คลังเก็บป้ายกำกับ: ZERO

จีน Lockdown เข้มข้น: เร่งควบคุมโควิด จนคนอยู่ลำบาก รถโดยสารไม่มี คนส่งของไม่พอ

ต้องบอกว่าอาการหนักจริงๆ สำหรับประเทศจีน ที่ล่าสุดล็อคดาวน์เสียจนคนจีนอยู่ในประเทศตัวเองยังอยู่ลำบาก เดือดร้อนจนต้องออกมาประท้วง ประท้วงจนทางการจีนต้องสั่งเซ็นเซอร์คลิปประท้วงอีก เป็นการจัดการโควิดที่เชื้อโรคอยู่ไม่ได้ไม่พอ คนก็จะอยู่ไม่ได้ด้วย

Covid-Zero

มาตรการ Covid Zero เข้มข้น จนคนอยู่ลำบาก

Brad Zhang กักตัวอยู่ในโรงแรมของจีน เซี่ยงไฮ้ เป็นเวลายาวนาน 3 สัปดาห์แล้ว เมื่อจีนเริ่มสั่ง lockdown หลังจากที่โควิดระบาดรอบใหม่ ทำให้ในตัวเมืองไม่มีรถแท็กซี่วิ่ง ไม่มีขนส่งมวลชนให้บริการ เขาต้องเดินลากกระเป๋าเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อกลับบ้านตัวเองท่ามกลางเมืองปิดตายที่มีคนอยู่อาศัยราว 25 ล้านคน Zhang บอกว่าวิธีเดียวที่เขาจะกลับบ้านได้ก็คือ เดิน เขาถูกกักตัวหลังจากเดินทางมาจากต่างประเทศ Zhang บอกว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่มีร้านรวงเปิด ไม่มีร้านอาหารเปิดสักร้านเลย

ขณะที่ Wang ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเซี่ยงไฮ้ บอกว่า เขากำลังหมดหวังที่คิดว่าอพาร์ทเมนท์เขาน่าจะหลุดจากการล็อคดาวน์เหมือนทางฝั่งตะวันตกเสียที เพราะเขาไม่ได้กักตุนอาหารไว้และตอนนี้เขาก็พึ่งพาการกินอยู่กับเพื่อนบ้านเท่านั้น เขาบอกว่า มีแต่ทรัพยากรทางการแพทย์เท่านั้นที่ถูกมุ่งเป้า ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่จีนไม่ได้สนใจชีวิตที่เหลือท่ามกลางการล็อคดาวน์เลย หลายคนต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะไม่ได้รับการดูแล ไม่ใช่การดูแลจากโควิด แต่เป็นการดูแลในเรื่องความหิวโหยและการดูแลที่ช้าเกินไปจะทำให้ชีวิตของผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยง ตกอยู่ในช่วงโศกนาฏกรรม มันเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์ลงมือทำกันเองนี่แหละ พนักงานส่งอาหารก็ถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

Kye Lee เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เธอพยายามสั่งผัก เนื้อสัตว์และสิ่งของที่จำเป็นมายังพื้นที่ล็อคดาวน์ที่เธออยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็พบว่า ความพยายามนั้นล้มเหลว คำสั่งซื้อของเธอโดนปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า การล็อคดาวน์ไม่ใช่แค่ทำให้เดินทางลำบาก อาหารไม่มีจะกิน แต่บางคนยังเตรียมตัวไม่ทันด้วยซ้ำ หลังมีคนติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้น รัฐก็พร้อมใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดทันที เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางขอโรคระบาดหลังจากที่พบคนติดเชื้อโอไมครอนเพิ่ม แต่คนส่วนใหญ่ก็มีอาการอ่อนๆ ไปจนถึงไม่มีอาการเลย

covid 19
Photo by Shengpengpeng Cai on Unsplash

ควบคุมจนล้มเหลว พอคนลุกขึ้นประท้วงก็ถูกเซ็นเซอร์

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา อาจกล่าวได้ว่า จีนมุ่งเป้าหวังควบคุมโควิดจนไม่สนใจว่าคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ล็อคดาวน์จะประสบปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างไร ล่าสุด บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ยังต้องเอาคลิปวิดีโอออกจาก WeChat เพราะผิดกฎหมายและนโยบายของจีน ที่คนประท้วงผ่านคลิปวิดีโอ เรียกร้องว่าพวกเขาหิว เขาต้องการทานอาหาร ต้องการสิทธิที่จะรับรู้และต้องการเสรีภาพ เป็นการเรียกร้องสิทธิที่พวกเขากำลังถูกบีบบังคับผ่านนโยบายล็อคดาวน์เซี่ยงไฮ้ของจีน

มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมเซี่ยงไฮ้คิดเป็น 3.8% ของ GDP จีน เป็นเมืองที่ชนชั้นนำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เซี่ยงไฮ้ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีคนรวยอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก เป็นทั้งศูนย์กลางบริการทางการเงิน เป็นทั้งศูนย์รวมแฟชั่นหรู เป็นพื้นที่ที่มีคนต่างประเทศมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดในจีน ระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขก็ถือว่าดีที่สุดของประเทศ ไม่มีโรคระบาดมาสองปีแล้ว คนไม่คุ้นเคยกับนโยบาย Covid Zero ของจีน ทางการจีนถึงกับต้องออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อขอบคุณชาวเมืองเซี่ยงไฮ้ที่อดทนต่อความยากลำบากจากมาตรการกำจัดโรคระบาดของจีน โดยจีนสัญญาว่าจะจัดการให้ดีขึ้นทั้งในส่วนของการให้ความดูแลแบบฉุกเฉินและการจัดหาอาหารให้

ปัญหาใหญ่ตอนนี้ของจีนคือ มีผู้คนราว 71 ล้านคนที่กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์หลายพื้นที่ในจีน จนทำให้ผู้คนประสบปัญหาเพราะขาดแคลนอาหาร ทั้งในรูปแบบไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ ทั้งการทุ่มซื้ออาหารเพราะความตกใจกลัว ขณะเดียวกันก็ขาดแคลนพนักงานส่งของด้วย นักวิชการจาก Chinese University of Hong Kong ระบุว่า การล็อคดาวน์ของจีนสร้างภาระและต้นทุนให้ประเทศสูงถึงราว 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.53 ล้านล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 3.1% ของ GDP

Xi Jinping
ภาพจาก Shutterstock

WeChat ไม่ได้ลบแค่วิดีโอประท้วงการจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาลจีนเท่านั้น ยังบบทความจาก Li Chengpeng ผู้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายจีนอยู่บ่อยครั้ง บทความที่ถูกลบทิ้งไป เขาก็พูดถึงต้นทุนต้นทุนของนโยบาย Covid Zero ของจีนที่สร้างผลกระทบต่อมนุษย์เช่นกัน

ที่มา – Nikkei, Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post จีน Lockdown เข้มข้น: เร่งควบคุมโควิด จนคนอยู่ลำบาก รถโดยสารไม่มี คนส่งของไม่พอ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/covid-zero-policy-makes-chinese-suffer/

“ออปตัส” เปิดตัวที่สุดแห่งนวัตกรรมแว่นกรองแสงเพื่อเกมเมอร์ตัวจริง จากงานไทยแลนด์ เกม โชว์ 2019

ไชยภาพ อัญญานุภาพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินคิวบ์ จำกัด ผู้ผลิตแว่น “ออปตัส” (Ophtus) แบรนด์แว่นกรองแสงสำหรับเกมเมอร์ เปิดตัวแว่นกรองแสงนวัตกรรมล้ำ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด

ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่น “บิดงอได้มากที่สุด ทับไม่หัก ตกไม่แตก” ได้แก่ รุ่น “ซีโร่” (Zero) ขาแว่นบางที่สุดในโลก และรุ่น “ไนท์ฮอว์ค” (Nighthawk) เลนส์โค้ง ปรับความกว้างได้ตามรูปหน้า  ในงานไทยแลนด์ เกม โชว์ 2019 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้เหล่าคอเกมตัวจริงได้สัมผัสกับที่สุดแห่งนวัตกรรมแว่นกรองแสงที่คิดค้นมาเพื่อเป็น Gadget คู่ใจที่พัฒนาขึ้นเพื่อดูแลสายตาของเหล่าเกมเมอร์ในโลกยุคดิจิตัลโดยเฉพาะ

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ แว่น Ophtus

“รุ่น Zero”

