คลังเก็บป้ายกำกับ: 128_GB

หั่นราคา 4,000 บาท!!  OPPO F7 ความจุ 128 GB เหลือเพียง 10,990 บาทแล้ววันนี้

สามารถเป็นเจ้าของ OPPO F7 128 GB ได้แล้ว ในราคา 10,990 บาท เท่านั้น! จากราคาปกติ 14,990 บาท (มีผลตั้งแต่ วันที่ 18 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป)

OPPO F7 128 GB อีกหนึ่งรุ่นจาก F Series ของแบรนด์ ออปโป้ ที่สเปคและฟังก์ชั่นการใช้งานโดนใจใครหลายคน

 

รุ่นนี้มาพร้อม 2 สีสวย ที่เป็น Glossy Design คือ สีแดง Solar Red และ สีดำ Diamond Black (ดีไซน์เพชรหรูหรา)  RAM 6GB / ROM 128GB

กล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อม AI Beauty 2.0 ถ่ายรูปในแบบฉบับที่เป็นคุณ สวยหล่อขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมระบบ Facial Recognition ที่สามารถจำจุดต่างๆบนใบหน้ากว่า 296 จุด ปลดล็อคใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว

หน้าจอขนาด 6.23 นิ้ว Super Full Screen หมดห่วงในเรื่องการเซลฟี่กลุ่มที่ไม่ต้องกลัวเพื่อนหลุดเฟรมอีกต่อไป มาพร้อมความคมชัดระดับ FHD+

และยังมาพร้อมประกันเครื่องนาน 24 เดือน เหมือนเดิม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ออปโป้ แบรนด์ ช็อป และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือเว็ปไซต์ https://www.oppo.com/th/index.html

from:http://www.flashfly.net/wp/226668

เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ Samsung Galaxy S6/Edge 32 GB

ถ้าตอนนี้คุณกำลังสนใจอยากจะจับจอง Samsung Galaxy S6 / Edge มาเป็นเจ้าของและคุณก็เป็นคนนึงที่ไม่สนใจในเรื่องของหน่วยความจำภายในตัวเครื่องสักเท่าไรนัก คุณอาจจะต้องคิดใหม่เลยล่ะครับ เพราะ หากคุณเลือกซื้อ Samsung Galaxy S6/Edge มาแบบใหม่ๆแกะกล่องเลยก็ตาม มันจะมีพื้นที่เหลือให้เราใช้เพียง 23.5 GB เท่านั้น จากทั้งหมด 32 GB และที่สำคัญมันไม่มีช่องให้เราใส่ microSD Card เพิ่มด้วยนะครับ

batllo-0853

หากถามว่าแล้วมันหายไปไหนตั้งหลาย GB ?? นี่เลยครับเจ้าตัวดีตัวนี้เลย TouchWiz ถึงแม้ว่ามันจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ตามมันมาติดๆเลยคือรอยเท้าของมันนั่นเองครับ ยิ่งมีประสิทธิภาพที่ดีมากเท่าไรมันก็ยิ่งตัวใญ่กินจุ กินพื้นที่เยอะเท่านั้น หลังจากที่เราเริ่มใช้มันในอนาคตมันยิ่งมีแนวโน้มที่จะกินพิ้นที่ใช้สอยที่มีค่าของเราๆไปเรื่อยๆอีกนะครับ เพระาแน่นอนในอนาคตต้องมีการอัพเดท Data และแอพเกิดขึ้น ทีนี้แหละครับที่มันจะทำให้เราไม่เหลือพิ้นที่ใช้สอยเลย หากเราเลือก S6/Edge ด้วยความจุ 32 GB

แต่ต้องบอกอย่างงี้นะครับว่า มันก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า Galaxy หรอก เพราะในขณะที่เทคโนโลยีต่างๆก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นได้ว่าความจุภายในตัวเครื่องนั้นแทบไม่ได้มีการพัฒนาไปเลยครับ เหมือนกับย่ำอยู่กับที่ นั่นหมายความว่าสมาร์ทโฟนตัวอื่นก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้ครับ อย่าง HTC One M9 แบบใหม่ๆแกะกล่อง ป้ายแดง เพิ่งลอกพลาสติก ก็จะมีพื้นที่ให้เราใช้เพียง 23 GB เช่นกัน

