คลังเก็บป้ายกำกับ: GTX_1080

ลือ RTX 2080 Ti SUPER ด้วยขุมพลัง TU102 เต็มๆพร้อมด้วยแรม GDDR6 16 Gbps

NVIDIA อาจจะนำเสนอการ์ดเรือธงรุ่นที่ใหญ่ขึ้นอย่าง GeForce RTX 2080 Ti SUPER จากข้อมูลวางแผนที่จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 และจากข่าวลือล่าสุดเราก็ได้รายละเอียดสเปคของตัวการ์ด
โดย RTX 2080 Ti SUPER จะใช้งานขุมพลังชิป TU102 ที่มาพร้อมกับ Cuda 4608 cores (ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นสเปคชิปเต็มๆของ TU102 ก็ว่าได้เพราะชิป TU102 ที่ใช้ใน RTX 2080 Ti นั้นถูกลดทอน Cuda ให้เหลือ 4352 Cores) และแรมชนิด GDDR6 ความเร็ว 16 Gbps แต่ในส่วนของความจุนั้นยังไม่มีแหล่งข่าวยืนยันแต่จากข้อมูลเป็นไปได้สองทางคือ ขนาด 12 GB 384-bit bus หรือ 11 GB 352-bit bus เช่นเดียวกับ RTX 2080 Ti

สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ อย่าง tensor 576 cores RT 72 cores 288 texture unitsและ 96 ROPs โดยตัวการ์ดจะทำงานที่เบสคล๊อค 1350 MHz และบูสที่ 1635 MHz ซึ่งเมื่อเทียบกับการ์ด Titan RTX ที่ใช้ชิป TU102 เต็มเหมือนกัน จะมีค่าเบสคล๊อคเท่ากันแต่จะบูสสูงกว่าที่ 1770 MHz.
แต่ในการใช้งานจริงเราอาจจะได้เห็นการบูสของ RTX 2080 Ti SUPER จะอยู่ในช่วง1700 MHz+

ในส่วนเรื่องของราคามีความเป็นไปได้ที่ทาง NVIDIA จะทำสิ่งที่พวกเขาเคยทำกับไลน์ SUPER ตัวอื่นๆที่ผ่านมาคือ นำ RTX 2080 Ti SUPER มาแทน RTX 2080 Ti ที่มีราคาอยู่ที่ 999 USD และจะเปิดตัวในงาน CES 2020 แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น

AoTKnighT Says : จากข่าวลือทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีมูลเหมือนกัน สืบเนื่องมาจากมีข่าว AMD เองก็จะมีการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ซึ่งเป็น Navi ในสถาปัตยกรรม rDNA เจนเรชั่นที่ 2 แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ตัวการ์ดรองรับ Ray Tracing ในระดับฮาร์ดแวร์ซึ่งนับว่าเป็นการปิดจุดอ่อนของการ์ดค่าย AMD ไปในตัวเลยก็ว่าได้เพราะในปัจจุบันเริ่มมีเกมใหม่ๆรองรับคุณสมบัตินี้อย่างแพร่หลายแล้ว ในส่วนของหน่วยความจำก็จะมีรุ่น GDDR6 และ HBM2 ผสมกันไป ซึ่ง AMD ตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวในงาน CES 2020 เหมือนกัน ซึ่งก็คาดกันว่า Nvidia เองก็เตรียมไม้เด็ดอย่าง RTX 2080 Ti SUPER ไว้ต่อกรกับการ์ดรุ่นใหม่ของ AMD ไว้เหมือนกัน


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/8F8zBHNtdtc/

ทิศทาง ตลาดการ์ดจอทั้งมือ 1 มือ 2 ก่อนเปิดตัว GTX 11xx Series ซื้อเลยหรือรอดี

หลังจาก Nvidia เปิดตัวชิปการ์ดจอ GTX 10xx Series ก็เป็นเวลากว่าหลายปีแล้วที่ยังคงขายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นซีรีย์การ์ดจอที่ได้รับความนิยมสูงสุดในท้องตลาดตั้งแต่มีการผลิตกันมา ด้วยประสิทธิ์ภาพ และความคุ้มค่า อีกทั้งยังมีให้เลือกหลายระดับราคาตามต้องการ และแม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้วก็ยังเป็นซีรีย์การ์ดจอที่ยังสามารถตอบสนองการเล่นเกมหรือใช้งานด้านกราฟิกได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ Nvidia ลากขายมาจนถึงปัจจุบัน จาเดิมแทบจะเปิดตัวซีรีย์ใหม่กันแบบปีต่อปี

และนอกจากประสิทธิภาพที่ยังสามารถตอบสนองการใช้งานในปัจจุบันได้แล้ว อีกหนึ่งสาเหตุหนึ่งก็คือการ์ดจอ GTX 10xx ที่ผลิตมาเกินความต้องการทำให้ติดสต๊อคอย่างมาก ทั้งแบบ OEM และผู้ผลิต component หลายๆแบรนด์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระแสเหมืองที่ทำให้การผลิตและจำหน่ายการ์ดจอวางแผนผิดพลาดไปหมด ครั้นจะเปิดตัวรุ่นใหม่เลยก็รับรองว่ารุ่นเก่าจะติดสต๊อคแน่นอน  Nvidia เลยดึงเวลาเปิดตัวเพื่อให้แบรนด์มีการปรับตัวและระบายของในสต๊อคก่อน

(รออะไรกันอยู่พี่น้อง CEO Nvidia ไม่ได้กล่าว)

แม้ตอนนี้จะเป็นแค่ข่าวโคมลอยว่า Nvidia จะเปิดตัวการ์ดจอใหม่แต่ดูสัญญาณหลายๆอย่างก็คาดการได้ว่ามีการเปิดตัวกาณ์ดจอใหม่แน่นอนไม่ว่าจะเป็น

