คลังเก็บป้ายกำกับ: BASIC_TUTORIAL__REVIEW

Windows Tips – แก้ Windows 10 1803 มี English UK กับ US 2 อัน ลบไม่ได้ !!

หากใครที่ได้อัพเดท Windows 10 เป็น 1803 แล้วเจอปัญหา มีคีย์ภาษาเพิ่มเข้ามา 3 ภาษา อาจสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนๆ และที่สำคัญ มันลบไม่ได้ด้วย!

โดยมีภาษาดังนี้

English ( United States )

English ( United Kingdom )

Thai

 

 

 

 

 

 

 

 

โดยเมื่อเราเปลี่ยนภาษาจะต้องกดเปลี่ยนภาษาอังกฤษถึง 2 ครั้งด้วยกัน อาจสร้างความลำบากและรำคาญให้กับเพื่อนๆได้ และยังลบออกจากหน้า Setting ไม่ได้อีกด้วย

สำหรับวิธีการแก้ไขลบภาษา English ( UK ) ออกจาก Windows 10 1803

1. เปิด Windows PowerShell ISE ขึ้นมา โดยไปที่ Run พิมพ์ PowerShell อย่าลืมคลิกขวา Run as Administrator ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

2. ทำการพิมพ์ข้อความ Get-WinUserLanguageList เพื่อตรวจสอบว่า ปัจจุบันมีคีย์ภาษาอะไรที่อยู่ในเครื่องเราบ้าง

3. คัดลอก แล้วพิมพ์ลงไปทีละบรรทัด

$LangList = Get-WinUserLanguageList
$MarkedLang = $LangList | where LanguageTag -eq en-GB
$LangList.Remove($MarkedLang)
Set-WinUserLanguageList $LangList –Force

เกร็ดความรู้ :: สำหรับวิธีนี้คือการดึงค่าตัวแปรไปเก็บไว้ใน $langlist จากนั้น หาภาษา en-GB หรือ UK นั่นเอง จากนั้นทำการลบภาษา English UK ออกไป

4. Restart คอมพิวเตอร์ใหม่

 

 

 

 

 

 

 

จะเห็นได้ว่า Windows ของเรานั่นไม่มีภาษา UK มาอีกแล้ว เป็นไงครับไม่ยากเลยใช่ไหมครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยหรือติดขัด ตรงไหนสามารถคอมเม้นต์ไว้ด้านล่างได้เลย

from:https://notebookspec.com/windows-tips-fix-windows-10-1803-english-uk-us/445237/

Tips – สอนดาวน์โหลด Windows 10 เพียวๆ ตัวล่าสุดลง Flash Drive จากเว็บ Microsoft โดยตรง

หลายคนที่ซื้อเครื่องโน้ตบุ๊คหรือ PC มาใหม่ๆ เกือบทุกรุ่นในตอนนี้มักจะมี Windows 10 ติดตั้งมาให้แล้ว แต่บางรุ่นก็ไม่มี ซึ่งทำให้เราต้องมาติดตั้งเอง ไปให้ร้านลงให้ก็ไม่อยากเสียเงิน บางทีเสียเงินแล้วร้านดันลง Windows แบบ Ghost มาให้ มีโปรแกรมประหลาดๆ เพียบ ใช้งานได้ไม่สมบูรณ์เท่าลงเอง หรืออัปเกรด Windows 10 ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งในบทความนี้ทีมงาน NBS จะมาสอนดาวน์โหลด Windows 10 เพียวๆ (ตอนนี้เวอร์ชัน 1803 ตัวล่าสุด) จากเว็บ Microsoft โดยตรงลง Flash Drive จะมีวิธีการอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ

สิ่งที่ต้องมี

1. Flash Drive เปล่าๆ ขนาดตั้งแต่ 8 GB ขึ้นไป (ใช้ 8 GB ได้)

2. คอม

3. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงๆ

ขั้นตอนการดาวน์โหลด

1. นำ Flash Drive เสียบช่อง USB แล้วเข้าไปที่เว็บไซต์ Microsoft ที่นี่

2. กด “ดาวน์โหลดเครื่องมือทันที” แล้วจะได้ไฟล์ MediaCreationTool1803 แล้วทำการติดตั้ง

3. กด Accept แล้วรอสักพัก

4. เลือก Create installation … แล้วกด Next ไปต่อ

5. เลือกตามรูป แล้วกด Next

6. เลือก USB flash drive แล้วกด Next

7. เลือก Flash Drive ที่เราต้องการจะลง จากนั้นกด Next

8. รอ Progress จน 100% กด Finish แล้วรออีกสักครู่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ พร้อมใช้เอาไปลง Windows 10 ได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีดาวน์โหลด Windows 10 เพียวๆ จาก Microsoft ไม่ยากอย่างที่คิด แต่อาจจะนานหน่อยขึ้นกับความเร็วของ Flash Drive ด้วย หากเป็นไปได้แนะนำ Flash Drive ที่เป็น USB 3.0 ก็จะดีมากประหยัดเวลาไปได้เยอะ ยิ่งถ้าเอาไปลงกับเครื่องที่มี SSD อยู่แล้วก็จะยิ่งเร็วขึ้นไปอีก สุดท้ายเมื่อลง Windows เสร็จแล้วอย่าลืมใช้คีย์ลิขสิทธิ์แท้จาก Microsoft เขาด้วยล่ะกันนะครับ รับรองว่าดีกว่าของเถื่อนเยอะ (ไม่เจอจอฟ้าบ่อยและอัปเดตได้เรื่อยๆ)

from:https://notebookspec.com/tips-windows-10-microsoft-flash-drive-how-to/445014/

ดาวโหลด Windows 7 ลิขสิทธิ์แท้

สำหรับเพื่อนๆที่เบื่อหน่ายหรือไม่คุ้นชินกับการใช้งาน Windows 10 แต่ก็ไม่รู้จะไปดาวน์โหลด Windows 7 ที่ไหน หรือเพื่อนๆที่เคยใช้ Windows 7 อยู่แล้ว แต่เกิดต้องอัพเกรทเป็นวินโดวส์ที่ใหม่กว่า แล้วใช้งานได้ไม่ถูกใจ หรือมีคีย์ Windows 7 อยู่แล้ว แต่หาแผ่นติดตั้งไม่เจอวันนี้ผมมีทางออกให้ครับ

Windows 7 ถือเป็นวินโดวส์ตัวนึงที่มีประสิทธิภาพดี และฟังค์ชั่นใช้งานต่างๆเหมือนวินโดวว์รุ่นเก่าไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Start การปรับแต่งใช้งานต่างๆ แต่พอมาอัพเดทเป็น Windows 8 การใช้งานก็เปลี่ยนไปเยอะ แม้จะปรับใน Windows 10 แล้ว แต่การใช้งานก็ไม่คุ้นเคยเหมือนเดิมแบบ Windows 7 แต่เมื่ออัพเกรทแล้วการกลับไปก็ยากเสียเหลือเกินสุดท้ายก็ต้องทนใช้งานกันไป

