คลังเก็บป้ายกำกับ: BURGER

กระแสเนื้อไร้เนื้อแรง! Burger King จับมือ Impossible Foods ออกเมนูใหม่อาหารเช้ามังสวิรัติ

Burger King ประกาศวางขายเมนู Impossible Croissan’wich (ครัวซองต์แซนด์วิชไส้กรอกมังสวิรัติ) เมนูอาหารเช้าทั่วสหรัฐอเมริกา 

กระแสเนื้อไร้เนื้อดีต่อเนื่อง

หลังจากที่ Burger King เริ่มทดลองเมนู “ครัวซองต์แซนด์วิชไส้กรอกมังสวิรัติ” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และถือเป็นเจ้าแรกที่ได้ใช้ไส้กรอกมังสวิรัติของ Impossible Foods ในเมนูอาหารเช้า ล่าสุดก็พร้อมส่งเมนูนี้ขายทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว

Burger King มั่นใจว่าเมนูใหม่จะช่วยเพิ่มยอดขายเมนูอาหารเช้าให้กับทางแบรนด์ได้ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมากระแสคนทานอาหารมังสวิรัติมาแรงมาก ทำให้ Burger King วางขายเมนู Impossible Whopper หรือเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ไปทั่วสหรัฐอเมริกา และเมื่อต้นปีนี้ Burger King ก็ได้ทำโปรโมชั่นซื้อแฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัติ 2 ชิ้น ในราคาเพียง 6 ดอลลาร์ (ประมาณ 186 บาท) เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าคุณภาพในราคาที่ต่ำลง รวมถึงทำแคมเปญโปรโมทเมนูใหม่ โดยลูกค้าที่ซื้อเมนูใดก็ได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Burger King จะได้รับเมนูใหม่นี้ไปทานฟรีๆ (Burger King เตรียมแจกเมนูใหม่กว่า 100,000 รายการ)

สาเหตุที่ทำให้ Burger King วางขายเมนูนี้เนื่องจากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ยอดขายอาหารเช้าลดลงเป็นอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาทำงานและทานอาหารเช้าจากที่บ้านแทน ซึ่งผลกระทบดังกล่าวยังส่งผลไปถึงแบรนด์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง ร้านอาหารเม็กซิกันอย่าง Taco Bell ที่ได้ลดชั่วโมงการขายสินค้าต่อวันลง รวมถึงในฝั่งของ Dunkin’ ก็ได้ใช้ไส้กรอกที่ทำจากพืชของ Beyond Meat ในเมนูแซนด์วิชที่เป็นอาหารเช้าเช่นกัน  

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจอีกอย่างคือ เมื่อมีข่าวว่า Burger King จะวางขายเมนูใหม่ที่ใช้เนื้อไร้เนื้อของ Impossible Foods ส่งผลให้ Beyond Meat ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Impossible Foods มีราคาหุ้นก่อนเปิดตลาดลดลงไป 2%

ที่มา: CNBC

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-impossible-foods-beyond-meat/

KFC x CARNIVAL เปิดตัวเสื้อคอลเลคชันพิเศษ พร้อมเริ่มขาย “ดับเบิ้ลดาวน์ เบอร์เกอร์” ในไทย

สิ้นสุดการรอคอย!! KFC ประเทศไทยเริ่มขาย “ดับเบิ้ลดาวน์ เบอร์เกอร์” เป็นเบอร์เกอร์ที่ใช้ไก่ทอด 2 ชิ้นมาประกบแทนขนมปัง และ KFC ร่วมกับ Carnival ออกเสื้อคอลเลคชันพิเศษมาขายที่สยามสแควร์ ซอย 7 อีกด้วย

KFC x CARNIVAL เปิดตัวเสื้อคอลเลคชันพิเศษ

KFC x CARNIVAL™ Capsule Collection | Available on 29.05.2019 at KFC x CARNIVAL POP UP STORE ( Carnival HQ Siam Square…

โพสต์โดย Carnival Store เมื่อ วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2019

แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง CARNIVAL หยิบเอาเอกลักษณ์ของร้านไก่ทอดระดับโลกอย่าง KFC มาอยู่บนเสื้อผ้าสไตล์สตรีทแวร์ โดยมีการขาย Hoodie, LS T-shirt, Tee, Bucket Hat และ Tote Bag แบบ Exclusive ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่ Carnival HQ (สยามสแควร์ ซอย 7) ตั้งแต่เวลา 11.00 น.

