คลังเก็บป้ายกำกับ: PROMOTION_AND_BROCHURE

MSI Gaming Notebook สเปคแรงลื่น Intel Core i7 + GeForce RTX 2070 เริ่มต้น 48,990 บาท ลดสูงสุด 15,000 บาท คุณภาพจัดเต็ม

MSI Gaming Notebook มีทุกคุณสมบัติสำหรับการเล่นเกมในระดับไฮเอนด์ แน่นอนว่าคงเป็น Gaming Notebook ที่มีสเปคระดับ Intel Core i7 และ Nvidia GeForce RTX 2070 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในช่วงราคา 70,000 บาทขึ้นไป แต่วันนี้ทาง MSI แบรนด์ Gaming Notebook ที่เกมเมอร์ชาวไทยรู้จักกันดี

MSI Promotion i7rtx2070 p1

ได้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊กตัวเทพ สเปค Intel Core i7 10th Gen และสเปคของการ์ดจอเป็น GeForce RTX 2070 ในราคาเริ่มต้นเพียง 48,990 บาท หากคุณกำลังต้องการ Gaming Notebook ตัวใหม่ ไปดูโปรโมชั่นสุดแรงนี้ของ MSI พร้อมๆ กันเลย!

รีวิว Gaming Notebook MSI GE66 Raider

MSI Promotion i7rtx2070 p2

MSI GE66 Raider เกมเมอร์ต้องถูกใจสิ่งนี้ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร จัดเต็มด้วยไฟ RGB สีสดใส ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมทีน่าทึ่ง มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 67,900 บาท รับฟรี MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

รีวิว Gaming Notebook MSI GS66 Stealth

MSI Promotion i7rtx2070 p3

MSI GS66 Stealth Gaming Notebook สุดเท่ พร้อมให้เกมเมอร์เทใจด้วยดีไซน์ใหม่สุดโดนใจในรูปแบบสีดำสนิท แต่ไม่สามารถปิดความแรงที่แฝงอยู่ข้างใน โดดเด่นในเรื่องการพกพา มาพร้อมมิติเครื่องที่เบาและบาง

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา พร้อมข้อเสนอส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 10,000 บาท ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 67,900 บาท รับฟรี MSI Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

รีวิว Gaming Notebook MSI GP65 Leopard

MSI Promotion i7rtx2070 p4

MSI GP65 Leopard Gaming Notebook ที่ประสิทธิภาพเกินราคา มาพร้อมรูปทรงและดีไซน์ที่ดุดัน สมกับคำว่านักล่า ในราคาเป็นกันเองเพียง 57,990 จากราคาเต็ม 59,990 รับฟรี MSI Air Backpack มูลค่า 1,490 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

MSI Promotion i7rtx2070 p5

และน้องใหม่แต่ความแรงไม่เป็นรองใครในโปรโมชั่นนี้ GL Leopard ซีรี่ส์ ที่คราวนี้มาพร้อมการ์ดจอสุดเทพอย่าง GeForce RTX 2070 ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงขึ้นอีกหลายเท่า รวมถึงฟังก์ชั่นที่เอาไว้สนับสนุนในการเล่นเกมอีกมากมาย ภายใต้ที่สุดของคุ้มค่า ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง 48,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรี MSI Air Backpack มูลค่า 1,490 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท (*เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ*)

รีวิว MSI GE66 Dragonshield Limited Edition

MSI Promotion i7rtx2070 p6

Big Surprise ในรุ่น MSI GE66 Dragonshield Limited Edition ที่จัดเต็มความครบครันทั้งด้านเล่นเกมและด้านความสวยงาม พร้อมความ Limited Edition ที่หาไม่ได้กันง่ายๆ ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์และมาพร้อมกับชุด Boxset Limited ข้างใน จากราคาปกติ 80,990 บาท ราคาพิเศษเหลือเพียง 75,990 บาท รับฟรี Dragonshield Limited Boxset มูลค่า 7,500 บาท และ MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท

MSI Promotion i7rtx2070 p7

ปิดท้ายแถมด้วย MSI GT76 Titan Gaming Notebook ที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ มีฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมอย่างครบครัน และประสิทธิภาพที่เรียกว่าเหนือชั้นกว่าเกมมิ่งโน้ตบุ๊กทั่วๆไปหลายขุม ด้วยคุณสมบัติระดับ Intel Core i9 ที่สามารถทำการ Overclock ปลดล็อคความแรงได้

และด้วยการ์ดจอตัวท็อปอย่าง RTX 2080 Super สุดยอดการ์ดจอที่เกมเมอร์ฝันหา มาพร้อมส่วนลดมูลค่า 15,000 บาท จากราคาเต็ม 169,990 ราคาพิเศษเหลือเพียง 154,990 บาท รับฟรี MSI Loot Box No.066 มูลค่า 3,000 บาท,  MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการช้อปโปรโมชั่นนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่: https://msi.gm/34xybHK หรือหาซื้อได้ตามหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีทั่วประเทศไทย

ขอย้ำว่าโปรโมชั่นนี้ มีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่ซื้อ MSI Notebook รุ่นที่ร่วมรายการระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 25 พฤศจิกายน 2563 เท่านั้น!

รายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ MSI Thailand Facebook https://msi.gm/2u6kGeX

หรือโทรสอบถามได้ที่ MSI Call Center: 02-409-2984 (08:30 – 17:30) เวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

from:https://notebookspec.com/web/546974-msi-gaming-notebook-spec-i7-rtx2070-dis

Lenovo Promotion ชวนช้อปวันคนโสด กับแคมเปญ 11.11 Thrill Deal ลดสูงสุดถึง 39%

Lenovo Promotion เอาใจสายช้อปออนไลน์ด้วยการจัดแคมเปญ 11.11 Thrill Deal  ตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤศจิกายน 2563 นำแล็ปท็อปตระกูลดังของแบรนด์ อาทิ Legion, ThinkBook และ ThinkPad มาลดราคากระหน่ำ! แถมให้จัดสเปคแล็ปท็อปเองได้ด้วย!!

