คลังเก็บป้ายกำกับ: CVS

CVS ชนะ Amazon ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสุขภาพ Signify Health มูลค่าดีล 8 พันล้านดอลลาร์

CVS Health ร้านขายยารายใหญ่ของอเมริกา ประกาศซื้อกิจการ Signify Health บริษัทผู้ให้บริการระบบรักษาพยาบาลที่บ้าน ที่มูลค่าดีลราว 8,000 ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้มีข่าวผู้สนใจร่วมประมูลซื้อกิจการ Signify Health หลายราย ซึ่งรวมทั้ง Amazon และร้านขายยา Walgreens ด้วย

CVS บอกว่าดีลนี้จะช่วยเสริมกลยุทธ์การเป็นแพลตฟอร์มด้านสุขภาพครบวงจรของบริษัท ซึ่งตอนนี้ทั้ง Walgreens, Walmart รวมทั้ง Amazon ที่เป็นธุรกิจค้าปลีกต่างสนใจเข้ามาในพื้นที่นี้

ที่มา: CVS

from:https://www.blognone.com/node/130235

ยุครุ่งเรืองของร้านยา CVS เชนร้านขายยาและซุปเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่จ้างงาน 5 หมื่นตำแหน่ง

CVS
CVS Pharmarcy Photo:

จ้างงานเพิ่ม 5 หมื่นตำแหน่ง

CVS เชนร้านขายยาและซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ มีสาขากว่า 9,900 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา ล่าสุดประกาศจ้างงานเพิ่ม 50,000 ตำแหน่งทั้งฟูลไทม์ พาร์ทไทม์ และรวมถึงงานชั่วคราว เนื่องจากบริษัทต้องการแรงงานจำนวนมหาศาลเพื่อมาช่วยงานในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

งานที่ CVS ต้องการในขณะนี้มีตั้งแต่พนักงานในสาขาหน้าร้าน พนักงานเดลิเวอรี่ พนักงานกระจายสินค้าในศูนย์ต่างๆ และพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า

อย่างไรก็ตาม CVS ประกาศในแถลงการณ์ด้วยว่า จะเพิ่มเงินโบนัสให้กับพนักงานที่ทำงานในหน้าร้าน โดยมีตั้งแต่เรท 150 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,000 บาท) ไปจนถึง 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 16,000 บาท)

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา CVS ประกาศไม่คิดค่าธรรมเนียมในการจัดส่งยาแบบเดลิเวอรี่ทำให้มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 300%

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/cvs-hires-50k-staffs-during-covid-19/

ดีลระหว่าง CVS กับ Aetna มีแนวโน้มที่จะล่มสูง รวมไปถึงดีลของ Cigna ด้วย

Brand Inside เคยนำเสนอข่าวในปลายปีที่ผ่านมาในการซื้อกิจการของ CVS ซึ่งเป็นร้านขายยาขนาดใหญ่ ในการซื้อกิจการประกันสุขภาพอย่าง Aetna (เจ้าของเดียวกับ Bupa) ซึ่งล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่าดีลนี้อาจยุ่งยากกว่าที่คิด

ภาพจาก Shutterstock

California Insurance Commissioner ได้ยื่นเอกสารให้กับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเพื่อที่จะให้ช่วยขวางการซื้อกิจการระหว่าง CVS กับ Aetna เนื่องจากทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพน้อยลง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้น้อยเกินไป

การตัดสินใจยื่นเอกสารของ California Insurance Commissioner เกิดจากเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มแพทย์จาก American Medical Association ในดีลนี้ว่าจะส่งผลเสียอะไรหรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วความเห็นส่วนใหญ่มองว่าดีลนี้จะทำให้เกิดการผูกขาดขึ้นมาในภายหลัง

สำหรับอุตสาหกรรมร้านยาในสหรัฐประกอบไปด้วยผู้เล่นรายใหญ่อย่าง CVS และ Express Scripts รวมไปถึง UnitedHealth Group ซึ่งทั้ง 3 เจ้านี้มีส่วนแบ่งตลาดถึง 70%

