คลังเก็บป้ายกำกับ: UOB

เป็นเจ้าของ iPhone 14 จ่ายเริ่มต้น 850 บาท/เดือน ผ่านบริการ Ready Best Buy จาก AIS และ UOB

AIS สร้างกระแสแคมเปญ Best Buy ต่อเนื่อง เพิ่มทางเลือกให […] More

from:https://www.iphonemod.net/ais-uob-best-buy-iphone-14-24-months-pr.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=ais-uob-best-buy-iphone-14-24-months-pr

UOB ปิดระบบโมบายล์แบงค์กิ้ง ศุกร์ 21 เวลา 5 ทุ่ม ถึงเสาร์ 22 เวลา 9 โมงเช้าเ เพื่อปรับปรุงระบบ

ธนาคาร UOB ประกาศปิดระบบธุรกรรมออนไลน์ของธนาคารเพื่อปรับปรุงระบบ แบ่งเป็น 2 ระบบ 2 ช่วงดังนี้

  • Internet Banking และ Mobile Banking ตั้งแต่ศุกร์ที่ 21 เมษายน เวลา 5 ทุ่ม จนถึง 22 เมษายนเวลา 9 โมงเช้า
  • Business Internet Banking ตั้งแต่เสาร์ที่ 22 เมษายน เวลา 3 ทุ่ม จนถึง อาทิตย์ที่ 23 เมษายน เวลา 7 โมงเช้า

ที่มา – UOB

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/133487

AIS x UOB ซื้อ iPhone 14 ผ่อนรายเดือนเพียง 850 บาท! โปรนี้ใครใช้ได้บ้าง?

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา AIS ร่วมกับ UOB ทำโปร […] More

from:https://www.iphonemod.net/ais-collab-uob-best-buy-iphone-14.html

เปิดรายละเอียดโปรเช่า iPhone เดือนละ 850 บาท จาก AIS เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุก 2 ปี

มีโปรน่าสนใจมาจากทาง AIS ที่ร่วมมือถือ UOB ใช้ชื่อเรียกว่า UOB Best Buy ที่เสนอให้ลูกค้าผ่อนมือถือ iPhone 14 ทุกรุ่น เริ่มต้นด้วยเงินเดือนละ 850 บาท จะได้รับสิทธิเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ทุก ๆ 2 ปี เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากใช้มือถือรุ่นใหม่โดยจ่ายค่างวดเรื่อย ๆ ไป หรือถ้าไม่อยากผ่อนให้เครื่องใหม่ต่อก็งดรับสิทธิและผ่อนเครื่องเดิมไปก็ได้จนครบ

UOB Best Buy สิทธิผ่อน iPhone 14 เปลี่ยนเครื่องทุก 2 ปี

สิทธิ UOB Best Buy จริง ๆ แล้วคือการ ผ่อน iPhone 0% 34 เดือน ที่เพิ่มทางเลือกเปลี่ยนมาผ่อนเครื่องใหม่แทน หลังผ่านไป 24 เดือน ส่วนเครื่องเก่าจะสามารถขายคืนได้ โดยเค้าจะการันตีมูลค่า 30% ของราคาเต็มเครื่อง เพื่อนำมาจ่ายค่างวดที่เหลือของเดือน 25 – 34

โดยราคานี้เป็นค่าเครื่องอย่างเดียว ยังต้องซื้อแพ็กเกจเครือข่ายมาใช้ด้วย

เงื่อนไขโปรโมชัน UOB Best Buy

  1. สำหรับลูกค้า AIS ใช้แพ็กเกจรายเดือน 699 บาทขึ้นไป สามารถเปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย หรือเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือนมาก็ได้
  2. ต้องใช้บัตร UOB Cash Plus ในการผ่อนเท่านั้น
  3.  หลังผ่อนไปพร้อมใช้แพ็กเกจ 699 บาทขึ้นไปครบ 24 เดือน จะได้สิทธินำเครื่องสภาพดีมาทำทำสัญญาเปลี่ยนเครื่องใหม่ และหยุดสัญญาผ่อนเครื่องเดิม
  4. ถ้าไม่สามารถใช้สิทธิ์ หรือไม่อยากใช้สิทธิในระยะที่กำหนด ก็ต้องผ่อนค่าใช้จ่ายครบสัญญา 34 เดือน
  5. ถ้าผ่อนอยู่แล้วอยากเอาเงินมาชำระค่างวดที่เหลือทั้งหมด ก็ติดต่อธนาคารได้ แต่จะไม่ได้สิทธิเปลี่ยนเครื่องแล้ว
  6. ตรวจสอบสิทธิด้วยการกด USSD *999*03*03# แล้วโทรออก

ตารางผ่อนชำระ iPhone 14 0% 34 เดือน UOB Best Buy 

รุ่นมือถือ ราคาขายเต็ม ผ่อนชำระเดือนละ
iPhone14 128GB 28,900 850
Phone14 256GB 32,900 967.65
iPhone14 512GB 41,900 1,232.35
iPhone14 Plus 128GB 33,900 997.06
iPhone14 Plus 256GB 37,900 1,114.71
Phone14 Plus 512GB 46,900 1,379.41
iPhone14 Pro 128GB 40,000 1,176.47
iPhone14 Pro 256GB 44,000 1,294.12
iPhone14 Pro 512GB 53,000 1,558.82
Phone14 Pro 1TB 62,000 1,823.53
iPhone14 Pro Max 128GB 43,000 1,264.71
iPhone14 Pro Max 256GB 47,000 1,382.35
iPhone14 Pro Max 512G 56,000 1,647.06
Phone14 Pro Max 1TB 65,000 1,911.76