สำหรับ 50 คนแรกที่มาซื้อสินค้า จะได้รับชุดอาหาร Boxset ในกล่องพิเศษ ซึ่งเป็นเมนู Limited Edition จาก KFC ที่ยังไม่เคยวางจำหน่ายที่ไหนมาก่อน ซึ่งจะได้ลิ้มรสความอร่อยก่อนใคร รวมถึง “ของที่ระลึก” ดีไซน์พิเศษเพื่อคอลเลคชั่นนี้โดยเฉพาะ

เพจ CARNIVAL ระบุว่าหากมีสินค้าเหลือหลังจากวันวางจำหน่าย จะมีการนำสินค้ามาจำหน่ายทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 

เริ่มขาย “ดับเบิ้ลดาวน์ เบอร์เกอร์” ในไทย

ส่วนอีกข่าวเรียกได้ว่า คือ ฝันที่เป็นจริงของแฟนๆ เคเอฟซี (KFC) ก็ไม่ผิดนัก เพราะล่าสุดได้เปิดตัว “ดับเบิ้ลดาวน์ เบอร์เกอร์” ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเป็นเบอร์เกอร์ที่ไม่มีขนมปัง โดยใช้ไก่กรอบ 2 ชิ้นมาแทนที่ ส่วนตรงกลางจะเป็นเบคอนไก่, ชีส และซอส 

เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 เบอร์เกอร์รูปแบบนี้มีขายแค่ใน 11 สาขา ได้แก่ สาขาเมเจอร์รัชโยธิน, ยูเนี่ยนมอลล์, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลอีสวิลล์, บิ๊กซีลาดพร้าว 2, สถานีขนส่งหมอชิต 3, เจเจมอลล์, วังหิน, เทสโก้โลตัสลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์ และ เอสโซ่ ประดิษมนูธรรม เท่านั้น 

โดยมีรายงานออกมาว่า “ดับเบิ้ลดาวน์ เบอร์เกอร์” เริ่มมีขายในหลายสาขา และผ่านทางออนไลน์แล้ว

from:https://www.thumbsup.in.th/2019/05/kfc-x-carnival-and-double-down-burger/

McDonald’s ลงมาเล่นตลาดเบอร์เกอร์มังสวิรัติเต็มตัว เริ่มขายที่เยอรมนีแห่งแรก

McDonald’s ขอบุกตลาดเบอร์เกอร์ไม่มีเนื้อสัตว์อย่างเต็มตัว เปิดขาย Big Vegan TS ในประเทศเยอรมนีเป็นแห่งแรก ในขณะที่แบรนด์อื่นก็เตรียมลงมาบุกตลาดนี้เช่นกัน

 

Photo : Shutterstock

เมื่อเทรนด์ของ Vegan หรือคนทานมังสวิรัติไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป กลายเป็นว่าแบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มสรรหาเมนูเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มากขึ้น โดยเฉพาะเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ร่วมขบวนเทรนด์เบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ หรือเบอร์เกอร์มังสวิรัติกันเพียบ

ไม่นานมานี้ได้ข่าวว่า Burger King ก็ได้ทดลองเบอร์เกอร์มังสวิรัติไปแล้วเช่นกัน พร้อมกับได้รับผลตอบรับที่ดีไม่น้อย เตรียมขยายผลในการจำน่ายทั่วสหรัฐอเมริกาภายในปีนี้

โดยที่แบรนด์คู่แข่งอย่าง McDonald’s ก็ไม่น้อยหน้า ได้ขายเบอร์เกอร์ Big Vegan TS เป็นเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัติ เริ่มที่ประเทศเยอรมนีแห่งแรก ซึ่งประเทศนี้ถือเป็นประเทศ 1 ใน 5 ของตลาดใหญ่ของโลก

ถ้าดูแล้วทิศทางของตลาดนี้น่าสนใจไม่น้อย แนวโน้มของผู้บริโภคนิยมโปรตีนที่ได้จากพืชมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์ที่มองหาอาหาร หรือวิธีการกินเพื่อสุขภาพ และยังลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมได้อีก

Photo : Cnn

ถ้าถามว่าความนิยมของเทรนด์ Vegan มีมากน้อยแค่ไหน ถึงขนาดที่ว่ามีคำร้องในเว็บไซต์ Change.org ได้เรียกร้องให้ McDonald’s ทำเมนูที่มีส่วนผสมจากพืช มีผู้ลงชื่อกว่า 200,000 ราย