กิจการของ CVS ยักษ์ใหญ่ธุรกิจร้านขายยามีหน้าร้านเกือบ 10,000 แห่ง และคลินิกรักษาโรคอีกกว่า 1,000 แห่ง ในเดือนที่ผ่านมามีข่าวที่ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐไม่น่าจะออกมาขวางดีลมูลค่า 69,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการซื้อกิจการคนละอุตสาหกรรม

ดีลอื่นก็มีความเป็นไปได้ที่จะล่มตามด้วย

นอกจากนั้นแล้วยังมีความเป็นไปได้ของดีลระหว่าง Cigna กับ Express Scripts ก็มีแววที่จะไม่ผ่านเช่นเดียวกัน เนื่องจากลักษณะการควบรวมกิจการคล้ายๆ กับดีลของ CVS และยังมีเรื่องของ Carl Icahn นักลงทุนรายใหญ่ ได้เขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นให้ล้มเลิกดีลดังกล่าว โดยเขาเองมองว่า Cigna ซื้อกิจการของ Express Scripts แพงเกินไป

การที่บริษัทอย่าง Cigna ต้องไล่ซื้อธุรกิจร้านยาหรือแม้แต่ CVS ต้องซื้อกิจการประกันสุขภาพอย่าง Aetna เกิดจากความหวาดกลัวของ Amazon ที่ร่วมมือกับ JPMorgan และ Berkshire Hathaway ที่กำลังรุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งแรงกดดันเรื่องนี้ทำให้ราคาหุ้นของ CVS หรือผู้เล่นรายอื่นๆ นั้นมีผลตอบแทนในปีนี้ไม่ดีเลย

ที่มาCNN Money, Forbes, BloombergReuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/cvs-aetna-deal-maybe-not-pass-regulators/

ส่อง 3 เทรนด์ร้านสะดวกซื้อ กลายเป็น Community Hub ในอนาคต

แนวโน้มของร้านสะดวกซื้อยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ทิศทางต่อไปจะกลายเป็นร้านของชุมชนมากขึ้น ต้องมีบริการใหม่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก และผนึกออนไลน์ ออฟไลน์เข้าด้วยกัน

3 ปัจจัยทำให้ร้านสะดวกซื้อยังโต

Kantar Worldpanel (Thailand) บริษัทวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้า FMCG ได้เผยปัจจัยสำคัญที่ช่วยประตุ้นตลาด FMCG ให้เติบโต หนึ่งในนั้นก็คือช่องทางรีเทล พบว่าตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตเริ่มลดลง เริ่มลดไซส์ให้เล็กลง

โดยที่ช่องทางร้านสะดวกซื้อเป็นรูปแบบร้านที่ยังเติบโตทุกปี แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเริ่มแผ่วลงไปบ้าง เติบโต 0.5% ต่อปี แต่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ของโมเดล และบริการใหม่ๆ มากขึ้น

ทาง Kantar ได้สรุปปัจจัยการเติบโตของร้านสะดวกซื้อในไทยไว้ 3 ข้อ ดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์

โครงสร้างของประชากร และครอบครัวมีการเปลี่ยนไป ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีครอบครัวขนาดเล็กลง ทำให้เห็นพฤติกรรมก็คือ ผู้บริโภคจะซื้อแต่ของที่จำเป็น และซื้อเมื่อต้องการเท่านั้น โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่อยู่ในเมืองจะไม่นิยมซื้อสินค้าล่วงหน้า ไม่มีเตรียมการประกอบอาหาร ส่วนใหญ่ซื้ออาหารสดวันต่อวัน หรืออาหารสำเร็จรูป

พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ผู้บริโภคใช้บริการร้านสะดวกซื้อมากขึ้น และมีโมเดลใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์มากขึ้น ยกตัวอย่างในต่างประเทศ ร้าน Yonghui ในประเทศจีน มีการผสมของซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารพรีเมี่ยม หรืออย่างร้าน 99 Speedmart ประเทศมาเลเซีย เป็นโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ต ผสมกับร้านสะดวกซื้อ

ส่วนผู้ประกออบการสินค้าต่างๆ ก็เริ่มปรับตัวในการพัฒนาสินค้า หรือปรับแพ็คเกจจิ้งให้เข้ากับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป ปรับแพ็คไซส์ให้เล็กลง ทำสินค้าขนาดทดลองเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายสินค้า และให้เข้ากับช่องทางร้านสะดวกซื้อ

