คลังเก็บป้ายกำกับ: REDESIGN

CIA เปลี่ยนโลโก้-ปรับเว็บไซต์ใหม่ นักวิจารณ์ชี้ โบราณเหมือนยุค 70s

CIA ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่พร้อม redesign เว็บไซต์ด้วย เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอื้ออึงว่า โลโก้ดังกล่าวดูย้อนยุคไปสมัย 70s ดูไม่ทันสมัย เชย

CIA ซีไอเอ

บางคนก็มองว่าที่ CIA ปรับโลโก้ใหม่ในช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีที่ทำให้คนหันมาสนใจมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเดียวกับที่ CIA ต้องการรับสมาชิกร่วมงานใหม่เพิ่มนั่นเอง หมายความว่า ยิ่งคนวิจารณ์การออกแบบมากเท่าไร คนก็ยิ่งเข้าไปสำรวจความเชยที่หลายคนพูดกัน ทำให้ได้เห็นประกาศรับสมัครงานไปด้วย ถือเป็นการโฆษณาไปในตัว

ข้อความประกาศรับสมัครคนร่วมงานเพิ่มนั้น ถูกวางไว้เป็นกรอบแรกในเว็บไซต์ CIA สะท้อนให้เห็นว่าเป็นข้อความที่หน่วยงานให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ผิดกับเว็บไซต์ FBI ที่ต้องค้นหาอย่างหนัก ถ้าอยากจะสมัครเข้าร่วมงาน เพราะเว็บไซต์ไม่ได้ประกาศชัดเจนแบบเดียวกับ CIA สิ่งนี้สะท้อนเป้าหมาย CIA ในปัจจุบันชัดเจน ว่าต้องการคนร่วมงาน เมื่อคลิกไปที่เมนูมุมขวาบนก็จะมีแต่ข้อมูลที่เผยให้เห็นว่าถ้าต้องการร่วมงานกับ CIA ต้องทำอย่างไรบ้าง

บ้างก็ว่า การรีแบรนด์ของ CIA ดังกล่าว มีโลโก้ที่คล้ายกับเว็บไซต์โฮมวิดีโอที่รวบรวมหนังคลาสสิคไว้อย่าง Criterion Collection หลายเสียงที่วิจารณ์การรีแบรนด์ของ CIA ไปในแง่ลบ ในขณะที่แง่บวกก็พอมีบ้าง เช่น ไม่ได้ใช้รูปแบบที่ให้ความรู้สึกรักชาติมากไป พยายามจะสะท้อนให้เห็นถึงการที่จะเปิดรับบุคลากรใหม่ๆ เข้าไปร่วมงาน สีดำสะท้อนให้เห็นถึงระยะห่างและความสงสัยใคร่รู้ การรวมกลุ่มและความแตกต่างหลากหลาย บ้างก็มองว่าโทนสีขาวดำที่ขัดแย้งกันระดับนี้น่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้ พื้นหลังที่เป็นคลื่นด้านหลัง logo ก็ให้ความรู้สึกอ่านยาก

นักวิจารณ์บางส่วนก็มองว่า การออกแบบของภาครัฐดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการใช้งบประมาณต่ำ และการทำงานแบบล่าช้า มีขั้นตอนมากไป เป็นต้น ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครเป็นคนออกแบบโลโก้และปรับเว็บไซต์นี้ ด้านโฆษก CIA ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อทีมออกแบบดังกล่าว

ที่มา – Fast Company

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post CIA เปลี่ยนโลโก้-ปรับเว็บไซต์ใหม่ นักวิจารณ์ชี้ โบราณเหมือนยุค 70s first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/cia-rebrand-logo-redesign-website/

ทุกเรื่องที่ต้องรู้ในงาน LINE CONFERENCE 2018 แนวคิดหลักคือ “Redesign” เรื่องใหญ่คือลุย “ฟินเทค”

LINE CONFERENCE 2018 หรืองานแถลงข่าวทางธุรกิจครั้งใหญ่ของ LINE ประจำปี 2018 จัดขึ้นที่ MAIHAMA Amphitheater ประเทศญี่ปุ่น

  • ในปีนี้มี 2 ทิศทางหลักที่ต้องจับตามอง อย่างแรกคือแนวคิดเรื่อง Redesign ทุกธุรกิจของ LINE ที่มีอยู่ในมือ ส่วนอย่างที่สองคือ ฟินเทค เรื่องใหญ่ที่ LINE เริ่มพูดถึงอย่างเป็นทางการครั้งแรก

Takeshi Idezawa ซีอีโอของ LINE ขึ้นพูดบนเวทีเป็นคนแรก โดยเริ่มต้นจากการพูดเน้นย้ำถึงแนวทางหลักของ LINE ในปัจจุบันเรื่อง “Closing the distance” คือการทำให้ช่องวางระหว่างผู้บริโภค แบรนด์ธุรกิจ และสินค้าใกล้ชิดกันมากขึ้น ส่วน LINE ก็ขอเป็นตัวกลางของการเชื่อมประสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน

ในปีนี้ LINE จึงนำเสนอแนวคิดหลักในทางธุรกิจนั่นคือ “Redesign” ที่จะเป็นการนำบริการเดิมของ LINE ทั้งหมดมา “คิดใหม่” แล้วออกแบบ (design) วิธีการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและภาคธุรกิจมากขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือแนวคิดหลักของ LINE CONFERENCE ปีนี้ไม่เน้นไปที่การส่งของใหม่ออกมาสู่ตลาด แต่เน้นไปที่การนำของเก่ามานำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ นั่นเอง