พัฒนาเหนือขั้นมาจากรุ่น Classic ของแว่นออปตัส ด้วยวัสดุยอดฮิต Nova Ultem บิดงอได้ ทับไม่หัก ตกไม่แตกมาพร้อมฟังก์ชันที่มากกว่าเดิม *ขาแว่นบางที่สุดในโลก ผลิตได้เฉพาะที่ออปตัสเท่านั้น! ในราคาเพียง 1,990 บาท

  • เลนส์: เลนส์สีเหลือง (เพิ่มความคมชัดของภาพ และความสบายตาขณะเล็งเป้าหมาย)
  • วัสดุ: โนวา อัลเทม
  • การใช้งานกับหูฟังเกมมิ่ง: ดีเยี่ยม
  • รูปแบบวัสดุ: บิดงอได้มากที่สุด ทับไม่หัก ตกไม่แตก
  • ความคงทน: แข็งแรงพิเศษ

คุณสมบัติพิเศษ:

– ขาแว่นฝังซิลิโคน ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับหูฟัง

– ขาแว่นบางที่สุดในโลก (เทียบเท่ากระดาษ 3 แผ่น)

– น้ำหนักเบาพิเศษ

“รุ่น Nighthawk”

ด้วยความลงตัวของกรอบโค้งแบบเกมมิ่ง และฟังก์ชันเลนส์ดีที่สุด เพื่อเกมเมอร์ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพขีดสุด

  • เลนส์: เลนส์สีเหลือง (เพิ่มความคมชัดของภาพ และความสบายตาขณะเล็งเป้าหมาย) ในราคาเพียง 3,690 บาท
  • วัสดุ: เสตนเลสสตีล คุณภาพวัสดุเดียวกับนาฬิกาหรู
  • การใช้งานกับหูฟังเกมมิ่ง: ดีเยี่ยม
  • ความยืดหยุ่น: บิดงอได้ ทับไม่หัก ตกไม่แตก
  • ความคงทน: แข็งแรงพิเศษ

คุณสมบัติพิเศษ:

– กรอบโค้งเพื่อการมองภาพเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ

– ฝังซิลิโคนกันลื่นตลอดแนวขาแว่น

– แป้นจมูกนิ่มใกล้เคียงผิวหนังจริง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของแบรนด์  ทาง Line@ : @Ophtus หรือhttps://www.facebook.com/ophtus/

ข่าว: “ออปตัส” เปิดตัวที่สุดแห่งนวัตกรรมแว่นกรองแสงเพื่อเกมเมอร์ตัวจริง จากงานไทยแลนด์ เกม โชว์ 2019 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/11/01/ophtus-optical-filter-glass-zero-nighthawk.html

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ระดับโลกกับ ZERO LATENCY สนามแข่งขัน Virtual Reality แบบไร้สายขนาดยักษ์แห่งแรกในประเทศไทย

เปิดประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้วงการเกมเมืองไทยได้คึกคักถึงขีดสุด เมื่อ ZERO LATENCY สนามแข่งขันเกมส์แบบเสมือนจริงในระบบไร้สายเจ้าแรกของโลกจากประเทศออสเตรเลีย ประกาศเปิดตัวให้แฟนคลับเหล่าเกมเมอร์ชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นในรูปแบบเกมเสมือนจริงระดับโลกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ชั้น B โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ และเทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมมัลติเพลย์เยอร์บนพื้นที่เล่นเกมขนาดยักษ์กว่า 200 ตารางเมตร ที่สามารถรองรับการเล่นพร้อมกันได้มากสูงสุด 8 คน

Zero Latency

ผู้เล่นแต่ละคนต้องสวมใส่ชุดอุปกรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วย หูฟังเฮดเซ็ต, กล่องแว่น VR, ปืนไลท์กันที่มีลูกบอลเรืองแสง และที่ขาดไม่ได้คือกระเป๋าเป้แบ็คแพ็คบรรจุเครื่องคอมพิวเตอร์คอนโซล Alienware Alpha น้ำหนักเบา เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน โดยกติกาการเล่นจะถูกกำหนดขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละเกมที่เข้าร่วม

สำหรับไฮไลท์อันโดดเด่นคือ เกม ZOMBIE SURVIVAL กับการร่วมภารกิจพิทักษ์ปกป้องโลกไม่ให้ถูกทำลาย โดยผู้เล่นต้องร่วมศึกสงครามต่อสู้กับเหล่าศัตรูผีดิบซอมบี้ และพวกกบฏตัวร้าย เพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา รวมถึงเกมสุดมันส์อีกมากมายที่คว้ารางวัลเกมใหม่ยอดเยี่ยมจากเวที IAAPA มาแล้ว เช่น ENGINEERIUM และ SINGULARITY

