คลังเก็บป้ายกำกับ: OLYMPICS

คนญี่ปุ่น 60% อยากยกเลิกโอลิมปิก 2020 แต่ผู้จัดยืนยันจะจัดงานต่อ แม้ไม่มีผู้ชมต่างชาติก็ตาม

tokyo 2020 olympics

คนญี่ปุ่น 60% อยากยกเลิกงาน Tokyo Olympics 2020

Kyodo News เปิดเผยผลสำรวจพบว่า คนญี่ปุ่นเกือบ 60% ต้องการยกเลิกการจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 ที่มีกำหนดจัดตั้งแต่หน้าร้อนปี 2020 แต่ถูกเลื่อนออกมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีเพราะโควิด-19 

ความเห็นของคนญี่ปุ่นต่อการจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกจากการสำรวจมีดังนี้

  • 59.7% ต้องการให้ยกเลิกการจัดงาน
  • 25.2% ต้องการให้จัดงานแบบไร้คนดู
  • 12.6% ต้องการให้จัดงานแบบจำกัดจำนวนผู้เข้าชม

ผู้จัดอยากจัดงานโอลิมปิกต่อแม้มีอุปสรรค

คณะผู้จัดงานโอลิมปิกต้องการที่จะจัดงานมาโดยตลอด ไม่อยากยกเลิกงานนี้ไป เริ่มจากการเลื่อนกำหนดการจัดงานออกไป ไปจนถึงการตัดสินใจจัดงานโดยไม่เปิดรับผู้ชมจากต่างประเทศ 

ตรงข้ามกับความเห็นของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ 87.7% กังวลว่าการไหลเข้าของนักกีฬาและทีมงานจากต่างประเทศจะทำให้การแพร่ระบาดในประเทศรุนแรงขึ้น 

สถานการณ์การระบาดในญี่ปุ่นยังน่าเป็นห่วง

ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการกว่า 76,481 คน ในวันที่ 16 พฤษภาคม และสถานการณ์การแพร่ระบาดในญี่ปุ่นก็ยังแย่อยู่ ตรงข้ามกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่หลายประเทศมีสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น สหรัฐที่ตอนนี้อนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบไม่ต้องสวมหน้ากากได้แล้ว 

ญี่ปุ่นต้องเจอการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้ายแรงถึงขั้นที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบที่ 2 ใน 9 จังหวัด คือ ไซตามะ, ชิบะ, คานางาวะ, กิฟุ, เอฮิเมะ, โอกินาวะ, กุนมะ อิชิคาวะ และ คุมะโมโตะ 

ประกอบกับญี่ปุ่นแพร่กระจายวัคซีนได้ช้า โดยเพิ่งมีประชากรเพียง 3% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 126 ล้านคน

ที่มา – Japan Today, NHK, Worldometers

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post คนญี่ปุ่น 60% อยากยกเลิกโอลิมปิก 2020 แต่ผู้จัดยืนยันจะจัดงานต่อ แม้ไม่มีผู้ชมต่างชาติก็ตาม first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/japanese-dont-want-olympics/

BNP Paribas ชี้ “ถ้าหากยกเลิกโอลิมปิก 2020 เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีสิทธิ์แย่ได้มากกว่านี้”

บทวิเคราะห์จาก BNP Paribas ได้วิเคราะห์ว่าถ้าหากโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่นถูกยกเลิกขึ้นมาจะส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมหาศาลจนเปรียบได้กับช่วงวิกฤติการเงินในทวีปยุโรปในช่วงปี 2010-2011

Tokyo Olympic 2020 โอลิมปิก
ภาพจาก Shutterstock

บทวิเคราะห์เศรษฐกิจญี่ปุ่นจาก BNP Paribas ได้ชี้ว่าถ้าหากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ได้ประกาศยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดในช่วงวันที่ 24 กรกฏาคม จนถึง 9 สิงหาคม เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้นอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากกว่าคาด กรณีย่ำแย่ที่สุดนั้นอาจทำให้ระบบภาคการเงินของญี่ปุ่นพังลงมาอีกรอบได้

