คลังเก็บป้ายกำกับ: DATABASE_ADMINISTRATOR

อนาคตของ DBA กับ 4 กลยุทธ์บริหารจัดการฐานข้อมูลสู่ Agile Infrastructure ในธุรกิจองค์กร

เมื่อข้อมูลได้กลายเป็นสินทรัพย์สำคัญใหม่ของธุรกิจองค์กรท่ามกลางยุค Digital Transformation การบริหารจัดการและการใช้งานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุดนั้นก็กลายเป็นภารกิจสำคัญของ Database Adminsitrator หรือ DBA ทั่วโลก และยิ่งเมื่อภัยโรคระบาดได้มาเยือนทุกประเทศเมื่อปี 2020 ความกดดันของ DBA เองก็ยิ่งทวีคูณจากโจทย์ของธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ในขณะที่งบประมาณนั้นลดลง

ท่ามกลางสถานการณ์นี้ DBA ทั่วโลกจึงต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับกับอนาคตรูปแบบใหม่ ที่นอกจากข้อมูลจะมีปริมาณมหาศาลอย่างที่คาดไม่ถึงแล้ว การนำข้อมูลไปใช้งานเองก็จะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ทุกฝ่ายในธุรกิจเองนั้นก็ต้องการการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหาย ในขณะที่การตอบรับต่อพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้

Pure Storage ในฐานะของผู้พัฒนานวัตกรรมใหม่แห่งโลก Enterprise Storage และการบริหารจัดการข้อมูล ได้มีคำแนะนำถึง DBA ทั่วโลกเพื่อตอบโจทย์การใช้งานข้อมูลในอนาคตให้ได้ด้วยกัน 4 ประการ ดังนี้

1 ออกแบบระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Database ใหม่ ให้รองรับการทำงานและการเพิ่มขยายได้อย่างมั่นใจ

ไม่ว่าเทคโนโลยี Database ที่ใช้งานจะเป็นเทคโนโลยีใด แต่พื้นฐาน 5 ประการที่จะทำให้ระบบ Database เหล่านั้นทำงานได้ดีก็มีด้วยกันดังนี้

  • Performance ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง รองรับ Workload ได้หลากหลายรูปแบบในระบบเดียว
  • Security มีความมั่นคงปลอดภัย ช่วยปกป้องข้อมูลได้อยู่ตลอดเวลาโดยไม่กระทบต่อประเด็นด้านประสิทธิภาพการทำงาน
  • Availability มั่นคงทนทาน มี Downtime ที่ต่ำ ลดโอกาสที่ระบบจะหยุดทำงานได้ทั้งจากความผิดพลาด, ความเสียหาย ไปจนถึงการอัปเกรดระบบทั้งในระดับของ Software และ Hardware
  • Manageability บริหารจัดการได้ง่าย ดูแลรักษาได้ง่าย
  • Storage จัดเก็บข้อมูลได้อย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มขยายได้ในระยะยาว

การที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน IT สำหรับรองรับ Database มีคุณสมบัติเหล่านี้อย่างครบถ้วน จะทำให้ DBA นั้นมีความพร้อมในการรับมือต่อโจทย์ใหม่ๆ ทางธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น สามารถทำงานในเชิงรุกได้มากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากับการแก้ไขปัญหาในระบบอย่างในอดีตอีกต่อไป ดังนั้นการลงทุนวางระบบ IT Infrastructure ใหม่เพื่อให้รองรับคุณสมบัติเหล่านี้จึงถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ

2 ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือในการจัดการข้อมูล และการจัดการแบบอัตโนมัติ

ในแง่ของการจัดการข้อมูล เครื่องมือในการช่วยทำสิ่งต่างๆ ให้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กับระบบ IT Infrastructure ที่ดี เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ DBA ทำงานได้ง่าย, ลดเวลาที่ใช้ในการทำงาน และลดเวลาที่ DBA คนใหม่จะต้องใช้ในการเรียนรู้ ทำให้ในภาพรวมการจัดการกับข้อมูลนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน การทำงานร่วมกันระหว่างหลายระบบให้ได้และการบริหารจัดการได้โดยอัตโนมัตินั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในระยะยาวเมื่อระบบมีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมากขึ้น ความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้ DBA ทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีความผิดพลาดเกิดขึ้นน้อย และในทุกๆ การขึ้นระบบใหม่ๆ การวางระบบให้ทำงานได้แบบ Automation แต่แรกเลยก็จะช่วยลดภาระของ DBA ในระยะยาวลงไปได้เป็นอย่างดี