2. ร้านสะดวกซื้อจะกลายเป็น Community Hub ในชุมชน

สำหรับในไทยมีรูปแบบร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ผู้เล่นทุกรายมีการเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง แต่ในบางประเทศอย่างเกาหลีใต้ และจีนเริ่มมีการปรับโมเดลเป็นแบบ 24 ชั่วโมงมากขึ้น และขยายร้านเข้าสู่พื้นที่ชุมชมมากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ร้านสะดวกซื้อจะต้องไม่ใช่แค่ร้านขายของใกล้บ้าน ที่มีแค่ความสะดวกสบายอย่างเดียว แต่ต้องยกระดับเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีบริการใหม่ๆ ทำให้ชีวิตผู้บริโภคง่ายขึ้น

จะเห็นได้ว่าร้านสะดวกซื้อในไทยหลายๆ เจ้ามีการเพิ่มบริการใหม่ๆ อยู่ตลอด ทั้งกาแฟสด อาหารปรุงสด รับส่งพัสดุ จ่ายบิลต่างๆ ในต่างประเทศมีทั้งบริการเครื่องซักผ้า และตัดผม หรือริการจ่ายบิลต่างๆ ก็สามารถจ่ายได้ทั้งค่าตั๋วโดยสาร ประกัน ค่าเทอม

3. แหล่งผนึกออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน

ด้วยจำนวนสาขาที่เยอะ และมีพื้นที่กระจายในแหล่งชุมชน ทำให้ร้านสะดวกซื้อกลายเป็นพื้นที่กลางระหว่างร้านค้าออนไลน์ กับผู้บริโภค จึงได้เห็นบริการ Click & Collect มากขึ้น สั่งซื้อของช่องทาออนไลน์ แล้วผู้ขายจะร่วมมือกับร้านสะดวกซื้อในการรับสินค้าที่ร้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า

สรุป

การเติบโตของร้านสะดวกซื้อยังมีให้เห็นอยู่ และมีการแข่งขันสูงมากขึ้นด้วย โดยที่ผู้เล่นแต่ละรายต่างพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในด้านของแบรนด์เองก็ต้องปรับสินค้าให้เหมาะกับช่องทางร้านสะดวกซื้อให้มากขึ้นเช่นกัน เพราะจะเป็นช่องทางที่ใกล้ชิดผู้บริโภคมากที่สุด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/3-trends-cvs-to-community-hub/

เชนขายยา CVS ขีดเส้นห้ามรีทัชภาพนางแบบโฆษณาภายในปี 2020

เชนร้านขายยาและเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ CVS ที่มีสาขามากกว่า 9,700 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ด้วยการไม่สนับสนุนให้มีการรีทัชภาพนายแบบหรือนางแบบปรากฏในร้านขายยาของตนเองอีกต่อไป โดยจะบังคับใช้อย่างจริงจังในปี 2020 พร้อมชี้ว่า การรีทัชจนนางแบบสวยไม่มีที่ตินั้น เป็นการโปรโมตให้ผู้บริโภคยึดติดกับความงามที่เกินจริง

แม้นักโฆษณาหลายคนจะบอกว่ายุคนี้ต้องจริงใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการรีทัชนั้นเป็นของคู่กันของวงการแฟชั่น ความงาม และการโฆษณามาทุกยุคทุกสมัย และน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นภาพใบหน้าหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่แท้จริงของนางแบบเหล่านั้น เพราะกว่าที่ภาพจะถูกถ่ายทอดออกสู่สายตาผู้บริโภค มันก็ถูกรีทัชจนใบหน้านางแบบเนียนเรียบ ผิวก็ไม่มีจุดด่างดำให้เป็นที่ระคายสายตา

ดังนั้น เมื่อบริษัทร้านขายยาอย่าง CVS ออกมาประกาศว่า บริษัทมีนโยบายให้หยุดการรีทัชภาพนางแบบเหล่านั้นในชิ้นงานโฆษณาที่จะติดตั้งในร้านของ CVS ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป จึงเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาซัพพลายเออร์กันได้ไม่น้อย โดย Helena Foulkes ประธานของ CVS Pharmacy กล่าวถึงนโยบายนี้ของ CVS ว่า เกิดขึ้นเพราะพบความเชื่อมโยงระหว่างภาพรีทัชจนสวยเกินจริงกับค่านิยมด้านสุขภาพแบบผิด ๆ ที่สาว ๆ วัยรุ่นบางส่วนยึดถือจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ

 

โดยในปีนี้ ทาง CVS จะเริ่มต้นด้วยการใส่ลายน้ำลงไปในภาพโฆษณาที่ไม่ผ่านการรีทัช (CVS เรียกว่า Beauty Mark ไม่เรียก WaterMark) พร้อมกันนั้น ยังได้มีการกำหนดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ไม่ควรจะผ่านการรีทัช เช่น รูปร่าง, ผิว, สีของดวงตา, รอยย่นต่าง ๆ บนใบหน้า ฯลฯ และเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ทางบริษัทเตรียมออกคู่มือแนะนำเกี่ยวกับนโยบายนี้เพื่อมอบให้แก่ซัพพลายเออร์แล้ว ซึ่งเมื่อถึงปี 2020 ซัพพลายเออร์รายใดที่ไม่ปฏิบัติตาม ทางบริษัทก็จะมีข้อความพิเศษอย่าง “digitally modified” แปะให้เป็นของแถมด้วย
แน่นอนว่าภาระหนักตกอยู่ที่บริษัทอย่าง Procter & Gamble, Johnson & Johnson, Unilever, L’Oreal และ Maybelline ที่ต่างมีสินค้าวางขายอยู่บน CVS เพราะด้วยเชนร้านค้าที่มีมากกว่า 9,700 แห่ง CVS ถือว่าใหญ่มากเกินกว่าธุรกิจเหล่านี้จะปฏิเสธการวางจำหน่ายสินค้าได้
ตอนนี้ก็อดใจรอกันอีกนิด ถึงปี 2020 เมื่อไร ค่อยไปยลโฉมความงามที่แท้จริงของตลาดเครื่องสำอางกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ NBC News
 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2018/01/cvs-end-airbrush-ads-2020/

ร้านขายยา CVS ซื้อบริษัทประกันสุขภาพ คาดรับมือ Amazon ที่เตรียมรุกตลาดขายยา

ในขณะที่ Amazon มีข่าวแว่วว่าอาจจะรุกตลาดร้านขายยา CVS Health ร้านขายยารายใหญ่ในสหรัฐฯก็ออกเคลื่อนไหวบ้าง เข้าซื้อบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ Aetna ราคาอาจสูงถึง 69,000 ล้านดอลลาร์

ย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ สำนักข่าว CNBC รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า Amazon กำลังอยู่ระหว่างวิจัยตลาดขายยา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะรุกตลาดทำขายยาออนไลน์

ล่าสุด CVS Health เข้าซื้อบริษัทประกันสุขภาพ Aetna ด้วยดีลที่อาจจะสูงถึง 69,000 ล้านดอลลาร์ ทำบริการสุขภาพและประกันสุขภาพผสมผสานกันในพื้นที่ใกล้เคียงลูกค้า และบริการร้านขายยาราคาไม่แพง

ทั้ง CVS Health และ Aetna ไม่ได้ระบุถึง Amazon โดยตรง เว็บไซต์ The New York Times รายงานว่า CVS และ Aetna ได้พูดคุยกันหลายครั้งเรื่องโอกาสการแข่งขัน การตกลงทำธุรกิจร่วมกันจะช่วยให้บริษัททำเม็ดเงินได้มากไม่ใช่แค่จากการขายยา แต่ยังจากการทำบริการสุขภาพและประกันสุขภาพด้วย

No Description
ภาพจาก Facebook CVS

ที่มา – Engadget

from:https://www.blognone.com/node/97898

Citrix XenDesktop บน Nutanix: แนวทางสำหรับระบบ VDI ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

zenith_logo_w200

Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ได้กลายมาเป็นโซลูชั่นมาตรฐานสำหรับองค์กรที่ต้องการความสามารถในการบริหารจัดการและการรักษาความปลอดภัยให้แก่เครื่องลูกข่ายภายในองค์กรในระดับสูงสุดไปแล้ว และในบรรดาโซลูชั่นทั้งหมดนี้ Zenith Comp ขอแนะนำสุดยอดโซลูชั่นสำหรับ VDI ในเวลานี้ ด้วยการผสานรวมโซลูชั่นกันระหว่าง Citrix XenDesktop ที่เรียกได้ว่าเป็น VDI Software ที่ดีที่สุด ควบคู่กับ Nutanix ซึ่งเป็น Hyperconverged Infrastructure ที่ดีที่สุดในเวลานี้

nutanix_citrix_03

 

