คลังเก็บป้ายกำกับ: TRAFFIC

จะซื้อรถต้องมีที่จอดก่อน! ส่องกฎหมายประเทศในเอเชีย ย้อนร้อยกรณีจอดรถขวางทางเข้าบ้านคนอื่น

เมื่อไม่กี่วันมานี้ เกิดกรณีความขัดแย้งเรื่องการจอดรถบนขวางทางเข้าบ้านจนวิดีโอที่คู่กรณีถกเถียงกันถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียจนเกิดการตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสม

กรณีจอดรถขวางทางพื้นที่ของผู้อื่นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เรื่องรถและที่จอดรถเป็นปัญหาหนักที่กวนใจใครหลายคนมาตลอดแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ปัญหาคอขาดบาดตายอย่างเรื่องปากท้อง

ยิ่งในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมาณรถยนต์ส่วนตัวมีมากเกินกว่าพื้นที่ถนนจะรับไหวจนภาพการจอดรถซ้อนคันทั้งตามท้องถนนในพื้นที่ชุมชน ที่จอดรถในห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงที่จอดรถในบริเวณหมู่บ้านและที่พักอาศัย 

ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) เผยรายงานว่า เมืองควรมีสัดส่วนพื้นที่ถนนต่อพื้นที่ทั้งหมดของเมืองไม่ต่ำกว่า 20%-25% แต่ในกรุงเทพฯ สัดส่วนของพื้นที่ถนนและพื้นที่เมืองมีอยู่แค่ 7% เท่านั้น 

ปัญหามีรถแต่ไม่มีที่จอดรถไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยที่เดียว ลองมาดูญี่ปุ่นที่มีกฎหมายแก้ปัญหาจอดรถขวางทางมาตั้งแต่ปี 1962 และฟิลิปปินส์ที่ยังคงเป็นร่างกฎหมายแต่ก็ถือว่าก้าวนำไทยไปอีกก้าว รวมทั้งสิงคโปร์ที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมพื้นที่การจราจรหนาแน่น

ญี่ปุ่น – “Shako shomei sho” ใบรับรองว่ามีที่จอดรถ

หากอยู่ในประเทศไทยแล้วอยากจะมีรถสักคัน สิ่งที่ต้องมีก็คงจะเป็นความสามารถในการจ่ายเงินซื้อรถ แต่ในญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีเงินเพียงพอ ก็ไม่สามารถซื้อรถยนต์ได้หากไม่มี “Shako shomei sho” หรือใบรับรองว่ามีที่จอดรถ

แม้ว่าจะเป็นประเทศผู้นำการผลิตรถยนต์เจ้าใหญ่อย่าง Toyota, Honda หรือจะเป็น Isuzu แต่ภายใต้กฎหมาย 1962 Garage Act ผู้ที่ต้องการจะซื้อรถยนต์ส่วนตัวหรือผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์และต้องการย้ายที่อยู่อาศัยจะต้องมีใบรับรองว่ามีที่จอดรถที่ออกโดยสำนักงานตำรวจในท้องถิ่น โดยกฎหมายกำหนดว่าที่จอดรถจะต้องอยู่ภายในระยะทาง 2 กิโลเมตรนับจากที่พักอาศัย

ที่จอดรถในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ส่วนเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอใบรับรองที่จอดรถ ก็อย่างเช่น แผนที่ที่จอดรถและสถานที่โดยรอบที่มีตราประทับรับรอง นอกจากใบรับรองว่ามีที่จอดรถแล้ว หากต้องการจะเช่าหรือซื้อรถยนต์อย่างถูกกฎหมายในญี่ปุ่นก็จำเป็นจะต้องมีใบขับขี่ของญี่ปุ่นหรือใบขับขี่สากลที่มีอายุเกิน 3 เดือนและได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ที่จอดรถที่ได้รับการรับรองไม่จำเป็นว่าผู้ซื้อหรือเจ้าของรถยนต์จะต้องเป็นเจ้าของที่จอดรถนั้น ๆ จะเป็นที่จอดรถให้เช้าก็ได้ เมื่อได้รับใบรับรองว่ามีที่จอดรถแล้ว จึงจะสามารถนำใบรับรองไปยื่นต่อผู้ขายรถยนต์เพื่อซื้อรถยนต์ได้

ส่วนใหญ่แล้วที่จอดรถในญี่ปุ่นจะต้องเสียค่าช่าที่เป็นรายเดือน โดยค่าเช่าที่จอดรถจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ ขณะที่การจอดรถบริเวณริมถนนเป็นไปได้ยากมากที่จะไม่เสียค่าปรับและถูกล็อกล้อ ส่วนการจอดรถซ้อนคันแบบในประเทศไทยเรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ ระบบขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่นถือว่าครอบคลุมและมีประสิทธิภาพอย่างมากจนการใช้รถยนต์ไม่ได้เป็นวิธีหลักที่คนใช้ในการเดินทาง

