ลาก่อย.. Google+ Photos โดนดึงออกจาก Google+ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในอัพเดทใหม่

เมื่องาน Google I/O 2015 ที่ผ่านมา ทาง Google ได้ทำการเปิดตัวแอพ Google Photos ออกมาเป็น standalone หรือ แอพเดี่ยวๆ โดยก่อนหน้านี้ เจ้า Photos นั้นเคยสิงอยู่ใน Google+ มาก่อน แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ดูเหมือนว่าในอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ของ Google+ เจ้าตัว Photos ก็ได้ถูกถอดออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เชื่อว่าก่อนหน้านี้ คนส่วนใหญ่ที่ใช้งาน Google+ นั้นก็คงไม่ได้เล่นอะไรจริงจัง แต่คงใช้งานเพื่อเก็บรูปภาพซะมากกว่า ซึ่งหลายๆคนก็บอกว่า มันเป็นเมืองผี ไปซะแล้ว และ Google+ v5.8 ก็ทำให้มันเป็นเมืองผีมากยิ่งขึ้น เพราะได้ทำการถอด Photos ออกและใส่ข้อความนี้มาแทน 

Google+ Photos จะหยุดทำงานในเร็วๆนี้ แต่ไม่ต้องห่วง!

เพราะรูปและวีดิโอทั้งหมดของคุณนั้นอยู่ใน Google Photos อันใหม่ เรียบร้อยแล้ว โดยถูกจัดเรียงให้เสร็จสรรพ ค้นหาได้ แบ่งปันได้ และพร้อมที่จะให้คุณใช้งาน

สำหรับคนที่ใช้งาน Photos ผ่านทาง Google+ อยู่ ก็ควรดาวน์โหลดแอพ Google Photos แบบ standalone ได้แล้ว หรือไม่ก็ใช้แอพ 3rd party อื่นๆที่มีอยู่หลากหลายใน Play Store ซึ่งการถอด Photos ครั้งนี้ก็ทำให้แอพ Google+ นั้นมีขนาดลดลงไปประมาณ 20%

ส่วน Google Photos แบบ standalone นั้นก็ยังขาดฟีเจอร์ในการแต่งภาพอยู่ ซึ่งตรงนี้ก็สามารถทดแทนได้ด้วยการใช้แอพ Snapseed ของทาง Google เองได้ครับ

 

ที่มา: Android Police

from:http://droidsans.com/google-plus-pulled-built-in-photos-out-in-new-update

Google+ for Android เริ่มแจ้งผู้ใช้ว่าจะถอดความสามารถ Photos ออกจากแอพ

Google+ บนแอนดรอยด์อัพเดตเวอร์ชัน 5.8 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้ว่า Google+ Photos จะหายไปในเร็วๆ นี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้แอพใหม่ Google Photos แทน

ผู้ใช้ Google+ ยังสามารถเพิกเฉยกับคำเตือนนี้ และใช้งาน Google+ Photos ตัวเก่า (ที่มีความสามารถด้านแก้ไขรูปภาพมากกว่า Google Photos ตัวใหม่) ได้ดังเดิม แต่ในระยะยาวแล้วท่าทีของกูเกิลก็ชัดเจนว่าต้องการให้ทุกคนย้ายไปใช้ Google Photos

ที่มา – Android Police

Google+, Google Photos, Google, Mobile App, Android

from:https://www.blognone.com/node/69784

[บทความแปล] ทำความเข้าใจ “Assistant” ใน Google Photos และความสามารถที่มีไว้ช่วยเรา

ต้นทาง: [บทความแปล] ทำความเข้าใจ “Assistant” ใน Google Photos และความสามารถที่มีไว้ช่วยเรา

อย่างที่เราทราบกันว่าในบริการใหม่ของ Google อย่าง Google Photos นั้นมีฟีเจอร์ใหม่ๆมากมายให้เราต้องไปสำรวจกัน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงฟีเจอร์อย่าง Assistant ใน Google Photos กันก่อนครับ

ไม่ว่าเราจะต้องการเช็คสถานะการแบ็คอัพรูปภาพของเรา หรือดูความสร้างสรรค์ที่ Google Photos ทำกับรูปของเรา Asssistant คือผู้ช่วยเราตรงจุดนี้ครับ นอกจากนี้ Assistant ยังสามารถที่จะเตือนเราในเรื่องของพื้นที่ที่ว่างอยู่บนอุปกรณ์ของเราได้อีกด้วย คือถ้าพูดง่ายๆ Assistant นั้นก็เหมือนกับ Notification Center นั่นแหละครับ ที่จะมีการแจ้งเตือนทุกอย่างอยู่ในนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน Google Photos ก็ตามและมันยังถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างดีทีเดียว เราลองไปดูกันว่าฟังก์ชั่นนี้สามารถทำอะไรให้เราได้บ้างกันครับ

ถ้าเราเปิด Google Photos เข้ามาครั้งแรกจะถูกส่งตรงไปที่หน้าจัดเก็บรุูปภาพเลยครับ ซึ่งจะทำให้เราไม่รู้ว่าเจ้า Assistant ที่ว่านี่มันอยู่ตรงไหน วิธีตามหาฟังก์ชั่นนี้ก็ให้มองไปซ้ายมือของเราครับ มองไปที่แถบเมนูจะคลิกที่ “…” หรือคลิกที่ขีด 3 ขีดก็ได้ครับ จากนั้นเราจะเห็นว่ามีฟังก์ชั่น Assistant อยู่เราก็เข้าไปได้เลย

สำหรับ Assistant นั้นหากแปลกันตรงๆก็หมายความว่าผู้ช่วย ซึ่ง Google ได้ตั้งชื่อฟังก์ชั่นนี้ไว้ให้อย่างเหมาะสมแล้วครับ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ library ใน Google Photos ของเรา มันก็จะมีการแจ้งเตือนเก็บไว้ในนั้นทุกอย่าง นอกจากนี้หากพื้นที่ในอุปกรณ์ของเราเหลือน้อย Google Photos ก็จะมีการแจ้งเตือนผ่าน Assistant ให้เราได้ทราบอีกด้วย และหากว่าเราทำการอัพโหลดรูปภาพทั้งหมดไว้ใน Google Photos เรียบร้อยแล้ว เราเพียงกดปุ่มๆเดียวเราก็จะสามารถเคลียร์รูปภาพเหล่านั้นให้หายไปจากอุปกรณ์ของเราได้ในพริบตาเลยครับ นอกจากนี้เกือบลืมบอกไปว่าสมมุติเราจะอัพโหลดรูปภาพไปใน Google Photos แต่แบตเตอรี่เราเหลือน้อย ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาเช่นกันจากนั้นโปรเซสดังกล่าวก็จะถูกพักไว้ก่อนจนกว่าที่เราจะเสียบชาร์จแบตครับ

แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าเจ้า Assistant นั้นจะนั่งอยู่เฉยๆซะมากกว่า จึงทำให้เราอาจจะหลงๆลืมมันไปเลยเสียด้วยซ้ำครับ หากเราไม่มีการอัพเดทหรือทำอะไรใน Google Photos แต่อย่างไรซะก็ต้องบอกว่า มีไว้ดีกว่าไม่มีล่ะครับ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้วเราทำอะไรไปบ้างนั่นเอง

 

 

 

ที่มา : androidcentral

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/06/23/understanding-assistant-google-photos-and-what-it-can-do-you.html

[Tips] วิธีย้ายภาพจาก OneDrive มา Google Photos แบบง่ายๆใช้เวลาไม่นาน (สำหรับคนรูปเยอะ)

ต้นทาง: [Tips] วิธีย้ายภาพจาก OneDrive มา Google Photos แบบง่ายๆใช้เวลาไม่นาน (สำหรับคนรูปเยอะ)

สำหรับ OneDrive ถือเป็นบริการหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะสำหรับใครหลายๆคนที่อาจจะมีพื้นที่ใช้สอยในอุปกรณ์ต่างๆไม่มากนัก ซึ่งส่วนมากแล้ว OneDrive นั้นจะถูกนำมาใช้ในการเก็บรูปภาพซะส่วนใหญ่ แต่หลังจากเมื่อไม่นานนี้ทาง Google ได้ปล่อยบริการใหม่ๆออกมาอย่าง Google Photos ที่เรียกได้ว่าออกแบบมาให้เราใช้เก็บรูปภาพโดยเฉพาะ ฉะนั้นการที่เราจะหันมาทดลองใช้ Google Photos ในการเก็บรูปภาพก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ

คราวนี้มาพูดถึงเรื่องของเราดีกว่า สำหรับวิธีการย้ายรูปภาพจาก OneDrive มาไว้ใน Google Photos จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย และมันจะง่ายขึ้นด้วยครับหากว่าเราทำการดาวน์โหลดแอพ OneDrive มาไว้ในอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ของเราก่อน ลองไปดูกันครับว่าวิธีย้ายรูปจาก OneDrive มาไว้ใน Google Photos แบบง่ายๆแล้วใช้เวลาไม่นานต้องทำอย่างไรบ้าง

นำรูปของเราออกมาจาก OneDrive

สำหรับวิธีการในการนำรูปภาพออกมาจาก OneDrive แล้วย้ายไปใน Google Photos นั้นจริงๆแล้วจะคล้ายกับวิธีการที่เราเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้เลยครับ อย่างวิธีการย้ายรูปจาก Dropbox ไปยัง Google Photos โดยวิธีที่ง่ายที่สุดให้เราเริ่มจากการโหลดแอพ OneDrive Desktop มาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก่อน จากนั้นก็ทำการดาวน์โหลดรูปภาพใน OneDrive มาไว้มาเก็บไว้ในเครื่องได้เลย ซึ่งแล้วดแต่เลยครับว่าจะเก็บไว้ในโฟลเดอร์ไหนหรือจะสร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมาก็ได้ สรุปวิธีในขั้นตอนแรกนี้เป็นข้อๆไว้ให้ด้านล่างแล้วครับ

1. ดาวน์โหลดแอพ OneDrive Desktop และลงชื่อเข้าใช้งานด้วยบัญชี Microsoft
2. เลือกโฟลเดอร์ที่เราต้องการโหลดรูปภาพมาเก็บไว้บนเครื่อง อาจจะเลือก “Picture” หรือสร้างโฟลเดอร์ใหม่ หรือเลือกโฟลเดอร์ไหนที่ต้องการก็ได้
3. รอให้การซิงค์ข้อมูลดำเนินการ โดยระหว่างการดาวน์โหลดเราสามารถเช็คความคืบหน้าผ่านแอพได้โดยตรงเลยครับ

แต่สำหรับใครที่มีรูปไม่เยอะเท่าไรนัก ก็ไม่จำเป็นต้องโหลดแอพ OneDrive Desktop มาเพิ่มก็ได้นะครับ สามารถเลือกรูปภาพจาก OneDrive แล้วก็ทำการดาวน์โหลดได้เลย หลังจากที่ดาวน์โหลดมาแล้วให้ทำการ Unzip ไฟล์รูปภาพของเราให้เรียบร้อย จากนั้นก็ไปต่อที่ขั้นตอนการส่งรูปภาพของเราไปยัง Google Photos ในข้อต่อไปกันเลย

นำรูปของเราเข้าไป Google Photos

 

สำหรับวิธีการในการส่งรูปขึ้นไปไว้ใน Google Photos นั้น จริงๆแล้วเราสามารถที่จะใช้วิธการ Drag & Drop ได้เลย ผ่านทางหน้าเว็บของ Google Photos แต่สำหรับวิธีนี้อาจจะทำให้เราเสียเวลาไปไม่น้อยเลยหากว่าเรามีรูปภาพจำนวนมากที่ต้องย้ายเข้าไป แต่เอาเป็นว่าเรามาดูวิธีการง่ายๆที่ช่วยให้เราประหยัดเวลากันดีกว่าครับ อย่างแรกเลยเราต้องโหลดแอพ Google Photos Backup Desktop มาก่อน จากนั้นเราก็ตั้งค่าให้แอพนี้ทำการอัพโหลดรูปภาพของเราที่กำลังดาวน์โหลดจาก OneDrive ได้โดยอัตโนมัติเลยครับ พูดง่ายๆก็คือถึงแม้ว่าเรากำลังดาวน์โหลดรูปจาก OneDrive อยู่ เราก็สามารถจะอัพโหลดรูปภาพไปใน Google Photos ได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง สำหรับวิธีนั้นสามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ

1. ติดตั้งแอพ Google Photos Backup Desktop  และลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google
2. นำเครื่องหมายติ๊กถูกออกจากโฟลเดอร์ที่เราไม่ต้องการ จากนั้นไปที่ “Add…”และเลือกโฟลเดอร์ที่เรากำลังโหลดรูปจาก OneDrive
3. เลือกคุณภาพของภาพที่ต้องการอัพโหลดไปเก็บใน Google Photos มีทั้ง High quality (ฟรี) และ Original versions (เสียตัง)
4. รอให้ทั้ง 2 แอพทำงานไปเรื่อยๆเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ตามนี้เลยครับ หลังจากที่เราทำตามขั้นตอนทั้งหมดด้านบนแล้วที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแอพเลย เราจะสามารถเดินไปหาของกิน ออกไปช็อปปิ้งหรือโทรหาแฟนก่อนก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ ทั้งนี้ความเร็วของกระบวนการทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ตด้วยนะครับ สำหรับเกมเมอร์(เกมส์ออนไลน์)ทั้งหลายแนะนำว่าอย่าเพิ่งเล่นจะดีกว่าครับ เพราะอาการกระตุกอาจจะทำให้เสียอารมณ์ในการเล่นซะเปล่าๆครับ รอให้การส่งถ่ายข้อมูลเสร็จสิ้นแล้วค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าครับ

 

ที่มา : androidcentral

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/06/22/how-move-your-onedrive-pictures-google-photos.html

[Tips] วิธีย้ายรูปของเราจาก Dropbox มา Google Photos แบบเซียนๆ

ต้นทาง: [Tips] วิธีย้ายรูปของเราจาก Dropbox มา Google Photos แบบเซียนๆ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Dropbox นั้นเป็นบริการหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงก่อนหน้าที่บริการใหม่จาก Google อย่าง Google Photos จะมาถึง ซึ่งแน่นอนว่ามีจำนวนผู้ใช้ไม่น้อยเลยที่ทำการอัพโหลดรูปภาพต่างๆขึ้นไปเก็บไว้ใน Dropbox ซึ่งหลังจากที่ Google Photos ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมานั้น ทำให้เรารู้ได้ว่าเจ้าบริการนี้เป็นบริการที่ดีและเหมาะสมกว่าที่จะช้ในการเก็บรูปภาพของเรามากกว่า แต่การที่จะย้ายรูปภาพจากเจ้า Dropbox ไปยัง Google Photos นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่หลายๆคนต้องส่ายหัวเลยครับ เพราะภาพที่ทำการอัพโหลดเก็บไว้ใน Dropbox นั้นมีจำนวนมากซะเหลือเกิน กว่าจะมานั่งไล่ย้ายแต่ละรูปต้องใช้เวลานานมาก

วันนี้เราเลยมีวิธีดีๆมาแนะนำครับ เพียงแค่เรามีคอมพิวเตอร์ซัก 1 เครื่องบวกกับเครื่องไม้เครื่องมืออีกนิดหน่อย เชื่อเลยว่าวิธีนี้จะทำให้คุรประหยัดเวลาในการย้ายรุปภาพจากด Dropbox มายัง Google Photo ได้อย่างมากเลยทีเดียว

ซิงค์รูปภาพจาก Dropbox มาที่คอมพิวเตอร์

ขั้นตอนแรกของการย้ายรูปภาพจาก Dropbox มายัง Google Photos นั้นจริงๆแล้วเป็นวิธีที่แสนธรรมดาๆครับ ด้วยการติดตั้งเจ้าตัว Dropbox desktop app ซึ่งเป็นแอพไว้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ของเราก่อนนะครับ จากนั้นก็สามารถทำตามวิธีด้านล่างนี้เพื่อย้ายรูปจาก Dropbox มาที่คอมพิวเตอร์ของเราก่อนครับ

1. ติดตั้งแอพ Dropbox desktop ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Dropbox ที่เราต้องการนำภาพออกมา
2. เข้าไปที่ preferences ในแอพ Dropbox จากนั้นให้เลือกไปที่ selective sync และทำการเลือกโฟลเดอร์ที่มีแต่รูปที่เราต้องการเท่านั้น
3. จากนั้นก็เริ่มทำการดาวน์โหลดไฟล์มาเก็บไว้ในโฟลเดอร์ Dropbox ของเราในคอมพิวเตอร์เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนแรกครับ

ตั้งค่าให้ Google Photos อัพโหลดรูปภาพของเราอัตโนมัติ

หลังจากที่เราผ่านขั้นตอนแรกมาแล้วทีนี้เราก็มาถึงขั้นตอนที่สองครับ โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการตั้งค่าให้ Google Photos นั้นทำการอัพโหลดรูปภาพที่เราซิงค์มาจาก Dropbox เข้าไปใน Google Photos โดยอัตโนมัติครับ โดยสิ่งที่เราจะทำเป็นอย่างแรกก็คือการติดตั้งแอพ Google Photos Backup desktop ครับ จากนั้นก็จะเป็นการตั้งค่าของแอพให้มันทำการอัพโหลโฟลเดอร์ที่เราเลือกอัตโนมัติครับ ด้วยวิธีทำง่ายๆด้านล่างนี้เลยครับ

1. ติดตั้งแอพ Google Photos Backup desktop และลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีอีเมล์ Google
2. เลือกโฟลเดอร์ที่เราต้องการให้ Google Photos อัพโหลดอัตโนมัติ โดยการกดที่ “Add…” และเลือกโฟลเดอร์ที่เรากำลังซิงค์ข้อมูลจาก Dropbox ได้เลยครับ
3. จากนั้นให้เลือก option ใน Google Photos ว่าต้องการคุณภาพรูปภาพแบบไหนครับ แนะนำ “High Quality” ครับเพราะมันฟรี แต่ใครอยากได้แบบ Original ก็ไม่ว่ากัน
4. จากนั้นก็รอให้เจ้าแอพ Google Photos Backup desktop ทำการอัพโหลของมันไปเรื่อยๆครับ

