คลังเก็บป้ายกำกับ: GM

GM เตรียมแผนปล่อยอัพเดท OTA สำหรับรถยนต์ของตัวเองในอนาคต

ต้นทาง: GM เตรียมแผนปล่อยอัพเดท OTA สำหรับรถยนต์ของตัวเองในอนาคต

ถึงแม้คำว่า OTA หรือ Over The Air อาจจะเป็นคำที่คุ้นเคยสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน แต่สำหรับวงการรถยนต์นั้น คำนี้น่าจะเป็นคำใหม่พอสมควร

GM หรือ General Motors ค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกประกาศว่าเตรียมแผนสำหรับการอัพเดทซอฟท์แวร์ของระบบภายในรถยนต์ที่ใช้ระบบ Android Auto และ Apple CarPlay ซึ่งปัจจุบันนี้เจ้าของรถจำเป็นต้องนำรถของตัวเองเข้าศูนย์บริการเพื่ออัพเดทระบบ แต่ในอนาคตทาง GM จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถอัพเดทระบบได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ OTA ซึ่งการอัพเดทนี้จะเป็นทั้งการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆด้วย

Ford Auto

 

GM ระบุว่า ความสามารถในการอัพเดทระบบผ่าน OTA นี้ จะติดตั้งมากับรถยนต์ที่จะออกสู่ตลาดในอนาคต แต่ยังไม่มีการระบุว่าเราจะเห็นรถรุ่นใหม่ที่ว่านี้เมื่อใด

 

อย่างไรก็ดี GM ไม่ใช่ค่ายแรกๆที่มีแผนนำเทคโนโลยี  OTA มาใช้ในรถยนต์เพราะก่อนหน้านี้   Tesla ก็ปล่อยรถยนต์ Model S ที่มีเทคโนโลยีนี้มาแล้ว แต่ GM ก็ถือว่าเป็นค่ายแรกๆที่จะผลักดันเทคโนโลยีนี้เช่นกัน

tesla-will

Tesla Model S

 

 

ที่มา: Engadget

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/06/27/gm-planned-for-release-car-with-ota-features.html

GM เตรียมใช้ระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่เป็น Android ในปี 2016

บริษัท Harman International (บริษัทเดียวกับลำโพง Harman Kardon) ให้ข้อมูลว่ากำลังพัฒนาระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ (infotainment) ให้กับรถยนต์ของเครือ GM ที่จะออกขายในปลายปี 2016

ระบบของ Harman จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android เต็มรูปแบบ สามารถติดตั้งแอพที่ GM/Harman และคู่ค้าพัฒนาลงไปได้ด้วย (ไม่ใช่ Android Auto) อย่างไรก็ตาม Harman เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Open Automotive Alliance ของกูเกิลอยู่แล้ว และจะทำงานร่วมกับกูเกิลเพื่อการันตีว่า Android สามารถทำงานในรถยนต์ได้เป็นอย่างดี

Harman ไม่ได้บอกว่ารถยนต์ GM รุ่นใดบ้างจะใช้ระบบความบันเทิงแบบใหม่นี้ แต่บอกเพียงว่า GM จะเป็นรถยี่ห้อแรกที่ใช้งาน และในอนาคตจะขยายไปใช้กับรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ต่อไป (Harman ทำระบบให้ Mercedes-Benz, Toyota, BMW)

ปัจจุบัน GM ใช้ระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่หลากหลาย มีทั้งโซลูชันของไมโครซอฟท์ ลินุกซ์ และ QNX แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าในระยะยาวแล้ว GM จะย้ายไปใช้ Android ทั้งหมดหรือไม่

ที่มา – Automotive News via Ars Technica

วิดีโอแนะนำระบบ infotainment ของ Harman (วิดีโอออกปี 2013)

