คลังเก็บป้ายกำกับ: WINDOWS_8_PRO

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

เอซุสโดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” ได้ประกาศถึงความร่วมมือกับ Ubisoft โดยได้บันเดิลเกมส์ยอดฮิตอย่าง Assassin’s Creed IV: Black Flag ไปพร้อมกับตัวผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด รุ่น Rampage IV Black Edition และเครื่องพีซีและโน้ตบุ๊กสำหรับการเล่นเกมส์ทั้งรุ่น Tytan G30 และ G750 ตามลำดับ

Assassin’s Creed IV: Black Flag เป็นเกมส์ผจญภัยภาคใหม่ล่าสุดและถือว่าเป็นเกมส์ที่รอคอยของคอเกมส์เมอร์ทั่วโลก และต้องบอกว่า ASUS ROG เป็นพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์ที่ Ubisoft แนะนำให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการเล่นเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag อีกด้วย โดยนาย Martin Schelling ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์เกมส์ของค่าย Ubisoft ให้ความเห็นว่า “ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นประสิทธิภาพอันทรงพลังของเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag ที่ทำงานบนผลิตภัณฑ์ ASUS ROG มันสุดยอดจริง ๆ”

เทคโนโลยีอันสุดล้ำสมัยผนวกกับ เกมส์ยอดฮิตที่ทุกคนรอคอย

บทสรุปทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ลูกค้าที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มอิ่มกับอรรถรสของสุดยอดเกมส์อย่าง Assassin’s Creed IV: Black Flag ก็จะสามารถหาได้จากผลิตภัณฑ์ของ ASUS ROG ที่ได้แถมเกมส์ดังกล่าวมาให้อย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ASUS ROG Rampage IV Black Edition เป็นมาเธอร์บอร์ดบนชิพเซต intel x79 ที่มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีต่างๆ จากทาง ROG ที่ช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของคอเกมส์และนักโอเวอร์คล็อกทั้งหลาย ได้อย่างสมบูรณ์แบบในการที่จะปลดปล่อยขุมพลังของโพรเซสเซอร์ LGA2011 Intel® Core™ i7 (Ivy Bridge-E), รองรับหน่วยความจำ (RAM) สูงสุดถึง 64 GB (และสามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 2800 MHz ทั้งหมด 8 ซ็อกเก็ต DIMM) และการเชื่อมต่อการ์ดจอหลายๆ ใบ (Multi-GPU) และยังมาพร้อมกับ ส่วนควบคุมภาคจ่ายไฟดิจิตอล Extreme Engine DIGI+ III ที่ใช้ระบบ Voltage-regulator module (VRM) ช่วยสร้างเสถียรภาพที่เหนือชั้นพร้อมความแม่นยำในการส่งกำลังไฟเข้าสู่อุปกรณ์ รวมถึงแผงควบคุม OC Panel ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการอัจฉริยะที่สามารถใช้ปรับแต่งระบบได้อย่างง่ายดาย และเทคโนโลยี SupremeFX Audio Solution ให้คุณภาพเสียงเต็มอรรถรสเช่นเดียวกับซาวด์การ์ดในระดับไฮเอ็นด์

สำหรับเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag นั้นก็ยังมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ROG Tytan G30, Tytan G30 ที่มีคุณสมบัติ Turbo Gear แค่เพียงคลิกเดียว ก็จะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสิทธิภาพอันเต็มเปี่ยมของโพรเซสเซอร์ในเจเนเรชันที่ 4 ของอินเทลในตระกูล Intel Core i7-4770K ได้อย่างเต็มที่ และสามารถทำการโอเวอร์คล็อกทั้งสี่คอร์ได้ระดับความเร็วสูงสุดที่ 4.1 GHz สำหรับผลิตภัณฑ์ Tytan G30 จะมาพร้อมกับการ์ดจอตัวใหม่ล่าสุด  NVIDIA® GeForce® GTX 780 ซึ่งช่วยทำให้การเล่นเกมส์เป็นไปอย่างราบรื่นแม้ว่าจะทำงานในโหมดของภาพกราฟิกระดับสูงสุดก็ตาม อีกทั้งเทคโนโลยี ASUS SonicMaster กับตัวยูทิลิตี้ในการปรับแต่งเสียง AudioWizard ก็สามารถสร้างสรรค์คุณภาพเสียงกระหึ่มทรงพลังและให้รายละเอียดเสียงในทุกสัมผัส  และด้วยการออกแบบเคสแบบอัจฉริยะที่ผสมผสานกับระบบระบบความร้อนด้วยของเหลวของ CPU ทำให้สามารถจัดการเรื่องความร้อนออกไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการทำงานและลดเสียงรบกวนออกไปได้อย่างสิ้นเชิง สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นที่แถมเกมส์มาให้ประกอบด้วย ASUS ROG Tytan G50, G70 และ CG8890 นอกจากนั้นก็ยังมีเดสก์ท็อปพีซีรุ่น  G10, M51 และ M70 อีกด้วยเช่นกัน

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ด้าน ASUS ROG G750 โน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาสำหรับคอเกมส์โดยเฉพาะ ก็มาพร้อมกับเกมส์ Assassin’s Creed IV: Black Flag เช่นกัน ซึ่ง G750 นี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่กล่าวขานกันถึงประสิทธิภาพที่ได้รับจากเทคโนโลยีทั้งในส่วนของโพรเซสเซอร์และกราฟฟิกที่ถือว่าเป็นสุดยอดและใหม่ที่สุดในปัจจุบัน ขุมพลังที่สุดพิเศษอย่างเทคโนโลยีโพรเซสเซอร์ Intel Core i7 ในเจเนอเรชันที่ 4 ที่ทำงานร่วมกับกราฟฟิการ์ดจาก NVIDIA ในตัว GeForce GTX 780M ทำให้มันเป็นโน้ตบุ๊กสุดยอดที่สามารถสร้างประสบการณ์การเล่นเกมส์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

G750 ใช้ระบบระบายอากาศ Dual-exhaust ที่ทำให้เครื่องนั้นมีความเย็นมากกว่าและสามารถสร้างประสิทธิภาพได้อย่างสุดยอด โดยปล่อยการระบายอากาศออกทางด้านหลังของเครื่อง ทำให้สามารถกันทั้งเสียงรบกวนและความร้อนให้ออกไปจากนักเล่นเกมส์ได้ ตัวโน้ตบุ๊กมาพร้อมด้วยคีย์บอร์ดแบบมีไฟ (Backlit) ที่ออกแบบสำหรับการเล่มเกมส์ พร้อมคีย์แพดตัวเลยและคีย์คำสั่งต่างๆ ที่แยกออกมาอย่างชัดเจน มันยังมาพร้อมกับทัชแพดแบบมัลติทัชขนาดใหญ่ ทำด้วยอลูมิเนียมทั้งแผ่นและมีการปรับมุมให้ตรงกับการวางตำแหน่งเท้าอีกด้วย เรียกได้ว่า G750 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชัยชนะที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

[PR] “เอซุส” โดยสาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” จับมือ สุดยอดเกมส์ตำนานนักฆ่า

ราคาและการวางจำหน่าย

สำหรับเกมส์ Assassin’s Creed® IV: Black Flag นั้นจะแถมพร้อมมากับผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด Rampage IV Black Edition รวมถึงผลิตภัณฑ์พีซี Tytan G30 และโน้ตบุ๊ก G750 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2013 ที่ผ่านมา และตั้งแต่ในวันที่ 28 ตุลาคม 2013 ผลิตภัณฑ์การ์ดจอ ASUS NVIDIA® GeForce® GTX Titan, GTX 780 และ GTX 770 ก็จะมาพร้อมกับเกมส์ Assassin’s Creed® IV: Black Flag™ ด้วยเช่นกัน : สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย ASUS ของท่านเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสมบัติ 1  
G750 Tytan G30
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 8/Windows 8 Professional
  • โพรเซสเซอร์ Intel Core i7-4700HQ
  • ชิปเซ็ต Intel HM87 Express
  • ความเร็ว DDR3 1600MHz up to 32GB
  • 17.3” FHD 3D LED backlit (1920 x 1080, 120Hz) / 17.3” anti-glare FHD LED backlit (1920 x 1080)
  • Up to NVIDIA® GeForce® GTX 780M with 4GB GDDR5 VRAM
  • Up to 1TB hard disk drive and 256GB SSD storage
  • DVD Super-Multi / Blu-ray combo / Blu-ray writer
  • กล้องเว็บแคมแบบ HD พร้อมกับไมโครโฟน