สาเหตุสำคัญถ้าหากมีการยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวจะทำให้ภาคส่วนต่างๆ ได้รับผลกระทบหลักๆ จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในช่วงการแข่งขัน คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ธุรกิจค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร จนไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และถ้าหากธุรกิจเหล่านี้ได้รับผล
กระทบแล้วอาจลุกลามทำให้เกิดหนี้เสียในภาคการเงิน

ในบทวิเคราะห์ของ BNP Paribas ยังชี้ว่าถ้าหากเศรษฐกิจญี่ปุ่นพังลงมาจริงๆ จะเหมือนกับเหตุการณ์ภาคการเงินของทวีปยุโรปได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงปี 2010-2011 ที่ผ่านมา และใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ อาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องเข้ามาดำเนินนโยบายทางการเงินชุดใหญ่ เช่น การใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบ  หรือการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ตราสารหนี้ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้ BNP Paribas คาดว่าจะติดลบที่ 2% ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นต้องจัดงบประมาณพิเศษมาเพื่อช่วยเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ให้รับผลจากไวรัส COVID-19 มากไปกว่านี้ และยังได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ญี่ปุ่นพยายามควบคุมไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำให้งานที่กำลังเกิดขึ้นนี้อย่างปลอดภัย

ที่มา – Channel News Asia, Forexlive, Bloomberg


Brand Inside จัดงานสัมมนา Brand Inside Forum 2020: New Workforce ว่าด้วยเรื่องวัฒนธรรมองค์กรสมัยใหม่ และการจัดการ “คน” ขององค์กรรุ่นใหม่ๆ ในวันที่ 7 เมษายน 2563 โดยมีผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์จาก SCB, AIS, dtac, กลุ่มเซ็นทรัล, SCG, Sea Group, SEAC, Gallup ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์

รายละเอียดดูได้จาก http://go.eventpop.me/Brandinsideforum2020

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/bnp-paribas-economist-view-if-ioc-cancel-tokyo-olympics-its-maybe-effect-to-jp-economic-system-and-also-financial-system-just-like-eu-2010s/

นายกฯ ญี่ปุ่น เตรียมงบไว้กระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น 26 ล้านล้านเยน ป้องกันเศรษฐกิจแย่

นายกฯ ญี่ปุ่น เตรียมงบไว้กระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น 26 ล้านล้านเยน เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับมาถดถอยอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีงบสำหรับวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe
ภาพจาก Shutterstock

ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้เตรียมงบประมาณกว่า 26 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 7.2 ล้านล้านบาท ไว้สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากที่จังหวัดต่างๆ เกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ รองรับกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก อุดรอยรั่วของเศรษฐกิจญี่ปุ่นหลังปรับขึ้นภาษีการขายจาก 8% ไปเป็น 10% รวมไปถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังจากกีฬาโอลิมปิก 2020

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้สั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จัดทำมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกมา โดยในปี 2016 ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นก็เคยมีงบประมาณไว้กระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 28 ล้านล้านเยนมาแล้ว

โดยในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเติบโตได้น้อยกว่ามาก โดยเติบโต 0.1% ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งปัญหาหลักๆ ของญี่ปุ่นคือเรื่องของการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเองก็ประสบกับเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่าง ไต้ฝุ่น ฮากิบิส ส่งผลทำให้ 36 จังหวัดของประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก

นอกจากนี้ในงบกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีงบประมาณสำหรับพัฒนาและวิจัยที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือรวมไปถึงอุปกรณ์เครือข่ายยุคต่อถัดจาก 5G รวมไปถึงงบประมาณในการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้ประเทศญี่ปุ่นก้าวประโดดได้มากกว่านี้ โดยเม็ดเงินดังกล่าวสูงถึง 270,000 ล้านเยน

