คลังเก็บป้ายกำกับ: HTML

Microsoft เปิดตัว VS Code Tool for the Web ทำงานบน Web Browser

Microsoft เปิดตัว VS Code Tool for the Web เครื่องมือสำหรับพัฒนา ทำงานบน Web Browser

Credit: Microsoft

VS Code Tool for the Web เป็นเวอร์ชัน VSCode แบบ Light-weight ที่สามารถทำงานบน Web Browser ได้ โดยที่นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แต่อย่างใด เพียงแค่เปิดเว็บ Web Browser ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที รองรับการพัฒนา HTML, JavaScript และ CSS พร้อมทั้งมีเครื่องมือสำหรับ Debugging โดยตัวเครื่องมือมีความสามารถในการทำ Local file viewing ได้ หรือจะอัพโหลดไฟล์โดยตรงจากเครื่องก็สามารถทำได้ โดย Microsoft เสริมว่า เครื่องมือนี้เหมาะกับผู้ใช้งานบางประเภท เช่น ผู้ที่ต้องการเปิดไฟล์เพื่อ Review จากภายในเครื่องตนเอง หรือการพัฒนาแอพพลิเคชันบน Chromebook และ iPad ที่ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมได้

ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้งานได้ที่ https://vscode.dev

ที่มา: https://www.zdnet.com/article/microsoft-makes-its-vs-code-tool-available-directly-in-the-browser/

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-releases-preview-vs-code-tool-for-the-web/

Packtpub แจกฟรี 6 E-Book ด้าน Web Development ฉบับพื้นฐาน

Packtpub ได้ออกมาประกาศแจกฟรี E-Book 6 เล่มทางด้าน Web Development ฉบับพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่สนใจนำไปศึกษากันได้ฟรีๆ ดังนี้

ผู้ที่สนใจต้องทำการสมัคร Account ในเว็บ Packtpub ก่อนโหลด E-Book ด้วยนะครับ

from:https://www.techtalkthai.com/packtpub-6-free-web-development-e-books/

Microsoft เปิดตัว AI ที่ช่วยเขียนโค้ด HTML อัตโนมัติจากภาพร่าง

Sketch2code Cover

ปกติการเขียนเว็บไซต์หนึ่งครั้ง จะมีส่วนประกอบหลักก็คือโปรแกรมเมอร์และดีไซน์เนอร์ และจะเกิดอะไรขึ้นหากสองคนนี้ไม่ถูกกัน หรือดีไซน์เนอร์เกิดอยากจะควบงานสองตำแหน่งขึ้นมา ในวันนี้ AI แสดงให้เห็นว่าหากเราไม่พัฒนาฝีมือ สักวันคงถูกแย่งงานเข้าจริง ๆ ด้วยการที่ Microsoft เปิดตัว AI ที่ช่วยเขียนโค้ด HTML อัตโนมัติจากภาพร่าง ชนิดที่ว่าหากสมบูรณ์เมื่อนไหร่งานนี้ (ลูกค้า) อาจจะไม่ต้องจ้างทั้งสองคนเลยก็ได้

Sketch2code 1

Microsoft เปิดตัว AI ที่ช่วยเขียนโค้ด HTML อัตโนมัติจากภาพร่าง

สำหรับไอเดียก็เริ่มจากการร่างภาพด้วยกระดาษ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติในกระบวนการทำงานอยู่แล้ว) จากนั้นจึงส่งต่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโค้ดลงไปตามโจทย์ที่ได้มา ยกตัวอย่างเช่นช่องกรอกข้อมูลสารพัดรูปแบบ เพื่อให้กลายเป็น HTML ในการจัดจำเว็บไซต์ต่อไป

Sketch2code 2

กระบวนการนี้ทุกอย่างจะง่ายดายขึ้น เพราะทาง Microsoft ได้พัฒนา AI ผ่านทางเครื่องมือที่มีชื่อว่า Sketch2Code ซึ่งทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรีผ่านหน้าเว็บไซต์ เพียงแค่อัปโหลดไฟล์ที่เราร่างเสร็จแล้วเข้าไป โดยเบื้องหลังการทำงาน AI ได้เรียนรู้ลายเส้นหลักล้านรูปแบบ ในการสร้างแบบฟอร์มหน้าเว็บไซต์ (และอนาคตมันจะฉลาดขึ้น)

แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องลงมือทำที่เหลือด้วยตัวเอง (อยู่ดี) แต่ถึงอย่างไรก็ช่วยประหยัดเวลาในการเขียนโค้ดลงได้หน่อยนึง แถมยังเป็นการย้ำตัวเองด้วยว่าอนาคตของ AI กำลังใกล้เข้ามา แล้วเราคงอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!

