังฝ่ามรสุมงานและการประชุมออนไลน์ที่ถาโถมโหมกระหน่ำแบบไม่ยั้งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ ยิ่งถ้าต้องมาเจอกับความหน่วงในระหว่างทำงานเนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ คงไม่วายได้ถอนหายใจวันละหลายรอบกว่างานที่ทำอยู่นั้นจะเสร็จสมบูรณ์อย่างที่ตั้งใจไว้

หากไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเครื่องค้างจนงานสะดุด อาจจะถึงเวลาพิจารณาหาอุปกรณ์ไอทีใหม่ๆ มาเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กายให้กับการทำงาน อย่าง HUAWEI MateStation S เดสก์ท็อปน้องใหม่ตัวแรกจากหัวเว่ย ที่จะมาช่วยยกระดับความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานให้เร็ว แรง ได้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเจ้าของกิจการก็ทำงานได้อย่างไหลลื่น

วันนี้ มาทำความรู้จักเดสก์ท็อปตัวใหม่นี้กันดีกว่าว่ามีของดีอะไรบ้างที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วตามเป้า หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยตอนนี้ที่ https://bit.ly/3hnT6U9

HUAWEI MateStation

(ข้อมูลเพิ่มเติม: HUAWEI MateStation S)

สเปกแรงแซงทุกข้อจำกัด ปิดจ๊อบง่ายยิ่งกว่าที่เคย

ยืนหนึ่งเรื่องสเปกจริงๆ เพราะ HUAWEI MateStation S ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ตตัวล่าสุด AMD Ryzen™ 5 4600G Processor ขนาด 7 นาโน พร้อมด้วยการ์ดกราฟิกในตัว AMD Radeon™ เสริมความเร็ว แรง ตอบโจทย์การใช้งานในทุกมิติ โดยมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีมาให้ในตัว จะงานหนักหรืองานเบาก็เอาอยู่

ทั้งยังไม่ส่งเสียงระบายความร้อนรบกวนสมาธิการทำงานเพราะมีพัดลมระบายความร้อนในเครื่องซึ่งทำงานด้วยเสียงที่เบามาก ดังสุดแค่ 28 เดซิเบลเท่านั้นเอง และยังมาพร้อมระบบควบคุมการระบายความร้อนที่ทรงประสิทธิภาพโดยตัวเครื่องจะระบายความร้อนออกทางท่อระบายความร้อน

ส่วนระบบควบคุมอุณหภูมิก็จะทำงานไปพร้อมๆ กันเพื่อป้องกันชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ไม่ให้ร้อนจนเกินไป ในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลก็ดีงามสุดๆ ด้วยหน่วยความจำ DDR4-3200MHz ล่าสุดและใช้หน่วยความจำสูง SSD ความเร็วสูงถึง 256 GB เสริมประสิทธิภาพการอ่านและเขียนข้อมูลได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์เรียบหรูล้ำสมัยใช้งานได้ยาวๆ ไป นานแค่ไหนก็ไม่มีเอ้าท์

นอกจากจะมาพร้อมกับสเปกที่ใช่ เรื่องดีไซน์ก็โดดเด่นแบบไม่ยอมน้อยหน้า เพราะ HUAWEI MateStation S ถูกออกแบบมาอย่างล้ำสมัย เรียกได้ว่าน้อยแต่มากเรียบแต่โก้ กับตัวเครื่องสี Space Grey และลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์จากการพุ่งทะยานของแสงดาว ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นทะแยงคล้ายลักษณะของดาวตก

ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด กว้างเพียง 93 มม. และสูง 293 มม. น้ำหนักเบาๆ อยู่ที่ 4.2 กก. เท่านั้น หมดปัญหาภาพลักษณ์โต๊ะทำงานเทอะทะดูไม่งามตาที่ทำให้คนทำงานรู้สึกอึดอัดหัวไม่แล่นจนงานไม่เดินได้อีกด้วย ตั้งไว้ตรงไหนก็แลดูสะดุดตา เสริมลุคให้คนใช้งานดูดีมีรสนิยมในการเลือกของใช้ขึ้นมาอีกระดับ

และในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหลายก็มีให้แบบครอบจักรวาลไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB-C HDMI , VGA , USB-A , RJ45, WAN/LAN, Serial port รวมไปถึงที่เสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และที่ดีไซน์ดีฟังก์ชันเด่นไม่แพ้เดสก์ท็อปก็คือคีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard ซึ่งมาพร้อม build-in NFC เพื่อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหัวเว่ย กับดีไซน์เพรียวบาง ฝาครอบโลหะเต็มรูปแบบ

