คลังเก็บป้ายกำกับ: SMARTWATCH

HUAWEI TalkBand B7 สมาร์ทแบนด์ชิป Kirin A1 ถอดมาใช้เป็นหูฟังได้ อัดแน่นฟีเจอร์สุขภาพ

HUAWEI TalkBand B7 สมาร์ทแบนด์อีกรุ่นที่เปิดตัวมาในงาน พร้อม Watch Ultimate และมือถืออีกมากมาย ถือเป็นรุ่นที่มาสานต่อจากตัวเดิม TalkBand B6 โดยคราวนี้มีประโยชน์ใช้เป็นอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ และการทำกิจกรรมกีฬา แต่มีทีเด็ดคือสามารถถอดตัวเรือนออกมาแล้วเอามาใช้เป็นหูฟังได้ด้วย ส่วนสเปคเต็ม ๆ มีตามนี้

HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 พกหน้าจอขนาด 1.53 นิ้ว เป็นแบบ AMOLED ที่มีความโค้งตามองศาข้อมือ ความละเอียด 460 x 188 ตัวเรือนประกอบด้วยวัสดุเหล็กไทเทียมสแตนเลส ขอบขวาวางปุ่มทรงวงรี และตรงขอบด้านล่างเคสซ้ายขวามีปุ่มกดเพื่อถอดตัวเรือนออกมา ใช้เป็นหูฟังไร้สาย ถอดออกมาได้โดยกดสองปุ่มพร้อมกัน เครื่องนี้ได้รับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP57

น้ำหนักรวมเคสไม่รวมสาย 30 กรัม น้ำหนักแค่ตัวเรือนนาฬิกาเพียง 13 กรัม หยิบมาใส่หูได้สบาย

HUAWEI TalkBand B7

มีไมค์โครโฟนและลำโพงในตัว และมีไมค์สองตัวที่ทำหน้าที่ช่วยลดเสียงรบกวน ใช้อัลกอริธึม 3A ในการประมวลผลเสียงเวลาโทรคุย ข้างในพกแบตเตอรี่ขนาด 120mAh ที่ใช้งานทั่วไปได้ราว 3 วันชาร์จได้ผ่านพอร์ต USB-C ชาร์จไปแป๊บเดียว 10 นาทีก็ใช้ได้นานถึง 4 ชั่วโมง

HUAWEI TalkBand B7

ฟีเจอร์สุขภาพใน TalkBand B7 มีเยอะมาก ได้แก่ เซนเซอร์ PPG ตรวจการเปลี่ยนแปลงในเส้นเลือดฝอย, เซนเซอร์ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด, เซนเซอร์ตรวจจับรอบประจำเดือน, ตัววัดคุณภาพการนอนและระดับความเครียด โดยรุ่นนี้มีฟังชันสุขภาพล้ำ ๆ อย่างการตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ที่ห้องหัวใจบนทำหน้าที่ผิดปกติ และตรวจจับสภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

HUAWEI TalkBand B7

ฟีเจอร์กีฬาก็มีให้มามากถึง 10 ชนิด รวมถึงกิจกรรมใหม่การกระโดดเชือก และมี VO2 Max เครื่องมือตรวจความฟิตร่างกาย, โหมดวิ่งที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์, และระบบแจ้งเตือนให้ลุกขึ้น หรือขยับร่างกายเป็นระยะ

HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 ทำงานด้วยชิป Kirin A1 ที่รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ HarmonyOS 2.0+, Android 7+, และ iOS 9.0 ขึ้นไป ใช้ Bluetooth 5.2 ภายในมีฟีเจอร์อย่างการตอบแชทแบบรวดเร็ว, ระบบควบคุมกล้อง, ควบคุมเพลง, ระบบจ่ายง่าน Alipay, WeChat, และอื่น ๆ

HUAWEI TalkBand B7

ราคาและการวางขาย HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 มีตัวเลือกสี Dark Gold, และ Grey เปิดราคาขายในจีนมาตามนี้

  • รุ่นสายรัดซิลิโคน ราคา 999 หยวน (~4,900 บาท)
  • รุ่นสายรัดหนัง ราคา 1,199 หยวน (~5,900 บาท)

HUAWEI TalkBand B7

 

ที่มา : HUAWEI, gizmochina

from:https://droidsans.com/huawei-talkband-b7-officially-launched/

Advertisement

HUAWEI TalkBand B7 สมาร์ทแบนด์ชิป Kirin A1 ถอดมาใช้เป็นหูฟังได้ อัดแน่นฟีเจอร์สุขภาพ

HUAWEI TalkBand B7 สมาร์ทแบนด์อีกรุ่นที่เปิดตัวมาในงาน พร้อม Watch Ultimate และมือถืออีกมากมาย ถือเป็นรุ่นที่มาสานต่อจากตัวเดิม TalkBand B6 โดยคราวนี้มีประโยชน์ใช้เป็นอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ และการทำกิจกรรมกีฬา แต่มีทีเด็ดคือสามารถถอดตัวเรือนออกมาแล้วเอามาใช้เป็นหูฟังได้ด้วย ส่วนสเปคเต็ม ๆ มีตามนี้

HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 พกหน้าจอขนาด 1.53 นิ้ว เป็นแบบ AMOLED ที่มีความโค้งตามองศาข้อมือ ความละเอียด 460 x 188 ตัวเรือนประกอบด้วยวัสดุเหล็กไทเทียมสแตนเลส ขอบขวาวางปุ่มทรงวงรี และตรงขอบด้านล่างเคสซ้ายขวามีปุ่มกดเพื่อถอดตัวเรือนออกมา ใช้เป็นหูฟังไร้สาย ถอดออกมาได้โดยกดสองปุ่มพร้อมกัน เครื่องนี้ได้รับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP57

น้ำหนักรวมเคสไม่รวมสาย 30 กรัม น้ำหนักแค่ตัวเรือนนาฬิกาเพียง 13 กรัม หยิบมาใส่หูได้สบาย

HUAWEI TalkBand B7

มีไมค์โครโฟนและลำโพงในตัว และมีไมค์สองตัวที่ทำหน้าที่ช่วยลดเสียงรบกวน ใช้อัลกอริธึม 3A ในการประมวลผลเสียงเวลาโทรคุย ข้างในพกแบตเตอรี่ขนาด 120mAh ที่ใช้งานทั่วไปได้ราว 3 วันชาร์จได้ผ่านพอร์ต USB-C ชาร์จไปแป๊บเดียว 10 นาทีก็ใช้ได้นานถึง 4 ชั่วโมง

HUAWEI TalkBand B7

ฟีเจอร์สุขภาพใน TalkBand B7 มีเยอะมาก ได้แก่ เซนเซอร์ PPG ตรวจการเปลี่ยนแปลงในเส้นเลือดฝอย, เซนเซอร์ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด, เซนเซอร์ตรวจจับรอบประจำเดือน, ตัววัดคุณภาพการนอนและระดับความเครียด โดยรุ่นนี้มีฟังชันสุขภาพล้ำ ๆ อย่างการตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ที่ห้องหัวใจบนทำหน้าที่ผิดปกติ และตรวจจับสภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

HUAWEI TalkBand B7

ฟีเจอร์กีฬาก็มีให้มามากถึง 10 ชนิด รวมถึงกิจกรรมใหม่การกระโดดเชือก และมี VO2 Max เครื่องมือตรวจความฟิตร่างกาย, โหมดวิ่งที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์, และระบบแจ้งเตือนให้ลุกขึ้น หรือขยับร่างกายเป็นระยะ

HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 ทำงานด้วยชิป Kirin A1 ที่รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ HarmonyOS 2.0+, Android 7+, และ iOS 9.0 ขึ้นไป ใช้ Bluetooth 5.2 ภายในมีฟีเจอร์อย่างการตอบแชทแบบรวดเร็ว, ระบบควบคุมกล้อง, ควบคุมเพลง, ระบบจ่ายง่าน Alipay, WeChat, และอื่น ๆ

HUAWEI TalkBand B7

ราคาและการวางขาย HUAWEI TalkBand B7

HUAWEI TalkBand B7 มีตัวเลือกสี Dark Gold, และ Grey เปิดราคาขายในจีนมาตามนี้

  • รุ่นสายรัดซิลิโคน ราคา 999 หยวน (~4,900 บาท)
  • รุ่นสายรัดหนัง ราคา 1,199 หยวน (~5,900 บาท)

HUAWEI TalkBand B7

 

ที่มา : HUAWEI, gizmochina

from:https://droidsans.com/huawei-talkband-b7-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%9b-kirin-a1-%e0%b8%96%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%a1%e0%b8%b2/

GARMIN เปิดตัว MARQ Gen 2 นาฬิกาลักซ์ชูรี 5 คอลเลคชั่นใหม่ ราคาเริ่มต้น 70,000 บาท