S2c Content Image A S2c Content Image B

ที่มา – ailab.microsoft.com

from:https://www.iphonemod.net/microsoft-sketch2code.html

พบวิธีล่อหลอกเหยื่อเพื่อขโมยรหัสออนไลน์แบงกิ้งแบบใหม่ ด้วยไฟล์แนบแบบ HTML

เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Cyren ค้นพบการโจมตีแบบหลอกลวงที่พุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ธนาคารออนไลน์และบริการดิจิตอลเพย์เมนต์ทั่วโลกอย่างหนัก โดยแพลตฟอร์มที่ตกเป็นเหยื่อมีทั้งธนาคารชื่อดังอย่าง Capital One, Chase, Fargo, และ Wells รวมทั้งบริการโอนเงินออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง PayPal และ Venmo

การโจมตีแบบหลอกลวงในครั้งนี้ ใช้วิธีล่อให้เหยื่อคลิกเปิดไฟล์แนบเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างคือไฟล์แนบอยู่ในรูปหน้าเพจ HTML ที่มีข้อมูล URL ลวงให้ไปยังหน้าเว็บอันตรายอีกทอดหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ใช้ Gmail เคยโดนการโจมตีแบบหลอกลวงคล้ายๆ กัน ที่ให้เปิดไฟล์แนบแบบ PDF ที่มี URL อยู่ข้างในที่ล่อให้ไปยังหน้าล็อกอินปลอมของ Gmail อีกที ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แฮ็กเกอร์รุ่นใหม่หันมาใช้หน้าเว็บ HTML เป็นไฟล์แนบกันมากขึ้น

ข้อดีของการเอา HTML เป็นไฟล์แนบคือ สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจไวรัสของผู้ให้บริการอีเมล์ส่วนใหญ่ได้ โดยเฉพาะไฟล์ที่ใส่เฮดเดอร์ URI เป็น “data:text” แทนที่จะใช้ไฟล์แนบเป็น .exe ซึ่งสมัยนี้โดนบล็อกกันหมดแล้ว

ต่อไปนี้เวลาเห็นไฟล์แนบ HTML ที่มากับอีเมล์ที่แม้ไม่มีลิงค์หรือคำขอให้ผู้ใช้คลิกลิงค์อะไรในเนื้อความอีกเมล์ก็ตาม ก็ควรตั้งสติอย่าเปิดหรือดาวน์โหลดไฟล์แนบดังกล่าวแบบไม่ระวัง

ที่มา : https://www.hackread.com/phishing-scam-against-digital-payment-banks/

from:https://www.enterpriseitpro.net/?p=5753

UnixDev รับสมัคร Front-End Web Developer เงินเดือน 40K-60K ทำงานจากบ้านสัปดาห์ละ 4 วัน ประชุม 1 วัน

บริษัท UnixDeV จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบบ Website ขนาดใหญ่และระบบเครือข่ายสำหรับองค์กร ได้ประกาศรับสมัครพนักงาน Front-End Web Developer แบบเต็มเวลา เงินเดือน 40,000-60,000 บาทตามความสามารถ โดยมีเงื่อนไขให้ทำงานจากที่บ้านได้สัปดาห์ละ 4 วันและประชุม 1 วัน พร้อมคุณสมบัติดังต่อไปนี้