คราวนี้ก็ถึงเวลาของการพักผ่อนแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเจ้า Dropbox ก็จะทำการดาวน์โหลดรูปภาพลงมาในคอมพิวเตอร์ของเราเรื่อยๆ ส่วนเจ้า Google photos ก็จะทำการอัพโหลดรูปภาพของเราไปเรื่อยๆเช่นกัน วิธีนี้จะทำให้ตัวเราเองประหยัดพลังงานในการนั่ง Drag and Drop ไปได้เยอะทีเดียว ที่สำคัญมันประหยัดเวลาด้วยครับ ไม่ต้องมานั่งทำให้เสียเวลา เอาเวลาไปนั่งทำอะไรอย่างอื่นระหว่างรอก็ได้ครับผม แต่อย่างไรก็ตามความเร็วของการอัพโหลดและดาวน์โหลดนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของรูปภาพและจำนวนของรูปภาพ และนอกจากนั้นที่สำคัญที่สุดคือความเร็วของอินเทอร์เน็ตเราครับ ฉะนั้นหากว่าช่วงนั้นเราต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงานแนะนำว่าอย่าเพิ่งทำการย้ายรูปภาพเหล่านี้ครับ เพราะมันจะดูดอินเทอร์เน็ตของเราอย่างมากครับ

 

ที่มา : Androidcentral

 

 

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/06/11/how-move-your-dropbox-pictures-over-google-photos.html

ลองใช้ Google Photos

บริการใหม่ล่าสุดจากกูเกิ้ล ‘Google Photos’ สำหรับเก็บรูปภาพแบบไม่จำกัดจำนวนภาพ ลองมาดูกันว่า Google Photos ทำอะไรได้บ้างและดีกว่าหรือแย่กว่า Flickr และ Amazon Cloud Photos ยังไงบ้าง

สำหรับบริการเก็บรูปจำนวนเยอะมาก ๆ เราเคยเขียนถึง 3 บริการไปแล้วได้แก่ iCloud, Flickr และ Amazon Cloud Photos ซึ่งทั้ง 3 ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ในบทความที่แล้วสุดท้ายผมชอบ Amazon Cloud Photos เพราะเก็บรูป RAW File ได้แบบไม่จำกัดเสียเงินค่าบริการปีละ $12 และชอบ Flickr ที่ให้พื้นที่เก็บรูปฟรีพื้นที่ 1 TB แต่เก็บรูป RAW File ไม่ได้

ตอนนี้นอกจาก 3 บริการข้างต้นตอนนี้มีน้องใหม่มาแรงและน่าจะถูกใจใครหลายคนออกมาแล้วคือ Google Photos ที่ให้เก็บรูปแบบไม่จำกัดพื้นที่ (Unlimited) ทั้งรูปและวิดีโอออกมาให้ใช้งานกันแล้ว

 

 

เงื่อนไขของพื้นที่ใช้งานไม่จำกัดที่ Google บอกไว้มีเงื่อนไขเล็กน้อยคือรูปภาพทุกรูปต้องเป็นขนาดไม่เกิน 16 ล้านพิกเซล ถ้ารูปไหนความละเอียดเกินกว่านี้จะโดนลดลงมาเหลือแค่ 16 ล้านพิกเซล ส่วนวิดีโอความละเอียดสูงสุดคือ Full HD หรือ 1080p ให้เก็บได้ไม่จำกัดเช่นกัน การเก็บรูปแบบไม่จำกัดจะเก็บไฟล์ jpg, png ได้ แต่ไม่สามารถอัพโหลด RAW File เก็บได้ แต่ถ้าอยากเก็บรูป Original File ก็สามารถทำได้แต่เราจะไม่ได้พื้นที่แบบไม่จำกัด พื้นที่การเก็บ RAW File จะคิดจาก Google Drive ที่เรามีอยู่ และถ้าอยากได้พื้นที่เพิ่มก็ต้องเสียเงินเพิ่มนั้นเอง

 

16 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอกับรูปภาพทั่วไป ไม่น่ามีประเด็นอะไรนักสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แม้รูปภาพต้นฉบับจะความละเอียด 20 ล้านพิกเซล 24 ล้านพิกเซลจะถูกย่อมาเหลือ 16 ล้านพิกเซล แต่กูเกิ้ลบอกว่าไว้รูปที่ถูกย่อลงมาจะยังมีคุณภาพสูง (High Quality) จุดนี้สำหรับผู้ใช้งานทั่วอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรมาก จุดนี้ Google Photos จะต่างกับบริการรายอื่นอย่าง iCloud, Flickr และ Amazon Cloud Photos ที่ไม่ย่อไฟล์แต่อย่างใด ต้องเลือกว่าเราพอใจกับสิ่งที่กูเกิ้ลให้หรือไม่

บริการเก็บรูปของกูเกิ้ลในอดีตคือ Picasa ต่อมากูเกิ้ลทำ Google+ ก็เอาส่วนของรูปภาพมาผนวกเข้าไปใน Google+ ด้วย และตอนนี้แยกส่วน Photos ออกมาจาก Google+ มาเป็น Google Photos ในปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครใช้บริการเก็บรูปตั้งแต่สม้ย Picasa รูปตั้งแต่อดีตของเราก็จะมาอยู่ใน Google Photos โดยอัตโนมัติ และถ้ามีไฟล์วิดีโออยู่ใน Google Drive วิดีโอก็จะปรากฏอยู่ใน Google Photos ด้วยเช่นกัน เรื่องนี้พอเปิดเข้าไปใช้งาน Google Photos ครั้งแรกอาจจะงง ๆ หน่อย แต่สักพักก็จะเข้าใจได้เองว่าไฟล์ต่าง ๆ มาจากไหน ถ้าไม่ต้องการให้รูปและวิดีโอจาก Google Drive เข้ามาปนในนี้เราสามารถเลือกปิดได้ตามต้องการ

ความสะดวกสบายของ Google Photos เทียบกับของฟรีด้วยกันอย่าง Flickr ของกูเกิ้ลได้เปรียบตรงที่มีแอปสำหรับ iOS และ Android ให้ดาวโหลดจาก App Store ในไทย ต่างกับของ Flickr ที่ไม่มีแอปให้ดาวน์โหลดจาก App Store ในไทย