ทั้งยังใส่ใจผู้ใช้งานโดยออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมอบผิวสัมผัสที่ให้ทั้งความพรีเมียมและความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน และสำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในการทำงานก็ยิ่งถูกใจเพราะคีย์บอร์ดตัวนี้มาพร้อมปุ่มกด Fingerprint Power Button ด้านบนขวาของคีย์บอร์ดที่ต้องแตะเพื่อเปิดปิดเครื่องหรือล็อกอิน เรียกได้ว่าทั้งปลอดภัยและสะดวกต่อการใช้งานเป็นที่สุด

(ข้อมูลเพิ่มเติม: HUAWEI MateStation S)

ทำงานง่ายไร้รอยต่อขอแค่มี Multi-screen Collaboration

ในยุคที่งานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การทำงานข้ามดีไวซ์ไปมาระหว่างอุปกรณ์ทำงานหลักและสมาร์ทโฟนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากไม่มีฟีเจอร์หรือเทคโนโลยีรองรับในส่วนนี้ การเชื่อมต่อข้ามดีไวซ์คงยุ่งยากและทำให้งานเดินช้าแน่ๆ แต่รับรองได้ว่า HUAWEI MateStation S จะช่วยจัดการงานในมือได้อยู่หมัดด้วยฟีเจอร์ HUAWEI Share ทำให้การส่งงานที่ทำไว้ในสมาร์ทโฟนไปยังเดสก์ท็อปเป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วมือ แค่แตะสมาร์ทโฟนหัวเว่ยที่มี NFC ลงบนปุ่ม Shift ด้านขวาของคีย์บอร์ดก็สามารถเชื่อมต่อหน้าจอและถ่ายโอนข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน ไฟล์ภาพ หรือไฟล์ประเภทอื่นๆ แต่ต้องไม่ลืมว่าการใช้งานฟีเจอร์ที่ว่านี้รองรับระบบ EMUI 10.0 หรือใหม่กว่าและ PC Manager 10 หรือใหม่กว่าเท่านั้น

งานดีมีคุณภาพขนาดนี้คงไม่ต้องคิดมาก เพราะคุณสามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI MateStation S ได้ในราคาเพียง 18,990 บาทเท่านั้น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ตามด้านล่างนี้เลย

  • คุ้มยืนหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI MateStation S พร้อมกับจอ HUAWEI Display 23.8” คีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard with Fingerprint และเม้าส์ HUAWEI Wired Mouse สามารถเป็นเจ้าของดีไวซ์ทั้งหมดนี้ได้ในราคาเพียง 19,990 บาทเท่านั้น
  • คุ้มไม่แพ้กัน สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI MateStation S พร้อมกับคีย์บอร์ด HUAWEI Ultra-Slim Wired Keyboard with Fingerprint และเม้าส์ HUAWEI Wired Mouse สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 17,990 บาท

โดยสามารถหาซื้อสินค้าพร้อมโปรปังๆ แบบนี้ได้ที่ HUAWEI Experience Store และช่องทางออนไลน์ ได้แก่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยที่ Lazada และ Shopee คุ้มเบอร์นี้ต้องไปจัดแล้วละ!

สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง เฟซบุ๊กเพจ Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://bit.ly/3hnT6U9

รายละเอียดเงื่อนไขโปรโมชันเพิ่มเติม https://bit.ly/3hylXEd  


*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด 

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/the-right-desktop-the-helper-works-well-without-interruption/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=the-right-desktop-the-helper-works-well-without-interruption

HP เปิดตัว EliteOne 800 G8 All-in-One PC

HP ประกาศเปิดตัว EliteOne 800 G8 All-in-One PC และ EliteDesk 800 G8 PC

Credit: HP

สำหรับ EliteOne 800 G8 เป็น PC แบบ All-in-One โดยมีให้เลือกหน้าจอสองขนาด ได้แก่ 23.8 นิ้ว และ 27 นิ้ว และยังคงเลือกใช้หน่วยประมวลผล Intel สามารถติดตั้งหน่วยความจำได้สูงสุด 16GB มาพร้อมกับ Windows 10 Pro โดย HP ยังใส่ความสามารถด้าน AI เข้ามาจำนวนมาก เช่น กล้อง Webcam ความละเอียด 5MP ที่รองรับการปรับแสงอัตโนมัติ มีระบบ HP Dynamic Voice Leveling ช่วยในการปรับเสียงไมค์ให้เหมาะสม และสามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้

