คลังเก็บป้ายกำกับ: FIND_X3_PRO

รวมฟีเจอร์ OPPO Find X3 Pro 5G ยังคงเป็นที่สุดของแฟล็กชิป ให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมเปิดโลกสีสันพันล้านสีสร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ

OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนตัวเรือธงของค่าย OPPO แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปีแล้วก็ตาม แต่ด้วยประสิทธิภาพเครื่องจากสเปคที่สูงมาก เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และการอัพเดทระบบที่กำลังมาใหม่อย่าง ColoOS 12 ก็ต้องบอกว่าในวันนี้ OPPO Find X3 Pro 5G ยังเป็นสุดยอดแฟลกชิปที่น่าสนใจ น่าเอามาเล่นมากๆ ครับ

จุดเด่นในหลายๆ ด้านที่นำหน้ากว่าใคร และในการใช้งานก็เต็มประสิทธิภาพที่ให้สเปคมาแรงที่สุด และพิเศษไปยิ่งกว่าคือความสวยงามของตัวเครื่องจากงานดีไซน์แบบไร้รอยต่อ เป็นเอกลักษ์ของรุ่นไม่ซ้ำใคร มีความแตกต่างและความเป็นตัวเองสูง สมกับงานออกแบบสมาร์ทโฟนเรือธงที่ไม่ควรจะแรงแค่เพียงสเปคภายในและไม่เลือกใช้ดีไซน์ที่ตามหลังใครครับ

มีความสามารถอีกมากมายในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ เรานำจุดเด่นของ OPPO Find X3 Pro 5G มาไล่เรียงกันให้รู้จักกับมันมากขึ้น สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีที่สามารถสร้างสีสันและแรงบันดาลใจให้เราได้เสมอ ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพและการแสดงผลในโลกหนึ่งพันล้านสีแบบเต็มระบบรุ่นแรกของโลกครับ

งานออกแบบแห่งอนาคต

OPPO Find X3 Pro 5G ใช้การดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ได้ใช้งานออกแบบธรรมดาที่เหมิอนๆ กันไปหมด แต่ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอวกาศ เรียบ ง่าย ไร้ขอบเขต ดูสงบ และที่สำคัญให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมสมกับเป็นเครื่องเรือธงสเปคแรง

งานออกแบบเครื่องไร้รอยต่อเชื่อมกันเป็นชิ้นเดียว ไล่ระดับโค้งจากโมดูลกล้องไปจนจรดขอบ เบาบางด้วยน้ำหนักเพียง 193กรัม และบางเพียง 8.26 มม. มีการเปิดตัวออกมาสองสี ที่แตกต่างกันตั้งแต่ลักษณะพื้นผิว คือ สี Blue ที่เป็นวัสดุ frost matte แบบด้าน สัมผัสผิวคล้ายแก้วยิงผิวทราย เย็น ละมุน และป้องกันรอยเปื้อนและการเกิดรอยนิ้วมือได้

และ Gloss Black ผิวออกจะออกมันวาว เงางาม ดูลึกลับหรูหราสะท้อนแสงเหมือนกระจก อยู่ในที่สว่างดูโดดเด่น




อยู่ในที่มืดดูลึกลับ เป็นสีดำแบบเคลือบเงาที่ไร้รอยต่อ เวลาแสงกระทบกับช่วงโค้งไล่ระดับตรงชุดกล้องหลัง ยิ่งดูสวยงามมากๆ ครับ


งานประกอบและการใช้วัสดุนอกจากดูสวยงามแล้ว ยังให้ความรู้สึกทนทานครับ มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ตกน้ำได้ลึก 1.5 เมตรไม่เกิน 30 นาที และนี่คือสมาร์ทโฟนเจ้าของรางวัล Red Dot: Product Design Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประจำปี 2021 นั้นเองครับ

รองรับ 5G ทั้งสองสล็อตซิม เครื่องบาง ขอบโค้ง งานประกอบแน่นหนา ไม่ได้แค่ใส่ความแรงแต่สเปคภายในแต่ใส่ใจในคุณภาพของเครื่องภายนอกด้วย ไม่ดูเป็นมือถือเด็กๆ วัยรุ่น แต่ออกแบบมาให้เข้ากันง่ายกับสไตล์การแต่งตัวของวัยทำงาน ทำมาบางเบาเพื่อพกพาสะดวกครับ และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ไม่ต้องห่วงพะวงในการใช้งานนอกบ้าน โดนละอองฝนโดนน้ำกระเซ็น เครื่องไม่เสียง่ายๆ ไม่ต้องตื่นตกใจในกรณีบังเอิญทำน้ำหกใส่ด้วยอุบัติเหตุครับ




โลกแห่งพันล้านสีทั้งระบบ ตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการแสดงผล

ระบบการประมวลสี 10-bit Full-path Colour Engine ตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการแสดงผลที่รองรับกว่าหนึ่งล้านเฉดสี รุ่นแรกของโลกที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยแรงบันดาลใจจากสีสันนับล้านเฉดได้ในตัวมันเองครับ

OPPO Find X3 Pro 5G ใส่หน้าจอแสดงผลเกรดที่ดีที่สุดในวงการสมาร์ทโฟน ด้วยหน้าจอเกรด A+ จาก Display Mate รองรับการแสดงผลระดับ 10-bit รองนัลเทคโนโลยี HDR10+ และความละเอียดสูงถึงระดับ QHD+ ขอบจอเล็กมากๆ สัดส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าสูงถึง 92.7% และเป็นจอที่รองรับการสแกนนิ้วโดยตรง ใช้งานง่ายไม่ต้องไปสแกนนิ้วด้านข้างเครื่อง

รีเฟรชเรทที่ปรับระดับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 5Hz เพื่อการรักษาแบตเตอรี่พลังงาน และไปสุดได้ถึง 120Hz สำหรับความลื่นไหลของแอพและเกมที่รองรับ บนหน้าจอชนิด  AMOLED สีสันสดใส ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ความสว่างสูงระดับ 1300nits ความตรงของสีสัน 0.4 JNCD นี้คือจอภาพในระดับมืออาชีพ

คุณภาพจอคับแก้ว ดูหนังชมคลิปสวยงามตระการตาครับ เพราะสีสวยและขอบจอแทบไม่มี ที่สำคัญถ้าเรานำไปใช้งานด้านความบันเทิง ผมจะบอกว่าลำโพงคู่ของมันก็เสียงดีด้วยนะครับ ใช้รับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมได้เต็มอารมณ์โดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่มภายนอก

มีระบบจัดการภาพ ULTRA VISION ENGINE เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอนเทนต์วีดีโอ โดยการปรับเพิ่มสีและความละเอียด เป็นความสามารถที่จะพบได้ในอุปกรณ์สมาร์ททีวีครับ แต่ทาง OPPO เอามาใส่ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของเขาด้วย และมีตัวช่วยปรับรายละเอียดของวีดีโอที่เป็น SDR ให้กลายเป็นแบบ HDR เพิ่มแสงและความคมชัดของภาพให้ดูสวยงามมากขึ้น

เปิดใช้งาน HDR รองรับทั้งใน Youtube หรือNetflix ได้รับชมภาพยนตร์ในรูปแบบ HDR แน่นอนครับ

หน้าจอแสดงผลของเขา คิดมาถึงขั้นให้ใช้งานได้กับผู้บกพร่องทางสายตา ที่มองเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากปกติ โดยฟังก์ชั่น Colour Vision Enhancement เป็นฟังก์ชั่นที่เขาคิดมาเผื่อคนที่สายตาบกพร่องทางด้านสี ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เพราะตามสถิติจะเกิดขึ้นกับผู้ชายประมาณ 1 ใน 12 คนและกับผู้หญิง 1 ใน 200 คน ที่การมองเห็นสีไม่ตรงความความเป็นจริง

ใน OPPO Find X3 Pro 5G มีการใส่เทคโนโลยี Colour Vision Enhancement สำหรับแก้ปัญหาสายตาให้กับผู้ที่บกพร่องทางการมองเห็นสี  เราสามารถเข้าไปทดสอบด้วยตัวเองได้ มันจะเป็นระบบให้เราทดสอบว่าสายตาของเรามีความผิดปกติหรือไม่ โดยให้เราทำการเรียงสีตามความใกล้เคียงไปทีละนิด และระบบจะตรวจหาความผิดปกติของสายตาของเรา ถ้าพบอาการผิดปกติ OPPO Find X3 Pro 5G จะปรับหน้าจอการแสดงผลให้เข้ากับสายตาของคนๆ นั้นให้โดยเฉพาะทันที แล้วเราก็จะได้เห็นสีของโลกนี้ในแบบที่ไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน ^^

และไม่ใช่แค่การแสดงผล แต่ OPPO Find X3 Pro 5G ยังมาพร้อมกับการสร้างสรรค์ไฟล์วีดีโอในระดับพันล้านสีได้ด้วยตัวมันเอง การเก็บภาพในโหมดสีสัน 10-bit ด้วยกล้องหลัง ที่เป็นกล้องหลัก “แบบคู่” ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลถึงสองตัวในเครื่องเดียว เป็นเลนส์ Wide และเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra Wide ชที่ถ่ายได้กว้าง 110 องศา เป็นเลนส์ที่ทาง OPPO ร่วมกันพัฒนากับ Sony มาเป็นพิเศษครับ และกล้องที่สาม Telephoto 13 ล้านพิกเซล เจ้ากล้องตัวนี้ที่ทำหน้าที่ในการจับภาพพันล้านสี และรองรับการซูมภาพได้สูงสุดแบบดิจิทัล 20X