ในแง่การใช้งานบนโทรศัพท์มือถือจะเหมือน ๆ กันทุกบริการคือมีคำสั่งให้อัพโหลดทุกรูปในเครื่องของเราขึ้นเก็บไว้ใน Cloud ที่เราเลือกใช้งาน การอัพโหลดรูปและวิดีโอจาก iOS จะมีจุดที่เหมือนกันทุกแอปคือเราต้องเปิดหน้าจอแอปนั้นทิ้งไว้ตลอดห้ามปิดห้ามออกจากแอปเพื่อให้รูปถูกอัพโหลดขึ้นไปได้ตลอดเวลา

จากที่ได้ใช้งาน Google Photos จากเครื่อง Mac และบน iPhone 6 ชอบตรงที่เราใช้งาน Google อยู่แล้วทำให้ทุกคนที่มี Gmail ก็จะล็อคอินเข้าใช้บริการ Google Photos ได้ทันที หน้าตาการใช้งานจากแอป Google Photos ทำออกมาดูสะอาดตาดี เปิดเข้าไปถ้ารูปไหนที่ยังไม่ถูกซิงค์เก็บใน Cloud ก็จะมีสัญลักษณ์ลูกศรหมุน ๆ อยู่ที่รูปให้เห็น ส่วนรูปไหนถูกซิงค์เก็บใน Cloud แล้วจะไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว

 

 

ทุกรูปที่อยู่ใน Google Photos เบื้องต้นจะมีเราที่เห็นเจ้าของเห็นคนเดียว และถ้าอยากให้คนอื่นเห็นรูปหรือทั้งอัลบั้มเราจะต้องแชร์ลิงค์ให้เพื่อนเข้าไปดูเอง โดยการแชร์รูปภาพสามารถเลือกรูปไหนก็ได้ พอแชร์ให้เพื่อนดูเสร็จเรียบร้อยเราสามารถลบลิงค์ดังกล่าวออกไปได้ตามที่เราต้องการ จุดนี้ Google Photos วิธีการต่าง ๆ จะเหมือนกับ Amazon Cloud Photos ที่เน้นเก็บรูปมากกว่าโชว์รูป ซึ่ง Google Photos จะไม่มีความเป็นสังคมคนถ่ายรูปเหมือน Flickr

 

ความละเอียดของรูปถ้าเกิน 16 ล้านพิกเซลเมื่อถูกอัพโหลดเข้า Google Photos จะถูกย่อขนาดไฟล์ลงเยอะมากพอสมควร รูปภาพจากกล้องความละเอียด 24 ล้านพิกเซลขนาดไฟล์ 6.8 MB พออัพโหลดไปอยู่ใน Google Photos ความละเอียดไฟล์เหลือ 16 ล้านพิกเซลและขนาดไฟล์เหลือ 862 KB เท่านั้น หรือไฟล์เล็กลง 87 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรูปที่ถ่ายด้วย iPhone 6 ถ้าความละเอียดจะไม่เกิน 16 ล้านพิกเซล แต่ตัว Google Photos ก็ยังมีการบีบอัดไฟล์อยู่เช่นเดิม โดยภาพต้นฉบับที่ถ่ายด้วย iPhone 6 มีขนาดไฟล์ 2.5 MB พอเข้าไปอยู่ใน Google Photos ความละเอียดคงเดิมที่ 8 ล้านพิกเซลแต่ขนาดไฟล์ลดเหลือ 1.5 MB หรือขนาดไฟล์ลดไป 40 เปอร์เซ็นต์ ผมทดสอบอัพโหลด RAW File ของกล้องแคนอนนามสกุล CR2 ไม่สามารถอัพโหลดขึ้นไปได้ถ้าเรายังตั้งค่าให้เก็บรูปแบบไม่จำกัดพื้นที่ ถ้าอยากอัพโหลด RAW File ต้องเปลี่ยนให้จัดเก็บรูปแบบ Original ในส่วนของ Settings เสียก่อน

 

 

 

ลูกเล่นอื่น ๆ ที่ Google Photos มีให้ถือว่าทำได้แจ๋วดี มีการทำอนิเมชั่นรูปภาพในทริปเดียวกันให้ด้วย ถือเป็นจุดเด่นที่บริการอื่นอย่าง Flickr และ Amazon Cloud Photos ไม่มี

ข้อควรระวังของการใช้ Google Photos มีอย่างเดียวคือระวังอย่าให้ใครมารู้ user และ password ของเรา เพราะยิ่งเราใช้บริการของกูเกิ้ลเยอะเท่าไหร่ การที่โดนแฮคจะเท่ากับทั้งชีวิตเราหายไปทั้งหมดไม่ว่าจะอีเมล, ไฟล์ที่เก็บไว้, และล่าสุดรูปภาพกับวิดีโอ เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี ทางที่ดีผมว่าเปิดใช้พาสเวิร์ดแบบ 2 ชั้นจะเป็นการดีที่สุด

หลีกหนีไม่พ้นสำหรับบริการเก็บรูปไว้บน Cloud จะบริการไหนแบบไหนเหลือเลยว่าเราชอบแบบไหน ถึงวันนี้เราอาจจะไม่ได้ต้องการฮาร์ดดิกส์เก็บไว้ที่บ้านแล้ว แต่เราต้องการอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วในการอัพโหลดเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้โอนไฟล์โอนรูปเก็บไว้ใน Cloud ที่เราใช้บริการ หนีไม่พ้นช้าหรือเร็วเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเดินมาทางนี้อยู่ดี

น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วนะครับสำหรับ Google Photos ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ใครชอบ Google Photos , Flickr หรือ Amazon Cloud Photos ก็เลือกใช้บริการตามสะดวก หรือจะใช้งานทุกบริการก็ได้ไม่ว่ากัน จุดต่างมีบอกไปแล้วว่าหลัก ๆ กูเกิ้ลไม่ได้เก็บเป็น Original File ให้ถ้าเลือกใช้พื้นที่แบบไม่จำกัด ไม่เหมือนกับ Flickr และ Amazon Cloud Photos ต้องชั่งใจว่าเรารับได้หรือไม่ ถ้ารับได้ก็เลือกใช้ Google Photos ถ้าอยากเก็บไฟล์จริง ๆ ก็หันไปหา Flickr (เฉพาะ jpg) หรือ Amazon Cloud Photos ตามแต่สะดวก

ข้อมูลเพิ่มเติม : photos.google.com

ดาวน์โหลดแอป : Google Photos for iOS

อ่านเพิ่มเติม :