วิธีการในการรับมือปัญหาในเรื่องของพื้นที่ไม่พอใช้นั้น ง่ายนิดเดียวครับ เพียงแค่เราควรจะคิดถึงอนาคตไว้ด้วยครับก่อนซื้อ พูดง่ายๆก็ซื้อเผื่อไว้เลย Samsung Galaxy S6/Edge 64 GB จะมีพื้นที่ใช้งานเหลือ 55 GB ส่วนตัว 128 GB นั้นจะมีพื้นที่เหลืออยู่ 119 GB นอกจากนี้ยังควรใช้ Cloud Storge ในการเก็บข้อมูลยิบย่อยต่างๆ อย่างเช่นรูปถ่าย ไฟล์เล็กๆนอยๆ เพราะมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เครื่องเราเหลือพิ้นที่มากขึ้นครับผม

 

CREDIT : PHONEARENA

from:http://www.appdisqus.com/2015/03/31/samsung-s6-less-storge.html

[PR] อะโดบีเชิญชวนนักศึกษาไทยเข้าประกวด “DesignSpire Contest”

[PR] อะโดบีเชิญชวนนักศึกษาไทยเข้าประกวด “DesignSpire Contest”

อะโดบีเชิญชวนนักศึกษาเข้าประกวด “DesignSpire Contest” สำหรับนักศึกษาไทยและนักศึกษาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเปิดโอกาสให้ทั้งนักศึกษาภาคปกติและภาคสมทบ (ภาคพิเศษ) อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ร่วมสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบภายใต้ธีม อะไรคือแรงบันดาลใจของคุณ?” (What Inspires You?) โดยใช้โปรแกรมของ Adobe Creative Cloud และส่งผลงานได้ทางออนไลน์ไปยังเว็บไซต์การประกวด หมดเขตส่งผลงานในวันทีศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556

นักศึกษาและอาจารย์สามารถซื้อโปรแกรม Adobe Creative Cloud ได้ในราคาเพียง 600 บาทต่อเดือนจากเว็บไซต์ของอะโดบี หรือเลือกดาวน์โหลดรุ่นทดลองใช้ฟรี 30 วันเพื่อใช้ในการแข่งขันได้อีกด้วย

ร่วมโครงการ Designspire contest ได้ง่ายๆ

  • ส่งผลงานออกแบบของคุณไปที่ http://adobedesignspirecontest.com/ โดยสามารถอ่าน ‘วิธีการเข้าร่วมประกวด’ ในเว็บไซต์เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการส่งผลงาน ขนาดของผลงาน และคุณสมบัติอื่นๆ
  • หลังจากปิดรับผลงาน คณะกรรมการจะคัดเลือก 10 สุดยอดผลงานจากเกณฑ์ต่อไปนี้: เทคนิคในการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์, Originality and Creativity โดยผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายจะต้องส่งผลงานในรูปแบบ Raw File ให้กับทางอะโดบี
  • 10 สุดยอดผลงานที่ได้รับคัดเลือกจะนำมาให้ประชาชนได้ร่วมโหวต (Public Voting) เพื่อตัดสินรางวัลชนะเลิศ
  • เมื่อการโหวตจากประชาชน (Public Voting) เสร็จสิ้น คณะกรรมการจะร่วมประชุมตัดสินอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าผลงานที่ได้รับการโหวตสูงสุดเป็นผู้ชนะที่ถูกต้อง และประกาศผลการประกวดในวันที่ 23 ธันวาคม 2013

มีประโยชน์กับนักศึกษาอย่างไร?

  • ผลงานของคุณจะถูกจัดแสดงบนเว็บไซต์การประกวด Adobe Designspire และแชร์ในโซเชียลมีเดียของอะโดบีทั่วโลก
  • ผลงานของคุณจะได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์ระดับโลก อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะกรรมการได้ที่เว็บไซต์การประกวด
  • ผลงานของคุณจะได้รับการโหวตจากประชาชนโดยผ่านเโซเชียลมีเดียของ Adobe ทำให้คุณได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถไปสู่ผู้ชมในวงที่กว้างขึ้น
  • ผู้ชนะการประกวดจะได้รับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเป็นส่วนหนึ่งของ Mentoring Program เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนกับ Stuart McLachlan – นักมายากลกระดาษระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และนักวาดภาพประกอบระดับโลก และได้เดินทางไปซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเพื่อพบ Stuart McLachlan พร้อมประสบการณ์แบบตัวต่อตัวเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์
  • ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 จะได้รับ MacBook Air ขนาด 13 นิ้ว 128 GB และรองชนะเลิศลำดับที่ 3 จะได้รับ iPad Mini, WiFi 32 GB

