คลังเก็บป้ายกำกับ: IBM_MOBILEFIRST_PROTECT

IBM เปิดตัว IBM Verse ระบบ Social Messaging Software สำหรับการทำธุรกิจ ที่จะมาแทน Email และ Calendar แบบเดิมๆ

ibm_logo

IBM ได้ประกาศเปิดตัว IBM Verse ที่ทาง IBM ได้ลงทุนไปกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 3,500 ล้านบาทไทย) ซึ่งเป็นระบบ Social Messaging Software ที่มีการนำระบบ Data Analytics เข้าไปผูกกับข้อมูลของ Email, Calendar, File Sharing, Instant Messaging และ Social Media เพื่อให้การติดต่อสื่อสารในการทำงานและทำธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ภายใน Application เพียงชุดเดียว

ibm_verse_lead_1920x560

สาเหตุที่ทำให้ IBM ต้องมาทำระบบ Collaboration ใหม่ แทนที่จะต่อยอดจาก IBM Notes และ IBM Domino นั้น เป็นเพราะว่าปัจจุบันการใช้ Email ในการทำธุรกิจนี้มีปริมาณมากถึง 108,000 ล้านฉบับต่อวัน ในขณะที่การทำงานก็ยังต้องใช้ระบบอื่นๆ เช่น Calendar, File Sharing และ Social ควบคู่ไปด้วย ดังนั้น Application ที่มีความฉลาดที่จะสามารถช่วยเหลือให้เราทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นจึงเป็นที่มาของ IBM Verse ซึงตอนนี้ก็มีการเปิดให้ลูกค้าบางกลุ่มของ IBM ใช้งานบ้างแล้ว

ibm_verse_concept

ทั้งนี้นอกเหนือจาก Email แล้ว ฟีเจอร์หลักๆ ในการเปิดตัวครั้งแรกของ IBM Verse จะมีดังนี้

ibm_verse_people

  • Team Analytics – มีระบบวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของผู้ส่งและผู้รับ Email และการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทำให้เข้าใจภาพรวมว่า Email ฉบับนี้ส่งต่อถึงใคร ตำแหน่งไหน ทีมไหนในองค์กรบ้าง ทำให้ผู้อ่านเข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็วและทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ibm_verse_talent

  • Calendaring – ระบบปฏิทินเป็นอีกระบบที่มีการออกแบบใหม่ให้สวยงามและใช้งานง่าย โดยผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็น Meeting ต่างๆ ที่ถูก Invite มาได้อย่างรวดเร็ว และกดตอบรับได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ ทำให้พลาด Meeting ต่างๆ ได้ยากขึ้น

ibm_verse_email

  • File Sharing – ระบบ Social File Sharing นี้จะทำให้ผู้ร่วมงานทั้งหมดสามารถเปิดอ่าน, แสดงความเห็น และช่วยกันทำการแก้ไขไฟล์ต่างๆ ได้ทันที โดยสามารถนำไฟล์ใน Attachment ของ Email มาแสดงความเห็นและแก้ไขได้ ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงมีระบบ Versioning, Encryption และสามารถ Synchronize ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมทั้งมี Statistics แสดงปริมาณการ Download ไฟล์ด้วย

ในเวลานี้ IBM Verse จะถูก Deploy ในแบบ Cloud บน SoftLayer Cloud เท่านั้น แต่ในอนาคตจะมี On-premise และ Hybrid ให้เลือกใช้ได้ด้วย

สำหรับปลายเดือนนี้ IBM จะเปิดตัว Verse บน iPhone และภายในไตรมาสที่สองนี้ก็จะปล่อยเวอร์ชัน Android และ iPad ออกมาด้วย โดย App บน iOS นี้จะสามารถทำงานร่วมกับ IBM MobileProtect และ App อื่นๆ ใน IBM MobileFirst ได้ด้วย

ใครที่สนใจ ตามไปลอง Signup ทิ้งไว้เตรียมตัวใช้งานได้ที่ IBM Verse Website http://www.ibm.com/social-business/us/en/newway/  เลยนะครับ

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-verse-social-messaging-software-for-business/