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com
  • มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบ Website เป็นอย่างดี เชี่ยวชาญการใช้งาน HTML5, JS และ CSS
  • เชี่ยวชาญภาษาโปรแกรมมิ่งสำหรับพัฒนา Website ด้วย PHP, JS หรืออื่นๆ ก็ได้ แต่ขอให้รู้ลึกจริง
  • สามารถใช้ JQuery ได้เป็นอย่างดี และพร้อมจะเรียนรู้ React เพิ่มเติมในระหว่างทำงาน
  • พร้อมพัฒนา Website ในส่วนของ Front-End เพื่อเชื่อมต่อกับทีม Back-End ผ่านทาง API ได้
  • ถ้าต้องการเรียนคอร์สออนไลน์ใดๆ สามารถพูดคุยและให้บริษัทซื้อให้ได้
  • มี Server ให้ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่จำกัด
  • รับงานเสริมนอกได้ตามต้องการ

ผู้ที่สนใจสามารถส่ง CV/Resume ไปที่ info@unixdev.co.th ได้ทันที

 

เกี่ยวกับ UnixDev

unixdev-logo-web

UnixDev คือทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้าน System Engineering ที่ครอบคลุมทั้ง Linux, Unix, Microsoft Windows และ VMware แบบ Full Stack ซึ่งสามารถให้บริการในการตรวจสอบแก้ไขปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับระบบ Hypervisor, Operating System, Application, Web Application ไปจนถึง Database แบบครบวงจร https://www.unixdev.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/unixdev-is-hiring-for-front-end-web-developer-with-40k-60k-salary-and-work-from-home-4-days-per-week/

HLP Interactive Digital Agency รับสมัคร Web Developer จำนวน 2 ตำแหน่ง

HLP Interactive Digital Agency ขยายทีม!! เปิดรับสมัครคนสายแข็งมาร่วมทีม Web Developer (Front end / Back end) จำนวน 2 อัตรา โดยมีคุณสมบัติและรายละเอียดดังนี้

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

  • ถนัดภาษา PHP, Laravel, HTML, CSS (less or sass), Javascript, Ajax (หากได้ Angular, React มันจะยอดมาก)
  • มีความรู้เรื่อง MVC, OOP หรือ Functional programming (ขอเน้นๆ นะน้อง พี่ว่าสำคัญมาก)
  • คุ้นเคยกับการใช้ Git หรือ Version Control
  • พอรู้วิธีการป้องกัน SQL Injection
  • เป็นคนอารมณ์ดี รักสนุก สามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม
  • เขียน Code แล้ว Programmer ในทีมอ่านรู้เรื่อง อย่างเพลิดเพลินสบายตา
  • รักในการเขียนโปรแกรม ชอบเล่นเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ
  • รู้ว่า https ใช้ port อะไร
  • ตัด css จาก Photoshop (หากได้จะโก้เก๋มากๆ)
  • มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO ได้จะดีมาก
  • เก็บความลับได้ดีแม้ขณะมึนเมา มีความรับผิดชอบต่องานแม้ขณะอกหัก (ใจเย็นนะน้องรัก เด่วพี่พาไปเลี้ยงเบียร์)

 

ชั่วโมงการทำงาน

ทำงานวันจันทร์-ศุกร์ เวลาเข้างานเป็น Flexy Hour เลือกได้ระหว่าง 9:30 หรือ 10:30
ออฟฟิศติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ของกินหาง่าย บรรยากาศสนุกสนาน กิจกรรมสังสรรค์ไม่มีขาด

 

ผลตอบแทน

เงินเดือน – ตามประสบการณ์และความสามารถ

สนใจร่วมงานสามารถส่ง resume และ portfolio (ถ้ามี) มาได้ที่ hr@hlpth.com
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.hlpth.com/ หรือติดต่อ 02-663-7878

from:https://www.techtalkthai.com/hlp-interactive-digital-agency-is-hiring-for-2-web-developers/

เรียนเขียน Java, C++, PHP, JavaScript, Swift และภาษาอื่นๆ กันฟรีๆ กับเว็บไซต์ Sololearn.com