 

  • ระบบปฏิบัติการ Windows 8 (64-bit)
  • โพรเซสเซอร์ 4th generation Intel Core i5/i7 processors
  • ชิปเซ็ต  Intel Z87
  • Up to NVIDIA GeForce GTX780 3GB DDR5 (2DVI/HDMI/DP)
  • 4GB (32GB max) dual-channel DDR3 (1600MHz)
  • 1 x PCI-e x 16, 1 x PCI-e x 1, 1 x PCI-e x 8 (shared with x16), 1 x PCI-e x 4
  • Up to 3TB SATA 6Gbit/s hard drive (7200RPM)
    Up to 256G SATA 6GB/s SSD drive
  • 2 x 5.25in, 3 x 3.5in, 2.5in drive bays (bracket fit 3.5in bay)
  • Slim-type tray-in DVD-RW / Slim-type tray-in  BD Combo / Slim-type tray-in  BD Writer
  • เทคโนโลยี Eight-channel ASUS SonicMaster audio
  • Xonar Phoebus sound card (ออปชัน)
  •  SATA 6.0Gbit/s จำนวน 6
  • USB 2.0 จำนวน 4 พอร์ต, USB 3.0 จำนวน 6 พอร์ต
  • มีพอร์ต HDMI-Out, พอร์ต DVI-D, พอร์ต VGA D-sub
Rampage IV Black Edition
  • ซ็อกเก็ต Intel Core i7 processors for LGA 2011 socket
  • ชิปเซ็ต Intel X79 Express
  •  DIMM จำนวน 8 สล็อต, ขยายได้สูงถึง 64GB DDR3 2800(OC)
  • 4-way NVIDIA® SLI / AMD CrossFireX™
  • Intel® Ethernet LAN + Wi-Fi 802.11ac/ Bluetooth 4.0 + GameFirst II
  • USB3.0 จำนวน 8 สล็อก และ USB2.0 จำนวน 10 สล็อต

 

คุณสมบัติและการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ประสิทธิภาพที่ได้จริงอาจแตกต่างกันขึ้นกับแอพพลิเคชั่น การใช้งาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.asus.com

from:http://mobiledista.com/pr-asus-republic-of-the-game-rog-shake-hands-with-the-legend-killer-games/

[PR] ทรูมูฟ เอช ผนึก ไมโครซอฟท์ ขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8

[PR] ทรูมูฟ เอช ผนึก ไมโครซอฟท์ ขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8

ทรูมูฟ เอช โดย ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ (ขวา) ผู้อำนวยการด้านบริหารผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย โดย นายมานพ มณีชวขจร (ซ้าย) Consumer Channel Group Director บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8 จากสมาร์ทโฟนสู่แท็ปเล็ต อย่างครบวงจร โดย ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้นำสมาร์ทดีไวซ์ทุกแพลตฟอร์ม จัดจำหน่าย Microsoft Surface ทั้งรุ่น Surface RT และ Surface Pro ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค  โดยไม่มีข้อจำกัดระหว่างการทำงานและความเพลิดเพลินอีกต่อไป  ทั้งนี้  Windows 8 จะมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่รวดเร็วลื่นไหล และเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี พร้อมมอบข้อเสนอสุดคุ้ม! ด้วยโปรโมชั่น รับฟรี Surface Type Cover มูลค่า 4,490 บาท (สำหรับ 50 ท่านแรกเท่านั้น) และสามารถใช้บริการ WiFi by TrueMove H ฟรี 1 ปีเต็ม ท่องเน็ตจุใจด้วย WiFi ที่เร็วที่สุด และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดด้วยจุดให้บริการที่มากกว่า 100,000 จุดทั่วไทย ตลอดจนรับสิทธิ์ผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ได้แก่ KCC, KBank, SCB, KTC, Firstchoice, BBL และ CitiBank

Microsoft Surface แท็ปเล็ตทรงพลังมีให้ เลือก 2 รุ่น ได้แก่

  • Surface RT ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT

–          ขนาด 32 GB ราคา 11,500 บาท

–          ขนาด 64 GB  ราคา 14,500 บาท

  • Surface Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro

–          ขนาด 64 GB ราคา 25,500  บาท

–          ขนาด 128 GB ราคา 28,500 บาท

ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ทรูช้อป 5 สาขา ได้แก่ ร้านทรู เออร์เบิน พาร์ค, ร้านทรู ดิจิตอล เกตเวย์, ร้านทรู เมกา บางนา, ร้านทรู ซีคอน บางแค และร้านทรู ไอทีมอลล์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.truemove-h.com/surface

from:http://mobiledista.com/pr-truemove-h-seal-expands-microsoft-experienced-the-window-8/

[PR] เลอโนโว เติมเต็มความคุ้มค่าให้ธุรกิจด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

[PR] เลอโนโว เติมเต็มความคุ้มค่าให้ธุรกิจด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

เลอโนโว มอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจ จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษโน๊ตบุ้ค อัลตร้าบุ้ค และแท็บเล็ต ตระกูล ThinkPad เพื่อเติมเต็มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าธุรกิจ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์การทำงานและช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางธุรกิจ พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาโดนใจยาวถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2556 ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ

รายละเอียดโปรโมชั่น

  • เลอโนโว ThinkPad Helix อัลตร้าบุ๊กแบบคอนเวอร์ทิเบิลระดับพรีเมี่ยมที่สามารถปรับใช้งานได้มากถึง 4 โหมดรวมถึงการถอดแยกส่วนเพื่อใช้งานแบบแท็บแล็ต ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 51,900 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad Tablet 2 แท็บแล็ตรุ่นใหม่ที่มีความบางเบา แบตเตอร์รี่ใช้งานได้ยาวนานและเชื่อมต่อกับอุกรณ์ไร้สายได้อย่างง่ายดาย ราคาจำหน่ายที่ 26,590 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad EDGE E330 โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพเยี่ยม เสริมความทนทานช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น พร้อมประสิทธิภาพด้านกราฟฟิคสุดล้ำกับ NVIDIA® Optimus™ discrete graphics ด้วยความจุถึง1GB VRAM หรือ Intel® integrated graphics บนจอภาพ HD ขนาด 13.3 นิ้วราคาจำหน่ายที่ 23,900 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad EDGE E430มาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel Core i5 Processor จอแสดงผลแบบLED ขนาด14 นิ้ว ให้ความกระทัดรัด พกพาสะดวกพร้อมบลูทูธในตัว และ USB Port ทำให้คุณเปิดดูไฟล์ข้อมูลได้อย่างสะดวก ราคาจำหน่ายที่ 19,990 บาท(สุทธิ)
  • โน๊ตบุ๊คเลอโนโวThinkPad T430 ผสานความคล่องตัวกับประสิทธิภาพในการทำงานทุกที่ทุกเวลาด้วยแบตเตอรี่ที่มีชั่วโมงการใช้งานนานถึง 32.5 ชั่วโมง รูปทรงเรียบง่าย แต่ประสิทธิภาพสูง พร้อมคุณสมบัติที่เหมาะกับการพกพา อาทิ USB 3.0, Lenovo RapidChargeและ 4G mobile broadband  ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29,900 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad T430u อัลตร้าบุ๊ค ที่มาพร้อมทุกความต้องการของผู้ใช้งานทางธุรกิจ ดีไซน์บางเบา ด้วยความบางเพียง 2 เซนติเมตรและน้ำหนักเบาแค่ 1.8 กิโลกรัม หน่วยประมวลผล Intel Core ประสิทธิภาพในการบูทเครื่องและกลับสู่สถานะล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 33,900 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad X230 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เครื่องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา จอ super-bright ขนาด 12.5 นิ้ว (300 nit IPS wide-viewing display)และ 4G mobile broadband ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 25,900 บาท(สุทธิ)
  • เลอโนโว ThinkPad Twist อัลตร้าบุ๊คผสมแท็บเล็ตเพื่อธุรกิจบิด หมุน พับ ได้ 360 องศา หน้าจอสัมผัสแบบ Gorilla Glass ขนาด 12.5 นิ้ว ทนทานทุกรอยขีดข่วน มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบIntel Core i5 เจนเนอเรชั่น 3 และระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 33,900 บาท(สุทธิ)