หรืออีกกลุ่มที่ยังจำเป็นต้องใช้งาน Windows 7 อยู่ก็คือผู้ที่ต้องการใช้งานกับซอฟแวร์พิเศษที่ไม่ได้มีการอัพเดทสำหรับวินโดวส์รุ่นใหม่เช่นปริ้นเตอร์รุ่นเก่า หรืออุปกรณ์ตามโรงงานซึ่่งยังจำเป็นต้องใช้งาน Windows 7 อยู่ นอกจากนั้นบางท่านที่อัพเกรทหรือเปลี่ยนฮาร์ดดิสค์ ลงวินโดวส์ใหม่ก็ยังจำเป็นต้องหาไฟล์วินโดลว์มาติดตั้งเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องที่ซื้อมาพร้อมวินโดวส์จะไม่ได้แถมไฟล์หรือแผ่นติดตั้งวินโดวส์มาให้ วันนี้ผมเลยมาขอแนะนำวิธี Download Windows 7 มาให้ครับ

ก่อนอื่นสิ่งที่ต้องเตรียมเลยคือคีย์หรือรหัสผลิตภัณฑ์ของตัววินโดวส์ซึ่งจะเป็นสติกเกอร์ติดอยู่ที่ใต้เครื่อง หรือติดอยู่ที่กล่องในกรณีซื้อยก โดยจะมี 2 วิธีคือ

1. เข้าไปโหลดตรงจากเว๊บของทาง Microsoft โดยกรณีของ Windows 7 นั้นจำเป็นต้องกรอกคีย์วินโดวส์ก่อนจึงจะโหลดได้นะครับ ส่วนตัว Windows 8.1 & 10 จะโหลดเป็นโปรแกรมสำหรับดาวน์โหลดไฟล์มาอีกทีครับ

2.Download Windows 7 เป็นไฟล์ iso มาติดตั้งก่อนแล้วจึงลงทะเบียนคีย์ทีหลัง วิธีนี้เหมาะกับเพื่อนที่ยังหาคีย์ไม่เจอหรือใจ้ร้อนอยากลงก่อนก็สามารถโหลดไฟล์มาลงได้ เพื่อนๆสามารถโหลดได้จากลิงค์เลยครับ

หลังจากโหลดไฟล์ iso มาเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตั้งผ่านแฟลชไดร์ฟได้โดยไม่ต้องไรท์ลงแผ่นดีวีดีนะครับ ผ่านโปรแกรม Windows USB/DVD Download Tool ส่วนวิธีการสามารถอ่านได้ที่ โปรแกรม Windows USB/DVD Tool ขน OS ลงไดร์ฟพกพา

หลังการติดตั้งแล้วสำคัญเลยคือเช็คว่าวินโดวส์ลงทะเบียนแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ลงทะเบียนหรือใช้วิธีที่ 2 ควรจะต้องลงทะเบียนก่อนนะครับ เพราะแม้จะใช้งานได้ในช่วงแรก แต่สักพักวินโดวส์ก็จะขึ้นให้ลงทะเบียน หรือถ้ามากกว่านั้นอาจจะมีการจำกัดสิทธิ์ใช้งานต่างๆเช่นรีสตาร์ทเครื่องเอง หรือใช้งานบางฟังค์ชั่นไม่ได้

แต่สำหรับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คที่มาพร้อม Windows 10 นั้น ผมไม่แนะนำให้ดาวน์เกรทไปใช้งาน Windows 7 เท่าไร เพราะไดร์ฟเวอร์จะไม่สมบูรณ์ใช้งานบางฟังค์ชั่นไม่ได้นะครับผม สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ผมว่า Windows 10 มันก็ใช้งานได้สะดวกและดีแล้วละครับ

อ้างอิง : techverse.net

 

from:https://notebookspec.com/download-windows-7/418844/

[How to] ขั้นตอนการดาวน์โหลด Windows 7 ลิขสิทธิ์แท้ ง่ายๆ สำหรับคนที่ต้องการใช้งาน แต่หาแผ่นไม่เจอ

สำหรับเพื่อนๆที่เบื่อหน่ายหรือไม่คุ้นชินกับการใช้งาน Windows 10 แต่ก็ไม่รู้จะไปดาวน์โหลด Windows 7 ที่ไหน หรือเพื่อนๆ ที่เคยใช้ Windows 7 อยู่แล้ว แต่เกิดต้องอัพเกรดเป็น Windows ที่ใหม่กว่า แล้วใช้งานได้ไม่ถูกใจ หรือมีคีย์ Windows 7 อยู่แล้ว แต่หาแผ่นติดตั้งไม่เจอวันนี้ผมมีทางออกให้ครับ

Windows 7 ถือเป็นระบบปฏิบัติการตัวนึงที่มีประสิทธิภาพดี และฟังค์ชั่นใช้งานต่างๆ เหมือน Windows รุ่นเก่าไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Start การปรับแต่งใช้งานต่างๆ แต่พอมาอัพเดทเป็น Windows 8 การใช้งานก็เปลี่ยนไปเยอะ แม้จะปรับใน Windows 10 แล้ว แต่การใช้งานก็ไม่คุ้นเคยเหมือนเดิมแบบ Windows 7 แต่เมื่ออัพเกรดแล้วการกลับไปก็ยากเสียเหลือเกินสุดท้ายก็ต้องทนใช้งานกันไป

หรืออีกกลุ่มที่ยังจำเป็นต้องใช้งาน Windows 7 อยู่ก็คือผู้ที่ต้องการใช้งานกับซอฟแวร์พิเศษที่ไม่ได้มีการอัพเดทสำหรับ Windows รุ่นใหม่เช่นปริ้นเตอร์รุ่นเก่า หรืออุปกรณ์ตามโรงงานซึ่งยังจำเป็นต้องใช้งาน Windows 7 อยู่ นอกจากนั้นบางท่านที่อัพเกรดหรือเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ ลง Windows ใหม่ก็ยังจำเป็นต้องหาไฟล์ Windows มาติดตั้งเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องที่ซื้อมาพร้อม Windows จะไม่ได้แถมไฟล์หรือแผ่นติดตั้ง Windows มาให้ วันนี้ผมเลยมาขอแนะนำวิธี Download Windows 7 มาให้ครับ

ก่อนอื่นสิ่งที่ต้องเตรียมเลยคือคีย์หรือรหัสผลิตภัณฑ์ของตัว Windows ซึ่งจะเป็นสติกเกอร์ติดอยู่ที่ใต้เครื่อง หรือติดอยู่ที่กล่องในกรณีซื้อยก โดยจะมี 2 วิธีคือ