สนใจเข้าร่วมการประกวด Adobe Designspire Contest หรือต้องการซื้อหรือทดลองใช้ Adobe Creative Cloud ได้ที่ http://adobedesignspirecontest.com/

รับข่าวสารล่าสุดของ Adobe รวมถึง Tips & Tricks ที่ช่วยทำให้งานออกแบบของคุณง่ายขึ้น โดยเข้าไปที่ Adobe South East Asia community

เกี่ยวกับ บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ อินคอร์เปอเรทเต็ด

อะโดบีเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยประสบการณ์ดิจิตอล สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.adobe.com/sea

กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์อะโดบีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถติดต่อกับทีมงานของอะโดบีและบุคลากรด้านครีเอทีฟผ่าน Facebook ได้โดยตรง เพื่อรับทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหว ข้อมูลอัพเดต และโปรโมชั่นได้ที่ http://facebook.com/AdobeSEA

from:http://mobiledista.com/pr-adobe-student-invites-thailand-contestant-designspire-contest/

[PR] โซนี่ไทยส่งผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio เอาใจคนรักเสียงเพลงยุคดิจิตอล

[PR] โซนี่ไทยส่งผลิตภัณฑ์ Hi Resolution Audio เอาใจคนรักเสียงเพลงยุคดิจิตอล

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด วันนี้ถือฤกษ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม  Hi – Resolution Audio (ไฮเรส โซลูชั่น ออดิโอ) หลากหลายรุ่น เอาใจคนรักเสียงเพลงด้วยการยกระดับสุนทรียภาพของการรับฟังดนตรีในรูปแบบไฟล์ดิจิตอลต่าง ๆ ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยคุณภาพของเสียงดนตรีที่ดีที่สุดในทุกรายละเอียด ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟัง วอล์คแมน แอมปลิฟายเออร์แบบพกพา เป็นต้น ทั้งนี้ Hi – Resolution Audio หรือ Hi-Res Audio ก็คือไฟล์เพลงที่ให้รายละเอียดสูงกว่าซีดี เพลงทั่วไป ตั้งแต่ 3 เท่าขึ้นไป จนถึง 8 เท่า นั่นหมายถึง เพลงที่ให้รายละเอียดและคุณภาพที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่บันทึกจากสตูดิโอ หรือการแสดงสด โดยไม่ผ่านการบีบอัดใดๆ

แม้ว่าการรับฟังดนตรีจากไฟล์เพลงดิจิตอลรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นทางเลือกที่สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ฟังมากขึ้น และสามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ก็อาจพบข้อจำกัดในเรื่องของคุณภาพเสียงที่สูญหายไปในระหว่างการบีบอัดไฟล์ ส่งผลให้คุณภาพของเสียงดนตรีที่ได้ด้อยลงไปด้วย จึงทำให้ผู้ที่นิยมการฟังเพลงที่ถูกบีบอัดในรูปแบบไฟล์ดิจิตอลต่าง ๆ ยังคงถวิลหาความสุนทรีย์จากการรับฟังเพลงที่มีรายละเอียดครบครันในทุกย่านเสียง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ดี และถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง จึงมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้อย่างตรงใจผู้ฟังที่พิถีพิถันในคุณภาพและความเป็นดนตรี

วันนี้ โซนี่ จึงพร้อมมอบประสบการณ์ในการฟังดนตรีคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับคุณภาพจากห้องบันทึกเสียง หรือการแสดงสดอีกครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ซึ่งทั้งศิลปิน โปรดิวเซอร์ และค่ายเพลงมากมายในปัจจุบัน ต่างก็ได้ร่วมกันจับมือทำงานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานดนตรีคุณภาพสูงระดับ Hi-Res Audio ออกมาให้แก่ผู้รักเสียงเพลง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จากโซนี่ด้วยเช่นกัน

[PR] โซนี่ไทยส่งผลิตภัณฑ์ Hi Resolution Audio เอาใจคนรักเสียงเพลงยุคดิจิตอล

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ที่โซนี่ไทยเปิดตัวในวันนี้ ประกอบด้วย