  • หลายแบรนด์เริ่มจัดโปรโมชั่นทั้งลดราคาการ์ดจอ หรือมีการแถมเช่น SSD เพื่อกระตุ้นยอดขาย
  • Nvidia มีการจัดงาน Gamescom ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เวลา 23.00 น. พร้อมถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
  • ผู้ผลิตพีซี OEM ต่างๆ เช่น Lenovo ยังไม่นำเข้ารุ่นใหม่อย่าง Y730 เพื่อรอให้มาพร้อมการ์ดจอรุ่นใหม่
  • ข่าวลือที่หลุดมาทุกวัน จากที่ผ่านมามีข่าวออกมาบ้าง แต่ช่วงนี้ข่าวการ์ดจอตัวใหม่จะเยอะและถี่เป็นพิเศษ

ทำให้เราๆท่านๆเริ่มมโนกันได้แล้วว่าการ์จอ Nvidia GTX 11xx มาแน่และเริ่มมีผลกระทบในตลาดมือ 2 แล้ว ด้วยราคาการ์ดจอค่ายเขียวจาก Nvidia ที่ลดราคากันเพียบ ซึ่งเป็นผลมาจากการลดราคาของแบรนด์ และผู้ใช้เองบางคนที่ซื้อการ์ดจอมาเก็งกำไรจากช่วงตื่นทองก็ต้องระบายกัน หรือบางคนที่คิดว่าขายตอนนี้น่าจะได้ราคาดีกว่ารอเปิดตัวก็เลยรีบชิงขายก่อน ผมเลยสรุปราคาขายมือ 2 ตอนนี้ให้ทุกท่านกันหน่อย

  • GTX 1080Ti ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 18,000 – 22,000 บาท (ตอนตื่นทองขายกัน 35,000 – 40,000 บาท)
  • GTX 1080 ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 15,000 – 18,000 บาท (ตอนตื่นทองขายกัน 25,000 – 30,000 บาท)
  • GTX 1070Ti ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 13,000 – 14,000 บาท (ตอนตื่นทองขายกัน 20,000 – 25,000 บาท)
  • GTX 1070 ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 9,500 – 12,500 บาท (ตอนตื่นทองขายกัน 18,000 – 20,000 บาท)
  • GTX 1060 6GB ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 8,000 – 9,000 บาท (ตอนตื่นทองขายกัน 15,000 – 17,000 บาท)
  • GTX 1060 3GB ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 5,000 – 7,500 บาท
  • GTX 1050Ti ราคาขายมือ 2 อยู่ที่ 4,000 – 5,500 บาท
  • GTX 1050 ,1030 ราคารวมๆลดลงมาเล็กน้อย

คำถามสุดท้าย แล้วจะรอซื้อรุ่นใหม่ดี หรือจะซื้อตัวเก่าใช้ไปก่อน อันนี้ผมว่าต้องถามตัวท่านเองก่อนนะครับว่ารีบใช้งานขนาดไหน เพราะแม้จะเปิดตัวรุ่นใหม่มา ก็ใช้ว่าจะเปิดตัวครบทุกไลด์อัพสินค้า เพราะตามสูตร Nvidia ก็จะเปิดตัวท๊อปๆแพงๆก่อน แน่นอนว่าอาจจะเป็น GTX 1180 ,1170 แล้วจึงเปิดรุ่นอื่นตามมาอีกที อีกอย่างที่หลายๆคนบอกว่าความแรงของ GTX 11xx ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จริงๆว่าจะเท่าไร อาจจะ 10-20% เป็นอย่างน้อย หรืออาจจะแค่เพิ่มคล๊อคนิดนึงเปลี่ยนชื่อหน่อยแบบตอน AMD RX4xx เป็น AMD RX5xx ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นต้องถามตัวเองก่อนครับว่า

  • ไม่รีบอะไรและอยากได้การ์ดจอตัวท๊อปๆแรงๆ ก็รอเปิดตัวใหม่ทีเดียวค่อยซื้อไปเลย
  • ต้องการใงานในเร็ววันนี้ ซื้อตัวปัจจุบันเลย โปรเพียบ หรือสอยมือ 2 มีประกันมาก็คุ้ม
  • ซื้อการ์ดจอเพื่ออัพเกรท ผมแนะนำว่ารออีกนิดให้รุ่นใหม่เปิดตัว ถ้างบถึงก็ซื้อรุ่นใหม่ ถ้าไม่ถึงรุ่นเก่าลดราคาเพียบ

สุดท้ายส่วนตัวผมว่าถ้าท่านมีงบประมาณซื้อการ์ดจอระดับ GTX 1060 ลงมา ซื้อเลยไม่ต้องรอหรอกครับเพราะพวก GTX 1160 1150 น่าจะอีกสักพัก แต่ถ้างบถึงอยากลองของใหม่หรือซื้อเืพ่ออัพเกรทรออีกนิดผมว่า GTX 1180 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

from:https://notebookspec.com/nvidia-gtx-11xx-series-and-2nd-hand/450556/

LIVE : เมื่อ RYZEN 5 1400 ปะทะ GALAX GeForce GTX 1080 HOF กับการเล่นเกม – ZoLKoRn on Live : EP#12