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเลอโนโวได้ทาง RSS feedsหรือติดตามได้ใน Twitterและ Facebook

หรือสอบถามข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ที่ http://www.lenovo.com/thโทร. 02-689-6451 หรือ โทรฟรีที่ 1800 060 066

from:http://mobiledista.com/pr-lenovo-complement-the-value-of-your-business-with-superior-performance/

[PR] อินเทลเปิดตัวเอสโอซีรุ่นใหม่แบบมัลติคอร์ กินไฟต่ำ

[PR] อินเทลเปิดตัวเอสโอซีรุ่นใหม่แบบมัลติคอร์ กินไฟต่ำ

วันนี้ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวเอสโอซี (SoC – system-on-a-chip) ซึ่งเป็นชิพแบบที่มีระบบประมวลผลต่างๆ ฝังอยู่ในชิพตัวเดียวกัน ตระกูลใหม่ล่าสุดซึ่ง กินไฟต่ำ ที่มีชื่อรหัสเดิมคือ “เบย์เทรล” (Bay Trail) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุปกรณ์ที่มีสมรรถนะสูงและประหยัดพลังงาน ตั้งแต่แท็บเล็ต อุปกรณ์ทูอินวัน ไปจนถึงอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ให้พร้อมรองรับความต้องการของทั้งนักธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปในราวไตรมาสสี่ของปีนี้ โดยมีผู้ผลิตชั้นนำที่เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ได้แก่ เอเอวีเอ* เอเซอร์* เอซุส* เดลล์* เลอโนโว* และ โตชิบา* เป็นต้น

โปรเซสเซอร์ในตระกูล “เบย์เทรล” ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับไมโคร “ซิลเวอร์มอนท์” ของอินเทล ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและกินไฟต่ำ และเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556  โดยมี อินเทล อะตอม    แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ หรือ “เบย์เทรล-ที” (Intel Atom Z3000 Processor Series or “Bay Trail-T”)  เป็น เอสโอซี มัลติคอร์ สำหรับอุปกรณ์โมบายล์รุ่นแรกและเป็นที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในปัจจุบันของอินเทล1 เหมาะสำหรับแท็บเล็ตและอุปกรณ์โมบายล์อื่นๆ ที่ต้องการดีไซน์บางเบา ทำงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว และมีความลงตัวทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ กราฟิกและคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย

สถาปัตยกรรมระดับไมโครรุ่นใหม่ดังกล่าวรองรับการทำงานในหลากรูปแบบ ทำให้เอสโอซีสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดกลุ่มต่างๆ ได้ โดยมีให้เลือกทั้ง อินเทล® เพนเที่ยม® โปรเซสเซอร์ (เบย์เทรล-เอ็ม) และ เซเลอรอน® โปรเซสเซอร์ (เบย์เทรล-ดี) สำหรับอุปกรณ์ทูอินวันระดับเริ่มต้น แล็ปท้อป เดสก์ท้อป และอุปกรณ์ออลอินวัน

เอสโอซีในตระกูล “เบย์เทรล” เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากมาย ในการกำหนดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ชิ้นหนึ่งให้สามารถใช้ได้ทั้งวินโดวส์ 8* และแอนดรอยด์* เพื่อดีไซน์ตัวเครื่องได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้หลายระดับราคาเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกได้ตรงตามความต้องการทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไป

เฮอร์แมน อูล รองประธานองค์กรและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มโมบายล์และการสื่อสารของอินเทล กล่าวว่า “สิ่งที่เรานำเสนอในแพลตฟอร์ม เบย์เทรล คือ เอสโอซีที่มีพลังสมรรถนะสูงอย่างไม่น่าเชื่อ จุดแข็งที่โดดเด่นของแพลตฟอร์มนี้จึงมีทั้งด้านประสิทธิภาพ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้คนที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด  พันธมิตรในระดับโออีเอ็มของเราที่นำเบย์เทรลไปพัฒนาสินค้าของตน จะสามารถดีไซน์ตัวอุปกรณ์ให้มีรูปแบบที่หลากหลายและมีจำหน่ายในหลายระดับราคา เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค นักธุรกิจ และผู้จัดการฝ่ายไอที”

เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ให้ขึ้นไปถึงจุดซึ่งเป็นที่ต้องการของอุปกรณ์พกพา อินเทล จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาและความท้าทายต่างๆ ทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน รวมถึงความสามารถในการทำงานมัลติทาสก์ ยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ คุณสมบัติด้านกราฟิกที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น และความคล่องตัวในการใช้อุปกรณ์พกพาที่ทำให้ใช้งานได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น สำหรับวิดีโอคลิปที่มีเนื้อหาและภาพเกี่ยวกับผู้บริหารและนักพัฒนาซึ่งเกี่ยวข้องกับเบย์เทรล สามารถดูได้ที่ intel.synapticdigital.com.

แท็บเล็ตที่มีสมรรถนะสูงขึ้น อุปกรณ์ทูอินวันที่ใช้อินเทล อะตอม แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์

อินเทล อะตอม แซท3000 เป็นซีรี่ส์โปรเซสเซอร์ที่ให้สมรรถนะในระดับสูงพร้อมด้วยอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของอินเทลที่มีความสามารถสูงที่สุดและให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับแท็บเล็ตและอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ที่ต้องการดีไซน์บางเบา ด้วยขนาดที่เล็กกว่าเดิม กินไฟต่ำ แต่มีสมรรถนะในการประมวลผลมากกว่าเดิมถึงสองเท่า และมีสมรรถนะด้านกราฟิกดีกว่าเดิมถึงสามเท่า  เมื่อเทียบกับอินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน  แพลตฟอร์มเอสโอซีรุ่นกินไฟต่ำช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง2 และเปิดสแตนด์บายได้นานถึงสามสัปดาห์โดยที่เครื่องยังสามารถเชื่อมต่อออนไลน์ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้  อินเทล อะตอม แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ยังมีเทคโนโลยี Intel® Burst Technology 2.0 และมี 4 คอร์ 4 เธรด และแคช L2 ขนาด 2 MB  โดยที่สมรรถนะดังกล่าวทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานในลักษณะมัลติทาส์ก สร้างและอ่านหรือดูคอนเทนท์ได้เต็มที่ และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะใช้บนแอนดรอยด์หรือวินโดวส์ 8  นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์ของตัวเครื่องให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต หรือ อุปกรณ์ทูอินวัน โดยตัวอุปกรณ์สามารถดีไซน์ให้มีความบางเบาได้ตั้งแต่ขนาด 8 มม.ไปจนถึง 1 ปอนด์ (ประมาณ 0.45 กก.) และมีขนาดจอตั้งแต่ 7-11.6 นิ้ว*  สำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ เอสโอซี อินเทล อะตอม จะมีจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,000 บาท)

