[ทิป] วิธีทำให้ Line สามารถใช้งานฟีเจอร์ สองหน้าจอ(split screen) ของ Android 7

สำหรับคนที่ใช้งาน Android 7 ในตอนนี้คงจะปลื้มกับฟีเจอร์สองหน้าจอ(split screen) ที่ทำให้เราสามารถเล่นพร้อมกันสองหน้าจอได้ แต่สำหรับคนไทยที่ใช้งาน Line บ่อยมาก และเป็นแอปฯ สนทนาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย(ตอนนี้) ก็จะแอบหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ที่แอปฯ Line ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำทิปมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน

 

วิธีทำให้ Line สามารถใช้งานฟีเจอร์ สองหน้าจอ(split screen) ของ Android 7

1. อันดับแรกเข้าไปที่การตั้งค่า เลื่อนไปที่เมนู เกี่ยวกับโทรศัพท์(about phone)
   

 

2. หลังจากนั้นเลื่อนมาล่างสุด ให้เรากดไปที่คำว่า หมายเลขบิลด์(Build number) ย้ำไปหลาย ๆ ครั้ง เพื่อเข้าสู่เปิดเมนู Developer options

 

3. กลับมาที่หน้าการตั้งค่าหลัก จะมีเมนู สำหรับนักพัฒนาซอฟแวร์(Developer options) โผล่ขึ้นมา ให้เราคลิกเข้าไปได้เลย

 

4. หลังจากนั้นเลื่อนไปเปิดเมนูบังคับให้กิจกรรมปรับขนาดได้(Force activities to be resizable)

 

5. สุดท้ายสำคัญมาก เราต้องรีสตาร์ทเครื่องเสียก่อน 1 ครั้ง ถึงจะทำให้ Line สามารถใช้งานฟีเจอร์ สองหน้าจอ(split screen) ของ Android 7 ได้สำเร็จ

สำหรับรุ่นเฉพาะ:

• Android ทั่วไป: Settings > About phone > Build number
• Samsung Galaxy S5: Settings > About device > Build number
• LG G3: Settings > About phone > Software information > Build number
• HTC One (M8): Settings > About > Software information > More > Build number

from:https://www.appdisqus.com/2017/08/15/how-to-line-split-screen.html

รีวิวฟังก์ชั่น Samsung Multi Window ใช้งานหลากหลายแอพพลิเคชั่นได้ในหน้าจอเดียว!

Samsung Multi Window เป็นฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้เราสามารถใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่นได้อย่างสะดวกสบายในหน้าจอเดียว และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ปัจจุบันสามารถใช้งานได้หลากหลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกันได้เลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าทำงานแบบ Pop Up Screens คล้ายๆบน PC เลยละครับ แถมที่สำคัญยังพัมนามาจนสามารถใช้งานพร้อมๆกัน หรือสลับการใช้งานไปมาได้อย่างลื่นไหล น่าประทับใจมากๆเลยทีเดียว สำหรับเครื่องที่นำมารีวิวฟังก์ชั่น Samsung Multi Window ก็คือสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy A7 (2016)

สำหรับวิธีใช้งานนั้นก็ง่ายดายมากครับ เพียงแค่เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นที่รองรับฟังก์ชั่น Multi Window จากนั้นลากนิ้วที่มุมหน้าจอลงมาเฉียงๆ ก็จะเป็นการย่อหน้าต่างลงมาเป็นอีกหน้าจอหนึ่ง พร้อมทั้งเปิดแอพพลิเคชั่นอื่นขึ้นมาและทำแบบเดียวกัน ก็จะได้อีกหน้าต่างเพื่อสลับใช้งานพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล ซึ่งในปัจจุบันรองรับการเปิดหน้าต่างใช้งานพร้อมๆกันได้หลายแอพพลิเคชั่นพร้อมๆกันเลยละครับ

และอีกวิธีเราสามารถเปิดในส่วนการใช้งาน Samsung Multi Window ได้โดยกดที่ปุ่ม Recent App ค้างใว้ครับ มันจะปรากฎแถบ Multi Window ขึ้นมา เราสามารถเลือกเปิดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้งานพร้อมกันขึ้นมาได้จากตรงนี้เลยครับ