การที่เชนร้านฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ให้ความสนใจกับเทรนด์นี้ หาวิธีการเพิ่มโปรตีนที่ปราศจากเนื้อสัตว์มาทำเมนูเบอร์เกอร์นั้น มีการออกแบบรูปลักษณ์ และรสชาติให้เหมือนเนื้อสัตว์มากที่สุด เป็นการดึงดูดทั้งคนที่กินเนื้อสัตว์เป็นปกติ แต่สร้างทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และยังตอบโจทย์กลุ่มคนทานมังสวิรัติด้วย

นอกจาก Burger King และ McDonald’s ที่ประกาศว่ามีเมนูเบอร์เกอร์เวอร์ชั่นไม่มีเนื้อสัตว์แล้ว ยังมีผู้เล่นรายอื่นสนใจในตลาดนี้ด้วย เช่น White Castle, Qdoba, Bareburger และแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังขยายเมนูที่ทำมาจากพืชเช่นกัน

Photo : Shutterstock

สำหรับ McDonald’s ได้เริ่มเส้นทางเมนูทางเลือกที่ไร้เนื้อสัตว์มาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว ได้เปิดตัวเมนู McVegan ที่มีส่วนผสมทำมาจากถั่วเหลือง จำหน่ายในประเทศฟินแลนด์ และสวีเดน เป็นการร่วมมือกันกับ Orkla บริษัทด้านอาหาร อีกทั้งบางประเทศก็มีเมนูผัก ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า McDonald’s จะนำเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัตินี้ไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาหรือไม่ มีการเปิดเผยว่า “ตลาดจะเป็นตัวตัดสินใจว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า” นั่นแสดงว่าที่สหรัฐอเมริกายังไม่ตอบรับกับเทรนด์ Vegan มากพอที่จะทำให้ขยายเมนูนี้ไปแน่นอน เบื้องต้นยังมีการเปิดเผยแค่ว่าเมนูนี้จำหน่ายที่เยอรมนี

ตลาดสินค้าทดแทนเนื้อสัตว์เติบโตมหาศาล

ข้อมูลจาก Euromonitor International มีการประเมินว่าตลาดสินค้าทดแทนเนื้อสัตว์ หรือเนื้อสัตว์ทางเลือกในสหรัฐอเมริกามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ภายในปี 2023 ตลาดจะมีมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่ในปี 2018 มีมูลค่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตลาดทั่วโลกนั้น ปี 2018 มีมูลค่า 18,700 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นเป็น 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023

โดยที่ผู้เล่นยักษ์ใหญ่อย่าง Nestle ก็ลงมาจับตลาดนี้เช่นกัน เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้เปิดตัว Garden Gourmet Incredible Burger ในยุโรป เป็นเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ที่ทำจากถั่วเหลือง และโปรตีนจากข้าวสาลี รวมไปถึงใช้สารสกัดจากบีทรูต แครอท และพริกหยวก เพื่อสร้างรูปลักษณ์ และสัมผัสให้เหมือนเนื้อสัตว์

Nestle มีแผนที่จะเปิดตัวเบอร์เกอร์ที่ทำจากพืชในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ภายใต้แบรนด์ Sweet Earth คาดว่าจะจำหน่ายภายในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonalds-meatless-burger-in-germany/

Burger King เตรียมขาย Impossible Whopper เบอร์เกอร์มังสวิรัติทั่ว US ภายในปีนี้

หลังจากที่ Burger King ได้ทดลองจำหน่าย Impossible Whopper ใน Missouri พบว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีแผนวางจำหน่ายทั่วสหรัฐอเมริกาภายในปีนี้

Impossible Whopper เป็นเมนูพิเศษที่ทาง Burger King เพิ่งวางจำหน่ายได้ไม่นาน เป็นเบอร์เกอร์ที่ทำมาจากพืช ไม่มีเนื้อสัวต์ หรือจะเรียกว่าเบอร์เกอร์มังสวิรัติแบบกลายๆ ก็ได้ ในช่วงแรกได้วางจำหน่ายแค่ 59 สาขา ที่เมือง St Louis รัฐ Missouri แห่งเดียวเท่านั้น

แต่หลังจากที่ได้วางจำหน่ายไปแล้ว พบว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยที่ทาง Burger King มีแผนที่จะขยายตลาดสำหรับ Impossible Whopper เพื่อวางจำหน่ายทั่วประเทศในช่วงปลายปีนี้ ถ้าหากผลตอบรับยังดีอยู่เรื่อยๆ

จุดเริ่มต้นของ Impossible Whopper มาจากการที่ Burger King ได้เจริญรอยตามร้าน White Castle ร้านเบอร์เกอร์ร่วมอุตสาหกรรมในการออกเมนูเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ จึงออกเมนู Impossible Whopper ออกมา ส่วนผสมทำมาจากพืชผักทั้งหมด