ราคาขายเครื่องขึ้นต่ำ หากต้องการใช้สิทธิเปลี่ยนเครื่องหลัง 24 เดือน (การันตี 30%) 

รุ่นมือถือ ราคาขายเต็ม ราคาที่จ่ายไปแล้ว 24 เดือน ราคาขายการันตี 30%
รวมเงินผ่อนกับราคา 30% ตัวเครื่อง
iPhone14 128GB 28,900 20,400.00 8,670.00 29,070.00
Phone14 256GB 32,900 23,223.60 9,870.00 33,093.60
iPhone14 512GB 41,900 29,576.40 12,570.00 42,146.40
iPhone14 Plus 128GB 33,900 23,929.44 10,170.00 34,099.44
iPhone14 Plus 256GB 37,900 26,753.04 11,370.00 38,123.04
Phone14 Plus 512GB 46,900 33,105.84 14,070.00 47,175.84
iPhone14 Pro 128GB 40,000 28,235.28 12,000.00 40,235.28
iPhone14 Pro 256GB 44,000 31,058.88 13,200.00 44,258.88
iPhone14 Pro 512GB 53,000 37,411.68 15,900.00 53,311.68
Phone14 Pro 1TB 62,000 43,764.72 18,600.00 62,364.72
iPhone14 Pro Max 128GB 43,000 30,353.04 12,900.00 43,253.04
iPhone14 Pro Max 256GB 47,000 33,176.40 14,100.00 47,276.40
iPhone14 Pro Max 512G 56,000 39,529.44 16,800.00 56,329.44
Phone14 Pro Max 1TB 65,000 45,882.24 19,500.00 65,382.24

ดังนั้นแปลว่า ถ้าเราผ่อนเครื่องไปแล้ว 24 เดือน เอามารวมกับราคาขายเครื่อง 30% ก็จะได้ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือในงวดพอดี ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มตอนจะเปลี่ยนเครื่อง

ดังนั้นสิ่งที่เราจะต้องจ่ายเยอะ ๆ คือราคาแพ็กเกจที่กำหนดไว้ว่าต้องจ่ายรายเดือนขึ้นต่ำ 699 บาทล้วน ๆ เลยนั่นเอง

รวมค่าใช้จ่ายผ่อนเครื่อง กับค่าแพ็กเกจ 699 บาท ในระยะเวลา 24 เดือน

รุ่นมือถือ ราคาขายเต็ม ราคาที่จ่ายไป 24 เดือน
ราคาที่จ่ายไป 24 เดือน รวมแพกเกจ 699
iPhone14 128GB 28,900 20,400.00 37,176.00
Phone14 256GB 32,900 23,223.60 39,999.60
iPhone14 512GB 41,900 29,576.40 46,352.40
iPhone14 Plus 128GB 33,900 23,929.44 40,705.44
iPhone14 Plus 256GB 37,900 26,753.04 43,529.04
Phone14 Plus 512GB 46,900 33,105.84 49,881.84
iPhone14 Pro 128GB 40,000 28,235.28 45,011.28
iPhone14 Pro 256GB 44,000 31,058.88 47,834.88
iPhone14 Pro 512GB 53,000 37,411.68 54,187.68
Phone14 Pro 1TB 62,000 43,764.72 60,540.72
iPhone14 Pro Max 128GB 43,000 30,353.04 47,129.04
iPhone14 Pro Max 256GB 47,000 33,176.40 49,952.40
iPhone14 Pro Max 512G 56,000 39,529.44 56,305.44
Phone14 Pro Max 1TB 65,000 45,882.24 62,658.24

 

 

from:https://droidsans.com/ais-uob-iphone-installment-850-baht-per-month/

AIS จับมือ UOB เตรียมเปิดดีลเช่า iPhone จ่ายเดือนละ 850 บาท เปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทุก 2 ปี

ในงาน AIS Vision 2023 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ทาง AIS ได้มีการประกาศความร่วมมือกับธนาคาร UOB ในการออกดีลสุดพิเศษภายใต้ชื่อ UOB Best Buy เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งาน 5G ได้ง่ายชึ้น

โดยดีลพิเศษที่เกิดขึ้นระหว่าง AIS และ UOB คือ การเช่าซื้อ iPhone 14 ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 850 บาท ซึ่งจะได้ iPhone 14 ไปใช้เลย แถมยังเปลี่ยนเป็น iPhone รุ่นใหม่ได้ทุกๆ 24 เดือนอีกด้วย คล้ายกับบริการเช่ามือถือใช้แบบจ่ายรายเดือน

