สรุปงานสัมมนา M.Tech Partner Connect 2016 อัปเดตโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยเพียบ

m-tech_logo_100

M-Solutions Technology (Thailand) Co., Ltd. หรือ M.Tech ประเทศไทย ประกาศพร้อมนำเสนอโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยในยุค Digital Economy แบบครบวงจรภายในงาน M.Tech Partner Connect 2016 ที่เพิ่งจัดไปเมื่อต้นเดือนกันยายน 2016 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งอัปเดตเทรนด์สำคัญและแนวโน้มทางด้าน Digital Transformation

“M.Tech พร้อมให้บริการ IT Solutions และ Consultancy Services แบบครบวงจรทั่วประเทศไทย ตั้งแต่การ POC ไปจนถึงการซัพพอร์ตแบบ 7/24 เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญและผลิตภัณฑ์จาก Vendors ที่เลือกสรรมาอย่างดี เพื่อมุ่งสู่ความเป็น Best-of-Breed IT Solution Provider ชั้นนำระดับโลก” — Eugene Pui ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ M.Tech กล่าวเปิดงาน

m-tech_partner_2016_6

Digital Transformation สร้างโอกาส สร้างธุรกิจ

ปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเรามากมาย ทั้งด้านการทำงานหรือด้านความเป็นส่วนบุคคล กระทรวง ICT เองก็มีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนสังคม ธุรกิจ และเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และส่งเสริมประชาชนชาวไทยให้มีความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

“สำหรับภาคธุรกิจเอง Internet เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอย่างมหาศาล คนที่ทำธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเหล่านั้นจะสร้างโอกาสบางอย่างเพื่อให้ธุรกิจใหม่ๆ ถือกำเนิด หรือทำให้ธุรกิจที่มีอยู่ก้าวกระโดดไปข้างหน้าได้ “ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)” และ “นวัตกรรม (Innovation)” เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยที่กำลังดำเนินเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 หรือที่เรียกว่า Smart Thailand” — ดร. รัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโสจาก ETDA ให้ความเห็น

m-tech_partner_2016_3

Data Breach เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือปกป้องข้อมูลแบบ Inside Out

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ข้อมูลขององค์กรจากเดิมที่ถูกจัดเก็บอยู่ในกระดาษหรือสิ่งพิมพ์ก็เปลี่ยนมาจัดเก็บในรูปของดิจิทัลแทน สิ่งที่ตามมาคือการเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูล (Data Breach) จากสถิติของ Gartner พบว่า ในปี 2015 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์การเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูล (ที่ถูกเปิดเผยออกมา) มากถึง 2,122 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 107,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่บริษัทต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ยนานถึง 6 เดือนครึ่งจึงจะค้นพบว่าระบบของตนถูกเจาะและข้อมูลถูกขโมยออกไป

“Data Breach เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทอย่างแน่นอน เราควรเปลี่ยนแนวคิดจากการป้องกันเฉพาะ “Outside In” ให้ครอบคลุมไปถึง “Inside Out” ด้วย แฮ็คเกอร์เมื่อเข้ามาภายในบ้านของเราได้แล้ว ทำอย่างไร เขาจึงจะเอาของสำคัญของเราออกไปไม่ได้ หรือเอาไปได้แต่ไม่เกิดประโยชน์ คำตอบคือ การทำ Encryption หรือ Tokenization นั่นเอง เหล่านี้ช่วยให้แฮ็คเกอร์หมดกำลังใจ และเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นคนอื่นแทน” — คุณภิญโญ ตรีเพชราภรณ์ ผู้อำนวยการการบริการจัดการความเสี่ยงจาก Deloitte ให้คำแนะนำ

m-tech_partner_2016_4

ภัยคุกคามทวีความรุนแรง M.Tech เลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการต่อกร

“เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Advanced Persistent Threats, Advanced Malware หรือ Zero-day Exploits เราจำเป็นต้องเลือกใช้เทคโนโลยีที่สามารถก้าวเท่าทันแฮ็คเกอร์ นั่นคือสาเหตุว่าทำไม M.Tech ถึงเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Vendor ชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Allot, Blue Coat, Check Point, Imperva, Ixia, Nutanix, Seclore, Solarwinds, RSA, Titus และอื่นๆ” — คุณกฤษณา รองผู้จัดการประจำประเทศไทยของ M.Tech ระบุ

“นอกจากการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีแล้ว M.Tech ยังเป็นศูนย์อบรมที่ได้รับการรับรองจาก Vendors เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ใช้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลอุปกรณ์นั้นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้อย่างถูกต้อง และดึงความสามารถของอุปกรณ์ออกมาได้อย่างเต็มที่” — คุณกฤษณาเสริม

ตัวอย่างโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก M.Tech ที่แสดงภายในงาน

Symantec + Blue Coat

Blue Coat เป็นผู้ให้บริการโซลูชัน Web & Cloud Security ชั้นนำของโลก พร้อมนำเสนอโซลูชันใหม่ล่าสุด คือ Cloud Access Security Broker (CASB) ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการใช้ Cloud Applications (CloudSOC) สำหรับรับมือกับปัญหา Shadow IT และ Shadow Data โดยเฉพาะ

“หลังจากที่ถูก Symantec เข้าควบรวมกิจการไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้โซลูชันของ Symantec และ Blue Coat ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Cyber Security ตั้งแต่ระดับ Endpoint ไปจนถึงระดับ Network และ Cloud แบบครบวงจร” — Kelvin Chua จาก Blue Coat

Solarwinds

Solarwinds เป็นโซลูชันสำหรับใช้ติดตามและเฝ้าระวังระบบ IT ขององค์กรแบบรวมศูนย์ โดยถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ฝ่าย IT แต่ละทีมใช้เครื่องมือแตกต่างกันออกไป เช่น เฝ้าระวังระบบเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ และแอพพลิเคชัน ส่งผลให้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น การเชื่อมโยงความสัมพันธ์และค้นหาต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงทำได้ยาก

Solarwinds สามารถเฝ้าระวังระบบ IT ทั้งหมดได้ผ่านหน้าจอเพียงหน้าจอเดียว รวมไปถึงสามารถค้นลงไปดูข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายละเอียดเชิงลึกได้ ช่วยให้ฝ่าย IT สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย ลดเวลาในการหาต้นตอของปัญหา และภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เรียกคุณสมบัติที่สำคัญนี้ว่า Application Stack Management (AppStack) ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 30 วัน

“จะดีกว่าไหม ถ้าทุกทีมมีเครื่องมือสำหรับเฝ้าระวังเดียวกัน แชร์ข้อมูลหากัน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้ได้รวดเร็วที่สุด” — Pichsinee Khammaratana จาก Solarwinds

Check Point

“ล่วงหน้า 1 ก้าว” เป็นเทคนิคการป้องกันไม่ให้ภัยคุกคามทั้ง Known และ Unknown Threats มีสิทธิ์จู่โจมระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ของผู้ใช้ โดยอาศัยการบล็อกทุกๆ ขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การลาดระเวน การลอบส่งมัลแวร์เข้ามาในเครือข่าย การะเจาะระบบผ่านช่องโหว่ และการติดต่อกับ C&C Server และเพื่อให้มั่นใจได้ว่า สามารถบล็อกภัยคุกคามได้อย่างถูกต้อง 100% ThreatCloud ระบบ Security Intelligence ของ Check Point จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ

นอกจากนี้ Check Point ยังมีโซลูชันใหม่สำหรับการป้องกัน Unknown Malware รวมไปถึง Ransomware เรียกว่า SandBlast ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติสำคัญ 5 ประการ คือ Threat Emulation, Threat Extraction, Zero Phishing, Endpoint Forensics และ Zero Ransomware

“เราสามารถหยุด Malware และ Exploits ได้ตั้งแต่ Pre-infect Stage ก่อนที่ภัยคุกคามเหล่านั้นจะเข้าถึงอุปกรณ์ Endpoint หรือระบบเครือข่าย” — Naruenart Jaikwang จาก Check Point

Imperva

จากรายงาน Data Breach Investigation Report ของ Verizon ระบุว่า Web Attacks เป็นการโจมตีอันดับหนึ่งที่พบในปี 2015/2016 โซลูชัน SecureSphere WAF ของ Imperva ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเว็บแอพพลิเคชันอันแสนสำคัญขององค์กรจากภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น OWASP Top 10, Automated Attacks, DDoS Attacks และอื่นๆ