จากความสำเร็จของ ZERO LATENCY ทำให้สนามแข่งขันเกมชั้นนำของโลกจากประเทศออสเตรเลียนี้ กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่นักเล่นเกมหรือผู้ที่ชื่นชอบความสนุกจากทั่วโลก ต้องมาลองสัมผัสประสบการณ์จริงสักครั้ง โดยขณะนี้ทาง ZERO LATENCY ได้ขยายไปยัง 19 สถานที่ ใน  10 ประเทศ และประเทศล่าสุดคือประเทศไทย

ร่วมสัมผัสประสบการณ์แท็คทีมผจญภัยไปกับสนามแข่งขันเกมเสมือนจริง ด้วยระบบเทคโนโลยีระดับโลก ได้แล้วตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561 เวลา 10.00-22.00 น. ณ  ZERO LATENCY ชั้น B โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.zerolatency.co.th / FB : zerolatencyth หรือโทรสอบถามได้ที่ 02-252-8742

from:http://mobileocta.com/zero-latency/

เปิดตัว Mango Zero เว็บข่าวโซเชียลหน้าใหม่ ที่จะทำให้โลกออนไลน์ไทย สนุกขึ้นไปอีกขั้น

ท่ามกลางสงครามเนื้อหาบนโลกออนไลน์ ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่ว่าจะเป็นเว็บข่าวดั้งเดิม หรือเว็บเปิดใหม่ที่เพิ่มจำนวนขึ้นมามากมายในช่วงปีที่ผ่านมานี้ เว็บข่าวโซเชียล (Social News) ก็ดูจะมาแรงอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับกระแสในต่างประเทศ

Mango Zero ถือเป็นหนึ่งในเว็บข่าวโซเชียลที่หลายคนเริ่มจะได้เห็นผลงานผ่าน Timeline กันบ้างไม่มากก็น้อย ผลงานสนุกๆ อย่างการสัมภาษณ์สุด Exclusive กับผู้สร้างสติ๊กเกอร์นกม่วง, รวมเรื่องที่คนใส่แว่นเท่านั้นที่จะเข้าใจ, สอนการแต่งภาพพาตัวเองไปอยู่ในแสงเหนือแบบเน็ตไอดอล ต่างก็มียอดผู้ชมสูงหลักล้าน Reach และได้การตอบรับที่ดีจากผู้อ่าน

นอกจากบทความเบาๆ สนุกๆ แล้ว ยังมีบทความพิเศษแนวเจาะลึกอย่างทีมเขียนบทของ I Hate You, I Love You (GDH), ทีมงาน The Momentum เว็บข่าวที่มาแรง, ทีมงานเสือร้องไห้ รวมทั้งทีมงานรายการ The Mask Singer ซึ่งนำเสนอในรูปแบบ Longform พร้อมลูกเล่นที่น่าสนใจหลายอย่าง

โดยทีมงานผู้ที่อยู่เบื้องหลังเว็บมะม่วงรสจัดจ้านนี้ ก็เป็นการรวมตัวกันของคนออนไลน์ ทั้งบล็อกเกอร์, เจ้าของเพจดัง รวมถึงคนทำเนื้อหาในโลกออฟไลน์อย่างบรรณาธิการหนังสือหรือแม้แต่นักข่าว ซึ่งน่าจะสร้างสีสันให้วงการออนไลน์ไทยได้สนุกทีเดียว

เปิดตัวทีมงาน Mango Zero รวมตัวยอดฝีมือในโลกออนไลน์ไทย

สำหรับทีมงานผู้ก่อตั้งเว็บแมงโก้ซีโร่ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เพราะอยู่ในวงการออนไลน์ของไทยมายาวนาน นำโดย ขจร เจียรนัยพานิชย์ (@Khajochi) บล็อกเกอร์ชื่อดัง ผู้ก่อตั้งเว็บ MacThai และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 100 Top Online Influencer ในไทยโดยนิตยสาร LIPS

โดยมีคุณจักรพงษ์ คงมาลัย (@Jakrapong) ผู้ก่อตั้งเว็บ Thumbsup และอดีตเคยดูแลทีมงานสร้างเนื้อหาของเว็บอันดับ 1 ในไทยอย่าง Sanook! มาแล้ว เป็นที่ปรึกษาของบริษัท

