[คลิป] Samsung ปล่อยคลิปให้ดูว่าสายชาร์จควรเอาไว้ทำอะไรต่อจากนี้

ต้นทาง: [คลิป] Samsung ปล่อยคลิปให้ดูว่าสายชาร์จควรเอาไว้ทำอะไรต่อจากนี้

อย่างที่เราทราบกันดีว่าใน Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge นั้น จะมาพร้อมกับการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าต่อจากนี้ไปสายชาร์จทั้งหลายแหล่ที่เรามีอยู่นั้นจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วนั่นเองครับ ในคลิปนี้ที่ทาง Samsung ปล่อยออกมาจีงแสดงให้เราเห็นถึงการนำสายชาร์จที่เรามีอยู่ไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์แทนครับ

โดยในคลิปนั้นจะเป็นการนำสายชาร์จโทรศัพท์ไปถัก Knitting เป็นกระเป๋าบ้าง ไปทำเปลวางในสวนก็สวยไปอีกแบบกันเลยทีเดียวครับ โดยมีป้ายติดไว้ที่เปลด้วยนะครับว่า “๊Use our cables to recharge yourself. We don’t need them anymore” ซึ่งก็แปลได้ประมาณว่า “เอาสายชาร์จของเราไปชาร์จพลังให้ตัวคุณเองเถอะ เราไม่ต้องใช้มันในการชาร์จแบตอีกต่อไปแล้ว” ถือเป็นไอเดียดีๆที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมใหม่ที่เข้ามาและทำให้สายเคเบิ้ลที่ใช้ในการชาร์จโทรศัพท์ของเราต้องจากไปได้ดีทีเดียวครับ นอกจากนี้ทาง Samsung ยังให้รายละเอียดไว้ด้วยนะครับว่าเจ้าเปลที่ทำให้เห็นในคลิปนั้นใช้สายชาร์จไปประมาณ 150 เส้นครับ

ลองไปชมคลิปด้านล่างกันได้เลยครับ แต่จะว่าไปไม่แน่ก็อาจจะมีคนทำแบบนี้เพื่อหารายได้เสริมจริงๆก็ได้นะครับในอนาคต เพราะผมเองยังแอบคิดเลยว่ามันก็เก๋ไปอีกแบบครับ

 

ที่มา : phonearena

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/06/03/samsung-video-shows-you-what-to-do-with-all-of-those-charging-cables-that-you-dont-need.html

Zolt Laptop Charger Plus แท่นชาร์จขนาดพกพาที่สามารถชาร์จได้ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คยันสมาร์ทโฟน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเบื่อกับการพกแท่นชาร์จของอุปกรณ์หลายๆ อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันแล้วหล่ะก็เราขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ Zolt Laptop Charger Plus แท่นชาร์จอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานในการชาร์จได้ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คยันสมาร์ทโฟนครับ ด้วยขนาดของ Zolt Laptop Charger Plus ที่สูง 3 นิ้ว หนัก 85 g มาพร้อมกับช่องเชื่อมต่อแบบ USB 3 ช่อง ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าที่มีกำลังไฟได้สูงสุดที่ 70 W ทำให้รองรับกับการชาร์จโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับที่ชาร์จที่มีกำลังไฟ 60 W – 65 W ซึ่งวางจำหน่ายอยู่ในตลาดได้อย่างสบาย

เมื่อเสียบ Zolt Laptop Charger Plus เข้ากับปลั๊กไฟแล้วสามารถที่จะทำการหมุนไปมาได้ 90 องศา ทำให้สามารถที่จะปรับตำแหน่งของตัวสายไฟให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมไม่บดบังช่องเสียบไฟอื่นๆ ได้ ช่อง USB สำหรับเสียชาร์จนั้นก็จะมี 1 ช่องที่เอาไว้จ่ายไฟที่กำลังสูงสำหรับการชาร์จโน๊ตบุ๊คโดยตรง ส่วนอีก 2 ช่องนั้นจะรองรับการส่งไฟฟ้าที่กำลังไฟต่ำกว่าสำหรับเอาไว้ชาร์จแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน(รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ) โดยคุณสามารถที่จะชาร์จอุปกรณ์ถึง 3 อุปกรณ์ได้ในเวลาเดียวกันครับ

ในชุด Zolt Laptop Charger Plus ที่มีราคา Pre-order อยู่ $79 หรือประมาณ 2,610 บาทนั้นจะมาพร้อมกับสายชาร์จ USB ความยาว 6 ฟุต ซึ่งจะรองรับกับการใช้งานโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่ถ้าคุณต้องการที่จะชาร์จ MacBook Airs และ MacBook ของทาง Apple คุณก็ต้องสั่งชุดที่เป็นตัวเลือก “L” type MagSafe connectors และ MagSafe 2 connector ซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก $20 หรือประมาณ 660 บาท