          MDR-10 Series  – เป็นกลุ่มหูฟังรุ่นใหม่ที่สืบทอดความสำเร็จมาจากหูฟังระดับพรีเมี่ยม MDR-1 Series ที่ได้วางตลาดมาก่อนหน้านี้ และยังวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน โดยโซนี่ได้ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อถ่ายทอดรายละเอียดเสียงดนตรีคุณภาพสูง กับความสะดวกสบายในการใช้งานให้มีความกระชับพอดียิ่งขึ้น  MDR-10 Series ได้ใช้ตัว Dynamic Driver ขนาด 40 ม.ม. ที่สามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว ทั้งในย่านความถี่ต่ำที่ทรงพลัง และย่านความถี่สูงที่กว้างขึ้น  ในกลุ่มหูฟัง MDR-10 ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน MDR-10R, MDR-10RC ขนาดกะทัดรัด และสามารถพับเก็บได้, MDR-10RBT ใช้งานแบบไร้สาย และรุ่น MDR-10RNC (ไม่ใช่ Hi-Res Audio) ซึ่งเป็นรุ่นตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling) โดยทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้พอดี และสบายยิ่งขึ้น แม้ว่าต้องใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

  • MDR-10R – หูฟัง Hi-Res Audio สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ จำหน่ายราคา 5,990 บาท
  • MDR-10RC – หูฟัง Hi-Res Audio ขนาดกะทัดรัด และสามารถพับเก็บได้ จำหน่ายราคา 5,990 บาท
  • MDR-10RBT – หูฟัง Hi-Res Audio แบบบลูทูธ พร้อมเทคโนโลยี NFC (Near Field Communications) ซึ่งผู้ใช้สามารถฟังเพลงจากอุปกรณ์อื่นๆที่มี NFC เช่นกัน ด้วยการนำหูฟังไปแตะที่เครื่องเท่านั้น อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธจากเครื่องเล่นเพลงที่มีระบบบลูทูธสเตอริโอ และโทรศัพท์มือถือ จำหน่ายราคา 6,990 บาท

MDR-10RNC – (ไม่ใช่ Hi-Res Audio) มีระบบตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling) จำหน่ายราคา 7,990 บาท

          XBA-H Series – เป็นหูฟังแบบ in-ear ที่พัฒนาขึ้นมาจากกลุ่ม XBA เดิมเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น เป็นหูฟังแบบไฮบริดโดยมีไดรเวอร์ 2 แบบในตัวเดียวกันทั้ง Dynamic Drivers และ Balanced Armature Drivers ที่ให้มิติรายละเอียดเสียงคมชัด รวมทั้งขับย่านเสียงต่ำให้ทรงพลังยิ่งขึ้น เพื่อสร้างอรรถรส และสุนทรียภาพในการฟังเพลงทุกประเภทได้อย่างดื่มด่ำกว่าเคย

  • XBAH3 หูฟังรุ่นเรื่อธงในซีรี่ส์นี้ เป็นหูฟังที่รองรับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio มาพร้อมไดรเวอร์ 3 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 16 ม.ม. และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 2 ตัว สามารถขับเสียงได้ครอบคลุมทุกย่านความถี่เสียงได้อย่างมีมิติ คมชัด ชุ่มฉ่ำ รวมทั้งขับเสียงในย่านความถี่ต่ำได้อย่างทรงพลัง จำหน่ายราคา 9,990 บาท
  • XBA-H2 (ไม่รองรับ Hi-Res Audio) – พร้อมไดรเวอร์ 2 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 13.5 ม.ม. 1 ตัว และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 1 ตัว ให้เสียงร้องที่ชัดใส และเสียงเบสลึกกังวาน จำหน่ายราคา 7,490 บาท
  • XBA-1 (ไม่รองรับ Hi-Res Audio) – พร้อมไดรเวอร์ 2 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 9 ม.ม. 1 ตัว และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 1 ตัว ให้น้ำเสียงคมชัดใส ฟังสบาย จำหน่ายราคา 4,490 บาท

