คลังเก็บป้ายกำกับ: XIAOMI_YOUPIN

Xiaomi Mijia Smart Audio Glasses แว่นตาอัจฉริยะ คุยก็ได้ฟังเพลงก็ดี ใช้งานก็ยาวนาน

Xiaomi Mijia Smart Audio Glasses

Xiaomi Mijia Smart Audio Glasses แว่นตาที่มาพร้อมลำโพงที่จะทำให้คุณได้ยินเสียงแบบ 360 องศา พร้อมด้วยไมโครโฟนที่มีเทคโนโลยี AI ในการลดเสียงรบกวนให้ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์นี้จะเปิดตัวในประเทศจีนเร็วๆ นี้ ในราคา 799 หยวน (ประมาณ 3,900 บาท) 

Xiaomi Mijia Smart Audio

จุดเด่นของ Xiaomi Mijia Smart Audio Glasses 

  • มีลำโพง Super Balance Speaker 2.0 ในตัว ขนาด 128 มม. ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์เสียงแบบ 360° 
  • ไมโครโฟนตรงขาแว่นตาที่มี AI ในการลดเสียรบกวนด้านข้าง 
  • ขาแว่นมีแผงควบคุมระบบสัมผัสขนาด 30 มม. เพื่อหยุดเพลงชั่วคราวหรือปรับระดับเสียง และสามารถตั้งค่าท่าทางแบบกำหนดเองได้ในแอพที่ให้มา 
  • ใช้แอพที่ได้มาเพื่อค้นหาแว่นตาของคุณหากคุณทำมันหาย (หมดปัญหาเรื่องแว่นหาย!)
  • อุปกรณ์สวมใส่มีให้เลือก 5 แบบ โดยมีกรอบเต็มสีดำ, ครึ่งกรอบ, ทรงกลม,ทรงนักบิน, และแว่นกันแดดหนึ่งคู่ 
  • กลไกช่วงขาพับที่ไม่เหมือนใครทำให้คุณสามารถถอดแขนแว่นออกได้อย่างง่ายดาย เพื่อสลับระหว่างสไตล์กรอบต่างๆ ตามสไตล์การแต่งตัววันนั้นๆ
  • แว่นตามีน้ำหนักเบาเพียง 38.1 กรัม  
  • รองรับคำสั่งเสียง Xiao AI 
  • ใช้โทรคุยได้นานถึง 7 ชั่วโมง! และเล่นเพลงได้นานถึง 10 ชั่วโมง!
Xiaomi Mijia Smart Audio

Xiaomi ยังเสริมอีกว่าแว่นตาอัจฉริยะ Mijia สามารถใช่ร่วมกับระบบปฏิบัติการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, Mac และ Windows ต่างๆ สำหรับใครที่สนใจ Xiaomi Mijia Smart Audio Glasses ก็มีโปรช่วงพรีออเดอร์เริ่มตั้งแต่วันที่ 12-26 เมษายน โดยจะได้ซื้อในราคา 799 หยวน (ประมาณ 3,900 บาท) ลดลง 11% จากราคา 899 หยวน (ประมาณ 4,400 บาท) ส่วนจะวางขายที่ประเทศอื่นหรือไม่ยังคงต้องติดตามต่อไป

Advertisementavw

ที่มา: xiaomiyoupin, NotebookCheck.net

from:https://notebookspec.com/web/696811-xiaomi-mijia-smart-audio

Xiaomi BRAND FAIR ECO GIFT DAYแจกคูปองลดเพิ่ม สูงสุด 200

XIAOMI BRAND FAIR ECO GIFT DAY

สายแก็ดเจ็ตต้องไม่พลาด! XIAOMI BRAND FAIR ECO GIFT DAY  SAVE 56% แจกคูปองลดเพิ่ม สูงสุด 200.- 

ขนสินค้าแบรนด์ Xiaomi ตัวเด็ดๆ มาให้ช้อปได้จุใจในงาน XIAOMI BRAND FAIR ECO GIFT DAY พร้อมแจกคูปองส่วนลดให้มากถึง 200.-  มาให้คุณได้เลือกซื้อ งานนี้บอกเลย SAVE ไปถึง 56% คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม อีกทั้งยังผ่อน 0% สูงสุดถึง 10 เดือนอีกด้วยพร้อมจัดส่ง ฟรี ทั่วประเทศ!!

Advertisementavw
คูปองส่วนลดเพิ่ม ตลอดครึ่งเดือน
  • กรอกโค้ด BNNMIBF200 ลดทันที 200.- เมื่อช้อปครบ 1,000.-
  • กรอกโค้ด BNNMIBF70 ลดทันที 70.- เมื่อช้อปครบ 400.-
  • กรอกโค้ด BNNMIBF30 ลดทันที 30.- เมื่อช้อปครบ 200.-

เข้าชมสินค้า คลิก! ช้อปได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 ธ.ค. 64 จะมีสินค้าตัวไหนที่น่าสนใจไปดูกันเลยค่าาา

Pando Air D Plus Air Purifier

Pando Air D Plus Air Purifier 3

NEW LOGO BNN 01

bnn

ตัวแรกมารู้จักกับ เครื่องฟอกอากาศ Pando Air D Plus Air Purifier กรองฝุ่น PM 2.5 สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ ใช้พื้นที่น้อย รองรับขนาดห้อง 30-45 ตารางเมตร กรองอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 95% กรองเชื้อแบคทีเรีย สิ่งปนเปื้อนในอากาศ และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% พร้อมดีไซน์สวยงาม สุดมินิมอล วางตรงไหนของมุมบ้านก็เข้าสุดๆ สร้างอากาศ

ใครที่มองหาเครื่องฟอกอากาศ แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ราคาน่ารักอีกด้วย ต้องจัดแล้ว

ราคา 2,590.- (จากปกติ 5,890.-)
Xiaomi Mi Smart Speaker Thailand Version

Xiaomi Mi Smart Speaker Thailand Version 2

NEW LOGO BNN 01

bnn

เทศกาลสิ้นปีแบบนี้ ขาดเสียงเพลงไปได้ยังไง ตัวนี้เลย Mi Smart Speaker ลำโพงอัจฉริยะ มีกำลังขับ 12W และมี Google Assistant ในตัว โดดเด่นทั้งในด้านของคุณภาพเสียงและการใช้งาน ไดรเวอร์ ให้เบสที่หนักแน่น เสียงร้องที่คมชัด สามารถสั่งงานข้ามห้องได้ด้วยระดับเสียงปกติ มีวงแหวน LED รอบตัว แสดงผลได้ถึง 16 ล้านสี สามารถจับคู่ลำโพงรุ่นเดียวกันได้ถึง 2 ตัว สิ้นปีนี้ร้องเพลงกันให้คอแตกไปเลยสิค้า

ราคา 1,352.- (จากปกติ 1,690.-)
Xiaomi Mi True Wireless Earphones 2

Xiaomi Mi True Wireless Earbuds Basic 2 Black 3

NEW LOGO BNN 01bnn2

ใครกลัวหูแตกมาทางนี้จ้า อยากฟังเพลงอยากเต้นคนเดียวไปกับเสียงเพลงแบบได้ยินคนเดียว ตัวนี้เลยจ้า หูฟังเป็นแบบ Half-In-Ear ให้ความรู้สึกในการใส่จะเป็นการผสมเอกลักษณ์ของ In-Ear ที่เสียงครบถ้วน และ Earbud ที่ให้ความสบายในการส่วมใส่ เข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมระบบการเชื่อมต่ออัตโนมัติ เพียงหยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จ ก็จะทำการเชื่อมต่อทันที แบตฯ ทนถึง 20 ชั่วโมง ใช้งานได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่จัดไม่ได้แล้ววว

ราคา 799.- (จากปกติ 999.-)
Xiaomi Pinlo Mixer

Xiaomi Pinlo Mixer White 1 square medium

NEW LOGO BNN 01

bnn2

ใครสายจัดปาร์ตี้ ทางนี้เลยจ้าของมันต้องมีกับ Xiaomi Pinlo mixer เครื่องปั่นน้ำผลไม้ขนาดมินิ น้ำหนักเบา พกพาง่าย มาในดีไซน์สไตล์มินิมอล ปั่นผักผลไม้และน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีระบบเสริมความปลอดภัย ใบมีดจะทำงานเฉพาะเวลาปิดฝาเครื่องปั่นปิดและถูกกดลงน้ำหนักมือ ทำเครื่องดื่มสุดโปรดได้ง่ายๆ เน้นพกพาปั่นน้ำผลไม้ได้ทุกที่เหมาะที่สุดกับเทศกาลแบบนี้ พกเถอะค่ารับรองปาร์ตี้ไม่ก่อยแน่นอน ราคาก็สุดแสนจะถูกและดีอะไรขนาดนี๊ จัดดดดดเลย !!

