Nintendo Switch, true wireless earbuds, and more. For Laptops, such as Mac Book Pro 16″, MacBook Pro 14″ MacBook Pro 13″, MacBook Air, Dell XPS / Inspiron, HP Elite, Google Pixelbook, Microsoft Surface Book 2, ThinkPad, and more.
For Tablet
such as iPad 12.9″, iPad Pro 11″, iPad mini 5, iPad Air 3, and more.
For Mobile
such as iPhone 14 / iPhone 13 / 13 Mini / 13 Pro / 13 Pro Max, iPhone 12 / 12 mini / 12 Pro / 12 Pro Max, iPhone SE (2nd generation), iPhone 11 / 11 Pro / 11 Pro Max, iPhone XS / XS Max / XR / X, iPhone 8 Plus / 8; Samsung Galaxy S22 / S22+ / S21 / S21+ / S20 / S20+ / S20 Ultra / S10 / S10e / S10+ / S9 / S9+ / S8 / S8+ / Note 20 Ultra / Note 20 / Note 10 / Note 9 / Note 8; Google Pixel / Pixel 3XL / 3 / 2XL / 2, Sony Xperia, LG G7 / V30+, and more. For Others, Nintendo Switch Docking Station, Switch Dock, DJI Mavic 3 / Air 2S, AirPods, Apple Watch and more.
มิติของที่ชาร์จรุ่นนี้อยู่ที่ 7.3cm x 7.7cm x 3.3cm (ยาว x สูง x หนา) เมื่อเทียบกับตัวแปลงของโน๊ตบุ๊คระดับ 180W ขนาดต่างกันเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับคนทำงาน หรือคอเกมที่ใช้โน๊ตบุ๊ค ให้สามารถพกพาไปใช้งานข้างนอกได้สบายกระเป๋ามากขึ้น รวมถึงคนที่ใช้ Nintendo Switch หรือ MacBook Air ก็ตาม
เทคโนโลยีสำหรับการชาร์จไว อย่าง PD charge หรือ USB Power Delivery (USB-PD) นั้น เป็นเทคโนโลยีจากกลุ่มผู้พัฒนา USB ที่สามารถรองรับกำลังไฟฟ้าได้หลากหลาย รวมถึงรองรับกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่จำกัดอยู่เพียงสมาร์ทโฟนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายไฟผ่านช่องชาร์จ USB Type-C
Advertisement
หัวชาร์จไอแพดที่ทีมงานได้นำมาแนะนำกันนั้น ไม่เพียงแต่จะใช้ชาร์จ iPad เท่านั้น ยังสามารถใช้งานกับการชาร์จแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนจากค่ายอื่นๆ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง Power Bank, หูฟังบลูทูธ ฯลฯ แต่ถึงแม้ว่าตัวอะแดปเตอร์จะสามารถจ่ายไฟได้สูง แต่ตัว iPad เองนั้น ในปัจจุบัน ยังคงมีความสามารถในการรับไฟได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35W เท่านั้น แต่สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไว ก็อาจสามารถรับไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอะแดปเตอร์ที่ทีมงานนำมาแนะนำนั้น ก็จะเป็นหัวชาร์จที่รองรับการชาร์จไวที่มีกำลังระดับปานกลางไปจนถึงค่อนข้างสูง สามารถใช้กับอุปกรณ์ได้หลากหลายเลย และบางตัวก็มีเทคโนโลยี GaN ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จไฟยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
Compatible with MacBook Air 13”(2018) / MacBook Air 2020/ MacBook 12”/ MacBook Pro 13” (2019)/ MacBook Pro 15”; Microsoft Surface Pro 6; HP Spectre X360/ Spectre X2/ Spectre Folio/ ELITE BOOK 830 G5; Dell XPS 13”, Lenovo X1/ E490/ THINKPAD X390; Huawei MateBook X Pro/ MateBook X/ MateBook13; Samsung Notebook9(950XBE); Xiaomi Air and More.
Compatibility
Compatible with iPad Pro 12.9”/ iPad Pro 10.5″/ iPad Pro 11″/ iPad mini/ iPad Air/ Dell XPS 13 9360/ 9380, ThinkPad E490, HP Spectre Folio, ThinkPad X390, Google Pixelbook, Microsoft Surface Book 2, and iPad 2018 and later.