GARMIN เปิดตัว MARQ Gen 2 นาฬิกาลักชัวรี่ที่มาใน 5 คอลเลคชั่นใหม่ด้วยกัน ได้แก่ MARQ Athlete, MARQ Adventurer, MARQ Golfer, MARQ Captain และ MARQ Aviator  ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งสายกีฬา ,สายแอดเวนเจอร์ ,สายตีกอล์ฟ หรือผู้ที่ทำงานสายการบิน โดยตัวนาฬิกามาด้วยดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย จอสัมผัส AMOLED น้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 16 วัน เปิดตัวมาในราคาเริ่มต้นที่ 70,000 บาทค่ะ

MARQ Gen 2 นี้มีให้เลือก 5 แบบ คือ รุ่น Athlete,  Adventurer, Golfer,  Captain และ Aviator ดีไซน์ออกมาในรูปแบบเรียบหรู ดูทันสมัย สามารถใช้งานได้หลายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสายไหน ตัวเรือนทำจากวัสดุไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนทานเป็นพิเศษ (ทนทานกว่าเหล็กทั่วไป 5 เท่า) สามารถใช้งานแบบ Outdoor ได้สบาย

ตัวเรือนมีขนาด 46 มม. ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป สายนาฬิกาทำจากวัสดุไทเทเนียม, หนัง, ไนลอน และซิลิโคน หน้าปัดเป็นหน้าจอสัมผัส AMOLED เลนส์กระจกแซฟไฟร์ทรงโดม แข็งแรงทนทาน กันรอยขีดข่วนแล้วหน้าจอยังมีสีสันสดใสที่สว่างและอ่านง่ายกว่ารุ่นที่ผ่านมาค่ะ

สเปคอื่น ๆ ทั่วไปก็จะมีเรื่องของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 16 วัน ใช้งานในโหมดสมาร์ทวอชท์ได้นาน 16 ชั่วโมง และชาร์จไวใน 1 ชั่วโมง ในส่วนของฟีเจอร์ สมาร์ทวอทช์สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, อัตราการหายใจ, ความเครียด, การนอนหลับ, การวัดพลังงานร่างกาย, แนะนำเรื่องปริมาณแสงและตารางการนอนหลับเพื่อลดอาการ Jetlag สำหรับกลุ่มที่ชอบออกเดินทางบ่อย ๆ, การแจ้งเตือนปริมาณคาเฟอีนและสารอาหารที่ควรได้รับ, การระบุตำแหน่ง และยังปรับตัวเองไปตามสภาพแวดล้อมเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วยค่ะ แต่ว่าในทั้ง 5 รุ่นนี้ มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป สามารถเลื่อนเพื่อดูรายละเอียดได้เลยค่ะ

MARQ ATHLETE (ราคา 70,690 บาท )

สำหรับ MARQ ATHLETE ตัวนี้ตอบโจทย์สายกีฬาเลย ตัวเรือนทำจากไทเทเนียม ขอบหน้าปัดเคลือบคาร์บอนคล้ายเพชร (DLC) ขัดเงา สายทำจากซิลิโคนมีน้ำหนักเบา กระชับข้อมือและระบายอากาศได้ดี มาพร้อมเซนเซอร์ที่สามารถอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ

ฟีเจอร์เด่นของ MARQ ATHLETE

  • ฟีเจอร์ Training Load สามารถวัดปริมาณการฝึกซ้อมที่จะบอกสภาพร่างกายในแต่ละวันได้
  • ฟีเจอร์ PacePro ที่จะช่วยกำหนดอัตราความเร็วและระยะทางวิ่งให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่สร้างมาเพื่อนักกีฬาวิ่ง
  • ฟีเจอร์ Training Readiness ฟีเจอร์เตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อม
  • ฟีเจอร์ Real-Time Stamina ติดตามและแจ้งเตือนไม่ให้หมดแรงขณะทำกิจกรรม หรือหักโหมเกินไป
  • มีโหมดกีฬาทุกประเภท รวมทั้งยังมีเอนิเมชันสำหรับออกำลังกายให้ผู้ใช้งานได้ทำตามง่าย ๆ ด้วย

MARQ ADVENTURER (ราคา 78,390 บาท)

MARQ ADVENTURE ตัวนี้จะมาในดีไซน์คลาสสิคผสมความทันสมัย สายนาฬิกาทำมาจากเครื่องหนัง ทนทานต่อเหงื่อ เบาสบาย พร้อมผจญภัยไปทั่วโลก

ฟีเจอร์เด่นของ MARQ ADVENTURE

  • ตัวหน้าปัดมาเป็นกรอบเข็มทิศ ระบุทิศทางพร้อมตัวเลข 360 องศา เพื่อให้ใช้งานคู่กับฟีเจอร์ Orienteering ที่ใช้ในการติดตามเส้นทาง
  • สามารถดูแผนที่ TopoActive ได้
  • ฟีเจอร์ NextFork ฟีเจอร์ที่แสดงระยะทางก่อนถึงทางแยกของเทรลถัดไป

MARQ GOLFER (ราคา 85,690 บาท)

MARQ GOLFER เหมาะสำหรับสายกอล์ฟโดยเฉพาะ เพราะตัวสมาร์ทวอทช์ได้ติดตั้งข้อมูล Virtual Caddie และสนามกอล์ฟไว้มากกว่า 42,000 สนาม ขอบหน้าปัดนาฬิกาทำมาจากเซรามิกอินเลย์สีเขียว กรอบสลัก ตัวสายเป็นไนลอนทอเทคนิคแจ็คการ์ดสีเขียวสามเฉดสี

ฟีเจอร์เด่นของ MARQ GOLFER

  • สมาร์ทวอทช์มีข้อมูลสนามกอล์ฟที่โหลดไว้ล่วงหน้ากว่า 42,000 สนามทั่วโลก สามารถรู้ได้ว่าผู้ใช้งานกำลังตีกอล์ฟอยู่ที่สนามใด
  • ฟีเจอร์ Green Contours ฟีเจอร์ให้ข้อมูลสนามหญ้า สามารถบอกได้ทั้งส่วนหน้า กลาง หลัง ทิศทางหรือความลาดชัน
  • ฟีเจอร์ Virtual Caddie
  • ฟีเจอร์ Hazard View หรือ มุมมองอุปสรรค
  • ฟีเจอร์ Wind Data บอกทิศทางลม
  • ฟีเจอร์ PinPointer บอกตำแหน่งหลุม
  • ฟีเจอร์ Approach CT10 ติดตามไม้กอล์ฟอัตโนมัติในทุก ๆ การตีของไม้ พร้อมทั้งเก็บคะแนนไปในตัว

MARQ CAPTAIN (ราคา 81,990 บาท)

MARQ CAPTAIN สมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับใครที่เป็นสายเดินเรือหรือนักแข่งเรือ ตัวหน้าปัดมาเป็นขอบเซรามิก สีเนวีบูลคอลล่าร์ อีกทั้งยังมาพร้อมดีไซน์สเกล Regatta  ส่วนตัวสายทำจากไนลอนทอด้วยเทคนิคแจ็คการ์ดซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแข่งเรือนั่นเองค่ะ

ฟีเจอร์เด่นของ MARQ CAPTAIN

  • ฟีเจอร์ Regatta Timer ช่วยจับเวลาในการเดินเรือด้วยระบบ GPS
  • ฟีเจอร์ Alerts และ Alarms ที่จะส่งสัญญาณแสดงการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำและการลากสมอเรือ
  • สามารถเชื่อมต่อระบบ  Autopilot ได้
  • มีข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางน้ำ ทั้ง คายัค, แพดเดิลบอร์ด, ไคท์เซิร์ฟ ฯลฯ

MARQ AVIATOR (ราคา 89,390)

MARQ AVIATOR สมาร์ทวอทช์ที่สำหรับผู้ที่ทำงานสายการบิน ตัวนาฬิกามาในดีไซน์หรูหราผสมความเท่ สายนาฬิกาทำจากไทเทเนียมขัดเงา ข้อต่อแบบ Swept Wing ตัวล็อกแบบ Locking Clasp มาพร้อมกรอบเซรามิกเทียบเวลา GMT 24 ชั่วโมง

ฟีเจอร์เด่นของ MARQ AVIATOR

  • ฟีเจอร์ที่สามารถนำทางไปยังตำแหน่ง หรือเข้าถึงเวย์พอยต์ (Waypoint) ในฐานข้อมูลการบินทั่วโลกได้
  • ฟีเจอร์ Nearest ที่จะแสดงตำแหน่งเส้นทางของสนามบินที่ใกล้ที่สุด
  • ฟีเจอร์ที่คอยแจ้งเตือนการกำหนดลมขวางขั้นต่ำ ( minimum crosswindฉ และสภาพการบิน
  • ฟีเจอร์ Jet Lag Adviser ให้คำแนะนำแสงสว่าง การนอนและการออกกำลังกาย
  • ฟีเจอร์แผนที่ที่กำลังเคลื่อนที่
  • ฟีเจอร์การติดตามสภาพอากาศที่มีผลต่อการบิน