GM, Harman Kardon, Android, Automobile

from:http://www.blognone.com/node/62513

รถยนต์ 4G มาแล้ว, GM ประกาศ Chevrolet รุ่นใหม่จะต่อเน็ตผ่าน LTE ได้โดยตรง

GM ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์ ประกาศทำ “รถยนต์ติด 4G” วางขายในสหรัฐอเมริกาช่วงกลางปีนี้ โดยจะเริ่มจากรถแบรนด์ Chevloret รุ่นใหม่ 10 รุ่น

รถยนต์ 4G จะสามารถเชื่อมต่อ 4G LTE กับเครือข่ายของ AT&T ในสหรัฐ จากนั้นจะกระจายสัญญาณผ่าน Wi-Fi ให้คนที่อยู่ในรถ (และรอบๆ รถ) สามารถเชื่อม่ตออินเทอร์เน็ตได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ สูงสุด 7 ตัวพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงระบบความบันเทิงผ่านอุปกรณ์พกพาได้ง่ายขึ้น

GM บอกว่ามีแผนจะขยายบริการนี้ไปนอกสหรัฐ โดยตอนนี้กำลังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอยู่

ที่มา – Technology Review

GM, Chevrolet, 4G, LTE, Automobile, AT&T, CES 2014

from:http://www.blognone.com/node/52290

รถยนต์ 4G มาแล้ว, GM ประกาศ Chevrolet รุ่นใหม่จะต่อเน็ตผ่าน LTE ได้โดยตรง

GM ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์ ประกาศทำ “รถยนต์ติด 4G” วางขายในสหรัฐอเมริกาช่วงกลางปีนี้ โดยจะเริ่มจากรถแบรนด์ Chevloret รุ่นใหม่ 10 รุ่น

รถยนต์ 4G จะสามารถเชื่อมต่อ 4G LTE กับเครือข่ายของ AT&T ในสหรัฐ จากนั้นจะกระจายสัญญาณผ่าน Wi-Fi ให้คนที่อยู่ในรถ (และรอบๆ รถ) สามารถเชื่อม่ตออินเทอร์เน็ตได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ สูงสุด 7 ตัวพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงระบบความบันเทิงผ่านอุปกรณ์พกพาได้ง่ายขึ้น

GM บอกว่ามีแผนจะขยายบริการนี้ไปนอกสหรัฐ โดยตอนนี้กำลังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอยู่

ที่มา – Technology Review

GM, Chevrolet, 4G, LTE, Automobile, AT&T, CES 2014

from:https://www.blognone.com/node/52290

Google จับมือพันธมิตรค่ายรถยนต์ชั้นนำตั้ง Open Automotive Alliance เพื่อผลักดัน Android สู่ยานพาหนะ

open-auto-alliance-820x376

ภาพประกอบจาก Slash Gear

ความพยายามของ Google ในการเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ให้ Android ได้ครอบครองถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ระบบปฏิบัติการนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทแม่อย่าง Google ได้ในทางอ้อม ล่าสุดดูเหมือน Android กำลังจะมีพื้นที่ใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้โทรศัพท์มือถือแล้ว นั่นก็คือ อุตสาหกรรมรถยนต์

Google ได้จับมือกับพันธมิตรค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกเพื่อนำระบบปฏิบัติการ Android เข้าไปอยู่ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยความร่วมมือนี้มีชื่อว่า Open Automotive Alliance หรือความหมายก็คือกลุ่มพันธมิตรเปิดในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งประกอบไปด้วย Google, General Motors (GM), Honda, Audi, Hyundai รวมไปถึงผู้ผลิตชิปอย่าง Nvidia ที่จะมาช่วยกันผลักดันให้ Android เข้ามามีบทบาทในระบบความบันเทิงในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของเหล่าพันธมิตรดังกล่าว โดยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีรถยนต์ภายใต้จุดมุ่งหมายดังกล่าวออกสู่ตลาดภายในสิ้นปี 2014 นี้