Lenovo Promotion

lenovo promotion

Lenovo Promotion สำหรับลูกค้าทั่วไป

  • ส่วนลดแล็ปท็อปมากสุด 29,800 บาท หรือ 39%
  • หมุนวงล้อลุ้นรับคูปองโค้ด มูลค่าสูงสุด 2,200 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เกิน 20,000 บาท ที่ t.ly/WrrR
  • ส่วนลดออนท็อป 11% เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Legion, ThinkCenter, ThinkPad และ ThinkStation ที่ร่วมรายการ (มูลค่าเกิน 40,000 บาทต่อเครื่อง)

สำหรับลูกค้านักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษา

  • คูปองโค้ดมูลค่า 1,600 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เกิน 40,000 บาท ที่ Lenovo Education Store t.ly/G1v4

สำหรับลูกค้าธุรกิจ องค์กร

  • คูปองโค้ด “EA1111” สำหรับลดออนท็อป 11% เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ ThinkCenter, ThinkPad และ ThinkStation ที่ LenovoPRO Store t.ly/SQlz

เลอโนโวยังคงส่งมอบเทคโนโลยีชั้นนำอันชาญฉลาดให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่นำโดยบริการ ขับเคลื่อนสังคมทั่วโลกให้เข้าถึงโอกาสที่ดียิ่งขึ้น และเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดน

ไฮไลท์แล็ปท็อปที่ร่วมโปรโมชั่น

ThinkPad X1 Carbon Gen 8 ยอดแล็ปท็อปเพื่องานธุรกิจ ประมวลผลเร็ว ตัวเครื่องมาพร้อมฝาจอคาร์บอนไฟเบอร์ โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัย ThinkShield เวอร์ชั่นใหม่ WiFi 6 ให้ความเร็ว และเสถียรในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และลำโพงระบบเสียง Dolby Atmos นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบระดับทหารถึง 12 ขั้นตอน รวมถึงเป็นแล็ปท็อปที่ผ่านเกณฑ์ Project Athena ของ Intel ทำให้ออกจาก sleep mode แล้วเปิดใช้เครื่องต่อได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 วินาที

  • โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7
  • กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics 620
  • หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 16GB LPDDR3
  • จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K in-plane switching พร้อม Dolby Vision
  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มี Rapid Charge

 

ThinkPad X1 Extreme Gen 2 แล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงสำหรับคนทำงาน น้ำหนักเบา ตัวเครื่องมาพร้อมไมโครไฟนคู่ระยะไกลแบบ 360 องศา ได้ยินเสียงไกลถึง 3 เมตร เทคโนโลยี USB-C Thunderbolt 3 ย้ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว ระบบรองรับการใช้งาน AR / VR และระบบสนับสนุนการต่อจอแยกสูงสุด 4 จอ อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพระดับ military test มากกว่า 200 รายการ ลงตัวทั้งความคุ้มค่าและความทนทาน

  • โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 9th Generation Intel® H Core i9 (สูงสุด 8 cores)
  • กราฟิก: NVIDIA® GeForce® GTX 1650 (MaxQ w/4GB GDDR5)
  • หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 64GB DDR4 2666MHz แบบ Dual DIMM
  • จอ: 15.6 นิ้ว FHD in-plane switching anti-glare
  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มี Rapid Charge

 

ThinkPad P15s พรีเมียมโมบายล์เวิร์คสเตชั่น ที่เหมาะกับงานสร้างสรรค์และตัดต่อ พกพาสะดวก ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุแบบ Carbon Fiber และ Magnesium ทำให้มีน้ำหนักเบา แต่มีความยืดหยุ่นสูง Wi-Fi 6 (802.11ax) เชื่อมต่อแบบไร้สายได้ไวทันใจ และตัวเลือกการปรับเทียบโทนสี X-Rite Pantone แถมรองรับระบบปฏิบัติการ Ubuntu และ Red Hat Linux รวมถึงการใช้งานแอปพลิเคชันมากมาย เช่น AutoCAD, Revit และ SOLIDWORKS ด้วย

  • โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7-10810U พร้อม vPro™ (1.10GHz สูงสุด 4.90GHz Turbo Boost 6 cores 12MB cache)
  • กราฟิก: NVIDIA® Quadro® P520 2GB
  • หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 48GB DDR4 2400MHz
  • จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K UHD in-plane switching พร้อม HDR 400 Dolby Vision
  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 16 ชั่วโมง พร้อม Rapid Charge

 

ThinkBook Plus แล็ปท็อปสุดสมาร์ทเพื่อธุรกิจยุคดิจิทัล พร้อมใช้ทุกที่ ตัวเครื่องมาพร้อม dual screen หน้าจอ e-Ink ขนาด 10.8 นิ้วบนฝาเครื่อง สามารถจดบันทึกข้อความหรือไอเดีย ด้วย Precision Pen ที่มากับเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว ฟีเจอร์ Smart Power On ให้การยืนยันตัวตนผ่าน Windows Hello หรือระบบสแกนลายนิ้วมือเป็นเรื่องง่าย และลำโพง Harmon Kardon ที่มาคู่กับไมโครโฟนซึ่งผ่านการรับรองโดย Skype ตอบโจทย์การทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง

  • โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7
  • กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics on UMA
  • หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 16GB DDR4
  • จอ: 13.3 นิ้ว FHD in-plane switching 100% sRGB
  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง มี Rapid Charge

 