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้นี้เป็นผู้ที่เสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “อาเบะโนมิกส์ (Abenomics)” โดยประกอบไปด้วย 3 มาตรการคือ การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ หรือ QE และการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น รวมไปถึงการปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังจะกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจถดถอยเต็มตัวในปี 2012

คาดว่ามาตรการต่างๆ จะเปิดเผยได้หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้

ที่มา – Al Jazeera, Japan Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/japan-pm-release-stimulus-program-worth-26-trillion-yen-on-2020/

Intel เตรียมใช้เทคโนโลยีแทร็กกิ้งแบบ 3D ในงาน Tokyo 2020 Olympic Games

ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที Intel Corp ได้กล่าวว่า พวกเขาเตรียมที่จะอวดโฉมเทคโนโลยีใหม่ๆ หลายอย่างในงานมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่างโอลิมปิก Tokyo 2020 Olympic Games ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่พวกเขาเตรียมไว้ก็คือระบบการแทร็กกิ้งแบบ 3D ที่จะนำมาใช้กับนักกีฬา เพื่อเพิ่มอรรถรในการถ่ายทอดเหตุการณ์ต่างๆ ในเกมส์การแข่งขันที่เกิดขึ้น

อินเทลบอกว่า เจ้าเทคโนโลยีในการแทร็กกิ้งอันนี้จะใช้กล้องแบบโมบายล์จำนวนมากในการจับภาพวิดีโอของมหกรรมโอลิมปิกในหลายๆ ส่วนเพื่อจะสร้างภาพวิเคราะห์ออกมาให้เห็นกันจะๆ ไปเลย และนาย Rick Echevarria ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของอินเทลในส่วนของโปรแกรม Olympic Program ยังเสริมอีกด้วยว่า Olympic ครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมของไมโครโพรเซสเซอร์ที่มีการพัฒนามาหลายไปและมันจะเป็นการเพิ่มประสบกาาณ์การถ่ายทอดกีฬาได้อย่างหลากหลายมิติมากขึ้น

อินเทลยังกล่าวต่อไปอีกว่า จะมีการใช้ระบบ VR (Virtual Reality) ในการสร้างภาพจำลองของสนามแข่งขันเพื่อช่ววยในการเทรนเจ้าหน้าที่อีกด้วย และนอกจากนั้นแล้วยังมีระบบการจับใบภหน้า การใช้ตัวแทร็กกิ้งผู้คนที่รวมไปถึงนักกีฬา, อาสาสมัคร, นักข่าว และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ทั้งในและนอกสนามแข่งกว่า 300,000 คน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้

ที่มา : Reuters

from:https://www.enterpriseitpro.net/intel-tokyo-2020-olympic-games/

ยอดขายซบ-ภาพลักษณ์ Junk Food ทำ McDonald’s ถอนตัวการสนับสนุนกีฬา Olympics

McDonald’s หยุดการสนับสนุนการแข่งขันกีฬา Olympics แล้ว หลังจากที่สนับสนุนรายการนี้มา 41 ปีต่อเนื่อง เพราะว่ายักษ์ใหญ่ธุรกิจ Fast-Food รายนี้เริ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น หลังจากยอดขายโดยรวมทั่วโลกเริ่มลดลง โดยเม็ดเงินของการสนับสนุนระดับ Top Sponsor รวมกันกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทุกๆ 4 ปี

ภาพ pixabay.com

Silvia Lagnado ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด McDonald’s ยอมรับว่า องค์กรต้องมาวางแผนกันใหม่เพื่อรักษาการเติบโตของตัวธุรกิจ ดังนั้นการใช้เงินก็เป็นเรื่องสำคัญในการบริหารงานหลังจากนี้ และ McDonald’s ตัดสินใจคุยกับ IOC (คณะกรรมการโอลิมปิกสากล) เพื่อหยุดการสนับสนุนในรูปแบบ Top Sponsor แม้จะเป็นพาร์ทเนอร์กันมานาน

