พบข้อมูล Microsoft Surface Pro X ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8cx Plus พร้อมคะแนน Benchmark

Apple ประกาศพัฒนา Mac พร้อมกับการใช้ชิปประมวลผล ARM อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่า Apple จะเปิดตัว Mac พร้อมชิปประมวลผล ARM รุ่นแรกในช่วงปลายปีนี้ ด้าน Windows ก็คือ Microsoft ที่เป็นผู้นำตลาด Windows และ ARM เป็นบริษัทแรก ๆ โดยล่าสุดมีข้อมูลจากแอป Geekbench พบว่า Microsoft กำลังทดสอบชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ Qualcomm ด้วย

Microsoft ได้ตั้งชื่อ Surface Pro X รุ่นใหม่ที่ใช้ทดสอบบน Geekbench ว่า “OEMSR OEMSR Product Name DV” มาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 8cx Plus รุ่นใหม่ที่มีค่า clock speed สูงถึง 3.1GHz ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Qualcomm กำลังพัฒนาชิปประมวลผลตัวใหม่ที่ใช้รหัส SC8180XP ซึ่งก็น่าจะหมายถึง Snapdragon 8cx Plus ตัวนี้นี่เองครับ

ตามข้อมูลของ Geekbench พบว่า Surface Pro X จะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8cx Plus clock speed ที่ความเร็ว 3.15GHz พร้อมแรม 16GB โดย Snapdragon 8cx รุ่นเก่าทำความเร็วได้ 2.84GHz ด้านคะแนน Snapdragon 8cx Plus ทำคะแนนในส่วนของ Single core ไปได้ 789 คะแนน และ Multi core ทำไปได้ 3,092 คะแนน

ข่าว: พบข้อมูล Microsoft Surface Pro X ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8cx Plus พร้อมคะแนน Benchmark มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/07/01/microsoft-surface-pro-x-with-snapdragon-8cx-plus-leaked.html

OnePlus Nord สมาร์ตโฟนราคาถูกรุ่นใหม่จะมี่ราคาต่ำกว่า $500

รายงานใหม่ล่าสุดสำหรับสมาร์ตโฟนราคาย่อมเยาจาก OnePlus รุ่นใหม่ ซึ่งทางบริษัทยืนยันแล้วว่าจะใช้ชื่อว่า OnePlus Nord โดย CEO, Pete Lau ยืนยันว่าจะมีราคาที่ต่ำกว่า $500

OnePlus ได้อัปโหลดคลิปลงใน Instagram ทำให้เราพอเห็นรายละเอียดบางส่วนของ OnePlus Nord มาบ้าง ได้แก่กล้องหลังสามตัว กล้องหน้าเป็นแบบคู่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามาถระบุได้แน่ชัดว่าเครื่องดังกล่าวที่อยู่ใน Instagram ของ OnePlus นั้นจะเป็นเพียงเครื่องต้นแบบ หรือเครื่องที่จะนำมาจำหน่ายจริง ๆ กันแน่

วิดีโอจบลงด้วยการบอกใบ้ว่าบริษัทน่าจะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ OnePlus Nord ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ และคาดว่าบริษัมจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 10 กรกฎาคมครับ

 

ข่าว: OnePlus Nord สมาร์ตโฟนราคาถูกรุ่นใหม่จะมี่ราคาต่ำกว่า $500 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/07/01/oneplus-nord-cheaper-than-500.html

ประธานนินเทนโด ออกมาขอโทษเกี่ยวกับปัญหา Joy-con ของ Nintendo Switch

Shuntaro Furukawa ประธานนินเทนโดคนปัจจุบัน ได้พูดถึงปัญหาจอยคอน ในช่วง ถามตอบ กับสื่อมวลชนของ Nintendo เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเขาได้ขอโทษเป็นครั้งแรกสำหรับปัญหาที่ผู้ใช้ Nintendo Switch บางคนกำลังเผชิญกับปัญหาคอนโทรลเลอร์ Joy-Con ที่ทำงานผิดปกติ

โดยเฉพาะการดริฟท์ของ Joy-Con เป็นปัญหามาระยะหนึ่งแล้วและการฟ้องร้องคดีในชั้นศาลก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณ Furukawa พูดในการถามตอบปัญหา