หมายเหตุ – Zolt Laptop Charger Plus ยังไม่รองรับการชาร์จ MacBook Pro และ MacBook 12″ early 2015 แต่ทางผู้ผลิตกำลังพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวได้อยู่ครับ

สำหรับทางด้าน Microsoft นั้น Zolt Laptop Charger Plus ก็ยังไม่สามารถที่จะใช้ในการชาร์จกับ Surface Pro 3 ที่ใช้สายชาร์จแบบ proprietary charging cable ได้ครับ แต่ถ้าเป็นกับ Surface 3 แล้วหล่ะก็ Zolt Laptop Charger Plus สามารถที่จะใช้งานได้อย่างปกติไม่มีปัญหาครับ(เพราะชาร์จผ่านทาง MicroUSB)

สำหรับท่านใดที่สนใจ Zolt Laptop Charger Plus สามารถที่จะเข้าไปสั่ง Pre-order ได้ที่ Zolt Laptop Charger Plus ได้เลยครับ โดยทางผู้ผลิตจะเริ่มส่งของในช่วงปีนี้(แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นช่วงใด) โดยทาง Cnet บอกครับว่า Zolt Laptop Charger Plus นั้นน่าสนใจกว่า Finsix Dart ที่มีหลักการทำงานคล้ายกันมาก ยังไงรีบตัดสินใจตอนนี้ก็จะดีนะครับ เพราะถ้าคุณไม่ตัดสินใจ pre-order ตอนนี้ เมื่อ Zolt Laptop Charger Plus วางขายอย่างเป็นทางการจะมีราคาเพิ่มไปเป็น $99 หรือประมาณ 3,300 บาทครับ

ที่มา : cnet

from:http://notebookspec.com/the-79-zolt-laptop-charger-plus-offers-power-in-a-small-package/295684/

Sony Xperia Z3+ เสียบปลั๊กแค่ 10 นาทีใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง 30 นาที ด้วย Quick Charger UCH10

ด้วยการที่ Sony Xperia Z3+ นั้นรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบรวดเร็วของ Qualcomm Quick Charge ทาง Sony เลยเปิดตัวอุปกรณ์ชาร์จที่มีชื่อว่า Quick Charger UCH10 ที่ได้ใบรับรอง Qualcomm Quick Charge 2.0 ในการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 10 นาทีสามารถใช้งานตัวเครื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมง 30 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใช้เวลาชาร์จราว 45 นาทีก็จะสามารถใช้งานตัวเครื่องได้ตลอดทั้งวันแล้ว

ซึ่งทาง Sony ยืนยันว่าที่ชาร์จรุ่นนี้รองรับเฉพาะ Xperia Z3+ (E6553) รุ่นซิมเดียวเท่านั้น และยังไม่ทราบว่าด้วย Sony จะแถม Quick Charger UCH10 มาในชุดจำหน่ายด้วยหรือไม่ แต่ถึงแม้จะจำหน่ายก็ดูแล้วน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

ที่มา – xperiablog

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=120488

[ข่าว] iPhone ระเบิด!! จนเกิดไฟไหม้บ้าน เจ้าของได้รับแผลไฟไหม้ระดับ 3 เชื่อเกิดจากสายชาร์จร้อนเกินไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง 4 ทุ่มครึ่งคืนวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว จากนั้นประมาณเที่ยงคืนผู้ให้สัมภาษณ์ พ่อของผู้ประสบเหตุได้สะดุ้งตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัย 16 ปีดังออกมาจากห้องของเขา เขาจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปดูว่าด้วยสาเหตุใดลูกชายของเขาจึงร้องเสียงดังได้ขนาดนั้น และสิ่งที่เค้าเข้าไปพบก็คือห้องของลูกชายเค้าเริ่มมีไฟลุกไปทั่วห้อง ทั้งบนเตียงและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆในห้องกำลังไหม้ แต่โชคยังดีที่ไฟนั้นยังลุกได้ไม่นานนัก ก่อนที่บ้านจะไหม้ไปทั้งหลังพวกเค้าจึงตัดสินใจที่จะดับไฟด้วยตัวเองก่อนขณะที่รอความช่วยเหลือจากรถดับเพลิง ด้วยการนำน่ำจากห้องน่ำและใช้เครื่องดับเพลิงในการดับไฟที่กำลังลุกไหม้ก่อนที่จะพากันวิ่งออกจากบ้าน

 

 