คุณสมบัติเด่นของ SecureSphere WAF คือ การตรวจจับการบุกรุกโจมตีแบบ Anomaly-based เรียกว่า Dynamic Profiling ซึ่งเป็นการติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานเว็บแอพพลิเคชันที่ผิดปกติของผู้ใช้ นอกจากนี้ SecureSphere WAF ยังได้รับการสนับสนุนโดย Threat Radar ระบบ Threat Intelligence ของ Imperva อีกด้วย

“เรามีความภาคภูมิใจที่เป็น Leader แต่เพียงผู้เดียวบน Magic Quadrant ทางด้าน WAF ของ Gartner เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน สิ่งนี้ช่วยการันตีว่าโซลูชันของเราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีเพียงใด” — Daniel Toh จาก Imperva

Titus

Titus เป็นโซลูชันการจำแนกระดับความสำคัญของข้อมูล (Data Classification) ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันเชิงธุรกิจ เช่น Office 365 และ MS Exchange ได้อย่างไร้รอยต่อ ผู้ใช้สามารถระบุความสำคัญของเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น Confidential, Secret, Public หรือปรับแต่งเป็น Label อื่นๆ ได้ตามความต้องการ เรียกว่าการทำ Virtual Marking ซึ่งสามารถนำไปกำหนดเป็นนโยบายเพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหลสู่ภายนอกได้ นอกจากนี้ Titus ยังสามารถทำงานร่วมกับโซลูชันอื่นๆ เช่น DLP, ERM, Encryption Software หรือ SIEM ได้อีกด้วย

Seclore

โดยปกติแล้ว ผู้ใช้สามารถควบคุมและจัดการการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนได้ตามความต้องการ แต่ความท้าทายสำคัญของข้อมูลที่อยู่ในรูปดิจิทัลคือ เมื่อไฟล์ข้อมูลนั้นๆ รั่วไหลออกสู่ภายนอก ผู้ใช้จะติดตามและควบคุมการเข้าถึงไฟล์เหล่านั้นได้อย่างไร Seclore ผู้ให้บริการโซลูชัน Digital Right Management ชั้นนำพร้อมตอบโจทย์ความต้องการนี้ โดยมีคุณสมบัติเด่น 4 ประการ คือ

  • ใครสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ – ระบุผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ได้ตามความต้องการ
  • เข้าถึงไฟล์ได้ถึงระดับไหน – กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์ เช่น ดู แก้ไข สั่งพิมพ์ คัดลอก และอื่นๆ
  • เข้าถึงไฟล์ได้ถึงเมื่อไหร่ – กำหนดวันหมดอายุของไฟล์ หรือระบุเป็นข่วงเวลานับตั้งแต่วันเปิดไฟล์ครั้งแรกได้
  • เข้าถึงไฟล์จากที่ไหน – กำหนดหมายเลข IP ประเภทของอุปกรณ์ หรือคอมพิวเตอร์ที่อนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ได้

m-tech_partner_2016_2

เกี่ยวกับ M.Tech

M-Solutions Technology (Thailand) Co., Ltd. หรือ M.Tech ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน Regional Solutions Distributor ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้บริการโซลูชันและที่ปรึกษาทางด้าน IT ไม่ว่าจะเป็น IT Security, Application Performance Management และ Network & Infrastructure โดยครอบคลุมตั้งแต่การ POC ออกแบบ ติดตั้ง และสนับสนุนหลังการขายแบบ 7/24 นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์อบรมที่ได้รับการยอมรับจาก Vendor ชั้นนำหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Blue Coat, Check Point, Citrix, Nutanix และ Riverbed

M.Tech มีสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ และมีสำนักงานสาขามากถึง 17 แห่งให้บริการครอบคลุม 33 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยมีพันธกิจที่สำคัญคือ การมุ่งมั่นสู่ความเป็น Best-of-Breed IT Solution Provider ชั้นนำระดับโลก ผู้ที่สนใจโซลูชันของ M.Tech สามารถติดต่อพนักงานขายได้ผ่านทางโทรศัพท์ 02-650-6500 หรืออีเมล thmarcom@mtechpro.com

m-tech_partner_2016_5

from:https://www.techtalkthai.com/m-tech-partner-connect-2016/