เวลาใช้งานเราจะเปิดหน้าแอพพลิเคชั่นเอาใว้ก่อน หรือเปิดใช้งานทีหลังก็ได้ครับ พอเปิดใช้งานแล้วมันจะปรากฎในครึ่งหน้าจอบน พอเราเลือกเปิดอีกแพพลิเคชั่นมันจะปรากฎในครึ่งหน้าล่าง ซึ่งตรงนี้เราสามารถขยับปรับขนาดหน้าจอได้อย่างอิสระเลยครับ แค่แตะแล้วลากขึ้น-ลงได้เลยไม่ต้องแตะค้างเหมือนในสมัยก่อนแล้ว รวดเร็วมากครับ

นอกจากนี้ตรงแถบคำสั่งสามารถเปิดใช้งานได้โดยแตะสัญลักษณ์วงกลมค้างเอาใว้ครับ จะขึ้นคำสั่งขึ้นมาดังนี้ได้แก่

สลับหน้าจอ เราสามารถเลือกคำสั่งนี้เพื่อสลับหน้าจอบนและล่างได้อย่างอิสระ

Move Content คำสั่งนี้มีประโยชน์มากครับ เราสามารถลากลิ้งค์หรือรูปภาพข้ามแอปพลิเคชั่น (ที่รองรับ) หากันได้เลย

ย่อแอพพลิเคชั่นให้กลายเป็นไอค่อนขนาดเล็ก เราสามารถเลือกเพื่อย่อแอพพลิเค่ชั่นให้กลายเป็นไอค่อนขนาดเล็ก และลากไปแอบที่มุมต่างๆหรือเพื่อพักเอาใว้ไม่ให้เกะกะเวลาเราใช้งาน Multi Window อยู่ได้ด้วยนะครับ

ขยายหน้าจอ ซึ่งเราสามารถเลือกคำสั่งนี้เพื่อขยายหน้าจอแอพพลิเคชั่นที่ทำงาน Multi Window ให้กลับมาแสดงเต็มหน้าจอได้ครับ

ปิดการทำงานของแอพพลิเคชั่น เป็นคำสั่งที่เวลาเราใช้แอพพลิเคชั้นนั้นๆเสร็จแล้ว ก็สามารถเลือกปิดได้ตรงนี้ครับ เพื่อไม่ให้รบกวนในการใช้งาน Multi Window กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆต่อไป

สำหรับหน้าต่างแต่ละหน้าต่างเราสามารถเลือกสลับไปมาได้อย่างลื่นไหลดีมาก แม้แต่รุ่นระดับกลางๆก็ยังสามารถใช้งาน Samsung Multi Window  ได้อย่างลื่นไหลมากครับ ถึงแม้จะเป็นฟังก์ชั่นที่กินทรัพยากรณ์แบบนี้แต่ใน Samsung Galaxy A5 (2016) และ Samsung Galaxy A7 (2016) ก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลทั้งคู่เลยครับ เป็นอีกฟังก์ชั่นที่ผมชอบมากๆบนสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตของ Samsung ซึ่งอยากให้เพื่อนๆได้ลองใช้งานกันครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ผมว่ามีประโยชน์และทำมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ ใช้งานได้ง่ายดายและสวยงามกว่าเดิม ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก สามารถใช้งานได้เลย

 

from:https://www.appdisqus.com/2016/01/30/review-samsung-multi-window.html

Samsung Galaxy S6 Edge กับหน้าจอ Dual Curved Screen รุ่นแรกของโลก ที่หลายคนเฝ้ารอคอย!!!

Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 Edge นาทีนี้คงไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่ร้อนแรงไปกว่ารุ่นนี้แล้วนะครับ ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้แล้วส่วนในประเทศไทยเนื่องจากติดเทศกาลสงกรานต์จึงเลื่อนวางจำหน่ายไปเล็กน้อย แต่จากข้อมูลที่ทาง AppDisqus ได้ทราบมาจะวางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายนนี้ครับ (ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนได้นะครับ)

ใครที่สนใจ Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 Edge สามารถไปติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่นี่ครับ Samsung และ Samsung Mobile Thailand

Samsung Galaxy S6 นั้นเต็มไปด้วยจุดเด่นที่ยกระดับขึ้นจากสมาร์ทโฟนของ Samsung ทุกรุ่นเรียกได้ว่ามันคือสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่หรูหราและปราณีตที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตออกมาเลยครับ ทั้งวัสดุที่แสนจะพรีเมี่ยมกระจกและโละออกแบบได้ลงตัวและมีความเป็นแฟชั่นสูงมากๆ สวยที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์ของ Galaxy S เคยสรรสร้างขึ้นมาจริงๆ แต่ที่น่าพิศมัยมากที่สุดก็คือ Samsung Galaxy S6 Edge ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอ Dual Curved Screen รุ่นแรกของโลก มันคือที่สุดแห่งความน่าทึ่งในช่วงเวลานี้ที่เราจะได้สัมผัสนวัตกรรมที่น่าค้นหาบนสมาร์ทโฟน หลังจากที่รู้สึกจำเจมานาน ซึ่งผมถือว่า Samsung Galaxy S6 Edge นั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่ทำให้ผมตื่นเต้นในช่วงนี้ได้อย่างแท้จริงเลยละครับ

สำหรับ Curved Screen นั้นเราได้สัมผัสกันไปแล้วบน Samsung Galaxy Note Edge ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่ผมชอบมากๆ ได้ลองเล่นแล้วแทบอยากจะซื้อกลับบ้านเลยละครับ มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ใช้งานคู่กับหน้าจอขอบโค้งมากมายเช่นการแจ้งเตือนต่างๆ, นาฬิกาจับเวลา, นับถอยหลัง, ไฟฉาย, ไม้บรรทัด (อันนี้ฮามาก อิอิ) และเครื่องบันทึกเสียง รวมทั้งสามารถเปลี่ยนภาพ Wallpaper เฉพาะขอบโค้งตรงนี้ได้ด้วย และใช้งานร่วมกับฟังก์ชั่นยอดนิยมของ Samsung อย่าง Multi Window ได้ด้วยนะครับ เราสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้จากตรงส่วนหน้าจอโค้งนี้เลย ถ้าสามารถเพิ่มในส่วน Multi Tasking ให้อยู่ในพื้นที่นี้ได้จะน่าสนใจมากทีเดียว^^ มันคือหน้าจอที่สองซึ่งมีประโยชน์มากๆแม้เราจะใส่ Flip Case ก็สามารถเห็นการแจ้งเตือนต่างๆได้อย่างชัดเจน

ซึ่งสำหรับ Samsung Galaxy S6 Edge นั้นมาพร้อมความน่าสนใจกว่า Samsung Galaxy Note Edge เป็นสองเท่าในเรื่องของ Curved Screen เพราะเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ Dual Curved Screen รุ่นแรกของโลก และมาพร้อมลูกเล่นใหม่ๆที่ใช้งานกับ Curved Screen เพิ่มเติมขึ้นมา (Samsung Galaxy Note Edge น่าจะได้รับการอัพเดตลูกเล่นใหม่ตรงนี้ในเวลาไม่นานนักครับ) ซึ่งสามารถส่องแสงแสดงแจ้งเตือนตามรายชื่อที่เราตั้งใว้ได้ และการลากการแจ้งเตือนจากตรงส่วน Curved Screen ออกมาแสดงผลที่กลางหน้าจอได้อย่างสุดเท่ นับเป็นจุดขายที่น่าสนใจมากๆ และทาง Samsung ก็ได้เปิดให้ผู้พัฒนาได้เข้ามาพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆสำหรับหน้าจอ Curved Screen และ Dual Curved Screen แล้วด้วยนะครับ ต่อไปเราจะได้เห็นความสามารถและความเป็นไปได้มากมายจากหน้าจอแบบนี้แน่นอน