แนวคิดหลักของ LINE ปีนี้คือ Redesign ทุกธุรกิจที่มีอยู่ในมือ

1. ธุรกิจบันเทิง

ธุรกิจบันเทิงของโลกยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกวัน เพราะมีให้บริการตั้งแต่ LINE MUSIC ที่เป็นผู้นำตลาดเพลงในญี่ปุ่น ตอนนี้มี active users สูงถึง 10 ล้านคนต่อเดือน มีเพลงในระบบกว่า 46 ล้านเพลง

  • การ Redesign ธุรกิจ LINE MUSIC ในปีนี้ คือการส่งฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ทุกคนสามารถแชทคุยกับผ่าน LINE และเล่น Music Video ไปพร้อมๆ กันได้
  • LINE บอกว่า การสตรีมมิ่งเพลงในรูปแบบนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในวงการเพลง และในท้ายที่สุดแล้ว อุตสาหกรรมเพลงจะเปลี่ยนจากการขายซีดีมาสู่การสตรีมมิ่งเพลง และนี่เองคือการ Redesign ธุรกิจเพลงของ LINE

นอกจากนั้น LINE ยัง Redesign ธุรกิจบันเทิงในส่วนอื่นๆ เช่น

  • LINE TICKET คือการขาย e-Ticket ไปชมคอนเสิร์ตของศิลปินโดยตรง จัดการทุกขั้นตอนผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด ไม่ใช้กระดาษ นี่คือการ Redesign ที่เชื่อมต่อธุรกิจบันเทิงเข้าหากันตามแนวคิด Closing the distance
  • LINE LIVE ตัวนี้เพิ่มฟีเจอร์ในส่วนตอบคำถามขึ้นมาชื่อ Trivia เพื่อให้การโต้ตอบกันมากขึ้นบนแพลตฟอร์ม
  • LINE MANGA ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตสูงมาก เพราะมีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคนในระบบ แผนต่อไปไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากการเพิ่ม original content ให้มากกว่าเดิม เพื่อขยายฐานผู้อ่าน โดย LINE ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ได้เพิ่มแผนกเขียนมังงะขึ้นมาเป็นของตัวเองแล้ว

  • ที่ฮือฮาที่สุดของการ Redesign ธุรกิจบันเทิงคือ เกม เพราะ LINE บอกว่า นับจากนี้ไปการเล่นเกม ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ จากแต่ก่อนการเล่นเกมกับ LINE ต้องเข้าไปดาวน์โหลดเกมเป็นแอพพลิเคชั่นแยก

แต่นับจากนี้ ทุกคนจะสามารถเล่นเกมบน LINE ได้ โดยไม่ต้องไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแยก เพราะ LINE พร้อมส่ง LINE Quick Game อย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์นี้

(สำหรับประเทศไทย จากการสอบถามได้คำตอบว่า มีโอกาสสูงมากที่ LINE ประเทศไทยจะนำเอา LINE Quick Game เข้ามาให้บริการ เพราะปัจจุบัน LINE ในประเทศไทยก็มีเกมที่เล่นในตัวแอพพลิเคชั่นอยู่แล้ว)

2. ธุรกิจโฆษณา

การขายโฆษณาเป็นรายได้ก้อนใหญ่ของ LINE ประเทศญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของรายได้ทั้งบริษัท แต่ต้องบอกว่า LINE เดินทางผ่านจุดของการทำกำไรผ่านโฆษณาแบบเดิมๆ มาแล้ว ทางออกของ LINE จึงต้อง Redesign ธุรกิจโฆษณาเสียใหม่

การ Redesign ธุรกิจโฆษณาของ LINE จะเน้นไปที่ LINE@ มากขึ้น เพราะเหมาะกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กมากกว่า และที่สำคัญธุรกิจ SME ในญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่ 90% ของตลาด แนวทางของธุรกิจโฆษณาของ LINE ต่อจากนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขยายตลาดให้กว้างขึ้น

ส่วน LINE Official Account หรือ LINE OA ที่ใช้กับแบรนด์ใหญ่ จะใช้แผน Redesign ด้วยการไม่คิดค่าแรกเข้า และใช้วิธีการคิดโฆษณาแบบ Pay-as-you-go หรือจ่ายเท่าที่คุณต้องการให้ผู้บริโภคเห็นโฆษณาของคุณ

  • พูดง่ายๆ ก็คือ LINE ต้องการทำให้แบรนด์ไม่ต้องทำการตลาดแบบสุ่ม แต่สามารถเลือกเจาะเป้าหมายได้ และยังจ่ายเท่าที่ลูกค้าจะมองเห็นโฆษณาหรือแคมเปญนั้นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ทิศทางธุรกิจโฆษณาจะเป็นรูปแบบที่ทำเหมือนกันทั่วโลก เพราะฉะนั้น เราน่าจะได้เห็น LINE ประเทศไทยเข้าไปดึงกลุ่ม SME ให้เข้ามาใช้งาน LINE@ มากขึ้น

3. ธุรกิจคอมเมิร์ซ

LINE SHOPPING เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตสูงและมีผู้ติดตามถึง 20 ล้านคนทั่วญี่ปุ่น ส่วนแผน Redesign ของ LINE SHOPPING ในรอบนี้ คือการส่งฟีเจอร์ SHOPPING LENS เพื่อให้สามารถสแกนภาพและรู้ได้ว่าสินค้าชนิดนี้คือสินค้าอะไร จะหาซื้อได้ที่ไหน และราคาเท่าไหร่ เป็นความพยายามในการตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ที่สำคัญมีงานวิจัยที่ระบุว่า นักช้อปปิ้งตัวจริงกว่า 60% ชื่นชอบการดูภาพสินค้าที่เป็นแบบ visual และสามารถหาซื้อได้จริงบนออนไลน์