[PR] โซนี่ไทยส่งผลิตภัณฑ์ Hi Resolution Audio เอาใจคนรักเสียงเพลงยุคดิจิตอล

Walkman ประกอบด้วยรุ่น NW-ZX1 และ NW-F880

  • NWF880 – ให้ผู้ฟังได้สัมผัสคุณภาพเสียงในระดับ Hi-Res Audio ที่ให้คุณภาพเสียงเหนือกว่าซีดีทั่วไป ด้วยความละเอียดระดับ 192KHz/24bit มาพร้อมภาคขยายเสียงดิจิตอล  S-Master HX ที่ลดสัญญาณรบกวนในทุกย่านความถี่ เทคโนโลยี DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) HX ช่วยชดเชยรายละเอียดเสียงที่สูญหายไปในระหว่างการบีบอัดสัญญาณ เพื่อให้ได้รายละเอียดเสียงที่คมชัดเป็นธรรมชาติ เพิ่มคุณภาพสัญญาณที่ถูกบีบอัดให้สูงกว่าซีดีทั่วไป รวมทั้ง Clear Audio+ ย้งช่วยให้น้ำเสียงมีความกระจ่างชัด สมจริงยิ่งขึ้น หน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้ว แบบ TRILUMINOS Display for Mobile นอกจากนี้ยังมี NFC เพื่อใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ NFC ได้ด้วย พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 สามารถฟังเพลงแบบ MP3 ได้อย่างต่อเนื่อง 35 ช.ม. และ 26 ช.ม. สำหรับการฟังเพลงแบบ Hi-Res Audio (99KHz/24bits) วางจำหน่ายปลายเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ราคา 10,590 บาท
  • NW-ZX1 เป็นเครื่องเล่นมีเดียระดับเรือธงที่รองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงได้ มีความจุ 128 GB มาพร้อมดีไซน์ และวัสดุคุณภาพสูง โดยตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว หน้าจอคมชัดแบบ TRILUMINOS Display for Mobile ความละเอียด 854 x 480 ขนาด 4 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี OptiContrast Panel ลดช่องว่างระหว่างหน้าจอ แผงเซนเซอร์ และกระจก ภาคขยายเสียง S-MASTER HX พร้อมวงจรเสียงคุณภาพสูง ใช้ตัวเก็บประจุ OS-CON สำหรับวงจรขยาย สายไฟ OFC ในการเชื่อมต่อภายใน และแบตเตอรี่คุณภาพสูง รองรับการเล่นไฟล์ความละเอียดสูงทั้ง WAV, AIFF, FLAC และ Apple Lossless ที่ 24 bit 192 KHz สามารถเลือกโหมดประมวลผลเสียงแบบ DSEE HX และ ClearAudio+ เชื่อต่อใช้งานได้ทั้งแบบ Wi-Fi a/b/g/n, Bluetooth และ NFC สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 32 ชม.ในการเล่นไฟล์ MP3 พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 มีพอร์ตเชื่อมต่อเฉพาะ (WM-Port) รองรับ USB Audio สามารถเชื่อมต่อกับเครื่อง DAC / แอมป์พกพาของ Sony รุ่น PHA-2 ได้ วางจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ราคายังไม่กำหนด

PHA-2แอมปลิไฟเออร์แบบพกพาสำหรับใช้งานกับหูฟัง รองรับคุณภาพเสียง Hi-Res Audio  (192KHz/24bit) นอกจากรองรับการใช้งานกับหูฟัง ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ NW-F880, NW-ZX1 รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ด้วย ตัวเครื่องทำจากซิงค์อัลลอย พร้อมตัวซับสัญญาณรบกวนจากภาพนอก มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบบิลท์อินสามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบอนาล็อก และ 6.5 ชั่วโมงเมื่อเชื่อต่อแบบดิจิตอล จำหน่ายราคา 21,990 บาท

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาทิ PCM-D100 เครื่องบันทึกเสียงแบบ Hi-Res Audio เป็นต้น ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th

from:http://mobiledista.com/pr-sony-thailand-products-hi-resolution-audio-digital-music-lovers/

[PR] ทรูมูฟ เอช ผนึก ไมโครซอฟท์ ขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8

[PR] ทรูมูฟ เอช ผนึก ไมโครซอฟท์ ขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8

ทรูมูฟ เอช โดย ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ (ขวา) ผู้อำนวยการด้านบริหารผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย โดย นายมานพ มณีชวขจร (ซ้าย) Consumer Channel Group Director บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายประสบการณ์การใช้งาน Window 8 จากสมาร์ทโฟนสู่แท็ปเล็ต อย่างครบวงจร โดย ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้นำสมาร์ทดีไวซ์ทุกแพลตฟอร์ม จัดจำหน่าย Microsoft Surface ทั้งรุ่น Surface RT และ Surface Pro ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค  โดยไม่มีข้อจำกัดระหว่างการทำงานและความเพลิดเพลินอีกต่อไป  ทั้งนี้  Windows 8 จะมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่รวดเร็วลื่นไหล และเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี พร้อมมอบข้อเสนอสุดคุ้ม! ด้วยโปรโมชั่น รับฟรี Surface Type Cover มูลค่า 4,490 บาท (สำหรับ 50 ท่านแรกเท่านั้น) และสามารถใช้บริการ WiFi by TrueMove H ฟรี 1 ปีเต็ม ท่องเน็ตจุใจด้วย WiFi ที่เร็วที่สุด และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดด้วยจุดให้บริการที่มากกว่า 100,000 จุดทั่วไทย ตลอดจนรับสิทธิ์ผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ได้แก่ KCC, KBank, SCB, KTC, Firstchoice, BBL และ CitiBank