สำหรับการใช้งานในองค์กรธุรกิจ อินเทล อะตอม แซท3000 ซีรี่ส์ ยังทำให้แท็บเล็ตมีประสิทธิภาพและดีไซน์ซึ่งเป็นที่ต้องการ โดยมาพร้อมกับระบบการปกป้องข้อมูลสำหรับองค์กรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฝ่ายไอที คุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ได้แก่ เทคโนโลยี McAfee® DeepSAFE*, AES hardware full disk encryption, Intel® Platform Trust Technology, Intel® Identity Protection Technology และ Intel Data Protection Technology โดยเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้การทำงานบนแพลตฟอร์มนี้ปลอดภัยยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังรองรับการทำงานของ Microsoft Windows 8 Pro Domain Join and Group Policy และใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์พ่วงต่อต่างๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

อินเทลได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้มั่นใจว่า แพลตฟอร์มที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลทั้งบนวินโดวส์และแอนดรอยด์จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด นักพัฒนาบางส่วนที่อินเทลร่วมงานด้วย ได้แก่ Cyberlink, Skype-HD และ Netflix-HD, PhiSix, Arcsoft, Tieto, Gameloft รวมถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจอีกหลายราย โดยอินเทลมุ่งเน้นในด้านคุณภาพสูงสุดของภาพ กราฟิก และสมรรถนะโดยรวมทั้งหมดเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากอินเทลมีประสบการณ์ยาวนานในการใช้ระบบปฏิบัติการทั้งวินโดวส์และแอนดรอยด์ จึงสามารถดึงจุดเด่นของทั้งสองระบบมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในราวต้นปี 2557 อินเทลเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี 64 บิต สำหรับแท็บเล็ต เพื่อให้ผู้จัดการด้านไอทีได้ประโยชน์มากขึ้น โดยอุปกรณ์ที่ใช้เอสโอซีเวอร์ชั่นใหม่จะมีแอพพลิเคชั่นและระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ นอกจากนี้ เทคโนโลยี Intel® Identity Protection Technology (IPT) ที่มี PKI ยังไม่จำเป็นต้องใช้รหัส VPN เมื่อมีการใช้งานร่วมกับระบบที่รองรับทั้ง IPT และ PKI อีกด้วย

เบย์เทรล โปรเซสเซอร์ เพิ่มพลังสมรรถนะให้กับอุปกรณ์ทูอินวันระดับเริ่มต้น โน้ตบุ๊ก เดสก์ท้อป และอุปกรณ์ออลอินวัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ “เบย์เทรล-เอ็ม” จะมีวางจำหน่ายร่วมสี่รุ่น ซึ่งได้แก่ อินเทล เพนเที่ยม เอ็น3510 โปรเซสเซอร์ และ อินเทล เซเลอรอน โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ซึ่งได้แก่ เอ็น2910, เอ็น2810 และ เอ็น2805 โปรเซสเซอร์ซีรี่ส์ดังกล่าวจะเพิ่มสมรรถนะให้กับนวัตกรรมอุปกรณ์ทูอินวันและโน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส ทำให้ผู้ใช้กลุ่มใหม่ได้รับประสบการณ์ในระดับราคาที่ย่อมเยาลง

ด้วยสถาปัตยกรรมระดับไมโครที่มีความยืดหยุ่นต่อการผลิตสินค้าและคุณภาพของกราฟิกที่ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นที่ใช้เบย์เทรล โดยทั้ง เพนเที่ยม เอ็น3000 โปรเซสเซอร์ และเซเลอรอน เอ็น2000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ต่างให้สมรรถนะในการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมถึงสามเท่า และมีคุณสมบัติด้านกราฟิกที่ดีกว่าเดิมสูงสุดถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กราคาเยาที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลรุ่นก่อนหน้านี้สามปี3  โดยดีไซน์ของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ ไม่ต้องใช้พัดลมระบายความร้อน ตัวเครื่องบางน้อยกว่า 11 มม. และเบาเพียง 2.2 ปอนด์  (ประมาณ 1 กิโลกรัม)  อินเทลคาดว่าจะมีเครื่องวางจำหน่ายในตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องที่เป็นแบบฝาพับ 250 เหรียญสำหรับโน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส และ 349 เหรียญสำหรับอุปกรณ์ทูอินวัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ “เบย์เทรล-ดี” จะมีวางจำหน่ายสามรุ่นด้วยกัน คือ อินเทล เพนเที่ยม เจ2850 อินเทล เซเลอรอน เจ1850 และ อินเทล เซเลอรอน เจ1750  ซึ่งทั้งหมดมาในรูปของแพ็คเกจที่มีขนาดเล็กที่สุดของอินเทลสำหรับโปรเซสเซอร์เดสก์ท้อป เพื่อใช้ผลิตเดกส์ท้อปขนาดเล็กและไม่ต้องมีพัดลม สำหรับตลาดผู้ใช้ในระดับเริ่มต้น  นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มที่มีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น จอแสดงผลดิจิตอลอัจฉริยะ (intelligent digital displays) โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบประหยัดพลังงาน  สมรรถนะการทำงานที่เร็วกว่าเดิมถึงสามเท่า ระบบกราฟิกที่ดีขึ้นสูงสุดถึงสิบเท่า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันที่อินเทลเคยนำเสนอเมื่อสามปีที่แล้ว3 สำหรับเครื่องชนิดเต็มรูปแบบที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ดังกล่าว คาดว่าว่าจะมีวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐ

from:http://mobiledista.com/pr-intel-released-the-dsos-new-multicore-low-power-consumption/

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’และบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’เป็นทางการในประเทศไทยพร้อมตอกย้ำคำมั่นสัญญาในการสนับสนุนเอสเอ็มอี2.65 ล้านรายในไทยในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ผ่านบริการทั้งสองรุ่นที่ประกอบไปด้วยชุดโปรแกรมออฟฟิศเพิ่มประสิทธิผลรุ่นยอดนิยมที่สามารถใช้งานผ่านระบบคลาวด์ได้

นับตั้งแต่การเปิดตัวทั่วโลกไปแล้วในช่วงกลางปีพ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ออฟฟิศ 365 ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์โดยหนึ่งในห้าของลูกค้าระดับองค์กรของไมโครซอฟท์หันมาใช้บริการนี้ภายในเวลาแค่ 18 เดือนซึ่งเพิ่มจากตัวเลขหนึ่งในเจ็ดของเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่ตัวเลขของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่หันมาใช้ ออฟฟิศ 365 เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 150 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อรับมือในการก้าวเข้าสู่เออีซี

ปัจจุบันไทยมีเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนเปิดดำเนินการ 2.65 ล้านราย คิดเป็นตัวเลขร้อยละ 37 ของจีดีพีของไทย หรือเท่ากับร้อยละ  99 ขององค์กรทั้งหมดในไทยนายฮาเรซ คูบจันดานิกรรมการผู้จัดการบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “เอสเอ็มอี ถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยรวมทั้งยังเป็นภาคธุรกิจที่จะนำประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงมุ่งมั่นในการการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบิซสปาร์ค(BizSpark)ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไกลสู่ความสำเร็จ ด้วยการจัดสรรซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทเพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มและลิขสิทธิ์การใช้เซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างเต็มรูปแบบ รวดเร็วและง่ายดาย โดยที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้สนับสนุนสตาร์ทอัพในไทยไปแล้วมากกว่า 200 ราย”

“ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเป็นเวทีที่จะมอบโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเอสเอ็มอีไทยในการเติบโตและเปิดทางสู่ตลาดใหม่ๆที่ยังไม่มีใครเข้าถึงมาก่อน อย่างไรก็ตามโอกาสดังกล่าวจะทำให้เอสเอ็มอีของไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันใหม่ๆจากเอสเอ็มอีรายอื่นๆในกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นกัน ดังนั้นเอสเอ็มอีไทยจึงต้องเตรียมพร้อมในการเป็นผู้นำในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันนี้ให้ได้

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

โดยบริการ ออฟฟิศ 365จะเป็นผู้ช่วยให้เอสเอ็มอีไทยเข้าถึงเครื่องมือที่จำเป็นและทันสมัยในการสร้างธุรกิจให้เติบโต และช่วยในการแข่งขันกับเอสเอ็มอีรายอื่นๆและเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถเพ่งความสนใจไปที่ความเชี่ยวชาญของตน และการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่” นายฮาเรซ เสริม