LINE TRAVEL 

ถือเป็นการเปิดตัวที่เชื่อมธุรกิจออนไลน์กับออฟไลน์ได้อย่างลงตัว เพราะ LINE วางแผนธุรกิจส่วนคอมเมิร์ซไว้ให้เป็นแบบ O2O หมายความว่า ออนไลน์และออฟไลน์ต้องเชื่อมต่อถึงกันได้เป็น ecosystem

LINE บอกว่า ก่อนที่ผู้คนจะออกไปเที่ยว มักจะทำการค้นหาสิ่งที่สนใจไว้ก่อน หลังจากนั้นเมื่อจะออกไปเที่ยว จะทำการจองห้องพักและสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนในระหว่างการท่องเที่ยวร้านอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คนจะค้นหา LINE มองเห็นศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวจึงถือโอกาสลงมาทำ

  • LINE TRAVEL จะมีฟังก์ชั่นในการค้นหาแพ็คเก็จทัวร์ จองโรงแรม และค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะค่อยทยอยเปิดบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดูได้จากภาพด้านล่าง

LINE TRAVEL เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันงานแถลงข่าวใหญ่ของ LINE ประจำปี 2018 นั่นคือวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

4. ธุรกิจสื่อ

LINE NEWS (หรือ LINE TODAY ที่เป็นชื่อเรียกในไทย)

ธุรสื่อและข้อมูลข่าวสารเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ LINE ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่างในธุรกิจที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีสื่อสำนักข่าวที่เข้ามาเป็นพันธมิตรถึง 2,057 แห่งแล้ว

ที่น่าสนใจคือ แผนการ Redesign ของ LINE NEWS จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยค่อนข้างมาก เพราะต่อจากนี้ LINE จะไม่ทำหน้าที่แค่รวบรวมข่าวแบบเดิมๆ อีกต่อไป

LINE บอกว่า การอ่านข่าวผ่าน LINE ต่อจากนี้จะไม่ใช่การอ่านข่าวในระดับ Mass หรือแบบ Diversify ที่เป็นข่าวหลากหลายประเภทอีกต่อไป

LINE เสนอว่า ทุกคนควรจะได้อ่านข่าวที่เป็น Deep Personalization หรือก็คือข่าวที่เหมาะกับเราที่สุด ทั้งในด้านของภูมิภาคของประเทศ เพศ อายุ ฯลฯ ที่มากไปกว่านั้น LINE เชื่อว่าในปรัชญาอย่างหนึ่งว่า ยิ่งคุณได้เสพข้อมูลข่าวสารที่ตรงความต้องการอย่างแท้จริง จะทำให้ชีวิตดีขึ้น

  • LINE จะใช้เทคโนโลยีมาิวเคราะห์คำ ประวัติของผู้ใช้งาน และข้อมูลที่จำเป็น เพื่อทำให้ข่าวออกมาตรงกับความต้องการของผู้อ่านมากที่สุด
  • LINE ทิ้งท้ายไว้ว่า ถึงที่สุด ยังคงต้องการนักข่าวอยู่ แต่อีกอาชีพหนึ่งที่สำคัญคือ Data Scientist ที่จะมีความสำคัญอย่างมากต่อการ Redesign ธุรกิจตัวนี้

5. เทคโนโลยี AI และการสั่งงานด้วยเสียง

LINE อัพเดทข้อมูลของ Clova ที่เป็นเทคโนโลยี AI ว่า มีความแม่นยำในการรับคำสั่งจากเสียงถึง 95% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1% ถือเป็นอัตราที่สูง นอกจากนั้นยังเรียนรู้ข้อมูลได้ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่า รวมถึงโต้ตอบได้ไวขึ้น 1.389 วินาที

  • Clova ตัวใหม่ที่จะออกสู่ตลาดรอบนี้ แน่นอนว่าเก่งขึ้น แต่มีความพิเศษที่ตัวเล็กลง และเพิ่มชื่อคำว่า mini เข้ามา

  • ส่วนที่ทำให้หลายคนในงานตื่นเต้น คือการส่ง Clova มินเนี่ยนออกมาลงสู่ตลาดเป็นครั้งแรก

  • นอกจากนั้น LINE ยังส่ง Clova Desk ที่เป็นลำโพงอัจฉริยะมีหน้าจอ ลงมาสู่ตลาดด้วย โดยจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้

  • Clova Auto ยังได้จับมือกับ TOYOTA เพื่อส่งบริการสั่งงานด้วยเสียงในรถยนต์ เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตที่กำลังจะมาถึง
  • LINE บอกว่า Clova Auto จะไปอยู่ในรถยนต์ของ TOYOTA 3 รุ่นในเบื้องต้น ได้แก่ New Crown, Collora Sport และ Prius PHV ในญี่ปุ่น

เรื่องใหญ่ของ LINE หลังจากนี้ คือการลุยฟินเทค & บล็อกเชน

ถ้าถามว่า หัวข้ออะไรใหญ่ที่สุดในงานใหญ่ของ LINE ปีนี้

  • คำตอบก็คือ ฟินเทค

ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ LINE ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงทิศทางการเคลื่อนไหวสู่โลกฟินเทค LINE บอกเลยว่า สังคมญี่ปุ่นช้าเกินไปสำหรับโลกอนาคตทางการเงิน ปัจจัยสำคัญคือข้อกำหนดกฎหมายที่ค่อนข้างเข้มงวด ในบางพื้นที่ประเทศจีนมีการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดถึง 98.3% ในขณะที่ญี่ปุ่นยังตามหลังหลายประเทศอยู่มาก ถ้าไปดูค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดในญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 18.4% เท่านั้น