ในขณะที่สมาร์ทโฟนปกติจะแยกแยะบันทึกภาพได้ที่ 16.7 ล้านสีเท่านั้น แต่สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G มีโหมดการถ่ายภาพแบบ 10-bit หรือพันล้านสี ใช้ได้ในการถ่ายภาพทุกระยะซูม รวมถึงโหมดการถ่ายภาพกลางคืนด้วย ก็เป็นการรับประกันว่ากล้องของเราจะเก็บเฉดสีได้ครบทุกย่านมากที่สุด เพื่อนำมาแสดงผลบนหน้าจอของมันเองได้อย่างดีที่สุดครับ ^^

ภาพถ่ายสีสันสด สวย ภาพคมถ่ายง่าย เก็บครบทุกย่านสี และดูได้ดีที่สุดก็คือบนหน้าจอของมันเองที่รองรับการแสดงผลได้แบบ 10-bit เช่นกัน






กล้องตัวนี้สามารถถ่ายภาพในระดับมืออาชีพได้เลยครับ โหมดการถ่ายวีดีโอที่รองรับการถ่ายใน Cinematic Mode ปรับได้ทั้งโฟกัส, ISO ค่า WB รองรับการถ่ายวีดีโอ 1 พันล้านสีระดับมืออาชีพ รองรับ LOG, BT2020 ในการถ่ายภาพก็รองรับการถ่ายไฟล์แบบ “RAW+”  หรือไฟล์ RAW+ HDR เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงกว่าไฟล์ RAW มาตรฐาน เพราะตัว HDR ช่วยทำงานมาให้ก่อนแล้วในระดับหนึ่ง จึงปรับแต่งภาพได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ


 

การถ่ายภาพบุคคลจับภาพได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของ OPPO ตัวนี้เครื่องเรือธง ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพการถ่ายภาพบุคคล ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า AI ทำงานตรวจจะใบหน้าได้แม่นและปรับแต่งความเนียนใสของบุคคลได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้วสำหรับสมาร์ทโฟน OPPO และรุ่นนี้ก็เป็นที่สุดครับ ภาพคนออกมาเนียนตาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง






Microlens – 60x กล้องจุลทรรศน์ขนาดพกพา

และนี้ก็เป็นหนึ่งเรื่อง ที่ OPPO Find X3 Pro 5G เป็นเครื่องแรกของโลกที่สมาร์ทโฟนมีกล้อง Microlens – 60x หรือการถ่ายภาพในโหมดกล้องจุลทรรศน์ ที่ทำให้เราถ่ายรายละเอียดในระดับตาเปล่ามนุษย์ไม่มีทางมองเห็นได้ ถ่ายเนื้อเยื่อหรือลวดลายบนใบไม้ ปีกแมลง หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว เข้าสู่โลกที่เราไม่เคยได้เห็น มาโครคนอื่นถ่ายกันที่ 4 เซนติเมตร แต่รุ่นนี้ถ่ายมาโครกันที่ 1 มิล! และยังขยายภาพออกไปอีกให้เห็นชัดยันโมเลกุล


เราสามารถไปได้ใก้ลกว่า ลึกกว่า ข้ามเข้าไปในโลกที่ตาเราไม่มีทางมองเห็น


 

เร็วแรง ทั้งประสิทธิภาพการใช้งานและระบบชาร์จ

ใช้หน่วยประมวลผลตัวท็อป Qualcomm Snapdragon 888 รองรับคลื่นความถี่ 5G ได้มาก 13 แบรนด์ แรมขนาดใหญ่ 12GB เป็น LPDDR 5 ใหม่สุด และ ROM 256GB แบบ UFS 3.1 ใหม่สุดเช่นกัน ระดับความแรงมากเกินจะพอเพราะนี้คือสเปคท็อปของสมาร์ทโฟนในระบบ Android ครับ การใช้งานทุกๆ ด้านไม่ต้องห่วงเลย ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในระบบแล้วแน่นอนครับ


ไม่ใช่แค่แรงแค่เรื่องการประมวลผลเท่านั้นครับ OPPO Find X3 Pro 5G ยังแรงกับเรื่องของระบบชาร์จ ทั้งแบบเสียบสายก็เป็นเทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไวระดับเสียบชาร์จแค่ 10 นาทีแต่ได้แบตมากกว่า 40% แล้วสำหรับแบต 4,500 mAh ที่อยู่ภายใน แล้วยังมีความปลอดภัยสูง ไม่เกิดความร้อนสะสมและมีขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัย 5 ขั้นตอน ใช้งานได้รวดเร็วและยังอุ่นใจ

 

และแรงไปถึงระบบชาร์จแบบไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge จากที่ทดสอบกับแท่นชาร์จ OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W มันชาร์จจากแบตประมาณ 15% มาถึง 70% ในเวลาไม่ถึง 40นาทีเท่านั้นครับ ชาร์จไร้สายก็ไวมาก และมีความปลอดภัยสูงมากด้วยเช่นกัน

มันยังสามารถแปลงกลายตัวเองให้เป็นแท่นชาร์จไร้สาย 10W Reverse Wireless Charging เติมพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านบริเวณฝาหลังกลางเครื่อง เป็นแบตสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน รองรับมาตรฐาน Qi ด้วย จึงสามารถชาร์จไฟกลับให้ได้กับทุกอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi ทั้งหมดครับ


จะเห็นว่าคุณสมบัติของ OPPO Find X3 Pro 5G อยู่ในระดับสุดยอดเรือธงในทุกด้านเลยครับ สเปคแรงระดับท็อป กล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมและยังทำได้เหนือกว่าในเทคโนโลยีที่คนอื่นตามไม่ทันและมีคุณภาพสูง กล้องหลักคู่ 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ที่ใช้ถึงสองตัวครั้งแรกของโลก

หน้าจอแสดงผลคมชัดระดับ QHD+ (3216X1440พิกเซล) ในเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ 10-bit รองรับ HDR 10+ 120Hz หน้าจอเกรด A+ ที่สุดยอดมากๆ ให้การแสดงผลแบบสวยๆ บนจอที่ขอบบางจนสุดขอบ ประสิทธิภาพในการใช้งานอยู่ในระดับสูงสุดของสมาร์ทโฟน Android รวมถึงระบบชาร์จไวทั้งเสียบสายและไร้สาย ซึ่งมาพร้อมความปลอดภัยในระดับสูงอีกเช่นกัน

รวมถึงการออกแบบตัวเครื่องภายนอกและเทคนิคการผลิต เพราะ OPPO ไม่ใช่แบรนด์ที่จะขายแค่เรื่องสเปคเครื่องภายในครับ ภายนอกก็ใส่ใจในความเป็นแฟชั่นสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน และ OPPO Find X3 Pro 5G ก็เป็นเครื่องเรือธงที่ใช้การออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตยากแต่สวยงาม มีความทนทานและมาตรฐานกันน้ำ IP68 งานออกแบบที่ชนะรางวัล Red Dot: Product Design Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประจำปี 2021 มาแล้วนั้นเองครับ

ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนตัวเรือธงที่คงความน่าใช้ไม่เปลี่ยนตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อต้นปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO Find X3 Pro 5G ที่ : https://bit.ly/3Dl89Gj

 

ข่าว: รวมฟีเจอร์ OPPO Find X3 Pro 5G ยังคงเป็นที่สุดของแฟล็กชิป ให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมเปิดโลกสีสันพันล้านสีสร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/features-oppo-find-x3-pro-5g-best-flagship/

OPPO เตรียมเปิดตัว ColorOS 12 วันที่ 11 ต.ค. 2564 – พร้อมขยายการอัปเดต Android นานสุด 3 ปี

เมื่อคืนนี้ Google พึ่งปล่อยซอร์สโค้ด Android 12 เข้าสู่ AOSP ไปหมาด ๆ ล่าสุด OPPO ไม่รอช้า ประกาศเตรียมเปิดตัว ColorOS 12 อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้ปรับแผน ขยายการอัปเดตระบบปฏิบัติการให้มือถือเรือธงในซีรีส์ Find X ออกไปเป็น 3 ปี และสนับสนุนแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี ส่วนรุ่นอื่น ๆ ที่เหลือจะลดหลั่นระยะเวลาลงมาตามระดับของซีรีส์

เรือธงตัวล่าสุดของ OPPO คือ Find X3 Pro ที่เผยโฉมไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยรันบนระบบ Android 11 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง หากนับตามกำหนดการจะสามารถอัปเดตได้ถึง Android 14 ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ทาง XDA กล่าวว่า Find X Lite และ Find X Neo จะไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวแม้จะใช้ชื่อ “Find X” เหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นแฟล็กชิป ส่วนซีรีส์ R กับ F จะอัปเกรดระบบปฏิบัติการให้ 2 ปี ในขณะที่ซีรีส์ A ได้น้อยสุดที่ 1 ปี และจำกัดเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น (รุ่นล่าง ๆ น่าจะอดไปตามระเบียบ)