ไมโครซอฟท์พัฒนาบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และบริการ ‘ออฟฟิศ365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง’ เพื่อให้เอสเอ็มอีได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการระดับเอ็นเตอร์ไพรส์แบบครบวงจรซึ่งเอสเอ็มอีสามารถเชื่อมั่นได้ในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังอยู่ในราคาที่บริษัทเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้

ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ยังสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ ด้วยการริเริ่มโครงการระดับโลกที่ชื่อ‘เก็ททูโมเดิร์น(Get2Modern)’ เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเปลี่ยนการใช้งานจากระบบปฏิบัติการWindows XP และโปรแกรม ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ2003 ไปเป็นระบบปฏิบัติการWindows 8 Pro และบริการ ออฟฟิศ 365 รุ่นใหม่ได้อีกด้วย

สำหรับประเทศไทย ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีในประเทศไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์ได้ร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ร่วมกับ สสว.และพันธมิตรองค์กรธุรกิจอีก 12 ราย เพื่อให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีในการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่เออีซี

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

ดร.วิมลกานต์  โกสุมาศ  รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  กล่าวถึงความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ว่า “การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการภายในองค์กร  จะเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร และช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย ให้พร้อมสู่การแข่งขันในระดับโลกได้” ในขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธีรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบคลาวด์ที่ได้จากการใช้บริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยสร้างความเป็นต่อในการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลทำให้เอสเอ็มอีของไทยมีจุดเด่นที่เหนือกว่าในการแข่งขันและเอาชนะคู่แข่งได้”

นอกจากนี้  ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง โนเกีย ประเทศไทย จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีไทยเพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการใช้บริการ ออฟฟิศ 365 บนโนเกียสมาร์ทโฟน โดย นายญาณธน สิมะวานิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด พูดถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ว่า “ที่ผ่านมา ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโนเกียได้รับประโยชน์จากการใช้งานสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน เป็นอย่างดี บริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยยกระดับการใช้งานดังกล่าวไปอีกขั้น เพราะบริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ในทุกครั้งที่ต้องการ และเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งทางโนเกีย มีความยินดีที่ได้ร่วมเปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยในครั้งนี้”

ความปลอดภัยและการใช้งานที่ดีที่สุด

The new Office มีคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ไร้ช่องโหว่ ซึ่งประกอบด้วยระบบป้องกันข้อมูลสูญหาย, ระบบอินทิเกรดเต็ดคอมไพลอันซ์(Integrated Compliance), ระบบป้องกันมัลแวร์แบบบิลด์อิน และตัวเลือกติดตั้งใช้งานที่คล่องตัวสำหรับการใช้งานภายในบริษัทและผ่านระบบคลาวด์ ไมโครซอฟท์รับประกันด้วยข้อตกลงระดับการบริการที่รับประกันอัพไทม์ร้อยละ 99.9 (Service Level Agreements -SLAs)พร้อมคืนเงิน

วางแผนใช้งานบริการ ออฟฟิศ 365 ที่เหมาะสำหรับองค์กรของคุณ

บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’ ประกอบด้วยชุดโปรแกรม ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถบริหารจัดการบริการต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านไอที บริการนี้เหมาะสำหรับบริษัทที่มีพนักงานไม่เกิน 10 คน

ในขณะที่บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดระดับกลาง บริการนี้จึงเหมาะสำหรับองค์กรที่มีพนักงานระหว่าง 11 ถึง 250 คน ซึ่งต้องการศักยภาพในการทำงานระดับเดียวกับบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์’แต่มีการบริหารจัดการระบบไอทีที่เรียบง่ายกว่าเดิม บริการนี้ประกอบด้วย Office 365 ProPlusที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางมีเครื่องมือสื่อสารสำหรับการทำงานร่วมกัน ซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่าในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์อย่างที่ต้องการอีกด้วย

ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์ เตรียมจัดโร้ดโชว์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่  5 เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปโดยเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานสัมมนาได้ พร้อมเตรียมให้บริการฮอตไลน์ภาษาไทยสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีเร็วๆนี้

วันเริ่มจำหน่ายและราคา

บริการ ออฟฟิศ 365 พร้อมให้บริการแล้วทั้งเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยสามารถซื้อผ่านได้ที่เว็บไซต์http://office.comและผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย 2,000 รายทั่วประเทศในเครือของ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทเดอะ แวลลูซิสเตมส์ จำกัดซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์

บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’ในราคา12.50 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งผู้ใช้ต่อเดือน ในขณะที่ บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ราคา15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งผู้ใช้ต่อเดือนโดยบริการ ออฟฟิศ 365ทั้งสองรุ่นนี้ ผู้สนใจ สามารถทดลองใช้ฟรีได้นาน 30 วัน

สองโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีจากโนเกีย

ผู้ที่ซื้อบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’  หรือบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ จะได้รับ Mobility Coupon ของไมโครซอฟท์ ที่สามารถนำไปรับของพรีเมียมฟรีจากร้านโนเกียช็อป เมื่อซื้อ Nokia Lumia520/620/720/920 โดยจะได้รับ Nokia Bluetooth BH-217 ฟรี (ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้ หรือจนกว่าของจะหมด)

สำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิก สสว. หรือ ส.อ.ท. จำนวน 200 รายแรกที่ซื้อ บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’  หรือบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’  ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้ จะได้รับคูปอง Nokia Fun Gadget มูลค่า 500 บาท เพื่อนำไปซื้อผลิตภัณฑ์ Nokia Fun Gadget ที่มีมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป ณ ร้านโนเกียช็อป

from:http://mobiledista.com/pr-microsoft-launches-%e2%80%8b%e2%80%8boffice-365-for-sm-e/

เปิดตัว Lenovo IdeaPad Yoga 11s โดดเด่นที่การดีไซน์ มาพร้อมความสวยงาม บางเบา แต่มีประสิทธิภาพด้วยระบบปฎิบัติการ Windows 8

lenovo

 

หากเพื่อนๆได้ติดตามเราใน Facebook และ Twitter เมื่อวานนี้ วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ก็จะเห็นว่า เราได้ไปร่วมงานเปิดตัว Lenovo IdeaPad Yoga 11s ที่จัดงานอย่างเป็นกันเองมาก ซึ่งแน่นอนพระเอกของงานนี้ก็คือ เจ้า Lenovo IdeaPad Yoga 11s นั่นเอง

 

หลังจากเปิดตัว Ultrabook ในซี่รี่ Yoga สองรุ่นแรกไปแล้ว Lenovo ก็เปิดตัวเจ้า IdeaPad Yoga 11s ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 8 ตอบสนองด้านการทำงานและความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ บนขอบจอบางเฉียบเพียง 0.68 นิ้ว

 

1005580_10200686585860630_130410732_n

 

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

การเปิดตัวอัลตร้าบุ้ก IdeaPad Yoga 11s จากเลอโนโว แสดงจุดยืนของเลอโนโวในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่มีดีไซน์และประสิทธิภาพที่ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งานสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกจุด โดย Yoga 11s รุ่นล่าสุดที่มาเติมเต็มตระกูล Touch รุ่นใหม่นี้จะเสริมการใช้งานให้ผู้บริโภคคนไทยสามารถครีเอทคอนเท็นต์แบบดิจิตอลได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น รวมถึงดีไซน์เครื่องยังมีขนาดกระทัดรัดจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องออกนอกสถานที่ตลอดเวลา เราเชื่อว่าความเอนกประสงค์ของเครื่องที่สามารถเปลี่ยนจากโน๊ตบุ้คธรรมดาเป็นแท็บเล็ตได้เพียงพริบตาจะถูกใจหลายๆคน

 