Legion 5i ที่สุดของแล็ปท็อปเกมมิ่ง สเปกแรงขั้นเทพ ตัวเครื่องมาพร้อมนวัตกรรมคีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike รองรับ anti-ghosting 100% ตอบสนองรวดเร็วในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ตัวเลือกรีเฟรชเรทสูงสุดถึง 240Hz เทคโนโลยี Advanced Optimus สลับการใช้กราฟิกแบบในตัว และแบบแยกได้อย่างอัจฉริยะ และโปรแกรม Lenovo Vantage ควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ สำหรับเกม รวมถึงแอปพลิเคชันได้ในที่เดียว

  • โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7-10750H
  • กราฟิก: NVIDIA® GeForce RTX™ 2060
  • หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 16GB DDR4
  • ฮาร์ดไดรฟ์แรก SSD สูงสุด 1TB
  • จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching 100% Adobe sRGB พร้อม HDR 400 Dolby Vision NVIDIA® G-Sync
  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง มี Rapid Charge Pro

from:https://notebookspec.com/web/546713-lenovo-promotion-11-11

Acer Promotion ซื้อ Notebook / Desktop ที่ใช้ AMD Ryzen ทุกรุ่น รับ e-voucher 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย.

Acer Promotion พิเศษสำหรับ AMD Ryzen Brand day ลูกค้าสามารถ สแกน QR Code เพื่อรับ E-Voucher มูลค่า 300 บาท เพียงซื้อผ่านช่องทาง Offline เฉพาะโน๊ตบุ๊ค All in one, Desktop รุ่นที่มี CPU Ryzen จาก Acer เท่านั้น ! ระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ 29 ต.ค – 2 พ.ย. 2563 นี้ !

Link ลงทะเบียน ตาม QR code : https://onlinepowerplus.com/amd/AMD-RYZEN-Brand-Day/index.html 

Acer AMD 2

Acer Aspire 5 A515-44G ราคา 16,990 – 22,990 บาท

Acer Aspire 5 A515-44G ได้ Acer Promotion โดยมีสเปกให้เลือกอยู่ 3 รุ่นหลักๆ ติดตั้งชิปประมวลผลตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดเป็น AMD Ryzen 4000U ที่เป็น อย่าง Ryzen 5 45000U / Ryzen 7 4700U พร้อมมีรุ่นการ์ดจอแยกอย่าง AMD Radeon RX640 (4GB GDDR5) ส่งผลให้รองรับงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้แรมมาตรฐานขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB / 512GB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือแม้กระทั่งทำงานหนักหน่อย อย่างตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ มาพร้อมกับ Windows 10 แท้ในทุกรุ่น

Aspire%205%20A515 44G%20Silver bo

สำหรับ Acer Aspire 5 A515-44G ในเรื่องของการดีไซน์มีปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมสีสันให้เลือกคือสีเงินและสีดำ ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.95 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ต่างกันแค่ลดความเป็น Ultrabook ลงให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตานัก

Acer Aspire 5 A515-44G จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดีย ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI, Lan RJ45 และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่กว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และเทคโนโลยี MU-MIMO 2×2 ตำแหน่งการวางช่องเสาอากาศอย่างมีระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพกพาและการทำงานแบบไร้สาย

Aspire%205%20A515 44G%20Silver bk

Acer Aspire 5 A515-44G ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพมาตรฐาน รับชมหรือทำงานเป็นเวลานานได้ด้วย Acer BlueLightShield สามารถให้สีสันที่สวยงามในระดับหนึ่ง โดยวัสดุส่วนหน้าจะเป็นพลาสติกสีดำธรรมดา มีโลโก้ Acer อยู่ตรงกลางล่าง ส่วนขอบบนหน้าจอจะมีกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720p ติดตั้งมาให้ด้วย พร้อมกับไมค์สองตัวแบบตัดเสียงเพื่อใช้งาน Video Call ซึ่งกล้องหน้านี้ก็สามารถตอบสนองได้ดีทีเดียว

Acer Swift 3 (SF314-42) ราคา 22,900 – 25,900 บาท

Acer Swift 3 (SF314-42) ได้ Acer Promotion โดยเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาดีไซน์สวย ได้หน้าจอ 14″ สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า พร้อมความทรงพลัง โดยในส่วนของ U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูก ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series โดย Acer Swift 3 ปี 2020 มีสีสัน Mauve Purple ที่ออกเป็นสีม่วงแบบมังคุดไทยๆ ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และสีเงินสว่างๆ Pure Silver ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส ให้เลือกซื้อกัน

Swift%203%20SF314 42 R18J l

ซึ่ง Acer Swift 3 สเปก Ryzen 4000 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงและดีกว่าเดิมแน่นอน มาพร้อมกับการ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ตัวเครื่องรองรับการติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 โดยติดตั้งที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อนได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท ทำให้เราใช้ Word / Excel / Power Point ได้ทันที

ประกันเป็น 2 ปี สเปก Ryzen 5 4500U / 3 ปี (ปีแรก On-site) สเปก Ryzen 7 4700U พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย พร้อม Windows 10 แท้  ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Type-C ที่รองรับ DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด มีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วเพื่อเข้าใช้านอีกด้วย

Swift%20SF314 r

เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว เพียงพอที่จะเอาไปทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอได้เลยล่ะ แต่ก็ยังรองรับพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 13 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว อย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตของ Acer Swift 3 สเปก Ryzen 7 4700U ก็คือพาเนล IPS ให้ขอบเขตสีระดับกลางๆ แต่รวมๆ แล้วก็ยังให้ประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดอยู่ และแม้ไม่มีฟีเจอร์ Thunderbolt 3 อย่างสเปก Intel Core i Gen 10U เท่านั้นเอง (ไม่จำเป็นสำหรับคนส่วนมากด้วย)

Acer Nitro 5 AN515-44 ราคา 32,990 บาท

Acer Nitro 5 AN515-44 ได้ Acer Promotion เช่นกัน โดยเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ปี 2020 ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H / 7 4800H ที่แรงลื่นแบบสุดๆ ผสานการทำงานกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 8GB / 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz

มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) สำหรับหน้าจอจะเป็น 15.6″ IPS Refesh Rate 144Hz ที่ลื่นกว่าสีดีกว่า พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที

Nitro%205%20AN515 55 bo

สำหรับ Acer Nitro 5 AN515-44 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมได้มาตรฐานขอบเขตสี NTSC 72% ด้วย

Acer Nitro 5 AN515-44 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ด้วยเส้นสายลวดลายที่ดูดุดันกว่าที่เคย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม และที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo

20200710 150201 c 2

นอกจากนี้ Acer Nitro 5 AN515-44 ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย

Acer AIO C24-420

นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ Acer AIO C24-420 ถือว่าเป็นซีรีส์ Desktop PC สไตล์ All-in-One PC ประจำปี 2020 ที่มีทุกสิ่งรวมกันเป็นชิ้นเดียว ต่างจาก Desktop PC ที่แยกชิ้น ด้วยมีทั้งจอแสดงผล /ชิปประมวลผล / เมนบอร์ด / หน่วยจัดเก็บ SSD + HDD / หน่วยความจำแรม และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบสร้างให้มีความทันสมัย เรียบง่าย ใช้งานได้จริง

รวมส่วนถึงการออกแบบอย่างพิถีพิถันใส่ใจทุกลายละเอียด เพื่อการใช้แบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานง่ายแบบสบายๆ เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นฐานของทุกคนภายในบ้าน อย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือจัดการไฟล์ต่างๆ

Acer C24 AIO Ryzen Review 8

ซึ่งAcer AIO C24-420 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับหน้าจอสุดบาง ที่บอกได้เลยว่าดูผ่านๆ คิดว่าเป็นเพียงมอนิเตอร์เท่านั้น สำหรับภายในได้สเปกเป็นหน้าจอขนาด 24″ ได้ขนาดจริงๆ คือ 23.8″ ความละเอียดเป็น Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB ใกล้เคียง 100% ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 3 3250U การ์ดจอออนชิป

มีแรมให้มาเลย 16GB และ SSD 256GB ทำงานร่วมกับ HDD 1TB แน่นอนว่าการเชื่อมต่อก็ครบถ้วน มี Wi-Fi ในตัว พร้อมด้วย Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที มีประกันแบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน กับราคาเพียง 20,900 บาทเท่านั้น ซึ่งจะมีรุ่นสเปกอื่นให้เลือกอีก ก็เข้าร่วมกับ Acer Promotion นี้เหมือนกัน

from:https://notebookspec.com/web/545352-acer-promotionryzen-notebookdesktop-300

ลองของ – เปลี่ยนของเสียเป็นเงินคืน 500 บาท เมื่อซื้อ WD My Passport SSD

โปรโมชั่นเก่าแลกใหม่กลับมาอีกครั้ง! ครั้งนี้ให้คุณได้สิทธิ์เป็นเจ้าของ WD My Passport SSD โฉมใหม่ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น กะทัดรัด ทนทาน ประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับเงินคืนทันที 500 บาท

20201027 143606

หลังจากที่เคยทำโปรโมชั่นคืนเงินให้ลูกค้า SSD WD กับไปแล้ว และได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม วันนี้โปรโมชั่นเด็ดนี้ก็กลับมาอีกครั้งแต่เป็นฮาร์ดดิสค์พกพา รวมไปถึงแฟลชไดร์ฟเก่าลงทะเบียนแล้วรับเงินคืนสูงสุด 500 บาท เมื่อซื้อ WD My Passport SSD รุ่นใหม่ล่าสุดที่แรงกว่าเดิมเยอะ

Program Trade in facebook

ก่อนอื่นต้องไปหาฮาร์ดดิสค์พกพา หรือแฟลชไดร์ฟ จะเก่าหรือเสียแล้วได้หมด ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน สภาพใดได้หมด ขอให้บอกยี่ห้อกับความจุได้ก็พอ พร้อมเตรียมรับเงินคืนทันทีมูลค่า 500 บาท สำหรับ External Hard Drive เก่า หรือ 250 บาท สำหรับ USB Flash Drive เก่า โดยมีขั้นตอนง่ายๆ 3 ขั้นตอนดังนี้

2 1

  • ลงทะเบียนเพื่อนำส่ง External Hard Drive หรือ USB Flash Drive เก่า ที่ https://rb.gy/uetlyn

3 1

โดยข้อมูลที่ต้องกรอกได้แก่ ชื่อ- สกุล อีเมล์ เบอร์โทร อุปกรณ์ที่ต้องการแลก จากนั้นระบุยี่ห้อและความจุเข้าไป

WD

  • รอรับ Reference Number ทาง E-mailที่จะส่งมาให้เลยไม่นานหลังจากลงทะเบียน

20201016 17024120201016 170249

โดยเหยือของเราคือแฟลชไดร์ฟเก่า ที่เสียบติดบ้างไม่ติดบ้าง เลยเอามาแลกเป็นเงิน 250 บาท ดีกว่าทิ้งไปเปล่าๆ

20201016 170229 Copy 1

ทีมงานใส่ซองไป พร้อมระบุ Reference Number  ไปด้วยจะได้รวดเร็วในการค้นหา

จากนั้นรอตอบกลับหลังจากทีมงาน WD ได้ของที่เราส่งไปแล้ว ซึ่งทีมงานส่งไปวันที่ 16/10/2020 โดยทีมงานได้รับการยืนยันทางโทรศัพท์ในวันที่ 26/10/2020

20201027 141453

วันรุ่นขึ้น 27/10/2020 ทีมงานสั่งซื้อ WD My Passport SSD ความจุ 500 GB จาก JIB Online สั่งเช้าได้บ่าย หรือสั่งซื้อผ่านทางร้านค้าออนไลน์หรือห้างร้านไอทีทั่วไปก็ได้ขอแค่มีใบเสร็จถูกต้อง

