คลังเก็บป้ายกำกับ: SNAPDRAGON_870

MediaTek ยิ้ม… Dimensity 8000 ทำผลคะแนน AnTuTu ได้ในเกณฑ์เดียวกับ Snapdragon 888

ตอนนี้มีผลคะแนน Benchmark แอป AnTuTu ของชิปเซ็ตตัวรองท็อปของ MediaTek อย่าง Dimensity 8000 หลุดออกมา เปิดเผยว่าชิปตัวนี้ทำคะแนนได้พอฟัดพอเหวี่ยงกับ Snapdragon 888 ชิปเรือธงปีที่แล้วจาก Qualcomm ซะอีก ถือว่าเป็นทางเลือกตัวใหม่ของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดี เพราะพักหลังๆ ต้นทุนการผลิตของชิปเซ็ตตัวเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1, Exynos 2200 หรือแม้กระทั่ง Dimensity 9000 ของ MediaTek เอง ถือว่าสูงเอามากๆ

Digital Chat Station แหล่งข่าวเจ้าเก่า ได้ออกมาแชร์ภาพผลคะแนน AnTuTu Benchmark เวอร์ชั่น V9.0.7-OB ของชิปเซ็ต Dimensity 8000 ที่ยังไม่เปิดตัว โดยชิปเซ็ตดังกล่าวสามารถทำคะแนนไปได้มากถึง 820,000 แต้ม ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ Snapdragon 888 ที่มักจะทำคะแนนได้อยู่ในช่วง 750,000 – 880,000 แต้ม ขึ้นอยู่กับขนาดความจุ RAM ประเภทหน่วยความจำที่ใช้ และปัจจัยอื่นๆ

แหล่งข่าวบอกว่า MediaTek จะผลิตชิปเซ็ต Dimensity 8000 บนสถาปัตยกรรมขนาดจิ๋ว 5 นาโนเมตร เหมือนกับ Snapdragon 888, Exynos 2100 และ Apple A15 Bionic ซึ่งแน่นอนว่าการอัปเกรดมาใช้สถาปัตยกรรมขนาดเท่านี้ผลิต ประสิทธิภาพความแรงต่างๆ รวมไปถึงการจัดการพลังงาน ย่อมดีขึ้นกว่าเดิมเป็นแน่ โดย Dimensity 8000 จะมาพร้อมกับ CPU Cortex-A78 ความเร็ว 2.75GHz จำนวน 4 แกน และอีกที่เหลือจะเป็นตัวประหยัดพลังงาน Cortex-A55 ส่วน GPU ใช้เป็น Mali-G510

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า MediaTek จะไม่พยายามเอา Dimensity 8000 ไปสู้กับ Snapdragon 888 เหมือนกับที่ Digital Chat Station ระบุเอาไว้ แต่จะเอาไปชนกับ Snapdragon 870 ตัวรองปีที่แล้วของ Qualcomm แทน ซึ่งผลคะแนน AnTuTu ของ Dimensity 8000 ถือว่าแรงกว่า Snapdragon 870 อยู่ประมาณเกือบๆ แสนเลยทีเดียว

โดยชิปเซ็ตที่ MediaTek เตรียมนำไปท้าชนกับ Snapdragon 888 จะเป็นรุ่น Dimensity 8100 ที่ลือกันว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วน Dimensity 8000 ในข่าว ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือรายละเอียดใดๆ เปิดเผยออกมาครับ

 

SOURCE : GSMArena

from:https://droidsans.com/mediatek-dimensity-8000-scores-same-range-snapdragon-888/

6 มือถือเล่นเกมตัวแรงสุดคุ้มในงบ 17,000 บาท เล่นเกมเพลินได้ใจเฟรมเรทลื่นได้อีก!

มือถือเล่นเกมยุคนี้ในงบประมาณเท่า iPhone SE สักเครื่องบอกเลยว่าฝั่ง Android มีให้หยิบกันเต็มไปหมด!

game cover

มือถือเล่นเกมจัดเป็นสมาร์ทโฟนอีกกลุ่มที่มีผู้ใช้เลือกซื้อมองหากันเยอะ เนื่องจากมีบริษัทผู้พัฒนาเกมมือถือพากันพอร์ตเกมฟอร์มใหญ่มาลงกันอย่างครึกครื้น ไม่ว่าจะ Genshin Impact, PUBG Mobile, RoV ที่ต้องใช้มือถือชิปแรงระดับหนึ่งถึงเล่นเกมได้เฟรมเรทสูงและภาพสวยไปพร้อมๆ กัน ซึ่งถึงมือถือระดับไม่เกินหมื่นหลายๆ รุ่นตอนนี้ถึงจะเปิดเล่นเกมได้แต่ถ้าเจอตอนที่เอฟเฟคในเกมออกมาจัดเต็มก็ต้องมีภาพกระตุกกันบ้างอย่างแน่นอน

Advertisementavw

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายๆ เจ้าก็พากันลงมาจับตลาดมือถือช่วงหลักพันปลาย-หมื่นกลางกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนผู้ใช้มีตัวเลือกมากมาย ซึ่งถ้าใครมีงบประมาณระดับไม่เกิน 17,000 บาทที่พอซื้อ iPhone SE ความจุ 128GB ได้ ก็สามารถหาซื้อมือถือเล่นเกมระบบปฏิบัติการ Android มาเล่นได้หลายเครื่องอย่างแน่นอน

มือถือเล่นเกม

สำหรับชิปในมือถือเล่นเกมระบบปฏิบัติการ Android ช่วงราคาไม่เกิน 17,000 บาท ณ ตอนนี้ จะมี Qualcomm Snapdragon 800 Series ให้เลือกหลายรุ่น ไม่ว่าจะ Snapdragon 865, Snapdragon 870, Snapdragon 888 ก็มีให้เลือกซื้อ โดยความแรงต้องถือว่าเปิด Genshin Impact ปรับกราฟฟิคระดับสูง 60 Fps เล่นได้เลย

จากคลิปที่ตอนผู้ใช้นำไปทดสอบใช้งานจริง จะเห็นว่าชิป Snapdragon 888, Snapdragon 870 ทั้งสองรุ่นตอนนำมาเล่นเกมถือว่าเล่นได้ไหลลื่นไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นชิประดับเรือธงทั้งคู่ จึงคาดหวังเรื่องประสิทธิภาพได้เลย

ด้านของชิป Qualcomm Snapdragon 865 ที่เป็นชิปกลุ่มเรือธงเหมือนกันแม้จะตกรุ่นไปปีหนึ่งแล้ว แต่ประสิทธิภาพก็ถือว่ายังเล่นเกมระดับ Genshin Impact ได้ไหลลื่นเช่นกัน ดังนั้นถ้าโจทย์คือจะหามือถือเล่นเกมแต่ขอราคาน่าคบหาด้วยอาจจะถอยลงมาเลือกรุ่นนี้ก็ได้เช่นกัน

6 มือถือเล่นเกมตัวแรงราคาเป็นมิตร ลากหัวคมๆ ได้สบายๆ เล่นเกมเพลินชัวร์

เกมเมอร์ที่กำลังอยากเปลี่ยนมือถือเครื่องเก่ามาเป็นมือถือเล่นเกมสเปคแรงสักเครื่อง แล้วตั้งงบประมาณเอาไว้ไม่เกิน iPhone SE ความจุ 128GB สักเครื่อง ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟน Android นั้นมีให้เลือกหลากหลายรุ่นมากโดยผู้เขียนจะเน้นเลือกรุ่นที่เปิดตัวไม่นานนี้หรือเปิดตัวมาสักพักแต่สเปคและฟีเจอร์นั้นถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว โดยทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำจะมีดังนี้

