คลังเก็บป้ายกำกับ: ALL_NVME_FLASH_STORAGE

เลือกอุปกรณ์ Storage สำหรับงาน AI และ Analytics อย่างไร ให้ตอบโจทย์เชิงธุรกิจฉบับผู้บริหาร

เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลหรือ Data เป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจและกำหนดทิศทางให้กับธุรกิจที่เหมาะสม การลงทุนกับข้อมูลจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจ

ดังนั้นผู้บริหารควรต้องเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องของระบบ Enterprise Storage ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำหรับธุรกิจ และเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบงาน

ในบทความนี้เราจะพาผู้บริหารธุรกิจทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยีของ Enterprise Storage อย่าง All Flash Storage รวมไปถึงคุณค่าที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจ

ข้อมูลคือหัวใจสำคัญเพื่อต่อยอดงาน AI และ Analytics

จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารโดย The Enterprise Strategy Group (ESG) พบว่าธุรกิจในปัจจุบันให้คุณค่ากับข้อมูลมากขึ้นกว่าในอดีตอย่างก้าวกระโดด

โดยกว่า 25% ของผู้บริหาร ระบุว่าอุปสรรคที่มักพบในการเริ่มต้นธุรกิจคือความล่าช้า ความซับซ้อนของระบบ และการเริ่มเปิดบริการใหม่ๆ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการวางระบบจัดเก็บข้อมูลที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งานข้อมูลได้เต็มที่ ลดความซับซ้อนที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากข้อมูลที่มีอยู่ได้

ทำความรู้จัก Enterprise Storage

โดยทั่วไปแล้ว ภายใน Data Center ของธุรกิจองค์กรนั้น จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Enterprise Storage ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ โดยต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. มีพื้นที่ความจุเพียงพอต่อการใช้จัดเก็บข้อมูลทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  2. มีประสิทธิภาพในการเขียนอ่านข้อมูลที่เพียงพอต่อการใช้งาน และเหมาะสมต่อรูปแบบของระบบงานที่ต้องการ
  3. มีความสามารถในการปกป้องข้อมูลไม่ให้สูญหายจากความเสียหายของ Hardware หรือระบบไฟฟ้า
  4. มีความสามารถอื่นๆ ตามที่องค์กรต้องการ เช่น การสำรองข้อมูลภายในหรืออกไปยังภายนอกระบบ, การทำงานร่วมกับระบบงานอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม, การบริหารจัดการร่วมกับระบบอื่นๆ ได้ เป็นต้น
  5. อยู่ในงบประมาณที่เหมาะสมต่อการลงทุน และในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเกิดขึ้นน้อยที่สุด

 

ทั้งนี้ แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจนั้นย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป บางธุรกิจต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลปริมาณมาก หรือบางธุรกิจอาจต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่มาก แต่มุ่งเน้นที่ความเร็วเป็นหลัก ในขณะที่บางธุรกิจมีความต้องการเฉพาะทางด้านข้อมูลและต้องการลดต้นทุนการเช่าใช้ Cloud ก็อาจพิจารณาระบบ Enterprise Storage เพิ่มเติมได้ เป็นต้น

แต่สำหรับงานทางด้าน AI และ Analytics นั้น โจทย์หลักคือการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลย้อนหลังเป็นเวลานาน และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องย้ายข้อมูลได้ง่ายเพื่อความคล่องตัวในการนำข้อมูลไปใช้งาน ซึ่งในบรรดาเทคโนโลยี Enterprise Storage ที่มีด้วยกันหลากหลายนี้ All NVMe Flash Storage ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี

All NVMe Flash Storage เทคโนโลยี Enterprise Storage ล่าสุดที่เต็มเปี่ยมด้านประสิทธิภาพ

Non-volatile Memory Express หรือ NVMe คือชื่อของเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลภายในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับ Flash Storage ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Storage ชนิดที่มีความเร็วสูง

ในผลสำรวจของ ESG นั้นยังระบุด้วยว่าสาเหตุอันดับหนึ่งที่ธุรกิจองค์กรตัดสินใจเลือกใช้ All NVMe Flash Storage นั้น ก็คือการต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Enterprise Storage ให้สามารถจัดเก็บและนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามมาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบ Application ที่มีอยู่เดิม ไปจนถึงการลดค่าใช้จ่ายทั้งในแง่ของการลงทุนระบบในภาพรวมและการดูแลรักษาระบบ IT