OPPO Find X Series

  • อัปเดตระบบปฏิบัติการ 3 ปี
  • อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี

OPPO R Series

  • อัปเดตระบบปฏิบัติการ 2 ปี
  • อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี

OPPO F Series

  • อัปเดตระบบปฏิบัติการ 2 ปี
  • อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี

OPPO A Series

  • อัปเดตระบบปฏิบัติการ 1 ปี (เฉพาะบางรุ่น)
  • อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย 3 ปี

สำหรับรายชื่อมือถือ OPPO ที่จะได้รับการอัปเกรดเป็น Color OS 12 เพื่อน ๆ สามารถตรวจสอบได้จากลิงก์ด้านล่าง

 

ที่มา : Gizmochina | XDA

from:https://droidsans.com/oppo-coloros-12-launch-date-update-android-3-year/

OPPO ออก Find X3 Pro “Mars Exploration Edition” ฉลองยาน Tianwen-1 ลงจอดบนดาวอังคาร

เมื่อ 06.18 นาฬิกา ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย ยานสำรวจ Tianwen-1 ได้ร่อนลงจอดบนพื้นผิวของดาวอังคารได้โดยสวัสดิภาพ ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการสำรวจอวกาศจากประเทศจีน OPPO เลยถือโอกาสนี้เปิดตัว Find X3 Pro Mars Exploration Edition เพื่อฉลองความสำเร็จดังกล่าว

Find X3 Pro Mars Exploration Edition มาพร้อมกับตัวเครื่องสีเทาที่มีความมันวาวเล็กน้อย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอวกาศ วัสดุเป็นกระจก AG glass ผิวด้าน ถือเป็นสีที่ 5 ต่อจากสีดำ สีน้ำเงิน สีขาว และสีน้ำตาล

ความพิเศษของ Find X3 Pro Mars Exploration Edition คือจะมีข้อความ “Mars 2021 and Utopia Planitia inscribed” ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด ซึ่งเป็นสถานที่ลงจอดของ Tianwen-1 บนดาวอังคารนั่นเอง

ในส่วนของซอฟต์แวร์จะมีทั้งธีมและวอลเปเปอร์ดาวอังคารแบบไดนามิกที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาในแต่ละวัน เช้า บ่าย เย็น และกลางคืน รวมถึงฟิลเตอร์สีที่ให้ความรู้สึกเหมือนในภาพยนตร์ The Martian ยังไงอย่างงั้น

สเปค OPPO Find X3 Pro Mars Exploration Edition

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ : RAM 16GB + ROM 512GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (ƒ/2.2), มุมกว้าง 110.3 องศา, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4)
    – กล้องไมโครเลนส์ 3MP (ƒ/3.0)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : GSM / HSPA / LTE / 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
    เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
    แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
    ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IP68
    ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Find X3 Pro Mars Exploration Edition จะยิ่งใหญ่อลังการกว่าเวอร์ชันปกติ มีหน่วยความจำให้เลือกแบบเดียวคือ RAM 16GB และ ROM 512GB ฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่เหลือไม่แตกต่างจากเดิม เปิดให้พรีออร์เดอร์แล้วที่ประเทศจีน ราคา 6,999 หยวน หรือประมาณ 33,990 บาท

 

ที่มา : OPPO ประเทศจีน

from:https://droidsans.com/oppo-find-x3-pro-mars-exploration-edition/

OPPO ยืนยัน อัปเดต Security Patch ให้ Find X3 Series ยาวนานถึง 3 ปี

OPPO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ตบเท้าออกมาประกาศเตรียมอัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัย หรือ Security Patch ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงของพวกเขา จากเดิม 2 ปี เพิ่มเป็น 3 ปี ส่วนอัปเดตข้ามเวอร์ชั่น ยังคงเป็น 2 เวอร์ชั่นเหมือนเช่นเคย

โดยรายชื่อสมาร์ทโฟนที่ OPPO จะปล่อยอัปเดต Security Patch เพิ่มให้เป็น 3 ปี เบื้องต้นจะมีเพียงแค่ Find X3 Series เท่านั้นนะครับ ได้แก่ Find X3 Neo, Find X3 Lite และ Find X3 Pro ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ ของ OPPO รวมถึง Find X2 Pro เรือธงจากปีก่อน เหมือนว่าจะยังคงได้รับอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยเพียงแค่ 2 ปีเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

จะสังเกตได้ว่าพักหลัง ๆ เหมือนผู้ผลิตมือถือ Android หลายค่ายเริ่มหันมาใส่ใจผู้บริโภค ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะอัปเดตมือถือให้แบบยาว ๆ 3 – 4 ปี โดยชัดเจนสุดก็คือ Samsung ที่ออกมาประกาศอัปเดต Security Patch ให้กับสมาร์ทโฟน Galaxy ของพวกเขา รวมเป็นจำนวนกว่า 85 รุ่น แทบจะครอบคลุมหมด

อย่างไรก็ดี ตรงนี้ทาง OPPO ก็ยังไม่ปิดประตูถึงความเป็นไปได้ที่จะอัปเดต Security Patch ให้กับ Find X3 Series นานกว่า 3 ปี รวมถึงตอนนี้พวกเขาก็กำลังทดลองอยู่ว่าจะสามารถอัปเดตข้ามเวอร์ชั่นให้กับสมาร์ทโฟนซีรีส์ดังกล่าวได้ 3 เวอร์ชั่นหรือไม่

ที่มา: Android Authority 

from:https://droidsans.com/oppo-confirms-3-years-update-find-x3-series/

OPPO Find X3 Pro สีใหม่ Cosmic Mocha ฝาหลังหนังวีแกน วางขายในจีน ราคาเท่าเดิม

Find X3 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงจาก OPPO มาพร้อมชิป Snapdragon 888 สุดทรงพลัง จัดเต็มระบบสี 10-bit ครอบคลุมทั้งหน้าจอ การแสดงผลสี และการประมวลผลภาพ เบื้องต้นมีสีตัวเครื่องให้เลือก คือ Gloss Black, Blue และ White ในบางประเทศ ล่าสุดได้มีสีใหม่ Cosmic Mocha เพิ่มเข้ามาอีก สวยงามไม่เบาเลยทีเดียว

หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน Find X3 Pro ก็คว้ารางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม Red Dot Design Award ไปครอง จากดีไซน์ที่เรียบหรู ฝาหลังที่ขึ้นรูปจากกระจกเพียงชิ้นเดียวด้วยกระบวนการผลิตที่ซ้อน แถมยังให้ความสำคัญกับการเก็บรายละเอียดในส่วนโค้งทุกจุด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ของยูนิบอดี้เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ น้ำหนักและความหนาเองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน ที่ 193 กรัม และ 8.3 มม.ตามลำดับ




 

Find X3 Pro ในแต่ละสีจะมีผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน Gloss Black เป็นผิวมัน สะท้อนแสงแวววาว ในขณะที่ Blue เป็นผิวด้าน เรียบหรู มีสไตล์ ส่วน Cosmic Mocha มีการเปลี่ยนวัสดุไปใช้หนังวีแกนแทน ซึ่ง OPPO เคยทำมาก่อนหน้านี้แล้วกับ Find X2 Pro เมื่อปี 2020

สำหรับ Find X3 Pro สี Cosmic Mocha มีให้เลือกแค่โมเดล RAM 12GB + 256GB วางขายที่ประเทศจีนในราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 28,590 บาท เท่ากับรุ่นปกติเป๊ะ ๆ เลยครับ

 

ที่มา : JD ประเทศจีน

from:https://droidsans.com/oppo-find-x3-pro-cosmic-mocha/

สวยจริงต้องยอม OPPO Find X3 Pro 5G ได้รับรางวัล Red Dot Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประจำปี 2021

OPPO ได้รับรางวัล Red Dot: Product Design Award ประจำปี 2021 ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลในจากอวกาศและสุทรียศาสตร์แห่งอนาคต

ท่ามกลางการแข่งขันด้านการออกแบบในระดับมืออาชีพที่มีชื่อเสียงที่สุดในระดับโลก Red Dot Design Awards ถือเป็นองค์กรที่ได้รับผลงานจากกว่า 60 ประเทศ โดยมีผลงานเข้าร่วมเพื่อพิจารณาด้านการออกแบบถึงหลายพันชิ้นทั่วโลก ซึ่งการผสมผสานความสง่างามแบบคลาสสิกในยุคอวกาศเข้าด้วยกันกับความล้ำสมัยแห่งอนาคตของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถสร้างความประทับใจ พร้อมชิงรางวัล Red Dot Award: Product Design 2021 มาได้

อ่านรีวิว: OPPO Find X3 Pro จาก Appdisqus

“ที่ OPPO เราสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ และด้วยจิตวิญญาณแห่งการค้นหาสิ่งใหม่ ทำให้เราสร้าง OPPO Find X3 Pro 5G ผลงานศิลปะอันประณีตที่ออกแบบมาเพิ่อให้สามารถค้นพบความงามในทุกช่วงเวลาได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่ความพยายามของเราได้รับการรับรู้จากคณะกรรมการใน Red Dot Design Award ถือเป็นความสำเร็จในระดับนานาชาติด้านความเป็นเลิศในการออกแบบ” Lie Liu, President of Global Marketing จาก OPPO กล่าว

