[PR] ทรูมูฟ เอช จับมือ LINE Play ครั้งแรก

ทรูมูฟ เอช ประกาศย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ ด้วยการร่วมมือกับ LINE เปิดตัว TrueMove H Brand Room บนแอพพลิเคชั่น LINE Play สุดพิเศษ โดยพระเอกหนุ่มชื่อดัง บอย ปกรณ์  ฉัตรบริรักษ์ พรีเซนเตอร์ของ ทรูมูฟ เอช มาเป็นคาแรคเตอร์อวตารน่ารักๆ ประจำห้อง

คุณธีรศักดิ์ อรุณเริ่มวัฒนะ รองผู้อำนวยการด้านบริหารแบรนด์ และการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การร่วมมือกับ LINE ครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ของแบรนด์ทรูมูฟ เอช อย่างต่อเนื่อง จากการทำสติ๊กเกอร์ Mr. H สองเวอร์ชั่นที่ผ่านมา ในแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยทรูมูฟ เอช เล็งเห็นว่ายอดผู้ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในประเทศไทยมีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนำมาเป็นช่องทางต่อยอดแคมเปญต่างๆ ที่จะมีขึ้นอีกมากมายในอนาคต ทรูมูฟ เอช และ LINE จึงได้ร่วมมือกันอีกครั้ง เปิดตัว ทรูมูฟ เอช แบรนด์รูม เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดและย้ำชัดถึงจุดยืนความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลคอนเท้นท์ โดยทรูมูฟ เอช ถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่มีแบรนด์รูมเป็นของตัวเองใน LINE Play”

ทรูมูฟ เอช ฉลองเปิดห้องเดือนแรก แจกสุดยอดสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ทุกสัปดาห์ และแจกตุ๊กตา LINE ตัวใหญ่ลิขสิทธ์แท้จากญี่ปุ่นทุกวัน ร่วมลุ้นง่ายๆเพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น LINE Play แล้วเข้าไปใน TrueMove H Brand Room Capture หน้าจอแแล้วโพสต์ลง Instagram พิมพ์ #truelineplay ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ถึง 4 กรกฎาคม 2556

นอกจากคาแรคเตอร์อวตารน่ารักๆของหนุ่มบอย ปกรณ์ แล้ว ทรูมูฟเอช แบรนด์รูม ยังเป็นการจำลองทรูช้อป เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้าของกลุ่มทรู ผ่านรูปแบบเกมส์และเชื่อมต่อไปยัง TrueStore ช็อปออนไลน์ ที่สามารถซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมอื่นๆได้จริง และส่งฟรีทั่วประเทศ โดยลูกค้าที่เข้าทรู สโตร์ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น LINE Play ยังมีสิทธิ์ลุ้นซื้อ TrueBeyond Tab ในราคาพิเศษ ลด 50% อีกด้วย นอกจากนี้ ทรู คอฟฟี่ ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า LINE Play ซื้อเครื่องดื่มเย็นแก้วใหญ่เพียงครึ่งราคา ที่ True Stadium ชั้น 4 สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง TrueMove H Brand Room ในแอพพลิเคชั่น LINE Play

ไม่เพียงเท่านี้  ทรูมูฟ เอช ยังมอบความพิเศษให้กับลูกค้า ด้วยสติ๊กเกอร์เวอร์ชั่นล่าสุด “Mr. H & Friends” ที่มีลาย บอย ปกรณ์ และ มาร์กี้ มาร่วมสร้างสีสันในแอพพลิเคชั่น LINE อดใจรอกันอีกนิด เตรียมดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์น่ารักๆ เร็วๆนี้

from:http://www.mobiledista.net/pr-truemove-h-line-play-first-hand/

3 แบรนด์ยอดนิยมบน Instagram ได้แก่…

รวมมิตรสถิติน่ารู้ของเหล่าแบรนด์บน Instagram ซึ่งจะทำให้ทุกคนเข้าใจภาพรวมว่าทำไม 3 แบรนด์นี้จึงได้รับความนิยมบนมากที่สุดบนเครือข่ายสังคมภาพถ่าย

ปัจจุบันเครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับแชร์รูปภาพอย่าง “Instagram” กลายเป็นโซเชียลมีเดียชื่อดังระดับโลกที่ได้รับความนิยมและมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละเดือนพบว่า มีผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่สมัครเข้ามาเพื่ออัพโหลดและแชร์รูปภาพมากกว่า 90 ล้านคน และด้วยความนิยมอย่างมหาศาลนี้เอง ทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลกหันให้ความสนใจในการใช้ Instagram เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น

ผลการสำรวจข้อมูลของเว็บไซต์ Wishpond.com รายงานว่า ปัจจุบันบริษัทชั้นนำกว่า 100 บริษัทที่ถูกจัดอันดับโดย Interbrand (Interbrand’s Top 100 Companies) มีการนำเอา Instagram มาใช้เพื่อเป็นช่องทางในการทำการตลาดสูงถึง 67% จากจำนวนทั้งหมด 100 บริษัท ซึ่งล่าสุดพบว่าบริษัทเหล่านี้มีจำนวนผู้ติดตาม (Follower) รวมกันแล้วมากกว่า 7 ล้านคน

โดย 23% ของบริษัทชั้นนำที่นำ Instagram เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาด ยังมีการอัพโหลดรูปภาพมากกว่า 50 ครั้งต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 อยู่ราว 20% ซึ่งแต่ละภาพที่ถูกอัพโหลดขึ้นนั้น สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงก่อนหน้านี้ถึง 16%

และด้วยรูปแบบการอัพโหลดรูปภาพบน Instagram ในปัจจุบัน ที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานของ Facebook ได้นั้น ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูปภาพที่ถูกอัพโหลดได้รับความนิยม และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางเพิ่มมากขึ้น โดยผลการสำรวจพบว่า รูปภาพที่ถูกอัพโหลดผ่าน Instagram และถูกแชร์ต่อไปยัง Facebook นั้น สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงปลายปี 2012 ที่ผ่านมา ถึง 30%

แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่พบว่าได้รับความนิยมและมีจำนวนผู้ติดตามสูงสุดบน Instagram มาเป็นอันดับ 1 คือ Nike (1,494,058 คน) รองลงมาเป็น MTV (1,310,632 คน) และ Starbucks (1,245,858 คน)

ที่มา: Wishbond

from:http://thumbsup.in.th/2013/06/how-much-engagement-are-top-brands-getting-instagram/

Instagram เพิ่มคุณสมบัติ Tag รูปได้ กับเป้าหมายใหม่ของแบรนด์ที่ทำการตลาดบน IG

Instagram ถือว่าเป็นแอพพลิเคชันยอดฮิตที่อยู่คู่กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันแทบทุกเครื่องในปัจจุบัน ด้วยความสามารถที่จะถ่ายและดูรูปจากคนต่างๆ ที่เราติดตามและค้นหาได้ ล่าสุดนั้นได้มีการออกคุณสมบัติออกมาที่จะช่วยให้สามารถ Tag ชื่อคนได้ และอีกนัยนึงก็น่าจะเป็นเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยแบรนด์สินค้าทำการตลาดได้อีกด้วย

แม้จะยังคงไม่มีรูปแบบการโฆษณาออกมาอย่างจริงจังบน Instagram แต่โดยปกติแล้วนั้นการทำการตลาดบน Instagram สำหรับแบรนด์สินค้าก็คงหนีไม่พ้นการให้ส่งรูปและระบุรายชื่อ (mention) หรือใส่ hashtag (#) ลงไป แต่สำหรับคุณสมบัติใหม่นั้นเปิดให้เจ้าของภาพนั้นสามารถใส่ชื่อที่ใช้งานบน IG ได้สามารถ tag ชื่อไว้ที่รูปด้วยการใส่ชื่อที่ Add People ก่อนแชร์ขึ้น Instagram

 