LINE เสนอว่า บริษัทต้องทำการปฏิวัติการชำระเงิน (Payment Revolution) แน่นอนว่าผ่านทาง LINE Financial (LINE Pay) ที่มีอยู่แล้ว

  • โดยในญี่ปุ่น LINE จะมุ่งมั่นอย่างหนักในการส่งแคมเปญกระตุ้นให้ทั้งฝั่งธุรกิจและผู้บริโภคหันมาชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

ถ้าดูจากภาพด้านล่างจะเห็นความชัดเจนของธุรกิจ LINE ว่าต้องการใช้การสื่อสารที่เป็นธุรกิจพื้นฐานประกอบกันเข้ากับบริการคอนเทนต์ที่มีอยู่ครบมือ และธุรกิจใหม่ที่กำลังปั้น นั่นก็คือ ธุรกิจการเงิน

ต่อเนื่องจากฟินเทค อีกหนึ่งหัวข้อที่สอดรับกันคือ บล็อกเชน (Blockchain)

LINE ประกาศว่าต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำเบอร์ 1 ของโลกในเรื่องบล็อกเชนให้ได้ โดยล่าสุด ปล่อยคอนเซปต์ที่สร้างความสนใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ LINE Token Economy ซึ่งแน่นอนว่าจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นพื้นฐาน

อธิบายง่ายๆ คือ ด้วยคอนเซปต์นี้ LINE จะแจก Token ให้กับผู้ใช้งาน จากนั้นผู้ใช้งานจะนำ Token ตัวนี้ไปใช้ซื้อของหรือชำระเงินใดๆ ก็ได้ ในระบบของ LINE (ในญี่ปุ่น มีการพูดไปถึงการซื้อของจากพันธมิตรของ LINE ด้วย เช่น ร้านค้าต่างๆ ใน LINE SHOPPING) และหลังจากนั้น Token ของ LINE ก็จะขยายไปสู่ ecosystem นอกระบบของ LINE อีกด้วย

  • ต้องย้ำไว้ว่า LINE Token Economy เป็นเพียงคอนเซปต์เท่านั้น และตอนนี้กำลังพัฒนาระบบนี้อยู่

ระเบิดทิ้งท้าย: LINE ประกาศทำเทรดเงินคริปโตชื่อ BITBOX

ก่อนจะจบงาน ซีอีโอของ LINE ขึ้นมาทิ้งท้ายด้วยเซอร์ไพร์สใหญ่ นั่นคือการเตรียมส่ง บริการเทรดเงินคริปโต ในชื่อ BITBOX ลงสู่ตลาดในเดือนกรกฎาคมนี้

LINE บอกว่าตลาดเทรดเงินคริปโตในระดับโลกกำลังเริ่มต้น การลงแข่งขันในช่วงนี้คือการชิงความได้เปรียบจากพันธมิตรที่มีอยู่ทั่วโลก และที่สำคัญนี่คือแผนการ Go Global ของ LINE ที่สำคัญ เพราะ BITBOX อาจทำให้ LINE ออกไปเติบโตนอก 4 ตลาดหลักในปัจจุบัน อันได้แก่ ญี่ปุ่น, ไทย, ไต้หวัน และอินโดนีเซีย

BITBOX จะเป็นบริการเทรดเงินคริปโตที่ให้บริการทั่วโลก ยกเว้นญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่า ใน 2 ประเทศนี้มีข้อกำหนดกฎหมายที่เข้มงวดเกินไป นอกจากนั้นบริการตัวนี้จะให้บริการใน 15 ภาษา แต่ไม่มีภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย

  • เพื่อไม่ให้สับสน แม้จะไม่มีภาษาไทย แต่ในทางเทคนิคแล้ว สามารถใช้งานในประเทศไทยได้ เพราะเป็นบริการแบบ Global

สรุป LINE CONFERENCE 2018 และก้าวต่อไปของ LINE

แผนการ Redesign ทุกธุรกิจของ LINE ค่อนข้างชัดเจนว่า LINE ยังคงยึดมั่นในธุรกิจที่มีอยู่ได้แก่ บันเทิง, โฆษณา, คอมเมิร์ซ, สื่อ, เทคโนโลยี AI และการสั่งงานด้วยเสียง

ส่วนเรื่องใหม่และเรื่องใหญ่ในปีนี้คือ การประกาศว่าจะก้าวเข้าสู่โลกของฟินเทคอย่างเต็มตัว รวมไปถึงการลุยเทคโนโลยีที่มาแรงอย่างบล็อกเชน และลงเล่นในตลาดคริปโตก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง

ส่วนก้าวต่อไปของ LINE หลังจากนี้ ซีอีโอของ LINE ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไว้ว่า คือการลุยในธุรกิจใหม่ นั่นก็คือ ฟินเทค เพราะ LINE ประกาศไว้แล้วว่าจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและต้องการเป็นเบอร์ 1 ของตลาดญี่ปุ่น (รวมถึงบล็อกเชนที่ประกาศไว้ว่าต้องการเป็นเบอร์ 1 ของโลก) ถัดมาคือเรื่องคอมเมิร์ซที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกสูงมาก จากนั้นก็คือการพัฒนา AI และการสั่งงานด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะ เพราะ LINE กำลังกระโดดเข้าไปเล่นในตลาด Voice User Interfaces แบบเต็มตัว

  • ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายและงานใหญ่ของ LINE จากธุรกิจสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่นแชท มาถึงธุรกิจ Smart Portal ที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปอย่างไม่รู้จบในทุกวันนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/line-conference-2018/

Apple อัปเดตหน้า “คำสั่งซื้อ” (Orders) ในเว็บ Apple ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น