ส่วนผสมอื่นๆ ของเบอร์เกอรNมังสวิรัตินี้ยังประกอบไปด้วยผักกาดหอม มะเขือเทศ หัวหอม ซอสมะเขือเทศ มายองเนส และมีการจำลองกลิ่นเนื้อสัตว์ลงไปเพื่อให้ความรู้สึกของเบอร์เกอร์มากขึ้น

ไม่แน่ว่าการขยายตลาดไปยังทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วได้รับผลตอบรับอย่างดี อาจจะมีแผนในการนำเมนูนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ก็ได้ เพราะในปัจจุบันมีกลุ่มคนที่ทานมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างทางเลือกอีกทางหนึ่ง

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-launch-impossible-whopper/

รู้จัก Big Mac เมนูอายุ 50 ปีของ McDonald’s ที่เปรียบดั่ง Wolverine ของวงการ Fast Food

ในที่สุด Big Mac สุดยอดเมนูที่ขายได้มากที่สุดในแง่มูลค่าของ McDonald’s ก็มีอายุครบ 50 ปีแล้ว แสดงให้เห็นว่าทุกคนก็ยังอยากซื้อกิน ถึงมันจะให้พลังงาน 540 แคลอรี่ และอุดมไปด้วยไขมันถึงครึ่งหนึ่งที่ต้องการใน 1 วัน

Big Mac // ภาพโดย https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Big_Mac_hamburger_-_Japan_(3).jpg

เมนูในตำนานที่รังสรรค์ด้วยความตั้งใจ

หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ หรือรับประทานเมนู Big Mac กันมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าเมนูนี้กำลังจะมีอายุครบ 50 ปีนี้ในปีแล้ว เรียกว่าเป็นหนึ่งในเมนูที่เก่าแก่ที่สุดของ McDonald’s ก็ว่าได้ ที่สำคัญเมนูนี้ยังเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของทางร้าน ผ่านยอดขายกว่า 1,300 ล้านชิ้นทั่วโลก

และถึง Big Mac ที่ประกอบด้วยเนื้อย่าง 2 แผ่น, ซอสสูตรพิเศษ, ผักกาดซอย, ชีส, แตงกวาดอง, หอมใหญ่ และขนมปังโรยงา แถมยังให้พลังงานสูงถึง 540 แคลอรี่ แต่ทุกคนก็ยังอยากรับประทานมันอยู่ดี แม้ว่าปัจจุบันการใส่ใจเรื่องสุขภาพจะมีมากขึ้นทั่วโลกก็ตาม

“มันเกิดขึ้นมา 50 ปี และไม่มีอะไรมาทดแทนมันได้สำหรับเรา ที่สำคัญมันก็ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้เหมือนกัน แล้วถ้าถามว่าเราจะต้องพัฒนารสชาติในตำนานนี้อีกหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ามันคงตลกถ้าเราไปปรับเปลี่ยน Big Mac” Steve Easterbrook ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร McDonald’s กล่าว

เมื่อผู้บริหารระดับสูงยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนสูตร Big Mac ก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเมนูยอดนิยมตัวนี้ และถึง McDonald’s เคยสร้างเมนูใหม่ๆ เช่น McWraps, Chicken Wings และ McPizza ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะช่วงที่ผ่านมานั้นยอดขายปรับตัวลดลงมาโดยตลอด แต่พวกมันก็ต้องทยอยหายไปเพราะเป็นแค่สีสัน

Big Mac // ภาพโดย Amin [CC BY-SA 4.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0)%5D, from Wikimedia Commons

ดังนั้น Big Mac จึงเปรียบเหมือนกับ Wolverine ของวงการ Fast Food เพราะถึงจะเกิดขึ้นมานาน และมีกระแสรักสุขภาพคอยกดดันให้ปรับตัว แต่มันก็ไม่ตายไปจากหน้าเมนูของ McDonald’s เสียที คล้ายกับ Wolverine ที่มี Healing Factor ที่คอยฟื้นฟูบาดแผล และทำให้ร่างกายเป็นอมตะ

ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกา McDonald’s มีการแจก MacCoins จำนวน 6.2 ล้านชิ้น ให้กับผู้ที่ซื้อ Big Mac ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. โดยผู้ที่ได้รับจะสามารถนำเหรียญดังกล่าวไปแลกซื้อเบอร์เกอร์มารับประทานได้ฟรี นอกจากนี้ในพื้นที่นอกสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทยังมีการทำขาย Big Mac โดยใช้ไก่ และมีการทดลองลด รวมถึงเพิ่มขนาดเมนูนี้มาแล้ว

สรุป

การเฉลิมฉลองครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือไม่ เพราะปัจจุบันราคาของ Big Mac ในไทยก็เรียกว่าสูงพอควร (123 บาท) แต่ถึงจะราคาสูง ตัวขนาดของเมนูก็ดึงดูดให้ผู้ใช้บริการในร้านอยากลิ้มลองสักครั้ง แล้วคุณล่ะเคยกิน Big Mac หรือยัง?