ความต่างของการ mention กับการ tag ชื่อไว้บนรูปก็คือ การเข้าดูรูปนั้นจะแตกต่างกันออกไป เพราะรูปทั้งหมดที่ถูก tag ด้วยชื่อของเราจะไปอยู่ในส่วนที่เรียกว่า Photos of You ซึ่งจะทำให้เราสามารถดูรูปที่ถูก tag ได้เป็นแบบส่วนตัวในหน้า profile ของเรา รวมทั้งสามารถควบคุมและเลือกได้ว่าจะให้รูปไหนแสดงผลอยู่บน Photos of Me ได้ นั่นก็หมายความว่าเราสามารถที่จะคัดกรอกรูปที่ไม่ต้องการแสดงบนหน้า Profiles ของเราได้ ซึ่งต่างจากการ mention หรือการใส่ hashtag ที่ใครๆ ก็เปิดโอกาสให้คนเข้ามาเปิดดูได้อย่างอิสระ

แต่ก็จะมีการตั้งให้สามารถปิดการดูรูปในส่วนนี้ หากตั้งค่า Profile ว่าเป็นแบบส่วนตัว Private ซึ่งแบรนด์ต่างๆ คงจะไม่ปิดไปหล่ะนะครับ

…ลักษณะนี้เหมือนอะไรคุ้นๆ ไหมครับ? …ก็เหมือนกับ Facebook เลยไง (ก็เพราะเขาเป็นบริษัทเดียวกันนี่หน่า)

สำหรับแบรนด์ที่ใช้งานบน Instagram อยู่แล้ว คุณสมบัติที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่นี้น่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบน IG ได้ดีขึ้นรวมทั้งสร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มาสนับสนุนหรือเป็นแฟนของคนคนนั้นได้ดีกว่าเดิม

เช่น Club21Thailand ผู้ดูแลแบรนด์สินค้านำเข้าที่ใช้ Instagram ในการช่วยทำการตลาดอยู่แล้ว หากมีสินค้าที่ดาราที่มีชื่อเสียงนั้นใช้งานและอยากที่จะโปรโมทให้คนคนนั้นได้รับรู้ ก็สามารถที่จะ Tag ชื่อของดาราคนนั้นอย่างเช่น อั้ม พัชราภาใส่ไปได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้ที่ติดตามอั้มที่มีคนมากกว่า 1 ล้านคนสามารถที่จะเห็นรูปภาพที่ทาง Club21 ได้ผ่านทาง Photos of You

แต่หากให้พิจารณาเรื่องการ tag spam แล้วหล่ะก็ นี่ก็เป็นเครื่องมือก็อาจจะใช้กับเมืองไทยไม่ค่อยได้ เพราะการแทคเพื่อขายของมันเยอะเหลือเกิน ยิ่งจะทำให้ขยะรูปภาพใน Photos of You นั้นเยอะขึ้น และกลายเป็นต้องเสียเวลาเจ้าของ IG ที่ต้องมาทำการลบอีก ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นการบ้านสำหรับผู้ดูแล IG หรือเป็นไปได้ว่าในเวอร์ชันถัดๆไปของ IG อาจจะมีการจัดการในส่วนนี้ก็เป็นได้

นี่ก็เป็นสิ่งใหม่ที่ทาง Instagram ลูกหม้อของ Facebook ทำขึ้นมาเพื่อสนับสนุนแบรนด์โดยอ้อม (หากใช้กันเป็นและถูกทาง) หวังว่าเราคงจะได้เห็นการใช้งานนี้กันแพร่หลายมากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ที่ Tag และผู้ถูก Tag ครับ

ทิ้งท้ายด้วยวิดิโอแนะนำจากทาง Instagram ครับ

เนื้อหาบางส่วนจาก AdAge

from:http://thumbsup.in.th/2013/05/instagram-photos-of-you/

“สีฟ้า” สีสุดฮิตในโลโก้แบรนด์ดัง 100 อันดับแรกของโลก

ภาพจาก http://freshpeel.com/

ผลการวิเคราะห์โลโก้หรือสัญลักษณ์ของแบรนด์ดัง 100 อันดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พบว่าสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเป็นสีที่ถูกใช้บ่อยที่สุด ขณะที่ฟอนต์หรือรูปแบบตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคืออักษรตระกูล Sans โดยโลโก้ของแบรนด์ดังระดับโลกส่วนใหญ่นิยมใช้รูปภาพประกอบข้อความ