Microsoft Surface แท็ปเล็ตทรงพลังมีให้ เลือก 2 รุ่น ได้แก่

  • Surface RT ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT

–          ขนาด 32 GB ราคา 11,500 บาท

–          ขนาด 64 GB  ราคา 14,500 บาท

  • Surface Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro

–          ขนาด 64 GB ราคา 25,500  บาท

–          ขนาด 128 GB ราคา 28,500 บาท

ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ทรูช้อป 5 สาขา ได้แก่ ร้านทรู เออร์เบิน พาร์ค, ร้านทรู ดิจิตอล เกตเวย์, ร้านทรู เมกา บางนา, ร้านทรู ซีคอน บางแค และร้านทรู ไอทีมอลล์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.truemove-h.com/surface

from:http://mobiledista.com/pr-truemove-h-seal-expands-microsoft-experienced-the-window-8/

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Surface (เซอร์เฟซ) อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยวางจำหน่ายทั้ง 2 รุ่นพร้อมกัน คือ Surface RT และ Surface Pro ครั้งแรกในประเทศไทย ชูจุดขายแท็บเล็ตที่ปฏิวัติรูปแบบการใช้งาน ที่รวมเอาประสบการณ์ทั้งความบันเทิงและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันได้ดีที่สุด

ไมโครซอฟท์ Surface ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 นำโดย มร. ซีซาร์  เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมด้วยเซเลบริตี้คนดัง อย่าง ทับทิม มัลลิกา   หลีกภัย พิธีกรรายการสุดฮอต วีอาร์โซ  ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ที่ควงคู่มากับภรรยาสุดสวย ต่าย ชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Surface RT และ Surface Pro ท่ามกลางสื่อมวลชน แฟนๆ ไมโครซอฟท์และไอทีเลิฟเวอร์ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Surface ได้มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่ได้รวมเอาประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์อันน่าทึ่ง เข้ากับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมที่ทันสมัย  Surface เป็นการต่อยอดประสบการณ์การใช้วินโดวส์ ที่ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันกับดีไซน์สุดล้ำ ผู้ใช้จึงสามารถทำงาน เล่น และเชื่อมต่อกับผู้คนอื่นๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผมเชื่อว่า Surface RT และ Surface Pro นั้นเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Surface จะตอบสนองทุกความต้องการด้านไอทีทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตของผู้บริโภคได้”

ผสานการทำงาน และความบันเทิง ให้ง่ายและสนุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Surface ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตอบรับการใช้งานและการสร้างสรรค์แบบไร้รอยต่ออย่างไร้ขีดจำกัด Surface ได้ถูกคิดค้นและออกแบบขึ้นโดยทีมของไมโครซอฟท์ ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มากว่า 30 ปี  เริ่มจากตัวเครื่องที่มีความทนทานและน้ำหนักเบา  ขาตั้งอเนกประสงค์ภายในตัว และฝาปิดหน้าจอที่มอบประโยชน์การทำงานสูงสุดให้แก่ผู้ใช้ในทุกๆ ที่ ตลอดจนถึงช่องเสียบ USB หน้าจอแบบกว้าง 16:9 ความละเอียดสูง ให้มุมมองแบบ 22 องศา ทำให้สามารถดูภาพและแชร์ไฟล์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

มร. ซีซาร์ เซอร์นูด้า ประธานไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า “เส้นแบ่งระหว่างอุปกรณ์สำหรับใช้ในการทำงานและอุปกรณ์ส่วนตัวค่อยๆ จางหายไป เราพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ หรือกว่าร้อยละ 60 ในบางประเทศ ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกนี้  มีแนวโน้มที่ใช้อุปกรณ์ไอทีสำหรับทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้ยอดจำหน่ายแท็บเล็ตทั่วโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าร้อยละ 300 ในระหว่างปี 2555 ถึงปี 2560  สำหรับประเทศไทยเองเราก็ได้เห็นแนวโน้มในลักษณะเดียวกัน ความนิยมในการซื้อแท็บเล็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตได้ว่าคนทำงานจะใช้อุปกรณ์ไอทีสองเครื่องหรือมากกว่าในที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังใช้แอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ อยู่เป็นประจำระหว่างวัน เช่น เว็บไซต์ โซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ  ด้วย Surface ผู้บริโภคสามารถสลับการใช้งานเพื่อความบันเทิงและเพื่อการทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีข้อจำกัด เปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างที่ต้องการได้ในทุกเวลาที่ต้องการ ผ่านอุปกรณ์ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยและสะดวกต่อการพกพาอย่าง Surface”