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปจองกันได้ที่GARMIN ทุกช่องทางเลย โดยตัวนาฬิกามีรับประกัน 2 ปี ใครที่เป็นสายสุขภาพ, สายตีกอล์ฟ, สายกิจกรรมท้าทาย ต้องการมองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีความอึด ถึก ทน ต้องลองจัดมาใช้ซักเรือนแล้วล่ะค่ะ

 

ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/garmin-luxury-marq-gen-2/

BYD บุกตลาด Smart Device ซุ่มพัฒนาสมาร์ทวอทช์ใช้เป็นกุญแจรถได้

เรียกได้ว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อยที่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง BYD คิดจะตีตลาด Smart Device โดยล่าสุดมีข่าวว่าทางค่ายกำลังพัฒนาสมาร์ทวอทช์ที่สามารถใช้ล็อค – ปลดล็อคแทนกุญแจรถยนต์ได้ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เหมือนกับสมาร์ทวอทช์ในท้องตลาดทั่วไปเลยค่ะ

รูปทรงดีไซน์ของ สมาร์ทวอทช์ BYD จะมาในรูปแบบหน้าปัดกลมเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่การใช้งานจะไม่ใช่แค่สามารถใช้เปิดล็อครถยนต์ได้เท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ เหมือนกับสมาร์ทวอทช์ในตลาดเลย และในฟีเจอร์ล็อค-ปลดล็อครถ สมาร์ทวอทช์ BYD จะจำรถของเราได้และเมื่อเข้าไปอยู่ในระยะใกล้ก็จะปลดล็อครถให้เลยแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ

นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมแบบระยะไกลได้ โดยสามารถสั่งการให้เปิด-ปิดหน้าต่าง และกระโปรงหลังรถในขณะที่อยู่ห่างจากตัวรถได้ ซึ่งทาง BYD ได้เคลมว่านาฬิกาสามารถรองรับได้ทั้งมือถือ Android และ Apple แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใช้ระบบปฏิบัติการอะไร แต่คาดว่าไม่ได้ใช้ OS ที่สร้างขึ้นมาใหม่ น่าจะเป็นเพียง UI ที่ทำขึ้นมาครอบ OS พื้นฐานเท่านั้น ซึ่ง BYD ก็ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็น OS ตัวไหนค่ะ

ทางด้านสเปคอื่น ๆ คือมีความจุแบตเตอรี่ 200 mA สแตนบายได้ 30 วันหรือใช้งานต่อเนื่องได้ 5-7 วัน

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า BYD จดสิทธิบัตรสมาร์วอทช์ที่สามารถวัดค่าแอลกอฮอลล์ได้ด้วย ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะมาเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ด้วยหรือเปล่านะคะ

ตอนนี้ทาง BYD ได้เริ่มส่งสมาร์ทวอทช์ให้แก่กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จีนได้เริ่มรีวิวกันไปบ้างแล้ว ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าทิศทางการตลาดของสมาร์ทวอทช์ตัวนี้จะไปทางไหน แต่หลังจากที่ดูแล้วก็รู้สึกว่ามันก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไปอีกสเตปนึงเลยนะเพราะไม่ต้องพกกุญแจรถให้วุ่นวาย ส่วนรายละเอียดทางด้านฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมหากได้รับอัพเดทแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ

 

ที่มา : m.arenaev

from:https://droidsans.com/byd-making-smartwatch-use-as-car-key/

ย้ำ 6 ความคุ้มค่ากับ HUAWEI WATCH Buds สมาร์ทวอทช์พร้อมหูฟังในตัว วางจำหน่ายที่ Lazada ราคาต่ำสุดเพียง 9,999 บาท เท่านั้น!

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับ HUAWEI WATCH Buds นับเป็นอีกก้าวของการพัฒนานวัตกรรมจากหัวเว่ยที่รวมสมาร์ทวอชท์และหูฟังเข้าด้วยกันแบบ 2-in-1 ยกระดับความสามารถและความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

วันนี้หัวเว่ยย้ำ 6 ความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับใน HUAWEI WATCH Buds เมื่อคุณซื้อแค่หนึ่งแต่ได้ถึงสองในราคาต่ำสุดเพียง 9,999 บาท เอ็กซ์คลูซีฟที่เดียวเท่านั้น Lazada จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

คุ้มที่ 1 สมาร์ทวอชท์และหูฟังเข้ามาแบบ 2-in-1 ด้วยนวัตกรรมฝาครอบหน้าปัดนาฬิกาที่สามารถเปิดได้แบบป็อปอัพที่มีความแข็งแรง และหูฟังมาพร้อมการออกแบบหูฟังแม่เหล็กแบบ 360 องศา ที่สามารถซ่อนเก็บภายในตัวเรือนมอบความสะดวกสบายในการพกพาใช้งาน

คุ้มที่ 2 ไมโครโฟนแบบคู่ จิ๋วแต่ทรงพลัง มาพร้อม AI Noise Cancellation รวมทั้งการตัดเสียงรบกวนแบบ dual-mic และอัลกอริทึม Deep Neural Network Call (DNN) ที่ลดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างสมทนาให้คู่สายได้ยินเสียงคุณชัดเจนยิ่งขึ้น

คุ้มที่ ตรวจวัดค่าสำคัญของร่างกายได้ตลอดเวลาผ่านแอพพลิเคชัน HUAWEI Health ติดตามพฤติกรรมประจำวัน ตรวจสอบสุขภาพของคุณ และช่วยจัดการแผนการออกกำลังกายพร้อมคำแนะนำตามหลักวิทยาศาสตร์ผการเพื่อประสิทธิภาพการออกกำลังกายที่ดีขึ้น

คุ้มที่ 4 นวัตกรรมหูฟังสั่งงานเพียงสัมผัส สามารถสั่งการได้ผ่านปลายนิ้วมือผ่านระบบ Wide-area Auricle Touch Control ที่พัฒนาโดยหัวเว่ย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและปรับการตั้งค่าต่างๆ เพียงคุณใช้นิ้วสัมผัสบริเวณใบหู

คุ้มที่ 5 หูฟังน้ำหนักเบา สวมใส่สบายเพียง หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 4 กรัม อีกทั้งดีไซน์แบบ 8 เหลี่ยม และโค้งกลมมีมุมสัมผัสที่สามารถจับขอบมุมได้สะดวกสบายสามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับไม่หลุดร่วง

คุ้มที่ 6 ดีไซน์หรูหรา ทนทาน ด้วยกระจกแบบ 3 มิติ เสริมความประณีตให้กับตัวเรือนด้วยสเตนเลสสตีลพร้อมดีไซน์ปุ่มคอนโทรลหรูหราลวดลายพีระมิด  710 Clous de Paris  และสายหนังเพิ่มสัมผัสที่หรูหราและมีสไตล์

คุ้มขนาดนี้ ห้ามพลาด! รีบกดใส่ตะกร้าก่อนเลยที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน Lazada เอ็กซ์คลูซีฟที่เดียวเท่านั้น กับราคาต่ำสุดเพียง 9,999 บาท จากราคาปกติ 13,990 บาท เมื่อสั่งซื้อบนช่วงเวลา Flash Sale ในราคา 12,717 บาท ของวันที่ 27 มีนาคม 2566 ตั้งแต่ 00.00 น. – 01.59 น. และใช้ร่วมกับคูปองส่วนลด Early bird coupon มูลค่า 100 บาท พร้อมคูปองส่วนลดพิเศษจาก Lazada มูลค่า 1,778 บาท (จำนวน 100 ใบเท่านั้น) และ Lazada Bonus มูลค่า 840 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้าคำสั่งซื้อ 200 ท่านแรก รับร่ม HUAWEI มูลค่า 390 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 27 มีนาคม 2566 ถึง 29 มีนาคม 2566 นี้

สามารถดูเงื่อนไขเพิ่มเติมของโปรโมชัน HUAWEI WATCH Buds ได้ที่นี่  

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery 

หมายเหตุ: คูปองส่วนลดพิเศษจาก Lazada แจกจำนวนจำกัด 100 ใบเท่านั้น เริ่มเก็บได้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 12:00 น. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ของแถมมีจำนวนจำกัด ส่งมอบตามลำดับก่อน-หลังจนกว่าของแถมจะหมด

11190F74-9D25-4359-9408-908EDDC115F7

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/emphasize-6-values-with-huawei-watch-buds/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=emphasize-6-values-with-huawei-watch-buds

7 นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ใส่แล้วเท่ โหมดกีฬาเพียบ อัปเดต 2023

แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สวมใส่ได้ทุกวัน รองรับโหมดออกกำลังกายมากมาย อัปเดต 2023

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย

Smart Watch ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งการเน้นไปที่การสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือ เน้นการสวมใส่เพื่อตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ในขณะที่ออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรืออย่างใครที่ต้องการเน้นไปที่การรักษาสุขภาพ นาฬิกาเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้เราได้ทราบถึงค่าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นาฬิกาออกกำลังกายก็มีหลากหลายรูปแบบ ดีไซน์ รวมไปถึงขนาด ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาแนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สำหรับผู้ชายที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีขนาดพอดีมือ ดีไซน์สวย สวมใส่แล้วเท่ ดูดี แถมยังรองรับการตรวจจับค่าต่างๆ ได้ดี มีโหมดออกกำลังกายมากมายอีกด้วย


แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สวมใส่ได้ทุกวัน

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ราคา สิ่งที่น่าสนใจ ข้อสังเกต
Apple Watch Series 8 (45 mm.) เริ่มต้น 15,900 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มีรุ่นที่รองรับการใส่ eSIM
มีเซ็นเซอร์ Crash Detection
มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง
Amazfit GTR 4 ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการพูดคุยโทรศัพท์
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน
Amazfit T-Rex 2 ประมาณ 6,290 บาท มีความทนทานสูง ป้องกันการกระแทก กันรอยขีดข่วนได้ดี
โหมดออกกำลังกายเยอะ
ทนทานต่ออุณหภูมิ
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวเมื่อเปิดใช้งาน GPS
SUUNTO 5 PEAK 6,900 บาท ฟีเจอร์ครบ
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการวางแผนการเดินทาง มี GPS Navigation
ฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 5 PEAK จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการตอบกลับข้อความยังจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการ Android ด้วย
Samsung Galaxy Watch 5 เริ่มต้น 9,990 บาท ฟีเจอร์การใช้งานครบครัน
รองรับการติดตั้งแอพพลิเคชัน
มี GPS, NFC ฯลฯ
มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
Huawei Watch GT 3 Pro ประมาณ 11,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มี GPS ในตัว
เซ็นเซอร์ต่างๆ ครนครัน
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ
SUUNTO 7 ประมาณ 8,900 บาท ฟีเจอร์ครบ
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการวางแผนการเดินทาง มี GPS Navigation
ฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะเน้นไปที่การใส่ออกกำลังกายมากกว่าแนวไลฟ์สไตล์ทั่วไป

 1. Apple Watch Series 8 (45 mm.)

smww3

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ตัวแรกที่อยากจะแนะนำเลยก็คือ Apple Watch Series 8 จากทาง Apple ที่ถึงแม้ว่าจะมาในดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมเช่นเคย แต่ก็มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย โดยในรุ่นนี้มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ให้เลือก 2 ขนาด คือ 41 mm. และ 45 mm. โดยสามารถเลือกตัวเรือนได้ทั้ง Aluminium และ Stainless steel

Advertisementavw

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ Retina LTPO OLED มาพร้อมฟีเจอร์ Always On Display
  • มาพร้อมกับชิป SiP S8 64bit dual-core processor, ชิประบบไร้สาย W3 และชิป U1 (Ultra-Wideband)
  • รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3
  • มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว
  • มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
  • มีเซ็นเซอร์ Crash Detection สำหรับตรวจจับแรงกระแทกที่เกิดจากการชน หรืออุติบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุรุนแรงได้
  • รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, ติดตามรอบเดือน, ออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนต่างๆ
  • กันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP6X
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจ

Apple Watch Series 8 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการใส่เซ็นเซอร์ ตรวจจับแรงกระแทก, อุบัติเหตุ อย่าง Crash Detection รวมไปถึงมีการในเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิเพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้ Apple Watch Series เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่มีความแม่นยำแต่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกายและสุขภาพ

ข้อสังเกต

สำหรับ Apple Watch Series 8 นั้น แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่โดยรวมนั้น แบตเตอรี่ก็ถือว่าค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง

ราคา: เริ่มต้น 15,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


2. Amazfit GTR 4

SmartWatch รุ่นไหนดี

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย รุ่นต่อมาที่น่าสนใจมากๆ เลยก็คือ นาฬิกาจากแบรนด์ Amazfit ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ และได้รับความนิยมสูง จนถึงตอนนี้ก็ได้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว อย่าง Amazfit GTR 4 ที่มาในดีไซน์หน้าปัดกลม ดูทันสมัย เท่ และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Grey, Black และ BrownADVERTISEMENT

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • หน้าจอกระจกนิรภัย เคลือบ Anti-fingerprint ป้องกันรอยนิ้วมือ และป้องกันแสงสะท้อน
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Zepp OS 2.0
  • เฉพาะตัวเรือน น้ำหนัก 34 กรัม
  • แบตเตอรี่ขนาด 475mAh ใช้งานได้ยาวกว่า 14 วัน มาพร้อม Battery Saver Mode
  • มี Watch Face เลือกกว่า 200 แบบ
  • รองรับ Always-on Display
  • รองรับการใช้งาน Alexa
  • รองรับการกันน้ำได้ลึกในระดับ 50 เมตร (5ATM) รองรับการวัด Heart Rate ในขณะว่ายน้ำ
  • รองรับฟีเจอร์ SpO2 หรือออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวิเคราะห์การออกกำลังกาย
  • รองรับการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ
  • รองรับการตรวจจับความเครียด
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 150+ โหมด
  • รองรับการประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับฟีเจอร์ การค้นหาโทรศัพท์, นาฬิกาจับเวลา, Pomodoro, พยากรณ์อากาศ, การแจ้งเตือนการยืน, การแจ้งเตือนแอพต่างๆ จากสมาร์ทโฟน, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ปลดล็อกโทรศัพท์, ไฟฉาย, โหมดห้ามรบกวน, การควบคุมการฟังเพลง เป็นต้น
  • รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Zepp
  • รองรับการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านทาง SmartWatch

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทวอช Amazfit GTR 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย

ข้อสังเกต

เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน

ราคา ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


3. Amazfit T-Rex 2

msm1

Amazfit T-Rex 2 สมาร์ทวอชอีกรุ่นจาก Amazfit ที่น่าสนใจ มาพร้อมความเท่ ลุยๆ และความทนทาน ผ่านการทดสอบทางการทหารถึง 15 ครั้ง ทนต่ออากาศหนาวเย็นได้ต่ำสุดถึง -40 องศาเซลเซียส สามารถกันรอยขีดข่วน กันกระแทกได้สบายๆ ตัวนาฬิกามีการออกแบบดีไซน์ในหน้าปัดกลม ดูดี ทันสมัย มาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่ดี มีฟีเจอร์ใช้งานครบครัน สวมใส่สบายได้ทั้งวัน พร้อมหน้าจอคมชัดความละเอียดสูง เหมาะสำหรับสายลุยสุดๆ

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอขนาดใหญ่ AMOLED 1.39 นิ้ว ที่มีความละเอียด 454 x 4654 พิกเซล ความสว่าง 1000 nits
  • ตัวเรือน Polymer Alloy กันรอยขีดข่วนได้ดี
  • น้ำหนัก 66.5 กรัม
  • รองรับการใช้งานในอุณหภูมิ 70 ถึง – 40 องศาเซลเซียส
  • แบตเตอรี่ 500mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุด 24 วัน
  • มีระดับการกันน้ำกันเหงื่ออยู่ที่ 10ATM
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับระบบนำทาง 5 ระบบ พร้อมรองรับ Dual-band
  • เซนเซอร์ตรวจวัดสุขภาพ BioTracker 3.0
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 BLE
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง
  • รองรับการแจ้งเตือนข้อความ แอพต่างๆ
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า
  • รองรับการใส่เพลง
  • รองรับโหมดการออกกำลังได้กว่า 158 โหมด
  • รองรับการติดตามคุณภาพการนอน
  • รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Zepp

สิ่งที่น่าสนใจ

สำหรับ Amazfit T-Rex 2 ถือว่าเป็นสมาร์ทวอชที่น่าสนใจมากๆ รุ่นหนึ่ง ด้วยราคาในระดับกลาง ที่มาพร้อมความสามารถในการติดตามการออกกำลังกายที่มีความแม่นยำ ดีไซน์ออกมาเหมาะสำหรับการทำกิจกรรม Outdoor เหมาะสำหรับใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงสายลุยเป็นอย่างมาก

ข้อสังเกต

ถึงแม้ว่าทางแบรนด์จะเคลมว่าสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุดถึง 24 วัน แต่การใช้งานจริงนั้น อาจไม่ถึง ขึ้นอยู่กับการปรับความถี่ของการตรวจจับ รวมไปถึง การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีส่วนให้แบตเตอรี่หมดไวยิ่งขึ้น

ราคา ประมาณ 6,290 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


4. SUUNTO 5 PEAK

smw4

SmartWatch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 5 PEAK ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 6 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น Ridge Sand Multicolor, Cave Green, Ochre, Black, Ridge Sand, Dark Heather

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอสัมผัส TFT LCD ขนาด 1.69 นิ้ว ความละเอียด 240×280 พิกเซล
  • มาพร้อม LED Backlight
  • น้ำหนัก 39 กรัม
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันได้ถึง 30 เมตร
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงถึง 100 ชั่วโมง
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 80 โหมด
  • รองรับการแจ้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกผ่านทางหน้าจอ
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจจับคุณภาพการนอน, นับก้าว, แคลอรี่
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนข้อความ ฯลฯ
  • รองรับการตอบกลับข้อความ (เฉพาะ Android)
  • รองรับ Adventure function สำหรับการวางแผนการเดินทาง สามารถใช้งานร่วมกับแอพ 3D Map ได้
  • มีระบบ GPS Navigation