เปรียบเทียบ iCloud Photos vs. Flickr vs. Amazon Cloud Photos สำหรับเก็บรูปภาพไว้ตลอดกาล

 

from:http://www.siampod.com/2015/06/01/review-google-photos/

เปิดตัวบริการใหม่ Google Photos !! ที่ซึ่งรูปภาพจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ต้นทาง: เปิดตัวบริการใหม่ Google Photos !! ที่ซึ่งรูปภาพจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ในทุกๆวินาทีผู้คนจากทั่วโลกล้วนแล้วแต่เก็บความทรงจำต่างๆของตัวเองด้วยการถ่ายภาพและอัดวิดีโอ เชื่อได้เลยว่าตั้งแต่มีการถ่ายรูปเกิดขึ้นครั้งแรกจนถึงปัจจุบันมนุษย์เราได้ถ่ายรูปไปแล้วมากกว่าล้านล้านรูปภาพ และคาดว่าอีกล้านล้านรูปที่จะมาถึงนั้นจะใช้เวลาเพียงปีนี้ปีเดียวเท่านั้น นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนรูปภาพที่ถือว่ามากมายมหาศาลทีเดียวครับ

แต่เมื่อเราถ่ายรูปมากขึ้นเท่าไร ยิ่งทำให้เรารู้ว่าการเก็บรูปภาพความทรงจำของเราเหล่านั้นไว้กลับกลายเป็นสิ่งที่ยากกว่า จริงไหมล่ะครับที่เรามีรูปภาพเก็ยอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะในโทรศัพท์ ใน PC ในโน้ตบุค และไหนจะในฮาร์ดไดร์ฟ แฟลชไดร์ฟอีก และแน่นอนว่ามันเป็นไปได้ยากมากหากเราต้องการหารูปที่เราต้องการในเวลาที่เราต้องการ

จากนี้ไปเราควรจะทำมันให้ดีขึ้นกว่าที่เคยครับ เพราะวันนี้ทาง Google ได้ออกมาเปิดตัวบริการใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีข่าวลือออกมามากมาย โดยบริการที่ว่านี้ก็เป็นจริงตามข่าวลือเลยครับ คือบริการเกี่ยวกับการฝากไฟล์รูปภาพ โดยมีชื่อว่า Google Photos เป็นบริการแบบ Standalone ไม่ผูกติดกับสิ่งใดทั้งสิ้น โดยทาง Google ได้ให้คอนเซปต์ของบริการนี้ไว้ว่า “บ้านสำหรับรูปภาพและวิดีโอ” โดยฟีเจอร์ของมันจะเป็นการช่วยให้เราสามารถจัดการกับไฟล์รูปภาพต่างๆได้ง่ายดายขึ้นครับ

 

บ้านสำหรับรูปภาพและวิดีโอ

โดยบริการนี้ Google จะมอบพื้นที่ให้เราสามารถเก็บไฟล์รูปภาพและวิดีโออันเป็นความทรงจำสุดแสนสำคัญของเรา และไม่ว่าเราจะใช้อุปกรณ์แบบไหนเราจะสามารถเข้าถึงไฟล์รูปภาพของเราได้แน่นอน นอกจากนี้ทาง Google ยังการันตีไว้ด้วยนะครับว่า ไฟล์รูปภาพหรือไฟล์วิดีโอที่เราได้ทำการเก็บไว้ในพื้นที่ของบริการนี้จะถูกเก็บรักษาไว้ย่างดี และเก็บไว้นานเท่านานตราบที่เรายังมีลมหายใจอยู่ครับ โดยหากเราทำการถ่ายภาพแล้วเจ้าบริการนี้จะทำการแบ็คอัพและซิงค์ไฟล์ของเราไปจัดเก็บไว้ให้โดยอัตโนมัติเลย ไร้กังวลว่ารูปที่เราถ่ายจะหายไปไหนครับ

Google Photos เป็นบริการที่มอบพื้นที่ใช้สอยในการจัดเก็บไฟล์รูปภาพและวิดีโอให้อย่างไม่มีการจำกัดครับ และยังเก็บภาพแบบควาละเอียดสูงรวมทั้งวิดีโอที่มีความละเอียดสูงได้ด้วยนะครับ งานนี้มีเท่าไรก็อัพขึ้นไปให้หมดได้เลย เพราะที่สำคัญบริการนี้เปิดให้ใช้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น (โอ้ว!! เห็นทีเว็บฝากไฟล์รุปภาพจะลำบากก็งานนี้แหละครับ) โดยรูปภาพความละเอียดสูงที่เรากำลังพูดถึงนี้หมายถึง รูปภาพที่ความละเอียด 16 MP และวิดีโอความละเอียด 1080 HD นะครับ โดยตัว Google Photos จะจัดเก็บด้วยการบีบอัดไฟล์ไว้นะครับ แต่หากเรานำออกมาก็จะได้ภาพสวยงามเช่นเดิม ไม่ต้องกังวลว่าภาพที่ได้จะไม่สวย ไม่ชัด ไม่เป๊ะ

้
จัดการและนำช่วงเวลาสำคัญๆของเรากลับมาได้อย่างง่ายดาย

ตรงจุดนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นฟีเจอร์เด็ดดวงมากๆ สำหรับฟีเจอร์ที่ว่าหากเราทำการถ่ายภาพหรือวิดีโอไว้แล้ว เจ้า Google Photos จะจัดการไฟล์ให้เราโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆไว้ให้อัตโนมัติ แบบว่าผู้ใช้อย่างเราๆไม่จำเป็นต้องไปจัดการอะไรแล้วครับ อย่างเช่นไ่ม่ต้องตั้งชื่อภาพ ไม่ต้องระบุคำบรรยายของภาพ และไม่แม้กระทั่งสร้างอัลบั้มครับ เป็นฟีเจอร์ที่อัจฉริยะมากๆ แต่เดี๋ยวก่อนเท่านั้นยังไม่ะอครับ เพราะดนอกจากที่มันจะจัดการไฟล์ของเราอย่างเป็นระเบียบแล้ว เรายังสามารถค้นหารูปภาพของเราได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงวันเกิดลูกสาว ไปเที่ยวลอนดอน ซักผ้าที่ใต้คอนโด หากเราทำการค้นหาก็จะเจอภาพที่สอดคล้องกับคำที่เราค้นหาทันที ตรงนี้แหละครับที่ผมคิดว่ามันเจ๋งจริง เพราะเราแค่ถ่ายอย่างเดียวไม่เคยบอกมันสักนิดว่านี่คือภาพอะไร แต่เจ้า Google Photos กลับรู้และเข้าใจภาพเหล่านั้นได้เอง ไม่เรียกว่าอัจฉริยะก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ สำหรับใครที่ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว กลัวรูปจะรั่วไหล ทาง Google เค้าการันตีมาเช่นกันว่ามันจะเป็นความลับที่สุดครับ