1. เข้าไปโหลดตรงจากเว๊บของทาง Microsoft โดยกรณีของ Windows 7 นั้นจำเป็นต้องกรอกคีย์ Windows ก่อนจึงจะโหลดได้นะครับ ส่วนตัว Windows 8.1 & 10 จะโหลดเป็นโปรแกรมสำหรับดาวน์โหลดไฟล์มาอีกทีครับ

2.Download Windows 7 เป็นไฟล์ iso มาติดตั้งก่อนแล้วจึงลงทะเบียนคีย์ทีหลัง วิธีนี้เหมาะกับเพื่อนที่ยังหาคีย์ไม่เจอหรือใจ้ร้อนอยากลงก่อนก็สามารถโหลดไฟล์มาลงได้ เพื่อนๆสามารถโหลดได้จากลิงค์เลยครับ

หลังจากโหลดไฟล์ iso มาเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตั้งผ่านแฟลชไดร์ฟได้โดยไม่ต้องไรท์ลงแผ่นดีวีดีนะครับ ผ่านโปรแกรม Windows USB/DVD Download Tool ส่วนวิธีการสามารถอ่านได้ที่ โปรแกรม Windows USB/DVD Tool ขน OS ลงไดร์ฟพกพา

หลังการติดตั้งแล้วสำคัญเลยคือเช็คว่า Windows ลงทะเบียนแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ลงทะเบียนหรือใช้วิธีที่ 2 ควรจะต้องลงทะเบียนก่อนนะครับ เพราะแม้จะใช้งานได้ในช่วงแรก แต่สักพัก Windows ก็จะขึ้นให้ลงทะเบียน หรือถ้ามากกว่านั้นอาจจะมีการจำกัดสิทธิ์ใช้งานต่างๆเช่นรีสตาร์ทเครื่องเอง หรือใช้งานบางฟังค์ชั่นไม่ได้

แต่สำหรับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คที่มาพร้อม Windows 10 นั้น ผมไม่แนะนำให้ดาวน์เกรดไปใช้งาน Windows 7 เท่าไร เพราะไดร์ฟเวอร์จะไม่สมบูรณ์ใช้งานบางฟังค์ชั่นไม่ได้นะครับผม สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ผมว่า Windows 10 มันก็ใช้งานได้สะดวกและดีแล้วละครับ

อ้างอิง : techverse.net

 

from:https://notebookspec.com/how-to-download-windows-7/418844/

Windows ราคาถูก 700 – 1000 บาท มันแท้จริงไหมทำไมถูกจัง

en-INTL-PDP0-Windows-10-Pro-FQC-09131-P1

เพื่อนๆที่สนใจ Windows แท้ คงจะเคยเจอกระทู้หรือเว๊บที่ขาย Windows แท้ ราคาถูกระดับหลักร้อย ราวๆ 700-1000 บาท ซึ่งจะต่างจาก Windows กล่องที่เราไปซื้อตามห้างพอสมควร เพราะอย่างน้อยๆมาเป็นกล่องก็เริ่มต้นที่อย่างน้อยๆสามถึงสี่พันบาทแล้ว ซึ่งต่างกันหลายเท่าตัว อีกทั้งคนขายส่วนใหญ่ก็การันตีว่าเป็น Windows แท้ สามารถอัพเดทได้ปรกติ (เอาจริงๆ Windows เถื่อนหลายๆตัวก็สามารถอัพเดทได้ แต่ไม่นานนัก windows ก็จะติด activator หรือให้ลงทะเบียน บางตัวหนักๆรีสตาร์ทเองก็มี เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงใช้ของเถื่อนเบยจ้า)

Clip_15

แต่มีข้อแม้คือจะไม่ได้เป็นแพ็คเก็จแบบกล่อง จะมีแค่คีย์มาให้เอาไว้ใส่ตอนลง windows ซึ่งส่วนใหญ่มันไม่ใช่คีย์ที่สำหรับเอาไว้ลง Windows ให้ผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งการได้มาก็หลากหลาย เช่น คีย์ที่แจกในองค์กร คีย์ที่ขโมยมาหรือส่วนใหญ่ที่มักจะได้คีย์มาคือ จากองค์กรที่เป็นสมาชิกกับ MSDN อีกที จากนั้นก็ gen key ขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะ MSDN มัน gen key ได้ไม่จำกัด ซึ่งมันเหมือนจะถูกลิขสิทธิ์นะครับ แต่เงื่อนไขในการใช้ key MSDN เค้าจะเอาไว้ใช้ในงานด้าน develop/testing/demo หรือก็คือผลิตและพัฒนาซอฟแวร์นั่นละครับ ไม่อนุญาติให้มาใช้งานทั่วๆไปครับ ซึ่งถ้าระบบอัพเดทเช็คเจอก็อาจจะไม่สามารถใช้ Windows ได้อีกเลย

หรือบางคีย์ก็ผลิตมาเพื่อ OEM ให้แบรนด์หรือองค์กร ซึ่งจะทำให้คีย์เดียวลงได้หลายเครื่อง พอค้าบางคนก็มีคีย์เดียวนี้ละ ขายได้ตลอดปีตลอดชาติ 555 ซึ่งใน Windows 10 ทาง Microsoft ก้ได้แก้ปัญหานี้โดยการฝังคีย์ลง Bios หรือ Windows ที่ติดมากับเครื่องตั้งแต่ตอนขายเลย ทำให้ไม่ต้องใช้คีย์อีกต่อไป แต่เราก็ไม่สามารถเอา Windows 10 ที่ติดมากับเครื่อง ไปใช้กับเครื่องอื่นได้เช่นกัน สะดวกขึ้นแต่ย้านเครื่องไม่ได้นั่นเอง

IMG_0490

สรุปง่ายๆเลยคือ Key Windows ราคาถูกที่ขายกันตามเว๊บต่างๆ คือ Windows สำหรับนักพัฒนาซอฟแวร์ หรือสำหรับใช้ในองค์กร ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ทำให้แม้จะอัพเดทได้ไม่ติด activator แต่ในอนาคตอาจจะมีปัญหาตามมาเมื่อระบบตรวจเจอว่าใช้คีย์ผิดประเภท ตั้งแต่ติด activator ไปจนถึงเครื่องรีสตาร์ทเองเหมือน Windows เถื่อนนั่นละครับ เพราะฉะนั้นเราควรสนับสนุนซอฟแวร์ลิขสิทธิ์แท้ที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือไม่เฉพาะ Windows แต่รวมถึงวอฟแวร์อื่นๆด้วย อย่าง Windows เดี๋ยวนี้ซื้อโน้ตบุ๊ค พีซีก็มักจะมีแถมมาให้เลย หรืออย่างซอฟแวร์ที่แพงๆเช่น Office ,Adobe ก็มีให้เช่าแบบรายเดือนแค่ไม่กี่ร้อยบ้าง รุ่นใหม่มาก้อัพเดทได้ทันที รวมถึงเกมต่างๆที่ปัจจุบันถูกลงมามากแล้วเพราะฉะนั้นเรามาใช้ซอฟแวร์แท้กันเถอะครับ