Citrix XenDesktop: ประสบการณ์ของระบบ VDI ที่ดียิ่งกว่าการใช้งาน PC จริง

Citrix เองได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน Remote Terminal และ Virtual Desktop ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เทคโนโลยี Citrix XenDesktop สามารถตอบโจทย์การใช้งาน Virtual Desktop ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

  • องค์กรที่ต้องการ Virtual Desktop สำหรับผู้ใช้งานจำนวนมากๆ ในราคาที่คุ้มค่า
  • องค์กรที่ต้องการ Virtual Desktop เฉพาะทางสำหรับผู้ใช้งานเชิงเทคนิคระดับสูง
  • องค์กรที่ต้องการ Virtual Desktop สำหรับการใช้งานผ่านเครื่อข่าย 3G/4G เป็นหลัก
  • องค์กรที่ต้องการ Virtual Desktop คุณภาพสูงที่เปิดดูไฟล์ Video/3D ได้อย่างลื่นไหล
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

ด้วยเทคโนโลยี Citrix HDX ที่ช่วยให้การส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียงจาก Virtual Desktop ไปยังเครื่องรับปลายทางที่ไม่ว่าจะเป็น Notebook, Mobile Device หรือ Thin Client ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและใช้ Bandwidth น้อยผ่านโปรโตคอลที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษอย่าง Citrix ICA ทำให้ Virtual Desktop ของ Citrix นั้นมีคุณภาพที่เทียบเท่าได้กับการใช้งาน PC จริงๆ และเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นอย่างชัดเจน เป็นจุดแตกต่างให้ Citrix สามารถให้บริการ Virtual Desktop ได้หลากหลายรูปแบบแม้ระบบเครือข่ายจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

นอกจากนี้ความสามารถในการบริหารจัดการ Virtual Desktop, Application Virtualization รวมไปจนถึงการจัดการในแง่ของ Security นั้นต่างก็ถูกผสานเข้ามาในระบบบริหารจัดการของ Citrix XenDesktop ทั้งหมดแล้ว ทำให้การตรวจสอบการทำงานและควบคุมการใช้งาน Virtual Desktop ทั้งหมดภายในองค์กร สามารถทำได้จากศูนย์กลางผ่านหน้าจอการบริหารจัดการเพียงหน้าจอเดียว

 

Nutanix: Hyperconverged Data Center แห่งอนาคต ที่ทั้งง่ายดายและทรงพลัง

Nutanix นั้นคือผู้ผลิตเทคโนโลยีของ Software Defined Infrastructure ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานระดับองค์กรได้ดีที่สุดในเวลานี้ ด้วยความสามารถในการรองรับ Hypervisor ได้หลากหลายที่สุดในตลาด ทำให้การสร้างระบบ Hyperconverged Infrastructure สามารถทำได้อย่างยืดหยุ่นตามเทคโนโลยีที่องค์กรต้องการเลือกใช้

ในภาพรวมแล้วการทำ Hyperconverged Infrastructure ของ Nutanix นั้น ทำให้ Server Hardware ของ Nutanix แต่ละตัวสามารถทำหน้าที่เป็น Server, Storage และ Network ได้ในตัว โดยระบบ Local Storage ของ Server ทั้งหมดจะทำงานผสานเหมือนเป็นระบบเดียวกันด้วย Nutanix Distributed File System (NDFS) โดยรวมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Server แต่ละตัวเข้าด้วยกัน เพื่อให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเติบโตขึ้นตามจำนวนของ Nutanix Node ที่ติดตั้ง และให้ Server แต่ละตัวทำการจัดเก็บข้อมูลสำรองของกันและกัน เพื่อเพิ่มความทนทานให้กับระบบในภาพรวม