นอกจากนี้ยังมี Storage Virtualization ซึ่งเป็นความสามารถช่วยให้บริหารจัดการอุปกรณ์ Storage เดิมที่ธุรกิจองค์กรมีอยู่ก่อนหน้าได้จากศูนย์กลางร่วมกับ All NVMe Flash Storage นี้ ทำให้ไม่ต้องทิ้งหรือยกเลิกการใช้งานอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมไปทั้งหมด แต่ยังคงสามารถเก็บไว้ใช้งานเพื่อเป็นทางเลือกในการจัดเก็บ, สำรอง หรือย้ายข้อมูลชั่วคราวได้ และทำให้การจัดการกับข้อมูลนั้นมีความยืดหยุ่นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

ในภาพรวมแล้ว การเลือกใช้ All NVMe Flash Storage จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรได้รับประโยชน์ดังนี้

  • มีระบบ Enterprise Storage กลางสำหรับรองรับงาน AI โดยเฉพาะซึ่งมีประสิทธิภาพสูง วางใจได้ ไม่ต้องกังวลว่าระบบจะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่องานในอนาคต
  • มีระบบ Enterprise Storage ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ซ้ำๆ และยังนำอุปกรณ์เก่าที่มีอยู่เดิมมาใช้งานร่วมกันได้ด้วยการทำ Storage Virtualization เพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้นไปอีก
  • มีความมั่นคงปลอดภัยและมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายน้อย ด้วยประสิทธิภาพที่สูงของระบบก็ทำให้การเข้ารหัสข้อมูลและเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับข้อมูลสำคัญทางธุรกิจนั้นเกิดขึ้นได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ อีกทั้งเทคโนโลยีเหล่านี้มักมาพร้อมกับความสามารถในการสำรองข้อมูลเบื้องต้นในตัว ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายไปทั้งหมดจาก Ransomware ได้

IBM FlashSystem: ระบบ All NVMe Flash Storage ที่ไม่เพียงแต่เร็วเท่านั้น แต่ยังง่ายดาย ทนทาน และตอบโจทย์การก้าวไปสู่ Hybrid Multicloud

IBM ในฐานะของผู้นำทางด้าน AI, Analytics, Cloud และ Enterprise Data Center ได้ทำการพัฒนาโซลูชัน IBM FlashSystem ซึ่งเป็นอุปกรณ์ All NVMe Flash Storage ออกมาสู่ตลาดเพื่อให้ธุรกิจองค์กรได้นำไปใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ใช้สถาปัตยกรรม All NVMe ทั้งหมด และยังรองรับการใช้งาน Storage Class Memory (SCM) ทำให้มีความเร็วสูงกว่า All NVMe Flash Storage ทั่วๆ ไป โดย IBM FlashSystem รุ่น 9200 นั้นสามารถเขียนอ่านข้อมูลได้มากที่สุดถึง 18 ล้านครั้งต่อวินาทีเลยทีเดียว
  • รองรับการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ โดย IBM FlashSystem รุ่น 9200 มีความจุได้สูงสุดถึง 32PB (32,000 TB) และยังมีเทคโนโลยี Data Reduction เพื่อลดพื้นที่ที่ต้องใช้ในการจัดเก็บข้อมูลลงได้ในตัว ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการจัดเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีในการปกป้องข้อมูลภายในตัวด้วย
  • เพิ่มขยายประสิทธิภาพและความจุได้ง่าย รองรับได้ทั้งการเพิ่มขยายแบบ Scale-Up และ Scale-Out
  • สามารถย้ายข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมมาสู่ IBM FlashSystem ได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องมือที่มีให้พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ว่าข้อมูลเดิมนั้นจะถูกจัดเก็บอยู่บน Storage ของ IBM หรือผู้ผลิตรายอื่นก็ตาม
  • มี AI ช่วยทำการบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในประสิทธิภาพระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ
  • มี AI ช่วยทำการดูแลรักษาแจ้งเตือนแนวโน้มการเกิดปัญหาให้ล่วงหน้า ช่วยลด Downtime ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบลงได้
  • สามารถทำการย้ายข้อมูลไปยัง Cloud ได้อย่างง่ายดาย เชื่อมต่อระบบเข้ากับ VMware, Kubernetes และ OpenShift ได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การทำ Hybrid Multicloud ได้เป็นอย่างดี

และเพื่อให้สอดคล้องต่อความคล่องตัวของธุรกิจในแง่ของการลงทุน IBM จึงมีทางเลือกให้สามารถเช่าใช้งานอุปกรณ์ IBM FlashSystem โดยคิดค่าใช้จ่ายตามพื้นที่การใช้งานจริงรายเดือนได้ และสามารเปลี่ยนรุ่นของอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานได้เมื่อถึงรอบของการอัปเกรด

New Promotion !!! IBM FlashSystem (หมดเขต 31 ต.ค. 63)

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี IBM Flash Storage สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ibm.com/it-infrastructure/storage/flash