IBM MobileFirst รุกทุกภาคธุรกิจไทย ด้วยระบบ Mobile Analytics สำเร็จรูปบน iOS Device ให้ทุกองค์กรวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เปิดมิติใหม่ในการทำธุรกิจในปัจจุบัน

ibm_logo

หลังจากที่มีข่าวเปิดตัวโครงการ IBM MobileFirst กันไปเป็นที่เรียบร้อยมาได้ระยะหนึ่ง ตอนนี้ทาง IBM Thailand ก็พร้อมจะนำเสนอระบบ Mobile Analytics หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ขององค์กร สำหรับช่วยให้พนักงานในตำแหน่งต่างๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น ผ่าน Mobile Applications ให้กับองค์กรในประเทศไทยแล้ว ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์พิเศษกับทางทีมงานของ IBM ครับ โดยหลังจากสัมภาษณ์เสร็จทางทีมงานก็ได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสรุปข้อมูลคร่าวๆ สำหรับให้แต่ละองค์กรนำไปประกอบการตัดสินใจได้ดังนี้

ibm_apple_ibm_mobilefirst

IBM MobileFirst – Mobile Analytics Application สำเร็จรูปบน iOS Device สำหรับทุกธุรกิจ

ด้วยความเป็นผู้นำทางด้านระบบ Enterprise Analytics มายาวนานของ IBM ทำให้ IBM มีประสบการณ์อย่างครบถ้วนในทุกๆ ธุรกิจ และอุปกรณ์พกพาอย่าง Smart Phone และ Tablet ก็กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่มาเติมเต็มหรือถึงขั้นทดแทนการใช้งาน PC/Notebook ในระดับในองค์กร รวมถึงมีแนวโน้มที่จะมีการใช้งานในระดับองค์กรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะของ Endpoint Device ดังนั้นทิศทางในอนาคตของ IBM เองก็คงมุ่งเน้นมาทางด้าน Mobile Device เป็นหลักอย่างแน่นอน สังเกตได้จาก Press Release ในข่าวสารต่างๆ จากทาง IBM ที่ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Server ใหม่, Software ใหม่ หรือ Storage ใหม่ก็จะมีการใส่คำพูดเกี่ยวกับ Mobile เข้ามาด้วย และอ้างอิงถึง IBM MobileFirst อยู่เสมอๆ นั่นเอง

ibm_mobilefirst_flight_plan

สิ่งที่ IBM ทำ ก็คือการนำความชำนาญทางด้าน Enterprise Analytics มาจับเข้ากับเทรนด์หลักในยุคปัจจุบันและอนาคตคือ Mobile Device โดยเสริมการเชื่อมต่อระหว่างสองเทคโนโลยีนี้เข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น Software สำหรับทำระบบ Analytics, ระบบ Server/Storage ที่รองรับ Workload เหล่านี้ได้, ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ Mobile Device โดยเฉพาะ, ทีมงานสนับสนุนเทคโนโลยีทางด้าน Mobile Device และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถมีระบบ Mobile Analytics และปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน และรองรับต่อการแข่งขันในอนาคตได้นั่นเอง

Mobile Analytics – การวิเคราะห์ข้อมูลที่เข้าถึงทุกระดับขององค์กร

อีกมุมมองหนึ่งที่จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงของระบบ Enterprise Analytics ก็คือแนวคิดที่ว่าทุกคนในองค์กรควรจะมีระบบ Analytics ที่ใช้สนับสนุนการทำงานของตนเองทั้งหมด จากเดิมที่เคยมีแต่ทีมผู้บริหารหรือทีมการตลาดเท่านั้นที่ได้ใช้ในการตัดสินใจวางกลยุทธ์ภาพรวมของบริษัทในระยะสั้นและระยะยาว ในวันนี้ IBM มองว่าแม้แต่พนักงานขายสินค้า ก็ควรจะต้องมีระบบ Analytics เอาไว้วิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่กำลังมาเลือกซื้อสินค้า เพื่อให้สามารถสร้างการ Engage ที่ดี และแนะนำสินค้าที่ดีที่สุด เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างประสบการณ์ประทับใจให้แก่ลูกค้ารายนั้นได้ โดย IBM ได้มีแผนที่จะทำการเปิดตัว Mobile App มาทั้งสิ้นกว่า 150 App เพื่อให้ครอบคลุมตลาดระบบ Analytics สำหรับแต่ละ Industry และแต่ละฟังก์ชั่นการทำงานของพนักงานในทุกๆ Industry ด้วย เรียกได้ว่าถัดจากนี้ไปจะมี Mobile Analytics App ให้ใช้กันตั้งแต่ผู้บริหารถึงพนักงานระดับปฏิบัติการกันแน่นอน