from:https://notebookspec.com/windows-low-price/387701/

[Introducing] มาทำความรู้จักรุ่นแต่ละประเภทของ Windows 10 กันดีกว่าว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นเปิดตัวออกมาได้ประมาณ 7 เดือนแล้วครับ โดย ณ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ได้มีการรายงานผลออกมาแล้วอย่างเป็นทางการจากทาง Microsoft เองว่า Windows 10 มีการติดตั้งใช้งานอยู่บนอุปกรณ์มากกว่า 200 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตามแต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ทุกท่านสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมสำหรับตัวระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นก็คือการที่ Microsoft ระบุเอาไว้ครับว่า Windows 10 นั้นจะเป็นระบบปฎิบัติการหนึ่งเดียวจบซึ่งหมายถึงว่าในทุกอุปกรณ์ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ PC ไปจนกระทั่งสมาร์ทโฟนจะสามารถใช้ระบบปฎิบัติการดังกล่าวได้ครับ

windows 10 logo 600

ถึงแม้ว่า Microsoft จะบอกว่าระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นเป็นระบบปฎิบัติการแบบหนึ่งเดียวจบ ทว่าในความเป็นจริงแล้ว Windows 10 นั้นก็ยังคงมีการแยกรุ่นเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานในแต่ละรูปแบบรวมไปถึงให้เหมาะสมกับแต่ละอุปกรณ์ด้วยครับ การแยกรุ่นดังกล่าวนั้นทำให้ Windows 10 ในแต่ละรุ่นสำหรับแต่ละอุปกรณ์นั้นมีความสามารถแตกต่างกันออกไป โดย Windows 10 จะมีรุ่นอะไรและเอาไว้ใช้สำหรับอุปกรณ์ตัวไหนบ้างนั้นติดตามกันได้เลยครับ

Windows 10 Home

windows-10-home 600

สำหรับตัวแรกเลยนั้นก็คือ Windows 10 Home ที่ชื่อก็บอกอย่างชัดเจนเลยครับว่าเป็นระบบปฎิบัติการ Windows 10 สำหรับการใช้งานในบ้านทั่วไป หรือจะพูดอีกอย่างว่าเป็น Windows 10 สำหรับผู้ใช้งานธรรมดาส่วนตัวก็ได้ไม่แปลกมากเท่าไรนักครับ สำหรับ Windows 10 Home นั้นจะมีฟีเจอร์และความสามารถต่างๆ ดังต่อไปนี้ครับ

  • สามารถใช้งานได้กับทั้งคอมพิวเตอร์ PC, แท็บเล็ตและอุปกรณ์จำพวก 2-in-1
  • รองรับการใช้งานผู้ช่วยดิจิทัล Cortana(เฉพาะบางประเทศก่อนเท่านั้นในตอนนี้ซึ่งเมืองไทยเรานั้นยังไม่รองรับครับ)
  • มาพร้อมกับเว็บเบราวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Microsoft Edge
  • สามารถใช้ฟีเจอร์ Continuum tablet mode สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับหน้าจอแบบสัมผัสได้
  • มาพร้อมกับฟีเจอร์ Windows Hello ที่เป็นฟีเจอร์ทางด้านความปลอดภัยผ่านทางการจดจำใบหน้า, การสแกนม่านตาและการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการ Login เข้าสู่ระบบ(แต่มีข้อจำกัดอยู่ว่าอุปกรณ์นั้นๆ ต้องมากับกล้อง, ระบบสแกนม่านตาและระบบสแกนลายนิ้วมือที่ Microsoft รองรับด้วย)
  • รองรับ Universal Windows apps โดยจะมีแอปพลิเคชันอย่าง Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video ให้ใช้งานทันที
  • มาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับการเล่นเกมอย่าง Xbox ที่ให้คุณสามารถทำการเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะจาก Xbox 360 หรือ Xbox One

Windows 10 Pro

windows-10-pro 600

ต่อกันที่ Windows 10 Pro ซึ่งยังคงเป็นระบบปฎิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ PC, แท็บเล็ตและอุปกรณ์จำพวก 2-in-1 โดยจะยกความสามารถทั้งหมดมาจากรุ่น Home และทำการเพิ่มความสามารถที่เกี่ยวข้องกับทางด้านธุรกิจเข้าไปเพิ่มเติม(แต่ก็เน้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น) ซึ่งหากเทียบกับรุ่น Home แล้วรุ่น Pro จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่า โดยฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่น Pro นั้นมีหลายอย่างตัวอย่างเช่น

  • มีฟีเจอร์สำหรับการป้องกันข้อมูลทางด้านธุรกิจที่สำคัญของผู้ใช้งานเพิ่มเติม
  • สนับสนุนการ remote และ mobile productivity scenarios
  • มาพร้อมกับ cloud technologies ที่ดีกว่า
  • สนับสนุนการใช้งานฟีเจอร์ Choose Your Own Device (CYOD) programs และ prosumer customers สำหรับองค์กรได้เป็นอย่างดี
  • มาพร้อมกับ Windows Update for Business ที่สามารถลดต้นทุนของผู้ประกอบการได้เพราะผู้ใช้ในระดับองค์กรสามารถที่จะเข้าถึงอัพเดททางด้านความปลอดภัยรวมไปถึงนวัตกรรมการใช้งานใหม่ๆ จากทาง Microsoft ได้เร็วกว่า(ตัวอย่างเช่น Azure AD เป็นต้น)

Windows 10 Enterprise

Windows 10 Enterprise 600

สำหรับองค์กรระดับใหญ่ๆ(หน่วยธุรกิจขนาดกลางขึ้นไปยันองค์กรของรัฐเป็นต้น) นั้นทาง Microsoft ก็ยังไม่ทิ้งครับเพราะยังคงมี Windows 10 รุ่น Enterprise จัดเอาไว้ให้อยู่ โดย Windows 10 Enterprise นั้นจะเป็นเวอร์ชันที่อัพเกรดความสามารถและฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นมากจาก Windows 10 Pro เพื่อที่จะให้รองรับการใช้งานในระดับองค์กรมากขึ้น สำหรับฟีเจอร์และความสามารถใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาบน Windows 10 Enterprise มีดังต่อไปนี้ครับ