เกร็ดน่ารู้ // ปัจจุบัน Big Mac เป็นหนึ่งในเครื่องมือชี้วัดเศรษฐกิจในแต่ละประเทศด้วย ผู้สนใจสามารถกดเช็คได้ที่นี่

อ้างอิง // BuzzFeedNews

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/big-mac-50th-years/

แบบนี้ก็ได้? Burger King เจาะรู Whoppers ฉลองวันโดนัท

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์เฉลิมฉลอง National Donut Day หรือวันโดนัทของสหรัฐฯ แน่นอนว่าแบรนด์เบอร์เกอร์อย่าง Burger King ไม่แคร์ ฉวยโอกาสนี้เจาะรูตรงกลางของเบอร์เกอร์ เพื่อสร้างโดนัทพันธุ์ใหม่แล้วร่วมฉลองด้วยแบบเนียนได้ใจ ที่เก๋คือเบอร์เกอร์ส่วนที่ถูกเจาะนั้นไม่ได้ทิ้ง แต่กลายเป็นเบอร์เกอร์จิ๋วสำหรับแจกฟรีได้อีก

Burger King ระบุในสื่อประชาสัมพันธ์ว่า บริการเจาะรูที่ทำให้เบอร์เกอร์แปลงร่างเป็นโดนัทได้นั้น จะให้บริการบางสาขาเท่านั้น แต่เท่านี้ก็พอแล้วที่ทำให้ Burger King ถูกยกว่าสามารถทำการตลาดแบบข้ามวงการได้อย่างฉลาด

Burger King ตั้งชื่อแคมเปญนี้ว่า Whopper Donut พร้อมกับประกาศว่านี่คือโดนัทชิ้นแรกของโลกที่ใช้วิธีย่างไฟในการผลิต ประเด็นนี้หนีไม่พ้นการแซวคู่แข่งในวงการเบอร์เกอร์ด้วยกัน ว่าไม่มีใครนำเบอร์เกอร์มาย่างไฟเหมือน Burger King โดย Burger King ใช้วิธีเพิ่มคำว่า ever ลงไปด้วยกลายเป็น first flame-grilled donut ever สะท้อนว่าจะไม่มีใครทำได้แบบ Burger King ตลอดกาล

สำหรับร้าน Burger King ที่จะให้บริการเจาะรู ประกอบด้วย 5 สาขาเช่นที่บอสตัน ไมอามี ลอสแอนเจลิส นิวยอร์กซิตี้ และซอลต์เลกซิตี้

ส่วนอื่นของแคมเปญนี้ ยังมีความร่วมมือระหว่าง Burger King และ Tasty ซึ่งเป็นตัวพ่อของวงการโซเชียลด้านรายการอาหารในเครือ BuzzFeed ทั้งคู่จัดทำวิดีโอสอนวิธีการสอนวิธีสร้าง Whopper Donut ให้คนรักเบอร์เกอร์สามารถเจาะรูเบอร์เกอร์ของตัวเองได้ง่ายที่บ้าน

ที่มา: : MarketingDive

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2018/06/burger-king-whoppers-donut/

Burger King รณรงค์ neutrality ผ่านเบอร์เกอร์

เพื่อให้ความรู้เรื่อง net-neutrality หรือแนวคิดสนับสนุนความเป็นกลางให้ทุกเว็บไซต์มีความเร็วในการใช้งานที่เท่าเทียมกัน วันนี้ Burger King คลอดโฆษณา neutrality ดูสนุกชมง่ายที่สะท้อนภาพให้ผู้ชมเห็นได้ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกค้าต้องเสียเงิน 26 เหรียญหรือประมาณ 1,000 บาทเพื่อให้ได้รับ Whopper เร็วขึ้นกว่าเดิม