สเปคและการออกแบบ

การออกแบบ IdeaPad Yoga 11s ถอดแบบความเก๋มาจาก IdeaPad Yoga 13 อย่างมีสไตส์ ทั้งรายละเอียดผิวเครื่องด้านหน้านุ่มคล้ายยาง ป้องกันรอยขีดขวน และมาพร้อมสีสันสดใส 2 สไตล์ ทั้ง สีเทา Silver Grey และสีส้ม Clementine Orange

สีส้ม Clementine Orange  

 Ideapad-Yoga-11s

 

สีเทา Silver Grey

1120

 

IdeaPad Yoga 11s ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้ถึง 4 สไตส์ตามความเหมาะสมของงานและสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นแบบโน๊ตบุ้ค, แท็บแล็ต, ตั้งโต๊ะ (Stand) และแบบเต้นท์สามเหลี่ยม (Tent)

 

เมื่อต้องการดูหนัง คุณสามารถตั้งเครื่อง Yoga ในแบบ Tent แล้วดื่มด่ำความบันเทิงอย่างเต็มอรรถรสกับระบบเสียงคุณภาพจาก Dolby Home Theater หรือเปลี่ยนไปใช้งานในแบบ Stand เมื่อต้องการแชร์รูปสวยๆจากอัลบั้มรูปภาพให้คนข้างๆดูผ่านจอสัมผัสมัลติทัช ที่รองรับการสัมผัสพร้อมกันสูงสุด 10 จุด บนจอแบบ HDIPS ที่ให้ภาพและสีสันที่คมชัดกว่าจอภาพโน้ตบุ๊คปกติ อีกทั้งเทคโนโลยี Lenovo Motion Control ที่คุณสามารถใช้มือวาดบนอากาศเพื่อเปลี่ยนหน้าหนังสือในโปรแกรมต่างๆ เปลี่ยนเพลง รูปหรือวีดีโอได้ หรือแม้จะใช้งานคียบอร์ดก็ไร้กังวล ด้วยดีไซน์แป้นพิมพ์ของเครื่องออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์จึงตอบสนองทุกสัมผัสของนิ้วขณะพิมพ์เป็นอย่างดี

 

IdeaPad Yoga 11s มาพร้อมหน้าจอ HD IPS ขนาด 11.6 นิ้ว รองรับระบบสัมผัสสูงสุด 10 จุด และระบบ Motion Control ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนรูป วีดีโอหรือหน้าเอกสารได้เพียงสะบัดมือที่ด้านหน้าของเว็บแคม นอกจากนี้ยังมีระบบ Lenovo Transition สามารถเปิดโหมด Full Screen ในโปรแกรมต่างๆ เมื่อคุณพลิกหน้าจอตามที่กำหนด เช่น เปิดหน้าจอเต็มในโปรแกรมแสดงภาพและเสียงเมื่อคุณตั้งเครื่องแบบ Stand หรือ เสริมการใช้งานโปรแกรม PowerPoint ในแบบเต็มจอแม้จะอยู่ในการใช้งานแบบ Tent,Stand หรือแท็บแล็ต

 

วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนผลิตภัณฑ์เลอโนโว ในราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Lenovo Call Center Tel. 02-689-6498 หรือติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook แฟนเพจได้เลยครับ

 

งานนี้หญิงแย้ก็มาด้วยครับ Adore

998368_626505344035706_1797633378_n

 

พร้อมกับคุณ บี้ The ska

971744_576555222367523_405963925_n

  หากเพื่อนๆได้ติดตามเราใน Facebook และ Twitter เมื่อวานนี้ วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ก็จะเห็นว่า เราได้ไปร่วมงานเปิดตัว Lenovo IdeaPad Yoga 11s ที่จัดงานอย่างเป็นกันเองมาก ซึ่งแน่นอนพระเอกของงานนี้ก็คือ เจ้า Lenovo IdeaPad Yoga 11s นั่นเอง   หลังจากเปิดตัว Ultrabook ในซี่รี่ Yoga สองรุ่นแรกไปแล้ว Lenovo ก็เปิดตัวเจ้า IdeaPad Yoga 11s ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 8 ตอบสนองด้านการทำงานและความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ บนขอบจอบางเฉียบเพียง 0.68 นิ้ว     นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   สเปคและการออกแบบ การออกแบบ […]
from:http://www.appdisqus.com/2013/06/19/lenovo-ideapad-yoga-11s.html

[PR] ได้รับการตอบร้บอย่างท่วมท้น!! ในวันเปิดตัว “ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ”

[PR] ได้รับการตอบร้บอย่างท่วมท้น!! ในวันเปิดตัว “ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ”

เมื่อเร็วๆนี้ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวSurface แท็บเล็ตที่โดดเด่นตอบโจทย์ความต้องการทั้งเรื่องความบันเทิงและการทำงาน (Work& Play)ในเครื่องเดียว โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่วางจำหน่ายพร้อมกันทันทีทั้งSurface รุ่น Windows RT และ Surfaceรุ่น Windows 8 Pro ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคชาวไทยมาต่อคิวเข้าซื้อยาวเหยียดออกมาบริเวณด้านนอกศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 ซึ่งป็นสถานที่จัดงานยาวไปจนถึงบริเวณสถานทีรถไฟฟ้าอโศก

โดยผู้บริโภครายแรกที่ได้เป็นเจ้าของ Surfaceเครื่องแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย คือ นายกิตติสัณห์ ช้างทอง อาจารย์มหาวิทยาลัยธนบุรี(กลาง)ซึ่งได้เลือกซื้อSurface รุ่น Pro ไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจสมกับการรอคอย ท่ามกลางแฟนๆ อีกเป็นจำนวนมากที่มายืนรอเข้าคิวเพื่อเป็นเจ้าของ Surface รุ่นที่เหมาะกับไลฟสไตล์ของตนมากที่สุดโดยนายกิตติสัณห์ เปิดเผยว่า “ได้รอคอยการมาเมืองไทยของ Surface ตั้งแต่เปิดตัวที่สหรัฐอเมริกา เพราะมองหาอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้มากกว่าแท็บเล็ตทั่วไป โดยที่ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หลายเครื่อง ซึ่งมั่นใจว่าSurface จะตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ และตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าไมโครซอฟท์ได้นำมาจำหน่ายในประเทศไทย และต้องการเป็นคนแรกๆ ที่จะได้เป็นเจ้าของ Surface ซึ่งวันนี้สมใจมาก”

ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของ Surface ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน IT City และ BaNANA IT รวม 10 สาขา

  • IT City สาขา พันธ์ทิพย์, ประตูน้ำ,สยามพารากอน,ฟอร์จูน,ซีคอนสแควร์ และ เมกกะบางนา
  • BaNANA IT สาขาฟิวเจอร์ปาร์กรังสิต,เซ็นทรัลพระราม 2,ฟอร์จูน,แฟชั่นไอร์แลนด์ และ  เดอะมอลล์ บางแค

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คลิกhttp://surface.com/th

from:http://www.mobiledista.net/pr-received-overwhelming-response-from-superb-in-the-microsoft-surface/

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Surface (เซอร์เฟซ) อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยวางจำหน่ายทั้ง 2 รุ่นพร้อมกัน คือ Surface RT และ Surface Pro ครั้งแรกในประเทศไทย ชูจุดขายแท็บเล็ตที่ปฏิวัติรูปแบบการใช้งาน ที่รวมเอาประสบการณ์ทั้งความบันเทิงและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันได้ดีที่สุด