Apple Redesign Orders Page Website

เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการออกแบบใหม่ของ Apple ก็ได้มีการอัปเดตหน้า “คำสั่งซื้อ” (Orders) ในเว็บ Apple ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น (ของไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง)

Apple อัปเดตหน้า “คำสั่งซื้อ” (Orders) ในเว็บ Apple ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น

หากเราเข้าไปเช็ครายละเอียดคำสั่งซื้อที่เว็บไซต์ Apple ก็จะเจอหน้าจอที่เปลี่ยนไป สามารถดูรายการคำสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น

Apple Redesign Orders Page Website 1

ในหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อก็สามารถดูข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะแถบสถานะคำสั่งซื้อสามารถดูได้ชัดเจนมาก

Apple Redesign Orders Page Website 2 Apple Redesign Orders Page Website 3

จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงการออกแบบหน้าเว็บของ Apple ครั้งนี้รูปแบบการออกแบบจะเหมือนกับ macOS และ iOS มากขึ้นทั้งรูปแบบตัวอักษรและการเน้นแสดงภาพสินค้าให้ชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตามหน้าจอที่เปลี่ยนไปนี้เปลี่ยนเฉพาะเว็บ Apple แบบสากล (ภาษาอังกฤษ) สำหรับภาษาไทยนั้นหน้าจอยังแสดงเหมือนเดิมซึ่งต้องรออัปเดตต่อไป

ที่มา – 9to5mac

from:https://www.iphonemod.net/apple-redesign-orders-page-website.html

Microsoft เผยคลิปโปรโมทแอพ Paint โฉมใหม่ วาดภาพ 3D ง่ายๆได้ดั่งใจนึก

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีภาพ Screenshot ออกมาให้เราได้เห็นกันไปแล้วว่าทาง Microsoft กำลังจับเอาแอพ Paint มาทำการปรับปรุงแปลงโฉมใหม่ ซึ่งมาถึงตอนนี้ต้องบอกเลยครับว่าการพัฒนาแอพ Paint นั้นได้มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการพัฒนาแล้ว จากที่จะเห็นได้จากคลิปวิดีโอโปรโมทที่ทาง WalkingCat ทวีตออกมาใน Twitter ที่ซึ่งแสดงให้เห็นการใช้งานแอพ Paint แบบใหม่

โดยจะเห็นได้จากในคลิปเลยว่ามีการแสดงให้เห็นหน้าอินเทอร์เฟสใหม่ๆ นอกจากนี้เจ้า Surface Pen ยังเป็นพระเอกของคลิปนี้ด้วยการสวมบทบาทเป็นปากกาที่ใช้วาดแบบ 3D ซึ่งเท่าที่ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าแอพ Paint รูปแบบใหม่นี้ไม่ได้ใช้งานยุ่งยากเลยครับ ราวกับว่าทุกคนจะสามารถวาดภาพ 3D ออกมาได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งหากใครที่ให้ความสนใจกับการวาดภาพ 3D ก็ยังมีคลิปวิดีโออีกคลิปหนึ่งที่ปล่อยตามกันออกมาแบบติดๆ โดยคลิปนี้จะเป็นการสาธิตและสอนขั้นพื้นฐานการใช้งานแอพ Paint ในการวาดสิ่งของแบบ 3D ขึ้นมา

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการทำงานของแอพ Paint รูปแบบใหม่นี้จะค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว แต่ทว่าทาง Microsoft ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดกำหนดการเปิดตัวแต่อย่างใด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อย่างสูงครับที่แอพ Paint แบบใหม่นี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ๆที่ทางบริษัทจะเปิดตัวออกมาในงานอีเว้นท์วันที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้ครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/10/09/microsoft-prepping-a-paint-overhaul-now-with-3d-drawing.html

ทำไมโฮมเพจ The Sun มีทราฟฟิกพุ่ง 25% หลังออกแบบใหม่

The-sun-sites

The Sun เป็นแท็บลอยด์ที่ชาวอังกฤษคุ้นเคยดี ล่าสุดมีรายงานว่าโฮมเพจของสื่อดั้งเดิมอย่าง The Sun มีจำนวนการใช้งานมากขึ้นกว่า 25% หลังออกแบบใหม่ เหตุผลเพราะอะไรต้องตามไปฟังจาก Keith Poole บ.ก.ฝ่ายดิจิทัลของ The Sun

The Sun นั้นเพิ่งเผยโฉมใหม่เว็บไซต์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเดินตามนโยบายอ่านฟรี post-paywall strategy เพื่อเพิ่มปริมาณทราฟฟิก นโยบายนี้ทำให้ บ.ก. ฝ่ายดิจิทัลของ The Sun ต้องการเปิดกว้างให้ชาวออนไลน์ได้รับคอนเทนต์จากบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเมื่อดึงผู้อ่านมาสู่อ้อมแขนได้แล้ว คนเหล่านั้นก็จะเป็น loyal reader ที่ภักดีกับ The Sun

เรื่องนี้ Poole ให้ข้อมูลว่านับตั้งแต่รับมอบตำแหน่ง บ.ก. จาก The Sun เมื่อมกราคมที่ผ่านมา วันนี้เว็บไซต์ The Sun เผยแพร่เรื่องราวมากกว่า 250 เรื่องต่อวัน จากที่เคยเผยแพร่ 25 เรื่องจากทีมงาน 100 ชีวิต เหตุที่เคยเป็นเช่นนี้เพราะทีมงานต้องสงวนสกู้ปและเรื่องปกไว้ รวมถึงข่าวต่างประเทศ