ราคา 690.- (จากปกติ 890.-)
Xiaomi Mi Body Composition Scale 2

Xiaomi Mi Body Composition Scale 2 White 2

NEW LOGO BNN 01

bnn30

ปาร์ตี้กันเสร็จแล้ว อย่าลืมชั่งน้ำหนักกันดูนะจ๊ะ เครื่องชั่งน้ำหนักวัดมวลไขมันอัจฉริยะรุ่น 2 เป็นเครื่องชั่งอัจฉริยะ วัดน้ำหนักพร้อมวิเคราะห์และแสดงข้อมูล Body Composition ที่มีความแม่นยำสูง สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของร่างกายในปริมาณ 50 กรัมได้ มีเครื่อชั่งน้ำหนักยังไงก็คุมอยู่ไม่ต้องคิดไปเองกับน้ำหนักตัวอีกต่อไป 

ราคา 552.- (จากปกติ 690.-)

จุใจกันไหมคะกับสินค้า XIAOMI BRAND FAIR ECO GIFT DAY เอามาลดราคาพร้อมให้คูปองส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 200.-  ต้องจัดแล้วกับส่งท้ายปีแบบนี้เอาไปเป็นทั้งของขวัญให้คนอื่นหรือจะซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองก็ได้ หากใครยังดูไม่จุใจยังมีสินค้าอีกมากมายที่น่าสนใจรอคุณอยู่ ไม่ว่าจะสินค้าลดราคาและโปรโมชั่นดีๆ อีกมากมาย ช้อปเลย คลิก

#xiaomi #mi #สินค้าxiaomi #เสี่ยวหมี่ #สินค้าจับฉลาก #ของขวัญจับฉลาก #ของขวัญราคาถูก #xiaomiราคา #เครื่องดูดไรฝุ่นเสี่ยวหมี่ #เครื่องชั่งน้ำหนักxiaomi #สินค้าเสี่ยวหมี่มีอะไรบ้าง #สินค้าxiaomiมีอะไรบ้าง

from:https://notebookspec.com/web/628186-xiaomi-brand-fair-eco-gift-day

7 เก้าอี้คอมน่านั่ง ซื้อไว้ใช้นั่งเพลินชัวร์ เริ่ม 2,990 บาทเอง

เก้าอี้คอมถ้าซื้อดีๆ สักตัวบอกเลยว่าใช้งานได้อีกหลายปี!

seat cover

เก้าอี้คอมอาจจะเป็นของใช้ชิ้นท้ายๆ ที่เกมเมอร์หรือคนทำงาน WFH หลายๆ คนเลือกซื้อกันในช่วง WFH แต่จริงๆ แล้วส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่ามันควรเป็นสิ่งแรกๆ ที่ควรซื้อเอาไว้ใช้งานเลยมากกว่า เพราะว่าถ้าเรานั่งได้ถูกท่าตามหลักสรีระศาสตร์ล่ะก็ ต่อให้นั่งทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมงสักหน่อยก็ไม่เจ็บก้นหรือเมื่อยหลังของเราเกินไปด้วย

ซึ่งเก้าอี้ดีๆ ที่นั่งแล้วถูกหลักสรีระศาสตร์นั้นจะมีราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ ยาวไปจนถึงเก้าอี้ราคาหลักหมื่นบาท ซึ่งราคาที่มากขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีทางสรีระศาสตร์และการออกแบบที่ผู้ผลิตใส่เข้ามาให้ในเก้าอี้ตัวนั้น ซึ่งเราอาจจะไม่เห็นแต่ก็สัมผัสได้เมื่อลองนั่งตามร้านที่มีเก้าอี้รุ่นนั้นๆ ให้ลองนั่ง ซึ่งมันอาจจะตอบโจทย์กว่าเก้าอี้ตัวเก่าที่มีอยู่ในห้องก็ได้

เก้าอี้คอม

แต่ก่อนเลือกซื้อเก้าอี้มานั่งสักตัว ถ้ามีโอกาสผู้เขียนแนะนำว่าให้เราไปลองนั่งเก้าอี้ตัวนั้นๆ ที่สนใจสักหน่อยจะได้รู้ว่าเก้าอี้ตัวนั้นเข้ากับสรีระร่างกายของเราไหม และดูสเปคด้วยว่าเก้าอี้ตัวนั้นปรับความสูงต่ำและเอนได้หรือเปล่า แล้วรับน้ำหนักผู้นั่งได้กี่กิโลกรัม? โดยขั้นต่ำควรรับได้ราว 100 กิโลกรัม และถ้าให้ดีคือควรรับน้ำหนักได้มากกว่าตัวผู้นั่งราว 30 กิโลกรัม เช่นถ้าเราหนัก 90 กิโลกรัม เก้าอี้ควรรับได้ราว 120-130 กิโลกรัม เพื่อให้โช๊คอัพของเก้าอี้ไม่ยุบเร็ว

ส่วนผู้ที่สนใจเรื่องสรีระและการจัดโต๊ะทำงานให้ดีตามหลักสรีระศาสตร์ ผู้เขียนได้เขียนถึงเรื่องดังกล่าวไปในบทความ “เรียนอย่างมีคุณภาพ ด้วย Lenovo Smart Learning” และ “6 ที่วางโน๊ตบุ๊คคุณภาพดีน่าใช้ ตั้งเครื่องแล้วจัดโต๊ะสวยโดนใจแน่นอน” แล้ว สามารถอ่านรายละเอียดวิธีการจัดโต๊ะและที่นั่งเพิ่มเติมได้เลย

7 เก้าอี้คอมน่าซื้อน่านั่ง เล่นเกมเพลินทำงานสบายได้ทั้งวัน

เก้าอี้เกมมิ่งที่ดีต่อสรีระของร่างกาย ราคาไม่แพงและน่าซื้อมานั่งทำงานช่วง WFH หรืออยากอัพเกรดโต๊ะคอมที่บ้านจะมีทั้งหมด 7 ตัวให้เลือกซื้อกันตั้งแต่หลักพันบาทไปจนหลักหมื่นตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน โดยเก้าอี้รุ่นที่เลือกมาแนะนำได้แก่

  1. Neolution E-Sport New Tron 103 (2,990 บาท)
  2. ThunderX3 TC3 (4,990 บาท)
  3. Xiaomi YouPin JY001 (6,290 บาท)
  4. DXRacer Nex (6,490 บาท)
  5. Ergotrend Dual-01BPP (7,400 บาท)
  6. Razer Iskur X (12,900 บาท)
  7. Anda Seat Kaiser (15,900 บาท)
1. Neolution E-Sport New Tron 103 (2,990 บาท)

New Tron103 Black 01

เก้าอี้ตัวแรกที่เลือกมาแนะนำเป็นแบรนด์คนไทยอย่าง Neolution E-Sport New Tron 103 ที่ราคาไม่แพงมากและสามารถเอนหลังให้เข้ากับวิธีการนั่งของแต่ละคนได้ด้วย โดยเก้าอี้จะเป็นหนังพลาสติก PE-PU หุ้มเก้าอี้และพนักพิงแขน ใส่เมมโมรี่โฟมเอาไว้ คืนตัวเมื่อลุกจากเก้าอี้ไม่เป็นรอยบุ๋ม เลือกได้ 3 สีคือดำล้วน, ดำพาดแถบขาวหรือชมพูพาดขาวก็ได้

พนักพิงหลังของเก้าอี้ตัวนี้เหมาะกับผู้นั่งที่สูงราว 160-190 ซม. ปรับองศาเอนหลังได้มากสุด 135 องศา ติดโช๊คอัพแก๊สปรับเก้าอี้สูงต่ำได้ 100 มม. และดึงพนักพิงแขนให้สูงขึ้นได้ รองรับน้ำหนักคนนั่งได้มากสุด 100 กิโลกรัมด้วยกัน ซึ่งเกมเมอร์หรือคนทำงานที่ยังต้องทำงานจากที่บ้านในช่วงนี้อยู่ หรืออยากอัพเกรดเก้าอี้ตัวเดิมให้นั่งดีขึ้นโดยราคาไม่แพงมาก ผู้เขียนแนะนำให้เริ่มจากเก้าอี้ตัวนี้ก่อนได้เลย

สเปคของ Neolution E-Sport New Tron 103
  • ตัวเก้าอี้และพนักวางแขนหุ้มหนัง PE-PU เบาะบุเมมโมรี่โฟม เลือกได้ 3 สี
  • พนักพิงหลังเหมาะกับผู้นั่งสูง 160-190 ซม. ปรับองศาเอนหลังได้ 135 องศา
  • ตัวโช๊คแก๊สกระบอกหนา 1.5 มม. ปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 100 มม. ปรับความสูงของพนักวางแขนได้
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 100 กิโลกรัม
  • ราคา 2,990 บาท (GUMP)
2. ThunderX3 TC3 (4,990 บาท)

TC3 Infographic 700x700 01 600x600 1

เก้าอี้ตัวต่อมาเป็นแบรนด์ ThunderX3 TC3 ที่ออกแบบมาอิงตามหลักสรีระศาสตร์ นั่งทำงานหรือเล่นเกมทั้งวันก็ไม่มีปัญหาและมีให้เลือกรวม 12 สี ตัวผ้าหุ้มเบาะมีเทคโนโลยี AIR Tech ที่เป็นผ้าหนังลายคาร์บอนไฟเบอร์ระบายอากาศดี นั่งสบาย บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษเอาไว้ นั่งสบายไม่เสียทรง

ตัวเก้าอี้ออกแบบให้เอนหลังได้เล็กน้อยที่ 3-18 องศาและดึงคานมือเพื่อเอนหลังได้ 90-180 องศา ปรับระดับความสูงของหมอนคอและหมอนอิงหลังได้ ที่วางแขนสามารถปรับสูงต่ำและเลื่อนเข้าออกให้เข้ากับสไตล์การนั่งได้ ส่วนตัวโช๊คอัพแก๊สทดสอบผ่านมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 แล้ว ปรับสูงต่ำได้ 100 มม. และรับน้ำหนักคนนั่งได้มากที่สุด 150 กิโลกรัม แต่ทางผู้ผลิตแนะนำว่าน้ำหนักตัวผู้นั่งไม่ควรเกิน 125 กิโลกรัมจะทำให้โช๊คเสื่อมสภาพช้าลง เรียกว่าถ้าใครอยากได้เก้าอี้คอมดีๆ สักตัวในงบประมาณไม่เกิน 5,000 บาทเอาไว้นั่งเล่นเกมหรือทำงานจากที่บ้าน ตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