ความสำเร็จของ OPPO Find X3 Pro 5G เกิดจากวิศวกรรมระดับโลกอันล้ำสมัย สร้างการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และฝาหลังที่สร้างขึ้นจากกระจกชิ้นเดียวอันโดดเด่น ไร้รอยต่อ และไร้ขอบ พร้อมสามารถขับเคลื่อนด้วยขุมพลังระดับแฟล็กชิพและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ได้แม้มีรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง

OPPO Find X3 Pro 5G ดีไซน์เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยดีไซน์แบบบางเฉียบพียง 8.26 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 193 กรัม ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกและหยิบจับได้ถนัดมือ พร้อมสามารถกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ได้อีกด้วย

สี Gloss Black ของ OPPO Find X3 Pro 5G มอบความสง่างามอันคลาสสิค พร้อมส่วนโค้งอันสวยงามในทุกองศาและการเคลือบฝาหลังแบบพิเศษคล้ายเซรามิกเคลือบเงา เสมือนกระจกสีดำที่มีความไฮเอนด์และสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีสี Blue พื้นผิวสัมผัสแบบด้านกับพื้นผิวที่ละเอียดถึง 85% มอบ 2 พื้นผิวสัมผัสในแผ่นเดียว พร้อมผิวสัมผัสแบบซาตินที่นุ่มลื่นตัดกับพื้นผิวมันวาวรอบตัวกล้อง สะท้อนรูปลักษณ์และสัมผัสระดับไฮเอนด์

ข่าว: สวยจริงต้องยอม OPPO Find X3 Pro 5G ได้รับรางวัล Red Dot Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประจำปี 2021 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/2021/03/26/oppo-find-x3-pro-5g-red-dot-award-winner-2021.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=oppo-find-x3-pro-5g-red-dot-award-winner-2021

รีวิว OPPO Find X3 Pro 5G ยอดเยี่ยมในทุกด้าน สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพและแสดงผลได้หนึ่งพันล้านสีรุ่นแรกของโลก

เรือธงครบรอบสิบปีของ OPPO Find Series ทำมาได้ประทับใจผมมากครับ ตั้งแต่เห็นความสามารถจากในข่าวหลุด ข่าวลือ จนมาถึงงานเปิดตัว จนมาได้สัมผัสลองใช้งานเครื่องจริง OPPO Find X3 Pro 5G ถือสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องความยอดเยี่ยมไปในทุกด้าน และเป็นเรือธงของเรือธงในตอนนี้สำหรับผมเลยครับ

ครั้งแรกของโลก 10-bit Full-path Colour Engine ระบบการประมวลสีตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการแสดงผล

หน้าจอแสดงผลระดับเกรด A+ จาก Display Mate การแสดงผลระดับ 10 bit พันล้านสี HDR10+ ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรทปรับระดับอัตโนมัติ 5-120Hz บนจอ  AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ความสว่างสูงสุดระดับ 1300nits เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ขอบจอเล็กมากๆ คิดเป็นสัดส่วนหน้าจอต่อพื้นที่สูงถึง 92.7% ขอบจอบางจนแทบไม่มี รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรง ความตรงของสีสัน 0.4 JNCD ในระดับมืออาชีพ ผมคงไม่ต้องบอกว่าจอภาพมันสวยงามมากแค่ไหน อยากจะให้ได้เห็นด้วยตาตัวเองกันครับ ไปสุดจริงๆ


หน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G มาครบหมด ทั้งในด้านคุณภาพ ความคมชัด เทคโนโลยี สีสัน ความสว่าง และยังไปมากกว่านั้นคือตัวซอฟท์แวร์ที่ OPPO ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานได้กำหนดเอง


ULTRA VISION ENGINE การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอนเทนต์ที่อาจจะทำมาดีไม่พอกับคุณภาพของหน้าจอ เราสามารถเปิดโหมดเพิ่มความคมชัดของรูปภาพวีดีโอได้ หรือจะเปิดใช้ตัวช่วยปรับแสงสีของวีดีโอ ที่บันทึกมาเป็นไฟล์ SDR ให้กลายเป็นแบบ HDR สวยงาม คม รายละเอียดครบ ภาพจะลึกขึ้น เป็นฟังก์ชั่นที่เราจะพบได้ในอุปกรณ์สมาร์ททีวีครับ แต่ทาง OPPO เอามาใส่ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของเขาด้วย


เราสามารถกำหนดค่าความละเอียดของหน้าจอได้เอง ระหว่าง FHD+ (2412×1080) และ QHD+ (3216X1440) หรือจะให้ระบบเป็นตัวปรับตั้งให้เราเองโดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมของเนื้อหาที่กำลังทำงาน

ปรับอัตราการรีเฟรชของหน้าจอ ซึ่งรุ่นนี้สามารถปรับระดับรีเฟรชเรทได้เองจาก 5Hz จนถึง 120Hz เพื่อการประหยัดพลังงานในยามที่หน้าจอของเราแสดงภาพนิ่งๆ อยู่ครับ ระบบก็จะลดการกระพริบของหน้าลงเพื่อถนอมพลังงาน



พร้อมรองรับเต็มประสิทธิภาพของภาพ เปิดใช้งาน HDR รองรับทั้งใน Youtube หรือบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น Netflix ได้รับชมภาพยนตร์ในแบบ HDR แน่นอนครับ




และจะบอกว่าไม่ใช่แค่เรื่องภาพ เพราะลำโพงของรุ่นนี้ให้มาเป็นลำโพงสเตอริโอคู่เสียงดี เสียงมีเนื้อเสียง ใช้รับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมไม่ต้องต่อลำโพงภายนอก รับประกันความมันที่มาทั้งภาพและเสียงเลย

และเมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง ก็จะรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ปรับแต่งแนวเสียงตามคอนเทนต์หรือสภาพแวดล้อมได้ ทิศทางเสียงจะชัดเจนรอบทิศทาง ดูหนังได้อลังการกว่าเดิมเข้าไปอีกครับ



Colour Vision Enhancement เป็นฟังก์ชั่นที่เขาคิดมาเผื่อคนที่ปัญหาทางสายตา บกพร่องทางด้านสีโดยที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ซึ่งตามสถิติจะเกิดขึ้นกับผู้ชายประมาณ 1 ใน 12 คนและกับผู้หญิง 1 ใน 200 คน ที่การมองเห็นสีไม่ตรงความความเป็นจริง ใน OPPO Find X3 Pro มีการใส่เทคโนโลยี Colour Vision Enhancement สำหรับแก้ปัญหาสายตาให้กับผู้ที่บกพร่องทางการมองเห็นสี มันจะเป็นระบบให้เราทดสอบ ว่าสายตาของเรามีความผิดปกติหรือไม่โดยการให้เราทำการไล่เรียงสีไปตามความใกล้เคียงทีละเฉด ถ้ามีอาการผิดปกติ OPPO Find X3 Pro 5G จะปรับการแสดงผลให้เข้ากับสายตาของผู้ใช้คนนั้นโดยเฉพาะ แล้วก็จะได้เห็นสีของโลกนี้ในแบบที่ไม่เคยเห็นชัดเท่านี้มาก่อน




เอาว่าหน้าจอมันเทพมาก เทพระดับคนสายตาบกพร่องยังใช้งานได้เกิดประโยชน์ และด้วยการแสดงผลที่รองรับภาพแบบ 10bit จำนวนเฉดสีมันเกินขอบเขตมาตรฐานที่สายตามนุุษย์จะไปถึงอยู่แล้ว ฉะนั้นตาคุณดีมากแค่ไหน เจ้าหน้าจอตัวนี้ก็พร้อมจะตอบสนองโลกที่สวยงามที่สุดให้กับสายตาของคุณได้อย่างแน่นอน

กล้องที่พร้อมจะสร้างคอนเทนต์ 10 bit ได้ด้วยตนเอง?