new-design-of-android-car-stereo-photo-of-android-car-stereo-2013-

ในการประกาศความร่วมมือนี้ กลุ่มพันธมิตรแห่งโลกยานยนต์นี้ยังมีความคาดหวังที่จะมีผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เข้ามาเพิ่มในอนาคต แต่ในขณะนี้เป้าหมายของความร่วมมือนี้ก็คือการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ ร่วมกันให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android เพื่อเปิดให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันสามารถเพิ่มการใช้งานในรถให้เป็นส่วนหนึ่งของแอปพลิเคชันต่างๆ โดยกลุ่มพันธมิตรนี้ได้เริ่มประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการต่างๆ ต่อจากนี้จะอยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี Google ไม่ใช่เป็นยักษ์ใหญ่แห่งโลกไอทีรายแรกที่ริเริ่มความพยายามในรูปแบบนี้ เมื่อ Apple เองก็ได้เปิดตัวความพยายามดังกล่าวในปี 2012 ที่ผ่านมาเพื่อให้ Siri ได้กลายเป็นผู้ช่วยในรถยนต์ได้ และในทางกลับกัน ค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ไม่ได้ผูกติดอยู่กับยักษ์ใหญ่เหล่านี้เพียงรายเดียวด้วย เช่น Honda ก็มีความร่วมมือในการพัฒนาระบบล้ำยุคในรถยนต์ร่วมกับ Apple เช่นกัน

ความเห็นผู้แปล

ตลาดรถยนต์ถือว่าเป็นเป้าหมายของเทคโนโลยีต่างๆ มาเนิ่นนานแล้ว ไม่ว่าจะระบบบอกพิกัด ระบบเครื่องเสียง ระบบความปลอดภัย ระบบสื่อสาร ฯลฯ ไม่แปลกที่ความบันเทิงในรถจะกลายเป็นเป้าหมายของระบบปฎิบัติการต่างๆ ซึ่งถ้ามองกันในภาพใหญ่แล้ว วันนี้ยังถือว่าระบบปฏิบัติการในรถยนต์ยังเติบโตช้ามากๆ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งๆ ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้นำไปไกลแล้ว ผมเคยพูดเรื่องนี้สั้นๆ ในรายการ”คมชัดลึก”ว่า จริงๆ เทคโนโลยีหลายๆ อย่างพร้อมแล้ว แต่ยังไม่ถูกพัฒนาให้พร้อมใช้งานในรถยนต์ เช่น เทคโนโลยีชิปไร้สาย เทคโนโลยีจอที่มองทะลุได้ หรือแม้แต่เทคโนโลยีจอสัมผัส ซึ่งหากผสมกันดีๆ เราสามารถสร้างรถล้ำยุคแบบที่เห็นกันได้ภาพยนตร์ได้แล้ว เช่น การแสดงแผนที่บนกระจกรถที่ใช้นิ้วสัมผัสเพื่อควบคุมได้ การดู YouTube สดๆ บนกระจกด้านข้างที่นั่งแถวหลัง แต่กลับยังไม่มีการพัฒนาให้ใช้งานได้เต็มที่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ผมเชื่อว่าการผลักดันอย่างเต็มที่ของ Open Automotive Alliance จะเข้ามาสานต่อตรงนี้ได้อย่างเต็มที่

Window to the World Interactive Display Screen จากเว็บ Cool Amazing Blend

คลิปตัวอย่างด้านบนคือความพยายามของ Toyoya ในยุโรปที่ร่วมมือกับ Copenhagen Institute of Interaction Design ในการพัฒนากระจกข้างแถวหลังให้สามารถใช้งานประหนึ่งเป็นจอสัมผัสแบบที่เราคุ้นเคยกันได้ โดยใช้จอแบบมองทะลุผสมกับเทคโนโลยีจอสัมผัสและแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานในรถยนต์ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงต้นแบบ แต่นั่นก็คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าจริงๆ เทคโนโลยีเหล่านี้มีพร้อมในระดับหนึ่งอยู่แล้ว หากมีการพัฒนาต่ออย่างจริงจัง รถยนต์จะกลายเป็นแหล่งรวมความล้ำยุคอีกแห่งไม่แพ้โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนในมือเรา โดยส่วนตัวผมเองผมว่าไม่เกิน 3 ปีเราจะได้เห็นรถล้ำยุคแบบนี้วิ่งตามท้องถนนทั่วไปกันแล้วล่ะครับ

