คลังเก็บป้ายกำกับ: SATA

ระบบ Air-Gapped ก็ยังปล่อยข้อมูลรั่วได้ผ่านเสาอากาศบนสายเคเบิล SATA

นักวิจัยด้านความปลอดภัย ค้นพบวิธีใหม่ในการขโมยข้อมูลจากระบบที่ตัดขาดการเชื่อมต่อหรือ Air-Gapped โดยใช้สายเคเบิล Serial ATA (SATA) ที่มีอยู่บนคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มาใช้เป็นเสาอากาศปล่อยสัญญาณไร้สาย เพื่อส่งข้อมูลออกมาทางสัญญาณวิทยุได้

ปกติระบบแบบ Air-Gapped นั้นมักใช้ในระบบที่สำคัญมาก ที่จำเป็นต้องตัดขาดแยกออกมาทางกายภาพจากเครือข่ายที่มีความปลอดภัยน้อยกว่า เช่น ตัดขาดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งเรามักจะเห็นในด้านการทหาร หน่วยงานภาครัฐ หรือโครงการพัฒนานิวเคลียร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีใช้ในระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างเช่น น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า หรือแม้แต่สถาบันการเงินด้วย การโจมตีนี้เรียกชื่อว่า “SATAn” ถูกค้นพบโดย Mordechai Guri ที่เป็นหัวหน้าฝ่าย R&D ของแล็ปวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของมหาวิทยาลัย Ben-Gurion ในอิสราเอล

เริ่มจากการเข้าติดเชื้อในระบบ Air-Gapped ที่แม้ฟังดูยาก แต่ก็เคยมีประวัติการติดเชื้อมัลแวร์บนระบบที่แยกออกทางกายภาพนี้มาแล้วตั้งแต่ปี 2010 อย่างกรณี Stuxnet จากนั้นจึงใช้สาย SATA ที่พบว่าสามารถส่งคลื่นวิทยุในย่าน 5.9995 – 5.9996 GHz ออกมาได้

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Bleepingcomputer

from:https://www.enterpriseitpro.net/air-gapped-systems-leak-data-via-sata-cable-wifi-antennas/

ฟันธง – SSD ตามงบ เน้นถูกความจุเยอะต้องจัดแล้วอัพเดท 2020

หน่วยความจำแบบ SSD ถือเป็นหน่วยความจำหลักในผู้ใช้พีซีปัจจุบันไปซะแล้ว ด้วยราคาที่ถูกลงมาเยอะมาก และยังให้ประสิทธิภาพความเร็วการอ่านเขียนข้อมูลที่สูง เปิดเครื่องเปิดโปรแกรมไวกว่าฮาร์ดดิสค์หลายเท่า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงนิยมขนาดนี้ วันนี้ทีมงานขอฟันธงตามลำดับราคาเลยว่า งบเท่านี้ซื้อตัวไหน คุ้มค่าที่สุด

ไม่เกิน 500 บาท

งบนี้อาจจะยากหน่อย แต่ทีมงานก็หามาจนได้กับความจุระดับ 120 GB แบบ 2.5 นิ้ว SATA เหมาะกับการซื้อไปอัพเกรทพีซีโน้ตบุ๊คเครื่องเก่ายิ่งนัก

  • SSD GX1 120GB 480GB TEAM GROUP SATA 6Gb/s 2.5″ ราคา 485 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 120 GB SSD (เอสเอสดี) PIONEER APS-SL2 ราคา 479 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • HIKVISION C100 120GB ประกัน 3 ปี ราคา 495 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

500 – 1000 บาท

งบนี้ถ้าเป็นแบบ SATA 2.5 นิ้วต้องได้ความจุระดับ 240 GB ขึ้นไปแล้ว หรือถ้าเป็นแบบ PCIe ก็ต้องได้ที่ความจุ 120 GB ขึ้นไป

2.5 นิ้ว

  • SSD HIKVISION E100 256GB NAND Flash 3D ราคา 890 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • SSD Hikvision C100 240GB NAND Flash 3D 3Yearsราคา 780 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 240 GB SSD WD GREEN (WDSS240G2G0A) SATA 3D ราคา 9-0 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe

  • 128 GB SSD GIGABYTE PCIe/NVMe M.2 2280 ราคา 890 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 128 GB SSD M.2 PCIe ADATA XPG SX6000 Lite ราคา 880 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 128 GB SSD M.2 PCIe PLEXTOR M8SEGN ราคา 940 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