ยกตัวอย่างคือ ถ้าลูกค้าสมัครแพ็คเกจดังกล่าว โดยเช่าซื้อ iPhone 14 แล้วอีก 2 ปีถัดไป ถ้า iPhone 16 ออกมา ลูกค้าสามารถนำ iPhone 14 ไปเปลี่ยนเป็น iPhone 16 ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มนั่นเอง แถมยังไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ และไม่ต้องไปขายเครื่องเก่าด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากค่ารายเดือนๆ ที่เริ่มต้นเดือนละ 850 บาทแล้ว ก็ต้องรอดูกันจะติดสัญญากับค่ายมือถือหรือไม่ และมีเงื่อนไขอะไรอื่นๆ อีกบ้าง รอติดตามรายละอียดเพิ่มเติมจากทาง AIS เร็วๆ นี้กันครับ

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/ais-joins-forces-with-uob-to-launch-an-iphone-rental-deal/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=ais-joins-forces-with-uob-to-launch-an-iphone-rental-deal

ยูโอบี ปิดดีลซื้อกิจการลูกค้ารายย่อย ซิตี้กรุ๊ป 4 ประเทศอาเซียน พร้อมเพิ่มทีมงานอีก 5,000 คน

ยูโอบี ธนาคารเครือข่ายชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ประกาศเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซีย และไทย อย่างเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมาย ส่วนในอินโดนีเซีย และเวียดนามจะเสร็จสิ้นในปี 2023

UOB

ยูโอบี พร้อมโอนย้ายลูกค้า ซิตี้กรุ๊ป ในไทย

วี อี เชียง รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยที่แล้วเสร็จในมาเลเซีย และไทย ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญ ทั้งสนับสนุนความมุ่งมั่นในการก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่ลูกค้ารายย่อย และลูกค้าธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนนึกถึงในการใช้บริการเป็นอันดับแรก

“วันนี้เรายินดีต้อนรับเพื่อนพนักงานและลูกค้ารายใหม่สู่ครอบครัวยูโอบี การรวมพนักงานซิตี้กรุ๊ปเข้าสู่ทีมงานที่มีคุณภาพของยูโอบีในทั้งสองประเทศ เรามุ่งมั่นให้ลูกค้าซิตี้กรุ๊ปได้สัมผัสประสบการณ์การโอนย้ายธุรกิจแบบราบรื่น ด้วยเครือข่ายการให้บริการ สาขาและเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย พร้อมสิทธิประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า”

บริษัทหวังว่า การโอนย้ายลูกค้าทั้งระบบจะแล้วเสร็จในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า ส่วนกิจการลูกค้ารายย่อยที่ซื้อจากซิตี้กรุ๊ปใน 4 ประเทศประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน และมีหลักประกัน, ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย

เพิ่มพนักงานอีก 5,000 คน รองรับการเติบโต

ยูโอบี คาดว่า ขนาดธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในทั้ง 4 ประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มีการให้บริการลูกค้าจำนวน 5.3 ล้านคน ทำให้บริษัทเสริมทีมงานอีก 5,000 คน เพื่อรองรับการเติบโตนอกประเทศสิงคโปร์ที่แข็งแกร่ง โดยในประเทศไทย บริษัทจะขึ้นเป็น 6 อันดับแรกของตลาดลูกค้ารายย่อย และเป็น 3 อันดับแรกของบริการบัตรเครดิต

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้าต่อไปในการบริการทุกรูปแบบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม รวมถึงยังคงความแข็งแกร่งกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงในภูมิภาคนี้ และรุกลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตจนกลายเป็นอันดับ 1 ของบริการลูกค้ารายย่อย

ทั้งนี้ธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในไทยของซิตี้กรุ๊ปส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จะเข้ามาช่วยเสริมกลุ่มลูกค้าของยูโอบี ประเทศไทย ที่เน้นกลุ่มลูกค้าด้านสินเชื่อที่มีหลักประกัน จนการรวมธุรกิจครั้งนี้จะเปิดโอกาสใหม่ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินได้ดีขึ้น

ปรับแบรนด์ใหม่เพิ่มการรับรู้

เมื่อเดือน ต.ค. 2022 ยูโอบีได้เปิดตัวแคมเปญรีเฟรชแบรนด์ โดยแคมเปญการสื่อสารล่าสุดแสดงให้เห็นว่าลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการ ความชอบ และเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างไร เป็นสิ่งที่ผลักดันให้ธนาคารสร้างผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นรายบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แคมเปญนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงกลยุทธ์ของธนาคารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งที่เติบโตขึ้นในภูมิภาคอาเซียน การหาลูกค้ารายใหม่ และให้บริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล และการตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าผ่านช่องทางแบบ Omni-channel

นอกจากนี้ ยูโอบีมีแผนในการดำเนินการเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น เช่น เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับภูมิภาคหลายแห่ง ประกอบด้วยสิงคโปร์แอร์ไลน์, มิชลิน ไกด์, Club21 และ Shopee เป็นต้น

สรุป

หลังจากนี้ธุรกิจสินเชื่อ และบัตรเครดิตในประเทศไทยจะแข่งขันกันดุเดือดขึ้น เพราะเมื่อ 2 บริษัทที่เป็นเบอร์รองในตลาดจับมือกันจนอันดับของทั้งบริการรายย่อย และบัตรเครดิตไต่ขึ้นมาหลายระดับ ทำให้กลุ่มผู้นำคงยอมไม่ได้อีกต่อไป และต้องส่งโปรโมชันต่าง ๆ เข้ามาจูงใจลูกค้าแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ยูโอบี ปิดดีลซื้อกิจการลูกค้ารายย่อย ซิตี้กรุ๊ป 4 ประเทศอาเซียน พร้อมเพิ่มทีมงานอีก 5,000 คน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/uob-citi-4-sea/