ที่มา: The Verge

from:http://thumbsup.in.th/2014/01/google-automotive-alliance-push/

GM บอกรถยนต์ไร้คนขับยังไม่น่าจะเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้

บริษัทรถยนต์บางรายอย่าง Nissan และ Ford ออกมาประกาศเรื่องวิสัยทัศน์ของรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตไปแล้ว แต่พี่ใหญ่อย่าง GM กลับ “เห็นต่าง” ไปครับ

Mike Robinson ผู้บริหารระดับสูงของ GM ไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการด้านคมนาคมของรัฐสภาสหรัฐ โดยเขาสะท้อนมุมมองของค่าย GM ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติยังไม่น่าจะเป็นจริงได้ในอนาคตที่มองเห็น (for the foreseeable future) และมนุษย์ยังต้องเป็นฝ่ายควบคุมยานพาหนะอยู่

ประเด็นเรื่องรถยนต์ไร้คนขับนั้นกำลังเป็นที่สนใจในหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ โดยการทดลองรถยนต์ไร้คนขับของกูเกิลทำให้เกิดคำถามในหมู่ ส.ส. และ ส.ว. ทั้งในระดับชาติและระดับรัฐว่าสมควรจะปรับเปลี่ยนกฎหมายด้านจราจรให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้หรือไม่

ที่มา – Detroit News

GM, Automobile

from:http://www.blognone.com/node/51297

Guest Post: โฆษณาใน E-Magazine อีกสื่อที่น่าจับตามอง

ipad-shopping

editorial note: บทความนี้คือบทความพิเศษ (ที่เราเรียกว่า Guest Post) จากพีศิลป์ พงศ์วราภา  New Media Director แห่ง GM Group Magazine และบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ ปกรณ์ พงศ์วราภา บทความนี้เขาส่งมาให้ กองบรรณาธิการ thumbsup อัพโหลดขึ้นให้ชาว thumbsup โดยเฉพาะ ทว่าสิ่งที่พีศิลป์เขียน ไม่สะท้อนแนวคิดของกองบรรณาธิการ thumbsup เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของเขา ว่าแล้วก็อ่านกันได้โดยพลัน

ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า E-Magazine แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบ Interactive ซึ่งจะเป็นการจัดเลย์เอาท์ใหม่ทั้งหมด ใส่เอฟเฟคลูกเล่นต่างๆ เต็มที่ กับอีกแบบคือแบบ PDF ซึ่งหน้าตาจะเหมือนในฉบับพิมพ์ทุกอย่าง แต่ก็ยังสามารถใส่เอฟเฟคได้เช่น สไลด์ภาพ เสียง วีดีโอ ลิงก์ไปเว็บไซต์ได้ เป็นต้น

ช่วง 2 ปีหลังที่ผ่านมาตลาด E-Magazine ของไทยเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากจำนวนคนใช้อุปกรณ์ทั้ง iPad, Samsung GALAXY Tab เพิ่มมากขึ้น E-Magazine จึงเติบโตตามไปด้วย ในช่วงแรกๆ จะมีหลายเจ้าทำแอพ E-Magazine ออกมา แต่ต่อมาก็เหลืออยู่เฉพาะเจ้าใหญ่ๆ ถ้าเป็นในแบบ PDF คงต้องพูดถึงแอพของ ookbee ในปัจจุบัน ookbee เป็นผู้ทำแอพให้กับหลายหัวหนังสือในบ้านเรา และยังทำแอพให้กับ AIS Bookstore และ B2S อีกด้วย