ซึ่งเขาบอกว่า เกี่ยวกับปัญหาของ Joy-Con เราต้องขออภัยในปัญหาที่เกิดขึ้นกับแฟนๆของเรา” ประธาน Shuntaro Furukawa ประธาน Nintendo กล่าว “ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป แต่เนื่องจาก Joy-Con เป็นเรื่องของการฟ้องร้องคดี ในสหรัฐอเมริกาและนี่ยังเป็นปัญหาที่รอดำเนินการเราจึงไม่สามารถที่จะพูดถึงได้ในตอนนี้

อ้างอิง

ข่าว: ประธานนินเทนโด ออกมาขอโทษเกี่ยวกับปัญหา Joy-con ของ Nintendo Switch มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/07/01/nintendo-switch-joy-con-drifting.html

ลุยต่อกับ Google Glass? กูเกิลซื้อ North ผู้ผลิตแว่นอัจริยะ Focals

กูเกิลประกาศเข้าซื้อ North บริษัทคอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ในแคนาดา ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตแว่นตาอัจริยะ Focals 1.0 และกำไลควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยกล้ามเนื้อ Myo

ตัวแว่นตา Focals นั้นมีความคล้ายกับ Google Glass พอสมควร โดยกูเกิลเลิกขาย Google Glass ให้คนทั่วไปตั้งแต่ปี 2015 แต่ยังคงขายระดับองค์กรอยู่ในราคา 999 ดอลลาร์ การเข้าซื้อบริษัทที่สินค้าใกล้เคียงกันเช่นนี้ก็น่าสนใจว่าดูเหมือนกูเกิลยังคงลงทุนเพิ่มเติมกับ Google Glass ต่อแม้เราจะไม่ค่อยได้ยินข่าวแล้วก็ตาม

ทาง North จะเลิกขายสินค้าของตัวเอง ตอนนี้เว็บสินค้าทั้งหมดเข้าไม่ได้แล้วเหลือเพียงวิดีโอโฆษณาเดิมบน YouTube เท่านั้น (ฝังไว้ท้ายข่าว) ส่วนทางกูเกิลก็ไม่ได้ระบุว่าจะให้ทีมงาน North เข้ามาช่วยงานส่วนไหน แต่ระบุว่ากูเกิลให้ความสำคัญกับการพัฒนา ambient computing ที่คอมพิวเตอร์จะหายไปแต่รับคำสั่งจากเราอยู่เบื้องหลัง

ที่มา – Google Blog, North

from:https://www.blognone.com/node/117234

Beryl8 Webinar: ปรับการทำงานให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงยุค New Normal อย่างมีประสิทธิภาพด้วย G Suite มาเรียนรู้ Feature ใหม่ๆและเทคนิคต่างๆที่คุณอาจยังไม่ทราบจากผู้เชี่ยวชาญ G Suite Specialist จาก Beryl8 Plus

TechTalkThai ขอเรียนเชิญ IT Manager, ผู้ดูแลระบบ IT และผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าร่วมฟัง TechTalk Webinar ในหัวข้อเรื่อง “ปรับการทำงานให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงยุค New Normal อย่างมีประสิทธิภาพด้วย G Suite มาเรียนรู้ Feature ใหม่ๆและเทคนิคต่างๆที่คุณอาจยังไม่ทราบจากผู้เชี่ยวชาญ G Suite Specialist จาก Beryl8 Plus” เพื่อทำความรู้จักกับเทคโนโลยีล่าสุดที่มีให้ใช้งานใน Google G Suite เพื่อปรับธุรกิจสู่การทำงานยุค New Normal ในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2020 เวลา 10.30 – 12.00 น. โดยมีกำหนดการและวิธีการลงทะเบียนดังนี้

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: ปรับการทำงานให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงยุค New Normal อย่างมีประสิทธิภาพด้วย G Suite มาเรียนรู้ Feature ใหม่ๆและเทคนิคต่างๆที่คุณอาจยังไม่ทราบจากผู้เชี่ยวชาญ G Suite Specialist จาก Beryl8 Plus
ผู้บรรยาย: คุณยศพล สิงหวรกุล, Senior Technical Consultant / G Suite Specialist, Beryl8
วันเวลา: วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2020 เวลา 10.30 – 12.00 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 100 คน
ภาษา: ไทย