บรรยากาศบนรถไฟฟ้าญี่ปุ่นที่เป็นการขนส่งสาธารณะหลักที่คนนิยมใช้กัน

ฟิลิปปินส์ – No Garage, No Registration Act

หลังจากดูญี่ปุ่นที่มีกฎหมายใบรับรองที่จอดรถมาตั้งแต่ปี 1962 มาแล้ว ลองมาดูร่างกฎหมายของฟิลิปปินส์กันบ้าง ที่แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้จริง แต่ก็อาจเป็นตัวอย่างให้ไทยได้เพราะมีสภาพการคมนาคมคล้ายกัน

ฟิลิปปินส์เป็นอีกประเทศที่คนใช้รถยนต์เป็นหลักเพราะระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ จนปริมาณรถยนต์มีมากและพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอ ภาพการจอดรถริมถนนจนกินพื้นที่ถนนเข้ามาที่เราเห็นในกรุงเทพฯ ก็เห็นได้ในฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน

รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องจอดรถริมถนนและในที่ห้ามจอด เมื่อปีที่แล้ว Lord Allan Velasco สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของฟิลิปปินส์ได้เสนอร่างกฎหมาย House Bill No.31 หรือ No Garage, No Registration Act

การจราจรติดขัดบนถนนในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์

ร่างกฎหมายกำหนดให้ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ที่อาศัยหรือมีธุรกิจอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างเช่น กรุงมะนิลา แองเจลลิส ดาเบา จะต้องยื่นเอกสารแสดงหลักฐานว่ามีที่จอดรถซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบโรงจอดรถหรือพื้นที่จอดรถให้เช่าก็ได้เพื่อซื้อรถยนต์และยื่นขอทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกของฟิลิปปินส์ 

ภายใต้กฎหมาย No Garage, No Registration Act หากผู้ใดปลอมแปลงทะเบียนรถยนต์จะถูกระงับไม่ให้จดทะเบียนรถยนต์ในชื่อของตนเองเป็นระยะเวลา 3 ปี และต้องจ่ายค่าปรับ 50,000 เปโซหรือราว 31,000 บาท

รถไฟฟ้าในกรุงมะนิลา

ร่างกฎหมายในลักษณะนี้เคยถูกยื่นต่อรัฐสภาในปี 2016 และ 2019 แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่มีการยื่นร่างกฎหมาย No Garage, No Registration Act ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวฟิลิปปินส์ บางคนก็มองว่าร่างกฎหมายนี้ควรได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ขณะที่บางคนมองว่าสาเหตุที่คนอยากจะซื้อรถยนต์ส่วนตัวกันก็เป็นเพราะระบบขนส่งสาธารณะของฟิลิปปินส์ที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ 

กรณีของฟิลิปปินส์อาจเหมือนกับสภาพการเดินทางในประเทศไทยมากกว่าญี่ปุ่น เพราะการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพยังขาดแคลนทำให้คนเลือกใช้รถยนต์เป็นหลักเพราะสะดวกกว่า 

สิงคโปร์ – Electronic Road Pricing ค่าธรรมเนียมเดินทางบนเส้นทางที่รถแน่น

นอกจากกฎหมายขอใบรับรองว่ามีที่จอดรถก่อนจะซื้อรถของญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์แล้ว ทางฝั่งสิงคโปร์ก็มีกฎหมายจูงใจให้คนหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์เพื่อมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเช่นเดียวกัน

ในปี 1998 สิงคโปร์ได้บังคับใช้กฎหมาย Electronic Road Pricing ที่ให้รัฐบาลเก็บค่าธรรมเนียมจากรถยนต์ที่เดินทางผ่านพื้นที่ที่การสัญจรแออัด ภายใต้กฎหมายนี้ทำให้สิงคโปร์มีระบบอัตโนมัติที่สามารถคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของรถยนต์แต่ละคนโดยคิดจากพื้นที่ เวลาที่เดินทาง ประเภทยานพาหนะและอัตราความเร็วของรถยนต์