สิ่งที่น่าสนใจ

SUUNTO 5 PEAK เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอชที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย

ข้อสังเกต

โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 5 PEAK จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการตอบกลับข้อความยังจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการ Android ด้วย

ราคา ประมาณ 6,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


5. Samsung Galaxy Watch 5 (44 mm.)

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023

Samsung Galaxy Watch 5 นาฬิกา Smart Watch จากทาง Samsung รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์การวัดความดันโลหิต โดยรุ่นที่เราได้นำมาแนะนำกันนั้นเป็นรุ่น Bluetooth มาที่มาพร้อมหน้าปัดกลม กระจกหน้าจอที่ใช้วัสดุ Sapphire crystal มีความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมจอภาพ Super AMOLED ที่มีการแสดงผลที่คมชัดเป็นอย่างมาก สำหรับ Galaxy Watch 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดแสง, การวัดหัวใจแบบ Optical, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า, Gyroscope, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์การวิเคราะ BIA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันในการใช้งานสำหรับการเป็น นาฬิกาออกกำลังกายอย่างครบครัน

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าปัดกลม ขนาด 40 mm, 44 mm., ตัวเรือนใช้วัสดุ Aluminium
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 90 โหมด
  • แบตเตอรี่ Lithium Ion สามารถใช้งานยาวนานได้ต่อเนื่อง 5 วัน, รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
  • มี GPS, NFC ฯลฯ
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น 5ATM + IP68 และมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G
  • รองรับการใช้งานร่วมกับแอพ Samsung Health
  • รองรับการวัดระดับความเครียด
  • มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
  • รองรับการวัดคุณภาพการนอน
  • รองรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันมาใช้งาน เช่น LINE, Google Maps
  • มีไมโครโฟน, ลำโพงในตัว

สิ่งที่น่าสนใจ

Samsung Galaxy Watch 5 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android อย่าง Samsung ที่สามารถใช้งานร่วมกับนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งตัวนาฬิกายังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งานอย่างครบครัน

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: 9,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


6. Huawei Watch GT 3 Pro

smww4

HUAWEI WATCH GT 3 Pro อีกหนึ่งสมาร์ทวอชจาก HUAWEI ที่มาพร้อมความอัจฉริยะ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ สำหรับรุ่นนี้ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการออกกำลังกาย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูดี มีความทันสมัย สำหรับ HUAWEI WATCH GT 3 Pro มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ Titanium Edition และ Ceramic Edition

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED กระจก Sapphire crystal ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • รองรับการสัมผัสเต็มหน้าจอ
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวัดและติดตามความเครียด
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับ Emergency SOS
  • รองรับ Quick replies
  • รองรับการติดตามระยะเดินทาง, ระยะความสูง ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนแอพพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, มีไมโครโฟน, มีลำโพงในตัว
  • รองรับการควบคุมเพลง, ดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ในนาฬิกาได้
  • สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน HUAWEI Health

สิ่งที่น่าสนใจ

HUAWEI WATCH GT 3 Pro เป็น Smart Watch ที่มีความน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับใครที่ต้องการฟีเจอร์การออกกำลังกาย ไปจนถึงการตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมี GPS ในตัว และเซนเซอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะป็น Gyroscope, Accelerometer, Barometer เป็นต้น

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ

ราคา ประมาณ 11,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


7. SUUNTO 7

smww1

Smart Watch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 7 ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นนาฬิกาออกกำลังกาย อีกรุ่นที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการสวมใส่มากๆ ตัวเรือนออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น All Black, Black Lime, Graphite Copper, Sandston Rosegold และ White Burgundy

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ความสว่าง 1000nits
  • น้ำหนัก 70 กรัม
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันได้ถึง 50 เมตร
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงถึง 48 ชั่วโมง
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 70 โหมด
  • รองรับการแจ้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกผ่านทางหน้าจอ
  • มี GPS, GLONASS, BEIDOU, QZSS ในตัว
  • รองรับการแสดงผลแผนที่สีได้เต็มรูปแบบ
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดความสูงด้วยความดันอากาศ
  • รองรับการตรวจจับคุณภาพการนอน, นับก้าว, แคลอรี่
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนข้อความ ฯลฯ
  • รองรับ Wear OS จาก Google
  • รองรับ Adventure function สำหรับการวางแผนการเดินทาง สามารถใช้งานร่วมกับแอพ 3D Map ได้
  • มีระบบ GPS Navigation

สิ่งที่น่าสนใจ

SUUNTO 7 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย

ข้อสังเกต

โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังเน้นไปที่การใช้งานร่วมกับ Android มากกว่า iOS ถึงแม้ว่าจะรองรับทั้งการใช้งาน iOS และ Android แต่ Android นั้นจะสามารถใช้งานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: ประมาณ 8,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


และทั้งหมดนี้ก็คือนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำกัน โดยจะมีทั้งรุ่นที่เปิดตัวมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ มีช่วงราคาตั้งแต่ช่วงหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่สามารถมองได้อย่างสบายตา และมีขนาดพอดีกับข้อมือ เพราะโดยส่วนใหญ่นั้นผู้ชายมักจะมีขนาดข้อมือที่ใหญ่กว่าผู้หญิง สำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ก็สามารถนำสมาร์ทวอทช์ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อกันได้เลย จะซื้อสวมใส่เองก็ได้ จะซื้อเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษๆ ก็ดี


อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

แอพหาคู่, แอพหาเพื่อน, แอพหาคนคุย, แอพหาเพื่อนคุย
แอพวัดที่ดิน
สมัครเน็ต AIS รายวัน, โปรเน็ต AIS รายวัน
นาฬิกาออกกำลังกาย 2023
โหลดคลิปจาก Facebook
เกมมือถือเล่นกับเพื่อน ฟรี, เกมมือถือเล่นกับเพื่อน 2023
ฟอนต์ไอโฟน ฟรี
อัดหน้าจอคอม Windows 11

from:https://notebookspec.com/web/690615-smart-watch-for-men-suggestion

[ลือ] Xiaomi จะออกนาฬิกาที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3 แทน OS ของตัวเอง

เว็บไซต์ 9to5google รายงานข่าวลือว่า Xiaomi อาจออกสินค้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3 ของกูเกิล หลังจากที่ใช้ OS เฉพาะของตัวเองมาตลอดสำหรับสินค้ากลุ่มสวมใส่ทั้ง Mi Band และ Xiaomi Watch

ระบบปฏิบัติการของ Xiaomi ในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า MIUI Watch OS แม้ข้างในเป็น Android แบบคัสตอม แต่ก็ใช้ร่วมกับ Wear OS 3 ของกูเกิลไม่ได้ จึงทำให้ขาดแคลนแอพหรือฟีเจอร์ที่ผูกกับบริการของกูเกิลโดยตรง (ซึ่งผู้ใช้มักต้องการ)

ข้อมูลที่มีตอนนี้มีเพียงว่านาฬิการุ่นใหม่จะยังใช้ชื่อ Xiaomi Watch เหมือนเดิม และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Mi Fitness / Xiaomi Wear เหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ตัว OS มาเป็น Wear OS 3 โดยคาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2023

ที่มา – 9to5google

ภาพ Xiaomi Watch S1 Pro ที่ใช้ MIUI Watch OS

from:https://www.blognone.com/node/132868

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ยี่ห้อไหนดี น่าซื้อมาใช้งาน สวย ดูดี ฟังก์ชันครบ

แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ยี่ห้อไหนดี ที่ของมันต้องมี สวย เท่ ดูดี ฟังก์ชันครบ อัปเดต 2023

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023

นาฬิกาสำหรับสวมใส่ออกกำลังกาย หรือ Smart Watch นั้น มีจำหน่ายเยอะแยะมากมายตามท้องตลาด ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น โดยแต่ละรุ่นก็มักจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่หลายๆ คนก็ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ว่าจะซื้อนาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นไหนดี ยี่ห้อไหนดี ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาแนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ที่น่าซื้อมาใช้งาน คุ้มค่า สวยเท่ ฟังก์ชันครบ


แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ยี่ห้อไหนดี

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ราคา สิ่งที่น่าสนใจ ข้อสังเกต
Amazfit GTR 4 ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการพูดคุยโทรศัพท์
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน
Apple Watch Series 8 เริ่มต้น 15,900 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มีรุ่นที่รองรับการใส่ eSIM
มีเซ็นเซอร์ Crash Detection
มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
 แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง
Samsung Galaxy Watch 5 เริ่มต้น 9,990 บาท ฟีเจอร์การใช้งานครบครัน
รองรับการติดตั้งแอพพลิเคชัน
มี GPS, NFC ฯลฯ
มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
Huawei Watch GT 3 Pro ประมาณ 11,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มี GPS ในตัว
เซ็นเซอร์ต่างๆ ครนครัน
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ
Amazfit GTS 4 6,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
รองรับการรับสายและโทรออกผ่าน Bluetooth
รองรับการใช้งาน Alexa
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน
Suunto 7 ประมาณ 8,900 บาท ฟีเจอร์ครบ
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการวางแผนการเดินทาง มี GPS Navigation
ฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะเน้นไปที่การใส่ออกกำลังกายมากกว่าแนวไลฟ์สไตล์ทั่วไป
Xiaomi Mi Band 7 Pro ประมาณ 2,299 บาท ฟีเจอร์ครบ
รองรับ GPS ในตัว
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
ไม่สามารถพูดคุยโทรศัพท์แบบ Bluetooth calling ผ่านทาง Smart Watch ได้