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 3 บริเวณขาขวา และในส่วนอื่นๆของร่างกาย นอกจากนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้เป็นพ่อได้กล่าวว่า “ถึงอาการจะไม่ได้สาหัสนัก แต่ตอนนี้เค้าอยู่ในอาการสั่นไปทั้งตัวด้วยหวาดกลัว” และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดขึ้น มันทำให้เราทั้งบ้านรู้สึกกลัวมากๆ

โดยสาเหตุที่เกิดไฟไหม้นั้นตอนนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนอยู่แต่คาดว่าต้นตอของไฟไหม้ในครั้งนี้นั้น เกิดจากการใช้สายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อในปั้มน้ำมันที่เกิดความร้อนมาเกินไปจนเป็นเหตุให้ไฟเริ่มลุกใหม่ขึ้นมาในห้องนั่นเองครับ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางครอบครัวของผู้ประสบเหตุได้ฝากมาเตือนไว้ว่า ทางที่ดีในการชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างๆควรทำในขณะที่คุณตื่น และควรใช้อุปกรณ์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน มิเช่นนั้นเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดกับครอบครัวหรือคนที่คุณรักก็เป็นได้ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของครอบครัวเรา และเราไม่อยากเห็นใครต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์อันเลวรายแบบนี้อีก

 

 

ที่มา : Globenews

from:http://www.appdisqus.com/2015/05/15/alberta-teen-suffers-third-degree-burns-after-cellphone-overheats-catches-fire.html

ปั่นไป ชาร์จมือถือไปด้วย USB Wheel-Powered Gadget Charger for Bikes จากญี่ปุ่น (ชมคลิป)

เว็บไซต์ Akihabara News ได้พูดถึง Gadget ตัวใหม่ในญี่ปุ่นที่ชื่อว่า USB Wheel-Powered Gadget Charger for Bikes สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยจักรยานบ่อยๆ และต้องการชาร์จสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือของคุณไปด้วย

โดยเจ้า Gadget ชิ้นนี้จะติดตั้งเข้ากับล้อหลังของจักรยานเพื่ออาศัยการปุ่นและแปลงเป็นไฟฟ้าส่งผ่านมาทางสาย USB ที่เป็นเต้าเสียบ และใช้สายชาร์จของมือถือที่มีหัว USB มาเสียบเพื่อชาร์จมือถือของคุณ โดยมีราคา 4,980 เยนหรือประมาณ 1,400 บาท เรียกได้ว่าพลังงานไม่สูญเปล่าเลยทีเดียว

ที่มา –  akihabaranews

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=118675

IKEA เตรียมปล่อยเฟอร์นิเจอร์มีที่ชาร์จไร้สายในตัว

IKEA คงเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่มีสไตล์ สวยงาม และเชื่อว่าคงป็นร้านประจำของใครหลายๆคนที่มองหาเฟอร์นิเจอร์มาใช้ในบ้าน เมื่อเร็วๆนี้ทาง IKEA ได้ออกมาประกาศว่า กำลังจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่ผสมผสานการชาร์จด้วยพลัง Qi (ชี่) หรือพูดง่ายๆว่าเป็นการชาร์จแบบไร้สายนั่นเอง และจะวางจำหน่ายในไม่ช้านี้ให้ผู้ที่เกลียดความน่ารำคาญของสายชาร์จได้หาจับจองกัน

เพราะทาง IKEA ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากๆ จากแบบสำรวจตามบ้านต่างๆ IKEA พบว่าผู้อาศัยในบ้านนั้นค่อนข้างจะไม่ชอบให้มีสายไฟระโยงระยางเต็มบ้านไปหมด เพราะฉะนั้นจะเป็นการดีเสียกว่าถ้าทาง IKEA สามารถช่วยลดจำนวนการใช้สายไฟในบ้านอย่างสายชาร์จโทรศัพท์ไปได้

คาดการณ์ว่าทาง IKEA จะออกมาประกาศอีกครั้งว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในวันไหนของเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ แต่เฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้เห็นนี้จะเป็นพวก โต๊ะข้างเตียง หรือโคมไฟก่อนและ อาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเซ็ตขายด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามทาง IKEA ยังแจ้งมาอีกว่าหากทางผู้ซื้อต้องการจะให้ใส่ที่ชาร์จไร้สายนี้ในเฟอร์นิเจอร์ตัวอื่นก็ได้ด้วยครับ

IKEA คงกำลังดูท่าทีหรือฟีดแบคของผู้บริโภคอย่างเราๆก่อนว่าจะได้รับผลตอบรับกลับมาในแง่ดีหรือเปล่า จึงเลือกผลิตไปที่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆอย่างโคมไฟ หรือโต๊ะข้างเตียงก่อนครับ ส่วนในอนาคตเราคงต้องมาดูรอกันว่า IKEA จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้แค่ไหนครับ

from:http://www.appdisqus.com/2015/03/01/ikea-qi-charging.html

สั้นเสร็จไว ยาวเสร็จช้า จริงหรือไม่? ทดสอบสาย USB กับการชาร์จไฟ

 