ดีไซน์ใหม่ยังลดภาระทำให้เว็บไซต์โหลดตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับการจัดวางภาพที่ทำให้เพจดูน่าสนใจกว่าเดิม รวมถึงการวางเมนูเพิ่มเติมให้ผู้อ่านสามารถเปิดดูคอนเทนต์ได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้ผู้อ่านสามารถเลื่อนผ่านหน้าจอเพื่ออ่านข่าวในหมวดอื่นได้อย่างสะดวกกว่าเดิม เช่น จากหมวดกีฬาไปสู่หมวดธุรกิจ เป็นต้น

สำหรับสื่อในเครืออย่าง The Scottish Sun นั้นมีเว็บไซต์แยกต่างหาก กำหนดการเปลี่ยนโฉมเว็บไซต์คือภายในช่วงกลางเดือนนี้

The-Sun-paper-

เบื้องต้น บ.ก. The Sun อธิบายว่าสิ่งสำคัญของการเปลี่ยนโฉมเว็บไซต์ครั้งนี้คือการออกแบบให้เวลาการโหลดหัวข้อข่าวและภาพนั้นเร็วขึ้น จากเดิม 2.8 วินาทีมาเป็น 1 วินาที สำหรับเวลาการโหลดทั้งหน้าเพจนั้นลดลงจาก 15.8 วินาทีเหลือ 11 วินาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ บ.ก. The Sun ไม่ปิดบังเรื่องงานทำ SEO จากเดิมที่ทราฟฟิกกว่า 18% มาจาก SEO วันนี้สถิติเพิ่มเป็น 29% ขณะที่ 38% มาจากโซเชียล

ในภาพรวม The Sun มีผู้ชมราว 2.4 ล้านคนต่อวัน (สถิติพฤษภาคมที่ผ่านมา) ถือว่าเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่บริษัทยังมีนโยบายเก็บค่าบริการอ่านบทความ

ที่มา : Digiday

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2016/07/traffic-suns-redesign/

YouTube บน iOS เวอร์ชั่นใหม่ มาพร้อมเครื่องมือตัดต่อ พร้อมให้อัปเดตแล้ว

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบการถ่ายวิดีโอและอัปโหลดขึ้น YouTube คุณจะต้องกรี๊ดแน่ๆ กับการอัปเดตครั้งล่าสุดของ YouTube บน iOS เพราะมันมาพร้อมกับเครื่องมือที่จะทำให้คุณตัดต่อวิดีโอก่อนอัปโหลดได้ แถมยังมีหน้าตาทันสมัยขึ้นอีกด้วย

การออกแบบหน้าจอสำหรับผู้ใช้งานในเวอร์ชั่นนี้ เกิดขึ้นเพราะทีมงาน YouTube คิดว่าผู้ใช้งานจะหาคอนเทนต์ดีๆ ได้ง่ายขึ้น และคำสั่ง Favorite channels, recommended videos รวมไปถึง subscriptions ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ swipe หรือแตะที่ไอค่อนเท่านั้น ลืมเมนูที่เคยซ้อนกันเป็นแฮมเบอร์เกอร์แบบเดิมๆ ไปได้เลย

screen322x572-5

ส่วนเครื่องมือตัดต่อที่มีมาให้ (เรียกว่า in-app editing tools) ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถตัดเนื้อหาส่วนที่ไม่ต้องการ หรือเพิ่มดนตรีประกอบได้ รวมไปถึงมีชุดฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานตามความต้องการด้วย

สามารถอัปเดทได้แล้วที่ App Store

ที่มา : The Next Web

from:http://thumbsup.in.th/2015/10/youtubes-redesigned-ios-app/

จับตาดูการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของ Twitter ในปีนี้

ดูเหมือนว่าปี 2015 จะเป็นปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ Twitter เพราะมีข่าวออกมาว่าในขณะนี้มีโครงการปรับปรุงหน้าตาโฮมเพจ 

twitter-dick-costolo

ก่อนหน้านี้ Techcrunch เคยตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ผู้ดูแลโปรดักต์และวิศวกรรมของ Twitter เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่พวกเขากำลังจะสร้างขึ้น ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ก็พอจะเดาได้ว่ามันหมายถึงการแปลงโฉมรูปร่างหน้าตาของ Twitter โดยเมื่อปีที่ผ่านมา Dick Costolo เคยออกมากล่าวว่าเขาอยากให้ Twitter ถูกออกแบบหน้าตาเสียใหม่ เพื่อให้มันใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ใช้งานหน้าใหม่ ซึ่งมันอาจจะกลายเป็นภาระของผู้ใช้งานหน้าเก่า เมื่อ Twitter ตั้งใจให้ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มติดตามได้ง่ายขึ้น จนกลายเป็นเผลอฟอลโลว์ใครไปโดยไม่ตั้งใจ

อย่างไรก็ตาม การจะยกเครื่องหน้าตาให้ออกมาใหม่หมดจดคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้จากการ Facebook พยายามจะปรับนิดเปลี่ยนหน่อยอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

จากบทสัมภาษณ์ใน Techcrunch ระบุว่า Twitter ต้องการที่จะเปลี่ยนไทม์ไลน์เรียบๆ ที่มีอยู่ โดยจะเปลี่ยนให้เป็นตารางแบบ Grid view เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการแสดงรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งเป็นที่สิ่งที่ Twitter พยายามผลักดันมาตลอด

นอกจากนี้ บทสัมภาษณ์ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ของ Twitter จะไม่ใช่แค่หน้าตาโฮมเพจเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงคอนเซปต์เบื้องหลัง ที่จะมีผลต่อประสบการณ์การใช้ Twitter ในปี 2015 ด้วย