สนใจโซลูชันของ IBM ติดต่อ Computer Union ได้ทันที

ผู้ที่สนใจโซลูชันจาก IBM หรือต้องการให้ทาง Computer Union นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำ workshop สามารถติดต่อทีมงาน Computer Union ได้ที่ Email : cu_mkt@cu.co.th หรือโทร 02-311-6881 #7151, 7158

 

from:https://www.thumbsup.in.th/how-to-choose-storage-for-analytics?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=how-to-choose-storage-for-analytics

เปิดตัว NetApp AFF A320 NVMe All Flash Storage รุ่นล่าสุดสำหรับองค์กร

NVMe-over-Fabric หรือ NVMe-oF นั้นได้เริ่มกลายเป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อ All Flash Storage กันแล้ว และ NetApp ก็ได้ประกาศเปิดตัว NetApp AFF A320 ระบบ NVMe All Flash Storage รุ่นล่าสุด เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการใช้งานเทคโนโลยีล่าสุดนี้แล้ว

Credit: NetApp

NetApp AFF A320 นี้รองรับการ Scale-Out ได้สูงสุด 24 Node, สามารถรองรับ SSD ได้สูงสุด 576 ชุด, มีพื้นที่ใช้งานสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35PB โดยมีขนาดเริ่มต้นเพียงแค่ 2U เท่านั้น

จุดเด่นของ NetApp AFF A320 นี้ นอกจากการรองรับความสามารถทั้งหมดของ NetApp ONTAP แล้ว ตัวอุปกรณ์นี้ก็ยังถูกออกแบบมาให้รองรับ NVMe ทั้งหมด โดยรองรับการใช้ NVMe/FC ในการเชื่อมต่อไปยัง Host และใช้ NVMe/RoCE เพื่อเชื่อมต่อไปยัง NVMe Drive Shelf ได้ด้วย ทำให้ประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดนั้นจะสูงมากกว่าการใช้ Protocol แบบเดิมๆ

ในขณะเดียวกัน NetApp ก็ได้เล่าถึงวิสัยทัศน์ของตนเองสำหรับ SAN สมัยใหม่ ที่จะต้องมีการใช้ Persistent Memory เพื่อเสริมความเร็วบน Host และมีการใช้ Storage Class Memory (SCM) ในฐานะ Cache เพื่อเสริมความเร็วให้กับ Storage ด้วย โดยการเชื่อมต่อทั้งหมดนั้นจะใช้ NVMe เป็น Protocol หลัก

Credit: NetApp

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NetApp AFF A320 สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.netapp.com/us/products/storage-systems/all-flash-array/aff-a-series.aspx

ที่มา: http://blog.netapp.com/aff-a320-nvme-for-the-masses/

from:https://www.techtalkthai.com/netapp-aff-a320-nvme-all-flash-storage-is-announced/

DirectFlash Fabric: Pure Storage นำ NVMe over Fabrics มาสู่องค์กรผ่าน RoCEv2 ตอบโจทย์ Application ประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะ

เมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมานี้ หนึ่งในประกาศใหญ่ของ Pure Storage ที่กระทบต่อวงการ Enterprise Storage ทั่วโลกนั้นก็คือการประกาศรองรับ NVMe over Fabrics บน RDMA over Converged Ethernet หรือ RoCEv2 เพื่อการรับส่งข้อมูลประสิทธิภาพสูงสุดได้แล้ว และทำให้ All Flash Storage ของ Pure Storage นี้รองรับความสามารถนี้ได้ด้วยการอัปเกรด Firmware และติดตั้ง NIC ที่รองรับ RoCEv2 เท่านั้น

Credit: Pure Storage

ทำไม NVMe over Fabrics จึงสำคัญต่อองค์กร?

ท่ามกลางการทำ Digital Transformation ของธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันนี้ หลายธุรกิจได้เริ่มมีการพัฒนา Digital Product ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน และ Digital Product นั้นเองก็ต้องรองรับการเข้าถึงโดยลูกค้าผู้ใช้งานปริมาณมหาศาล หรือต้องรองรับการเพิ่มหรือลดความสามารถใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการพัฒนาระบบ AI ที่ต้องประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาลอย่างไม่เคยมีมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นในธุรกิจระดับองค์กร การใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservices และการพัฒนาระบบขนาดใหญ่ระดับ Hyperscale เพื่อใช้งานภายในธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นขึ้นมา