UOB ยกเลิกแอปพลิเคชัน TMRW เหลือให้บริการแค่แอปฯ หลัก หวังตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอายุ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย หรือ UOB ประกาศรวม 2 แอปพลิเคชันคือ UOB Mighty กับ TMRW เหลือเพียง 1 แอปฯ ในชื่อ UOB TMRW หลังได้ฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่มาตั้งแต่ปี 2019 โดย TMRW จะหยุดบริการ พ.ย. 2022

UOB TMRW

UOB กับดิจิทัลแบงก์กิ้งที่เปลี่ยนไป

เควิน แลม Head of UOB Digital และ TMRW Digital Group ของ UOB แจ้งว่า จากทิศทางการใช้บริการทางการเงินของคนไทยที่เปลี่ยนไปตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด โดยเฉพาะเรื่องการใช้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางธนาคารต้องปรับตัวเพื่อรองรับกระแสดังกล่าว

“เรามีตัวอย่างว่า ก่อนโรคโควิด-19 ระบาด การใช้งานดิจิทัลแบงก์กิ้งในกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วน 20% จากลูกค้าทั้งหมด แต่ปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 66% ถือเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ที่ใช้งานดิจิทัลแบงก์กิ้ง แต่คือคนทุกกลุ่มมีการใช้งาน”

จากจุดนี้เอง UOB จึงปรับกลยุทธ์การให้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งในประเทศไทยผ่านการรวมแอปพลิเคชัน 2 ตัวคือ UOB Mighty แอปฯ ที่ลูกค้ากลุ่มดั้งเดิมใช้บริการ กับ TMRW แอปฯ ที่ธนาคารให้บริการตั้งแต่ปี 2019 เพื่อเป็นบริการทางการเงินสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยทั้งสองแอปฯ จะเข้ามารวมกันในชื่อ UOB TMRW

UOB TMRW

รวม และยกเครื่องแอปฯ หลักทั้งหมด

ทั้งนี้ UOB TMRW จะเป็นการยกเครื่องแอปพลิเคชัน UOB Mighty กล่าวคือ เปลี่ยนหน้าตาการใช้งาน, การแสดงรายละเอียดข้อมูลแบบใหม่ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ เช่น การติดต่อผ่านแชท หรือโทรฟรีผ่านแอปฯ กับเจ้าหน้าที่ แต่การรวมกันครั้งนี้ แอปฯ TMRW จะหยุดให้บริการตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 เป็นต้นไป

“ประเทศไทยถือเป็นประเทศกลุ่มแรก ๆ ที่ให้บริการแอปพลิเคชัน UOB TMRW เพราะเกิดขึ้นหลังจากเริ่มให้บริการในสิงคโปร์แค่ 12 เดือน โดยเราใช้งบประมาณพัฒนากว่า 1,400 ล้านบาท และภายใน 24 เดือนหลังจากนี้ทยอยเปลี่ยนแปลงในประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย

ปัจจุบัน UOB มีลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชันกว่า 2 ล้านรายในประเทศไทย ส่วนฐานลูกค้าของ CITI ที่ธนาคารซื้อเข้ามาจะยังใช้บริการแอปพลิเคชันเดิมจาก CITI เป็นเวลา 1 ปี ก่อนย้ายมาที่แอปพลิเคชันใหม่ เนื่องจากอยู่ระหว่างโอนย้ายระบบ

ย้อนรอย TMRW ธนาคารดิจิทัลเพื่อคนรุ่นใหม่

สำหรับ TMRW เปิดตัวช่วงต้นปี 2019 ถือเป็นธนาคารดิจิทัลรายแรก ๆ ในเวลาดังกล่าว มีคู่แข่งคือ Me by TMB จุดเด่นของ TMRW ในเวลานั้นคือการเปิดบัญชีโดยไม่ต้องไปที่สาขาธนาคาร ถือเป็นธนาคารแรกที่ทำแบบนี้ในไทย โดยลูกค้าที่สนใจสามารถยืนยันตัวตนได้ผ่านแท่นยืนยันที่ตั้งอยู่ในจุดต่าง ๆ เช่น รถไฟฟ้า BTS หรือร้านอาหาร

เวลานั้น UOB มีการทำตลาดหลากหลายวิธี เช่น การทำ Music Marketing, การใช้สื่อนอกบ้าน และการใช้ KOL เพื่อปูพรมให้ลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้รับรู้ และเข้ามาเปิดบัญชีกับ TMRW พร้อมให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 1.6% และฟีเจอร์สนุก ๆ ที่ดิจิทัลแบงก์กิ้งธนาคารอื่นยังไม่มี เช่น เกมช่วยจัดการเรื่องเงิน และเตือนเมื่อถึงเวลาต้องออม เป็นต้น