3 เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน จัดการข้อมูลได้แบบ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud

ธุรกิจองค์กรทุกแห่งได้เรียนรู้ถึงข้อดีของการใช้ Cloud และเริ่มเห็นภาพแล้วว่า Workload แบบใดที่ควรอยู่บนบริการ Cloud ใด และ Workload แบบใดที่ควรอยู่บนระบบ On-Premises ดังนั้น DBA เองก็ควรวางแผนเพื่อให้สามารถทำการบริหารจัดการและย้ายข้อมูลหรือ Workload ระหว่าง Cloud และ On-Premises ได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

4 ปกป้องทุกข้อมูลให้มั่นคงปลอดภัยและตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ที่ใด

ด้วยระบบ Database ที่มีความหลากหลายมากขึ้น การปกป้องข้อมูลของระบบ Database ในทุกๆ รูปแบบให้ได้นั้นก็ถือเป็นอีกโจทย์สำคัญ ในขณะที่การกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วก็สามารถช่วยให้ธุรกิจองค์กรนั้นลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากเหตุไม่คาดฝันลงได้

นอกจากนี้ ด้วยพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังจะบังคับใช้ การปกป้องข้อมูลเหล่านี้ให้ยากต่อการรั่วไหลสู่ภายนอกก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ และเทคโนโลยีพื้นฐานในการเข้ารหัสข้อมูลของระบบจัดเก็บข้อมูลที่ใช้กับ Database นั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกเปิดใช้งานเป็นวงกว้าง การเลือกใช้ระบบที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบนั้นจึงเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาให้ดี

Modern Data Experience สู่ประสบการณ์ในการบริหารจัดการและใช้งานข้อมูลแบบใหม่ กับ Pure Storage

Credit: Pure Storage

เพื่อช่วยให้ DBA ทั่วโลกสามารถปรับตัวสู่อนาคตได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า Pure Storage ได้นำเสนอแนวคิด Modern Data Experience เพื่อช่วยให้ธุรกิจองค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น ในขณะที่ประสบการณ์การเข้าถึงและใช้งานข้อมูลเองก็มีความง่ายดาย ตอบโจทย์ต่อการใช้งานจริงได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยคุณสมบัติดังนี้

  1. Accelerate Application ด้วยการใช้ All Flash Storage ที่มีหลากหลายรูปแบบ เสริมประสิทธิภาพของระบบ Application และ Database ได้ทั้ง Tier-0, Tier-1, Tier-2 ไปจนถึงระบบ Backup และ DR ได้อย่างคุ้มค่า ช่วยให้ทุกขั้นตอนในการจัดการและเข้าถึงข้อมูลมีความเร็วสูงสุด เร่งสร้างคุณค่าใหม่ให้กับองค์กรด้วยข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ลด Downtime ที่จะเกิดขึ้นกับในทุกระบบได้อย่างมั่นใจ
  2. Enable Multicloud ย้าย Workload และ Data ระหว่าง Cloud ได้อย่างอิสระ ด้วยระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถบริหารจัดการได้ด้วยประสบการณ์เดียวกัน ทำให้ DBA สามารถจัดการข้อมูลบนทุก Cloud และ Data Center ได้อย่างง่ายดาย บริหารจัดการได้จากศูนย์กลาง พร้อมใช้จุดเด่นจากผู้ให้บริการ Cloud แต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
  3. Modernize Data Protection ปกป้องข้อมูลด้วย All Flash Storage พร้อมความสามารถในการปกป้องข้อมูลในตัว ช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลได้หลายรอบต่อวัน กู้คืนได้อย่างรวดเร็ว ลดโอกาสการสูญเสียข้อมูลและลด Downtime ของระบบลงได้อย่างมั่นใจ รองรับการป้องกันข้อมูลที่สำรองเอาไว้ไม่ให้ Ransomware เข้ารหัสหรือทำลายข้อมูลขององค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึงยังสามารถทำการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเสริมความมั่นคงปลอดภัยได้อีกด้วย
  4. Activate Analytics and AI เปิดให้ผู้ใช้งาน, Data Scientist และ Data Engineer สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมต่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้ในตัว ลดขั้นตอนการย้ายข้อมูลข้ามระบบลง ช่วยให้นำข้อมูลไปใช้งานได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น รองรับเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