นอกจากนี้เจ้าแอพ Google Photos ยังสามารถช่วยให้เราปรับแต่งรูปภาพของเราได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอีกด้วย ไม่ว่าจะปรับสีปรับแสง สามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อทำให้ความทรงจำของเราเหล่านั้นออกมาดีที่สุด เพียงการกดที่ปุ่ม “+” ภายในแอพ เราก็สามารถทำการรวมรูปภาพเป็นรูปเดียวได้อีกต่างหาก หรือที่เค้าเรียกกันว่า Collage นั่นเองครับ ที่สำคัญมันยังทำอนิเมชั่นได้ด้วยนะครับ เอ้อ…เอากับเค้าสิ มีทุกอย่างที่คุณต้องการจริงๆ

แชร์ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว

มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากทีเดียวกับการแชร์รูปภาพผ่าน Google Photos ไม่ว่าจะแชร์ไปยัง Hangouts, Twitter, Facebook, WhatsApp สามารถทำได้แทบจะทุกโซเชียลเน็ตเวิรค์คเลยครับ แต่การแชร์ไฟล์จำนวนมากๆะพร้อมกันนั้นใตอนนี้จะยังไม่สมบูรณ์นักครับ เพราะฉะนั้นหากรออีกนิด คาดว่า Google น่าจะสามารถทำให้เสถียรขึ้นกว่านี้แน่นอน ตอนนี้ก็แชร์ไปทีละรูปก่อนนะครับ

แต่ทว่า Google เองก็เหมือนจะเตรียมการไว้แล้วครับสำหรับใครที่ต้องการแชร์รูปแบบเยอะๆรวมทั้งวิดีโอด้วย โดยเราจะสามารถรสร้างลิ้งค์ขึ้นมา โดยลิ้งค์ที่ว่านี้จะสามารถแสดงรูปภาพทที่เราต้องการให้ผู้รับเห็นเป็นร้อยๆรูปในเวลาเดียวกันได้ครับ โดยไม่จำเป็นต้องไปเปิดแอพอื่นแต่อย่างใด และมั่นใจได้เลยว่าภาพที่เห็นนั้นจะเป็นภาพความละเอียดสูง

และตอนนี้ก็ถึงเวลากันแล้วครับ ที่เราจะต้องไปเริ่ม้นกับสิ่งใหม่ๆกับการฝากไฟล์รูปภาพที่จะอยู่กับเราไปชั่วชีวิตอย่าง Google Photos ล่าสุดตอนนี้ทาง Google ปล่อยให้ดาวน์โหลดไปใช้แล้วทั้งทาง Android, iOS และ web ครับ ฟรีนะครับย้ำว่าฟรี!! งานนี้เล่นเอาเว็บฝากไฟล์เป็นอันสั่นคลอนแน่นอนครับ นอกจากนี้ทาง Google ยังบอกมาอีกว่า หากมนุษย์อย่างเราไม่หยุดถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอ Google Photos ก็จะยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ชีวิตของพวกเราจัดการได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ

 

 

ที่มา : Googleblog

 

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/05/30/picture-this-fresh-approach-to-photos.html

Google ส่งแอพ Google Photos ลง iOS อัพโหลดรูปและวิดีโอไว้บนคลาวด์ได้ฟรีแบบอันลิมิต ดาวน์โหลดฟรีที่นี่

วันนี้ Google ได้ปล่อยแอพจัดการภาพถ่ายชื่อดังบน Android มาให้ใช้งานบนระบบ iOS แล้วทั้ง iPhone และ iPad ชูจุดเด่นด้วยฟีเจอร์การอัพโหลดภาพถ่ายและวิดีโอบนเครื่องไปเก็บไว้ยังพื้นที่บนคลาวด์แบบไม่จำกัดพื้นที่อันลิมิตกันไปเลยสำหรับรูปภาพความละเอียด high-quality

แต่ถ้าต้องการให้อัพโหลดความละเอียดแบบ original size ก็สามารถใช้งานได้ฟรี 15GB เพียงแค่มีบัญชี Google เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์อื่นๆที่น่าสนใจของ Google Photos ก็มีการค้นหารูปภาพบนอินเตอร์เนทได้ทันทีด้วย VISUAL SEARCH ตกแต่งภาพถ่ายได้ง่าย นำภาพมาสร้างเป็น Collections เป็นเรื่องราวได้ง่ายๆมีให้เลือกหลายแบบ จากนั้นก็สามารถแชร์ภาพต่างๆไปให้เพื่อนๆได้อีกด้วย ถือได้ว่าเป็นแอพดีๆที่ควรมีติดเครื่องกันไว้อีกแอพ

Download Google Photos for iPhone and iPad

ที่มา – flashfly

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=120636

[IO15] Google Photos เปิดให้แบคอัพรูปความละเอียดสูงได้แบบ Unlimited ไม่มีค่าใช้จ่าย!!

ในงาน Google I/O 2015 ได้มีการประกาศเปิดตัวแอพ Google Photos ที่วันนี้ถูกแยกออกมา Google+ อย่างเป็นทางการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปมากมาย สามารถแยกแยะวัตถุสิ่งของ จดจำใบหน้าคนได้อย่างแม่นยำ รวมถึงตัดต่อคลิปวิดีโอให้เราได้อย่างเสร็จสรรพ แต่ความว้าวของ Google Photos คงจะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถแบคอัพรูปได้ความละเอียดสูงถึงรูปละ 16 ล้านพิกเซล และคลิปความละเอียด 1080p แบบไม่จำกัด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS ฆ่าทุกบริการแบคอัพรูปที่มีในตลาดให้ตายกันไปข้าง

Google เก็บแบคอัพภาพต้นฉบับเอาไว้ให้เลยรึเปล่า?