ibm_mobilefirst_Dynamic Buy App_Small

อีกคำถามที่น่าสนใจก็คือ Mobile Analytics มีความจำเป็นขนาดไหน? ลองจินตนาการถึงเวลาที่เราไปซื้อสินค้า Online ตามร้านดังๆ ดู เราจะสังเกตเห็นว่าระบบร้านค้าออนไลน์เหล่านั้นมักจะมีระบบแนะนำสินค้าโดยอัตโนมัติ, จดจำสินค้าหมวดหมู่ที่เราซื้อบ่อยๆ, แนะนำสินค้าลดราคาที่เกี่ยวข้อง และอื่นๆ อีกมากมาย ลองนำระบบนี้มาเปรียบเทียบกับการที่เราไปซื้อของตามห้างหรือร้านค้าต่างๆ ดู จะเห็นได้ว่ามีช่องว่างว่าในโลก Offline ตอนนี้ยังขาดระบบ Analytics อยู่อย่างชัดเจน และมันจะดีแค่ไหนหากเจ้าหน้าที่ขายสามารถรู้ได้ว่าลูกค้าแต่ละคนชอบหรือไม่ชอบอะไร? และก่อนเข้าร้านมาลูกค้าคนนั้นได้ดูข้อมูลของสินค้าชิ้นไหนในร้านผ่านหน้าเว็บมาบ้าง? Mobile Analytics จะมาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ธุรกิจ Online สามารถทำได้แล้ว แต่ธุรกิจ Offline ยังทำไม่ได้ รวมถึงช่วยผสานให้ธุรกิจที่มีทั้งระบบ Online และ Offline รวมเข้าเป็น Platform เดียวกัน อีกทั้งยังช่วยเสริมในส่วนของระบบ Analytics สำหรับการตัดสินใจของผู้บริหารและทีมต่างๆ อย่างครบถ้วนอีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถอยู่รอดได้ในอนาคตนั่นเอง

IBM MobileFirst for iOS – ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรด้วย iOS Device

ibm_mobile_first_Advisor Alerts App_Smallibm_mobilefirst_Advisor Alerts App_Mobile_Small

ด้วยความที่ iOS Device เป็นอุปกรณ์ที่มีการควบคุมการผลิตเป็นอย่างดีทั้งในระดับของ Software และ Hardware อีกทั้งยังมีความสวยงามน่าใช้ รวมถึงความเป็นอันดับหนึ่งในหลายๆ ด้านของ Apple เอง ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ IBM และ Apple ได้จับมือกันเพื่อที่จะนำเสนอระบบ Mobile Analytics จาก IBM ที่ทำงานบน iOS Device จาก Apple นั่นเอง โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือว่าเป็นการเติมเต็มจุดแข็งของกันและกัน โดย IBM ที่มีความชำนาญในตลาด Enterprise ก็จะสามารถช่วยนำ iOS Device จาก Apple เข้ายังตลาดนี้ได้ ในขณะที่ Apple ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ก็จะช่วยตรวจสอบ App ต่างๆ ของ IBM ให้มีทั้งความสวยงามและน่าใช้งาน ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้ ทำให้เกิด IBM MobileFirst for iOS ขึ้น สรุปได้ดังนี้