1. Amazfit GTR 4 

SmartWatch รุ่นไหนดี

Amazfit ถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ และได้รับความนิยมสูง จนถึงตอนนี้ก็ได้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว อย่าง Amazfit GTR 4 ที่มาในดีไซน์หน้าปัดกลม ดูทันสมัย เท่ และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Grey, Black และ Brown

Advertisementavw

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • หน้าจอกระจกนิรภัย เคลือบ Anti-fingerprint ป้องกันรอยนิ้วมือ และป้องกันแสงสะท้อน
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Zepp OS 2.0
  • เฉพาะตัวเรือน น้ำหนัก 34 กรัม
  • แบตเตอรี่ขนาด 475mAh ใช้งานได้ยาวกว่า 14 วัน มาพร้อม Battery Saver Mode
  • มี Watch Face เลือกกว่า 200 แบบ
  • รองรับ Always-on Display
  • รองรับการใช้งาน Alexa
  • รองรับการกันน้ำได้ลึกในระดับ 50 เมตร (5ATM) รองรับการวัด Heart Rate ในขณะว่ายน้ำ
  • รองรับฟีเจอร์ SpO2 หรือออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวิเคราะห์การออกกำลังกาย
  • รองรับการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ
  • รองรับการตรวจจับความเครียด
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 150+ โหมด
  • รองรับการประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับฟีเจอร์ การค้นหาโทรศัพท์, นาฬิกาจับเวลา, Pomodoro, พยากรณ์อากาศ, การแจ้งเตือนการยืน, การแจ้งเตือนแอพต่างๆ จากสมาร์ทโฟน, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ปลดล็อกโทรศัพท์, ไฟฉาย, โหมดห้ามรบกวน, การควบคุมการฟังเพลง เป็นต้น
  • รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Zepp
  • รองรับการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านทาง SmartWatch

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทวอช Amazfit GTR 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย

ข้อสังเกต

เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน

ราคา ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


2. Apple Watch Series 8

smww3

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ต่อมาที่อยากแนะนำก็คือ Apple Watch Series 8 จากทาง Apple ที่ถึงแม้ว่าจะมาในดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมเช่นเคย แต่ก็มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย โดยในรุ่นนี้มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ให้เลือก 2 ขนาด คือ 41 mm. และ 45 mm. โดยสามารถเลือกตัวเรือนได้ทั้ง Aluminium และ Stainless steel

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ Retina LTPO OLED มาพร้อมฟีเจอร์ Always On Display
  • มาพร้อมกับชิป SiP S8 64bit dual-core processor, ชิประบบไร้สาย W3 และชิป U1 (Ultra-Wideband)
  • รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3
  • มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว
  • มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
  • มีเซ็นเซอร์ Crash Detection สำหรับตรวจจับแรงกระแทกที่เกิดจากการชน หรืออุติบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุรุนแรงได้
  • รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, ติดตามรอบเดือน, ออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนต่างๆ
  • กันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP6X
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจ

Apple Watch Series 8 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการใส่เซ็นเซอร์ ตรวจจับแรงกระแทก, อุบัติเหตุ อย่าง Crash Detection รวมไปถึงมีการในเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิเพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้ Apple Watch Series เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่มีความแม่นยำแต่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกายและสุขภาพ

ข้อสังเกต

สำหรับ Apple Watch Series 8 นั้น แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่โดยรวมนั้น แบตเตอรี่ก็ถือว่าค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง

ราคา: เริ่มต้น 15,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


3. Samsung Galaxy Watch 5

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023

Samsung Galaxy Watch 5 นาฬิกา Smart Watch จากทาง Samsung รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์การวัดความดันโลหิต โดยรุ่นที่เราได้นำมาแนะนำกันนั้นเป็นรุ่น Bluetooth มาที่มาพร้อมหน้าปัดกลม กระจกหน้าจอที่ใช้วัสดุ Sapphire crystal มีความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมจอภาพ Super AMOLED ที่มีการแสดงผลที่คมชัดเป็นอย่างมาก สำหรับ Galaxy Watch 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดแสง, การวัดหัวใจแบบ Optical, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า, Gyroscope, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์การวิเคราะ BIA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันในการใช้งานสำหรับการเป็น นาฬิกาออกกำลังกาย 2023 อย่างครบครัน

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าปัดกลม ขนาด 40 mm, 44 mm., ตัวเรือนใช้วัสดุ Aluminium
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 90 โหมด
  • แบตเตอรี่ Lithium Ion สามารถใช้งานยาวนานได้ต่อเนื่อง 5 วัน, รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
  • มี GPS, NFC ฯลฯ
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น 5ATM + IP68 และมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G
  • รองรับการใช้งานร่วมกับแอพ Samsung Health
  • รองรับการวัดระดับความเครียด
  • มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
  • รองรับการวัดคุณภาพการนอน
  • รองรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันมาใช้งาน เช่น LINE, Google Maps
  • มีไมโครโฟน, ลำโพงในตัว

สิ่งที่น่าสนใจ

Samsung Galaxy Watch 5 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android อย่าง Samsung ที่สามารถใช้งานร่วมกับนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งตัวนาฬิกายังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งานอย่างครบครัน

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: 9,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


4. Huawei Watch GT 3 Pro

smww4

HUAWEI WATCH GT 3 Pro อีกหนึ่งสมาร์ทวอชจาก HUAWEI ที่มาพร้อมความอัจฉริยะ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ สำหรับรุ่นนี้ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการออกกำลังกาย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูดี มีความทันสมัย สำหรับ HUAWEI WATCH GT 3 Pro มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ Titanium Edition และ Ceramic Edition

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED กระจก Sapphire crystal ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • รองรับการสัมผัสเต็มหน้าจอ
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวัดและติดตามความเครียด
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับ Emergency SOS
  • รองรับ Quick replies
  • รองรับการติดตามระยะเดินทาง, ระยะความสูง ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนแอพพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, มีไมโครโฟน, มีลำโพงในตัว
  • รองรับการควบคุมเพลง, ดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ในนาฬิกาได้
  • สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน HUAWEI Health

สิ่งที่น่าสนใจ

HUAWEI WATCH GT 3 Pro เป็น Smart Watch ที่มีความน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับใครที่ต้องการฟีเจอร์การออกกำลังกาย ไปจนถึงการตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมี GPS ในตัว และเซนเซอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะป็น Gyroscope, Accelerometer, Barometer เป็นต้น

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ

ราคา ประมาณ 11,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


5. Amazfit GTS 4

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง 2023, นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ราคาไม่แพง

Amazfit ถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ แบรนด์หนึ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมสูงอีกด้วย สำหรับ Amazfit GTS 4 นั้นก็มาในดีไซน์หน้าปัดสี่เหลี่ยมมน ดูทันสมัย และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน คือ Infinite Black, Misty White, Autumn Brown และ Rosebud Pink

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ HD AMOLED Display ขนาด 1.75 นิ้ว
  • ความจุ 2.3 GB สามารถใส่เพลงได้ถึง 470 เพลง
  • ปรับเปลี่ยน Watch Faces ได้มากกว่า 150 รูปแบบ
  • กันน้ำสูงสุดระดับ 5 ATM หรือประมาณ 50 เมตร
  • มีโหมดกำลังกายกว่า 150 โหมด
  • รับสายและโทรออกผ่าน Bluetooth
  • รองรับการใช้งาน Alexa
  • มี PAI ช่วยในการประมวลผลสุขภาพ
  • รองรับการวัดคุณภาพการนอนหลับและการหายใจขณะนอนหลับ
  • ประมวลผลสุขภาพ 4 อย่างในครั้งเดียว ได้แก่ อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าความเครียด, ค่าออกซิเจนในเลือด และ อัตราการหายใจ
  • แบตเตอรี่ 300mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด ประมาณ 2 สัปดาห์

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทวอช Amazfit GTS 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย

ข้อสังเกต

เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน

ราคา: 6,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


6. Suunto 7

smww1

Smart Watch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 7 ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 อีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น All Black, Black Lime, Graphite Copper, Sandston Rosegold และ White Burgundy