Samsung Galaxy S6 Edge และ Samsung Galaxy S6 จะมาพร้อม Android 5.0 Lollipop ตั้งแต่วางจำหน่ายเลยครับ และมาพร้อม TouchWiz UI รูปแบบใหม่ที่ออกแบบได้เรียบง่ายแต่สวยงามน่าใช้มากยิ่งขึ้น และมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วซึ่งเพียงเราชาร์จ Samsung Galaxy S6 Edge และ Samsung Galaxy S6 นาน 10 นาทีเราก็สามารถใช้งานมันได้ยาวนานถึงประมาณ 4 ชั่วโมงเชียวนะครับ (ข้อมูลจากงานเปิดตัว เมื่อผมได้ทดสอบจริงๆ ผมจะไม่พลาดทดสอบในส่วนของความสามารถชาร์จเร็วมาฝากเพื่อนๆ AppDisqus แน่นอน) และทั้งคู่รองรับการชาร์จไร้สายมาตราฐาน Qi และบริการ Samsung Pay ซึ่งเป็นการจับมือกับ Visa และ MasterCard รวมทั้งธนาคารต่างๆ ซึ่งงานนี้ท้าชน Apple กันอย่างซึ่งๆหน้าทีเดียว และกล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9 และระบบกันสั่น OIS ซึ่งทาง Samsung บอกว่ามีความโดดเด่นในการถ่ายภาพและวีดีโอในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยม และกล้องหน้าความละเอียด 5MP มาตราฐานใหม่ของ Samsung สำหรับคนรักการ Selfie

สำหรับสเปคของทั้งคู่แน่นอนครับว่าระดับมหาเทพของสมาร์ทโฟนในตอนนี้ทั้ง Samsung Galaxy S6 Edge และ Samsung Galaxy S6 จะมีสเปคดังนี้ครับ

สเปคของ Samsung Galaxy S6 Edge

• 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz
• 4G LTE
• HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps
• ขนาดตัวเครื่อง 142.1 x 70.1 x 7 มม. น้ำหนัก 132 กรัม
• หน้าจอ Super AMOLED capacitive touchscreen, 16M colors ขนาด 5.1 นิ้วความละเอียด 1440 x 2560 pixels (577 ppi)
• กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• Fingerprint sensor (PayPal certified)
• Samsung Pay (Visa, MasterCard certified)
• Wireless charging (Qi/PMA)
• Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่
• CPU Exynos 7420 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57
• GPU Mali-T760
• RAM 3GB
• หน่วยความจำภายในจะมีให้เลือกสามความจุ 32/64/128GB
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 4.0, A2DP, LE, apt-X
• NFC
• Infrared Port
• Micro USB 2.0, MHL 3 TV-out, USB Host
• GPS, GLONASS, Beidou
• เซนเซอร์ Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2
• กล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9, 2988 x 5312 pixels, optical image stabilization, autofocus, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, Auto HDR, panorama
• บันทึกวีดีโอความละเอียด 2160p@30fps, 1080p@60fps, 720p@120fps, HDR, dual-video rec.
• กล้องหน้าความละเอียด 5 MP, 1080p@30fps, dual video call, Auto HDR
• แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh
• มีให้เลือกสี่สีได้แก่ White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum, Green Emerald

สเปคของ Samsung Galaxy S6

• 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz
• 4G LTE
• HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps
• ขนาดตัวเครื่อง 143.4 x 70.5 x 6.8 มม. น้ำหนัก 138 กรัม
• หน้าจอ Super AMOLED capacitive touchscreen, 16M colors ขนาด 5.1 นิ้วความละเอียด 1440 x 2560 pixels (577 ppi)
• กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• Fingerprint sensor (PayPal certified)
• Samsung Pay (Visa, MasterCard certified)
• Wireless charging (Qi/PMA)
• Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่
• CPU Exynos 7420 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57
• GPU Mali-T760
• RAM 3GB
• หน่วยความจำภายในจะมีให้เลือกสามความจุ 32/64/128GB
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 4.0, A2DP, LE, apt-X
• NFC
• Infrared Port
• Micro USB 2.0, MHL 3 TV-out, USB Host
• GPS, GLONASS, Beidou
• เซนเซอร์ Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2
• กล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9, 2988 x 5312 pixels, optical image stabilization, autofocus, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, Auto HDR, panorama
• บันทึกวีดีโอความละเอียด 2160p@30fps, 1080p@60fps, 720p@120fps, HDR, dual-video rec.
• กล้องหน้าความละเอียด 5 MP, 1080p@30fps, dual video call, Auto HDR
• แบตเตอรี่ความจุ 2550 mAh
• มีให้เลือกสี่สีได้แก่ White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum, Blue Topaz