  • IBM MobileFirst for iOS Solutions – มี Mobile Analytics Application จำนวนกว่า 150 App สำหรับเจาะตลาด Enterprise ในทุกๆ Industry โดยเฉพาะ ลองเข้าไปเลือกกันได้ที่ http://www.ibm.com/mobilefirst/us/en/mobilefirst-for-ios/ โดยตอนนี้ยังมี App ไม่ถึง 150 App แต่จะทะยอยเปิดตัวจนครบในอนาคต
  • IBM MobileFirst for iOS Software Services – มีบริการ Integrate ระบบ Backend ขององค์กรให้สามารถทำงานและแสดงผลบน Mobile Analytics App ได้ รวมถึงมี IBM MobileFirst Protect for iOS สำหรับบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัยของ iOS Device ทั้งหมดจากศูนย์กลาง
  • IBM MobileFirst Supply, Activate and Manage – องค์กรต่างๆ สามารถซื้อ, เช่าซื้อ หรือเช่าใช้ iOS Device ผ่านทาง IBM ได้ทันที โดยอุปกรณ์เหล่านั้นจะมาพร้อมกับ Mobile Device Management (MDM) ทำให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย และใช้งาน Mobile Analytics ได้ทันทีอย่างปลอดภัย
  • AppleCare for Enterprise – มีบริการ Priority Onsite / NBD Onsite สำหรับซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์ iOS Device เพื่อบริการลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ

ตอนนี้ App ที่ Release แล้ว มีด้วยกัน 7 Industry ดังนี้

ติดตั้งใช้งานได้รวดเร็ว และปรับแต่งได้ตามต้องการ

ด้วยความที่ IBM MobileFirst for iOS Solutions นี้ ถูกพัฒนาตัว Mobile App มาก่อนด้วยประสบการณ์ของ IBM ร่วมกับ Apple แล้ว ทำให้ตัว App มีความพร้อมในการใช้งานสูง ดังนั้นสำหรับองค์กรที่สนใจ ก็จะสามารถสร้าง Mobile Analytics App เพื่อใช้งานได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้

  • เลือก Mobile Analytics App ที่ต้องการ หรือเรียกทีมงาน IBM เข้ามานำเสนอ
  • เลือกข้อมูลจาก Backend Database ขององค์กรที่ต้องการนำมาแสดง ให้ทีมงาน IBM ทำการ Integrate ให้
  • ทำการปรับแต่งบางส่วนของ Mobile Analytics App ให้เหมาะสมกับธุรกิจ โดยทีมงาน IBM มีทีม iOS Developers คอยสนับสนุน
  • สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

ที่ IBM พยายามทำให้ App มีความสำเร็จรูปนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถ Deliver App ใช้งานภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อ Time to Market และลดความเสี่ยงในการพัฒนา App ใหม่ทุกครั้งตั้งแต่เริ่ม ซึ่งจะมีโอกาสที่โครงการจะล่าช้าออกไป หรือไม่ประสบความสำเร็จได้นั่นเอง

คิดค่าใช้จ่ายแบบ Subscription

อีกประเด็นหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจคือ IBM MobileFirst for iOS นี้มีค่าใช้จ่ายเป็นแบบ Subscription ตามจำนวนของ iOS Device ที่ต้องการใช้งาน Application ซึ่งจะเปลี่ยนภาพของการลงทุนระบบ Enterprise Analytics ที่แต่ก่อนเคยต้องลงทุนด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก ให้ลดลงเหลือการจ่ายรายเดือนตามจำนวน Mobile Device แทน ทำให้แต่ละองค์กรสามารถเลือกลงทุน IBM MobileFirst for iOS สำหรับทีมงานแต่ละทีม ทะยอยไล่ทำทีละ App และเสียค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงได้ รวมถึงสามารถทำ Pilot Project นำร่องได้ง่ายอีกด้วย

สำหรับองค์กรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากให้ทีมงาน IBM เข้าไปนำเสนอโซลูชัน สามารถติดต่อได้ที่คุณปารณีย์ เรย์มองด็อง ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด paranee@th.ibm.com เพื่อประสานงานต่อไปได้ทันที

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-mobilefirst-for-ios-mobile-analytics-for-every-businesses/

ไอบีเอ็มเปิดตัวเมนเฟรม z13 ระบบที่ทรงพลังและปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา [Official News]