หน้าจอแสดงค่าธรรมเนียมที่เก็บจากผู้ขับรถยนต์ภายใต้กฎหมาย Electronic Road Pricing

กฎหมาย Electronic Road Pricing ช่วยลดความหนาแน่นของการจราจรในพื้นที่ที่การจราจรแออัด รวมทั้งทำให้สามารถคำนวณระยะเวลาในการเดินทางได้แม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้บังคับใช้เพื่อแก้ปัญหาจากกฎหมาย Area Licensing Scheme ที่บังคับเก็บค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกันสำหรับพื้นที่ที่รถยนต์หนาแน่นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนวันจันทร์-วันเสาร์ แต่ระบบที่ยังไม่มีมาตรฐานทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางในพื้นที่แออัดหลายครั้งอย่างรถส่งของก็จะต้องเสียค่าบริการหลายรอบ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังสร้างแรงจูงใจให้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นผ่านราคารถยนต์และค่าธรรมเนียมการขอใบรับรองรถยนต์ หรือ COE ที่เมื่อรวมกันแล้วแพงกว่าราคารถยนต์ปกติมาก ใบ COE คือใบอนุญาติให้เป็นเจ้าของและขับรถยนต์ได้ในระยะเวลา 10 ปี

ราคารถยนต์ในสิงคโปร์ถือเป็นราคาที่แพงที่สุดในโลก Budget Direct เว็บไซต์ด้านการเงินของสิงคโปร์เผยว่าโดยเฉลี่ยแล้ว รถยนต์ในสิงคโปร์มีราคาสูงกว่าในสหรัฐอเมริกาถึง 5 เท่า ในปี 2022 กรมการขนส่งทางบกของสิงคโปร์เผยว่า ราคาเฉลี่ยของใบ COE สำหรับรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 53,407 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.8 ล้านบาท

รถเมล์สาธารณะในสิงคโปร์

ยกตัวอย่าง รถยนต์ Mercedes-AMG E53 ที่มีราคาในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 75,000 ดอลาร์หรือราว 2.56 ล้านบาท แต่ในสิงคโปร์มีราคาอยู่ที่ 368,652 ดอลลาร์ หรือราว 12.57 ล้านบาทเมื่อราวกับค่าธรรมเนียมออกใบ COE แล้ว

การซื้อรถยนต์ยังต้องเสียภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มเติม รวมถึงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่ขึ้นอยู่กับปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งมีการกำหนดโควต้าขอขอใบรับรองรถยนต์จากกรมการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ทำให้มีการประมูลใบรับรองด้วย

ที่มา – AutoJosh, Parking Reform Atlas, Vietnam Posts English, CNN Philippines, Manila Bulletin, Moneymax, Yugatech, UDDC, Singapore Business, CMAP, Business Insider

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post จะซื้อรถต้องมีที่จอดก่อน! ส่องกฎหมายประเทศในเอเชีย ย้อนร้อยกรณีจอดรถขวางทางเข้าบ้านคนอื่น first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/asian-laws-to-solve-traffic-congestion/

ขอดูหน่อย! Amazon แจก 2 ดอลลาร์ต่อเดือน แลกกับข้อมูล Ad Traffic ในมือถือของลูกค้า

Amazon เผยโครงการใหม่ ให้เงินตอบแทนกับผู้ใช้งานที่ยอมให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ โดยต้องการรู้ข้อมูลว่าผู้ใช้ได้เห็นโฆษณาอะไรของ Amazon ไปบ้าง ซึ่งเค้าก็จะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาระบบโฆษณาแบบ personalized ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังรับข้อมูลอื่น ๆ ของผู้ใช้งาน เช่นใบเสร็จจากการซื้อของ เพื่อมาแลกเงินกับ Amazon ได้อีกด้วย

โครงการนี้มีชื่อว่า Ad Verification program ที่ Amazon ต้องการข้อมูลตัวโฆษณา, หน้าเว็บที่แสดงโฆษณา, และเวลาที่ได้เห็นโฆษณาของผู้ใช้งาน ซึ่งรวมไปถึงโฆษณาของ Amazon เอง และโฆษณาจาก Third-party ที่ใช้ระบบ Amazon Ads มีค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 เหรียญ หรือราว ๆ 70 บาทต่อเดือน

เบื้องต้นโครงการนี้จะหาผู้เข้าร่วมโดยการเชิญชวนไปเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดแอปมาเพื่อรอใน Waitlist ของเค้าได้ จากใน App Store และ Google Play Store โดยจำกัดไว้ให้แค่ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ เท่านั้น นอกจากนี้ในโครงการยังมีทางเลือกแลกรางวัลอื่น ๆ เช่นการตอบแบบสอบถาม หรือการส่งภาพใบเสร็จจากการซื้อของในร้านอื่น 10 ใบเพื่อแลกกับเงิน 10 ดอลลาร์ต่อเดือน