  1. POCO F3 (8/256GB) – 11,999 บาท
  2. realme GT Neo 2 (8/128G) – 13,990 บาท
  3. Samsung Galaxy S20 FE 5G (8/128GB) – 15,999 บาท
  4. OnePlus Nord 2 5G(8/128GB) – 16,690 บาท
  5. Xiaomi 11T Pro (8/128GB) – 16,990 บาท
  6. Nubia Red Magic 6R (8/128GB) – 16,990 บาท
1. Poco F3 (8/256GB) – 11,999 บาท

poco

POCO F3 เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นไปทางความคุ้มค่า สเปคแรงแต่ราคาเข้าถึงง่ายและเกมเมอร์ชาวไทยหลายๆ คนนิยมเลือกซื้อมาใช้เล่นเกมกัน ซึ่งรุ่น F3 นี้เป็นรุ่นใหม่ที่ใส่ฟีเจอร์ใช้งานทั่วไปและเกมมิ่งมาให้แบบจัดเต็ม ได้แก่ระบบระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus ที่กระจายความร้อนภายในเครื่องได้ดีขึ้น, ลำโพง Dolby Atmos และไม่ลืม IR Blaster พอร์ตอินฟาเรดสำหรับคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็มีให้ใช้เช่นกัน

สเปคของ POCO F3 เครื่องนี้มีหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED เป็นจอวัสดุ E4, Refresh Rate สูง 120 Hz และอัตราการตอบสนอง (Touch Sampling Rate) 360 Hz และเป็นจอ HDR10+ ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มี MEMC ที่ช่วยชดเชยภาพบนหน้าจอให้การขยับของภาพบนหน้าจอลื่นไหลต่อเนื่อง ปิดด้วยกระจก Gorilla Glass 5 เจาะรูกล้องหน้าไว้ตรงกลางขอบบนหน้าจอ ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 870 จีพียู Adreno 650 โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำเป็นรุ่นท็อป RAM 8GB LPDDR5 กับ ROM 256GB UFS 3.1 สามารถโหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ติดตั้งระบบปฏิบัติการ MIUI 12 ที่พัฒนาจาก Android 11 ไว้ สามารถสแกนลายนิ้วมือที่เซนเซอร์ข้างตัวเครื่องเพื่อปลดล็อคเครื่องได้

การเชื่อมต่อรองรับคลื่น 5G ถาดซิมเป็น Nano SIM คู่, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1, NFC รองรับการสแกนลายนิ้วมือข้างเครื่อง มีพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 33W ชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,520 mAh ให้เต็มได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกล้องจะมีเลนส์มุมกว้าง 48 ล้านพิกเซล f/1.79, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์เทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.45 สามารถถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี นับเป็นมือถือเล่นเกมเครื่องแรกที่ผู้เขียนแนะนำหากอยากได้เครื่องแรงสเปคคุ้มเกินค่าตัวแต่ราคาเป็นมิตร

สเปคของ Poco F3
  • หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED เป็นจอวัสดุ E4, HDR10+ ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มี MEMC
    • Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 360 Hz
    • กระจก Gorilla Glass 5 เจาะรูกล้องหน้าไว้ตรงกลางขอบบนหน้าจอ
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 870 จีพียู Adreno 650
  • RAM 8GB LPDDR5 กับ ROM 256GB UFS 3.1
  • ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 ที่พัฒนาจาก Android 11
  • รองรับคลื่น 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1, NFC, IR Blaster
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 33W แบตเตอรี่จุ 4,520 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 48 ล้านพิกเซล f/1.79, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์เทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.45
  • สแกนลายนิ้วมือที่เซนเซอร์ข้างตัวเครื่อง
  • ระบบระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus 
  • ลำโพง Dolby Atmos 
  • ราคา : 11,999 บาท (Xiaomi Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. เป็นมือถือเล่นเกมที่ได้ชิปเรือธงในราคาหมื่นต้นเท่านั้น 1. สแกนลายนิ้วที่เซนเซอร์ข้างเครื่องไม่ใช่บนหน้าจอ
2. ใส่ฟีเจอร์เอื้อการเล่นเกมมาให้ครบทั้ง Touch Sampling Rate สูง, MEMC, LiquidCool 1.0 Plus  
2. realme GT Neo 2 (8/128G) – 13,990 บาท

ae1b25d045e77d3067d348ea21f03878

realme GT Neo 2 เรียกว่าเป็นมือถือเล่นเกมอีกรุ่นที่ตั้งราคาตัวเครื่องได้น่าสนใจ ได้บอดี้ตัวเครื่องสวยงามแต่ให้ฟีเจอร์เอื้อการเล่นเกมมาตั้งแต่ระบบระบายความร้อน Steel Vapor Cooling Plus, หน้าจอ Touch Sampling Rate สูงถึง 600 Hz, มอเตอร์สั่น Tactile Engine 2.0 ให้สัมผัสตอบสนองตอนใช้งานได้ดี, โหมด GT 2.0 ที่ทาง realme ปรับแต่งมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ เรียกว่าใช้งานทั่วไปก็ดีเล่นเกมก็ไหลลื่นและได้ลำโพง Dolby Atmos มาเช่นกัน

สเปคของเครื่องนี้มีขนาดหน้าจอ 6.62 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED เป็นจอวัสดุ E4, HDR10+, Refresh Rate สูง 120 Hz และอัตราการตอบสนอง (Touch Sampling Rate) 600 Hz จัดว่าสูงมากตอบสนองได้เร็วและขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 เจาะรูกล้องหน้าเอาไว้ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 870 จีพียู Adreno 650 มี RAM 8GB กับ ROM 128GB UFS 3.1 สามารถโหลดเกมได้อย่างรวดเร็วแน่นอน ติดตั้งระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11 เช่นกัน

ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 5G NR ถาด Nano SIM คู่, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ มีพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว SuperDart 65W ชาร์จแบตเตอรี่ 5,000 mAh ให้เต็มได้อย่างรวดเร็วโดย realme เคลมไว้ว่าเต็มใน 36 นาทีเท่านั้น ส่วนกล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 64 ล้านพิกเซล f/1.8, เลนส์มุมกว้าง 119 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.3, เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.5 ซึ่งถ้าใครชอบมือถือ realme แล้วอยากหาเป็นมือถือเล่นเกมได้ลื่นๆ ก็ดูรุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ realme gt neo 2
  • หน้าจอขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED เป็นจอวัสดุ E4, HDR10+ ขอบเขตสีกว้าง, เจาะรูกล้องหน้าไว้ตรงกลางขอบบนหน้าจอ
    • Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 600 Hz
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 870 จีพียู Adreno 650
  • RAM 8GB กับ ROM 128GB UFS 3.1
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11
  • รองรับคลื่น 5G NR, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว SuperDart 65W แบตเตอรี่จุ 5,000 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 64 ล้านพิกเซล f/1.8, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.3 และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล
    • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.5
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ระบบระบายความร้อน Steel Vapor Cooling Plus, มอเตอร์สั่น Tactile Engine 2.0, โหมด GT 2.0
  • ลำโพง Dolby Atmos 
  • ราคา : 13,990 บาท (realme Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย 1. กล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
2. Touch Sampling Rate สูงถึง 600 Hz  
3. Samsung Galaxy S20 FE 5G (8/128GB) – 15,999 บาท

6398fcce948c369557cf42de4781c964

Samsung Galaxy S20 FE 5G ถือว่าเป็นมือถือเล่นเกมของ Samsung ที่ราคาเป็นมิตรแม้จะเปิดตัวมาสักพักแล้วก็ตาม ซึ่งจากที่ผู้เขียนติดตามข้อมูลมือถือรุ่นนี้เป็นระยะๆ ตอนนี้เซนเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอก็ได้รับการแก้ไขเสร็จแล้ว ดังนั้นถ้าใครต้องการหาซื้อมาใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมก็ใช้ได้เลย ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังเล่นเกมได้ไหลลื่นแน่นอน ส่วนลำโพงสเตอริโอคู่ได้รับการจูนเสียงโดย AKG