Credit: Pure Storage

อย่างไรก็ดี ในยุคแรกเริ่มนั้นระบบขนาดใหญ่ระดับ Web Scale หรือ Hyperscale นั้นก็ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Hyper-Converged Infrastructure หรือ HCI ที่รวมเอา SSD, HDD ใน Server จำนวนมากเข้าด้วยกัน และใช้ CPU ร่วมกับ RAM ประมวลผลของงานต่างๆ ซึ่งถึงแม้สถาปัตยกรรมนี้จะง่าย แต่การใช้งานทรัพยากรต่างๆ นั้นก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างคุ้มค่าอย่างสูงสุด เนื่องจากระบบ HCI นี้ไม่ตอบโจทย์ต่อการเพิ่มทรัพยากรเฉพาะส่วนอย่างเช่นการเพิ่มเฉพาะ CPU อย่างเดียว, เพิ่ม RAM อย่างเดียว หรือเพิ่ม SSD/HDD อย่างเดียวเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ สถาปัตยกรรมถัดมาคือการทำ Rack Scale Disaggregation จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยการใช้ Just a Bunch of Flash หรือ JBOF มาติดตั้งประจำในแต่ละตู้ Rack แบบ Top-of-Rack และเชื่อมต่อ Flash Storage ภายใน JBOF นี้ไปยัง Server จำนวนมากภายในตู้ Rack เดียวกัน ทำให้การเพิ่มขยายหรือลดทรัพยากรในแต่ละส่วนเกิดขึ้นได้อย่างอิสระ มีความคุ้มค่าในการใช้งานทรัพยากรแต่ละส่วนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

แต่ Rack Scale Disaggregation เองนี้ก็ยังไม่ตอบโจทย์ด้านการเพิ่มขยายและความคุ้มค่าได้ดีมากนัก เพราะข้อจำกัดของการใช้ JBOF ประจำแต่ละตู้ Rack นี้เองที่ทำให้การเพิ่มขยายทรัพยากรของระบบจำกัดอยู่ในระดับของตู้ Rack เท่านั้น ความยืดหยุ่นในการนำทรัพยากรต่างๆ โยกย้ายไปใช้งานตามต้องการยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไป ทำให้แนวคิดของสถาปัตยกรรมถัดมาอย่าง Complete Disaggregation นั้นเกิดขึ้นมา

แนวคิดของ Complete Disaggregation นี้จะมุ่งเน้นที่การแยก Storage และ Compute ออกจากกันเป็นคนละ Rack และมี Protocol ในการเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยประสิทธิภาพในการเข้าใช้งาน Storage นั้นจะเทียบเท่ากับการใช้ Direct Attached Storage หรือ DAS ด้วย Latency ในระดับต่ำกว่า 300 Microsecond ซึ่ง Ethernet หรือ Fibre Channel ที่เคยใช้งานกันนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ในขณะที่การบริหารจัดการและใช้งานทรัพยากรแต่ละส่วนนั้นจะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Rack Scale Disaggregation

ด้วยเหตุนี้ Complete Disaggregation จึงได้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าจับตามองสำหรับระบบ Application ขนาดใหญ่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ, ความยืดหยุ่น และความคุ้มค่าในระดับสูงสุด และการที่เหล่าองค์กรจะสร้างสถาปัตยกรรม Complete Disaggregation ได้นั้น NVMe over Fabrics ก็ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง Storage และ Server ข้าม Rack นั้น เกิดขึ้นได้ด้วย Latency ระดับต่ำเสมือนยังคงใช้งาน DAS อยู่นั่นเอง

เปิดตัว Pure Storage DirectFlash Fabric รองรับ NVMe-oF บน RoCEv2 เจาะตลาด Linux ก่อน

Credit: Pure Storage

เพื่อให้การนำสถาปัตยกรรม Complete Disaggregation มาใช้ในระดับองค์กรเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายที่สุด Pure Storage จึงได้ทำการเปิดตัว DirectFlash Fabric ซึ่งเป็นโซลูชัน NVMe-oF ให้ผู้ใช้งาน Pure Storage ทั่วโลกสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยการอัปเกรด Firmware ของ Pure Storage FlashArray เป็นรุ่นล่าสุด และติดตั้งการ์ด NIC ที่สนับสนุน RDMA เท่านั้น ระบบก็จะเริ่มใช้งาน NVMe-oF บน RoCEv2 ได้แล้ว

Credit: Pure Storage

การใช้งาน NVMe-oF บน RoCEv2 จะช่วยให้ Latency ของ All Flash Storage ลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับ iSCSI และลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบกับ Fibre Channel อีกทั้งความสามารถในการทำ RDMA Offload ของการ์ดบน Server เองก็จะช่วยลดการทำงานของ CPU ลงไปได้กว่า 25% และทำให้ Server เหลือพลังประมวลผลสำหรับนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้มากขึ้นไปด้วย