Pure Storage มีโซลูชัน All Flash Storage ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของธุรกิจองค์กรในการบริหารจัดการ, ใช้งาน และปกป้องข้อมูล พร้อมเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยตรวจสอบดูแลรักษาระบบโดยอัตโนมัติ ช่วยให้การดูแลรักษาระบบ Storage นั้นง่ายดายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ DBA สามารถมุ่งเน้นไปที่การวางนโยบายด้านการจัดการฐานข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงเรื่องของประสิทธิภาพ, ความยืดหยุ่น และความมั่นคงปลอดภัยอีกต่อไป

ติดต่อ Pure Storage ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันด้านระบบ Enterprise Storage และ Data Management สามารถติดต่อทีมงาน Pure Storage ได้ทันทีที่ Email asean@purestorage.com และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.purestorage.com/ หรือติดตามข่าวสารจากทีมงาน Pure Storage ได้ที่ https://www.facebook.com/PureStorageTH

from:https://www.techtalkthai.com/4-strategies-to-agile-infrastructure-for-dba-by-pure-storage/

5 ทักษะที่เหล่า Database Administrator ต้องมีในยุคของ Cloud

การมาของ Cloud นั้นถือว่าเป็นการพลิกโฉมของระบบ IT Infrastructure ระดับองค์กรในหลายๆ แง่มุม และก็ทำให้เหล่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นต้องปรับตัวศึกษาเทคโนโลยีและแนวทางใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ Database Administrator (DBA) ซึ่งทางเว็บ Pythian ได้ออกมาเขียนเนื้อหาถึง 5 ทักษะที่เหล่า DBA ต้องมีในยุคของแล้ว และทางทีมงาน TechTalkThai เห็นว่าน่าสนใจดีจึงขอนำมาสรุปและเสริมเนื้อหาเป็นภาษาไทยให้ได้อ่านกันดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com

 

1. ต้องให้คำแนะนำเกี่ยวกับผู้ให้บริการ Cloud แต่ละรายได้

หนึ่งในเทคโนโลยีที่เหล่าผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่มีและแตกต่างกันนั้นก็คือ Database ในส่วนของ DBaaS ในขณะเดียวกันองค์กรก็ยังสามารถเลือกใช้บริการ IaaS มาสร้างเป็น Database Server บน Cloud ได้เช่นกัน และสถาปัตยกรรมการทำงานที่มีให้เลือกนั้นก็หลากหลาย หน้าที่ของ DBA ส่วนหนึ่งจึงเป็นการทำความเข้าใจในเทคโนโลยีของ Cloud Provider แต่ละรายให้ดี จนสามารถประเมินและให้คำแนะนำเชิงเทคนิคและค่าใช้จ่ายได้ในกรณีที่ทีมงานเกิดความสนใจในการย้ายขึ้นไปใช้เทคโนโลยี Cloud ขึ้นมา

 

2. ต้องมีความสามารถในการ Migrate ระบบ Database ขึ้นไปยังบริการ Cloud

สิ่งถัดมาที่ DBA ต้องเรียนรู้นั้นก็คือวิธีการในการย้ายระบบฐานข้อมูลขึ้นไปยัง Cloud ทั้งในแง่ของการเตรียมตัวก่อนย้าย, การย้ายจริง, การดูแลรักษา Database บน Cloud ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และหากระบบ Cloud นั้นๆ ถูกใช้งานในฐานะของ Disaster Recovery ก็ต้องเตรียมขั้นตอนในการสลับระบบต่างๆ ให้เกิด Downtime ให้น้อยที่สุดให้ได้ด้วย

 

3. ต้องมีความรู้เชิงลึกในการทำ Capacity Planning มากขึ้น

ในสมัยก่อน DBA อาจคุ้นชินกับการขยายระบบแบบรายเดือนหรือรายปี แต่ในทุกวันนี้เมื่อ Database ย้ายไปอยู่บน Cloud ทาง DBA นั้นก็ต้องเตรียมพร้อมทั้งการขยายระบบและลดขนาดระบบกันแบบรายวันแทน ทั้งในมุมของประสิทธิภาพ, ความจุ และจำนวนสาขาสำรอง เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันให้ได้ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงการรับมือกรณีที่อาจมี Workload จำนวนมหาศาลเกิดขึ้นอย่างชั่วขณะ เช่น ฤดูกาลขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูง ประเด็นเหล่านี้ก็ทำให้เหล่า DBA ต้องเตรียมพร้อมที่จะวางแผนล่วงหน้ากันมากขึ้นนั่นเอง

 