เงื่อนไขการทำงานในปัจจุบันโดยเฉพาะหลังจากการเข้าสู่ New Normal จำเป็นต้องทำได้อย่าง รวดเร็ว ชาญฉลาด รองรับทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ต้องมีความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างสูงสุด โดยจะพูดถึงบริการต่างๆ ที่ Google G Suite ไม่ว่าจะเป็นระบบ Email, Office, Chat, Video Conference และอื่นๆ รวมถึง License ชนิดต่างๆ มีให้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเปรียบเทียบกับการใช้งานบนระบบ IT ที่ตนเองใช้อยู่และเลือกใช้บริการในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุด

Webinar ครั้งนี้จะนำเสนอเป็นภาษาไทยโดยทีมงาน Beryl8 ที่พร้อมตอบทุกคำถามที่เกี่ยวข้อง

ลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar ได้ฟรี

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วม Webinar ในหัวข้อนี้ได้ฟรีๆ ทันทีที่ https://zoom.us/webinar/register/WN_OP4QWB1uR5Kjnnk03k-L9A โดยทีมงานขอความกรุณากรอกข้อมูลชื่อบริษัทด้วยชื่อเต็มของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียน

from:https://www.techtalkthai.com/beryl8-webinar-new-normal-working-with-google-g-suite/

SAP ขอเชิญร่วมงาน Forward Together 2020 งานสัมมนา Virtual Event ในวันที่ 14-16 มิ.ย. 2020

SAP ขอเชิญเจ้าของกิจการและผู้บริหารธุรกิจทุกระดับ เข้าร่วมงาน Virtual Event ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Forward Together 2020 ในวันที่ 14 – 16 มิถุนายน 2020 เวลา 8.30 น. เพื่อรับชมข้อมูลอัปเดตล่าสุดของธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม, โซลูชันอัจฉริยะและเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจ, หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนสามารถเติบโตไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีรายละเอียด กำหนดการ และวิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมงานดังนี้

Forward Together 2020

วันที่ 14 – 16 มิถุนายน 2020
เวลา 8.30 น.
รูปแบบ Virtual Event
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน https://webinars.sap.com/apj/sea-ve-2020/en/registration.aspx?campaigncode=CRM-XS20-EVE-FWDTG20&source=TTT

กำหนดการ

Leadership Executive Sessions: 14 มิถุนายน 2020 เวลา 8.30 น.

รับฟังมุมมองทางธุรกิจด้านกลยุทธ์, ข้อมูลเชิงลึก และบทเรียนที่ได้รับของเหล่าผู้นำและผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเร่งสร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจและก้าวไปสู่ New Normal

08.55 กล่าวเปิดงาน
09.00 Opening Keynote: Forward Together – Strategies for Today and Beyond โดย Rachel Barger, President & Managing Director, South East Asia, SAP
09.45 Keynote Address I: Accelerating the Path to Agility: Walgreens Boots Alliance Transforms in the New Norm โดย Andrea Della Mattea, President, Asia Pacific, Microsoft
10.05 Keynote Address II: Reimagining Organizations in Times of Crisis: Becoming Intelligent and Resilient โดย Sandro Straetemans, Managing Director & SAP Business Group Lead in South East Asia, Accenture

Industry Tracks: 15 มิถุนายน 2020 เวลา 8.30 น.

รับชม Break Out Session เจาะลึกสำหรับ 5 อุตสาหกรรมได้แก่โรงงานและการผลิต, หน่วยงานรัฐและสาธารณูปโภค, บริการด้านการเงินและธนาคาร, พลังงานและแร่ธรรมชาติ และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยแต่ละอุตสาหกรรมจะมีหัวข้อย่อยด้วยกัน 6 ประเด็น และพบกับ virtual experience showcase เวลา 11.00 น. – 13.00 น.

Focused Engagement Sessions: 16 มิถุนายน 2020 เวลา 8.30 น.