  • เพิ่มเติมความสามารถในการป้องกันความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์, ตัวตันผู้ใช้งาน, แอปพลิเคชันและข้อมูลสำคัญของบริษัทมากขึ้นกว่าปกติ
  • สนับสนุนตัวเลือกสำหรับระบบปฎิบัติการที่มีการใช้งานร่วม, ครอบคลุมอุปกรณ์และการจัดการแอปพลิเคชันกว้างกว่าระบบปฎิบัติการ Windows 10 ในรุ่นอื่นๆ ทั้งหมด
  • รองรับลูกค้าแบบ Volume Licensing(ซื้อสิทธิ์การใช้งานแบบเป็นจำนวนได้ตามที่บริษัทหรือองค์กรต้องการ)
  • มาพร้อมกับ Windows Update for Business
  • ผู้ใช้จะได้รับการเข้าถึงการให้บริการทางด้านต่างๆ เช่นความช่วยเหลือจาก Microsoft อย่างเต็มรูปแบบ
  • บริษัทหรือองค์กรที่เป็นลูกค้าแบบ Volume Licensing ของระบบปฎิบัติการ Windows 7, 8.1 รุ่น Enterprise ก่อนหน้านี้สามารถที่จะทำการอัพเกรดระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 Enterprise ได้เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ Software Assurance จากทาง Microsoft ก่อนหน้านี้

Windows 10 Education

Windows 10 Education 600

สำหรับ Windows 10 Education นั้นเป็นระบบปฎิบัติการ Windows 10 ที่ได้รับการอัพเกรดมาจาก Windows Windows 10 Enterprise อีกทีหนึ่งครับ แต่สำหรับในรุ่น Education นั้นจะถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับการใช้งานในโรงเรียนและสถานศึกษามากกว่าเพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการใช้งานทางด้านการเรียนรู้เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นบุคลากร, ผู้ดูแลระบบ, อาจารย์และนักเรียนนักศึกษาครับ ทั้งนี้ Windows 10 Education นั้นจะถูกใช้งานสำหรับในโรงเรียนเท่านั้นส่วนเครื่องของนักเรียนนักศึกษาที่ใช้งานร่วมในระบบด้วยนั้นจะเป็น Windows 10 Home หรือ Pro แทน(โดยทางโรงเรียนสามารถเลือกได้) ทั้งนี้ Windows 10 Education นั้นจะจำหน่ายในรูปแบบ Academic Volume Licensing เท่านั้น

หมายเหตุ – สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เป็นครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาที่ใช้อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 Home หรือ Pro อยู่นั้นสามารถที่จะทำการอัพเกรดระบบปฎิบัติการมาเป็นรุ่น Education ได้ด้วย ทว่าตรงจุดนี้นั้นต้องขึ้นอยู่กับทางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่ได้ซื้อสิทธิ์ไปนั้นจะอนุญาตให้มีการอัพเกรดได้หรือไม่ครับ

ความแตกต่างของฟีเจอร์บน Windows 10 รุ่น Home, Pro, Enterprise และ Education มีดังต่อไปนี้ครับ

windows 10 asaservice 600

w10-features 600

Windows 10 Mobile

Windows-10-Mobile-600

สำหรับ Windows 10 Mobile นั้นจะเป็นระบบปฎิบัติการสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก(หน้าจอเล็ก) อย่างเช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดเล็กเป็นต้นครับ  สำหรับ Windows 10 Mobile จะมีความสามารถเรียกได้ว่าเกือบจะเทียบเท่ากับ Windows 10 Home ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการใช้แอปพลิเคชันแบบ universal Windows apps ฯลฯ แต่ Windows 10 Mobile จะมีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ในส่วนต่างๆ ดังนี้ครับ

  • ได้รับการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เป็นหน้าจอสัมผัสและหน้าจอขนาดเล็กมากขึ้น
  • มาพร้อมกับความสามารถในการจัดการควบคุมรวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่เน้นทางด้านอุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนที่โดยเฉพาะ
  • ในบางรุ่นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดอย่าง Continuum for phone ซึ่งผู้ใช้สามารถนำเอาอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ที่รองรับฟีเจอร์นี้ต่อเข้ากับ Dock และเชื่อมไปยังหน้าจอโทรทัศน์หรือมอนิเตอร์เพื่อใช้งานเสมือนประหนึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทันที

Windows 10 Mobile Enterprise

Windows 10 Mobile Enterprise-600

ท้ายสุดกับ Windows 10 Mobile Enterprise ที่ถูกออกแบบขั้นมาเพื่อนำเสนอประสบการณ์การใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานทางด้านธุรกิจและการใช้งานในระดับองค์กรโดยเฉพาะครับ ด้วยความที่เป็น Mobile นั้นแน่นอนว่ามันย่อมถูกพัฒนาขึ้นมาให้ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามแต่ความแตกต่างของ Windows 10 Mobile Enterprise กับรุ่น Mobile เฉยๆ นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

  • จำหน่ายให้กับลูกค้าในรูปแบบ Volume Licensing
  • มีความยืดหยุ่นในการใช้งานทางด้านธุรกิจสำหรับการจัดการการอัพเดทมากกว่า
  • สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยและนวัตกรรมกรรมใหม่ๆ ได้เร็วกว่ารุ่นปกติ(ทันทีที่ Microsoft เปิดตัวอย่างเป็นทางการ)

อย่างไรก็ตามแต่ทาง Microsoft ยังได้มีการปรับปรุง Windows 10 Enterprise และ Windows 10 Mobile Enterprise เพื่อการใช้งานกับอุปกรณ์ที่พิเศษโดยเฉพาะขึ้นมาด้วยตัวอย่างเช่น ATM, เครื่องคิดเงินของร้านค้าปลีก, handheld terminals, หุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ และที่เหนือไปกว่านั้นก็คือทาง Microsoft ยังมี Windows 10 IoT Core ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับอุปกรณ์จำพวก Internet of Things อย่างเช่นเกตเวย์ราคาประหยัดหรือ small footprint อีกด้วยครับ

หมายเหตุ – สำหรับ Windows 10 Home, Windows 10 Pro และ Windows 10 Mobile นั้นทาง Microsoft ได้เปิดให้ผู้ใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 7, 8.1 และ Windows Phone 8.1(บางรุ่นเท่านั้น) สามารถที่จะทำการอัพเกรดมาใช้งานได้ฟรี(ตามรุ่นของระบบปฎิบัติการ Windows เก่านั้น) ซึ่งการเปิดให้อัพเกรดฟรีนี้จะสิ้นสุดลงในช่วงเดือน กรกฎาคม 2016 นี้(เป็นระยะเวลา 1 ปีพอดี) อย่างไรก็ตามสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC นั้นคงได้รับการอัพเกรดกันไปแล้วส่วนเครื่องสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows Phone 8.1 นั้นตอนนี้ยังไม่มีการปล่อยอัพเกรดออกมาอย่างเป็นทางการครับ

windows 10 insider 600

หมายเหตุ 2 – สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10 ที่อยู่ในโครงการ Windows Insider Program นั้น(กว่า 3.9 ล้านคน) ทาง Microsoft ก็ได้ใจดีอักเกรดตัวระบบปฎิบัติการให้เป็น Windows 10 Pro โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องเพื่อเป็นการขอบคุณที่ผู้ใช้งานในโครงการดังกล่าวได้ช่วยให้ Microsoft สามารถพัฒนา Windows 10 ออกมาให้ตรงตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้มากที่สุดครับ