      เห็นใครๆก็ชอบบอกกันว่า “สั้นๆจะเสร็จไว ยาวๆจะเสร็จช้า” ไอ้ผมก็ขี้สงสัยด้วยสิว่าขนาดสั้นยาวมันมีผลต่อการเสร็จช้าหรือไวด้วยหรือ หรือว่าจะสั้นยาวแค่ไหนก็ไม่เกี่ยว อาจจะเสร็จพร้อมๆกันก็เป็นได้? ดังนั้นผมจึงขอทำหน้าที่ทดสอบหน่อยดีกว่า

      อ๊ะๆ อย่าพึ่งคิดลึกและไปไกลยิ่งกว่านี้ ที่ผมพูดถึงเรื่องสั้นๆยาวๆ ผมหมายถึงสาย USB นะเออ เพราะใครๆก็บอกกันว่าสาย USB สั้นๆจะช่วยให้ชาร์จได้ไวกว่าสาย USB ยาวๆ ดังนั้นผมจึงลองทดสอบดูว่าระยะสาย USB ที่ต่างกันเนี่ย มันมีผลจริงๆหรือไม่ และมีผลต่างกันมากน้อยแค่ไหน?

      ในการทดสอบผมจะใช้เจ้า Doctor Charger ซึ่งเป็นอุปกรณ์วัดแรงดันและกระแสไฟฟ้าจาก USB อย่างง่ายๆ 

 

        และอะแดปเตอร์ที่ใช้จะเป็นอะแดปเตอร์ที่มากับ Moto X โดยมีสเปคคือจ่ายแรงดันได้ 5V กระแส 1.2A (~1,150 mA)

 

      เวลาใช้งานก็จะเสียบแบบนี้เลย

 

สาย USB ที่ใช้ทดสอบ

      สำหรับสาย USB ที่ใช้ทดสอบจะมีด้วยกันสามขนาดด้วยกันคือ

      สาย USB แบบสั้น (30cm)

 

      สาย USB แบบกลาง (1m)  

      สาย USB แบบยาว (1.5m)

 

      และเวลาถ่ายภาพตอนทดสอบอาจจะไม่ได้เห็นระยะสายทั้งหมด ดังนั้นให้สังเกตจากหัวของสาย USB นะครับ เพราะว่าทั้ง 3 เส้นที่ผมนำมาทดสอบจะมีลักษณะแตกต่างกัน

 

เครื่องที่ใช้ทำการทดสอบ

      เครื่องที่ใช้ทดสอบจะเป็น Nexus 6 ที่มีแบตอยู่ 50% กำลังพอดี ไม่ต่ำและไม่สูงเกินไป

 

เริ่มการทดสอบ

         เริ่มจากสายแบบสั้นก่อนเลย

 

      ตามด้วยสายแบบกลาง

 

        และจบท้ายด้วยสายแบบยาว

 

      จะเห็นว่าสายแบบสั้นกับแบบกลางไม่ต่างกันซักเท่าไร เพราะชาร์จได้เต็มๆทั้งคู่ ในขณะที่สายแบบยาวนั้นชาร์จได้ต่ำจนเห็นได้ชัด

      เนื่องจากบทความมันสั้นเกินไป ไม่ถูกโฉลกกับผมซักเท่าไร ผมก็เลยลองเอาสายพ่วง USB ยาว 1 เมตรมาต่อพ่วงให้มันยาวขึ้นอีกดีกว่า 

 

      ลองวัดดูใหม่อีกครั้ง

      สายแบบสั้น+สายพ่วง

 

      สายแบบกลาง+สายพ่วง

 

      สายแบบยาว+สายพ่วง

 

ผลสรุป

      เมื่อทดลองเสร็จแล้ว ลองสรุปค่าที่วัดได้ก็จะออกมาเป็นแบบนี้

      จะเห็นว่ายิ่งยาวก็ยิ่งเสร็จช้า เอ้ย ใช้เวลาชาร์จแบตนานขึ้นจริงๆนั่นแหละ เพราะกระแสไหลได้น้อย ทั้งนี้ก็เพราะว่าทองแดงที่อยู่ในสายไฟนั้นไม่ได้เป็นตัวนำไฟฟ้าที่บริสุทธิ์ผุดผ่องมานัก แต่จะมีความต้านทานไฟฟ้าอยู่เล็กน้อยด้วย ซึ่งสายระยะสั้นๆก็ไม่ได้มีปัญหาซักเท่าไรเนื่องจากมีผลค่อนข้างน้อย แต่เมื่อสายมีระยะที่ยาวมากขึ้นก็จะส่งผลให้ทองแดงยาวขึ้นด้วย จึงทำให้มีความต้านทานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ผลที่เกิดขึ่้นก็คือกระแสไหลได้น้อยลงนั่นเอง~