สเปคของ ThunderX3 TC3
  • ตัวเก้าอี้และพนักวางแขนหุ้มหนังลายคาร์บอนไฟเบอร์ มีเทคโนโลยี AIR Tech ระบายอากาศดี บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ เลือกได้ 12 สี
  • พนักพิงหลังเอนเล็กน้อยได้ 3-18 องศา ปรับองศาเอนหลังได้ 90-180 องศา
  • ตัวโช๊คแก๊สผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 ปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 100 มม. ปรับความสูงของพนักวางแขนและเลื่อนเข้าออกได้
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 150 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักที่แนะนำไม่ควรเกิน 125 กิโลกรัม
  • ราคา 4,990 บาท (Shopee)
3. Xiaomi YouPin JY001 (6,290 บาท)

01875738e797a1220d8088414833fa21.jpg 2200x2200q80.jpg

ถ้าใครเป็นแฟนคลับ Xiaomi มีสินค้าของทางบริษัทอยู่หลายชิ้นแล้ว ทางบริษัทก็มีเก้าอี้คอมที่เป็นสินค้าจากแบรนด์ในเครืออย่าง Xiaomi YouPin JY001 ดีไซน์ตัวเก้าอี้โอบรับผู้นั่งได้ดี โครงแข็งแรงไม่แพ้เก้าอี้รุ่นอื่น โดยรุ่นที่สั่งซื้อได้ในประเทศไทยตอนนี้จะมีสีเทาและเลือกได้ว่าจะเอาแบบมีที่วางขาในตัวหรือไม่มีก็ได้

วัสดุหุ้มตัวเก้าอี้เป็นหนัง PU บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษเอาไว้ ระบายอากาศได้ดี นั่งแล้วเอนตัวได้มากสุด 17 องศา มีคานมือปรับเอนหลังได้มากสุด 155 องศา ใช้โช๊คอัพแก๊สปรับความสูงต่ำได้มากสุด 80 มม. รวมทั้งปรับพนักวางแขนสูงต่ำได้ด้วย รับน้ำหนักคนนั่งได้มากสุด 150 กิโลกรัม จัดเป็นเก้าอี้คอมอีกตัวที่น่าสนใจเช่นกันถ้าจะหามานั่งทำงานช่วง WFH แบบนี้

สเปคของ Xiaomi You Pin JY001
  • ตัวเก้าอี้หุ้มหนัง PU บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ เลือกได้ว่าเอาหรือไม่เอาที่วางขา
  • พนักพิงหลังเอนเล็กน้อยได้ 17 องศา ปรับองศาเอนหลังได้ 155 องศา
  • ตัวโช๊คแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 80 มม. ปรับความสูงของพนักวางแขนได้
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 150 กิโลกรัม
  • ราคา 6,290 บาท (Xiaomi YouPin Official Store)
4. DXRacer Nex (ุ6,490 บาท)

DXRacer Nex 6

ถ้าใครไปร้านคอมพิวเตอร์บ่อยๆ อาจจะเห็นชื่อเก้าอี้เกมมิ่งแบรนด์ DXRacer อยู่เนืองๆ และบางคนอาจจะซื้อมานั่งแล้วก็ได้ โดยรุ่นน่าใช้ที่เลือกมาแนะนำนั้นเป็นรุ่น DXRacer Nex ที่ราคาไม่ถูกหรือแพงเกินไปแต่ดีไซน์สวยหรูดีทีเดียว โดยตัวเก้าอี้เป็นโครงโลหะบุโฟมเนื้อแน่นและหุ้มผ้ากับหนังเทียม ทำให้ตัวเก้าอี้นั่งดีและทนทานด้วย

ตัวหนังที่หุ้มหนัง PU และผ้ากับโฟมเนื้อแน่นแบบระบายอากาศได้ดี ทำให้นั่งทำงานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ใช้โช๊คแก๊สทรงกระบอกแข็งแรงปรับความสูงต่ำเก้าอี้ได้ 100 มม. และพนักวางแขนก็ปรับสูงต่ำให้เข้ากับการนั่งทำงานของเราได้ด้วย ส่วนตัวเก้าอี้จะเอนได้ 155 องศา ส่วนน้ำหนักจะรับได้ราว 130 กิโลกรัม ซึ่งถ้าคนนั่งน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัมก็สามารถนั่งได้สบายๆ เหมาะจะซื้อมานั่งทำงานช่วง WFH เป็นอย่างมาก

สเปคของ DXRacer Nex
  • ตัวเก้าอี้หุ้มหนัง PU กับผ้า บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ ระบายอากาศได้ดี
  • พนักพิงหลังปรับองศาเอนหลังได้ 155 องศา
  • ตัวโช๊คแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 100 มม. ปรับความสูงของพนักวางแขนได้
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 130 กิโลกรัม
  • ราคา 6,490 บาท (Mercular)
5. Ergotrend Dual-01BPP (7,400 บาท)

OFMA003320

ฉีกแนวจากเก้าอี้เกมมิ่งมาเป็นเก้าอี้คอมอย่างดีตามหลักสรีระศาสตร์โดยเฉพาะในราคาหลักพันกับ Ergotrend Dual-01BPP ซึ่งตัวเก้าอี้หน้าตาอาจจะไม่คุ้นตาเท่าไหร่ แต่เหมาะกับคนนั่งทำงาน WFH เป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวันมาก ลดอาการเจ็บปวดจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งตัวเก้าอี้ยังทำโครงเป็นโครเมี่ยม แข็งแรงและดูดีด้วย

ตัวเก้าอี้หุ้มหนัง PU ทั้งเบาะรองนั่งและพนักพิงหลัง และจุดพิเศษคือตัวพนักพิงออกแบบเป็น Double back ที่ซัพพอร์ตกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ สามารถปรับความยืดหยุ่นของพนักพิงหลังรวมทั้งองศาและความสูงของที่รองคอได้อีกด้วย ตัวโช๊คอัพแก๊สปรับความสูงของเก้าอี้และรับน้ำหนักได้มากสุด 100 กิโลกรัม ซึ่งเก้าอี้ประเภทนี้ถือว่าเหมาะกับสายทำงานเป็นหลักมาก เนื่องจากตัวเก้าอี้จะพยุงสรีระและกระดูกสันหลังไม่ให้คดงอเสียบุคลิคด้วย

สเปคของ Ergotrend Dual-01BPP
  • ตัวเก้าอี้หุ้มหนัง PU ออกแบบหลังเป็น Double back ซัพพอร์ตกระดูกสันหลัง นั่งนานไม่ปวดหลัง
  • ปรับความยืดหยุ่นของพนักพิงได้ ปรับความสูงต่ำและองศาของที่รองคอได้ด้วย
  • ตัวโช๊คแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 100 กิโลกรัม
  • ราคา 7,400 บาท (Ergotrend Thailand)
6. Razer Iskur X (12,900 บาท)

razer 1

ส่วนแบรนด์ Razer เจ้าแห่งเกมมิ่งเกียร์ก็มีเก้าอี้เกมมิ่งรุ่น Razer Iskur X เป็นตัวเลือกเช่นกัน แต่ราคาจะขึ้นมาหลักหมื่นบาททีเดียว แต่โดยรวมถือว่าคุ้มเช่นกัน เนื่องจากตัวเก้าอี้นั้นนอกจากออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ให้นั่งทำงานหรือเล่นเกมต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงก็ไม่เมื่อยหลังอีกด้วย นอกจากนี้ดีไซน์ยังดูดีไม่แพ้ใครอย่างแน่นอนในราคาเรือนหมื่นนี้

ตัวโครงเก้าอี้เป็นลูกผสมระหว่างโลหะกับไม้อัด บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษและหนัง PVC หุ้มชั้นบนของเก้าอี้เป็นสีดำเดินตะเข็บเขียว เหมาะกับผู้นั่งที่ตัวสูงราว 170-190 ซม. ตัวเก้าอี้ติดตั้งโช๊คอัพที่ผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 แล้ว รับน้ำหนักได้มากสุด 136 กิโลกรัม ปรับความสูงต่ำของเก้าอี้และพนักพิงแขนได้ รวมทั้งตัวพนักพิงแขนสามารถปรับก้มเงยได้ด้วย ส่วนพนักพิงหลังปรับเอนได้มากสุด 139 องศา รวมทั้งรับประกันตัวเก้าอี้นาน 3 ปีทีเดียว ซึ่งถ้าใครอยากเปลี่ยนเก้าอี้ให้ดีและหรู และพร้อมลงทุนสักหน่อย Razer Iskur X ตัวนี้ก็เป็นเก้าอี้ที่น่าสนใจเช่นกัน

สเปคของ Razer Iskur X
  • ตัวเก้าอี้เป็นโลหะกับไม้อัดหุ้มหนัง PVC สีดำเดินตะเข็บเขียว เหมาะกับผู้นั่งสูง 170-190 ซม.
  • พนักพิงหลังปรับเอนได้มากสุด 139 องศา ตัวเก้าอี้และที่วางแขนปรับสูงต่ำได้ รวมทั้งปรับที่วางแขนก้มเงยได้ด้วย
  • ตัวโช๊คแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ ผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 136 กิโลกรัม รับประกันตัวเก้าอี้ 3 ปี
  • ราคา 12,900 บาท (Nadz)
7. Anda Seat Kaiser (15,900 บาท)