4. ต้องมีประสบการณ์สูงขึ้นในด้านการควบคุมค่าใช้จ่าย

การควบคุมค่าใช้จ่ายนั้นจะต้องเปลี่ยนจากงานเชิงรับที่รอรับ Feedback ในแต่ละเดือนแล้วจึงคิด กลายเป็นงานเชิงรุกที่ต้องวางแผนล่วงหน้าอยู่เสมอ รวมถึงเพิ่มขั้นตอนในการทำ Database Optimization เพื่อลดค่าใช้จ่ายภาพรวมในระยะยาวให้ได้ด้วยเทคโนโลยีที่ระบบ Cloud มีให้ใช้งานได้อย่างแตกต่างกัน ยิ่ง DBA มีความเก่งกาจมากเท่าไหร่ องค์กรก็จะยิ่งลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นเท่านั้น

 

5. ต้องประเมินให้ได้ว่าเมื่อใดควร Outsource งานทางด้าน DBA ออกไป

การ Outsource ภาระหน้าที่ของ DBA บางส่วนออกไปให้กับเหล่าผู้ให้บริการ DBaaS หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Database จากภายนอกช่วยดูแลนั้นก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบ IT นั้นต้องถูกผู้ใช้งานหรือลูกค้าภายนอกองค์กรเข้าถึงและส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือภาพลักษณ์โดยตรง งานของ DBA จึงเกิดขึ้นอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และบางระบบฐานข้อมูลบน Cloud เองนั้นก็มีความซับซ้อนสูง การใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้โดยเฉพาะเพื่อเติมเต็มความต้องการขององค์กร และให้ผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กรขยับบทบาทไปเป็นการดูแลภาพรวม, ดูแลเชิงนโยบาย หรือใช้เวลาในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ แทนก็เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา

 

นอกจากนี้ทาง Pythian ยังได้มี Whitepaper ที่เจาะลึกในประเด็นการทำ Database Management บน Cloud นั้นเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างให้ได้ศึกษากันที่ http://resources.pythian.com/evolving-role-of-dbas-in-the-cloud-whitepaper ด้วยครับ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อศึกษาได้ทันที

 

ที่มา: https://www.pythian.com/blog/5-key-things-you-should-expect-from-your-modern-dba-team-in-the-era-of-cloud/

from:https://www.techtalkthai.com/5-skills-database-administrators-should-have-in-cloud-era/

คณะไอทีลาดกระบัง เปิดหลักสูตร ป.ตรี Data Science and Business Analytics แห่งแรกของไทย เปิดภาคเรียนแรกปี 2560 เริ่มรับสมัครแล้ว

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดหลักสูตรใหม่ประจำปีการศึกษา 2560 เน้นสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology – IT) โดยเฉพาะด้านวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ (Data Science and Business Analytics) ที่ทางคณะฯ เปิดหลักสูตรป.ตรี ด้านนี้ขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยแรกของประเทศไทย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานที่ต้องการบุคลากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อมาใช้ในด้านธุรกิจและด้านอื่นๆ มากขึ้น เพื่อพัฒนาบุคลากรไปสู่ Thailand 4.0

kmitl_it_data_science_01

ข้อมูลและสารสนเทศมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อศักยภาพในการแข่งขันขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงานในส่วนงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยทำให้การวางแผน ควบคุม และตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล สามารถนำพาองค์กรและหน่วยงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด

การได้มาซึ่งข้อมูลและสารสนเทศดังกล่าว ต้องอาศัยศาสตร์ด้านวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจเข้ามาช่วย เพื่อทำให้สามารถรวมรวบข้อมูลจากฐานข้อมูล (Database) และคลังข้อมูล (Data warehouse) จากแหล่งต่าง ๆ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล (Big data) เพื่อนำมาจัดเตรียมและประมวลผลด้วยเครื่องมือซึ่งใช้กลไกของอัลกอริทึม (Algorithm) ขั้นสูง เพื่อทำให้ได้สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์และพยากรณ์ได้อย่างถูกต้องรวดเร็วโดยการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) ส่งผลทำให้การดำเนินการ รวมทั้งการตัดสินใจและแก้ปัญหา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (หรือเรียกสั้นๆ อย่างไม่เป็นทางการว่า คณะไอทีลาดกระบัง) ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ทางด้านวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ในอนาคต จึงได้พัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ (Bachelor of Science Program in Data Science and Business Analytics – DSBA) ระดับปริญญาตรีขึ้นเป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย

kmitl_it_data_science_02 kmitl_it_data_science_03

จุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ เมื่อสำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้ จะมีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจที่เพียงพอในการประกอบอาชีพ และตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชน สำหรับตำแหน่งงานด้านต่างๆ ได้แก่ นักวิทยาการข้อมูล (Data Scientist), นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst), สถาปนิกด้านข้อมูล (Data Architect), นักวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analyst), นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst), ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยะทางธุรกิจ (BI Specialist), นักวิเคราะห์ด้านอัจฉริยะทางธุรกิจ (BI Analyst), นักพัฒนาด้านอัจฉริยะทางธุรกิจ (BI Developer), นักพัฒนาคลังข้อมูล (Data Warehouse Developer), ที่ปรึกษาด้านคลังข้อมูล (Data Warehouse Consultant), ผู้บริหารข้อมูล (Data Administrator), ผู้ดูแลฐานข้อมูล (Database Administrator), ผู้เชี่ยวชาญฐานข้อมูล (Database Specialist), นักพัฒนาข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ (Business Insight Data Developer) ฯลฯ

kmitl_it_data_science_04 kmitl_it_data_science_05

โดยการสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2560 เปิดรับสมัครผ่านทางเว็บไซต์ มีด้วยกัน 3 รูปแบบที่เปิดให้สมัคร ได้แก่

  1. แบบรับตรง ผู้สมัครสามารถเลือกได้ทั้ง 2 สาขาวิชาโดยให้ระบุลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 แบ่งการคัดเลือกได้เป็น 2 แบบ
    • คณะจัดสอบเอง : หมดเขตรับสมัครวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559
    • พิจารณาจากคะแนน GAT/PAT1 : หมดเขตรับสมัครวันที่ 19 ธันวาคม 2559
  2. แบบโควตา ใช้การสอบสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียว มีโควตา 4 แบบ ได้แก่
    • โควตานักเรียนเรียนดี
    • โควตาโครงการความร่วมมือทางวิชาการ (MOU)
    • โควตานักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    • โควตานักเรียนโครงการโอลิมปิกวิชาการ

โดยแบบโควตาหมดเขตรับสมัครวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559

  1. ระบบ Admissions

 

หรือติดต่อสอบถามข้อมูลผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ดังนี้

from:https://www.techtalkthai.com/kmitl-it-opens-bachelor-degree-of-science-in-data-science-and-business-analytics/

เรียนเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาฟรี Oracle Database และ Cloud วันที่ 24 มีนาคม 2016

oracle_logo

Oracle Thailand ได้จัดงานสัมมนาฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการอัพเดตเทคโนโลยีของ Oracle ในวันที่ 24 มีนาคม 2016 โดยจะแบ่งเป็นงาน Oracle Database Insight Forum ในช่วงเช้า และ Oracle Secure Cloud Infrastructure Executive Event ในช่วงบ่าย ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนแต่ละงานหรือลงทะเบียนทั้งสองงานเลยก็ได้ ดังนี้เลยครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

Oracle Database Insights Forum (งานช่วงเช้า)

24 March 2016 08:00 a.m. – 01:00 p.m. Eastin Grand Hotel Sathorn Bangkok

พบกับเทคโนโลยีล่าสุด และกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เกี่ยวกับของ Oracle Database บนระบบงาน Cloud ทั้งในแบบ On-Premise และ บน Cloud Services ซึ่งพร้อมสนับสนุนการสร้าง Platform ด้าน IT ที่สมบูรณ์แบบให้กับองค์กรท่าน เพื่อพร้อมรองรับการทำงานระบบงานยุคใหม่ร่วมกับ Modern Application ต่างๆในทุกรูปแบบบนCloud

โดยในงานท่านสามารถเลือกกลุ่มสัมมนาเพื่อเนื้อหาเฉพาะด้านที่ครอบคลุมในส่วนงานที่ท่านดูแล ทั้งในส่วนงานของ IT Management หรือ DBA ที่ท่านสนใจ

เนื่องจากที่นั่งมีจำกัด กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้า Register Link: http://www.oraclethai.com/dbinsights/ สอบถามรายละเอียดงานสัมมนาเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ Tel 092 225 2648 ได้ในวันและเวลาทำการ

 

Oracle Secure Cloud Infrastructure Executive Event (งานช่วงบ่าย)