      สำหรับการทดลองนี่อาจจะมีการคลาดเคลื่อนเล็กน้อยเนื่องจากไม่ได้ต้องการวัดให้แม่นยำ และไม่ได้เน้นไปที่คุณภาพของสาย เพียงแค่อยากจะแสดงให้เห็นว่าการใช้สาย USB ยาวๆมันทำให้ชาร์จไฟได้ช้าขึ้นแต่ว่าช้ามากน้อยขนาดไหนนั่นเอง

 

        ปล.จะเสร็จเร็วหรือเสร็จฃ้ามันอยู่ที่เทคนิคต่างหากล่ะ #ผิด

 

from:http://droidsans.com/usb-cable-charge-testing

ibattz สุดยอดแบตสำรอง ชาร์จ iPhone 6 ที่แบตหมดเกลี้ยงให้เต็ม 100% ได้ใน 15 นาทีเท่านั้น

ภายในงาน CES 2015 ก็ผู้ผลิตแบตเตอร์สำรองหรือ Power Bank สำหรับอุปกรณ์พกพาได้เปิดตัวแบตเตอร์สำรองรุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า ibattz ASAP Charger ชูจุดเด่นที่สามารถชาร์จ iPhone 6 ที่แบตเตอรี่จาก 0% ให้เต็ม 100% ได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วกว่าทั่วไปถึง 10 เท่าทีเดียว ซึ่งผู้ผลิตจะวางจำหน่าย 2 รุ่นคือความจุ 5,600mAh และ 11,200mAh โดยยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายทางการออกมา

ที่มา – engadget

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=110624

มาทำความรู้จักกัน Qualcomm Quick Charge 2.0 กันเถอะ~

   หลายๆคนอาจจะพึ่งเคยได้ยินกับเทคโนโลยีตัวนี้ และก็น่าจะมีคนที่เคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ในวันนี้ก็ขอหยิบยกเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้มาเล่าสู่กันฟังเสริมความรู้สร้างสุขลักษณะนิสัยกันดีกว่า (ไม่น่าใช่นะ…) ว่ามันคืออะไร เอาไว้ทำอะไร และมีดีเยี่ยงไร

 

“แบตเตอรี” มีเท่าไรก็ไม่เคยพอ

    สำหรับในยุครุ่งเรืองของ Smart Device ในทุกวันนี้เรียกด้ว่า ใครๆก็ใช้ Smartphone หรือ Tablet กันแทบทุกคน และก็ต้องบอกว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าสะดวกสะบายเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม คุย ทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็เล่นเกม (ซ้ำเว้ย!) แต่สิ่งนึงที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นผู้ใช้ทุกๆคนอยู่ นั่นก็คือ “แบตเตอรี” นั่นเอง 

    เครื่องยิ่งแรง จอยิ่งใหญ่ยิ่งชัด ฮาร์ดแวร์ครบครันก็ย่อมซดแบตเตอรีอยู่แล้ว อันนี้ทุกๆคนก็รู้กันดี ซึ่งในทุกวันนี้ ถึงแม้จะบอกว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่ความต้องการของมนุษย์ก็ย่อมไม่สิ้นสุดนั่นแหละ ก็อยากได้แรงกว่านี้ จอคมชัดกว่านี้และแบตเยอะกว่านี้ (แต่ก็ดันอยากได้เครื่องบางด้วย) 

    เมื่อแบตเยอะก็หมายความว่าต้องชาร์จนานยิ่งขึ้นนั่นเอง นึกถึงสมัยที่ใช้แบตไม่ถึง 2,000 mA กันที่ชาร์จแค่สองชั่วโมงก็เต็มแล้ว แต่ในสมัยนี้กลับใช้เวลาชาร์จนานยิ่งขึ้น (เมื่อเทียบกับอะแดปเตอร์ที่ชาร์จด้วยกระแสเท่าเดิม) อย่างเช่นเจ้าของบล็อกใช้ Nexus 10 ที่มีแบตเตอรี 9,000 mAh ต่อให้ชาร์จด้วยกระแส 2A ก็ตามทีเถอะ ผลก็คือใช้เวลาอย่างน้อยก็เกือบ 5 ชั่วโมงเสียแล้ว

    ดังนั้นผู้ใช้บางคนนอกจากประสบปัญหาแบตเตอรีไม่ค่อยพอใช้งาน (เล่นทำไมตั้งเยอะแยะ XD) ก็ยังมีปัญหาต้องรอชาร์จแบตเตอรีให้เต็มก่อนเอาไปใช้งาน ซึ่งผมก็เจอปัญหาแบบนี้อยู่ประจำ เสียบชาร์จไว้ไม่ทันเต็มก็ต้องถอดออกแล้วออกไปทำธุระข้างนอกเสียแล้ว จึงทำให้ไม่กล้าใช้งานเครื่องอย่างเต็มที่เพราะกลัวแบตฯหมดกลางคัน 

 

Qualcomm Quick Charge คืออะไร?