30139

จากที่ทางเราได้เคยมีการนำเสนอเกี่ยวกับการใช้ CPU ในโมเดลเล็ก ๆ อย่าง Pentium G4560 มาขับเคลื่อน GTX 1080 ให้ได้รับชมกัน ซึ่งมันก็ช่วยให้ใครหลาย ๆ ท่านที่สงสัยในประเด็นดังกล่าวว่า ซีพียูเล็ก ๆ มีเทรดน้อย ๆ เพียงแค่ 4 เทรดมันจะขับเคลื่อนระบบเพื่อการเล่นเกมในระดับ Full HD ได้ดีขนาดไหน และคำตอบทั้งหมดสำหรับใครที่พลาดไป ก็จะสามารถติดตามชมได้จาก LINK มาในวันนี้เราก็มีคำตอบที่หลาย ๆ ท่านได้สอบถามกันเข้ามากันเยอะพอสมควร สำหรับน้องเล็กจากตระกูล RYZEN 5 อย่าง Ryzen 5 1400 มันจะมีความสามารถในการขับเคลื่อนการ์ดในระดับ GTX 1080 ไหวหรือเปล่า หากว่าไหวมันจะทำได้ดีสักขนาดไหน ดังนั้นเพื่อให้เป็นที่หายสงสัย วันนี้ก็จัดคำตอบมาให้ได้รับชมกันชัด ๆ อีกครั้ง ซึ่งผลจะออกมาในรูปใดนั้นต้องลองติดตามชมกันดูนะครับ


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/VO7rec_BTXk/

Live on 19/07/2017 : ถึงพริกถึงขิง…ตามล่าหาคอขวด Core i7-7700K ปะทะ Pentium G4560 ขับ GTX 1080

30095

เป็นเทปแรกของการนำเสนอเรื่องราวในตอน “ถึงพริกถึงขิง” กับการไขประเด็น คอขวด กับการใช้ซีพียูในโมเดลเล็ก ๆ ขับการ์ดจอใหญ่ ๆ ว่ามันมีคอขวดจริงหรือไม่ ขับไหวมั๊ย เล่นเกมไหลลื่นหรือเปล่า จากที่มีการคุยกันอย่างแพร่หลายว่า ถ้าเล่น GTX 1080 ต้อง i7 เท่านั้น วันนี้เรามาชมคำตอบกันแบบจะ ๆ ชัด ๆ ระหว่าง Intel Pentium G4560 ปะทะ Core i7-7700K ขับเคลื่อน GeForce GTX 1080 ว่ามันจะให้ความแตกต่างในการเล่นเกมสักขนาดไหน ถ้าอยากจะได้คำตอบ ลองมาติดตามรับชมกันดูครับ

ติดตามผ่าน Facebook ได้ที่ : facebook.com/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Youtube ได้ที่ : youtube.com/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Twitter ได้ที่ : twitter.com/ZoLKoRn


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/GFstnD3320s/

Live on 19/07/2017 : ถึงพริกถึงขิง…ตามล่าหาคอขวด Core i7-7700K ปะทะ Pentium G4560 ขับ GTX 1080

30095

เป็นเทปแรกของการนำเสนอเรื่องราวในตอน “ถึงพริกถึงขิง” กับการไขประเด็น คอขวด กับการใช้ซีพียูในโมเดลเล็ก ๆ ขับการ์ดจอใหญ่ ๆ ว่ามันมีคอขวดจริงหรือไม่ ขับไหวมั๊ย เล่นเกมไหลลื่นหรือเปล่า จากที่มีการคุยกันอย่างแพร่หลายว่า ถ้าเล่น GTX 1080 ต้อง i7 เท่านั้น วันนี้เรามาชมคำตอบกันแบบจะ ๆ ชัด ๆ ระหว่าง Intel Pentium G4560 ปะทะ Core i7-7700K ขับเคลื่อน GeForce GTX 1080 ว่ามันจะให้ความแตกต่างในการเล่นเกมสักขนาดไหน ถ้าอยากจะได้คำตอบ ลองมาติดตามรับชมกันดูครับ

ติดตามผ่าน Facebook ได้ที่ : facebook.com/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Youtube ได้ที่ : youtube.com/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Twitter ได้ที่ : twitter.com/ZoLKoRn


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/leTozFN4xtA/

NVIDIA เปิดตัว Geforce GTX With MAX-Q Design ปฏิวัติโน้ตบุ๊คเกมมิ่งให้บางเบายิ่งขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทีมงาน Notebookspec ได้รับเชิญจาก Nvidia ให้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่น่าสนใจที่สุดคือตัวของการ์ดจอ Nvidia Geforce GTX 1070/1080 With MAX-Q Design หรือก็คือชิปการ์ดจอตัวใหม่ที่ Nvidia นำตัว GTX 1070/1080 มาปรับแต่งเสียใหม่เพื่อให้สามารถผลิตโน้ตบุ๊คที่บางเบายิ่งกว่าโน้ตบุ๊คเกมมิ่งทั่วไป โดยในงานนี้ ยังได้นำโน้ตบุ๊คที่ใช้ตัว MAX-Q Design มาโชว์ด้วย

ก่อนอื่นต้องเท้าความสักนิดากที่ทีมงานเคยเขียนไว้ ทำไมสุดท้าย Nvidia กลืนน้ำลายตัวเอง ทำ GTX 1070 & 1080 เวอร์ชั่น Mobile สรุปง่ายๆคือ GTX 1070/1080 เดิมไม่เป็นที่นิยมในโน้ตบุ๊ค เนื่องจากปัญหาด้านความร้อนและการใช้พลังงาน ทำให้โน้ตบุ๊คที่ใช้มีเครื่องใหญ่ หนา และหนักเกินกว่าจะใช้งานเป็นโน้ตบุ๊ค ทำให้แต่ละแบรนด์ไม่ค่อยเลือกใช้ในโน้ตบุ๊คมากนัก ทำให้ Nvidia ต้องแก้เกมใหม่โดยการปรับมาใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า MAX-Q Design โดยการลดสเปคบางอย่างลง เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยลง แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่สูงไม่ต่างจากเวอร์ชั่นปรกติ โดยใช้พลังงานเพียงแค่ 90W หรือเพียงครึ่งนึงของชิปการ์ดจอรุ่นปรกติ