สเปคเครื่องนี้เป็นหน้าจอ Infinity-O เจาะรูกล้องหน้าเอาไว้ตรงกลางขอบบนหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล Super AMOLED, HDR10+, กระจก Gorilla Glass 3, Refresh Rate 120 Hz และ Touch Sampling Rate 240 Hz ทำให้ตอนเล่นเกมแตะหน้าจอแล้วตอบสนองไว ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 865 กับจีพียู Adreno 650 มี RAM 8GB กับ ROM 128GB UFS 3.1 สามารถเติบ MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB ทำให้ลงเกมและถ่ายภาพกับวิดีโอเก็บเอาไว้ได้เยอะทีเดียว ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น One UI 2.5 พัฒนาจาก Android 10 และได้รับการอัพเดทเวอร์ชั่นเป็นเวอร์ชั่นใหม่แล้ว

การเชื่อมต่อจะรองรับ 5G ถาดซิมเป็น Nano SIM, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.0, ANT+, NFC มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ให้ใช้งานและพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 25W และชาร์จไร้สายให้แบตเตอรี่ 4,500 mAh ในตัวส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวเป็นเลนส์มุมกว้าง 12 ล้าน f/2.2, Ultrawide 12 ล้านพิกเซล f/1.8, Telephoto 8 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.2 เรียกว่าเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาสักพักแล้วแต่ก็คุ้มค่าน่าซื้อหามาเป็นมือถือเล่นเกมประจำตัวอยู่

สเปคของ Samsung Galaxy S20 FE 5G
  • หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล Super AMOLED, HDR10+, กระจก Gorilla Glass 3
    • Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 240 Hz
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 865 จีพียู Adreno 650
  • RAM 8GB กับ ROM 128GB UFS 3.1 ใส่ MicroSD Card ได้ 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ One UI 2.5 พัฒนาจาก Android 10
  • รองรับคลื่น 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.0, ANT+, NFC, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 25W, รองรับการชาร์จไร้สาย แบตเตอรี่จุ 5,000 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/2.2, Ultrawide 12 ล้านพิกเซล f/1.8 และเลนส์ Telephoto 8 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.2
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ลำโพงได้รับการจูนเสียงโดย AKG
  • ราคา : 15,999 บาท (Samsung Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ติดตั้งมาให้ใช้งาน 1. ระบบชาร์จเร็วยังอยู่ที่ 25W เท่านั้น
2. รองรับการชาร์จไร้สาย 2. กล้องหลักมีความละเอียด 12 ล้านเท่านั้น
4. OnePlus Nord 2 5G(8/128GB) – 16,690 บาท

2b2d4424b36e65e7055db7d36bb556f6

OnePlus Nord 2 5G ต้องถือว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นอยู่บ้างเพราะว่าไม่ได้ใช้ชิป Snapdragon เหมือนรุ่นอื่นแต่เป็น MediaTek Dimensity 1200 เป็นชิป AI ที่ทาง OnePlus พัฒนาร่วมกับทาง MediaTek ทำให้เล่นเกมได้ไหลลื่น เล่นเกมได้ดีและประหยัดพลังงานและมีลำโพงสเตอริโอคู่กับระบบสั่นสะเทือน Haptics 2.0 ช่วยให้เล่นนเกมได้อรรถรสกว่าเดิม ด้านประสิทธิภาพการเล่นเกมโดยชิป Dimensity 1200 ต้องถือว่าดีทีเดียวตามคลิปตัวอย่างด้านล่างนี้

สเปคเครื่องนี้จะมีขนาดหน้าจอ 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล Fluid AMOLED ขอบเขตสีกว้างระดับ sRGB, DCI-P3 ค่า Refresh Rate 90 Hz กระจก Gorilla Glass 5 แข็งแรงและสแกนนิ้วบนหน้าจอได้ด้วย ใช้ชิป MediaTek Dimensity 1200 ใช้จีพียูเป็น ARM G77 MC9 มี RAM 8GB LPDDR4x และ ROM 128GB UFS 3.1 สำหรับติดตั้งแอพฯ และเกมต่างๆ ติดตั้งระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11.3 พัฒนาจาก Android 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแล้วและเตรียมอัพเดทเป็น Android 12 ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

การเชื่อมต่อรองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.2, NFC มีพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 65 ชาร์จแบตเตอรี่ 4,500 mAh ในเครื่องให้เต็มได้อย่างรวดเร็ว มีกล้องหลัง 3 ตัวเป็นเลนส์มุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล f/1.88, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.25, Mono Lens 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.45 ซึ่ง OnePlus Nord 2 5G ตัวนี้ถือว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่น่าใช้งานรุ่นหนึ่งเลย 

สเปคของ OnePlus Nord 2 5G
  • หน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) Fluid AMOLED ขอบเขตสีกว้างระดับ sRGB, DCI-P3, กระจก Gorilla Glass 5
    • Refresh Rate 90 Hz
  • ชิป MediaTek Dimensity 1200 จีพียู ARM G77 MC9
  • RAM 8GB LPDDR4x กับ ROM 128GB UFS 3.1
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11.3 พัฒนาจาก Android 11
  • รองรับคลื่น 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.2, NFC
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 65W, รองรับการชาร์จไร้สาย แบตเตอรี่จุ 4,500 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล f/1.88, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.25 และเลนส์ Mono Lens 2 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.45
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ลำโพงสเตอริโอ
  • ราคา : 16,690 บาท (OnePlus Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. ชิป Dimensity 1200 มีฟีเจอร์พิเศษและ AI ในชิปปรับแต่งเพื่อ OnePlus โดยเฉพาะ 1. ค่า Refresh Rate หน้าจอ 90 Hz เท่านั้น นับว่าน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ
2. รองรับ Warp Charge 65W ชาร์จแบตเต็มได้อย่างรวดเร็ว  
5. Xiaomi 11T Pro (8/128GB) – 16,990 บาท

b6c75b25018948287497da44e0fbb052

Xiaomi 11T Pro รุ่นนี้ต้องถือว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่สเปคแรงพร้อมฟีเจอร์ระดับเรือธงแต่ค่าตัวเข้าถึงง่ายรุ่นหนึ่งที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานนี้ โดยหน้าจอเป็น Dolby Vision ลำโพงรองรับ Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอที่ harman/kardon ปรับจูนเสียงให้ ส่วนพาเนลหน้าจอก็เป็นพาเนลตอบสนองเร็วเป็นพิเศษ มีระบบระบายความร้อน Liquidcool ติดตั้งมาให้ด้วยจัดว่าน่าสนใจทีเดียว

สเปคเครื่องนี้จะเป็นหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED เป็นจอ Dolby Vision มีค่า Refresh Rate 120 Hz และ Touch Sampling Rate 480 Hz, HDR10+ กับ MEMC ที่ทำให้ภาพบนจอมือถือลื่นไหลต่อเนื่องและปิดด้วยกระจก Gorilla Victus ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 888 จีพียู Adreno 660 มีฟีเจอร์ 6th Gen AI Engine ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานให้ลื่นไหลกว่าเดิม มี RAM 8GB LPDDR5 กับ ROM 128GB UFS 3.1 ทำให้ติดตั้งแอพฯ และเกมได้เยอะโหลดเกมได้ไว ติดตั้งระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 พัฒนามาจาก Android 11

การเชื่อมต่อรองรับ 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC, IR Blaster ส่วนพอร์ต USB-C รองรับชาร์จเร็ว 120W Xiaomi HyperCharge พร้อมปลั๊กในกล่อง ชาร์จแบตเตอรี่ 5,000 mAh ให้เต็ม 100% ได้ใน 17 นาที ส่วนกล้องหลังมีเลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.75, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และเทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.45 เรียกว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่ฟีเจอร์เอื้อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นถ้าใครต้องการมือถือเล่นเกมที่ฟีเจอร์เอื้อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี Xiaomi รุ่นนี้ก็น่าสนใจมาก