ความเคลื่อนไหวนี้ของ Burger King ถูกมองว่าวิดีโอที่เน้นให้ความรู้ผู้ชมได้อย่างเก๋ไก๋ โดยแทนที่จะมานั่งอธิบายด้วยคำพูดยืดยาว เจ้าพ่อฟาสต์ฟู้ดใช้คำว่า “Whopper neutrality” มาเป็นตัวอธิบายประเด็น net neutrality ที่กำลังร้อนแรงในสังคมสหรัฐฯ

ทุกวันนี้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตถูกควบคุมด้วยแนวคิด net neutrality ทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ต้องรักษาระดับความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ทุกแห่งอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์รายใหญ่ที่เงินทุนหนา หรือเว็บไซต์ที่มีเงินทุนน้อย ล้วนไม่สามารถใช้เงินฟาดเพื่อเพิ่มความเร็วให้ผู้ใช้เข้าถึงได้เร็วกว่าได้

การเปิดตัววิดีโอชิ้นนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Burger King แสดงตัวต่อสาธารณชนว่าสนับสนุนแนวคิดนี้ เห็นได้ชัดว่าบริษัทไม่เห็นด้วยกับการตั้งราคาบริการที่ต่างกันเพื่อหวังผลเรื่องความรวดเร็ว

ในวิดีโอ มีการใช้คำว่า “mbps” เป็นตัวย่อคำว่า “making burgers per second” ซึ่งลูกค้าจะได้รับเบอร์เกอร์ช้าลง หากไม่จ่ายเงินพิเศษ จุดนี้เป็นการล้อ “Mbps” ซึ่งใช้วัดความเร็วอินเทอร์เน็ต ”megabits per second” อย่างชนิดที่หลายคนยกนิ้วให้

ที่มา: YouTube

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2018/01/burger-king-neutrality/

เลิกโทร 1112 ได้แล้ว! BURGER KING จับมือ Lalamove สั่งเบอร์เกอร์ผ่านเว็บไซต์ ขอโตออนไลน์

ปกติถ้าจะสั่ง BURGER KING ต้องโทร 1112 แต่หลังจากนี้ไม่ต้องโทรแล้ว เพราะไปร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Lalamove ให้ลูกค้าสั่งผ่านหน้าเว็บไซต์ แล้วหลังจากนั้นรอรับแบบเดลิเวอรี่จาก Lalamove ได้เลย

แช่เบอร์ 1112 ไว้เหมือนเดิม แต่พยายามไม่ให้โต เน้นออนไลน์แทน

BURGER KING แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดเบอร์เกอร์รายใหญ่ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Lalamove บริการโลจิสติกส์ออนดีมานด์มาแรงแห่งยุค ดีลนี้เป็นการปรับตัวของ BURGER KING ประเทศไทยที่ต้องนำตัวธุรกิจเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า จากฐานลูกค้าที่โตขึ้นมาก การขยายช่องทางสั่งอาหารไปสู่ออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ “ถ้าย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อนหน้าจะพบว่า ฐานลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 60% แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นลูกค้าหลักของเราคือคนไทย 60%” 

  • ก่อนหน้านี้หากจะสั่ง BURGER KING แบบเดลิเวอรี่จะต้องโทรผ่านเบอร์ 1112 ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า ยอดขายผ่านการโทรสั่งเดลิเวอรี่ของ BURGER KING คิดเป็น 5% ของยอดขายเท่านั้น

แต่หลังจากนี้เมื่อ BURGER KING จับมือกับ Lalamove การสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่จะไม่ทำผ่าน 1112 แล้ว แต่ให้เข้าไปสั่งที่ delivery.burgerking.co.th

“ตัวเบอร์โทร 1112 ก็ยังเอาไว้เหมือนเดิม ตลาดจะอยู่เท่าเดิม ไม่โตแล้ว ต่อไปไม่ต้องกดเบอร์ 1112 เพราะจะให้ไปสั่งในเว็บไซต์แทน”

  • จากการทดลอง Soft Launch บริการเดลิเวอรี่พบว่า ค่าเฉลี่ยยอดบิลของลูกค้ามีราคาสูงขึ้น 2 เท่า คิดโดยเฉลี่ยยอดบิลอยู่ที่ 220 บาท แต่เมื่อสั่งแบบเดลิเวอรี่จะอยู่ที่ 400 – 500 บาท ผู้บริหาร BURGER KING ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะสั่งกันเป็นกลุ่ม ถือเป็นสัญญาณที่ดี
ซ้าย-นายชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการลาล่ามูฟ ประเทศไทย ขวา-ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ขยายสาขาใหม่นับจากนี้ จะมี Lalamove เป็นพันธมิตรหลัก