แต่แน่นอนว่าโครงการแบบนี้ ก็ต้องถูกผู้คนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ว่าจะแอบเอาข้อมูลอะไรของผู้ใช้เกินจากที่กำหนดไว้ในโครงการหรือเปล่า ยิ่งช่วงนี้คนมีความกังวลเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย ทาง Amazon ก็เลยได้ชี้แจงในหน้า FAQ เอาไว้ โดยได้ระบุนโยบายการใช้ข้อมูล เช่น ไม่เก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนอย่างพวกยารักษาโรค, มีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานลบใบเสร็จที่อัปโหลดเอาไว้ได้ตลอดเวลา หากเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา, และข้อมูลทุกอย่างจะถูกลบหลังผ่านไป 13 เดือนครับ

โครงการขอข้อมูลแลกเงินแบบนี้ ก็เคยมีมาแล้ว อย่าง Facebook ก็มีแอป VPN Facebook Research, ของ Google ก็มี Screenwise ที่เป็นตัว Chrome Extension เอาไว้คอยเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานหน้าเว็บต่าง ๆ แต่ทั้งสองโครงการก็ถูกปิดตัวลงไปทั้งคู่ เพราะความกังวลเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ ดังนั้นก็น่าติดตามดูว่าของ Amazon นี้จะอยู่รอดได้นานแค่ไหนกันครับ

ที่มา : amazon, finance.yahoo

from:https://droidsans.com/amazon-ad-verification-program-2-dollars-reward/

แฮคเกอร์เจาะระบบ Yandex Taxi ป่วนระบบทำรถติดหนักใน Moscow

เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์รถติดหนักในบริเวณ Kutuzovsky ของ Moscow จากสาเหตุมีรถแท็กซี่จำนวนมากหลายสิบันมุ่งหน้าไปรับผู้โดยสารในบริเวณดังกล่าวในเวลาเดียวกัน

ในเวลาต่อมา Yandex Taxi ผู้ให้บริการแอปเรียกแท็กซี่ออกแถลงการณ์ผ่าน TASS สื่อของรัสเซีย อธิบายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ระบบโดนแฮค โดยแฮคเกอร์ได้ทำการเรียกรถแท็กซี่ในระบบที่สามารถเรียกได้ขณะนั้นให้ไปรับผู้โดยสารที่จุดเดียวกันในเวลาเดียวกัน โดย Yandex Taxi ระบุว่าตอนนี้บริษัทได้ปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันการโจมตีในลักษณะคล้ายกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตแล้ว

ทางด้านกลุ่มแฮคเกอร์ Anonymous ได้อ้างว่าการแฮคระบบ Yandex Taxi ในครั้งนี้เป็นผลงานของพวกเขา

ที่มา – The Verge

No Description

from:https://www.blognone.com/node/130207

สิงคโปร์เตรียมติดระบบติดตามรถด้วยดาวเทียมบนรถทุกคัน คิดค่าใช้ถนนตามสภาพจราจร

ขนส่งทางบกสิงคโปร์ (Land Transport Authority – LTA) ประกาศอัพเกรดระบบคิดค่าใช้ทางพิเศษและที่จอดรถจากเดิมคิดตามจุดเก็บค่าผ่านทางและสภาพจราจรมาเป็นระบบคิดค่าใช้งานตามจริงจากกล่องจ่ายค่าผ่านทางที่สามารถบันทึกตำแหน่งรถด้วยสัญญาณดาวเทียมนำทางเช่น GPS ได้ ในชื่อระบบ nexgen ERP

ระบบ ERP เดิมของสิงคโปร์เป็น RFID ที่เรียกเก็บค่าผ่านทางจากบัตรเครดิตที่เสียบอยู่กล่อง ERP ในรถคล้าย EasyPass/M-Pass ในไทย แต่กล่อง on-board unit (OBU) ของ nexgen ERP สามารถบันทึกพิกัดจากดาวเทียมนำทางได้ทำให้ทาง LTA สามารถกำหนดค่าผ่านทางได้อย่างละเอียด และจะได้รับข้อมูลสภาพการจราจรอย่างชัดเจน

ทาง LTA จะบังคับรถใหม่ทั้งหมดต้องติดกล่อง OBU ในอนาคต โดยกล่องจะเริ่มภายในปลายปี 2021 สำหรับผู้ติดกล่อง ERP เดิมจะได้เปลี่ยนฟรี และการคิดค่าผ่านทางจะใช้ระบบ ERP เดิมไปก่อนจนถึงปี 2023

สำหรับประเด็นความเป็นส่วนตัว LTA ยืนยันว่าการเก็บข้อมูลพิกัดรถโดยทั่วไปจะไม่ระบุตัวตน ยกเว้นการบันทึกเพื่อเก็บค่าผ่านทางหรือบันทึกไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทาง

ที่มา – LTA

No Description

กล่อง OBU สำหรับรถทั่วไป มีอุปกรณ์ 3 ชิ้น ได้แก่ เสารับสัญญาณ, จอสัมผัส, และกล่องประมวลผลที่รับบัตรเครดิต

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/118320

Apple Watch, AirPods และสินค้า Apple หลายตัวได้รับผลกระทบภาษีขึ้น 15% เริ่มวันนี้ (1 ก.ย. 2019)

Apple Watch Airpodsสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนส่งผลต่อ Apple โดยตรงวันนี้ (1 ก.ย. 2019) ทำให้สินค้าที่สั่งผลิตนำเข้าจากจีนอย่าง Apple Watch, AirPods และอื่น ๆ มีภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น 15% สินค้า Apple ผลกระทบภาษีนำเข้าจากจีนขึ้น 15% Bloomberg รายงานข้อมูลว่าตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ย. 2019) เป็นต้นไป สินค้า Apple หลายรายการจะได้รับผลกระทบภาษีนำเข้าจากจีน 15% จากนโยบายของ Trump โดยสินค้า Apple ที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ Apple Watch และสาย Apple Watch AirPods HomePod หูฟัง Beats บางรุ่น iMac Bloomberg เผยว่าธุรกิจการซ่อม iPhone ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันโดยชิ้นส่วนบางตัวอย่าง Flash Storage  เป็นต้น, ส่วน iPhone นั้นจะได้รับผลกระทบภาษีนำเข้าจากจีนเริ่มวันที่ 15 ธ.ค. 2019 ทำให้ […]

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-airpods-more-tariffs-effected.html

ตำรวจแนะ 8 เส้นทางเลี่ยงพื้นที่จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (เฉพาะวันที่ 3-4 พ.ค. 2562)

แนะนำเส้นทางจราจรเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 3-4 พฤษภาคม 2562 เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. ประชาสัมพันธ์ข่าวให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบเกี่ยวกับการอํานวยความสะดวกด้านการจราจร ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 3-4 พฤษภาคม 2562 (ต่อเนื่องจากวันที่ 2 พฤษภาคม 2562) ซึ่งพื้นที่จัดพระราชพิธีฯ จะอยู่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และ พื้นที่ต่อเนื่อง

สําหรับผู้ที่เดินทางสัญจรตามปกติสามารถหลีกเลี่ยงบริเวณพื้นที่ดังกล่าว (เนื่องจากมีการปิดถนน 8 สาย) และใช้เส้นทางอื่นเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง ดังนี้

1. เส้นทางจากฝั่งพระนคร – ฝั่งธนบุรี

  • เส้นทาง ทางด่วน
    • ลงด่วนยมราช ใช้เส้นทาง ถนนสวรรคโลก – ถนนราชวิถี หรือ ถนนสุโขทัย – สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้)
    • ลงด่วนยมราช ใช้เส้นทาง ถนนหลานหลวง – ถนนจักรพรรดิพงษ์ หรือ ถนนราชดําเนินนอก – แยก จปร. – สะพานพระราม 8
    • ลงด่วนยมราช ใช้เส้นทาง พิษณุโลก – แยกสวนมิสกวัน – ถนนราชดําเนินนอก – แยก จปร. – สะพานพระราม 8
    • ลงด่วนยมราช ใช้เส้นทาง ถนนหลานหลวง – ถนนราชดําเนินกลาง – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
  • เส้นทาง พื้นราบ
    • ถนนศรีอยุธยา – ถนนสวรรคโลก – ถนนราชวิถี หรือ ถนนสุโขทัย – สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี)
    • ถนนเพชรบุรี – ถนนหลานหลวง – ถนนจักรพรรดิพงษ์ หรือ ถนนราชดําเนินนอก – แยก จปร. – สะพานพระราม 8
    • ถนนพระราม 1 หรือ ถนนเพชรบุรี – ถนนหลานหลวง – ถนนราชดําเนินกลาง – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
    • ถนนพระราม 4 – ถนนเยาวราช – ถนนจักรวรรดิ – สะพานพระปกเกล้า
    • ถนนพระราม 4 – ถนนสาทรใต้ – สะพานตากสิน