สเปคของ Xiaomi 11T Pro
  • หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED, HDR10+, Dolby Vision มี MEMC
    • Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 480 Hz
    • กระจก Gorilla Victus เจาะรูกล้องหน้าไว้ตรงกลางขอบบนหน้าจอ
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 888 จีพียู Adreno 660 มีฟีเจอร์ 6th Gen AI Engine
  • RAM 8GB LPDDR5 กับ ROM 256GB UFS 3.1
  • ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 ที่พัฒนาจาก Android 11
  • รองรับคลื่น 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC, IR Blaster
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว Xiaomi HyperCharge 120W แบตเตอรี่จุ 5,000 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 108 ล้านพิกเซล f/1.75, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์เทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.45
  • สแกนลายนิ้วมือที่เซนเซอร์ข้างตัวเครื่อง
  • ระบบระบายความร้อน LiquidCool
  • ลำโพงรองรับ Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอที่ harman/kardon
  • ราคา : 16,690 บาท (Xiaomi Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. รองรับชาร์จไว Xiaomi HyperCharge 120W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มเร็วมาก 1. ถ้าต้องการหน่วยความจำเยอะขึ้นต้องเพิ่ม 2,000 บาท และไม่มีรุ่นแรม 12GB
2. มีระบบระบายความร้อน LiquidCool ติดตั้งมาให้  
6. Nubia Red Magic 6R (8/128GB) – 16,990 บาท

b9f47b579467029cf28ec65be859bb78

Nubia Red Magic 6R เป็นมือถือเล่นเกมรุ่นสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้ ซึ่งจุดเด่นของเครื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องสเปคแต่เป็น Shoulder Trigger หรือปุ่มที่ขอบตัวเครื่องเหมือนปุ่ม L+R ของจอยเกมที่ตอบสนองได้เร็ว 400 Hz Touch Rate และระบบระบายความร้อนกราฟีน VC Liquid Cooling ทำให้ระบายความร้อนได้ดีเล่นเกมได้หลายชั่วโมงและสแกนนิ้วบนหน้าจอได้ ซึ่งถ้าเกมเมอร์คนไหนเน้นมือถือเล่นเกม FPS สักเครื่อง ต้องถือว่า Red Magic 6R ตัวนี้น่าสนใจมากและได้ลำโพงสเตอริโออีกด้วย

สเปคเครื่องนี้เป็นหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) AMOLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 144 Hz, Touch Sampling Rate 360 Hz ทำให้ตอบสนองตอนแตะบนหน้าจอได้ลื่นไหลรวดเร็ว ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 888 จีพียู Adreno 660 มี RAM 8GB LPDDR5 ส่วน ROM 128GB UFS 3.1 ติดตั้งระบบปฏิบัติการ RedMagic OS 4.0 พัฒนาจาก Android 11

การเชื่อมต่อรองรับ 5G, Wi-Fi 6E 2×2 MIMO, Bluetooth 5.2, NFC ต่อ USB-C เป็น HDMI ได้ รองรับชาร์จไว 30W ให้แบตเตอรี่ 4,200 mAh เต็มได้ในเวลาสั้นๆ มีกล้องหลังตัวหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, มาโคร 5 ล้านพิกเซล, Depth 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 ซึ่งถ้าใครเน้นมือถือเล่นเกม FPS เลยแนะนำให้ดู RedMagic 6R ตัวนี้เลยเพราะเป็นรุ่นที่มี Shoulder Trigger ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย ทำให้เล่นเกมได้สนุกเหมือนใช้จอยเกมเล่นเกมจริงๆ

สเปคของ Nubia Red Magic 6R
  • หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080) พาเนล AMOLED, 100% DCI-P3 
    • Refresh Rate 144 Hz, Touch Sampling Rate 360 Hz
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 888 จีพียู Adreno 660 มีฟีเจอร์ 6th Gen AI Engine
  • RAM 8GB LPDDR5 กับ ROM 128GB UFS 3.1
  • ระบบปฏิบัติการ RedMagic OS 4.0 พัฒนาจาก Android 11
  • รองรับคลื่น 5G, Wi-Fi 6E 2×2 MIMO, Bluetooth 5.2, NFC, ต่อ USB-C เป็น HDMI
  • พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 30W แบตเตอรี่จุ 4,200 mAh
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
    • กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง 64 ล้านพิกเซล f/1.8, Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, มาโคร 5 ล้านพิกเซล, Depth 2 ล้านพิกเซล
    • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ระบบระบายความร้อน กราฟีน VC Liquid Cooling, Shoulder Trigger
  • ลำโพงสเตอริโอ
  • ราคา : 16,990 บาท (Red Magic Shopee Mall)
ข้อดี ข้อสังเกต
1. มี Shoulder Trigger เล่นเกม FPS สะดวกขึ้น 1. หาศูนย์บริการในไทยได้ยาก
2. เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E ได้แล้ว  

สรุปสเปคมือถือเล่นเกมทั้ง 6 รุ่น ฟาร์มเกมเพลิน เฟรมเรทลื่นๆ พุ่งๆ

สำหรับมือถือเล่นเกมทั้ง 6 รุ่นนั้นถ้าสรุปสเปคแล้วจะเป็นดังนี้

สเปคมือถือเล่นเกม หน้าจอ ชิปในเครื่อง RAM, ROM, ระบบปฏิบัติการ การเชื่อมต่อ, แบตเตอรี่ กล้อง ราคา
POCO F3 6.67″ FHD+ AMOLED MEMC

Refresh Rate 120 Hz

Touch Sampling Rate 360 Hz

Snapdragon 870

Adreno 650

8GB LPDDR5

256GB UFS 3.1

MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11

5G

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

NFC

IR Blaster

USB-C

แบตเตอรี่ 4,520 mAh ชาร์จไว 33W

กล้องหลัง 48+8+5 ล้าน

กล้องหน้า 20 ล้าน

11,999 บาท
realme GT Neo 2 6.62″ FHD+ AMOLED

Refresh Rate 120 Hz

Touch Sampling Rate 600 Hz

Snapdragon 870

Adreno 650

8GB LPDDR5

128GB UFS 3.1

realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11

5G

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

NFC

USB-C

แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 65W

กล้องหล้ง 64+8+2 ล้าน

กล้องหน้า 16 ล้าน

13,990 บาท
Samsung Galaxy S20 FE 5G 6.5″ FHD+ Super AMOLED

Refresh Rate 120 Hz

Touch Sampling Rate 240 Hz

Snapdragon 865

Adreno 650

8GB

128GB UFS 3.1

MicroSD Card 1TB

One UI 2.5 พัฒนาจาก Android 10

5G

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

ANT+

NFC

ช่องหูฟัง 3.5 มม.