1000 – 1500 บาท

เน้นความจุต้องเป็น SSD แบบ 2.5 นิ้ว จะได้ความจุระดับ 480 GB ขึ้นไป เก็บข้อมูลลงเกมเหลือๆ หรือถ้าเป็น PCIe ต้องได้ 256GB แล้ว กับความเร็วระดับ 1,xxx MB/s ต้องมี

2.5 นิ้ว

  • SSD Team 480GB T-Force L5 Lite 3Years Warranty ราคา 1315 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • SSD GX1 480GB TEAM GROUP SATA 6Gb/s 2.5″ราคา 1340 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • Colorful SSD รุ่น SL500 ขนาด 480 GB (500/450 MB/s) ราคา 1480 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe

  • 256 GB SSD ADDLINK S68 PCIe/NVMe M.2 2280 ราคา 1290 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 240 GB SSD M.2 PCIe Apacer AS2280 ราคา 1120 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • Pioneer SSD APS SE20G V.2019 NVMe PCIe Gen3x4 256GB M.2 ราคา 1450 บาท  สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • HIKVISION E2000 256GB PCIe Gen 3 x 4, NVMe, ราคา 1550 บาท  สั่งซื้อได้ที่ >>Link<< (เกินงบแต่แรงระดับ 3,000 MB/s เลย)

1500 – 2000 บาท

งบนี้จะเน้นหนักไปที่ SSD แบบ PCIe ต้องได้ที่ความเร็วระดับ 1,xxx MB/s ความจุที่ระดับ 480 GB ขึ้นไป หรือความเร็วระดับ 3,xxx MB/s แต่จะได้ความจุที่ราว 256 GB ส่วน SATA 2.5 นิ้ว จะยังคงเป็นกลุ่มความจุ 480-512 GB ไม่ต่างจากราคาที่แล้วเท่าไร

PCIe

  • 480 GB SSD M.2 PCIe Apacer AS2280 NVMe ราคา 1770 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 512 GB Pioneer SSD รุ่น APS SE20 V.2019 NVMe 2000/1200 MB/s ราคา 1950 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 256 GB SSD M.2 PCIe GIGABYTE AORUS RGB ราคา 1950 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 256 GB SSD M.2 PCIe ADDLINK X70 RGB ราคา 1990 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

2000 – 2500 บาท

ยังเป็นแนวเดียวกับระดับราคาที่แล้วคือ SSD แบบ 2.5 นิ้ว ยังไม่มีรุ่น 1 TB มาให้เลือก ขณะที่ SSD แบบ M.2 PCIe จะมีตัวเลือกที่ความเร็วสูงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ความจุยังคงเป็นกลุ่ม 480GB ขึ้นไป

PCIe

  • 500GB SSD Kingston A2000 M.2 PCIe NVMe ราคา 2190 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 512GB ADATA SSD SX6000 Lite PCIe M.2 2280 ราคา 2090 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

2500 – 3000 บาท

งบนี้มีตัวเลือกเยอะขึ้นทั้ง SSD แบบ 2.5 นิ้ว ความจุ 1 TB และ SSD แบบ M.2 PCIe ที่ยังคงยืนพื้นความจุราว 500 GB เช่นเดิม ไม่ต่าง

2.5 นิ้ว

  • Goldenfir SSD 1TB SSD 2.5 ราคา 2999 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • SSD HIKVISION C100 960GB ประกัน 3 ปี ราคา 2700 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

3000 – 3500 บาท

งบนี้จะมีตัวเลือกของ SSD 2.5 นิ้ว ความจุ 1 TB ให้เลือกเยอะขึ้น รวมไปถึง PCIe ที่มีตัวแรงความจุ 500GB ให้เลือกด้วยเช่นกัน

2.5 นิ้ว

  • SSD WD GREEN SATA 1TB ราคา 3500 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe

  • 512 GB SSD M.2 PCIe Seagate Barracuda 510 ราคา 3380 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 512 GB SSD ADDLINK X70 RGB PCIe/NVMe ราคา 3190 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

3500 – 4500 บาท

ระดับราคานี้ขอแนะนำให้รู้จักกับแบรนด์ Crucial ที่ความจุ 1 TB ในราคา 3990 บาท มีให้เลือกทั้งแบบ 2.5 นิ้ว และ PCIe ตามความต้องการเลย