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาเขียนโปรแกรมใหม่ๆ วันนี้ทางทีมงาน TechTalkThai ขอแนะนำ Sololearn ซึ่งเป็นเว็บสอนการเขียนภาษา C++, Java, JavaScript, Python, PHP, C#, Swift, HTML, CSS และ SQL แบบพื้นฐานให้ได้เรียนกันฟรีๆ ครับ

sololearn

ตัวเว็บไซต์สามารถเข้าได้ที่ http://www.sololearn.com/ และสมัครเปิด Account ใหม่กันฟรีๆ เพื่อเข้าถึงบทเรียนการเขียนโปรแกรมภาษาต่างๆ โดยแต่ละคอร์สก็จะมีเนื้อหาทั้งส่วนของ Video และ Quiz ให้ทำไปเรื่อยๆ เพื่อเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภาษานั้นๆ ครับ

จุดที่น่าสนใจคือเนื้อหาแต่ละตอนนั้นตัดมาให้ค่อนข้างสั้น ใช้เวลาไม่นานในการเรียน และในคอร์สของแต่ละภาษาที่จะเรียนนี้ยังมี Mobile App เฉพาะสำหรับแต่ละคอร์สให้เราหัดเขียนโปรแกรมภาษานั้นๆ ได้บน Smartphone ทั้ง Android และ iOS เลย เรียกได้ว่าใครต้องรถติดบนถนนนานๆ นี่ก็อาจเรียนได้หลายภาษาบนถนนเลยครับ (แต่ไม่ควรเรียนขณะขับรถนะ)

เอาเป็นว่าไม่ต้องแนะนำอะไรกันมากกว่านี้ สำหรับคนที่อยากหัดภาษาใหม่ๆ เว็บนี้ก็ถือว่าโอเคดีทีเดียวครับ แต่สำหรับคนที่เขียนโปรแกรมมานานแล้ว เนื้อหาก็คงธรรมดาไปหน่อย ก็ลองดูไว้เผื่อเป็นทางเลือกอยากหัดภาษาอื่นเพิ่มก็พอครับ

from:https://www.techtalkthai.com/free-e-learning-for-java-c-php-javascript-html-css-swift-sql-on-sololearn/

อะโดบี ปรับปรุง “โมบายล์มาร์เก็ตติ้ง” และพัฒนา “โมบายล์แอพฯ” ครั้งใหญ่ [Official News]

adobe_logo

จับมือกับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นชั้นนำหลายราย สร้างกระบวนการใหม่ๆ  ในการพัฒนา และบริหารจัดการโมบายล์แอพฯ “แบบครบวงจร”

กรุงเทพฯ, 11 มีนาคม 2558 – ในงาน Adobe Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปีด้าน Digital Marketing ของอะโดบีที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทอะโดบี (Nasdaq: ADBE) ประกาศการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ด้าน “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบีที่ได้รวมเอา framework สำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ ไว้อย่างครบวงจร โดยโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีในที่นี้เป็นหนึ่งใน Core Service ของ Adobe Marketing Cloud ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโมบายล์แอพฯการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้แก่ โมบายล์แอพฯ, ระบบวิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ และการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานของโมบายล์แอพฯ ซึ่ง โมบายล์เซอร์วิสนี้ถือเป็นโซลูชันที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในวงการ และยังเป็นโซลูชันแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นการแก้ปัญหาของนักการตลาดที่เคยต้องใช้งานโซลูชันที่หลากหลายซึ่งไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่รวมเอาทั้งการพัฒนาและการบริหารจัดการโมบายล์แอพฯ เอาไว้ภายในโซลูชันเดียว ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ ทางอะโดบียังได้ประกาศรายชื่อของพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ โมบายล์แอพฯ ชั้นนำ ที่จะนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้งานร่วมกันใน framework สำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการ โมบายล์แอพฯ นี้อีกถึง 6 ราย

adobe_bg-mobile-services-overview-diagram-940x364

“ข้อมูลจาก Adobe Digital Index data ได้แสดงให้เห็นถึงการทำลายสถิติครั้งใหม่ในการใช้งานอุปกรณ์พกพา แต่ในขณะเดียวกัน การสร้างประสบการณ์การใช้งานโมบายล์แอพฯ ที่ดีก็ยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักการตลาดหลายราย” มร. แมท อะเซย์, รองประธานกรรมการด้านกลยุทธ์โมบายล์ของอะโดบี กล่าว “เหล่านักการตลาดต้องวุ่นวายกับการทำความคุ้นเคยในการใช้งาน mobile tools ต่างๆ สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะทางในแต่ละเรื่อง  แต่ด้วย “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบี เราจะทำให้งานทั้งหมดนี้กลายเป็นกระบวนการที่ง่ายมากขึ้น และทำให้นักการตลาดสามารถสร้างและใช้ประโยชน์จากแอพฯ ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย”