USB-C

แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 25W

กล้องหลัง 12+12+8 ล้าน

กล้องหน้า 32 ล้าน

15,999 บาท
OnePlus Nord 2 5G 6.43″ FHD+ Fluid AMOLED

Refresh Rate 90 Hz

MediaTek Dimensity 1200

ARM G77 MC9

8GB LPDDR4x

128GB UFS 3.1

OxygenOS 11.3 พัฒนาจาก Android 11

5G

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

NFC

USB-C

แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จไว 65W

กล้องหลัง 50+8+2 ล้าน

กล้องหน้า 32 ล้าน

16,690 บาท
Xiaomi 11T Pro 6.67″ FHD+ AMOLED MEMC

Refresh Rate 120 Hz

Touch Sampling Rate 480 Hz

Snapdragon 888

Adreno 660

6th Gen AI Engine

8GB LPDDR5

256GB UFS 3.1

MIUI 12.5 พัฒนาจาก Android 11

5G

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

NFC

IR Blaster

USB-C

แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 120W

กล้องหลัง 108+8+5 ล้าน

กล้องหน้า 16 ล้าน

16,690 บาท
Nubia Red Magic 6R 6.67″ FHD+ AMOLED

Refresh Rate 144 Hz

Touch Sampling Rate 360 Hz

Snapdragon 888

Adreno 660

8GB LPDDR5

256GB UFS 3.1

RedMagic OS 4.0 พัฒนาจาก Android 11

5G

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

NFC

USB-C to HDMI

แบตเตอรี่ 4,200 mAh ชาร์จไว 30W

กล้องหลัง 64+8+5+2 ล้าน

กล้องหน้า 16 ล้าน

16,990 บาท

สำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้มือถือเล่นเกมดีๆ สักเครื่อง นอกจาก 6 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำกันแล้วก็จะมีอีกหลายรุ่นให้เลือกซื้อกัน ซึ่งถ้าเพิ่มเงินไปไม่เกิน 20,000 บาท ก็จะมีรุ่นเดียวกันแต่ได้ความจุมากขึ้น หรือมีรุ่นน่าสนใจกว่านี้ให้เลือกซื้อด้วย ซึ่งผู้อ่านอาจจะเอาทั้ง 6 รุ่นนี้เป็นแนวทางก่อนเลือกซื้อมือถือตัวจบของตัวเองก็ได้เช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

android

controller cover

from:https://notebookspec.com/web/629200-6-recommended-gaming-smartphone

เปรียบเทียบ Snapdragon 888, 870 และ 860 แรงพอกันหมด แล้วต่างกันตรงไหน ?

Qualcomm ได้เปิดตัว Snapdragon 888 ชิปสำหรับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในเดือนธันวาคม ปี 2563 จากนั้นได้มี Snapdragon 870 กับ 860 โผล่มาในเดือนมกราคม และมีนาคม ปี 2564 ตามลำดับ ซึ่งการตั้งชื่อด้วยลำดับเลขที่ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ นั้นสร้างความสับสนให้กับใครต่อใครอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่า ความแรงจะใกล้เคียงกัน แต่จริง ๆ แล้วคุณสมบัติยิบย่อยนั้นแตกต่างกันอยู่พอสมควร

เปรียบเทียบ Snapdragon 888, 870 และ 860

Snapdragon 888 Snapdragon 870 Snapdragon 860
ซีพียู หน่วยประมวลผล 8 แกน
Kryo 680 ความเร็ว 2.84 GHz
หน่วยประมวลผล 8 แกน
Kryo 585 ความเร็ว 3.2 GHz
หน่วยประมวลผล 8 แกน
Kryo 485 ความเร็ว 2.96 GHz
จีพียู Adreno 660 Adreno 650 Adreno 640
กระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร 7 นาโนเมตร 7 นาโนเมตร
โมเดมเซลลูลาร์ X60 (ภายใน)
ความเร็วดาวน์ลิงก์ 7.5 Gbps
ความเร็วอัปลิงก์ 3 Gbps
X55 (ภายนอก)
ความเร็วดาวน์ลิงก์ 7.5 Gbps
ความเร็วอัปลิงก์ 3 Gbps
X50 (ภายนอก)
ความเร็วดาวน์ลิงก์ 2 Gbps
ความเร็วอัปลิงก์ 316 Mbps
หน่วยประมวลผลสัญญาณดิจิทัล Hexagon 780 Hexagon 698 Hexagon 690
หน่วยประมวลผลสัญญาณภาพ Spectra 580 × 3 ตัว Spectra 480 × 2 ตัว Spectra 380 × 2 ตัว
การถ่ายภาพ กล้อง 1 ตัว – 200 MP หรือ 84 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 2 ตัว – 64 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 3 ตัว – 28 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 1 ตัว – 200 MP หรือ 64 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 2 ตัว – 25 MP พร้อม ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 1 ตัว – 192 MP หรือ 48 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้อง 2 ตัว – 22 MP พร้อม MFNR และ ZSL ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
การถ่ายวิดีโอ 8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
การแสดงผล 4K ที่ 60 Hz
Quad HD+ ที่ 144 Hz
ความลึกสี 10-bit
4K ที่ 60 Hz
Quad HD+ ที่ 144 Hz
ความลึกสี 10-bit
4K ที่ 60 Hz
Quad HD+ ที่ 144 Hz
ความลึกสี 10-bit
การชาร์จ Quick Charge 5 Quick Charge 4+ Quick Charge 4+
การเชื่อมต่อ FastConnect 6900
Wi-Fi 6E
Bluetooth 5.2
USB-C 3.1
FastConnect 6800
Wi-Fi 6
Bluetooth 5.2
USB-C 3.1
FastConnect 6200
Wi-Fi 6
Bluetooth 5
USB-C 3.1
หน่วยความจำ RAM LPDDR5
ความเร็ว 3200 MHz
สูงสุด 24 GB
RAM LPDDR5
ความเร็ว 2750 MHz
สูงสุด 16 GB
RAM LPDDR4x
ความเร็ว 2133 MHz
สูงสุด 16 GB

 

Snapdragon 888 ยังคงอยู่ในจุดที่สูงที่สุด

ซีพียูแกนหลักของ Snapdragon 888 อาจมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาต่ำกว่าคู่เปรียบเทียบเล็กน้อย แต่ฮาร์ดแวร์ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือนั้นดูดีกว่าในระดับหนึ่งเลย ไล่ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ล้ำสมัยบนขนาด 5 นาโนเมตร ซีพียูที่ทรงพลังไปอีกระดับ คุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า เป็นต้น

สิ่งที่เป็นหมัดเด็ดของ Snapdragon 888 หลัก ๆ มีด้วยกัน 2 ประการ อันดับแรก คือ โมเดม X60 ที่ฝังมาในตัว ในขณะที่ Snapdragon 870 และ 860 เป็นโมเดมแยกออกมาอีกก้อน ฝ่ายแรกจึงมีอัตราการบริโภคพลังงานที่ต่ำกว่า ยามเชื่อมต่อสัญญาณบนเครือข่าย 5G รวมถึงเป็นการประหยัดพื้นที่ไปได้อีกนิดหน่อย ซึ่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจนำเอาข้อได้เปรียบตรงนี้ไปใช้ในการออกแบบภายในได้

อันดับถัดมา คือ ชิปประมวลผลภาพ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า ISP (image signal processor) เป็นเจเนอเรชั่นที่ใหม่กว่า แถมยังยัดมาให้ถึง 3 ตัว เยอะกว่าบรรดาน้อง ๆ อีกต่างหาก การที่มีเจ้าชิปดังกล่าวนี้เยอะ ๆ ทำให้ปลดล็อกฟีเจอร์การถ่ายภาพบางและยกระดับการใช้งานบางอย่างเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับการนำไปต่อยอดของผู้ผลิตสมาร์ทโฟน

จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า ทั้ง Snapdragon 888, 870 และ 860 ต่างก็รองรับการทำงานร่วมกับกล้องจำนวนหลาย ๆ ตัว พร้อมคุณสมบัติ MFNR (multi-frame noise reduction) และ ZSL (zero shutter lag) ได้แบบเรียลไทม์ แตกต่างกันความละเอียด อันเป็นผลมาจากประสิทธิภาพและจำนวนของชิปประมวลผลภาพตามที่กล่าวไปแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้การสลับจากเลนส์หนึ่งไปอีกเลนส์หนึ่งจะทำได้อย่างลื่นไหล เพราะกล้องตัวที่เหลือที่ยังไม่ถูกใช้งานในขณะนั้นสามารถสแตนด์บายรอเอาไว้ได้ตลอดเวลา ในทางกลับกัน หากชิปประมวลผลภาพมีจำนวนจำกัด อาจเกิดอาการตะกุกตะกักระหว่างสลับเลนส์ได้ เนื่องจากต้องอาศัยปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยคาดคะเนความน่าจะเป็น ต้องมีการคำนวณพลาดเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