นอกจากนั้นที่ Nvidia วางแผนไว้ก็คือ โน้ตบุ๊คที่มาพร้อม MAX-Q Design จะมีขนาดที่บางเบากว่าโน้ตบุ๊คปรกติทั่วไปเสียด้วยซ้ำไปครับ โดยความบางของตัวเครื่องเพียงแค่ 18 มิลลิเมตร และน้ำหนักเริ่มต้นเพียงแค่ 5 lbs หรือราวๆ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น (บนขนาดจอภาพ 15 นิ้ว) จากเทคโนโลยีใหม่นี้ เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นที่ใช้การ์ดจอระดับเดียวกันจะเห็นกว่า บางกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น MAX-Q Design (GTX 1080) มีประสิทธิภาพกว่า 1.5 – 1.8 เท่าเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับ GTX 1060 เวอร์ชั่นปรกติที่อยู่ในโน้ตบุ๊คทั่วไป นึกง่ายๆว่าถ้า GTX 1060 ทำเดฟรมเรทได้ 50 fps ตัว GTX 1080 whit MAX-Q Design จะสามารถทำเฟรมเรทได้ถึง 75 – 90 fps

สรุปส่งท้าย ตอนนี้เริ่มมีหลายๆแบรนด์แล้วที่เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่มาพร้อม Geforce GTX With MAX-Q Design ไม่ว่าจะเป็น Acer ,ASUS ,MSI หรือแม้กระทั่ง Clevo ซึ่งได้นำมาโชว์ตัวในงานนี้ด้วย จากที่ได้ลองสัมผัสต้องยอมรับครับว่า เป็นการยกระดับโน้ตบุ๊คสำหรับคอเกมขึ้นไปอีกขั้น จากที่เคยคิดว่าโน้ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆต้องหนาและหนักเท่านั้น แต่ด้วย Geforce GTX With MAX-Q Design จะทำให้โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง บางเบาไม่ต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไป ใช้พลังงานน้อยลง อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่แทบไม่ต่างจากตัวการ์ดจอรุ่นปรกติ เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานโน้ตบุ๊คไปเล่นเกม หรือใช้งานด้านกราฟิกหนักๆ แต่ก็ยังคงต้องการความบางเบาที่พกพาได้อย่างสะดวกอีกด้วย

แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีที่ดีขึ้นย่อมมีค่าใช้งานที่อย่างน้อยต้องเพิ่มเงินในอีกราวๆ 20,000 – 30,000 บาท หากต้องการอัพเกรทความแรงขึ้นจาก GTX 1060 หรือถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊คที่เป็น GTX 1070 /1080 เวอร์ชั่นปรกติที่แรงกว่า ราคาอาจจะแทบไม่ได้ต่างกันเลย (หรือแพงกว่าด้วยซ้ำไป) แม้จะไม่ได้แรงเท่า แต่ก็แลกมาด้วยเทคโนโลยีที่เหลือกว่าโดยเฉพาะความบางเบาที่ต้องมีค่าใช้จ่าย

 

 

from:https://notebookspec.com/nvidia-launch-geforce-gtx-max-q/404112/

[วิเคราห์] ทำไมสุดท้าย Nvidia กลืนน้ำลายตัวเอง ทำ GTX 1070 & 1080 เวอร์ชั่น Mobile

pascal-notebooks_01

สัปดาห์ก่อน [NVIDIA] ปล่อยกราฟิกชิป GTX 1070 และ GTX 1080 รุ่นใหม่ต่อท้าย MaxQ ลงตลาดโน้ตบุ๊ค ลด Clock, TDP  หรือสรุปง่ายๆเลยคือการผลิต GTX 1080 และ GTX 1070 เวอร์ชั่นที่ลดสเปคลงเพื่อใช้กับกลุ่มโน้ตบุ๊คหรืออุปกรณ์พกพานั่นเอง ก่อนอื่นต้องเท้าความสักนิดครับว่า NVIDIA เคยประกาศว่าการ์ดจอเวอร์ชั่นพีซีและเวอร์ชั่นที่ลงในโน้ตบุ๊คจะเป็นสเปคเดียวกันทุกประการ จากเดิมเวลาเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ รุ่นที่ใช้งานบนโน้ตบุ๊คจะถูกตัดสเปคลงเพื่อให้สามารถติดตั้งลงบนเครื่องขนาดเล็กได้ (พร้อมรหัส M ต่อท้าย) เพื่อให้ไม่ร้อนหรือใช้พลังงานจนเกินไป และเมื่อเปิดตัว 10×0 Series ในชุ่นแรก NVIDIA ก็ให้แต่ละแบรนด์ใช้ชิปการ์ดจอตัวเต็มแบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องพีซี จนเป็น GTX 1050 > GTX 1080 จนเป็นแบบที่เราทุกท่านได้ใช้กัน ณ ปัจจุบัน

new GTX 1080 and 1070 coming soon 600 07

แล้วมันมีปัญหาตรงไหนละ

หากหลายๆท่านจำกันได้ การเปิดตัวโน้ตบุ๊คที่มาพร้อมการ์ดจอ 10×0 Series นั้นช้ากว่ากำหนดอยู่เล็กน้อย (จำได้ตอนนั้นมีแค่ MSI ที่วางขายก่อนใคร) ซึ่งมาจากปัญหาหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ผู้ผลิตมีปัญหาในการติดตั้งชิป รวมถึงจัดการความร้อน และพลังงาน ทำให้บางแบรนด์ต้องออกระบบระบายความร้อนใหม่ รวมถึงตัวชิปการ์ดจอที่ขาดตลาด เพราะด้วยความที่ใช้ชิปแบบเดียวกันทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ค ชิปที่ผลิตมาจึงถูกแบ่งให้แบรนด์ผู้ผลิตการ์ดจอ จนเริ่มเพียงพอต่อความต้องการจนทำให้เราได้มีโน้ตบุ๊คที่มาพร้อมชิปการ์ดจอตัวใหม่วางขายเพียงพอ