Framework ของ โมบายล์แอพฯในโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีนี้ จะรวบรวมเอาเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงโมบายล์แอพฯ จาก Adobe Marketing Cloud เอาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Adobe Experience Manager Apps, AdobePhoneGap Enteprise, Adobe Analytics – Mobile Apps และ Adobe Target ในขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันกับเครื่องมือสำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ จากพาร์ทเนอร์ก็จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ เป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นและครบวงจรสูงสุด ดังนี้:

  • การพัฒนาโมบายล์แอพฯ: ด้วย Adobe Experience Manager Apps และ Adobe PhoneGap Enterprise องค์กรต่างๆ จะสามารถสร้างโมบายล์แอพฯ ที่ทำงานได้บนอุปกรณ์พกพาทุกๆ แพลตฟอร์มผ่านการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาเว็บไซต์ซึ่งได้แก่ HTML, CSS และ Javascript  โดยโมบายล์แอพฯ ที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะสามารถทำงานร่วมกับ Adobe Experience Manager เพื่อให้สามารถทำการบริหารจัดการการแสดงผลเนื้อหาต่างๆ ภายในโมบายล์แอพฯ ได้ถูกต้องตรงกัน โดยไม่ต้องกังวลถึง App Stores ที่มีหลายแห่ง, ระบบปฏิบัติการต่างๆ จำนวนมาก และขนาดของอุปกรณ์ที่หลากหลายอีกต่อไป ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น Adobe Experience Manager Apps ยังช่วยให้เหล่านักการตลาดสามารถสร้างความผูกพันให้กับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ เหล่านั้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นเปิดตัวให้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว ทีมการตลาดและทีมธุรกิจจะสามารถทำการอัพเดตทั้งเนื้อหาและความสามารถในการทำงานของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดนั้น แล้วทำการอัพเดตไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งโมบายล์แอพฯ นั้นๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องอาศัยนักพัฒนาโมบายล์แอพฯ อีกต่อไป ในขณะที่นักพัฒนาโมบายล์แอพฯ เองก็ยังคงสามารถออกแบบและพัฒนาโมบายล์แอพฯ ให้มีความสวยงามเพิ่มขึ้นได้ผ่านการเรียกใช้งาน Ionic ซึ่งเป็น framework สำหรับการพัฒนา HTML5 นั่นเอง
  • การสร้างฐานผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Acquisition): การเป็นพันธมิตรกันระหว่างอะโดบี กับ Fiksu ที่ช่วยเสริมความสามารถให้กับ Adobe Analytics นั้น ทำให้องค์กรต่างๆ มีหนทางในการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้กับโมบายล์แอพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยระบบจะทำการสร้างและติดตาม brand awareness ผ่านทางสื่อโฆษณา, การค้นหาโมบายล์แอพฯ, การติดตั้งโมบายล์แอพฯ และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งความสามารถในการทำ A/B testing บน Adobe Target ก็จะช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นโดยสามารถทำการจำแนกกลุ่มของผู้ใช้งานตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์พกพา เช่น ประเภทของอุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการ และด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันกับโซลูชันของ Kochava ก็จะทำให้แบรนด์ต่างๆ ได้รับรู้ว่าการโฆษณาทางสื่อใดสามารถสร้าง Conversion ได้บ้าง และการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาที่ลงทุนไปมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
  • ระบบวิเคราะห์การใช้งานโมบายล์แอพฯ (App Analytics): ด้วย Adobe Analytics-Mobile Apps นักการตลาดทั้งหลายจะได้รับรู้พฤติกรรมการใช้งานโมบายล์แอพฯ จริงๆ ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการเข้าใช้งานโมบายล์แอพฯ ของผู้ใช้งาน, ผู้ใช้งานเข้าใช้งานหน้าจอใดในโมบายล์แอพฯ บ้าง, ผู้ใช้งานคลิกที่ URL ใดจนนำมาสู่การดาวน์โหลด และใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้สำเร็จ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยถ้าหากทำการพัฒนาโมบายล์แอพฯ โดยการฝัง Mobile SDK ของอะโดบีเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานได้ทันที และสามารถส่ง in-app message ไปยังผู้ใช้งานได้โดยตรง  ทั้งนี้ด้วยการทำงานร่วมกันกับโซลูชันในการบริหารจัดการประสิทธิภาพของแอพฯ จาก Crittercism องค์กรต่างๆ ก็จะได้รับข้อมูลที่มีละเอียดเพิ่มเติมไปจากรายงานการเกิด crash แบบทั่วๆ ไป และทำให้เข้าใจความผิดพลาดและการกระทำที่เกิดขึ้นได้ในเชิงลึก  นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างอะโดบี กับระบบ App Store Analytics จาก appFigure ก็ยังช่วยให้แบรนด์สามารถรวบรวมและแสดงผลข้อมูลของเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น ยอดขายและยอดดาวน์โหลดของโมบายล์แอพฯ, ลำดับที่ของโมบายล์แอพฯ ใน app store และอื่นๆ อีกมากมาย
  • การสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Engagement): การสนับสนุนการใช้งาน GPS และ iBeacons แบบ native ภายใน Adobe Analytics นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้รับเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์อย่างแม่นยำทันทีที่แบรนด์เข้าถึงผู้ใช้งาน โดยการเป็นพันธมิตรกับ Vibes ได้ช่วยเพิ่มเครื่องมือต่างๆ สำหรับการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งาน และส่งมอบประสบการณ์ในการใช้งานหรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสภาพแวดล้อมรอบด้านไปยังผู้ใช้งาน  รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างความสามารถในการจัดการ Mobile Wallet ของ Vibes กับ Adobe Campaign ก็ทำให้แบรนด์สามารถสร้าง “บัตรผ่าน” พิเศษที่สามารถจัดเก็บและใช้งานได้จาก Apple Passbooks และ Google Wallet สำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายได้ ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างบัตรผ่านแบบติจิตอลสำหรับดึงดูดผู้ใช้งาน โมบายล์แอพฯ แทนคูปองกระดาษ, ใบราคาเสนอขาย และบัตรผ่านแบบเดิมๆ ได้ทันที