2.5 นิ้ว

  • Crucial 1TB MX500 2.5″ SSD ราคา 3999 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 1 TB SSD SATA TRANSCEND 230S (TCN-TS1TSSD SATA230S) ราคา 3920 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe

  • Crucial 1TB MX500 M.2 Type 2280 SSD ราคา 3999 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

4500 – 5500 บาท

ระดับราคานี้ตัวเลือกจัดเต็มที่ความจุ 1 TB ที่มีให้เลือกทั้งแบบ SSD แบบ 2.5 นิ้ว และยังได้ SSD PCIe 1 TB ที่ความเร็วสูงให้เลือกซื้ออีกด้วย

2.5 นิ้ว

  • 1 TB SSD SAMSUNG 860 QVO (MZ-76Q1T0BW) ราคา 4690 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 1 TB SSD SEAGATE BARRACUDA SSD (ZA1000CM1A002) ราคา 4690 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe

  • 1 TB SSD BIOSTAR M500 PCIe/NVMe M.2 2280 ราคา 4990 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 960 GB SSD CORSAIR MP510 PCIe/NVMe M.2 2280 ราคา 5290 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

5500 บาท ขึ้นไป

หลังจากนี้ทีมงานขอแนะนำตัวคุ้มในแต่ละแบบ แต่ละความจุในงบเกิน 5500 บาท ละกันนะครับ ราคาระดับนี้งบประมาณคงไม่ใช่ปัญหาของทุกท่านละ

PCIe 3.0

  • 2 TB SSD HP EX950 PCIe/NVMe M.2 2280 (5MS24AA-UUF) ราคา 13900 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 2 TB SSD WD BLACK SN750 PCIe/NVMe M.2 2280 (WDS200T3X0C) ราคา 15900 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

PCIe 4.0

  • 1 TB SSD SEAGATE FIRECUDA 510 SSD PCIe/NVMe M.2 2280 (ZP1000GM30011) ราคา 7090 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 1 TB SSD M.2 PCIe CORSAIR MP600 (F1000GBMP600) NVMe ราคา 8600 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 2 TB SSD SEAGATE FIRECUDA 510 SSD PCIe/NVMe M.2 2280 (ZP1000GM30011) ราคา 11500 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

2.5 นิ้ว

  • 2 TB SSD SAMSUNG 860 QVO (MZ-76Q2T0BW) ราคา 9190 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 1.92 TB SSD SEAGATE IRONWOLF 110 SSD (ZA1920NM10011) ราคา 15900 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<
  • 4 TB SSD (เอสเอสดี) SAMSUNG 860 QVO (MZ-76Q4T0BW) ราคา 18200 บาท สั่งซื้อได้ที่ >>Link<<

from:https://notebookspec.com/recommend-ssd-according-to-price-2020/507048/

NVMe 101: ทำความรู้จักเทคโนโลยีสตอเรจ แบบ Flash ยุคใหม่

สตอเรจแบบแฟลชนี้เริ่มบุกตลาดมานานกว่า 8 ปีแล้ว แต่ปัจจุบันพบการใช้งานในสัดส่วนที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยผลสำรวจจาก ActualTech Media พบว่ามีดาต้าเซ็นเตอร์เลือกใช้ระบบสตอเรจแบบไฮบริดจ์ที่ใช้ทั้งแบบดิสก์ธรรมดาและแบบแฟลชร่วมกัน เป็นสัดส่วนมากถึง 55% และมากถึงหนึ่งในสามของดาต้าเซ็นเตอร์ที่เลือกใช้สตอเรจเป็นแฟลชทั้งหมด

นั่นหมายความว่า กว่าสองในสามของดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกได้นำเทคโนโลยีแฟลชมาใช้แล้ว ด้วยราคาที่ถูกลงและคุ้มค่าขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อัตราการเติบโตต่อปีสูงขึ้นแบบไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีธุรกิจจำนวนน้อยมากที่สามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของแฟลชสตอเรจ ทั้งด้านความเร็ว และการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านสถาปัตยกรรมของตนเอง