Anda Seat Kaiser Series Premium Gaming Chair 2 e1630382605198

เก้าอี้คอมที่เหมาะกับเกมเมอร์รุ่นสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำอย่าง Anda Seat Kaiser เรียกว่าเป็นรุ่นที่สเปคเหลือรวมทั้งออกแบบมาตามหลักสรีระศาสตร์และใช้วัสดุระดับคุณภาพสูง สามารถนั่งทำงานหรือเล่นเกมต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงโดยไม่เมื่อยหรือปวดหลังอีกด้วย เรียกว่าถ้าใครพร้อมลงทุนซื้อเก้าอี้ดีๆ สักตัว แนะนำให้ซื้อมานั่งได้เลย

ตัวเก้าอี้จะเป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่และออกแบบมาอิงตามหลักสรีระศาสตร์บุเมมโมรี่โฟมเนื้อแน่นพิเศษและหุ้มด้วยหนัง PVC เกรดพรีเมี่ยม อายุการใช้งานนานและทนทาน เหมาะกับผู้นั่งที่สูงไม่เกิน 175 ซม. ใช้โช๊คอัพไฮโดรลิคที่ผ่านการทดสอบ BIFMA CLASS 4 แล้ว รับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กิโลกรัม ปรับสูงต่ำได้ 80 มม. ดังนั้นคนตัวใหญ่สักหน่อยก็นั่งได้สบายๆ และพนักวางแขนก็ปรับได้ 4 ทิศทางทั้งขึ้นลงซ้ายขวา, เอียงหรือสไลด์เฉียงเข้าออกก็ได้ นั่งดีไม่มีปัญหาแน่นอน พนักพิงสามารถปรับได้ตั้งแต่ 90-160 องศา รวมทั้งรับประกันนานสุด 6 ปีทีเดียว ดังนั้นถ้าใครต้องการเก้าอี้เกมมิ่งดีๆ เอาไว้นั่งทำงานและเล่นเกมล่ะก็ Anda Seat Kaiser ตัวนี้ก็น่าลงทุนมากๆ

สเปคของ Anda Seat Kaiser
  • ตัวเก้าอี้เป็นโลหะหุ้มหนัง PVC คุณภาพสูง เหมาะกับผู้นั่งสูง 175 ซม.
  • พนักพิงหลังปรับเอนได้ 90-160 องศา ที่วางแขนปรับได้ 4 ทิศทาง
  • ตัวโช๊คแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 80 มม. ผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 
  • รองรับน้ำหนักคนนั่งมากสุด 200 กิโลกรัม รับประกันตัวเก้าอี้ 6 ปี
  • ราคา 15,900 บาท (Anda Seat Thailand)

สรุปสเปค 7 เก้าอี้คอมน่ามีไว้นั่งทำงาน

สำหรับเก้าอี้คอมดีๆ นั้น จะมีตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนหลักหมื่นบาทและสเปคก็จะมีหลากหลายระดับ โดยถ้าสรุปสเปคให้เข้าใจง่ายๆ จะเป็นดังนี้

สเปคของเก้าอี้คอม วัสดุทำเก้าอี้ พนักพิงหลังและการปรับเอน โช๊คอัพเก้าอี้ รับน้ำหนักผู้นั่งสูงสุด ราคา
Neolution E-Sport New Tron 103 เก้าอี้และพนักวางแขนหุ้มหนัง PE-PU เบาะบุเมมโมรี่โฟม เหมาะกับผู้นั่งสูง 160-190 ซม.

ปรับเอนได้ 135 องศา

โช๊คแก๊สกระบอกหนา 1.5 มม.

ปรับสูงต่ำ 100 มม.

100 กิโลกรัม 2,990 บาท
ThunderX3 TC3 เก้าอี้และพนักวางแขนหุ้มหนังลายคาร์บอนไฟเบอร์

AIR Tech ระบายอากาศ บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ

พนักพิงเอนเล็กน้อยได้ 3-18 องศา

ปรับองศาเอนหลังได้ 90-180 องศา

โช๊คอัพแก๊สผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 ปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 100 มม. 150 กิโลกรัม แนะนำว่าผู้นั่งน้ำหนักไม่ควรเกิน 125 กิโลกรัม 4,990 บาท
Xiaomi YouPin JY001 เก้าอี้หุ้มหนัง PU บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ

เลือกได้ว่าเอาหรือไม่เอาที่วางขา

พนักพิงเอนเล็กน้อยได้ 17 องศา

ปรับองศาเอนหลังได้ 155 องศา

ปรับสูงต่ำ 80 มม. 150 กิโลกรัม 6,290 บาท
DXRacer Nex เก้าอี้หุ้มหนัง PU บุโฟมเนื้อแน่นพิเศษ ปรับองศาเอนหลังได้ 155 องศา ปรับสูงต่ำ 100 มม. 130 กิโลกรัม 6,490 บาท
Ergotrend
Dual-01BPP
เก้าอี้หุ้มหนัง PU ออกแบบหลังเป็น Double back ซัพพอร์ตกระดูกสันหลัง ปรับความยืดหยุ่นของพนักพิงได้ ปรับความสูงของที่นั่งและที่รองคอได้ 100 กิโลกรัม 7,400 บาท
Razer Iskur X เก้าอี้โลหะกับไม้อัดหุ้มหนัง PVC

เหมาะกับผู้นั่งสูง 170-190 ซม.

ปรับเอนหลังได้ 139 องศา

ปรับที่วางแขนก้มเงยได้

โช๊คอัพแก๊สปรับสูงต่ำได้

ผ่านการทดสอบ BIFMA CLASS 4

136 กิโลกรัม 12,900 บาท
Anda Seat Kaiser เก้าอี้โลหะหุ้มหนัง PVC คุณภาพสูง

เหมาะกับผู้นั่งสูง 175 ซม.

ปรับเอนได้ 90-160 องศา

ที่วางแขนปรับได้ 4 ทิศทาง

โช๊คอัพแก๊สปรับความสูงต่ำของที่นั่งได้ 80 มม.

ผ่านการทดสอบมาตรฐาน BIFMA CLASS 4 

200 กิโลกรัม 15,900 บาท

จะเห็นว่าเก้าอี้แต่ละตัวนั้นจะมีสเปคแตกต่างกันไปตามราคาอีกด้วย ซึ่งสำหรับคนที่นั่งทำงาน WFH ยาวๆ หรือว่าทำ Home office นั่งทำงานหน้าคอมต่อเนื่องวันหนึ่งหลายชั่วโมง ก็อยากให้ลงทุนซื้อเก้าอี้คอมดีๆ สักตัวเอาไว้ใช้งานกัน เพราะนอกจากจะนั่งสบายทำงานได้หลายชั่วโมงแล้ว ยังดีต่อก้นและหลังของเราอีกด้วย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนจะแนะนำให้ลงทุนซื้อแบบดีๆ ไปเลย เนื่องจากว่าเก้าอี้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทนทานและมีโอกาสเปลี่ยนชิ้นใหม่น้อยมากเหมือนกับโต๊ะทำงานนั่นเอง ซึ่งถ้าซื้อของดีมาใช้ก็อยู่ได้ยาวนานหลายปีอย่างแน่นอน ส่วนใครที่มีเก้าอี้อยู่แต่อยากเปลี่ยนก็อาจจะยกเก้าอี้ตัวเก่าให้คนใกล้ตัวเอาไว้ใช้งานก็ดีเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

iphone usb cover

monitor 4k cover

upgrade laptop cover

from:https://notebookspec.com/web/611202-7-recommend-gaming-chair

Haylou RS3 สมาร์ทวอทช์จอ AMOLED, กันน้ำ 5ATM, วัดค่า SpO2 พร้อม GPS ในตัว วางขายบน Xiaomi Youpin ราว 2,300 บาท

หลายคนน่าจะเริ่มคุ้นเคยกับสมาร์ทวอทช์แบรนด์ Haylou กันบ้างแล้ว ด้วยความที่แต่ละรุ่นเปิดตัวมาด้วยฟีเจอร์แบบอัดแน่นในราคาเป็นมิตรสุด ๆ มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงพันบาทนิด ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่าง Haylou RS3 ที่อัดฟีเจอร์มาให้แน่นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นจอ AMOLED พร้อมเซนเซอร์ครบ ๆ ทั้งวัดชีพจร และวัดออกซิเจนในเลือด แถมยังมี GPS ในตัวอีกต่างหาก…เปิดราคามาได้น่าสนใจสุด ๆ ที่ 70 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 2,300 บาทเท่านั้นเอง

Haylou RS3 ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับเรือธงของค่าย Haylou รุ่นล่าสุด ด้วยสเปคที่จัดเต็มที่สุด และมีราคานำหน้าสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่น ๆ ของตัวเอง ทะลุมาที่หลัก 2,000 บาท (แต่ก็ยังนับว่าราคาเป็นมิตรมาก ๆ หากเทียบกับฟีเจอร์ของมัน) โดยสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มากับดีไซน์ที่ดูเคร่งขรึมหรูหราด้วยตัวเครื่องสีเทาที่ทำจากอลูมิเนียม, มีหน้าปัดแบบวงกลมขนาด 1.2 นิ้ว ใช้พาเนลแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ HD, มีปุ่มกด 2 ปุ่ม และสายรัดข้อมือที่ทำจากซิลิโคนสีดำ

ถูกใจคนรักสุขภาพด้วยเซนเซอร์ที่ให้มาแบบครบ ๆ ทั้ง SpO2 สำหรับการวัดค่าออกซิเจนในเลือด, เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ฟีเจอร์ตรวจจับคุณภาพการนอน พร้อมโหมดออกกำลังกายอีก 14 โหมด ทั้งวิ่งกลางแจ้ง, วิ่งบนลู่, ปั่นจักรยาน, โยคะ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีโหมดว่ายน้ำอีกด้วย เพราะ Haylou RS3 ได้รับมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM ทำให้สามารถใช้งานระหว่างว่ายน้ำได้ด้วยนั่นเอง