ปัจจุบันทุกธนาคารหันมายกระดับดิจิทัลแบงก์กิ้งมากขึ้น และสร้างฟีเจอร์ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ รวมถึงลูกค้าทุกกลุ่มอายุคุ้นเคยกับดิจิทัลแบงก์กิ้ง ทำให้จุดแข็งของ TMRW ค่อย ๆ หายไป และน่าจะเป็นการดีกว่าที่จะรวม 2 แอปพลิเคชันเข้าด้วยกันเพื่อให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

UOB กำลังจะแข็งแกร่งในตลาดไทยมากขึ้นหลังเข้าซื้อฐานลูกค้าสินเชื่อของ CITI ทำให้ตัวธนาคารต้องปรับกลยุทธ์ และยกระดับบริการต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกตลาด ซึ่งก็ต้องดูกันว่าการรวม 2 แอปพลิเคชันเข้าด้วยกันจะช่วยให้เรื่องข้างต้นเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post UOB ยกเลิกแอปพลิเคชัน TMRW เหลือให้บริการแค่แอปฯ หลัก หวังตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอายุ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/uob-tmrw-2022/

เปิดตัวแอป UOB TMRW แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบครบวงจร จากยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศรวม 2 แอปพลิเคชัน UOB Mighty และ TMRW ให้เป็นหนึ่งเดียว สู่แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบครบวงจรใหม่ภายใต้ชื่อ UOB TMRW เพื่อให้บริการด้านดิจิทัลและรองรับฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นในประเทศไทย

UOB TMRW

UOB TMRW คือการรวมเอาความสามารถทางเทคโนโลยีใน การพัฒนาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของแอป TMRW บริการธนาคารดิจิทัลแห่งแรกในอาเซียน กับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน ของแอป Mighty 

ซึ่งแอป UOB TMRW โฉมใหม่ได้มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและและปรับปรุงจากความคิดเห็นของลูกค้าจากการใช้งานของทั้งสองแอปพลิเคชันที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการใช้บริการทางการเงินที่ง่าย สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวยิ่งขึ้น

UOB TMRW พร้อมให้ดาวน์โหลดและสมัครได้แล้วใน Apple App Store และ Google Play Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยลูกค้าใหม่จะได้สัมผัสกับฟีเจอร์และฟังก์ชันที่ดีที่สุดที่เราได้รวมจากทั้ง 2 แอปมาอยู่บนแอปใหม่ UOB TMRW ที่ปรับลุคใหม่และอัปเกรดดีขึ้นกว่าเดิม

ลูกค้าปัจจุบันของ Mighty จะได้รับการให้บริการและช่วยเหลือผ่านช่องทางดิจิทัลที่สะดวกและง่ายขึ้นผ่าน Chatbot หรือแชทกับเจ้าหน้าที่ และโทรฟรีผ่านแอป สนุกกับการออมเงินในรูปแบบเกมส์ผ่าน City of TMRW และสามารถติดตามและควบคุมค่าใช้จ่ายตามหมวดหมู่ที่ต้องการ ควบคู่กับการตั้งค่างบใช้จ่ายรายเดือนได้ โดยแอปจะแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อมีการใช้จ่ายเกินเป้าที่กำหนดไว้ ขณะที่ส่วนลูกค้าปัจจุบันของ TMRW จะสามารเข้าถึงดีลและโปรโมชันสุดพิเศษตามไลฟ์สไตล์ที่คุณชื่นชอบ รวมถึงสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้

นายเควิน แลม Head of UOB TMRW and Group Digital Banking ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “ในเวลาเพียง 12 เดือนนับตั้งแต่เปิดตัว UOB TMRW ในสิงคโปร์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอบริการธนาคารดิจิทัลที่ปรับตามไลฟ์สไตล์ลูกค้ามาให้ผู้ใช้งานในประเทศไทย จากความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบ เราให้ความสำคัญกับการเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า  เพื่อนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงใจที่สุด ซึ่งประสบการณ์นี้จะสร้างความแตกต่างจากบริการธนาคารดิจิทัลอื่นๆ ในภูมิภาค”

“กลุ่มธนาคารยูโอบีเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง สูงถึง 13,000 ล้านบาท ในการเร่งพัฒนาทั้งทางเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้บริการและตอบสนองลูกค้าได้ในทุกกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย โดยได้นำเอาเทคโนโลยีทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้เพื่อเข้าถึงและรองรับแผนการขยายธุรกิจลูกค้ารายย่อยของยูโอบีในประเทศไทย การเปิดตัว UOB TMRW ในวันนี้เป็นบทพิสูจน์ถึงกลยุทธ์ดิจิทัลของกลุ่มธนาคารยูโอบี ในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อการเป็นผู้นำด้านธนาคารดิจิทัล พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านไลฟ์สไตล์และการเงินที่ต่างกันของลูกค้าแต่ละรายให้ดียิ่งขึ้น”

นายยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “UOB TMRW จะเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์การขยายธุรกิจลูกค้ารายย่อยของเรา หลังจากการผนวกรวมกับธุรกิจธนาคาร ลูกค้ารายย่อยของซิตี้แบงก์แล้ว แอปพลิเคชันแบบครบวงจรนี้จะให้บริการลูกค้ามากกว่า 2 ล้านคน อีกทั้งยังเป็นหัวหอกสำคัญต่อแผนการขยายฐานลูกค้าใหม่ของเรา ผ่านกลยุทธ์แบบ Omni-Channel”