Compatible with MacBook Air 13”(2018) / MacBook Air 2020/ MacBook 12”/ MacBook Pro 13” (2019)/ MacBook Pro 15”; Microsoft Surface Pro 6; HP Spectre X360/ Spectre X2/ Spectre Folio/ ELITE BOOK 830 G5; Dell XPS 13”, Lenovo X1/ E490/ THINKPAD X390; Huawei MateBook X Pro/ MateBook X/ MateBook13; Samsung Notebook9(950XBE); Xiaomi Air and More.
Compatibility
Compatible with iPad Pro 12.9”/ iPad Pro 10.5″/ iPad Pro 11″/ iPad mini/ iPad Air/ Dell XPS 13 9360/9380, ThinkPad E490, HP Spectre Folio, ThinkPad X390, Google Pixelbook, Microsoft Surface Book 2, and iPad 2018 and later.
GaN Charger หรือ อะแดปเตอร์แบบ GaN คืออะไร เรามาทำความรู้จักกันคร่าวๆ ก่อนดีกว่า GaN ก็คือ แกลเลียมไนไตรด์ ซึ่งแต่เดิมทั้งเคยถูกใช้ในการทำหลอดไฟ LED ในปัจจุบันได้มีการนำมาใช้เป็นสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) แทนซิลิกอนที่ใช้มาก่อนหน้านี้เป็นเวลานานด้วย เนื่องจากซิลิกอนนั้น มีการปล่อยความร้อนที่สูง และ GaN มีการปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า ทั้งยังเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่า จึงถูกนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้น โดยเทคโนโลยี GaN ยังทำให้อะแดปเตอร์มีขนาดที่เล็กลงและชาร์จได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้ หัวชาร์จหรืออะแดปเตอร์แบบ GaN สามารถหาซื้อได้ง่าย และส่วนใหญ่มักเป็นหัวชาร์จแบบ 65W ขึ้นไป
ต้องบอกว่าในช่วงที่หลายๆ คน ไม่สิ ต้องบอกว่าคนไทยและทั่วโลก ส่วนใหญ่ก็จะต้องเก็บตัวกันอยู่แต่ในบ้าน หรือทำงานกันแบบ Work from Home หลายวันเข้า ก็น่าเบื่ออยู่ไม่น้อย แอดเองก็เช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีอะไรให้ทำมากมาย เช่นเดียวกับรีวิวในวันนี้ ที่เอาใจสายเกมเมอร์ที่เล่นเกมคอนโซลกันหน่อย เพราะได้ของเล่นที่ใช้สำหรับเครื่องเล่นเกม Play Station 4 หรือ PS4 จากค่าย HyperX มาให้ลอง โดยในช่วงนี้ไม่รู้จะหันไปทางไหนดี เกมมีให้เล่นมากมาย แต่ก็เอาใจคอเกมที่เรียกว่าเป็นอมตะอีกเกมหนึ่ง อย่างเช่นเกม Final Fantasy VII Remake เรียกว่าออกมาตั้งแต่เดโม จนวันนี้กลายเป็นตัวเต็มกันละ กับสนนราคาราว 2 พันบาท ซึ่งถือว่าเป็นเกมที่น่าสนุกและถูกใจสายแอ็คชั่นได้ดีทีเดียว
วันนี้มีโอกาสได้ลองเกมมิ่งเกียร์ตัวจี๊ดอีกรุ่นหนึ่งจากค่าย HyperX ที่จะเอามาช่วยเพิ่มความเร้าใจในการเล่นเกม Final Fantasy VII Remake อันประกอบไปด้วย HyperX Cloud PS4 ที่เรียกว่าถอดแบบเอาเอกลักษณ์จัดๆ ของหูฟังในตระกูล Cloud รุ่นแรกๆ มาเลย กับรูปลักษณ์และฟีเจอร์ แต่ปรับเรื่องของสเตจเสียงและโครงสร้าง รวมถึงขยับตัวไดรเวอร์ให้จัดจ้านขึ้นอีกนิด และประกบคู่มากับ HyperX ChargePlay Duo ที่เอาใจคอเกมที่ชอบความต่อเนื่องในการเล่น ด้วยการชาร์จ ให้กับจอยสติ๊กของ PS4 ที่เป็น Wireless ได้รวดเร็ว ซึ่งเราจะมาทดสอบด้วยว่า จะใช้เวลาเท่าไรในการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง โดยในรุ่น Duo นี้ก็จะตามชื่อเลย คือชาร์จแบบคู่ พร้อมไฟ LED 3 step จากการอ้างอิงของ HyperX ระบุว่า สามารถชาร์จ DualShock4 เต็มได้ใน 2 ชั่วโมง จะได้จริงหรือไม่ เรามาพิสูจน์กันอีกที