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

Surface RT และ Surface Pro ตัวแทนสไตล์ที่แตกต่าง                                                            

โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้วางจำหน่าย Surface ทั้ง 2 รุ่น คือ Surface RT และ Surface Pro พร้อมกันทันทีในประเทศไทย

Surface RT คืออุปกรณ์ที่เป็นตัวแทนของแท็บเล็ตที่มีความสามารถเสมือนแล็ปท็อป ที่รวมเอาคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการพกพาเข้าไว้ด้วยกันอย่างเหมาะสมครบถ้วน ดังนั้น Surface RT จึงเหมาะกับผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน (ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง) และประสบการณ์ความบันเทิงชั้นเยี่ยม และยังสามารถทำงานต่างๆ ให้สำเร็จได้ในคราวเดียว Surface RT ใช้ขุมพลัง ARM processor ที่มาพร้อมกับ Windows RT รวมถึง Office Home & Student 2013 RT Preview ซึ่งรองรับการทำงานแบบสัมผัสบน โปรแกรม Word PowerPoint Excel และ OneNote

Surface Pro เปรียบได้กับแล็ปท็อประบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่มาในรูปของแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถใช้งานทุกอย่างได้เสมือนทำงานอยู่บนพีซี  แต่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานบนแท็บเล็ต ผู้ใช้สามารถทำงานที่พวกเขาเคยทำบนพีซีได้ด้วย Surface Pro ตั้งแต่การใช้งานแอพพลิเคชั่นเดสก์ทอป ไปจนถึงความอุ่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยระดับโลก Surface Pro มาพร้อมกับ Intel Core i5 Processor รุ่นที่ 3 และ Windows 8 Pro ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแอพพลิเคชั่นแบบสัมผัส หรือโปรแกรม Windows 7 สุดโปรด ทั้งหมดนี้มาพร้อมระบบการจัดการทางด้านการรักษาความปลอดภัยและการบริหารในแบบที่คุณคาดหวังจากการใช้งานพีซี

นอกจากนี้ Surface Pro เองยังได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงไอที  ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย ผสานเข้ากับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและยังมอบความสนุกสนานในการใช้งานได้ในคราวเดียวกัน

มร. ไบรอัน มา รองประธาน ไอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แสดงความเห็นว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์พีซีอาจกำลังอยู่ในภาวะกดดันจากแท็บเล็ต  ซึ่งปรากฏการณ์ที่เราพบ คือ ผู้ผลิตต่างจะต้องพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นเป็นอย่างมากจากในอดีต  Microsoft Surface Pro คือ หนึ่งในตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น แสดงให้เห็นว่าเส้นกั้นระหว่างพีซีและแท็บเล็ตได้เลือนลางออกไป และผู้ผลิตในอีโคซิสเต็มเองยังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ”

มร. ฮาเรซ คูบจันดานิ กล่าวถึงการตัดสินใจวางจำหน่าย Surface พร้อมกันทั้ง 2 รุ่นในประเทศไทยว่า “เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการมอบทางเลือกแก่ผู้บริโภคชาวไทย ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่า Surface รุ่นใดจะเหมาะกับความต้องการและตรงตามไลฟ์สไตล์ของเขามากที่สุด ไลฟสไตล์ของคนไทยนั้นกำลังเปลี่ยนไป โดยต้องการเข้าถึงข้อมูลและติดต่อสื่อสารตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ต้องการทำงานไปพร้อมๆ กันได้เสมอ ในทุกที่ ทุกเวลา เพราะฉะนั้นแล้ว ผมมั่นใจว่า Surface ทั้งสองรุ่นจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกรูปแบบ”

โดยการเปิดตัวในวันแรกของ Surface ในประเทศไทย มีองค์กรชั้นนำของประเทศไทย อย่าง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ได้เตรียมนำ Surface Pro มาให้กับทีมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้ใช้งาน ตลอดจนธนาคารชั้นนำของประเทศ อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ก็แสดงความจำนงค์และสนใจใน Surface Pro เพื่อให้พนักงานธนาคารที่ต้องติดต่อกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอได้ใช้ประจำที่สาขาของธนาคาร