24 March 2016 01:00 p.m. – 04:15 p.m. Eastin Grand Hotel Sathorn Bangkok
ในงานสัมมนาท่านจะได้พบกับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีล่าสุดของ Oracle SPARC M7ที่จะมีบทบาทสำคัญที่จะผลักดันให้เกิด Cloud Platform ที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน ด้วย Software in Silicon ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มศักยภาพให้กับการทำงานของระบบงาน Infrastructure ให้มีความปลอดภัยและสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งในรูปแบบ Private Cloud และPublic Cloud พร้อมเสริมประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ให้กับ Data Center ของท่าน และช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบงาน และทำให้ง่ายต่อการบริหารงานระบบยิ่งขึ้น

โดยในงานท่านสามารถเลือกกลุ่มสัมมนาเพื่อเนื้อหาเฉพาะด้านที่ครอบคลุมในส่วนงานที่ท่านดูแล ทั้งในส่วนงานของ IT Management หรือ DBA ที่ท่านสนใจ

เนื่องจากที่นั่งมีจำกัด กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้า Register Link: http://www.oraclethai.com/securecloud/ สอบถามรายละเอียดงานสัมมนาเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ Tel 092 225 2648 ได้ในวันและเวลาทำการ

from:https://www.techtalkthai.com/invitation-to-oracle-database-and-cloud-seminar-2016-03-24/

3 คอร์สฟรี เรียนรู้ Microsoft SQL Server สำหรับผู้เริ่มต้นจาก Udemy

จากที่เคยเขียนกันไปว่าคน IT ควรจะเรียนคอร์สออนไลน์สัปดาห์ละ 5 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ช่วงนี้เลยมีคอร์สเรียนฟรีๆ มานำเสนอกันเยอะหน่อยนะครับ คราวนี้เป็นคราวของ Microsoft SQL Server ระบบฐานข้อมูล Relational Database จาก Microsoft นั่นเองเพราะจริงๆ แล้วบ้านเราก็ยังขาด DBA กันอีกมาก ซึ่งครั้งนี้เป็น 3 คอร์สฟรีสำหรับผู้เริ่มต้นดังนี้ครับ

udemy_free_microsoft_sql_server_courses

Microsoft SQL Server – An Introduction https://www.udemy.com/microsoft-sql-server-an-introduction/

คอร์สเบื้องต้นเนื้อหา 10 บทกับความยาวรวม 1 ชั่วโมงแนะนำว่า Microsoft SQL Server คืออะไร ทำอะไรได้บ้างครับ โดยจะสอนเรื่องการ Download และติดตั้ง Microsoft SQL Server เพื่อลองเข้าไปดูส่วนต่างๆ และวางแนวทางการศึกษาทางด้านนี้ต่อไปครับ

 

How To Begin Your Career As a SQL Server DBA  https://www.udemy.com/how-to-become-a-real-world-sql-server-dba/

สำหรับคอร์สถัดมานี้จะมีเนื้อหาด้วยกัน 40 บท ความยาวรวม 2 ชั่วโมง ที่จะเริ่มมีการพูดถึงทฤษฎีพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับระบบ Database ไม่ว่าจะเป็น Table Object, Transaction-SQL, Security, Database Backup & Restore พูดง่ายๆ ก็คือได้ลองแตะงานพื้นฐานของ DBA เป็นแนวทางได้ครับ เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังชั่งใจว่าจะลองย้ายไปทำสาย DBA ดีรึเปล่า แต่ก็แนะนำให้คุยกับคนที่เค้าทำงานในสายนี้จริงๆ ด้วยนะครับจะได้ปรับภาพให้ตรงกับงานในไทยด้วย

 

10 Things Every Production SQL Server Should Have  https://www.udemy.com/10-things-every-production-sql-server-should-have/

คอร์สนี้จะเริ่มสอนอะไรที่ Advance ขึ้นมาหน่อยแล้วครับ ด้วยจำนวนเนื้อหา 39 บทในความยาว 1.5 ชั่วโมง คอร์สนี้จะสอนเรื่องการทำ Database Backup, Statistics, การใช้ DBCC CHECKDB, การจัดการ Index, การปรับค่า Default Growth, การจัดการ Error Detection, การจัดการ Errorlog และการทดสอบการกู้คืนข้อมูลครับ

 

แต่จบหมด 3 คอร์สนี้ก็เนื้อหายังไม่ได้ลึกมากนะครับ แนะนำว่าถ้าเรียนตรงนี้แล้วชอบ ก็ไปลองศึกษาต่อยอดจริงจังกันเพิ่มเติมด้วยจะดีกว่าครับผม

from:https://www.techtalkthai.com/3-free-microsoft-sql-server-basic-courses-from-udemy/