มีระบบระบุตำแหน่ง GPS ความแม่นยำสูงซึ่งใช้ชิปคุณภาพจาก Sony ช่วยติดตามระยะทางและตำแหน่งเวลาออกไปวิ่ง, เดิน หรือขี่จักรยานกลางแจ้ง

โดยสามารถเปิดใช้งาน GPS ติดต่อกันได้เป็นเวลา 21 ชั่วโมง หากใช้งานทั่วไปเปิด GPS เฉพาะตอนออกกำลัง จะอยู่ได้ถึง 12 วัน และถ้าไม่ได้ใช้งานอะไรมากจะอยู่ได้สูงสุดถึง 21 วัน ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง

แน่นอนว่า Haylou RS3 มีฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับสมาร์ทวอทช์อย่างการเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อแจ้งเตือนเวลามีสายเข้า, แจ้งเตือน Notification ต่าง ๆ, ควบคุมแอปฟังเพลง, ค้นหามือถือ และยังสามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้อีกด้วย

haylou RS3 เริ่มวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Youpin แล้วในราคา 70 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 2,300 บาท ใครที่สนใจก็ไปลองหาดูที่ Haylou Official Store บนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์บ้านเราได้ในราคาที่เท่ากันเลยครับ

 

ที่มา : Youpin, Lazada

from:https://droidsans.com/haylou-rs3-smartwatch-amoled-display-5atm-spo2/

Xiaomi Youpin เปิดระดมทุน Momoda หมวกนวดอัจฉริยะ นวดได้ทั้งหัว ตา และคอ เปิดราคาเริ่มต้นราว 2,700 บาท

ช่วงนี้ใครที่ทำงานหนัก เพ่งจอนานๆ จนปวดตา ปวดหัว ตึงคอ เราขอแนะนำ The Momoda หมวกนวดศีรษะอัจฉริยะ หนึ่งในโครงการระดมทุนของ Xiaomi Youpin ซึ่งเจ้าเครื่องดังกล่าวสามารถนวดได้แบบ 3 in 1 ทั้ง หัว, ตา และคอ มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำๆ และการควบคุมผ่านมือถือ โดยมีราคาระดมทุนอยู่ที่ 599 หยวน หรือ ราวๆ 2,700 บาทเท่านั้นค่ะ

The Momoda หมวกนวดอัจฉริยะ ที่มากับดีไซน์สุดล้ำ ที่มีรูปร่างคล้ายหมวกกันน็อคสีขาว และส่วนที่ปิดตาสีเงินมันวาว เรียบ หรู ดูล้ำ เหมือนฮีโร่จากขบวนการอะไรซักอย่าง โดยตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 215 x 215 x 256 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 1.1 กิโลกรัม

ผู้ชายก็ใส่ได้

ผู้หญิงก็ใส่ดี

อุปกรณ์ในกล่องทั้งหมด จะมีมาให้ 3 ชิ้น ประกอบไปด้วย หมวกนวดอัจฉริยะ, สายชาร์จ และ คู่มือการใช้งาน ซึ่งภายในหมวกจะมีถุงลม 3 มิติ อยู่รอบๆ บริเวณศีรษะ คอ และตา โดยจะใช้วิธีทำให้ถุงลมพองตัว และหดตัวด้วยความถี่ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนกับการนวดนั่นเองค่ะ

ในการสวมใส่เพื่อใช้งานก็มีขั้นตอนง่ายๆ คือ ดึงส่วนด้านบนและด้านหน้าออกมา จากนั้นก็สวมหมวกลงบนศีรษะ, ปรับขนาดที่คาดให้พอดีกับศีรษะโดยหมุนจากปุ่มด้านหลังและด้านบน แล้วก็เปิดใช้งานเพื่อนวดได้เลย และเมื่อใช้งานเสร็จก็เหมือนเดิมค่ะ หมุนปุ่มด้านหลังและด้านบนจากนั้นก็ถอดออกมาได้เลย

The Momoda มีโหมดการใช้งานทั้งงหมด 4 โหมด คือ

  1. การนวดโดยวัดจากอุณหภูมิบนศีรษะ
  2. การนวดแบบประคบร้อน (ใช้ความร้อนจากแผ่นกราฟีน)
  3. การนวดด้วยระบบสั่น
  4. การนวดรอบศีรษะ

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่านระบบบลูทูธ เพื่อใช้เลือกโหมดต่างๆ, ตั้งเวลานวด, ตั้งอุณหภูมิในการนวดประคบร้อน, ตั้งความแรงของการนวด รวมถึงเปิดเพลงให้ดังผ่านลำโพงในหมวกได้อีกด้วย

ในการนวดผ่อนคลายบริเวณตา จะใช้ความดันเบาๆ จากถุงลม บวกกับความร้อนที่ 40 องศา ซึ่งเหมาะสมต่อสุขภาพบริเวณตา และทำให้รู้สึกสบายผ่อนคลายมากขึ้น และที่สำคัญ ช่วยบรรเทาอาการตาอักเสบ ตาแห้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้สายตามากๆอย่างพนักงานออฟฟิศ หรือ นักศึกษา

ส่วนการนวดบริเวณคอ ถุงลม 3 มิติที่อยู่ด้านในหมวกจะค่อยๆ พองตัวและยุบตัวลงเพื่อเป็นการกดนวดไปที่บริเวณคอ หรือ ถ้าเป็นระบบการสั่นก็จะมีความถี่ในการกดจุดมากถึง 200 ครั้งต่อนาที อีกทั้งมีการประคบร้อนด้วยแผ่นกราฟีนที่อุณหภูมิ 40 องศา ซี่งก็จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียด ความตึงของกล้ามเนื้อ และที่สำคัญยังเป็นการป้องกันโรคยอดฮิตอย่าง “ออฟฟิสซินโดรม“อีกด้วย

เจ้าหมวกนวดอัจฉริยะดังกล่าว รองรับการควบคุมด้วยเสียงจากผู้ช่วยอัจฉริยะ XiaoAI ซึ่งสามารถสั่งงานผ่านแอป MIJIA นั่นเอง

ควบคุมด้วยแอป MIJIA 

ในตอนนี้ Xiaomi ได้เปิดให้ระดมทุน The Momoda บน Youpin โดยจะมีราคาในช่วงระดมทุนอยู่ที่ 599 หยวน หรือประมาณ 2,700 บาท และหากหมดช่วงระดมทุนไปแล้ว ก็จะปรับราคาเป็น 799 หยวน หรือประมาณ 3,600 บาทค่ะ

เรียกว่าเป็นอุปกรณ์ล้ำๆ ที่เหมาะกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่วันๆ ต้องนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือนั่งจิ้มมือถือวันละหลายๆ ชั่วโมง จนปวดหัวปวดตากันเป็นเรื่องปกติเลยล่ะค่ะ…ถ้ามีโอกาสก็อยากจะหามาใช้ซักตัวเลยล่ะ เพราะราคาก็ไม่ได้แรงมากซะด้วยสิ

 

ที่มา : GIZMOCHINA, Xiaoni Youpin 

from:https://droidsans.com/xiaomi-crowdfunds-smart-head-massager/

Review | รีวิว Omthing Airfree หูฟังไร้สายจาก Xiaomi Youpin มาพร้อมฟีเจอร์แน่น ๆ แต่ราคาเบา ๆ แค่ 600 กว่าบาท

ช่วงนี้หูฟังไร้สายประเภท True Wireless กำลังได้รับความนิยมแบบสุด ๆ ไปเลย เพราะมีออกมาเต็มตลาดไปหมดตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งวันนี้เราก็มีหูฟังราคางาม ๆ แต่ฟังก์ชันครบครันอย่าง Omthing Airfree จากแพลตฟอร์ม Xiaomi Youpin มารีวิวให้ดูกันครับ ว่ามันจะน่าสนใจแค่ไหน เพราะราคาของมันเรียกว่าน่าคบหาสุด ๆ อยู่ที่ราว ๆ  600 กว่าบาทเท่านั้นเอง

ก่อนอื่นเรามาดูกันนะครับว่าหูฟังไร้สาย Omthing Airfree ราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาทตัวนี้ จะมีสเปคยังไงบ้าง

สเปค Omthing Airfree 

ขนาดไดรเวอร์ 7 มม.
ย่านความถี่ 2 Hz-20,000 Hz
ฟอร์แมตเสียงที่ซัพพอร์ต SBC
AAC
Active Noise Cancelation (ระบบตัดเสียงรบกวน) ❌
Ambient Sound Mode (ระบบเร่งเสียงภายนอก) ❌
แบตเตอรี่ ฟังได้สูงสุด 4 ชั่วโมง/ชาร์จ 1 ครั้ง
ระบบชาร์จไฟ USB-C
ชาร์จ 1.5 ชม. เต็ม
Bluetooth 5
ระยะ 10 เมตร
น้ำหนัก 43 กรัม

แกะกล่อง Omthing Airfree

ด้วยราคาที่น่าจับจองสำหรับหูฟัง TWS ที่ฟังก์ชั่นเยอะขนาดนี้ มีหรือที่ Droidsans จะพลาด 😁 โดยในส่วนของกล่องบรรจุนั้นก็ค่อนข้างมาตรฐานเลย ภายในเปิดมามีตัวหูฟัง 2 ข้างนอนชาร์จอยู่ในเคสชาร์จขนาด 550 mAh พร้อมสายชาร์จ USB-C แบบสั้น และจุกยาง in-ear 3 ขนาดให้ได้เลือกใช้กัน