สาเหตุที่โซลูชัน DirectFlash Fabric นี้เริ่มต้นรองรับการทำ NVMe-oF บน RoCEv2 ก่อนนั้น ก็เป็นเพราะว่าระบบปฏิบัติการ Linux นั้นมี Driver ที่พร้อมแล้วสำหรับ NVMe-oF อีกทั้ง Application ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและมีระบบขนาดใหญ่ส่วนใหญ่นั้นก็อยู่บน Linux ไม่ว่าจะเป็น MongoDB, Cassandra, MariaDB, Hadoop หรือแม้แต่ Splunk ก็ตาม โดยจากการทดสอบของ Pure Storage นั้นพบว่า NVMe-oF สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Application ต่างๆ ได้ดังนี้

Credit: Pure Storage
  • MongoDB มี Operation per Second มากขึ้นถึง 50%
  • Cassandra มี Latency ต่ำลง 30% และมี Operation per Second มากขึ้นถึง 30%
  • MariaDB มี Transaction สูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 33%

วิสัยทัศน์ของ Pure Storage DirectFlash Fabric: จาก NVMe บน RoCEv2 สู่ Fibre Channel ในปลายปี 2019 และ TCP ในปี 2020

การเปิดตัว NVMe-oF บน RoCEv2 นี้ถือเป็นก้าวแรกของ Pure Storage เท่านั้น โดยหลังจากนี้ทาง Pure Storage เองก็มีแผนที่จะพัฒนาและเปิดตัวโซลูชัน NVMe-oF บน Fibre Channel ภายในช่วงปลายปี 2019 นี้ และเปิดตัว NVMe-oF บน TCP หรือ Ethernet ภายในปี 2020 เพื่อให้การใช้งาน NVMe-oF นั้นเป็นไปได้อย่างง่ายดายสำหรับธุรกิจองค์กร ไม่ต้องลงทุนเปลี่ยน Hardware มากนัก รวมถึงรอให้ Driver จากผู้พัฒนารายต่างๆ มีความพร้อมเสียก่อน และรองรับ Application หลากหลายที่ใช้งานภายในองค์กรอยู่แล้วได้มากขึ้นในอนาคต

Credit: Pure Storage

ความเป็นไปได้ใหม่ของ DirectFlash Fabric: Scale-Out ระบบด้วยการประยุกต์ใช้ Snapshot

นอกจากความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่สูงขึ้นโดยยังคงความสามารถในการบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลในระดับสูงที่ NVMe-oF สามารถทำได้แล้ว Pure Storage เองก็ยังได้ระบุถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยการประยุกต์ใช้ Snapshot ในการทำ Auto-scaling ให้กับระบบต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับรองรับ Load ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

แนวคิดที่ Pure Storage นำเสนอนี้ก็คือการทำ Automation ร่วมกับระบบ Application Monitoring ที่หากพบว่ามีการเข้าใช้งานระบบใดๆ เป็นปริมาณสูงกว่าที่กำหนดไว้ ก็ทำให้ Pure Storage ทำ Snapshot ระบบนั้นๆ ขึ้นมาในเวลาสั้นๆ และไม่กินพื้นที่เพิ่มเติมเนื่องจากมีการทำ Deduplication และ Compression ให้ในตัว ก่อนที่จะนำ Snapshot นั้นๆ มาเปิดใช้งานเป็น Node ใหม่เพื่อให้บริการผู้ใช้งานที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยระบบดังกล่าวยังคงมีประสิทธิภาพที่สูงจากการเชื่อมต่อด้วย NVMe-oF อยู่

ไม่เพียงแต่การนำ Snapshot มาใช้ในระบบ Production เท่านั้น การทำ Snapshot เพื่อนำระบบและข้อมูลไปใช้ในการ Test เองก็เป็นอีกกรณีการใช้งานหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในระบบ Storage ที่ใช้ NVMe-oF ด้วย

ตอบทุกโจทย์ความต้องการของธุรกิจด้วย Pure Storage

Credit: Pure Storage

สำหรับธุรกิจที่อยากเริ่มต้นใช้งาน NVMe-oF กันแบบง่ายๆ และทันท่วงทีนั้น Pure Storage ก็มีระบบ Converged Infrastructure (CI) อย่าง FlashStack ที่ผสานเทคโนโลยีร่วมกันระหว่าง Cisco และ Pure Storage ที่เชื่อมต่อกันด้วย NVMe-oF บน RoCEv2 ซึ่งมีความเร็วต่อพอร์ตสูงสุดถึง 50Gbps ให้พร้อมใช้งานได้ทันที