สุดยอดนวัตกรรมก้าวล้ำตอบโจทย์ธุรกรรมยุคโมบายล์แบบเรียลไทม์

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 6 กุมภาพันธ์ 2558: ไอบีเอ็ม [NYSE: IBM] เปิดตัวระบบเมนเฟรมรุ่นใหม่ z13 หนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ที่ก้าวล้ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของธุรกรรมต่างๆ แบบเรียลไทม์ รวดเร็วกว่าระบบคู่แข่งถึง 17 เท่า ปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมในยุคโมบายล์ โดยเฉพาะในแวดวงการเงินการธนาคารหรือค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับการดำเนินการขนาดหลายล้านล้านรายการ พร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น

ibm_z13_1

เมนเฟรม z13 มอบความสามารถใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน อาทิ

  • z13 มีไมโครโปรเซสเซอร์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยเร็วกว่าโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปถึง 2 เท่า ทั้งยังมีหน่วยความจำมากกว่าถึง 300 เปอร์เซ็นต์ และแบนด์วิธมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นระบบแรกที่สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากถึง 2.5 พันล้านรายการต่อวัน โดยธุรกรรมบน z13 จะมีลักษณะต่อเนื่อง ได้รับการปกป้อง และสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพิ่มความมั่นใจและตอบโจทย์ธุรกรรมโมบายล์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 40 ล้านล้านธุรกรรมต่อวันภายในปี 2568
  • z13 คือระบบแรกที่รองรับการเข้ารหัสแบบเรียลไทม์สำหรับธุรกรรมโมบายล์ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีขนาดเท่าใด จึงช่วยปกป้องข้อมูลการทำธุรกรรมต่างๆ และรองรับการตอบสนองที่ฉับไว โดยระบบที่ก้าวล้ำนี้นำไปสู่การจดสิทธิบัตรใหม่กว่า 500 รายการ เช่น เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับที่รองรับฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมโมบายล์ เป็นต้น
  • z13 เป็นเมนเฟรมรุ่นแรกที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเวคเตอร์แบบในตัว และส่งมอบข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สถาบันการเงินหรือบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่สามารถตรวจจับการฉ้อโกงในธุรกรรมทางธุรกิจได้แบบเรียลไทม์และ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ช่วยหยุดยั้งธุรกรรมก่อนที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค พร้อมการนำเสนอข้อมูลเชิงลึก ‘ขณะเชื่อมต่อ’ รวดเร็วกว่าคู่แข่งถึง 17 เท่า ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย

“ทุกครั้งที่ผู้บริโภคทำการซื้อหรือกดปุ่มรีเฟรชบนสมาร์ทโฟน อาจก่อให้เกิดชุดเหตุการณ์ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นบนระบบประมวลผลที่รองรับธุรกรรมนั้นๆ ตั้งแต่ 4 ถึง 100 ครั้ง เมนเฟรม z13 ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้สามารถจัดการกับธุรกรรมหลายพันล้านรายการเหล่านั้นได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ในเศรษฐกิจยุคโมบายล์ในปัจจุบัน มีเพียงเมนเฟรมของไอบีเอ็มเท่านั้นที่สามารถนำเอาระบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกมาไว้ในมือคุณ” นายสุรฤทธิ์ วูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจระบบและเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “ทุกวันนี้ ผู้บริโภคคาดหวังธุรกรรมโมบายล์ที่รวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจก็คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและทรงพลัง ที่ผนวกเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ก้าวล้ำเข้าไว้ด้วยกัน”


เมนเฟรม z13 รองรับธุรกรรมโมบายล์และ“ผลกระทบแบบดาวกระจาย” ได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมหาศาลทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์โมบายล์ และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่ช้านี้ โดยแต่ละธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล การเปรียบเทียบกับข้อมูลการซื้อก่อนหน้านี้ การกระทบยอดระหว่างธนาคาร หรือการใช้ส่วนลดสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก ล้วนก่อให้เกิดชุดเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องบนระบบประมวลผลหลายๆ ระบบ เป็น “ผลกระทบแบบดาวกระจาย” (starburst effect) ซึ่งอาจก่อให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ณ แต่ละจุดของการสื่อสาร โดยผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศและไอที 71 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าประเด็นเรื่องความปลอดภัยเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดขององค์กรที่ปรับใช้เทคโนโลยีโมบายล์ในการดำเนินงาน (Mobile Enterprise) เพราะมีจุดโจมตีมากมาย