ที่มา : blogs.windows.com

from:http://notebookspec.com/introducing-windows-10-editions/333653/

ขั้นตอนการติดตั้งอัพเกรด Windows 7/8.1 เป็น Windows 10 ด้วยวิธีการง่ายๆ ใช้งานต่อได้ทันที

ตอนนี้คงมีหลายๆ คนที่อัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 เรียบร้อยแล้ว จากการเมนู Windows Update ใน Windows 7/8.1 ตามปกติ แต่สำหรับใครหลายๆ คน อาจจะยังไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ทันที ซึ่งทาง Microsoft อาจจะให้รอตามคิวที่เคยแจ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้

Win10Prev_StartMenu

ซึ่งในบทความนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC จะมาแนะนำขั้นตอนการอัพเกรด Windows 7/8.1 เป็น Windows 10 ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่จะทำเราสามารถใช้งาน Windows 10 ได้ทันที พร้อมกับไฟล์งานและโปรแกรมอื่นๆ ก็ยังคงเดิม โดยจากตัวผู้เขียนเองใช้งานเป็น MacBook Pro Retina 15 จากเดิมที่ใช้งาน Windows 8.1 Home Single Language 64bit ลิขสิทธิ์ผ่านทาง Boot Camp จะอัพเกรดเป็น Windows 10 Home Single Language 64bit โดยก่อนอัพเกรดเราจำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟหลักเสียหน่อย (แนะนำว่าประมาณ 5GB)

ขั้นตอนการอัพเกรด Windows 7/8.1 เป็น Windows 10 มีดังนี้

เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของทาง Microsoft เพื่อทำการดาวน์โหลดเครื่องมือช่วยติดตั้ง Windows 10 ที่นี่ <<<

win100

เลือกกด MediaCreationTool ซึ่งมีให้ทั้ง 32-bit หรือ 64-bit เราก็เลือกตามเวอร์ชั่นที่เราใช้งานอยู่

win10

ติดตั้ง MediaCreationTool ให้เรียบร้อย ก็จะเข้าสู่ขบวนการการติดตั้ง Windows 10 โดยเราเลือกเป็น Upgrade this PC now จากนั้นก็กด Next ไปเรื่อยๆ เพื่อทำการดาวน์โหลด Windows 10 มาติดตั้ง

win102

win103

win104

win105

เลือก Accept เพื่อยอใรับเงื่อนไขในการติดตั้ง Windows 10

win107

จนถึงขั้นตอนสุดท้ายตัวระบบติดตั้ง Windows 10 เองจะให้เรากดไปที่ Inatall อีกครั้ง 

IMG_4592

เครื่องจะทำการ Restart เพื่อทำการอัพเกรด ซึ่งกระบวนการนี้อาจจะใช้เวลาซักหน่อย

IMG_4593

IMG_4595

IMG_4596

เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้งาน Windows 10 ได้แล้วนะครับ โดยส่วนตัวทดลองใช้งานบน MacBook Pro Retina 15 ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีนะครับ ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงการเล่นเกมครับ

Screenshot (2) copy

 

สำหรับ Windows ที่เป็น Windows ไม่แท้ ยังไม่ทดสอบนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

from:http://notebookspec.com/upgrade-windows-10-from-windows-7-8-1/306335/

10 สิ่งใหม่ใน Windows 10 มีอะไรเพิ่มมาบ้าง จาก Windows 8.1 ตัวก่อนหน้า

ก็เป็นไปตามที่ประกาศเปิดตัวกันไปอย่างจริงจังสำหรับ Windows 10 เพื่อก้าวสู่การใช้งานเต็มรูปแบบ พร้อมรายละเอียดในการอัพเกรดหรือฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน ให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองและมีการปรับปรุงไปบ้างแล้ว หลังจากที่ปล่อย Technical Preview มาให้ใช้กันแรมเดือน อย่างไรก็ดีมาถึงเวลานี้ ก็น่าจะลองมาดูกันว่า เมื่อทุกอย่างเริ่มนิ่งแล้ว ทั้งฟีเจอร์และลูกเล่น สิ่งไหนที่น่าสนใจและเพิ่มเติมขึ้นมาจาก Windows 8.1 กันบ้าง

Windows10

1
Start Menu กลับมาแล้ว
น่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรสำหรับ Windows 8.21 ที่ตัดสินใจไม่ใส่ Start Button ซึ่งทางไมโครซอฟท์เองหันมาแนะนำในส่วนของ Tiles Interface มากกว่า สันนิษฐานว่าอาจมีการใช้งานที่ลดลง ทั้งที่มีกระแสเรียกร้องในการนำกลับมาใช้งานไม่น้อย และนี่เป็นหนึ่งสิ่งที่ถูกนำมาปรับปรุงใน Windows 10 นี้

และนอกจากจะได้ Start Button กลับมาแล้ว ยังมี Menu Start ที่มีความทันสมัยและปรับแต่งได้ตามใจชอบอีกด้วย ซึ่งช่วยให้เข้าถึงแอพฯ และโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญยังช่วยปรับให้เหมาะกับหน้าจอของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

 

2
Windows 10 กับค่าใช้จ่ายที่สบายกระเป๋า
ภายใต้เงื่อนไขในการอัพเกรดและค่าใช้จ่ายสำหรับ Windows 10 ในช่วงต้นผู้ที่ใช้งาน Windows 8 หรือ Windows 7 ที่เป็นลิขสิทธิ์ถูกต้อง จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายไปจนถึงปีหน้า ส่วนใครที่ใช้ตัว Technical Preview ก็ยังพอใช้งานได้ แต่ก็จะมีเวลา Expire ในภายหลัง ส่วนเรื่องราคาที่มีการเคาะออกมา อยู่ที่ประมาณ 119USD สำหรับรุ่น Home และ 199USD สำหรับรุ่น Pro ก็ดูจะไม่แพงนัก สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ Windows 10 นอกจากนี้ยังสามารถอัพเดตได้ตลอดการใช้งานอุปกรณ์อีกด้วย

windows10-app-map (1)

3
Cortana ผู้ช่วยส่วนตัว สุดฉลาด
ในที่สุดก็ถูกจับมาลง Windows 10 เสียที หลังจากที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับผู้ช่วยรายนี้บน Windows phone มาบ้างแล้ว แม้ว่า Cortana เองอาจจะยังไม่สมบูรณ์ในเรื่องของภาษาที่จะนำมาใช้งาน แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำงานหรือค้นหา ด้วยคำสั่งเสียงที่สามารถเข้าถึงได้รวดเร็ว ด้วยปุ่มเรียกการทำงานที่ใช้งานง่าย ซึ่งในปัจจุบันบนโน๊ตบุ๊กก็ยังทำได้ด้วย AI ที่ชาญฉลาด