สำหรับการมีส่วนร่วมกับมหกรรมกีฬา Olympics ของ McDonald’s นั้นเริ่มตั้งแต่ปี 1968 ผ่านการส่งแฮมเบอร์เกอร์ไปให้นักกีฬาที่ไปแข่งขันแล้วเกิดอาการ Homesick ส่วนการสนับสนุนจริงๆ นั้นเริ่มเมื่อปี 1976 ในการแข่งขัน Olympics ที่ Montreal ประเทศแคนาดา และครั้งสุดท้ายที่จะสนับสนุนคือ Olympics ที่ Tokyo ประเทศญี่ปุ่นปี 2020

อย่างไรก็ตามถึง IOC จะศูนย์เสีย McDonald’s ที่เป็น Top Sponsor หลักเป็นเวลานานไป แต่ล่าสุดก็ได้กลุ่ม Alibaba เข้ามาเป็น Top Sponsor และน่าจะได้เงินสะพัดไปไม่น้อยกว่ารายเดิมมากนัก ผ่านสัญญาถึงปี 2028 และยังมี Coca-Cola เป็นอีกผู้สนับสนุน แม้จะเจอแรงกดดันจากองค์กรสุขภาพต่างๆ ว่าเอาสิ่งที่ทำลายสุขภาพมาโฆษณาทางกีฬาก็ตาม ซึ่ง McDonald’s เองก็เจอแรงกดดันเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน

อ้างอิง // CNBC, USAToday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonalds-end-olympics-sponsor/

ไม่ธรรมดา ผู้ใช้เกิน 49 ล้านคนแห่ชมคอนเทนต์ Olympics บน Snapchat

IMG_3093

เรียกเสียงฮือฮามากทีเดียวสำหรับ Snapchat ที่เปิดเผยว่าในช่วง 7 วันแรกของมหกรรมกีฬา Olympics ผู้ใช้กว่า 49 ล้านคน (unique user) แห่ชมคอนเทนต์กีฬาบน Snapchat โดยสัดส่วนนี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับยอดผู้ใช้ 150 ล้านคนต่อวัน

คอนเทนต์ที่โดนใจชาว Snapchat นี้ถูกรวมไว้ในพื้นที่ชื่อ Live Stories ซึ่งเป็นแหล่งรวมคลิปวิดีโอเด็ดของสถานีโทรทัศน์ผู้ถ่ายทอดอย่าง BBC, NBC รวมถึงผู้สร้างคอนเทนต์ของตัวเองอย่าง BuzzFeed

นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟของ Discover ซึ่งได้รับความนิยมสูงจนมีโฆษณาในคลิป ทั้งหมดนี้รายงานระบุว่า ผู้สร้างคอนเทนต์และ Snapchat จะแบ่งค่าโฆษณาที่ได้ระหว่างกัน

อีกข่าวที่ถือเป็นการแสดงความรุ่งเรืองของ Snapchat คือบริการด้านการเงินของอังกฤษอย่าง Nationwide กลายเป็นแบรนด์แดนผู้ดีแรกที่ลงโฆษณากับ Snapchat ด้วย ซึ่งมองว่า Snapchat จะเป็นช่องทางในการโปรโมทบริการ FlexStudent ที่เน้นให้บริการกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก

IMG_3091

โฆษณาที่ Nationwide ลงใน Snapchat นั้นมีทั้ง Lens และ Geofilter ซึ่งช่วยแต่งแต้มบิ๊กอายให้ผู้ใช้ได้แบบเก๋ไก๋ แม้ขณะนี้ โฆษณานี้จะหมดอายุลงแล้ว แต่สัญญาณบอกว่า Snapchat เริ่มทรงอิทธิพลในฝั่งวัยรุ่นอังกฤษนั้นยังอยู่ต่อไปอีกนาน