การขยายสาขาของ BURGER KING ในปี 2018 ที่วางไว้ประมาณ 20 สาขาหลังจากนี้จะไม่ผูกตัวเองไว้กับ 1112 อีกต่อไป เพราะหลังจากการจับมือกับ Lalamove ทำให้มีความแกร่งในด้านการจัดส่งสินค้า

ชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการลาล่ามูฟ ประเทศไทย บอกว่า “ตลาดอาหารเดลิเวอรี่เป็นตลาดที่ใหญ่มาก คาดว่าโต 11 – 15% มีขนาดใหญ่ถึง 27,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ได้จับมือกับ LINE ประเทศไทย ส่วน BURGER KING ก็นับเป็นฟาสต์ฟู้ดเจ้าแรกที่ได้มาจับมือด้วย”

ปัจจุบัน Lalamove มีพาหนะสำหรับขนส่งเป็นมอเตอร์ไซค์กว่า 40,000 คัน บริการทั่วกรุงเทพและปริมณฑล นอกจากนั้นกรรมการผู้จัดการของ Lalamove ยังบอกด้วยว่า บริการของ Lalamove ครองตลาดไปกว่า 60 – 70% ของตลาด ด้วยความแข็งแกร่งของบริการของ Lalamove ตัวเลขเหล่านี้เป็นเรื่องน่าพึงพอใจอย่างมาก

ปี 2016 Lalamove มีรายได้ 140 ล้านบาท แต่ปี 2017 นี้รายได้จะพุ่งสูงไปถึง 540 ล้านบาท

สรุป : เมื่อ “ออนไลน์” คือฐานที่มั่นของธุรกิจ จับมือพันธมิตรดิจิทัลจึงสำคัญ

ปีนี้ BURGER KING มีรายได้เพิ่มขึ้นมา 30 – 40% รายได้ของปีนี้จะตกอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ยอดขายของ BURGER KING ที่โทรผ่าน 1112 มาสั่งคิดเป็น 5% เท่านั้น ดังนั้นการจับมือกับ Lalamove เพื่อเสริมความแกร่งในการทำตลาดเดลิเวอรี่ ยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ว่าในปีหน้า 2018 คือจะทำให้ได้สัดส่วนถึง 10% ของยอดขายทั้งหมด

นอกจากนั้น BURGER KING ยังมองว่า จะทำบริการ Pick-up ที่ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าในขณะเดินทางแล้วมารับที่สาขาได้เลย (ตรงนี้ยังไม่ชัดว่าจะทำเมื่อไหร่ แต่บอกว่าจะทำแน่) ส่วนเรื่องการจ่ายเงินต้องยอมรับว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังยินดีจ่ายเงินเป็นเงินสดที่จุดหมายปลายทาง เพราะฉะนั้น การผลักดันให้จ่ายเงินในรูปแบบ Cashless Society ก็เป็นสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่

อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามถึงการทำรูปแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ แต่ไม่ทำแอพพลิเคชั่นของ BURGER KING แต่คำตอบที่ได้คือ “แม้แต่เจ้าใหญ่อย่างไก่ทอดเจ้าหนึ่งยังทำแต่เว็บไซต์ ยกเลิกแอพพลิเคชั่นไปแล้ว เราก็คิดว่าเดินทางนั้น แต่ถ้าถามว่าจะแอพพลิเคชั่นไหม อันนี้ต้องขอคิดก่อน”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-lalamove-delivery/

ร้านอาหารในญี่ปุ่นคิดเมนูเบอร์เกอร์ Dragon Ball เสิร์ฟพร้อมลูกแก้วมังกร และเฟรนช์ฟรายส์

Dragon-Ball-Burger

ในประเทศญี่ปุ่นมีเบอร์เกอร์ที่หลากหลายมาก ทุกอย่างที่เสิร์ฟมาบนขนมปังคือเบอร์เกอร์ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีร้านอาหารที่นั่นคิดค้นเมนูเบอร์เกอร์ Dragon Ball ที่ทำมาจากเนื้อไก่ เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์ และลูกแก้วมังกร แหล่งข่าวบอกว่าสามารถหาทานได้ใน J-World โตเกียว

นอกจากเบอร์เกอร์ Dragon Ball ยังมีเบอร์เกอร์ที่ทำตามธีมของอนิเมะเรื่องอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น Kinnikuman, Captain Tsubasa, City Hunter, Fist of the North Star เป็นต้น