สำหรับราคาของ Samsung Galaxy S6 Edge และ Samsung Galaxy S6 ในตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการครับ ซึ่งเมื่อพิจารณาจาก Samsung Galaxy Note Edge แล้วงานนี้ไม่มีทางถูกแน่นอน แต่คราวนี้กับ Samsung Galaxy S6 Edge และ Samsung Galaxy S6 เป็นรุ่นที่ผมว่าหลายคนพร้อมจะจ่ายเพื่อที่จะได้มาครอบครองครับ เพราะตัวจริงสวยหรูจับใจผมมากๆ และอดใจรอที่จะเล่นอย่างละเอียดเพื่อนำมาเขียนรีวิวให้เพื่อนได้อ่านกันแทบจะไม่ไหวเลยละครับ ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับสมาร์ทโฟนมานานแล้วนะเนี่ย^__^ เรามารอคอยไปพร้อมๆกันนะครับ

from:http://www.appdisqus.com/2015/03/13/samsung-galaxy-s6-edge-dual-curved-screen.html

Multi Window ฟังก์ชั่นพิเศษที่จะขยายความเป็นไปได้ในการใช้งานบน Samsung Galaxy Tab S!!!

สำหรับในครั้งนี้ Samsung ได้ให้ยืมเจ้า Samsung Galaxy Tab S มาซะนานเลยครับ และได้ให้การสนับสนุนเราสำหรับบทความ ที่จะแนะนำฟังก์ชั่นและจุดเด่นที่น่าสนใจของรุ่นนี้มาแนะนำให้เพื่อนๆได้ศึกษากันนะครับ

สำหรับฟังก์ชั่นที่อยากจะแนะนำในบทความนี้นั่นก็คือ Multi Window ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นสำคัญของ Tablet และ Smartphone หน้าจอใหญ่ของ Samsung ซึ่งมีมานานมากแล้ว ซึ่งก็พัฒนาความสามารถและความรวดเร็วลื่นไหลมาโดยตลอดครับ และล่าสุดใน Samsung Galaxy Tab S 8.4 ก็ปรับปรุงมาได้อย่างไร้ที่ติทีเดียว ความเร็วดีเยี่ยม การสลับแอพพลิเคชั่นมาแสดงผลก็รวดเร็วทันใจ และยังคงมาพร้อมฟังก์ชั่น Drag and Drop นั่นก็คือความสามารถลากข้อความหรือรูปภาพจากหน้าต่างหนึ่ง ไปอีกหน้าต่างหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย

และสามารถรับชมคลิปวีดีโอจาก YouTube ไปพร้อมทำกิจกรรมอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, เปิด Google Map (จับสัญญาณดาวเทียมได้แม่นยำ และรวดเร็วดีมาก) หรือเช็คเมล์ รวมทั้งท่อง Internet และอื่นๆอีกมากมาย (สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานในส่วนของ Multi Window เพิ่มเติมได้)

ซึ่งก็สามารถทำงานไปพร้อมๆกันได้ในหน้าจอเดียว รวมทั้งสามารถคัดลอกข้อความมาใส่ใน File เอกสารได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งผมเองเป็นนักเขียนด้วยแล้ว เวลาหาข้อมูลอ้างอิงมาเขียน Blog เจ้า Samsung Galaxy Tab S 8.4 ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผมได้มากเลยครับ