WD1

จากนั้นกลับเข้าไปที่ https://rb.gy/uetlyn กรอกข้อมูลการซื้อ เลขบัญชีธนาคารพร้อมอัพโหลดใบเสร็จ และรูปถ่าย WD My Passport SSD ที่เราซื้อมา

20201027 143337

AS SSD Benchmark 1.9.5986.35387 8 18 2020 4 52 33 PM CrystalDiskMark 6.0.2 x64 8 18 2020 4 57 58 PM 1

หลังจากนั้นรอรับเงินโอนคืน ภายใน 15 วัน หลังการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แค่นี้ก็ได้ SSD พกพาตัวแรง แทนแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสค์พกพาตัวเก่า ในราคาสุดพิเศษ ใครไม่รู้ว่า WD My Passport SSD ตัวนี้แจ่มขนาดไหน ไปอ่านรีวิวกันได้เลย

ใครสนใจก็ยังมีเวลาถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้นโดยมีสิทธิจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย ต้องรีบกันหน่อยนะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรแกรมได้ที่ https://rb.gy/uetlyn หรือโทร 086 316 1687

from:https://notebookspec.com/web/542110-wd-my-passport-ssd-trade

โปรเด็ดโน้ตบุ๊คสุดฮิตจาก AMD ลดสูงสุด 3,000 บาท เกมมิ่งและบางเบามาครบ

Laptop AMD ยกขบวนแบรนด์ดัง ราคาดีที่สุด ของแถมเพียบ Huawei คูปองลดเพิ่มสูงสุด 3000, Asus HP Lenovo Dell MSI โค้ดลดเพิ่ม 5% สูงสุด 1000 เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ อีกต่อ รับ Cash back จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ สูงสุด 15% 9500 บาท คุ้มเกินคุ้ม!! 29ตุลา-2พฤศจิกายน 2563

JD 1

รุ่นคุ้มวัสดุดีบางเบาจาก Huawei เหมาะกับสายทำงาน เน้นพกพา แรม 8GB ,SSD 512 GB พร้อมใช้ ซีพียู AMD Ryzen 5 วัสดุดี ในราคาปรกติ 19,490 บาท ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ

  • Power Bank ชาร์ตโน้ตบุ๊คได้
  • กระเป๋า + mouse Wireless
  • ผ่อน 0% 10 เดือน

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD 2

สำหรับคอเกมสายคุ้มได้ทั้ง AMD Ryzen 7 + GTX 1650 แรม 8GB ,SSD 512GB เล่นเกมทำงานหนักก็สบาย ในราคาปรกติ 21,900 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ

  • คูปองส่วนลด 1620 บาท เหลือ 20,280 บาท
  • ของแถม เมาส์ กระเป๋า Cooling Pad
  • ผ่อน 0% 10 เดือน

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD 3

สายเกมมิ่งก็จัดว่าแจ่มด้วย Legion 5 รุ่นจอเทพ 144Hz HDR 100%sRGB พร้อมสเปคแรงเล่นเกมทำงานหนักสบายทั้ง Ryzen 5 4600H + GTX 1650Ti ประกันเทพ 2ปี ในราคาพิเศษเหลือ 28,900 บาท จากราคาปรกติ 30,900 บาท ผ่อน 0% 6 เดือน พร้อมของแถมพิเศษ

  • HDD Ext 1 TB ไว้เก็บข้อมูล

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD 4

ตัวจบสำหรับคอเกม ด้วยสเปคแรงระดับ AMD Ryzen 7 + GTX 1660Ti เล่นเกมลื่นๆ ทำงานหนักๆสบาย พร้อมของแถม และราคาพิเศษจากปรกติ 31,990 บาท เหลือ 29,890 บาท พร้อมของแถมพิเศษ

  • เมาส์ + เมาส์แพ็ด เกมมิ่ง
  • กระเป๋าเป้
  • ผ่อน 0% 6 เดือน

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

 

 

 

 

from:https://notebookspec.com/web/544918-promotion-notebook-amd-jd-central

คัดโปรเด็ดโน็ตบุ๊คราคาคุ้มเริ่มเพียง 11,990 บาท

ส่งท้ายเดือน 10 นี้ กับโปรโมชั่นโน้ตบุ๊คสายคุ้ม ในราคาเริ่มเพียงหมื่นต้นๆ พร้อมสเปคทำงานต่างๆ จอใหญ่ จาก JD CENTRAL เน้นบางเบา หรือสายแรงก็มีพร้อมของแถมจัดเต็ม

JD1

ตัวแรกสำหรับท่านที่เน้นราคาคุ้ม ไม่เน้นของแถม ได้ i3-1005G1 แรม 4GB ,SSD 256GB จอใหญ่ 15.6 นิ้ว ระดับ Full HD กับราคาเบาๆเพียงแค่ 11,990 บาท เท่านั้น

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD2

ตัวต่อมาสำหรับท่านที่เน้นของแถมจัดเต็ม ในราคาที่แพงขึ้นมีอีกพันเดียว พร้อมสเปค i3-1005G1 แรม 4GB ,SSD 256GB จอใหญ่ 15.6 นิ้ว ระดับ Full HD เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ กับราคาที่เพิ่มอีกเล็กน้อยเท่านั้นที่ 12,990 บาท แต่ได้ของแถมเพิ่มทั้ง

  • Mouse Logitech + MousePad
  • Sony XB01 Bluetooth Speaker

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD3

ตัวต่อมาก็ยังคงอยู่ในสายบางเบา แต่ปรับสเปคซีพียูเป็นรุ่นแรงสำหรับทำงานหนักๆ ด้วยซีพียู Ryzen 5 4600H รวมไปถึงแรมจัดเต็มที่ 16 GB ตัวเครื่องสวย วัสดุดี ผ่อน 0% ได้ ด้วยราคา 25,990 บาท และยังได้ของแถมเพิ่มอีกทั้ง