ไม่…Google จะนำไฟล์ไปประมวลผลอีกรอบนึงก่อน ซึ่งภาพและคลิปที่ผ่านการประมวลผลก็จะยังมีความละเอียดและเนื้อภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ใกล้เคียงต้นฉบับเหมือนเดิม

นี่เป็นตัวอย่างที่ Google นำมาโชว์ว่าคุณภาพที่ถูก Process แล้วยังสมบูรณ์ขนาดไหน

 

อย่างไรก็ดีเราสามารถเลือกที่จะเก็บภาพต้นฉบับเอาไว้ได้เช่นเดิมด้วย กล่าวคือ เราสามารถเลือกแบคอัพได้สองแบบคือ

1. ไม่จำกัด ไม่เสียเงินสักบาท ผ่าน Google Photos

• เก็บภาพได้ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล

• ภาพจะต้องผ่านการ Process ก่อน

• ภาพที่ความละเอียดสูงกว่า 16 ล้านจะถูกย่อลงมา

• วิดีโอจะได้ความละเอียดสูงสุด 1080p ผ่านการ process และย่อขนาดลงถ้าใหญ่เกินไปเช่นเดียวกับภาพ

• เหมาะและเพียงพอกับการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปแล้ว

2. เก็บข้อมูลบน Google Drive

• ใช้ได้ตามพื้นที่ของ Drive ที่มีอยู่ (ตรวจสอบว่าตอนนี้มีพื้นที่ Drive เหลืออยู่เท่าไหร่ได้ที่นี่)

• เก็บไฟล์ต้นฉบับไม่ผ่านการปรับแต่ง

• เหมาะกับรูปถ่ายจาก DSLR หรืองานที่ต้องการรักษาไฟล์ต้นฉบับเอาไว้

• ถ้าเกิดว่าคุณแคร์ไฟล์ต้นฉบับขนาดนั้นก็จ่ายซื้อพื้นที่เก็บไปเถอะ

 

เริ่มใช้ Google Photos ได้เมื่อไหร่

Google Photos สามารถไปโหลดใช้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กดโหลดได้เลย

 

 

วิธีใช้ Google Photos

หลังจากได้รับการอัพเดทแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็แค่ตั้ง Auto Upload เอาไว้มันก็จะทำการ Backup ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในการเริ่มใช้งานครั้งแรกจะมีให้เลือกตั้งค่าอยู่แล้ว

แต่ถ้าใครกดข้ามไปโดยไม่รู้ตัว สามารถไปเลือกตั้งค่าได้ที่ Settings จากด้านซ้าย ซึ่งจะมีตัวเลือกให้มากมาย เช่น

• ให้อัพเดทเมื่อมี WiFi เท่านั้นหรือไม่ ทำให้ไม่ต้องกลัวเน็ตรั่วไปอัพโหลดภาพ
• ให้อัพเดทเมื่อเสียบปลั๊กเท่านั้น เหมาะสำหรับคนไม่ได้อัพเดทมานาน ภาพเยอะล้นทะลัก
• เลือกได้ว่าต้องการเก็บภาพแบบความละเอียดสูงหรือไฟล์ต้นฉบับ
• เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการแบคอัพก็ได้ ในกรณีที่ไม่ต้องการเอาขึ้นไปทั้งหมด

 

ข้อดีนอกเหนือจากการแบคอัพรูปแล้ว เจ้าแอป Google Photos มันจะสามารถแชร์ภาพต่างๆที่แบคอัพเอาไว้ไปยังแอพอื่น เช่น Twitter, Facebook Messenger, Hangouts, Whatsapp ได้อย่างสะดวกด้วย โดยเมื่อแชร์ไปปลายทางจะได้รับเป็นลิงก์ ซึ่งแม้จะไม่มีแอพก็ยังสามารถดูได้ผ่านหน้าเว็บ และที่ถูกใจใครหลายๆคนก็คงไม่พ้นเรื่องการลากเพื่อเลือกที่ละหลายๆภาพได้ทันทีนั่นเอง

ตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ๆบน Google Photos

 

คัดแยกประเภทของภาพ แยกได้ทันทีว่าเป็น คน สัตว์ สิ่งของ วิว

ค้นหาและเลือกมุมมองของภาพได้หลากหลาย มีตัวเลือกการปรับแต่งภาพให้ดูสวยงาม ทำคลิปได้ทันที

ทำไม Google ถึงปล่อยฟรีให้ใช้งาน?

คาดว่า Google ต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อใช้ในการทำ Deep Learning หรือ Machine Learning หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในนามของ AI นั่นเอง ซึ่งข้อมูลที่ต้องการหนักๆก็ไม่พ้นเรื่องของภาพและคลิปวิดีโอ ที่จะนำเอาไปป้อนใส่ให้ AI ได้เรียนรู้มากขึ้น เข้าใจว่าภาพแบบนี้คืออะไร มีความหมายอย่างไรบ้าง  และยิ่งมันเก่งขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งรู้ใจเราได้มากขึ้นเท่านั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง Deep Learning ได้จากบทความเก่าที่เคยเขียนเอาไว้แล้วได้เลย

อย่างไรก็ดีต้องอย่าลืมว่าการที่ใครสักคนจะรู้ใจเราได้ดี มันหมายถึงตัวเค้าก็มีข้อมูลเชิงลึกของเรามาขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยนะ ดังที่หลายๆคนจะกลัวว่าหรือนี่จะเป็นจุดกำเนิดของการสร้าง Wiki – Skynet – หรือ AI ที่เป็นตัวร้ายในละคร Sci-fi เรื่องต่างๆ ซึ่งมันก็อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ที่แน่ๆเราจะเป็นแค่จุดเล็กๆ หรือตัวประกอบของหนัง ไม่ใช่พระเอกที่จะไปหยุดกระแสน้ำอันไหลเชี่ยวอันนี้ และหนังมันก็เกิดที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ โลกแตกที่อเมริกาเป็นที่แรก ดังนั้นก็…โหลดไปใช้กันเต๊อะ

 

ที่มา Google Official Blog

from:http://droidsans.com/google-photos-unlimited-high-quality-backup-for-free