Snapdragon 870 และ 860 คงไว้ซึ่งความแรง ในราคาย่อมเยา

หากอธิบายแบบรวบรัด Snapdragon 870 กับ กับ 860 เป็นรุ่นปรับปรุงของ Snapdragon 865 และ 855 ตามลำดับ ที่ถูกโอเวอร์คล็อกขึ้นมาให้มีความเร็วสูงกว่าเดิม ภาพรวมของไส้ในเกือบทั้งหมดยังคงคล้าย ๆ เดิม แม้ว่า เทคโนโลยีบางอย่างอาจไม่ได้ล้ำสมัยที่สุดเหมือนอย่าง Snapdragon 888 แต่เรื่องความแรงนั้นหายห่วง

ดูเหมือนว่า กลยุทธ์การนำชิปประมวลผลรุ่นเก่ามาปรับปรุงใหม่จะเป็นแนวคิดที่ดี ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย สมาร์ทโฟนระดับกลางมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่องว่างระหว่างเรือธงแคบลง ผู้บริโภคย่อมมีทางเลือกที่หลากหลาย ผลตอบรับจนถึงตอนนี้ก็เป็นไปในทิศทางที่ดีมาก ดังที่เห็นได้จาก POCO F3 และ X3 Pro ที่พึ่งเผยโฉมไปหมาด ๆ ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมาตามมาอีกเพียบเลยครับ

 

อ้างอิง : Qualcomm (1, 2, 3)

from:https://droidsans.com/qualcomm-snapdragon-888-vs-870-vs-860/

รุ่นต่อยอดจาก Snapdragon 888 ของ Qualcomm จะมีเทคโนโลยีของ Leica ใส่เข้ามาให้ด้วย!

เรามาอัพเดทช่าวคราวชิปเซ็ต Snapdragon ของ Qualcomm กันสักหน่อย อย่างที่หลายคนรุู้กัน Snapdragon 888 เป็นชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน เป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยุคสมัยของ 5G

แต่ทว่าในตอนนี้บริษัท Qualcomm มีข่าวเกี่ยวกับชิปเซ็ตใหม่อีกหลายตัว รวมถึงที่กำลังจะเปิดตัว ทั้งกับ Snapdragon 870 รวมถึงข่าวชิปเซ็ตสำหรับเรือธงในรุ่นต่อไปที่ว่า จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีด้านกล้องจาก ” Leica ” ใส่เข้ามาอีกด้วยครับ

Snapdragon 870 เป็นชิปเซ็ตที่กำลังมาอย่างแน่นอนในไม่กี่วันต่อจากนี้ อย่างน้อยก็ข่าวลือในรุ่นตัวรองของ OPPO Find X3 ที่ทาง OPPO จะออกมาทั้งรุ่น Pro ที่รองรับ 5G ใช้ Snapdragon 888 และรุ่นตัวรองที่ใช้ Snapdragon 870 (รหัส SM8325) ยังไม่แน่ใจว่ารายละเอียดสเปคที่เหลือจะแตกต่างกันอย่างไร แต่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคมนี้ครับ

และล่าสุดกับทวิตจาก Roland Quandt เผยรหัสชิปเซ็ตใหม่ SM8350 ซึ่งคาดว่าจะเป็น Snapdragon 888 ที่แยกโมเด็ม 5G ออก เพื่อลดต้นทุนลงแต่ยังคงความแรงระดับท็อปของชิปเซ็ตเอาไว้ เป็นตัวเลือกสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เน้นการรองรับ 5G นั้นเองครับ

นอกจากนี้ Qualcomm ยังให้ข้อมูลว่า บริษัทได้เริ่มทำงานกับตัวต่อจาก Snapdragon 888 ซึ่งรู้จักกันภายในบริษัทภายใต้ชื่อว่า“ Waipio” มีหมายเลขรุ่นรหัสเป็น SM8450 คาดว่าจะเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้

Roland Quandt ให้ข้อมูลผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาว่า บริษัทกำลังทดสอบความเข้ากันได้ชองชิปเซ็ตตัวใหม่กับ RAM LPDDR5 ขนาดกว่า 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB สิ่งที่น่าสนใจคือความสามารถของกล้องในชิปเซ็ต ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนที่สำคัญจากพาร์ทเนอร์ชื่อดัง Leica

รายงานว่าชิปเซ็ตเรือธงที่กำลังจะมาถึงตัวใหม่ของ Qualcomm จะมาพร้อมโมดูลที่ชื่อว่า “ Leica1” เป็นเทคโนโลยีที่ทั้งสองบริษัทได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรและกำลังทำการทดสอบการทำงานร่วมกันอยู่ในขณะนี้

สำหรับผู้ที่อาจจะยังไม่รู้จัก Leica (ไลก้า) เขาเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ที่ผลิตกล้องและเลนส์กล้อง ผลิตเลนส์ส่องทางไกล กล้องสำหรับปืนไรเฟิล และกล้องจุลทรรศน์ รวมถึงเลนส์ตา เป็นบริษัทที่ Huawei จับมือกันพัฒนาระบบกล้องและเลนส์ที่ผลิตจาก Leica นำมาใช้บนอุปกรณ์เรือธง จนประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้รับการชื่นชมในประสิทธิภาพด้านกล้องมาอย่างต่อเนื่องนั้นเองครับ

จึงเป็นความน่าสนใจอย่างมาก ถ้าชิปเซ็ตรุ่นใหม่จะมีพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือมาช่วยสนับสนุนทางด้านการถ่ายภาพมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะเรื่องกล้องกลายเป็นเรื่องสำคัญของสมาร์ทโฟน ที่ยังมีช่องว่างให้พัฒนาต่อไปได้อีกไกลเลยทีเดียว

สำหรับชิปเรือธงรุ่นปัจจุบัน  Qualcomm Snapdragon 888 เป็นชิปที่ผลิตโดยการจับมือกับ Samsung ใช้กระบวนการผลิตระดับ 5 นาโนเมตร มีข่าวเบาๆ ออกมาให้กันอยู่บ้างเหมือนกันว่า บางทีบริษัทอาจจะเลือกใช้เทคโนโลยี 4 นาโนเมตรสำหรับการผลิตรุ่นใหม่ที่จะแทนที่เลยหรือไม่?

ถ้ามีอะไรอัพเดทเพิ่มเติม Appdisqus จะเอามาบอกเพื่อนๆ กันอย่างแน่นอนครับ

ข่าว: รุ่นต่อยอดจาก Snapdragon 888 ของ Qualcomm จะมีเทคโนโลยีของ Leica ใส่เข้ามาให้ด้วย! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2021/03/09/successor-qualcomm-snapdragon-888-cooperate-leica.html

Xiaomi อาจเปิดตัว Mi 10 รุ่นอัปเกรด มาพร้อมชิป Snapdragon 870 ราคาราว 16,200 บาท

เมื่อปีที่ผ่านมาเราได้เห็น Xiaomi เปิดตัวมือถือซีรีส์ Mi 10 ออกมามากมายหลายรุ่นจนงงไปหมดทั้งรุ่น Pro, รุ่น Lite, รุ่น T ฯลฯ ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังไม่หมดซะด้วย เพราะล่าสุดมีข้อมูลว่า Xiaomi กำลังจะเอา Mi 10 กลับมาปัดฝุ่นอัปเกรดสเปคด้วยชิป Snapdragon 870 ออกมาวางขายกันอีกรอบ