จึงเป็นที่มาของเทคโนโลยีใหม่อย่าง Non-Volatile Memory Express (NVMe) เพื่อช่วยแก้ไขขอขวดดังกล่าว NVMe เป็นโปรโตคอลสำหรับสตอเรจและอินเทอร์เฟซควบคุมการทำงานของโฮสต์ ที่ออกแบบมาสำหรับไดรฟ์แบบ Solid State หรือแบบแฟลชโดยเฉพาะ ซึ่งอินเทอร์เฟซคอนโทรลเลอร์ที่ใช้กันมากในดาต้าเซ็นเตอร์ปัจจุบันได้แก่ SAS และ SATA

อินเทอร์เฟซคอนโทรลเลอร์นี่เองที่เป็นคอขวดของประสิทธิภาพแฟลชสตอเรจ เนื่องจากเป็นอินเทอร์เฟซแบบเก่าที่ออกแบบมาสำหรับดิสก์จานหมุนแบบเดิมอยู่ แต่ NVMe จะเข้ามาดึงความสามารถพิเศษของไดรฟ์ Solis State ออกมาได้มากขึ้น โดยใช้ตัว PCIe หรือ Peripheral Component Interconnect Express มาใช้เป็นบัสแบบซีเรียล

ด้วย NVMe นี้ ทำให้สามารถจัดการคิวการเข้าถึงข้อมูลได้ถึง 64,000 คิว โดยที่แต่ละคิวสามารถประมวลผลคำสั่งได้ถึง 64,000 คำสั่งได้พร้อมกัน ขณะที่ SAS/SATA แบบเดิมสามารถเปิดการเข้าถึงได้แค่ทีละคิว และประมวลผลได้แค่ 32 และ 256 คำสั่ง ตามลำดับ

นอกจากนี้ NVMe ยังใช้พาธร้องขอ I/O สั้นกว่ามาก ทำให้ปริมาณคำสั่งที่ส่งไปซีพียูลดลงกว่าครึ่ง ส่งผลถึงเวลาหน่วงที่ลดลงทั้งระดับของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมทั้งประหยัดการใช้พลังงานไปได้อย่างมาก

และในด้านการเลือกซื้อสตอเรจใหม่นั้น NVMe ทำให้คุณไม่ต้องกังวลในการเลือกสตอเรจที่เหมาะกับอินเทอร์เฟซ SATA หรือ SAS แบบแต่ก่อน ขอแค่เชื่อมต่อกับ PCIe ได้ ซึ่งผู้จำหน่ายเกือบทุกเจ้าได้ตกลงที่จะรองรับโปรโตคอล NVMe ใหม่นี้แล้ว

ทางสำนักวิจัย G2M คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์ที่รองรับ NVMe จะทำตลาดได้มากถึง 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 95% ทำให้ในอนาคตอันใกล้เราจะเห็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้สตอเรจเป็นแฟลชทั้งหมดอย่างแน่นอน

ที่มา : http://www.datacenterknowledge.com/archives/2017/08/03/nvme-101-care/

from:https://www.enterpriseitpro.net/archives/7585

Broadcom เปิดตัว MegaRAID Controller รุ่น 9400 รองรับ NVME, SAS, SATA เร็ว 1.7 ล้าน IOPS

Broadcom ได้ประกาศเปิดตัว NVMe/SAS/SATA Tri-Mode SERDES MegaRAID Controller ตระกูล 9400 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.7 ล้าน IOPS แล้ว โดยมีจุดเด่นต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้

Credit: Broadcom

 

  • รองรับ Interface สำหรับ NVMe (PCIe), SAS, SATA ทั้งแบบ Internal และ External สูงสุด 16 Port โดยแต่ละพอร์ตกินไฟต่ำกว่า 1.1W
  • ใช้ PCIe 3.1 รองรับ x8 PCIe
  • รองรับ Cache ได้สูงสุด 8GB ด้วย DDR4 ทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • มีระบบ CacheVault และ CVPMOS ป้องกันกรณีไฟตกหรือไฟดับ
  • รองรับ NVMe ได้สูงสุด 24 ชุด และรองรับ SSD/HDD ได้สูงสุด 1,024 ชุด
  • มี Bandwidth สำหรับ SSD/HDD 12Gbps
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows, VMware, Linux (SUSE/RHEL) และ FreeBSD