หน้าจอแสดงผลรองรับพันล้านสี แล้วก็มีกล้องที่สามารถถ่ายภาพพันล้านสีได้ด้วยตัวเองด้วย นี่คือรุ่นแรกและรุ่นเดียวของโลกที่ทำได้ครับ เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายภาพระดับเกินหน้ายุคสมัย กล้องหลังสี่ตัวที่สุดยอดระดับปรมาจารย์ทั้งสี่เลนส์ เริ่มด้วยการใส่กล้องถ่ายภาพเลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล Sony IMX 766 มาให้ถึงสองเลนส์ เป็นเลนส์ Wide และเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra Wide

คุณภาพกล้องหลักสองตัวนี่สุดๆ ครับ ภาพสวย ภาพคม ปกติ OPPO ก็มีกล้องที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว มี AI ที่คอยแนะนำโหมดภาพที่เหมาะสม และปรับสีแสงให้เข้ากับสิ่งที่กำลังถ่าย


และไม่ใช่มีแค่ AI ในภาพนิ่งเท่านั้น เพราะจะมี AI Highlight Video เป็นตัว AI ที่คอยทำงานให้เราในโหมดวีดีโอ เปิดฟังก์ชั่นที่เหมาะสมเมื่อตรวจพบสภาพแสง เช่นเปิด HDR สำหรับการถ่ายย้อนแสง หรือเปิดโหมดกลางคืนเมื่อถ่ายวีดีโอในที่มืดเป็นต้นครับ


และกล้องที่สาม Telephoto 13 ล้านพิกเซล เจ้ากล้องตัวนี้แหละครับที่ทำหน้าที่ในการจับภาพพันล้านสีให้กับเรา รวมถึงช่วยในการซูมภาพ 5X Hybrid Optical Zoom อีกหนึ่งเลนส์กล้องที่ล้ำยุค รองรับการซูมภาพได้สูงสุดแบบดิจิทัล 20X แต่ทีเด็ดคือการซูมแบบไฮปริด 5X ซูมเหมือนไม่ซูม ภาพไม่แตก คมชัดเหมือนเดินเข้าไปถ่ายเองเลย^^ ซูมระดับ 10x ก็ยังเก็บรายละเอียดไหวครับ เอาไว้ซูมถ่ายข้อความหรืออะไรที่ต้องการจัดเก็บไว้ก็ได้




ทำให้ใน OPPO Find X 3 Pro 5G จะมีโหมดการถ่ายภาพแบบ 10bit หรือพันล้านสี ในขณะที่สมาร์ทโฟนปกติจะบันทึกภาพได้ที่ 16.7 ล้านสีเท่านั้น เราสามารถเปิดใช้โหมด 10 bit ได้ในโหมดการถ่ายภาพทุกระยะซูม รวมถึงโหมดการถ่ายภาพกลางคืนด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการรับประกันว่ากล้องเราจะเก็บเฉดสีได้ครบที่สุดเพื่อนำมาแสดงผลบนหน้าจอของมันเองเป็นหลักนะครับ นำไปใช้ต่อได้ปกติถ้าทำงานจากบนตัวสมาร์ทโฟน แต่ถ้าจะนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ต้องมีตัวโปรแกรมที่รองรับ HEIC ไฟล์นะครับ เพราะโหมดนี้จะถ่ายภาพออกมาเป็น .heic

เราจะได้ภาพสีสดๆ ภาพสีสวยๆ ไม่ต้องกลัวจะสีซีดสีหาย จะเห็นความแตกต่างแค่ไหนก็แล้วแต่สายตาส่วนบุคคลแล้วละครับไฟล์มาระดับ 10bit ขนาดนี้




และสุดท้ายคือเลนส์มหัศจรรย์ที่แทบไม่เชื่อสายตา กล้อง Micro Lens ความละเอียดแค่ 3 ล้านพิกเซล แต่มันคือกล้องจุลทรรศน์ชนิดพกพาชัดๆ ครับ สามารถถ่ายภาพสิ่งเล็กๆ ได้ในระดับซูมกว่าสายตามนุษย์ถึง 60 เท่า! มันเอาหน้ากล้องไปชิดกับวัตถุได้เลยละครับ ส่องเห็นยันใยผ้า ต่อมขน เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ตามนุษย์ไม่มีทางมองเห็น มันถูกออกแบบมาให้พร้อมใช้ในโหมด”กล้องจุลทรรศน์” จ่อชิดวัตถุโดยมีไฟวงแหวนรอบเลนส์กล้องให้ความสว่าง ผลลัพท์ที่ได้ มีแต่ต้องบอกว่า “บ้าไปแล้ว!!”

เพราะกล้องมาโครชาวบ้านเขาถ่ายได้ในระยะ 4 เซนติเมตร หรือ 40 มิลลิเมตร แต่กล้อง Micro Lens ของ OPPO Find X3 pro 5G จ่อถ่ายวัตถุในระยะใกล้สุด 1 มิลลิเมตร!!! ผลลัพท์ที่ได้เกินกว่าที่หลายคิดไว้แน่นอนครับ

จากดอกไม้สวยๆ สักดอก เราก็ได้เข้าไปเห็นสิ่งที่ปกติตาเราไม่มีทางได้เห็น







สุดติ่งไปทุกเลนส์ นี่มันไม่ใช่แค่กล้องดีครับแต่มันระดับมหัศจรรย์ อยู่ๆ ก็มีเทคโนโลยีเกินสายตามนุษย์เปิดตัวออกมาในสมาร์ทโฟน ทั้งเรื่องของสี 10bit และการถ่ายภาพระดับจ่อส่องโมเลกุล ถ่ายภาพได้แบบกล้องจุลทรรศน์ แถมมาอยู่ในเครื่องเดียวกันอีก

แม้จะทำเอาการถ่ายภาพอื่นๆ ดูไม่น่าตื่นเต้นไปเลย แต่ยังไงก็ตาม กล้องหลักคู่ของ OPPO Find X3 Pro คุณภาพสูงมากครับ โฟกัสแม่นและจับได้คมทั่วทั้งภาพ หวังผลเลิศไปได้เลยครับ ภาพสวย ถ่ายง่าย จับบุคคลก็แม่นยำ ถ่ายสวยทั้งกลางวันและมีโหมดกลางคืน กล้องหน้าก็สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เช่นกันนะครับ คุณภาพก็ตามสไตล์ของ OPPO ภาพใบหน้าคนออกมาสวยกว่าตัวจริงได้เสมอ ^^




ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล กล้องหน้าและกล้องหลัง






มีความสามารถในการถ่ายภาพโหมด RAW+ ที่ OPPO พัฒนามาให้สามารถดึงสีได้มากกว่าไฟล์ RAW แบบปกติ ซึ่งจะได้ไฟล์ภาพออกมาเป็น .DNG นำไปแต่งต่อได้ในโปรแกรมแต่งภาพ และถ่ายวีดีโอแบบ LOG เพื่อนำไปปรับแต่งสีสันใหม่ได้แบบพวกมืออาชีพครับ


เมื่อสุดยอดการบันทึกภาพและการแสดงผลภาพมาอยู่ในเครื่องเดียวกัน มันจึงเป็น 10-bit Full-path Colour Engine มีมันรุ่นเดียวเท่านั้นแหละครับที่ทำได้

การออกแบบที่สวยงาม แตกต่าง และพิถีพิถัน

สมาร์ทโฟนแฟล็กชิปที่เครื่องมีความบาง และ เบา แม้จะมีเทคโนโลยีใส่อยู่เต็มเครื่อง แต่ OPPO ผลิตออกมาได้บางเพียง 8.26 มม. และหนักเพียง 193 กรัม เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงที่ดูไม่หนาเกะกะ เข้ากันง่ายกับสไตล์การแต่งตัวและพกพาสะดวกครับ

งานผลิตฝาหลังแบบไร้รอยต่อ โค้งเล่นระดับจนด้านล่างไปจนสุดขอบด้านบน มีการเปิดตัวออกมากันสองสีที่พื้นผิวนั้นแตกต่างกัน คือ Gloss Black ผิวออกจะออกมันวาว เงางาม ดูลึกลับหรูหราสะท้อนแสงเหมือนกระจก และสี Blue ที่เป็นวัสดุ frost matte แบบด้าน สัมผัสผิวคล้ายแก้วยิงผิวทราย เย็น ละมุน และป้องกันรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือได้อย่างสิ้นเชิง แม้จะเอาฝาหลังมาแนบหน้า ยังไม่มีคราบมันติดขึ้นมาเลยครับ เป็นสีที่ผมชอบ และเห็นอยู่ในรีวิวนี้กันอยู่นั้นเองครับ

มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 กันฝุ่นได้ ลุยน้ำได้ บังเอิญทำน้ำหกใส่หรือจะโดนฝนก็ไม่เป็นไรครับ ตกน้ำได้ลึก 1.5 เมตร ไม่เกิน 30 นาที เอาเครื่องไปล้างน้ำที่สะอาดก็ได้เช่นกัน ใช้พอร์ทชาร์จแบบ USB Type C รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 5G Dual-Mode

อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบครัน ชุดหูฟังแบบ USB Type C เพราะไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. มาให้บนตัวเครื่อง มีเคสยางซิลิโคนสีฟ้าตรงสีเครื่องมาให้ครับ และที่ชาร์จพร้อมสายที่รองรับ 65W SuperVOOC 2.0 มาให้ในกล่อง และบัตรรับประกัน International Warranty สำหรับขอความช่วยเหลือในยามประสบปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องในต่างประเทศ ก็มีบัตรรับประกันใบนี้มาให้ด้วยครับ




เรามีคลิปแกะกล่องบ็อกเซ็ตของ OPPO Find X3 5G และของแถมสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจองกันไปก่อนหน้า เอามาให้ดูในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้อีกด้วยครับ

ประสิทธิภาพการทำงานระดับ Best-in-Class  

ถ้าอยากได้สมาร์ทโฟนตัวท็อป ก็นี้แหละครับตัวท็อปสุดๆ มันใช้ฮาร์ดแวร์ในระดับแรงสุดของเทคโนโลยีในปัจจุบันทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตประมวลผลที่ใช้ Snapdragon 888  รองรับคลื่นความถี่ 5G ได้มาก 13 แบรนด์ และแรงสุดแล้วในบรรดา CPU ของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในปัจจุบัน

ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.2 ใหม่สุดของ OPPO ความลื่นไหลระดับสูงสุด การตอบสนองเร็ว เข้าออกแอพฉับไว ใช้งานมาไม่เจอปัญหา ช้า แลค ค้าง



มาพร้อมแรมขนาดใหญ่ 12GB ที่เป็น LPDDR 5 ใหม่สุด และ ROM 256GB แบบ UFS 3.1 ใหม่สุดอีกเช่นกัน ทั้งโลกมีสเปคเดียวกันไม่ต้องคิดมาก ระดับประสิทธิภาพความแรง มากเกินพอ ถ้าใครจะมาถามว่าเล่นเกม xxxx ลื่นมั้ย? ผมจะกระโดดเข้าไปกระซิบข้างหูเบาๆ “โคตรลื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

ไม่ใช่แค่แรงแต่เรื่องการประมวลผล OPPO Find X3 Pro 5G ยังไปสุดกับระบบชาร์จ รองรับทั้ง 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไวระดับแบต 4,500 mAh ของมัน เสียบชาร์จแค่ 10 นาทีแต่ได้แบตมากว่า 40%

และระบบชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC ตามสเปคบอกว่าชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาแค่ 80 นาที แต่จากที่ผมทดสอบกับแท่นชาร์จ AirVOOC 45W มันชาร์จจาก 15% มาจนถึง 70% ได้ในเวลาไม่ถึง 40นาทีเท่านั้นครับ ชาร์จไร้สายไวอย่างกับชาร์จเสียบสายของแบรนด์อื่น และมีความปลอดภัยสูงมากด้วยครับสำหรับระบบชาร์จที่ขึ้นชื่อว่า “VOOC”

และตบท้ายด้วยการแปลงกลายตัวเองให้เป็นที่ชาร์จไร้สาย 10W Reverse Wireless Charging เติมพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระดับ 10W จึงสามารถชาร์จไฟกลับให้ได้ทั้งสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสริม ที่รองรับมาตรฐาน Qi ทั้งหมดครับ

 

การออกแบบ UI ของ OPPO เต็มไปด้วยศิลปะครับ เขาใช้ศิลปินในการออกแบบเพื่อให้เข้ากับอารมณ์และยุคสมัยของเครื่อง ทั้งภาพพื้นหลัง ไอคอน โทนสี หรือแม้แต่โทนเสียงเรียกเข้า ก็ถูกสร้างขึ้นแบบเป็นมิติที่มากกว่าตัวโน๊ต โดยนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์ Hans Zimmer เป็นต้น

ความใส่ใจของ OPPO ถูกเพิ่มเติมเข้าไปแม้สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ครับ เช่นโหมดกลางคืนหรือดาร์คโหมด ก็สามารถปรับแต่งได้เพิ่มเติมว่าต้องการใช้งานโหมดกลางคืนในระดับไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นค่าตายตัวเสมอไป เราสามารถคงภาพพื้นหลังหรือไอคอนไว้ได้ แต่เปลี่ยนแค่หน้าเมนูให้กลายเป็นสีดำ


โหมดถนอมสายตาตั้งค่าให้เปิดการทำงานได้อัตโนมัติ และเพิ่มความสามารถที่ไม่ใช่แค่ลดแสงสีฟ้า แต่ว่าลดสีทั้งหน้าจอให้กลายเป็นสีขาวดำแบบหน้าจอ E-Ink สำหรับอ่านหนังสือก็ทำได้ด้วยครับ

การปรับแต่งเพื่อความสวยงามก็ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนธีมหรือวอลล์เปเปอร์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่สามารถปรับตั้งค่าให้เป็นแบบที่เราชอบได้แยกอิสระมากมาย แต่ออกแบบมาให้ควบคุมง่ายๆ ในหน้าเดียว

เราสามารถปรับเปลี่ยนธีม เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว เปลี่ยนรูปแบบไอคน รวมถึงกระทั่งการเปลี่ยนสีเมนู หรือการเปลี่ยนอนิเมชั่นการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ครับ




ใน OPPO Find X3 Pro 5G และระบบ ColorOS 11.2 สามารถตั้งเปิด “การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา” มันเอาไว้แสดงวันเวลา การแจ้งเตือน สถานะแบตเตอรี่ หรืออะไรก็ตามที่เราตั้งค่าเลือกเอาไว้ในหน้านี้ โดยมีให้เลือกมากมายเลยครับ สวยงามทั้งนั้น และปรับตั้งค่าได้ตามใจเราเยอะเลยครับ น่าเล่นมากฟังก์ชั่นนี้ สวยดี



บริการพิเศษที่ OPPO เตรียมไว้ให้ผู้ใช้ ก็มีทั้งสายบันเทิงอย่าง Soloop แอพตัดต่อสร้างคลิปวีดีโอ ที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว สร้างคลิปวีดีโอสั้นได้ด้วยเอฟเฟ็กต์มากมายจาภาพถ่ายและวีดีโอที่มีอยู่ในเครื่อง พร้อมใส่ตัวอักษรและเพลงประกอบให้เราได้ทันที



บริการ Game Space สำหรับคนเล่นเกม ปกติมันจะเป็นตัวรีดประสิทธิภาพเครื่อง และเตรียมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อนำมาใช้เล่นเกมให้มีความลื่นไหลมากที่สุด ตั้งค่าการตอบสนองสัมผัสในขณะเล่นเกม แต่สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G ผมว่าสิ่งเหล่านั้นแทบไม่จำเป็น เพราะมันแรงจนลื่นไหลสุดๆ อยู่แล้วในการเล่นเกม แต่มันยังมีไว้เพื่อทำประโยชน์ในด้านการจัดการการแจ้งเตือนที่อาจจะเข้ามารบกวนเราขณะเล่น




เอาไว้เปิดโหมดเล่นเกมอัตโนมัติ สำหรับเกมที่เปิดให้มันเล่นแบบออโต้ได้ ตัวหน้าจอจะถูกหรี่ดับลง แต่เกมยังคงเดินไป มีไว้เพื่อการประหยัดพลังงานนั้นเองครับ

“O Relax” แอพพิเศษสำหรับการสร้างบรรยากาศ ด้วยการ “ฟัง ผ่อนคลาย และสำรวจ” มันถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้แอพเกิดความสบายใจ สบายใจด้วยเสียง สบายใจด้วยมินิเกม และสบายใจด้วยบรรยากาศครับ



เราสามารถกำหนดเสียงบรรยากาศรอบตัว เป็นสถานที่ธรรมชาติ อย่างป่า เขา ทะเล หรือจะเข้าไปสำรวจเมืองด้วยเสียงสภาพแวดล้อมจำลองของสถานที่สำคัญในแต่ละประเทศ เช่นเข้ากรุงเทพเพื่อเข้าไปฟังเสียงบรรยากาศของวัดอรุณ หรือตลาดท่าเตียนเป็นต้น




ในเวอร์ชั่นใหม่นี่ เราสามารถสร้าง Remix เสียงบรรยากาศผสมได้ด้วยตัวเรา ต้องการผสมเสียงธรรมชาติ เข้ากับเสียงกิจกรรมของมนุษย์ และเสียง ASMR ทีหลายคนอาจจะรู้สึกสบายใจเวลาได้ยิน เช่นเสียงตัดกระดาษ เสียงดินสอ หรือเสียงพิมพ์ดีดเป็นต้น เรานำเสียงเหล่านั้นมาสร้างบรรยากาศเสียงของเราได้เองเลยครับ

และด้วยคุณภาพของลำโพง OPPO Find X3 Pro 5G ผมจะบอกได้เลย เสียงเหล่านั้นมันสร้างบรรยากาศให้เราได้จริง เพราะลำโพงสเตอริโอคู่ของมือถือรุ่นนี้ เสียงค่อนข้างดีมากทีเดียว




สรุปท้ายรีวิว

เรือธงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ใช่แค่ขายสเปคความแรงเพียงอย่างเดียว แต่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ที่พาผู้ใช้ไปสัมผัสกับประสบการณ์ที่มากกว่าความแรงของสมาร์ทโฟนทั่วไปจะทำให้ได้

ประสบการณ์ภาพพันล้านสี 10 bit หน้าจอที่สวยงามมากที่สุดจอหนึ่งของวงการสมาร์ทโฟน รองรับ HDR10+ ความละเอียดสูง QHD+ สีสันสวยด้วยจอ AMOLED ขนาดหน้าจอใหญ่ 6.7 นิ้ว เต็มขอบ รีเฟรชเรทดี 120Hz

ประสบการณ์กล้องถ่ายภาพครั้งแรกของโลก กับมือถือที่มีหน้าจอและกล้องถ่ายภาพที่รองรับ 10bit ครบวงจร กล้องคุณภาพสูง 50 ล้าน Sony IMX766 ที่ใส่มาถึงสองตัว และกล้อง Micro Lens ซูมระดับกล้องจุลทรรศน์ 60x ตื่นตากับผลลัพท์และความสามารถที่ไม่มีรุ่นไหนเคยให้เราได้มาก่อน