วัสดุ และดีไซน์

ทั้งตัวหูฟัง และกล่องมีวัสดุเป็นพลาสติกผิวด้าน จับแล้วไม่ติดเป็นรอยนิ้วมือเลย แถมน้ำหนักก็เบามากอีกด้วย แต่มีข้อสังเกตตรงที่ส่วนฝาของ Omthing นั้นเบาจนรู้สึกว่าไม่แข็งแรงเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามส่วนแม่เหล็กที่ยึดฝาค่อนข้างแรงพอสมควรเลย ทำให้การเปิดปิดหูฟังรู้สึกแน่นปลอดภัยมากครับ

ส่วนของตัวหูฟังนั้นเป็นดีไซน์แบบ in-ear สอดหูพร้อมก้านสั้น ๆ ออกมาเล็กน้อย หูฟังมีท่อเสียงยื่นออกมาทำให้สรีระเหมาะกับหู ใส่แล้วแน่นปลอดภัยมากสะบัดหัวได้ไม่หลุดแน่นอนครับ จากการทดสอบใส่ออกกำลังกายหรือ วิ่งก็ไม่มีปัญหา ใส่สบายได้เป็นเวลานานไม่เมื่อยหูเลย นอกจากนี้ตัวหูฟังยังมีมาตรฐาน IPX4 กันน้ำแหละเหงื่อได้หายห่วงเลยครับ

วิธีเชื่อมต่อ 

วิธีเชื่อมต่อของ Omthing Airfree นั้นก็ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่เปิดฝาแล้วแล้วแตะหูฟังทั้ง 2 ข้างพร้อม ๆ กันประมาณ 7 วินาที จนไฟกระพริบเพื่อเข้าสู่ Pairing Mode จากนั้นก็สามารถทำการเชื่อมต่อกับมือถือได้เลย หลังจากการเชื่อมต่อครั้งแรกเสร็จแล้ว การใช้งานครั้งต่อ ๆ ไปเราก็แค่เปิดฝาแล้วเอาหูฟังออกมาใช้ได้เลยทันทีเพราะมันจะเชื่อมต่อให้เองแล้ว แต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่ว่าบางครั้งตัวมือถือจะเชื่อมต่อกับหูฟังเพียงข้างเดียวเท่านั้น แต่ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ เพียงแค่เอาหูฟังใส่กลับเข้ากล่องแล้วเอาออกมาใหม่

การใช้งานเบื้องต้น

ใน่ส่วนของการควบคุมตัวหูฟังสามารถควบคุมได้ผ่านแถบสัมผัสที่อยู่ด้านข้างของตัวหูฟังทั้ง 2 ฝั่ง แต่น่าเสียดายที่สามารถใช้การควบคุมเพลงได้แค่ เล่น/หยุด เท่านั้น ส่วนการใช้งานสนทนาสามารถใช้แถบสัมผัสข้าง ๆ เพื่อรับสาย และวางสายได้ (ผ่านการโทรผ่านแอปโทรศัพท์เท่านั้น ถ้ามีสายเข้าจาก LINE หรือ Messenger กดรับสายไม่ได้นะครับ) ในส่วนของไมค์สำหรับคุยนั้นก็สามารถใช้งานได้ปกติเสียงคุยชัดดังพอสมควรเลย

คุณภาพการเชื่อมต่อ

Omthing Airfree นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ทีมงาน Droidsans ก็ได้ทำการทดสอบผ่าน Spotify บนเครื่อง Galaxy S20 Ultra เสียงที่ได้นั้นมีความเสถียรไม่มีปัญหาเลย การดูวิดิโอผ่าน Netflix หรือ YouTube ก็ทำได้ราบรื่น เสียงตรงกับภาพ แทบจะไม่สังเกตว่าดีเลย์เลย แต่การเล่นเกมเข้าจังหวะอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะเสียงน่าจะดีเลย์ออกไปราว ๆ 0.3 วินาที

แบตเตอรี่

Omthing เคลมไว้ว่าหูฟังสามารถฟังได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จต่อเพิ่มจากเคสได้อีกถึง 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว จากประสปการณ์ในการใช้งานมาแล้ว สำหรับคนที่ฟังราว ๆ 2 ชั่วโมงต่อวันสามารถอยู่ได้สบาย ๆ ตั้งแต่ต้นยันท้ายสัปดาห์โดยไม่ต้องชาร์จเคสเลยครับ

เสียง

ย่านเสียงต่ำ (Bass)

มาถึงส่วนที่ทุกน่าจะสงสัยกันว่าหูฟัง TWS ราคาเพียงแคนี้เสียงจะเป็นยังไงกันนะ ก็บอกตรงนี้ได้เลยว่าหูฟังเบสดังดี ๆ ตัวหนึ่งนั่นเองครับ เพราะจากที่ลองฟังมาแล้ว ตัว Omthing Airfree นั้นถูกจูนเสียงออกใน Curve ที่ใคร ๆ ฟังก็รู้ได้เลยว่าเบสดังมาก สังเกตุไหมว่าผมใช้คำว่า”ดัง” เพราะถึงแม้ว่าเสียงเบสจะมาเยอะ แต่เสียดายที่มันดังมากกว่าความรู้สึกแบบกระแทกหู ตัวเบสค่อนข้างขาดอิมแพค ทำให้บางครั้งเสียงเบสรู้สึกแห้ง ๆ ไปบ้าง แถมเสียงเบสที่มานั้น จะเป็นเสียงย่านต่ำมาก ๆ อย่างพวกเสียง Kick 808 และกระเดื่องกลอง ที่มาแบบจัง ๆ ตรงหน้า เก็บตัวช้า แต่เสียงจำพวก Mid-bass และ Subbass นั้นไม่ค่อยเด่นเท่าที่ควรเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครที่ชอบฟังเพลงเบสดัง ๆ โยกหัวมันส์ ๆ ก็อาจจะหลงรักเลยล่ะครับ

เสียงกลาง (Mid) 

ความน่าเสียดายของ Omthing Airfree นั่นก็คือเสียงกลางที่ชัดมีรายละเอียดมากกว่าที่คาดไว้มาก เราสามารถแยกเสียงดนตรีได้เป็นชิ้น ๆ เลยทีเดียว แต่ว่ามีข้อสังเกตที่ใหญ่มากคือย้อนกลับไปเรื่องเสียง Bass เพราะเสียงเบสที่ดังและต่อนข้างบวมนั้น กลบรายละเอียดดี ๆ ของเสียงกลางออกซะหมดเลย ทำให้การฟังเพลงแนว Lo-fi หรือ R&B ที่มีเสียง 808 เยอะ ๆ นั้นกลบเสียงย่านกลางออกหมดเลยครับ ถือว่าน่าเสียดายมาก แต่สำหรับใครที่ชอบฟัง Hip-hop หรือเพลง Pop มันส์ ๆ จะก็มาถูกทางเลยครับ

เสียงสูง (High)

รายระเอียดของเสียงสูงใน Omthing Airfree นั้นอาจจะขาดน้ำนวลไปซักนิดเพราะเสียงเบสที่อัดเข้าหน้าตลอดเวลา โดยเสียงสูงส่วนมากนั้นจะมาอยู่หลัง ๆ ทำหน้าที่สนับสนุนมากกว่า อาจจะมีเสียดหูบ้างหากฟังเพลงที่ส่วนประกอบเสียงปนกันเยอะ ๆ อย่างเพลง EDM ก็จะทำให้เสียงสูงหายไปบ้างเป็นบางครั้ง แต่ถ้าฟังเพลงแนว Acoustic ที่ไม่ได้มีเสียงเบสหนัก ๆ มากลบล่ะก็ ฟังได้ไม่มีปัญหาเลยครับ 😁

เวทีเสียง (Soundstage)

ในเรื่องของเวทีเสียงนั้นก็ทำออกมาได้ไม่เบาเลยดีเดียว ด้วยการแยกชิ้นดนตรีที่ทำออกมาได้ดีในระดับนึง แต่มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่เสียงเบสมักดัง และออกมาอยู่ตรงหน้าเสมอทำให้ความรู้สึกกว้างของเสียงนั้นเสียไปทุกครั้งที่มีเสียง Bass ออกมานั่นเองครับ

สรุป

สรุปภาพรวมหูฟัง Omthing Airfree นั้นถือว่าเป็นหูฟังราคาเป็นมิตร ที่น่าจับจองมาลองใช้งานมาก ด้วยวัสดุที่ทนทานน้ำหนักเบา ทำให้ Omthing Airfree เหมาะแก่การใช้งานทั่วไปทั้งออกกำลังกาย และการใช้ฟังเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินได้ อาจมีข้อสังเกตอยู่ที่เสียง Bass ที่หนักมากเอาจนรู้สึกเหมือนอยู่ในบาร์เลย อาจทำให้คนที่ไม่ชอบความตึ้บจากเสียง Bass รู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่…แต่สำหรับชาว Bass head ที่ชื่นชอบการฟังเพลง Pop และ Hip-hop แบบมันส์ ๆ ละก็ ต้องลองซื้อมาใช้ดูครับ 😁

from:https://droidsans.com/review-xiaomi-omthing-tws-in-ear-headphones/

Xiaomi Youpin เปิดตัว Jenner Xs Fully Automatic Flip ชักโครกปิด-เปิดฝาอัตโนมัติ, ปรับความสูงได้ พร้อมฟีเจอร์เพียบ

ปกติแล้วเนี่ย คนเรามักจะให้ความสำคัญกับ การกิน การนอน เป็นเหลัก แต่ลืมไปรึเปล่าคะว่า “การขับถ่าย” ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ซึ่งบางคนเนี่ย จัดเรื่องการขับถ่ายเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ เพราะถ้าเมื่อไหร่ขับถ่ายไม่ดี ชีวิตตลอดวันก็จะหมองหม่นจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยล่ะค่ะ  ดังนั้น เราจึงขอแนะนำ Jenner Xs Fully Automatic Flip ชักโครกอัจฉริยะจาก Xiaomi Youpin ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ตามความสบายของผู้ใช้ แถมยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย สะดวก สบาย เด็กนั่งได้ ผู้ใหญ่นั่งดี  ในราคาราวๆ 2 หมื่นต้นเท่านั้น