การ์ด MegaRAID 9400 นี้จะมาช่วยให้ Server สามารถเชื่อมต่อกับ Disk ทั้ง 3 แบบได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้องค์กรสามารถเลือกใช้ Disk ได้ตามต้องการโดยต้องกังวลว่า Server จะรองรับหรือไม่อีกต่อไป โดยการใช้ SERDES นี้ก็ถือเป็นอีกก้าวของ Broadcom ที่ทำให้เทคโนโลยีระบบ RAID Controller ก้าวไปอีกขั้นเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าไปดูที่เว็บของ Broadcom โดยตรงที่ https://www.broadcom.com/products/storage/raid-controllers/#tab-span1 แล้ว การรองรับ NVMe นั้นยังคงเป็นแผนในอนาคตเท่านั้น

 

ที่มา: http://www.storagereview.com/broadcom_begins_shipping_its_9400_megaraid_controllers

from:https://www.techtalkthai.com/broadcom-announces-megaraid-9400-series-raid-controller-for-nvme-sas-sata-with-1-7-million-iops/

Infortrend เปิดตัว EonStor DS 1036B รองรับ 2.5″ SSD/HDD ได้ 36 ลูกใน 2U

throughwave_logo

Infortrend ผู้ผลิต SAN Storage ชั้นนำ ได้ตอบรับต่อตลาด Storage ในระดับองค์กรที่่มีการใช้งาน Solid State Drive (SSD) และ Hard Disk Drive (HDD) แบบ SAS ขนาด 2.5 นิ้วมากขึ้น ด้วยการเปิดตัว SAN Storage รุ่นล่าสุด Infortrend EonStor DS 1036B ที่สามารถติดตั้ง 2.5″ Drive ได้มากถึง 36 ชุดในขนาดเพียง 3U เท่านั้น และมีคุณสมบัติอื่นๆ โดยรวมที่น่าสนใจดังนี้

infortrend_eonstor_ds_1036b_banner_throughwave_techtalkthai

  • เป็น Rack Mount มีขนาด 3U
  • สามารถติดตั้ง 2.5″ SAS/SATA SSH/HDD ได้มากถึง 36 ชุดแบบ Hot-swappable
  • รองรับการเพิ่มขยาย 2.5″ Drive ได้สูงสุด 348 ชุดผ่าน JBOD และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดรวมกันทั้งสิ้น 2,784TB
  • ทนทานด้วยการทำงานแบบ Dual Redundant Controller
  • รองรับ Cache ขนาด 4-32GB พร้อมเทคโนโลยี Super Capacitor/BBU และ Flash Module เพิ่มความทนทานของข้อมูลเมื่อเกิดเหตุไฟดับ
  • มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 550,000 IOPS และมี Throghput สูงสุด 5,500MBps
  • รองรับทั้ง 1/10Gbps iSCSI, 8/16Gbps Fibre Channel และ 6/12Gbps SAS โดยทำงานร่วมกันได้แบบ Hybrid
  • รองรับ RAID 0, 1, 3, 5, 6, 10, 30, 50, 60 และ Hot Spare ได้ถึง 3 รูปแบบ
  • รองรับการทำ SSD Cache และ Automated Tiering เพิ่มความเร็วการอ่านข้อมูลได้สูงสุด 16 เท่าและมี Latency ต่ำกว่าเดิมถึง 88%
  • มีเทคโนโลยี Intelligent Drive Recovery (IDR) คอยทำการตรวจสอบข้อมูลบนดิสก์ และช่วยให้การ Clone ข้อมูลหรือเปลี่ยนดิสก์ทำได้อย่างง่ายดาย
  • รองรับการทำ Thin Provisioning, SED, Snapshot, Volume Copy, Volume Mirror, Remote Replication
  • บริหารจัดการผ่าน Web, RS232, Telnet และ SSH ได้

 

Download Datasheet ได้ทันที

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มดังต่อไปนี้เพื่อโหลด Infortrend EonStor DS 1000 Datasheet ได้ทันที

 

ติดต่อ Throughwave Thailand ได้ทันที

throughwave_logo

สำหรับ Systems Integrator ที่สนใจรับราคา Reseller หรือองค์กรที่สนใจอุปกรณ์ Server และ Storage สำหรับองค์กร สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ของ Supermicro และ Infortrend บริษัททรูเวฟ ประเทศไทย จำกัด ได้ที่เบอร์ 02-210-0969 หรืออีเมลล์มาที่ info@throughwave.co.th ได้ทันที หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Throughwave Thailand ได้ทันทีที่ www.throughwave.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/infortrend-announced-eonstor-ds-1036b-san-storage/