“ขณะที่เราพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น เราเตรียมให้บริการลูกค้าที่กว้างขึ้นในกลุ่ม Upper Mass ซึ่งมองหาแอปธนาคารที่ให้บริการด้านดิจิทัลแบบครบวงจร ทั้งเรื่องการใช้จ่าย บริหารจัดการเงิน และการลงทุน”

ยกระดับประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลแบบครบวงจร

ผู้ใช้งานแอป UOB TMRW จะได้พบกับฟีเจอร์ ผลิตภัณฑ์และบริการอีกมากมายในอนาคตอันใกล้

สิ่งที่แอปได้ปรับโฉมและพัฒนาขึ้น มีดังนี้:

  • ดีไซน์ใหม่: ปรับUI (User Interface) และดีไซน์ของแอปใหม่ ให้มีการใช้งานที่ง่ายขึ้น โดยมีฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยอยู่ในหน้าล็อกอิน เพื่อการใช้งานที่สะดวก ตามความชอบของแต่ละบุคคล
  • บริการสะดวกรวดเร็ว : ปรับปรุง และขยายขีดความความสามารถเดิมที่มีอยู่ของแอปให้ตอบสนองดียิ่งขึ้น ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถล็อกอินแอปด้วย PIN เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแต่ยังรับรองเรื่องความปลอดภัยเช่นเดิม
  • ฟีเจอร์ใหม่: เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ที่มอบความสะดวกสบายแก่ลูกค้ายิ่งขึ้น อาทิ การจัดการและควบคุมรายการบัตรเครดิตด้วยตัวเองผ่านแอป เช่น การตั้งวงเงิน การตั้งรหัสกดเงินสด อายัติบัตร หรือดูใบแจ้งยอดอิเล็กทรอนิกส์ของบัตรเครดิตโดยไม่ต้องสมัคร เป็นต้น

ลูกค้าปัจจุบันของแอป Mighty สามารถอัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันใหม่ UOB TMRW ได้ง่ายๆ บน Apple App Store และ Google Play Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะที่ลูกค้าปัจจุบันของแอป TMRW สามารถดาวน์โหลดแอปใหม่ UOB TMRW ใน Apple App Store หรือ Google Play Store และล็อคอินเข้าสู่แอปใหม่ด้วยบัญชีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (username/password) ของแอป TMRW ได้เลย

โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ว่าบัญชีและบัตรเครดิตต่างๆ ของ UOB และ TMRW จะปรากฏบนแอป UOB TMRW โดยอัตโนมัติหลังจากเข้าสู่ระบบการใช้งาน เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุด

ทางธนาคารจะยกเลิกการให้บริการแอปพลิเคชัน TMRW ในเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งลูกค้าจะได้รับแจ้งเตือนก่อนที่แอปพลิเคชันจะหยุดให้บริการ

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/launch-the-uob-tmrw-app/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=launch-the-uob-tmrw-app

The 1 Exclusive ผนึกกำลัง UOB ดูแลลูกค้า Privilege Reserve และ Privilege Banking มอบสิทธิ์ The 1 Exclusive พร้อมรับคะแนน The 1 เพิ่ม 20,000 คะแนน

The 1 (เดอะ วัน) ผู้นำด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้ ในฐานะ Center of Life Platform อันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล จับมือ ยูโอบี ประเทศไทย ร่วมยกระดับประสบการณ์ความประทับใจเหนือระดับสำหรับกลุ่มลูกค้า Privilege Reserve และ Privilege Banking ผ่านแคมเปญ Exclusive Welcome Offer รับเพิ่มคะแนนพิเศษถึง 20,000 คะแนน The 1 

พร้อมรับสิทธิ์เป็น The 1 Exclusive ที่มาพร้อมกับบริการและสิทธิประโยชน์ที่คัดสรรเป็นพิเศษให้ตรงใจลูกค้าคนสำคัญทันที หรือต่อสถานะสมาชิกสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก The 1 Exclusive ปัจจุบัน เมื่อช้อปครบ 250,000 บาทในเครือเซ็นทรัลรีเทล ภายในวันที่ 1 กันยายน 2565 – 30 พฤศจิกายน 2565 นี้ โดยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมรายการได้บน The 1 App เท่านั้น! คลิก https://t1x.onelink.me/XZji/8hyd5jpq

สมาชิก The 1 Exclusive จะได้รับบริการและสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าต่างประทับใจ อาทิ ที่จอดรถพิเศษที่ศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล คะแนน The 1 ไม่มีวันหมดอายุ ส่วนลดราคาพิเศษจากกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรมากมายกว่า 100 แบรนด์ สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรองพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงสิทธิพิเศษและรีวอร์ดอีกมากมายครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเชื่อมต่อการใช้งานทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อผ่าน The 1 App 

โดยสมาชิก The 1 สามารถอัปเกรดสถานะสมาชิกเป็น The 1 Exclusive ในเดือนถัดไปหลังจากสะสมยอดใช้จ่ายในกลุ่มเซ็นทรัลตั้งแต่ 250,000 บาทขึ้นไป หรือ 400,000 บาท เมื่อรวมกับยอดใช้จ่ายจากร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลและเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่เข้าร่วมรายการ ผ่านการยื่นใบเสร็จ ณ จุดแลกของสมนาคุณทุกสาขา