นิตยสารที่ร่วมมือผลิตกับ ookbee จึงได้เปรียบกว่าทำกับเจ้าอื่น เพราะว่าผู้อ่านสามารถเข้าถึงตัวหนังสือได้หลายทางกว่า การที่ผู้อ่านเข้าถึงได้หลายช่องทางและทุกช่องทางสามารถเชื่อมกันได้ด้วยบัญชีเดียว ไม่ว่าคุณจะดาวน์โหลดนิตยสารเล่มนั้นจากแอพไหนในเครือ ookbee ก็สามารถเปิดอีกแอพแล้วดาวน์โหลดเล่มที่ซื้อไปแล้วมาอ่านได้ เช่นคุณซื้อ GM ในแอพ AIS แล้วอีกเดือนต่อมาคุณเปิดแอพ B2S คุณก็สามารถดาวน์โหลด GM เล่มที่คุณซื้อไปแล้วนั้นมาอ่านได้อีก ผู้อ่านจึงไม่สับสนหรือต้องคอยจำว่าเคยซื้อไปผ่านแอพไหนนะ ด้วยความสะดวกนี้ ผนวกกับการทำงานร่วมกันระหว่างพันธมิตรอย่าง AIS และ B2S ช่วยกันประชาสัมพันธ์จึงทำให้ยอดดาวน์โหลดของนิตยสารเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

สินค้าหลายตัวสนใจที่ลงโฆษณาใน E-Magazine แต่ยังรอให้มียอดผู้อ่านมากพอเสียก่อน ในช่วงที่ผ่านมาโฆษณาใน E-Magazine จึงยังไม่เติบโตเท่าที่ควร

แต่จากตัวเลขยอดผู้ดาวน์โหลด E-Magazine เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา และคาดว่าภายในปีหน้ายอดดาวน์โหลด E-Magazine จะมียอดแซงจำนวนยอดพิมพ์นิตยสาร  ซึ่งหมายความว่าหากสินค้าซื้อโฆษณาเฉพาะใน E-Magazine ก็จะไปถึงผู้อ่านที่จำนวนมากขึ้น ในราคาที่ถูกลง ปัจจุบันนิตยสารหลายหัวยังเป็นการขายพ่วงคือ ซื้อโฆษณาในนิตยสาร และแถมในลงในฉบับ E-Magazine ด้วย หรือเพิ่มเงินเพียงเล็กน้อย แต่ก็เริ่มมีบางนิตยสารแล้วที่ให้ลูกค้าสามารถซื้อโฆษณาเฉพาะฉบับ E-Magazine ได้

ราคาหน้าโฆษณาในนิตยสารนั้นอยู่ตั้งแต่ประมาณ 30,000 บาท ไปถึง 80,000 บาท แต่ใน E-Magazine อยู่ประมาณ 8,000 – 15,000 บาทเท่านั้น (ในแบบ PDF พร้อมการใส่ลิงก์เสียงหรือวิดีโอ)

ลงโฆษณาใน E-Magazine ดีอย่างไร?

การลงโฆษณาใน E-Magazine นั้นสามารถใส่ลิ้งก์เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ หรือสั่งซื้อสินค้าที่หน้าเว็บไซต์ได้ทันที และยังสามารถใส่ภาพ เสียง และวิดีโอ เพื่อดึงความสนใจผู้อ่านได้มากกว่าแบบสิ่งพิมพ์ ราคาถูกกว่าและยังได้ภาพลักษณ์ที่ดีด้วย เช่น คุณทำร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ แต่ไม่มีงบพอจะซื้อแฟชั่นเซต 6 หน้าในนิตยสาร เพราะราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท แต่ถ้าคุณมาซื้อใน E-Magazine 1 หน้าราคา 15,000 บาท แล้วใส่เอฟเฟคสไลด์ภาพเข้าไปสัก 10 ภาพ พร้อมลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ ลูกค้าก็สามารถจะสั่งซื้อได้ทันที และยังเป็นหน้าโฆษณาที่อยู่ในนิตยสารเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยด้วย เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ที่สำคัญคือ E-Magazine กระจายไปทั่วโลก ผู้อ่านที่อยู่ต่างประเทศก็สามารถเห็นสินค้าของคุณโดยง่าย ไม่เหมือนกับฉบับพิมพ์ที่จำกัดอยู่แต่ในประเทศเท่านั้น

จะลงโฆษณาใน E-Magazine ต้องทำอะไรบ้าง?