ประสบการณ์การชาร์จแบตเตอรี่ ที่ครบวงจรทั้งเสียบสาย 65W SuperVOOC 2.0 และไร้สาย 30W AirVOOC ระบบชาร์จสองตัวที่รวดเร็วที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด

ประสบการณ์การใช้งานจากการออกแบบสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพที่เบา และบาง ผิวสัมผัสดีจากงานผลิตขั้นสูง มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP68 สวยงาม มั่นใจ พกพาง่าย ไม่หนาเทอะทะแต่ความแรงจัดเต็ม

ประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ให้มาสุด ทั้งชิปประมวลผล Snapdragon 888 รองรับ 5G แรมขนาดใหญ่ 12GB LPDDR5 และรอม UFS3.1 พาผู้ใช้ไปสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดของระบบ Android

เราไม่ได้เจอสมาร์ทโฟนที่มาทั้งความครบครันและความล้ำหน้าของเทคโนโลยีไปพร้อมกันแบบนี้กันบ่อยนักครับ แถมผมรู้สึกว่า OPPO ทำราคารุ่นนี้มาได้ดีมากอีกด้วย เปิดในราคา 33,990 บาท มากับโปรโมชั่นที่ดุดันมากครับ

โปรโมชั่นพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันนี้ – 2 เมษายน 2564 รับฟรี

  • OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W
  • KEVLAR Case
  • Premium Card ที่มาพร้อมสิทธิรับประกัน International warranty service ซ่อมฟรีทั้งในและต่างประเทศ,
  • รับความจุของ OPPO Cloud Service เพิ่มเป็น 1TB ในจำนวนจำกัด
  • และสิทธิรับประกันตัวเครื่องถึง ปี มูลค่ารวม 13,498 บาท

พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ OPPO Find X3 Pro 5G ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายรับส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท

ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟน Android และโลกของหนึ่งพันล้านสี อยากเห็นธรรมชาติในระดับกล้องจุลทรรศน์ และการชาร์จไวที่ไม่มีใครเร็วไปมากกว่านี้ ก็เชิญสัมผัสทั้งหมดได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นเดียว OPPO Find X3 Pro 5G ได้เลยครับ

ข่าว: รีวิว OPPO Find X3 Pro 5G ยอดเยี่ยมในทุกด้าน สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพและแสดงผลได้หนึ่งพันล้านสีรุ่นแรกของโลก มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/2021/03/19/review-oppo-find-x3-pro-5g.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=review-oppo-find-x3-pro-5g

เปิดราคา OPPO Find X3 Pro มือถือเรือธง ระบบสี 10-bit ชิป Snapdragon 888 เคาะที่ 33,990 บาท

Find X3 Pro เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO เดินทางมาเปิดตัวที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ววันนี้ ระบบสี 10-bit แบบจัดเต็มที่ครอบคลุมทั้งหน้าจอ การแสดงผลสี และการประมวลผลภาพ ใช้หน้าจอ AMOLED อัตรารีเฟรช 120Hz ขนาด 6.7 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 888 กล้องหลัง 4 ตัว ใช้เซนเซอร์ IMX766 คู่ ความละเอียด 50MP เคาะราคา 33,990 บาท โปรโมชั่นและของแถมจัดเต็ม

OPPO FIND X3 PRO

จอภาพ 10-bit แสดงผล 1.07 พันล้านสี

หน้าจอของ Find X3 Pro เป็นพาเนลชนิด AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ แบบ 10-bit มีเฉดสีมากถึง 1.07 พันล้านสี ซึ่งกล่าวกันว่า ใกล้เคียงกับที่ดวงตาของมนุษย์มองเห็นในโลกแห่งความเป็นจริงเลย ครอบคลุม 100% ของสเปกตรัม DCI-P3 รองรับ HDR10+ อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก ที่จะปรับเปลี่ยนให้สัมพันธ์กับคอนเทนต์โดยอัตโนมัติ เพื่อให้แสดงผลภาพเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่เป็นจำเป็นอีกด้วย การันตีคุณภาพด้วยคะแนนรีวิว A+ จาก DisplayMate

แรงสะใจกับชิป Snapdragon 888 ชาร์จเร็วติดจรวจด้วย SuperVOOC 65W

ภายในขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 888 ชิประดับไฮเอนด์จาก Qualcomm ที่มีโมเด็ม 5G ในตัว ผสานการทำงานร่วมกับ RAM 12GB แบบ LPDDR5 และ ROM 256GB แบบ USF 3.1 แบตเตอรี่มีความจุ 4500mAh เพียงพออยู่รอดตลอดทั้งวันได้สบาย ๆ ชาร์จจาก 0 – 40% ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ด้วยเทคโนโลยี 65W SuperVOOC Flash Charge ส่วนการชาร์จไร้สายเองก็เร็วไม่แพ้กัน 30W AirVOOC Wireless Flash Charge ชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลา 80 นาทีเท่านั้นเอง

เซนเซอร์ IMX766 คู่ ทั้งกล้องหลักและอัลตร้าไวด์

กล้องหลังเป็นส่วนที่จะไม่พูดถึงเสียไม่ได้เลยสำหรับ Find X3 Pro เพราะกล้องอัลตร้าไวด์มีการยัดเซนเซอร์ภาพ IMX766 ความละเอียด 50MP จาก Sony มาให้ แบบเดียวกับกล้องหลัก พูดง่าย ๆ คือ คุณภาพเทียบเท่ากัน ต่างกันแค่องศารับภาพของเลนส์เท่านั้นเอง นอกจากนี้ กล้องอ้ลตร้าไวด์ยังมีความพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 อย่าง ประการแรก คือ OPPO ได้นำเลนส์แบบฟรีฟอร์มมาใช้ในการแก้ไขความผิดเพี้ยนของภาพในระดับฮาร์ดแวร์ ถัดมา คือ มีระยะโฟกัสที่ใกล้มาก ๆ ใช้แทนกล้องมาโครได้เลยในทันที

กล้องไมโครเลนส์ กำลังขยาย 60 เท่า

กล้องที่เหลืออีก 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องเทเลโฟโต้ 13MP ซูมออปติคอลได้ 5 เท่า และเพิ่มขึ้นเป็น 20 เท่าสำหรับการซูมดิจิทัล ปิดท้ายด้วยกล้องไมโครเลนส์ที่เพื่อน ๆ น่าจะได้เห็นตัวอย่างภาพถ่ายผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาได้พอสมควร กับเลนส์ที่มีกำลังขยาย 60 เท่า บนความละเอียด 3MP เห็นชัดยันเส้นใยผ้า หรือแม้กระทั่งเศษฝุ่นเล็ก ๆ เลยทีเดียว มีแฟลชแบบวงแหวนล้อมรอบเลนส์ด้วยนะ เก๋สุด ๆ เลยขอบอก

ภาพนิ่งและวิดีโอก็บันทึกเป็นไฟล์ 10-bit ได้ทั้งคู่

ยิ่งไปกว่านั้น Find X3 Pro ยัง มีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ใช้ปัญญาประดิษฐ์สุดฉลาดเข้ามาปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายให้แจ่มแจ๋วไปอีกขั้น บันทึกภาพแบบ RawPlus 10-bit ได้ สามารถนำไปตกแต่งได้อย่างยืดหยุ่นในภายหลัง ส่วนการถ่ายวิดีโอก็มีฟีเจอร์ Cinematic Mode ให้ใช้งาน ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K แบบ 10-bit ได้ทั้งฟอร์แมต LOG และ HDR ในสเปกตรัมสี BT.2020 ได้ด้วย

สเปค OPPO FIND X3 PRO

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (ƒ/2.2), มุมกว้าง 110.3 องศา, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4)
    – กล้องไมโครเลนส์ 3MP (ƒ/3.0)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

ราคาและการวางจำหน่าย

OPPO ประเทศไทย เคาะราคา Find X3 Pro ที่ 33,990 บาท พร้อมส่วนลดพิเศษ สูงสุด 15,000 บาท เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ส่วนการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์นั้นก็มีของแถมเพียบเลย

from:https://droidsans.com/oppo-find-x3-pro-price-specs/

OPPO เปิดตัว Find X3 Lite, Neo และ Pro กล้องหลังโคตรเทพ เซนเซอร์ IMX766 คู่, กล้องไมโครเลนส์ ขยาย 60 เท่า, จัดเต็มระบบสี 10-bit

OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Find X3 ทีเดียว 3 รุ่นรวด ไล่ตั้งแต่ Find X3 Lite, Find X3 Neo และปิดท้ายด้วย Find X3 Pro ตัวท็อปสุด หน้าจอ AMOLED อัตรารีเฟรชสูง แสดงผลได้ลื่นไหล กล้องหลังใส่มาให้เน้น ๆ 4 ตัว รองรับชาร์จไวแรงกระฉูด 65W พร้อมคุณสมบัติกันน้ำเหมือน ๆ กันทุกรุ่น

OPPO Find X3 Lite

แม้ว่า Find X3 Lite นั้นเป็นน้องเล็กประจำซีรีส์ แต่ฮาร์ดแวร์ที่ให้มาก็ไม่ไก่กาแต่อย่างใด มาพร้อมจอภาพ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตรารีเฟรช 90Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3+ จาก Corning รองรับการแสดงผล HDR10+ และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ใต้หน้าจอ