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ความสว่าง 1000nits
  • น้ำหนัก 70 กรัม
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันได้ถึง 50 เมตร
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงถึง 48 ชั่วโมง
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 70 โหมด
  • รองรับการแจ้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกผ่านทางหน้าจอ
  • มี GPS, GLONASS, BEIDOU, QZSS ในตัว
  • รองรับการแสดงผลแผนที่สีได้เต็มรูปแบบ
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดความสูงด้วยความดันอากาศ
  • รองรับการตรวจจับคุณภาพการนอน, นับก้าว, แคลอรี่
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนข้อความ ฯลฯ
  • รองรับ Wear OS จาก Google
  • รองรับ Adventure function สำหรับการวางแผนการเดินทาง สามารถใช้งานร่วมกับแอพ 3D Map ได้
  • มีระบบ GPS Navigation

สิ่งที่น่าสนใจ

SUUNTO 7 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย

ข้อสังเกต

โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังเน้นไปที่การใช้งานร่วมกับ Android มากกว่า iOS ถึงแม้ว่าจะรองรับทั้งการใช้งาน iOS และ Android แต่ Android นั้นจะสามารถใช้งานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: ประมาณ 8,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


7. Xiaomi Mi Band 7 Pro

smw2

ปกติเราจะคุ้นชินกับ Mi Band ที่เป็น Smart Band ขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ฟีเจอร์เกินราคา ในรอบนี้ มาดูในรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาอย่าง Xiaomi Mi Band 7 Pro ที่มาในดีไซน์หน้าจอแบบสีเหลี่ยมขอบมน ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการออกกำลังกาย รองรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจ มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 280 x 456 พิกเซล, 326PPI ใช้กระจก 2.5D ที่มีความแข็งแรงทนทาน
  • รองรับการทำงานระบบสัมผัสแบบเต็มหน้าจอ
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 20.5 กรัม
  • แบตเตอรี่ขนาด 235mAh สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 20 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 117 โหมด
  • รองรับการตรวจจับการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการตรวจจับความเครียด
  • รองรับการตรวจจับการนอนหลับ
  • รองรับการประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับการติดตามรอบเดือน
  • รองรับฟีเจอร์รีโมทถ่ายภาพสำหรับสมาร์ทโฟน
  • รองรับการควบคุมเพลง บันทึกภาพ รีโมทคอนโทรล ฯลฯ
  • รองรับ GPS ในตัว
  • รองรับการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน Mi Fitness

สิ่งที่น่าสนใจ

สำหรับ Xiaomi Mi Band 7 Pro ถือว่าให้ฟีเจอร์การใช้งานมาครบครันมากๆ ทั้งการตรวจจับวัดค่าต่างๆ รวมไปถึงการออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากมาย แถมยังมี GPS ในตัวด้วย ช่วยให้การออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่งนั้น สามารถทำได้ดีและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ข้อสังเกต

สำหรับ Xiaomi Mi Band 7 Pro นั้นมีฟีเจอร์แสดงการแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถพูดคุยโทรศัพท์แบบ Bluetooth calling ผ่านทาง Smart Watch ได้

ราคา ประมาณ 2,299 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


และทั้งหมดนี้ก็คือนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ที่น่าสนใจ น่าซื้อหามาใช้งาน ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน เหมาะทั้งกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน การติดตามการนอนหลับ ไปจนถึงการสวมใส่ในขณะที่ออกกำลังกาย ช่วยให้เราสามารถตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ในด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหานาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ดีๆ สักเรือนมาสวมใส่ ก็สามารถนำที่ทีมงานนำมาแนะนำไปเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับการตัดสินใจได้เลย


อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

โหลดคลิปจาก Facebook
เกมมือถือเล่นกับเพื่อน ฟรี, เกมมือถือเล่นกับเพื่อน 2023
ฟอนต์ไอโฟน ฟรี
อัดหน้าจอคอม Windows 11
นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง 2023
นาฬิกาวัดความดัน, นาฬิกาสุขภาพ
ดูยูทูปปิดหน้าจอได้, YouTube ปิดหน้าจอ
วิธีสมัคร Gmail, เปลี่ยนรหัส Gmail, ลืมรหัส Gmail

from:https://notebookspec.com/web/688886-smart-watch-2023-suggestion

Xiaomi เปิดตัวหูฟัง Buds 4 Pro, นาฬิกา Watch S1 Pro, สกูตเตอร์ไฟฟ้า Scooter 4 Ultra

นอกจากสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 13/13 Pro ที่เปิดตัวในตลาดนานาชาติ Xiaomi ยังเปิดตัวสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เสริมและ gadget ในตลาดนานาชาติพร้อมกัน ดังนี้

  • หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 4 Pro มีฟีเจอร์ Sony LDAC ส่งข้อมูล 990kbps + HiRes Audio, ตัดเสียงรบกวน ANC สูงสุดที่ความดัง 48dB, แบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงได้นาน 9 ชม. หรือ 38 ชม. ร่วมกับเคส, ราคา 249 ยูโร
  • นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Pro หน้าจอ 1.47” AMOLED กระจกแซฟไฟร์กันรอย, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 14 วัน, รองรับการแทร็คกิจกรรมกว่า 100 ประเภท, ราคา 299 ยูโร
  • สกูตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter 4 Ultra ล้อขนาด 10 นิ้ว, ความเร็วสูงสุด 25km/h, มอเตอร์กำลัง 940W, ระยะวิ่งสูงสุด 70 km ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, ราคา 999 ยูโร

No Description

No Description

No Description

No Description

No Description

No Description

No Description

ที่มา – Xiaomi

from:https://www.blognone.com/node/132794

แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ดีไซน์สวย ใส่สบาย อัปเดต 2023

แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง สวย ดูดี ใส่สบาย อัปเดต 2023

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง 2023

การออกกำลังกายรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าเป็นอย่างมาก การตรวจวัดค่าต่างๆ ขณะที่เราออกกำลังกายก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ผ่าน Smart Watch หรือนาฬิกาออกกำลังกาย ซึ่งนาฬิกาก็มีวางขายมากมายหลากหลายยี่ห้อ ดีไซน์ ขนาดตัวเรือนก็มีความแตกต่างกันออกไป ทีมงาน NotebookSPEC จึงอยากมาแนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ที่มาพร้อมดีไซน์สวย สวมใส่สบาย ดูดีเสมอไม่ว่าในโอกาสไหนๆ


แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง สวย ดูดี ใส่สบาย

ปัญหาโดยส่วนใหญ่ในการเลือกซื้อนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิงนั้น ก็คือ ขนาดของตัวเรือนรวมไปถึงน้ำหนัก ที่เมื่อเทียบกับข้อมือที่มีขนาดเล็กของผู้หญิงแล้วนั้น เมื่อสวมใส่ก็จะทำให้รู้สึกไม่กระชับหรือสบายข้อมือ นาฬิกาที่ทีมงานนำมาแนะนำในครั้งนี้ก็จะเป็นนาฬิกาสำหรับการสวมใส่ออกกำลังกายที่มีขนาดหน้าจอที่ค่อนข้างพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับการออกกำลังกายที่ครบครัน อีกทั้งยังอยู่ในช่วงราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายอีกด้วย

Advertisementavw
นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ราคา แบตเตอรี่ การออกกำลังกาย
Amazfit GTS 4 6,990 บาท แบตเตอรี่ 300mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด ประมาณ 2 สัปดาห์ มีโหมดกำลังกายกว่า 150 โหมด
Mi Band 7 1,290 บาท แบตเตอรี่ขนาด 180mAh ใช้งานได้ยาวกว่า 14 วัน โหมดกีฬา 120 โหมด
Maimo Watch 2.5D 1,400 – 1,500 บาท แบตเตอรี่ขนาด 300mAh ใช้งานแบบทั่วไปได้นาน 10 วัน และแบบพื้นฐานได้นานสูงสุด 21 วัน รองรับโหมดออกกำลังกาย 13 โหมด
Amazfit Band 7 1,390 บาท แบตเตอรี่ 232mAh สามารถใช้งานได้นาน 18 วัน หรือสูงสุด 28 วันในโหมดประหยัดแบตฯ โหมดกีฬา 120 โหมด
Maimo Smart Watch R 2,099 – 2,399 บาท แบตเตอรี่ 280mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน โหมดออกกำลังกาย 116 โหมด

1. Amazfit GTS 4

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง 2023, นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ราคาไม่แพง

Amazfit ถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ แบรนด์หนึ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมสูงอีกด้วย สำหรับ Amazfit GTS 4 นั้นก็มาในดีไซน์หน้าปัดสี่เหลี่ยมมน ดูทันสมัย และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน คือ Infinite Black, Misty White, Autumn Brown และ Rosebud Pink