นอกจากนี้ HP ยังเปิดตัว EliteDesk 800 G8 Series PC อีกด้วย โดยเริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศแล้ววันนี้ สำหรับตลาด PC ทาง HP ยังคงมองว่าจะยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจแล้วพบว่า ในปี 2021 ประมาณ 32% ของพนักงานเลือกที่จะทำงานจากที่บ้าน ส่วนพนักงานอีก 26% เลือกที่จะทำงานจากทั้งที่บ้านและที่ออฟฟิส ซึ่ง EliteOne นั้นก็ถูกออกมาแบบมาสำหรับใช้งานได้ทั้งจากที่บ้านหรือออฟฟิสเช่นกัน

ที่มา: https://www.zdnet.com/article/hp-unveils-new-eliteone-800-pc-line-for-emerging-hybrid-workforce/

from:https://www.techtalkthai.com/hp-announces-new-eliteone-800-g8-all-in-one-pc/

รวมข้อมูลซีพียู Intel Gen 11 “Rocket Lake-S” ทุกรุ่นบน Desktop PC เผยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด 19% พร้อมขาย 30 มีนาคม 2021 นี้

หลังจากที่รอคอยกันมานานในที่สุด Intel ก็ได้เปิดตัวซีพียู Gen 11 บน Desktop PC กันสักที ภายใต้โค้ดเนม “Rocket Lake-S” จากที่เปิดตัวบนโน้ตบุ๊คไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่าสนใจคือคล็อคสปีดสูงสุดบนตัว i9-11900K สามารถทำได้ถึง 5.3 GHz บนสถาปัตยกรรม Cypress Cove ใหม่ล่าสุด โดยจะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 30 มีนาคม 2021 นี้พร้อมกันทั่วโลก

สำหรับสถาปัตยกรรม Cypress Cove บนกระบวนการผลิตขนาด 14nm นี้ถูกออกแบบมาสำหรับสายเกมมิ่งและโปรแกรมที่ต้องการค่า high-frequency cores และ high-frequency cores โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการนำสถาปัตยกรรม Ice Lake Core และ Tiger Lake Graphics มารวมเป็นอันเดียวกัน ทำให้มีค่า IPC เพิ่มขึ้นถึงสองหลักด้วยกัน 

  • ประสิทธิภาพรับชุดคำสั่งต่อรอบ (IPC) เพิ่มขึ้นจากเดิมสูงสุด 19%
  • ประสิทธิภาพ iGPU (การ์ดจอออนบอร์ด) แรงขึ้นสูงสุด 50% บนสถาปัตยกรรมกราฟิก Intel Xe
  • รองรับ PCIe 4.0
  • รองรับ RAM DDR4 bus 3200
  • รองรับการโอเวอร์คล็อกได้ดีขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น
  • รองรับการถอดรหัสสื่อขั้นสูง AV1 10bit/High-efficiency video coding 12bit
  • เพิ่มคุณสมบัติ Intel Deep Learning Boost และรองรับ Vector Neural Network Instructions ช่วย AI ให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    ตารางซีพียู Intel Gen 11 “Rocket Lake-S”

รุ่น Core/Thread ความเร็ว TDP iGPU ราคา*
i9-11900K 8C/16T 3.5-5.3 GHz 125W UHD 750 ~16,600 บ.
i9-11900KF 8C/16T 3.5-5.3 GHz 125W ~15,800 บ.
i9-11900 8C/16T 2.5-5.2 GHz 65W UHD 750 ~13,500 บ.
i9-11900F 8C/16T 2.5-5.2 GHz 65W ~13,000 บ.
i7-11700K 8C/16T 3.6-5.0 GHz 125W UHD 750 ~12,300 บ.
i7-11700KF 8C/16T 3.6-5.0 GHz 125W ~11,500 บ.
i7-11700 8C/16T 2.5-4.9 GHz 65W UHD 750 ~10,000 บ.
i7-11700F 8C/16T 2.5-4.9 GHz 65W ~9,200 บ.
i5-11600K 6C/12T 3.9-4.9 GHz 125W UHD 750 ~8,100 บ.
i5-11600KF 6C/12T 3.9-4.9 GHz 125W ~7,300 บ.
i5-11600 6C/12T 2.8-4.8 GHz 65W UHD 750 ~6,600 บ.
i5-11500 6C/12T 2.7-4.6 GHz 65W UHD 750 ~5,900 บ.
i5-11400 6C/12T 2.6-4.4 GHz 65W UHD 730 ~5,600 บ.
i5-11400F 6C/12T 2.6-4.4 GHz 65W ~4,900 บ.