อย่างไรก็ดี สำหรับธุรกิจโดยทั่วไปแล้ว NVMe All Flash Storage นั้นก็ได้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักในการนำมาใช้งานกันแล้วไม่ว่าจะใช้ NVMe-oF หรือไม่ก็ตาม และ Pure Storage เองก็สามารถช่วยให้ Application หลากหลายมีความเร็วสูงขึ้นได้ด้วยโซลูชัน NVMe All Flash Storage ที่มีอยู่หลากหลายของ Pure Storage นั่นเอง

Credit: Pure Storage

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DirectFlash Fabric และ NVMe-oF บน RoCEv2

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับ DirectFlash Fabric และ NVMe-oF บน RoCEv2 สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Whitepaper ของ Pure Storage โดยสามารถ Download ได้ฟรีๆ ทันทีที่ http://info.purestorage.com/Direct-Flash-Fabric-Thai.html

สนใจติดต่อทีมงาน Pure Storage ในประเทศไทยได้โดยตรง

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี All Flash Storage และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมหรืออยากพิจารณาใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงานของ Pure Storage ประเทศไทยโดยตรงได้ทันทีที่ jkunasinkjja@purestorage.com

from:https://www.techtalkthai.com/purestorage-directflash-fabric-for-nvme-of-over-rocev2/

รู้จัก Pure Storage FlashArray//X ระบบ Shared Accelerated Storage ความเร็วสูงด้วย 100% NVMe All Flash

เทคโนโลยี All Flash Storage นั้นก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Shared Accelerated Storage ซึ่งถือเป็นระบบ Storage ถัดไปจากยุคของ SAN Storage และ NAS Storage รวมถึงจะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ Pure Storage FlashArray//X ซึ่งเป็น Shared Accelerated Storage ที่ใช้เทคโนโลยี NVMe อย่างเต็มที่แบบ 100% ไปด้วยกันครับ

 

เทคโนโลยี Flash พัฒนามากขึ้น SAN Storage และ SSD ก็เริ่มเกิดปัญหาคอขวด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เรามักจะเห็นการเปลี่ยนจากการใช้ SAN Storage ทั้งแบบที่เป็น HDD ล้วนๆ และแบบ Hybrid ซึ่งใช้ SSD ร่วมกับ HDD ไปสู่การใช้งาน All Flash Storage ที่ใช้ SSD หรือ Flash มาจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดแทน เพื่อให้ระบบมีความเร็วสูงสุด, ประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สูงไม่แพ้กับ HDD ด้วยเทคโนโลยี Data Reduction และการพัฒนา Flash ที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน

อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี SSD หรือ All Flash Storage จำนวนมากนั้นยังคงใช้สถาปัตยกรรมเดิมและเทคโนโลยีเดิมกับที่เคยใช้ใน SAN Storage และ NAS Storage ยุคก่อนๆ เป็นหลัก ทำให้ถึงแม้ตัว SSD จะมีความเร็วสูงกว่า HDD มากเพียงใด แต่เมื่อใช้งานไปถึงจุดหนึ่งแล้วก็จะพบกับคอขวดในระดับของสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีแบบเก่า ที่ถูกออกแบบมาตั้งแต่สมัยยุคของ HDD เป็นหลักอยู่ดี

การออกแบบระบบ Storage ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่พื้นฐานของสถาปัตยกรรมภายในและการเลือกใช้ Protocol หรือมาตรฐานต่างๆ ภายในใหม่ทั้งหมดให้รองรับต่อศักยภาพของ Flash ได้อย่างเต็มที่จึงกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการ Storage และนี่เองก็ทำให้เกิดการพัฒนา Storage ในยุคใหม่ขึ้นมา

 

Shared Accelerated Storage: อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลกลุ่มใหม่ ต่อยอดจาก SAN Storage และ SSD ทั่วไปด้วย NVMe

Shared Accelerated Storage หรือ SAS นี้เป็น Storage กลุ่มใหม่ที่ถูกให้นิยามโดย Gartner ที่ได้ผสานเอาความง่ายดายในการติดตั้งใช้งานของระบบ Direct Attached Storage (DAS) เข้ากับความสามารถในการเพิ่มขยายได้และบริหารจัดการได้ง่ายของ SAN และ NAS Storage เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยี NVMe เป็นหลักในการสื่อสารข้อมูลกับอุปกรณ์ Flash ที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเพื่อดึงศักยภาพของเทคโนโลยีออกมาใช้งานให้ได้อย่างเต็มที่ และรองรับการทำ NVMe over Fabric (NVMe-oF) เพื่อช่วยให้ Server สามารถเข้าถึงข้อมูลบน Shared Accelerated Storage ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังประมวลผลน้อยลงไปด้วย