สำหรับข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก Digital Chat Station แหล่งข่าวหลุดขาประจำจากประเทศจีน ได้ออกมาบอกว่า Xiaomi กำลังจะนำเอามือถือเรือธงของปี 2020 อย่าง Mi 10 มาปัดฝุ่นอัปเกรดสเปคเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วนำมาวางขายอีกรอบ โดยสเปครวม ๆ จะยังคงใช้แบบเดิมเกือบทั้งหมดเช่น หน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz, RAM LPDDR5, ความจุ UFS 3.0 รวมไปถึงกล้องหลังสุดเทพด้วยความละเอียดสูงสุด 108MP

แต่จะอัปเกรดชิปจากเดิมที่ใช้ Snapdragon 865 มาเป็น Snapdragon 870 รุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และมี Motorola Edge S ที่ได้ใช้ชิปนี้เป็นรุ่นแรก

Mi 10

ซึ่งจริง ๆ แล้วชิปตัวนี้จะเรียกว่าเป็น Snapdragon 865++ ก็ได้นะครับ เพราะมันยังมีสเปคที่แทบจะไม่ต่างจาก Snapdragon 865+ แต่ทาง Qualcomm ได้โอเวอร์คล็อกความเร็วสัญญาณนาฬิกาให้แรงกว่าเดิม จนสามารถทำความเร็วขึ้นไปที่ระดับ 3.2 GHz

มีการคาดการณ์กันว่า Mi 10 รุ่นใหม่น่าจะใช้ชื่อว่า Mi 10 Anniversary Edition และอาจเปิดตัวพร้อมกับ Mi 11 Pro 5G ในอีกไม่นานนี้ก็ได้ โดยราคาของ Mi 10 ที่ใช้ชิป Snapdragon 870 น่าจะอยู่ที่ 3,500 หยวน หรือราว ๆ 16,200 บาท

 

ที่มา : GSMArena, Notebookcheck 

from:https://droidsans.com/xiaomi-plans-upgraded-mi-10-with-chipset-snapdragon-870/

เปรียบเทียบชิปเซ็ต Snapdragon 888 (5nm) vs Snapdragon 870 (7nm) สเปคต่างมากน้อยแค่ไหน

เปิดตัวมาแบบเงียบๆ ไม่แจ้งข่าวล่วงหน้าก่อนสำหรับ Snapdragon 870 ชิปเรือธงรุ่นเล็กตัวใหม่ล่าสุดของทาง Qualcomm ที่สเปคแทบจะคล้ายๆ กับ Snapdragon 865+ เรือธงปีที่แล้วยังไงยังงั้น อีกทั้งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งเปิดชิปตัวท็อปอย่าง Snapdragon 888 ไป วันนี้ทาง DroidSans ก็เลยมาเปรียบเทียบชิปเซ็ตสองรุ่นนี้กันแบบปอนด์ต่อปอนด์ว่าสเปคเหมือนและต่างกันมากน้อยแค่ไหน ควรซื้อมือถือที่มากับ Snapdragon 888 เลยมั้ย หรือจริงๆ แค่ Snapdragon 870 ก็เพียงพอแล้ว

ตารางเปรียบเทียบสเปคชิปเซ็ต Snapdragon 888 กับ Snapdragon 870

Snapdragon 888 Snapdragon 870
CPU  1x 2.84GHz (Cortex-X1)
3x 2.4GHz (Cortex-A78)
4x 1.8GHz (Cortex-A55)
1x 3.2GHz (Cortex-A77)
3x 2.4GHz (Cortex-A77)
4x 1.8GHz (Cortex-A55)
GPU Adreno 660 Adreno 650
DSP Hexagon 780 Hexagon 698
ขนาดสถาปัตยกรรม 5nm 7nm FinFET
กล้องถ่ายภาพ • 200MP single shot
• 84MP single with zero shutter lag
• 64MP+25MP with zero shutter lag
• Triple 24MP with zero shutter lag
• Hybrid AF
• 10-bit HEIF image capture
• HDR video
• multi-frame noise reduction
• Real-time object classification, segmentation, and replacement
• 200MP single shot
• 64MP with zero shutter lag
• 25MP dual camera with zero shutter lag
• Hybrid AF
• HDR video
• multi-frame noise reduction
• Real-time object classification, segmentation, and replacement
การถ่ายวิดีโอ 8K @ 30fps
4K UHD @ 120fps
720p @ 960fps
8K @ 30fps
4K UHD @ 120fps
720p @ 960fps
การเล่นวิดีโอ 8K
4K HDR up to 120fps
H.265 and VP9 video decoder
360 degree
8K
4K HDR up to 120fps
H.265 and VP9 video decoder
360 degree
ระบบชาร์จไว Quick Charge 5 Quick Charge 4+
Quick Charge AI
การเชื่อมต่อ X60 LTE/5G
7500 Mbps down
3000 Mbps up
X55 LTE/5G (ตัวเสริม)
7500 Mbps down
3000 Mbps up
อื่นๆ Bluetooth 5.2
Wi-Fi 6E, Wi-Fi 6 (802.11ax), Wi-Fi 5 (802.11ac), 802.11a/b/g/n
Bluetooth 5.1
Wi-Fi 6 (802.11ax), Wi-Fi 5 (802.11ac), 802.11a/b/g/n

 

จากตารางข้างต้นจะเห็นว่า Snapdragon 888 นั้นมีประสิทธิภาพความแรงที่เหนือกว่า Snapdragon 870 รุ่นน้องอยู่แบบชัดเจน ทั้งในเรื่องของ CPU ที่มากับตัวเทพ Cortex-X1 และ Cortex-A77 ขณะที่ Snapdragon 870 นั้นยังเลือกใส่ตัวเก่าอย่าง Cortex-A77 อยู่ และแม้ว่าค่าสัญญาณนาฬิกา CPU ตัว Prime Core ของ Snapdragon 870 จะอัดมาให้มากถึง 3.2 GHz แต่ถ้าเอามาต่อยกันตัวๆ จริงๆ ก็สู้ Cortex-X1 ไม่ได้อยู่ดี

ส่วนในด้านของ GPU, DSP หรือ ISP ตัว Snapdragon 888 ก็ใส่ฮาร์ดแวร์ตัวใหม่ล่าสุดมาให้เช่นเดียวกัน ต่างจาก Snapdragon 870 ที่ยืมชิ้นส่วนของ Snapdragon 865+ มาทั้งหมด จนสื่อนอกเขาแซวๆ กันว่าจริงๆ แล้ว Qualcomm น่าจะตั้งชื่อชิปตัวนี้ว่า Snapdragon 865++ มากกว่า ฮ่าๆ

แต่ถึงแม้ฮาร์ดแวร์บางส่วนจะไม่ได้ใหม่เท่า แต่ Snapdragon 870 ก็ยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่จัดเต็มไม่แพ้กัน ทั้งการถ่ายวิดีโอแบบ 8K อีกทั้งยังรองรับการใช้งาน 5G ทั้งแบบ mmWave และ Sub-6GHz อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจาก Snapdragon 888 จะได้ของเล่นที่ใหม่กว่าแล้ว ชิปตัวนี้ยังถูกผลิตบนสถาปัตยกรรมที่เล็กกว่าที่ 5 นาโนเมตรอีกด้วย แถมโมเด็ม Snapdragon X55 5G ยังอัดใส่เข้ามาไว้เป็นชิปเดียวกันอีกต่างหาก ไม่เหมือนกับ Snapdragon 870 ที่ต้องติดตั้งเสริมแยกเข้ามาอีกที ซึ่งตรงนี้แน่นอนว่าเรื่องการจัดการพลังงานการกินไฟ ตัวที่ขนาดสถาปัตยกรรมใหญ่กว่า และตัวที่ใช้โมเด็มแยก ก็ย่อมจะกินไฟเยอะกว่าอยู่แล้ว

แบบนี้ควรซื้อมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 888 หรือ Snapdragon 870 ดี?