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ HD AMOLED Display ขนาด 1.75 นิ้ว
  • ความจุ 2.3 GB สามารถใส่เพลงได้ถึง 470 เพลง
  • ปรับเปลี่ยน Watch Faces ได้มากกว่า 150 รูปแบบ
  • กันน้ำสูงสุดระดับ 5 ATM หรือประมาณ 50 เมตร
  • มีโหมดกำลังกายกว่า 150 โหมด
  • รับสายและโทรออกผ่าน Bluetooth
  • รองรับการใช้งาน Alexa
  • มี PAI ช่วยในการประมวลผลสุขภาพ
  • รองรับการวัดคุณภาพการนอนหลับและการหายใจขณะนอนหลับ
  • ประมวลผลสุขภาพ 4 อย่างในครั้งเดียว ได้แก่ อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าความเครียด, ค่าออกซิเจนในเลือด และ อัตราการหายใจ
  • แบตเตอรี่ 300mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด ประมาณ 2 สัปดาห์

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทวอช Amazfit GTS 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย

ข้อสังเกต

เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน

ราคา: 6,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


2. Mi Band 7

Smart Watch, สมาร์ทวอช

นาฬิการาคาประหยัดอย่าง Mi Band นั้น ถือเป็นสมาร์ทแบนด์หรือสมาร์ทวอชที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมา ตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงตอนนี้ก็เป็นรุ่นที่ 7 แล้ว ตัวนาฬิกาตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย และการใช้การในชีวิตประจำวัน สามารถตรวจวัดค่าต่างๆ ได้มากมาย ทั้งความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจ แถมตัวแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว ความละเอียด 192 x 490 พิกเซล
  • เฉพาะตัวเรือน น้ำหนัก 13.5 กรัม
  • แบตเตอรี่ขนาด 180mAh ใช้เวลาชาร์จโดยประมาณ 2 ชั่วโมง ใช้งานได้ยาวกว่า 14 วัน
  • รองรับการกันน้ำได้ลึกในระดับ 50 เมตร (5ATM)
  • รองรับฟีเจอร์ SpO2 หรือออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวิเคราะห์การออกกำลังกาย VO2 max
  • รองรับการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ
  • รองรับการตรวจจับความเครียด
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 110 โหมด
  • รองรับการประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับฟีเจอร์ การค้นหาโทรศัพท์, นาฬิกาจับเวลา, Pomodoro, พยากรณ์อากาศ, การแจ้งเตือนการยืน, การแจ้งเตือนแอพต่างๆ จากสมาร์ทโฟน, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ปลดล็อกโทรศัพท์, ไฟฉาย, โหมดห้ามรบกวน, การควบคุมการฟังเพลง เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทแบน Mi Band 7 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร

ข้อสังเกต

แม้จะรองรับการเตือนสายเรียกเข้า แต่ก็ไม่สามารถรับสายหรือพูดคุยผ่านสมาร์ทวอชได้โดยตรง, การแจ้งเตือนภาษาไทยบางครั้งตัวอักษรมีการเคลื่อน หรือไม่สามารถอ่านตัวอักษรพิเศษบางตัวได้ นอกจากนี้ฟีเจอร์ NFC นั้น ก็จำกัดอยู่ในบางเวอร์ชันเท่านั้น

ราคา: ประมาณ 1,290 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEEBaNANA IT


3. Maimo Watch 2.5D

m5

Maimo ถือเป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ในเครือของ Xiaomi ที่เน้นไปที่การผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะ ตัวแบรนด์เริ่มเป็นที่พูดถึงและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ Maimo Watch รุ่นนี้ ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ ราคาน่าคบหา การใช้งานไม่ซับซ้อน สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากต้องการ Smart Watch ราคาเบาๆ ที่มีดีไซน์ทันสมัย มีฟีเจอร์การใช้งานครบ

สเปคคร่าวๆ

  • Model: WT2105
  • หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 1.69 นิ้ว
  • ใช้กระจก 2.5D มีความแข็งแรงทนทาน ปกป้องรอยขีดข่วนได้ดี
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • แบตเตอรี่ขนาด 300mAh ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 2.5 ชั่วโมง
  • สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้นาน 10 วัน และแบบพื้นฐานได้นานสูงสุด 21 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกาย 13 โหมด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวัดและติดตามความเครียด
  • รองรับการแจ้งเตือนแอพพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า
  • รองรับการใช้งานร่วมกับ Alexa

สิ่งที่น่าสนใจ

Maimo Watch รุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับเป็นสมาร์ทวอชในรุ่นเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟังก์ชันการใช้งานแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่การตรวจวัดค่าต่างๆ มีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการรองรับโหมดการออกกำลังกายถือว่าค่อนข้างให้มาน้อย รวมไปถึงการแจ้งเตือนแอพนั้น ใน iOS อาจจะไม่รองรับหรือรองรับน้อย แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ

ราคา: ประมาณ 1,400 – 1,500 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


4. Amazfit Band 7

wsmw2

Amazfit Band 7 รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์หน้าจอสี่เหลี่ยมยาว ที่แสดงผลได้อย่างชัดเจน และมีน้ำหนักเบา ตัวเรือนมีขนาดกะทัดรัด สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับการสวมใส่ออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง รุ่นนี้มีให้เลือกด้วยกัน 6 สี ได้แก่ Pink, Black, White, Green, Orange และ Blue

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ HD AMOLED ขนาด 1.47
  • โหมดกีฬา 120 โหมด
  • รองรับการใช้งาน Amazon Alexa
  • รองรับ Always On Display
  • รองรับการตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด, ค่าความเครียด, Heart Rate
  • มี PAI Health Assessment System
  • รองรับการติดตามรอบเดือน
  • รองรับการตรวจจับการนอน
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • แบตเตอรี่ 232mAh สามารถใช้งานได้นาน 18 วัน หรือสูงสุด 28 วันในโหมดประหยัดแบตฯ

สิ่งที่น่าสนใจ

Amazfit Band 7 เป็นสมาร์ทแบนด์ที่มีคความน่าสนใจมาก มาพร้อมด้วยโหมดออกกำลังกายมากมาย อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ที่จำเป็นใส่มาอย่างครบครัน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา จึงเหมาะมากๆ สำหรับใครที่ต้องการตรวจวัดค่าต่างๆ ในขณะที่ออกกำลังกาย หรือจะใส่ตรวจจับการนอนก็ทำได้

ข้อสังเกต

สำหรับ Amazfit Band 7 นั้นไม่มี GPS ในตัว และไม่สามารถโทรออก หรือรับสายได้ ทำได้เพียงแจ้งเตือนเท่านั้น

ราคา: 1,390 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


5. Maimo Smart Watch R

wsmw3

Maimo Smart Watch R มาในดีไซน์ของหน้าปัดกลม ดูสวยงามทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ ทั้งการใส่ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการสวมใส่ออกกำลังกาย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่จำเป็นอย่างครบครัน แถมยังมีทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น GPS อีกด้วย สำหรับ Maimo Smart Watch R มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Black, Glod และ Blue

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ LCD ขนาด 1.3 นิ้ว มีกรอบสแตนเลส สามารถเปลี่ยน Watch Face ได้มากกว่า 100 แบบ
  • ใช้วัสดุป้องกันรอยขีดข่วน, รอยบิ่น, ส่วนของเคสด้านหลังใช้ PA+60%GF
  • โหมดออกกำลังกาย 116 โหมด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, ค่าความเครีนด, ติดตามรอบเดือน, ประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับการควบคุมเพลงและการถ่ายรูป
  • รองรับการติดตามโทรศัพท์
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • แบตเตอรี่ 280mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน

สิ่งที่น่าสนใจ

Maimo Smart Watch R เป็นสมาร์ทวอทช์ในรุ่นราคาประมาณ 2,000 บาท ที่น่าสนใจมากๆ สามารถวัดค่าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีรุ่นที่มี GPS ในตัวด้วย เรียกว่าครบครันมากๆ อีกทั้งวัสดุยังมีความแข็งแรงทนทาน ปกป้องรอบขีดข่วนได้ดีอีกด้วย

ข้อสังเกต

ไม่สามารถโทรออก หรือรับสายได้ ทำได้เพียงแสดงการแจ้งเตือนเท่านั้น

ราคา: 2,099 – 2,399 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


และทั้งหมดนี้ก็คือนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้หญิง ที่น่าซื้อมาใช้งาน อยู่ในช่วงราคาระดับกลางๆ สามารถเอื้อมถึงได้อย่างไม่ยาก มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับการตรวจวัดค่า โหมดออกกำลังกายมากมาย นอกจากนี้ยังมีการรองรับการใช้งานด้านอื่นๆ อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจหรือกำลังมองหานาฬิกามาสวมใส่สำหรับการออกกำลังกาย ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือหาซื้อมาใช้งานกันได้เลย


อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

นาฬิกาวัดความดัน, นาฬิกาสุขภาพ
ดูยูทูปปิดหน้าจอได้, YouTube ปิดหน้าจอ
วิธีสมัคร Gmail, เปลี่ยนรหัส Gmail, ลืมรหัส Gmail
สาย Apple Watch
โปรเน็ต AIS ไม่ลดสปีด
แอพรายรับรายจ่าย ฟรี,
Wallpaper สายมู
13 แอพอันตรายดูดเงิน, แอพอันตราย. แอพปลอม

from:https://notebookspec.com/web/688098-smart-watch-for-women-suggestion