    ทาง Qualcomm ก็มองเห็นถึงปัญหานี้มานมนานแล้ว จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Quick Charge ใส่ลงไปในชิป Qualcomm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรีได้ไวขึ้นมากกว่าเดิม โดยมี Concept ง่ายๆว่า 

“Less time charging. More time doing.”

 

     โดย Quick Charge 2.0 นั้นมีการพัฒนาขึ้นจาก Quick Charge 1.0 เป็นอย่างมาก โดยจากการทดสอบกับแบตเตอรีความจุ 3,300 mAh ก็พบว่าการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ปกติ (5V 1A) ในเวลาครึ่งชั่วโมงจะชาร์จได้เพียง 12% เท่านั้น ส่วนอะแดปเตอร์ที่รองรับ Quick Charge 1.0 (5V 2A) สามารถชาร์จได้ไวขึ้นเป็น 30% แต่ถ้าใช้อะแดปเตอร์ที่รองรับ Quick Charge 2.0 (9V 2A) จะทำให้ชาร์จเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแต่ชาร์จได้ถึง 60% เลยทีเดียว~!!

 

ใช้สาย Micro USB เฉพาะตัวหรือป่าว? 

    ไมจำเป็นต้องใช้สายเฉพาะ ขอแค่เป็นสาย Micro USB ที่สามารถทนแรงดันและกระแสที่อะแดปเตอร์จ่ายได้ก็พอ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

อะแดปเตอร์ 9V? ชาร์จกับแบตเตอรีของ Smart Device ได้ด้วยหรือ?

    อันนี้ขอให้อ่านแล้วจงทำความเข้าใจด้วยนะครับ ขอเตือนไว้ก่อน เพราะไม่ใช่ว่าเอาอะแดปเตอร์ 9V อะไรก็ได้มาเสียบแล้วชาร์จได้เลยนะ แต่จะต้องเป็นอะแดปเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 ถึงจะทำแบบนี้ได้เท่านั้น เพราะงั้นอย่ามั่วซั่วซีซั๊วหยิบอะแดปเตอร์ 9V ธรรมดาๆไปเสียบชาร์จล่ะ (อาจจะบึ้มกันเลยทีเดียว~)

    ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะว่าชิป Qualcomm ที่มีความสามารถในการ Power Management ที่แรงดันมากกว่า 5V ได้ เพื่อให้การชาร์จนั้นทำได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้เครื่องมีอันตราย และก็ไม่ได้รองรับแค่ 9V เท่านั้นนะ แต่รวมไปถึง 6V หรือ 12V ด้วยล่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ตัวนั้นๆนั่นเอง ซึ่งเมื่อก่อน Quick Charge 1.0 จะไม่รองรับแรงดันต่างๆแบบนี้ จะเน้นไปที่กระแสในการชาร์จเสียมากกว่า

 

อะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ใช้กับเครื่องที่ไม่รองรับได้มั้ย?

    ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าถ้าซื้ออะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 มาใช้ แล้วเครื่องอื่นๆจะไม่รองรับ เพราะว่าเมื่อใช้กับมือถือทั่วไปที่ชาร์จแบบปกติ ตัวอะแดปเตอร์ก็จะจ่ายแรงดัน 5V ออกมาแทน (กระแสต่างกันไปตามสเปคของอะแดปเตอร์) ยกตัวอย่างเช่น 

    KDDI AU AC Adapter 05 ที่รองรับ Quick Charge 2.0 แต่ตัวสเปคของอะแดปเตอร์ตัวนี้จะสามารถจ่ายไฟที่แรงดันและกระแสแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ได้ดังนี้

• แรงดัน 5V กระแส 1.8A
• แรงดัน 9V กระแส 1.8A
• แรงดัน 12V กระแส 1.35A

    ถ้าอุปกรณ์ที่ชาร์จไม่รองรับ Quick Charge 2.0 ตัวอะแดปเตอร์ก็จะจ่ายไฟเป็น 5V 1.8A ให้แทน แต่ถ้าเครื่องรองรับก็จะจ่าย 9V หรือ 12V ให้ (ขึ้นอยู่กับเครื่องว่ารองรับแรงดันตัวไหน)