2. เส้นทางจากฝั่งธนบุรี – ฝั่งพระนคร

  • เส้นทาง ทางด่วน
    • ถนนกาญจนาภิเษก ใช้เส้นทาง – ทางพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอก – ด่านประชาชื่น หรือ ถนนกําแพงเพชร
  • เส้นทาง พื้นราบ
    • สะพานพระปกเกล้า – ถนนมหาไชย – ถนนหลานหลวง – ถนนเพชรบุรี หรือ ถนนพระราม 1
    • สะพานพระปกเกล้า – ถนนมหาไชย – ถนนเจริญกรุง – ถนนพระราม 4
    • สะพานพุทธยอดฟ้า – ถนนตรีเพชร – ถนนเจริญกรุง – ถนนมหาไชย – ถนนหลานหลวง – ถนนเพชรบุรี หรือ ถนนพระราม 1
    • สะพานพุทธยอดฟ้า – ถนนตรีเพชร – ถนนเจริญกรุง – ถนนวรจักร – ถนนบํารุงเมือง – ถนนพระราม 1
    • สะพานตากสิน – ถนนสาทรเหนือ – ถนนพระราม 4

สอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลข โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.trafficpolice.go.th

 
Source: thumbsup

from:https://thumbsup.in.th/2019/05/polices-recommend-ways-for-avoid-coronation/

สหราชอาณาจักรเริ่มทดสอบใช้อุปกรณ์ตรวจจับการใช้งานมือถือในขณะที่รถวิ่ง

สหราชอาณาจักรเริ่มทดสอบใช้อุปกรณ์ตรวจจับการใช้งานมือถือขณะที่รถวิ่ง โดยอุปกรณ์นี้จะถูกติดตั้งไว้ข้างถนนและคอยตรวจจับสัญญาณมือถือจากรถที่วิ่งผ่านมัน

อุปกรณ์ที่ว่านี้พัฒนาโดยบริษัท Wescotec ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอุปกรณ์เซ็นเซอร์และป้ายสัญญาณเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน มันมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณมือถือของรถที่วิ่งผ่านมัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ 2G, 3G หรือ 4G หากมันพบว่ามีการใช้งานมือถืออยู่ ไม่ว่าจะเพื่อการสนทนา, การส่งข้อความ หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในจังหวะที่ผ่านเซ็นเซอร์ ระบบป้ายสัญญาณไฟ LED จะแสดงเครื่องหมายเพื่อเตือนคนขับรถว่างดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

No Description

อุปกรณ์ตรวจจับดังกล่าวสามารถรับรู้ได้ว่าการใช้มือถือขณะขับรถนั้นมีการใช้อุปกรณ์ช่วยสนทนา ผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธ หรือไม่ หากพบว่ามีการต่อหูฟังหรือลำโพงผ่านทางบลูทูธ ระบบตรวจจับของ Wescotect จะไม่แสดงเครื่องหมายเตือนการงดใช้มือถือ

อย่างไรก็ตามมันยังไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าการใช้มือถือนั้นเป็นการใช้งานโดยคนขับรถเอง หรือเป็นการใช้งานของผู้โดยสารในรถ ดังนั้นอุปกรณ์ตรวจจับการใช้มือถือขณะขับรถนี้จึงยังใช้เพื่อการแสดงป้ายสัญญาณเตือนเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ โดยยังไม่นำไปใช้ประกอบการตรวจจับเพื่อระบุความผิดเกี่ยวกับกฎหมายจราจร แต่ทาง Wescotec ก็ตั้งใจจะพัฒนาระบบเพิ่มเติมให้สามารถใช้เพื่องานบังคับใช้กฎหมายได้ในอนาคต

ทั้งนี้ Wescotec บอกว่าตอนนี้มีคำสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบตรวจจับการใช้มือถือพร้อมป้ายเตือนที่เพิ่งได้รับการพัฒนานี้มาจากเบลเยี่ยม, ฟินแลนด์, ลิทัวเนีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกาแล้ว

ที่มา – Wired, Wescotec

from:https://www.blognone.com/node/103873

ชาวบ้านโวย แอพ Waze แนะนำเส้นทางถนนทางชันท้าตาย ทำเอารถคว่ำรถชนกันเพียบ

Los Angeles เป็นเมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและประวัติศาสตร์การก่อตัวของชุมชนเมืองมานานหลายร้อยปี ซึ่ง Baxter Street ก็เป็นหนึ่งในถนนเส้นเก่าแก่ที่ตัดขึ้นใช้งานครั้งแรกตั้งแต่ปี 1872 แม้จะผ่านมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ถนนยาวเกือบ 1 กิโลเมตรเส้นนี้ก็ยังคงใช้งานได้ มีผู้คนตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เรียงราย