Jenner Xs Fully Automatic Flip หรือ ชักโครกอัจฉริยะ เป็นหนึ่งในสินค้าของทาง Xiaomi Youpin ที่เปิดตัวมาในราคา 4,699 หยวน หรือ 20,770 บาท สามารถปรับระดับให้เหมาะกับตัวผู้ใช้งานได้ จะเด็ก ผู้ใหญ หรือผู้สูงอายุก็นั่งสบาย ฟังก์ชั่นหลากหลาย ทำให้ชีวิตการนั่งปลดทุกข์ จะไม่ทุกข์อีกต่อไป

Jenner Xs Fully Automatic Flip จะมีขนาดตัวโถอยู่ที่ 305 x 415-515 มิลลิเมตร ตัวฝามีขนาด 405 x 670 มิลลิเมตร ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

จุดเด่นแรกของ Xiaomi Jenner XS เลยคือ การปรับระดับความสูงได้ ตั้งแต่ 415-515 มม. ประมาณว่า ตัวโถสามารถยืดหดได้ เหมาะกับส่วนสูงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (ตั้งแต่ความสูง 90 ซม.ไปนะ) อีกทั้งยังเป็นการปรับระดับการขยับท่านั่งให้ทำมุม 35 องศา ทำให้ลำไส้ใหญ่ทำงานอย่างได้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามมาตรฐานการขับถ่ายที่ถูกต้อง

แถมยังมีดีไซน์เรียบหรู ดูมีระดับ มีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกันคือ ขาว , ชมพูพาสเทล, เขียวมิ้นท์พาสเทล, สีโอลด์โรส และสีดำ อีกทั้งยังมีไฟติดไว้ด้านข้าง เอาไว้เวลาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นที่หลายๆ คนน่าจะถูกใจอย่าง ที่ฉีดชำระอัตโนมัติ สามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ Soft Washing (ฟังก์ชั่นล้างเบาๆแบบอ่อนโยน) , Rear Wash ( ฟังก์ชันล้างแบบสะอาดหมดจด) และ Lady Wash (ฟังก์ชันการล้างที่เหมาะกับสาวๆ) อีกทั้งหลังจากชำระจุดซ่อนเร้นเสร็จแล้ว ก็จะมีฟังก์ชันเป่าลมที่สามารถปรับระดับความอุ่นได้ให้ สะอาด สะดวก สบาย สดชื่น

ถัดมาที่ ฟังก์ชันเปิด-ปิดฝาอัตโนมัติ ซึ่งฟีเจอร์นี้ นอกจากจะเหมาะกับคนขี้เกียจอย่างเราแล้ว ยังมีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุอีกด้วยค่ะ เนื่องจากว่า ผู้สูงอายุบางคนจะเวียนศีรษะง่าย เวลาที่ต้องก้มไปเปิดฝาของโถสุขภัณฑ์เนี่ย ก็อาจจะทำให้หน้ามืดและเป็นอันตรายได้ แต่ Jenner XS เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ตัวฝาก็จะเด้งเปิดขึ้นมาเอง และเมื่อใช้งานเสร็จหรือไม่มีผู้ใช้งาน ตัวฝามันก็จะปิดลงเองอัตโนมัติค่ะ

ฟังก์ชันเปิด-ปิดฝาอัตโนมัติ

และที่สำคัญ Jenner XS ยังมีฟีเจอร์จำรูปแบบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ 2 คน และมียังมีฟังก์ชันการกระตุ้นแรงดันน้ำในชักโครก ที่ เร็ว แรง แต่ไร้เสียง แถมยังเป็นระบบน้ำรอบด้าน 360 องศา หมดปัญหาคราบตกค้าง กดครั้งเดียวเอาอยู่ ส่วนทางด้านการควบคุมการใช้งานของสุขาอัตโนมัตินั้น คือเวลาจะเปลี่ยนฟังก์ชัน ก็สามารถได้ควบคุมผ่านรีโมทที่แนบมากับตัวเครื่อง

มาที่อีกปัญหาสำคัญอย่างเรื่องกลิ่นกันบ้างดีกว่า ซึ่ง Jenner XS เค้าได้ใส่ถ่านกัมมันต์ ที่สามารถดูดซับกลิ่นได้อย่างปลอดภัย หมดความกังวลใจเรื่องกลิ่นรบกวน อีกทั้งตัวฝายังสามารถปรับอุณหภูมิได้ 5 ระดับ ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานในฤดูหนาว บอกเลยว่างานนี้ อุ่นก้น อุ่นใจ ปลดทุกข์ได้แบบฟินๆเลยล่ะค่ะ

Jenner Xs Fully Automatic Flip พร้อมให้สั่งจองได้แล้วในประเทศจีนที่ราคา 4,699 หยวน หรือราวๆ 20,770 บาท ซึ่งปกติแล้ว ราคาโถสุขภัณฑ์ธรรมดาที่วางขายตามห้างทั่วไป ราคาจะอยู่ที่ ไม่กี่พัน จนถึง หมื่นอัป แต่ Xiaomi Jenner XS ตัวนี้ มีฟังก์ชันที่มีประโยชน์อัดแน่นมามากมาย เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ใช้ดี ปลอดภัยกับต่อผู้สูงอายุ คุ้มค่า น่าใช้ ถ้าไม่ติดว่ามันไม่ส่งในไทย จะสั่งซื้อมาใช้ซักอันแล้วนะคะเนี่ย

 

ที่มา :  Gizmochina , Xiaomi Youpin 

from:https://droidsans.com/xiaomi-youpin-the-jenner-xs-fully-automatic-flip-smart-toilet/

Xiaomi เปิดระดมทุน CATLINK ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ กำจัดของเสียได้เองแบบอัตโนมัติ

ได้เวลาเสียทรัพย์กันอีกแล้วสำหรับเหล่าทาสแมวที่ต้องทำตามอุดมการณ์ในหัวใจ “เสียตังค์เท่าไหร่ไม่ว่า แต่แมวข้าต้องสุขสบาย” ตั้งแต่การกิน การนอน ไปจนถึงการเข้าห้องน้ำก็ตาม ซึ่งล่าสุด Xiaomi youpin เค้าก็ได้มีการเปิดระดมทุน CATLINK ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ ที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ ทาสจะออกไปเที่ยวไหนก็อุ่นใจ ไม่ต้องคอยเปลี่ยนทรายให้วุ่นวายแบบเดิม แถมยังมีราคาที่น่ารักโดนใจอยู่ที่ราวๆ 4 พันบาทต้นๆ เท่านั้นเอง

Xiaomi CATLINK เป็นโปรเจ็คท์ที่กำลังเปิดให้ร่วมระดมทุนใน Xiaomi youpin อยู่ตอนนี้ ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมสมทบทุนมากกว่า 1,595 คนแล้ว และจะปิดการระดมทุนในวันที่ 1 กรกฎาคม หรือในอีก 7 วันข้างหน้านี้เองค่ะ

CATLINK หรือ ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ 1 เครื่อง มีชิ้นส่วนให้ประกอบด้วยกัน 5 ชิ้น มีขนาดอยู่ที่ 60 X 71 X 58 ซม. หนัก 9 กิโลกรัม ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถวางไว้ตามมุมบ้านหรือมุมห้องในคอนโดได้ เนื่องจากดีไซน์มีความมินิมอล เรียบหรู เหมาะกับทุกไลฟสไตล์

ด้านบนเป็นรูปทรงกลมๆมีช่องไว้ให้น้องแมวเอาตัวใส่เข้าไปทำธุระได้  ส่วนด้านล่างเป็นฐานวางที่มีความมั่นคง แข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องพลิกคว่ำเวลาน้องแมวเข้าไปทำธุระนั่นเองค่ะ

เครื่องนี้มีความจุอยู่ที่ 13 ลิตร ตีคร่าวๆ ก็จะเท่ากับว่าแมว 1 ตัวสามารถเข้าไปใช้งานได้ยาวๆ ถึง 14 วัน ซึ่งการใช้งานก็แค่เอาถุงไปใส่ในช่องข้างล่าง พอมันเต็มก็ถอดอออกมา มัดปากถุงให้เรียบร้อย แล้วก็ทิ้งแค่นี้เอง โดยช่องดังกล่าวมีซีลปิดอีก 2 ชั้น เพื่อป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของน้องแมวด้วย

CATLINK มีระบบความปลอดภัยป้องกันถึง 3 ชั้น ทำให้มั่นใจว่าน้องเหมียวของเราจะปลอดภัยหายห่วง เพราะด้านล่างเครื่องมีเซนเซอร์แรงโน้มถ่วงถึง 2 ตัวที่จะคอยตรวจจับว่าตอนนั้นไม่มีแมวกำลังใช้งานอยู่ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะกินแมวของเราเข้าไประหว่างทำธุระ และเมื่อไหร่ที่น้องเดินเข้าไปใกล้ๆ ปุ๊บ เครื่องก็จะหยุดทำงานปั๊บ อีกทั้งตัวเครื่องยังรับน้ำหนักได้มากถึง 10 กก.