“ไอเดียที่มาของแมงโก้ซีโร่ เกิดจากช่วงที่นิตยสารไทยหลายฉบับได้ปิดตัวไปโดยเฉพาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ ซึ่งเราเองยังอยากที่จะอ่านเนื้อหาดีๆ เหล่านั้นอยู่และเชื่อว่าหลายคนก็คิดเหมือนกัน เพียงแต่รูปแบบการใช้ชีวิตทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากแล้ว เลยเป็นจุดเริ่มว่าทำไมเราไม่ลองทำอะไรเจ๋งๆ บนโลกออนไลน์กันดู” คุณขจร บรรณาธิการบริหารของแมงโก้ซีโร่กล่าว

ในส่วนของคุณจักรพงษ์ได้เผยว่า “ผมคิดว่าโลกออนไลน์ไทยยังเติบโตไปได้อีกมาก ในขณะที่เว็บแนวที่หลอกคนอ่านเข้าไปเพื่อสร้างยอด (Clickbait) เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราเชื่อว่าถ้าเราทำเนื้อหาที่ดี ที่เน้นคุณภาพออกมา คนอ่านก็จะตอบรับและเริ่มเห็นความแตกต่างได้เอง”


นอกจากนี้ทีมงาน Creative Content ของทางแมงโก้ซีโร่เองก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ประกอบไปด้วย

• ขจร เจียรนัยพานิชย์ : บล็อกเกอร์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล Zocial Award 2014, ผู้ก่อตั้งเว็บ MacThai.com
• พลสัน นกน่วม : อดีตบก.สัมภาษณ์นิตยสาร 247 ในเครือ GM, อดีตบก.สำนักพิมพ์ Salmon Books, จัดรายการ Podcast ยูธูป
• นเรศ ติยะวัฒน์วิทยา : บล็อกเกอร์สาย Food & Travel เจ้าของเพจ “ใครสอนให้โพสรูปของกินตอนดึกกกก”
• จีระภา สุริสุข : อดีตผู้สื่อข่าวสายเทคโนโลยีจาก Thairath TV ฉายา “ธิดาไอที”
• กรศริน ภัทรโสภาคย์ : กราฟฟิคดีไซน์ที่มีงานเป็นเอกลักษณ์ นามปากกา @Reenp
• ธรัญญา ชัยวงศ์ศรีอรุณ : บล็อกเกอร์สาวหมวยแว่นสไตล์หว่อง พร้อมกับงานเขียนและงานภาพได้ทุกแนว

โดย Mango Zero เป็นเว็บแรกของบริษัท The Zero Publishing ซึ่งก่อตั้งโดยขจร, จักรพงษ์ โดยวางเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทสื่อออนไลน์ที่เน้นเนื้อหาคุณภาพและเข้าถึงผู้อ่านได้หลากหลาย ซึ่งกำลังจะมีผลงานเว็บอื่นๆ ตามมาหลังจากนี้

ติดตามผลงานของทีม Mango Zero ได้ที่

• WebSite : MangoZero.com
• Facebook : fb.com/MangoZero
• Twitter : twitter.com/TheMangoZero
• Instagram : instagram.com/TheMangoZero
• YouTube : @MangoZero

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/03/digital-people-team-up-launching-mango-zero/

“Project Zero”…หรือจะเป็น The Next Galaxy S? มาวิเคราะห์และคาดการณ์กัน…

Samsung_Galaxy_S6_Unpacked_invite

มีกระแสออกมากันให้ตามไม่เว้นแต่ละวัน กับชื่อที่หลายคน โดยเฉพาะคนที่ติดตามแวดวงข่าวสารของโทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยีใหม่ๆ กับ “Zero Project” ที่หลายๆ คนเริ่มพอจะเดากันออกแล้วว่า น่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Flagship อย่าง Samsung Galaxy S Family ซึ่งคาดกันว่าจะใช้ชื่อว่า Galaxy S6 นั่นเอง แต่ข่าวลือสารพัดนั้น มีอะไรบ้างลองไปติดตามกันครับ…

ในภาวะที่มีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมายในตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเรา หรือลามไปถึงระดับโลก ซัมซุง ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเบอร์หนึ่งของโลก คงไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ และตลอดเดือนสองเดือนที่ผ่านมา หลายคนจับตามองว่าซัมซุงจะเปิดตัวสินค้าอะไรในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2015 บ้าง ซึ่งชื่อของ Zero หรือ Galaxy S6 (ตามคาดหมาย) นั้นถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก รวมถึงมีภาพที่ว่ากันว่าเป็นภาพหลุดออกมากันให้เห็นมากขึ้น