แต่ความพิเศษของ Baxter Street ไม่ใช่อายุหรือประวัติศาสตร์ของมัน หากแต่เป็นความชัน ด้วยความที่มันถูกก่อสร้างเริ่มใช้งานเมื่อนานมาแล้ว ในยุคสมัยที่กฎหมายด้านวิศวกรรมการก่อสร้างยังไม่บังคับใช้เข้มงวดเท่าทุกวันนี้ Baxter Street จึงถูกตัดใช้งานผ่านเนินชัน 2 ลูก ซึ่งส่วนที่ชันที่สุดของถนนเส้นนี้ชันถึง 32% หรือก็คือ 17.7 องศา ชันระดับที่ว่าเมื่อขับรถเคลื่ีอนไปอยู่ตรงยอดเนินแล้ว ผู้ขับไม่มีทางมองเห็นถนนที่อยู่ถัดจากฝากระโปรงหน้ารถได้เลย (ลองเข้าไปดูภาพจาก Google Street View กันได้)

ถ้านึกไม่ออกว่าความชันระดับนี้อันตรายแค่ไหน ขอให้อิงจากมาตรฐานชั้นทางของกรมทางหลวง แม้แต่ทางขนาดเล็กสุดยังยอมให้มีความชันได้ไม่เกิน 12% หรือ 6.84 องศาเท่านั้น หรืออย่างทางลาดตามอาคารจอดรถต่างๆ ที่ว่าชันนักหนา ทางกฎหมายก็ยังออกแบบให้ชันได้ไม่เกิน 15% หรือ 8.53 องศาเท่านั้น ถือว่าความชัน 32% ของ Baxter Street เป็นรอง Baldwin Street ถนนที่ชันที่สุดในโลกที่มีบ้านเรือนผู้คนซึ่งชัน 35% อยู่นิดเดียวเท่านั้น

No Description

ปัญหาคือผู้คนที่พักอาศัยอยู่บน Baxter Street เขาก็ใช้ชีวิตกันมาได้ตามปกติ กระทั่งมาถึงยุคที่ใครๆ ก็ใช้แอพนำทาง และสารพัดบริการรถรับจ้างโดยสารผุดกันขึ้นมามากมาย (ซึ่งหลายคนก็ไม่ได้ชำนาญทางมากนัก อาศัยความเชื่อใจที่มีให้แอพนำทาง) ซึ่งหนึ่งในแอพที่ผู้คนใน Los Angeles นิยมใช้อย่าง Waze ก็ดันแนะนำให้หลายคนขับมาตามถนน Baxter Street นี้เสียด้วย

จากปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสภาพถนนที่สุดโต่ง ทำให้รถหลายคันประสบอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีฝนตกลงมาแล้วทำให้ถนนแสนชันนี้โคตรลื่นเข้าไปอีก

เมื่อ 2-3 วันก่อน Jason Luther หนึ่งในผู้อยู่อาศัยบนถนน Baxter Street เล่าว่ามีรถเสียหลักพุ่งเข้ามายังพื้นที่สวนของบ้านเขา ถลาพุ่งชนรั้วบ้านอีก 2 ชั้น ก่อนจะหยุดนิ่งหงายหลังคาอยู่ตรงทางเข้าบ้านเขา ส่วน Robbie Adams ผู้อยู่อาศัยในละแวกเดียวกันเล่าว่าเขาเห็นอุบัติเหตุรถยนต์ 5-6 ครั้ง ก่อนหน้ารั้วบ้านเขาพังเพราะโดนรถชน 2 ครั้ง และอีกครั้งหนึ่งรถยนต์ของภรรยาเขาจอดอยู่ในพื้นที่บ้านดีๆ ก็มีรถเสียหลักพุ่งเข้ามาชน

No Description

Adams บอกว่าพวกชาวบ้านได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานรัฐ และแจ้ง Waze เพื่อขอให้ลบถนนนี้ออกไปจากระบบ แต่ Waze ตอบกลับว่าการแก้ไขจะต้องแก้อัลกอริทึมแบบผิดแผกแปลกออกไปจึงดำเนินการให้ไม่ได้

Ars Tecnica ได้ติดต่อไปยัง Google บริษัทแม่ของ Waze และได้รับอีเมลตอบกลับใจความดังนี้

Google Maps ได้สร้างแบบจำลองที่เปลี่ยนโลกได้ โดยอิงจากข้อเท็จจริงพื้นฐาน นี่หมายความว่าแผนที่ของเราจะสะท้อนมาตรการที่หน่วยงานท้องถิ่นได้ลงมือทำจริงเพื่อปกป้องประชาชนของพวกเขา-ตัวอย่างเช่น, การปิดถนนที่สูงชัน, หรือการออกกฎบังคับเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทาง หากหน่วยงานท้องถิ่นตัดสินใจที่จะจำกัดการใช้งาน Baxter Street, มาตรการนั้นก็จะถูกนำมาใช้ในการประเมินและแนะนำเส้นทางการขับรถให้กับผู้คนในพื้นที่ Los Angeles

ถึงตรงนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทำไม Google ถึงเลือกแก้ไขข้อมูลโดยการลบหรือปิดถนนเส้นนี้ออกจากระบบแนะนำเส้นทางเองไม่ได้ ดูท่าแล้วประชาชนบน Baxter Street คงต้องหันไปถามกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อออกมาตรการควบคุมการใช้ถนนเส้นนี้เป็นการด่วน

ที่มา – Ars Technica

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/101343

เผยตัวเลข Google ส่งทราฟิกให้เว็บมากเป็นประวัติการณ์ ส่วน Facebook ส่งน้อยลง 20%

ในขณะที่ Facebook กำลังอยู่ในช่วงภาวะสั่นไหว และมีเสียงวิจารณ์เรื่อง reach เพจข่าวสารต่ำเตี้ยเรี่ยดิน Google กลับมีตัวเลขทราฟิกที่ส่งไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ

Chartbeat บริษัทวิเคราะห์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณามีลูกค้า ได้แก่ New York Times, CNN, Washington Post และ ESPN เผยตัวเลขทราฟิก ระบุว่าสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ Google ส่งทราฟิกการเข้าชมหน้าเว็บไปยังเว็บไซต์ต่างๆ กว่า 466 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เทียบกับมกราคม 2017 โดยทราฟิกส่วนใหญ่มาจากมือถือ ในขณะเดียวกัน Facebook ส่งทราฟิก 200 ล้านครั้ง น้อยกว่าเดิม 20% ด้านยอดทราฟิกโดยรวมเพิ่มขึ้น 47% ในปีนี้ Google และ Facebook เป็นสองเจ้าที่ครองตัวเลขส่วนใหญ่

มีตัวเลขน่าสนใจก่อนหน้านี้ว่า Twitter ค่อยๆ ส่งทราฟิกไปยังเว็บไซต์มากขึ้นเรื่อยๆ (แม้จะยังตามหลัง Facebook มาก) นอกจากนี้ Twitter, Google ก็มีแนวทางสนับสนุน Accelerated Mobile Pages หรือ AMP ที่ช่วยให้โหลดอ่านหน้าเว็บผ่านมือถือเร็วขึ้นร่วมกัน Google ระบุว่ามี 31 ล้านเว็บไซต์แล้วที่ใช้งาน AMP และยังมีผลสำรวจอีกว่าผู้ใช้ที่เข้าผ่านเว็บ AMP ก็มาจาก Twitter มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

alt="Untitled"

ภาพจาก Datawrapper

ที่มา – Recode

from:https://www.blognone.com/node/99887

Denso จับมือ Toyota ทดสอบการประมวลผลข้อมูลจราจรในไทย ด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท Denso และบริษัท Toyota Tsusho ประกาศจะร่วมกันทดสอบการประมวลผลข้อมูลสภาพการจราจรในไทย โดยใช้ข้อมูลตำแหน่งและการเดินทางของรถแท็กซี่และรถบรรทุกกว่า 130,000 คันทั่วประเทศ ประมวลผลผ่านระบบคลาวด์คอมพิวเตอร์ควอนตัมของบริษัท D-Wave Systems

กระบวนการทดสอบโดยคร่าวๆ คือ บริษัท Denso จะพัฒนาอัลกอริทึมบนคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล และจะส่งผลการวิเคราะห์ไปยังแอพพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม TSquare ของบริษัท Toyota Tsusho Nexty Eletronics (ประเทศไทย) ต่อไป (ข่าวเก่า: สัมภาษณ์บริษัท TTET ผู้สร้างแอพจราจร TSquare จากข้อมูล GPS จริงกว่า 6 หมื่นตัวทั่วไทย)

ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่า การทดสอบครั้งนี้จะเป็นการช่วยพัฒนาระบบเพื่อแก้ปัญหาการจราจร อาทิ ปัญหารถติด หรือการค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับรถฉุกเฉิน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถประมวลผลข้อมูลได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

บริษัท Denso จะแถลงเกี่ยวกับโครงการนี้อีกครั้งในงาน CES 2018 ที่นครลาสเวกัส, ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงเดือนมกราคมปี 2018 หรือก็คือเดือนหน้านี้เอง

ที่มา – เว็บไซต์บริษัท Denso และ Toyota Tsusho Nexty Electronics (Thailand)

alt="“Taxi"ที่มาภาพ – Igor Ovsyannaykov บน Unsplash

from:https://www.blognone.com/node/98362