เมื่อผสานรวมเข้ากับโซลูชั่น IBM MobileFirst ระบบเมนเฟรม z13 จะมอบสมรรถนะ ความพร้อมใช้งาน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่า รวมถึงประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพา ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างสรรค์แอพที่ดีกว่าและปลอดภัยมากกว่า โดย IBM MobileFirst Protect มอบการรักษาความปลอดภัยที่ไร้รอยต่อและการจัดการแบบครบวงจรสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์ โปรแกรม เนื้อหา และธุรกรรมทั้งหมดของลูกค้า

ibm_z13_2

เมนเฟรม z13 ก้าวล้ำด้วยการส่งมอบข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรมทั้งหมด

z13 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ทั้งการตรวจสอบรูปแบบการซื้อสินค้าของลูกค้าในแบบเรียลไทม์ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นสำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องก่อนที่ลูกค้าจะเดินออกจากร้าน และในบางกรณีอาจเสนอโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจก่อนที่ลูกค้าจะเดินเข้ามาในร้าน

ระบบ z13 ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถวิเคราะห์ธุรกรรมของลูกค้าได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ และสามารถใช้เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองสำหรับการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของไอบีเอ็มอย่าง SPSS ปรับแต่งธุรกรรมได้ทันทีที่เกิดขึ้น

สนับสนุน Hadoop เพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง สามารถเพิ่มเติม DB2 BLU สำหรับ Linux ซึ่งรองรับฐานข้อมูลในหน่วยความจำเพื่อเพิ่มศักยภาพการค้นหาข้อมูลให้รวดเร็วขึ้น เร่งความเร็วของระบบวิเคราะห์ข้อมูล IBM DB2 และเสริมประสิทธิภาพสำหรับเวิร์คโหลดการวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านคณิตศาสตร์ได้

เมนเฟรม z13 กับระบบคลาวด์ภายในองค์กรที่สมบูรณ์แบบ

z13 เป็นสถาปัตยกรรมคลาวด์ภายในองค์กร (private) และแบบไฮบริด (hybrid) ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความสามารถในการปรับขนาดและจัดการเวิร์คโหลดมากมายได้อย่างปลอดภัย โดยสถาปัตยกรรมแบบ Scale-out นี้จะสามารถรันเซิร์ฟเวอร์เสมือนได้มากกว่า 50 ระบบต่อหนึ่งคอร์ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของซอฟต์แวร์ ไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

มีการประเมินว่าระบบคลาวด์ z Systems บน z13 มีค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบน้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 3 ปี เมื่อเทียบกับระบบคลาวด์ x86 และมีค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบน้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 3 ปี เมื่อเทียบกับระบบคลาวด์สาธารณะ (public) นอกจากนั้น z13 ยังใช้มาตรฐานเปิด จึงรองรับ Linux และ OpenStack ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ibm_z13_3

ตอบโจทย์ด้วยบริการเช่าซื้อตามราคาตลาด

ไอบีเอ็ม โกลบอล ไฟแนนซิ่ง (IBM Global Financing) ยังมอบบริการเช่าซื้อตามราคาตลาดสำหรับเมนเฟรม z13 รุ่นใหม่นี้ พร้อมสินเชื่อผ่อนชำระสำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดและต้องการอัพเกรดจากระบบรุ่นเก่าเป็นรุ่น z13 หรือเปลี่ยนระบบ z ที่มีอยู่ให้เป็นอุปกรณ์เช่าขณะที่อัพเกรด หรือซื้อระบบ z13 เครื่องใหม่

######################

เกี่ยวกับ z13

ระบบ z13 เป็นผลลัพธ์จากการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ และการพัฒนาที่ยาวนานถึง 5 ปี โดยเป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่การจดสิทธิบัตรใหม่กว่า 500 รายการ และอาศัยการทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 60 ราย นับเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของไอบีเอ็มในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มอบคุณประโยชน์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ z13 และ IBM z Systems ได้ที่ ibm.com/systems/z

from:http://www.techtalkthai.com/ibm-releases-new-powerful-mainframe-z13/