ตราสินค้าหรือโลโก้ (Logo) นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ โลโก้นี้เปรียบเสมือนเป็นหน้าตาของแบรนด์ที่ช่วยสะท้อนถึงภาพลักษณ์ เรื่องราวความเป็นมา วิสัยทัศน์ของเจ้าของธุรกิจ รวมไปถึงช่วยทำให้เกิดการจดจำแบรนด์และส่งเสริมการตลาด

แน่นอนว่าการออกแบบโลโก้ให้ดูเป็นมืออาชีพนั้นย่อมส่งผลด้านบวกต่อภาพพจน์ของแบรนด์ แต่ในทางกลับกันหากโลโก้ที่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนหรือไม่สามารถทำให้ผู้พบเห็นจดจำได้นั้น ก็ย่อมส่งผลในด้านลบต่อแบรนด์ได้เช่นกัน

เว็บไซต์ Tasteplacement.com ได้รวบข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบโลโก้ของแบรนด์ดังระดับโลกที่เราต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ถึงการเลือกใช้สี รูปแบบตัวอักษร รวมไปถึงสไตล์ของโลโก้ มานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบโลโก้ให้เป็นที่น่าจดจำและสะท้อนความเป็นตัวตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สิ่งแรกที่ Tasteplacement.com ให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบของโลโก้ คือการใช้สี สีของโลโก้นับว่าเป็นสิ่งแรกที่พบเห็นและยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดความสนใจในการมอง ซึ่งสีแต่ละสีที่เลือกใช้ก็สามารถสื่อความหมายได้แตกต่างกันออกไป โดยผลการสำรวจพบว่าสีฟ้าเป็นสีที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้ในการออกแบบโลโก้มากที่สุด (37%) โดยแบรนด์ที่เลือกสีฟ้าและน้ำเงินมาใช้เป็นโลโก้ ก็คือ Facebook, Hyundai และ Dell รองลงมาเป็นสีแดงและสีดำ (27%) สีเหลือง (16%) สีเทาและสีเขียว (7%) สีส้มและสีเงิน (5%) รวมไปถึงสีน้ำตาล ม่วง ขาวตามลำดับ

ส่วนรูปแบบตัวอักษร (Font) สำหรับประกอบในโลโก้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด 5 อันดับแรก คือ Sans (63%) Helvetica (21%) Slab (12%) Script (11%) และ Serif (8%) ซึ่งทั้ง 5 ฟอนต์ถูกเลือกใช้เพราะสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

ปิดท้ายด้วยสไตล์ของโลโก้ การออกแบบโลโก้ในปัจจุบันยังคงนิยมนำองค์ประกอบอย่างภาพกราฟฟิค ภาพวาด หรือภาพถ่าย มาเป็นตัวช่วยทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยผลการสำรวจพบว่าการเลือกใช้ข้อความควบคู่ไปกับภาพโลโก้เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด (56%) ในณะที่การเลือกใช้ข้อความเพียงอย่างเดียวได้รับความนิยมรองลงมา (37%) ส่วนการเลือกใช้ภาพโลโก้เพียงอย่างเดียว เช่น Apple หรือ Shell ได้รับความนิยมมาเป็นลำดับสุดท้าย (6%)

ไม่ว่าสีหรือรูปแบบโลโก้ใดจะได้รับความนิยมมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญในการออกแบบโลโก้ที่ดีคือความเหมาะสม ไม่ซับซ้อน จดจำได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้ได้หลากหลายและไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ซึ่งโลโก้ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการตลาดและการทำธุรกิจให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น

ที่มา : Visual.ly

from:http://thumbsup.in.th/2013/03/fonts-colors-logo-top-brand/