  • Wireless Mouse
  • Backpack
  • Office 365
  • 129,900  JD Point

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD4

อีกหนึ่งรุ่นคุ้มจาก Huawei แม้จะเก่า แต่ก็ยังเก่าอยู่ เหมาะกับสายทำงาน เพราะได้ทั้ง SSD 256 GB + HDD 1TB กับซีพียู AMD Ryzen 5 วัสดุดี ในราคาปรกติ 17,990 บาท ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ

  • คูปองส่วนลด 3,000 บาท เหลือ 14,990 บาท
  • กระเป๋า + mouse Wireless
  • ผ่อน 0% 10 เดือน

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD5

สายเกมมิ่งก็จัดว่าแจ่มด้วย Legion 5 รุ่นจอเทพ 144Hz HDR 100%sRGB พร้อมสเปคแรงเล่นเกมทำงานหนักสบายทั้ง Ryzen 5 4600H + GTX 1650Ti ประกันเทพ 2ปี ในราคาพิเศาเหลือ 28,900 บาท ผ่อน 0% 6 เดือน พร้อมของแถมพิเศษ

  • HDD Ext 1 TB

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

JD6

สุดท้าย ที่สุดของโน้ตบุ๊คบางเบา ทำงานราคาคุ้ม ด้วยน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม พร้อมวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพดี ซีพียูระดับ Core i7-1065G7 + MX 350 และยังได้ออฟฟิตแท้ติดเครื่องมาเลยด้วยราคา 26,590 บาท

ไปตำกันได้ที่

JDLOGO

from:https://notebookspec.com/web/543300-promotion-notebook-jd-central-10-2020

Xiaomi Curved Monitor Gaming จอโค้ง 34 นิ้ว ,144Hz เหลือไม่ถึงหมื่น พร้อมรับเงินคืนอีก

ลดอีกแล้วกับ Xiaomi Curved Monitor Gaming จาก JD CENTRAL เหลือไม่ถึงหมื่น ประกันยาว 3 ปี ผ่อน 0% และยังได้เงินคืนอีก 10% เลยด้วย

Xiaomi Ultra Wide

Xiaomi Curved Monitor Gaming เป็นจอเกมมิ่งจากผู้ผลิตเจ้าโลกอย่าง Xiaomi ที่ผลิคทุกอย่างในโลกจริงๆ กับจอที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมจัดเต็มขนาด 34 นิ้ว แบบ 21:9 จอโค้ง 1500R ความละเอียดระดับ 2K Ultra Wide WQHD (3440 x 1440) ตราการรีเฟรชสูงถึง 144 Hz รองรับ AMD Free-Sync ด้วย

มาพร้อมโปรโมชั่นล่าสุดลดเหลือ 9,990 บาท (จาก 10,900 บาท) และไม่ต้องสั่งจองแล้ว มีของพร้อมส่งเลย พร้อมอัดโปรโมชั่น

  • ผ่อน 0% 6 เดือน ตกเดือนละ 1,665 บาท
  • รับเงินคืน 10% เป็น JD Point ด้วย

ไปตำกันได้ที่

This image has an empty alt attribute; its file name is JDLOGO.png

5f17a6a0Naa16d7ac 5f17a6a1N1dc11542

5f17a69eN5b625971

from:https://notebookspec.com/web/543702-xiaomi-curved-monitor-gaming-34-144hz-low-price

Review – ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 Tiger Lake ทั้ง Core i5 / i7 ได้การ์ดจอใหม่ Intel Iris Xe ราคาเริ่ม 22,990 – 26,990 บาท

ASUS VivoBook 14 S413 รุ่นที่เรานำมาทดสอบรีวิวบทความนี้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องขายจริงแล้ว ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม “Tiger Lake” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin Willow Cove ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ พร้อมมี AI เข้าช่วยไปอีกขั้น ทั้งทำงานและความบันเทิงดีขึ้น ดีไซน์สวยด้วยหน้าจอ 14″ IPS Full HD ปี 2020 มีความบาง 17.9 ม.ม. และเบาเพียง 1.4 ก.ก. วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์

สำหรับ ASUS VivoBook 14 S413 เครื่องนี้ได้รับการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นสเปก Core i Gen 10 ซึ่งแม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว สเปคเน้นประสิทธิภาพที่มากว่า มาพร้อมกับความแตกต่างและสีสันไม่ซ้ำใครแน่นอน โดดเด่นด้วยสีเขียว Gaia Green และได้ปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยสเปกที่ได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็น Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 การ์ดจออนชิปเป็น Intel Iris Xe ประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก ได้แรมขนาด 8GB และ SSD 512GB มี Windows 10 แท้ ส่วนประกันเป็นประกัน 2 ปี + ประกันอุบัติเหตุ 1 ปีตามมาตรฐานของ ASUS

VDO Review

Coming Soon

NBS Verdict

สรุปแล้ว ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานทั่วไป หรือหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สนนราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท สเปกได้ Intel Core i3-1115G4 จบไปถึง 26,990 บาท สำหรับรุ่น Intel Core i7-1165G7 เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานโน๊ตบุ๊คที่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ารุ่นสเปกก่อนหน้าอย่าง Intel Core i Gen 10

รองรับซอฟต์แวร์หลายตัวที่สนับสนุนงาน AI อย่าง อาทิ Microsoft Office : Word / Excel / Power Point หรือ Adobe อย่าง Photoshop / Lightroom / Premiere Pro ทำให้รวดเร็วพวก Core i Gen 10H อีกทั้งได้พอร์ต Thunderbolt เป็นมาตรฐานแล้ว คาดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงแต่ได้สเปกที่ดีของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นในช่วงท้ายปลายปี 2020 ที่น่าซื้อไปใช้งานที่หลากหลายในปัจจุบัน เรียกได้ว่าการมาของ Gen 11 นั้นเร็วกกว่าที่คาดจริงๆ