ไมโครซอฟท์ Surface ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 นำโดย มร. ซีซาร์  เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมด้วยเซเลบริตี้คนดัง อย่าง ทับทิม มัลลิกา   หลีกภัย พิธีกรรายการสุดฮอต วีอาร์โซ  ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ที่ควงคู่มากับภรรยาสุดสวย ต่าย ชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Surface RT และ Surface Pro ท่ามกลางสื่อมวลชน แฟนๆ ไมโครซอฟท์และไอทีเลิฟเวอร์ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Surface ได้มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่ได้รวมเอาประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์อันน่าทึ่ง เข้ากับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมที่ทันสมัย  Surface เป็นการต่อยอดประสบการณ์การใช้วินโดวส์ ที่ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันกับดีไซน์สุดล้ำ ผู้ใช้จึงสามารถทำงาน เล่น และเชื่อมต่อกับผู้คนอื่นๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผมเชื่อว่า Surface RT และ Surface Pro นั้นเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Surface จะตอบสนองทุกความต้องการด้านไอทีทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตของผู้บริโภคได้”

ผสานการทำงาน และความบันเทิง ให้ง่ายและสนุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Surface ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตอบรับการใช้งานและการสร้างสรรค์แบบไร้รอยต่ออย่างไร้ขีดจำกัด Surface ได้ถูกคิดค้นและออกแบบขึ้นโดยทีมของไมโครซอฟท์ ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มากว่า 30 ปี  เริ่มจากตัวเครื่องที่มีความทนทานและน้ำหนักเบา  ขาตั้งอเนกประสงค์ภายในตัว และฝาปิดหน้าจอที่มอบประโยชน์การทำงานสูงสุดให้แก่ผู้ใช้ในทุกๆ ที่ ตลอดจนถึงช่องเสียบ USB หน้าจอแบบกว้าง 16:9 ความละเอียดสูง ให้มุมมองแบบ 22 องศา ทำให้สามารถดูภาพและแชร์ไฟล์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

มร. ซีซาร์ เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า “เส้นแบ่งระหว่างอุปกรณ์สำหรับใช้ในการทำงานและอุปกรณ์ส่วนตัวค่อยๆ จางหายไป เราพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ หรือกว่าร้อยละ 60 ในบางประเทศ ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกนี้  มีแนวโน้มที่ใช้อุปกรณ์ไอทีสำหรับทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้ยอดจำหน่ายแท็บเล็ตทั่วโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าร้อยละ 300 ในระหว่างปี 2555 ถึงปี 2560  สำหรับประเทศไทยเองเราก็ได้เห็นแนวโน้มในลักษณะเดียวกัน ความนิยมในการซื้อแท็บเล็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตได้ว่าคนทำงานจะใช้อุปกรณ์ไอทีสองเครื่องหรือมากกว่าในที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังใช้แอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ อยู่เป็นประจำระหว่างวัน เช่น เว็บไซต์ โซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ  ด้วย Surface ผู้บริโภคสามารถสลับการใช้งานเพื่อความบันเทิงและเพื่อการทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีข้อจำกัด เปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างที่ต้องการได้ในทุกเวลาที่ต้องการ ผ่านอุปกรณ์ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยและสะดวกต่อการพกพาอย่าง Surface”

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

Surface RT และ Surface Pro ตัวแทนสไตล์ที่แตกต่าง                                                            

โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้วางจำหน่าย Surface ทั้ง 2 รุ่น คือ Surface RT และ Surface Pro พร้อมกันทันทีในประเทศไทย

Surface RT คืออุปกรณ์ที่เป็นตัวแทนของแท็บเล็ตที่มีความสามารถเสมือนแล็ปท็อป ที่รวมเอาคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการพกพาเข้าไว้ด้วยกันอย่างเหมาะสมครบถ้วน ดังนั้น Surface RT จึงเหมาะกับผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน (ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง) และประสบการณ์ความบันเทิงชั้นเยี่ยม และยังสามารถทำงานต่างๆ ให้สำเร็จได้ในคราวเดียว Surface RT ใช้ขุมพลัง ARM processor ที่มาพร้อมกับ Windows RT รวมถึง Office Home & Student 2013 RT Preview ซึ่งรองรับการทำงานแบบสัมผัสบน โปรแกรม Word PowerPoint Excel และ OneNote

Surface Pro เปรียบได้กับแล็ปท็อประบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่มาในรูปของแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถใช้งานทุกอย่างได้เสมือนทำงานอยู่บนพีซี  แต่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานบนแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถทำงานที่พวกเขาเคยทำบนพีซีได้ด้วย Surface Pro ตั้งแต่การใช้งานแอพพลิเคชั่นเดสก์ทอป ไปจนถึงความอุ่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยระดับโลก Surface Pro มาพร้อมกับ Intel Core i5 Processor รุ่นที่ 3 และ Windows 8 Pro ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแอพพลิเคชั่นแบบสัมผัส หรือโปรแกรม Windows 7 สุดโปรด ทั้งหมดนี้มาพร้อมระบบการจัดการทางด้านการรักษาความปลอดภัยและการบริหารในแบบที่คุณคาดหวังจากการใช้งานพีซี

นอกจากนี้ Surface Pro เองยังได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงไอที  ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย ผสานเข้ากับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและยังมอบความสนุกสนานในการใช้งานได้ในคราวเดียวกัน

มร. ไบรอัน มา รองประธาน ไอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แสดงความเห็นว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์พีซีอาจกำลังอยู่ในภาวะกดดันจากแท็บเล็ต  ซึ่งปรากฏการณ์ที่เราพบ คือ ผู้ผลิตต่างจะต้องพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นเป็นอย่างมากจากในอดีต  Microsoft Surface Pro คือ หนึ่งในตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น แสดงให้เห็นว่าเส้นกั้นระหว่างพีซีและแท็บเล็ตได้เลือนลางออกไป และผู้ผลิตในอีโคซิสเต็มเองยังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ”

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กล่าวถึงการตัดสินใจวางจำหน่าย Surface พร้อมกันทั้ง 2 รุ่นในประเทศไทยว่า “เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการมอบทางเลือกแก่ผู้บริโภคชาวไทย ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่า Surface รุ่นใดจะเหมาะกับความต้องการและตรงตามไลฟ์สไตล์ของเขามากที่สุด ไลฟสไตล์ของคนไทยนั้นกำลังเปลี่ยนไป โดยต้องการเข้าถึงข้อมูลและติดต่อสื่อสารตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ต้องการทำงานไปพร้อมๆ กันได้เสมอ ในทุกที่ ทุกเวลา เพราะฉะนั้นแล้ว ผมมั่นใจว่า Surface ทั้งสองรุ่นจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกรูปแบบ”

โดยการเปิดตัวในวันแรกของ Surface ในประเทศไทย มีองค์กรชั้นนำของประเทศไทย อย่าง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ได้เตรียมนำ Surface Pro มาให้กับทีมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้ใช้งาน ตลอดจนธนาคารชั้นนำของประเทศ อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ก็แสดงความจำนงค์และสนใจใน Surface Pro เพื่อให้พนักงานธนาคารที่ต้องติดต่อกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอได้ใช้ประจำที่สาขาของธนาคาร