รับชม Break Out Session ที่แบ่งตามฝ่ายในการทำงานของธุรกิจ ได้แก่ Digital Workforce, Customer Experience, Intelligent Finance, Intelligent Spend Management, Resilient Supply Chain, Innovate to Thrive, Digital SMEs and Collaborative Ecosystems โดยแต่ละฝ่ายจะมีหัวข้อย่อยด้วยกัน 3 ประเด็น และพบกับ virtual experience showcase เวลา 11.00 น. – 13.00 น.

ตรวจสอบกำหนดการทั้งหมดได้ที่ https://webinars.sap.com/apj/sea-ve-2020/en/agendas

งานสัมมนานี้เหมาะกับเจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับ C-Level, Vice President, Director, Head of Department, Manager ในกลุ่มงานทางด้านการเงิน, ทรัพยากรบุคคล, การผลิตและกระบวนการ, การทำ Digital Transformation, จัดซื้อ และ Supply Chain/Logistics ในอุตสาหกรรมโรงงานและการผลิต, หน่วยงานรัฐและสาธารณูปโภค, บริการด้านการเงินและธนาคาร, พลังงานและแร่ธรรมชาติ และสินค้าอุปโภคบริโภค

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทันทีที่ https://webinars.sap.com/apj/sea-ve-2020/en/registration.aspx?campaigncode=CRM-XS20-EVE-FWDTG20&source=TTT

Forward Together 2020 – an SAP Southeast Asia Virtual Event

14 – 16 July 2020
8:30 AM (TH time)

The New Reality of Business

During this unprecedented time of uncertainty, SAP is committed to helping you with the myriad of challenges that we are all facing. Our virtual event – Forward Together 2020 will provide you with relevant industry insights, intelligent solutions and innovative technologies to guide and to support businesses, governments and communities with the challenges ahead across South East Asia.

Why attend Virtual FORWARD TOGETHER 2020?

1. MOST IMPORTANT VIRTUAL PLATFORM IN SEA: Expect likeminded peers across our base of customers, prospects, and partners from 6 countries – Singapore, Thailand, Indonesia Malaysia, Philippines & Vietnam. This makes FORWARD TOGETHER 2020 the foremost virtual platform for insights, networking, and learning.

2. TAILORED LEADERSHIP INSIGHTS: Designed with business and functional leaders in mind, FORWARD TOGETHER 2020 provides decision-makers with the most relevant insights to immediately strengthen the business.

3. CROSS-INDUSTRY PERSPECTIVES: There’s something for everyone to take away regardless of your industry or company size. Industries covered at FORWARD TOGETHER 2020 include manufacturing, consumer, financial services, energy & natural resources, and public services.

4. IMMERSIVE 3D EXPERIENCE: Get ready for a fully immersive 3D experience across all 3 days of FORWARD TOGETHER 2020 at our conference & interactive tradeshow!

Don’t miss out on the key takeaways spanning across the 3 days!

Day 1: Leadership Executive Sessions
Collective Leadership Creativity: Forward Together

Curated for Business Leaders, this day features:
Thought-Provoking Live Discussions on tough business decisions the executive leadership needs to make NOW. Including how our partners and customers can stabilize operations, revitalize revenue streams, and renew the business through SAP technology.
Expert Perspectives from Guest Speakers on navigating the way forward.

Day 2: Industry Focused Sessions – TechTalks!
Deep Industry Insights: Technology & Ideas Collide
Whether you are in Banking, Insurance, Manufacturing, Consumer Products, Retail, Oil and Gas, Utility, Public Services, or other industries, you’ll leave with INSPIRED INDUSTRY INSIGHTS to stabilize, revitalize, and renew your business. Including new business models and processes for your industry in the way forward.

Day 3: Business Function Sessions
Applied Innovation: Drive Targeted Business Outcomes

For both the C-Suite & Functional Leaders: Sessions covering 8 pillars – Digital Workforce, Customer Experience, Intelligent Finance, Intelligent Spend Management, Resilient Supply Chain, Innovate to Thrive, Digital SMEs and Collaborative Ecosystems – will help weave resilience into every aspect of your business NOW.