PCI-Express SSD ทางออกของผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่เหนือชั้น

ในปัจจุบันตลาดของ SSD มีการพัฒนามากขึ้น จึงมี SSD หลายรูปแบบมาเป็นตัวเลือกนอกเหนือจาก SSD ที่ใช้บนพอร์ต SATA ทั่วไป เช่นเดียวกับผู้ใช้พีซีที่เวลานี้ มีทั้ง mSATA, M.2 และ PCI-e SSD ที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานระดับ Advance ก็มีตัวเลือกที่เป็น PCI-e SSD ในการตอบสนองการใช้งาน ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

Kingston HyperX Predator 480GB-card

PCI-e SSD เป็นอย่างไร
PCI-e SSD เป็นลักษณะของการ์ดต่อพ่วง (Expansion Card) ภายในบรรจุ NAND Flash และ Controller ควบคุมการทำงานของเมมโมรี โดยเชื่อมต่อเข้ากับสล็อต PCI-Express ที่มีอยู่บนเมนบอร์ดแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็น PCI-e x1, x4, x8 และ x16 ให้ความเร็วในการทำงานที่ต่างกันไป การเชื่อมต่อผ่านสล็อต PCI-Express นี้ จะมีความเร็วมากกว่าพอร์ต SATA อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

Kingston HyperX Predator 480GB-pcie

PCI-e SSD ให้ประสิทธิภาพดีกว่า SATA
อย่างที่ทราบกันดีว่าในการเชื่อมต่อผ่านทาง SATA port จะให้แบนด์วิทธ์ได้เพียง 6Gbps เท่านั้น สำหรับ SATA III แต่สำหรับ PCI-e ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ที่นำมาใช้กับ SSD ในปัจจุบัน จะอยู่ในรูปแบบของ PCI-e x4 ซึ่งให้แบนด์วิทธ์ได้สูงกว่า 10Gbps จึงไม่น่าแปลกใจที่ความเร็วในการทำงานของ SATA SSD เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 500MB/s ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี แต่สำหรับ PCI-e SSD นั้น สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 1000MB/s ตัวอย่างเช่น HyperX Predator M.2 PCIe G.2 x4 480GB ที่ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 1400MB/s และเขียนข้อมูลอยู่ที่ 1000MB/s จะเห็นได้ว่าตัวเลขนั้นสูงกว่าถึงเท่าตัว

PCI-e SSD เหมาะกับการใช้งานแบบใด
เดิมที PCI-e SSD เริ่มต้นกับการใช้งานในระดับ Workstation สำหรับการประมวลผลร่วมกับโปรแกรมเฉพาะทางและงานในกลุ่มของมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของงานกราฟฟิก งานตัดต่อวีดีโอและการตกแต่งภาพ แต่ในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มของเกมเมอร์และผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับเวลาในการทำงาน ด้วยความเร็วในระดับนี้ ย่อมช่วยลดเวลาในการทำงานลงไปได้ไม่น้อยทีเดียว

Kingston HyperX Predator 480GB-ssd

เลือก PCI-e SSD หรือ SATA SSD?
ก็คงต้องดูตามความเหมาะสมอย่างรอบด้าน ถ้าต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน PCI-e SSD ย่อมตอบสนองได้ดีกว่าในด้านความเร็ว เช่นเดียวกับความสะดวกในการติดตั้ง ที่ทั้ง 2 แบบ สามารถถอดเปลี่ยนหรืออัพเกรดได้ไม่ยาก ความจุก็มีให้เลือกใกล้เคียงกัน เพียงแต่ PCI-e SSD อาจมีโมเดลตัวเลือกที่น้อยกว่า เรื่องเดียวที่ใช้ในการพิจารณาคือ ราคาที่ SATA SSD มีราคาที่ถูกกว่า PCI-e SSD เมื่อเทียบกันต่อความจุ ซึ่งหากราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญและประสิทธิภาพในการทำงานต้องมาก่อน PCI-e SSD ย่อมเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเวลานี้

พบกับ Kingston ได้ที่
Facebook: http://www.facebook.com/KingstonBlogFansClub.en
YouTube: http://www.youtube.com/user/KingstonAPAC

from:http://notebookspec.com/pci-express-ssd-new-way-solution-high-perfromance/294697/