 

เกี่ยวกับ Adobe Marketing Cloud

Adobe Marketing Cloud ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อเข้าถึงและดึงดูดลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ด้านการตลาดที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายผ่านอุปกรณ์และช่องทางดิจิตอลที่หลากหลาย  โซลูชั่นที่ผนวกรวมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน 8 โซลูชั่นช่วยให้นักการตลาดมีชุดเทคโนโลยีการตลาดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การจัดการประสบการณ์ผ่านเว็บและแอพ การทดสอบ และการเจาะกลุ่มเป้าหมาย การโฆษณา Social Engagement และการผสมผสานแคมเปญต่างๆ การเชื่อมโยงกับ Adobe Creative Cloud ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน Creative Assets ผ่านทุกช่องทางด้านการตลาด  หลายพันแบรนด์ทั่วโลกรวมถึงสองในสามของบริษัทระดับชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 50 ใช้ Adobe Marketing Cloud ในการทำธุรกรรมผ่านโมบายล์กว่า 2.5 ล้านล้านรายการต่อปี

 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

 

เกี่ยวกับ บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ อินคอร์เปอเรทเต็ด

อะโดบีเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยประสบการณ์ดิจิตอล สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.adobe.com/sea

 

กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์อะโดบีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถติดต่อกับทีมงานของอะโดบีและบุคลากรด้านครีเอทีฟผ่าน Facebook ได้โดยตรง เพื่อรับทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหว ข้อมูลอัพเดต และโปรโมชั่นได้ที่ http://facebook.com/AdobeSEA

from:https://www.techtalkthai.com/adobe-streamlines-mobile-marketing-and-mobile-app-development/