กล้องหลังให้มาด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP กับกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP ที่มีระบบกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) ทั้งคู่ เสริมด้วยกล้องมาโคร 2MP และกล้องจับความลึก 2MP

OPPO เลือกใช้ Snapdragon 765G เป็นหน่วยประมวลผลของ Find X3 Lite มี RAM 8GB และ ROM 128GB ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4300mAh รองรับชาร์จไว 65W นอกจากนี้ยังกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP52 ด้วย

สเปค OPPO Find X3 Lite

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 765G
  • หน่วยความจำ : RAM 8GB + ROM 128GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (ƒ/1.79), EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.25), EIS
    – กล้องมาโคร 2MP (ƒ/2.4)
    – กล้องจับความลึก 2MP (ƒ/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5.1
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4300mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3+
    – กันน้ำและฝุ่น IP52
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

OPPO Find X3 Neo

มาต่อกันด้วย Find X3 Neo ที่มีหน้าตาคล้ายกับ Find X3 Lite มาก ๆ แต่ขยับขยายขนาดหน้าจอ AMOLED ขึ้นมาเป็น 6.5 นิ้ว และมีขอบโค้ง พร้อมอัปเกรดวัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนที่เหลืออื่น ๆ ทั้งอัตรารีเฟรชและความละเอียดการแสดงผลนั้นจะเหมือน ๆ กัน

Find X3 Neo ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 865 ชิประดับไฮเอนด์ของเจเนอเรชั่นก่อน ซึ่งประสิทธิภาพยังอยู่ในระดับที่ ทรงพลังมาก ๆ อยู่ พ่วงด้วย RAM 8GB และ ROM 256GB แบตเตอรี่มีความจุเท่ากับ 4500mAh รองรับชาร์จไว 65W

กล้องหลักมีความละเอียด 50MP ต่อด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ 16MP กล้องมาโคร 2MP ในขณะที่กล้องจับความลึกนั้นถูกแทนที่ด้วยกล้องเทเลโฟโต้ 13MP ออปติคอลซูมสูงสุด 5 เท่า

สเปค Find X3 Neo

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 865
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.7)
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 16MP (ƒ/2.2), EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4), ซูมออปติคอล 5 เท่า
    – กล้องมาโคร 2MP (ƒ/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5.1
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IPX4
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

OPPO Find X3 Pro

ไฮไลต์เด็ดประจำวันนี้คงหนีไม่พ้น Find X3 Pro ที่จัดเต็มทุกภาคส่วน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+  อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก ที่จะปรับเปลี่ยนให้สัมพันธ์กับคอนเทนต์โดยอัตโนมัติ ปรับระดับความสว่างได้ละเอียดยิบถึง 8,192 ระดับ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 สุดแกร่ง รองรับการแสดงผล HDR10+ ตัวเครื่องบางเบาและพรีเมียมสุด ๆ หนา 8.3 มม. หนัง 193 กรัม วัสดุฝาหลังผลิตด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน เป็นกระจกที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว

Find X3 Pro รองรับความลึกสีระดับ 10-bit เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้งานกันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งการบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกวิดีโอ ตลอดไปจนถึงการถอดรหัสไฟล์และการแสดงผลบนหน้าจอ ซึ่งจะมีเฉดสีกว้างสุดขีดถึง 1.07 พันล้านสี ใกล้เคียงกับที่ดวงตามนุษย์มองเห็นในโลกแห่งความเป็นจริง

แน่นอนว่า Find X3 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ย่อมต้องมาพร้อมกับชิประดับท็อปอย่าง Snapdragon 888 ให้ RAM กับ ROM มา 12GB LPDDR5 และ 256GB UFS 3.1 ตามลำดับ แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ชาร์จไว 65W เท่า ๆ กับ Find X3 Neo ชาร์จจาก 0 – 40% ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ส่วนการชาร์จไร้สายก็เร็ว ๆ มาก ที่ 30% ชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลา 80 นาทีเท่านั้นเอง และกันน้ำและฝุ่นเหมือนกับน้อง ๆ ในซีรีส์ แต่ขอบเขตความทนทานเหนือกว่าที่ระดับ IP68

กล้องอัลตร้าไวด์มีความละเอียด 50MP สูงเท่ากับกล้องหลักเลย ทั้งคู่เป็นเซอร์ IMX766 เหมือนกัน แถมยังรองรับการโฟกัสระยะใกล้ในตัวและมีการนำเลนส์ฟรีฟอร์มเข้ามาแก้ไขความผิดเพี้ยนของภาพด้วย บอกเลยว่า…เด็ดสุด ๆ แต่ถ้ายังไม่สะใจก็ มี “กล้องไมโครเลนส์” กำลังขยาย 60 เท่า ความละเอียด 5MP ให้ใช้งานแยกต่างหากไปเลย เหนือกว่ากล้องมาโครทั่วไปมาก ถ่ายได้คมชัดยันเศษฝุ่น ตบท้ายด้วยกล้องเทเลโฟโต้ 13MP ซูมออปติคอลไฮบริด 5 เท่า ซูมดิจิทัลสูงสุด 20 เท่า ครอบคลุมทุกช่วงระยะ

ยิ่งไปกว่านั้น Find X3 Pro ยัง มีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ใช้ปัญญาประดิษฐ์สุดฉลาดเข้ามาปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายให้แจ่มแจ๋วไปอีกขั้น บันทึกภาำแบบ RawPlus 10-bit ได้ สามารถนำไปตกแต่งได้อย่างยืดหยุ่นในภายหลัง ส่วนการถ่ายวิดีโอก็มีฟีเจอร์ Cinematic Mode ให้ใช้งาน ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K แบบ 10-bit ได้ทั้งฟอร์แมต LOG และ HDR ในสเปกตรัมสี BT.2020 ได้ด้วย

สเปค OPPO Find X3 Pro

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (ƒ/2.2), EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4)
    – กล้องไมโครเลนส์ 5MP (ƒ/3.0)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

ราคาและการวางจำหน่าย

  • OPPO Find X3 Pro – ราคา 1,149 ยูโร (ประมาณ 41,990 บาท) เริ่มวางขาย 30 มีนาคม 2564

from:https://droidsans.com/oppo-find-x3-series-announced/

หลุดภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มี OPPO Find X3 Pro เป็นพระเอกนำ โฆษณาสวยงามอลังการ แทรกบอกสเปคครบ

OPPO Find X3 Pro สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นล่าสุด ที่ดูเหมือนจะขนเอานวัตกรรมล้ำหน้าของ OPPO มาโชว์กันเต็มตาในคลิปวีดีโอที่หลุดออกมาจาก Evan Blass ในคลิปด้านล่างนี้ครับ

สมาร์ทโฟนที่มีการออกแบบกล้องที่ดูแปลกตา และความสามารถที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนในท้องตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสีแบบ 10 bit 120Hz และกล้อง “ไมโครเลนส์” ที่ซูมได้ 60 เท่า (สูงกว่าข่าวลือที่บอกว่าซูมได้ 25x) ทำงานได้ดั่งกล้องจุลทรรศน์ และสเปคระดับท็อปด้วย Snapdragon 888 พร้อมชาร์จไว 65W และ 30W ทั้งแบแบบมีสายและไร้สายชาร์จตามลำดับ และคุณสมบัติการกันน้ำกันฝุ่น IP68 ทุกอย่างและอีกมากมายถูกยืนยันจากการปล่อยโฆษณาอลังการที่หลุดออกมาจาก Evan Blass เจ้าเก่าคนเดิม

ในคลิปด้านล่างเป็นงานโฆษณาที่ทำมาเป็นแนวภาพยนตร์ไซไฟ กลุ่มลูกเรืออวกาศออกตามหาหินแร่ ธาตุพิเศษที่หาได้จากบนผิวดวงดาวและนำมาศึกษาข้อมูล ภาพยนตร์ได้เล่าเรื่องพร้อมแทรกฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนไปทีละฟังก์ชั่น และไม่ใช่หลุดออกมาแค่วิดีโอเดียว แต่มีหลุดออกมาสองวีดีโอด้วยกัน

โดยวิดีโอที่สองเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบเป็นหลัก ซึ่งวิดีโอทั้งสองมีความสวยงามของการถ่ายทำและดูยิ่งใหญ่มากครับ ทำออกมาได้ดีพอสมควร รับชมคลิปวีดีโอทั้งสองได้จากด้านล่างนี้ได้เลยครับ

OPPO Find X3 Pro จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคมที่จะถึงนี้ และทาง OPPO ไทยก็มีการเปิดจองแบบ Exclusive Blind Booking สำหรับใครที่ต้องการเป็นกลุ่มแรกที่ได้จับเครื่องจริง เปิดจองกันได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 17 มีนาคม (รายละเอียดโครงการสั่งจอง Exclusive Blind Booking OPPO Find X3 Pro 5G)

ข่าว: หลุดภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มี OPPO Find X3 Pro เป็นพระเอกนำ โฆษณาสวยงามอลังการ แทรกบอกสเปคครบ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2021/03/03/leak-movie-sci-fi-oppo-find-x3.html