ที่มา : econsultancy

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2016/08/olympics-snapchat/

ถ้าไม่ใช่สปอนเซอร์ แบรนด์ห้ามทวีตด้วยแฮชแทค #Rio2016 นะจ้ะ

_90561478_kyodonews

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าคณะกรรมการโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกาหรือ USOC จะลงดาบไม่ให้แบรนด์ที่ไม่ใช่สปอนเซอร์หลัก โพสต์ข้อความติดแฮชแทค #Rio2016 รวมถึงแฮชแทคอื่นที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมเกมกีฬาโลก เรียกว่าต้องการสงวนแฮชแทคเหล่านี้ไว้สำหรับแบรนด์ที่เป็นสปอนเซอร์เท่านั้น

แม้ประชาชนทั่วไปจะสามารถใช้ hashtag ในข้อความบรรยายถึงนักกีฬาคนโปรดว่า #Rio2016 ได้โดยไม่มีข้อห้าม แต่สำหรับการทวีตในนามบริษัทนั้นจะถูกฟ้องร้องแน่นอนหากมีการฝ่าฝืนสิทธิ์ที่คณะกรรมการโอลิมปิกส์มอบให้กับแบรนด์ผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เป็นเงินมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ

สิ่งที่คณะกรรมการ United States Olympic Committee ทำนั้นไม่ต่างจากผู้จัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกรายการอื่นที่เริ่มหันมาพิทักษ์สิทธิ์ของสปอนเซอร์ด้วยการกำหนดแฮชแทคต้องห้ามโดยใช้อำนาจของกฏหมายเครื่องหมายการค้า ซึ่งนอกเหนือจากสหรัฐฯ ประเทศอื่นก็กำลังเดินตามนโยบายแฮชแทคต้องห้ามนี้

การกำหนดแฮชแทคต้องห้ามนี้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับข่าวพิลึกที่เกิดขึ้นเมื่อมหกรรมโอลิมปิกส์ครั้งที่แล้วที่ลอนดอนปี 2012 ช่วงเวลาดังกล่าว คณะกรรมการโอลิมปิกส์เคยสั่งห้ามทีมงานผู้เกี่ยวข้องกับพิธีเปิดและปิด ไม่ให้ซื้อมันฝรั่งทอดจากยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ McDonalds ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของงาน แต่ข้อห้ามนี้ถูกยกเลิกไปเพราะทนกระแสวิจารณ์ไม่ไหว และคณะกรรมการต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีงามของโอลิมปิกส์ไว้

สำหรับกฏหมายที่คณะกรรมการ USOC จะปรับใช้เพื่อให้สามารถเอาผิดแบรนด์ที่ไม่ใช่สปอนเซอร์ แต่แอบแทรกตัวเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาโอลิมปิก นั้นเป็นกฏหมายที่ถูกเสนอครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยผลจากกฏหมายนี้ ทำให้คณะกรรมการมีอำนาจในการสงวนการใช้งานแฮชแทคที่จดทะเบียนแล้วหรือ registered hashtag ได้บนโลกโซเชียล

ก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามไม่ให้บทสนทนาบนโลกออนไลน์พูดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ข่าวนี้สะท้อนว่าหลายอย่างเริ่มเป็นไปได้ เช่นการห้ามใช้แฮชแทคในรายการด้านล่างนี้ ที่เริ่มประเดิมแล้วในแดนเสรีภาพอย่างเมืองลุงแซม

_90564335_6558fd19-b072-4af1-a753-043411c990f3

ที่มา : BBC

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2016/08/avoid-olympics-related-hashtag/