Internet Explorer Project Spartan 02 600

4
Microsoft Edge
ไมโครซอฟท์เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ใหม่สำหรับ Windows 10 ซึ่งถูกเรียกว่า Microsoft Edge หลังจากปลดชื่อของ Project Spartan ออก โดยมาพร้อมคีย์ฟีเจอร์สำคัญทั้ง 3 อย่างประกอบด้วย
-ผู้ใช้สามารถใส่คำอธิบายประกอบหน้าเว็บได้ด้วยการใช้นิ้วหรือสไตลัสและคีย์บอร์ด
-เพิ่มเติมในส่วนของ Read mode ที่ใช้สำหรับการอ่านโดยเฉพาะ
-มีผู้ช่วยอย่าง Cortana รวมอยู่ในตัวเบราว์เซอร์

 

5
จุดจบของรหัสผ่าน
ไมโครซอฟท์ยืนยันว่า Windows 10 จะสนับสนุนมาตรฐาน Fast Identity Online (FIDO) ซึ่งหมายถึงผู้ใช้จะสามารถลงทะเบียนเข้าใช้แอพที่ใช้กันทั่วไป เช่น Outlook โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบทีมีความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การอ่านลายนิ้วมือหรือสแกนม่านตา โดยในปัจจุบันได้มีตัวอย่างเทคนิคที่ช่วยให้การล็อคอินทำงานดได้ง่ายบน Windows 10, Azure Active Directory และการเข้าถึง major SaaS services คล้ายกับ Office 365 Exchange Online, Salesforce, Citrix, Box หรือ Concur ก็ตาม

โดยที่ Windows 10 จะถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้ Windows และ Microsoft ที่เป็นเจ้าของและพาร์ทเนอร์ของบริการ SaaS service support โดย Azure Active Directory สามารถเข้าถึงได้แบบ end-to-end โดยใช้โซลูชั่นระดับองค์กรในแบบ Two-factor โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน

leaked windows 10 for phone bring led noti 01 600

6
Windows Phone 10
เป็นเวอร์ชั่นพิเศษจาก WIndows 10 ซึ่งออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ พร้อมการใช้งานร่วมกับ Office และ Outlook ซึ่งทำงานคู่กันกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้ โดย Windows Phone 10 นั้น จะมาพร้อมกับระบบจัดส่งข้อความสำหรับ Skype, Text และ IM

microsoft-windows-10-live-verge-_0284

7
Windows 10 มาพร้อมการปรับอินเทอร์เฟสด้วย Continuum
ไมโครซอฟท์พยายามผลักดันระบบสัมผัสบน Windows 8 เป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ โดยลดการใช้เมาส์และคีย์บอร์ดที่เป็นอุปกรณ์ในการอินพุทข้อมูลในแบบเดิม ซึ่งระบบใหม่นี้ยังได้รับการแก้ไขจากอัพเดต 8.1 และถูกปรับปรุงใหม่ใน Windows 10

Continuum จะช่วยให้อินเทอร์เฟสของ Windows 10 สามารถปรับตัวบนฮาร์ดแวร์ที่กำลังทำงานอยู่ได้ทันที ซึ่งหากผู้ใช้ทำงานอยู่บนเครื่องแบบ 2-in-1 หรือไฮบริด เช่น Surface จะสามารถใช้งานในการพิมพ์ได้เช่นเดียวกับเครื่องเดสก์ทอป แต่เมื่อถอดแป้นพิมพ์ออก ระบบปฏิบัติการจะตรวจสอบและแจ้งให้สลับไปใช้ในโหมดแท็ปเล็ตแทน

Virtual-windows10-1

8
สนับสนุนมัลติเดสก์ทอป
ไมโครซอฟท์เปิดตัวด้วยการทำงานของมัลติเดสก์ทอป โดยบางครั้งเพาเวอร์ยูสเซอร์เองก็ต้องการจะทำให้การใช้งานนั้นง่ายขึ้น ด้วยการจำลองสภาพการใช้งานบนซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งการเปิดได้หลายๆ หน้าจอเดสก์ทอปนี้ ก็ช่วยให้แบ่งหน้าจอการทำงานได้ง่ายขึ้น
9
App Store แบบครบวงจร
ด้วย Windows 10 นี้ช่วยให้ผู้ที่พัฒนาแอพฯ สามารถสร้างแอพขึ้นมาตัวเดียว แต่สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่เป็น Windows อื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟนไปจนถึงหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 85 นิ้ว ซึ่งองคกรขนาดใหญ่จะสามารถสร้าง App Store สำหรับพนักงานได้ รวมถึงการเลือกแอพฯ ทั่วไปนำมาใช้ควบคู่กับแอพแบบ In-house ได้อีกด้วย

Windows 8-1 update-2

 

10
การปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยที่ยีดหยุ่น
การอัพเดตระบบเพื่อรักษาความปลอดภัยและการปรับปรุงจะถูกส่งออกมาให้ใช้งานในทุกๆ เดือน ผู้บริโภคจะได้รับการปรับปรุงระบบให้มีความพร้อมผ่านทาง Windows UpdateStart Menu กลับมาแล้ว ซึ่งไมโครซอฟท์ยังจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปลดล็อคในการติดตั้งแอพฯ สำคัญและให้ความยืดหยุ่นในการทำงานมากยิ่งขึ้น

ที่มา : itpro

from:http://notebookspec.com/windows-10-windows-8-upgrade/298304/

ทำอย่างไรเมื่อ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คมีปัญหา BSOD แล้วต้อง Restart

เมื่อบางสิ่งที่เกิดผิดปกติขึ้นภายในคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คและเกิดความเสียหายใน Windows ก็จะส่งผลให้เกิดอาการแปลกๆ ปรากฏขึ้น ในกรณีช่นนี้ คอมพิวเตอร์จะหยุดการบูตและ

แสดงอาการผิดปกติขึ้นมาในรูปแบบของหน้าจอสีฟ้าและสีดำที่เรียกว่า จอฟ้าแห่งความตาย (BSOD) โดยสิ่งที่ปรากฏขึ้น อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้

1
ความผิดปกติทางกายภาพที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดแวร์ เช่นการติดตั้งไดรเวอร์หรือการติดตั้ง Extension จากซอฟต์แวร์ที่เป็น Third-party และเกิดขึ้นได้จากการ Repair โดยการวิเคราะห์
ที่ผิดพลาดของระบบ
2
เหตุต่อมาก็คือ อาจเป็นได้จากการที่มีการตั้งค่าบางอย่างไม่ถูกต้องหรือถ้ามีข้อมูลจำนวนมากในระบบ จนทำให้ใช้ทรัพยากรมากเกินไป รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์ Third-party ที่มีการ
โมดิฟายและแก้ไขจนมากเกิน ก็อาจสร้างปัญหาได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มากพอที่จะทำให้เกิดความเสียหายให้ระบบและอาจบูตเครื่องไม่ขึ้นก็เป็นได้
Windows 10 BSOD-0