(ดูข้อมูลเต็มคลิกที่ในรูปได้เลยครับ)

หมายเหตุ

  • *ราคาในตารางเป็นราคาส่งเมืองนอกคือต้องซื้อ 1,000 ชิ้น ขึ้นไป
  • ซีพียู i3 ลงมาจะยังคงเป็นสถาปัตยกรรม Gen 10 Refreshed

สำหรับในประเทศไทยบ้านเราหลาย ๆ ร้านตอนนี้ก็เริ่มเปิดให้จองพรีออร์เดอร์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งราคาอาจจะพวกเพิ่มจากในตารางนิดหน่อย ไม่โดดไปมากนัก แถมใช้ Socket LGA 1200 รุ่นเดิมกับ Gen 10 ด้วย ใครที่สนใจก็ลองไปสั่งจองสั่งซื้อกันก่อนได้ครับผม แนะนำว่าหากจะใช้งานเต็มประสิทธิภาพ Gen 11 ควรใช้บอร์ดตระกูล 500 Series เพื่อรีดประสิทธิภาพได้เต็มที่ โดยตัวชิปเซ็ต H570 และ B560 ก็กำลังจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้เช่นกันครับผม

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์, Intel

 

ตอนนี้ทาง Droidsans มีเพจ คอมคร้าบ เพิ่มออกมาเป็นเรื่องคอมโดยเฉพาะ ทั้ง FaceBook และ YouTube ฝากกด Like กด Subscribe กันด้วยนะครับผม

Facebook : https://www.facebook.com/comcraft.ds
YouTube : https://www.youtube.com/c/comcraftds

from:https://droidsans.com/intel-gen-11-rocket-lake-s-pc/

Intel ยืนยันเตรียมปล่อย CPU Gen 11th ตัวใหม่ในชื่อ ‘Rocket Lake’ บน Desktop PC ต้นปี 2021

หลังจากที่ทาง Intel ได้เปิดตัว CPU สำหรับใช้บน Desktop รุ่น Gen 10th Comet lake-S ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ล่าสุดทาง intel ก็ออกมาประกาศเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะเปิดตัวรุ่นอัปเกรดอย่าง Intel Gen 11th ต่อในช่วงต้นปี 2021 และจะมาในโค้ดเนม ‘Rocket Lake’ อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังเล็งอัปเกรดคอมตั้งโต๊ะกันอยู่ล่ะก็ขอแนะนำให้อดใจรอต้นปีหน้ากันซักหน่อย เพราะล่าสุดจากข้อมูลดูเหมือน Intel ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเปิดตัว CPU Intel gen 11th ชื่อว่า ‘Rocket Lake’ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 ที่จะถึงนี้ อีกทั้งทาง Intel ยังเคลมอีกด้วยว่าตัว CPU ตัวนี้จะสามารถรองรับ SSD แบบ PCIe 4.0 เหมือนกับคู่แข่งอย่าง AMD ได้

Rocket Lake ตัวนี้จะมาพร้อมกับสถาปัตรยากรรมใหม่ที่คาดว่าจะเป็น Cypress Cove แถมยังมาพร้อมระบบประมวลผลกราฟิก Intel Xe Gen 12 และมีให้เลือกสูงสุดที่ 8-core/16 thread ในขนะที่ตัวเรือธง LGA1200 (i9-10900K) ที่มีให้ใช้ตอนนี้มีถึง 10-cores 20 threads เลยทีเดียว

ดูจากวันที่ Intel ประกาศ CPU ตัวใหม่ออกมาก็บอกได้เลยว่าไม่น่าแปลก เพราะทางฝั่ง AMD ก็เตรียมเปิดตัว CPU รุ่นใหม่อย่าง Zen 3 ที่จะเปิดตัว 5 ทุ่มวันนี้ (8 ตุลาคม 2020) เพื่อที่จะสามารถเอามาปะทะกับ Zen 3 ได้อย่างจัง ๆ นั่นเองครับ

Source: videocardz via Engadget

from:https://droidsans.com/intel-comfirmed-to-release-gen-11th-processor-in-the-first-quarter-of-2021/