    แต่ก็จะมีหลายๆตัวที่ไม่ได้ระบุสเปคไว้ในหน้าเว็ปชัดเจน แต่น่าจะมีอยู่ในกล่องหรือเขียนติดไว้ที่ตัวอะแดปเตอร์ล่ะนะ อย่างเช่น Motorola Turbo Charger ที่บอกแค่ว่า 15W จึงไม่แน่ใจว่ารองรับแรงดัน 9V กับ 12V หรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือ 5V 3A และถ้ารองรับ 12V (คาดเดา) ก็จะเป็น 12V 1.25A

    ดังนั้นไม่ว่าเครื่องจะรองรับหรือไม่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะอะแดปเตอร์จะเป็นตัวจัดการให้เอง (ถึงบอกว่าอะแดปเตอร์ทั่วๆไปใช้ไม่ได้นั่นเอง)

 

 Smart Device ตัวไหนที่รองรับ Quick Charge 2.0 บ้าง?

    ขอแสดงความยินดีกับผุ้ใช้เครื่องที่เป็น Qualcomm Snapdragon ตระกูล 200, 400, 600 และ 800 รุ่นหลังๆด้วยนะครับ เพราะว่าทุกตัวจะมี Quick Charge 2.0 เกือบทั้งหมด (พวกรุ่นแรกๆจะได้แค่ 1.0 ) แต่ก็จะมีแค่ไม่กี่ตัวที่ Full Feature Supported หรือก็คือรองรับ Quick Charge 2.0 แบบเต็มรูปแบบ (รองรับความเร็วสูงสุดที่อะแดปเตอร์จ่ายให้ได้) ซึ่งจะมีดังนี้

• Fujitsu Arrows NX
• HTC Butterfly 2
• HTC One M8
• Moto X 2014
• Samsung Galaxy Note 4
• Samsung Galaxy Note Edge
• Samsung Galaxy S5 (Japan)
• Sharp Aquos Zeta
• Sony Xperia Z2
• Sony Xperia Z3
• Sony Xperia Z3 Compact
• Xiaomi Mi3
• Xiaomi Mi4
• Sharp Aquos Tab
• Sony Xperia Z2
• Sony Z3 Tablet Compact

    ปล1. นอกเหนือจากนี้จะรองรับ Quick Charge 2.0 แต่รองรับแต่บางระดับเท่านั้น

    ปล2. ของ Samsung จะมีหลาย Model CPU ดังนั้นจะมีแค่ตัวที่ใช้ CPU Qualcomm เท่านั้นที่รองรับ

    ปล3. Moto X 2013 ของผมเป็น Qualcomm Snapdragon S4 Pro ฮืออออออออออออออออออออออออออ

  

อะแดปเตอร์พวกนี้หาซื้อได้จากที่ไหนบ้าง?

    ต้องบอกว่าไม่มีค่ายมือถือหลักๆที่ทำอะแดปเตอร์สำหรับ Quick Charge 2.0 เลย…. และบริษัทที่ทำก็เป็นต่างประเทศกันซะหมด ดังนั้นก็คงต้องบอกว่า “นำเข้าเอง” หรือ “สั่ง Ebay” ละกันนะครับ โดยมีดังนี้

• KDDI AU AC Adapter 05
• Motorola Tur Charger
• MYY Docomo AC Adapter 05
• Power Partners AC Adapter
• Powermod Car Charger
• Powermod Wall Charger
• Puregear Car Charger
• Puregear Wall Charger
• Ventev dashport q1200
• Ventev wallport q1200
• Verus Peripheral

 

     สำหรับอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ที่ยังไม่วางจำหน่าย

• Dongguan Aohai Power Technology A58-502000
• Incipio Single Port USB Car Charger
• Xiaomi MDY-3-EB

  

VOOC Rapid Charge ใน OPPO Find 7 กับ 7A คือ Quick Charge 2.0 หรือไม่?

    เพื่อไม่ให้สับสนนะครับ เลยเพิ่มหัวข้อนี้เข้ามาด้วย เพราะว่า OPPO ได้เปิดตัว VOOC มาก่อนที่จะรู้จักกับ Quick Charge 2.0 เสียอีก ซึ่ง VOOC จะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ OPPO ที่ใช้อะแดปเตอร์ 5V 4.5A ซึ่งเป็นอะแดปเตอร์กระแสสูงนั่นเอง และบังคับว่าต้องใช้กับสาย Micro USB พิเศษที่ทำมากับตัวเครื่องโดยเฉพาะ เพราะจะมีขั้ว 7 ขาสำหรับ Rapid Charge นั่นเอง

 

  