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

คุณสมบัติหลักและประโยชน์ต่างๆ

  • ความโดดเด่นด้านซอฟต์แวร์: Surface มาพร้อมช่องเสียบ USB และ หน้าจอความละเอียดสูง 16:9 พร้อมมุมมองภาพแบบ 22 องศา ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนการทำงานบนพีซี โดยมีการปรับให้ฮาร์ดแวร์แนบรับไปกับภาพพื้นหลัง และทำให้ซอฟต์แวร์มีความโดดเด่นขึ้นมา
  • VaporMg: วัสดุตัวเครื่องภายนอกของ Surface สร้างมาจากกระบวนการอันลึกซึ้งที่เรียกว่า VaporMag (อ่านว่า วาพอร์ แมก) ซึ่งเป็นการผสานการคัดสรรค์วัสดุชั้นเยี่ยม และ กระบวนการหล่อเหล็ก และหลอมอนุภาคเข้าด้วยกัน ทำให้ Surface มีลักษณะที่คล้ายกับนาฬิกาเรือนหรู เริ่มตั้งแต่ส่วนที่เป็นแมกนีเซียม ที่สามารถหล่อให้บางได้ถึง 0.65 มม. ซึ่งมีความบางมากกว่าบัตรเครดิตทั่วไป ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีความบาง เบา และแข็งแรงทนทาน
  • ขาตั้งเครื่องภายในตัว (Kickstand): กระบวนการ VaporMag นั้นรวมถึงการประกอบขาตั้งที่สามารถให้คุณเปลี่ยนลักษณะการทำงานบน Surface แบบ Active Use เป็น Passive Consumption ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือ การถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้า หรือ กล้องหลัง ขาตั้งสามารถดึงออกมาใช้ได้ทุกเวลา และพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการ โดยไม่ได้เพิ่มน้ำหนักหรือความหนาของตัวเครื่องเลย
  • Touch Cover: ฝาปิดหน้าจอความหนาเพียง 3 มม. นั้นเป็นอีกความก้าวหน้าหนึ่งของการใช้คอมพิวเตอร์ของมนุษย์ Touch Cover ให้ความรู้สึกถึงการพิมพ์บนคีย์บอร์ด ซึ่งทำให้คุณสามารถสัมผัสและพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว มากกว่าการพิมพ์สัมผัสบนหน้าจอ Touch Cover มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ฟ้า ดำ และ ขาว  Touch Cover สามารถเชื่อมต่อกับ Surface ด้วยแม่แหล็กที่ตัวเครื่อง เปรียบเหมือนเป็นสันหนังสือที่คุณคุ้นเคย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำหน้าที่ป้องกันหน้าจอได้ อีกด้วย นอกจากนี้แล้วคุณสามารถเชื่อมต่อ Type Cover ซึ่งมีความหนา 5 มม. ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์จากคีย์บอร์ดจริงๆ ที่สำคัญ Touch Cover ที่จำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมกับแป้นพิมพ์ภาษาไทย ที่ผลิตมาเพื่อผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ

การจำหน่าย ราคาและโปรโมชั่น

Surface RT และ Surface Pro มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน IT City และ Com7 ทั้ง 10 สาขา พิเศษสำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกที่ได้เป็นเจ้าของ Surface ในงานเปิดตัว ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 รับฟรี Touch Cover มูลค่า 4,090 บาท และลูกค้าที่ซื้อลำดับที่ 101-200 จะได้รับ Sandisk Mobile Ultra 64 กิ๊กกะไบต์ Class 10 มูลค่า 2,190 บาท

รายละเอียดรุ่นและราคา

Surface RT

ราคา

Surface Pro

ราคา

Surface RT 32 GB (เฉพาะตัวเครื่อง)

16,500 บาท

Surface Pro 64 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

28,500 บาท

Surface RT 64 GB   (เฉพาะตัวเครื่อง)

19,500 บาท

Surface Pro 128 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

31,500 บาท

Surface RT 32 GB Bundle (พร้อม Touch Cover สีดำ)

19,500 บาท

Surface RT 64 GB Bundle(พร้อม Touch Cover สีดำ)

22,500 บาท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Surface สามารถเยี่ยมชมที่:  http://www.surface.com หรือ  https://www.facebook.com/Surface

from:http://www.mobiledista.net/pr-microsofts-revolutionary-tablet-launch-surface-in-india-officially/

Acer เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ต Windows 8 มาพร้อมซีพียู Intel Haswell

มีข่าวออกมาว่า Acer นั้นเตรียมที่จะเปิดตัวแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro และมีหน้าจอ 11.6 นิ้ว และน่าจะเปิดตัวที่งาน Computex 2013 ในสัปดาห์ข้างหน้านี้แล้ว

สำหรับสเป็คของแท็บเล็ต Acer ตัวใหม่นี้จะมีดังนี้

  • หน้าจอ IPS 11.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล
  • ซีพียู Intel Core i3 (Haswell)
  • แรม 4GB
  • ความจุ 64GB
  • มีช่องใส่ microSD
  • มีกล้อง 8 ล้านพิกเซล

ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศราคาและการวารงจำหน่ายของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของ Acer นี้ออกมาแต่อย่างใดจ้า

 

Acer เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ต Windows 8 มาพร้อมซีพียู Intel Haswell

 

ที่มา softpedia

from:http://www.mobiledista.net/acer-builds-11-6-inch-haswell-powered-tablet/

Microsoft แอบกัด Apple ผ่านโฆษณา Windows 8 อีกแล้ว!! แต่ก็ตรงประเด็น และเถียงไม่ออกกันเลยทีเดียว

ในวันนี้ Microsoft ได้ออกโฆษณาตัวใหม่เป็นโฆษณาระบบปฎิบัติการ Windows 8 ที่แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก จากที่ให้นักศึกษาหรือนักธุรกิจใส่สูทผูกไทค์นั่งเล่นแท็บเล็ต Windows 8 เปลี่ยนมาเป็นโฆษณาฟีเจอร์การใช้งานในลักษณะเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPad ซึ่งถือว่าตรงประเด็นมากขึ้น เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ก่อนจะซื้อแท็บเล็ต Windows 8 ก็มักจะนำไปเปรียบเทียบกับ iPad หรือแท็บเล็ต Android กันอยู่แล้ว

 

ในสื่อโฆษณาตัวนี้จะเป็นการวางเทียบกันเลยระหว่าง iPad และตัวแทนแท็บเล็ต Windows 8 อย่าง ASUS VivoTab จากนั้นก็ดำเนินเรื่องราวด้วย Siri ล้อเลียนโฆษณาของ Apple แทนที่จะให้ Siri มาบอกว่า “ทำอะไรได้บ้าง” แต่กลับให้ Siri มาบอกว่า “ทำอะไรไม่ได้” ในขณะที่ ASUS VivoTab นั้นทำได้แทบทุกอย่าง ยกเว้น ….(ชมคลิป)

 

และแน่นอนครับ Microsoft ก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงเรื่องราคาที่ ASUS VivoTab 64 GB ขายอยู่ที่ $449 ซึ่งถูกว่า iPad 64 GB ราคา $699 ของ Apple อย่างมาก เพื่อที่จะบอกผู้ใช้ว่าด้วยราคาที่ถูกกว่า “เราทำอะไรได้มากกว่าเล่นเกม”

 

เพื่อนคิดยังไงกันบ้างครับ กับคลิปโฆษณาตัวที่สองหลักจากที่ตัวแรกก็ได้กัดจิก Samsung และ Apple ด้วย Windows Phone 8 มาแล้ว ?

 

 

ที่มา WPCentral

 

โฆษณาของ Apple

ในวันนี้ Microsoft ได้ออกโฆษณาตัวใหม่เป็นโฆษณาระบบปฎิบัติการ Windows 8 ที่แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก จากที่ให้นักศึกษาหรือนักธุรกิจใส่สูทผูกไทค์นั่งเล่นแท็บเล็ต Windows 8 เปลี่ยนมาเป็นโฆษณาฟีเจอร์การใช้งานในลักษณะเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPad ซึ่งถือว่าตรงประเด็นมากขึ้น เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ก่อนจะซื้อแท็บเล็ต Windows 8 ก็มักจะนำไปเปรียบเทียบกับ iPad หรือแท็บเล็ต Android กันอยู่แล้ว   ในสื่อโฆษณาตัวนี้จะเป็นการวางเทียบกันเลยระหว่าง iPad และตัวแทนแท็บเล็ต Windows 8 อย่าง ASUS VivoTab จากนั้นก็ดำเนินเรื่องราวด้วย Siri ล้อเลียนโฆษณาของ Apple แทนที่จะให้ Siri มาบอกว่า “ทำอะไรได้บ้าง” แต่กลับให้ Siri มาบอกว่า “ทำอะไรไม่ได้” ในขณะที่ ASUS VivoTab นั้นทำได้แทบทุกอย่าง ยกเว้น ….(ชมคลิป)   และแน่นอนครับ Microsoft ก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงเรื่องราคาที่ ASUS VivoTab 64 GB […]
from:http://www.appdisqus.com/2013/05/23/microsoft-take-apple-ads.html