ซึ่งหน้าจอ Error แสดงข้อผิดพลาด ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาทั้ง 2 รูปแบบ จะเป็นในลักษณะนี้

ในสถาณการณ์เช่นนี้เราอาจไม่ทราบได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด สิ่งที่ต้องทำก็คือ เริ่มต้นทำการซ่อมแซมโดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีต่อไปนี้จะช่วยให้ทำการซ่อมแซมให้อัตโนมัติ สำหรับคนที่ใช้
Windows 8 ขึ้นไป

Windows 10 BSOD-1

1
ใส่แผ่นติดตั้งวินโดวส์หรือแฟลชไดรฟ์ USB ที่ใช้เป็นตัวบูตเครื่อง จากนั้นสั่งให้บูตโดยเมื่อปรากฏ Press any key to boot from CD or DVD… ให้กดปุ่มใดก็ได้บนคีย์บอร์ด
 Windows 10 BSOD-2

 

2
ต่อมาให้ดูที่หน้าต่างของ Windows setup screen แล้วคลิก Next เพื่อไปยังหน้าต่างถัดไป

Windows 10 BSOD-3

 

3
คลิกที่ Repair your computer

Windows 10 BSOD-4

 

4
จากนั้นให้คลิกที่ Troubleshoot เพื่อทำการแก้ไขตามขั้นตอนต่อไป

Windows 10 BSOD-5

 

5
เลื่อนเมาส์มาที่ Advanced options

Windows 10 BSOD-6

 

6
ในหน้าต่าง Advanced options ให้คลิกที่ Startup Repair

Windows 10 BSOD-7

 

7
หลังจากที่คลิก Startup Repair เลือกระบบปฏิบัติการที่ต้องการ Repair

Windows 10 BSOD-8

 

8
สุดท้าย Windows จะทำการ Startup Repair และรีตาร์ทให้อัตโนมัติ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ที่มา : kapilarya

from:http://notebookspec.com/your-pc-ran-into-a-problem-and-needs-to-restart/289977/

เช็คอย่างไร ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ พร้อมรองรับ Windows 10 ได้หรือเปล่า

ทุกครั้งที่มี Windows ใหม่เข้ามา คนที่ชอบลอง ก็มักจะอยากนำมาติดตั้งลงบนเครื่องของตนกัน เพียงแต่ว่าบางครั้งไม่อาจทราบได้ว่า คอมพิวเตอร์ของตนนั้นรองรับ Windows ใหม่ๆ เหล่านั้นหรือไม่ เช่นเดียวกับ Windows 10 ที่มีตัวทดลองใช้มาให้ได้ลองใช้งานกันในปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ลอง แล้วไม่ทราบ ว่าเครื่องทำงานไหวหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ยาก ลองดูรายละเอียดที่ทางไมโครซอฟท์กำหนดไว้ได้เลย

Pin to Home-Windows 10-0

ซึ่งหากดูจากรายละเอียดจากทาง Microsoft จะให้ข้อมูลความต้องการขั้นต่ำของระบบ สำหรับการใช้งานบน Windows 10 ล่าสุดเอาไว้ดังนี้

  • Processor : ซีพียูความเร็ว 1GHz หรือมากกว่า
  • RAM : 1GB (32-bit) หรือ 2GB (64-bit)
  • Free Hard disk space : 16GB
  • Graphic Card : สนับสนุน Microsoft DirectX 9 ร่วมกับไดรเวอร์ WDDM
  • เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและมี Microsoft Account

Windows 10 system requirement (1)

ในกรณีที่คุณใช้ Windows 8.1 อยู่แล้ว ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้เลย แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ ให้ลองออพชั่นต่อไปนี้ :

  • ดาวน์โหลดและใช้งาน Windows 8.1 Upgrade Assistant และด้วยฟีเจอร์ตัวเล็กๆ นี้จะบอกคุณได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้สามารถจะทำงานได้หรือไม่
  • หรือหากใช้ OS อื่น ก็อาจเลือกติดตั้ง Windows 8.1 ลงไปในเบื้องต้น เพราะระบบจะตรวจสอบระบบโดยพื้นฐาน แล้วระบบจะแจ้งว่าเครื่องที่ใช้พร้อมสำหรับการโหลดระบบปฏิบัติการ
    หรือไม่

อะไรคือสิ่งที่ขาดหายไปในความต้องการของระบบพิเศษสำหรับหน่วยประมวลผล สามารถดูได้จาก System Requirements ของ Windows 8.1 ตามนี้ได้เลย
Processor : 1GHz หรือเร็วกว่า พร้อมกับรองรับ PAE, NX และ SSE2
RAM : 1GB (32-bit) หรือ 2GB (64-bit)
HDD : 16GB (32-bit) หรือ 20GB (64-bit)
Graphic card : Microsoft DirextX 9 และ WDDM driver

เมื่อดูจากการสนับสนุนฮาร์ดแวร์พิเศษที่เน้นไปยังสิ่งจำเป็นในการประมวลผล สามารถดูเพิ่มเติมได้ดังนี้

PAE : (Physical Address Extension) ช่วยให้การประมวลผล 32 บิตสามารถใช้งานหน่วยความจำได้มากกว่า 4GB ในทางกายภาพในเวอร์ชั่นการทำงานร่วมกับ Windows และเป็น
สิ่งจำเป็นสำหรับ NX (NX Process)
NX : ช่วยปกป้องหน่วยประมวลผลจากการเป็นเป้าหมายโจมตีของมัลแวร์
SSE2 (Streaming SIMD Extensions 2) : เป็นคำสั่งมาตรฐานที่ติดตั้งอยู่บนหน่วยประมวลผล

Windows 10 system requirement (2)

นอกจากนั้นหากต้องการดูว่าหน่วยประมวลผลที่ใช้ จะสนับสนุนเทคโนโลยีเหล่านี้หรือไม่ ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์อย่าง CPUz ในการตรวจสอบได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่รวบรวมการ
ตรวจสอบระบบภายในต่างๆ ของเครื่องที่ใช้และเจาะรายละเอียดเข้าไปยังซีพียู เพื่อใช้ในการตรวจเช็ค ดังที่เห็นโปรแกรมสามารถบอกได้ถึง SSE2, EM64T (Support PAE) และ VT-d
หรือ VT-x (Support NX) เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการใช้งาน Windows 10 แล้ว

from:http://notebookspec.com/system-requirements-for-windpws-10/289954/