ที่มา : Business Insider

from:http://thumbsup.in.th/2015/02/twitter-could-get-major-redesign/

Foursquare เผยโฉมโลโก้ใหม่พร้อมทำหน้าที่เป็นแอปเพื่อการค้นหาสถานที่เท่านั้น

เป็นอีกครั้งที่วงการ Social Network มีการอัพเดทตัวเองยกชุด รอบนี้เป็นคราวของ Foursquare ที่ทำการเปลี่ยนโฉมของตัวเองใหม่ทั้งหมดหลังจากที่ปล่อยแอปเช็คอินอย่าง Swarm ออกมา เริ่มด้วยโลโก้ที่ออกแบบใหม่ ใช้สีน้ำเงินเข้มที่คำว่า Foursquare แล้วมีตัว F สีชมพูที่เป็นเหมือนพินปักหมุดเช็คอิน (จากที่สังเกตตอนนี้ใน Google+ Pages ก็อัพเดทโลโก้ใหม่เรียบร้อยแล้ว)  :h_magic:

foursquarelogo-down

ส่วนตัวแอปก็มีการดีไซน์ใหม่ทั้ง Navigation bar ที่ด้านล่างประกอบด้วยระบบการค้นหาสถานที่ (Find a Place),อยู่ที่นี่ (Here), Tips ของผู้ใช้(Tips) และโปรไฟล์ (Profile) สำหรับข้อมูลนั้น แอปจะเน้นการใช้ภาพขนาดใหญ่ที่แสดงถึงสถานที่แนะนำต่างๆ ส่วนช่องค้นหาก็จะอยู่ด้านบนและมีเมนูที่เลือกสถานที่โดยเฉพาะเช่น หาร้านมื้อกลางวันหรือร้านกาแฟ เป็นต้น

blog-homescreen

สำหรับการเช็คอินนั้น ทางแอป Foursquare จะเอาฟีเจอร์นี้ออกไป โดยให้ผู้ใช้ไปเช็คอินผ่านแอป Swarm ทั้งหมด เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป (ตามเวลาของไทย) ส่วนข้อมูลที่เคยเช็คอินไว้ก็จะย้ายตามไปอยู่ใน Swarm ด้วย ถ้าใครติดตั้งแอป Swarm ไว้แล้ว เวลาเลือกดูสถานที่ผ่าน Foursquare ก็จะมีปุ่ม Check In ผ่าน Swarm ขึ้นมา ในขณะที่ไม่ได้ติดตั้งแอปไว้ ก็จะไม่สามารถเช็คอินได้นั่นเอง

blog-venuepage-caption

สำหรับแอป Foursquare ตัวใหม่นี้ จะเริ่มปล่อยให้ใช้งานกันได้ในช่วงสองอาทิตย์นี้ ก็อดใจรอกันซักแปบ ถ้าติดตั้งไว้อยู่แล้วผ่านมือถือ iOS หรือ Android ก็จะมีการอัปเดทให้เลยจ้า  :h_jubjub:

ที่มาและภาพ : Foursquare Blog ผ่าน The Next Web

from:http://faceblog.in.th/2014/07/foursquare-change-logo-and-redesign-app/

IOS 7 สุดยอด OS ใหม่ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เปิดตัวแล้ว(ด้านการ Design)

 ความคิดเห็นจากผู้เขียน : ในฐานะที่เป็นคนนึงที่ใช้ทั้ง Android แล้วก็ IOS มานานหลายปีก็เห็นความเปลี่ยนแปลงมาเยอะพอสมควร ผมคิดว่า IOS 7 นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Apple เลยเพราะว่าใช้การออกแบบเดิมๆมานานถึง 7 ปีด้วยกัน แต่วันนี้ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยให้ Jonathan Ive เป็นผู้ออกแบบในครั้งนี้ โดยชูจุดเด่นที่เน้น “ความเรียบง่ายที่ไม่เรียบง่าย” ก็คือหน้าตาดูธรรมดาๆแต่ภายในแฝงไปด้วยสิ่งใหม่ๆให้เราได้ลองกัน การออกแบบนี้ได้ยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่การออกแบบ User Interface , ไอคอน และเอฟเฟคใหม่ในลักษณะที่เรียกกันว่า Flat ในครั้งนี้ยังคงยืนยันที่จะไม่ทำเหมือนAndroid ที่มี Widget หรืออะไรก็ตามที่เสริมเติมแต่งได้ สามารถอ่านได้จากข้อความข้างล่าง สุดท้ายนี้เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วของทุก OS ที่ทุกครั้งที่มีการออก OS ใหม่มาจะมีรุ่นเก่าๆที่ต้องโดนลอยแพ

รุ่นที่จะได้ไปต่อได้แก่ IPhone 4 ,4S และ 5  , ส่วนฝั่ง IPad ที่ได้ไปต่อก็ 2 , 3 , 4 , IPad Mini และสุดท้ายคือ IPod Touch 5 ที่ได้ไปต่อ

 

ผมได้สรุปใจความสำคัญจากเว็บ Apple.com ด้านดีไซน์มาหมดแล้วครับอาจจะไม่ได้แปลมาทุกตัวอักษรแต่ถ้าลองอ่านแล้วจะรู้เองว่าอ่านง่ายแค่ไหน โดยเริ่มที่ Apple ก็กล่าวเป็นข้อความนำก่อนเลย ใจความว่า

hero

เมื่อบางสิ่งถูกออกแบบเพื่อให้ทำงานได้อย่างสวยสดงดงาม และผู้ที่พบเห็นก็มองว่ามันสวยอย่างที่มันเป็นด้วย