The 1 App

ดาวน์โหลด The 1 App เพื่อติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ทั้งบน App Store, Play Store และ Huawei AppGallery https://t1x.onelink.me/XZji/8hyd5jpq

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/the-1-exclusive-joins-forces-with-uob/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=the-1-exclusive-joins-forces-with-uob

ส่องดีล 1.21 แสนล้านบาท ที่ ยูโอบี ซื้อ กิจการลูกค้ารายย่อย ซิตี้กรุ๊ป ในไทย และ 3 ประเทศอาเซียน

หลัง ซิตี้กรุ๊ป ประกาศขาย กิจการลูกค้ารายย่อย ใน 4 ประเทศอาเซียนประกอบด้วย ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2021 ในที่สุดบริษัทที่ซื้อกิจการนี้ไปคือ ยูโอบี กลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์

ยูโอบี

เบื้องต้น ยูโอบี ใช้เงินกว่า 4,915 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1.21 แสนล้านบาท เพื่อซื้อกิจการลูกค้ารายย่อย แบ่งเป็น 4,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ตามมูลค่าอ้างอิงของกิจการนี้ และค่าพรีเมียมอีก 915 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ทำไม ซิตี้กรุ๊ป ต้องขายกิจการลูกค้ารายย่อยในอาเซียนทั้ง 4 ประเทศ และเหตุใด ยูโอบี ถึงต้องการกิจการดังกล่าว Brand Inside ชวนมาย้อนดูตั้งแต่จุดเริ่มต้นของดีลนี้กัน

ซิตี้กรุ๊ป โบกมือลาลูกค้าทั่วไปในอาเซียน

จุดเริ่มต้นของดีลนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2021 เพราะช่วงเดือน ก.พ. 2021 สื่อชั้นนำในต่างประเทศเริ่มรายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจเลิกกิจการลูกค้ารายย่อยของ ซิตี้กรุ๊ป ในหลายพื้นที่ ซึ่งสุดท้ายเดือน เม.ย. 2021 ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เพราะ ซิตี้กรุ๊ป ประกาศเลิกกิจการดังกล่าวใน 13 ประเทศ ในเอเชีย และยุโรป

13 ประเทศดังกล่าวประกอบด้วย ออสเตรเลีย, บาห์เรน, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, รัสเซีย, ไต้หวัน, เวียดนาม และไทย ตามรอยการเลิกกิจการลูกค้ารายย่อยในพื้นที่อเมริกาใต้ระหว่างปี 2006-2020 เพื่อให้ความสำคัญกับตลาดที่บริษัทแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต

Citi Thailand ซิตี้ แบงก์
ภาพจาก Shutterstock

การระบาดของโรค COVID-19 และการแข่งขันที่มากขึ้นของธุรกิจการเงินในหลายพื้นที่ ทำให้ Jane Fraser ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซิตี้กรุ๊ป ที่พึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือน มี.ค. 2021 ต้องวางแผน และบริหารธุรกิจภายใต้เกณฑ์ใหม่ของหน่วยงานกำกับกิจการการเงินของสหรัฐอเมริกา จน ซิตี้กรุ๊ป ต้องปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่

หลายธนาคารไทยเปิดโต๊ะเจรจาซื้อต่อ

สำหรับ กิจการลูกค้ารายย่อย ที่ประเทศไทย สื่อต่างประเทศรายงานว่า หลังจากนั้นไม่นาน ธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยเดินหน้าเปิดโต๊ะเจรจากับ ซิตี้กรุ๊ป เพื่อขอซื้อต่อ กิจการลูกค้ารายย่อย เพราะด้วยประวัติยาวนานในไทยกว่า 50 ปี และมีฐานลูกค้ารวมกว่า 1.1 ล้านราย เช่น ธุรกิจบัตรเครดิต, สินเชื่อ และบริหารความมั่งคั่ง เป็นต้น

ไล่ตั้งแต่ ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรี ซึ่งรายหลังถึงกับมีรายงานข่าวช่วงเดือน ธ.ค. 2021 ว่า เป็นตัวเก็งในได้คว้า กิจการลูกค้ารายย่อย ของ ซิตี้กรุ๊ป ในประเทศไทย และอาจต้องทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 66,400 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการนี้

ในเวลาเดียวกัน ซิตี้กรุ๊ป ยังอยู่ระหว่างเลือก ยูโอบี เข้าเจรจาขาย กิจการลูกค้ารายย่อยในอินโดนีเซีย ส่วนในมาเลเซีย ซิตี้กรุ๊ป เลือก สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เป็นคู่เจรจา แต่สุดท้ายคดีกลับพลิก เพราะตัวเก็งอย่าง ธนาคารกรุงศรี รวมถึงคู่เจรจาในอีก 3 ประเทศอาเซียน กลับพ่ายแพ้ให้กับ ยูโอบี ทั้งหมด

uob

ยูโอบี เข้าวินด้วยการเสนอซื้อ 1.21 แสนล้านบาท

อย่างที่แจ้งไป ยูโอบี คือธนาคารที่ชนะใจ ซิตี้กรุ๊ป ในการซื้อ กิจการลูกค้ารายย่อย 4 ประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และมาเลเซีย เบื้องต้นกิจการดังกล่าวมีสินทรัพย์สุทธิรวม 4,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ผ่านฐานลูกค้าราว 2.4 ล้านราย (ข้อมูลสิ้นเดือน มิ.ย. 2564) มีรายได้ 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