Shared Accelerated Storage ที่ได้กำจัดปัญหาคอขวดที่เคยเกิดขึ้นใน Storage รุ่นก่อนหน้าถึงระดับของสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีพื้นฐานแล้ว ก็ได้กลายเป็นเทคโนโลยีระบบ Storage ที่สามารถรองรับ Workload ได้ทุกรูปแบบในหนึ่งเดียว ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานภายในระบบ IT เพื่อรองรับ Application หลากหลายรูปแบบได้ทันที

(หมายเหตุ: Shared Accelerated Storage ที่ย่อว่า SAS นี้เป็นคนละคำกับ Serial Attached SCSI ซึ่งมีตัวย่อว่า SAS เช่นเดียวกัน)

 

Pure Storage FlashArray//X: ระบบ Shared Accelerated Storage ประสิทธิภาพสูง

 

Credit: Pure Storage

 

Pure Storage ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้าน All Flash Storage มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ก็ได้เปิดรับต่อแนวโน้มของ Shared Accelerated Storage นี้อย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัว Pure Storage FlashArray//X ซึ่งเป็น 100% NVMe All Flash Array ต่อยอดจากเทคโนโลยีเดิมที่เคยมีอยู่ด้วยการเสริม NVMe เข้าไปอย่างเต็มตัว และออกแบบสถาปัตยกรรมระบบภายในใหม่เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลบน NVMe Flash ทั้งหมดในระบบนั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

Credit: Pure Storage

 

Pure Storage FlashArray//X นี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Flash Storage ในสถาปัตยกรรมก่อนหน้าถึง 2 เท่า อีกทั้งยังมี Latency ที่ต่ำมากเพียงแค่ 250 Microsecond เท่านั้น อีกทั้งยังมีความทนทานถึงระดับจ 99.9999% จึงสามารถรองรับ Workload แบบ Mission Critical ได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งนวัตกรรมน่าสนใจที่ถูกเสริมเข้าไปใน Pure Storage FlashArray//X นี้ก็คือ DirectFlash ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการบริหารจัดการอุปกรณ์ Flash ภายใน All Flash Array เลยก็ว่าได้

 

Credit: Pure Storage

 

เดิมทีนั้นการออกแบบ SSD มักจะต้องมีชิปที่ทำหน้าที่เป็น Controller เพื่อจัดการการเขียนอ่านข้อมูลภายใน Flash ซึ่งอยู่ใน SSD แต่ละชุด และภายในระบบ All Flash Storage ซึ่งมีการติดตั้ง SSD จำนวนมากนั้น ก็ต้องมีชั้นของ Software ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกับชิปเหล่านี้และทำการบริหารจัดการหรือเขียนอ่านข้อมูลลงไปยัง SSD เหล่านั้นได้ ซึ่งความซับซ้อนที่เกิดขึ้นตรงนี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในระบบ All Flash Storage แบบเดิมๆ

 

Credit: Pure Storage

 

Pure Storage DirectFlash ได้ทำการกำจัดชั้นของ Software ที่ซับซ้อนและชิปสำหรับควบคุม Flash ออกไป เปิดให้ Storage Controller ทำการสื่อสารกับ Flash ทั้งหมดได้โดยตรงผ่าน NVMe ทำให้การเข้าถึงข้อมูลใดๆ นั้นไม่เกิดปัญหาคอขวดอีกต่อไป อีกทั้งการทำงานอย่างเช่นการทำ Data Reduction หรือการเพิ่มความทนทานของข้อมูลนั้นสามารถเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ไม่เกิด Overhead ที่ต้องสูญเสียไปจากการบริหารจัดการ Flash แยกกันใน SSD แต่ละชุดอีกต่อไป

 

Credit: Pure Storage

 

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pure Storage FlashArray//X ได้ทันทีที่ https://www.purestorage.com/products/flasharray-x.html ครับ

 

รองรับการใช้งานได้ยาวนานอีกนับ 10 ปี อัปเกรดจาก Pure Storage FlashArray//M สู่ Pure Storage FlashArray//X ได้ทันที ไม่มี Downtime เกิดขึ้นในระบบ

หนึ่งในการออกแบบสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีของ Pure Storage โดดเด่นมากนั้นก็คือการออกแบบให้ Hardware และ Software ทั้งหมดสามารถอัปเกรดและ Maintenance ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิด Downtime ใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างเช่นการเปลี่ยน SSD/Flash, การอัปเกรด Firmware ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่างเช่นการเปลี่ยน Controller ที่ชำรุดเสียหาย หรือการอัปเกรด Hardware โครงสร้างภายในจาก Pure Storage FlashArray//M ที่ใช้เทคโนโลยี SSD แบบเดิมๆ ไปเป็น Pure Storage FlashArray//X ที่เป็น NVMe แบบ 100% ก็ตาม และความสามารถดังกล่าวนี้ยังรองรับถึงการอัปเกรดเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาได้อีกด้วย