เอาจริงๆ การเลือกซื้อมือถือแต่ละเครื่อง จะพิจารณาจากชิปเซ็ตอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ เพราะจริงๆ เราต้องดูปัจจัยทั้งภายในและนอกหลายอย่างมากๆ แต่เอาล่ะ ถ้าจะต้องการคำตอบจากคำถามแบบนี้ตรงๆ ผมก็ต้องตอบว่ายังไงซื้อ Snapdragon 888 ก็คุ้มกว่า เพราะใหม่กว่า สถาปัตยกรรมเล็กกว่า การใช้งานระยะยาว (3-4 ปี) ยังไงก็ดีกว่า Snapdragon 870 แน่นอน

แต่ถ้ามือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 870 มีราคาที่ถูกกว่า Snapdragon 888 อย่างมีนัยยะสำคัญ อันนี้ก็น่าคิดนะว่าจริงๆ แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องมีมือถืออะไรแรงๆ ขนาดนั้นไหม เพราะการใช้งานปกติทั่วไปก็แค่เล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกม ดูหนังอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อีกทั้งถ้าหากเป็นสายฮาร์ดคอร์เล่นเกมหนักหน่วงจริงๆ จากหน้าสเปค เจ้า Snapdragon 870 ก็ยังถือว่าแรงระดับเรือธงอยู่ ปัญหาเดียวของชิปตัวนี้ก็คือมันแรงไม่เท่ารุ่นพี่ของมันอย่าง Snapdragon 888 เท่านั้นเอง

เอาเป็นว่าถ้างบถึงก็จัด Snapdragon 888 ไปเลย เจ็บแต่จบ แต่ถ้างบน้อยต้องการใช้สอยอย่างประหยัด เหล่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 870 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ

……แต่ถ้าใครที่ใช้มือถือที่ใช้ชิปเรือธงของปี 2020 (หรือแม้กระทั่ง 2019) อยู่แล้ว ส่วนตัวไม่แนะนำให้เปลี่ยนนะ คือมันยังไม่ได้มีการอัปเกรดมากมายขนาดนั้น อีกทั้งชิป Snapdragon 870 ก็ไม่ได้เหนือกว่าพวกชิปเรือธงปี 2020 ด้วย

 

via: Android Authority

 

from:https://droidsans.com/qualcomm-snapdragon-888-compare-870/

Motorola Edge S เตรียมเผยโฉมวันที่ 26 ม.ค. มาพร้อม Snapdragon 870

Snapdragon 870 ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm พึ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ …ผ่านมาแป๊บเดียว Motorola ก็ชิงออกมาประกาศว่า เตรียมจะเผยโฉม Edge S สมาร์ทโฟนที่จะขับเคลื่อนด้วยชิปรุ่นดังกล่าวในวันที่ 26 มกราคมนี้ คาดมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64MP แบตเตอรี่ 5000mAh

การประกาศของ Motorola ในครั้งนี้ สัมพันธ์กับคำแถลงการณ์จาก Qualcomm ที่ระบุว่า Motorola จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนกลุ่มแรก ๆ (ร่วมกับ iQOO, OnePlus, OPPO และ Xiaomi) ที่จะนำชิป Snapdragon 870 ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และเตรียมออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้

สำหรับ Snapdragon 870 เป็นชิปเวอร์ชั่นตีบวกของ Snapdragon 865+ ภายในไม่ค่อยมีอะไรต่างจากเดิมมากนัก มาพร้อมกับซีพียู Kryo 585 และ จีพียู Adreno 650 บนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร แต่มีการโอเวอร์คล็อกเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาของซีพียูแกนหลักขึ้นเป็น 3.2 GHz เร็วที่สุดของชิปในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน

ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ Motorola Edge S ที่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่สื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่า มือถือรุ่นนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Motorola Edge+ บางส่วน โดยมาพร้อมกับจอภาพ OLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว มีอัตรารีเฟรช 105Hz ที่ตัวเลขอาจจะดูแปลก ๆ อยู่บ้าง ส่วนแบตเตอรี่นั้นมีความจุเท่ากับ 5000mAh ในขณะที่กล้องหลัง 3 ตัว มีความละเอียดสูงสุด 64MP …และไม่แน่ว่า เจ้านี่อาจเป็น Motorola Nio ที่มาภาพหลุดมาก่อนหน้านี้ก็เป็นได้

Motorola ถือเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่คึกคักมากตั้งแต่ต้นปี ก่อนหน้านี้ก็พึ่งจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนในซีรีส์ moto g ไปรวดเดียวถึง 3 รุ่น แล้วก็มี moto G30 ที่ยังไม่มีการเผยโฉม แต่ดันมีชื่อผ่านการรับรองจากสำนักงาน กสทช.มาเสียอย่างนั้น แถมคราวนี้ก็กำลังจะมี Edge S ตามมาสมทบในช่วงสิ้นเดือนอีกต่างหาก ดุเดือดจริง ๆ

 

ที่มา : Motorola (Weibo)

from:https://droidsans.com/motorola-edge-s-coming-jan-26-w-snapdragon-870/

Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 870 มาพร้อม CPU ความเร็ว 3.2 GHz

ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Snapdragon 870 หลังจากที่มีข่าวลือมาได้สักระยะหนึ่งว่า Qualcomm และ TSMC กำลังซุ่มพัฒนาชิปปริศนารุ่นหนึ่งอยู่ โดยชิปประมวลผลตัวใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับซีพียูหลักที่มีความเร็ว 3.2 GHz ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเรียบร้อย

Snapdragon 870 เป็นชิปที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร โดยถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Snapdragon 865+ อีกที ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไส้ในจะไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ ซีพียูและจีพียูยังคงเป็น Kryo 585 และ Adreno 650 เหมือนเดิม ตามลำดับ (จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ตอนแรกเจ้านี่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Snapdragon 865++) ในขณะที่การประมวลผลด้าน AI เป็นหน้าที่ของ Hexagon 698 ซึ่งสามารถคำนวณได้ 15 TOPS

 

ไฮไลต์ของ Snapdragon 870 ก็คือ ความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ถูกโอเวอร์คล็อกให้แรงกว่าเดิม จนสามารถทำความเร็วขึ้นไปที่ระดับ 3.2 GHz ทวงบัลลังก์อันดับ 1 คืนมาจาก Kirin 9000 ของ HUAWEI ที่มีความเร็ว 3.13 GHz ได้สำเร็จ

ชิปประมวลผลรุ่นนี้ยังไม่มีโมเด็ม 5G ในตัว จึงต้องอาศัยการจับคู่กับ Snapdragon X55 โดยจะรองรับทั้ง sub-6 GHz และ mmWave ทำความเร็วดาวน์ลิงก์สูงสุดได้ที่ 7.5 Gbps แต่น่าเสียดายเล็กน้อยที่ภาคการเชื่อมต่อยังใช้ FastConnect 6800 ทำให้รองรับเพียงแค่ Wi-Fi 6 เท่านั้น ส่วน Bluetooth จะรองรับที่เวอร์ชั่น 5.2

ชิปประมวลผลภาพ Spectra 480 ที่อยู่ภายใน ทำให้ Snapdragon 870 รองรับกล้องความละเอียดสูงสุดได้ถึง 200MP (หากใช้งานกล้องเดี่ยว) ถ่ายวิดีโอได้ทั้ง 4K แบบ 10-bit และซูเปอร์สโลว์โมชั่น 960 fps บนความละเอียด 720p

Motorola, iQOO, OnePlus, OPPO และ Xiaomi เป็นแบรนด์ในกลุ่มแรกที่จะมีการนำ Snapdragon 870 ไปใช้งานกับสมาร์ทโฟนของตัวเอง และดูเหมือนจะมีบางเจ้าที่พร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ภายในเดือนนี้” เพื่อน ๆ สามารถรอติดตามการอัปเดตข่าวสารกันได้เลยครับ

 

ที่มา : Qualcomm

from:https://droidsans.com/qualcomm-announces-snapdragon-870-5g/