กิจการลูกค้ารายย่อย ใน 4 ประเทศอาเซียน ของ ซิตี้กรุ๊ป มีพนักงานประมาณ 5,000 คน ซึ่งรวมผู้บริหารระดับสูง และพนักงานมากประสบการณ์ในตลาดนี้ ทำให้ ยูโอบี แข็งแกร่ง และเติบโตในตลาดอาเซียนได้ดีขึ้น ผ่านการมีฐานลูกค้า กิจการรายย่อย รวมกันกว่า 5.3 ล้านราย พร้อมตั้งเป้าเติบโตขึ้น 2 เท่า ภายในปี 2026

uob

เหตุที่ ยูโอบี มองเช่นนั้น เนื่องจาก ความใกล้เคียงของกลุ่มลูกค้าระหว่าง ยูโอบี กับ ซิตี้กรุ๊ป ทั้งฝั่งระดับความมั่งคั่งของลูกค้า และจำนวนลูกค้าใน 4 ประเทศอาเซียน ประกอบกับความแข็งแกร่งในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่เกื้อหนุนกันทั้งสองฝ่าย ช่วยให้ ยูโอบี กลายเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ และผู้ให้บริการบัตรเครดิต อันดับต้น ๆ ของตลาดอาเซียนทันที

ขึ้นแท่นผู้ให้บริการบัตรเครดิตอันดับ 3 ในไทย

หากเจาะไปที่ประเทศไทย เมื่อการควบรวมกิจการนี้สำเร็จจะทำให้ ยูโอบี กลายเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตมากที่สุด 3 อันดับแรก กระโดดขึ้นมา 5 อันดับ ส่วนในมุมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ จะติด 6 อันดับแรก กระโดดขึ้นมา 1 อันดับ ผ่านจำนวนลูกค้ารวม 2.4 ล้านราย

uob

วี อี เชียง รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูโอบี ยอมรับว่า แม้การแข่งขันในประเทศไทยค่อนข้างสูง แต่การได้ลูกค้าพื้นที่นี้ ทำให้ธนาคารเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอาเซียน ส่วนตลาดมาเลเซีย กับเวียดนาม ถึงตอนนี้จะเล็ก แต่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะกับเวียดนาม

ทั้งนี้ ซิตี้ ประเทศไทย ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ซิตี้ บรรลุข้อตกลงกับ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือ ยูโอบี ประเทศไทย ในการขาย ธุรกิจธนาคารกลุ่มลูกค้าบุคคล (Consumer Banking Business) ของ ซิตี้ ประเทศไทย ให้กับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และลูกค้ายังใช้บริการได้เหมือนปกติ

uob uob

ดีลทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรก 2024

หลังประกาศซื้อ กิจการลูกค้ารายย่อย ยูโอบี แจ้งว่า ในไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทางธนาคารได้เดินหน้าแผนควบรวมทั้งหมดแล้ว โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างรอหน่วยงานกำกับกิจการในแต่ละพื้นที่อนุมัติ โดยในประเทศไทยคาดว่าจะเสร็จสิ้นไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2023

ดีลนี้อาจไม่ถึงกับเป็นมหากาพย์ แต่คงเป็นการชิงเหลี่ยมในการแย่งชิงฐานลูกค้าในไทย และอีก 3 ประเทศอาเซียน เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง อาจเพราะ ยูโอบี ทำธุรกิจใน 4 ประเทศนี้อยู่แล้ว จึงได้เปรียบในการซื้อเค้กก้อนใหญ่ แทนที่จะเหมือนกับธนาคารไทยที่ขอเค้กชิ้นเล็ก หรือเอาแค่ในไทยก็พอ

uob

ส่วนตัวเชื่อว่า หลังจากการควบรวมสำเร็จ น่าจะเห็นการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นในฝั่งธุรกิจบัตรเครดิตในประเทศไทยแน่นอน เพราะเมื่อ ยูโอบี มีฐานขึ้นมาอยู่ใน 3 อันดับแรกของตลาด เบอร์ 1 และเบอร์ 2 คงเตรียมพร้อมรับน้อง และไม่ปล่อยให้ ยูโอบี แย่งชิงลูกค้าไปได้ง่าย ๆ แน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม // สิ้นเดือน มิ.ย. 2021 กิจการลูกค้ารายย่อยของ ซิตี้กรุ๊ป ใน 4 ประเทศอาเซียน รวมมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ประกอบด้วยมูลค่าสินเชื่อ 9,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์, เงินฝาก 6,200 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ผ่านลูกค้า 2.4 ล้านราย

อ้างอิง // UOB

อ่านข่าวเกี่ยวกับ ยูโอบี และดีลการซื้อกิจการของ ซิตี้กรุ๊ป เพิ่มเติมที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ส่องดีล 1.21 แสนล้านบาท ที่ ยูโอบี ซื้อ กิจการลูกค้ารายย่อย ซิตี้กรุ๊ป ในไทย และ 3 ประเทศอาเซียน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/uob-citibank-deal-done/