Who will be attending?
By Job Functions: Finance, Human Resource, Operations, Digital Transformation, Procurement, Operations, Supply Chain/Logistics
By Industries: Manufacturing, Public Services, Financial Services, Energy & Natural Resources, Consumer Products
By Job Level: C-suite, Vice Presidents, Directors, Head of Departments, Managers, Business Owners

Find out more

from:https://www.techtalkthai.com/sap-forward-together-2020-virtual-event-invitation/

บริการอีเมล HEY ใช้ AWS Spot Instance ร่วมกับ Kubernetes รับโหลดโปรดักชั่น ผู้ใช้ไม่รู้สึกแม้โดนปิดเซิร์ฟเวอร์

HEY ผู้ให้บริการอีเมลที่เพิ่งมีปัญหากับแอปเปิล เขียนบล็อกเล่าถึงการใช้คลาวด์ของบริษัท โดยการใช้ Spot Instance ของ AWS ที่มีค่าใช้ใช้งานเปลี่ยนไปตามปริมาณเครื่องคงเหลือของ AWS แต่ทาง HEY ก็ระบุว่ายังคงสามารถให้บริการโดยผู้ใช้อีเมลไม่รู้สึกอะไรแม้จะมีเครื่องถูกปิดไปตลอดเวลา

Spot Instance เป็นแนวทางการใช้เซิร์ฟเวอร์คงเหลือในศูนย์ข้อมูลของ AWS โดยผู้ใช้สามารถกำหนดราคาสูงสุดที่ยอมจ่าย และหากมีเครื่องคงเหลือทาง AWS จะทำเครื่องเหล่านั้นมาให้บริการโดยคิดค่าบริการจากเครื่องที่เหลือพอให้บริการและปริมาณผู้ใช้ Spot Instance เอง โดยทั่วไปแล้ว Spot Instance จะราคาถูกกว่าเครื่องแบบ On-Demand ตามปกติมาก ทาง HEY ระบุว่าส่วนต่างนั้นทำให้ Spot ราคาถูกกว่าการซื้อเซิร์ฟเวอร์แบบจองล่วงหน้า (Reserved Instance – RI) เสียอีก แถมไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าใดๆ ทำให้คุ้มที่จะเลือกทางนี้ แต่ข้อเสียคือทาง AWS สามารถดึงเครื่องแบบ Spot Instance คืนเมื่อใดก็ได้โดยแจ้งล่วงหน้าเพียงสองนาทีเท่านั้น บางครั้งเครื่องเพิ่งเปิดขึ้นมาแล้วโดนดึงกลับก็มี

No Description

โลโก้ AWS Spot Instance จากเว็บ EC2 Spot Workshops

เครื่องที่เป็น Spot Instance ของ HEY นั้นเป็นเครื่อง front-end และงาน asynchronous โดยไม่ได้ใช้งานกับฐานข้อมูลใดๆ ทั้ง SQL, Redis, หรือ Elasticsearch

ระบบรันบน Kubernetes โดย HEY รับมือกับเซิร์ฟเวอร์ที่อาจถูกปิด ด้วย AWS Node Termination Handler ที่เป็น DaemonSet สำหรับรับข้อมูลจาก AWS ว่ากำลังมีเครื่องใดถูกปิดไปบ้าง เมื่อ AWS แจ้งว่ากำลังปิดเครื่องใดก็จะให้ Kubernetes ย้ายโหลดออกจากเครื่องนั้นให้ทัน จากนั้นควบคุมขนาดคลัสเตอร์ Kubernetes ด้วย Cluster Autoscaler ส่วนหนึ่งของโครงการ Kubernetes ที่รองรับ Spot Instance ได้โดยแก้ไขเล็กน้อย

ข้อเสียของ Spot Instance คือเครื่องประเภทหนึ่งๆ อาจจะหมดจนไม่สามารถเปิดเครื่องใหม่ได้ ทาง HEY แนะนำว่าควรเตรียมพร้อมใช้เครื่องประเภทอื่นไว้ด้วย เช่นหากใช้เครื่อง C ที่เน้นประมวลผลเป็นหลักก็อาจจะต้องเตรียมพร้อมว่าหากต้องใช้เครื่อง M ที่เน้นหน่วยความจำหรือ T ที่เป็นเครื่องอเนกประสงค์ไว้ด้วย โดยเตือนว่า Cluster Autoscaler นั้นรับมือกับเครื่องไม่เท่ากันได้ไม่ดีนัก ควรใช้เครื่องขนาดเท่าๆ กันไว้

ที่มา – Signal v. Noise

from:https://www.blognone.com/node/117233