จุดเด่นสำคัญหนึ่งของการออกแบบนี้ก็คือการที่ในระหว่างการอัปเกรดหรือ Maintenance ใดๆ ก็ตาม ระบบจะยังคงทำงานด้วยประสิทธิภาพในระดับเดิมเสมอ ทำให้ในระดับของ Application นั้นไม่เกิดผลกระทบทางด้านประสิทธิภาพและไม่เกิด Downtime ใดๆ เลย

ด้วยการออกแบบดังกล่าว ก็ทำให้ Pure Storage เปิดโครงการ Evergreen Storage ขึ้นมาเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถทำการอัปเกรด Pure Storage ที่มีการใช้งานอยู่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดอยู่เสมอต่อไปได้อีกนับ 10 ปีโดยไม่มี Downtime ทำให้การดูแลรักษาระบบ Storage ง่ายดายยิ่งกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก ไม่ต้องมีการซื้ออุปกรณ์ใหม่มาและทำการ Migrate ระบบอีกต่อไป แต่อาศัยการอัปเกรดและขยายระบบเดิมที่มีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แทน

 

Credit: Pure Storage

 

สนใจติดต่อทีมงาน Pure Storage ในประเทศไทยได้โดยตรง

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี All Flash Storage และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมหรืออยากพิจารณาใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงานของ Pure Storage ประเทศไทยโดยตรงได้ทันทีที่ jkunasinkjja@purestorage.com

from:https://www.techtalkthai.com/pure-storage-flasharray-x-shared-accelerated-storage-with-all-nvme/

Pure Storage เปิดตัว FlashArray//X ระบบ All-NVMe Flash Array รุ่นแรก พื้นที่ใช้งาน 1PB ใน 3U

Pure Storage ได้ประกาศเปิดตัว All-Flash Array รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้ NVMe SSD ทั้งหมดเป็นรุ่นแรก ภายใต้ชื่อ Pure Storage FlashArray//X ซึ่งนอกจากจะมี Latency ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับ SSD ทั่วๆ ไปแล้ว Pure Storage ก็ยังได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเสริมทั้งความเร็วและความจุลงไปในระดับของ Software ด้วย ดังต่อไปนี้

Credit: Pure Storage

 

  • ระบบ DirectFlash Software ภายในระบบปฏิบัติการ Purity Operating Environment ซึ่งจะทำหน้าที่ต่างๆ ในการบริหารจัดการอุปกรณ์ Flash ที่ระดับของระบบแทนระดับของ SSD เช่น Garbage Collection, Allocation, I/O Optimization, Error Correction เพื่อให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบสูงขึ้น และมีการใช้งาน Flash ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • อุปกรณ์ DirectFlash Module ที่เชื่อมต่อกับ FlashArray Controller ผ่านทาง NVMe ทำให้ Controller สามารถเชื่อมต่อกับ Raw Flash ทั้งหมดได้แบบ 100% และใช้ความจุของ Flash ได้อย่างเต็มที่ โดยมีรุ่น 2.2TB, 9.1TB และ 18.3TB โดยใน FlashArray//X70 ขนาด 3U นั้นจะมีความจุ Raw Capacity สูงสุดได้ถึง 366TB และมี Usable Capacity หลังจากทำ Data Reduction ได้มากเกินกว่า 1PB (1,000TB)
  • อุปกรณ์ //X70 Controller รุ่นใหม่ ที่รองรับการสื่อสารด้วย NVMe ได้ใน Midplane และ Chassis เดิม ทำให้ผู้ใช้งาน Pure Storage เดิมสามารถอัปเกรดระบบได้โดยไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด

สำหรับสเป็คเปิดตัวของ Pure Storage FlashArray //X70 มีดังนี้

  • Form Factor: 3U
  • Raw Capacity: 22–366TB
  • Effective Capacity: Up to 1.05PB
  • Connectivity:
    • 16Gb/s Fibre Channel
    • 10/40Gb/s Ethernet iSCSI
    • 1/10Gb/s Replication ports
    • 1Gb/s Management port
  • Physical
    • Dimensions: 5.12” x 18.94” x 29.72”
    • Weight: 97lbs loaded

ปัจจุบัน Pure Storage FlashArray//X70 รุ่นที่ใช้ DirectFlash Module ความจุ 2.2TB และ 9.1TB วางจำหน่ายแล้ว ส่วนรุ่น 18.3TB นั้นจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2018

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.purestorage.com/products.html ทันที

 

ที่มา: http://www.storagereview.com/pure_storage_announces_flasharray_x_allnvme_flash_array

from:https://www.techtalkthai.com/pure-storage-flasharray-x-is-released-as-all-nvme-flash-storage/