รวมทั้งน้องๆนักศึกษา หรือคุณพี่พนักงานบริษัท รวมไปถึงท่านผู้บริหาร เจ้าของกิจการต่างๆ ก็สามารถใช้งาน Samsung Galaxy Tab S 8.4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับฟังก์ชั่น Multi Window วิธีเปิดใช้งานก็ง่ายๆครับเพียงลากนิ้วจากขอบจอด้านขวาเท่านั้น Multi Window ก็จะโผล่ขึ้นมาให้เราเลือกเปิดใช้งานได้เลย

และเมื่อแตะที่วงกลมตรงกลางเส้นแบ่งจอเราสามารถขยับขนาดหน้าต่างได้อย่างอิสระ รวมทั้งมีคำสั่งย่อหน้าต่างเพื่อดูว่าเราเปิดแอพพลิเคชั่นอะไรค้างเอาไว้อยู่ เพราะว่า Multi Window ไม่ได้สามารถเปิดได้เพียง 2 แอพพลิเคชั่นนะฮะ แต่สามารถเปิดได้หลายแอพพลิเคชั่นพร้อมๆกัน และสลับใช้งานได้อย่างรวดเร็วน่าทึ่งทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคำสั่งสลับหน้าต่าง, Drag and Drop คำสั่งจับภาพหน้าจอเพื่อลากไปใช้งานกับแอพพลิเคชั่นที่รองรับ, คำสั่งขยายหน้าต่างให้เต็มพื้นที่ และคำสั่งปิดหน้าต่าง

รวมทั้งเรายังสามารถบันทึกชุด Multi Window ที่เราใช้ประจำๆเอาไว้ได้ด้วยนะครับ ทำให้เวลาใช้งาน Multi Window ไม่จำเป็นต้องมาเปิดแบ่งหน้าใหม่ แต่เลือกใช้ชุดคำสั่งที่เราเก็บไว้เปิดมาใช้งานได้ในทันที

ใครที่ใช้ Samsung Galaxy Tab หรือ Samsung Galaxy Note แล้วไม่เคยใช้ Multi Window ขอแนะนำเลยนะครับ คุณจะต้องติดใจกับฟังก์ชั่นนี้แน่นอน เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่จะทำให้คุณสามารถทำงานหลายๆอย่างไปพร้อมๆกันบน Samsung Galaxy Tab S และ Smartphone หน้าจอใหญ่รุ่นอื่นๆของ Samsung ได้อย่างสะดวกสบายและสนุกไม่รู้เบื่อเลยละครับ

ใครที่สนใจ Samsung Galaxy Tab S สามารถไปอ่านรีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 ได้ตามลิงค์นี้ได้เลยครับ Samsung Galaxy Tab S 10.5 และ Samsung Galaxy Tab S 8.4 มีวางจำหน่ายแล้วนะครับในราคา 19900 บาทและ 16900 บาท

Sponsored Post By Samsung

รีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 โดยทีม AppDisqus

รีวิว Samsung Galaxy Tab S 10.5 โดยทีม AppDisqus

from:http://www.appdisqus.com/2014/08/21/samsung-galaxy-tab-s-multi-window.html

Multi Window ฟังก์ชั่นพิเศษที่จะขยายความเป็นไปได้ในการใช้งานบน Samsung Galaxy Tab S!!!

Multi Window เป็นฟังก์ชั่นสำคัญของ Tablet และ Smartphone หน้าจอใหญ่ของ Samsung ซึ่งมีมานานมากแล้ว ซึ่งก็พัฒนาความสามารถและความรวดเร็วลื่นไหลมาโดยตลอดครับ และล่าสุดใน Samsung Galaxy Tab S 8.4 ก็ปรับปรุงมาได้อย่างไร้ที่ติทีเดียว ความเร็วดีเยี่ยม การสลับแอพพลิเคชั่นมาแสดงผลก็รวดเร็วทันใจ และยังคงมาพร้อมฟังก์ชั่น Drag and Drop นั่นก็คือความสามารถลากข้อความหรือรูปภาพจากหน้าต่างหนึ่ง ไปอีกหน้าต่างหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย

และสามารถรับชมคลิปวีดีโอจาก Youtube ไปพร้อมทำกิจกรรมอื่นๆด้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, เปิด Google Map (จับสัญญาณดาวเทียมได้แม่นยำ และรวดเร็วดีมาก) หรือเช็คเมล์ รวมทั้งท่อง Internet และอื่นๆอีกมากมาย (สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานในส่วนของ Multi Window เพิ่มเติมได้)

ซึ่งก็สามารถทำงานไปพร้อมๆกันได้ในหน้าจอเดียว รวมทั้งสามารถคัดลอกข้อความมาใส่ใน File เอกสารได้อย่างสะดวกสบาย ยื่งผมเองเป็นนักเขียนด้วยแล้ว เวลาหาข้อมูลอ้างอิงมาเขียน Blog เจ้า Samsung Galaxy Tab S 8.4 ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผมได้มากเลยครับ

รวมทั้งน้องๆนักศึกษา หรือคุณพี่พนักงานบริษัท รวมไปถึงท่านผู้บริหาร เจ้าของกิจการต่างๆ ก็สามารถใช้งาน Samsung Galaxy Tab S 8.4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับฟังก์ชั่น Multi Window วิธีเปิดใช้งานก็ง่ายๆครับเพียงลากนิ้วจากขอบจอด้านขวาเท่านั้น Multi Window ก็จะโผล่ขึ้นมาให้เราเลือกเปิดใช้งานได้เลย

และเมื่อแตะที่วงกลมตรงกลางเส้นแบ่งจอเราสามารถขยับขนาดหน้าต่างได้อย่างอิสระ รวมทั้งมีคำสั่งย่อหน้าต่างเพื่อดูว่าเราเปิดแอพพลิเคชั่นอะไรค้างเอาใว้อยู่ เพราะว่า Multi Window ไม่ได้สามารถเปิดได้เพียง 2 แอพพลิเคชั่นนะฮะ แต่สามารถเปิดได้หลายแอพพลิเคชั่นพร้อมๆกัน และสลับใช้งานได้อย่างรวดเร็วน่าทึ่งทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคำสั่งสลับหน้าต่าง, Drag and Drop คำสั่งจับภาพหน้าจอเพื่อลากไปใช้งานกับแอพพลิเคชั่นที่รองรับ, คำสั่งขยายหน้าต่างให้เต็มพื้นที่ และคำสั่งปิดหน้าต่าง

รวมทั้งเรายังสามารถบันทึกชุด Multi Window ที่เราใช้ประจำๆเอาใว้ได้ด้วยนะครับ ทำให้เวลาใช้งาน Multi Window ไม่จำเป็นต้องมาเปิดแบ่งหน้าใหม่ แต่เลือกใช้ชุดคำสั่งที่เราเก็บใว้เปิดมาใช้งานได้ในทันที

ใครที่ใช้ Samsung Galaxy Tab หรือ Samsung Galaxy Note แล้วไม่เคยใช้ Multi Window ขอแนะนำเลยนะครับ คุณจะต้องติดใจกับฟังก์ชั่นนี้แน่นอน เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่จะทำให้คุณสามารถทำงานหลายๆอย่างไปพร้อมๆกันบน Samsung Galaxy Tab S และ Smartphone หน้าจอใหญ่รุ่นอื่นๆของ Samsung ได้อย่างสะดวกสบายและสนุกไม่รู้เบื่อเลยละครับ

ใครที่สนใจ Samsung Galaxy Tab S สามารถไปอ่านรีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 ได้ตามลิงค์นี้ได้เลยครับ Samsung Galaxy Tab S 10.5 และ Samsung Galaxy Tab S 8.4 มีวางจำหน่ายแล้วนะครับในราคา 19900 บาทและ 16900 บาท

รีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 โดยทีม AppDisqus

รีวิว Samsung Galaxy Tab S 10.5 โดยทีม AppDisqus

from:http://www.appdisqus.com/2014/08/02/samsung-galaxy-tab-s-multi-window.html