[PR] ไมโครซอฟท์ ปฏิวัติวงการแท็บเล็ต เปิดตัว ‘Surface’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

คุณสมบัติหลักและประโยชน์ต่างๆ

  • ความโดดเด่นด้านซอฟต์แวร์: Surface มาพร้อมช่องเสียบ USB และ หน้าจอความละเอียดสูง 16:9 พร้อมมุมมองภาพแบบ 22 องศา ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนการทำงานบนพีซี โดยมีการปรับให้ฮาร์ดแวร์แนบรับไปกับภาพพื้นหลัง และทำให้ซอฟต์แวร์มีความโดดเด่นขึ้นมา
  • VaporMg: วัสดุตัวเครื่องภายนอกของ Surface สร้างมาจากกระบวนการอันลึกซึ้งที่เรียกว่า VaporMag (อ่านว่า วาพอร์ แมก) ซึ่งเป็นการผสานการคัดสรรค์วัสดุชั้นเยี่ยม และ กระบวนการหล่อเหล็ก และหลอมอนุภาคเข้าด้วยกัน ทำให้ Surface มีลักษณะที่คล้ายกับนาฬิกาเรือนหรู เริ่มตั้งแต่ส่วนที่เป็นแมกนีเซียม ที่สามารถหล่อให้บางได้ถึง 0.65 มม. ซึ่งมีความบางมากกว่าบัตรเครดิตทั่วไป ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีความบาง เบา และแข็งแรงทนทาน
  • ขาตั้งเครื่องภายในตัว (Kickstand): กระบวนการ VaporMag นั้นรวมถึงการประกอบขาตั้งที่สามารถให้คุณเปลี่ยนลักษณะการทำงานบน Surface แบบ Active Use เป็น Passive Consumption ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือ การถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้า หรือ กล้องหลัง ขาตั้งสามารถดึงออกมาใช้ได้ทุกเวลา และพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการ โดยไม่ได้เพิ่มน้ำหนักหรือความหนาของตัวเครื่องเลย
  • Touch Cover: ฝาปิดหน้าจอความหนาเพียง 3 มม. นั้นเป็นอีกความก้าวหน้าหนึ่งของการใช้คอมพิวเตอร์ของมนุษย์ Touch Cover ให้ความรู้สึกถึงการพิมพ์บนคีย์บอร์ด ซึ่งทำให้คุณสามารถสัมผัสและพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว มากกว่าการพิมพ์สัมผัสบนหน้าจอ Touch Cover มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ฟ้า ดำ และ ขาว  Touch Cover สามารถเชื่อมต่อกับ Surface ด้วยแม่แหล็กที่ตัวเครื่อง เปรียบเหมือนเป็นสันหนังสือที่คุณคุ้นเคย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำหน้าที่ป้องกันหน้าจอได้ อีกด้วย นอกจากนี้แล้วคุณสามารถเชื่อมต่อ Type Cover ซึ่งมีความหนา 5 มม. ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์จากคีย์บอร์ดจริงๆ ที่สำคัญ Touch Cover ที่จำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมกับแป้นพิมพ์ภาษาไทย ที่ผลิตมาเพื่อผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ

การจำหน่าย ราคาและโปรโมชั่น

Surface RT และ Surface Pro มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน IT City และ Com7 ทั้ง 10 สาขา พิเศษสำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกที่ได้เป็นเจ้าของ Surface ในงานเปิดตัว ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินัล 21 รับฟรี Touch Cover มูลค่า 4,090 บาท และลูกค้าที่ซื้อลำดับที่ 101-200 จะได้รับ Sandisk Mobile Ultra 64 กิ๊กกะไบต์ Class 10 มูลค่า 2,190 บาท

รายละเอียดรุ่นและราคา

Surface RT

ราคา

Surface Pro

ราคา

Surface RT 32 GB (เฉพาะตัวเครื่อง)

16,500 บาท

Surface Pro 64 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

28,500 บาท

Surface RT 64 GB   (เฉพาะตัวเครื่อง)

19,500 บาท

Surface Pro 128 GB(เฉพาะตัวเครื่อง)

31,500 บาท

Surface RT 32 GB Bundle (พร้อม Touch Cover สีดำ)

19,500 บาท

Surface RT 64 GB Bundle(พร้อม Touch Cover สีดำ)

22,500 บาท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Surface สามารถเยี่ยมชมที่:  http://www.surface.com หรือ  https://www.facebook.com/Surface

from:http://www.mobiledista.net/pr-microsofts-revolutionary-tablet-launch-surface-in-india-officially/