อย่างที่บอกว่าแบรนด์ผู้ผลิตโน้ตบุ๊คมีปัญหากับการจัดการพลังงาน และความร้อนทำให้การ์ดจอตัวแรงอย่าง GTX 1070 & 1080 ไม่ได้รับความนิยมมากนัก จากปัญหาหลายๆส่วนไม่ว่าจะเป็น

  1. ความร้อนสูง ทำให้ระบบระบายความร้อนที่ใช้กันอยู่ ณ ปัจจุบันของบางแบรนด์ไม่สามารถจัดการได้
  2. จากปัญหาความร้อน ทำให้ต้องติดตั้งบนโน้ตบุ๊คที่มีขนาดใหญ่ และหนา ระดับ 17 นิ้ว ถึงจะเหมาะสม (15 นิ้ว มีเพียงไม่กี่รุ่น แต่ก็ร้อนพอสมควรเลย)
  3. การใช้พลังงานที่สูง เกินกว่าที่ภาคจ่ายไฟหรือ adapter ของโน้ตบุ๊คทั่วไปจะเพียงพอ
  4. ราคาแพงเกินกว่าที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะเลือกซื้อ (บางกลุ่มก็จะมองว่าประกอบพีซีดีกว่าไหม)

ปัญหารวมๆคือเรื่องของ ราคา และขนาดมากกว่า จนบางท่านเลือกที่จะกอบพีซีแรงๆ และโน้ตบุ๊คเบาๆอีกสักเครื่องสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงกลุ่มที่ต้องการเล่นเกมบนโน้ตบุ๊คเลือกที่จะใช้งานเพียง GTX 1050 & 1050 Ti หรือสูงสุดแค่ GTX 1060

Nvidia-GPU

GTX 1060 ก็เพียงพอ

ด้วยประสิทธิภาพของ GTX 1050 & 1050 Ti ที่แรงขึ้นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้งานหลายๆท่านมองว่าแค่นี้ก็เหมาะสำหรับการใช้งานรวมถึงเล่นเกมหนักๆแล้ว แค่นี้ก็สามารถเล่นเกมที่เฟรมระดับ 30 40 ได้อย่างสบายๆ ซึ่งก็เพียงพอสำหรับระดับการมองเห็นของคนทั่วไปแล้ว หรือถ้าต้องการเล่นเกมหนักๆจริงๆ GTX 1060 ก็ถือว่าคุ้มที่สุดแล้ว (ขนาดคุ้มแล้วราคาก็ยังจัดว่าแพงอยู่ดี) เล่นเกมระดับ 50 60 เฟรมได้ลื่นๆ ราคาไม่สูงมากเกินเอื้อม อีกทั้งยังได้สเปคต่างๆไม่ว่าจะซีพียูแรมอะไรที่ครบครัน ซื้อแล้วใช้งานได้อีก 2-3 ปีสบายๆ แล้วทำไมต้องซื้อ GTX 1070 & 1080 ละ

ผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ๆ มองไม่เห็นตลาด

สุดท้ายคือแบรนด์ผู้ผลิตมองไม่เห็นตลาดที่จะมีผู้ใช้งานสนใจ ทำให้ไม่ผลิตออกมา ไม่ผลิตออกมาก็หาซื้อยาก มีแค่ MSI ASUS กับแบรนด์สำหรับคอเกมบางแบรนด์เท่านั้นที่มีผลิตโน้ตบุ๊คตัว GTX 1070 & 1080 ออกมา เพราะตลาดส่วนใหญ่คือผู้ต้องการโน้ตบุ๊คขนาด 14 > 15 นิ้ว ซึ่งถ้าไม่สามารถติดตั้งลงบนโน้ตบุ๊คขนาดนี้ได้ ก็ไม่คุ้มที่จะผลิตในปริมาณมากๆ (บางแบรนด์เอา 1060 ใส่โน้ตบุ๊ค 14 นิ้ว ได้ แต่ความร้อนสูงมาก)

Acer-Predator-Triton-700-2

ต้องยอมรับว่าแม้ชิป GTX 1070 & 1080 จะแรงจริง แต่ด้วยราคาที่สูงทำใหม่ไม่เหมาะที่จะผลิตในปริมาณมาก ทำให้ผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ๆไม่สนใจ และมีความร้อน รวมถึงการใช้พลังงานที่สูง ทำให้ไม่สามารถติดตั้งบนโน้ตบุ๊คยอดฮิตขนาด 14 และ 15 นิ้ว ได้ สุดท้ายคือความแรงของ GTX 1050 > 1060 ก็เพียงพอสำหรับการเล่นเกมบนโน้ตบุ๊คแล้ว ทำให้สุดท้าย NVIDIA ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ผลิตชิป GTX 1070 & 1080 ที่ลดสเปคลงสำหรับการใช้งานบนโน้ตบุ๊คเพื่อหวังจะเพิ่มยอดขายมากขึ้น เพื่อตอบสนองแบรนด์ต่างๆ และเพื่อผู้ใช้ที่จะได้ใช้ของแรงในขนาดที่บางเบาขึ้นรวมถึงราคาที่ถูกลงด้วย