และกล่าวต่ออีกว่า “สิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นมาไม่มีอะไรที่ถูกออกแบบมาแค่ให้มันดูสวยอย่างเดียว แต่ความตั้งใจของพวกเราต้องการให้ IOS นี้มอบประสบการณ์การที่ใช้งานได้ง่ายๆ มีประโยชน์มากขึ้นและทำให้คุณเพลิดเพลินกับมันยิ่งขึ้น ในขณะที่สร้างสิ่งที่คนรัก iOS ในท้ายที่สุดการออกแบบใหม่ทั้งด้านการทำงานและหน้าตาของมัน เพราะการออกแบบที่ดีคือการออกแบบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีอีกด้วย ซึ่งเป็นบริการของพวกเรา”

12

ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ความเรียบง่ายก็เหมือนเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ปราศจากความยุ่งเหยิงและการแต่งเติม แต่มันคือการนำเสนอสิ่งที่คุณต้องการมันในสิ่งที่ถูกต้องและในเวลาที่ถูกต้องเช่นกัน ก็เหมือนกับการสร้างบางอย่างที่เพื่อแค่“ใช้งาน” แต่ทันทีที่คุณได้มันมา คุณสามารถทำสิ่งที่คุณอยากจะทำได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลอง  “นี่แหล่ะคือความเรียบง่าย ในแบบของ IOS7 ^^”

11

IOS7 คือตัวแทนของความเรียบง่ายอย่างแท้จริง

เราได้นำโครงสร้างใหม่ๆมาปรับใช้ทั้งระบบ โดยการนำความชัดเจนมาใช้กับประสบการณ์การใช้งานที่คุณจะได้รับทั้งหมด มี Interface ที่ไม่มีอะไรก็ตามที่ดูแล้วเกะกะ เช่นแถบสถานะต่างๆ ปุ่มต่างๆที่ไม่จำเป็นถูกเอาออกไปหมด แต่สิ่งเดียวที่เรามุ่งเน้นมากคือ เนื้อหาของคุณเอง

10

คุณเองก็รู้ว่าการออกแบบที่ดีนั้นมันเป็นยังไง เมื่อคุณใช้มัน

เราให้ความคำสำคัญกับอรรถประโยชน์เหนือสิ่งอื่นใด เราไม่เลือกที่จะใส่ฟีเจอร์ที่ไม่ไม่มีประโยชน์ แต่เราเลือกที่จะใส่ฟีเจอร์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลเป็นสำคัญ

9

คุณไม่ต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี แต่เทคโนโลยีจะปรับตัวเข้าหาคุณเอง

เมื่อสินค้าของเราถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี เพราะว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อคุณแล้ว คุณสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการติดต่อสื่อสารด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ธรรมดาของเรา ด้วย IOS 7 นี้คุณจะสัมผัสกับการติดต่อสื่อสารที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์, ภาพยนตร์เคลื่อนไหว , และประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวาในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติอย่างที่คุณไม่คาดคิด

3

OS นี้ให้ความรู้สึกที่มีมิติกว่าเดิม

IOS7 ช่วยเพิ่มพลังความแข็งแกร่งแห่งเทคโนโลยีใน IPhone , IPad และ IPad touch ให้ได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่า โดยการออกแบบมีมิติโดยการเพิ่มความลึกมากขึ้นโดยการทำให้ดูโปร่งแสงพอมองทะลุได้

4

ทุกๆอย่างถูกคิดออกมาอย่างซ้ำแล้วแล้วซ้ำเล่า

ทุกรายละเอียดบน IOS7 รับประกันได้เลยว่าถูกออกแบบมาอย่างประณีตทุกระเบียบนิ้ว เช่นการออกแบบแต่ละตัวอักษรลงบนแต่ละช่องพิกเซล และ การวาดระบบตารางแบบใหม่จนถึงการเลือกใช้แต่ละสีอย่างมั่นใจ (จะเห็นได้ชัดว่าทุก Icon ออกแบบจากตารางแบบเดียวกัน)

ส่วนต่อมาจะเป็นตัวอย่างของ User Interface ที่เหลือครับ

6

5

7

สุดท้ายนี้คือคลิปตัวเต็มของ IOS 7 ครับ

ที่มา+รูปภาพ : The Verge , Apple.com

ความคิดเห็นจากผู้เขียน : ในฐานะที่เป็นคนนึงที่ใช้ทั้ง Android แล้วก็ IOS มานานหลายปีก็เห็นความเปลี่ยนแปลงมาเยอะพอสมควร ผมคิดว่า IOS 7 นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Apple เลยเพราะว่าใช้การออกแบบเดิมๆมานานถึง 7 ปีด้วยกัน แต่วันนี้ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยให้ Jonathan Ive เป็นผู้ออกแบบในครั้งนี้ โดยชูจุดเด่นที่เน้น “ความเรียบง่ายที่ไม่เรียบง่าย” ก็คือหน้าตาดูธรรมดาๆแต่ภายในแฝงไปด้วยสิ่งใหม่ๆให้เราได้ลองกัน การออกแบบนี้ได้ยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่การออกแบบ User Interface , ไอคอน และเอฟเฟคใหม่ในลักษณะที่เรียกกันว่า Flat ในครั้งนี้ยังคงยืนยันที่จะไม่ทำเหมือนAndroid ที่มี Widget หรืออะไรก็ตามที่เสริมเติมแต่งได้ สามารถอ่านได้จากข้อความข้างล่าง สุดท้ายนี้เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วของทุก OS ที่ทุกครั้งที่มีการออก OS ใหม่มาจะมีรุ่นเก่าๆที่ต้องโดนลอยแพ รุ่นที่จะได้ไปต่อได้แก่ IPhone 4 ,4S และ 5  , ส่วนฝั่ง IPad ที่ได้ไปต่อก็ 2 , 3 , 4 , […]
from:http://www.appdisqus.com/2013/06/11/apple-ios7.html