สำหรับการทำงานของ Xiaomi CATLINK ตัวเครื่องจะมีโหมดตรวจจับอัตโนมัติ ซึ่งหากว่าน้องแมวไม่ได้อยู่ใกล้ในบริเวณเครื่องเกิน 3 นาที ตัวเครื่องก็จะกำจัดของเสียที่อยู่บนทรายเอง โดยจะหมุนถาดทรายเป็นวงกลม เพื่อกรองเอาทรายที่ยังสะอาดขึ้นมาข้างบน ส่วนทรายบริเวณไหนที่โดนของเหลวและจับตัวเป็นก้อนแล้ว ก็จะถูกดันทิ้งไปในช่องข้างล่าง

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ Xiaomi CATLINK ยังสามารถแจ้งเตือนไปยังมือถือเราได้ในเวลาที่น้องแมวใช้งานเสร็จแล้ว ซึ่งถ้าเราอยู่ข้างนอกบ้าน ก็สามารถควบคุมเครื่องนี้ผ่านแอปได้เลย ไม่ต้องรอให้ทรายหมักหมดทั้งวันจนเกิดกลิ่นและแบคทีเรียสะสม

อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว หากใครที่รู้สึกว่าเบื่อกับการตักทรายที่น้องแมวมาทิ้งระเบิดไว้ ก็สามารถเข้าไปร่วมระดมทุนได้ที่เว็บ Xiaomi Youpin เลยค่ะ โดยราคาจะอยู่ที่ราวๆ 4,000 กว่าบาท (ราคาขายจริงหลัวระดมทุนเสร็จอยู่ที่ 7,500 บาท) และจะเริ่มจัดส่งสินค้าในวันที่ 15 กรกฏาคม 2563 เป็นต้นไป

 

ที่มา : Xiaomi Youpin

from:https://droidsans.com/xiaomi-catlink-smart-cat-litter-box-crowdfunding/

พัดลมพกพา Xiaomi ไม่มีใบพัด แต่ให้ลมเหมือน Dyson ในราคาหลักร้อย!

พัดลมพกพา Xiaomi Weiyuan Smart Handheld Bladeless มีดีไซน์ที่สวยงามได้รับรางวัลถึง 3 รางวัลด้วยกัน คือ German iF design 2019, รางวัล Good Design และ Red Dot design ภายใต้การระดมทุน Xiaomi Youpin ที่มีราคาเพียง 39 หยวน (~ $ 5) หรือประมาณ 170 บาท แต่สำหรับราคาขายหลังการระดมทุนจะอยู่ที่ 69 หยวน (~ $ 10) หรือประมาณ 300 บาทเท่านั้น

Credit: Xiaomi Youpin

พัดลมพกพา Xiaomi ออกแบบมาให้ไม่มีใบพัด ใช้หลักการสร้างลมเหมือน Dyson ทำให้มีเสียงเบา และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 10 ชม. การออกแบบพัดลมให้ไร้ใบพัด ทำให้ดูเรียบง่าย แต่ทันสมัย และการที่ไม่มีใบพัดนั้นทำให้ไม่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น เส้นผมไม่เข้าไปติด และไม่ทำให้นิ้วมือของเด็ก ๆ บาดเจ็บ การทำงานที่คล้าย Dyson อากาศจะถูกอัดโดยคอมเพรสเซอร์ที่ประกอบไปด้วยใบพัดถึง 7 ใบตรงฐาน แล้วพุ่งขึ้นสู่วงแหวนด้านบนออกมาเป็นลมที่ให้ความสะบายแก่ผู้ใช้

Credit: Xiaomi Youpin

Credit: Xiaomi Youpin

พัดลมพกพา Xiaomi ให้กำลังลมสูงสุดอยู่ที่ 7.52m/s โดยมอเตอร์ที่ออกแบบมาให้มีกำลังแรงแต่มีเสียงเบาเพียงแค่ 55 dB ใช้แบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh สามารถชาร์จผ่าน USB-C และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ตัวพัดลมยังมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 137 กรัม สามารถปรับระดับลมได้ 3 ระดับ

Credit: Xiaomi Youpin

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Xiaomi Youpin และคาดว่าจะมีเข้ามาขายในไทยในเร็ว ๆ นี้ผ่านการสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ

ที่มา: Gizmochina

from:https://notebookspec.com/xiaomi-weiyuan-smart-handheld-bladeless/524592/

Haylou LS04 Solar Smartwatch ฟีเจอร์ครบครันทั้งวัดการเต้นหัวใจ, นับก้าว, ตรวจจับการนอน เคาะราคาราว 800 บาท

เป็นที่ทราบกันดีว่าบนแฟลตฟอร์ม Youpin ของ Xiaomi นั้น มี gadget หลากหลายชิ้นที่น่าสนใจ และมีราคาจับต้องได้ง่ายๆ ออกมายั่วยวนใจกันอยู่บ่อยๆ และไอเท็มใหม่น่าสนใจที่เปิดตัวชิ้นล่าสุดก็คือ Haylou LS04 Solar Smartwatch  สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นหลากหลายทั้งการนับก้าว, วัดการเต้นของหัวใจ, โหมดออกกำลังกาย รวมถึงมีจุดเด่นที่สามารถสแตนบายได้นานถึง 30 วันเลยทีเดียว

Haylou LS04 มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูในสไตล์  Nordic Minimalist ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ด้วยตัวเรือนโลหะคุณภาพสูงแบบวงกลม มีปุ่มเม็ดมะยมเล็กๆ 1 ปุ่ม สำหรับควบคุมการทำงาน ตัวหน้าปัดครอบด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน ใช้สายซิลิโคนน้ำหนักเบา สามารถสวมใส่และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสบาย ๆ ทั้งวันโดยไม่รู้สึกหนักและอึดอัดเวลาสวมใส่

หน้าจอแสดงผลเป็นจอสีแบบ TFT มีขนาด 1.28 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล สามารถมองเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือพื้นที่แสงน้อย

Haylou LS04  มีฟีเจอร์เด่นๆ หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการวัตอัตราการเต้นของหัวใจแบบ real time ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางค่ายเคลมว่าเซนเซอร์ตัวนี้สามารถวัดได้แม่นยำมากๆ, มีฟังก์ชั่นติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ อาทิเช่น นับก้าว, นับแคลฯ, วัดระยะทาง รวมถึงมีฟังก์ชั่นมอนิเตอร์การนอนหลับอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายสูงสุดถึง 12 โหมด ซึ่งก่อนหน้านี้สมาร์ทวอซในรุ่น  Haylou LS01 มีโหมดออกกำลังกายเพียง  9 โหมดเท่านั้น และในรุ่นนี้ก็จัดเต็มมาให้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในร่ม หรือกลางแจ้ง อาทิเช่น เดิน, วิ่ง,ว่ายน้ำ,โยคะ, ยิมนาสติก,พายเรือ, ฟรีเทรนนิ่ง, บาสเกตบอล, ปั่นจักรยาน และอื่น ๆ อีกหลายโหมดที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์ของคนที่ชอบออกกำลังกายได้อย่างครบครัน

Haylou LS04  ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น  Haylou Fit  ผ่านการเชื่อมต่อด้วย  Bluetooth 5.0 และใช้ได้กับมือถือทุกค่ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4,  และ iOS 8 ขึ้นไป, รองรับการแจ้งเตือนต่างๆ ตามมาตรฐานทั่วไปไม่ว่าจะเป็นข้อความ, อีเมล์, และแสดงสายเรียกเข้าเป็นต้น

จุดเด่นของสมาร์ทวอซรุ่นนี้นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ค่อนข้างครบครันแล้วยังมีแบตเตอรี่ขนาด 340 mAh ซึ่งเมื่อชาร์จแบตฯ เต็มเพียงครั้งเดียวก็จะสามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 30 วัน แต่ถ้าหากเราเปิดฟังก์ชั่นวัดการเต้นของหัวใจแบบ real time ก็จะใช้งานต่อเนื่องได้ 15 วันค่ะ

Haylou LS04  ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ซึ่งเราก็สามารถใส่เล่นกีฬาทางน้ำได้อย่างสบาย ๆ รวมถึงหมดกังวลเรื่องโดนละอองฝนหรือเหงื่อออกมากๆ จากการเล่นกีฬาด้วยล่ะ

สเปค Haylou LS04 Solar Smartwatch 

  • จอแสดงผลสีแบบ TFT ขนาด 1.28 นิ้ว ความละเอียด 240X240 พิกเซล
  • ขนาดตัวเครื่อง 45.3 x 11.4 ม.ม หนักเพียง 54 กรัม
  • สาย วัสดุเป็นซิลิโคนหนาเพียง 2 มม.
  • รองรับระบบฎิบัติการ : Android 4.4  และ  iOS 8 ขึ้นไป
  • ฟังก์ชั่น : Sleep tracking, activity tracking, 12 Sports modes
  • เซนเซอร์ : Heart Rate Monitor
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
  • ทนทานต่อการใช้งานในอุณหภูมิตั้งแต่ -20 องศา ถึง 45 องศาเซลเซียส
  • แบตเตอรี่ : 340 mAh สแตนด์บายสูงสุด 30 วัน
  • ทำงานร่วมกับ Application “Haylou Fit”

Xiaomi Haylou LS04 Solar Smartwatch  เปิดวางจำหน่ายแล้วบนแพลตฟอร์ม Youpin ในสนนราคา 179 หยวน หรือราวๆ 800 บาทค่ะ สำหรับใครที่สนใจก็ลองไปส่องๆ กันดูนะคะ  ส่วนจะมีเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเมื่อไหร่นั้นต้องติดตามข่าวกันต่อไปค่ะ เชื่อว่าหากเข้ามาด้วยราคาราวๆ นี้คงจะมีหลายๆ คนที่พร้อมเปย์กันอย่างแน่นอน

 

ที่มา  gizmochina, xiaomiyoupin

from:https://droidsans.com/xiaomi-youpin-launches-the-haylou-ls04-solar-smartwatch/