 

 

 

from:https://notebookspec.com/why-nvidia-finally-made-the-gtx-1070-1080-mobile-version/396317/

รุ่นเด่นราคาดิ่งกับ GTX 1080 มือ 1 ลดนิด มือ 2 อย่างคุ้ม (ไม่ต้องง้อ Ti หรอก)

gtx1080_web_gf-1200x627-7-final

หลังการเปิดตัว GTX 1080 Ti ที่แรงขึ้นอีกในราคาที่เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ทำให้ตลาดปั่นป่วนพอสมควรโดนเฉพาะรุ่นพี่อย่าง GTX 1080 อดีตตัวท๊อป ที่ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบหนักสุดเพราะ user ที่ต้องการความแรงแบบสุดๆก็จะย้ายไปตัว Ti ทำให้ตัว 1080 เดิมแต่ละแบรนด์ปรับลดราคากัน พอสมควร ทำให้เหมะากับเพื่อนๆที่ต้องการการ์ดจอแรงๆเล่นเกมลื่นๆแค่ GTX 1080 ตัวเดียวก็เอาอยู่แล้ว

aa

โดยราคามือ 1 ของ GTX 1080 ได้ปรับลดลงมาเหมือนถูกสุดอยู่ราวๆ 2x,xxx บาท หรือสองหมื่นต้นๆเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มมาก ยิ่งไม่ต้องพุดถึงราคามือ 2 บอกเลยว่าต่ำกว่า 2 หมื่นบาท ทุกตัว เพราะหลายๆคนต้องการเร่งปล่อยออกเพื่อจะไปตัว Ti ทำให้ขายกดราคากันน่าดู จากที่สำรวจ สามารถหาซื้อได้ในราคาถูกสุดๆเพียง 18,000 บาท แบบมีประกันศูนย์อีก 2 ปีสบายๆ

qqq

ส่วนที่ได้รับผลกระทบน้อยหน่อยจะเป็น GTX 1070 (ตัวนี้ก็ยังจัดว่าแรงเล่นเกมลื่นไม่แพ้กัน) มือ 1 ลงมาต่ำสุดราวๆ 15,000 บาท ส่วนมือ 2 นั่น สามารถหาได้ถูกสุดที่ราวๆ 12,500 บาท ซึ่งไม่ถือว่าราคาลงมาเท่าไรกับก่อนเปิดตัว Ti คาดว่าน่าจะมาจากช่วงราคาของตัว 1080 และ 1070 ที่ห่างกันอยู่แล้วพอสมควร

สุดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการการ์ดจอแรงๆเล่นเกมลื่นเฉยสบายๆ ส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่จำเป็นต้องถึง GTX 1080 Ti แค่ GTX 1080 ก็เล่นเกมลื่นแล้ว แต่ถ้าอยากไปให้สุดก็คงต้อง Ti ละครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูสเปคต่างๆประกอบด้วยนะครับ ถ้าการ์ดจอแรงแต่สเปคอื่นต่ำก็ไม่ไหวอยู่ดี

from:https://notebookspec.com/gtx-1080-low-price/393581/

ราคา GeForce GTX 1080 และ GTX 1070 ต่างประเทศปรับลดลงตามประกาศของ NVIDIA แล้ว !

GTX 1080 Price cuts

หลังจากทาง NVIDIA ได้ทำการประกาศเปิดตัวการ์ดในโมเดลใหม่สำหรับ GeForce GTX 1080 Ti จากในงาน GDC 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งมันจะพร้อมวางขายอย่างเป็นทางการและมีการเปิดเผยผลการทดสอบในวันที่ 10 มีนาคมนี้ และในขณะเดียวกันทาง NVIDIA ก็ยังได้มีการประกาศปรับลดราคาของการ์ดจอในตระกูล Pascal ที่มีการเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้สองโมเดลคือ GeForce GTX 1080 และ GeForce GTX 1070 โดยราคาใหม่ที่มีการประกาศออกมาของทาง NVIDIA นั้น ราคาของ GTX 1080 จะปรับลดลงมาที่ $499US หรือประมาณ 18,000 บาทส่วนราคาของ GTX 1070 จะมีราคาลดลงเหลือ $349US หรือราว 12,5xx บาท และจากระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ในที่สุดราคาของการ์ดในตลาดต่างประเทศก็มีการปรับตัวลดลงตามคำประกาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

NVIDIA-GeForce-GTX-1080-Price-Cuts

นอกจากทาง NVIDIA จะมีการประกาศปรับลดราคาของการ์ดลงมาแล้วนั้นทาง NVIDIA ก็ยังมีโปรโมชันส่งเสริมการขายเพิ่มเติมอีกเช่นกันกับการแถมเกมให้ผู้ที่เลือกซื้อการ์ดทั้งสองโมเดลดังกล่าวในมูลค่าประมาณ $60 หรือราว 2,100 บาท ซึ่งจะมีเกมให้ได้เลือกกันสองเกมคือ Ghost Recon: Wildlands หรือ For Honor

NVIDIA GeForce GTX 1080 :

NVIDIA GeForce GTX 1070 :

ทั้งนี้สำหรับร้านค้าที่มีการปรับราคาของการ์ดลงมาให้เห็นบ้างแล้วนั้นก็จะประกอบไปด้วยสองร้านค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่อย่าง Newegg.com และ Amazon.com ซึ่งจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่โมเดล โดยจะพบเห็นราคาได้ตั้งแต่ $499US ไปจนถึง $599US (18,000-21,500 บาทโดยประมาณ) สำหรับ GTX 1080 ส่วนราคาของ GTX 1070 ก็มีการปรับลดลงแล้วเช่นกันโดยจะมีราคาในช่วง $369US ถึง $399US (13,200-14,300 บาทโดยประมาณ)