นอกจากนี้ Nutanix เองยังได้มีการเสริม 2 เทคโนโลยีหลักลงไปอย่าง Automated Flash Tiering เพื่อให้ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดอยู่ในระดับเดียวกับ Flash Storage และเทคโนโลยี Deduplication เพื่อลดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่มีความซ้ำซ้อนลง ซึ่งส่งผลต่อการใช้งาน VDI เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าทุกๆ Virtual Machine ในระบบ VDI จะมีความเร็วเท่ากับ Flash Storage และใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลของ 1,000 Virtual Machine พอๆ กับการจัดเก็บข้อมูลเพียงไม่ถึง 10 Virtual Machine ในระบบเท่านั้น

 

Citrix + Nutanix: 1,000 Vitual Desktop ไม่ใช่ปัญหา

Citrix ได้ทำการทดสอบการทำงานของ Citrix XenDesktop ร่วมกับ Nutanix เพื่อจำลองสถานการณ์การใช้งาน VDI จำนวน 1,000 ผู้ใช้งานทั้งแบบ Hosted Virtual Desktop (HVD) และ Hosted Shared Desktop (HSD) มาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมออกเอกสารรับรองการออกแบบภายใต้ชื่อของ Citrix Validated Solutions (CVS) เพื่อรองรับการใช้ Nutanix เป็น Infrastructure สำหรับ Citrix

nutanix_citrix_02

ด้วยอิสระในการเลือกใช้งาน Hypervisor บน Nutanix ได้ทั้ง VMware vSphere, Microsoft Hyper-V และ Nutanix Acropolis ก็ทำให้องค์กรมีทางเลือกทั้งในเชิงของเทคโนโลยีและราคาให้เหมาะสมต่อทรัพยากรที่มีอยู่ได้ และในขณะเดียวกัน Citrix XenDesktop เองก็รองรับการทำงานร่วมกับ Hypervisor ทั้ง 3 ได้อย่างสมบูรณ์

การจับคู่กันครั้งนี้ทำให้การติดตั้ง VDI ไม่ใช่เรื่องยากที่กินเวลานานอีกต่อไป การตั้งค่าต่างๆ ในฝั่งของ Data Center นั้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ด้วยความเร็วในการติดตั้ง Nutanix แต่ละเครื่องที่ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ก็ทำให้การเตรียมการฝั่ง IT Infrastructure เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในขณะที่การติดตั้ง Citrix และการ Provision Virtual Desktop จำนวนมหาศาลขึ้นมานั้นก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Deduplication บน Flash Storage ของ Nutanix นั่นเอง

nutanix_citrix_01

ไม่เพียงแต่ประเด็นเรื่องของความเร็วและความง่ายเท่านั้น Nutanix และ Citrix ต่างก็รองรับการเพิ่มความทนทานให้กับระบบ VDI ด้วยการเสริมความสามารถในการทำ High Availability และ Disaster Recovery พร้อมการทำ Backup เข้าไปด้วยภายในระบบเดียว ทำให้กลายเป็นโซลูชั่นที่มีความสมบูรณ์พร้อมในตัว และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถค่อยๆ ทะยอยเพิ่มทั้งปริมาณของ VDI และความสามารถต่างๆ ที่ต้องการเข้าไปในภายหลังได้ตามความพร้อมขององค์กร โดยยังคงบริหารจัดการระบบทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง

 

ลงทะเบียนเข้าร่วม Workshop กับทาง Citrix และ Nutanix กันได้ทันที

ทาง Zenith Comp ได้จับมือกับทาง Citrix และ Nutanix จัดงาน Workshop ภายใต้หัวข้อ “Virtual Desktop Make It Simple” ขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2016 ที่จะถึงนี้ เพื่อเจาะลึกกับการสร้างระบบ Virtual Desktop Infrastructure กันง่ายๆ ด้วยเทคโนโลยีจากทั้ง Citrix และ Nutanix ร่วมกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ทันทีในแบบฟอร์มต่อไปนี้

 

ติดต่อ Zenith Comp ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชั่น VDI จาก Citrix และ Nutanix สามารถติดต่อทีมงาน Zenith Comp ได้ทันทีที่ Nutanix@zenithcomp.co.th หรือติดต่อคุณวลัยพร 084-173-7268

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/citrix-xendesktop-on-nutanix-the-best-vdi-solution-by-zenithcomp/