Samsung เปิดตัว Galaxy S7 edge Olympic Games Limited Edition ทางการแล้ว จำนวนจำกัด

s.aolcdn

เพื่อร่วมฉลองมหกรรมกีฬาโอลิมปิก Rio 2016 ซึ่งบริษัท Samsung ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด แล้วในครั้งล่าสุดนี้ ก็ได้ออกสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษมาเช่นเคยกับ Samsung Galaxy S7 edge Olympic Games Limited Edition พร้อมส่งมอบให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล จำนวน 12,500 เครื่อง แถมชุดหูฟังไร้สาย Gear IconX เพื่อส่งต่อให้กับนักกีฬาได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างสะดวก

201607079QHR6TTSU2PURVBNZJD67V5Q

Samsung Galaxy S7 edge Olympic Games Limited Edition มีการนำสีทั้ง 5 ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์โอลิมปิกมาแต่งแต้ม โดยตัวเครื่องใช้สีดำ ปุ่มเพาเวอร์ใช้สีแดง ปุ่มปรับระดับเสียงใช้สีเขียว กรอบลำโพงหูฟังกับขอบปุ่มโฮมใช้สีเหลือง และ ขอบกล้องหลังพร้อมด้วยโลโก้ 5 ห่วง ใช้สีน้ำเงิน

20160707E3H1H4YTSRTJIMZYJRXV6JTX

นอกจากจะผลิตออกมาเพื่อแจกให้กับทัพนักกีฬาและคณะกรรมการโอลิมปิกสากลแล้ว Samsung Galaxy S7 edge Olympic Games Limited Edition ยังเปิดให้แฟนๆ ได้ซื้อเก็บไว้สะสมด้วย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ เฉพาะลูกค้าในประเทศบราซิล, สหรัฐอเมริกา, จีน, เยอรมนี และ เกาหลีใต้ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 2,016 เครื่องเท่านั้น

20160707SRM3E1H2BYZTVQCDUVWL59GT

20160707NQ7NWLCQGNCYBW4D2HUIB1MY

ที่มา – Samsung

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=151131

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมใช้ระบบชำระเงินด้วยลายนิ้วมือทั่วประเทศต้อนรับโอลิมปิก 2020

ไม่แน่ว่าการไปเที่ยวในญี่ปุ่นครั้งต่อไปของคุณอาจจะไม่ต้องพกเงินเยน หรือแม้แต่เครดิตการ์ดก็อาจไม่จำเป็น เพราะในซัมเมอร์นี้ รัฐบาลกำลังทดสอบระบบการจ่ายเงินด้วยลายนิ้วมือ โดยธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือร้านอาหาร

สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องทำจะมีแค่การลงทะเบียนลายนิ้วมือที่สนามบิน ซึ่งก็แปลว่านักท่องเที่ยวจะไม่ต้องโชว์พาสปอร์ตเมื่อเข้าไปเช็กอินที่โรงแรมเหมือนที่เราต้องทำกันทุกวันนี้

94659792

รายงานข่าวระบุว่า สเต็ปแรกของการใช้งานจะอยู่ในพื้นที่จำกัดประมาณ 300 แห่ง ซึ่งจะอยู่ในอาตามิ ฮาโกเน่ คามาคุระ และยูกาวาระ อย่างไรก็ตาม จะมีการขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2020 เพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ

แน่นอนว่าความกังวลที่ตามมาก็คือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้สัญญาว่าจะระมัดระวังเรื่องนี้อย่างดีที่สุด

ถ้ากลับมาคิดในแง่ของดาต้า การที่เราต้องทิ้งลายพิมพ์นิ้วมือเอาไว้ตั้งแต่ในสนามบิน และตลอดระยะเวลาที่เราใช้ชีวิตที่นั่น มันจะเป็นการแสดงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคคนหนึ่งเลยทีเดียว นั่นทำให้รัฐบาลต้องออกมาการันตีว่า ข้อมูลเหล่านี้จะปลอดภัย ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือแฮ็กเกอร์ก็ไม่ควรมีสิทธิ์ได้เปิดดูมันตามใจชอบ

ที่มา : Engadget

from:http://thumbsup.in.th/2016/04/japan-wants-tourists-to-pay-using-only-their-fingerprints/