ASUS-Cashback-GTX-1080-and-GTX-1070

ไม่เพียงแค่เฉพาะในตลาดอเมริกาเท่านั้นที่มีการปรับลดราคาลงมา โดยทางฝั่งยุโรปเองสำหรับตลาดอังกฤษ ราคาของการ์ดก็มีการปรับลดลงมาแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งก็มาในรูปของ Cashback หรือการจ่ายคืน ซึ่งจะมีการจ่ายคืนหรือมันก็คือส่วนลดในราคา £50 สำหรับ GTX 1080 และ £30 สำหรับ GTX 1070

ZoLKoRn Says: แน่นอนว่าหลังจากใครหลาย ๆ ท่านเห็นข่าวนี้แล้วก็คงจะเกิดคำถามตามมาทันทีว่า เมื่อไหร่บ้านเราจะลดกับเขาบ้าง ? ซึ่งในเรื่องนี้ผมเองก็คงยังไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน แต่สิ่งที่พอจะบอกได้นั้นก็คือ จะอย่างไรแล้วก็จะต้องมีการปรับลดลงด้วยเช่นกันแน่นอน เพราะการประกาศปรับลดราคาในครั้งนี้เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการจากทาง NVIDIA โดยตรง ไม่ได้เป็นแค่เพียงการปรับลดลงของทางผู้ผลิตเองแต่อย่างใด ดังนั้นในตลาดบ้านเราก็คงอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่สิ่งที่น่าจะกระทบเต็ม ๆ จากประเด็นนี้ก็คือ ราคาของสินค้ามือสอง ซึ่งถ้าหากอิงจากราคาใหม่จากเดิมที่ทาง NVIDIA เปิดตัว GTX 1080 มาในช่วงราคา $699US หรือประมาณ 25,000 บาทเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว และในวันนี้มันจะมีราคาเหลือเพียงประมาณ 18,000 บาท ซึ่งราคาหายไปกว่า 7,000 บาทเลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับใครที่คิดจะปล่อยการ์ด GTX 1080 ที่ตนเองมีอยู่ในช่วงนี้เชื่อได้เลยว่าจะต้องโดนกดราคาอย่างมหาโหดแน่นอน


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/pNlbieb73WI/

AMD จะเปิดตัว RX Vega ในวันที่ 30 พฤษภาคม และการ์ดตระกูล RX 500 จะมาในเดือนเมษา

Radeon-Vega-Logo

จากในงาน GDC 2017 ที่มีงานแถลงข่าวที่ใช้ชื่อว่า Capsaicin หรือ “พริกเผ็ด” ที่เราได้รู้ว่าชิปที่ AMD พัฒนาอยู่ภายใต้รหัส VEGA จะออกมาวางจำหน่ายในชื่อ RX VEGA ไม่ใช่ RX 490 หรือ RX 580 แต่อย่างใด โดยข้อมูลเบื้องต้นตัวชิป VEGA10 GPU จะมาพร้อมกับ Stream Processors ในจำนวน 4096 unit ใช้แรม HBM2 และน่าจะมีขนาด 8GB ตัวการ์ดให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลได้ที่ 12.5TFlops และจะมี TDP ในช่วง 250W และตัว GPU ก็คาดว่าจะยังคงใช้กระบวนการผลิตในขนาด 14nm

AMD Brand New RX Vega Series – Vega 10 & Vega 11

จากข้อมูลล่าสุด การ์ดในตระกูล Radeon RX Vega จะมี GPU สองรุ่นด้วยกันนั่นก็คือ Vega 10 และ Vega 11 โดยในตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า ทาง AMD จะทำการแบ่งสันปันส่วนรุ่นต่างๆ ในตระกูล RX Vega ไปในทิศทางใด แต่ที่เรารู้ก็คือ ชิป Vega 10 GPU นั้นจะเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพที่สูงที่สุดในชิปสถาปัตยกรรม Vega โดยเบื้องต้นในชิปเวอร์ชั่น Engineering Sample ได้แสดงให้เราเห็นว่า ตัวมันมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าการ์ด GTX 1080 ของคู่แข่งประมาณ 10%
โดยจากรายงาน ได้ระบุว่าในตอนนี้ทางทีมพัฒนา Driver ของ AMD กว่า 80% กำลังทำการปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพในแง่ของการทำงานให้เข้ากับชิป Vega อยู่นั่นเอง
ต่อมาสำหรับชิป Vega 11 จะเป็นชิปที่มีขนาดเล็กกว่า โดย AMD จะมุ่งเป้าให้มันเป็น GPU ประสิทธิภาพสูงในตลาดระดับกลางค่อนไปสูง ซึ่งมันก็คือตำแหน่งของการ์ด GTX 1070 ของ Nvidia ในปัจจุบัน โดยสำหรับประสิทธิของชิป Vega 11 เมื่อมันออกวางขายในตลาดจริงๆนั้นก็ยังไม่มีใครทราบได้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าหรือต่ำกว่า GTX 1070 มากน้อยเพียงใด โดยชิปทั้งสองรุ่นจะออกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 30 พฤษภาคม ซึ่งมันก็สอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านี้