อย่างไรก็ตามทางด้านราคา ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 เทียบกับสเปกที่ได้แล้ว คาดว่าจะไม่สูงมากเพราะอยู่ในโมเดลที่เน้นความคุ้มค่ามากกว่าอย่าง VivoBook ไม่ใช่ ZenBook ซึ่งในเรื่องดีไซน์การออกแบบก็แตกต่าง โดยมีสีสันที่โดดเด้นและแตกต่างอย่างสีดำ Indy Black, สีทอง Hearty Gold, สีเงิน Transparent Silver โดยที่เราได้รับมารีวิวเป็นสีดำ Indy Black ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร พร้อมดีไซน์ใหม่แป้น  ‘Enter’  ขอบสีเหลืองสดใส และขอบตัดตัวเครื่องแบบไดมอนด์คัทเพิ่มลูกเล่นสะดุดตา เรียกได้ว่าจะถูกใจวัยรุ่นเรื่องการสร้างสรรค์งานทีเดียว

โดยตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 13.3″ เมื่อหลายปีก่อน โดยมีมิติตัวเครื่อง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14″ ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมและบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ชิปประมวลผล แรม ฮาร์ดดิสก์ ที่พร้อมใช้งาน ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมดีเยี่ยมนั่นเอง เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์ ใช้งานประมวลผลหนักๆ ได้ด้วย

โดยบางงานทำได้ดีกว่า Gaming Notebook เสียอีกจากการที่ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ซึ่งมี AI ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด AIPT (ASUS Intelligent Performance Technology) ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า และกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ Intel Iris Xeมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K หรือการตัดไฟล์วิดีโอที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อที่ครบครันก็ทำได้เยี่ยมยอดด้วย

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 13.3″ พกพาสะดวก
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุดี มีให้เลือก 6 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันดีกว่า TN
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลสุดๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core Core i5-1135G7 / i7-1165G7 รุ่นใหม่
  • ได้การ์ดจอออบชิปตัวใหม่ Intel Iris Xe ที่ตอบสนองได้ใกล้เคียงกับการ์ดจอเข้าไปอีก
  • ประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งการทำงาน หรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล จากผลการทดสอบ
  • ลำโพง Harman Kardon เสียงคุณภาพดีกว่าทั่วไปแบบรู้สึกได้
  • เทคโนโลยี Fast charging ที่ให้แบตเตอรี่เต็ม 60% ได้ใน 49 นาที
  • ตัวเครื่องร้อนน้อย แม้ทำงานหนักๆ ต่อเนื่อง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ได้โปรแกรม Office Home and Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท
  • ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก
  • ราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ได้รับมากๆ

ข้อสังเกต

  • หน้าจอพาเนล IPS อยู่ในระดับกลางๆ
  • แรมเป็นแบบฝังบอร์ด อัพเกรดเองไม่ได้เลย
  • SSD ที่ให้มา ความเร็วต่ำไปหน่อย 

Specification

ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 ที่ได้รับมารีวิวจะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่า ด้วย โดยแบ่งเป็น 2 สเปก คือ การใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 และ Intel Core i7-1165G7 โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 11 อย่าง Tiger Lake รุ่นล่าสุด 

พร้อมใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี AI เพื่อให้ความเร็วอันเหนือชั้น ในส่วนของการ์ดจอออนชิปรุ่นใหม่ Intel Iris Xe Graphic ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ รวมไปถึงการแสดงผลความละเอียดสูงมากๆ อย่าง 4K หรือ 8K ด้วย อีกทั้งมีรุ่นการ์ดจอแยก GeForce MX350 ให้เลือกด้วย

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 Bus 3200Hz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน  สำหรับที่เก็บข้อมูลหลักเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มาตรฐานการเชื่อมต่อ Intel Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และมี 3D IR Camera ไว้ใช้งาน Login ผ่านทาง Windows Hello บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง Thunderbolt (USB 3.2 Type-C), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก แน่นอนว่าได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ และโปรแกรม  Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) ใช้งานติดเครื่องไปเลยด้วย

Hardware / Design

ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.4 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ปี 2020 ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานนอกสถานที่ก็ทำได้คล่องตัว ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ได้ดีไซน์ใหม่แป้น ‘Enter’ ขอบสีเหลืองสดใส และขอบตัดตัวเครื่องแบบไดมอนด์คัทเพิ่มลูกเล่นสะดุดตาสำหรับการทำงานไม่รู้เบื่อ ตามสไตล์ของ VivoBook Series 

โดยชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ได้ดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Indy Black, สีทอง Hearty Gold, สีเงิน Transparent Silver ซึ่งรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นเป็นสีดำ Indy Black ที่เป็นสีดำด้านให้ความดุดัน พร้อมดีไซน์ภายในแบบสีเดียวกัน ที่ตัวเครื่องยังมีขอบหน้าจอบางเฉียบ NanoEdge วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูแล้วลงตัวกับงานประกอบอื่นๆ ส่งผลให้ ASUS VivoBook 14 S413 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเบาตัวเครื่องที่บาง สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย

นอกจากนั้นแล้วยังโดดเด่นด้วยปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน เป็นการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่สุดๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครมาก่อน ซึ่งให้ความพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าเน้นตั้งใจตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อย่างนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยเฉพาะ

จัดเต็มส่วนของสติ๊กเกอร์ฟีเจอร์ต่างๆ ทั้งส่วนของ Intel และ ASUS และอย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดดีผสมผสานกัน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ซึ่งชิ้นส่วนด้านล่างก็จะเป็นอลูนิเมียม ทำให้แม้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแต่ก็แข็งแรงทนทานเช่นกัน ส่วนตัวเครื่องด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกันแต่สีสันต่างออกไป มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี

สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งาน และออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็แทบไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook 14 S413 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่มีสเปกที่ดี แรง คุ้ม ที่คาดว่าราคาไม่แพง แต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จริงๆ

Keyboard / Touchpad

ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook 14 S413 ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ขอบสีเงินออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลพอสมควร

Screen / Speaker

ASUS VivoBook 14 S413 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 14″ มีขอบที่บางมาก ตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 86% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS คุณภาพดีมุมมองกว้าง สีสันสดใส ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว แน่นอนว่าแม้จะขอบจอบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam พร้อมไมโครโฟนไว้ตำแหน่งด้านบนอยู่

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook 14 S413 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% และ AdobeRGB ที่ 45% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้

อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้แบรนด์ Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ASUS VivoBook 14 S413ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง

ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย

Inside / Upgrade

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ ASUS VivoBook 14 S413 เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 1 ตัว ฮีตไปป์ 1 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 1 ช่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะธรรมดา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตรที่ร้อนน้อยแต่แรงลื่นอยู่แล้ว

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB แบบฝั่งบอร์ด มาตรฐาน DDR4 Bus 2400MHz ที่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด รวมไปถึงเราเห็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่นอกจากนั้นยังมีอีก 1 สล็อตเพื่อรองรับการอัพเกรดเพิ่มด้วย กรณีที่ต้องการความจุเพิ่มเพื่อเก็บข้อมูลในอนาคต สเปกทั้งหมดนี้ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4200mAh แน่นอนว่าเป็นส่วนให้ ASUS VivoBook 14 S413 ใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องยาวนานด้วย

Performance / Software

รออัพเดท ผลการทดสอบ

Battery / Heat / Noise

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ด้วยการเล่นเกมยาวๆ ทั้ง DOTA 2 / Overwatchจะเห็นว่า CPU จะร้อนที่สุดที่ระดับ 99 – 100 องศาเซลเซียส สำหรับ Core i7 และ Core i5 จะร้อนน้อยกว่าอยู่ที่ 81 – 89 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook 14 S413 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง

ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ออกแบบมาค่อนข้างดีด้วยพัดลมเพียง 1 ตัว รวมไปถึงชิปประมวลผลจาก Intel ก็ควบคุมความร้อนได้ดีไม่ให้ความร้อนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป ทำให้การใช้งานจริงยาวนานต่อเนื่องแทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย

Conclusion / Award

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook 14 S413 ปี 2020 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook S รุ่นปีก่อน ที่พร้อมอัพเดทเป็นสเปก Core i Gen 11 ที่จากรุ่นก่อนเป็นสถาปัตยกรรม Ice Lake ขยับเป็น Tiger Lake ที่จะมาพร้อมกับการ์ดจอ Intel Iris Xe ออกแบบมาเพื่อ Notebook ในรุ่นบางเบา ซึ่งตอบสนองอย่างยิ่งกับการสร้างคอนเทนต์ โดยสามารถเพิ่มความเร็วในด้านการทำงานออฟฟิศได้กว่า 20% พร้อมความสามารถในการเล่นและสตรีมเกมที่ไวขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ให้ประสบการณ์ใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้ามีโอกาสเราได้ทดสอบเครื่องจริงจะมาอัพเดทกันอีกที อันนี้พอดูเป็นข้อมูลเบื้องต้นไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ASUS VivoBook 14 S413 มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่สำคัญ ASUS VivoBook 14 S413 มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน พร้อมปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ซึ่งมีความสวยงามลงตัว แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน ซึ่งราคาขายจริงนับว่าไม่แพงและคุ้มค่ามากๆ จากการที่โมเดลนี้เน้นการใช้งานที่ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่า สำหรับนักเรียนนักศึกษาคนทำงานอยู่แล้ว ต่างจาก ZenBook หลายๆ รุ่นที่จะติดตั้ง Intel Core i Gen 11 ซึ่งนั่นจะเน้นความบางเบาและฟีเจอร์แบบแน่นๆ ด้วย 

ซึ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเบา งานประกอบ วัสดุ สเปก และฟีเจอร์อื่นๆ สนนราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 – 26,990 บาทเท่านั้น ในการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานเอกสาร หรือจะนำไปใช้งานระดับมืออาชีพก็รองรับแบบไร้กังวล โดยเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์โน๊ตบุ๊คในรุ่นที่ใกล้เคียงกันนับว่าคุ้มค่ามากๆ เหมาะที่สุดสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาดีไซน์สวย ประสิทธิภาพสูง ช่วงงบประมาณ 20,000 – 30,000 บาท กับการได้ Windows 10 และโปรแกรม Microsoft Office : Word / Excel / Power Point ไปใช้ทันทีฟรีๆ อีกด้วย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook 14 S413 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง ASUS ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น

Best Value

ถึงแม้ ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุดในแง่ของการเล่นเกม แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 15,990 – 26,990 บาท ถูกกว่ารุ่นก่อน ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง Core i3 / Core i5 / Core i7 Gen 11 Tiger Lake รวมถึงมีแรม 4GB – 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe PCIe  ความจุ 512GB พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือมืออาชีพ เน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะสูงสุดถึง 2 ปี พร้อมด้วย Windows 10 และ Pre-installed Office Home and Student 2019 เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลย

Best Mobility

สำหรับ ASUS VivoBook 14 S413 สเปก Core i Gen 11 ที่มีความบางเพียง 17.9 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ รวมไปถึงตัวเครื่องก็ยังแข็งแรงทนทานจากวัสดุแมกนีเซียม-อะลูมิเนียม  แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 14″ ด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจที่สูงสุด 10 ชั่วโมง จึงได้รางวัลไปอย่างสมบูรณ์แบบ

from:https://notebookspec.com/web/541991-review-asus-vivobook-14-s413-core-i-g11