ความสามารถของ Fast Charging บน Samsung Galaxy Note 4 ก็คือ Quick Charge 2.0 

    เนื่องจาก Speaker ในงานเปิดตัวของ Samsung Galaxy Note 4 ได้กล่าวไว้ว่า Samsung Galaxy Note 4 สามารถชาร์จแบตเตอรีได้ไวกว่ารุ่นก่อนๆ โดยชาร์จจาก 0% ถึง 50% ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงสำหรับการชาร์จแบตเตอรีของเครื่องที่มีความจุ 3,220 mAh ซึ่งนั่นก็คือ Quick Charge 2.0 ที่อยู่ในรุ่นที่ใช้ CPU ของ Qualcomm Snapdragon 805 นั่นเอง

     ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็น Feature ที่เอาความสามารถที่มีอยู่แล้วมานำเสนอให้น่าสนใจนั่นเอง โดยอะแดปเตอร์ที่ให้มาก็จะเป็นแบบ 5V 2A สำหรับชาร์จธรรมดาและ 9V 1.67A สำหรับ Quick Charge 2.0

 

 

ความลับในการชาร์จแบตเตอรีบน Smart Device

    จะเห็นว่าการนำความสามารถ Quick Charge 2.0 มาใช้งานนั้นไม่มีผลต่อสาย Micro USB แบบ OPPO ที่ต้องใช้ขั้วในการ Interfaced ข้อมูลถึง 7 ขา ในขณะที่ Quick Charge 2.0 ใช้สาย Micro USB ทั่วไปที่มี 5 ขา ได้เลย เพราะในความเป็นจริงนั้นการชาร์จแบตเตอรีจะมีการเช็คข้อมูลก่อนจะชาร์จเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะ Request ไปยังอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ได้ว่ารองรับการชาร์จดังกล่าวเพื่อให้อะแดปเตอร์จ่ายไฟออกมาสำหรับการชาร์จแบบ Quick Charge 2.0 นั่นเอง ดังนั้นหัวใจสำคัญก็จะอยู่ที่ตัวอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 กับชิป Qualcomm ที่มี Power Management สำหรับ Quick Charge 2.0 

    ถ้าใครเป็นนักเล่นเครื่องบินบังคับก็จะน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าแบต Li-ion สามารถชาร์จกระแสสูงๆได้อยู่แล้ว โดยที่เรียกกันว่า Fast Charge ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Quick Charge 2.0 หรือ VOOC ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นการทำระบบการชาร์จให้ไวยิ่งขึ้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานนั่นเอง

 

Qualcomm Quick Charge 2.0 มีความอันตรายมากแค่ไหน?

    ถ้าให้ผมตอบเองก็คงบอกได้แค่ว่า ไม่รู้ เพราะไม่ได้ลอง (เครื่องยังไม่รองรับเลย) แต่จากเว็ปไซต์ของทาง Qualcomm เองก็ได้มีการ Testing และมี Certification เพื่อยืนยันว่า Quick Charge 2.0 สามารถทำให้ชาร์จได้ไวขึ้น เร็วขึ้น โดยที่ผู้ใช้ยังสามารถเล่นมือถือในระหว่างการชาร์จได้ ซึ่งผมก็มั่นใจว่า Qualcomm สามารถ Management กับ Quick Charge 2.0 ได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว (ถ้าไม่ไปพิเรณทำอะไรแปลกๆเอง)

    อ่านได้จาก Qualcomm Quick Charge 2.0 Testing and Certification

  

    สุดท้ายนี้ก็ขอทิ้งท้ายด้วยวีดีโอนำเสนอ Quick Charge จาก Qualcomm 

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

• http://www.qualcomm.com
• http://industries.ul.com
• http://www.androidauthority.com
• http://pocketnow.com

 

from:http://droidsans.com/introducing-qualcomm-quick-charge-2

เกาหลีใต้ผุดโปรเจคเปลี่ยนพลังงานน้ำเป็นไฟฟ้าไว้ชาร์จแบตเตอรี่ที่กรุงโซล

สภาเมืองโซลประเทศเกาหลีใต้ประกาศว่าอยู่ในช่วงกำลังสร้าง Recharging station ซึ่งจะใช้น้ำที่ไหลผ่าน คลองชองเกซอนซึ่งมนุษย์ได้สร้างขึ้นและใช้น้ำที่ไหลผ่านไปปั่นกังหันเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้น โดยผู้พัฒนาโปรเจคนี้กล่าวว่า Recharging station ดังกล่าวจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ซึ่งถ้าโปรเจคดังกล่าวได้รับผลการตอบรับที่ดีก็มีโอกาสที่ทางเมืองโซลจะสร้างสถานีชาร์จพลังงานแบบนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ที่มา – engadget

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=99683