RX Vega

Vega Architecture Key Features

  • ประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานที่ดีขึ้นกว่า 4 เท่าตัว (4x Power Efficiency)
  • ความแรงต่อ MHz จะแรงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว (2x Peak Throughput/Performance Per Clock)
  • ระบบแคชที่มีแบนด์วิดท์สูง (High Bandwidth Cache)
  • แบนด์วิดท์ต่อพินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (HBM2)
  • ความจุแรมต่อชุดเพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่าตัว (HBM2)
  • 512TB Virtual Address Space
  • Next Generation Compute Engine
  • Next Generation Pixel Engine
  • Next Compute Unit Architecture
  • Rapid Packed Math
  • Draw Stream Binning Rasterizer
  • Primitive Shaders

AMD’s RX 500 Series Refresh – Polaris Based RX 580, 570, 560 & 550

จากข้อมูลรายงานของ Heise.de ได้เผยว่าทาง AMD นั้นวางแผนจะเปิดตัว การ์ดในตระกูล RX 500 ในช่วงเดือนเมษายนนี้อีกด้วย โดยจากรายงานในวันที่ 4 เมษายนนั้น การ์ดโมเดล Radeon RX 580 และ Radeon RX 570 จะพร้อมวางจำหน่าย ส่วนในสัปดาห์ต่อมาหรือในวันที่ 11 เมษายน ทาง AMD จะทำการเปิดตัวการ์ดในโมเดล Radeon RX 560 และ Radeon RX 550
สำหรับการ์ดในตระกูล RX 500 นั้นสิ่งที่เรารู้ได้ตอนนี้ก็คือการ์ดในโมเดล Radeon RX 580 นั้นจะเป็นการ์ดที่ถูกรีแบรนด์ หรือที่หลายคนชอบนิยมเรียกกันว่า “ย้อมแมว” มาจากการ์ด RX 480 โดยสำหรับความแตกต่างก็คือ ในการ์ดรุ่นใหม่นั้น จะมี Core Clock speed เริ่มต้นที่ 1340 MHz(ซึ่งเร็วกว่า RX 480 74 MHz) ในขณะเดียวกัน การ์ดในโมเดล Radeon RX 570 ก็เป็นการรีแบรนด์ มาจากการ์ด RX 470 เช่นกัน โดยจะมีค่า Core Clock Speed เริ่มต้นที่สูงกว่า RX 470 ที่ 38 MHz โดยสำหรับค่า Core Clock Speed ที่กล่าวมมานั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงใกล้วันวางจำหน่าย

ในส่วนของการ์ดในตลาดระดับล่างคาดว่า Radeon RX 560 ถูกรีแบรนด์มาจาก Radeon RX 460 ชิปอ้วน เต็ม 1024 Stream Processors (ยังไม่ยืนยัน) แต่ข้อมูลที่แน่นอนก็คือ Core Clock Speed ของ RX 560 จะวิ่งที่ 1287 MHz (เหนือกว่า RX 460 87 MHz)
สำหรับสุดท้ายน้องเล็ก RX 550 โดยโมเดลนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะใช้ชิป Polaris 12 ซึ่งจะเป็น GPU ระดับ low-end รุ่นใหม่ที่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับมันมากนัก

1.5

AoTKnighT Says : จากงาน Capsaicin ที่ผ่านเรายังไม่ได้เห็นการ์ดในสถาปัตยกรรม Vega ตัวเป็นๆ ซึ่งในงานสิ่งที่น่าสนใจที่สุดที่เกี่ยวกับ Vega นั้นก็คือ ฟีเจอร์ High-Bandwidth Cache Controller หรือ HBCC ซึ่งมันจะช่วยให้การเล่นเกมได้เฟรมเรตที่ลื่นไหลขึ้น โดยในงานมีการนำเกม Deus Ex Makind Divided มาทดสอบผลปรากฏว่า สามารถเพิ่มค่าเฟรมเฉลี่ยถึง 50% และ เพิ่มค่า min FPS ถึง 100% ซึ่งการทำงานของฟีเจอร์ดังกล่าว จะช่วยให้การ์ด Vega GPU สามารถใช้ประโยชน์จากหน่วยความจำทั้งหมดที่มีบนเครื่องไม่ว่าจะเป็น Ram หรือ HDD ส่งผลให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการเล่นเกมโดยเฉพาะเกมที่ใช้งานปริมาณ Vram เยอะๆ

AMD-Radeon-RX-Vega-GPU-Architecture_High-Bandwidth-Cache-Controller

โดยในงาน AMD ยังเชิญทีมผู้พัฒนาเกมค่ายต่างๆ มาแสดงผลงานอีกด้วยโดยส่วนมากเกมที่นำมาจะเน้นหนักไปที่ VR เสียมากกว่า แต่ก็ยังมีการเทส Sniper Elite 4 จากผู้พัฒนา Rebellion ในเรื่องความสามารถในด้าน DX12 และ Crossfire ซึ่งในงาน AMD ได้นำการ์ด RX 480 CF เปรียบเทียบกับ RX 480 ปรากฏว่าสามารถเพิ่มค่า FPS เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
สำหรับ

สำหรับเรื่องการ์ดในตระกูล RX 500 ที่ยังคงใช้ชิป Polaris 10 – 11 เหมือนกับในไลน์ตระกูล RX 400 เราอาจจะเรียกมันว่าย้อมแมวไม่เต็มปากนัก เพราะจากแหล่งข่าวระบุว่าชิป Polaris 10 – 11 ที่อยู่ในการ์ดตระกูล RX 500 นั้นเป็นชิป stepping ที่ใหม่กว่าและปรับปรุงในเรื่องของการบริโภคพลังและการ โอเวอร์คล๊อคที่ดีขึ้นกว่าหรือเราจะพูดง่ายๆ ว่า RX 500 ก็คือ RX 400 รุ่นปรับปรุให้สมบรูณ์ขึ้นนั่นเอง


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/-4NvgfjozqY/