Dragon-Ball-Z-Burger

Dragon-Ball-Burgers

Dragon-Ball-Burger-J-World

ที่มา – Kotaku

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=196421

เชนเบอร์เกอร์ดัง Shake Shack ประกาศนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบแรงงานคน

หุ่นยนต์กับคนคงจะเป็นประเด็นให้ต้องติดตามในหลายวงการ ล่าสุด เชนเบอร์เกอร์ Shake Shack บอกจะนำเอาหุ่นยนต์มาใช้ในสาขาที่นิวยอร์ก แต่คนจะไม่ตกงาน แถมจ้างชั่วโมงละ 15 เหรียญด้วย

Photo: flickr.com by Kathy YL Chan

ยืนยันไม่กระทบคน หุ่นยนต์แค่มาช่วยเสริมการทำงาน

เชนเบอร์เกอร์ชื่อดัง Shake Shack ประกาศนำเอาตู้อัตโนมัติเข้าไปใช้ในสาขาที่ Astor Place นครนิวยอร์ก เพื่อทดแทนการสั่งอาหารแบบเดิมๆ ที่ต้องมีพนักงานคนมาเป็นตัวกลาง

ไอเดียนี้เป็นความต้องการในสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า เพราะลูกค้ามาสั่งเบอร์เกอร์ที่ร้านผ่านตู้ก็ได้ หรือจะสั่งผ่านแอพพลิเคชั่น แล้วให้ไปส่งแบบเดลิเวอรี่ก็ได้ ช่องทางนี้ Shake Shack มองว่าจะทำให้การจ่ายเงินเป็นแบบไร้เงินสดทั้งหมด

ข้อตำหนิจากการจะนำเอาการสั่งอาหารผ่านหุ่นยนต์ไปใช้นี้ มีอย่างเช่น หรือว่าต่อไปนี้ Shake Shack จะไม่ใส่ใจพนักงานแล้ว? 

  • ผู้บริหาร Shake Shack บอกแบบนี้ว่า ไม่จริง เราต้องการทำให้พนักงานของเราตอบโจทย์ความต้องการของเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคตต่างหาก ดูอย่างตอนนี้ ถ้าเราไปจองตั๋วเครื่องบิน จองโต๊ะร้านอาหาร หรือทำธุรกรรมทางการเงินบางอย่าง สิ่งเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีคนในกระบวนการใดๆ เลย ส่วนพนักงานที่เหลือก็เพิ่มทักษะให้ทำเช่น ฝึกปรุงอาหารให้ชำนาญ จัดการงานที่ใช้ทักษะสูงและหุ่นยนต์ทำไม่ได้ ฯลฯ
Photo: Shake Shack

ตอนนี้หุ้นเบอร์เกอร์ตก แต่ตามกฎหมายให้จ่าย 15 เหรียญต่อชั่วโมง

ข่าวเกี่ยวกับหุ้นเชนเบอร์เกอร์ตอนนี้คือ “ร่วง” ด้วยปัจจัยหลายอย่างเช่น มีหลายรายเกินไปในตลาด แค่สำหรับในตอนนี้สาขาที่ Astor Place ของ Shake Shack ระบุว่ากำลังเร่งฝึกอบรมพนักงานกว่า 60 คนให้พร้อมทำงาน และ ได้สัญญาไว้ว่าจะจ่ายเงินให้พนักงานที่สาขานี้คนละ “15 เหรียญต่อชั่วโมง” ในขณะที่สาขาอื่นๆ ของ Shake Shack ยังจ่ายเพียง 12.50 เหรียญเท่านั้น นอกจากนั้นก็ได้บอกไว้ว่า จะเพิ่มค่าแรงให้ 20% หรืออาจมากกว่านั้นตามสภาพธุรกิจ

Photo: Shake Shack

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ข่าวการนำเอาหุ่นยนต์มาใช้งานได้เกิดขึ้นหลังจากที่ Danny Meyer ได้ระดมทุนจากเอกชนจำนวน 200 ล้านเหรียญ เพื่อมาลงในด้านพนักงานของ Union Square Hospitality Group ซึ่ง Shake Shack เคยอยู่ในกลุ่มนี้มาก่อน

หลังจากนั้น Meyer ผู้ก่อตั้ง Shake Shack และซีอีโอของ Union Square Hospitality Group ออกมาบอกว่า “การนำเอาระบบอัติโนมัติมาใช้ใน Shake Shack ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับกองทุนก้อนใหม่ที่เพิ่งระดมได้มา เพราะตั้งแต่ปี 2015 ที่ Shake Shack เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับ Union Square Hospitality Group อีกต่อไป”

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/shake-shack-chain-burger-automation/