– เนื่องจากราคาค่อนข้างถูกจึงควรเลือกหัวหนังสือที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์ของคุณ จากนั้นติดต่อขอราคาหน้าโฆษณา ยิ่งซื้อหลายฉบับจะยิ่งได้ส่วนลดที่ดี
– ขอจำนวนยอดสมาชิกที่ดาวน์โหลด
– เตรียมไฟล์ของคุณทั้งภาพ เสียง วิดีโอ ลิงก์เว็บไซด์ เพื่อให้หน้าโฆษณาทำหน้าที่ได้สูงสุด ไม่ควรลงเป็น PDF นิ่งๆ เพราะถ้าคุณลงแบบนิ่งๆ ผู้อ่านเปิดผ่านหน้าโฆษณาของคุณภายใน 2 วินาที

จากข้อมูลข้างต้นโฆษณาใน E-Magazine ก็ถือเป็นอีกสื่อหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดในปีหน้านี้ ด้วยความพร้อมที่มีมากขึ้น ทั้งจำนวนผู้อ่าน ผู้เข้าถึง 3G จึงทำให้โฆษณาใน E-Magazine เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว

from:http://thumbsup.in.th/2013/11/guest-post-advertisement-on-e-magazine/

Apple ปล่อย iOS 7 เวอร์ชั่นสุดท้าย Gold Master ให้แก่นักพัฒนาแล้ว

Apple ได้ปล่อยอัพเดท iOS 7  เวอร์ชั่นสุดท้าย GM หรือ Gold Master (build 11A465) สำหรับนักพัฒนาทันทีหลังจากสิ้นสุดการเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะเป็นลิงค์จากเว็บสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้ปล่อยให้อัพเดทแบบ OTA แบบ Beta เวอร์ชั่นก่อนๆ สามารถไปดาวน์โหลดได้ที่

ios_7_gm

Download iOS 7 GM ได้ที่นี่ (Dev Only)

ที่มา – Apple

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=71438

ชาร์จมือถือในรถแบบไร้สาย? GM เตรียมใส่เข้ามาในรถยนต์รุ่นปี 2014

General Motors ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์โลก ประกาศว่าจะใส่เทคโนโลยีการชาร์จไฟไร้สาย (wireless charging) เข้ามาในรถยนต์ที่จะขายในปี 2014 บางรุ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถชาร์จอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์มือถือได้โดยไม่ต้องเสียบสาย

ตามข่าวบอกว่า GM จะใช้เทคโนโลยีของบริษัท Powermat (ซึ่ง GM ถือหุ้นอยู่ด้วย) โดยยึดตามมาตรฐาน Power Matters Alliance ที่สนับสนุนโดย Powermat และ BlackBerry (ยังไม่มีข้อมูลว่ามือถือรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีอื่นๆ อย่างเช่นโนเกีย-ซัมซุงที่ใช้ Wireless Power Consortium จะสามารถใช้งานร่วมได้หรือไม่)

ตอนนี้ GM ยังไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะใส่เทคโนโลยีของ Powermat อย่างไร และมีรถยนต์รุ่นใดบ้าง

GM ไม่ใช่บริษัทแรกที่นำระบบชาร์จไฟไร้สายมาไว้ในรถยนต์ เพราะคู่แข่งอย่าง Toyota และ Chrysler เริ่มใช้แล้วในรถยนต์บางรุ่นของปี 2013

ที่มา – Bloomberg

GM, Wireless Charging, Automobile

from:http://www.blognone.com/node/47757