ในบ้านเราเอง ซัมซุงแม้จะยังครองยอดขายสมาร์ทโฟนสูงสุดอยู่ แต่การถูกไล่หลังมาเรื่อยๆ ก็ทำให้ปีนี้คาดหมายกันว่า Zero Project นี้ จะเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่ซัมซุงจะต้องทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของตลาดจงได้ เราลองมาวิเคราะห์กันดูว่า สำหรับ Samsung Galaxy S6 นั้น จะมีหน้าตาออกมาอย่างไร

Samsung-Galaxy-Note-Edge

หน้าจอ:

สำหรับสมาร์ทโฟนแล้ว หน้าจอถือเป็นคุณสมบัติหลัก กับการเลือกโทรศัพท์ดีๆ ให้ตัวเองสักเครื่องหนึ่ง ว่ากันด้วยเรื่องของขนาดของ Samsung Galaxy S Family นั้น มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 4 นิ้ว – 4.3 นิ้ว – 4.7 นิ้ว – 5 นิ้ว และล่าสุดกับ S5 ที่มีหน้าจอขนาด 5.1 นิ้ว แต่ผมไม่คิดว่า S6 จะทำหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น แต่น่าจะคงขนาด 5 หรือ 5.1 เอาไว้มากกว่า (เพื่อไม่ให้ทับหรือกินส่วนแบ่งของ Sector อื่นๆ อย่าง Galaxy Note หรือ A Series นั่นเอง)

ถัดมาคือ “YOUM” คือสิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้คนต้องเหลียวหลังกลับมาสนใจ Samsung Galaxy S6 ตัวนี้ เพราะมันหมายถึงการนำเอาจอภาพที่มีความโค้งมน มาใช้กับสมาร์ทโฟน ที่ปกติเราก็เป็นกันบนหน้าจอเรียบๆ ปกติ ย้อนกลับไปปี 2013 ซัมซุงได้ประกาศให้โลกได้รู้จักกับ YOUM หน้าจอที่สามารถดัดให้โค้งงอ และที่ผ่านมา Samsung Galaxu Note Edge ก็ได้นำหน้าจอโค้งไปใช้กับจอสัมผัสด้านข้างกันแล้ว (ใครอยากรู้จักกับ Youm ลองไปติดตามดูวิดีโอ ที่นี่ ครับ) ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ที่เราจะได้เห็นขอบจอแบบเดียวกันกับ Note Edge บน S6 ด้วย

ความละเอียดหน้าจอ คิดว่าคงไม่มากไปกว่า Note 4 หรือ Note Edge คือ 1,440 x 2,560 พิกเซล (แต่ด้วยจอที่เล็กกว่า Note4 จะทำให้ภาพที่ได้ดูคมชัดกว่าเล็กน้อย) และเชื่อว่า Super AMOLED ก็จะยังคงอยู่ปกติ

exynos-7

ประสิทธิภาพ และหน่วยความจำ:

ใน Galaxy S6 นี้ เราน่าจะได้เห็น CPU แบบ 64 Bit ค่อนข้างแน่นอนแล้ว โดยคาดว่าอาจจะมีการเครื่องออกมาสองเวอร์ชันอีกเช่นเดิม คือ เวอร์ชันที่เป็น Qualcomm Snapdragon และ Exynos ซึ่งคาดว่าในบ้านเราก็น่าจะเป็น Exynos 7420 เข้ามา ส่วนหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB และ RAM 3GB น่าจะมีให้เห็นได้ไม่ยาก

Android เวอร์ชัน 5.0 หรือ Lollipop นั้น น่าจะมาอยู่บน Galaxy S6 เป็นรุ่นแรก (ส่วนรุ่นก่อนหน้า ก็น่าจะได้ทยอยอัพเกรดตามๆ กันไป)

การออกแบบ:

สำหรับเรื่องของการออกแบบนั้น หลายคนน่าจะพอได้เห็นจาก Teaser เปิดตัว ซึ่งคาดการณ์กันว่าฝาหลัง อาจจะมีลักษณะเป็นกระจก วัสดุตัวเครื่องน่าจะเป็นโลหะ เช่นเดียวกับ Note 4 แถมในวิดีโอยังพูดถึงขอบ (จอ) ที่อาจจะหายไป จากข่าวลือมากมาย และกระแสที่ได้ยินมา ว่ากันว่า Samsung Galaxy S6 น่าจะเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนโฉมจากอดีตที่ผ่านมา เรียกว่าแทบไม่เหลือเค้าเดิมเลยก็ว่าได้ครับ

galaxy-s6-design

กล้องถ่ายรูป:

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง เพราะทุกวันนี้หลายคนเริ่มไม่พกกล้องถ่ายรูป แต่ใช้เจ้ากล้องที่อยู่บนสมาร์ทโฟนแทนไปใช้ชีวิตประจำวันเสียแล้ว สำหรับ Galaxy S6 นั้นถูกคาดหมายว่าจะพัฒนาขีดความสามารถเรื่องกล้อง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของฟังก์ชัน เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น หรือจะเป็นความละเอียดกล้อง ที่ดูแล้วครั้งนี้อาจจะมาสูงถึง 20 ล้านพิกเซลกันเลยทีเดียว

5433-01-image

อื่นๆ:

ส่วนอื่นๆ เท่าที่มีข่าวลือ และได้ยินจากคนในวงใน ว่ากันว่าปุ่ม Home ของ S6 นั้น อาจจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งาน Fingerprint scan ได้สะดวก ไม่ต้องรูดนิ้ว แต่เป็นลักษณะเดียวกับ Touch ID ของ Apple แถมยังมาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนม่านตา (Iris scanner) แต่จะใช้งานได้จริงแค่ไหน คงต้องติดตามกันต่อไป

ในส่วนของภาพที่ใช้โปรโมท (ด้านล่าง) นั้น เท่าที่เห็นน่าจะเป็นเรื่องของกล้องที่มีความละเอียดสูง (รูปที่ 1) การชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย หรือ Wireless Charging (รูปที่ 2) และเรื่องของการออกแบบดีไซน์ (รูปที่ 3)

I-Am-The-Next-Galaxy  wireless-charging

The-Next-Galaxy

จากที่ได้ดู Teaser เปิดตัวแคมเปญ Zero Project แล้ว ต้องบอกเลยว่า ครั้งนี้ทางซัมซุงทำได้น่าตื่นเต้นกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะครับ ลองไปดูวิดีโอ Teaser กันดู ไม่แน่ท่านอาจจะเป็นคนหนึ่ง ที่สนใจและจับจองเป็นเจ้าของทันทีก็ได้นะครับ

สำหรับใครที่สนใจ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก็จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง http://www.samsung.com/th รอติดตามชมกันนะครับ…

บทความนี้เป็น advertorial

from:http://thumbsup.in.th/2015/02/zero-project-samsung-galaxy-s6/

หลุดรายชื่ออุปกรณ์เสริม 9 รายการยืนยันว่าเป็นของ Samsung Galaxy S6

ดูเหมือนช่วงนี้มีข้อมูลและภาพหลุดชิ้นส่วนต่างๆของ Galaxy S6 สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงใหม่ประจำปี 2015 จากทาง Samsung โดยคาดว่าจะเปิดตัวทางการในงาน CES 2015 ภายในสัปดาห์นี้ ล่าสุดก็มีข้อมูลของอุปกรณ์เสริมจำนวน 9 รายการพร้อมรหัส Zero ที่ยืนยันแล้วว่าเป็นของ Galaxy S6 อย่างแน่นอนทั้ง S View cover case และ Flip Wallet case มีทั้ง 9 รายการดังต่อไปนี้

Galaxy-S6-1

• EF-CG920B — Zero-F S View Cover Case ‏
• EP-PG920I — Zero-Flat S Charger Pad Power ‏
• EF-WG920B — Zero-F Flip Wallet Case ‏
• ET-FG920C‏ — Zero-F Screen protector ETC
• EF-YG920B — Zero-F Protective Cover [PULeather] Case ‏
• EF-QG920B — Zero-F Protective Cover [Clear] Case
• EF-YG925BMEBUS — Zero Protective Cover [PULeather] Case ‏
• EF-WG925BSEBUS — Zero Flip Wallet Case PVR
• EF-QG925BGEGWW‏‎ — Zero Protective Cover [Clear]Case

ที่มา – sammobile

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=109899